พูดคุยเล็กน้อยฮ้ายยยยย คิดถึงกันรึเปล่า หายไปนานไม่ใช่ไรไม่ว่างเท่าไหร่ พอว่างแล้วก็ไม่มีอารมณ์เขียน 5555+ ::Sobad:: ทีนี้พอแต่งไปแต่งมา พบว่าพบว่า 42 หน้า 16000 ตัวอักษรเขียนจนถึงจุดที่ตั้งใจก็เลยเอามาลง ไม่งั้นลากยันจบเรื่องแน่ (และท่านจะได้อ่านกันชาติหน้าตอนดึกๆ)
ขอซ่อนท้ายเรื่องเพื่อ นับมิตรรักแฟนคลับที่ยังรอนะครับ ส่วนรูปรอไปก่อน ขอตัวไปสอบก่อนนะฮะ
ขอให้สนุกนะครับ Enjoy ::Falling::
ป.ล. ใครอยากเจอรูปตัวละครก็เชิญนะครับ ไม่ห้ามไม่ว่า เผื่อเจอตรงกว่าที่ผมมีจะได้มาลงให้
ตอนที่ 3 ละเลงเลือด
รถมอไซค์วิ่งฝ่าความมืดไปตามทางกันดารจนพักใหญ่ๆคนขับก็หันเข้าไปจอดหลบไปในพุ่มไม้หนาหลังจากหลบอยู่นานและไม่เห็นว่ามีใครติดตามมา ไอ้เจ้าคนขับก็ถอดหมวกกันน็อคออกแล้วรีบกดเบอร์โทรออกไป
"ฮัลโหลนี่สิงห์เอง ทางนั้นเป็นไปตามแผนมั้ย"
ที่แท้รถมอไซค์คันแรกที่วิ่งออกมาจะเป็นคนที่พวกมันตามล่าอยู่ และสิงห์เองก็ฉลาดพอที่จะเบี่ยงเบนความสนใจด้วยรถยนต์ติดฟิล์มดำพร้อมรถคุ้มกันอีก เป็นใครก็ต้องคิดว่าไอ้รถที่มีการคุ้มกันต้องเป็นคันที่สิงห์อยู่ แต่ในความจริงแล้วไอ้มอไซค์คันแรกที่ออกมานั่นแหละคนที่พวกมันต้องการ
สุขุม: "ครับนาย มันตามผมมาโขยงใหญ่ ผมก็วิ่งเข้าในตัวเมือง พอสลัดหลุดก็เปลี่ยนรถสำรองตอนนี้ใกล้จะถึงเซฟเฮ้าส์แล้วครับ"
สิงห์: "ดีพอถึงแล้ว คุณจัดการเตือนทุกฐานของเราเลยนะ โชคดีตอนนั้นคุณทยอยขนของออกมาแล้วบางส่วน เราเลยเสียหายน้อยลงเยอะ"
สุขุม: "ถือว่าเป็นโชคดีที่ผมเดาถูก นายครับพวกมันเจอเราได้ไงกันครับ ที่ผ่านมามันก็ทุ่มทุนทุ่มแรงหาพวกเราตลอดส่วนมากก็เจอแค่ระดับจิ๊บจ๊อย ไหงรอบนี้มาโผล่ที่คลังได้ครับ"
สิงห์: "ก็ต้องตามสืบดู พวกมันเองก็ไม่ได้โง่มันอาจจะได้เบาะแสอะไรก็ได้ ไว้เราค่อยคุยกันอีกที ผมจะไปที่ร้านยา ไว้ทุกอย่างปลอดภัยแล้วเราค่อยเจอกัน ดูแลตัวเองดีๆ อย่าตายละ"
และสิงห์ก็วางสายไป
"ทำไมเจ้าไม่บอกสมุนเจ้าละ ว่าให้ลองสืบจากนางหมอที่แอบออกไปวันนี้ อย่าบอกข้านะว่าเจ้าเดาไม่ออก"
ซาตานที่ยืนพิงมอไซค์ของสิงห์กล่าวขึ้น
แต่สิงห์แสร้งไม่เห็นมันก่อนจะกระโดดขึ้นรถแล้วขับออกไปจากจุดซ่อน
ซาตาน: "ไม่เอาน่า ตัวแทนแห่งข้าแค่พูดจี้ใจแค่นี้ถึงกับเมินข้าเชียวเหรอ"
ซาตานที่นั่งเอนหลังพิงสิงห์อยู่ที่เบาะหลังก็ยังตามมากวนใจกวนอารมณ์เขาอยู่
พอมันพูดจบ รถที่วิ่งก็กระชากตัวเร่งความเร็วขึ้นทันใด บ่งบอกได้ถึงความขุ่นมัวของคนขับ
ซาตาน: "เฮ้ยขับดีๆ ช้าๆก่อน ข้าจะตกรถแล้วเนี่ย เฮ้ยหูหนวกไง"
ซาตานที่ไถลลงเพราะรถที่กระชากตัวบวกกับท่านั่งที่ไม่ได้มั่นคง โชคดีที่มันยังเอื้อมมือมาเกาะท้ายรถทัน ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นมันเกาะท้ายให้รถลากมันลอยติดไปด้วย
เอี๊ยดดดดดด!!!
เสียงเบรคกระทันหันของมอไซด์เล่นเอาซาตานปลิวลอยข้ามหัวไปตกตรงที่มีรถจอดขวางเส้นทางอยู่
รถที่ด้านข้างมีตราของตำรวจปราบปรามยาเสพติด
รถที่เขานั่งข้างคนขับอยู่บ่อยครั้ง
รถประจำตัวของคนที่เขาเคยเรียกมันว่า
เพื่อน
ส่วนตัวของเจ้าของรถก็ยืนรอเขาอยู่ ปากยังคาบบุหรี่ที่ใกล้จะหมดตัวแล้ว
สิงห์ก้าวลงจากรถพร้อมๆกับถอดหมวกออกและยืนประจันหน้ากับมันอย่างไม่เกรงกลัว
ซาตาน: "อ้าวนี่มันเพื่อนรักเจ้านี่น่า ทำไมหน้าบูดแบบนั้นละสิงห์เจอเพื่อนทั้งที ไม่ยิ้มทักหน่อยละ เพื่อนเจ้ามารอเจ้านานแล้วนะ"
สิงห์ตอนนี้ไม่ได้สนใจไอ้ซาตานแม้เพียงเสี้ยว ในสายตาของเขามีแค่ไอ้เพื่อนทรยศคนเดียว
ภาพที่ทั้งสองร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาแวบผ่านมาสมองแต่ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ
ภาพที่เพื่อนรักของตนตอบตกลงยอมเป็นหมารับใช้พวกมัน ภาพที่มันทิ้งเขาให้เผชิญกับความทรมานทั้งกายทั้งใจดุจตกนรกหมกไหม้
อากาศ: "ไงไอ้สิงห์ กูมารอตั้งนาน นึกว่าจะเดาใจมึงผิดซะแล้ว ไม่เจอกันนานแล้วนะ เพื่อน!"
สิงห์: "มึงยังกล้าเรียกกูว่าเพื่อนอีกเหรอ!!"
สิงห์แค่นเสียงตอบมัน สายตาจ้องมันราวกับจะฉีกเป็นชิ้นๆ
อากาศกลับหัวเราะเบาะๆ และหยิบซองบุหรี่ขึ้นมา
อากาศ: "ไม่เอาน่าเพื่อน มึงบอกเองไง เพื่อนกันจนวันตายไหงขี้ลืมจังวะ เอาบุหรี่มั้ยวะ"
มันตอบกลับหน้าตาเฉยราวกับเขากับมันยังสนิทชิดเชื้อเหมือนเมื่อก่อน ราวกับมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันลอยหน้าตาคุยกับเขาได้ยังไงกัน
อากาศ: "ไม่เอาเหรอวะ อ้อลืมไป ตั้งแต่มึงแต่งงานกับนุ่นก็เลิกบุหรี่แล้ว แต่เมียมึงก็ตายห่าไปแล้วทำไมไม่ลองกลับมาสูบละ"
สิงห์: "มึง!! ยังจะมีหน้ามาพูดถึงนุ่นอีกเหรอ"
อากาศ: "ทำไมอะ ก็แค่กระหรี่ใจแตกที่ยิงตัวตายตอนโดนรุมโทรม อุ้ย ลืมว่านั่นเมียมึงนี่"
สิงห์สติขาด ไอ้เพื่อนชั่วมันยังมีหน้ามาพูดถึงเมียตนอีก เขาจะควักหัวใจมันออกมาดูว่าเป็นสีอะไร
สิงห์ไม่รอช้าวิ่งกระโจนตรงเข้าไปหาอากาศทันที
ซึ่งเป็นไปตามแผน
ตูมมมม
สิงห์ที่วิ่งเข้ามาหาโดยที่ไม่ทันระวังเลยว่าที่พื้นนั่นได้ติดตั้งกับระเบิดไว้สังหารตนโดยเฉพาะ นี่เองเป็นเหตุให้อากาศพูดจายั่วยุให้สิงห์โมโหจนกระโจนใส่ตนโดยไม่ทันระวังแบบนี่
คลื่นความร้อนขยายมาปะทะตัวเขาจนร้อนวูบบ
เขามองดวงไฟดวงใหญ่ตรงหน้าสว่างวาบขึ้น กลุ่มลูกไฟลอยขึ้นและหายไปทิ้งกองไฟไว้ตรงที่สิงห์ยื่นอยู่
เขาฝังระเบิดลูกโต ใช้ขนาดที่ระเบิดรถทั้งคันหายเป็นเศษเหล็ก โดนไปขนาดนี่ถ้ายังรอดก็เกินมนุษย์ไปแล้ว ระเบิดแรงถึงขนาดรถมอไซด์ที่จอดไว้ห่างๆยังโดนแรงระเบิดลอยปลิวหายไปด้วย
อากาศ: "ลาก่อนเพื่อน เกิดชาติหน้าขอให้ฉลาดกว่านี้นะ"
ก่อนตำรวจชั่วคาบบุหรี่ขึ้นจุด แสงสีส้มสว่างขึ้นตามจังหวะอัดควันลงปอด เขายืนมองกองไฟด้วยสายตาที่ทั้งสบายใจทั้งเศร้าใจและหันหลังกลับไปที่รถ
แต่ทว่ามีแขนมาจับไหล่ตนรั้งให้หันกลับมา
สิงห์: "หมัดนี้สำหรับที่มึงปากหมากับนุ่น"
ผัวะ ! อากาศลอยไปตามแรงหมัดลงไปนอนตาค้างที่พื้น
คนที่ไหนโดนระเบิดไปขนาดนั้นแล้วยังไม่ตาย ดูดีๆต้องบอกว่านอกจากเขม่าดำแล้วสิงห์ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
นี่เพื่อนเค้ากลายเป็นตัวอะไรไปแล้ว!!!
สิงห์ยิ้มอย่างสะใจก่อนจะย่างก้าวเข้าไปหาเพื่อนรักที่นอนคลุกดินอยู่ที่พื้น
สิงห์: "อย่าพึ่งรีบนอน กูมีบัญชีที่ต้องสะสางกับมึงอีกเยอะ"
อากาศ: "ดินระเบิดขนาดนั้น มึงรอดได้ไงวะ?"
สิงห์: "มันก็อาศัยเทคนิคนิดหน่อย"
ที่สิงห์รอดมาได้ต้องขอบคุณทักษะการใช้พลังของซาตานที่เขาทุ่มเทฝึกมาอย่างดี
ทันทีเขาสะดุดลวดที่ใช้จุดระเบิด เขาก็ทราบทันทีถึงแผนของเพื่อนเก่า
ไอมารสีแดงเข้มพวยพุ่งออกมาจากตัวห่อปกคลุมเขาไว้เป็นเกราะป้องกัน และด้วยรู้ว่าระเบิดที่จะเอามาฆ่าตนนั้นคงแรงพอสมควร เขาเลยจัดการให้รูปแบบของไอมารเป็นทรงกลม เพื่อลดแรงอัดของระเบิดลง
แต่นั่นก็แลกด้วยไอมารปริมาณมหาศาล
บอกตรงๆเขาเองก็ไม่คิดว่าจะรอดจากระเบิดชุดนั้นเหมือนกัน ตอนนี้เขาเลยแอบตะลึงถึงอานุภาพของพลังของซานตานอยู่ในใจ
ซาตาน: "เห็นถึงพลังของข้ารึยัง สิงห์สหายรัก นี่เจ้าฝึกอีกซักปีสองปีมันจะมีอะไรให้เจ้าตกใจอีกเยอะ"
สิงห์: "แล้วตัวแทนคนอื่นๆจะทำแบบผมได้มั้ย?"
ซาตาน: "นั่นก็ขึ้นอยู่ว่าพวกบาปที่เหลือจะจัดการยังไง และพื้นฐานจิตของเหล่าตัวแทนเป็นแบบไหน บางทีคนอื่นอาจจะทำแบบเจ้าไม่ได้แต่มันอาจใช้พลังให้มีคุณลักษณะแปลกกว่าเจ้าก็ได้"
สิงห์พยักหน้าเป็นอันเข้าใจ และหันไปหาอากาศที่หยิบปืนออกมายิง
ปังๆๆๆๆๆ
ปืนพกธรรมดาทำอะไรสิงห์ที่ใช้พลังอยู่ไม่ได้ เขามองหัวกระสุนที่ค้างอยู่บนอากาศและค่อยๆเดินไปอย่างช้าๆ
ส่วนอากาศสบถออกมาก่อนจะโยนปืนพกที่หมดกระสุนทิ้ง
สิงห์: "ถึงเวลาใช้กรรมที่มึงก่อได้แล้ว"
อากาศ: "ไม่ๆ อย่าเข้ามา ออกไปอย่า"
มันกระเสือกกระสนหนีไปตามพื้นอย่างน่าสมเพช
อากาศ: "อย่าขยับมาอีกนะ ไม่งั้นละก็...."
สิงห์: "ถ้ากูจะเดินต่อมึงจะทำอะไรกูเหรอ"
สิงห์ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม
อากาศหยิบรีโมตออกมา
อากาศ: "ถ้าเดินเยอะ ระเบิดมันจะไม่โดนไง"
นิ้วโป้งอากาศกดลงที่ปุ่มดังตื้ด
พื้นดินข้างซ้ายและขวาของอากาศปะทุขึ้น
สะเก็ดระเบิดแบบลูกเหล็กกระจายออกจากทุ่นระเบิดที่ฝังไว้ใต้ดิน มันเป็นระเบิดที่ใช้สังหารเลืองชื่อนาม เคลย์มอ
ด้วยสะเก็ดลูกเหล็กไปกระจายเป็นครึ่งวงกลมทำให้หากใช้งานอย่างชำนาญสามารถสังหารข้าศึกได้แทบยกหน่วยด้วยระเบิดลูกเดียว
ลองนึกถึงลูกปัดตะกั่วที่พุ่งไปเหมือนกระสุนกระจายใส่หน้าสิ เนื้อหนังคงหลุดกระจายเป็นชิ้นๆศพคงไม่สวยแน่
แต่สิงห์ก็ไวพอที่จะยกแขนกางม่านไอมารขึ้นรับมันไว้ทัน แต่ด้วยระยะเวลาอันสั้นเกินไปที่จะป้องกันไว้ได้หมด สะเก็ดบางชิ้นก็ทะลุออกมาเจาะแขนเรียกเลือดสดๆให้ทะลักออกมา
อากาศ: "มึงกลายเป็นตัวอะไรไปแล้ววะเนี่ย?"
