ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

คืนนั้น! ของแฟนผม 1

เริ่มโดย จักราวุธ อัครพงศ์, พฤษภาคม 09, 2023, 09:22:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

จักราวุธ อัครพงศ์

คำโปรย

      "เรื่องในคืนนั้น!!  มันมีความหมายอะไรกับคุณ ผมอยากฟัง"
      "คือ..แค่อยากโดนอีก แต่ไม่คิดจะทำแบบนั้นแล้ว คุณเข้าใจไม๊"
      "คุณนี่มันย้อนแย้งจริงๆเลย โดนมันหลอกไปกี่ครั้งกันแน่ คุณอย่ามาโกหกผมดีกว่า"
       "หึ ! เลิกนับแล้วว่าโดนมันหลอกไปกี่ครั้ง จำได้แค่ว่า แต่ละครั้งมันลึกถึงข้างในใจ แถมยังหลอกล่อต่อแบบขยับไปด้วย พร้อมจะลึกเข้าไปได้อีกอย่างไม่รู้จบ พอใจหรือยัง"


เรื่องย่อ

      สาวโก๊ะแต่แฝงความสวยหมวยเอ็กซ์เซ็กซ์ซ่อนรูปในหุ่นบางกรอบ สวมบทบาทสาวเคมีปริญญาโทสุดโก๊ะ และหนุ่มหล่อหุ่นนักกีฬาดีกรีปริญญาโท นักวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เขาเป็นคนช่างคุยสุดเฟรนรี่ในกลุ่มเพื่อน ทั้งสองเป็นคู่รักที่คบหากันมาร่วมสามปีก่อนจะตกลงใจเข้าพิธีวิวาห์ ท่ามกลางสักขีพยาน
      อุปสรรคในหน้าที่การงานทำให้ชีวิตหลังแต่งงานที่ต้องแยกกันอยู่คนละจังหวัด มีเวลาเพียงวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาวเท่านั้นที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกันให้หายคิดถึง ยามห่างไกลกันหลายวันมีเพียงโทรศัพท์ใช้พูดคุยกันเพื่อระบายความคิดถึง
      แต่ยิ่งพูดคุยกันทางโทรศัพท์ นานวันเรื่องราวที่พรั่งพรูกลับล้วงลึกอดีตของอีกฝ่ายจนทำให้พบโลกอีกด้านของทั้งสอง ด้านที่แอบซ่อนกลับมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นยิ่งนัก
      ปล.เรื่องราวนี้ถ่ายทอดประสบการณ์จากชีวิตจริงของคู่รักแฟนเพจที่ยินดีฝากเรื่องราวสนุกๆนำเสนอผ่านมุมมองของผู้เขียน ขอขอบคุณครับ



