ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 6 ปิงหยุนผู้ร่วงหล่น

เริ่มโดย Oumale, มกราคม 18, 2024, 04:38:08 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Oumale

ตอนทั้งหมด
อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 1 คำเชิญของราชินีมาร
https://xonly8.com/index.php?topic=268782.0
อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 2 คำตอบของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์
https://xonly8.com/index.php?topic=268805.0
อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 3 สุนัขของจักรพรรดินี
https://xonly8.com/index.php?topic=268902.0
อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 4 ปรมันตร์สิ้นท่า
https://xonly8.com/index.php?topic=268939.0
อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 5 แดนลำนำเหมันต์
https://xonly8.com/index.php?topic=282706.0

-----------------------------------------------

บทที่ 6 ปิงหยุนผู้ร่วงหล่น

     ทันทีที่ฉืออู๋เหยากล่าวจบ ทั่วทั้งห้องก็เงียบสงัดจนได้ยินเสียงเข็มหล่น ก่อนที่บานประตูจะเลื่อนเปิดอย่างช้า ๆ เผยร่างสะโอดสะองของมู่ปิงหยุนก้าวเข้ามา อาภรณ์หิมะบนร่างนางยุ่งเหยิงไม่เรียบร้อย

     "ข้า...ข้าได้ยินเสียงเล่าลือว่ามีคนกล้ากระทำไร้ยางอายในห้องนี้ ข้าก็เลย...มาตรวจดู"

     ฉืออู๋เหยาดันหยุนเช่อที่กำลังกดอยู่บนกายออกอย่างแผ่วเบา จัดแจงเปลี่ยนท่าทางกลับเป็ยราชินีผู้งามสง่าราวกับไม่ได้ทำเรื่องคาวโลกีย์เมื่อครู่ แม้ว่าเนินสวาทจะชุ่มช้ำจนสายน้ำไหลเยิ้มทิ้งร่องรอยมาถึงปลายเท้าก็ตาม

     นางจับจ้องใบหน้างามล้ำของมู่ปิงหยุนซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังโกหก ดวงตาทรงเสน่ห์ยังคงเลื่อนลอยประหนึ่งจมอยู่ในภวังค์ตลอดเวลา

     แม้ว่ากลิ่นจะเจือจางยิ่งจนคนส่วนใหญ่ไม่อาจตรวจพบ ทว่าคนละเอียดรอบคอบอย่างฉืออู๋เหยาไหนเลยจะไม่ทราบกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องเพศสตรีที่ถูกปลุกเร้าบนร่างมู่ปิงหยุน

     "คิดว่าข้าจะเชื่อรึไม่? กระทั่งเด็กสามขวบเกรงว่ายังไม่เชื่อคำโกหกของเจ้า"

     หยุนเช่อผู้ยืนตะลึงรีบใช้สองมือปกปิดอวัยวะเบื้องล่างบดบังสายตาของมู่ปิงหยุน

     "ข้า..."

     "เอาเถิด ในเมื่อเห็นก็บอกว่าเห็น ไม่จำเป็นต้องเหนียมอาย แล้วเจ้าคิดเช่นไร ภาพที่จักรพรรดิหยุนกำลังร่วมรักกับเราราชินี คงจะสร้างแรงกระตุ้นไม่น้อยสำหรับเจ้า หากข้าจำไม่ผิด...ปิงหยุน เจ้ายังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่?"