อากาศอุทานขึ้นเมื่ออดีตเพื่อนใช้สิ่งที่มองคล้ายๆควันกันระเบิดตนได้อีกรอบ
แต่อากาศเองก็ยังคงมีเขี้ยวเล็บพอ ปืนพกสีเงินกระบอกโตถูกยกขึ้นยิงไปยังแผ่นอกที่เปิดโล่ง
ด้วยหัวกระสุนขนาดใหญ่ถึง .45 ยิ่งยิงในระยะใกล้ต่อให้เก่งมาจากไหนก็ต้องล้ม
เสียงปืนคำราม สิงห์กระเด็นผงะหงายลอยลงไปที่พื้น นอนแน่นิ่งไม่เคลื่อนไหวอะไร
อากาศรีบลุกขึ้นยกปืนจ้องอย่างระแวง แต่พอผ่านไปนานก็ไม่มีปฎิกิยาใดๆจากร่างของสิงห์อากาศก็เป่าปากออกมาอย่างโล่งอก
อากาศ: "ตายซักที ไอ้บ้าเอ้ย! มันอึดแบบนั้นได้ยังไงกันวะ"
แต่พอมันลดปืนลงมันก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที คล้ายโดนเชือกล่องหนรัดร่างแน่น
สิงห์: "ไอ้กาศ กูอะผ่านความตายมาแล้วรอบนึงแค่นี้คิดว่าจะทำไรกูได้เหรอ หึ!! ทีนี้ได้เวลาของมึงแล้ว แน่นอนว่าไม่ตายสบายๆแน่.....เพื่อน"
อากาศมองร่างที่ลุกขึ้นยืนด้วยสายตาหวาดผวาเพราะตอนนี้เขาขยับร่างกายไม่ได้เลยแม้จะขยับนิ้ว
สิงห์: "เอาละ ทีกูบ้างละมึง"
------------
รถตู้คันนึงกำลังแล่นอยู่บนถนนอันแสนจะไกลจากตัวเมือง มันยิ่งวิ่งไปเท่าไหร่เส้นทางก็ยิ่งมืดยิ่งเปลี่ยวมากขึ้น
บรรยากาศยิ่งน่ากลัว คนที่อากาศบอกว่าจะเป็นคนคุ้มกันเธอแต่ละคนก็หน้าตาล้วนไม่น่าไว้ใจเลย
หมอสาวหันไปถามพ่อหน้าโหดที่นั่งอยู่เบาะหลังตัวเอง
ฟาง: "เออ เราจะไปไหนกันค่ะ อีกนานมั้ยกว่าจะถึง"
พวกมันมองหน้ากันไปมา ราวกับหาคนที่จะมาตอบคำถามจนเธอเริ่มสังหรณ์ไม่ดี มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
"ไปที่ปลอดภัยครับ เป็นที่ลับของเรา"
หลังจากเงียบอยู่นาน พวกมันคนนึงก็ตอบคำถามเธอ
ฟาง: "แล้วทำไมต้องมาอยู่ไกลๆแบบนี่ด้วยละค่ะ"
ลิ่วล้อ: "ก็อยู่ในเมืองมันหาง่ายครับ ต้องการความปลอดภัยก็ต้องมาที่มืดแบบนี้แหละครับ"
เธอก็พยักหน้าตามน้ำไป ทั้งที่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจว่าเธอกำลังจะเจอกับอะไรกันแน่
รถตู้วิ่งผ่าทางเล็กๆเข้าไปในหมู่ตึกแห่งหนึ่ง มีอาคารไม้เล็กๆหลายหลังปลูกรอบอาคารตึกปูนเก่าไว้ตรงกลาง
"บอกมาคืนนี้ อยากได้กี่ครั้ง..."
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอดี ฟางเองก็รีบคว้ามาดูว่าใครโทรมา พอเธอเห็นว่าเป็นเบอร์ของที่บ้านก็กดรับสาย
แต่ชายที่มาด้วยก็คว้ามือถือเธอกระชากออกมาแล้วกดวางสายไป
พอดีกับประตูรถที่เปิดกระชากออก และพบกับกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนมองเธอด้วยสายตากลัดมัน
"สวัสดี คนสวย"
ชายร่างใหญ่หน้าฝรั่งตรงหน้าทักทายเธอพร้อมๆกับเป็นการเริ่มฝันร้ายของเธอขึ้น
เธอถูกกระชากลากลงจากรถแล้วโดนไอ้ฝรั่งหัวโจ้กอุ้มสะพายบ่าตัวลอยลิ่วไปในตึก พร้อมๆกับชายอีกหลายสิบคนที่เดินตามไปด้วยความกลัดมัน
เธอถูกโยนลงบนโซฟาตัวใหญ่เก่าๆ และตามมาด้วยชายหลายคนที่อ้อมไปจับแขนเธอยึดมันไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว
ฟาง: "นี่มันอะไร พวกแกจะทำอะไรชั้น พวกแกเป็นใคร"
พวกมันยิ้มและหัวเราะอย่างสะใจ
ก่อนไอ้ฝรั่งที่ดูเป็นเหมือนหัวหน้าจะปัดผมออกจากหน้าเธอแล้วตอบ
"ว่าที่ผัวเธอไง แล้วไม่ใช่แค่พี่สุดหล่อคนเดียวพี่ๆทั้งหมดนี่จะเป็น ผัวให้น้องเอง"
เธอทั้งงุนงงและตกใจ นี่เธอโดนส่งมานี่ได้ไงกันเธอควรจะไปอยู่เซฟเฮ้าส์ไม่ใช่รังโจรแบบนี้
ลิ่วล้อ: "พี่คารอฟ ผมอยากเย็ดมันแล้วเลิกคุยซะทีเถอะพี่"
ไอ้ทหารโหดแห่งแดนหมีขาวหันไปตบหัวก่อนจะหัวเราะ
คารอฟ: "ฮ่าาาๆ ใจเย็นสิไอ้พวกนี้ มันต้องมีบทสนทนากันบ้าง คนเรามันต้องสนนทนาปราศัยกันบ้างไม่ได้สักแต่จะเย็ดลูกเดียว"
ส่วนฟางก็เริ่มจับต้นชนปลายเรื่องราวได้แล้ว
ฟาง: "พวกแก....ร่วมมือกับคุณอากาศ?"
คารอฟยื่นมือมาลูบใบหน้าเธอเบาๆก่อนจะยกขึ้นมาดม
คารอฟ: "หื้มมมม ฉลาดดีนะสาวน้อย คนเรามันดูจากภายนอกไม่ได้จริงๆ เพราะฉะนั้น....ขอดูภายในเลยละกัน"
มือใหญ่กระชากเสื้อนอกเธอขาดหลุดออกมาโดยไม่ให้ตั้งตัว
ฟาง: "อย่าแตะตัวชั้น ไอ้พวกบ้า!!"
คารอฟ: "มาทำเป็นเป็นดิ้น ลองโดนเข้าไปดูแล้วจะร้องขออีกรอบ"
เสื้อซับในสายเดียวถูกอีกหลายมือช่วยกันถอดออกเผยผิวขาวราวน้ำนมที่เธอไม่เคยให้ใครดู
พวกเดนสังคมต่างมองเธอตาลุกวาว บ้างคนเริ่มถอดเสื้อผ้าออก
เธอไม่คิดเลยว่าการที่เธอทำตามสิ่งที่ควรทำจะพาตัวเธอมาอยู่ตรงนี้ได้ เธอไม่คิดเลยว่าคนที่ควรจะทำงานเพื่อประชาชนเพื่อสังคมจะกระทำกับเธอแบบนี้
คงเป็นเพราะเธอโตมาในสังคมที่ดีมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นใครที่เธอรู้จักต่างก็ทำงานสุจริตเป็นคนดีของสังคมทั้งสิ้น ถือว่าเป็นโชคดีของเธอที่เกิดมาเจอสิ่งดีๆมาตลอด
แต่ทว่ามันกลับส่งผลร้ายต่อเธอในวันนี้ เธอมองโลกในแง่ดีเกินไป ไร้เดียงสาเกินกว่าจะทันเล่ห์กลของมัน จนเธอต้องเรียนรู้ผลของการมองโลกของตัวเธอเองแบบนี้
ฟาง: "อย่าาาา...อย่านะ!!"
มือของพวกมันต่างรุมลูบไล้ตัวเธอ เธอทั้งกลัวทั้งแขยงสัมผัสอันหยาบกร้านของพวกมัน
เธอเริ่มนึกถึงคำพูดของสิงห์ที่บอกว่าเธอโลกสวย เธอพึ่งจะเข้าใจสิ่งที่เขาอยากบอกเธอแล้ว
ฟางนึกถึงเขาสุดใจ แต่ทว่าเขาจะรู้ได้ไงว่าเธออยู่ที่นี่
ไม่สิ ทำไมเขาจะต้องมาช่วยเธอถ้าสิ่งที่เขาเล่าเป็นจริงป่านนี้เขาเองก็คงลำบากอยู่แน่ๆพวกมันคงตามไปฆ่าสิงห์อีกรอบแล้ว แต่ดูเหมือนเธอจะนึกได้เพียงชื่อเดียวในหัวตอนนี้
มือหยาบบีบเคล้นอกของเธออย่างรุนแรง
เธอทั้งเจ็บทั้งสยิวแต่เธอก็ยังขืนตัวไว้
คารอฟนั่งลงข้างเธอก่อนจะดูดซอกคอขาวๆและเลียไปตามผิวเนียนนุ่มยั่วสายตา
เธอขนลุกชันไปทั้งตัว สะท้านเบาๆเมื่อมันดูดผิวเนียนหนักๆพอมันเห็นแบบนั้นก็รั้งเสื้อในเธอขึ้น
คารอฟ: "จุกสีแดงเชียว ไหนมาดูสิ"
มันใช้นิ้วเขี่ยไปตามจุกแดงๆของเธอที่เริ่มชูชันขึ้นมา
ฟาง: "ปล่อยนะ อาาาา แกไอ้ชั่ว อย่ามาแตะตรงนั้นนะ"
คารอฟ: "ตรงนี้เหรอ"
มันตีหน้ามึนก่อนจะใช้สองนิ้วบี้ปลายยอดอย่างรุนแรงจนเธอถึงกับสะท้านบิดกายไปมาด้วยความเจ็บ
ฟาง: "อ๊าาาา อย่ายุ่งตรงนั้น โอยยยย อืมมมม ซื้ดดด"
มันยังคงบี้ต่อเนื่องแถมยังดึงไปซ้ายไปขวาตามใจชอบ กว่ามันจะปล่อยเธอก็ต้องนอนหอบแฮ่กๆ แต่ที่ปล่อยมือเพราะมันจะดูดเลียเต้าสวยแทน
มันวนลิ้นที่หัวนมครู่นึงก่อนจะอ้าปากงับดูดราวกับหิวโหยมาช้านาน
มันทั้งดูดทั้งเล่นทั้งขบเม้มสารพัดจนเธอนั้นร้องครางออกมา
ฟาง: "อื้อออ ซื้ดดด ถ้าชั้นหลุดไปได้พวกแกเข้าคุกกันทุกคนแน่ โอยยย"
คารอฟมองจ้องที่สายตาที่จ้องมันอย่างแค้นเคืองขณะกำลังขบเม้มหัวนมเธออยู่ แม้เธอจะพยายามจะขู่จะด่ายังไงมันก็ยังเสพสุขจากสองเต้าเธอต่อไป
ฟางพยายามกัดฟันต่อต้านพวกมันเต็มที่ทั้งด่าทั้งดิ้นแต่ยิ่งทำก็ยิ่งสิ้นหวังลงเรื่อยๆ น้ำตาสาวใจงามหยดออกมาจากขอบตาด้วยความอับจน
คารอฟ: "โธ่...ร้องไห้ขี้แงซะแล้ว สาวน้อยนี่ยังไม่ได้เริ่มอะไรเลยนะ ทำใจซะ แล้วก็ทำตัวดีๆด้วย"
ฟาง: "ไม่!!! ใครก็ได้ช่วยที อย่าาาา!!"
มือหยาบหนาล้วงลงไปสอดใต้กระโปรงยาวคลุมเข่าเข้าไปสัมผัสความโหนกนู้นด้านใน
คารอฟทำตาโตก่อนจะกันไปยิ้มให้ลูกน้องด้านหลังของตัวเอง
คารอฟ: "คืนนี้กูว่าสนุกแน่ ตัวแค่นี้ทำไมพกมาเยอะจัง"
มันหันมาถามอย่างย่ามใจ มือก็ขยับบีบเนินเนื้อเธออย่างมันมือ
สมุน: "พี่อย่าว่าผมอย่างนั้นอย่างนี้เลย นังนี่สวยจริงๆขอพวกผมจับให้เป็นบุญมือซักนิดเถอะ"
เหล่าสมุนของมันต่างส่งสายตาวิงวอนกับลูกพี่ พวกมันไม่เคยเจอใครสวยเท่าเหยื่อรายนี้เลย ลำพังแค่เห็นก็แทบทนไม่ไหวแล้วยิ่งเธอเปลือยท่อนบนแบบนี้ ยิ่งทรมานพวกมันเสียเหลือเกิน
คารอฟ: "ไอ้พวกเหลือขอ แค่นี่ทำเป็นจะขาดใจตาย กูก็แบ่งตลอดไม่ใช่ไง จะมาถึงขย่มเลยมันไม่สนุก เอางี้มึงเล่นนมอีคนสวยนี่ไปก่อน แต่!อย่าพึ่งให้ช้ำนะ ถ้ามึงทำช้ำมึงตายห่าแน่!"
ราวกับเสียงสวรรค์พวกมันต่างยื่นมือยื่นไม้เข้าหาทรวงอกของเธอ
คารอฟ: "เบาๆดิ อย่าแรงมาก ช้ำหมดของดีๆ"
มันที่กำลังถลกกระโปรงกันมาด่าลูกน้องและหันไปเกี่ยวขอบกางเกงในเธอรูดออก
ฟาง: "หยุด!! ใครก็ได้ช่วยด้วย"
เธอร้องไห้ออกมาอย่าหมดหวังพลางคิดถึงคนที่เตือนเธอ
ฟาง: "คุณสิงห์...ชั้นน่าจะเชื่อคุณ"
เธอรำพึงออกมาก่อนร่างจะสะท้านเมื่อไอ้ทหารรับจ้างใช้นิ้วเขี่ยไปที่ส่วนสงวนของเธอ
----
เลือดสดๆไหลออกจากแผลแตกตามใบหน้าแต่ดูเหมือนคนที่เป็นสาเหตุของบาดแผลก็ยังไม่สมใจ หมัดขวาหวดอัดช่วงท้องของอากาศดังอั้ก อั้ก จนอีกฝ่ายกระอักเลือดออกมาสิงห์ก็เดินถอยออกมาดูสภาพมัน
สิงห์: "ทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ นี่ยังไม่ได้เสี้ยวของความเจ็บปวดของกูเลยนะ"
อากาศ: "มึงมันกลายเป็นอะไรไปแล้ววะ"
สิงห์: "เป็นความแค้น เป็นมัจจุราชของมึงไงละ"
ก่อนสิงห์จะซ้อมแบบเอาให้ตายไปอีกชุดเล่นเอาอากาศถึงกับหมดสภาพ กระดูกหลายชิ้นของมันน่าจะร้าว
สิงห์หยิบปืนสีเงินกระบอกโตของมันขึ้นมา
สิงห์: "กระบอกนี่แพงไม่ใช่เหรอ หนึ่งในผลประโยชน์ของไอ้เสี่ยอินสินะ .45 สวยเชียว"
อากาศ: "ก็ต้องทำงานกี่ปีละกว่าจะได้ งานเงินน้อยความเสี่ยงเยอะ แถมยังทำดีไม่มีค่าอีกมึงจะทนไปทำไมละ"
สิงห์: "ก็เลยขายกู ทิ้งไว้ให้ตายแล้วมึงก็ไปเสวยสุขกับพวกมัน กูไม่คิดเลยว่ามึงจะทำแบบนี้กับกู"
ตำรวจผู้ละทิ้งศักดิ์ศรีเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตน
อากาศ: "แล้วกูมีทางเลือกเหรอ แม่กู เมียกู ก็เกือบโดนฆ่า...."
