ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มั่วรัก นักเปิดซิง ตอนที่ 26: จุดบรรจบ

เริ่มโดย KaohomLM, เมษายน 01, 2024, 06:34:35 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   "เป็นไงบ้างแล้ว" ไอ้ตี๋ถามไอ้เป็ด "ที่กูให้มึงไปเตรียม"
   "สมาคมหนุ่มอกหักจากคณะทางสายสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์รายงานมาว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว" ไอ้เป็ดเช็คข้อความในโทรศัพท์ "ไอ้มิ่งบอกว่า จัดหารถบัสใหญ่มาได้แล้วด้วย ติดตั้งอุปกรณ์ครบ"
   "ดี ดี" ไอ้ตี๋พึมพำ "แล้วคนนอกล่ะ"
   "กูติดต่อกับเพื่อนเก่า ๆ ที่เคยเป็นสมาชิกพรชัยดอทพอร์นด้วยกันมาได้หลายคนอยู่" ไอ้เป็ดบอก "ไอ้พวกนี้ เรี่ยวแรงดีกันทุกคน เอามาใช้เป็นลูกมือได้ หลังจากพรชัยดอทพอร์นปิดไป แม่งก็เหงากันทุกคน"
   "อือ....แล้วรายชื่อล่ะ มึงจัดทำไว้เรียบร้อยนะ"
   "เรียบร้อย ระดับกูแล้ว แล้วก็.............นี่............"
   ไอ้เป็ดเหลียวมองรอบตัวอย่างระแวงระวัง ก่อนจะหยิบหนังสือโบราณเก่าค่ำคร่าออกมาจากกระเป๋า
   "อะไรของมึงว๊ะ ไอ้เป็ด" ไอ้ตี๋ถาม สายตาจับจ้องที่ปกหนังเก่า ๆ เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยคราบสกปรก

   "คัมภีร์...." ไอ้เป็ดบอก "ที่กูได้มาจากพี่บอม ลูกน้องทั่นชัยกับมือเลย"
   "คัมภีร์อะไรของมึงว๊ะ มึงจะฝึกแยกร่างเหรอ สัส" ไอ้ตี๋ถาม "ปัญญาอ่อนเหี้ย ๆ"
   "หึหึหึหึ ถ้ามึงได้อ่านในคัมภีร์เล่มนี้ มึงจะไม่พูดอย่างนั้น" ไอ้เป็ดลดเสียงลงต่ำ "ในคัมภีร์เล่มนี้ สอนวิธีอัญเชิญปิศาจแห่งราคะ"
   ไอ้ตี๋หัวเราะลั่น "แล้วมึงก็เชื่อเหรอ ไอ้สัสสสสสสสสส มึงนี่ โง่กว่าที่กูคิดนะเนี่ย 55555555555555555"
   "หัวเราะไปเถอะ ไอ้ตี๋" ไอ้เป็ดบอก "ไอ้แผนที่เราวางกันอยู่เนี่ย ถ้ามีปิศาจแห่งราคะมาช่วย โอกาสสำเร็จมันจะเยอะขึ้นเยอะเลยนะเว๊ย เราแค่ต้องใช้เครื่องสังเวย........"
   "ไอ้ที่เราจะทำ....ไม่ต้องอาศัยอะไรที่เหนือธรรมชาติมาช่วยหรอก" ไอ้ตี๋ประกาศ "แค่ความหล่อของกู อีพวกผู้หญิงพวกนั้นก็มาติดควยกันตรึมแล้ว"
   "แต่ถ้าได้ปิศาจมาช่วยด้วย......"
   "พวกมึงทำอะไรกันอยู่ว๊ะ" ไอ้พี่ก้องเข้ามาถาม ไอ้เป็ดรีบยัดคัมภีร์กลับเข้ากระเป๋าไป
   "ไม่มีอะไรนี่" ไอ้ตี๋ตอบ
   "อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ ว่ามึงวางแผนอะไรสักอย่างอยู่ในสมาคม โดยไม่บอกกู" ไอ้พี่ก้องบอก "พวกมึงแอบนัดประชุมกันลับหลังกูหลายรอบแล้ว แล้วก็แทบไม่มีใครจ่ายเงินให้กูแล้วด้วย...."
   "ก็พี่ช่วยพวกเราไม่ได้นี่" ไอ้ตี๋ยักไหล่ "จ่ายให้เสียเงินฟรีทำไม"
   "แล้ว นอกจากขอแผนจากกู พวกมึงคิดจะช่วยตัวเองกันบ้างไหม....."
   "เราก็ช่วยตัวเองกันอยู่นี่ไง" ไอ้ตี๋บอก   
   "จะทำอะไรไหนลองบอกกูซิ"
   "แล้วทำไมต้องบอกด้วย"
   "แปลว่ามึงคิดจะทำอะไรที่ผิกกฎของมหาลัยสินะ"
   ไอ้ตี๋ไม่ตอบ
   "เห้ยยยย มึงคิดถึงอนาคตหน่อยสิ มึงติดทัณฑ์บนอยู่นะ" ไอ้พี่ก้องรีบบอก "โดนไล่ออกไป มันจะหมดอนาคตเอานะ"
   "มีแต่ใจที่กล้าแกร่ง ถึงจะพิชิตสาวสวยได้" ไอ้ตี๋บอก "เพราะพี่ก้องไม่กล้าไง ถึงได้ซิงถึงปีสี่"
   ไอ้พี่ก้องกัดฟันดังกรอด
   "จบงานนี้ ผมกับไอ้เป็ดก็จะเปิดซิงกันแล้ว" ไอ้ตี๋บอก "พี่ก้องอย่ามาขอมีส่วนด้วยก็แล้วกัน"
   ".......หมายถึง ต่างคนต่างจะไปเปิดซิงกับผู้หญิงนะ ไม่ใช่เปิดซิงกันเอง" ไอ้เป็ดรีบแทรกเข้ามา
   "งั้นก็เชิญพวกมึงเถอะ ถูกไล่ออกไปอย่ามาขอให้กูช่วยแล้วกัน" ไอ้พี่ก้องบอก ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
   "เอาหล่ะ กลับมาที่แผนของเรากันต่อ" ไอ้ตี๋หันกลับมาหาไอ้เป็ด "เอาเป็นว่าถ้ามึงคิดว่าจะอัญเชิญปิศาจมาช่วยได้จริง มึงก็ลองดูแล้วกัน"
   "ได้ เดี๋ยวกูจะลองดู" ไอ้เป็ดบอก "มึงก็เริ่มคิดได้แล้วนะ ว่าจะลงมือวันไหน กูจะได้ช่วยเร่งรัดไอ้พวกจากคณะบัญชีให้ แม่งทำอะไรไม่คืบหน้าเลย..."
   "....จากที่มึงบอก น่าจะหาคนนอกมาช่วยได้เยอะใช่ไหม"
   "อือ กูติดต่อได้หลายคนแล้ว"
   "งั้น.......ก็ต้องเป็นวันที่คนนอกเข้ามาในมหาลัยได้โดยไม่ผิดสังเกต" ไอ้ตี๋พูดกับตัวเอง "อาทิตย์หน้า.......วันที่สอบสัมภาษณ์ ดีไหม เด็กจากหลาย ๆ โรงเรียน ผู้ปกครอง จะเข้ามาเต็มไปหมด ก็ให้ไอ้พวกนั้นปลอมตัวเข้ามา"
   "ได้ กูจะนัดให้"

