ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มั่วรัก นักเปิดซิง ตอนที่ 27: สอบสัมภาษณ์

เริ่มโดย KaohomLM, เมษายน 04, 2024, 05:32:22 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

    "สวัสดีครับ" ชาคริตยกมือไหว้
    "อ้าวววววว พี่ชาคริต!!!! มาเป็นกำลังใจให้น้องปิ้งเหรอคะ" แม่ของราชณิญาถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นชาคริตเข้ามา
    "ครับ แล้วนี่ น้องญา..."
    "ไปเข้าห้องน้ำน่ะ เหมือนจะตื่นเต้น" คุณแม่บอก "พี่ชาคริตนั่งลงก่อน เดี๋ยวหนูปิ้งก็กลับมา"
    "สวัสดีค่ะ คุณแม่ราชณิญา" น้ำฟ้ายกมือไหว้
    "คนนี้ชื่อน้ำฟ้านะครับ คุณแม่ อยู่รุ่นเดียวกับผม จบมาจากที่เดียวกัน ตอนอยู่ที่โรงเรียนน้ำฟ้าเขาก็สนิทกับน้องญาอยู่"
    "สวัสดีจ๊ะ"
    "พี่ชาคริต!!! พี่น้ำฟ้า!!!!!!" เสียงใส ๆ ร้องเรียก
    "น้องญา" ชาคริตลุกขึ้นอ้าแขนรับราชณิญาที่โผเข้ามากอด
    "เช้านี้พี่ไม่มีเรียนเหรอคะ"
    "ไม่มีครับ เลยมาให้กำลังใจญาไง"
    "ขอบคุณมากนะคะ พี่ชาคริต พี่น้ำฟ้า" ราชณิญายิ้มแป้น
    "คิดว่าจะได้ไหม ญา" ชาคริตถาม
    "พูดยากค่ะ จากที่สอบ กับส่งพอร์ต เค้านัดมาสามสิบคน แต่เหมือนโควตารอบนี้จะรับแค่ยี่สิบ แปลว่าต้องคัดออกรอบสัมภาษณ์สิบคน พี่พอรู้ไหมคะ ว่าจะถามอะไร"
    "ไม่รู้เหมือนกัน แต่คงจะเป็นประมาณว่า มีจุดมุ่งหมายในชีวิตคืออะไร ทำไมถึงอยากจะเรียนสาขานี้ ทำไมถึงเข้าที่นี่"
    "เข้าตามพี่ชาคริต" ราชณิญาตอบทันที
    "ตอบแบบนี้ได้ยื่นคะแนนรอบต่อไปแน่นอน" ชาคริตบอก "แต่ก็ไม่เป็นไรนะ นี่เพิ่งรอบแรก มหาลัยยังเปิดรับนักศึกษาอีกหลายรอบอยู่"
    "ตอนพี่ชาคริตก็ไม่ได้รอบแรกใช่ไหมคะ"
    "อืม รอบแรกพี่กับพี่น้ำฟ้าไม่ได้โดนเรียกสัมภาษณ์ด้วยซ้ำ เราได้....รอบเท่าไหร่นะ น้ำฟ้า"
    "รอบที่สาม ตอนใกล้จบเทอมสองแล้ว"
    "เพราะฉะนั้น ญาก็ไม่ต้องกังวลมากนะ ตอบคำถามให้ดีที่สุด ต่อให้ไม่ติดก็ยังมีโอกาสอีก"
    "ค่ะ...งั้น ลองสมมติว่าพี่สองคนเป็นอาจารย์ที่สัมภาษณ์ ลองถามหนูดูซิคะ เดี๋ยวหนูจะลองตอบ"