ep1พริตตี้ที่รัก



      ย้อนไปเมื่อตอนครั้งที่ยังเรียนอยู่ปีสุดท้าย ณ.ลานเบียร์สด เทศกาลประจำปีแห่งหนึ่งไม่ห่างจากสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของภาคตะวันออก
      "เมื่อไหร่ไอ้เหี้ยโต้งมันจะมาซักทีว๊ะ" เสียงไอ้เคบ่นอุบอิบตามนิสัยของมัน ขณะเดียวกันก็นั่งเอียงคอเมียงมองหาสาวเชียรเบียร์ถูกใจในลานเบียร์สด
      เย็นวันนี้ที่พวกเรามารวมตัวกันไม่ได้ออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งอย่างเช่นเคย เพราะมีนัดชักชวนกันมาแอบมองน้องพริตตี้เชียร์เบียร์ที่ลานเบียร์สดตามเทศกาล กลุ่มเรามีอยู่ด้วยกัน 4 คน ผมขอแนะนำตัวก่อนว่าชื่อกาน ส่วนที่นั่งอ้าปากหวอรอดูน้องพริตตี้คนสวยก็มี ไอ้เค ไอ้ชาญ ส่วนอีกคนคือไอ้โต้ง ด้วยความชอบออกกำลังกายไอ้นี่มันขอออกไปจ๊อกกิ้งก่อนแล้วจะตามมาที่ลานเบียร์ทีหลัง
      พวกเราเป็นนักศึกษาปีสุดท้ายคณะสหเวชศาสตร์ มหาลัยของภาคตะวันออก แม้จะไม่หล่อเร้าใจเหมือนพวกคณะวิศวะหรือสถาปัตย์ แต่เราก็มีใจรักที่จะมานั่งส่องสาวๆเผื่อมีโอกาส ส่วนจะจีบได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
      "แม่งบ้าวิ่งจ๊อกกิ้งกว่ากูอีก" ไอ้ชาญนินทาเพื่อนลับหลังเมื่อมีโอกาส ขณะที่สอดสายตาเลิกลักมองกวาดหาพริตตี้สาวเป้าหมายไปรอบๆ
      "แต่กูอยากดูน้องพริตตี้มากกว่า วันนี้น้องส้มมาหรือเปล่าวะ" ไอ้เคท่าทางระริกรี้เมื่อพูดถึงน้องพริตตี้ที่แอบมองมาหลายวัน
      "โน่นไง น้องส้มของมึง ออกไปกับเสี่ยรถเบนส์ซะแล้ว ฮ่าๆๆ"
      "เชี้ยเอ้ย..ยังไม่ทันได้คุยเลย หมาคาบไปแดกอีกแล้ว" ไอ้เคชะเง้อมองตามน้องส้มสาวพริตตี้หุ่นแซบหน้าสุดหวานที่เดินไปขึ้นรถเสี่ยขับออกจากบริเวณอย่างเสียดาย
      ความจริงพวกเราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากหรอก ที่มานั่งจ่อมในลานเบียร์เพราะคิดว่าอาจจะมีพริตตี้ซักคนหลงเข้ามาให้พวกเราจีบ ส่วนเธอจะเลือกใครเราไม่แย่งกันอยู่แล้วเพราะยังไม่เคยมีพริตตี้หลงเข้ามาหาเลยซักคน จะว่าไปหมดค่าเบียร์ไปก็โขจนจะตับแข็งก่อนจะได้หญิง
      "กูเบื่อแล้วว่ะ มานั่งมองพวกพริตตี้สวยๆ มันไม่สนพวกเราหรอก"ไอ้เคเริ่มหัวเสียปนเซ็ง ตลอดหลายอาทิตย์ไม่เป็นไปอย่างที่หวัง จนกระทั่ง
      "สวัสดีค่ะพี่สุดหล่อ...ทั้งสามคนเลยค๊ะ" เสียงหวานๆเอ่ยเรียกจนคิดว่าได้ยินเสียงของน้องแพ็ตตี้อังศุมารินเสียอีกทำเอาพวกเราคิดว่าฝันไป ก่อนจะค่อยๆพากันหันหน้าไปหาต้นเสียงท่าทางสุดสโลโมชั่น แต่พอหันไปสุดทางก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นน้องพริตตี้ค่ายเบียร์เขียวแต่งชุดพริตตี้สุดแซ่บ ไม่ว่าเป็นรูปร่างหน้าตาส่วนเว้าส่วนโค้งมันช่างเพอร์เฟคไปหมด "37-24-38-165 ตัวเล็กเซ็กซ์จัด" ความคิดของผมคงไม่ต่างจากเพื่อนๆ
      "พี่ค๊ะๆ......" เสียงหวานๆของน้องพริตตี้เชียร์เบียร์คนเดิมยังเรียกพวกเราซ้ำๆราวกับจะปลุกให้ตื่นจากภวังค์ฝัน
