ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

" ประดับดาว " - Side Story ของน้องดาว ตอนที่ 2

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, เมษายน 18, 2023, 12:15:23 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

" ประดับดาว "

เนื้อเรื่อง  : ดาว
เรียบเรียง : ดาว + โทน
เขียน : โทน






ความเดิมจากตอนที่แล้ว


ดาวออกจากเชียงใหม่มารับงานเต้นตามที่เพื่อนชวน

แต่เพราะอะไรๆหลายๆอย่างทำให้ดาวตัดสินใจมากรุงเทพฯ

แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ดาวคิดไว้เลย



วันต่อมามันก็เหมือนเดิมนะ ดาวตื่นมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี จะไปที่ไหนดี เมื่อวานตื่นมาดาวยังรู้ว่าจะซื้อข้าวกินที่ไหน แต่ตอนนี้ล่ะควรไปที่ไหนดี เงินน่ะมีนะ แต่ความรู้สึกที่มันไม่คุ้นเคย ไม่รู้จักมันก็ทำให้ดาวไปไม่เป็นเหมือนกันนะ ตอนอยู่ที่สระบุรีตื่นเช้ามายังรู้ว่าเดินไปซื้อข้าวกินที่ร้านไหนได้ กินเสร็จกลับมาที่ห้องเก็บกวาดห้องต่อ


แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันเลย ตื่นมาตอน 7 โมง มีเวลาอีก 5 ชั่วโมงจะต้องคืนห้องแล้วล่ะ จะอยู่ต่อดาวก็เสียดายเงินนะ ค่าเช่าห้องแค่คืนเดียวยังเกือบเท่าค่าแรงที่ดาวเคยได้ตอนทำงานที่เชียงใหม่เลยนะ บอกตรงๆการไปตายเอาดาบหน้าโดยที่ไม่รู้อะไรเลย มันจะได้ตายแน่ๆก็คราวนี้แหละ ดาวนั่งคิดนะว่าจะทำยังไง จะไปไหนต่อดี


หางานทำมันเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่จะทำอะไร แล้วจะหางานที่ไหนล่ะ พอใกล้จะถึงเที่ยงความรู้สึกที่ไม่เคยเจอมันก็เกิดขึ้นนะ เหมือนว่าดาวกำลังจะหมดเวลาที่จะอยู่ในห้องนี้ ความรู้สึกลึกๆเหมือนอ้าวอยู่ไม่ได้เหรอ แล้วจะไปไหนต่อ คือมันมืดหลายด้านเลยนะ แล้ววันนี้ล่ะถ้าวันนี้ไม่ได้งานทำก็ต้องหาห้องเช่าอยู่อีกใช่มั้ย ไม่สิ่ ต่อให้ได้งานทำแล้วก็ต้องเช่าห้องอยู่เหมือนเดิม


ดาวออกจากห้องเช่ารายวันที่นอนเมื่อคืนมา ออกมาแล้วก็นั่งเคว้งเลย ดาวไม่เคยออกจากบ้านมาไกลขนาดนี้ ไม่เคยออกมาแล้วมันไม่รู้ที่จะไปขนาดนี้ มองซ้าย มองขวา มันก็เป็นสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ตอนอยู่ที่บ้านเมื่อก้าวออกมา จะเห็นทิวไม้ ต้นไม้ เขียวขจี หมอกในตอนเช้าชวนเย็นตา ทางลาด ทางชั้นที่คุ้นเคย


มาทำงานที่กาดหน้ามอแค่ออกมาถนน หันไปซ้ายมือก็จะเห็นทางขึ้นดอยสุเทพ เห็นภูเขาหลายลูก มองเห็นต้นไม้ละลานตา มาทำงานที่สระบุรี ออกมาก็มีถนนเล็กๆหน้าบ้านเดินไปซื้อข้าวจากร้านป้าอาหารตามสั่ง มองไปข้างหลังก็เห็นภูเขา แต่ตอนนี้รอบๆตัวดาวมีแต่ตึกสูงๆ มีแต่ถนนที่คนขับรถสวนกันไปมา บนฟุตบาทที่มอเตอร์ไซค์ก็วิ่งแย่งกับคนที่เดินไปมา



เสียงเงียบๆที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เกิด ก็กลายเป็นเสียงบีบแตร เสียงรถยนต์ เสียงคนบ่น ตอนนี้คือไม่รู้จะไปไหนเลย แต่ยังไงก็แล้วแต่ดาวต้องหางานทำนะ มันอาจจะฟังดูแปลกๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยแต่คิดในใจอันดับแรกคือต้องหางานทำ มันแปลกว่ามั้ย ปกติตอนแรกต้องหาที่อยู่ที่พักก่อนสิ่  ไม่รู้สิ่มันรวนไปหมดเลยนะตอนนี้



