ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

เรื่องเล่า เขาชนไก่ [ บทนำ ] จากประสบการณ์ของนายโทน

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, สิงหาคม 22, 2020, 11:43:20 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ เนื่องจากร้านคาราโอเกะ กับพี่เทพริวกะ ยังไม่พร้อมที่จะลงให้อ่านกัน

เพราะงั้นเลยหาอะไรมาให้อ่านกันก่อนครับ

มันเรื่องโอยตั้งแต่ เรียน ม.5 ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมยังจำได้อยู่

ผมเชื่อว่าใครที่เรียน ร.ด. ต้องเคยผ่านมาแบบผมแล้วล่ะ



ปล. ใครเจอแบบไหนอะไรยังไง บอกกันมั่งนะครับ


ปล.2 ประสบการณ์เรื่องนี้ เต็มไปด้วยคำหยาบคาย ซึ่งก็ตามวัยครับ



ปล.3 เรื่องนี้ไม่มีความเสียวแม้แต่นิดเดียวครับ มีแต่ความมันส์ ความห่าม คำหยาบคาย และ ความทรงจำที่ลืมไม่ลง



ปล.4  เรื่องนี้น่าจะมีไม่เกิน 4 ตอนครับ เพราะ 1 วันก็เล่าใน 1 ตอนเลย



ปล.5 ขอซ่อนข้อความเพื่อเช็ดจำนวนนักศึกษาวิชาทหารหน่อยนะครับ


...............



เรื่องเล่าเขาชนไก่ บทนำ







เช้าวันพฤหัสบดีที่ไม่ค่อยจะสดใส นั่นเพราะผมต้องตื่นตั้งแต่ ตี 5 เพื่อมาแต่งตัวไปเรียน โอย ผมพึ่งอายุ 17 พึ่ง ม.5 แท้ๆ ทำไมต้องลำบากปานนี้


ทำไมต้องมาเรียนตอนเช้า ทั้งที่ตอน ม.4 ได้เรียนช่วงบ่ายแท้ๆ ใช่ครับวันพฤหัสบดี ผมเรียน รักษาดินแดน เฮ้ออ ตอน ม.4 สบ๊ายสบาย เรียนที่สวนเจ้าเชษฐ์


เพราะเรียนช่วงบ่าย แถมได้นั่งรถบัสของโรงเรียนไปด้วย การเดินทางสบ๊ายสบาย ฝึกลำบากไม่เท่าไร เพราะตัวผมเองก็ทีพื้นฐานร่างกายจากการเล่นยูโดอยู่แล้ว บอกเลยลุกนั่ง วิดพื้นนี่สบายโคตร แต่ขอหน่อยเถอะการเดินทางเนี่ย อ่ะเฮื้อออ



แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกครับ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ ถ้าไม่ไปเรียน 3 ครั้ง ผมก็ไม่ได้ไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ และถ้าไม่ได้ไป ผมก็คงไม่ผ่านปี2 ตอนปี3 ก็คงไม่ได้เรียน แล้วก็ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์แน่ๆ



ผมคิดแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนักศึกษาวิชาทหารปี2 จนตอนนี้ใกล้จะจบแล้ว อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นทนเอาหน่อย ผมรีบขัดคอมแบทจนเงาแว๊ป รีบเอาบรัซโซขัดหัวเข็มขัดจนใสวิ๊ง และรีบวิ่งออกไปขึ้นรถ


อ่าส์ รถเมล์สาย 124 มาพอดีสบายตูล่ะ ผมรีบขึ้นรถเมล์ทันที และพอมาถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ผมต้องเปลี่ยนสายรถเมล์นะ เพราะศูนย์ใหญ่วิภาวดี 124 มันไม่ผ่าน


แล้วก็เจอเพื่อนร่วมชะตากรรมหลายคนครับ เราก็ทักทายกันตามประสานั่นแหละ ไงมึง ไงสาด แล้วก็10 นาทีผ่านไป พวกเราก็มาถึงหน้าศูนย์ใหญ่วิภาวดี


แน่นอนครับพอมาถึงแล้ว พวกเราก็ต้อง พรึ่บ ๆ ๆ ๆ ๆ  เอาเสื้อยัดกางเกง จัดระเบียบเสื้อผ้ากางเกงให้เรียบร้อย และที่สำคัญหมวก ซึ่งหายบ่อยชิบหาย ไม่รู้ว่ามีขาเดินหรือยังไง


เชื่อมั้ยครับว่าเรียน ปี1 จนมาปี2 หมวกผมหาย 3 รอบได้ อะไรวะ อ่ะกลับมาหน้าศูนย์ใหญ่ต่อ หลังจากที่ข้ามสะพานลอยมา พวกผมยืนแต่งตัวอยู่ศูนย์รถยนต์อย่างเร่งรีบ



เพราะถ้าเดินเข้าไปในสภาพไม่เรียยร้อย กูได้หมอบแต่เช้าแน่ๆ หลังจากที่ช่วยกันดูจนแน่ใจว่าเรียบร้อยพวกผมที่มาพร้อๆๅกันก็รีบเดินเข้าไปเลย


[ เพื่อนผม ]  :  เฮ้ย เขาชนไก่ แม่งโหดเปล่าวะ พวกม.6 แม่งบอกโหดสัดๆเลย


[ ผม ]  :  ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยไปเหมือนพวกมึงนั่นแหละ ไหวเปล่าวะกู


[ เพื่อนอีกคน ]  :  แหม่ มึงไม่ต้องพูดเลย ไอ้โทน มึงอ่ะสบาย แรงวังแรงควายแบบนี้ แบกปืนใหญ่ก็ได้มั้งแบบมึงอ่ะ



