[backcolor=#f2f1f1]
เห็นเห็ดนี้เผินๆ ก็น่ากินอยู่หรอก สีเหมือนสตอเบอร์รี่ น่ากินซะจริงๆ! แต่กินไม่ได้นะคะ เพราะรสชาติข๊มขม เห็นแบบนี้ก็อยากรู้แล้วสิว่า เจ้าเห็ดตัวนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ตาม teen.mthai (http://www.fwdder.com/out.php?d=http%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2F)ไปรู้จัก เห็ดฟันเลือด Hydnellum peckii กันดีกว่า ^^
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2013%2F04%2F537834_405937416147326_551778805_n.jpg&hash=7948b9800b2f760daf76d49442a0e99f54bd05b8)
เห็ดฟันเลือด (http://www.fwdder.com/out.php?d=http%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2Fvariety%2F58495.html)Hydnellum peckii
เห็ดฟันเลือด หรือในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hydnellum peckii ชื่อจีนัส Hydnellum ชื่อแฟมิลี่ Bankeraceae
แหล่งที่พบ : ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และพบในอิหร่าน (2008) เกาหลี (2010)
ลักษณะการเจริญ
- เห็ดชนิดนี้เจริญบนพื้นดินแบบเดี่ยว หรือแบบกระจัดกระจาย H. peckii เป็นพวก mycorrhizal มีความสัมพันธ์แบบสร้างประโยชน์ให้กับต้นไม้
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2013%2F04%2F698.jpg&hash=9d17c1a47e9f3507ec836259a3028a9d8bcc8d6a)
รูปร่างลักษณะ- ส่วน ลำต้นของดอกเห็นเป็นทรงกรวย รอบหมอกเห็นมีสีขาว ลักษณะรูปทรงหลากหลาย เมื่อยังอ่อนส่วนของหมวกดอกจะเปียกมีของเหลวสีแดงเหมือนเลือดออกมา ของเหลวนี้มีสาร anticoagulant (สารป้องกันการจับตัวของเลือด) ซึ่งมีคุณสมบัติเหมือนกับ heparin (กรดอินทรีย์ที่พบในเนื้อเยื่อปอดและตับมีคุณสมบัติทำให้เลือดแข็งตัวช้า) จากรูปทรงที่หลากหลายทำให้มีการเรียกชื่อเห็ดชนิดนี้หลายชื่อด้วยกัน เช่น strawberries and cream, bleeding Hydnellum, bleeding tooth fungus, และ red-juice tooth
- เห็ดฟันเลือด Hydnellum peckii เมื่อเจริญจะสร้างหมวกดอกบนลำต้น และสร้างส่วนที่มีลักษณะคล้ายฟัน (teeth-like hymenium) ใต้หมวกดอก
- เห็ดฟันเลือด ต้นที่ยังอ่อนจะมีน้ำสีแดงไหลออกมาบนพื้นผิวหมวกดอกจะมีส่วนที่นูนออกไม่ราบเรียบ โดยปกติแล้วผิวดอกเห็ดจะปกคลุมด้วยเส้นขนอย่างหนาแน่น มีผิวสัมผัสคล้ายผ้าสักหลาดหรือผ้ากำมะหยี่ เส้นขนนี้จะหลุดออกเมื่อมีอายุมากขึ้น มีรูปร่างหลากหลาย ตั้งแต่ 4-10 cm. หรือ มีขนาดถึง 20 cm. ส่วนของหมวกดอกเมื่อเริ่มเจริญค่อนข้างขาว หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อย และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลถึงใกล้สีดำ
- เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่เส้นใยจะเหนียวมาก มีเกล็ดและรอยหยัก เหนือหมวกสีมีสีน้ำตาลเหมือนไม้ เห็ดฟันเลือด เป็นพวก mycorrhizal โดยอาศัยอยู่ร่วมกับรากพืช เห็ดจะเปลี่ยนพวกธาตุอาหารและอะมิโนเอสิก จากดินแล้วตรึงพวกคาร์บอนไว้กับรากพืช เส้นใยใต้ดินของเห็ดจะเจริญเข้าไปในเนื้อเยื่อรอบๆรากพืช การอาศัยอยู่ร่วมกับรากพืชนี้สร้างประโยชน์ให้แก่รากพืชด้วยเอ็นไซม์จากเห็ดจะเปลี่ยนสารประกอบอินทรีย์ให้ง่ายต่อการดูดซึมของพืช
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2013%2F04%2F377338_10151532754217226_650997890_n.jpg&hash=542645f0dd083aa36af5011d1aa290753b326b04)
การใช้ประโยชน์ เห็ดฟันเลือด- มีลักษณะคล้ายกันกับ Danish pastry (ขนมชนิดหนึ่งเป็นแผ่นแป้งฟองฟู โรยเนย ถั่วหรือลูกเกด) โรยด้วยแยมสตอรเบอรี่
- เห็ดฟันเลือด ชนิดนี้ไม่มีพิษแต่จัดเป็นเห็ดกินไม่ได้ เนื่องจากมีรสชาติขมมาก
- สารสกัดจากเห็ดชนิดนี้ คือ atromentin มีคุณสมบัติเป็นสารป้องกันการจับตัวของเลือด คล้ายกับ heparin ในร่างกายนอกจากนี้สารนี้มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่จำเป็นในการสร้างกรดไขมันของแบคทีเรีย Streptococcus pneumoniae
เรียบเรียง teen.mthai แหล่งข้อมูล wikipedia.org เห็ดฟันเลือด (http://www.fwdder.com/out.php?d=http%3A%2F%2Fteen.mthai.com%2Fvariety%2F58495.html)Hydnellum peckii[/backcolor][/color][/font][/size]