ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

สาปพงไพร ภาคแม่แปรงทมิฬ ตอนที่ 4

เริ่มโดย pekopon66, ธันวาคม 30, 2019, 10:05:22 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

pekopon66

ราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด อิงฟ้านอนหลับตาปล่อยกายไปตามท่วงทำนองลวดลานการบังคับลิ้นของฝ่ายชาย ร่างกายเธอเบาหวิวบิดเบี้ยว เอวลอยแอ่นอย่างลืมตัว พลางนึกกลัวว่าสามีของตนไปแอบพัฒนาฝีปากมาจากไหน เมื่อคืนวานยังไม่เก่งเท่านี้



"คุณพงษ์ศักดิ์ ผมว่าเราควรจะปลุกทุกคนก่อนนะครับ!"




เสียงของธีร์ตะโกนดังอยู่นอกเต็นท์ อิงฟ้าสะดุ้งตัวโหยง เธอรีบถอยหลังหุบขาในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ชายในเงามืดที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่สามีของเธอ อิงฟ้ารีบสวมเสื้อผ้าในขณะที่ชายคนนั้นยังคงจ้องมองเธอ ร่างกายของเขาใหญ่โตจนอิงฟ้ากลัว เธอรีบคลานออกมาจากเต็นท์ ชายปริศนาคนนั้นก็ไม่ได้เหนี่ยวรั้งอะไรเธอเอาไว้ มันเพียงแค่มองตามด้วยความเสียดาย



"อ้าวฟ้า ตื่นอยู่เหรอ" ธีร์หันมาหาภรรยาสาว

"ธ...ธีร์เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมถึงมืดขนาดนี้" 



รอบตัวพวกเขายังคงมืดสนิท แต่คู่รักสองคนเห็นแค่เงาก็พอจะจำได้ เพียงแต่ว่าเมื่อครู่อิงฟ้าไม่ได้ตั้งใจมองเท่านั้นเอง ด้านพงษ์ศักดิ์กับพรานอ่ำก็ช่วยกันจุดไฟแต่ลมแรงจนเกินไป ยังดีที่เต็นท์ไม่ปลิว สองพรานเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี พวกเขารู้สึกถึงสายตาหลายสิบคู่จับจ้องมาจากความมืด



"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นกูจะยิงพวกมีงแน่!!" นายอ่ำเริ่มเดือดดาล ผสมกับแอลกอฮอลด์ที่อยู่ในสายเลือดยิ่งแล้วใหญ่

"ใจเย็น พรานอ่ำ ยิงมั่วอาจจะไปโดนพวกนายจ้างก็ได้ เดี๋ยวผมจัดการเอง"



พงษ์ศักดิ์หยิบกิ่งไม้แห้งแถวเท้ามาปักตั้งลงดิน ปากกล่าวคาถาอธิษฐาน แล้วหยิบเศษดินขึ้นมาโรยแถวกระบอกปืนของตน หลังจากท่องคาถาเสร็จนายพรานหนุ่มก็ลุกขึ้นพร้อมยกวินเชสเตอร์คานเหวี่ยงประทับบ่า เหนี่ยวไกขึ้นฟ้าสี่สิบห้าองศาแผดเสียงดังราวกับฟ้าผ่า!



เปรี้ยง!



ทันใดนั้นก็เกิดเสียงกรีดร้องทรมานอยู่รอบจุดแคมป์ อิงฟ้าและธีร์กอดกันกลมด้วยความกลัว พงษ์ศักดิ์ใจดีสู้เสือสลัดคานเหวี่ยงเตรียมจะยิงอีกครั้ง แต่ลมที่รุนแรงกลับพัดเบาลงจนหายไปในที่สุด ทุกอย่างค่อยๆกลับมาเป็นปกติ ความรู้สึกที่ถูกจับตามองก็หายไป



"ม..เมื่อกี้นี้เสียงปืนใช่มั้ย?" รันคลานออกมานอกเต็นท์ ก่อนจะตามมาด้วยโรม เหล่านายพราน และคู่ต่างชาติ ตามลำดับ

"ครับ ผมเป็นคนยิงเอง" พงษ์ศักดิ์หันไปรับ

"มีอะไรบุกมารึเปล่าครับ" โรมมองซ้ายขวา

"อันนี้คงต้องถามพรานอ่ำครับ ผมไม่ทราบรายละเอียดพวกนี้เลย" พงษ์ศักดิ์หันไปมองพรานอ่ำที่เข่าอ่อนนั่งลงกับพื้นกระดกเหล้าต้มไม่หยุด

"ม...ไม่เป็นไรกันก็ดีแล้ว ทุกอย่างน่าจะกลับมาเป็นปกติแล้วใช่มั้ยครับ?" 