      "เอ่อ...ครับๆๆน้องครับ" เป็นไอ้เคที่ตื่นจากภวังค์ก่อนใครเพื่อนรีบตอบรับเสียงเรียกของน้องพริตตี้แต่ก็ต้องยกมือขึ้นปาดที่ปากเช็ตน้ำลายที่ไหลเยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาน้องเค๊าถึงกับหัวเราะออกมาคิกๆ
      "หูยยยพี่ เป็นอะไรมากไม๊ค๊ะ หรือว่าหิวข้าวจนน้ำลายไหล อิอิ" เธอถือวิสาสะเอามือแตะที่ไหล่ของไอ้เคอย่างไม่ถือตัว ท่าทางดูเหมือนเธอจะปลอบมันด้วยซ้ำทำเอาไอ้เคนั่งตัวแข็งทื่อจนผมกับไอ้ชาญนั่งหัวเราะมันก๊าก
      "ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เหี้ยเค มึงเป็นบ้าอะไรฟ๊ะ น้องเขาแตะไหล่หน่อยเดียวแม่งนั่งตัวแข็ง"
      "เฮอะๆๆ รับรอง แม่งไม่ยอมอาบน้ำหรอกวันนี้ โดยเฉพาะตรงที่โดนน้องเค๊าแตะ "
      "เชี้ย พวกมึงก็เกิ๊น" มันบ่นออกมาทำท่าอายๆ นั่นทำเอาพวกเรารวมทั้งน้องพริตตี้คนสวยหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ครู่ใหญจึงกลับเข้าสู่โหมดสั่งอาหาร
      "เอานี่...นี่...เอานี่ด้วย....อย่าลืมเบียร์นะน้อง เอามาทาวเวอร์นึงเลยครับ" เสียงไอ้ชาญมันสั่งพวกกับแกล้มกับเบียร์อัดมาเป็นทาวเวอร์ผมว่าเดี๋ยวต้องมีคนแบกเพื่อนกลับกันมั่งล่ะคืนนี้
      "ได้ค่ะพี่...พวกพี่นั่งรอมิ้วใจเย็นๆนะค๊ะ เดี๋ยวมิ้วจะทะยอยเสริฟให้น๊า" ไอ้เคไอ้ชาญแทบละลายกับบุคคลิกชวนฝันหวานของน้องเค๊า แม้แต่ผมก็พลอยเคลิ้มไปกับน้องเค๊าด้วยเช่นกัน
      "หูยยยย..ชื่อมิ๊วด้วยโว้ย..น่าร็อกอ่ะ" ไอ้ชาญนั่งบิดร่างทำตัวเขินม้วนต้วนแต่ดูแล้วน่าถีบมากกว่าน่ารักขณะที่เอ่ยชมน้องมิ้วเสียวอ่อนเสียงหวาน
      "คนนี้กูขอนะไอ้กานไอ้เค" ไอ้ชาญคงทนไม่ไหวที่นานๆจะมีพริตตี้เข้ามาเทคแคร์แบบนี้จนเอ่ยปากขอเธอดื้อๆ
      "ไม่...น้องเค๊าเป็นของกูแล้ว มึงอย่าเสือก" ไอ้เครีบปฎิเสธไม่ยอมตามที่ไอ้ชาญขอ แถมยังแสดงตัวเป็นเจ้าของ
      "เชี้ย..มึงได้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ว๊า เพิ่งรู้จักน้องก็พร้อมๆกัน" ผมอดไม่ได้ที่จะทักท้วงเรื่องที่มันขี้ตู่ออกมา
      "ก็เมื่อกี้ไง..ที่น้องมิ้วเอามือแตะไหล่กู แค่นี้ก็ได้เสียกันแล้ว" มันพูดออกมาพลางห่อมือทำตาลอยๆราวกับคนกำลังเพ้อกับความรัก จนผมกับไอ้ชาญส่งเสียงโห่ใส่มันไม่ได้
      "เชี้ย..แค่แตะไหล่ก็ได้ดันแล้วว่ะ ฮ่าๆๆๆ"
      "นี่ถ้าน้องเค๊าเดินมาเผลอๆ กูยืนขึ้นทับเงาน้องเค๊ารับรองได้ท้องแหง ฮ่าๆๆๆๆ" เรานั่งคุยกันไม่นานน้องมิ้วก็ช่วยเด็กบริการยกกับแกล้มและเบียร์เข้ามาตั้งวาง พลางเริ่มรินเบียร์เสริฟพวกเราทั้งสาม
      "น้องมิ้วครับ ไม่ทราบว่าที่บ้านมีแก้วกี่ใบครับ" จู่ๆพอไอ้เครับแก้วเบียร์จากน้องเค๊ามันก็เก็ท่าเอ่ยถามด้วยมาดกวนๆด้วยมาดของโจ๊ก โซคูล
      "แล้วพี่จะรู้ไปทำไมล่ะค๊ะ" ผมแอบมองเห็นน้องเค๊ายิ้มๆราวกับเก็ตมุขของมันแต่ผมงง
      "ก็ถ้ารู้ว่าบ้านน้องมีแก้วกี่ใบ พี่จะได้เทใจให้หมดเลยไงครับ ฮ่าๆๆ" มุขของไอ้เคทำเอาพากันหัวเราะกันฮาครืน แต่น้องเค๊ายิ้มๆ ผมว่าคงมีคนอื่นถามเธอบ่อยแหง