   ".............." เสียงทอดถอนใจยาวที่ข้างกาย ทำให้น้ำฟ้าหันไปมองหน้าชาคริต
   ใช่ พ่อหนุ่มหล่อยังคงเหม่อจ้องไปที่เบญ หูไม่ได้รับฟังคำสอนของอาจารย์แม้แต่นิดเดียว
   ชาคริตเจ็บ เธอก็เจ็บด้วย เจ็บสองเท่าด้วยซ้ำ ทั้งเรื่องที่เขาเจ็บ และเรื่องที่ตัวเธอเองไม่ดีพอจะช่วยให้เขาคลายทุกข์ได้
   "ชาคริตเป็นอะไรเหรอ ถอนใจขนาดนั้น" เบญชะโงกหน้ามาถาม ตาใสแป๋วไร้เดียงสา
   ยัยนี่มันยังไงของมันนะ
   "เบญ........ชาคริตรักเธอนะ"
   เบญยักไหล่ ทำหน้าเด๋อด๋า "แต่เราสัญญาแล้วนี่ ว่าจะไม่รักกัน"
   ชาคริตน้ำตาไหล
   "เบญ ฟังนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า น้องญาจะมาสอบสัมภาษณ์ที่นี่ เธอไปดักเจอน้องได้ ลองขอกับตัว...." น้ำฟ้าพยายามบอก
   เบญยักไหล่อีกครั้ง "น้องบอกเราแล้วว่าไม่ เราไม่อยากให้ชาคริตกับน้องทะเลาะกัน เราเลิกรักชาคริตแล้ว"
   โต๊ะสั่นน้อย ๆ น้ำฟ้ารู้สึกได้ ว่าชาคริตที่นั่งอยู่ข้างตัวเธออีกฝั่งหนึ่งทรุดลงไปนอนน้ำลายฟูมปากแล้ว
   "เบญ.....เธอตัดใจได้สิ้นเชิงขนาดนั้นจริง ๆ น่ะเหรอ"
   น้ำฟ้าจ้องลึกเข้าไปในตาสวยเป็นประกายของเบญ พยายามมองหาแววแห่งความเจ็บปวด เสียใจ โหยหา
   ไม่มีเลย
   "ไม่...รักชาคริตแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ....."
   "รักมีแต่คิดจะทำเพื่อตัวเอง คิดแต่จะผูกมัดผู้อื่น ทำให้ยินดีที่ผู้อื่นสูญเสีย...."
   "กลอน....ของวิลเลี่ยม เบลค" ชาคริตครางเบา ๆ มาจากอีกฝั่งของโต๊ะ
   เบญหัวเราะเบา ๆ "คริคริคริ...........เพราะฉะนั้น ไม่รักถึงดีที่สุด ชาคริตเห็นด้วยไหม"
   "เบญ.....ถึงเลิกรักแล้วก็มีเมตตากันหน่อยก็ได้นะ....ชาคริตน้ำตาไหลเป็นเลือดแล้วเนี่ย"
   "ทำไม....เราไม่เข้าใจ"
   เสียงอาจารย์เรียกถามอะไรสักอย่างดังมาจากหน้าห้อง
   "เอ้า น้ำฟ้าเลิกชวนคุยได้แล้ว เราจะตั้งใจเรียน"

   ถึงตอนพักเที่ยงน้ำฟ้าต้องหิ้วปีกชาคริตลงมาจากห้องเรียนรวม
   "ฮืออออออ ทำมายยยยยย เบญญญญญญ" ชาคริตครวญ
   "โอ๊ยยยยยย นายก็เลิกบ้าได้แล้ว" น้ำฟ้าบ่น "แค่ผู้หญิงไม่รัก ไม่ถึงตายสักหน่อย นายยังเหลืออีกตั้งหลายคน"
   "ก็จริง ก็จริง" ชาคริตพึมพำ "อย่างน้อย ๆ ก็ยังเหลือน้ำฟ้า จริงไหม ขอบใจนะ ที่อยู่ข้างเราตลอด แม้แต่ตอนเรา....เป็นบ้า ๆ แบบนี้"
   น้ำฟ้าหน้าแดง "ชั้นยินดีช่วยนายเสมอนั่นแหละ..."
   