คือมันเป็นเรื่องที่แปลกนะครับ เดิมทีพวกผมสามคนคือไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเลย โรงเรียนของผมตอน ม.ปลาย มันก็เหมือนโรงเรียนอื่นๆ แหละมั้งนะ มีทั้งหมด 9 ห้อง


วิทย์ - คณิต ห้อง 1-2
ศิลป์คำนวน ห้อง 3-4
ศิลป์ภาษา ห้อง 5-6
ศิลป์ทั่วไป ห้อง 7-9


เอาจริงๆแล้วการแบ่งชนชั้นมันมีมาตั้งนานแล้วนะเอาจริงๆ คือไอ้พวกห้อง 1 กับ 2 นี่คือไม่เอาใครเลย จะคุยจะอยู่แต่กับพวกเดียวกัน ตัวผมอยู่ห้อง 5 ศิลป์ภาษาฝรั่งเศส ( แต่เสือกชอบญี่ปุ่น )


มันก็จะเป็นห้องกลางๆเลย มันแปลกนะที่บางคนก็เอนไปห้องบน บางคนก็เอนไปห้องล่าง ยิ่งพวกผู้หญิงนะอื้อหือ ดูการแต่งตัว เครื่องประดับ หวีสับ ผ้าเช็ดหน้า ดูก็รู้เลยว่าอยู่ห้องไหน




แต่สำหรับพวกผู้ชายที่เรียน ร.ด. บอกเลยครับว่าไม่ใช่แบบนั้น พวกเราไม่ได้แบ่งแยกกัน จะมีก็น้อยมากๆ คือพวกเรารู้จักกันหมด สนิทกันมากน้อยก็ว่ากันไป ก็ไอ้ตอนเรียน ร.ด. มันต้องนั่งตามเลขที่นี่ครับไม่ได้เรียงตามห้องเหมือนที่โรงเรียน


เลยทำให้กระจัดกระจายกันไป ซึ่งเวลานั่งข้างๆมันก็แอบคุยกันบ่อยๆ นั่นแหละทำให้พวกเรารู้จักกัน และอีกอย่างบางคนตอน ม.ต้นก็เคยอยู่ห้องเดียวกันมาแล้วด้วย


การที่จะสนิทกันมากขึ้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก พวกผู้ชายแบบเราๆแม่งทำอะไรห่ามๆกันมาก็เยอะ อย่างตอน ม.2 ม.3 ไปเข้าค่ายลูกเสือ ก็แก้ผ้าอาบน้ำกันมาแล้ว อ่าส์ชิลล์


อ่ะกลับมาที่เดิมต่อออกทะเลไปหลายไมล์ละ พอคุยกันได้แปปเดียวเท่านั้นแหละ

รีบเดิน !!! 


เสียงตะโกนไล่หลังมาแล้ว เป็นพวก ส.ห. ครับ อื้อหือปลอกแขนแดง ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาเชียว


พวกผมรีบจ้ำๆๆๆๆ ไปเลยครับ พอมาถึงหน้าป้อมที่มีครูฝึกยืนอยู่ ปั้ป แป๊ก !!! เสียงเหล็กชิดเท้ากระทบกันดังแป๊ก !!! ทันทีที่ผมยืนตัวตรงและตะเบ๊ะท่าทำความเคารพ



ผมนับในใจ  1 2 3 และรีบเดินเข้าไปในศูนย์ฝึก ซึ่งพวกเรามาก่อนเวลาครับ จึงทำให้มีเวลากินข้าวเช้า ซึ่งแน่นอนครับว่าเมนูที่อร่อยที่สุดในโลกสำหรับนักศึกษาวิชาทหารแบบพวกเราก็คือ ข้าวมันไก่



เวลาครูฝึกถามว่าอะไรอร่อย คำตอบของทุกคนที่ต้องตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น ราวกับการฝึกก็คือ ข้าวมันไก่ครับ !!! อ้อแล้วก็มีขนมปังนึ่งอีกอย่าง ทำไมถึงอร่อยน่ะเหรอ อย่างที่บอกไปครับ เพราะเมียครูฝึกเป็นคนขายยังไงล่ะ โฮโฮ่


ตอนเรียนสวนเจ้าเชษฐ์มีแค่ร้านเดียวว่าหนักแล้ว พอมาศูนย์ใหญ่เท่านั้นแหละ โอโห้ ขอหยาบหน่อย เยดเข้มีเรียงเป็นตับ จะเอากี่ไก่ล่ะ จากที่มีแค่ข้าวมันไก่ต้มตอน ปี.1 พอมาเจอที่นี่ล่ะสารพัดไก่


ข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด ข้าวหมกไก่ ไก่อบ แต่ดีหน่อยที่ยังมีหมูอบ และข้าวราดแกงบ้าง แต่เอาจริงๆผมว่าก็อร่อยนะ แล้วได้เยอะด้วย 30- 35 บาทคืออิ่มยันเย็นอ่ะ


ที่สำคัญมันจะเป็นการรังสรรค์เมนูที่ข้างนอกทำไม่ได้ด้วย ( สมัยเกือบ 15 ปีก่อนนะ ) ยกตัวอย่างเลย เอาไก่ต้มผสมไก่ทอด แต่ใส่ข้าวหมกแทน


หรือเอาไก่หมกไปกินกับข้าวมัน อันนั้นก็ได้ หรือเอาข้าวหมกไก่ผสมไก่ทอด โอ้โหแม่งโคตรเด็ด  ไก่อบผสมไก้ต้มข้าวหมกไก่ อันนี้ก็โคตรเด็ด



โอ้นี่ผมหลุดเข้าไปในวังวนไก่แล้วเหรอเนี่ย พวกผมสามคนเดินเข้ามาก็ต่างแยกย้ายกันไปหากลุ่มของแต่ละคน แต่อย่างที่บอกครับ ผมมันเป็นคนของสังคม