      "โอ๊ะๆๆๆ..." ทางด้านไอ้ชาญก็เอาบ้างอยู่ก็ร้องขึ้นมาทำท่าลูบหัวตัวเองแต่ไอ้เคเป็นคนรับมุขแกล้งบอกให้น้องเค๊าถามไอ้ชาญ
      "น้องมิ้วครับ ถามเพื่อนพี่หน่อยซิครับ มันเป็นอะไรของมัน" น้องเค๊ายืนยิ้มคงเจอกับสถานะการณ์แบบนี้บ่อยแหละ เธอก็รับมุขเอ่ยถามไอ้ชาญทันที
      "เป็นไรค๊ะพี่ เอามือลูบผมยังงั้น" เธอถามจบก็แทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ยืนเอามือปิดปากกุมท้องรอเชียวแหละ
      "ก็ทีแรกนึกว่าผมชอบร่วง" ไอ้ชาญพูดพลางเอามือลูบผมไปด้วยท่าทางมันสุดกวน
      "แล้วที่แท้ เป็นอะไรค๊ะพี่ คิกๆ" น้องเค๊ารีบถามต่อพอถามจบก็ยิ่งขำเข้าไปใหญ่
      "ก็นึกว่าเป็นไร...ที่แท้ก็ผมชอบคุณนี่นา" พอมันพูดจบก็ส่งเสียงฮาครืนกันอีก จนกระทั่งทั้งวงเงียบแบบอึ้งๆราวกับรอให้ผมเล่นมุขออกมาบ้าง
      แต่ขอโทษด้วยนะ แบบว่าผมคงไม่ใช่คนแนวแบบนี้เลยทำเอาทั้งวงเงียบกริบแบบไร้ประโยชน์ แต่แล้วกลับเป็นน้องเค้าที่หันมายืนโน้มตัวลงมาเอามือเท้าลงที่โต๊ะ เธอหันหน้ามาทางผมด้วย ให้ตายเถอะ!!
      ผมไม่อยากให้เธอคิดว่าผมลามก แต่ชุดที่น้องเค๊าสวมเปิดโชว์ร่องอกขนาดคงไม่น้อยกว่า 36-37 นิ้วแน่ๆ ด้วยท่าที่เท้าโต๊ะก้มใบหน้ามาหาผมแบบนั้น ไม่อยากบอกว่าผมมองทะลุเข้าไปกลางร่องอกเห็นยันสะดือของเธอเลย แต่ก็แว่บเดียวนะผมไม่กล้ามองนานกลัวเธอว่าผมลามกอย่างที่บอก
      "ตัวเล็กสเปคใครหนูไม่รู้...." น้องเค๊าพูดออกมาพร้อมทำท่าราวกับนักแสดงกำลังออดิชั่นยังไงยังงั้น แต่ๆๆๆ ผมต้องพูดว่าอะไรฟ๊ะ!!
      "เอ่อ...เอ่อ...." ผมได้แต่แสดงอาการใบ้แดกพูดแต่คำว่าเอ่อๆเสร่อๆออกมา เมื่อจ้องมองหน้าตาท่าทางยั่วยวนของน้องเค๊า บวกร่องอกที่ทะลักออกมาเกือบครึ่งเต้าจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
      "อิอิ แต่ตัวประมาณหนูนี่สเปคพี่ป่ะคะ" เธอยื่นหน้าพูดใส่ผมประมาณนี้ก่อนสะบัดหน้าให้เส้นผมสวยๆใส่หน้าผม จนอดไม่ได้ที่จะสูดดมกลิ่มหอมของเธอ ทำเอาผมนั่งตัวแข็งทื่อราวกับโดนผีเข้าอาการเดียวกับไอ้เค
      "เดี๋ยวมิ้วแวะมาเล่นด้วยใหม่นะค๊ะพี่ สนุกจังคุยกับพวกพี่" พอน้องเค๊าสะบัดบ๊อบใส่จมูกผมอีกครั้งจนเกิดอาการเคลิ้มหนัก ได้แต่มองตามร่างเล็กๆแต่อวบอัดสวยงามเดินจากไปบริการโต๊ะอื่น
      "ฮ่าๆๆ เจอน้องเค๊าอ่อยเข้าหน่อย ถึงกับนั่งตัวแข็งยังกับผีเข้าเลยนะไอ้กาน..เฮ้ยไอ้เชี้ย...."ไอ้เคกำลังเอ่ยพูดแซวผมพลันต้องหยุดกระทันหันเมื่อไอ้โต้งวิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามาที่โต๊ะทั้งๆอยู่ในชุดจ๊อกกิ้ง มาถึงมันก็คว้าเบียร์ในแก้วขึ้นดื่มอึกๆๆจนหมดก่อนจะเติมใหม่ติดต่อกันถึงสามแก้ว จนไอ้ชาญเอามิอตบไหล่ไอ้โต้ง
      "ไอ้เหี้ยโต้ง มึงอย่าวู่วามงี้ซิว๊ะ คิดถึงเพื่อนๆมั่ง คิดจะแดกแบบนี้พวกกูไม่แบกมึงกลับนะ" ไอ้ชาญเอ่ยพูดใส่ไอ้โต้งด้วยน้ำเสียงยานๆกวนตีนๆแต่ดูเหมือนไอ้โต้งมีอะไรมากกว่าความกระหายเบียร์
