สวัสดีครับ สวัสดี อย่างที่บอกไปว่า ถ้าเจอคอมเมนต์ถูกใจ ผมจะลงตอนต่อไปทันที จัดปาย !!!
ตอนนี้มีการซ่อนข้อความ ต้องแสดงความคิดเห็นก่อนนะครับ กติกาก็เหมือนเดิม
1. แสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้เพื่อขออ่าน
2. คิดเห็นอย่างไรหลังอ่านเนื้อเรื่องตอนนี้จบ
3. คิดเห็นอย่างไรกับเนื้อหาของ Ss2 ที่เอามาให้อ่านเล่นกัน ( reply 3 )
ปล. ถ้าตอนนี้มีคอมเมนต์ที่ถูกใจโดนใจ ตอนใหม่จะโพสต์ทันทีครับ ตอนหน้าโคตรมันส์
ปล.2 reply มีตัวอย่าง ของเนื้อเรื่องหลัก ss2
••••
ความเดิมตอนที่แล้ว
คิราระได้รู้ถึงตัวตนของริวกะ ว่าเป็นเชื้อสายของ อิซานางิ ฮิเดโมโตะ องเมียวจิในตำนาน ทำให้เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก ริวกะได้เรียก นูระริเฮียงออกมา เพื่อต้องการให้ไปรวบรวมข้อมูลของอาคะโทระ เพราะริวกะตั้งใจจะโค่นล้มยากูซ่าแก๊งค์นี้ให้จงได้
คิราระได้สารภาพความรู้สึกของริวกะ แต่ริวกะนั้นก็ไม่ตอบรับความรู้สึกนั้น นั่นเพราะเขาไม่อยากให้เธอต้องเสียใจในวันข้างหน้า คิราระจะจัดการกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นเช่นไร มันก็คงที่ตัวเธอแล้ว
••••
ตอนที่ 6 : ให้ชั้นดูแลนายเถอะนะ
สวัสดีค่ะกลับเข้ามาสู่ช่วงข่าวร้อนโซเชียลนะคะ
ดิฉัน จุนโกะ ซาโตมิ ค่ะ
กระผม คุซากะ ซาโต้ ครับ
[ จุนโกะ ] : ตอนนี้ในโลกโซเชียลมีคลิปคลิปหนึ่ง ถูกโพสต์และเป็นที่กล่าวถึงกันมากค่ะ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่ย่านการค้าเก่าแก่ของนางาซากิ ย่านการค้าคาสุโกะค่ะ
[ คุซากะ ] : โดยในคลิปที่ถูกบันทึกนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนคนหนึ่งกำลังต่อสู้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ด้วยตัวคนเดียว แต่สิ่งที่น่าตกใจคือเด็กคนนั้นสามารถจัดการกลุ่มชายฉกรรจ์เกือบ 10 คนด้วยตัวคนเดียวครับ คุณจุนโกะ
[ จุนโกะ ] : ใช่ค่ะ คุณคุซากะ และสิ่งที่น่าตกใจคือเด็กชายคนนั้นรับมือกับคนเหล่านั้นด้วยมือเปล่าๆโดยไม่ใช้อาวุธเลยค่ะคุณคุซากะ และนี่คือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ในวันนั้นค่ะ
( พิธีกรทำการเปิดคลิปช่วงเวลาหนึ่งในเหตุการณ์ที่ย่านการค้าคาสุโกะ ที่ริวกะโชว์สกิลความเทพใส่แก๊งค์อาคะโทระ และกำลังใช้คำพูดเพื่อขู่ )
[ ริวกะ ] : แต่ดั้งเดิมที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่จะมาเก็บค่าคุ้มครองอยู่แล้ว อย่าให้ต้องบาดเจ็บไปมากกว่านี้ เพราะชั้นกับคนของชั้นก็ไม่รู้ว่าจะยั้งมือได้อีกนานมั้ย กลับไปซะถ้ายังอยากมีลมหายใจ วันนี้พวกชั้นจะพอแค่นี้แต่ถ้ายังมีข่าวว่าที่นี่ถูกเก็บค่าคุ้มครองอีก พวกเราอิซานางิจะตอบโต้ทุกรูปแบบอย่างสุดกำลัง และมันจะไม่จบแค่สลบแบบนี้แน่ ไป๊ !!!
ปิดคลิปกลับมารายงานข่าวต่อ
[ คุซากะ ] : หลังจากที่ทีมงานของเราได้ลงพื้นที่ย่านการค้าคาสุโกะและสอบถามกับพ่อค้าและแม่ค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ เราจึงได้ข้อมูลมาว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวคือ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในชื่ออาคะโทระ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาคนกลุ่มนี้ได้เข้ามา เก็บค่าคุ้มครอง ข่มขู่รีดไถชาวบ้าน และเด็กชายในคลิปคนนั้นคือ คุณอิซานางิ ริวกะ ลูกชายของ คุณอิซานางิ ริน ประธานบริษัท อิซานางิ กรุ๊ปคนปัจจุบันครับ คุณจุนโกะ
[ จุนโกะ ] : ดิฉันไม่แปลกใจเลยค่ะ คุณคุซากะ ว่าทำไมคุณริวกะถึงสามารถรับมือกับชายฉกรรจ์ได้ขนาดนั้น เพราะอย่างที่พวกเรารู้กันดี ว่าคุณริวกะนั้นเป็นหลานชายแท้ๆ ของ คุณอิซานางิ ชิน ผู้แตกฉานในศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงของญี่ปุ่น การที่จะได้รับการถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้โดยตรงจนมีฝีมือเกินอายุแบบนี้ดิฉันว่าไม่แปลกเลยค่ะ คุณผู้ชมจะเห็นนะคะว่าในคลิปนั้น คุณริวกะสามารถใช้ทั้ง คาราเต้ ยูโด และ ไอคิโด้ ได้อย่างชำนาญมากๆค่ะ
[ คุซากะ ] : ครับคุณจุนโกะ แต่ประเด็นที่กำลังถกเถียงกันตอนนี้คือ คำพูดที่คุณริวกะ ที่พูดว่า จากนี้ไปพื้นที่นี้จะอยู่ในการคุ้มครองของอิซานางิ อย่างที่มันควรจะเป็นมานานแล้ว หลายฝ่ายก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นว่าเหมาะสม และไม่เหมาะสมครับ แต่จากข้อมูลที่ทีมงานของเราสืบค้นมา พื้นที่ตรงนั้นทั้งหมด เป็นของตระกูลอิซานางิ จริงๆครับ
[ จุนโกะ ] : ใช่ค่ะ คุณคุซากะ ย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว คุณอิซานางิ ชิน ได้เป็นผู้บุกเบิก ริเริ่ม เพื่อพลิกฟื้นพื้นที่ตรงนั้นร่วมกับรัฐบาลในยุคนั้น และใช้เวลาถึง 10 ปีจนพื้นที่ทั้งหมดนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รัฐบาลเห็นถึงความดีความชอบครั้งนั้น จึงได้ยกพื้นที่ย่านการค้าคาสุโกะและพื้นที่โดยรอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของตระกูลอิซานางิ โดยมีหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินชัดเจนค่ะคุณผู้ชม
( ทีมงาน insert ภาพ ต้นฉบับโฉนดที่ดินขึ้นจอ )
[ จุนโกะ ] : และดิฉันมีภาพเหตุการณ์การเก็บค่าคุ้มครองที่น่ารักที่สุดมาให้ชมกันค่ะ ( เปิดคลิปอีกครั้ง )
••••••
[ ริวกะ ] : ต่อจากนี้พื้นที่นี้จะอยู่ในการคุ้มครองของอิซานางิอย่างเป็นทางการ อย่างที่มันควรจะเป็นมานานแล้ว เพราะฉนั้นจะขอเก็บค่าคุ้มครองซะตอนนี้เลย ดีมากถ้างั้นค่าคุ้มครอง ขอเป็นอะไรที่อร่อยๆนะครับ หิวจังเลย อ๋อยยย
และพ่อค้าแม่ค้าก็วิ่งไปลุมล้อมต้อนรับริวกะด้วยรอยยิ้ม ริวกะอุ้มฮิโยริ ( ตัดคลิป )
••••••
[ จุนโกะ ] : สมกับเป็นทายาทของอิซานางิ จริงๆนะคะ เพราะดูเหมือนว่าคุณริวกะจะเป็นขวัญใจของพ่อค้าและแม่ค้าในย่านการค้าจริงๆค่ะ และข้อมูลสำคัญที่ได้รับมาในพื้นที่นางาซากิและย่านการค้าคาสุโกะ มีมูลนิธิหลายมูลนิธิที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนที่ขาดแคลนทุนการศึกษา ฝึกการเรียนการสอน ฝึกสอนอาชีพ โดยทั้งหมดโดยจัดตั้งขึ้นโดย คุณอิซานางิ ชิน ผู้ก่อตั้งอิซานางิกรุ๊ปค่ะ
[ คุซากะ ] : ใช่ครับ และตอนนี้คุณอิซานางิ ริน ก็ได้เข้ามาสานต่อปณิธานนั้นแล้วครับ ที่สำคัญยังมีข้อมูลมาอีกว่าคุณริวกะนั้นก็ได้เสนอโครงการบ้านพักคนชราในโตเกียวด้วยและทางกระทรวงก็อนุมัติไปเรียบร้อยแล้วครับ
[ จุนโกะ ] : ขอนอกประเด็นนิดนึงนะคะคุณผู้ชม คุณคุซากะคะ จำเหตุการณ์เมื่อราวๆ 1 ปีครึ่งที่แล้วได้ไหมคะ ข่าวที่ว่าคุณ อิซานางิ มิไร หรือ ในช่วงนั้นคือ คุณซาวาดะ โซระ ถูกแฟนหนุ่มจับตัวเพื่อไปเรียกค่าไถ่ แต่ก็ถูกช่วยเหลือออกมาได้ โดยฝีมือของหน่วยอารักษ์ขาของอิซานางิกรุ๊ปและความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
[ คุซากะ ] : จำได้ครับ เป็นข่าวที่ดังมากๆ และมีภาพหลุดออกมาว่าคุณริวกะอยู่ในทีมที่เข้าช่วยเหลือด้วย แต่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนะครับ เพราะตอนนั้นคุณริวกะเองก็พึ่งอายุ14 แต่จากการเหตุการณ์ล่าสุดที่นางาซากิ ผมว่าอาจจะเป็นไปได้ครับที่คุณริวกะจะเป็นหนึ่งในทีมที่เข้าช่วยเหลือคุณมิไรเมื่อ 1 ปีครึ่งที่แล้ว
[ จุนโกะ ] : ยังไงก็ตามค่ะคุณคุซากะ ตอนนี้กระแสในสังคมมีทั้งแง่ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยค่ะ มีบางกลุ่มวิจารณ์ว่าคุณริวกะนั้นอาศัยชื่อเสียงของพ่อทำเกินกว่าเหตุ แต่อีก 90% นั้นต่างชื่นชมการกระทำที่กล้าหาญของคุณริวกะ จะมีเด็กอายุ 16 ที่ไหนกันคะ ที่กล้าออกหน้าปกป้องคนมากมายโดยไม่เกรงกลัวอันตรายแบบนี้ น่าชื่นชมนะคะ
[ คุซากะ ] : น่าชื่นชมจริงๆครับเพราะคุณริวกะก็ไม่เคยมีข่าวเสียๆหายๆเลยนะครับ ผมยังได้รับการยืนยันมาว่า ผลการเรียนของคุณริวกะนี่ไม่ธรรมดาเลยนะครับ การใช้ชีวิตในโรงเรียนของนั้นก็เรียบง่ายมากๆ อีกทั้งยังเป็นถึงคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายคุมประพฤตด้วยนะครับ
[ จุนโกะ ] : ( ร่ายงานข่าวด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้ม ) ก็ไม่รู้นะคะว่าหลังจากคลิปนั้นถูกแชร์ออกไป จะมีนักเรียนในโรงเรียนเซย์ริว กล้าเกเรอีกมั้ย ( ยิ้ม )
[ คุซากะ ] : นั่นสิ่ครับ ( หัวเราะนิดหน่อยอย่างสุภาพ ) หมดเวลาการรายงานข่าวช่วง ข่าวร้อนโซเชียลแล้วครับ ผม คุซากะ ซาโต้
[ จุนโกะ ] : ดิฉัน จุนโกะ ซาโตมิ ขอจบการรายงานข่าวเพียงเท่านี้ พบกับใหม่โอกาสหน้า สวัสดีค่ะ
[ คุซากะ ] : สวัสดีครับ
•••••••••••••••
หลังจากเหตุการณ์ที่นางาซากิผ่านไปราว 3 วัน มันก็กลายเป็นข่าวดังทันที ข่าวที่ริวกะนั้นจัดการตบเกรียนเหล่าอันธพาลได้ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากมายหลากหลายวงการ ทั้งดารา การเมือง กีฬา และ เศรษฐกิจ เพราะสิ่งที่ริวกะทำนั้นมันได้สะท้อนจุดอ่อนของสังคมออกมาหลายๆอย่าง และด้วยความกล้าหาญนั้นทำให้ผู้คนต่างตั้งฉายาให้ริวกะว่า
" มังกรเพลิงแห่งอิซานางิ "
Izanagi no enryu
แน่นอนว่าทางบอร์ดบริหารของอิซานางิกรุ๊ป ได้จัดประชุมเรื่องมาตรการ การดูแลความปลอดภัยของย่านการค้าคาสุโกะ เพราะข่าวที่ว่าลูกชายของประธานอิซานางิแสดงความกล้าหาญ โชว์โหดกระทืบเกรียนที่เข้ามาก่อกวนถึงแหล่งท่องเที่ยวนั้นดังไปทั่ว จนทำให้มูลค่าหุ้นของบริษัทพุ่งกระฉูดเลยทีเดียว ริวกะเข้าพบบอร์ดบริหารในทันที และยังเอาเรื่องย่านการค้าสุมิเระเข้ามาปรึกษาหารือด้วย
แน่นอนว่า มีบางท่านไม่เห็นด้วย เพราะมันต้องใช้เงินมูลค่ามหาศาล แต่ริวกะก็ได้อธิบาย ชี้แจง แจกแจง ข้อมูลต่างๆ ในที่ประชุมอย่างละเอียดแน่นอนว่าผู้ใหญ่หลายท่านยังเคลือบแคลงใจ แต่ริวกะก็ยังยืนยันความตั้งใจ และถึงกับก้มหัวขอความกรุณาให้ช่วยพิจารณาอีกครั้ง
[ ริวกะ ] : ตัวผมในตอนนี้ยังเด็กมาก ความคิดของผมอาจจะดูเห็นแก่ตัวไป แต่ผมอยากขอความกรุณา จากผู้บริหารทุกท่าน ช่วยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ด้วยครับ ผมเชื่อว่าในระยะยาวนั้น ย่านการค้าสุมิเระ จะกลายเป็นที่ที่มีชื่อเสียง และกลายเป็นหนึ่งในรายได้หลักให้อิซานางิกรุ๊ปของเราครับ