     ฟังวาจาของอีกฝ่ายจบคำ ผิวหน้าของมู่ปิงหยุนก็อาบย้อนด้วยสีแดงสุกปลั่ง ทำเอาหยุนเช่อที่เฝ้ามองอยู่เก้อเขินไปด้วย นางเป็นทั้งน้องสะใภ้และอดีตอาจารย์ (อย่างไม่เป็นทางการ) ของมัน หยุนเช่อจึงมีความเคารพนับถือต่อมู่ปิงหยุนพอสมควร ยามนี้สิ่งที่มันต้องการคือจรลีหนีหายไปจากที่นี่ทันที

     มู่ปิงหยุนไม่ตอบคำ ฉืออู๋เหยาจึงยันกายลุกจากเตียงและเดินนวยนาดไปด้านข้างมู่ปิงหยุน ทุกฝีก้าวทิ้งหยดน้ำไว้บนพื้นตลอดทาง และทันใดนั้น นางสอดมือเข้าไปใต้อาภรณ์หิมะของมู่ปิงหยุนด้วยความเร็วประหนึ่งฟ้าแลบ กดเข้าไปที่สวนลับที่ไร้การป้องกันเต็มอุ้งมือ ครั้นได้สัมผัสจนหนำใจนางก็รีบตวัดมือออกโดยที่เจ้าของร่างไม่ทันตอบสนอง

     มือที่แห้งสนิทของฉืออู๋เหยากลายเป็นเปียกแฉะ มีของเหลวใสหนืดปกคลุมอยู่ถ้วนทั่ว

     "ดูไปแล้วแล้วเหมือนปิงหยุนจะเฝ้ามองได้อย่างเพลิดเพลินไม่น้อย?"

     ยิ่งมามู่ปิงหยุนยิ่งละอายใจจนอยากมุดดินหนี หากทว่าฉืออู๋เหยาเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งแดนเทพ นางจึงไม่กล้ากระทำการหยาบคายเช่นนั้น ได้แต่อดทนยืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอย่างเงียบงัน

     "ปิงหยุนเอ๋ย เจ้าก็รักษาความบริสุทธิ์มานานปี...คิดจะเก็บไว้ชิงโชคหรือไร ไยเจ้าไม่ใช้โอกาสนี้...มอบมันให้สามีของข้า"

     "ไม่..."

     ก่อนที่มู่ปิงหยุนจะสิ้นเสียง เป็นหยุนเช่อที่อุทานขัดจังหวะ

     "ไม่ได้! ไม่มีทาง! อู๋เหยา! ปิงหยุนเป็นน้องสาวของเซวียนหยิน รวมถึงอดีตอาจารย์และน้องสะใภ้ของข้า ข้าจะล่วงเกินนางได้ยางไร?"

     ฉืออู๋เหยาพลันชายตามองหยุนเช่ออย่างดูแคลน

     "ถ้อยคำของเจ้าไร้ความน่าเชื่อถือเสียไม่มี ก้มตามองให้ดีว่าตรงนั้นของเจ้ามันแข็งขันขนาดไหน"

     เพราะอารามตื่นเต้น มือที่ปิดท่อนร่างของมันจึงขยับออกโดยไม่ตั้งใจ เผยแกนกายที่ตั้งตรงอีกครั้งหลังได้ยินวาจาชักชวนของฉืออู๋เหยา

     มู่ปิงหยุนก็เหลือบมองเช่นกันก่อนจะเซตาหลบ

     "ข้า...คือว่า...ข้า..."

     หยุนเช่อพูดไม่ออกโดยปริยาย

     "สามีของข้า จากศักดาของจักรพรรดิหยุนในตอนนี้ ต่อให้เจ้ามีอะไรกับบุตรสาวตัวเองหรือมารดาผู้ให้กำเนิด ใครเล่าจะกล้าเกิดคำครแหง นับประสาอะไรกับน้องสะใภ้ที่มีความผูกพัน?"

     "......"หยุนเช่อไร้วาจาอย่างสมบูรณ์ เพราะเจ้าตัวน้อยของมันได้เปิดโปงความคิดของมันหมดแล้ว

     "แล้วปิงหยุนคิดเห็นเช่นไร?"

     "...ขอบพระคุณองค์จักรพรรดินีสำหรับความมีน้ำใจ..."