ผมนั่งกับใครก็ได้ เพราะทั้ง ม.5 รู้จักผมหมดแหละ ยิ่งเรียน ร.ด. ด้วยกันนี่ยิ่งซี้กันเข้าไปใหญ่ หลังจากที่สั่งสุดยอดเมนู ไก่ต้ม + ไก่ทอด โปะบนข้าวหมกไก่ ผมก็รีบจ้วงเลยครับ เพราะจะได้มีเวลาพักมีเวลาคุยกับเพื่อนก่อนที่ต้องไปเคารพธงชาติและเข้าเรียน



[ ครูฝึก ]  :ปรี๊ดดดดด ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ดดดดด   



เอี้ยยยยยยยย  หลังจากที่จบสัญญาณนกหวีดที่พวกเราฟังจนหลอนหู เราก็ตอบรับด้วยคำที่คุ้นเคย เอี้ยยย  แต่พวกคุณคิดเหรอว่าเราจะตอบแบบนั้นจริงๆ


5555 แน่นอนครับ เด็กอายุ 16-17 แบบพวกผม เป็นวัยกำลังซ่ากำลังเห่อฮะมอยและกำลังกวนส้นตีน 50% ไม่มีใครตอบว่าเอี้ยหรอก



เหี้ยยยยยยย  นี่คือคำที่พวกเราตอบกลับก่อนที่จะวิ่งขลุกๆๆๆ ไปจัดแถวอย่างรวดเร็วตามที่ฝึก


" ท่าจัดแถวบุคคลมือเปล่า "


มาตั้งแต่ ปี 1 ซ้ายแนบลำตัวเท้าเอวเป็นมุมฉาก แขนขวายื่นแตะไหล่คนหน้า กระโดดดึ๋งๆๆเพื่อให้เข้ารูปขบวน และทุกอย่างก็ผ่านไป เคารพธงชาติ ชี้แจง และเข้าห้องเรียนตามกำหนดการ แต่ก่อนจะเข้าเรียน


ครูฝึกได้ออกมาบอกว่าให้พวกผมรอก่อน เพราะมีเรื่องที่จะแจ้งจากหัวกองพันของพวกผม ซึ่งมันก็คือเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันนี่แหละ เอาจริงๆผมก็ว่ามันสมควรได้เป็นนะ


บุคลิคมันโคตรได้ สูง บึกบึน ท่าทางสง่า ยิ่งเวลาตะเบ๊ะนี่โคตรจะเป๊ะเลย ถึงมันจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ อ่ะครูฝึกแจ้งว่าไอ้หัวหน้ากองพันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ


โอยแดดก็ร้อนชิบหาย เอามือบังแดดก็ไม่ได้ ให้พวกผมไปนั่งในร่มก็ไม่ได้ พวกผมก็รอไปเกือบ 10 นาที จนไอ้เพื่อนเชี่ยเนี่ยเดินมาจากหลังเวที โอยยยย ร้อนชิบหาย


[ หัวหน้ากองพัน ]  :   เอาล่ะ วันนี้ก็มาครบกันดีนะ นั่งนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร ได้วิตามิน D ยามเช้า


พ่อมึงตาย วิตามิน D เหี้ยไร นี่มันวิตามินแดดชัดๆ ส้นตีนเหอะ ผมพูดออกมานะแต่ก็ไม่ได้ดังอะไร แต่ไอ้คนที่ได้ยินมันก็หัวเราะหลายคน แล้วรู้มั้ยครับเรื่องที่มันจะพูดคืออะไร


[ หัวหน้ากองพัน ]  :  เรื่องไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ เดี๋ยวครูฝึกจะอธิบายนะ โรงเรียนของเราไปเดือนมกราคม แค่นี้แหละ



ห๊ะ !!! แค่นี้ ให้กูนั่งตากแดด10 นาทีเพื่อให้มึงมาพูดแค่นี้ พ่อมึงตาย คือคุณเข้าใจผมมั้ยครับท่านผู้อ่านคือ ผมรอเนี่ย รอ10 นาที เนี่ยเพื่อ เพื่อ !!!  แค่เนี้ย อารมณ์เหมือนผมนั่งดู Sword art online ผมรอ Part2 มาหลายเดือน


แล้วรอไอ้โตะแม่งตื่นสักทีหลังจากเนตหลุดไปเกือบครึ่งปี แล้วนี่อะไรมาดูตอนล่าสุด แม่งลุกขึ้นมาพูดแค่ ชั้นกลับมาแล้ว อาซึนะ พ่อมึงตายสุดท้ายก็ต้องรอดูวันนี้อีก วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคมเนี่ย


โอยแม่งเซ็งเป็ด อ่ะย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว หลังจากที่ด่าพ่อมันไปหลายที พวกเราก็แยกย้ายตามที่ครูฝึกบอก แล้วก็ไปเรียนๆๆๆ ทั้งเรียนภาคทฤษฎี และวิชาต่างๆประกอบปืนบ้าง


ยิงปืนบ้าง สวนสนามบ้างแล้วแต่กำหนด จนกระทั่งพวกเราเรียนจบหลักสูตรปี 2 เรียบร้อย อ่าส์ปลดปล่อยเลยกูทีนี้ ได้ไว้ผมยาวอีกหลายเดือน ผมก็กลับมาเรียนเหมือนเดิม


โดยที่ได้ตัดรองทรงไว้ผมยาวตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมันก็มีบ้างครับ ที่นักกีฬาโรงเรียน จะมีหญิงมาติดพันแต่อย่างที่บอกไว้แล้วว่าตั้งแต่ร้านเกะ ว่าผมเป็นคนที่หน้าตาปานกลาง