เอาจริงๆเหล่าผู้บริหารไม่มีใครไม่เชื่อใจริวกะหรอก แต่ถึงยังไงตอนนี้ริวกะก็ยังเด็ก จึงอาจจะตัดสินใจเร็วไปและผลเสียมันจะย้อนกลับมาหาตัวบริษัทเอง แต่เพราะพวกเขาเห็นริวกะมาตั้งแต่เด็กๆ พวกเขารู้ดีว่าริวกะเป็นเด็กที่มุ่งมั่นและมีเหตุผลมากแค่ไหน การจะยอมเสี่ยงสักครั้งเพื่อให้ริวกะได้เรียนรู้มันจะเป็นอะไรไปล่ะ สรุปว่าวันนั้นผลการลงมตติออกมาคือ เห็นด้วย8 และไม่เห็นด้วย2
โดยที่ผู้บริหารทั้ง2 ที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยให้เหตุผลว่า ที่ลงคะแนนไม่เห็นด้วยนั้นเพราะอยากจะบอกริวกะว่า มันยังมีความเสี่ยงอยู่หลายปัจจัยในการเปลี่ยนมือผู้บริหารย่านการค้าคาสุโกะจากบริษัท xxx มาเป็นอิซานางิกรุ๊ป
พวกเขาทั้ง 2 จึงอยากให้ริวกะพิสูจน์ว่าพวกเขานั้นคิดผิดที่ไม่เห็นด้วยกับริวกะ ริวกะกล่าวคำขอบคุณในการสั่งสอนจากทั้ง 2 ท่านอย่างซาบซึ้งใจที่เมตตาให้บทเรียนนี้ และได้ให้สัญญาว่าจะทำให้ย่านการค้าสุมิเระเติบโตในเร็ววัน
และแน่นอนนอกจากเรื่องที่บริษัทแล้ว สิ่งที่ริวกะทำลงไปนั้นมันได้สร้างความตื่นตัวให้กับห้างร้านบริษัทต่างๆ เรื่องความปลอดภัยของ
บุคลากรมากๆ หลายสิบบริษัทนั้น ส่งจดหมายโดยตรง ถึง ริน ว่ามีความประสงค์อยากส่งบุคลากรของตนไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับทางคุณชิน เพื่อที่บุคลากรของตนจะได้มีทักษะในการรับมือกับสถานการณ์วุ่นวาย ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
โดยเฉพาะบริษัทรักษาความปลอดภัยหลายสิบบริษัท ถึงกับยอมทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาล เพื่อส่งพนักงานของตนไปฝึกกับชินโดยตรง รินเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อของตนทันที ชินก็ยิ้มสิ่ครับ ที่มีคนอยากฝึกศิลปะการต่อสู้มากมายแบบนี้ จากปกติที่ชินจะฝึกให้คนในองค์กรหรือบริษัทอิซานางิเท่านั้น แต่ตอนนี้ชินได้กลายเป็นอาจารย์ของชายวัยทำงานเกือบครึ่งโตเกียวแล้ว
ส่วนริวกะนั้น แน่นอนว่าได้รับผลกระทบเต็มๆ จากปกติที่ป๊อปอยู่แล้ว พอมีคลิปนั้นออกก็ยิ่งทำให้ดีกรีความป๊อปนั้นพุ่งกระฉูดเข้าไปอีก ส่วนพวกนักเรียนนักเลงในโรงเรียน ก็พร้อมใจกันสงบศึกในโรงเรียนชั่วคราวกันทุกแก๊งค์ เพราะปกติพวกมันก็ได้ยินคำร่ำลือถึงความเก่งกาจของริวกะอยู่แล้ว
และยิ่งมาเห็นในคลิปที่ริวกะใช้ไอคิโด้บิดข้อมือทุ่มเอย ลูกถีบSide kick เอย ทุ่มด้วยยามะอาราชิเอย พวกมันถึงกับเสียวสันหลังว่าบ ๆ ๆ ๆ และมองหน้าอย่างรู้กัน ว่าไม่ขอมีเรื่องกับคณะกรรมการนักเรียนคนนี้เด็ดขาด
แต่ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดีๆเสมอไป เพราะคลิปที่ออกข่าวไป ทำให้ริวกะแทบไม่มีเวลาส่วนตัวเลย เพราะความเก่ง ความเท่ส์ของเขานั้นไปโดนใจบรรดาสาวๆเข้าให้ เขาจึงถูกสาวๆ ชวนคุยตลอด นั่นจึงทำให้เขาเรียนรู้ว่า เขานั้นทำอะไรไม่รอบคอบ เพราะคลิปนั้นมีทั้งด้านดีและไม่ดี ตอนนี้เขากำลังได้ผลกระทบด้านเสียเต็มๆ เพราะชีวิตของเขาตอนนี้วุ่นวายมากๆ ซึ่งริวกะต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ได้ เพราะในอนาคตริวกะอาจจะต้องเจอบททดสอบชีวิตมากมาย ซึ่งอาจจะเยอะและหนักหนากว่านี้ก็ได้
••••••••
ณ. โรงเรียนฟุคุซัน
( โรงเรียนของ อาโอยามะ ทาเครุ )
หลังจากที่ทาเครุพ่ายแพ้ให้กับริวกะ เขาก็หยุดการทะเลาะวิวาทกับโรงเรียนอื่นๆไปเลย เพราะวันนั้นยามิได้เตือนสติเขาว่าสิ่งที่ทาเครุไขว่คว้านั้นมันเป็นแค่ความแข็งแกร่งจอมปลอม ทาเครุประกาศลาออกจากตำแหน่งบอสของแก๊งค์เพราะคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมอีกต่อไป แน่นอนว่ามีคนรับตำแหน่งนั้นต่อ
คนที่ยังคึกคะนองอยากตีอยากต่อยก็ยังคงอยู่ในแก๊งค์นั้นต่อไป ส่วนคนที่เริ่มอยากจะใช้ชีวิตนักเรียนธรรมดาๆ ก็ได้ตามทาเครุมาเข้าชมรมคาราเต้ด้วย ทั้งกลุ่มทาเครุที่มุ่งสู่การใช้ชีวิตธรรมดาและกลุ่มนักเลงที่ร่างกายยังต้องการ การปะทะ ก็ไม่ได้มีเรื่องข้องใจหรือติดใจอะไรกัน เพราะต่อให้เลือกเดินคนละเส้นทาง แต่พวกเขาก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน
จริงอยู่ว่าโรงเรียนฟุคุซันนั้นได้ชื่อว่าโรงเรียนกุ๊ย แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นโรงเรียนที่เลวร้าย 100% โรงเรียนฟุคุซันก็ยังมีชื่อเสียงหลายด้านทั้งวิชาการ อีกทั้งชมรมกีฬาที่นี่ก็เข้าขั้นฝีมือหลายชมรม โดยเฉพาะคาราเต้ ที่มีสมาชิกถึง 30 คน หลังจากทาเครุพ่ายแพ้ให้ริวกะ เขาก็ได้เลิกชีวิตนักเลงหันมาเป็นนักเรียนธรรมดา แต่ด้วยใจที่ยังรักในคาราเต้ เขาจึงมาสมัครเข้าชมรม และไม่กี่เดือนก็ได้ถูกรับเลือกให้เป็นกัปตันของชมรม ทั้งๆที่พึ่งอยู่แค่ปี2
คุณอาโอยาม๊าาาาาาาาา !!! เสียงเรียกทาเครุดังขึ้น ขณะที่เขากำลังเดินเข้ามายังชมรมคาราเต้
[ ทาเครุ ] : เห้ย !!! พวกแก เบาๆหน่อย อย่าลืมว่าต้องให้เกียรติห้องฝึกคาราเต้ด้วย เก็บเสียงไว้ตอนซ้อมดีกว่ามั้ง ว่าแต่ทำไมยังไม่เปลี่ยนชุดกัน นี่ก็ได้เวลาซ้อมกันแล้ว
[ ลูกน้องคนสนิท ] : ขอโทษครับคุณอาโอยามะ คุณได้ดูคลิปนี้ยังครับ
[ ทาเครุ ] : คลิปอะไร ? ถึงเวลาซ้อมแล้ว ซ้อมเสร็จค่อยดู
[ ลูกน้องคนสนิท ] : คลิปไอ้คนที่คุณอาโอยามะเคยสู้ด้วยแล้วแพ้มันครับ นี่มันจะเก่งเกินมนุษย์มนาไปแล้ว มันเล่นเก็บพวกยากูซ่าเป็น 10 ด้วยตัวคนเดียวเลยครับคุณอาโอยามะ
เพียงแค่สิ้นสุดคำพูดของลูกน้องคนสนิทของทาเครุ ( ตามมาจากแก๊งค์เก่า ) สมาชิกชมรมคาราเต้ ทั้งปี1 ปี2 ปี3 ก็ถึงกับหันควั่บเลย พวกเขารู้ถึงความเก่งกาจของอาโอยามะดี ทั้งเทคนิค ไหวพริบ และ พละกำลัง เรียกได้ว่า อาโอยามะมีครบ แล้วเมื่อกี้บอกว่าอาโอยามะแพ้เนี่ยนะ พวกสมาชิก 20 กว่าคนถึงกับหยุดทุกอย่างที่กำลังทำและเดินมาหาไอ้คนต้นเสียงทันที
ทาเครุเองก็เช่นกันพอได้ยินดังนั้นก็รีบวางชุด วางกระเป๋าแล้วรีบเข้าไปขอ แทปเลตเครื่องนั้น เพื่อดูคลิปทันที เขาอยากเห็นด้วยตาตัวเอง แน่นอนเขารู้ว่าเป็นริวกะ แต่คนอย่างริวกะที่ใจดีคนนั้นน่ะเหรอ จะไปมีเรื่องกับยากูซ่า
[ ทาเครุ ] : ใช่ ใช่จริงๆ ใช่คุณริวกะจริงๆ
ตอนนี้ทาเครุลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมเวลาซ้อม เพราะตอนนี้เขาสนใจแค่คลิปนี้เท่านั้น
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : แปปนะครับ คุณอาโอยามะ พวกผมก็อยากดูด้วย ผมขอเวลาต่อเข้าจอโปรเจคเตอร์แปปครับ
1 ในสมาชิกชมรมคาราเต้ได้เสนอไอเดียขึ้นมาเพื่อจะได้ดูได้หลายคน ทาเครุ ยื่นแทปเลตนั้นไปให้สมาชิกคนนั้นจัดการ พร้อมกับพูดเพื่อเร่งๆๆๆ ให้มันทำไวๆด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน อย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน
เปรี้ยง !!! แค่คลิปเปิดออกมา ทาเครุก็ได้เห็นลูกเตะอันสุดสวยของริวกะซะแล้ว
[ ทาเครุ ] : อุชิโระ เกริ ( back kick ) สุ สุดยอด ทั้งจังหวะ ความเร็ว ทิศทาง
(https://uppic.cc/d/Kqb1)
ทาเครุพร่ำเพ้ออย่างลืมตัว สายตาของเขาเต็มไปด้วยประกายแห่งความปลาบปลื้ม ราวกับเด็กที่กำลังชื่นชมขบวนการเซนไตที่ตัวเองชื่นชอบ สมาชิกชมรมทั้งหมดก็นั่งดูคลิปอย่างไม่วางตา เพราะคนในคลิปคือคนที่เอาชนะ อาโอยามะ ทาเครุ มาได้
และในขณะนั้นคลิปได้รันมาถึงจังหวะหนึ่ง ริวกะก็ปล่อยช็อตเซอร์ไพรส์เต็มๆ กี้กี้ 2 คนพุ่งใส่ริวกะพร้อมกับต่อยและเตะใส่ริวกะพร้อมกัน แต่เขาได้หมุนแขนทั้ง 2 ข้างอย่างรวดเร็วเพื่อปัดป้องการหมัดและเท้าที่กำลังพุ่งใส่เขาจนมันกระเด็นออกไป
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : หน่านี๊ !!!
[ ลูกน้องของทาเครุ ] : เห้ย !!!!!!!!
[ ทาเครุ ] : มะ มะ มาวาชิ อุเกะ
(https://uppic.cc/d/Kqbf)
เจอช็อตนี้เข้าไปเรียกว่าเหวอกันทั้งหมด ถึงขั้นตะโกน เห้ย !!! ไอ้พวกลูกน้องถึงกับสติขาดไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว เพราะไอ้ท่านั้นมันเป็นแค่ท่าการรำกาต้าเท่านั้น พวกมันไม่คิดว่าจะมีคนเอามาใช้แบบนี้ด้วยซ้ำ
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : หะ เห้ยๆ บ้าไปแล้ว ปัดป้องการโจมตี 2 รูปแบบที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว แถมยังพร้อมกันอีก บะ บะ บ้าน่า อะไรมันจะแม่นขนาดนั้น
[ ลูกน้องของทาเครุ ] : คุ คุ คุณอาโอยามะ มาวาชิ อุเกะ มันเป็นแค่ท่ารำไม่ใช่เหรอครับ ไหงเป็นแบบน้านนน
[ ทาเครุ ] : สำหรับคุณริวกะ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก
ทาเครุกำหมัดแน่นทั้ง 2 ข้างราวกับดูมวยคู่หยุดโลกด้วยความตื่นเต้นและอินไปกับมัน เพราะการต่อสู้ของริวกะมันสุดยอดจริงๆ ถึงคลิปที่กำลังดูอยู่ มันจะไม่มีเสียงซาวด์เอฟเฟคเสียงต่อยเสียงเตะที่เร้าใจแบบในหนัง แต่สำหรับเขามันคือการต่อสู้ที่สุดยอดจริงๆ
ส่วนพวกสมาชิกชมรมคาราเต้ พวกเขาไม่ได้เห็นกับตาหรอก ว่าทาเครุแพ้ให้กับริวกะยังไง แต่พอเห็นคลิปนี้พวกเขาถึงกับหายสงสัยเลยทีเดียว พวกเขายอมรับเลยว่าริวกะนั้น โหดชิบหาย
คลิปยังคงดำเนินต่อไป ตอนนี้ทุกคนแทบนั่งไม่ติดพื้นเลย เพราะการต่อสู้ของริวกะนั้น ทั้งสวยงาม ทั้งดุดัน และเต็มไปด้วยชั้นเชิงที่สุดยอด โดยเฉพาะ ทาเครุ เขามองคลิปด้วยสายตาที่เปล่งประกาย เขาเอ่ยชื่อท่าทุกท่าที้ริวกะใช้ และคลิปก็ดำเนินมาถึงช่วงท้าย ในคลิปนั้นริวกะกำลังยกขาเตะใส่ไอ้หัวหน้ากีกี้
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : มาวาชิ เกริ แน่นอน
พวกผู้ชมนั้นเริ่มอินไปกับการต่อสู้ถึงกับเผลอเชียร์จนออกนอกหน้า แต่ทาเครุนั้นเห็นต่างออกไป เขาเชื่อว่าริวกะไม่ใช่คนที่จะคิดอะไรแค่ชั้นเดียวแน่ๆ
[ ทาเครุ ] : ไม่ใช่ คุณริวกะต้องขยับหลอกและเตะ คุบิ มาวาชิ เกริ แน่ๆ ( บาซิลเลี่ยน คิ๊ก )
( ในคลิป ) วู๊บ ริวกะบิดหัวเข่า ยกขาขึ้นสูงราวกับจะเตะด้วย คุบิ มาวาชิ เกริ อย่างที่ทาเครุพูดไว้ แต่ทั้งหมดก็ถึงกับช็อคตัวแข็งเมื่อเจอริวกะปล่อยช็อตเซอร์ไพรส์ดอกที่ 2 วื๊ดดด ริวกะบิดหัวเข่าเตะด้วย คุบิ มาวาชิ เกริ จริงๆ
แต่เขาจงใจเตะวืดลงพื้น และอาศัยแรงเหวี่ยงสลับใช้ขาขวาเป็นฐานยืนและบิดตัวเหวี่ยงเตะขาซ้ายกลับหลังและยืดขึ้น 180 องศาเพื่อหลอกจังหวะที่ 3 และฟาดลงเต็มๆ
(https://uppic.cc/d/KYVz)
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : เห้ย !!!
[ ลูกน้องของทาเครุ ] : เห้ย !!!