     มู่ปิงหยุนกำลังจะปฏิเสธ แต่จู่ ๆ ลวดลายในสมองที่ถูกประทับอย่างไม่รู้ตัวก็เริ่มเรืองแสง ระงับเสียงสุขุมของมู่ปิงหยุนลงกลางคันและทำให้นางหยุดชะงัก

     ฉืออู๋เหยาแสยะยิ้มและถือโอกาสคว้ามือบางของมู่ปิงหยุนวางลงบนแท่งบุรุษของหยุนเช่อ

     ความอบอุ่นบนฝ่ามือชักนำสติมู่ปิงหยุนกลับสู่ความเป็นจริง และนางก็ตกตะลึงเมื่อพบว่ามือของตัวเองกำลังแตะอยู่บนเครื่องเพศของหยุนเช่อเต็มลำ

     "ไม่ว่ายังไง ท้ายที่สุดเจ้าก็ต้องมาอยู่ในวังหลังของสามีข้าอยู่ดี ฉะนั้นใยไม่เริ่มตั้งแต่บัดนี้ อีกทั้ง...มันจะง่ายกว่ามากที่จะจัดการเซวียนหยินหลังจากได้ครอบครองเจ้า"

     "จัดการ...ท่านพี่?"

     มู่ปิงหยุนรู้ได้ทันทีว่าฉืออู๋เหยาหมายถึงสิ่งใด กระนั้นนางก็ทำเหมือนไม่รู้

     "เฮ้อ ไม่มีประโยชน์ที่จะแกล้งทำตัวโง่ต่อหน้าข้าปิงหยุน ตัวเจ้าย่อมรู้ดี สามีข้ามีนิสัยวิปริต ชอบให้คนรักตัวเองสมสู่กับชายอื่น และข้ายังรู้อีกว่าอารมณ์ความคิดของเจ้าเปลี่ยนไปหลังจากตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้"

     "!!!"

     มู่ปิงหยุนตกตะลึง นางไม่ทราบว่าฉืออู๋เหยารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร

     "ฉะนั้นแล้ว อย่าแสร้งทำตัวเป็นนักบุญอีกต่อไป ยามนี้เจ้าสามารถลิ้มลองมังกรน้อยของสามีข้า ภายหลังจะได้ไปสนุกกับผู้อื่น เสาะหาคนที่มีแกนกายใหญ่ขึ้นมาปรนเปรอ ปิงหยุน เจ้ามีชีวิตอยู่ในกฎเกณฑ์มาหลายปี ถึงเวลาที่เจ้าจะได้ทำอะไรตามใจตัวเองเสียที"

     ราวกับว่าฉืออู๋เหยากำลังชี้นำมู่ปิงหยุนและชักจูงนางกลาย ๆ ระหว่างนั้นหยุนเช่อก็เฝ้ามองอย่างเงียบเชียบ เป็นอีกครั้งที่มันรู้สึกว่าการสารภาพทุกอย่างกับฉืออู๋เหยาเป็นคนแรกคือทางเลือกที่ถูกต้อง เพียงคิดว่านับแต่นี้มู่ปิงหยุนจะกลายเป็นสนมจักรพรรดิ เฉกเช่นเดียวกับเซวียนหยินพี่สาวของนาง สองพี่น้องร่วมประเวณีกับมันบนเตียงเดียวก็ทำเอาตื่นเต้นจนแทบอดกลั้นไม่อยู่

     เนตรงามของมู่ปิงหยุนทอประกายหวั่นไหว นางกัดริมฝีปากแน่นและพยายามปฏิเสธในใจอยู่พักใหญ่ แต่แล้วนางก็หลับตาอย่างจำยอม ร่างค่อย ๆ คุกเข่าลงอย่างอ่อนช้อย ชายตรงหน้าคือคนที่นางพาขึ้นสู่แดนเทพจากดาวขั้วน้ำเงินระดับต่ำ เป็นบุคคลที่พลิกชะตาของตัวเองจนกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุด และยิ่งกว่านั้นมันยังทำให้มู่เซวียนหยินพี่สาวคนสำคัญของนางคุกเข่าลงเบื้องหน้าเฉกเช่นตอนนี้