โรมยิ้มพลางมองเพื่อนร่วมทาง ทุกคนยังอยู่กันครบดีแต่หน้านายพรานสุภาพบุรุษใต้หมวกแก๊ปกลับเครียดหนักยิ่งกว่าเดิม



"ทำไมถึงทำหน้าเครียดอย่างงั้นล่ะครับ มีอะไรรึเปล่า?"

"ผมขอถามคุณโรมหน่อยครับ ว่าคุณรู้ได้ยังไงว่าผมทำหน้าเครียดอยู่"

"ก็ผมมองเห็น...."



คำพูดเหมือนจุกอยู่ในลำคอ โรมและชาวกรุงคนอื่นเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก็พบกับพระจันทร์เต็มดวงลูกใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ใจของโรมตกไปถึงตาตุ่ม เพราะวันนี้มันเป็นคืนเดือนแรม มันจะไปมองเห็นพระจันทร์ได้ยังไง พรานอ่ำนั่งตัวสั่นจนนายพ่วงต้องเข้ามาดูอาการ



ในฐานะหัวหน้าคณะ พงษ์ศักดิ์จึงรีบตั้งสติเรียกขิ่นหนุ่มน้อยมาช่วยก่อกองไฟขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะนั่งยองลงข้างพรานอ่ำผู้น่าจะรู้เรื่องดีที่สุด



"พรานอ่ำ ช่วยตั้งสติแล้วเล่าให้ผมฟังทีว่า ที่นี่คือที่ไหน?" 



คำถามของนายพรานสุภาพบุรุษทำเอาทุกคนขนพอสยองเกล้า อิงฟ้ากลัวจนต้องซบอกสามีของตน กลับกันรันกอดอกตัวเองแน่น ยืนตัวตรง เธอรู้สึกกลัวแต่ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว เช่นเดียวกับพี่ชายของเธอ



"ที่นี่ล่ะครับ ที่ผมเคยมาเมื่อสามสิบปีก่อน ป่าอาถรรพ์ที่ไม่มีใครออกไปได้" พรานอ่ำเล่าเสียงสั่นเครือ

"นี่คุณพราน ถ้าไม่มีใครออกไปได้ แล้วคุณเป็นใครอยู่มาจนหัวหงอกขนาดนี้" รันแย้ง

"ทุกคนในคณะหายสาปสูญหมด เหลือเพียงพรานอ่ำคนเดียวใช่มั้ย?" ธีร์ที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้ก็พูดแทรกขึ้นมา

"ใช่... ตามที่ผมเล่านั้นล่ะ ในป่านี้ไม่เหมือนกับป่าที่พวกเราอยู่ มันเต็มไปด้วยคำสาป วิญญาณ และสัตว์ร้าย" พรานอ่ำคว้ายาเส้นขึ้นมาจะสูบแต่มือสั่นจนเกินไป

"แล้วผมจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าที่นี่คือที่เดียวกับที่พรานอ่ำเคยมา" พงษ์ศักดิ์กล่าวพลางมองรอบตัว ต้นไม้แต่ละต้นยังคงคุ้นตานายพรานหนุ่มอยู่

"หึหึหึ ความกลัวไง ผมกลัวที่จะมาเจอมันอีก ผมกลัวที่จะหลงเข้ามาอีก ยิ่งกลัวก็ยิ่งจำ ผ่านไปกี่สิบปีก็จำได้แม่น ทั้งความรู้สึก ทั้งบรรยากาศ"

"ผมจะเป็นผู้พิสูจน์เรื่องนี้เอง มันอาจจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติก็ได้ ผมขออนุญาติสั่งทุกท่าน ให้เก็บของสัมภาระทั้งหมดใส่กระเป๋า หลังจากผมออกไปสำรวจพื้นที่โดยรอบเสร็จแล้วจะกลับมาตัดสินใจ ว่าเราควรจะทำอย่างไรต่อ ต้องขออภัยนายจ้างทุกท่าน ที่คืนนี้ทุกคนอาจจะไม่ได้นอน แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกท่านจึงจำเป็นต้องทำ แลเโปรดจำไว้ขึ้นใจว่า อย่าแยกกันเด็ดขาดจนกว่าผมจะกลับมา" 



พงษ์ศักดิ์สะพายปืนขึ้น เก็บสัมภาระที่มีอันน้อยนิดของตน ก่อนจะควักไฟฉายขนาดเล็กออกมาทดลองเปิดใช้งาน ส่วนโรมก็ทำหน้าที่ล่ามได้เป็นอย่างดี ในขณะที่นายพรานหนุ่มกำลังจะออกเดินทาง ก็กลับมีหญิงสาวคนนึงตามเขามา รันนั่นเอง



"มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ คุณรัน?"