[ ทาเครุ ] : คะ คะ คุณริวกะ คาคาโตะ โอโตชิ เกริ
(https://uppic.cc/d/Kq4x)
เปรี้ยง !!! ริวกะสับส้นเท้า หรือ ส้นตีนลงเต็มๆ จนไอ้หัวหน้ากีกี้หน้าหงายลงไปกองกับพื้นแตะต่อยซ้ำไปอีกเปรี้ยงจนกระเด็น ( จบคลิป )
ในจังหวะที่ริวกะฟาดส้นตีนไปนั้น ทาเครุถึงกับเด้งตัวขึ้นมากำหมัดไว้ข้างลำตัวพร้อมจะโกนว่า เยี่ยม !!! ทุกคนนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกเลย คลิปดังกล่าวมันสุดยอดเกินไปแล้ว ทาเครุยิ้มสุดแก้มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาหลายปี ริวกะได้แสดงให้เขาเห็นจริงๆ ว่าเขาทำได้ เขาได้ทำในสิ่งที่เคยพูดไว้กับทาเครุ ในตอนที่พวกเขาฝึกคาราเต้ด้วยกันในบ้านอิซานางิ
( ภาพ flash back )
[ ริวกะ ] : ทาเครุ ทาเครุ ดูนี่ๆชั้นเตะ คาคาโตะ โอโตชิ เกริ ได้แล้ว ฮั๊ดช่าาาา ไว้สักวันชั้นนะใช้ท่านี้ช่วยเหลือคนอื่นให้นายดู ว๊ะ ฮ่า ฮ่า
[ ทาเครุ ] : นายน้อยครับ แอบฝึกข้ามขั้นแบบนี้ เดี๋ยวนายท่านรู้เข้า อาจจะซวยก็ได้นะครับ
[ ริวกะ ] : นายไม่บอก ชั้นไม่บอก ใครจะรู้
[ ริน ] : เจ้าริวกะ เจ้าทาเครุ แอบมาฝึกเหรอ ห๊าาาาาา เจ้าเด็กพวกนี้
[ ริวกะ , ทาเครุ ] : จ๊ากกกกกกกกกก ขอโทษค๊าบบบบ
ภาพวันวานตอนทั้งคู่ฝึกคาราเต้ด้วยกันมันย้อนกลับมาอีกครั้ง ทาเครุได้แต่น้ำตาไหลด้วยความอิ่มเอมใจ ริวกะได้ใช้ท่าเตะนั้นเพื่อช่วยเหลือคนจริงๆ ทาเครุทิ้งตัวนั่งยิ้มทั้งน้ำตา เขานึกด่าตัวเองที่เคยดูถูกริวกะว่าเป็นคนไม่เอาไหน เอาแต่จมอยู่กับอดีต แต่พอได้เห็นความสุดยอด ที่ริวกะแสดงผ่านคลิปแล้ว เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก มันจุกอก อยู่ข้างใน
[ ทาเครุ ] : คุณริวกะ คุณจะเก่งเกินไปแล้วครับ เก่งจนผมคนนี้เทียบไม่ติดเลย
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : คุณอาโอยามะ ใครครับคนในคลิปคนนั้น ได้ยินคุณอาโอยามะเรียกว่าคุณริวกะ
สมาชิกชมรมแย่งกันถามเลยทีเดียว ว่าเขาเป็นใครกัน คนในคลิปที่เคยชนะทาเครุเป็นใคร ทาเครุยิ้มก่อนที่จะตอบไปอย่างภาคภูมิใจ
[ ทาเครุ ] : คณะกรรมการนักเรียนฝ่ายคุมประพฤติโรงเรียนเซย์ริว.... ปี1 อิซานางิ ริวกะ
[ สมาชิกชมรม ] : หาาาาาาา อิซานางิ ริวกะ หลานชายของตำนานนักศิลปะการต่อสู้ อิซานางิ ชิน คะคะคุณอาโอยามะ ไปรู้จักคนระดับนั้นได้ยังไงครับ
[ ทาเครุ ] : ตอนเด็กๆชั้นเคยเป็นเด็กรับใช้ในตระกูลอิซานางิน่ะ นายท่านชินก็เมตตาสอนคาราเต้ให้ชั้นพร้อมๆกับคุณริวกะน่ะ
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : หน่านี๊ !!! เคยฝึกกับตำนานท่านนั้นด้วย โอ้ยยยยยยยยย สุดยอดด
[ ลูกน้อง ] : หะ หาาา งั้นที่มีข่าวลือว่า อิซานางิ ริวกะ ถล่มโรงเรียนสาธิตคาวากิ ก็จริงสิ่ครับ ขะ ขะ แข็งแกร่งเกินไปแล้ว
แข็งแกร่ง แข็งแกร่งงั้นเหรอ ทาเครุหวนคิดถึงคำพูดของยามิว่า สิ่งที่ทำให้ริวกะแข็งแกร่งขึ้น เพราะเขาต่อสู้เพื่อคนอื่น มันจึงเป็นแรงผลักดันชั้นยอดที่ทำให้ริวกะพัฒนาตัวเองไปได้ไกลเกินจินตนาการ ทาเครุยิ้มและมองไปยังบนท้องฟ้าผ่านหน้าต่างห้องชมรม พร้อมกับถามตัวเองในใจ จะมีวันนั้นไหมนะ วันที่เราจะแข็งแกร่งเพื่อใครสักคน แต่ในขณะที่ทาเครุกำลังหาคำตอบอยู่นั้น คำตอบที่เขาค้นหาและไขว่คว้า ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ ] : โอออออออออ้ ต้องขยันแล้ว กัปตันของชมรมเรา เป็นถึงลูกศิษฐ์ของตำนานอย่างคุณชิน ย๊ากกก !!!
[ ลูกน้องทาเครุ ] : คุณอาโอยามะ มาซ้อมกันเถอะครับ ถ้าเป็นคุณอาโอยามะ ต้องเก่งแบบคุณริวกะได้แน่ๆ
นี่ไงล่ะ นี่ไงคำตอบ ยังมีเจ้าพวกนี้ที่เชื่อใจ ยอมเลิกชีวิตเด็กนักเลง มาเป็นนักคาราเต้เหมือนกับเขา และยังมีพวกปี1 ปี2 ปี3 ที่ไว้ใจเลือกให้อดีตกุ๊ยอย่างเขามาเป็นกัปตันชมรม เขารู้แล้วว่าเขาจะทำอะไร และทำเพื่อใครต่อไป ทาเครุยืนขึ้นพร้อมกำหมัดด้วยความแน่วแน่และประกาศด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลัง
[ ทาเครุ ] : พวกแกจงฟังชั้น ชั้นจะพาชมรมคาราเต้โรงเรียนฟุคุซันชนะไปเรื่อยๆในทุกการแข่งขัน ชั้นจะทำให้ชมรมของพวกเราเป็นที่ยอมรับว่าฟุคุซันไม่ได้มีแค่นักเรียนกุ๊ย ชั้นจะทำให้พวกแก กลายเป็นนักคาราเต้ทั้งตัว และ จิตวิญญาณ และพวกเราจะชนะระดับประเทศไปด้วยกัน
[ เหล่าลูกน้องทาเครุ + สมาชิกชมรม ] : ครับ !!! กัปตันอาโอยามะ
[ ทาเครุ ] : ไปเปลี่ยนชุด พวกเราชมรมคาราเต้ฟุคุซัน จะเริ่มตำนานบทใหม่กันแล้ว เพื่อพิชิตระดับประเทศ
[ สมาชิกชมรมคาราเต้ + ลูกน้อง ] : โอ้ส !!!!
ทาเครุประกาศกร้าวถึงเป้าหมายที่ต้องการ ต่อจากนี้ไปเขาจะสู้ สู้เพื่อชมรม สู้เพื่อสมาชิกชมรม และสู้เพื่อสิ่งที่มันมีค่าในชีวิต นั่นคือ คาราเต้ เขาปาดน้ำตาพร้อมเดินไปเปลี่ยนชุดด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่น นี่แหละคือสิ่งที่เขาจะทำ และเขาจะต้องทำมันให้สำเร็จจงได้
•••••••••••
••••
หลังจากวันนั้นที่คิราระ ที่คิราระได้สารภาพความในใจออกไป ก็ผ่านมาอีกหลายดือน จนคิราระขึ้น ม.6 คิราระก็กล้าคุยกับริวกะมากขึ้น แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่ได้พัฒนาไปเกินคำว่าเพื่อนเลย เพราะตอนนี้ริวกะทั้งติดเรียน กิจกรรมก็เยอะ แถมยังต้องเดินเรื่องย่านการค้าสุมิเระ เลิกเรียนมาก็ต้องฝึกกับปู่และเหล่าภูติ นั่นจึงทำให้แทบไม่ได้เจอกันเลย ขนาดเข้าไปในบ้านเจอหน้ากันก็แทบไม่ได้คุยกัน
ยังดีที่ทั้งสองได้คอลคุยกันบ้างผ่าน skype คิราระก็เข้าใจและได้แต่ทำใจ ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ลงเอยกับริวกะ หลายครั้งที่คิราระพยายามตัดใจ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเธอรู้ตัวเอง ว่าเธอรักริวกะหมดหัวใจเลย และพอนึกถึงรอยจูบที่เธอนั้นได้เป็นฝ่ายเริ่มเอง หัวใจของเธอมันก็เต้นตูมตามทุกครั้ง นั่นเป็นหลักฐานอย่างดีว่าหัวใจของคิราระมีริวกะแค่คนเดียว
•••••••••••••••
ณ. โรงเรียนของคิราระ
คิราระจำเป็นต้องเจ้าร่วมกิจกรรม Open house ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เปิดให้สถาบันอื่นๆเข้ามาเยี่ยมชมโรงเรียนและจะมีการจัดบูธต่างๆมากมายจากนักเรียนของโรงเรียนนี้ โดยที่ห้องของคิราระตกลงจะจัดบูธ maid cafe และคิราระก็ได้รับมอบหมายให้รับหน้าที่เป็นเด็กเสิร์ฟชุดเมด ตอนแรกคิราระนั้นปฏิเสธอย่างทันควัน แต่ก็ไร้ผลเพราะเธอนั้นเหมาะสมจริงๆ
ทั้งรูปร่าง หน้าตา และ กิริยา อีกอย่างเพราะการได้เข้าไปช่วยงานแม่ ในบ้านอิซานางิ จึงทำให้คิราระทำงานได้อย่างคล่องแคล่วมากๆนั่นจึงทำให้เธอเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรับหน้าที่เมดสาวเสิร์ฟ หลังจากประชุมเตรียมงานที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า คิราระก็ขอตัวกลับบ้านทันที
นี่ก็ผ่านมา 2 อาทิตย์แล้วที่คิราระไม่ได้เจอริวกะ เพราะริวกะได้เดินทางไปที่ประเทศไทย ตอนแรกเธอคิดว่าริวกะจะไปตามหารุ้งพลอย ถึงทำใจไว้แล้วแต่เธอก็ถึงกับหงอยเลยทีเดียว แต่ริวกะบอกว่าที่จะไปประเทศไทยนั้นเพราะเพื่อนของพ่อมีปัญหาเรื่องคดีความ พ่อเขาจึงต้องไปด้วยตัวเอง ส่วนริวกะเองก็ขอตามไปด้วยเพราะรู้สึกว่าตัวเองอาจจะมีประโยชน์ในงานครั้งนี้ คิราระเดินผ่านย่านการค้าสุมิเระ ทำให้เธอนึกถึงวันที่ได้เดินมาพร้อมริวกะ เธอคิดถึงมือคู่นั่นที่จับมือไว้อย่างอบอุ่น แต่นั่นก็หลายเดือนผ่านมาแล้ว
ตั้งแต่อิซานางิกรุ๊ปเข้ามาบริหารย่านการค้าแทนบริษัท xxx ตอนนี้ย่านการค้าสุมิเระคึกคักมากๆ ทุกอย่างถูกจัดการอย่างมีระเบียบ การประดับและตกแต่งก็ทำให้วิวทิวทัศน์น่ามองมากขึ้น ถนนทางเดิน และ ความสะอาดของระบบกักเก็บขยะก็ดีขึ้น สุขลักษณะก็ยอดเยี่ยม
โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย ตอนนี้ไม่มีเด็กนักเรียนเข้ามาก่อเรื่องวุ่นวายอีกแล้ว แถมยังมีป้ายเตือนให้ระวังมิจฉาชีพอีกชั้น ทำให้ตอนนี้ย่านการค้าสุมิเระกลายเป็นที่นิยมมากกว่าเดิมอีก คิราระเดินไปเรื่อยๆในใจก็คิดถึงแต่ริวกะ
[ คิราระ ] : เมื่อไรจะกลับมานะตาบ้า รู้มั้ยว่าชั้นคิดถึง
คิราระคิดถึง คิดถึงริวกะจริงๆ ทั้งที่พยายามไม่คิด ทั้งที่พยายามเข้าใจว่าริวกะมีรุ้งพลอยในใจ สรรหาสารพัดข้ออ้างมาทำให้ไม่คิดถึง แต่108เหตุผลมันก็ไม่ช่วยให้เธอลืมเขาสักที
[ ???? ] :โดดเรียนเหรอ โนโซมิ คิราระ
เสียงปริศนาดังขึ้นทางซ้ายและใกล้มากๆ ซึ่งก็คือคนที่เราก็รู้ว่าใคร คิราระหันตามเสียงทันทีเพราะจำเสียงนั้นได้
เสียงของริวกะ
[ คิราระ ] : งื๊ออออ
คิราระร้องเสียงหลงทันที เพราะที่เธอหันไปนั้น เธอหอมแก้มริวกะเต็มๆ ซึ่งริวกะย่อตัวมาจะแกล้งเฉยๆ แต่กลายเป็นโดนหอมแก้มซะงั้น คิราระร้องเสียงหลงเลยทีเดียว ทั้งดีใจ ทั้งเขิน ทั้งอาย ที่ไปหอมแก้มริวกะจังๆเลย พอตั้งสติได้เธอจึงดีดตัวออกจากริวกะทันที
[ ริวกะ ] : เธอนี่ยังไงเนี่ย หอมแก้มชั้นหลายครั้งแล้วนะ ชั้นเสียหายนะเนี่ย
[ คิราระ ] : คนบ้า คนบ้า คนบ้า ริวกะคนบ้า มาแกล้งแบบนี้ได้ไง งื๊อออออ
ในขณะที่คิราระตีเนียนโวยวายเพราะความเขินริวกะเองก็แอบยิ้มที่มุมปากเช่นกัน มันเกิดอะไรกับความรู้สึกของเขากันนะ
[ ริวกะ ] : เฮ้อ ไปดีกว่า
ริวกะทำเป็นจะเดินหนีไปจากตรงนั้น แต่พอคิราระเห็นดังนั้นจึงรีบคว้ามือริวกะทันที เรื่องอะไรเธอจะยอมปล่อยให้เขาหนีไปล่ะ
[ คิราระ ] : เง้อออ ตาบ้าจะไปไหน ไปตั้งหลายวันชั้นคิดถึงนะ
[ ริวกะ ] : ก็บอกว่าไปธุระกับพ่อมาไง ทำไม คิดถึงชั้นเหรอ
หยอดเก่งเป็นขนมครกเลยนะไอ้หนุ่ม คิราระถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยพอเจอย้อนด้วยคำพูดตัวเอง คิราระก็ได้แต่นิ่งไม่ตอบ ส่วนริวกะก็ฉวยโอกาสเดินไปทันที คิราระจึงรีบเดินตามไปและจับมือริวกะอีกครั้ง ริวกะเองก็ไม่ได้ว่าอะไรและพากันเดินเข้าไปในย่านการค้าต่อทันที พ่อค้าแม่ค้าที่เห็นริวกะเดินมาก็เดินมาหาริวกะทันที ทั้งพูดคุย เอ่ยคำขอบคุณ