จะบอกว่าชีวิตการทำงานของดาว จะเรียกว่าสะดวกมันก็พูดแบบนั้นได้ ทำงานตอนเรียนมัธยมก็เดินหาดูตามป้ายประกาศในกาดหน้ามอ ร้านไหนรับพนักงาน Part time บ้าง ไม่ได้เหนื่อยไปตามหาที่ไหนแล้วก็ได้งานที่ร้าน งานเต้นเพื่อนก็เป็นคนมาชวน จนสุดท้ายก็ได้งานเต้นประจำ ทุกอย่างคือมีคนหามาให้ทั้งนั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน



ตอนนี้เหมือนดาวต้องทำทุกอย่างเองหมดเลย มันยากนะที่จะต้องเริ่มอะไรแบบนี้ ดาวยังไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้จริงๆดาวอยากทำอะไรกันแน่ จริงอยู่ว่าดาวชอบเต้น ดาวรักการเต้นนะ แต่มันจะใช้สิ่งที่ดาวอยากทำไปตลอดชีวิตจริงๆน่ะเหรอ ข้อเสียของคนจนแบบดาวคือ ดาวแทบจะไม่มีโอกาสได้คิดได้ฝันเลยนะ เพราะวันๆแค่เรียนและเอาตัวรอดไปในแต่ละวันมันก็เต็มกลืนแล้ว



ตอนที่มีคนมาแนะนำก่อนจบเรียน เขาบอกว่าช่วงมัธยมปลายเป็นช่วงคนหาตัวเอง ช่วงมหาวิทยาลัยเป็นช่วงที่พัฒนาและทำให้มันเด่นชัด แต่ดาวไม่มีช่วงนั้นเลยจริงๆ ไม่อยากจะพูดว่าเพราะเกิดมาจนเลยทำให้เสียโอกาสไปนะ เพราะคนที่เหมือนดาวแต่ทำได้ดีกว่าดาวมันก็มีหลายคน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับดาวน่ะสิ่



วันนั้นดาวก็นั่งกอดกระเป๋าคิดในใจว่าจะไปทำงานอะไรดี อย่างแรกง่ายๆเลยคือไปเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหาร มันเป็นงานที่คิดว่าทำได้ดีที่สุดแล้วล่ะ แต่ไม่สิ่ ดาวมาที่นี่เพราะอยากจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้น ทำไงก่อนดีล่ะความหวังแรกเลยคือโทรหาเพื่อนก่อนเลย เพื่อนคนที่แนะนำให้ดาวมาทำงานนี่แหละ



เขาคงจะมีประสบการณ์ในเมืองมากกว่าดาวแน่นอนล่ะ ดาวโทรหาก่อนเลยนะ นางถามดาวว่าดาวอยู่ไหนแล้วดาวออกมายัง ดาวก็บอกนะว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพฯแล้ว แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี นางก็บอกดาวนะว่า แล้วจะไปไหนต่อก่อนล่ะดาวแบบนี้ ดาวก็ถามว่านางน่ะอยู่ไหน นางบอกอยู่นครนายก ตอนนั้นดาวก็ไม่รู้ว่านครนายกมันไกลจากที่นี่มั้ยนะ


พอสอบถามอะไรกันเรียบร้อยแล้ว คือเหมือนดาวต้องนั่งรถย้อนกลับไปครึ่งทางจากที่มาสระบุรี ซึ่งดาวไม่เอาแน่นอน ดาวก็ถามนางนะว่า ดาวควรจะทำยังไงต่อดีล่ะมากรุงเทพฯแบบไม่เตรียมตัวอะไรเลย นางก็ถามดาวนะว่าตั้งใจจะทำอะไรก่อน ดาวก็บอกว่าต้องหางานทำอยู่แล้วแหละ อยู่กรุงเทพฯ แต่ไม่มีงานทำก็ไม่ได้



นางแนะนำดาวนะว่า ดาวต้องหาห้องพักก่อนนะดาว คือดาวต้องหาที่พักแล้วก็หางานระแวกใกล้ๆที่พักนั่นแหละ ไม่งั้นดาวจะเหนื่อยเรื่องเดินทางและเรื่องค่าใช้จ่ายอีก หรือไม่อีกทางอ่ะ ดาวต้องหางานให้ได้แล้วก็หาที่พักระแวกนั่น ดาวก็คิดในใจนะว่าจะแบบไหนก็ต้องควักเงินออกมาก่อนเลย มันแย่นะแบบนี้ ยังไม่มีรายรับเข้ามาแต่ก็ต้องจ่ายเงินออกไป ทำยังไงดีนะ