สิงห์: "แล้วนุ่นละ แล้วเมียกูละ"
สิงห์กระชากตัวอากาศลอยขึ้นด้วยแขนข้างเดียว อากาศหน้าซีดรีบละล่ำละลัก
อากาศ: "เรื่องนี่กูก็ไม่รู้ สาบานได้เลยกูหายใจไม่ออก ปล่อยกู!"
ตาขวาสิงห์สว่างวาบเป็นสีแดง ก่อนมือที่กำคอจะบีบแรงขึ้นอีกแรงบีบบดร่างจนกระดูกแทบจะแหลกเหลว อากาศนึกว่าจะตายแต่ร่างของมันก็ถูกเหวี่ยงไปชนรถดังสนั่น
ตัวเขาเองหลังจากได้พลังนานขึ้นก็รับรู้ได้ว่าศักยภาพของร่างกายนั้นสามารถเพิ่มพูนได้หากใช้ไอมารเข้ามาเสริม ตอนนี้ต่อให้รถทั้งคันเขาก็ยกลอยได้ กะอีกแค่หักคอคนจะไปยากอะไร
สิงห์: "ไม่ๆ ก่อนตายมึงต้องมาเห็นภาพแบบกูก่อน กูน่าจะยังจำทางไปบ้านมึงได้อยู่"
อากาศ: "กูขอร้องอย่าทำเมียกู ปล่อยเธอไป คนที่ทำคือกู มาฆ่ากูสิอย่าไป.."
ร่างมันกระตุกอย่างทรมานและขยับส่วนไหนไม่ได้เลย
สิงห์: "ตอนนั้นกูก็ขอร้องแบบนี้ แต่มันก็ไม่ฟังแล้วทำไมกูต้องฟังคำขอมึงละ"
อากาศดิ้นรนพยายามหลุดออกจากสภาพไร้ทางสู้ แต่พอรู้ตัวว่าตนนั้นไร้ทางขัดขืน มันพยายามหาวิธีต่อรองกับสิงห์ ซึ่งกำลังลากมันขึ้นรถตัวเอง
และแล้วมันก็นึกออก
อากาศ: "ถ้ากูขอแลกเปลี่ยนแทนละ สนใจมั้ยชีวิตต่อชีวิต"
สิงห์ยัดมันใส่รถอย่างไร้เยื่อใยจนกระทั่งได้ยินประโยคต่อไป
อากาศ: "จำนังหมอคนสวยได้มั้ย"
สิงห์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไป
อากาศมองใบหน้าเพื่อนในกระจกก่อนจะรู้ว่าตนมาถูกทางแล้ว
อากาศ: "เธอโดนฉันส่งไปหาคารอฟ มึงจำมันได้แน่ๆ เล่นหั่นมึงซะเป็นส่วนแบบนั้นคงไม่ลืมแน่"
สิงห์ลอบคิดในใจ อีกใจก็อยากไปจัดการเพื่อนทรยศให้สิ้นเรื่องสิ้นราว อีกใจก็อดห่วงคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แบบหมอฟางไม่ได้ แถมยังมีไอ้ทหารรับจ้างที่ตัดแขนขาเขาอีกแต่ขณะที่กำลังจะตอบตกลง
ซาตาน: "ไม่เอาน่าสิงห์ ไอ้ทหารนั่นอีกหน่อยก็ต้องมาล่าตัวมึงทีหลัง ไว้ค่อยฆ่าทีหลังได้ แต่ถ้าเจ้าปล่อยไอ้อากาศไปมันต้องระวังตัวกว่าเดิมแล้วเจ้าจะล้างแค้นได้ยากขึ้นนะ"
สิงห์ฟังซาตานก็คล้อยตามแต่ทว่าความดีในใจของตัวเขาก็ร่ำร้องให้ไปช่วยผู้บริสุทธิ์ก่อน
ซาตาน: "เชื่อข้าสิ ข้าเรียนมา"
อากาศ: "ไม่อยากไปช่วยเธอเหรอ มึงเป็นห่วงคนที่ตกเป็นเหยื่อเสมอนิ ไม่เอาจริงเหรอข้อเสนอแบบนี้"
สิงห์กระแทกเบรคหยุดรถทันที
ก่อนจะหันไปหาอากาศ
สิงห์: "เธออยู่ไหน"
อากาศแทบจะตะโกนออกมาอย่างดีใจ
อากาศ: "นี่สิผู้กองสิงห์ที่กูรู้จัก"
สิงห์: "แต่มึงไม่ใช่ผู้กองอากาศคนเดิม"
อากาศ: "กูไม่เป็นผู้กองแล้วกูขึ้นเป็นรองสารวัตรกองกำกับการแล้ววะ มันก็ต้องไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว"
สิงห์: "แล้วรองถวิลที่พึ่งย้ายมาหายไปไหน"
เขาพึ่งนึกถึงตำรวจวัยกลางคนแม้จะอายุจะเริ่มมากแล้วแต่ไม่เคยหยุดพัก เป็นตำรวจน้ำดีอีกคน
อากาศ: "โดนเอาไปแขวนที่อื่นแล้ว ใครขี้สงสัยใครไม่ตามก็โดนกันออกไม่ก็ย้ายหมดแล้ว"
อากาศกลับมาเคลื่อนไหวร่างกายได้อีกครั้ง และรีบหยิบมือถือที่แสดงตำแหน่งของรังพวกมันให้สิงห์ดู
สิงห์: "ไม่ไกลเท่าไหร่ มึงลงไปได้กูจะ....อ้ากกกก"
สิงห์ที่ไม่ระวังถูกอากาศที่นั่งอยู่ด้านหลังหยิบมีดที่ซ่อนในรถออกมาแทง เมื่อไม่ได้ระวังตัวมีดจึงแทงทะลุลงไปในเนื้อ คมมีดมาโผล่อีกด้านเรียกเลือดสดๆออกมาจากแผล
แถมมันยังกระชากออกมาแทงซ้ำๆก่อนจะกระโดดมาเบาะข้างคนขับและเปิดประตูทางคนขับและถีบสิงห์ที่กุมแผลมีดลงจากรถก่อนจะชิงขับรถหนีออกไปทันที
สิงห์: "บ้าเอ้ย!! ไอ้สารเลว"
เขาพยายามยันตัวขึ้นแต่ก็เห็นวัตถุที่ลอยออกมาจากหน้าต่าง
ตูมม!
ระเบิดลูกเกลี้ยงถูกโยนตามมา แรงระเบิดผลักสิงห์กระเด็นออกไปนอนจุกที่พื้นแถมแผลจากมีดก็ยังเลือดไหลไม่หยุด
ถึงจะมีพลังราวกับผู้วิเศษแต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคนที่มีเนื้อมีเลือดเจ็บได้ตายเป็นเหมือนเดิม
การโจมตีที่เขาไม่ได้ระวังก็ยังคงคร่าชีวิตเขาได้อยู่และรอบนี้เขาก็บอบช้ำไปไม่น้อย
สิงห์นอนเจ็บ เขาด่าตัวเองในใจที่เผลอประมาทเกินไป แต่ความหวังก็มาถึง เพราะจากนั้นไม่นานนักก็มีรถที่เขาไม่คิดว่าจะมาหาตนในตอนนี้โผล่มา เขารีบระบุพิกัดที่ได้รับในมือถือก่อนจะส่งให้ แล้วเขาก็หมดสติไปในที่สุด
--------
"อ๊าาาา ซื้ดดด พอได้แล้วหยุดเถอะ จะไม่ไหวแล้ว เอานิ้วแกออกไป อูยยยย"
ฟางนอนอยู่บนโซฟาตัวเดิมและยังคงถูกมันกดแขนขาไว้เหมือนเดิม แต่สมุนทั้งสองก็ต่างจับจ้องเต้านมเธอคนละข้าง ส่วนไอ้จอมวายร้ายก็กำลังแยงนิ้วใส่รูรักของเธออย่างต่อเนื่อง
ร่างบางเต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าแดงก่ำปากพยายามเม้มกลั้นเสียงร้องที่ออกมา แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งดิ้นมันก็ยิ่งชอบแถมยังกดนิ้วแน่นๆคล้ายแกล้งให้เธอต้องร้องออกมาให้ได้ นิ้วมารทั้งแยงทั้งควานจนน้ำเธอเยิ้มไปหมดแม้ไม่ยินยอม แต่ธรรมชาติก็คือธรรมชาติเมื่อมันเริ่มแยงเร็วขึ้นหมอฟางก็ทราบว่าเธอกำลังจะเสร็จสมคานิ้วของมันในอีกไม่กี่อึดใจ
ฟาง: "ไม่เอาแล้ว หยุดแหย่นิ้วชั้นเสียว โอยยยมันเสียวไปหมดแล้ว เอานิ้วแกออกไปนะ"
มันเห็นท่าทางเธอบวกกับร่องรัดที่เริ่มบีบนิ้วแรงขึ้นๆก็ทราบว่าเธอใกล้จะถึงสวรรค์
มันยิ่งตั้งหน้าตั้งตาใช้นิ้วจนเธอนั้นทนทานต่อไปอีกไม่ไหว
กระแสประสาทเธอแล่นวาบไปทั้งตัวพร้อมกับที่เธอสะท้านเอวขึ้น
ฟาง: "อื้อออออออ! อืมมม....อาาาา"
เธอส่งเสียงครางยาวๆในลำคอก่อนจะทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง
คารอฟ: "อ้าวแตกคานิ้วซะแล้ว โธ่ เยิ้มเชียวนะ"
คารอฟรูดนิ้วที่มีเมือกเยิ้มขึ้นลงตามรอยแยกเบาๆ
ฟาง: "อื้อออ พอได้แล้ว ปล่อยฉัน"
เธออ้าปากตอบมันอย่างอ่อนแรง
แต่มีเหรอมันจะทำตาม มันจับข้อพับขาเธอยกแยกออก ร่องรักอวบของเธอถูกจู่โจมซ้ำอีกครั้งทันที
นิ้วสากใหญ่ทิ่มพรวดอัดเข้าไปและสาวเข้าสาวออกไม่ยั้งมือ ส่งผลให้เธอต้องร้องครางออกมาอย่างระงับไม่ได้ แถมหน้าอกทั้งสองก็ยังถูกดูดขยี้ ส่งผลให้เธอนั้นกำลังจะหมดแรงต้านท้าน
ฟาง: "อ๊าาาาา พอแล้ว อย่าทำฉัน โอยยย ช่วยด้วย จะไม่ไหวแล้ว ซื้ดดดเอานิ้วแกออกไป"
เธอส่ายเอวดิ้นอย่างจนตรอกแต่ยิ่งดิ้นเธอก็ยิ่งเสียว น้ำลายแทบจะไหลออกจากปากสติเธอเริ่มจะเลือนลางลงร่างงามบิดสะท้านน้อยๆ
แจ๊ะๆ เสียงนิ้วที่ทิ่มเข้าทิ่มออกร่องอวบที่เปรอะไปด้วยน้ำของเธอเอง
คารอฟรู้ดีว่าเหยื่อรายนี้กำลังจะหมดแรงขัดขืนแล้วยิ่งทำให้มันรีบเร่งเกมสวาทด้วยการก้มลงไปตวัดเลียพื้นที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว
ลิ้นยาวตวัดไปตามรอยแยกราวแส้ สัมผัสของลิ้นมันทำเอาเธอต้องกระดกเอวตาม ก่อนมันจะประกบปากดูดเล่นไปทั่วร่อง ลิ้นสากๆแยงตรงไปคว้านภายในทำเอาฟางร้องไม่เป็นภาษาเลย
ฟาง: "ยะ...อย่าทำแบบนั้น อ๊ายยยยยย ซื้ดดดดดด ไม่เอา โอยยๆ แกกำลังจะ โอววววว พอแล้วๆ จะออก อ๊าาาาาา ไม่ๆ....ออกๆ โอวววว"
เธอกระเด้งเอ่วอัดปากมันอย่างลืมตัว เธอร่อนเอวสู้ลิ้นมันร่องสวยขมิบปล่อยเมือกน้ำออกมาให้ไอ้วายรายดูดกินอย่างทะลักทะลาย เธอร้องและส่ายบดอัดไปตามราวกับคนบ้าจนเธอระทวยนอนลงอย่างสิ้นท่า
คารอฟ: "ฮ้าาา น้ำเงี่ยนสาวสวยมันสดชื่นดีจริงๆ"
มันเช็ดปากตัวเองก่อนหันไปดูสภาพคุณหมอสาวที่นอนแผ่หราอยู่บนโซฟา
หมอสาวนอนหายใจหอบรวยรินคล้ายจะขาดใจ เธอพึ่งเคยถึงจุดสุดยอดรุนแรงขนาดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต สมองขาวเบลอไปชั่วขณะสัมผัสได้แต่กับความซาบซ่านของห้วงราคะที่แสนจะสุขล้นแม้ไม่ได้เต็มใจรับ
คารอฟรีบถอดกางเกงออกงัดจรวดรัชเซียท่อนโตที่ได้รับจากแผ่นดินแม่ตั้งแต่เกิด
หัวบานชูคอผงกอวดสายตาหมอสาวที่กำลังสะลึมสะลืออยู่
แม้จะเคยเห็นมาในตอนเรียนและทำงานแต่มันก็ไม่ใหญ่มโหฬารบานตะไทเท่านี้ ฟางเองก็แทบช็อคเมื่อเห็นเจ้าจรวดรัสเซียรุ่นนี้
คารอฟ: "ตาค้างเลยนะ ไม่ต้องกังวลเธอจะรู้จักกับมันอย่างแนบชิดเลย จัดการ!"