เพราะริวกะนั้นรักษาสัญญาจริงๆ สัญญาที่บอกว่าจะทำให้ที่นี่ดีขึ้น วันนั้นที่ริวกะมาที่นี่เขาไม่ได้มาเพื่อไล่นักเรียนนักเลงเท่านั้น แต่เขาได้เอาความหวังมาให้ด้วย สมแล้วที่เขาคือมังกรเพลิงแห่งอิซานางิ ริวกะยิ้มแย้มทักทายพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าตลอดทางจนคิราระสงสัยว่าจะไปไหน ก็นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่นา
[ คิราระ ] : งืมม ริวกะจะไปไหนเหรอ นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านชั้นนะ
[ ริวกะ ] : พ่อให้มารับไปกินข้าวด้วยกันที่บ้าน พอลงเครื่องปุ๊ปก็เลยมารอเธอนี่ไง
คิราระยืนตัวบิดไปหมด เจอหยอดเต็มๆแบบนี้ แถมยังอุสส่าห์มารอเธออีก ถึงจะบอกว่าไปบ้าน แต่ริวกะก็คิดจะแวะทักทายเฮบิซันซะงั้น แต่เมื่อไปถึงก็พบเจอแต่เหล่าบริวาณของเฮบิซัน พวกมันรายงานกับริวกะว่า เฮบิซันนายของมันนั้นไปนั่งบำเพ็ญศีลในป่าที่นางาซากิ
และพวกมันยังได้รายงานริวกะอีกว่านายของพวกมันนั้นดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งริวกะเองได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจเช่นกัน จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินกลับบ้านของริวกะ โดยที่คิราระได้จับมือและพูดคุยกับริวกะตลอดทาง ถามนู่นถามนี่เกี่ยวกับภาระกิจที่ประเทศไทย ซึ่งริวกะเองก็เล่าให้ฟังทุกอย่างโดยไม่อิดออดหรือทำท่าจะรำคาณเลย
แต่มื้อเย็นวันนั้นก็เกือบจะไม่ได้กินกัน เพราะชินนั้นได้ข่าวมาว่า สองพ่อลูกรินและริวกะไปอาละวาดที่เมืองไทยซะเละเทะ ริวกะน่ะยังเด็กยังไม่รู้จักระงับอารมณ์พอทำใจให้เชื่อได้ แต่รินนี่เป็นถึงประธานของอิซานางิ อายุก็เยอะแล้วแต่ไม่รู้จักยับยั้งอารมณ์ ทำให้ชินนั้นเตรียมที่จะสั่งสอนสองพ่อลูกสักคนละตุ้บสองตุ้บ
สองพ่อลูกนั้นก็คิดว่าตัวเองจะชะตาขาดแน่ๆ ตายแหน่ ตายแหน่ แต่โชคดีที่มิไรเข้ามาห้ามก่อน ชินก็รักหลานสาวบุญธรรมคนนี้มากๆจึงยอมรามือไว้แล้วมากินข้าวกันเหมือนเดิม อีกทั้งยังมีข่าวดีอีกเรื่องเพราะรินได้ประกาศว่า
[ ริน ] : เอ้อ พอดีพ่อมีเรื่องจะบอก พ่อจะรับลูกสาวของเพื่อนมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคนนึงนะ
[ มิไร ] : เอ๋ ทำไมล่ะคะคุณพ่อ เกิดอะไรขึ้นกับน้องคนนั้นรึเปล่าคะ
[ ริน ] : การไปไทยครั้งนี้ พ่อไปเพราะช่วยเพื่อนที่โดนใส่ร้าย ถึงพ่อจะช่วยต่อสู้ในด้านกฎหมายจนชนะคดี และไล่เก็บพวกเลวๆเรียงตัวจนมันขยาดไปแล้ว แต่พ่อก็ยังไม่ไว้วางใจ
[ ริวกะ ] : ใช่ครับพี่มิไร จิตใจคนสมัยนี้ตกต่ำลงทุกวัน ผมไปเห็นกับตา ขนาดพี่เขานั่งร้องไห้ยังจะไปพูดจาแดกดัน ผมเลยต้องอัดไปสักตุ้บสองตุ้บให้เงียบๆ
[ ริน ] : อื้ม ตามที่ริวกะพูด ถ้าริวกะไม่ใช้พลังอัสนีวิ่งเข้าไป ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นบ้าง หลังจากชนะคดี พ่อจึงตัดสินใจรับลูกสาวของเพื่อนพ่อมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคน อย่างน้อยชื่อของตระกูลเราก็ยังเป็นเกราะกำบังให้ได้บ้าง
[ ชิน ] : อื้ม พ่อเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกกับริวกะต้องลงมือ แต่ถึงขนาดที่สลบไป 30 กว่าคน มันก็หนักมือไปนะ ริน ริวกะ
[ ริน ] : ขอโทษครับพ่อ
[ ริวกะ ] : ขอโทษครับปู่
[ ชิน ] : อื้ม แล้วลูกสาวคนนี้เป็นลูกของเพื่อนคนไหนล่ะ ริน
[ ริน ] : ลูกสาวของเจ้าทศครับพ่อ ทศพล มิตรพงไพร
[ คาราสึ เทนงู ] : เห้ย !!! ว่าไงนะเจ้าริน
อยู่ดีๆ คาราสึ เทนงู หรือ คุโระ พ่อของซึบาสะมารุ ฮิคาริ โคฮาคุ ก็วาร์ปมาโผล่กลางวงข้าว พอได้ยินชื่อนามสกุลมิตรพงไพร ดูท่าทางคาราสึเทนงูจะตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินชื่อตระกูลนี้ คิราระเองก็ตกใจที่อยู่ดีๆตรงหน้าได้ปรากฎร่างของชายท่าทางอายุจะพอๆกับริน สวมใส่ชุดแบบเดียวกับชินแต่หนวดนั้นยาวกว่ามากๆ แถมมองผ่านๆยังรู้เลยว่าออร่าที่แผ่พุ่งออกมานั้น ช่างเปี่ยมไปด้วยบารมีจริงๆ
[ ริวกะ ] : เฮือก แค่กๆๆๆ ลุงคุโระ มาไงเนี่ย
[ ริน ] : เหวอ คุโระ อะไรของนายเนี่ย
[ คุโระ ] : เห้ย !!! ตอบคำถามก่อน เมื่อกี้ข้าได้ยินแกบอกว่า มิตรพงไพร ใช่ตระกูลหมอสมุนไพรที่โด่งดังมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนนั่นมั้ย
[ ริน ] : เออใช่ ลูกหลานตระกูลมิตรพงไพร
[ คุโระ ] : เจ้ารินแล้วเด็กที่แกรับมาเป็นลูกบุญธรรมล่ะ มีฝีมือด้านหมอมั้ย
[ ริน ] : เรียกว่า อัจฉริยะเลยเหอะ อายุ 10 ขวบฝังเข็มรักษาคนได้แล้ว ตอนนี้อายุ 17 ความเก่งก็เท่ากับหมอมืออาชีพแล้ว เชี่ยวชาญศาสตร์การรักษาด้วยสมุนไพรและฝังเข็ม กดจุด ทุกแขนง โดยเฉพาะเสวี่ยฉู่
[ คุโระ ] : ตาแหลมมากเจ้าริน ในเมื่อเป็นลูกบุญธรรมเจ้าก็เท่ากับเป็นลูกบุญธรรมของข้าด้วย พามาที่นี่สิ่ ข้าคันไม้คันมืออยากศึกษาวิชาแพทย์ยุคใหม่จากนางเหมือนกัน
[ ริน ] : คุโระใจเย็นๆ อั้มยังต้องเรียนหนังสือ ไว้ปิดเทอมชั้นจะพามาแน่ๆ
[ คุโระ ] : ดี ข้าจะรอ ชินแล้วเจ้าล่ะ เห็นด้วยหรือเปล่าที่จะได้หลานบุญธรรมเพิ่ม
[ ชิน ] : ก็ดีสิ่ จะได้มีหลานสาวเพิ่มอีกคน เพราะเจ้าริวกะก็ซนเหลือเกิน มีพี่สาวเพิ่มอีกคนจะได้คุมให้อยู่
ริวกะถึงกับสำลักพรวดออกมา เพราะตอนอยู่ที่ไทย เขาได้เห็นสิ่งที่เรียกว่าสกัดจุดจากพี่สาวคนใหม่ และเขาคิดว่าถ้าโดนกับตัวคงซี้มองเท่งแน่ ทุกคนถึงกับหัวเราะกับท่าทางของริวกะรวมถึงคิราระที่นั่งข้างๆด้วย แต่เธอก็ต้องสะดุดกึ้กเพราะ คุโระ หรือ คาราสึ เทนงู เดินมาตรงที่เธอนั่ง คิราระมองร่างที่ใหญ่โตสูงเกือบ 2 เมตร แค่มองด้วยตาก็รู้ว่าต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ
[ คุโระ ] : นี่น่ะเหรอ ลูกสาวบุญธรรมของข้า ที่ซึบาสะมารุบอกไว้ อืมม แค่มองก็รู้แล้วว่าจิตใจดีจริง คุรุมิ เจ้าเลี้ยงลูกได้ดีมากๆ
[ คุรุมิ ] : ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ท่านคาราสึ เทนงู
เพียงแต่มองเท่านั้น คาราสึ เทนงู ก็สัมผัสได้ถึงจิตใจที่บริสุทธิ์ ของคิราระทันที จนถึงกับอดที่จะเอ่ยปากชมไม่ได้จริงๆ
[ คุโระ ] : ชินเจ้าเองก็ตาแหลมไม่เบา ที่ชวนนางเข้ามาในบ้าน เพื่อฝึกการต่อสู้
[ ชิน ] : อื้ม รูปร่าง ปราดเปรียว เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เข้ามาฝึกไม่กี่เดือนฝีมือก็รุดหน้าไปมาก ต้องชมหนูคิราระด้วยที่มีทั้งพรสวรรค์และพรแสวงด้วย
[ คุโระ ] : ชิน เจ้าดูสุขุม มีไหวพริบ สมวัยจริงๆ ไม่เหมือนลูกชายของเจ้า เฮ้อ เหนื่อยใจ
[ ริน ] : โอ้โหขึ้นเลย พูดแบบนี้หมายความว่าไงฟะ คุโระ
[ คุโระ ] : ทำไมล่ะ อายุขนาดนี้ยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้ลงไปอาละวาดพร้อมเจ้าริวกะ ( ริวกะสำลัก คิราระแอบหัวเราะ ) หรือข้องใจล่ะ อยากเจ็บตัวอีกรึเปล่า
[ ริน ] : ก็มาสิ่ แบบนี้ทั้งวันยังได้
ทั้งคู่ทำท่า ฮึ่มๆใส่กันเหมือนจะตีกันอีกแล้ว จนชินต้องอะแฮ่มใส่ รินจึงรู้ตัวว่าพ่อเริ่มอารมณ์ไม่ดีละ เขาจึงขยิบตาเป็นอันรู้กันกับคุโระว่า หยุดก่อน เดี๋ยวตูถึงฆาตแน่ๆ คุโระจึงรามือแค่นั้น ก่อนที่จะหันมาคุยกับคิราระ
[ คุโระ ] : ข้าเป็นพ่อของ ซึบาสะมารุ ก็เท่ากับเป็นพ่อบุญธรรมของเจ้า ไหนๆก็ได้เจอกันแล้ว เจ้ามีอะไรจะขอข้าหรือไม่ อยากได้ของวิเศษสิ่งใด ข้ายินดีให้เพื่อเป็นของรับขวัญ
[ คิราระ ] : คุณเป็นพ่อบุญธรรมของหนูจริงๆเหรอคะ
[ คาราสึ เทนงู ] : ถูกต้อง เอาล่ะว่ามาเจ้าอยากอะไรเป็นของขวัญ ถ้าให้ได้ข้าจะให้ทุกอย่าง
[ คิราระ ] : หนูขอกอด คุณได้ไหมคะ
คำขอของคิราระนั้น ทำให้ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก คำขอจากหญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าธิดาบุญธรรมแห่งคาราสึเทนงู ไม่ใช่พัดวิเศษที่เรียกลมพายุได้ ไม่ใช่ดาบวิเศษที่ตกทอดกันมา ไม่ใช่ของวิเศษใดๆ แต่เป็นสิ่งที่เรียบง่าย เธอขอแค่กอดเท่านั้น
คุรุมิถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ถึงกับก้มหน้าร้องไห้ 4 ปีแล้วที่สามีเธอเสียไป 4 ปีแล้วที่คิราระไม่มีพ่อเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ถึงเธอจะพยายามทำหน้าที่พ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน แต่เธอรู้ดีว่ายังไงก็ไม่สามารถทดแทนกันได้
ตลอดเวลาถึงคิราระจะไม่แสดงอาการใดๆออกมา แต่เธอก็รู้ว่าลูกสาวของเธอนั้นน้อยใจเพียงใด อย่าว่าแต่คุรุมิที่ตกใจ ชิน ริน มิไร ก็ตกใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคาราสึ เทนงู ถึงแม้ทั้ง4 จะได้ยินคุรุมิพูดให้ฟังบ่อยๆว่าลูกสาวของเธอเป็นเด็กน่ารัก ถึงจะแก่นเซี้ยวตามวัยไปบ้างแต่ก็ยังเป็นเด็กดี และคำพูดต่างๆมากมายของคุรุมินั้นถูกแสดงออกโดยคิราระตอนนี้แล้ว เธอเป็นเด็กดีเหมือนที่แม่เธอบอกจริงๆ
[ คาราสึ เทนงู ] : ได้สิ่ ข้าอนุญาต
คาราสึ เทนงูยิ้มให้และพูดเพื่อเป็นการอนุญาต คิราระได้ยินดังนั้นจึงรีบคลานเข้าไปหาและยืนขึ้นเพื่อกอดคาราสึเทนงูทันที นี่แหละสิ่งที่เธอโหยหามาตลอด นี่แหละสิ่งที่เธออยากจะทำ ในวันที่เธอเหนื่อยล้าเธออยากกอดพ่อบ้าง เธออยากให้พ่อกอดเธอลูบหัวเธอบ้างแค่นั้นเอง และเหมือนคาราสึเทนงู จะรับรู้ความปรารถนาของคิราระ เขาใช้มือซ้ายกอดไปที่เอวของเธอ และใช้มือขวาลูบหัวอย่างแผ่วเบา
การกระทำเล็กน้อยแค่นี้มันส่งผลอย่างมากต่อคิราระจริงๆ เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ คุรุมิเองก็เช่นกันเธอนั่งก้มหน้าเอามือปิดปากและร้องไห้ทันทีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ภาพที่เธอไม่ได้เห็นมานานแล้ว ภาพที่คิราระร้องไห้เหมือนเด็กคนอื่นทั่วๆไปโดยไม่เก็บอาการใดๆทั้งสิ้น เพียงเพื่ออยากให้ผู้เป็นแม่สบายใจและทำงานได้เต็มที่
[ ชิน ] : อื้ม วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ ชั้นได้หลานสาวเพิ่มอีกคน คาราสึ เทนงู ก็ได้ลูกสาว เอาล่ะมากินข้าวกันเถอะ คาราสึ เทนงู เจ้าจะร่วมโต๊ะด้วยมั้ย
[ คาราสึ เทนงู ] : มามา ข้าขอร่วมโต๊ะด้วย
ชินเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงได้เอ่ยขึ้นเพื่อให้ทุกคนมากินข้าวกัน คาราสึ เทนงู ก็จะขอร่วมโต๊ะอาหารด้วย คุรุมิกับคิราระก็รับหน้าที่ช่วยเสิร์ฟอาหารให้ทุกๆคน และก็มานั่งร่วมวงด้วย วันนั้นคิราระมีความสุขอย่างมากมาย เธอได้กอดพ่อบุญธรรม ได้กินข้าวร่วมกับท่านเหมือนที่เธอต้องการมาตลอดอีกทั้งยังมีแม่นั่งข้างๆด้วย
จนเวลาผ่านไป ทุกคนทานอาหารกันอิ่มแล้ว ชินได้ลุกขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้วเพื่อไปเดินย่อยอาหารและทำสมาธิที่ห้องพระซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ในการสนทนาหลังจากนั้นอยู่ดีๆคาราสึเทนงู ก็พูดขึ้นมา
[ คาราสึ เทนงู ] : 555 ข้าไม่อยากได้คิราระเป็นลูกบุญธรรมแล้วล่ะ เจ้าริน ข้าอยากได้เป็นลูกสะใภ้เลย ข้าถูกใจนาง
ทุกคนยกเว้นรินถึงกับสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว เพราะอยู่ดีๆคาราสึ เทนงู ก็เอ่ยขึ้นมาซะดื้อๆเลย ยิ่งคิราระนี่แทบไปไม่เป็นเลยเมื่อเจอพูดตรงๆแบบนี้ ส่วนริวก็ถึงกับสำลักซุปมิโสะเลยทีเดียว
[ ริน ] : เห้ยๆๆ คุโระ หนูคิราระพึ่งจะอายุ 17 เอง นายไปพูดแบบนี้ต่อหน้าเด็กได้ไง
[ คาราสึ เทนงู ] : อายุ 17 แล้วยังไง สมัยเอโดะ อายุ 13-14 ก็ออกเรือนแต่งงานหมดแล้ว
[ ริน ] : เห้ย ๆ ๆ นายจะเอาขนบธรรมเนียน วัฒนธรรม เมื่อร้อยกว่าปีก่อนมาอ้างอิงไม่ได้นะคุโระ สมัยนั้นพ่อชั้นยังไม่เกิดด้วยซ้ำ อีกอย่างแล้วหนูรุ้งพลอยล่ะ ชั้นก็ยังอยากให้เจ้าริวกะรับผิดชอบชีวิตของหนูรุ้งพลอยด้วยนะ
คิราระหน้าจ๋อยทันที เมื่อรินพูดถึงรุ้งพลอย ตั้งแต่วันนั้นที่คิราระรู้ตัวว่าเธอรักริวกะ แค่ชื่อรุ้งพลอยคำเดียว มันก็ทำให้หัวใจเธอสั่น ทำให้หัวใจของเธอเจ็บได้แล้ว คุรุมิเองก็นั่งนิ่งเลย เธอไม่พูดไม่อะไรทั้งสิ้นเพราะเธอนั้นไม่กล้าจริงๆไม่กล้าอาจเอื้อมให้ลูกสาวไปยืนทัดเทียมลูกชายของผู้เป็นนายจริงๆ
[ คาราสึ เทนงู ] : เห้ย !!! เข้าใจอะไรผิดเปล่าเจ้าริน ข้าไม่ได้บอกว่าอยากให้ลูกสาวบุญธรรมของข้าเป็นเมียคนเดียวนะ ตระกูลของเจ้าก็ออกจะร่ำรวย เลี้ยงลูกสะใภ้สัก 7 คน 8 คน ก็ไหว เจ้าเห็นด้วยกับข้ามั้ย มิไร
[ มิไร ] : คะ ค่ะๆๆ คุณลุงคุโระ
ริวกะกับมิไรถึงกับสะดุ้งขึ้นพร้อมกันทันทีที่คาราสึ เทนงูถามขึ้น ว่าแต่ทำไมสองคนนี้ต้องสะดุ้งขึ้นพร้อมกันนะ แถมยังมองหน้ากันเลิ่กลั่กด้วย
[ ริน ] : อันที่จริงชั้นก็ไม่ได้สน ขนบธรรมเนียมผัวเดียวเมียเดียวหรอกนะ ถ้าริวกะรักใครชั้นก็คิดว่าเขานั้นคิดดีแล้ว แต่สาวๆล่ะจะมีใครที่ยอมให้เจ้าริวกะมีเมียหลายคน อีกอย่างชั้นนึกสภาพเจ้าลูกชายของชั้นมีแฟนไม่ออกแฮะ ( ริวกะสะดุ้งอีกครั้ง ) จะเอาใจสาวๆเป็นเร้อออ อีกอย่างการจะคุมเมียหลายๆคนมันยากนะคุโระ
[ คาราสึ เทนงู ] : จะให้ข้าเล่าไหมล่ะ ว่าก่อนที่เจ้าจะเจอการะเกด เจ้าน่ะร้ายแค่ไหนเจ้าริน เจ้าริวกะเห็นเงียบๆแบบนี้ แต่ข้าว่าเรื่องเอาใจสตรีก็คงไม่ธรรมดาเหมือนเหมือนเจ้าสมัยก่อนหรอก แล้วไหนจะเรื่อ~
[ ริน ] : อ่ะฮื้อ อ่ะแฮ่มมม หยุดแค่นั้น พอเลยคุโระ พอออออออ
คุโระหรือคาราสึ เทนงู ถึงกับหัวเราะลั่นที่ทำให้รินเสียอาการจนได้ ต่างกับริวกะและมิไรที่นั่งกระสับกระส่ายทันที ส่วนคิราระตอนนี้มึนหัวไปหมดทุกอย่างเข้ามาเร็วมากๆ ทั้งดีใจที่มีพ่อบุญธรรม ทั้งตื่นเต้นที่พ่อบุญธรรมอยากให้เธอเป็นลูกสะใภ้ ทั้งที่รินพูดเรื่องรุ้งพลอย อีกทั้งที่รินบอกว่าไม่ถือสาถ้าริวกะจะมีเมียหลายคน
ตอนนี้ความรู้สึกในหัวตีกันไปหมดแล้ว จนอีกสักครู่มิไรจึงขอตัวไปที่ห้องนอนเพื่ออาบน้ำและเคลียร์เอกสารสำคัญๆ รินกับคาราสึ เทนงู ก็ขอตัวไปเล่นหมากล้อม ส่วนสำรับอาหารนั้นคุรุมิกับแม่บ้านคนอื่นๆก็รับหน้าที่จัดการเก็บเพราะเธออยากให้คิราระพักผ่อน ส่วนริวกะนั้นหายจ้อย
คิราระจึงวิ่งตามหาริวกะซึ่งเธอตัดสินใจมาที่ทะเลสาบหลังบ้าน ซึ่งก็เจอจริงๆริวกะกำลังเอามือป้องปากหาววอดๆ และเดินไปทางนั้นจริงๆ คิราระจึงรีบวิ่งตามไปต่อทันทีและแปปเดียวก็ตามทัน
[ คิราระ ] : ริวกะ รอด้วยย
[ ริวกะ ] : หืม ทำไมไม่พักผ่อนล่ะ ตามมาทำไมละเนี่ย
[ คิราระ ] : ไล่กันอีกแล้วนะริวกะคนบ้า
[ ริวกะ ] : เปล่านะ ฮ๊าวว
[ คิราระ ] : เนี่ยๆๆๆ ไล่กันเห็นๆเลย
คิราระกับริวกะเถียงกันไปเถียงกันมาราวกับคู่รักทะเลาะกันไม่มีผิด จนทั้งคู่เดินมาถึงทะเลสาบริวกะก็นึกอะไรออก
[ ริวกะ ] : เอ้อ ชั้นนึกอะไรออก รอนี่นะอย่าเพิ่งไปไหน
[ คิราระ ] : หืม อะไรหรอ
ริวกะพูดแล้วก็เดินไปทันที เขาเดินไปยังเขตอาคมที่ยามิเคยบอก แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ปกติคิราระจะมองไม่เห็นข้างใน แต่ตอนนี้เธอมองเห็นมันชัดเจนเลย บริเวณนี้ว่าสวยแล้วแต่พอได้มองเห็นข้างในนั้น คิราระถึงกับพูดไม่ออกเลย เพราะมันสวยงามมากๆ ต้นไม้บางต้นเกิดมาก็ไม่เคยเห็น เรียกว่าเป็นแดนสวรรค์ก็ได้ และข้างในก็มีบ้านทรงญี่ปุ่นแบบโบราณอีก 1 หลัง รอบบ้านก็มีทั้งบ่อน้ำเล็กๆ น้ำพุ ที่สำคัญต้นไม้ในบริเวณนั้นดูอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่บนโลก
[ คิราระ ] : สวย สวยจังเลย ต้นไม้สีส้มสวยมากเลย เอ๊ะนั่นพี่ฮิคารินี่ แต่งชุดกิโมโนสวยจังเลย
[ ริวกะ ] : หะ หาาาาาา
ริวกะหันควั่บเลย หลังจากที่คิราระพูดขึ้นว่าเห็นต้นไม้สีส้มกับฮิคาริ เพราะทั้งสองอย่างนั้นอยู่ในเขตอาคมของ คาราสึ เทนงู คนที่ไม่ได้รับอนุญาตจะไม่มีทางมองเห็นข้างในแน่ๆ แต่ทำไมคิราระมองเห็น ก่อนที่ริวกะจะสงสัยไปมากกว่านี้ คิราระก็วิ่งไปเข้าไปข้างในแล้ว คิราระวิ่งผ่านเขตแดนอาคมง่ายๆเลย ซึ่งเธอเองก็คงลืมตัวเช่นกัน ฮิคาริเองก็ตกใจที่คิราระเข้ามาได้
[ ฮิคาริ ] : เอ๊ะ คิราระเจ้าเข้ามาในนี้ได้ไงเนี่ย
[ คิราระ ] : ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่ฮิคาริ แต่อยู่ดีๆก็มองเห็น
ฮิคาริจึงชำเลืองมองไปที่นายน้อยที่กำลังเดินมาข้างหลัง ซึ่งเขานั้นก็ยังทำหน้ามึนเหมือนกัน แต่ฮิคาริก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนที่จะพูดกับคิราระ
[ ฮิคาริ ] : เอ้อออออออ ข้านึกขึ้นได้ว่า ข้าต้องไปธุระสักหน่อย ฝากทางนี้ด้วยนะคิราระ ถึงเวลาที่นายน้อยต้องกินยาพอดี
พูดจบฮิคาริก็หายวับไปเลยยังไม่ทันที่คิราระจะได้ อ้าปากถามสักคำ คิราระหันมามองที่ริวกะก็พบว่าเขาจับไปที่เอวแถมยังทำท่าเหมือนปวดอีกด้วย แต่ริวกะก็ไม่พูดอะไรและเดินไปยังบ้านหลังนั้น แน่นอนว่าคิราระเดินตามไปแน่นอน จนกระทั่งมาถึงหน้าบ้านหลังเล็กๆ
คิราระรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด เพราะบ้านหลังนี้มันเรียบง่ายแต่สวยงามมากๆ เหมือนเป็นบ้านตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน กลิ่นไม้กลิ่นธูปกลิ่นกระดาษกลิ่นใบหญ้ายังอบอวนไปหมด กลิ่นเหล่านี้ทำให้รู้สึกสงบจริงๆ สักพักริวกะก็เดินออกมาจากห้องๆหนึ่งและมาหาเธอ
[ ริวกะ ] : อ่ะ ชั้นซื้อมาฝาก
[ คิราระ ] : ฝากชั้นเหรอ ริวกะซื้อให้ชั้นจริงๆเหรอ
[ ริวกะ ] : อื้ม พูดจริงๆ ชั้นซื้อมาให้เธอนั่นแหละ โนโซมิ
คิราระรับของนั้นมาอย่างรวดเร็ว เธอมองหน้าริวกะอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆแกะมันออก และเธอก็พบว่ามันเป็น
กล่องไม้ลวดลายแปลกตา เมื่อเปิดฝากล่องออกก็พบว่าข้างในนั้นปูด้วยพื้นผ้ากำมะหยี่สีแดงสด และภายในกล่องคิราระก็เห็นแท่งไม้แท่งหนึ่ง
มันคือปิ่นปักผมนั่นเอง คิราระหยิบขึ้นมาและจ้องมองด้วยความหลงไหล มันเป็นปิ่นปักผมไม้เนื้อเนียนสีน้ำตาล ปลายของปิ่นปักผมนั้นมีลวดลายแปลกๆไม่รู้ว่าคืออะไรแต่มันช่างงดงามเหลือเกิน แถมตุ้งติ้งที่ห้อยอยู่ก็มีลักษณะคล้ายๆกัน ลายมันโค้งๆงอๆดูแปลกตาและสวยงามมากๆ
[ ริวกะ ] : ชอบมั้ย โนโซมิ
[ คิราระ ] : อื้อๆๆ ชอบๆๆ สวยจังเลย ลวดลายพวกนี้อะไรสวยมากเลย
[ ริวกะ ] : ที่กล่องเรียกว่า ลายกนกน่ะ เป็นศิลปะการแกะสลักของไทย ส่วนที่ปิ่นปักผมตรงปลายมันเป็นลายกนก หงอนพญานาค
[ คิราระ ] : พญานาคคืออะไรเหรอริวกะ
[ ริวกะ ] : เป็นสัตว์วิเศษในตำนานของไทยน่ะ ว่ากันว่าอาศัยอยู่ใต้แม่น้ำ สามารถบันดาลฟ้าฝนได้ ชาวบ้านที่ปลูกพืชผัก ปลูกข้าว จึงมักบูชาพญานาคเพื่อขอฝน
[ คิราระ ] : งื้อออ สวยจังเลย ขอบคุณค่ะ
คิราระไม่พูดเปล่าเธอยังเข้าไปจุ๊บที่แก้มและกอดไปที่เอวของริวกะด้วย และทันทีที่กอดคิราระก็รู้สึกได้ว่าตัวริวกะนั้นกระตุก แต่มันไม่ใช่กระตุกเพราะความตกใจที่โดนเธอหอมแก้ม คิราระโดนริวกะดุทันที เขาดุเธอว่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากเกินไป แต่คิราระก็เถียงไปว่าก็ทำกับริวกะคนเดียว จนริวกะนั้นเถียงไม่ออกเลย
[ คิราระ ] : ริวกะ ทำท่าบันไซหน่อย ( เหมือนไชโยบ้านเรา )
[ ริวกะ ] : หืม อะไรของเธอเนี่ย
[ คิราระ ] : น่าๆทำเถอะ
ริวกะสงสัยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี และเมื่อริวกะยกแขนขึ้นคิราระก็ถลกชายเสื้อขึ้นทันที และคิราระก็ได้เห็นสิ่งที่เธอสงสัย เพราะเธอรู้สึกว่าริวกะแปลกๆตั้งแต่เดินจับเอวแล้ว อีกทั้งที่ตัวกระตุกตอนโดนเธอกอดเมื่อกี้อีก และมันก็เป็นไปตามที่เธอสงสัย ทั้งตัวริวกะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวหลายจุดและที่ทำให้ตกใจคือมีรอยกระสุนปืนที่เอวด้วย ถึงมันจะเป็นเพียงรอยแผลเป็นแต่มันก็ทำให้คิราระสะเทือนใจไม่ใช่น้อย
[ คิราระ ] : นี่ใช่มั้ยที่คุณท่านบอกว่าไปอาละวาดที่เมืองไทยมา ดูสิ่มีแค่รอยช้ำเต็มไปหมด
[ ริวกะ ] : เอาน่า แค่นี้เอง
[ คิราระ ] : ทำไมไม่เรียกพวกพี่ยามิไปช่วยล่ะ ถ้ามันเกินตัวไปน่ะ
[ ริวกะ ] : ชั้นเรียกไปไม่ได้ เพราะเรื่องนี้จะประเจิดประเจ้อไม่ได้ อีกอย่างชั้นยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเรียกเหล่าภูติออกจากญี่ปุ่นได้น่ะ
คิราระได้ฟังก็ได้แต่ทำใจ เธอรู้ว่าริวกะมีเหตุผลจริงๆ ถึงไม่เรียกพวกยามิไป แต่รอยช้ำตรงหน้ามันก็ทำให้เธอเจ็บปวดไม่น้อยเลย เธออยากอยู่ที่นี่ต่อแต่จะหาข้ออ้างอะไรดีล่ะ อ๋อๆๆ เมื่อกี้พี่ฮิคาริบอกว่าได้เวลากินยานี่นา