   แต่กำลังจะดึงโรงอาหาร น้ำฟ้าก็ชะงักกึก
   ชายหนุ่มหน้าขาวคนหนึ่งเดินออกจากโรงอาหารมา โดยมีสาวร่างเล็กเดินตามติด ๆ
   "เอ่อ........." น้ำฟ้าจ้องหน้าชายหนุ่มคนนั้นเขม็ง จนชาคริตประหลาดใจ
   ชายหนุ่มหันหน้ามามองน้ำฟ้า แล้วก็ผงะนิดหนึ่ง
   "หนู.........เคยเจอพี่ที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าคะ" น้ำฟ้าถามด้วยเสียงไม่แน่ใจ
   "พี่เก่ง รู้จักกับเค้าเหรอคะ" สาวร่างเล็กถาม
   "ไม่ ไม่รู้จัก ไปเถอะ แตงโม" เก่งจับมือสาวตัวน้อยแล้วตั้งท่าจะเดินจากไป
   "แต่....หนูเคยเห็นพี่จริง ๆ นะคะ หนูรู้สึกได้" น้ำฟ้าร้อง
   "จำผิดคนแล้วมั้งครับ" พี่เก่งบอก "พี่หน้าโหลอยู่นะ"
   ...................
   "เราเคยเจอพี่คนนั้นจริง ๆ นะ" น้ำฟ้าหันมาบอกชาคริต หลังเก่งกับแตงโมเดินหายไปแล้ว "ชาคริตก็น่าจะอยู่ด้วยวันนั้นป่ะ เราเหมือนจะจำได้"
   "เราจำไม่ได้เลย" ชาคริตบอก "น้ำฟ้าจำผิดมั้ง"
   "ไม่ ชั้นเคยเจอพี่เค้าจริง ๆ...." น้ำฟ้าบอก "แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก"
   "ช่างเหอะ น้ำฟ้า ไปกินข้าวกัน"
   "แต่ชั้นรู้สึกเหมือนมันเรื่องสำคัญจริง ๆ นะ"
   
   "อาทิตย์หน้า น้องญาจะมาสอบสัมภาษณ์ใช่ไหมคะ" ไผ่หลิวถามน้ำฟ้า เธอถือโอกาสที่น้ำฟ้าสนิทสนมกับเธอขึ้นดอดมากินข้าวที่คณะวิทยาศาสตร์กับพี่ชาคริต
   ถึงพี่ชาคริตหลังจากอกหักจากยัยผมเปียจะหมองเศร้าไม่น่ารักเท่าเดิมก็เถอะ
   "อือ" น้ำฟ้าตอบ "เตรียมตัวไว้ด้วยนะ ชั้นจะไม่บอกอะไรน้องก่อนหรอก เดี๋ยวน้องไม่มีกะจิตกะใจจะสอบ แต่พอน้องลงมาแล้ว.........."
   "ชั้นก็จะเข้าไป รมน้องด้วยยาหลอนประสาท แล้วก็สั่งให้น้องยอมชั้น...." ไผ่หลิวยืดอกแบน ๆ แล้วพูดด้วยความมั่นใจ



   น้ำฟ้าจับหัวไผ่หลิวกดโต๊ะไปทีหนึ่ง
   ปึง!!!
   คนทั้งโรงอาหารหันมามองเสียงกระแทกที่ดังไม่น้อย
   "โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย"
   "เอาใหม่อีกรอบ"
   "พอน้องลงมา ชั้นจะไปขอพูดคุยกับน้องด้วยคว่ามจริงใจ บอกว่าขอเป็นอีกคนในชีวิตของชาคริตชั้นก็พอใจแล้ว" ไผ่หลิวพูด พลางก็ถูรอยปูดที่หัว
   "เห็นมะ พูดแบบนี้ตั้งแต่ทีแรกก็ไม่ต้องเจ็บตัว"
   "น้ำฟ้าอ่า ใจร้าย" ไผ่หลิวน้ำตาคลอ
      