    เวลาประมาณสิบโมงการสอบสัมภาษณ์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์จึงได้เริ่มขึ้น ราชณิญาและผู้มาสัมภาษณ์คนอื่นถูกเรียกขึ้นอาคารเรียนไป
    "พี่ชาคริต" คุณแม่มาสะกิด
    "ครับ"
    "พี่ชาคริตพาน้องปิ้งกลับไปส่งบ้านได้ไหม หลังสอบเสร็จแล้ว หรือถ้าพี่ชาคริตมีเรียนคาบบ่ายให้ปิ้งรอแถวนี้แล้วค่อยพาไปหลังเลิกเรียนก็ได้ แม่ลางานมาแค่ครึ่งเช้า ที่ทำงานก็อยู่ไม่ใกล้ แม่ต้องกลับไปทำงานแล้ว"
    "ได้เลยครับ"
    "แล้วอย่าแอบพาน้องปิ้งเข้าม่านรูดล่ะ"
    "คุณแม่!!!"
    "กลับถึงบ้าน ใช้ห้องน้องปิ้งก็ได้ แม่ไม่ขึ้นไปกวนหรอก"
    "คุณแม่!!!"
    "หรือจะให้น้องปิ้งไปนอนค้างบ้านพี่ชาคริตก็ได้นะ แค่โทรบอกแม่หน่อยก็แล้วกัน"
   
    พื้นที่มหาวิทยาลัยผู้คนพลุกพล่านกว่าปกติมาก เพราะคณะหลายคณะจัดสอบสัมภาษณ์ หรือทดสอบความรู้ความสามารถเฉพาะทางของนักเรียนที่สมัครในวันเดียวกัน ทำให้มีนักเรียนและผู้ปกครองจำนวนมากเดินทางมาที่มหาวิทยาลัย
    สิบโมงครึ่ง สิบเอ็ดโมง เที่ยง น้องญายังไม่กลับลงมาเลย
    "ชาคริต นายรอน้องญาอยู่นี่นะ" น้ำฟ้าบอก
    "น้ำฟ้าจะไปไหนเหรอ"
    "ไป......หาใครสักหน่อย"

    "ไผ่หลิว!!!"
    "อ้าว น้ำฟ้า.....น้องญามาแล้วใช่ไหม" ทันทีที่เดินลงมาจากอาคารเรียน ไผ่หลิวก็เจอน้ำฟ้า
    "อือ ใช่ สอบสัมภาษณ์อยู่ แต่น่าจะอีกไม่นานหรอก ชาคริตนั่งรออยู่หน้าตึกสินกัม ไปหาได้เลย เดี๋ยวชั้นตามไป"
   