[ คิราระ ] : ริวกะ กินยาได้แล้ววววว พี่ฮิคาริสั่งมา
[ ริวกะ ] : อื้ม รู้แล้ว เดี๋ยวชั้นกินเองน่าเธอกลับไปเถอะ เดี๋ยวน้าคุรุมิ จะตามหา
[ คิราระ ] : ไม่เอา ไม่เอา ชั้นต้องไปดูว่าริวกะกินยาแล้~ อ๊อยยยย งื๊ออออ
ริวกะหยิกหมับจมูกโด่งสวยของคิราระทันที ถึงจะไม่แรงมาก แต่คิราระก็ร้องโอ้ยๆ เลยทีเดียว อีกอย่างเธอไม่คิดว่าริวกะจะทำแบบนี้ด้วย
[ ริวกะ ] : ชั้นบอกแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าไว้ใจผู้ชาย ฮึ๊ ยัยบ๊องเอ๊ย แล้ววันนี้หอมแก้มชั้น 2 รอบแล้วนะ ยัยบ๊อง
[ คิราระ ] : งื๊ออ ก็ครั้งแรกริวกะแกล้งนี่นา แล้วเมื่อกี้ก็อยากขอบคุณที่อุสส่าห์ซื้อของมาฝาก งื๊อออ
ริวกะได้ฟังก็อมยิ้มนิดๆ เขาปล่อยมือที่บีบจมูกคิราระไว้ทันที คิราระตอนนี้ทำหน้าตางอนได้น่ารักมากๆเลยล่ะ จนหัวใจริวกะเริ่มเต้นผิดจังหวะแล้ว
[ ริวกะ ] : ยังไงก็เถอะ เธอกลับไปข้างนอกได้แล้ว เดี๋ยวมันจะเสียหาย
[ คิราระ ] : อะไรเสียหาย ชั้นไม่เสียหายหรอก ชั้นเชื่อว่าริวกะจะไม่ทำอะไรชั้น
[ ริวกะ ] : ชั้นบอกเธอว่าไงโนโซมิ อย่าไว้ใจผู้ชาย แล้วอีกอย่างคนที่จะเสียหายคือชั้น
[ คิราระ ] : เง้อออ เสียหายอะไร ริวกะจะเสียหายอะไร
เชอะ
[ ริวกะ ] : ครั้งก่อนก็แอบจูบชั้นไปครั้งนึงแล้ว เฮ้อออ แย่จังโดนลวนลามตอนใกล้หลับซะงั้น
ปรื๊ดดดด คิราระถึงกับหน้าแดงแจ๋ ทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งทำอะไรไม่ถูก ริวกะรู้ว่าเธอจูบด้วย ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี
[ คิราระ ] : งื๊ออออ ริวกะคนบ้า รู้แล้วทำไมไม่ตื่น นี่แน่ะๆๆๆ งื๊ออ ( ทุบไปที่แขนริวกะ น่ารักสาด )
[ ริวกะ ] : จะหลับจริงๆ โดนจูบปุ๊ปหลับเลย คร่อกกกกก
หน้าของคิราระตอนนี้เหมือนจะแดงขึ้น แดงขึ้น แดงขึ้น เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าริวกะจะได้ยินเธอสารภาพอะไรอีกรึเปล่า แต่คงไม่หรอกเพราะเขาบอกนี่นาว่าโดนจูบปุ๊ปหลับเลย
[ คิราระ ] : งื๊อออ ริวกะบ้า บ้า บ้า บ้า
คิราระ งอแงใส่ริวกะได้แบบว่า โคตรจะน่ารักเลย ริวกะเองก็ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว เขาหยิกมั่บเข้าที่แก้มขาวๆของคิราระ จนเธอหยุดงอแง
[ ริวกะ ] : เอาล่ะ ใกล้จะมืดแล้วเธอกลับได้แล้วนะ อย่าดื้อ
ริวกะพูดแค่นั้นและหันหลังเดินเข้าบ้านหลังนั้นทันที แต่คิราระก็พุ่งกอดเอวไว้ทันที คิราระกอดแน่นไม่ยอมปล่อยเลยทีเดียว แน่นจนตัวทั้ง2 ชิดกันหน้าอกไซส์36ถึงกับบี้แบนเพราะแรงกอดเลยทีเดียว เธอยังคงอ้อนริวกะอีกตามเคย แถมยังเอาหน้าแนบอิงไปกับแผ่นหลังที่ชวนให้อบอุ่นของริวกะเต็มๆ
[ คิราระ ] : นะ นะ ริวกะ ขอเข้าไปด้วยนะ ถ้าริวกะกินยาแล้ว ชั้นจะกลับเลย
ริวกะมีสีหน้าที่หนักใจไม่น้อย ทำไมกันทำไมริวกะต้องทำแบบนั้น ทั้งๆที่นางาซากิก็พาไปมาแล้ว เรื่องพลังกับความสามารถของริวกะคิราระเองก็รู้หมดแล้ว ริวกะยังมีเรื่องที่ปิดบังคิราระอยู่อีกรึเปล่า เขาจำใจยอมให้คิราระเข้าไปในบ้าน เพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่ยอมกลับง่ายๆ คิราระก็ดีใจร้องเย้ๆ แถมกอดริวกะแน่นกว่าเดิม จนริวกะต้องข่มใจเอาไว้ไม่ให้มังกรน้อยของเขาตื่นมาอาละวาด
ริวกะเดินไปที่อีกมุมหนึ่งซึ่งคิราระก็ตามไปด้วย มันเป็นห้องเล็กๆ ที่มีทั้งหม้อยา ทั้งอุปกรณ์ปรุงยา ที่เป็นของที่ใช้มือทำทั้งหมด ริวกะวานให้เธอตักยาจากหม้อต้มดังกล่าว คิราระก็ทำตามโดยไม่อิดออด ส่วนริวกะก็เดินไปตักน้ำสะอาดสำหรับดื่มจากหม้อดินที่อยู่ตรงข้าม
[ คิราระ ] : ยาอะไรเหรอ ริวกะ
[ ริวกะ ] : ยาที่ลุงคุโระปรุงให้น่ะ
[ คิราระ ] : คุณคาราสึ เทนงูเหรอ ยาอะไรน่ะ สีน่ากลัวมากเลย
[ ริวกะ ] : ยาแก้ช้ำในน่ะ รสชาติก็เหมือนสีนั่นแหละแหละ แต่ชั้นต้องกินนี่นาทำไงได้ แล้วอีกอย่างลุงคุโระรับเธอเป็นลูกสาวบุญธรรมแล้ว เรียกคุณพ่อได้แล้วล่ะ
คิราระยิ้มรับกับสิ่งที่ริวกะพูด ทั้งคู่ถือยาทั้งหมดออกมาจากห้องนั้นและไปที่ห้องของริวกะทันที คิราระใจเต้นตุ้บๆ เลยทีเดียว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ไปห้องผู้ชายและยังเป็นห้องของริวกะด้วย
[ ริวกะ ] : มาชั้นถือเอง เธอกลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวชั้นจะเรียกฮิคาริมา จะได้กลับไปเป็นเพื่อน
[ คิราระ ] : ไม่เอา ไม่กลับ แค่ถือเข้าไปเองจะเป็นอะไรไป
ทั้งคู่เถียงกันไปๆมาๆ จนสุดท้ายคิราระก็ชนะ ขนาดบอกว่า ตอนนี้ห้องรก คิราระก็ยังไม่ฟัง ริวกะจึงจำใจยอมให้คิราระเข้ามาในห้อง คิราระเดินตามริวกะเข้ามาในห้องก็พบว่าในห้องนั้นแทบจะไม่ต่างจากห้องเธอเลยแถมเครื่องใช้และเครื่องอำนวยความสะดวกก็ไม่มี มีแค่ผ้าปูนอนแค่ 1 ชุด
แต่ไอ้สิ่งที่สะดุดตาคือ ดาวกระจาย คุไน และ อีกสารพัดเครื่องมือนินจาที่เธอเคยเห็นในหนังสือและอนิเมะ ทำไมมากองตรงมุมห้องได้ล่ะ อีกทั้งตรงผนังยังมีแผ่นไม้หลายขนาดแต้มสีราวกับเป็นเป้าไว้สำหรับฝึกขว้างดาวกระจายอีก แต่ที่ทำให้คิราระตกใจคือมีผ้าที่เปื้อนเลือดด้วย
[ คิราระ ] : เง้อออออ ไหนบอกห้องรกไง ริวกะโกหก
[ ริวกะ ] : ป่าว ก็นั่นไงดาวกระจาย ยังกองเกะกะตรงนั้นอยู่เลย
[ คิราระ ] : โหหหห แค่นั้นน่ะเหรอเรียกว่ารก ตาบ้าริวกะ เอ...แล้วนี่ปลั้กไฟอยู่ไหน ทำไมจุดแต่เทียนล่ะ
คิราระเริ่มสังเกตสิ่งรอบตัว จะว่าไปตั้งแต่เข้ามาในเขตอาคมนี้ก็ไม่มีหลอดไฟ หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ให้แสงสว่างเลย มีแต่เชิงเทียนตามจุดต่างๆเท่านั้นเอง
[ ริวกะ ] : ในพื้นที่นี้ไม่มีไฟฟ้าหรอก ปู่กับพ่ออยากให้พื้นที่ในเขตอาคมนี้เป็นธรรมชาติที่สุดเหมือนหลายร้อยปีที่แล้ว แล้วพวกภูติก็ชอบมากด้วย ชั้นถึงบอกให้เธอรีบกลับไง ยิ่งกลัวความมืดอยู่
[ คิราระ ] : มีแสงเทียนมากมายแล้วนี่ไง ไม่กลัวหรอก
มากินยาเลย ริวกะ เดี๊ยะเถอะ ทำเป็นโอ้เอ้นะ จะขี้โกงไม่กินยาเหรอ
[ ริวกะ ] : ขอทำใจแปปนะ มันขมมากเลย
[ คิราระ ] : ยาดี ก็ต้องขมสิ่ นี่ๆกินให้ดู
คิราระยกถ้วยยาขึ้นมาจิบโชว์ริวกะทันที และทันใดนั้นเองหน้าตาของคิราระก็บิดเบี้ยวเพราะความขมของยานี้ คิราระถึงกับลืมตาไม่ขึ้นไปเกือบ 10 วินาที
[ คิราระ ] : แหวะ อี๋ ขมอะไรขนาดนี้ เง้อออ
คิราระพูดทุกอย่างออกมาเลยทีเดียว เพราะรสชาติมันแย่สุดๆแบบที่ริวกะพูดจริงๆ แต่พอพ้น 10 วินาทีนั้นไป รสชาติทั้งหมดก็หายไปสิ้น ไม่มีติดลิ้น หรือ รู้สึกขมคอเลย ริวกะมองด้วยสายตาที่จะบ่งบอกว่าน่ารักจริงวุ๊ยแม่สาวคนนี้
[ คิราระ ] : มองอะไร ง่าา งือออ ขมปี๋เลย แต่ไม่รู้ถึงรสชาติแล้ว ไม่รู้เลยสักนิด
[ ริวกะ ] : ยาตัวนี้รสขมของมันจะหายไปทันที ที่ร่างกายดูดซึมไปทั้งหมด กินเยอะก็ขมนานตามปริมาณ สูตรของลุงคุโระเขาล่ะ
คิราระถึงกับหน้าซีดเลย พอบอกว่าระยะความขมขึ้นอยู่กับปริมาณที่กิน เมื่อกี้เธอแค่จิบไป จิ๊ดเดียวยังขมไปเกือบ 10 วินาที แถมตอนที่ได้รับรสขมนั้น มันเหมือนว่าเธอหูอื้อไปหมด ขนาดเสียงลมหายใจตัวเองยังไม่ได้ยินเลย แล้วนี่ริวกะกิน 2 ถ้วยเต็มๆจะขนาดไหนเนี่ย แล้วริวกะก็ยกยาทั้งสองถ้วยนั้นกระดกรวดเดียวทันที คิราระถึงกับขมคอตามเลยทีเดียว
[ ริวกะ ] : เอาไปเก็บให้ทีนะ ชั้นวานหน่อยนะ
[ คิราระ ] : เจ้าค่าๆ นายน้อย ฮี่ๆ
คิราระแกล้งริวกะด้วยการเรียกเขาว่านายน้อย ก่อนที่จะค่อยๆหยิบถาดหยิบแก้วเดินออกไป ระหว่างที่เดินไปนั้นคิราระนึกขึ้นมาได้ว่าแทนที่จะเอาไปเก็บเฉยๆสู้เอาไปล่างให้เลยดีกว่า แต่จะล้างตรงไหนล่ะ เธอจึงย้อนกลับมาที่ห้องอีกครั้งเพื่อจะถามทาง เธอถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทันทีและสิ่งที่เธอเห็นคือริวกะที่กำลังยืนด้วยท่าทางอยู่ด้วยท่าทางที่ทรมาน
คิราระรู้ได้ทันทีเพราะเมื่อกี้เธอแค่จิบนิดเดียวยังมีอาการขนาดนั้น นี่ริวกะกินไป2ถ้วยเต็มๆ คงจะแย่น่าดู เธอจึงรีบวางถาดและจะเข้าไปดูอาการของริวกะ ริวกะได้ยินเสียงก็ถึงกับเหวอตกใจ นี่เขาคำนวนเวลาพลาดไปเหรอ เขาคิดว่ากว่าคิราระจะออกจากห้อง เดินไปห้องเก็บยา และกลับมาที่ห้องนี้อีกครั้งมันต้องหลายนาทีสิ่ แล้วทำไมคิราระกลับมาเร็วขนาดนี้ นี่แหละที่เขาไม่อยากให้คิราระเข้ามาที่นี่ เขากลัวความลับนี้ถูกเปิดเผย
ริวกะถึงกับยืนเหวอทำอะไรไม่ถูกแล้วตอนนี้ คิราระจับได้ทันทีว่าริวกะปิดบังอะไรไว้ ในความสว่างเพียงน้อยนิดที่ได้จากแสงเทียนเท่านั้น คิราระนั้นได้มองเห็นบางอย่างในมือริวกะมันเป็นกระปุกคล้ายกระปุกยา ริวกะตอนนี้เรียกว่าเอ๋อแดรกเลยครับ ปฏิกิริยง ปฏิกิริยาขั้นเทพ ก็หายหมด ตอนนี้เขาได้แต่ยืนหน้าซีดเท่านั้น คิราระรู้ได้ทันทีว่าริวกะต้องเป็นอะไรแน่ๆ อีกทั้งไอ้กระปุกน่าสงสัยในมืออีก
เธอพุ่งชาร์จริวกะทันที ดังแอ้ก จนกระปุกในมือกระเด็นตกลงพื้น ริวกะรีบนั่งลงไปควานหาด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนอย่างผิดปกติ ซึ่งคิราระเองก็เริ่มรู้สึกว่าแปลกๆจึงช่วยหา ริวกะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เธอก็ยังดื้อหาต่อและเธอก็เจอมันก่อนเขา ริวกะหน้าเสียทันทีเขาขอกระปุกนั้นคืนจากคิราระ ซึ่งเธอเองก็แปลกใจเพราะริวกะไม่เคยเป็นแบบนี้ เธอจึงดูที่ข้างขวดก็พบกับข้อมูลยาซึ่งมีข้อมูลตัวยาชนิดหนึ่งที่เธอเห็นอย่างชัดเจน
" Desvenlafaxine " ยารักษา โรคซึมเศร้า
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
Spoii เนื้อเรื่องหลัก season 2
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
อย่างี้ต้องฉีดยาให้คิราระ
Yน่าติดตามและได้ความรู้เรื่องศิลปการต่อสู้มากเลย
ว่าแต่มิไรกับริวกะมีพิรุธมากเลยนะครับ
อ้าวสุดหล่อมีอาการเป็นโรคซืมเคร้าด้วย แล้วจะรักษากันอย่างไรดีละ
ได้พยาบาลสวยคงหายเร็ว
เขตอาคมน่าสนใจดีนะมีอะไรซ่อนอีก คิราระทำให้ริวไปไม่เป็นเลยเหรอ เจ็บตัวแน่งานนี้
เรื่องพี่ปิ่นกับปาล์มก็คู่ขนานกันมาด้วย
ริวกะจะไปเรียนที่เมืองไทยตอนไหนนะ
ต้องให้คิราระรักษาให้แล้วนะ555
สังหรณ์ว่าที่ขอเป็นเมดก็เพราะจะดูแลจากอาการที่เป็นด้วยสินะ