     ตอนนั้นเอง นางลึมตาอีกครั้ง ประหนึ่งว่าตัดสินใจได้เด็ดขาด ดองเนตรที่แวววาวแต่เดิมจึงมีความมั่นคงอันแรงกล้าไร้วี่แววสั่นคลอน นางนำมือที่วางอยู่บนแกนกายของหยุนเช่อออกเพื่อจะพินิจมันอย่างเต็มตา แท่งหยกที่ตั้งตรงมันดูเล็กและน่ารักมาก นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มู่ปิงหยุนเห็นเครื่องเพศบุรุษระยะประชิดจนกลิ่นเตะจมูก

     (ท่านพี่เปลี่ยนไปอย่างเสิ้นเชิงหลังจากเสียตัวให้เจ้านี่...ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งดูเล็กลงไปอีก)

     มู่ปิงหยินหาได้พูดสิ่งที่ใจคิด นางย่อมรู้ว่าเหล่าบุรุษไม่ชอบได้ยินผู้หญิงเอ่ยนินทาเรื่องขนาดของพวกเขา ทว่าสิ่งที่นางไม่รู้คือหยุนเช่อไม่เหมือนบุรุษอื่น มันชอบที่ถูกสตรีเหยียดหยามความเล็กจ้อยของตัวเอง

     ฉืออู๋เหยาก็ไม่นิ่งเฉย นางย่อกายนั่งลงเคียงข้างมู่ปิงหยุนต่อหน้าหยุนเช่อ

     "ปิงหยุน เจ้าไม่ควรทำเช่นนี้ ถ้ามีสิ่งใดในใจ เพียงบอกกล่าวออกมาตามตรง ไม่ต้องกลัวว่าสามีข้าจะไม่ชอบใจหากได้ยิน เจ้าคงเคยเห็นแกนกายของบุรุษอื่นมาบ้างใช่รึไม่ แค่พูดออกมาดั่งใจคิด หนอนน้อยของสามีข้าเป็นเยี่ยงไรในสายตาเจ้า มันดีหรือแย่กว่าของบุรุษคนอื่นที่เจ้าเคยเห็น"

     "...คือ...มันสั้น...และเล็กกว่า...หลายเท่านัก"

     พริบตาที่มู่ปิงหยุนพูดจบ แกนกายของหยุนเช่อก็กระตุกสองสามครั้งและระเบิดน้ำเชื้อออกมารดราดใบหน้ามู่ปิงหยุน

     "เอ่อ...นี่...นี่คือเชื้อบุรุษ? มันช่างแตกต่างจากที่ข้าเคยคิดไว้..."

     ทันใดนั้นมีเสียงเพี้ยะดังขึ้น

     ที่แท้ฉืออู๋เหยาไม่พอใจยามพบว่าหยุนเช่อกลับเสร็จสมโดยที่ยังไม่ทันทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นางจึงดีดหัวเต่ามันด้วยปลายนิ้วอย่างแรง

     "โอ้ย!!"

     "เจ้าคนไม่ได้เรื่อง ถึงกับปลดปล่อยใส่หน้าปิงหยุนทั้งที่ไม่ได้แตะต้องด้วยซ้ำ จะไร้ประโยชน์ไปถึงไหน แค่คิดก็น่าเสียดายแทนปิงหยุนที่ต้องมีประสบการณ์ครั้งแรกกับคนอย่างเจ้า...เฮ้อ แล้วไปเถอะ ปิงหยุนเจ้าลองชิมสิ่งนี้ แม้ว่าจะใสเป็นน้ำ แต่ก็ยังนับว่าเป็นเชื้อบุรุษ คิดเสียว่าเป็นการฝึกทดลองลิ้มรส จะได้ไม่แตกตื่นเมื่อได้ดื่มด่ำเชื้อชายที่เข้มข้นจนเหนียวคอจากแกนกายดี ๆ"