"จะว่ามีก็มี จะว่าไม่ก็ไม่" รันกอดอกจ้องอีกฝ่าย

"นี่ไม่ใช่เวลาจะมาเล่นเกมทายใจกันนะครับ หากมีอะไร กรุณาพูดมาตามตรงได้เลย" 

"ฉันละเบื่อคำพูดที่ดูเป็นทางการของนายจริงๆ เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ฉันไม่เห็นด้วยที่คุณจะออกไปสำรวจป่ากลางคืนแบบนี้คนเดียว โดยเฉพาะป่าที่นายเองก็น่าจะไม่รู้จัก" รันกล่าวอย่างหนักแน่น ทำเอาพงษ์ศักดิ์ยิ้มมุมปาก

"พูดจาได้มีเหตุและผลมากครับ งั้นผมขอถามกลับแบบเป็นเหตุเป็นผลว่า คุณรันแน่ใจได้อย่างไรว่าการที่ผมพาคุณไปด้วย จะไม่ทำให้ผมเป็นอันตรายยิ่งกว่าเดิม"

"ฉันก็แค่อยากช่วยเหลือ ถ้าคุณเห็นว่าฉันไม่เหมาะ ก็ควรพาพรานลูกมือไปด้วยสักคน"



ปกติรันเป็นหญิงใจกล้า ฉลาด เวลาที่มีปัญหาขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือปัญหาชีวิต เธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนสาวที่มีสติที่สุด ทำให้เธอเป็นที่รักและที่พึ่งพาของเพื่อนๆ นายพรานสุภาพบุรุษยอมรับแต่โดยดีว่าเขามองผู้หญิงคนนี้ผิดไป 



"แล้วคุณรันไม่กลัวอันตรายรึครับ?"

"กลัวสิ แต่ฉันกลัวคุณเป็นอันตรายมากกว่า คุณเป็นหัวหน้าคณะเดินทางครั้งนี้นะ ถ้ายังไง ฉันจะไปตามพรานลูกมือคุณมาสักคนนะ"

"ไม่เป็นไรครับ คุณรันมากับผมน่ะดีแล้ว"

"อ้าว เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าฉันจะทำอะไรได้"

"ใช่ครับ อันที่จริงที่ผมคิดไปคนเดียว เพราะผมมั่นใจว่าผมเอาตัวรอดได้ และพรานคนอื่นก็มั่นใจเช่นนั้น ผมจึงต้องการคนที่มีเหตุผลอย่างคุณไปด้วย เพราะคุณจะช่วยเตือนสติผมได้ ยามที่ผมมั่นใจในตัวเองเกินไป มีคนเคยสอนผมว่า ความมั่นใจกับความประมาทนั้นแทบไม่ต่างกัน"



รันยิ้มออกมา ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มเดินป่า พงษ์ศักดิ์ค่อยๆเดินผ่านดงต้นไม้รกโดยมีรันที่ตามเกาะหลังมา สภาพพื้นที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ถึงแม้พรานหนุ่มจะไม่อยากเชื่อก็ตาม รอยเท้าและรอยการเดินที่พวกเขาทำทางไว้พาคณะมา ต่างหายไปหมดเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น



การเดินทางเป็นไปอย่างลำบากและเชื่องช้า เนื่องจากต้องระวังเรื่องสัตว์เลื้อยคลานเป็นสำคัญ มือหนึ่งนายพรานก็ถือไฟฉาย อีกมือก็ใช้ปากกระบอกปืนไรเฟิลแทงพื้นแหวกต้นไม้คลำทาง 



"ขามา ทางมันไม่ได้ชันขนาดนี้นี่" รันพูดขณะที่ค่อยๆสไลด์ตัวลงเนินเล็กโดยมีพงษ์ศักดิ์รอรับอยู่ ร่างกายรันที่ดูดีมีน้ำมีนวลแต่เบากว่าที่เขาคิดเยอะ

"ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน ทางที่ดีเราไปให้ถึงธารน้ำซึ่งเป็นจุดสังเกตุที่สำคัญดีกว่า"



ยิ่งเดินนายพรานยิ่งได้กลิ่นสาบเหม็นฉุนลอยมาตามอากาศ และรันเองก็ได้กลิ่นตามมาติดๆ เมื่อเดินมาอีกสักพักพวกเขาก็เจอกับธารน้ำที่มีขนาดเล็กกว่าครั้งที่พงษ์ศักดิ์พาข้ามมา ภาพตรงหน้าทำเอาสาวชาวกรุงสยอง