จริงด้วยแฮะ
ส่วนเนื้อเรื่อง ตอนนี้ไม่มีอะไรให้แสดงความคิดเห็นมากนะครับ มันเป็นส่วนขยายของเรื่องตอนที่แล้วเฉยๆ
เนื้อเรื่องภาคต่อไป คาดว่าพระเอกน่าจะทำไปเพื่อลบปมในใจของปาล์มมากกว่า ใครมันจะไปอยากได้ผู้หญิงน่ารำคาญแบบนี้อยู่ใกล้ๆตัว น่ารำคาญตายโหง - -
ไม่อยากให้คิราระรู้ความลับเรื่องโรคซึมเศร้านี่เอง ถึงว่าพวกภูติถึงพยายามเชียให้คิราระมาดูแลริวกะ
อ้างจาก: neimuchan เมื่อ มิถุนายน 13, 2019, 12:43:25 ก่อนเที่ยง
สังหรณ์ว่าที่ขอเป็นเมดก็เพราะจะดูแลจากอาการที่เป็นด้วยสินะ
จริงด้วยแฮะ
ส่วนเนื้อเรื่อง ตอนนี้ไม่มีอะไรให้แสดงความคิดเห็นมากนะครับ มันเป็นส่วนขยายของเรื่องตอนที่แล้วเฉยๆ
เนื้อเรื่องภาคต่อไป คาดว่าพระเอกน่าจะทำไปเพื่อลบปมในใจของปาล์มมากกว่า ใครมันจะไปอยากได้ผู้หญิงน่ารำคาญแบบนี้อยู่ใกล้ๆตัว น่ารำคาญตายโหง - -
555 ชอบๆ เขียนไปยังรำคาณไปเลย ปาล์มน๊อปาล์ม
สาวจอมจุ้นจริงๆสมแล้วที่เป็นเมดคู่กายของริวกะรู้ทุกเรื่องทำทุกอย่างแถมมีแบล็คดีอีก
พระเอกหายจากโรคซึมเศร้าด้วยวิธีรักษาพิเศษจากคิราระ...ฮี่ฮี่
ก็พอเข้าใจว่าเป็นโรคซึมเศร้าเเต่ก็ไม่เห็นต้องปิดซะมิดเลยนะ เพราะคนอื่นๆน่าจะรู้ๆกันอยู่เเล้ว
ต่อไปนายหายจากการซึมเศร้าแน่นายริว
เหตุที่คิราระกลายมาเป็นเมด คงเพราะอยากปกป้องและดูแลริวกะอย่างใกล้ชิด เพราะดูแล้วริวกะน่าจะมีแผลทางกายและแผลทางใจเพิ่มอีกเรื่อยๆ
อ้าว ริวเป็นโรคซึมเศร้า ได้ยังไงเนี่ย
อ๋อ คิราระมาเป็นเมดเพื่อแก้โรคซึมเศร้านี่เอง แต่ได้โรคหื่นเพิ่มขึ้นมานี่นะ
เนื้อเรื่องหลักจะมาสปอยทำไมครับ อยากอ่านเลยเนี่ย
คงต้องให้คิราระรักษาโรคซิมเศร้าให้ริวกะสินะว่าแต่จะรักษาด้วยวิธีไหนหนอเนี่ยลุ้นๆ
มังกรเพลิง ก็เป็นโรคซึมเศร้าได้ โรคนี้ต้องการความรักความเข้าใจ เด่วคูณมดโนโซมิจัดให้
เหมือนดูหนัง/ซีรี่ย์ ญี่ปุ่นเลยครับ เนียนและธรรมชาติของวัยรุ่นที่ก่อนจะรักกัน ชอบมากครับ ขอบคุณที่รังสรรค์งานเขียนดีๆให้พวกเราได้ชื่นชม ทั้งบทบรรยายการต่อสู้และความงามของธรรมชาติของญี่ปุ่นที่เข้มขลังในวัฒนธรรม แม้นในปัจุบันจะหายากในแต่ละที่ครับ
แล้วพระเอกเราจะหายจากโรคซึมเสร้าใหมนะ
สภาพแบบนี้ยังเป็นโรคซึมเศร้าอีก
ขอบคุณครับ
สุดยอด ริวกะต้นแบบของความกล้า
ริวกะคิดมากจนซึมเศร้าเลยเหรอ
ต้องพึ่งยารักษาอาการซึมเศร้าอยูรึนายมังกร เดี๋ยวก็ได้เจอรุ้งพล้อยแล้ว
จุดเริ่มต้นของสาวเมทมาแล้ว
ใครจะทำให้ริวกะหายจากโรคซึมเศร้าได้หรือว่าจะเป็นคิราระหรือเปล่า
สนุกไปอีกแบบนึง แล้วคิราระจะสมหวังมัยนี่ในตอนนี้
::HeyHey::คิราระน่ารักมาก จากทีอ่านมาทั้งหมดมิไรมาอันดับ1 คิราระอันดับ2 อั้มมาอันดับ3และรุ้งพลอยน่าจะอันดับ4 ไม่รู้ว่าจะเข้าใจถูกมั้ยครับ
พระเอกของเราเป็นโรคซึมเศร้าเลยทำให้คิราระตัดสินใจมาดูแลแน่เลย เอ จะมีฉากxxด้วยมั้ยน้า
จากลูกบุญธรรม จะกลายมาเป็นลูกสะใภ้ซะแล้วหรอ คิราระ
#เหมือนอ่านหรือดูซีรี่ย์เลย มันมีทุกอย่างให้น่าติดตาม มีทุกรสให้ได้อ่าน แถมมีเรทอาร์หน่อยๆๆชอบจังกับแนวแบบนี้
#ไม่ต้องสปอยแล้วท่าน อยากอ่านแล้ว รีบๆๆมาลงเถอะ
จัดไปคิราระช่วยให้ริวกะหายจากโรคเลย หิหิ ขอบคุณมากครับ รอ ss2 อยู่นะ
ริวกะเป็นโรคซึมเศร้าน่าจะเป็นผลมาจากเรื่องจากตอนเด็กที่เห็นคนตายต่อหน้า
คิดถึงรุ้งพลอยจังเมื่อไหร่จะกลับมา
ริวกะเป็นโรคซึมเศร้าเหรอเนี่ย คงต้องให้คิราระเป็นคนรักษาซะแล้ว
คิราระดูแลริวกะอย่างดี สุดตัวเลย
มีรักษาโรคซึมเศร้าด้วยวิธีบำบัดพิเศษของคิราระด้วยป่ะ อิอิ
พระเอกเราเป็นโรคซึมเศร้าแล้วใครจะเป็นคนรักษาโรคให้ละครับ
คราวนี้ลงเร็วอ่าน เม้นไม่ทันเลย
ส่วนตัวชอบคิราระ แค่เหมือนเนื้อเรื่องถูกยืดมากไปหน่อยนะครับ ยิ่งอ่านยิ่ง งง ตัวละครมากไปกะสับสนได้นะครับ
ตอนนี้ บทของคิราระเด่นมาก เล่ารายละเอียดชีวิตคิราระได้เห็นภาพชัดเจนมาก อ่านแล้วซึ้งมากๆเลย แล้วบทกับริวกะก็น่ารักมาก
เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก ครบรสเลย มีทั้งศิลปะการต่อสู้ บทบู๊ ฉากหวาน น่ารัก เรื่องซึ้งๆ น่าประทับใจ ภาพของความสัมพันธ์ของครอบครัว เพื่อน เรื่องของภูติของตระกูลด้วย หาแนวนี้ไม่ค่อยมีชอบมากๆ ขอบคุณมากนะครับที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่าน
เอาเนื้อเรื่องตอนหน้ามาล่ออย่างนี้ก็แย่สิ อยากรู้ว่าริวจะจัดการกับปาล์มยังไงนี่แหละ ไม่น่าจะแบบบังคับหรอกเพราะไม่ใช่นิสัยริวกะ น่าจะทำอะไรบางอย่างที่ทำให้ปาล์มยอมได้อย่างเต็มใจมากกว่า ว่าแต่สงสัยริวกะจะหาเมียได้หลายคนเหมือนที่ลุงคุโรบอกไว้แน่เลย
พระเอกเราเป็นโรคซึมเศร้าต้องให้คิราระจับฉีดยา
ริวกะเพราะอะไรถึงเป็นโรคซึมเศร้านะ
นับได้ว่าความจุ้นจ้านของคิราระทำให้ได้มาถึงความโชคดีในชีวิตและความรัก
ขอขอบพระคุณมากๆๆเลยขอรับ
ริวกะเป็นโรคซึมเศร้าหรือขอรับ อย่างนี้ต้องให้คิราระรักษานะขอรับ รักษาด้วยกายประสานกายมันถึงจะหายขาดนะขอรับ อิอิอิ
ริวกะคงไม่อยากให้คิราระรู้ว่าเขาเป็นโรคซึมเศร้านี้เอง
ถ้าได้ปล้ำคิราระสักหลายๆที อาการจะดีขึ้นแน่
อ้าวริวเป็นซึมเศร้า
รักษาโรคซึมเศร้าให้นายน้อยหน่อยสิคิราวะ
อ้าวมิไรมีพิรุธตั่งแต่ตอนนี้เลย
อ่า ลุ้นมาหลายตอน กิ่นคิราระแทนยาไปเลย
ลุยเลยนู๋คิราระ กองเชียร์เพียบ
พระเอกเราเป็นโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้ามันมียารักษาให้หายด้วยหรือ โรคทางจิตก็มีแต่ต้องปรับจิต ยารักษาได้แต่ทางกาย ทางจิตก็รัก ษาด้วยการปลอบประโลมจิตหรือวิธีที่ทำให้ผู้ป่วยคลายความกังวลนะเนาะ กินมากๆจะประสาทหลอน ทีนี้เลยจะได้ป่วยจริงๆ เรื่องพื้นๆแบบนี้ทำไมหมอหลงทางได้หนอ ให้ปรึกษาจิตแพทย์ยังจะดีกว่า
แบบนี้สินะถึงได้มีเมดสาวส่วนตัว ...บทเริ่มต้นของเมดสาวผู้ภักดี...คิราระ
น่าจะช่วงนี้แหละมั้งที่คิราระจะได้เข้ามาช่วยดูแลริวกะได้เต็มตัว เพราะโรคซึมเศร้านี่เอง
ยังสงสัยพิรุธของมิไรกับนายริวว่าต้องมีเหตุอะไรก่อนหน้านั้นแน่ๆ
ส่วนสปอยของ season2 นี่มาซะเยอะเลยนะครับ 5555
แบบน้คงต้องให้คิราระรักษาให้แล้วล่ะ ริวกะ
รักษาโรคซึมเศร้าด้วยวิธีอะไรดีคับ
อาจได้เป็นเมดเพราะโรคซึมเศร้าด้วยนิละ
คิราระกับริวกะสมหวังกันสักที
จับคิราระกดซักทีสองทีเดี๋ยวก็หายเศร้าเองแหละ
เมื่อไรตอนต่อไปจะมา รอมากๆ
คิราระช่วยทำให้ริวกะมีความสุขที
ขอบคุณครับ..คิราระก็จะต้องเป็นผู้รักษาโรคซึมเศร้าให้แก่นายน้อยริวกะอย่างแน่นอน
หลายท่านกำลังเข้าใจ.เกี่ยวกับโรคซึมเศร้าผิดนะครับ
โรคซึมเศร้าเป็นอาการผิดปกติ ของสารสื่อในสมองครับ โรคซึมเศร้า เป็นความผิดปกติของสมอง ที่มีผลกระทบต่อความนึกคิด อารมณ์ ความรู้สึก พฤติกรรมและสุขภาพกาย แต่คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าโรคซึมเศร้า เป็นผลมาจากความผิดปกติของจิตใจ สามารถแก้ไขให้หายได้ด้วยตนเอง ในความจริงแล้ว โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากความไม่สมดุลของสารสื่อประสาท 3 ชนิด คือ ซีโรโตนิน นอร์เอปิเนฟริน และโดปามีน
ไม่ใช่อาการเศร้าเสียใจแบบทั่วๆไป
อย่างเช่น โทรศัพท์ตกพื้น ของหาย เจ้ามือป๊อก9 อะไรแบบนั้นครับ
::Thankyou:: ::Thankyou::
คิราระสงสัยจ่ะเป็นไข้ ต้องฉีดยาซักหน่อย อิอิ
คิราระ น่าจะมีส่วนช่วยริวกะหายซึมเศร้า
ตอนนี้สุดยอด ทำให้เรื่องราวต่างๆ ที่เขียนไว้ในเรื่องหลักกระจ่างชัดเจนหมดเลย สำหรับคิราระ
เนื้อหาตอนนี้เป็นเหตุผลที่คิราระ แสดงตัวเป็นคนสนิททั้งรับใช้และเป็นทั้งคนสนิทแบบตัวติด
Ss2 นี้มาเร็วเข้าเร็ว ตอนจริงคงอธิบาย ได้ทั้งหมดว่าริวเป็นคนขอ ตามบุคลิกตามเรื่อง ไม่ได้เป็นแบบนั้น
หนูคิราระไม่กลัวไปนะเดี๋ยวก็ชินไปเองสนุกด้วย ::Horror:: ::Shy::
อ้าว ริวกะเป็นซึมเศร้า คิราระรักษาได้มั๊ยนะ ::Thinking::
มีคิราระทั้งคน จะซึมเศร้าไปทำไม
หาเรื่องสนุกๆทำดีกว่า คิราระพร้อมแล้วค่ะนายน้อย
ถ้าให้คิราระขี่ริวกะหายเป็นโรคซึมเศร้าแน่ๆ
อ้าวริวกะเป็นโรคซึมเศร้าได้ไงง่ะ คิราระต้องช่วยแล้วแบบนี้
อยากรักษาโรคซึมเศร้า แสดงว่าตอนนี้ริวกะยังไม่เปิดใจให้คิราระสินะ
Edit ตอนต่อไปน่าสนุกมากครับ ปราบพศยสาวห้าว 1วัน1คืน เอาให้เข็ดเรย
สงสัยงานนี้ริวกะน่าจะได้เมดน่ารักที่สุดแล้ว
ว่าที่หมอหรือว่าที่เจ้าสาว
ต้องให้คิราระรักษาโรคอาการซึมเศร้าแล้วล่ะ
รักษาปาล์มก่อนนะ
ยังแอบมีจุดอ่อนจนได้นะนายริว น่าจะเป็นเพราะเรื่องความหลังตอนเด็กแน่ๆ
ขอบคุณครับ ครอบครัวอบอุ่นจริง ๆ ดีใจด้วยนะครับคิราระ
แค่ดูคลิปก็ทำให้ทาเครุมีเป้าหมายขึ้นมาทันทีจะเก่งไปถึงไหนริวกะ
น่าสงสารริวกะจังที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคซึมเศร้าการได้คิราระมาอยู่ใกล้ๆน่าจะช่วยได้นะ
ส่วนเนื้อเรื่องหลักริวกะคงแค่ต้องการปราบพยศปาล์มและคงสวสารพี่น้องคู่นี้คงอยากให้ไ้ด้เจอกันจริงๆ
รักษาโรคซึมเศร้าแบบนี้ก็ดีนะ อยากเป็นโรคนี้บ้างเลยอิอิ
คิราระ คงต้องเป็นพยาบาลส่วนตัว คอยรักษาโรคซึมเศร้าให้ริวกะแล้วล่ะ
สงสัยใช้คิราระแทนยาแก้ซึมเศร้าแน่ๆ
รอss2ครับว่าริวจะจัดปาล์มยังไง
คิราระรักษาให้ริวกะเลย
จากลูกสาวแม่บ้าน กลายมาเป็นลูกบุญธรรม และกลายเป็นเมียลูกชาย สุดยอด
ดูแล้วที่คิราระตามมาดูแลริวกะนี่คงเพราะเรื่องโรคซึมเศร้าแน่เลย
สปอยss2มาล่ะทำให้อยากอ่านเลยอยากรู้ว่าจะปราบพยศน้องปาล์มได้ดุเด็ดเผ็ดร้อนซักแค่ไหน
kirara side story นี่ยาวมากเลย ไหนจะมีพี่อั้ม กับ มิไร side story อีก สุดท้ายรวมเล่มขายได้หลาย เลยนะเนี่ย
ขออภัยครับ ดันกดเข้ามาผิดตอน ขอกลับไปไล่อ่านตอนก่อนหน้า แล้วค่อยแวะมาอ่านอีกครั้ง
ผมอยากอ่าน ss2 ใจจะขาดแล้วครับ กำลังบู๊มันเลยครับ แถมอดีตรักของริวกะตามมาหลอกหลอนอีกิดใจไม่ไหวแล้วครับ
เวลาคิราระเบิ่นๆ โก๊ะๆ คงจะน่ารักมากๆ แน่
นั่งอ่านไปยิัมไป จนเค้าจะหาว่าบ้าแล้ว
สงสัยจังว่าคิระไปเป็นเมดได้ยังไง
มียาดี น่าจะหายเร็วแน่ พี่มิไรมีพิรุธนะครับบ5555
คิราระต้องทุ่มทั้งตัวเพื่อรักษานายน้อย
เป็นโรคซึมเศร้า ได้อย่างไร????