    สาวหน้าตางดงามหมดจนยืนตัวตรงอยู่บนอาคารเรียน สายตาจับจ้องลงมาที่พื้นที่มหาวิทยาลัยที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ผมดำยาวสลวยถักเป็นเปียประณีตบรรจงยาวลงไปเกือบถึงบั้นเอวเรียวบางได้รูป ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อยฮึมฮัมบทเพลงไพเราะอยู่ในลำคอ
    "เบญ...." น้ำฟ้าเดินเข้ามาทางด้านหลังแล้วส่งเสียงเรียกเพื่อนสาวคนสวย
    เบญจคีตาหันมามอง และส่งยิ้มหวานใสให้น้ำฟ้า
    "น้ำฟ้า มาหาเรามีอะไรหรือเปล่าเอ่ย"
    "เบญ.....ไม่คิดจะเปลี่ยนใจเรื่องชาคริตจริง ๆ น่ะเหรอ"
    เบญไม่สะดุ้ง ไม่หุบยิ้ม ไม่แสดงกริยาใด ๆ ที่บอกว่าเธอแคร์เรื่องนี้แม้แต่สักนิด "เราบอกแล้วว่าจะไม่รักชาคริต"
    "ทำไม..."
    "แล้ว ทำไมน้ำฟ้าถึงอยากให้เรารักกับชาคริตจัง หือ" เบญถาม "ก็แปลกนะ ชาคริตบอกเราว่า คนรักนอกใจมันเจ็บ คนที่เรารัก รักคนมากกว่าหนึ่งคน เราก็เจ็บ แต่นี่เราเห็นน้ำฟ้าพยายามให้ชาคริตนอกใจเธอมาหาเราเหลือเกิน"
    "ชาคริตเล่าให้เราฟังเรื่องกลอนที่เบญใช้มาว่าความรักเป็นสิ่งไม่ดีในวันนั้น....มันมีครึ่งแรกไม่ใช่เหรอ"
    "รักไม่แสวงหาความสุขให้ตนเอง.....มีเพียงยินดีมอบความสบายให้แก่ผู้อื่น...." เบญพึมพำ "แต่มันก็เป็นแค่......ความคิดหลอกตัวเอง ของคนที่ไม่ประสีประสาเรื่องความรักไม่ใช่เหรอ"
    "ไม่....เรายินดีมอบทุกอย่างให้ ถ้าชาคริตมีความสุข รวมถึงเรื่องชาคริตกับเบญด้วย" น้ำฟ้าบอก "ก่อนคืนนั้น ที่พัทยา เราสังเกตเบญกับชาคริตมาตลอดนะ เรารู้สึกได้ว่าเบญกับชาคริตรักกัน เห็นมาตลอดว่าเบญมีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้ชาคริต แล้วชาคริตก็มีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้เบญ"
    "ตอนนั้น" เบญพูด หน้าตายังไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
    "แล้ว เบญก็เคยบอกเอง ว่าคนที่รักกว่า ย่อมเจ็บกว่า.....พอเบญเป็นแบบนี้ ไม่รู้เลยเหรอว่าชาคริตเจ็บแค่ไหน"
    "รู้สิ ก็เห็น ๆ กันอยู่" เบญบอก "แต่เราไม่ได้รักชาคริตแล้ว ชาคริตเจ็บ ก็ไม่ใช่ปัญหาของเรา"
    ................
    "งั้น....เราขอโทษนะ ที่รบกวนเบญ" สิ่งที่ทิ่มแทงน้ำฟ้ามากกว่าไม่ใช่คำพูด แต่เป็นกริยาท่าทางและน้ำเสียงของเบญ ตอนเรียนมัธยม มีเพื่อนในห้องหลายคนถูกชาคริตฟันแล้วทิ้ง ทุกครั้งที่บทสนทนาวนเวียนไปถึงเรื่องชาคริต พวกนั้นเก็บอาการเจ็บปวดกันไม่อยู่ บางคนก็โกรธ บางคนก็เจ็บ บางคนก็อาศัยความเย็นชามาเป็นเกราะกำบัง แต่กับเบญ เธอนิ่ง เธอเฉย เป็นมิตร และออกจะเริ่มรำคาญแล้ว ความไม่รักมันน่าเจ็บปวดยิ่งกว่าความชิงชังจริง ๆ
    แต่ที่น้ำฟ้าไม่สามารถเข้าใจได้จริง ๆ คือทำไมเบญถึงตัดใจจากชาคริตได้สิ้นเชิง ไม่หลงเหลือแม้เพียงเยื่อใยได้ขนาดนี้ ในเมื่อสายตาที่เธอมองชาคริตก่อนหน้านั้น ชุ่มฉ่ำไปด้วยความรักที่แทบจะหยาดหยดออกมาให้มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    "ไผ่หลิว....มาทำอะไร..." ชาคริตถาม
    "หนูจะมาคุยกับน้องญาอ่ะค่ะ"
    "เห้ย....ไม่ได้นะ...."
    แต่ชาคริตยังห้ามไม่ทันจบประโยค ก็มีเสียงร้องมาจากข้างหลัง "พี่ชาคริตตตตตตตตตตตตต"
    "ญา!!!!" ชาคริตหันไปหาราชณิญาที่วิ่งลงมาจากตึก "เป็นไงบ้าง"
    "หนูว่าหนูได้แหละ" ราชณิญาดีใจจนแทบกระโดด "เค้าถามคล้าย ๆ ที่พี่ถามเลย แล้วก็ขอดูผลงานเก่า ๆ อาจารย์ดูประทับใจ ก็นั่นแหละ ชนะเลิศระดับชาติสี่รางวัล รองชนะเลิศอีกสอง....พอดูเสร็จเค้าก็ให้เปิดเพลงแล้วให้หนูลองรำให้ดูแบบไม่ต้องเตรียมตัว.....แล้ว แล้ว อาจารย์คนนึงบอกหนูด้วยว่าจะรอเจอหนูที่คณะ!!!"
    "เยี่ยมเลยยยยยย" ชาคริตร้อง และลูบหัวราชณิญาด้วยความรักใคร่ "ปีหน้าเราจะได้เรียนที่เดียวกันอีกแล้ววววว"
    ไผ่หลิวมองดูคู่รักที่ลิงโลดยินดีปรีดา ใจหนึ่งก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย แต่อีกใจก็อิจฉา
    ราชณิญาตัวจริงสวยกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลย สวยกว่าเธอ สูงกว่า หน้าอกก็ใหญ่กว่า แม้แต่ในเสื้อนักเรียนมัธยมที่ปิดพรางทรวดทรงมากกว่าชุดนักศึกษาก็ยังสังเกตเห็นได้ ถ้าวัดเรื่องความสวยความงามกันจริง ๆ อาจจะเป็นรองยัยผมเปียนั่นนิดหนึ่ง แต่ก็ยังครบถ้วนด้วยลักษณะของยอดหญิง แล้วตัวเธอเองจะเอาอะไรไปสู้ล่ะ
    "เอ่อ...พี่ชาคริตคะ คนนี้ใครคะ" ราชณิญาถาม หลังจากหันมาเห็นเธอยืนอยู่หลังพี่ชาคริต ในระยะที่ใกล้เกินกว่าจะบังเอิญ
    "น้องญา นี่ไผ่หลิวนะ...."
    "คู่หมั้นพี่...." เสียงราชณิญากร้าวขึ้นทันที
    "ก็........ไม่ใช่แล้ว" ไผ่หลิวก้มหน้า "พี่โทรไปบอกพ่อให้ยกเลิกเรื่องหมั้นหมายทั้งหมดแล้ว แล้วก็.....ทำลายหลักฐานแบล็กเมล์คุณหนิงไปแล้วด้วย"
    "แล้วทำไมยังมาอยู่ตรงนี้อีกล่ะ" ราชณิญาถาม
    "คือ....พี่ อยากจะมา วิงวอน....ญา สักหน่อย...." โอ๊ยยยยยย ชั้นไม่เคยต้องพูดอะไรแบบนี้กับใครเลย คันปากโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย
    ในกระเป๋ายังมียาหลอนประสาทกับระเบิดควันยาสลบอยู่นะ!!!!
    "พี่...อยาก....จะขอ.......เป็นส่วนหนึ่ง ในชีวิต ของญากับพี่ชาคริตได้ไหม"
    แววตาเกรี้ยวกราดของราชณิญามองมาที่ไผ่หลิว ก่อนจะตวัดกลับไปที่ชาคริต
    "เปิดซิงเขาไปแล้วสิ"
    "ยัง!!!!" ชาคริตกับไผ่หลิวพูดพร้อมกัน
    "ดี งั้นเชิญไสหัวออกไปค่ะ เพราะนอกจากพี่น้ำฟ้าแล้วหนูจะไม่..........."
    บรึ๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม 