     มู่ปิงหยุนเหม่อมองของเหลวสีขาวหนืดที่แปดเปื้อนอยู่บนตัว ก่อนจะแลบลิ้มเลียส่วนหนึ่งที่ติดอยู่ข้างแก้มตามวาจาฉืออู๋เหยา ถึงแม้เชื้อบุรุษจะมีรสเค็มฝาดเล็กน้อย แต่พอได้ลองแล้วก็รู้สึกว่าไม่ยากนักที่จะกลืน อาจเป็นเพราะน้ำรักของหยุนเช่อค่อนข้างใสไม่ต่างจากน้ำเปล่าเท่าใด

     ฉืออู๋เหยาเขยิบมาด้านหลังมู่ปิงหยุนอย่างแนบเนียน นางจัดแจงถอดอาภรณ์หิมะออกจากร่างอีกฝ่าย เผยโฉมก้อนกลมที่ปกปิดอยู่ด้านใน มันหาได้ใหญ่โต่เท่ามู่เซวียนหยินผู้เป็นพี่ แต่ทรวงอกสีขาวนวลก็เต่งตึงอวบอัดได้อย่างสมบูรณ์พร้อม มิหนำซ้ำยอดปทุมสีแดงอ่อนสองจุดก็แข็งตึงจนชูชันเล็กน้อย ชักชวนให้ฉืออู๋เหยาบีบคลึงเบา ๆ

     "อ๊า!!"

     มู่ปิงหยุนกรีดร้องอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

     พรึบ

     เสื้อคลุมสีขาวร่วงลงพื้น ตามด้วยชุดชั้นในซึ่งเป็นปราการสุดท้ายหลุดออก มู่ปิงหยุนกลายเป็นเปลือยเปล่าต่อหน้าหยุนเช่ออย่างหมดจน ต่อให้นางพยายามบดบังบางส่วนด้วยสองมือของตน แต่ไหนเลยฉืออู๋เหยาจะยินยอมให้กระทำ

     ฉืออู๋เหยาเล้าโลมร่างกายมู่ปิงหยุนด้วยการสัมผัส ไล่จากส่วนที่ไม่สลักสำคัญไปจนถึงจุดยุทธศาสตร์ สุดท้ายก็จบลงบนร่องสงวนอันไม่เคยมีผู้ใดมาเยือน

     "อือออ..."

     ฉืออู๋เหยาอาศัยนิ้วแหวกช่องแคบออกจากกันอย่างนุ่มนวล ช่วยให้เห็นชัดถึงพนังเนื้อสีชมพูอ่อนด้านในอันเป็นสัญลักษณ์ของสาวพรหมจารี มู่ปิงหยุนดิ้นรนคิดเบียดขาชิด แต่ร่างกายยิ่งมายิ่งอ่อนแรงจนต่อต้านมือมารฉืออู๋เหยามิได้ นางกลับแหวกกว้างกว่าเดิมทุกขณะ ร่องของมู่ปิงหยุนต้องบอกว่าปกปิดได้อย่างมิดชิดยิ่ง เนื่องจากไม่เคยมีสิ่งใดทะลวงผ่านตลอดหนึ่งพันปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นยามช่วยตัวเอง มู่ปิงหยุนก็ยังไม่เคยสอดนิ้วเข้าไป

     ฉืออู๋เหยาเองก็ไม่ได้ใส่ นางเพียงใช้นิ้วชี้กับนิ้วนางกดลงไปบนกลีบบุปผาทั้งสองฝั่ง ขณะที่นิ้วกลางสารวนอยู่บนเม็ดละมุดที่สุกใสไร้มลทิน ยังผลให้มู่ปิงหยุนเปียกแฉะกว่าเก่า

     หยุนเช่อกลืนน้ำลายดังเอื้อก ความมีเหตุผลของมันถูกความต้องการทางเพศครอบงำในบัดดล

     "ท่านเจ้าวังปิงหยุน!!"