มันหันไปสั่งการลูกสมุนให้จับเธอนั่งคุกเข่าและจับหัวเธอมาถูไถกับจรวดใหญ่
ฟาง: "ไอ้พวกบ้า แกจะทำอะไร ไม่เอา อุกๆ"
เธอไม่ทันจะพูดอะไรก็โดนบีบปากอ้าออกให้ไอ้ทหารรับจ้างใจบาปนำจรวดเข้าไปจากนั้นมันก็จิกผมเธอกระเด้าเข้าออกอย่างไม่เกรงใจ
อ็อคคๆๆ เสียงอุ้งปากโดนกระทุ้งจนน้ำลายเธอเยิ้มไปทั้งทั่วตัวจรวด ส่วนฟางก็ได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมทั้งน้ำตา เธอแทบจะอ้วกอยู่แล้ว เธอเกลียดพวกมัน เธอไม่คิดเลยว่าคนด้วยกันจะกระทำเลวร้ายกับคนอื่นได้ขนาดนี้
ไม่นานนักมันก็ยอมให้เธอคายท่อนเอ็นมันออก หญิงสาวได้พักหายใจให้พะอึมพะอมอยู่ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของพวกมันก่อนสมุนอีกคนจะจับเอวเธอยกขึ้นและกระกบปากที่ร่องสวาทเธอทางด้านหลังตวัดลิ้นโจมตีหมอสาวสุดสวยอย่างดุเดือดพร้อมๆกับอีกสองคนที่จับจ้องอกคู่สวยไปคนละเต้า
ฟาง: "ซื้ดดดด อ๊ายยย อย่า!! อุ๊บ อ็อค"
ทันทีที่ฟางอ้าปากร้องครางไอ้คารอฟที่รอจังหวะก็อัดท่อนควยใส่ปากเธอทันที
เธอโดนทรมานท่านี้อยู่พักใหญ่ๆ นานจนเธอสุขสมคาที่ไปอีกสองครั้งมันถึงดึงท่อนที่น้ำลายยืดเป็นชายออกมาจากปาก
ฟาง: "อืออออ อ๊ายยยย ช่วยด้วยจะไม่ไหวอีกแล้ว ข้อร้อง อูวววว"
มันยืนสาวควยดูเธอสั่นกระตุกอย่างทรมานด้วยความเสียวอย่างสะใจ มันชอบเห็นพวกเธอครางออกมาแบบนี้ยิ่งเธอทรมานจากความเสียวมันก็ยิ่งมีอารมณ์ อีกครู่มันจะนำจรวดมันไปยิงถล่มถ้ำน้อยให้กระจุยแหลกหลาญ
แต่ทว่าเรื่องบางอย่างคนเราก็ไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะวินาทีต่อไปไฟฟ้าของที่นี่ก็ดับลงหมด
เป็นสัญญาณว่าหมดเวลาละเลงกาม ต่อจากนี้มันคือเวลาละเลงเลือด
คารอฟ: "ส่งคนไปตรวจเครื่องปั่นไฟ อีกส่วนไปหยิบไฟฉายมา ต่อวิทยุให้ทุกคนออกตรวจให้ทั่ว อย่าประมาทเด็ดขาด"
มันรีบแต่งกายอย่างรวดเร็วและรีบคว้าปืน Ak-74 รุ่นใหม่ของปืนตระกูลเก๋าออกมาขึ้นลำพร้อมยิงต่อสู้ได้ทุกขณะ
ที่นี่มันกบดานมาหลายปีไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องไฟฟ้าดับ แล้วมาดับตอนที่เขาพาเหยื่อใหม่เข้ามาแบบนี้ มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่ามีอะไรชอบมาพากลแน่แล้ว แต่ใครจะกล้าบุกรุกเข้ามา นี่เป็นคำถามของมือสังหารใจหยาบผู้นี่
-----
ย้อนกลับไปก่อนไฟฟ้าจะดับ
ณ หน้าประตูใหญ่ด้านหน้าของรังโจร
เจ้ายามผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องมายืนตากน้ำค้างและเป็นอาหารยุงสองคนยืนบ่นเรื่องที่มันทั้งสองคนต้องอดเข้าไปร่วมวงขย้ำขยี้เหยื่อสาวคนใหม่ด้านใน
ยามเช้า: "มึงได้ยินมาป่ะว่าเหยื่อที่มาใหม่วันนี้เด็ดมาก"
ยามดึก: "กูเห็นแล้ว โคตรสวยเลย ขาวใส แค่เห็นควยกูนี่แข็งแล้ว"
ยามเช้า: "ขนาดนั้นเลย? ชิบหายกว่าจะเปลี่ยนเวร รูแหกหมดแล้ว ใครมันช่างจัดเวรวะเสียดายเลยกู"
ยามดึก: "ไม่รู้จะกลัวห่าอะไร ที่นี้ก็อยู่ตั้งไกลขนาดนี้หมาที่ไหนจะหลง...."
ไม่ทันจะจบประโยค รถซิตี้คาร์คันเล็กก็วิ่งออกมาจากหัวมุมเล็กๆ ไอ้ยามทั้งสองก็ตื่นตัวคว้าปืนที่เหน็บไว้ แต่พอคนขับรถลงมาพวกมันก็คลี่ยิ้มออกมาทันที
"ขอโทษนะค่ะ พี่ค่ะหนูขอถามทางหน่อยค่ะ บ้านร้างที่ว่าผีดุๆอยู่ในซอยนี้ปะค่ะ?"
เสียงหวานจากสาวสวยคนนึงในขุดแขนกุดเอวลอยและกางเกงขาสั้นตามสมัยนิยมอวดเรียวขา
เจ้ายามทั้งสองเหลือบตามองกันแบบรู้ใจ พลางนึกในใจว่าสวรรค์ยังเมตตาพวกมันแม้คนนี้จะไม่ได้สวยตรึงตาตรึงใจแบบคนข้างใน แต่คนนี้ก็จัดว่าสวยพอดู แล้วตอนนี้พวกมันก็กำลังหาที่ระบายอยู่พอดี
ยามเช้า: "บ้านร้างๆ เอ๊....นึกก่อนๆ ไอ้ดึกๆรู้จักมั้ย" มันหันไปหาคู่หูของมันแต่พบว่าเพื่อนมันเองยืนกุมคอหอยที่เลือดกำลังทะลักกออกมา เลือดคาวคลุ้งเปรอะไปทั่วร่างเพื่อนมัน ปากมันพะงาบๆก่อนที่ร่างนั้นจะทรุดลงสิ้นใจตาย
และก่อนที่มันจะได้ทันกรีดร้องสาวสวยที่หลงทางก็เอามืออุดปากและกรีดคอหอยมัน ส่งมันตามเพื่อนมันไปอย่างเงียบเชียบ
มือสังหารหญิงเดินมาข้างๆสิงห์ที่ยืนรออยู่
สิงห์: "ฝากจัดการเรื่องนั้นด้วย"
ก่อนสิงห์จะเปิดประตูแง้มออกและหายวับไปในความมืด
"ท่าทางจะห่วงฟางมากจริงๆ เอาเถอะยังไงก็คนกันเองอยู่แล้ว อย่างรู้จักตอนเจอจะหน้ายังไงนะ"
สาวมือสังหารคลี่ยิ้มมองตามสิงห์ที่พึ่งหักคอสมุนผู้โชคร้ายไปอีกศพ ก่อนเธอจะเดินตามเข้าไปด้านใน
-------------------------------
"เออ รีบซ่อมเครื่องปั้นไฟซะ เอาให้ไวๆละ"
คารอฟตอบวิทยุด้วยใบหน้าครุ่นคิด
เป็นอย่างที่มันคิด ไฟฟ้าดับไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่ที่มันแปลกใจคือ ใครเป็นคนเข้ามาที่นี่ ไม่คุ้มค่าพอที่จะมาปล้นของ เพราะค่ายนี้มีแค่อาวุธและที่พักเท่านั้น ถ้าอีกฝ่ายจะมาฆ่าพวกมันทำไมไม่เอาคนมายิงถล่มไปเลย จุดประสงค์ของมันคืออะไรกัน
"ลูกพี่ คนของเราขาดการติดต่อไปหลายคน จะให้ผมกับทีมออกไปซัดกับมันเลยมั้ย?"
ลูกสมุนในชุดพร้อมรบสี่คนเดินมาหาคารอฟเพื่อรอคำสั่ง แววตาของสมุนเหล่านี้เยือกเย็นสงบนิ่ง อีกทั้งปืนที่ใช้ก็ดีกว่าและท่าทางก็ขึงขังกว่าเหล่าสมุนทั่วๆไป
คารอฟเอาผังฐานมากางดูก่อนจะถาม
คารอฟ: "มึงส่งคนออกไปกี่คน"
ลูกน้อง: "ส่งไปตามเส้นทางนี้.... ตรงนี่... และนี่ครับ แต่ไม่รู้ว่ามันไปกันทางละกี่คน ผมไม่ได้สั่งไว้"
ลูกน้องชี้จุดลงในผังและตอบคำถาม
คารอฟ: "ประมาทไปแล้ว ส่งคนเพิ่มลงไป ทางละ3คน พวกที่ยืนคนเดียวให้ส่งคนเพิ่ม อย่าให้อยู่ลำพัง"
ไม่นานหลังจากส่งคนไปตามคำสั่ง ลูกน้องที่นั่งรอรายงานก็รีบเดินมาหาคารอฟ
ลูกน้อง: "ได้เรื่องแล้วครับ ชุดสามคนที่ไปตรวจตามจุดที่คนหายไป พบศพคนของเราโดนเก็บไปเกือบหมดบริเวณนั้นเลย แต่ตรงไหนมีคนอยู่เยอะไม่เป็นอะไรครับ"
คารอฟ: "ไม่ได้บุกแบบบุ่มบ่าม แต่มาเงียบและเก็บแบบรายหัวแถมหลีกเลี่ยงการปะทะ เรากำลังเจอกับนักฆ่าฝีมือดี"
มันคว้าวิทยุขึ้นมาติดต่อไปยังช่างไฟ แต่ทว่าไม่มีใครตอบกลับ
คารอฟ: "ส่งคนไปที่เครื่องปั่นไฟ ระวังด้วย พวกมันไม่ได้มาลำพัง รีบจัดการเรื่องไฟซะ"
ก่อนจะหันกลับมาแผนผัง
คารอฟ: "มันฆ่าคนตรงไหนบ้าง ขีดแดงไว้เลย"
คารอฟมองดูจุดแดงที่กำลังเคลื่อนมาหาห้องนี้ แม้จะเปลี่ยนทางบ่อยๆแต่เขามั่นใจว่า ไอ้ตัวร้ายด้านนอกจะมาทางทิศนี้แน่นอน
คารอฟ: "มันมาหาเรา อยากตายนักใช่มั้ย ตามคนที่อยู่รอบนอกเข้ามาให้หมด และมึงคุมทีมพาไปดักที่โถงใหญ่ มันต้องมาแน่ๆรีบไป เอาแว่นไปด้วยนะ"
ลูกน้องทุกคนรีบออกจากห้องไป
"เขามาแล้ว ปล่อยฉันไปแล้วชั้นจะคุยกับเขาให้ แกกับคนของแกสู้เขาไม่ได้หรอก"
หมอฟางที่ถูกมัดส่งเสียงมาบอกมัน
คารอฟ: "งั้นเหรอ สาวน้อย งั้นรอแปปเดี๋ยวพี่จะเอาหัวมันมาให้ละกันนะ"
หมอฟาง: "แกจะตาย ตานั่นไม่ธรรมดาจริงๆ"
แม้เธอจะพยายามไม่ให้มีคนตายเพิ่ม แต่คารอฟเองก็ผ่านหลักสูตรฝึกนรกมาแล้ว
มันเองเคยฝ่าฝืนคำสั่งบุกเข้าไปเชือดนายทหารของฝ่ายนาโต้ที่มาตรวจแถวชายแดน แถมยังฆ่าชุดที่ไล่ล่ามันไปอีกหลายศพ แต่แทนที่จะได้รับความชอบที่สังหารนายทหารระดับสูงได้กลับถูกจับฐานขัดคำสั่ง มันเลยฆ่าผู้คุมและหนีออกมาเป็นทหารรับจ้าง กับอีแค่นักฆ่าไม่กี่คนทำไมมันต้องกลัว
--------------------------
สิงห์เช็ดคราบเลือดออกจากมีด เขาพึ่งเสี่ยงลงมือฆ่ายามทีเดียวสามคน ตัวคารอฟมันก็เก่งสมกับเป็นอดีตหน่วยรบพิเศษของรัชเชีย พอมันคุมคนเองก็ทำให้เขาลำบากขึ้นเยอะ
กว่าเขาจะเล็ดลอดเข้ามาในรังได้ขนาดนี้ก็เสียเวลาเสียแรงไปไม่น้อย
มือถือในกระเป๋าสั่นเบาๆ เมื่อกดดูข้อความ ตอนนี้เขาต้องเร่งมือเพราะมันกำลังเทคนมาจัดการซ่อมเครื่องปั่นไฟ ทำให้คนของเขาก็รีบออกมาก่อนจะโดนล้อมและยิ่งถ้าไฟติดเขาเองก็จะยิ่งทำงานลำบาก สิงห์เดินไปตามทางช้าๆก่อนเข้าสู่หัองโถงใหญ่
แม้ทางจะมืดสนิทไม่แสงใดๆแต่ด้วยพลังเสริมสรรภาพ เขาใช้ไอมารปรับปรุงสายตาให้มองในที่มืดได้ แค่นี้ความมืดก็ไม่เป็นปัญหาต่อเขาอีกแล้ว
แต่ในขณะเดินผ่านกลางห้อง กระสุนปืนก็บินเข้ามาหาตัวเขา สิงห์กลิ้งตัวหลบหลังกระถางต้นไม้ใหญ่เพื่อกำบัง
สิงห์: "มันเห็นเราได้ยังไง ไม่สิมันเดาออกว่าเราต้องมาที่ห้องนี่ได้ไง"
สิงห์หันไปมองและรำพึงขึ้นอย่างสงสัย
สิงห์พึ่งสังเกตุเห็นว่าพวกมันบ้างคนสวมกล้องมองกลางคืนหรือ Night Vision การที่มันมีอุปกรณ์ที่หายากขนาดนี้ยิ่งแสดงถึงอำนาจของกลุ่มที่หนุนหลังพวกมันอยู่แถมปืนที่ใช้ก็ไม่ใช่ปืนกระจอกๆ พวกมันเริ่มขยับแนวขึ้นมาและยังฉลาดพอที่จะทิ้งบ้างส่วนไว้ยิงกดดันเขาด้วยตอนนี้เขาแทบจะเงยหน้าไปไม่ได้เลย แถมการเคลื่อนที่ก็มีแบบแผนและระเบียบมาก ไอ้พวกนี้ต้องรับการฝึกมา ต่างจากพวกด้านนอกที่บางคนยังจับปืนผิดวิธีอยู่เลย
ความเคร่งเครียดและกดดันเริ่มฉายออกมาจากหน้าสิงห์
"เข้าระยะแล้ว พร้อม!!"
พวกมันสองคนที่มาใกล้ๆ กระชากระเบิดเขวี้ยงรอจังหวะนับถอยหลังและโยนเจ้าไปหาสิงห์
"ระเบิดมือ เขวี้ยง!!!"
ลูกระเบิดตกลงและทำงาน ไฟสว่างวาบและเสียงดังสนั่น หลังจากระเบิดทำงานทั้งสองคนที่อยู่ใกล้รีบเข้าไปดูซาก แต่ทว่าไม่มีเศษชิ้นส่วนอะไรเลย ซึ่งแปลว่าสิงห์ไม่ได้อยู่ตรงนั้น
"อ้ากกกกกก"
พวกมันคนนึงร้องลั่นอย่างเจ็บปวดก่อนร่างจะร่วงลงจากระเบียงตรงอีกฝั่งของห้อง มันหลบออกไปได้ยังไงและตอนไหนพวกมันก็แต่ตกตะลึง พวกมันรีบขยับตัวเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ช้าเกินการณ์แล้ว
ปังๆ เสียงปืนพกดังขึ้นชุดหนึ่งก่อนพวกมันอีกคนจะร่วงตามคนแรกไป
"ฆ่ามัน ไปๆ"
ปืนสารพัดชนิดสาดตะกั่วไปยังตำแหน่งของสิงห์
สิงห์วิ่งหลบแอบหลังที่กำบังก่อนจะมองหาลู่ทางจัดการพวกที่เหลือ พวกมันรีบเปลี่ยนที่กำบังและขยับเข้ามาช้าๆ และไม่ลืมหาคนระวังด้านหลังป้องกันโดนลอบโจมตีซ้ำ แนวยิงๆค่อยเคลื่อนบีบเข้ามาอย่างเป็นระเบียบ พวกมันผละดกันยิงและอีกส่วนก็ค่อยเคลื่อนตัวเข้าหาเขา
ซาตาน: "รอบนี้คงเล็ดรอดออกไปไม่ได้แล้วละมั้ง เอาไงต่อละทีนี้"
ซาตานปรากตัวขึ้นในชุดรบแบบทหารปัจจุบัน
สิงห์: "ในเมื่อลอบฆ่าไม่ได้ งั้นฆ่ากันตรงๆเลยสิ"
เขาพุ่งตัวออกไปหาขอบระเบียบใกล้ๆและกระโดดออกลงมากลางขบวนพวกมัน พร้อมกับปล่อยระเบิดแสงที่ถอดสลักลง พวกมันบางคนชิงกระโดหลบออกไปทัน บางคนตัดสินใจยกปืนขึ้นหวังตัดสินกับเขาด้วยความเร็ว
ระเบิดแสงทำงานพร้อมกับปืนพกในมือสิงห์ที่ระเบิดศรีษะไอ้คนรั้งท้ายขบวนกระจายเป็นคนแรก พวกมันหันมาสาดกระสุนใส่สิงห์ในระยะประชิด แต่พวกมันก็เสียการมองเล่นไปชั่วขณะแล้ว
ปืนกล MP5 ถูกยกเล็งที่สิงห์ ก่อนนิ้วมันจะลั่นไกตีนโตๆของสิงห์ก็ถีบอัดท้องน้อยมันจนตัวงอก่อนจะกระชากคอดึงร่างมันมารับกระสุนแทน ปืนของเพื่อนมันสาดใส่ร่างพวกเดียวกัน แม้จะสวมเกราะแต่อาวุธปืนสงครามในระยะใกล้ก็ยิงทะลุได้ไม่ยาก กระสุนเกือบร้อยนัดเจาะร่างมันจนพรุน สิงห์ยกร่างนั้นกันกระสุนจนพวกมันกระสุนหมดก่อนจะแนบปืนไว้ที่ไหล่ของศพตรงหน้า และยิงสวนไปคืนไป
ปัง ปัง ปัง
"หลบๆ หาที่กำบังก่อน"
ไอ้หัวหน้าทีมรีบตะโกนบอกลูกน้องให้หลบ แต่กว่ามันจะทันขยับตัวร่างไร้ชีวิตก็ล้มลงไปอีกสองคน
พวกมันสามคนที่เหลือหลบแนบที่กำบังอย่างมิดชิดขณะสิงห์ก็ลากศพหนีเข้าไปหลังเสาปูน
สิงห์เอาปืนจ่อท้ายทอยคนที่ตนลากมาก่อนจะยิงซ้ำอีกนัด เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่ลุกขึ้นอีกและก็ปลดปืนมันออกมาใช้ สิงห์ค้นตัวมันและเขาก็....