   เย็นวันนั้น
   "พี่ชาคริตตตตตตต กลับมาแล้วเหรอคะ" รินกุลีกุจอออกมาต้อนรับ
   "แหม เรียกแต่พี่ชาคริต ไม่เรียกชั้นเลยนะ" ไผ่หลิวจิก
   "บังเอิญดิฉันรับเงินเดือนจากแม่พี่ชาคริตอะค่ะ" รินตอบ
   ชาคริตอดยิ้มน้อย ๆ ไม่ได้ ร้ายนะ เรา ริน เดี๋ยวนี้รู้จักต่อปากต่อคำแล้ว
   "พี่น้ำฟ้า เดี๋ยวหนูเอากระเป๋าเรียนไปเก็บในห้องให้นะคะ"
   "ขอบใจนะ ริน"
   "แล้ววันนี้หนูก็เคลียร์ห้องบอลรูมเรียบร้อยแล้วด้วย ตามที่พี่น้ำฟ้าสั่ง" รินรายงาน หลังจากรับกระเป๋าน้ำฟ้าไปถือแล้ว
   "แล้ว หนังสือเรียนเก่า ๆ ที่พี่เอาไปกองในนั้น...." ชาคริตถาม
   "หนูโยนทิ้งไปหมดแล้วค่ะ" รินตอบ
   "แล้วกัน ถ้าพี่จะหาข้อมูลล่ะ"
   "นายยังจะต้องใช้ความรู้สมัยประถมอยู่อีกเหรอ" น้ำฟ้าถาม "ชั้นเป็นคนอนุญาตให้รินทิ้งเองแหละ"
   ก็จริงของน้ำฟ้า แต่ถึงจะไม่ได้ใช้หนังสือพวกนั้นแล้ว ชาคริตก็อดเสียดายไม่ได้
   "ไหน ๆ บอลรูมก็ใช้ได้แล้ว คืนนี้ เราเต้นกันหน่อยไหม" น้ำฟ้าถาม "ไม่ได้เต้นกันนานมากแล้วนะ"
   "อืม เอาสิ"

   หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้ว ชาคริตกับสามสาวก็ช่วยกันตั้งเครื่องเสียงในห้องบอลรูมใหญ่
   ห้องปีกตะวันตกที่ตั้งเปียโน จริง ๆ แล้วกว้างใหญ่จนใช้เป็นห้องบอลรูมได้ ช่วงก่อนที่จะมีเงินไปเช่าห้องโรงแรม แม่เคยใช้บ้านนี้เป็นที่สังสรรค์กับเพื่อน ๆ นักธุรกิจและหารือทำข้อตกลงกันอยู่ ห้องบอลรูมจึงถูกใช้ในการจัดงานเลี้ยงหลายครั้ง
   จนเมื่อธุรกิจขยายใหญ่โต และแม่อยู่บ้านน้อยลงเรื่อย ๆ ห้องบอลรูมก็กลายเป็นห้องเก็บของที่ไม่มีใครใช้ แม้แต่วันที่เข้ามาเล่นเปียโนกับเบญ บริเวณฟลอร์เต้นรำทีหน้าเปียโนก็ยังเต็มไปด้วยกองหนังสือและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหรือไม่ได้ใช้แล้ว
   จนกระทั่งถึงตอนนี้
   ชาคริตปฏิเสธไม่ได้ ว่าได้กลับมาเต้นกับน้ำฟ้าอีกครั้ง ทำให้เขาบรรเทาความเศร้าใจจากเรื่องที่อกหักจากเบญได้มากโขอยู่
   รอบแล้ว รอบเล่า ชาคริตกับน้ำฟ้าหมุนตัวร่ายรำไปรอบห้อง สอดประสานกับจังหวะวอลซ์ฉ่ำหวาน
   จนเพลงที่สามจบลง ทั้งคู่จึงได้แยกจากกัน
   "ขอบใจมากนะ น้ำฟ้า" ชาคริตบอก และหอมแก้มสาวแว่นเบา ๆ น้ำฟ้าหน้าแดงก่ำ "เราไม่รู้จริง ๆ ว่าถ้าไม่มีน้ำฟ้าเราจะอยู่ได้ยังไง"
   "นายอยู่ได้น่า นายยังมีคนอื่นอีกตั้งหลายคน" น้ำฟ้าบอก
   "แต่ไม่มีใครเหมือนน้ำฟ้า" ชาคริตยืนกราน
   "เพลงต่อไปขอหนูนะคะ" ไผ่หลิวโผล่หน้าเข้ามา
   "ไผ่หลิวก็เต้นเป็นเหรอ"
   "ค่ะ พ่อเคยบังคับให้เรียน เผื่อไว้ใช้เวลาออกงานสังคม.....แต่หนูไม่เคยชอบเลย" โธ่ ถ้ารู้ว่าพี่ชาคริตชอบเต้น ตั้งใจเรียนก็ดีสิ
   ไผ่หลิวสูงเกือบไม่ถึงอกชาคริตด้วยซ้ำ เต้นด้วยกันเลยดูแปลก ๆ อยู่ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตอนเต้นกับน้ำฟ้า ที่สูงเกินไหล่ชาคริตขึ้นมาหน่อยหนึ่ง
   แล้วที่เธอไม่เคยชอบเรียนเต้นลีลาศก็สังเกตได้ชัดเจนอยู่ เพราะท่าเต้นของเธอเก้กังมาก จนชาคริตที่เต้นเก่งไม่น้อยอยู่ยังแทบประคับประคองพาไปไม่ไหว
   แปะ แปะ แปะ
   น้ำฟ้ากับรินปรบมือให้อย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ เมื่อเพลงจบลง
   "แหะ แหะ ขอโทษนะคะ พี่ชาคริต" ไผ่หลิวเกาหัวแก้เขิน "เดี๋ยวหนูจะตั้งใจไปฝึกซ้อมมาใหม่"
   "ดี งั้นต่อไป ชั้นต่อนะ...."
   "พี่น้ำฟ้าสอนหนูด้วยสิ พี่เต้นสวยมากเลย" รินบอก

   ทั้งสี่คนเต้นรำเล่นกันสนุกสนานจนดึก
   "แหะแหะ หนูขอตัวไปก่อนดีกว่า" ไผ่หลิวบอก "มีงานส่งพรุ่งนี้ ยังไม่ได้ทำเลย"
   "อ้าว แล้วก็ไม่บอก!!!" ชาคริตร้อง "รีบไปทำเดี๋ยวนี้เลยนะ เทอมนี้เกรดไม่ดีขึ้นพี่ไม่รักจริงด้วย"
   ไผ่หลิวรีบวิ่งจู๊ดออกไป
   "หนูก็ขอตัวเหมือนกันค่ะ" รินบอก "จานข้าวที่กินกันเมื่อเย็นหนูยังไม่ได้ล้างเลย"
   รินค่อย ๆ เดินออกไป
   "ชาคริต เข้านอนกันไหม"
   "อือ"
   "วันนี้ ชั้นขอไปนอนห้องนอนใหญ่ นะ ไม่ได้นอนห้องนั้นมานานแล้ว"
   "อือ"
   