ก็ไม่ได้ถึงขั้น Hot ปรอทแตกเหมือนพวกนักดนตรี หรือพวกหล่อเรียนเก่ง ทำให้ชีวิตวัยเรียนตอนนั้นไม่ได้วุ่นวายอะไรนัก จะมีบ้างก็เดินไปส่งขึ้นรถเมล์ หรือเดินด้วยกันในโรงเรียน


แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้หรอกครับ โรงเรียนผมแม่งมีกฎอยู่อย่างนึง คือถ้าเห็นว่ากระทำอะไรที่เข้าข่ายชู้สาว จะโดนเรียกผู้ปกครองทันที ผมก็แบบชิบหายละไง ไม่อยากโดนเรียกผู้ปกครองด้วย


ทำให้ผมไม่ค่อยจะประเจิดประเจ้อเรื่องนี้นัก ถ้าจะนั่งคุยกันใกล้ๆกันก็จะไปที่ลับตา ไม่ก็ที่ชมรมยูโดเลยล่ะ แหม ทีเพื่อนผมมันล่อกันในห้องเรียนตอนงานกีฬาสี อาจารย์ไม่เห็นทำไรได้เลย


อ่ะกลับมาเรื่องของผมต่อ จนเวลาผ่านไปถึงเดือนมกราคม อีก 2 อาทิตย์จะเข้าค่ายเขาชนไก่ ครูที่โรงเรียนก็เรียกรวมพลเลยคราวนี้ แล้วแจกใบปลิวมาให้ทุกคน มันคือกำหนดการ


การเดินทางต่างๆ จุดรวมพล และที่สำคัญของที่ต้องไปหาซื้อมาเพื่อเข้าค่าย หรือเรียกว่าอุปกรณ์กันโดนครูฝึกแดกนั่นแหละครับ



[ ครูฝึกประจำโรงเรียน ]  :  เอ้า ไอ้หัวหน้าหมู่มารับใบกำหนดการไปแจก



เสียงของอาจารย์พละศึกษาท่านหนึ่งดังขึ้นขณะที่เรียกรวมพล นักศึกษาวิชาทหารปี 2 หรือพูดง่ายๆก็นักเรียน ม. 5 นั่นแหละ


ผมถึงกับอุทานใจเลยว่า เย็ดเข้ นรกชัดๆ คือใครที่เคยเรียนรักษาดินแดน หรือ รด. จะเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง


เขาชนไก่ เป็นชื่อที่ได้ยินมาตั้งแต่ก่อนจะจบ ม. 3 มึงอ้วกแน่ มึงเป็นลมแน่ มึงโดนผีหลอกแน่ๆ แล้วผมนี่แบบจำฝังหัวเลยไง


คือแน่นอนเรียนเหตุผลที่ผมเรียน รด ไม่ใช่เหตุผลสวยหรู เพราะอยากฝึกวินัยตัวเองหรอก เหตุผลตรงๆเลยคือไม่อยากเกณฑ์ทหาร หรือที่ครูฝึกพูดๆกันก็คือ


" หนีทหารแบบถูกกฏหมายนั่นแหละ "



ผมกับเพื่อนนั่งมองรายการที่ต้องซื้อแล้วมองหน้ากันเลยครับ ผมพูดขึ้นพร้อมกันเลยว่า


" เหี้ยไรวะเนี่ย "


อุปกรณ์ที่ต้องซื้อ

- เป้สนาม
-กระติกน้ำ
- ซิ่งผ้า
- เข็มขัดสนาม
- สายโยงเป้



นี่แหละครับที่ทำให้ผมงงกัน สายโยงเป้อะไรวะ มันคืออะไร เพราะเรียน ร.ด. มาสองปีไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลย ชีวิตการเรียน ร.ด. สิ่งที่ผมรู้จักก็มีแค่


1. ชุด ร.ด. ที่ต้องเอาไปเข้ารูปให้ดูกระชับและดูดี โชคดีไปที่ตอนผมเรียน ม.ปลาย ผมถือว่าเป็นที่รูปร่างสมส่วน ซึ่งอาจจะเพราะเล่นกีฬาหลายๆอย่าง



2. รองเท้าคอมแบทที่ต้องขัดให้เงาตลอด ไม่งั้นโดนสั่งวิดพื้น 5 มั่ง 10 มั่ง แล้วแต่ใจของครูฝึก



3. กีวี่ ซึ่งก็ไม่เคยใช้หมดตลับเลย ถ้าไม่หายก็ลืมปิดฝา จนมันแห้งไปเอง แต่ขอเถอะไอ้หมุดที่ใช้เปิดเนี่ย ทำให้มันแข็งแรงหน่อย แม่งเอ๊ย หมุนนิดเดียวเกลียวหลวมแล้ว

3.1 อุปกรณ์เสริมในการขัด มาตรฐานเลยคือแปรงขัดรองเท้า แตะๆ กี่วี่และโซโล่ไปเลย


3.2 ถ้ามักง่ายหน่อยก็ถุงเท้านี่แหละ เอาถุงเท้า ร.ด. สวมมือ จุ่มกีวี่ แล้วถูเลย ง่ายกว่าเยอะ แต่ก็ต้องแลกมากับมือที่มันดำๆๆ


ส่วนอีกสูตรแบบโคตรละเอียด ซึ่งจำไม่ได้ว่าใครสอนมา แต่น่าจะเป็นครูฝึกที่ศูนย์ใหญ่ ให้เอาสำลีจุ่มน้ำให้ชุ่ม เอาไปแตะกี่วี่ และมาวนๆๆเป็นวงกลมให้ทั่วรองเท้า