     หยุนเช่อฉุดร่างมู่ปิงหยุนขึ้นมาและกดสองมือบางไว้กับพนัง ทำให้บั้นท้ายของนางหันมาทางตน มันพยุงแกนกายเล็กน้อยของตัวเองไว้ เตรียมที่จะบุกทะลุจากด้านหลัง ท่วงท่านี้เป็นที่โปรดปรานต่อหยุนเช่อมากที่สุด เพราะราวกับสตรีคู่ขาตนแปรเปลี่ยนเป็นสุนัขตัวเมีย สุมความรู้สึกของการได้พิชิตอย่างเต็มที่

     ฉืออู๋เหยาส่ายหัวครั้นพบเห็นหยุนเช่อยึดมั่นกับท่านี้แปลก ๆ ในคืนแรกมันก็ให้นางทำท่านี้ แน่นอนว่ายามนั้นนางต่อต้านอย่างเด็ดขาด ถึงอย่างไรช่วงเวลานั้นนางก็ยังเป็นจักพรรดินีผู้มีเกียรติยศสูงส่ง การกระทำต่ำช้าล้วนส่งผลเสียต่อความรู้สึกส่วนตน อย่างไรก็ตามลงท้ายนางก็ไม่อาจปฏิเสธสำเร็จ ต้องปล่อยให้หยุนเช่อใช้ท่าสุนัขช่วงชิงครั้งแรกของตนไป

     ทว่าปัจจุบัน อย่าว่าแต่ท่าสุนัข ต่อให้เป็นท่าที่น่าอับอายกว่านี้ร้อยเท่าฉืออู๋เหยาก็ทำได้อย่างไม่ยากเย็น

     หลังจากคลอเคลียอยู่สักพัก หยุนเช่อก็สอดความเป็นชายเข้าไปในร่องสีชมพูของมู่ปิงหยุนสุดแรง

     "เจ็บ!!"

     มู่ปิงหยุนอดไม่ได้ที่จะร่ำร้อง ไม่ว่าแกนกายของหยุนเช่อจะเล็กจ้อยสักเพียงไร แต่ก็นับว่าใหญ่มากสำหรับบุปผาที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง แม้แต่นิ้วเล็ก ๆ ก็ยังไม่เคยทะลวงเข้าไป

     พริบตาเดียวแท่งบุรุษของหยุนเช่อก็สอดลึกเข้าไปในส่วนสงวนของมู่ปิงหยุนจดหมด เสียงกระทบกระทั่งจากบั้นเอวขณะโยกกระแทกบั้นท้ายมู่ปิงหยุนช่างน่าอภิรมย์ มีโลหิตสายน้อยไหลซึมระหว่างรอยเชื่อมของทั้งสองทว่ายากจะสังเกต เนื่องจากหยุนเช่อเจาะทำลายได้เพียงรูเล็ก ๆ บนเยื่อพรหมจรรย์ของมู่ปิงหยุนเท่านั้น

     "อ่าห์...นี่คือภายในของเจ้าวังปิงหยุน...ช่างแตกต่างนักเมื่อเทียบกับครั้งได้สอดใส่เซวียนหยินคราแรก...มัน...ตอดรัดได้ดียิ่ง"

     ฉืออู๋เหยาแอบหัวเราะในใจ ตอนที่นางยังเชื่อมโยงกับมู่เซวียนหยิน นางใช้ร่างกายนั้นสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อยครั้งมากจนไม่อาจนับ การสอดใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปจึงทำได้ง่ายแม้ไม่เสียความบริสุทธิ์

     "แย่แล้ว...อึก!!!"