สุดท้ายก็ต้องเดินหางาน สมัยนั้นไม่เหมือนสมัยนี้นะ ตอนนั้นดาวอายุ 20 พี่โทนก็คงจะ 18 ก็คิดเอาแล้วกันว่ามันนานแค่ไหน สมัยนั้นโซเชียลอะไรก็ไม่มี การจะหางานทำถ้าไม่สมุดหน้าเหลือง ก็เว๊ปไซต์ กับบอร์ดประกาศตามที่ต่างๆ ตรงที่ดาวอยู่นั้นมันเป็นห้องเช่าใช่มะ มันก็จะมีป้ายบอร์ดที่มีกระจกกั้น ดาวก็ไปยืนดูว่าจะมีงานอะไรประกาศรับคนบ้างมั้ยนะ


ที่มันน่าตลกที่สุดคือ รับขั้นต่ำวุฒิปริญญาตรี ....  อนาคตที่ดีเขาเริ่มที่ปริญญาตรีงั้นเหรอ ใครที่บอกว่าใบปริญญาไม่สำคัญกันนะ ใครที่บอกว่าความสำเร็จไม่เกี่ยวกับวุฒิการศึกษากันนะ นี่ไงหลักฐานมันอยู่ที่หน้าดาวเลย กระดาษใบเดียวนี้นี่แหละที่เป็นเหมือนกุญแจเปิดโอกาสในหลายๆอย่าง แต่วุฒิ ม.6 แบบดาวไม่มีใครสนใจหรอก



แล้วที่สำคัญ... ดาวไม่ได้เอาหลักฐานวุฒิการศึกษามาจากบ้านเลย ไม่ใช่ว่าดาวลืมนะ แต่ว่าตอนไปทำงานที่สระบุรี มันเป็นงานเต้นที่ดาวไม่คิดว่าวุฒิการศึกษามันจะได้เอามาใช้อะไร แต่ว่าพอมากรุงเทพฯ มันคนละเรื่องเลยล่ะ แต่ดาวเองก็ไม่ได้ยอมแพ้ซะทีเดียวนะ เดินดูตามป้ายแบบไร้จุดหมายอ่ะ เข้าใจคนมาแบบเคว้งๆมั้ย แบบนี้แหละ



จนสุดท้ายได้นั่งพักได้ซื้อน้ำมากิน ได้มีเวลาคิด ดาวก็คิดว่าอื้มทำไมไม่หางานในอินเตอร์เนตล่ะ ใช่ต้องหาร้านอินเตอร์เนต รอบๆอนุสาวรีย์ร้านอินเตอร์เนตเยอะนะ แต่ราคาก็ทำเอาดาวมือสั่นเหมือนกันนั่นแหละ สมัยนั้นเกมส์ออนไลน์กำลังบูมๆเลยล่ะ ไม่มีสมาธิหางานเลยเครื่องข้างๆเล่นเกมส์เสียงดัง เอาปากกา สมุดมาจดเบอร์โทร ของแต่ละที่ที่รับสมัครงาน รับคนทำงานมาหมด



จนสุดท้ายวันนั้นดาวก็ต้องกลับไปเช่าห้องพักแล้วเริ่มโทรสอบถามนะ ใจดาวไม่กล้าหรอก แบบว่าเดินไปถามตามร้านต่างๆว่ารับคนทำงานมั้ย รับคนทำงานมั้ย ด้วยความที่ใจดาวไม่กล้าพอ แล้วก็เป็นผู้หญิงด้วย ดาวเองก็กลัวนะ กลัวว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น วันนั้นดาวหมดเงินกับการโทรศัพท์ไปเยอะนะ ต้องเดินลงมาซื้อบัตรเติมเงิน 2 รอบ รอบละ 90 บาท



รวมกับค่าเช่าห้องวันนั้นดาวหมดไปเยอะเลยนะ มันเยอะชนิดที่ว่าเกิดมายังไม่เคยใช้เงินเยอะขนาดนี้ใน 24 ชั่วโมงเลย ดาวไล่โทรหางานอยู่อีก วันนึงเต็มๆ ค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าโทรศัพท์ ค่าเช่าห้อง แล้วไหนจะค่าเดินทางที่ต้องนั่งรถเมล์ไปที่หน้างานอีก มันท้อตั้งแต่วันแรกแล้วนะ บอกไปมันก็เหมือนดาวอ่อนแอ ดาวไม่สู้ บอกตรงๆว่าคอมเมนท์ในตอนก่อนที่บอกว่าดาวสู้ชีวิต