ธารน้ำกลับกลายเป็นสีแดงสะท้อนแสงจันทร์ มีลูกช้างน้อยหลงฝูงนอนสิ้นลมอยู่กลางสายธาร บริเวณท้องมีแผลฉกรรจ์ อวัยวะด้านในไหลออกมากอง โดยมีพยัคฆ์ร้ายตัวใหญ่ลายพาดกลอนกำลังกัดกินเนื้อหนังช่วงที่ขาดเหวอะ รันเอามือปิดปากตัวสั่นสะท้าน 



"ค่อยๆถอยหลังกลับนะครับ"



พงษ์ศักดิ์กระซิบเบาพลางผายมือออกส่งสัญญาณ สายตาของพรานหนุ่มยังคงจับจ้องภาพตรงหน้าไม่ปล่อย แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เจ้าเสือค่อยๆเหลียวหลังหันมามองเขา ปากของมันเต็มไปด้วยเลือดชุ่ม บางส่วนก็ไหลย้อยลงน้ำ เจ้าเสือค่อยๆขยับปากเปล่งเสียงออกมา



"....สวัสดี นายพราน" 



พยัคฆากล่าวภาษามนุษย์ออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก ผสมกับเสียงกรนคำรามในลำคอ สัญชาตญาณการเป็นนายพรานของพงษ์ศักดิ์ตื่นตัวทันที เขาควักปืนขึ้นมาประทับเล็งได้อย่างรวดเร็ว ส่วนรินยืนนิ่งลมแทบจับ เธอต้องใช้มือข้างหนึ่งจับต้นไม้แถวนั้นไว้กันล้ม ส่วนอีกข้างจิกหลังพงษ์ศักดิ์แน่น



"ถึงจะไม่รู้ว่าแกพูดภาษาคนได้ยังไง แต่แกคงไม่อยากให้ฉันเหนี่ยวไกหรอกใช่มั้ย?" พรานหนุ่มยังตั้งสติเล็งวินเชสเตอร์คู่ใจไปที่เสือร้าย

"หึหึหึ นายพรานกล้าฆ่าคนได้ลงคอเลยรึ?"



จู่ๆเจ้าเสือร้ายก็ยืนสองขา ร่างกายของมันกำลังเปลี่ยนแปลงไป ขนสีส้มลายพาดกลอนเริ่มยุบเข้าไปจนเหลือแต่ผิวหนังสองสีนวล ตัวที่ใหญ่โตถูกบีบรัดให้กลายเป็นร่างอรชร ก้นงอน ดวงตาเรียวดุดันกลับกลายเป็นหวานนัยน์ตาแขก ใบหน้าคม



เจ้าเสือร้ายกลายร่างเป็นหญิงสาวเปลือยกายเปิดเผยทุกสัดส่วนลับ แสงจันทร์อาบร่างของมันดูสวยตราตรึงใจ อกสวยกลมราวกับภาพวาดในเทพนิยาย ติดแค่ตรงปากที่ยังมีเลือดเลอะและใบหน้าของมันที่เหมือนกับ รัน ที่ยืนด้านหลังนายพรานมากเกินไป

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

xnuonx


Pm Nuttakan

รู้สกน่ากลัวยังไงไม่รู้เลย จะมีใครรอดออกจากป่าไหม

ronin21_xonly

แนวแฟนตาซีดูน่าตื่นเต้นชวนติดตามมากครับ

dodoza2

โหยลุ้นมากเลยครับเรื่องนี้ เหมือนนิยายผจญภัยเลยขอบคุณมากครับ

Tik K.


zethkhun

อ้าว งานนี้เสืสมิงเเปลงร่างเรียนเเบบรัน หรือว่าจริงๆรันเป๋นร่างเเยกสมิงตั้งแต่แรกกันเเน่นะ

zero009


bizmann


thadtanone2002


yakyedheemak

แบบนี้นายพรานสุภาพบุรุษจะสู้กับเสือสมิงแบบไหนนะ

cfp


Pistol081

รออยู่เลยครับ ตื่นเต้นน่าติดตาม อยากรู้จะดำเนินยังไงต่อ

M_ne

เจอเสือสมิง แปลงเป็นสาวงาม เดวจะโดนแทงนะครับ

RennY

ยิ่งอ่านยิ่งมันยิ่งน่าติดตามเรื่องลี้ลับในป่าลุ้นตามมากครับตอนนี้