ทิ้งไว้ 5 นาทีและเอาผ้าแห้งๆมาเช็ดขัดเงา คือถามว่าผมทำตามมั้ย ทำตามครับ แต่บอกได้เลยว่ากูทำแค่ครั้งเดียว คือแบบมึงต้องว่างมากๆ หรือเวลาเหลือมากๆอ่ะถึงทำได้


กว่าจะจุ่มน้ำ จิ้มกีวี่ เอามาวนๆๆทั่วรองเท้า แล้วไหนจะรอ 5 นาทีอีก โห้ ตามสบายเถอะใครจะเอา กับมีอีกวิธีที่เงาวิบๆๆๆตลอดคือ ไปซื้อรองเท้าหนังแก้วมาใส่ แล้วผลเป็นไง โดนตบสิ่ครับไอ้พวกนั้น

••••


4. บรัซโซ เอาไว้ขัดหัวเข็มขัดกับปลายเข็มขัดให้มันเงาๆ สมัยก่อนนี่ถ้าขึ้นปี 2 แล้วต้องเปลี่ยนสายเข็มขัดเลย เพราะตอนได้ชุดมาตอนปี1 เข็มขัดมันจะสั้นๆ ไม่เฟี้ยว สมัยก่อนที่ปลายเข็มขัดต้องห้อยๆ ให้พ้นชายเสื้อออกมา อื้มม โคตรจ๊าบ แต่อย่าให้ครูฝึกเห็นละ โดนสั่งหมอบ สั่งโผทันที


••••


5. ซิ่ง หรือ ที่ถ่วงขากางเกง

ตอนเรียนปี 1 ( ม.4 ) ผมนี่นึกว่าสปริง เอามาไล่ฟาดกันอย่างมัน แต่พอปี 2 ก็เปลี่ยนมาใช้ซิ่งผ้า เพราะมันดูเท่ดี แต่แม่งเอ๊ยหนักชิบ



เนี่ยชีวิตการเรียนร.ด. มาสองปี ผมก็รู้จักอยู่แค่เนี้ย แล้วผมจะไปหาซื้อยังไงวะ ไม่รู้แหล่งเลย จนไอ้หัวหน้ากองพันที่ผมด่าพ่อมึงตาย ก็บอกว่าเดี๋ยวไปกับกู กูจะไปเสาร์นี้


อ่ะพ่อมึงตาย เอ๊ยไม่ใช่ๆๆ อ่าสบายเลยผม และวันเสาร์ก็มาถึงครับ มันนัดเจอกันที่สนามหลวงตรงศาลหลักเมือง ผมก็สบายหน่อย มารอรถเมล์ตรงปากซอย แล้วขึ้นรถเมล์ 123 ต่อเดียวถึงเลย


พอไปถึงก็อย่างที่รู้ๆกันครับ ถ้าจะนัดรวมกันมันต้องเผื่อเวลาไว้ คือนัด9 โมง เตรียมทำใจไว้เลยว่าแม่งต้องมาครบเกือบ 10 โมงแน่ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ


อ่ะครบแล้ว 5 คน วันนั้นพวกเราไปกัน 5 คนครับ ซึ่งผมก็นึกว่าแม่งจะไกล ไม่เลย ไม่ใช่เลยเดินมาอีกนิด ข้ามสะพานอีกหน่อย แหล่งขายอุปกรณ์เข้าค่าย มันอยู่หลังกระทรวงกลาโหมเองครับ หรือที่เรียกว่าคลองหลอดนั่นแหละครับ


แม่เจ้าใกล้ชิบหายเลย เอาล่ะกูรู้แหล่งละทีนี้ ปี3 สบายแน่กู ไม่ต้องรอพวกมึงด้วย วันนั้นเหมือนเปิดโลกผมเลยครับ นายโทน อายุ17 ปี เคยมาที่นี่ครั้งแรกบอกเลย


เจออะไรมากมายเลยครับ ทั้งตึกรามบ้านช่องทรงโบราณ ทั้งอุปกรณ์ตำรวจ ทหาร มากมายเสื้อกั๊กแบบตำรวจ อีกทั้งคอมแบทหลากหลายแบบ เยดเข้นี่ผมทนใส่แบบหนังทั้งคู่มาตั้งนาน


พึ่งรู้ว่ามีแบบกึ่งผ้าด้วย สบายกูล่ะ แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ดีมากหรอกครับ ด้วยความที่เป็นผ้าทำให้เสียทรงง่าย และต้องรัดให้แน่นกว่าปกติ ซึ่งพอเอาจริงๆก็ไม่ได้ต่างจากคู่ที่เป็นหนังทั้งคู่เลย



พวกผมเดินซื้อกันหลายอย่างเลยครับ นอกเหนือจาก กระเป๋าสนาม เข็มขัดสนาม สายโยงเป้ กระติกน้ำ ที่เป็นของหลักๆแล้ว ผมก็ยังซื้อพวกผ้ายางปูนอน เสื้อยืดสีเขียวที่เย็บฟองน้ำตรงบ่าเพิ่มอีก


ตอนนั้นสองจิตสองใจว่าจะซื้อถุงนอนดีมั้ย เพราะตอนนี้มันเดือนมกราคม หน้าร้อน เอาถุงนอนไปจะได้ใช้เหรอ มัน 300 เลยนะเฮ้ย 300 นี่เอาไว้เดินเที่ยวเซ็นทรัลปิ่นเกล้าได้ทั้งวันเลยนะ


แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อครับ เพราะคิดว่ายังไงมีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี แล้วก็ซื้อกระบอกไฟฉายสีดำเพิ่ม แล้วก็ของอีกเล็กๆน้อยๆ ซิ่งนี่ไม่ได้ซื้อเลย