ดาวอ่านแล้วยังรู้สึกอายเลย ดาวไม่ได้สู้อะไรขนาดนั้น ที่เคยทำงานมาตั้งแต่เรียนมัธยม เพราะงานมันหาง่ายและมีคนเอางานมาป้อนให้ตลอดเลย ดาวแค่ใส่แรง ทุ่มเทลงไปในการทำงานเท่านั้นเอง แต่พอมาเริ่มอะไรเองจากศูนย์แบบนี้ดาวท้อตั้งแต่เริ่มออกจากห้องแล้ว มันมีนะบางที่ที่ให้สัมภาษณ์งานทันทีที่ดาวไปสมัคร ตอนนั้นดาวไม่รู้เขาบอกว่าจะติดต่อกลับมา

ดาวก็คิดว่าได้งานแน่ๆ เพราะดาวเองก็มั่นใจว่าบุคลิกภาพของดาวเองก็ไม่ได้แย่อะไร มั่นใจว่าหุ่นของดาวดูไม่แย่ มั่นใจว่าตัวดาวเองก็มีบุคลิกที่ดี ดาวมั่นใจว่าได้งานแน่ๆแล้ว ดาวก็เลยตัดสินใจเช่าห้องเป็นรายเดือนไปเลย แต่ก่อนจะเช่า.. มันต้องมีเก็บค่าประกันล่วงหน้าตอนนั้นดาวหน้าเสีย หน้าสั่นเลยนะ เงินในตอนนี้มันพอแค่ค่าเช่า 1 เดือนกับเงินที่จะกินไปได้อีกเดือนหรือถ้าประหยัดก็อีก 2 เดือนเท่านั้นเอง


สุดท้ายดาวก็เช่าแบบรายเดือนไม่ได้ ต้องเปลี่ยนที่เช่า หาที่มันถูกกว่านี้ ขอแค่มีพัดลมกับห้องน้ำส่วนตัวสะอาดๆ จะแคบแค่ไหนดาวก็นอนได้ เกิดมาดาวไม่เคยเฝ้ารออะไรขนาดนี้นะเลยนะ เฝ้ารอว่าจะมีคนโทรมาบอกว่ารับเข้าทำงาน ตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ดังทีนึงก็เหมือนคนบ้า รีบรับโทรศัพท์เลยนะ  แต่ก็เป็นแค่คอลเซ็นเตอร์จากค่ายมือถือ


ผ่านไปเรื่อยๆ เงินมันก็หมดเรื่อยๆ 5 วันแล้วมั้งจากที่ไปสัมภาษณ์มา แต่ไม่ใช่ว่าดาวจะไม่ลองโทรไปสมัครที่อื่นนะ มีเดินไปสมัครที่หน้าบริษัทด้วยนะ มีบางที่ที่รับแค่วุฒิ ม.3 ม.6 ดาวก็ดีใจและมีความหวังนะ แต่พอเจอคำถามที่ว่ามีประสบการณ์การทำงานมามั้ย ดาวก็ส่ายหัวเลย เพราะรู้ว่าคงไม่ได้งานทำอีกแล้ว


ดาวนั่งร้องไห้นะ ร้องไห้อยู่คนเดียวในห้อง ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำยังไงต่อไปดี เวลาไม่มีงานทำมันก็ไม่มีจริงๆ ตอนเย็นออกมากินข้าว ร้านข้าวแถวๆนั้นแบงค์ 20 2ใบ ดาวยังมือสั่นไม่กล้าจะหยิบจ่ายเลยนะ แต่ถ้าไม่จ่ายเงิน ไม่กินข้าว ดาวก็จะไม่มีแรง เงินที่มีตอนนี้บอกตามตรงมันจะไม่ไหวแล้ว แต่เหมือนว่าดาวจะไม่ได้โชคร้ายไปทั้งหมดนะ


กำลังกินข้าวอยู่ในร้านก็บ่นๆกันว่า ล้างจานเร็วๆหน่อย คนผัดข้าวก็บอกว่าจะล้างยังไงทำข้าวอยู่ ตอนนั้นดาวก็รู้แล้วล่ะว่าร้านนี้มีปัญหาเรื่องล้างจานแน่ๆ แต่ความไม่กล้ามันก็ยังมีอยู่นะ แต่ดาวก็คิดว่าถ้าดาวไม่ถาม หรือไม่ทำอะไรเลย ดาวแย่แน่ๆ เพราะเงินไม่พอถึงเดือนหน้าแน่ๆ จนข้าวของดาวมาเสิร์ฟ ดาวก็กินช้าๆนะ กินไปเรื่อยๆ ไม่กล้าไปถามตอนนี้