     อึดใจต่อมา บทสรุปยังคงเป็นเช่นเดิม หยุนเช่อถึงจุดสุดยอดในเวลาไม่นาน เมื่อเสร็จสิ้นการหลั่งน้ำรักเข้าไปในร่างกายมู่ปิงหยิน หยุนเช่อก็หมดเรี่ยวแรงและทรุดลงทันควัน ต่อให้มันจะสำเร็จวิชามหาวิถีโพธิสัตว์แล้วก็ตาม แต่เคล็ดวิชานั้นไม่ได้เปลี่ยนความจริงก็ไก่อ่อนไร้สมรรถภาพของมัน ขีดจำกัดในการทำรักของหยุนเช่อมาถึงทางตันแล้ว จำนวนเมล็ดพันธุ์ที่ขับออกในช่วงล่างมู่ปิงหยุนคือทั้งหมดที่มันจะเค้นได้ในวันนี้...ไม่สิ ทั้งหมดภายในเดือนนี้ มันต้องรอถึงเดือนหน้าหากจะหลับนอนกับใครสักคนอีกคน

     ฉืออู๋เหยามองหยุนเช่อผู้หมดสภาพอย่างไม่แปลกใจ แม้ว่าเทพแท้จริงจะปรากฏก็ไม่มีใครที่สามารถช่วยเหลือแกนกายไร้ประโยชย์ของมันได้ ยิ่งมายิ่งมีแต่อ่อนด้อยลงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

     ถึงการเปิดบริสุทธิ์ครั้งนี้จะไม่สามารถกล่าวได้ว่าสมบูรณ์สำหรับครั้งแรก แต่ก็บรรลุเป้าหมายของฉืออู๋เหยาเรียบร้อย นางต้องการให้มู่ปิงหยุนลิ้มลองแท่งหยกเล็กสั้นของหยุนเช่อก่อนจะได้รับความสุขที่แท้จริงจากแกนกายใหญ่โตทั้งหลายหลังจากนี้ ไม่เช่นนั้นหากได้เจอของใหญ่ก่อนจะได้ทำกับหยุนเช่อ เกรงว่ามู่ปิงหยุนคงหลวมโพรกจนรับรู้อะไรจากท่อนล่างของมันมิได้เฉกเช่นตัวนาง

     มู่ปิงหยินเหลือบมองหยุนเช่ออย่างเหลือเชื่อ ยิ่งได้เห็นสีหน้าท่าที่ชอบอกชอบใจของฉืออู๋เหยา นางก็ตระหนักว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ ความรู้สึกที่ยังไม่เสร็จสมถาโถมอยู่ในร่างอย่างแผดร้อน กลายเป็นความคันคะเยอที่ปลุกเร้าจุดกระสันจนอยากช่วยตัวเอง ผิวกายมู่ปิงหยุนค่อย ๆ ถูกย้อมด้วยสีแดงอมชมพู เชื้อบุรุษของหยุนเช่ออาจไร้ค่าในแง่ของพ่อพันธุ์ แต่ด้วยสายเลือดมังกรจึงทำให้ใช้เป็นยาปลุกอารมณ์ได้ โดยเฉพาะกับสตรีที่ไร้ประสบการณ์

     ฉืออู๋เหยาโยนหยุนเช่อผู้หมดสภาพออกไปจากห้อง จากนั้นตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเยื้อพรหมจรรย์ของมู่ปิงหยุนยังเหลืออยู่ นางใช้งานเชื้อหยุนเช่อที่ฝังอยู่ในร่างมู่ปิงหยุนให้เป็นประโยชน์ ควบคู่กับพลังลึกลับที่แฝงไว้ในสมองอีกฝ่าย กระตุ้นพลังงานชั่วร้ายที่แฝงอยู่ในร่างของมู่ปิงหยุนให้ลุกฮือขึ้นอย่างก้าวกระโดด

     ห้วงเวลาล่วงผ่าน

     ครึ่งชั่วยามผ่านไป

     หนึ่งชั่วยามผ่านไป

     สองชั่วยามต่อมา มู่ปิงหยุนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แววตาของนางเผยเสน่ห์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อหน้าฉืออู๋เหยา

     "อืม..."

     ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า เฉดสีแดงก็ครอบคลุมพวงแก้มที่ขาวนวลของนาง

     "เป็นเยี่ยงไร สามีข้าไม่อาจทำให้เจ้าพอใจใช่รึไม่?"

     นางไม่อยากยอมรับ แต่มู่ปิงหยุนทราบได้ว่าพูดปดไปก็ไร้ความหมาย นางจึงพยักหน้าอย่างซื่อตรง

     "ไม่สำคัญ สำหรับหยุนเช่อ เจ้าแค่มอบความรักสุดหัวใจไว้ให้มัน ส่วนร่างกายทั้งหมด...แน่นอนว่าเอาไปสนุกกับชายผู้มีแกนกายใหญ่โตได้ตามต้องการ"

     มู่ปิงหยุนสบตาฉืออู๋เหยาอย่างประหม่า บัดนี้นางเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอีกฝ่าย เห็นได้ชัดว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

     "อ๋อ...อีกประการหนึ่ง ข้าเกือบลืมไปแล้ว"

     ฉืออู๋เหยาสะบัดนิ้วของนาง ดึงเชื้อบุรุษที่ควบรวมเป็นลูกแก้วพร้อมปกคลุมด้วยพลังงานลึกลับออกจากช่องคลอดของตน กระทั่งตอนนี้สตรีทั้งสองก็ยังไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ แต่พวกนางชินชาที่ต้องเปลือยเปล่าต่อหน้ากันและกันแล้ว

     "นี่คือ? "

     "เจ้านี้รึ ย่อมเป็นเชื่อความเป็นชายของสามีไม่ได้ความที่พึ่งปล่อยใส่ตัวข้า เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าตั้งครรภ์จากสายเลือดไร้ประโยชน์ของมัน ข้าจึงปิดกั้นของเหลวทั้งหมดด้วยพลังภายใน เห็นรึไม่ว่าสิ่งนี้ใสจนไม่ต่างจากน้ำ คงเป็นการเสียเปล่าถ้าให้มันวิ่งตรงเข้าสู่มดลูกของข้าได้ ต้องเป็นน้ำเชื้อที่เข้มข้นจากบุรุษชั้นดีเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ กับผู้อื่นข้าให้โอกาสหลั่งในอย่างเต็มที่ ใครจะทำให้ข้ากำเนิกบุตรได้ก็นับเป็นวาสนาของคนผู้นั้น ทว่า..."

     "....."

     มู่ปิงหยุนมองฉืออู๋เหยาทิ้งเมล็ดพันธุ์ของสามีตัวเองลงพื้นอย่างไม่แยแส

     "...กับสายเลือดของหยุนเช่ออย่าได้หวัง"

     "ปิงหยุน เจ้าเองก็ควรทำแบบนี้ รักหยุนเช่อได้แต่ต้องมีลูกกับชายอื่นเท่านั้น แต่ก่อนอื่น...ข้าจะฝึกฝนเจ้าเพื่อให้เข้าใจเรือนร่างของสตรีมากยิ่งขึ้น มา...แยกขาออกกว้าง ๆ"

     "เอ๊ะ?"

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


arata



alasangel


kodzilla


kul1

ได้พี่แถมน้อง แต่งานนี้พี่จะพาน้องไปได้ไกลแค่ไหน


ryg123456

ต้องมาฝึกวิชาเพิ่มเติมต่ออีกนะจะได้เก่งขึ้น

leexiaopai1


Kitti2504

หยุน หมดท่าเลยต้องหาวิชาฝีกเส้นเอ็นเพิ่ม

jeab2504

นางมารจะสอนอะไรให้สาวน้อยไร้เดียงสาบ้างนะ

review1972


knightgs

ปิงหยุนโดนก่อนจริง ๆ ด้วยต้องรอดูว่าปิงหยุนจะไปโดนใครต่อ