เพราะพี่ๆมันบอกกันว่า ใส่ไปแค่วันแรกเท่านั้นแหละ วันหลังๆลงน้ำ ลงโคลนมันจะถ่วงขาเปล่าๆ ที่สำคัญอย่าลืมแป้งตราโยคี กับผ้าอนามัยด้วย


ซึ่งผมก็งงนะตอนแรกว่าจะเอาผ้าอนามัยไปทำไมวะ และเขาก็บอกว่าเอาไว้ห่อตรงส้น เพราะมึงได้เดินกันทั้งวันแน่ๆ สรุปวันนั้นซื้อของกันเกือบ 5 ชั่วโมงครับ


ต้องเทียบราคาหลายๆร้าน เพราะพวกเราก็ยังเป็นเด็กที่ขอเงินพ่อแม่ใช้ เรายังไม่มีรายได้เลย แข่งยูโดได้เงินมาผมก็เอามาเป็นค่าขนม เพราะไม่อยากจะขอพ่อแม่เท่าไร


บอกเลยว่าผมไม่ใช่เด็กดี กตัญญูอะไรหรอกครับตอนนั้น แต่ว่าอะไรที่ช่วยได้ มันก็ต้องช่วยแหละครับ บ้านผมตอนนั้นกำลังสร้างอะไรหลายๆอย่าง อะไรประหยัดได้ งดขอได้ ก็ต้องทำ


อ่ะกลับมาต่อ วันนั้นแบกของกลับบ้าน กลายเป็นพวกบ้าหอบฟางเลยครับวันนั้น สรุปที่ผมซื้อวันนั้นทั้งหมดก็มี




-เป้สนาม


.......




- กระติกน้ำ + เหล็กเกี่ยวสำรอง


........




- สายโยงเป้ ( ซื้อมาทำไม บอกตรงๆไม่ได้ใช้เลย )



.......




- เข็มขัดสนาม ( สมัยนั้นผมใช้แบบในภาพนะ อิจฉาเด็กสมัยนี้มีแบบกริ๊บล็อกด้วย )



........






- ผ้ายางผืนนึง



........




- ถุงนอน ( ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังอยู่ )


.......




- ไฟฉายสีดำ ( มาเป็นบ้องเลยครับสมัยก่อน โอย สมัยนี้อันนิดเดียวน้ำหนักเบา แถมสว่างชิบ )



......





- หมวกสีเขียว ( แม่งต้องหายแน่ๆ สำรองไว้ก่อน เดี๋ยวโดนแดก )


......





- เสื้อยืดเสริมไหล่


......





- เสื้อยืดคอเต่าสีเขียว ( ไม่รู้ซื้อทำไม )


......


นี่แหละครับของที่ซื้อมาวันนั้น ซึ่งอาจจะมียิบๆย่อยๆอีก ซึ่งจำไม่ได้ครับต้องขออภัย หลังจากที่กลับบ้านมาแล้ว หลับครับ หลับไม่รู้เรื่องเลยทีนี้ ซึ่งหลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์



ก็ไม่มีอะไรมาก แต่ทุกวันพฤหัสบดี ตอนคาบชุมนุม รักษาดินแดน พวกผมก็ต้องไปเข้าเพื่อฟังคำแนะนำและชี้แจงต่างๆจากครูฝึก และไอ้พวกรุ่นพี่ที่สนิทกันก็มาบอกต่างๆนาๆ


มึงโดน " จ่านรก " แดกแน่ มึงโดนผีหลอกแน่ เดินทางไกลตอนดึกมึงระวังนะไอ้โทน มึงวิ่งไม่เร็วเท่าผีหรอก มึงสับตีนแตกมันก็ไล่ทันมึง แล้วก็เข้าสู่ชั่วโมงพิศวงครับ


คือพวกพี่ๆแม่งก็เหี้ยมเกิ๊น รุ่นน้องกำลังจะไปอยู่ในที่ที่มีการสู้รบในอดีต เออคือรู้แหละว่ายังไงก็มีคนตาย ยังไงก็มีศพ ยังไงก็ต้องมีจิตที่หลงเหลืออยู่


แต่มึงจะมาบิ๊วทำไมว๊า เอาจริงๆผมก็ไม่ได้กลัวผีมากนะ เพราะเจอมาตั้งแต่เด็กๆเลย ที่ผมไม่กลัวไม่ใช่อะไรหรอก เพราะผีที่ผมเจอมักจะมาแบบแว๊ปๆ ปลายหางตามั่ง วิ่งผ่านมั่ง


แต่ที่ผมหวั่นใจคือที่ตรงนั้นมันแรงไงครับ มันเป็นที่ที่พวกเขาอยู่ แล้วถ้าเจอจังๆขึ้นมาจะทำยังไงวะ วิชาอาคมอะไรผมก็ไม่มีเหมือนบักริวกะ ผมก็มีแค่บทสวดที่สวดมนต์กันแค่นั้นเอง


และแล้ววันเข้าค่ายก็มาถึงครับ พวกเรานัดรวมพลก็มาครับ พวกผมมารวมกันที่สวนเจ้าเชษฐ์ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกที่พวกผมเรียนกันตอน ปี.1 พวกผมยังจำได้ไม่มีวันลืม


[ ครูฝึก ]  :  น๊าบ ก้าว

[ พวกผม ]  :  หนึ่งงงงงง  สอง

[ ครูฝึก ]  : น๊าบบบ ใหม่

[ พวกผม ]  :  หนึ่งงง สอง

[ ครูฝึก ]  :  ไม่ถูกใจ

[ พวกผม ]  :  หนึ่งงงง ส๊องงง !!!

[ ครูฝึก ]  :  นับต่อไป

[ พวกผม ]  :  สาม สี่ / หนึ่ง สอง สาม สี่ / หนึ่ง สอง สาม สี่ / ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาร อดทด สามัคคี สู้ตาย พัน ร ศสร.  เอี้ย !!!