รอจนคนน้อยๆ ดาวกินข้าวหมด เรียกมาเก็บเงินดาวก็เลยถามเขาว่า พี่คะพอดีหนูมาจากต่างจังหวัดหางานทำอยู่ แถวนี้พอจะมีงานเล็กๆน้อยๆที่เขาจ้างรายวันบ้างมั้ยคะ เขาก็มองหน้าดาวนะ แล้วบอกป้าก็ไม่รู้หรอกอีหนู คือดาวไม่กล้าถามตรงๆว่า รับคนทำงานมั้ยไง คือทำตัวไม่ถูกน่ะ แต่ป้าเขาก็มองๆหน้าแล้วถามว่าจะทำอะไรล่ะ ดาวได้โอกาสก็บอกว่าตอนนี้งานอะไรก็ได้ หนูแค่อยากหางาน หาเงินให้พอรอดตัวไปก่อน หนูเคยทำงานเสิร์ฟที่เชียงใหม่มานะ



ป้าเขาก็มอง ๆ ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็คิดเงินไป คือตลอดหลายวันที่ผ่านมา ดาวผิดหวังมาตลอดนะ แต่มันไม่ชินเลย คราวนี้ก็คงไม่ได้ทำอะไรแหละ มันไม่ใช่ความผิดของป้าที่ไม่รับดาว แต่ดาวก็คิดในใจนะว่าทำไมไม่รับดาวล่ะ มันคิดแบบนี้จริงๆ ดาวคิดนะว่าหรือต้องกลับบ้านจริงๆ เงินกลับบ้านก็มีนะ ถ้าตอนนี้ล้มเลิกทุกอย่างแล้วกลับบ้าน ดาวก็คงไม่ต้องมานั่งผิดหวังอะไรแบบนี้


พอลุกและเดินออกมา ป้าก็เรียกอีหนู ๆ ๆ แล้วป้าก็เดินมาดึงแขนเสื้อ  ดาวก็หันไปนะ ป้าเขาก็ถามล้างจานกับเสิร์ฟได้มั้ยล่ะ ถ้าได้ก็มาทำ ดาวตอบไม่ต้องคิดเลยได้ค่ะ ๆ ๆ ทำได้ค่ะป้า ป้าก็บอกอืม พรุ่งนี้มาเที่ยงมาทำงาน ป้าเขามองๆแล้วบอกว่าเสื้อผ้าแบบนี้ใส่ทำงานไม่ได้หรอก ตอนนั้นดาวไหว้ ๆ  ๆ ๆ แล้วก็ไหว้จนคนแถวนั้นมอง ป้าพยักหน้าแล้วก็เดินกลับเข้าไปในร้านเหมือนเดิม ได้แล้วได้งานทำแล้ว ดาวได้งานทำแล้ว

 




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Skyioi

ขอบคุณ​ครับ​
ชีวิตมีนต้องสู้
สู้ๆนะทุกคน

civil2

รู้สึกดีใจไปกับคุณดาวจริงๆ เหมือนชีวิตมันมีแสงสว่างขึ้นมาเลย

n_neng

ความลำบากสอนให้คนเราสู้ชีวิตต่อไปจะสบาย

Thanee_samsung


natt4556

บทละครชีวิตจริง ในยุคสมัยก่อน ที่เด็กต่างจังหวัด อาจจะได้พบเจอ

มันมีแค่สู้ ไปต่อ กลับหลังหันไม่ทันแล้ว


Roam/Z/l3



Joepure~☆

#9
เรียกว่าสู้ในแบบของคุณดาวน่ะครับ
อย่างน้อยก็ยังขอสู้เองก่อน
ไม่ได้เริ่มต้นด้วยการโทรหาพี่จิ๋ว

Edit: เจ๊แฟนพี่จิ๋วแน่เลย มันคือโชคชะตา!!

zeebraa

ที่มาหรือจุดเริ่มต้นของคนเราไม่เหมือนกันอยู่ที่ จะสู้หรือจะถอย

piya kanakit


lukpuman

คิดถึงตอนเข้ากรุงใหม่ๆเหมือนกันเลยครับ

Au Nanma


okai

#14
มาแบบไม่รู้อะไรเลย.. เหนื่อยแน่นอนครับ..
กว่าจะมาถึงจุดนี้.. ผ่านอะไรๆมาเยอะ..
โชคยังไม่ทอดทิ้งนะครับ..  สุดท้ายได้มาพบเจอกันอยู่ดี...