ทั้งออกกำลังกายจากการฝึกวิชาป้องกันตัวอย่างหนัก ทั้งยังมีสาวๆยินดีใช้เรือนร่างเวลาอยากแบบนี้ แล้วยังจะมาซึมเศร้าได้อย่างไร ทำอะไรมา สารเคมีในสมองถึงได้ไม่สมดุล
อ่ะอ่าว ริกะเป็นโรคซึมเศร้าจากเหตุการณ์รุ้งพลอยเมื่อก่อนแน่เลย คิราระจับผิดได้หมดซะงั้น นายตายแน่ริวกะ
สนุกมากคับ เหมื่อนกับว่าได้อ่านอะนิเมะเลย
หยุดไม่อยู่จริงๆอยากอ่านต่อๆไป
คิราระก็น่ารักริวกะก็เท่ ตอนนี้รอ
อย่างเดียวว่าเมื่อไรจะอึ่บๆสักที..
คิราระหลงรักริวยอมพลีร่างให้
อ่านไปยังเขินไปเลย เขียนดีมากกก ชอบบบบบ
ยิอยากอ่านภาค2ละนะ555555
อ่านตอนนี้แล้วอยากอ่าน side storyของอั้มเลย
ขนาดนี้ยังเป็นโรคซึมเศร้าอีกเหรอ มาแนวดาราเลยนะ เป็นอะไรแปลกๆ
นายริวนี่มันยอดมนุษย์ชัดๆ
ริวกะเป็นโรคซึมเศร้าหรือ อย่างนี้ต้องให้คิราระรักษาจะได้หายขาด เพราะคิราระหลงรักริว ยังไงต้องยอมพลีร่างให้อยู่แล้ว
เวลาคิราระเปิ่นๆ โก๊ะๆ คงจะน่ารักมากแน่ๆ
คิราระต้องรักษาริวกะทั้งคืนเลยหรอ
อย่างงี้ริวกะก็ยิ้มสิ เมื่อได้รับฉันทานุมัติจากตระกูลให้มีเมียพร้อมกันได้หลายคน คนที่น่าจะดีใจพร้อมกับริวกะ ก็คงเป็นคิราระและมิไรแน่ๆ
เอาแล้วคิราระ จู่โจมให้นายริวอดใจไม่ไหวเลย
ความลับย่อมไม่มีในโลก ดีแล้ว คิราระจะได้ช่วยเยียวยาให้
นายริวเพอร์เฟคทุกอย่าง ปัญหาก็คือเป็นโรคซึมเศร้า... ::Crying::
ปล.อ่านจบแล้วเห็นควรอย่างยิ่งที่ริวควรมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด อิอิอิ
ส่วนเรื่องปาล์ม ปราบให้อยู่หมัดเลยนะริว
ริวกะ เสร็จคิราระแน่ๆ
เกือบไปละ
ริงกะปกปิดความลับของตัวเองไมให้คิรายะรู้ แต่คิรายะก็รู้จนใด้
อ่านมาพระเอกดูไม่เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าเลบ
สาวๆหนุ่มๆอยู่กันสองต่อสอง นอนกอดกันอีก....
โรคซึมเศร้านี้น่ากลัวแท้ ขนาดพระเอกดูเหมือนร่าเริงตลอด สมบัติก็พร้อม ยังเป็นได้เลย ดูแลดีๆน่ะคิราจางงงง
โรคซึมเศร้า..อึ้งเลยแฮะ
สัสวดีคิราระคิดถึงจัง
อ่อถึงลืมอะไรไปที่แท้นานริวยังไม่หายจากโรคนี้นี่เอง
โรคซึมเศร้า เหรอเดี่ยวคิราระรักษาให้555
ขอต่อเลยนะครับ
รินพ่อริวเป็นคนมีน้ำใจกว้างขวางรักเพื่อนถึงขนาดบินไปช่วยเองเลย
แถมยังรับลูกเพื่อนมาเป็นลูกบุญธรรมอีก ชะตากรรมริวนี่ถูกกำหนดแล้วว่าต้องมีเมียดี เก่ง สวย
คิราระนี่แสดงถึงความรัก ความห่วงใยต่อริวแบบคิดว่าหายากนะที่จะทำได้แบบนี้
แปลกใจตรงที่ทำไมริวถึงต้องทำกับปาล์มแบบนั้นนะ ทั้ง ๆ ที่สามารถช่วยได้ทันทีเลย
ที่ริวกะ อึด ถึก ทน ตอนมีsexอาจจะเป็นเพราะผลข้างเคียงของยารักษาโรคซึมเศร้าด้วยก็ได้นะ
แล้วไปไงมาไงกลายเป็นเมดได้ละเนี่ย. อ่านยาวจุใจจริงๆ
::Crying::หายจากโรคแน่นายริว
คิราระรักษาโรคซึมเศร้าสูตรพิเศษให้ริวกะเลย
ความลับถูกเปิดเปยแล้วพระเอกเรา
อย่างี้ต้องฉีดยาให้คิราระ
ริวเป็นโรคซึมเศร้า คิราระช่วยหน่อย
::Ahh:: สู้ๆนะริวกะนายต้องหายจากโรคซึมเศร้านะ
คิราระคือผู้ที่จะมารักษาแผลในจิตใจให้หายซึมเศร้า
เข้ามาในเขตอาคมได้แว้ว แสดงว่าเทนงูอนุญาตแล้วสิแบบนี้
ริวก็ผ่านเวลาเจ็บปวดไม่น้อย คิราระจะเยียวยาได้ทุกอย่าง 555
โรคซึมเศร้าต้องใช้ยาชื่อคิราระถึงจะหาย
นอกจากมีฉากกับคิราระแล้วยังมีการปราบพยศน้แงปาล์มด้วย
ดีใจจัง
ต้องฉีดยาแล้วแบบเนี้ย
น่าเห็นใจมากนะครับสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคนี้ สู้ๆนะ นายริว
ได้เวลาปราบพยศแล้วสิ
ยารักษาโรคซึมเศร้า นี่ต้องผสมนมไหมครับ
::Ajark::โฮ้ว.ว.วยาแก้โรคซึมเศร้า ก็แน่ล่ะนะก้อเหตุการณ์แบบนั้นมันยังติดตาอย฿่นะน่ะ
โรคซึมเศร้า หรือโรคซึมเด้า กันแน่นายมังกรรร 55
::Glad::คิราระมาก่อนอั้มหรอเนี่ย
คิราระหมายเลขหนึ่งในดวงใจ
นายน้อยริวกะ คืนนี้ไม่เศร้าแล้วนะครับ ให้คาราระ อยู่เคียงข้างทั้งคืนนะ
เป็นแบบนี้ ต้องให้ คิราระปลอบ ถึงจะดีขึ้นนะนายริว
คิราระนี่แหละสาวซึนขนานแท้5555
มีคนข้างเคียงแล้ว ซักพักก็จะหายซึมเศร้าแหล่ะ
ริวเป็นโรคซึมเศร้า! งานนี้ต้องให้คิราระช่วยรักษาให้แล้วละ
ต้นกำเนิดสาวเมดทรงโตมาถึงแล้ว ::Shy::
อ่านจบรู้สึกหน่วงๆ มันปนเป รัก เศร้า เหงา ทุกข์ แยกไม่ออก ::Crying::
ยาแก้โรคซึมเศร้าที่ดีที่สุด คือ คิราระ นะริวกะ
ต้องอารมณ์ค้าวเพราะปาล์มเลยตอนนี้
คงจะหายซึมก็คราวนี้แหละริวกะเจอคิราระเข้าไปหายซึมแน่ๆ
เรื่องบางเรื่องมันทำใจได้ยากแหละ ถึงขนสดdownไป4ปีนี่ไม่ธรรมดา
พระเอกก้อตัองมีจุดจิตตกบ้างแหละ
อยากอ่านเรื่องของปามต่อคับ กำลังได้ฟิวเลยย
Sexบำบัดโรคนี้แน่นอน555
ลงเอยสักทีตอนอายุ18พ้นคุกแล้ว
โห ยาแก้ช้ำในว่าร้ายแล้ว นี่โรคซึมเศร้าอีด สุดๆ
นายต้องเปิดใจให้มากกว่านี้นายริวเพราะรอบตัวมีแต่คนรักและเป็นห่วงนายทุกคนไม่อย่างนั้นนายจะไม่มีทางหายจากโรคนี้ได้เลยนะ
นายริวต้องเปิดใจ
คิราระได้รู้ความจริงว่าริวกะเป็นโรคซึมเศร้า แล้วจะช่วยเยียวยาอย่างไร
ยิ่งมาถึงตอนนี้คิราระยิ่งปล่อยความน่ารักใส่รัวๆ เลย คราวนี้มีข้ออ้างเข้ามาดูแลริวกะได้แล้ว คุณพ่อบุญธรรมก็ช่วยอย่างเต็มที่อย่างนี้นายริวไม่รอดแน่
เนื้อเรื่องทั้งหมดดีถึงดีมาก ถ้าเป็นนิยายเล่มก็ถือว่าต้องสะสมครับ สามารถอ่านซ้ำได้สะบายๆ
อืมทำไมริวถึงยื่นเงื่นไขนั้นนะจะว่าอยากได้ตัวก็ไม่น่าจะใช่ น่าจะทำอะไรบางอย่างเพื่อแก้นิสัยมั้ง
คิราระนี่มุ้งทิ้งจริงๆ ว่าแต่นายริวเราต้องกินยาต้านซึมเศร้า น่าจะเป็นPTSDสินะครับ
ให้คิจังรู้นะดีแล้ว
เดี๋ยวทำให้หายซึมเซ้าเอง
เข้าใจหัวอกของคนที่ขาดพ่อเลย ขอแค่กอดเท่านั้นก็มีความสุขแล้ว
ริวกะเป็นโรคซึมเศร้าเมื่อคิราระรู้แล้วคงตกใจและคงหาทางช่วยให้หายแต่จะรักษาด้วยอะไรยังสงสัยนะ
สาวคิราระเป็นจอมตื๊อจริงๆ แต่ทำไมถึงเข้า่ไปในเขตอาคมได้เฉยเลย หรือว่าเพราะเป็นลูกบุญธรรมของเจ้าของอาคม
น่าสงสารนายน้อยมากเลยครับ
::Elder::กำนายน้อยป๋วยเป็นโรคซึมเศร้า
น่าสงสารริวกะ
นี้สินะคิราระถึงตัดสินใจดูแลริวมาตลอดเพราะรักคำเดียวๆๆๆๆ
ทบทวนเรื่องริวกะกับคาราระอีกคาั้ง
คิราระต้องพยายามให้ริวกะเปิดใจให้
โรคซึมเศร้า ถ้าเจอความน่ารักเข้าไปอาจจะดีขึ้นนะ
ฉีดยาสัก2ทีหาย
อยากรู้จังว่าในที่สุดเรื่องระหว่างริวกะกับปาล์มจะไปถึงขั้นไหน
ริวกะไม่อยากให้รู้ว่าต้องกินยาแก้โรคซึมเศร้า แต่ปิดไม่อยู่เสียแล้ว เฮ้อ
::Hmmm::
นี่สินะความลับของริวกะที่เหล่าภูติอยากให้คิราระช่วย
ได้เวลาฉีดยาพยาบาลแล้วมั้ง
คิราระได้พรจากไดเทนงูรึปล่าวถึงเข้ามสในเขตอาคที่ริวกะอยู่ได้ แถมยังมาเห็นความลับของริวกะแบบนี้คืนสระคงไม่ยอมปล่อยให้ริวกะอยู่คนเดียวแน่ ๆ
คิราระได้อัพสกิลเพิ่มแล้ว และกำลังจะเป็นเมดและพยาบาลให้ริวกะอีก และแล้วก็เป็นเมียด้วยอีกตำแหน่ง
ได้แอ้มสาวให้หายซึมเศร้าแน่ ๆ
คิราระอยากอยู่ใกล้ริว อยากดูแลคนที่ตัวเองชอบให้ดีที่สุด แต่ริวได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นั้นมาหนักมาก คิราระคงต้องใช้ความรักเข้าช่วยให้ริวหายจากโรคซึมเศร้า คงต้องใช้ร่างกายให้ริวเยดุด้วย
น่าเห็นใจมากนะครับสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคนี้ สู้ๆนะ นายริว
ได้เวลาปราบพยศแล้วสิ
คิราระต้องช่วยรักษาโรคซึมเศร้าด้วยวิธีพิเศษแล้วละ
...ปักธง...
นับได้ว่าความจุ้นจ้านของคิราระทำให้ได้มาถึงความโชคดีในชีวิตและความรัก
ศิราระจะรักษาโรคซึมเคร้าได้ไหม
โอ๋ๆ น้านายน้อย คิราระมาแล้ว