คำที่พวกผมท่องกันจนขึ้นใจตอนเดินกลับบ้านหรือฝึกเดินแถว หรือสวนสนาม อ่าส์ วันนี้ไม่มีแดดครับ สบายละกรูวันนี้ แต่ก่อนอื่นเลยพวกผมต้องรีบเดินหาร้านขายของชำ ไม่ก็เซเว่น เพื่อหาซื้อผ้าอนามัยให้ไวเลย


ตอนแรกก็โคตรอายครับ แต่คนขายเห็นพวกผมใส่ชุดนักศึกษาวิชาทหาร เขาก็ยิ้มให้ครับ เขาถามว่าจะเอาไปรองคอมแบทเหรอ ผมบอกใช่ครับๆ แล้วมันทำยังไงอ่ะครับ ผมพึ่งไปเข้าค่ายครั้งแรกเลย


ซึ่งอากง คนขายของก็ใจดีนะ สอนแทบทุกอย่างเลย เพื่อนผมแม่งก็คิดอะไรก็ไม่รู้นะ ไปเดินด้อมๆมองๆ แถวโหลขายขนม มันถามอากงว่า แปะครับ มีพวกถุงกันความชื้นมั้ย ผมจะเอาไปใส่ไว้ในกางเกงใน


ผมนี่แบบห๊ะ !!! เหี้ยอะไรเนี่ยถุงกันความชื้นใส่กางเกงใน พ่อมึงตาย ผมก็ถามมันครับอะไรมึงเนี่ย อากงก็บอกนะครับว่าอย่าเลย มันไม่ดีหรอก สารเคมีโดนไอ้นั่นขึ้นมามันจะใช้การไม่ได้นะ


เพื่อนผมมันก็เหวอๆเล็กน้อยครับก่อนที่จะซื้อแค่ผ้าอนามัยแบบผม และตอนนั้นครับประมาณ 6 โมงเช้า รถบัสสีเขียวขี้ม้าก็มาเลย ครูฝึกลงมาจากรถและเรียกรวมพลเลยครับ


เขาแจกแจงอย่างรวดเร็วว่าเลขที่เท่าไรไปคันไหน พวกผมนี่ก็รีบเลยครับเพื่อที่จะเข้าไปนั่งติดหน้าต่าง อ่าส์สบายกูล่ะ ผมนี่เตรียมเปิดหน้าต่างเลยครับแต่ว่า


[ ครูฝึก ]  :  เฮ้ย นักศึกษาห้ามเปิดกระจก ปิดไว้แบบนั้น


เอ้าอะไรวะห้ามเปิดกระจกอีก โอยอะไรวะเนี่ย ซึ่งผมไม่รู้เลยครับ ว่า 3วัน 2 คืน ณ เขาชนไก่ มันได้เริ่มตั้งแต่พวกผมก้าวขึ้นรถบัสแล้ว


ผมไม่รู้ว่าเราใช้เวลาเท่าไรกว่าจะถึงเขาชนไก่นะ เพราะว่ารสบัสจอดกลางทาง เพื่อรอรถที่รับนักศึกษาโรงเรียนอื่นมาด้วย เพื่อที่จะได้เข้าไปพร้อมๆกัน อ่าส์ชิบหายละไง แดดเริ่มมา อากาศเริ่มร้อน


อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นแปลกๆ ผมก็แบบคิดในใจนะ เอาละไงชิบหายละไง ผมเริ่มปลดกระดุมเสื้อครับ ตอนนั้นชั่งใจอยู่ว่าจะดึงชายเสื้อออกมาดีไหม แต่คิดๆไปอย่าเลยดีกว่าว่ะ





และพวกผมก็มาถึงเขาชนไก่ครับ โอ้โหแดด ไอ้สัดแดด โอย นี่ผมอยู่แอฟริกาหรือไงวะเนี่ย ปี๊ดดดด ปี๊ดดดด เสียงนกหวีดที่คุ้นเคยดังขึ้นมาแล้วครับ พวกผมรีบขนกระเป๋าลงจากรถเลย


ซึ่งแน่นอนครับพวกผม ยังคงเอ้อระเหอลอยชาย เพราะติดนิสัยมาจากการเข้าค่ายลูกเสือ ที่มันไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย ซึ่งพวกผมคิดผิดมหันต์เลย


หมอบ !!!  บอกให้หมอบ !!!


เสียงที่โคตรดุ และโคตรน่ากลัวดังขึ้นมาทันที พวกผมก็ลงไปหมอบเลยครับ อึ้ก !!!  แม่งเอ๊ยจี๊ดเลยครับ หินเล็กๆ แม่งทิ่มแขนทิ่มขาเต็มไป หมด


ลุก !!!


เสียงๆเดิม สั่งอีกครั้ง พวกผมก็ลุกครับ แต่พอลุกมาก็ปัดนู่น ปัดนี่ตามนิสัยที่เคยทำกันมา





ชักช้า ชักช้าใครให้มึงปัด หมอบ หมอบลงไป !!!


พรึ่บ !!!  พวกผมทิ้งตัวเลยครับทีนี้ หัวใครเป็นหัวใครไม่รู้หล่ะทีนี้ ใครซวยน้อยหน่อยก็โดนปลายคอมแบทเตะเข้าที่หัว ใครซวยมากหน่อยก็โดนที่นิ้ว พวกผมหมอบจนหน้าแนบกับพื้นแดนแดง



ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เจ็บก็ต้องทนร้อนก็ต้องทน



[ ครูฝึก ]  :  สั่งให้ลุกก็ลุกอย่าชักช้าครูโรงเรียนพวกมึงไม่สอนกันหรือไง ห๊ะ !!! สั่งลุก ลุกให้ไว  ลุก !!!