      "กูเห็นผี..กูเห็นผี..ขอเบียร์ให้กูหน่อย" มันพูดจบก็คว้าแก้วเบียร์อีกแก้วของพวกเราขึ้นมาดื่มอั่กๆๆจนหมด คราวนี้ทุกคนเริ่มรู้สึกไม่ปกติล่ะ
      "มึงเป็นเหี้ยอะไร ไหนพูดออกมา" ไอ้ชาญเอาฝ่ามือตบหน้าไอ้โต้งเบาๆสองสามทีแบบปลุกให้เพื่อนได้สติ เตือนให้มันเล่าออกมา
      "กูเห็นผี..ไม่เอา..กูไม่ไปวิ่งอีกแล้ว..ฮือ..ฮือ.." พวกเรามองหน้ากันเลิกลั่กกับท่าทางแสนตื่นตกใจของไอ้โต้ง นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว
      "เอาดีๆไอ้โต้ง มึงเห็นผีที่ไหน แล้วเมื่อเย็นมึงไปวิ่งที่ไหนมา" ไอ้เคเอ่ยถามเพื่อนท่าทางมันก็ดูหวาดๆเหมือนกัน
      "ที่หลังเขา..ที่สวนยาง แถวอ่างเก็บน้ำ ฮือ..ฮืออ...กูไม่ไปอีกแล้ว..ฮืออ..ฮืออ พากูไปนอนวัดทีไอ้เค" เสียงพูดแบบละล่ำละลักของไอ้โต้งนับว่าผิดปกติมากเพราะมันไม่ใช่คนขี้กลัวอะไรง่ายๆ ยกเว้นผี!!
      "เอาล่ะๆ ไปนอนวัดก็นอนวัด เดี๋ยวกูพาไปหาหลวงพี่" ไอ้โต้งมันมีพี่ที่บวชมาหลายปีอยู่ที่วัดในเมือง ไอ้เคจึงรับปากว่าจะไปส่ง ส่วนผมเสียดายก็เสียดายอุตส่ามีน้องน่ารักๆหุ่นเซ๊กซี่ๆเข้ามาคุยด้วย ยังไม่ทันได้หยอดอะไรเยอะก็ต้องพากันกลับซะแล้ว
      "ทำไมรีบกลับกันล่ะค๊ะพวกพี่" ให้ตายเถอะขณะที่ยืนส่งพวกเราออกจากโต๊ะ น้องเค๊าเข้ามายืนใกล้ๆผมจนได้กลิ่นตัวหอมๆ เอาอีกแล้วกู!!
      "ก็นี่ไงตัวปัญหา ไม่รู้ไปเจอผีตานีอะไรที่ไหน มาถึงก็จะให้พาไปวัด" ตอนนั้นพวกมันคุยอะไรกันต่อผมไม่รู้แล้ว รู้แต่ว่าน้องเค๊าเอนร่างหอมๆมาพิงที่ไหล่ผม โอ้ยยยยย!!
      "เฮ้ย รถสองแถวมาแล้วว่ะ ช่วยกันประคองไอ้โต้งไปขึ้นรถเหอะ" บอกตามตรงผมแทบไม่อยากออกจากร้านไปเลยตอนนั้น อยากตามน้องเค๊ากลับไปบ้านมากกว่า
      "อ้าว..มาทำไรกันนิไอ้กาน" แต่เสียงทักทายสำเนียงใต้ก็มาปลุกภวังค์ของผมอีกครั้งจนต้องหันไปมองคนที่เอ่ยถาม
      "อ้าวพี่บ่าว มาทำไรนิ" ผมอดที่จะทักทายกลับไปด้วยสำเนียงใต้แบบเดียวกับที่พี่บ่าวทักทายมาด้วยความสนิทสนมทั้งที่ผมก็ไม่ได้เป็นคนใต้เหมือนพี่บ่าว ดูเหมือนแกแวะมาซื้อกับข้าวมากกว่าจะมานั่งดื่มแบบพวกวัยรุ่นอย่างเรา โดยพิจารณาจากรถมอไซด์ของแกที่จอดเอียงกระเท่เร่ที่หน้าร้าน สภาพเสื้อเชิ้ตบายดอกกับกางเกงขาสั้นสามส่วน การแต่งตัวของแกไม่น่าจะมานั่งกินเบียร์สดแน่ๆ
      "พี่บ่าวแวะมาเอาขนมนิ พวกมึงกลับกันแล้วนิ" พี่บ่าวแกก็กวนตีนใช่เล่นแต่ก็บอกจุดประสงค์ที่มา
      "เอ๋!! พี่บ่าวแวะมาซื้อขนมในร้านเหล้า มันใช่เรื่องเหรอ" ด้วยความสงสัยกลัวจะโดนแกอำไปมากกว่านี้ผมจึงรีบถามแกออกไป พี่บ่าวยิ้มร่าก่อนจะเอ่ยตอบ
      "แหะๆ พี่บ่าวไม่ได้มาซื้อขนมนิ แต่แวะมาเอาขนมฝากน้องเค๊านิ" คำตอบของพี่บ่าวทำเอาผมงงเต็ก จะว่าแกมาจีบพริตตี้มันก็ไม่ผิดปกติหรอก แต่การที่ซื้อขนมมาฝากสาวนี่มันพวกสว. สูงวัยมาจีบเด็กต่างหาก ผมไม่ได้ถามอะไรเยอะกว่านั้นเพราะต้องช่วยกันประคองไอ้โต้งออกจากร้านไปที่ขึ้นรถ แต่ภาพสุดท้ายก่อนที่ผมขึ้นรถสองแถวที่จอดรับผมยังจำติดตามาถึงทุกวันนี้
       