ยิ้มเหี้ยมออกมา
สิงห์: "ว้ากกกกก ตาย!!!"
สิงห์เดินออกมาสาดกระสุนไม่ยั้ง จนพวกมันไม่กล้าโผล่ขึ้นมา เมื่อเดินจนได้ระยะที่พอใจเขาก็นั่งคุกเข่ายิง
หัวหน้าทีม: "รอมันกระสุนหมดแล้วโผล่ขึ้นไปฆ่ามันพร้อมกัน"
พวกมันพยักหน้ารอจังหวะล้างแค้นอย่างใจเย็น ศัตรูอยู่ดีๆก็บ้าเลือดเดินออกมาเป็นเป้าขนาดนี้มันไม่พลาดแน่
แชะๆ เสียงปืนที่ไร้กระสุนดังขึ้น พวกมันทั่งสามยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ใบหน้ายิ้มเหี้ยมเกรียมในใจหวังจะล้างแค้นให้เพื่อนเต็มที่
แต่พวกมันกลับลืมคิดไปว่าคนที่ฉลาดเป็นกรดแบบสิงห์ทำไมถึงเดินมาเป็นเป้านิ่งโง่ๆให้สังหารง่ายๆ
บึมม!! เสียงระเบิดดังขึ้น ส่งพวกมันลอยไปคนละทิศละทาง สิงห์แอบกลิ้งระเบิดมือไปหลังกำบังพวกมัน ส่วนพวกมันก็จ้องแต่จะรอโอกาสยิงสวนจนไม่เห็นระเบิดที่ถูกเขาใช้พลังส่งมันกลิ้งหลุนๆมาใกล้ๆ
สิงห์ปลดซองกระสุนออกและบรรจุใหม่
สิงห์: "เสียเวลาเป็นบ้าเลย"
พวกมันชุดนี้แกร่งเกินไป แกร่งเกินไปที่จะให้รอดชีวิต คารอฟฝึกมันมาดีมาก ดีจนเขาต้องทำลายทิ้งให้หมดไม่งั้นไอ้พวกนี้จะสร้างความลำบากให้ฝ่ายเขาแน่ๆ ขนาดคนชั้นแนวหน้าในกลุ่มของเขายังไม่ร้ายกาจเท่านี้เลย
สิงห์ต้องจัดการเรื่องการฝึกคนของเขาให้ดีกว่านี้ซะแล้ว
แต่ขณะที่สิงห์กำลังจะเดินออกไป ไฟฟ้าก็กลับมาติดอีกครั้งพร้อมๆกับสมุนอีกนับสิบก็จะกรูกันเข้ามา แต่นั่นก็ไม่ประหลาดใจเท่าไอ้ตัวหัวหน้าทีมที่ลุกขึ้นพร้อมปืนกลเบาของลูกน้องมัน แม้ซีกซ้ายจะเต็มไปด้วยบาดแผลก็ตาม ดื้อด้านซะจริงๆไอ้ชุดแรกเนี่ย
"ไอ้ชาติชั่ว ตายยยยย!!"
มันกดไกพ่นกระสุนใส่ร่างสิงห์ แต่สิงห์ก็เคลื่อนร่างสิงห์หลบตามซอกมุมต่างๆและตรงไปยังลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่ง ขนาดพวกฝีมือดียังไม่รอด พวกลูกน้องจิ๊บจ้อยมีหรือจะต้านท้านชายผู้ครองพลังมารคนนี้ได้ ยิ่งวิ่งมาส่งๆ ไร้กลยุทธ์แบบนี้งานสบายเขาละ
สิงห์กระโจนขึ้นไปเกาะเสาปูนและกราดยิงใส่ข้างหลังที่กำบังก่อนจะพลิกร่างหมุนกลางอากาศและยิงพวกมันไปอีกกลุ่ม เมื่อถึงพื้นเขาก็วิ่งซอกแซกไปมาเพื่อกำบังและยิงสวนสังหารทีละคนๆ จนคนที่วิ่งตามมาเห็นศพพวกเดียวกันตายระเนระนาด ยิ่งเวลาผ่านไปจำนวนศพก็ยิ่งเพิ่มขึ้นๆ
จากคนกลุ่มใหญ่ที่บุกเข้ามา ตอนนี้เกือบทั้งหมดนอนเป็นศพตายยับ ความฮึกเหิมลำพองในตอนแรกกลายเป็นความหวาดกลัว
"อย่าเข้ามานะโว๊ยยยยยย"
ปืนกลในมือไล่สาดเงาร่างที่กำลังตรงดิ่งมาหา กระสุนโดนพื้นทุกนัด มันกวาดปืนตามสิงห์ไม่ทัน พริบตาต่อมาสิงห์ก็กระโดดข้ามกำบังมาข้างๆมัน ปืนกลในมือสิงห์จ่อแทบจะติดหน้ามัน
แชะๆ ราวกับฟ้าให้โอกาสมัน ปืนกลในมือสิงห์หมดกระสุนพอดี มันรีบหันปืนใส่หน้าสิงห์ แต่พานท้ายปืนไร้กระสุนของสิงห์ก็กระแทกที่คอหอยซะก่อน แล้วสิงห์หันไปกระชากปืนลูกซองที่หันมาจะจ่อยิงและเบี่ยงออกไปที่เพื่อนมันที่ยืนกุมคออยู่ กระสุนลูกซองเลยเป่าทรวงอกเพื่อนมันกระจุย สิงห์อาศัยแรงถีบของปืนผลักปืนไปกระแทกหน้าและตามด้วยหมัดที่คอหอยก่อนจะดึงร่างมันมาเป็นโล่ห์กันกระสุน ร่างมันกระตุกตามแรงปืนที่ยิงมาไม่ยั้ง ไอ้พวกนี้มันกราดยิงไม่ยั้งจนร่างผู้เคาระห์ร้ายโดนกระสุนพวกเดียวกันขาดรุ่งริ่ง
เมื่อหยุดยิงสิงห์ก็ถีบร่างพังๆใส่พวกมัน และในมือก็ถือลูกซองที่ฉวยมาเมื่อครู่ เขาประทับเล็งระเบิดกระสุนใส่ กระสุนลูกซองถีบเป่าร่างไร้วิญญาณสองร่างปลิวไปพร้อมๆกัน เขากระชากปืนบรรจุนัดใหม่เข้ารังเพลิงและแนบตัวชิดกำแพงรอโอกาสอย่างใจเย็น
ไม่นานนักเสียงลูกซองก็คำรามขึ้นอีกสองนัด สังหารไปอีกสองชีวิต ทุกนัดเข้าจุดตายอย่างแม่นยำ
สิงห์หันไปพบปืนกลเบาที่พึ่งเปลี่ยนกระสุนเสร็จ ที่มันเปลี่ยนกระสุนช้าเพราะมันเหลือแขนใช้งานข้างเดียวจากระเบิดมือในตอนแรก ปืนกลเบาแผดคำรามสาดเป็นสายสีส้มใส่สิงห์
สิงห์: "ตามตื้อไม่เลิกจริงๆ เอาเถอะ แบบนี้ก็ได้"
สิงห์ยกมือกางไอมารเป็นโล่ห์ มันก็สาดจนหมดสายกระสุนก่อนจะตะลึงที่หัวกระสุนลอยค้างบนอากาศ นี่มันกำลังสู้กับอะไรอยู่? สิงห์ขยับแขนอีกทีมันก็ถูกกระชากลอยปลิวมาตกตรงหน้าสิงห์
"นี่มึงกลายเป็นอะไรไป...."
ไม่ทันจะจบประโยคปืนลูกซองก็แผดเสียงขึ้นและห้องโถงก็มีแต่ความเงียบสงัด ทิ้งไว้เพียงศพคนเกือบสามสิบคนกลิ่นเลือดคาวคลุ้งไปทั่ว
สิงห์: "เสียเวลาจริง!"
จากแรกๆเขาแค่กะจะมาแค่ช่วยฟางออกไปเงียบๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นเปิดฉากละเลงเลือดไปซะแล้ว สิงห์มองซากศพรอบๆตัวในห้องโถงใหญ่ก่อนถอนหายใจ เขากระชากสไลด์ปืนดูภายในรังเพลิงเมื่อไม่เห็นกระสุนเหลืออีก เขาก็โยนมันทิ้งไปก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน
ซาตาน: "จะไปเสียอารมณ์กับเรื่องหยุมหยิมทำไม ใช้พลังของข้าเต็มที่แล้วบุกทะลวงมันให้ทะลุอย่างไม่หยุดยั้งเลยสิ จะมาห่วงพะวงอะไรทำไม ต้องฆ่าต้องละเลงเลือดแบบนั้นสิถึงจะเป็นวิถีแบบมารๆอย่างพวกเรา"
สิงห์หยุดเท้าที่หน้าประตูหันมาหาซาตาน
โครม !!!
ประตูหน้าสิงห์ถูกถีบออกกระแทกสิงห์ให้กระเด็นถอยพร้อมๆชายร่างยักษ์ผู้ที่เคยเกือบฆ่าเขาได้ก็รีบใช้โอกาสรุกไล่เขาต่อด้วยมีดเล่มยาวในมือ มันฟันซ้ายขวาอย่างคล่องแคล่วดถดันไล่ต้อนสิงห์จนต้องถอยหนีอยู่ฝ่ายเดียว
ซาตาน: "อาาาา ยังคุยกันไม่จบเลย ไอ้ฝรั่งไร้มารยาท"
มันมองตามร่างชายสองคนที่กำลังฆ่ากันอย่างเซ็งๆก่อนหายไปในความมืด ไว้คราวหน้าก็ได้ยังไงทุกอย่างก็ต้องเดินไปตามแผน
ฝ่ายสิงห์พอตั้งตัวติด ก็พลิกตัวหลบมือและควักปืนออกมาหมายจะจ่อยิง แต่มืออีกข้างของคารอฟก็คว้าข้อมือและกระชากไปหาตัวมันพร้อมกับมีดอีกข้างทีฟันมาที่มือ
สิงห์ปล่อยมือออกจากปืนหลบคมมีดได้อย่างหวุดหวิด คารอฟรีบโยนปืนและคว้าด้ามจับ มันตั้งใจจะใช้ปืนสิงห์ยิงตัวเขาเอง แต่สิงห์ที่กระโดดถอยก็ไม่ถอยอย่างเดียวเขาตวัดเท้าแตะปืนที่มือลอยหายไป และพอเท้าสัมผัสพื้นเขาก็สลับเท้าอีกข้างถีบมันล้มกลิ้งออกไป แต่คารอฟก็กลิ้งและดีดตัวขึ้นกลับมาในท่าพร้อมสู้อีกครั้ง
คารอฟ: "นี่มัน... เฮ้ย นี่กูไม่ได้ตาฝาดจริงๆ!!!"
สิงห์: "ตกใจทำไม รอบที่แล้วมึงเล่นกูไว้หนักมากเลยนะ ทีนี้ตากูเอาคืนบางแล้ว"
คารอฟ: "มึงไปทำอะไรมา แขนขาหน้าตาถึงหาย ชิ! ช่างเถอะอย่างมากกูก็แค่หั่นมึงเป็นชิ้นอีกรอบ"
แม้จะตะลึงที่คนที่มันหั่นด้วยมือจนพิการไร้สภาพจะมายืนตรงหน้า แต่มันก็เลิกคิดเรื่องที่มันไม่รู้และทุ่มเทสมาธิไปที่การต่อสู้ ยิ่งการต่อสู้กับคนมีฝีมือการเผลอตัวไปตามอารมณ์ต่างๆอาจทำให้ตายได้
สิงห์: "ก็ลองดู แต่ถ้าพลาดกูขยี้มึงไม่ให้เหลือเศษแน่!"
สิงห์ยิ้มเหี้ยมและกระชากมีดพกออกมาตั้งท่าเอาส่วนคมไว้ด้านล่างตวัดไปมายืดเส้นเบาๆ และพุ่งเข้าหาคารอฟอย่างกระหายเลือด
เสียงโลหะกระทบกันถี่ยิบ พร้อมๆกับสะเก็ดไฟที่กระจายออกจากคมมีดของทั้งสองฝ่าย นี่คือศึกระดับมือพระกาฬสองคน ทุกการโจมตีทุกท่วงท่าล้วนบ่งบอกถึงความเฉียบคม แต่ละท่วงท่าต่างมุ่งแต่จะเข่นฆ่าซึ่งกันและกันหากมีโอกาสหรือช่องว่าง ช่องว่างนั้นก็อาจจะเป็นช่องว่างสุดท้ายในชีวิตเลยก็ได้
การขับเคี่ยวผ่านไปไม่นานก็เป็นโอกาสของสิงห์ มีดของสิงห์ตวัดฟันเรียกเลือดออกจากใบหน้ามันก่อนที่สิงห์จะจับข้อมือของมันที่แทงสวนมาเหวี่ยงมันลอยไปชนผนังจนผนังร้าว
คารอฟกลืนความเจ็บปวดลงคอ และรีบถอนตัวออกมาจากผนัง แต่ทว่าสิงห์ก็กระโดดลอยมาแทงเข่าเข้ากลางอก ผนังปูนบางๆที่เสียหายก็พังทลายลง ไอ้คารอฟลุกขึ้นหลังจากล้มกลิ้งไปหลายตลบ ใบหน้ามันบูดเบี้ยวด้วยทั้งเจ็บทั้งโกรธเกรี้ยว มันควงมีดและตรงเข้าหาสิงห์อีกครั่ง เสียงใบมีดปะทะกังวานขึ้นอีกครั้ง
ยิ่งเวลาผ่านไปใบหน้าของอดีตทหารัชเซียก็ซีดเผือดมากขึ้น ทั้งทีมันตัวใหญ่กว่าขนาดมีดก็ได้เปรียบแต่ทำไมมันถึงข้อมือสั่นทุกครั้งที่มีดสองเล่มปะทะกันตรงๆ มันใช้วิชามารอะไรถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ ยิ่งมันโถมแรงฟาดฟันยิ่งมันพลิกกระบวนท่าให้ร้ายกาจแค่ไหนก็ดูเหมือนศัตรูของมันก็ไม่ได้วิตกมากขึ้นเลย แถมยังมีทีท่าสบายๆราวกับมันนั้นกระจอกไร้ฝีมือ ยิ่งสู้สายตาสิงห์ที่มองมันก็มีแววเหยียดหยามมันมากขึ้นเรื่อยๆ
คารอฟ: "ไอ้ตัวบัดซบ มึง!!! ตาย!!!"