พรึ่บ !!! พรึ่บ !!!  พวกผมนี่ลุกให้ไวเลยครับ ผมลุกได้ไวนะ เพราะออกกำลังหายมาบ่อย ส่วนพวกเพื่อนๆหลายคนก็เซไปก็มี เพราะกระเป๋ามันก็หนักไม่เบาเลย


[ ครูฝึก ]  :  จัดแถว !!!


[ พวกผม ]  :  เฮ้ !!!


พวกผมรีบวิ่งไปจัดแถวทันที เพราะไม่อยากจะหมอบตรงพื้นดินแดงนี้อีกแล้ว ไม่ถึง 1 นาที โดนสั่งหมอบไป 2 ครั้ง แล้วอีก 3 วันพวกผมจะโดนอะไรมั่งเนี่ย และแล้ว 3 วันสองคืนบนเขาชนไก่ของผม ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว






 












เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

pamaaeng

เด็กบ้านนอก ต่างจังหวัด ไม่เคยไปฝึกที่ เขาชนไก่ เหมือนเด็กกรุง แต่คิดว่า ความมันที่ได้รับก็คงไม่ต่างกันมากนัก



....

จะว่ามันส์ก็ใช่ จะว่าทรมาน มันก็ถูก อ่าส์ อาบน้ำสองขันเท่านั้น


#โทน

Nattanan Tst

เราเรียนที่โรงเรียนวัดราชโอรส จำได้เลย ตอนปี1ฝึกที่สวนเจ้าเชตุ ตอนปี2ฝึกที่สนามเป้า ตอนปี3ฝึกที่ศูนย์ใหญ่  ชีวิตตอนนั้นสนุกมากแต่ตื่นเช้าไปหน่อย ยังจำได้ว่าเข้าเซเว่นกันที สเลอปี้แก้วเดียวกินกันทั้งกองร้อยเลย


....


ตอนปี1 ผมเรียนที่สวนเจ้าเชษฐ์เหมือนกันครับ
ส่วนปี 2 กับ ปี3 เรียนศูนย์ใหญ่


#โทน

Thekid34

ผมไปเจอ จ่านรก เอ้ย จ่าณรงค์ ช่วงแฟนฉันกำลังดัง แม่งให้ปั่นจักรยานอากาศ 555

teeoun2556


attawit2524


momoyoyo

ผมไม่ได้รด.นะเพราะเกรดไม่ถึง แต่ก็รู้จักเขาชนไก่ดีเพราะเป็นเด็กกาญ

occocc


pliwds

เอ่อ จากร้านเกะพระราม3 มันไหลไปถึงเขาชนไก่ได้ไงเนี่ย

ช่วงต้นๆเรื่องพิมพ์ผิดเยอะอยู่นะ


....

ไล่แก้แล้วครับ


#โทน

fallenversa

เรียกว่าปูเรื่องสินะ
ตอนแบบนี้ รีบมาให้อ่านต่อนะครับ ดูเหมือนยังไม่เข้าเส้นเรื่องหลักเลย

cd13579

โอยยยยย คิดถึงบรรยากาศ

ปี 1 สวนเจ้าเชตุ ปี 2 แยกเกียกกาย ปี 3 ศูนย์รังสิตตามระเบียบ ปลอกแขนแดงนี่ดุ แดกหมามารึยังไงไม่ทราบ
ข้าวกับสารพัดไก่ เมนูคู่นศท จริงๆฮะ

หมวกหายโครตบ่อย สายคาดเอวกับกระติกเป้ผมยังอยู่ เป็นสนามผมนี่ลากใช้มาอีกหลายปีเลย โครตชอบ (แม้เกรดจะต่ำก็เถอะ)

ดินแดง แดด และจ่านรก ซิกเนเจอร์ของเขาชนไก่ครับ 
(ล่าสุดจ่่่าแกเกษียณที่ ร้อยเอกมั้งครับ เป็นจ่ามา 17 ปี)
ห้องน้ำอีกอันนึง รุ่นน้องเขาทำห้องน้ำใหม่ให้แล้วครับ ไม่สะใจเลย

ปีผมศูนย์เขาซื้อเครื่องสนามมาพร้อมขายเองเลยครับ
ผมจะตามหลังอยู่ 6-8 ปีมั้งครับ

คิดถึงกลิิ่นดินปืน และหมวกเหล็กที่เคาะกบาลเหลือเกิน อาาาา ขอบคอมแบตที่่ทัักทายยามเราช้า เสียงว๊าก หมอบ ลุก หมอบ 
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

puretank

เห้ย...อ่านไม่กี่บรรทัด มาเม้นก่อนเลย  นี่ห้องเด็กศิลป์ฝรั่งเศสเหมือนผมเร้ย 555+

รด. ผมไม่เรียน  จบ ม.ปลายต่อปวส. จบมาลุ้นจับใบดำแดง ซึ่งก็แดง แล้วก็อยู่ต่ออีกปีเป็นสองปี มันก็มีประสบการณ์ชีวิตทั้งดีทั้งเลวปนๆกันไป

Otaza

ต่างจังหวัดครับ สนุกดีเหมือนกัน เสียอย่างเดียว ท้องเสีย 2 วัน วิ่งไป จะไหลไป เวรจริงๆ 

jomza537

ย้อนอดีตในวันวานได้ดีเลยครับ คิดถึงช่วงเวลานั้นเหมือนกัน ปี1ปี2ผมเรียนที่เกียกกาย ปี3เรียนศูนย์ใหญ่ครับ

power1961

หนีทหารแบบถูกกฎหมาย เข้าใจผิดแน่เลย เป็นทหารเต็มตัวไปแล้ว จบหลักสูตร ว่าที่ร้อยตรี  ลับ ลวง พราง