พูดคุยกับผู้เขียน
เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้วนะครับ กับเรื่อง มั่วรัก นักเปิดซิง ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่คอยติดตามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องด้วยนะครับ
ผมวางแผนไว้ว่า อยากให้เรื่องมี 35 ตอน เหมือนกับภาคแรก ตอนนี้ ก็เริ่มเขียนตอนที่ 35 แล้ว (แต่ยังไม่เสร็จ) ถ้ายังลงสัปดาห์ละสองตอนอย่างที่ลงมาตลอด ก็น่าจะเขียนจบได้ทันเวลาครับ
แต่ที่อยากจะปรึกษากับพวกท่านนิดหน่อย คือ ตอนนี้ ตอนที่ 34 ออกมายาวมาก (เท่าตอนธรรมดา 3-4 ตอนต่อกัน) และตอนที่ 35 ก็มีแนวโน้มจะยาวพอ ๆ กับตอนที่ 34 จริง ๆ แล้ว เนื้อหาในตอนค่อนข้างต่อเนื่องพอสมควร ก็เลยไม่อยากจับแยกเท่าไหร่ บวกกับไม่อยากให้เกิน 35 ตอนด้วย พวกท่านจะรับกันได้ใช่ไหมครับถ้าตอนมันยาวมาก ๆ
มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 59 ก็เขียนเสร็จแล้วนะครับ คาดว่าจะลงพร้อม ๆ กับ มั่วรัก ตอนที่ 30 ครับ
ผมคิดว่าคงจะไม่เขียนเรื่องที่ชาคริตเป็นพระเอกต่อแล้ว แต่ยังมีไอเดียเกี่ยวกับจักรวาลของนักเปิดซิงอยู่สองสามไอเดีย ที่ยังไม่ได้เริ่มหยิบออกมาเขียน หนึ่งในนั้น คือ เรื่องที่ผมคิดจะตั้งชื่อว่า เงารัก นักเปิดซิง เป็นเรื่องของที่โรงเรียนของชาคริต ในปีที่ชาคริตจบไปแล้ว แต่ราชณิญายังเรียนอยู่ ม.6 ซึ่งถึงแม้ว่าชาคริตจะจบไปแล้ว แต่เงา และตำนานที่พ่อหนุ่มนักเปิดซิงทิ้งไว้ยังส่งอิทธิพลต่อรุ่นน้องหลายคน ที่ต่างก็แย่งชิงกันจะขึ้นเป็นนักเปิดซิงคนใหม่ แทนชาคริตที่จบไปแล้ว ตัวละครหลายตัวที่ออกชื่อไปทั้งในภาควุ่นรักและมั่วรักก็น่าจะมีบทบาทต่อในภาคนี้เยอะพอสมควร ไอเดียนี้คิดว่าพอผ่านไหมครับ
ส่วนเรื่องที่มหาวิทยาลัยจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามได้ในตอนที่ 28 นะครับ
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