คารอฟเดือดดาลจนแทงมีดออกไปเต็มแรง ไม่มีกระบวนท่าไม่มีเทคนิคใดๆ มีแค่กำลังที่มาจากโทสะล้วนๆ
ส่วนปลายมีดโผล่ออกมาจากหลังสิงห์
คารอฟ: "ในที่สุด มึงก็ตายด้วยมือกูอีกครั้ง"
มันคำรามอย่างสะใจมือมีดในมือโดนเป้าหมาย
สิงห์: "ไอ้สมองถั่ว แหกตาดีๆ คนที่ต้องตายคือมึง"
คารอฟจ้องไปที่จุดที่มีดมันเสียบ แทนที่จะเป็นร่างของสิงห์แต่กลับเป็นว่าคู่ต่อสู้มันใช้ซอกรักแร้หนีบมีดยาวไว้แทน มันรีบดึงมีดออกแต่ก็เหมือนมันถูกหลอมเป็นเนื้อเดียวกับสิงห์ไปแล้ว จะดึงจะกระชากยังไงก็ไม่ขยับแม้ซักมิลลิเมตร
สิงห์ยกมือข้างที่ว่างเปล่าขึ้นมาก่อนจะกำหมัดและฟาดหลังมือไปที่ใบมีด
กึ๊งงงงงงง ใบมีดยาวของมันแหลกเป็นชิ้นๆ ทั้งที่เป็นมีดโลหะผสมอย่างดี แต่เพียงสิงห์กระแทกเบาๆมีดคู่มือก็แหลกสลายไปกับตา
สิงห์ไม่ปล่อยให้มันอึ้งนานปลายเท้าตวัดขึ้นเสยร่างยักษ์จนตัวลอยก่อนหมุนตัวถีบร่างมันลอยปลิวไปชนประตูทะลุลงไป
โชคร้ายที่มันเป็นห้องใต้ดิน ร่างยักษ์ใหญ่จึงกลิ้งหงายตกบันไดลงไปในชั้นใต้ดิน
สิงห์เดินตามลงไปหาอย่างใจเย็น เป้าล้างแค้นแรก
คารอฟมองสิงห์อย่างเคืองแค้นมันพยายามลุกขึ้นขณะที่สิงห์เดินลงมา ในที่สุดมันก็ลากร่างที่บอบช้ำหนีเข้าไปด้านใน สิงห์ก็ขว้างมีดใส่มันขณะหนีมันแผดเสียงอย่างเจ็บปวดก็จะหลบหายไปกับชั้นว่างของ
แต่พอสิงห์เห็นห้องนี่ชัดๆ เขาก็ขบเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคืองเพราะที่วางแช่อยู่คืออวัยวะมนุษย์ ตรงกลางห้องมีเตียงผ่าตัดเปื้อนเลือดอยู่สามเตียงมีบางส่วนที่แห้งกรังติดพื้น และดูจากร่องรอยมันน่าจะถูกใช้งานมานานมากแล้ว ที่เตียงริมสุดยังมีซากคนนอนเบิกตากว้างอย่างหวาดผวา หน้าท้องถูกเปิดออก ลำไส้บางส่วนห้อยออกมา
"ไอ้นั้นจำหน้ากูได้เลยไปแจ้งความ โชคร้ายที่ตอนนั้นมีคนต้องการตับไปปลูกถ่ายและบังเอิญว่ามันดันเข้ากับตับของไอ้หนุ่มนี่พอดี พึ่งเอาออกไปเมื่อเช้าเอง ตอนมันขาดใจตายนี้ทุเรศฉิบหายเลย"
คารอฟเดินมากดปุ่มตรงหัวเตียงที่ศพนอนอยู่ มันเปิดลิ้นชักใกล้ๆกลับแผงปุ่มออก ที่แท้มันคือเตาเผาศพ ครอฟดันเตียงเข้าไป
คารอฟ: "งานประจำวัน หลายๆศพที่เราฆ่าส่วนใหญ่ก็มาอยู่ในเตานี้แหละ"
สิงห์: "ไอ้พวกสารเลว!!"
คารอฟ: "บางทีก็หั่นก่อนเผานะ เช่นศพเมียมึงไง"
ราวกับมีใครฟาดหน้าเขาด้วยค้อน สิงห์ยืนมองไฟที่กำลังเผาผู้เคราะห์ร้ายด้วยแววตาที่สั่นระริกๆ
คารอฟ: "อึ้งทำไมกูหั่นเองกับมือเลย รับประกันรอยตัดเรียบเนียน หั่นแล้วมันไหม้เร็วกว่าเยอะ"
ไม่ต้องรออะไรอีกแล้วสิงห์กระโดดโถมร่างใส่ราวสัตว์ร้าย แต่คารอฟไม่ใช่เหยื่อ มันคิดถูกที่พูดเรื่องเมียของสิงห์ แค่ยั่วนิดหน่อยสิงห์ก็กระโจนใส่แล้ว มันควักมีดของสิงห์ออกมาแทงสวนทันควัน
สำหรับการต่อสู้ระหว่างมืออาชีพการควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงนั้นสำคัญมาก คารอฟจึงได้โอกาสแทงมีดลงบนร่างมันดันแน่นจนส่วนบนของมือมันติดกับแผงกล้ามอกของสิงห์ มันแทงสิงห์เข้ากลางหัวใจ เป็นการปิดฉากการต่อสู้ของทั้งสองคน โดนแทงเข้าจุดสำคัญน้อยนักที่จะรอด แต่สิงห์ไม่ได้เป็นส่วนน้อย
เพราะเขาไม่มีแม้บาดแผลใดๆ (ตัวใหญ่)
คารอฟทำผิดพลาดไปเพียงอย่างเดียว คือไปกระตุ้นโทสะของผู้ครองพลังแห่งซาตาน
พลังแห่งโทสะ!!
สิงห์จับข้อมือที่ถือมีดแทงเขา และบีบจนกระดูกแหลกละเอียดเสียงกระดูกแหลกดังชัด มีดที่เหลือแต่ด้ามตกลงพื้น ส่วนใบมีดก็แหลกไปทั้งแต่ตอนมันแทงแล้ว
มันพยายามจะถอยหนี แต่เหมือนมีมือล่องหนดึงมันเข้าไปหาสิงห์ช้าๆ มันออกแรงหนีเต็มที่แล้วแต่ร่างมันก็ถูกดึงไปหาสิงห์จนมือสิงห์คว้าคอมันยกขึ้นได้ราวไร้น้ำหนัก
สิงห์เงยหน้าที่ดวงตาทั้งสองข้างลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีแดงเข้มราวโลหิตเส้นเลือดตามตัวกลายเป็นสีเดียวกับดวงตา ราวกับเป็นซาตานที่หลุดออกมาจากนรก
คารอฟตัวสั่นด้วยความกลัว มันพึ่งรู้สึกกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ครั้งนี้ก็เป็นครั้งสุดท้ายของมันเช่นกัน สิงห์หันไปมองเตาเผาที่เปิดอยู่ ก่อนจะยกร่างมันเข้าไปใกล้ๆ
คารอฟ: "อย่า....กูขอยอมแพ้ อย่ากูไม่อยากโดนเผาทั้งเป็น อย่า เฮ้ย!!"
อยู่ดีๆร่างมันก็ถูกยกให้ลอยขึ้นและปลายเท้ามันก็เคลื่อนไปหากองเพลิงช้าๆ สิงห์ส่งร่างมันเข้าไปจนไฟนั้นแผดเผาเท้ามัน
คารอฟ: "อ้ากกกกกก อย่าฆ่าผมเลย ร้อน ร้อน โว๊ย ยอมแพ้แล้ว"
มันร้องบอกเขาทั้งน้ำตา แต่ร่างมันก็ถูกดันเข้าไปในกองเพลิงช้าๆ แม้จะเจ็บทุรนทุรายเพียงใดแต่มันก็ทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่าโหยหวน
สิงห์: "เธออยู่ไหน"
คารอฟ: "ขากู ขากูไหม้แล้ว เธอๆ อยู่ข้างบนครับท่าน ผมบอกแล้วปล่อยผมเถอะ"
เขายิ้มให้มันอย่างกระหายเลือด ก่อนผลักมันเข้าเตาเผาช้าๆ
สิงห์: "เกิดมาชาติหน้าขอให้ โชคดีกว่านี้นะ"
และเขาส่งร่างมันพุ่งเข้าไปในเตาพร้อมกับฝาที่ปิดสนิทเอง
สิงห์ยืนฟังเสียงร้องอย่างทรมานจนเสียงนั้นกระเสือกกระสน ทุรนทุรายและค่อยๆเงียบสนิท แต่พอทันทีที่เขาเดินขึ้นมาถึงชั้นบนมือถือเขาก็มีสายเข้ามา
สิงห์: "มีอะไรเร่งด่วนรึเปล่า ผมต้องรีบขึ้นไปพาตัวฟางแล้ว เวลามันผ่านมานานเกินไปแล้ว"
???: "แล้วบอกสงสารเฉยๆ แต่ดูจากเสียงแล้วน่าจะไม่ใช่แล้วมั้งคะ น่าจะเป็น...."
สิงห์: "ถ้าไม่มีอะไรจะวางสายแล้ว ผมรีบ!"
เสียงตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อคู่สนทนาเริ่มกวนประสาทเขา เขาห่วงหมอผู้เคราะห์ร้ายจะแย่อยู่แล้ว เธอยังจะมีเวลาโทรมาล้อเล่นอีก
???: "โธ่..... คุณท่านผู้แสนใจดี ไม่เอาไม่หัวร้อน รู้มั้ยคนที่ชอบโวยวายตวาดตะคอก แบบนั้นฟางไม่ชอบนะ"
สิงห์: "ยังจะเล่นอีก! ถ้าว่างนักก็รีบไป....."
???: "โอยยยย ใจเย็นค่าาาา ฟางปลอดภัยเตรียมหนีอยู่บนรถแล้ว นายท่านนั้นแหละออกมาได้แล้ว"
สิงห์: "แล้วทำไมไม่รีบบอกเธอเป็นไง บาดเจ็บรึเปล่า บุบสลายอะไรตรงไหนมั้ย มีแผลชกช้ำ อาการเป็นไง ขอคุยตอนนี้....."
???: "ใจเย็นจ้าาาาาา ใจร้อนจริง ตอนนี้เธอหลับอยู่ ฝีมือพวกมัน ไอ้คนที่เฝ้ามันเห็นท่าไม่ดีเลยจัดการให้ยาสลบเธอ มันคงอยากเอาเธอหนีไปด้วย แต่ไอ้บ้านั่นก็ไม่อยู่ให้นายท่านรำคาญใจแล้ว"
สิงห์: "ขอบใจ แต่วันหลังพามันมาหาผม ตายเลยมันง่ายไป"
???: "ดุจังเลย หวงเหรอ?"
สิงห์: "นี้จะให้ผมโกรธจริงๆใช่มั้ย"
???: "หวายยยย กลัวละจ้า เออมีอีกเรื่องนะค่ะ"
สิงห์: "ว่ามา เร็วๆด้วย"
???: "เชื่อแล้วจ๊ะว่าไม่ได้คิดอะไรกับฟางเลย ไปละ"
พออีกฝ่ายทิ้งระเบิดเสร็จก็รีบตัดสายไปก่อนสิงห์จะทันได้แก้ตัว สิงห์อ้าปากค้างอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะถอนหายใจและเก็บมือถือลงกระเป๋าก่อนจะหันไปมองตึกใหญ่อย่างครุ่นคิด
ไม่นานนักเขาก็ยิ้มออกมา...... และคงไม่มีใครอยากเห็นรอยยิ้มของเขาตอนนี้แน่
--------------------------------------------------------------
ไม่ชอบสถานการณ์ตอนนี้เลย แม้เธอจะได้รับคำสั่งให้พาหมอฟางออกมาก่อนและเขายังกำชับนักว่าให้เธอดูแลเรื่องเสื้อผ้าเครื่องใช้ด้วย เธอรู้จักฟางนานแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือนายท่านของเธอทำไมไม่ยอมกลับมาด้วย เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ หญิงสาวคนขับรถมองเบาะหลังที่มีหมอสาวนอนนิ่งอยู่ เธอมองฟางสลับกับอาคารที่กำลังลุกไหม้อยู่ไกลๆอย่างชั่งใจ
หรือเธอจะฝืนคำสั่งเขาดี แต่ถ้าแบบนั้นฟางก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงอีก แต่ยังไงเธอก็ห่วงเขาอยู่ดี ถึงแม้ชายคนนั้นจะเกินคำว่ามนุษย์ไปแล้วก็ตาม
แต่ทันใดนั้นเธอก็หันไปขับรถออกไป แต่ทว่าเธอไม่ใช่คนสั่งร่างกายตัวเอง
"นี่มัน นายท่าน! นี่ควบคุมเราได้ไกลขนาดนี้เลยเหรอ?"
ก่อนเธอจะหันไปมองคาคารที่อยู่ดีๆก็ระเบิดออกมา พร้อมกับเปลวไฟที่ลุกเผารังของพวกมันจนสว่างไปไกล เธอขับไปไม่นานก็พบเฮลิคอปเตอร์ของนักข่าวบินมาทางอาคารที่ถูกไฟไหม้ ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงไซเรนตำรวจและรถดับเพลิง เธอไม่มีทางเลือกนอกจากรีบออกจากบริเวณก่อนที่จะมีใครเจอพวกเธอเข้า
รถคันเล็กรีบเร่งเครื่องเพิ่มความเร็วและหายไปกับความมืดทิ้งความวุ่นวายไว้ด้านหลัง
(ก่อนไฟไหม้ตึก 5 นาที)
เงาร่างบาปแห่งความโกรธได้มาที่เตาเผาศพด้านล่างของตึก ก่อนมันจะวาดวงเวทย์อาคมกลางอากาศ วงเวทย์ขนาดเท่า จานดาวเทียมขนาดเล็กเรืองแสงขึ้น แสงสีแดงสว่างขึ้นพร้อมๆกับไอสีดำที่ก่อตัวเป็นรูปร่างคล้ายคนหลายสิบคนจะค่อยๆทะลักออกจากทั่วทุกทิศในห้องโดยเฉพาะบนเตียงแยกชิ้นส่วนและเตาเผา พวกมันกรีดร้องอย่างโหยหวนและคร่ำครวญ บางตนกรีดร้องอย่างทรมาน แต่มีไม่กี่ตัวที่คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว แต่สิ่งเสียงมันบาดลึกร้าวกับจะกระชากขวัญทุกคนให้หวาดผวา แต่ซาตานกลับไม่แสดงสีหน้าอะไรราวกับมันมาเลือกของในเซเว่นเท่านั้น มันยังคงบริกรรมคาถาต่อเบาๆก่อนวิญญานร้ายตนหนึ่งจะหันไปฉีกกระชากวิญญาตนข้างๆ จากหนึ่งเป็นสอง และค่อยๆเพิ่มขึ้นจนวิญญานนับร้อยต่างต่อสู้และกลืนกินกันเองและทุกครั้งที่ได้กินไอหมองสีดำก็เริ่มหนาเด่นชัดอย่างช้าๆ จนเริ่มคล้ายจะมีเนื้อหนังขึ้นราวกับได้ตัวตนและเลือดเนื้อคืนมา จนเหลือวิญญานที่แปรสภาพเป็นอสูรอีกสามตน พวกมันห่ำหั่นกันอย่างป่าเถื่อนจนผู้ชนะฉีกกินผู้แพ้จนไม่เหลือ ร่างอสูรผู้ชนะก็บิดเบี้ยวอย่างทรมานรูปร่างมันค่อยๆเปลี่ยนจนเป็นอสูรร่างใหญ่ และซาตานกับอสูรตนนั้นก็หายไปพร้อมๆกับตึกที่ถูกไฟกลืนกินและเริ่มถล่มลง
----------------------------------------------------------------
"โอยยยย เมื่อคืนฝันร้ายชัดๆ กี่โมงแล้วเนี่ย?"