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ขอบคุณที่ติดตามผลงานครับ

ติดตามตอนใหม่ อัพเดทต่อเนื่องที่

ธัญวลัย : http://www.tunwalai.com/v2/story/623950

FictionLog : https://fictionlog.co/b/6203411b263b95001cb7b217

ReadAWrite : https://www.readawrite.com/a/Z3y3y8-%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B8%A2?r=list_article_by_category

ขอรบกวนฝากกดอ่านเพิ่มยอดวิวเป็นกำลังใจผู้แต่งด้วยนะครับ

Nal


automilo

พี่บ่าว จีบน่องมิ๊ว ล่ะมั๊ง

catoon

มาเล่าอีกนะครับ ผมก็บ่าวใต้นิ

pamaaeng

เปิดเรื่องมาก็เจอผีจับหัวเสียแล้ว

mighty

วิ่งทางไหนถึงบอกเจอผีๆแบบไหนกันนะ

pin1969


madsside


102030

เปิดมาด้วยเรื่องผีหลอก อืมมม
จะจบด้วยผีหลอกแทงหัว มั้ยนะ 5555

เอเค

อย่าบอกวาแฟนคุณได้กับเพือนคุณอิกเพาระของเขาใหญ่

to47555


n_neng


The maiji

เจอผีอะไรแล้วพี่บ่าวมาทำอะไรนิ

sammyadong


มดแดงตะกายตึก

โดนผีหลอกหรือเพื่อนอำกันแน่