kokkum

ไม่มีปัญหาเลยยาวแค่ไหนก็ได้ยินดีอ่านอยู่แล้วว่าแต่35ตอนพอหรอ

GozOnyx

ส่วนตัวชอบตอนยาวๆนะครับ อ่านจุใจดี
ส่วนภาคต่อเป็นไม่มีปัญหากับตัวละครใหม่ๆครับ ยังไงก็ได้ ชอบที่บรรยากาศของเรื่องมากกว่า

po3026


mrcat2022

ชาคริตจะโดนอะไรนิ 555 น้องญาไม่ตกลงรับสาวเพิ่ม


tum696969



narissa

รอลุ้นตอนต่อไปเลยว่าบรึ้มอะไร แต่เบญก็ใจแข็งมาก

optiplex


mighty

เงารัก นักเปิดซิง... ถ้าส่งผลและมีอิทธิพลต่อรุ่นน้องโดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยชอบแนวคิดแบบนั้นสักเท่าไหร่นะครับเพราะส่วนนึงยังมองว่าจิตใจของสาวๆที่โดนกระทำอาจไม่แข็งแกร่งและเป็นแบบรินขึ้นได้.. หากจะมีแนวคิดแบบนั้นอยากให้ออกแนวแบบเด็กเที่ยวไนท์แสตนแบบซิทคอมเป็นต่อมากกว่าในการไล่ล่าจีบสาวมากกว่าคำว่าเปิดซิงแบบนั้นจะwin-winมากกว่าและเป็นตำนานบทใหม่ให้กับรุ่นต่อไปชาคริตนักเปิดซิง...?? สิงห์ราตรีที่สาวๆอยากควง


teerawatc

ไอเดียดีครับ เป็นเรื่องความรักของหนุ่มสาว

ขยายจักรวาลนักเปิดซิง เรื่องใหม่ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันช่วยทำให้หายคิดถึงตัวละครเดิม

ส่วนเนื้อเรื่องที่ยาว ผมว่านักอ่านส่วนใหญ่ชอบนะครับ อ่านกันไปให้จุใจ รอติดตามนะครับ

peddo

ยิ่งยาวยิ่งน่าจะได้อ่านกันอิ่มนะครับ เพราะดูแล้ว กว่าญาจะยอมนี่น่าจะต้องผ่านการพิสูจน์ใจกัยฝนอีกหลายยก
ส่วนภาคต่อ ผมยังเชื่อมือผู้แต่งว่าจะหาแง่มุมที่จะออกมารู้สึกดี แม้จะสงสัยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่อาจจะยากในการทำให้ประทับใจเท่าเรืีองที่ผ่านมา

dalton

ตอนยาวไม่มีปัญหาครับ อ่านกันจุใจ