   ไม่รู้ว่าอกหักจากเบญทำให้ชาคริตเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปหรือเปล่า เพราะแม้ว่าปกติเขาจะมีอารมณ์ทางเพศสูง ยิ่งช่วงที่พาสาว ๆ เข้าห้องไม่ได้ ก็ต้องช่วยตัวเองวันละหลาย ๆ ครั้ง แต่หลังจากเบญหมดรักกับเขา เขายังไม่ได้ช่วยตัวเองสักครั้ง ไม่รู้สึกอยากด้วยซ้ำ
   ตั้งแต่ไผ่หลิวมาอยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่ได้มีอะไรกับน้ำฟ้าที่บ้านแม้แต่ครั้งเดียวเพราะกลัวว่าไผ่หลิวจะจับได้
   แต่เมื่อไผ่หลิวรู้เรื่อง และรับได้ ก็ไม่มีอะไรต้องปกปิด
   "นายเต้นเยอะสุดเลย เป็นผู้ชายอยู่คนเดียว เมื่อยไหม"
   "ก็ นิดหน่อย" ชาคริตบอก และนั่งลงบนเตียง
   "มา เดี๋ยวชั้นนวดให้" น้ำฟ้าบอก และบีบนวดไปตามบริเวณท่อนขาของชาคริต
   
   "เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม" น้ำฟ้าถาม หลังจากนวดขาให้ชาคริตอยู่พักใหญ่
   "ดีมากเลย ขอบใจนะ เรารักน้ำฟ้า" ชาคริตบอก
   "ชั้นก็รักนายนะ"
   "พอแล้วมั้ง น้ำฟ้า"
   "งั้น....เดี๋ยวชั้นอาบน้ำให้นายไหม"  
   "เรารักน้ำฟ้าที่สุดนะ" ชาคริตกระซิบ "เรา อาจจะนอกลู่นอกทาง เลวร้ายไปบ้าง..."
   "มากเลยแหละ"
   ชาคริตหยิกพุงน้ำฟ้าเบา ๆ ทีหนึ่ง "แต่ที่เราดีใจที่สุด คือที่น้ำฟ้าอยู่ข้างเราตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..."
   "ชั้นยินดี ชาคริต ชั้นรักนาย ไม่ว่านายจะทำอะไร จะเป็นยังไง จะสุขสมหรือผิดหวัง ชั้นอยู่ตรงนี้เพื่อนายเสมอ"
   "อยู่ข้างกันตลอดไปนะ"
   "อือ"
   "สัญญานะ"
   "ชั้นสัญญา"
    น้ำฟ้าเบียดตัวเข้ากับแผงอกกว้างของชาคริต ถ้าไม่อยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีที่ไหนที่เธออยากอยู่แล้ว ข้างกายชาคริต ไม่ว่าที่อีกข้างของเขาจะมี หรือไม่มีใครบ้างก็ตาม

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

zavior

อื้อหือ ลางร้ายมาแรง จะเบญ หรือน้ำฟ้านะที่โดนจัดการ


teerawatc

แล้วเรื่องนายนทีตามหาผู้ใช้เปียโน จะมาเชื่อมกับแรื่องนี้หรือเปล่าครับ

เพราะตั้งใจเอาเก่งกับแตงโมมาแจมในตอนนี้ หรือว่าจะเป็นเบญที่เล่นเปียโน

pui10000


Lordtoung



Ghost Reader


Gear

น้ำฟ้าดูแลชาคริตดีมากๆเลย ว่าแต่รายต่อไปจะเป็นใครเนี่ย

Rivermoon


tatong2222

::Dribbling::  สวีทหวานกันเชียวนะหนูน้ำฟ้า เดี๋ยวได้น้ำเยิ้มแน่ๆ ชาคริตต้องรักเน้นๆ ละ  ::Ahoo::

ttasster

ถึงขั้นมีคัมภีย์จากชัยสายมืด เบญจะรอดไหมงานนี้  ไอ้ตี๋เอาจริงฮะ


เอกเอก

จะเริ่มรวม 2 จักวาลเข้าด้วยกันแล้ว แต่อย่างแย่งสาวๆ ของชาคริตไปนะครับ

ป๋าหนอม เติมเต็ม