ร่างอรชรในชุดนอนที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆและกางเกงขาสั้นค่อยๆควานมือหานาฬิกาปลุก แต่ทำไมวันนี้เธอหาไม่เจอนะ เธอลืมตาอย่างงัวเงีย แต่พอได้เห็นสภาพห้องและสภาพตัวเองเธอก็ได้แต่
"กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!"
สุขุม: "ตื่นแล้วสินะครับ ให้ผมไปพาเธอมามั้ยครับ"
สุขุมถามนายท่านที่กำลังนั่งกินมื้อเช้ารับลมทะเลสบายในยามเช้าอยู่
สิงห์: "ให้เกดเข้าไปคุยก่อนนะ คุณไปบอกครัวให้ยกมาอีกชุดเลยก็ได้ รายนั้นท่าจะหิวแล้ว เอามาเยอะหน่อยนะ ตัวเล็กแต่กินเยอะจะตายไป"
แต่เลขาของชายผู้ครองพลังแห่งบาปกลับหัวเราะเบาๆ ทำให้คนเป็นนายหันหัวไปมองด้วยสายตาดุๆ เลขาของเขาจึงรีบหุบยิ้มพร้อมๆกับรีบเดินหนีไปจัดการตามคำสั่งเขา
แต่สุขุมก็ไม่วายไปยิ้มกับวิกรมที่ยืนอยู่ดี และวิกรมก็หันไปยิ้มกับลูกน้องจนในที่สุดทั้งตึกก็ต่างฉีกยิ้มกันทุกคน
เว้นสองคนที่เป็นสาเหตุ
"นี่พี่เกด ลาออกจากพยาบาลมาอยู่กับไอ้พวกนี้เหรอค่ะ ทำไมไม่กลับไปทำงานโรงบาลกับหนูละ อยู่กับคนพวกนี้ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้"
หลังจากหมอสาวได้เจอคนที่เธอตามหา นั่นคือพยาบาลเกดที่มาอยู่กับสิงห์ได้พักใหญ่ๆ พอหลังจากไถ่ถามสาระทุกข์สุกดิบจบก็กลับมาเป็นรายการตอบคำถามของหมอสาวอีกครั้ง
เกด: "ไปว่าเขา เมื่อคืนนี้เขาก็เป็นคนพาเราออกมานะ ออกไปหาคุณสิงห์ได้แล้ว"
ฟาง: "ไม่เอา ชุดไม่พร้อมฟางไม่ไปในสภาพแบบนี้หรอก"
เกด: "เรื่องนั้นพี่จัดการไว้แล้ว"
สิงห์ละสายตาออกจากหนังสือพิมพ์ เมื่อได้ยินเสียงฮือฮาจากเหล่าลูกน้องที่ยืนกระจายอยู่รอบๆ
และเมื่อเขามองหาสาเหตุของเสียง เขาเองก็เบิกตาค้างเช่นกัน
ร่างบางที่เมื่อวานเขาลงทุนตามไปช่วย วันนี้มาในเสื้อสายเดี่ยวคอวี และกระโปรงสั้นไม่กี่คืบอวดเรียวขา
เขารู้สึกตัวอีกทีเมื่อวิกรมเข้ามาสะกิด สติที่เตลิดไปไกลถึงจะกลับเข้าร่าง
เขารีบกระแอมไอแก้เก้อ และปั้นหน้านิ่งเหมือนปกติ
เกด: "นายท่าน เก็บอาการหน่อย ไก่ตื่นแล้วนะคะ"
อดีตพยาบาลสาว ยิ้มแป้นอย่างดีใจ เธอต้องล่อลวง! หมายถึงเธอต้องกล่อมฟางตั้งนานกว่าแม่นางจะยอมแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่นายท่านตาค้างแบบนี้ก็ถือว่างานเธอสำเร็จลุล่วง
สิงห์: "นั่งลงก่อนสิ จะกินอะไรมั้ยผมจะได้สั่งเด็กให้เลย"
เธอสั่งอาหารไปสองสามอย่าง ก่อนจะเหลือบตามองสิงห์ที่นั่งจ้องเธอตาเป็นมัน นี้สินะที่เรียกว่าสายตาปานจะกลืนกิน
ฟาง: "นี่ จะจ้องอีกนานมั้ยค่ะ?"
หมอสาวเรียกสติ เขากลับมา ชายผู้ลืมตัวรีบเบนสายตาออกและขอโทษเธอ
สิงห์: "เออ โทษที มันเหมือนได้เจอ8นรู้จัก อ้าว! อาหารมาแล้ว กินก่อนเถอะ"
บทสนนทนาของทั้งสองจึงมาเริ่มกันหลัง มื้อเช้าของเธอเรียบร้อยแล้ว
สิงห์ปล่อยให้เธอกินข้าวลำพัง เพราะถ้าเขานั่งอยู่เขาคงละสายตาจากหมอสาวไม่ได้ เขามองบรรยายกาศที่เขาเคยมาชมเมื่อนานแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเพียงไม่กี่ปีชีวิตคนๆนึงจะพลิกผันได้ขนาดนี้
เขาเคยมาที่นี้เมื่อนานมาแล้ว เขาเคยมาฮันนมูนที่หาดแห่งนี่ ภาพบรรยากาศเก่าๆที่เคยหวานชื่นตอนนี้กลับทิ่มแทงใจอดีตตำรวจผู้แสนดี ยิ่งภาพเขาและนุ่นในวันนั้นเด่นชัดเท่าไหร่ ภาพวันที่เธอฆ่าตัวตายหนีความอัปยศในคืนนั้นก็ยิ่งชัดเจนราวกับเหตุการณ์มันอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง
เขาต้องทำให้มันต้องชดใช้ มันจะต้องเจ็บปวดมากกว่าที่ทำกับเมียเขาร้อยเท่าพันเท่า!
"คุณสิงห์!!"
มือเนียนนุ่มของหมอสาวจับมือของสิงห์ที่เผลอบีบราวไม้แหลกคามือ มือของเขามีแผลนิดหน่อยจากเศษไม้
เขากำลังจะชักมืออออก แต่หมอสาวรั้งมือเขาไว้แน่น
ฟาง: "จะขยับไปไหน เลือดออกแบบนี้ต้องทำแผลก่อน พี่เกดขอกล่องปฐมพยาบาลด้วยค่ะ"
แผลระดับนี้สำหรับสิงห์แค่ห้านาที ก็หายแล้ว
แต่พอเขาจะเอ่ยปากปฎิเสธ เมื่อเขาเห็นสายตาจริงจังจากคนที่กำลังทำแผล เขาก็ยอมให้เธอจัดการทำแผลแต่โดยดี
สิงห์: "เหมือนกันจริงๆ เหมือนกันมาก"
ฟาง: "ตะกี๊ ว่าไงนะ?"
หมอสาวที่พึ่งดึงไม้ชิ้นสุดท้ายออก ชายหนุ่มที่มองอยู่ส่ายหน้าเบาๆ นี่เขาแพ้ผู้สไตล์นี่จริงๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีไม้ติดอยู่หญิงสาวจึงคว้าสำลีมาเช็ดเลือดออก
ฟาง: "ทีนี้ก็ใส่ยา อ้าวทำไมเลือดหยุดแล้วละ นี้มันอะไร!!!"
หมอสาวเห็นชัดเลยว่าบาดแผลของชายตรงหน้ามันกำลังสมานเองช้าๆ
สิงห์: "ตกใจละสิ มันเป็นพลังที่แลกมาด้วยอะไรหลายๆอย่าง กลัวมั้ย?"
ฟาง: "โครตเจ๋งงงง! ดีอะ ถ้าสมัยก่อนชั้นมีพลังอะไรแบบนี่นะ คงไม่ได้เป็นหมอแล้ว"
แทนที่จะตกใจที่เขาผิดแปลกจากชาวบ้าน หมอสาวกลับดึงมือเขาไปดูชัดๆอย่างสนอกสนใจ
ฟาง: "เมื่อก่อนนะ ชั้นเป็นเด็กซุ่มซ่ามมาก มีแผลตลอด ทำแผลแทบทุกวัน ไปมาๆ ก็กลายเป็นคนทำแผลให้คนอื่นเองซะงั้น ชีวิตคนเรามันคาดเดาอะไรยากจริงๆเนอะ"
สิงห์ชักมือกลับก่อนจะหันไปยืนพิงราวไม้
สิงห์: "มันก็คงเป็นแบบนั้นแหละ คุณหมอตามผมมาสิ ผมมีอะไรจะเล่าให้ฟัง"
ตลอดช่วงสาย เขากับเธอก็เดินชมที่นี่ด้วยกันโดยมีสิงห์เล่าเรื่องราวเมื่อตอนเขามาที่นี่พร้อมเมียเก่าที่จากเขาไป เขาเองก็ประหลาดใจที่เขารู้สึกอยากเล่ามันให้เธอฟัง และเธอเองก็อยากฟังมันพอๆกับที่คนเล่าอยากเล่า
สิงห์: "ฟาง หลังกินข้าวผมจะพาคุณไปโทรศัพท์บอกที่บ้าน แล้วเย็นๆผมจะพาคุณไปส่งเอง หัวค่ำนี้ผมว่าจะจัดงานเลี้ยงให้คุณก่อน"
ฟาง: "งาน? ให้ฉันเหรอ เนื่องในโอกาสอะไรย่ะ"
สิงห์: "โอกาสที่เจอเพื่อนใหม่แบบคุณไง อย่าคิดไปไกลละ"
และทั้งสองก็ส่งยิ้มให้กัน
แต่เธอไม่รู้หรอกว่าเธอจะไม่ได้กลับไปบ้านเธออีกเลย
งานเลี้ยงตอนเย็นมีแต่บรรยากาศสนุกสนาน ทั้งมือปืน ทั้งคนครัวหรือของคนของรีสอร์ท คืนนี้ทุกคนต่างร่วมวงสนุกกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ตั้งกินทั้งเต้น สุราของมึนเมาก็ไม่มีขาด ทุกคนในงานต่างรู้สึกขอบคุณเจ้านายของเขาที่เลี้ยงพวกมันราวกับคนสำคัญ งานเลี้ยงดำเนินไปเรื่อยๆ ฟางก็สนุกกับการชวนสิงห์หรือลูกน้องคุยนั้นนู้นนี่ ทุกคนต่างมีรอยยิ้ม ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี
จนกระทั่ง
วิกรมลากสมานที่กุมท้องที่แดงฉานไปด้วยเลือดตัวเองเข้ามา
วิกรม: "นายแย่แล้วครับ สมานโดนเข้าให้แล้ว"
สมาน: "นายท่าน อย่าพึ่งห่วงผม มันกำลังจะหนีไป นายต้องตามันให้...ทัน"
ก่อนสมานจะฟุบลงไป พอดีที่หมอฟางในชุดเดรสสีแดงเข้มฝ่าฝูงชนมาถึงพอดี
ฟาง: "นี่มันเกิดอะไรขึ้น...... สมาน!! รีบวางเขาบนโต๊ะด่วนเลย พี่เกดที่นี้มีอุปกรณ์ทำแผลอะไรขนมาให้หมดเลยค่ะ ใครก็ได้เตรียมรถที เราต้องไปโรงบาล"
ฟางรีบฉีกเสื้อสมานและทำหน้าที่ของเธออย่างชำนาญ เธอกัดฟันแน่นเมื่อเห็นบาดแผลที่เลือดทะลักออกมาไม่หยุด ดูจากรูปร่างแผลสมานโดนแทงเข้าเต็มๆ เธอคาดหวังในใจว่าไม่โดนอวัยวะภายในเพราะตอนนี้เธอทำได้แค่ห้ามเลือดเท่านั้น ไม่นานนักเกดที่หอบประเป๋าพยาบาลเข้ามา ทั้งสองช่วยกันสุดความสามารถ
วิกรม: "นายหญิงครับ รถพร้อมแล้ว"
ฟางพยักหน้ากับเกดที่รีบวิ่งนำไปที่รถพร้อมลูกน้องชายอีกสองคนรีบวิ่งมาแบกร่างสมานไปขึ้นรถ
วิกรม: "มึงจะยืนจ้องทำห่าอะไรกัน งานเลี้ยงเลิกแล้ว ไปกลับไปทำงาน เพิ่มเวรยามทุกจุดติดอาวุธให้พร้อม มันอาจรู้แล้วว่าเราอยู่ไหน นายหญิงครับช่วยไอ้สมานด้วยนะครับ"
วิกรมรีบจูงมือฟางไปขึ้นท้ายรถเพื่อดูอาการสมาน ก่อนจะโดดเข้าไปที่นั่งคนขับรถกระบะรีบเร่งเครื่องพาคนเจ็บไปถึงโรงบาลเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ฟาง: "แล้วคุณสิงห์ละ! มีใครเห็นเขามั้ย"
ฟางพึ่งนึกถึงสิงห์ เขาหายไปตอนไหน ตั้งแต่เมื่ไหร่ วิกรมเขกหัวตัวเองและสบถอย่างหัวเสีย พร้อมกับรีบโทรไปหาสุขุมเพื่อให้หาตัวเจ้านายตัวเอง
แต่ทว่า ชายที่เขากำลังหาตัวกลับยืนของตรงสามแยกด้านหน้า พร้อมกับเด็กหนุ่มวัยรุ่นผอมแห้งที่โดนยกลอย ข้างๆมีรถมอไซค์ล้มอยู่
เด็กหนุ่ม: "อยากครับท่าน ผมแค่อยากได้เงิน แม่ผมจะได้หมดหนี้ ผมแค่ถ่ายรูปท่านกับแฟนแค่นั้นจริงๆ"
สิงห์ที่กุมคอมันอยู่ยิ้มเหี้ยมอย่างเลือดเย็น ทำเอาทุกคนขนลุกด้วยความกลัว รวมถึงหมอฟางที่สั่งให้จอดรถและรีบวิ่งไปหาสิงห์ เธอรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็กคนนั้น เธอต้องห้ามเขา
เด็กหนุ่ม: "อย่านะครับ ผมมีแม่ต้องดูแล ผมแค่มาถ่ายรูป ส่วนน้าแกมาเจอผมก็เลยต้องแทงและหนีออกมา ผมขอโทษ อย่าทำผม"
สิงห์: "ใครจ้างมึงมา?"
เด็กหนุ่ม: "ผมไม่รู้เขาบอกให้ไปตามหาพี่แถวชายทะเล บอกว่าถ้าเจอก็ให้ถ่ายรูปมาให้เขา เขาบอกจะไปรอที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้าน ผมรู้แค่นั้นผมบอกมันแล้ววว ปล่อยผมเถอะ ผมมีแม่ต้องดูแลนะ"
มันละล่ำละลักรีบบอกทุกอย่างที่รู้ แต่นั้นก็ไม่ทำให้สิงห์เปลี่ยนใจ
ใครทำเขาหรือพวกเขาเจ็บ มันต้องตาย!!!!
สิงห์: "เกิดมาชาติหน้าก็เลือกรับงานดีๆนะ ลาก่อน"
ฟาง: "อย่าาาาาา!"
กร็อบบบบ! ง่ายดายดุจกำลังดัดนิ้วตัวเอง เด็กคนนั้นลิ้นจุกปากและตายในพริบตาเขาบดกระดูกคอมันและโยนทิ้งราวขยะชิ้นหนึ่ง หมอฟางรีบมาดูร่างไร้ชีวิตก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ ทำไมคนแบบเขาจึงใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้นะ ทั้งที่ปกติเขาเป็นคนที่ใจดีและน่ารักสำหรับเธอแท้ๆ
สิงห์มองหน้าฟางอย่างเย็นชาก่อนจะเดินไปขึ้นท้ายรถราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วิกรม: "นายหญิงเร็วครับ ขึ้นมาครับเราต้องรีบพาไอ้สมานไปโรงบาลนะครับ"
ฟางจึงได้สติกลับไปขึ้นรถและ จ้องหน้าชายที่เคยอารมณ์ดีและเป็นมิตรราวกับโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
กลางดึกคืนนั้น
สิงห์แอบออกมาที่ริมจุดชมวิวที่เดิม เขาคาบบุหรี่อัดควันใส่ปอดติดๆกันก่อนจะพ่นควันออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ ก่อนเขาจะมองฟ้ายามค่ำคืนพร้อมกับครุ่นคิดอะไรหลายๆอย่างในหัว แต่เมื่อเขาเห็นเงาร่างที่เดินมาหา เขาก็โยนบุหรี่ทิ้งและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
สิงห์: "กะไว้แล้วว่าต้องเจอ แล้วก็มาจริงๆ"
ฟาง: "ไอ้คนใจร้าย ทำไมต้องฆ่าเด็กคนนั้นด้วย มันจำเป็นต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ"
สิงห์: "นี่ไม่ใช่ธุระของคุณนะฟาง และผมไม่จำเป็นต้องตอบคำถามคุณ ขอตัว"
ชายร่างใหญ่รีบเดินปลีกเข้าไปในตึก แต่มีเหรอเธอจะยอมถอยไปง่ายๆ
ฟาง: "แต่ชั้นต้องคุยกับคุณ จะหนีไปไหน หยุดนะคุณสิงห์"
สิงห์รีบจ้ำเท้าเดินหลบเข้าห้องนอน แต่หญิงสาวก็ดันประตูไม่ให้ปิดสนิท
สิงห์: "ผมไม่มีอะไรจะคุย ไม่คุยโว๊ยยยย!"
ฟาง: "แต่ฉันมี และต้องคุยตอนนี้ด้วย อึบบบบบ!"
เธอดันประตูสู้แรงเขาสุดฤทธิ์ และเธอก็ก้มหน้าไปกัดมือที่จับประตูอย่างไม่ทันตั้งตัว
สิงห์รีบผงะถอยด้วยความเจ็บ เธอกัดเต็มเขี้ยวก่อนจะปล่อยและอาศัยจังหวะเข้ามายืนจังกาในห้องเขา
สิงห์แทบพุ่งออกหน้าต่างหนีเธอ แต่รู้ดีว่าต่อให้ทำ แม่นางคนนี้ก็จะตามไปจนกว่าจะได้คุยอยู่ดี
ฟาง: "เด็กคนนั้นไม่สมควรตาย เขาไม่ใช่คนของฝั่งนั้น เขาแค่รับจ้างนะ ทำไมคุณต้องฆ่าเขาด้วย เด็กคนนั้นเลวทรามขนาดนั้นเลยเหรอ"
เธอยิงคำถามแรกใส่เขา เด็กคนนั้นก็แค่โชคร้ายรับงานผิดคน แค่นี้ทำไมต้องตาย
สิงห์: "มันกล้าทำร้ายคนของผม แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว"
ฟาง: "เขาแค่กลัว ไม่ใช่เขาไม่ผิดแต่มันต้องฆ่ากันเลยเหรอ แล้วที่บ้านเขาละใครจะดูแล"
สิงห์: "ใครจะเชื่อมัน มันก็แค่ตอแหลเอาตัวรอด"
ฟางพยักหน้าอย่างประชดประชันก่อนจะหยิบมือถือออกมา แล้วกดคลิปที่ถ่ายหน้าห้องดับจิตของโรงบาลให้เขาดู ภาพหญิงชราในชุดผ้าที่ทั้งขาดและเก่าร้องไห้ราวขาดใจเมื่อเห็นศพเด็กที่เขาฆ่าถูกเข็นออกมาจากในห้อง หญิงชรากอดศพร่ำไห้จนหมอและพยาบาลแถวนั้นได้ยืนมองเขาสังเวชใจ
ฟาง: "นี่คือสิ่งที่คุณทำ ถามจริงๆคุณคิดจริงๆเหรอว่าทุกคนที่คุณฆ่าสมควรตายจริงๆ"
ฟางผลักอกเขาและถามด้วยเสียงที่ดังจนเกือบตวาด
สิงห์: "แต่มันทำร้ายคนของผม จะให้ผมตบไหล่ปลอบใจมันเหรอ?"
ฟาง: "แล้วเด็กคนนั้นตายคุณได้อะไรละ? สะใจที่ได้ เด็ดชีพเด็กที่พยายามดิ้นรนคนนึง ได้ชำระล้างสังคมที่มีแต่คนเลว? คุณไม่ได้สร้างความแตกต่างเลยสิงห์ ตอนนี้คุณคือพวกมัน แค่ยังไม่รู้ตัว"
สิงห์: "ผมไม่ใช่พวกมัน ไม่ใช่และไม่มีทางใกล้เคียงด้วย"
เขาจับตัวเธอมาเขย่าและตะโกนใส่อย่างรุนแรง
ฟาง: "อ้อ... แล้วคุณแตกต่างกับมันยังไงละ ฆ่าคนไม่เลือก ฆ่าทุกคนที่ขัดขวาง เชื่อสิไม่กี่ปีคุณก็จะไม่แตกต่างอะไรกับพวกมัน"
สิงห์บีบแน่นเธอแน่น และจ้องจ้องตาเธออย่างโมโห แต่หญิงสาวก็ไม่ได้หยุดพูด
ฟาง: "โกรธเหรอ แทงใจดำละสิ ทำแบบนี้มันดีแล้วเหรอ คุณอยากทำมันจริงๆเหรอ คุณเป็นคนโหดเหี้ยมแบบนี้จริงๆเหรอ หรือว่ามีคนบอกให้คุณทำแบบนี้ แล้วนี่เป็นวิธีเดียวเหรอที่ทวงความยุติธรรมคืนได้?"
สิงห์ชะงักไปกับคำพูดของเธอ เป็นครั้งแรกที่เขาหวนคิดว่า เขาจำเป็นต้องทำอะไรขนาดนี้เหรอ เขาต้องยิ่งใหญ่เพื่อต่อสู้กับมันจริงๆรึเปล่า
สิงห์: "ผมทำไม่ได้ เชื่อผมสิ ไม่มีใครช่วยผมได้ มันไม่มีทางอื่นแล้ว"
ฟางทุบไปที่หัวใจเขาเบาๆ
ฟาง: "คุณทำได้ คุณรู้อยู่แล้วว่าถ้าจะทำคุณควรจะบอกใคร แต่คุณเลือกจะไม่ทำต่างหาก"
หมอสาวบอกเขาช้าๆอย่างหนักแน่น
ฟาง: "คุณคิดว่าตัวเองเก่งกาจเป็นฮีโร่เหรอ? คุณจัดการเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้ คุณแบกมันไม่ไหวหรอก คุณต้องเปิดโปงพวกมัน ไม่ใช่ไล่ฆ่าแบบนี้ถ้าคุณยังดื้อคุณจะถูกความโกรธแค้นกลืนกิน แล้วคุณจะเป็นปีศาจที่เลวยิ่งกว่าพวกมัน"
สิงห์: "ข้างนอกนั่นไม่มีใครพึ่งได้อีกแล้ว"
ฟาง: "มันมี! แค่คุณไม่ยอมรับเรื่องนี้ คุณเอาแต่แก้แค้นทำแบบนี้จะแก้ปัญหาได้จริงเหรอ หรือว่าแค่ฆ่าเอาสะใจฆ่าระบายอารมณ์ฆ่าเพื่อล้างแค้น คิดว่าหากคุณนุ่นยังอยู่เธอจะมองคุณยังไง!!"
สิงห์: "อย่าพูดถึงเมียผม คุณไม่รู้จักเธอ"
เขาตวาดอย่างโมโหอีกครั้งเมื่อฟางกล่าวถึงเมียรักที่ลาโลกไปแล้ว
ฟาง: "แต่ชั้นแน่ใจว่าเธอต้องทำแบบฉัน เธอต้องห้ามคุณแบบที่ชั้นกำลังทำ"
เธอเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ แววตาเธอมองลงไปในตาเขาลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ
แววตาสิงห์อ่อนลงนึดๆแล้วคิดตามเธอ นุ่นจะยินดีที่เขาต้องทำแบบนี้ กลายเป็นแบบนี้จริงเหรอ หรือเธอจะพูดถูก
แต่เสียงของซาตานก็แว่วมาตามลม มันจะไม่ยอมให้สิงห์ถอยแน่
ซาตาน: "ตาต่อตาฟันต่อฟัน หนี้เลือดล้างด้วยเลือด อย่าเชื่อนาง"
 
"อาาาาาา ซื้ดดดดดดดด อ๊ายยยๆ"
และเรื่องคืนนั้นก็จบด้วยคราบน้ำกามของเขาและน้ำตาของเธอ
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
::Thankyou::ยังไงก้อจะรออ่านจนกว่าเรื่องนี้จะจบแน่นอน ขอบคุนที่อัพมาให้อ่านคับ
โหดมาตลอด ตอนจบด้วยน้ำกทมซะวั้น ดีที่หมอไม่โดนจรวดรัสเซัยเข้านะครับ ไม่งั้นเยินแน่ ทุกทีจะบีบหัวใจจนถึงตอนจรวดจ่อปากรูแล้วนะครับ คราวนี้ปรานีคุณหมอพอสมควร ไฟดับก่อน 555 ขอบคุณครับ
ยินดีต้อนรับกลับมาครับ รู้สว่าไม่ได้หายไปไหนเเต่ก็เหมือนหายนะครับ ตอนใหม่มาเเล้ว ขออ่านเลยนะครับ 555
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นเลยอะว่าจะสู้ไงต่อ มันส์ดีครับ ::Fighto::
คิดถึงมาเลยครับไรท์ นี่มันนิยายละเลงเลือดชัดๆเบย ปลุกความดิบเถื่อนในตัวคุณมากเลยครับไรท์
ขอบคุณมากครับ
คารวะครับ บู๊ระเบิด ถล่มภูเขา เผากระท่อมมาก ผมนี่เห็นหน้าอาหลองลอยมากับควันปิ้งไก่เลย
เนื้อเรื่องหนักมากก. สนุกมากครับนายสิงห์โหดสุดๆ
ขอบคุณมากครับ ราวกับดูหนังของ ไมเคิล เบย์ ระเบิดภูเขาเผากระท่อมกันเสียสนุกสนาน ขอบคุณมากครับ
ฉากต่อสู้มันมากเลย รอมานานเลย แหะๆๆ สงสัยต้องกลับไปตามอ่านตอนเก่าๆ ก่อนเพื่อรื้อฟื้นความจำด้วย ขอบคุณมากเลยครับ
เขียนได้สนุกมากครับ น่าเอาไปทำหนังแอ๊คชั่น ขอบคุณที่เขียนผลงานดีๆมาให้อ่านกันครับ
ขอบคุณครับ ตอนนี้เนื้อหาเข้มข้นมากเลยทีเดียว. ติดตามกันต่อไปยาว ๆ ครับ
แนวพระเอกพลาดให้ตัวร้าย ขัดใจ ชอบใจตอนได้แก้แค้นซะสะใจ แบบดิบเถื่อน ขอบคุณมากครับ
สุดยอดเลยครับไม่ได้อ่านแนวนี้มานาน พระเอกโหดได้ใจฉากเสียวก็ได้ลุ้นแบบค้างๆดี ขอบคุณในผลงาน ::Thankyou:: ::Thankyou:: ::Thankyou::
ชอบจริงๆโทสะจบด้วยราคะแบบนี้ จริงๆผมอยู่ฝ่ายซาตานนะ ฆ่าให้หมด แต่ความผิดเล็กๆก็ปล่อยไปบ้าง
จำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว ขอกลับไปอ่านอนแรกๆก่อนนะครับ ขอบคุณมากๆครับที่เขียนมาให้อ่าน
คิดถึงมากมาย ถึงว่าจะไม่ได้อ่านแล้ว ขอบคุณที่กลับมาแบ่งปันนะครับ ::JubuJubu:: ::JubuJubu::
เป็นบาปที่ทั้งโหด ทั้งดราม่ากว่าหลายๆบาปเลย ติดตามอยู่นะครับเป็นกำลังใจให้
สิงห์โหดได้ใจจริงๆ ส่วนหมอก็ยังโลกสวยสม่ำเสมอ จะลงเอยยังไงเนี่ย สนุกมากครับ
มันจรืง มันจัง นึกถึงผู้กำกับหนังเรื่อง "ทอง" ชื่ออะไรนึกไม่ออก ได้รสชาติ ถึงเลือด ถึงเนื้อ จริงๆ
รีบออกตอนต่อไปนะครับ กะลังอิน
เพิ่งอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ชักจะติดใจแล้วละครับ พลังลึกลับ บู๊เลือดสาด และฉากรักดุเดือด ขอให้ตอนต่อไปมาเร็วๆนะครับ
เนื้อเรื่องเข้มข้นแบบไทยๆดีครับ จะติดตามผลงานเรื่อยๆนะครับ คิดว่าคงจะไม่เวอร์เหมือนในการ์ตูนใช่ไหมครับ
ตื่นเต้นดีจัง คำพูดของฟางก็ถูกต้อง แต่คนที่รับพลังงานจากซาตานจะทำอย่างไรได้มั่งล่ะ คงต้องติดตามกันต่อไป เป็นกำลังใจ ให้นะครับ
เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกครับ ลุ้นมากๆ ครบรสเลย เดี๋ยวตามอ่านย้อนหลังครับ
กลับมาแล้ว คิดถึงนายสิงห์ กับน้องฟางมากๆ ในตอนนี้ทั้งคู่จะลงเอยกันไหม ลุ้นจัง
ขอบคุณมากครับ เรื่องแนวนี้ชอบมาก เป็นกำลังใจให้เขียนผลงานดีๆออกมาเรื่อยๆครับ ::Glad::
ต้องขอชมนะครับว่าเขียนได้แบบนักเขียนอาชีพจริงๆ สะท้อนถึงความตั้งใจของผู้แต่งครับ ผู้อ่านอย่างผมก็ขอขอบคุณจากใจจริงเลยครับ
พอดีเปิดจากวาปเลยเจอเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ท่าทางจะต้องตามอ่านซีรี่ย์นี้จริงๆจังๆสะแล้ว ขอบคุณสำหรับผู้แต่งนะครับ อ่านเพลินลืมเวลากันเลยทีเดียว ::DookDig::
บทจะโหดก็โหดมากๆเลย บทจะดีก็ดีหมอฟางโดนไรต่อนะ ขออ่านหน่อยครับบบ ::Bloody::
โหดสมชื่อเรื่องครับ น่าติดตามว่าท่านซาตานลากใครออกจากเตาเผามาฟาดฟันกะพี่สิงห์หรือเปล่า?
เอาคืนแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม โหดแบบสุดๆ ในสังคมจริงบางเคสมันก็ต้องได้อย่างที่สิงห์ทำนี่แหละถึงจะสามสมกับสิ่งที่คนชั่วทำ...
มาติดตามความโหดต่อครับ ลุ้นว่าคุณหมอโลกสวยจะเจออะไรที่เปลี่ยนแนวคิดได้บ้าง
สุดท้ายคงต้องจับหมอฟางไปเก็บอย่างแน่นหนาและมิดชิดเพื่อกันประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยนุ่น
เขียนยาวๆ แล้วน่าอ่าน เก่งมากจริงๆ นายสิงห์ก็โหดได้ใจ หมอก็แน่มาก มวยถูกคู่อีกแล้ว
เมื่อหลายปีก่อน ผมชอบนิยายบู๊ที่มีเรื่องสยิวๆอยู่ด้วย หาอยู่นานก็มาเจอที่เวปนี้เข้า ถูกใจจังเลย
ซาตานน่าจะรีบกำจัดหมอฟางนะไม่งั้นอดดูฉากสาดเลือดของสิงห์อีกแน่เลย ::Evil::
สิงห์โหดตลอด เรื่องแอคชั่นดี มีรายละเอียดต่างๆ ดีเลย สิงห์คงจัดการฟางตอนนี้แน่