สวัสดีครับ !!! ตอนที่ 5 มาแล้ว พักเบรคความบู๊มาสู่บทเนื้อเรื่องกันนะครับ ผมดีใจที่มีหลายๆท่านชอบแนวเนื้อเรื่องแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคิราระต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง ต้องต่อสู้กับความจริงที่เธอได้รับรู้กันนะ มาร่วมรับรู้และดำดิ่งไปกับความรู้สึกนั้นๆกันครับ ซึ่งมันอาจจะตรงกับชีวิตของใครหลายๆคนก็ได้
ตอนนี้มีการซ่อนข้อความเช่นเดิม ต้องแสดงความคิดเห็นก่อนนะครับถึงอ่านเนื้อเรื่องที่เหลือได้ มีกติกาเล็กๆน้อยๆเช่นเคย
1. แสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้เพื่อขออ่าน
2. เมื่อ่านจบแล้วคิดยังไงกับคิราระ
3. คิดเห็นอย่างไรกับเนื้อเรื่องในตอนนี้
ปล. ตอนที่แล้ว มีหลายคอมเมนต์ถูกในผมมากๆ ตอนนี้เลยจัดไป 50,000 ตัวอักษรเลยครับ เพราะฉนั้น เนื้อเรื่องจะมี 2 Reply อย่าลืมอ่านนะครับ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นที่อ่านแล้วมีกำลังใจเขียนต่อ
ปล.2 ข้อมูลอยู่ Reply 3
ปล.3 ตอนนี้มีเพลงประกอบ
ปล.4 ถ้ามีคอมเมนต์ที่ถูกใจ ผมจะลงตอนต่อไปทันทีครับ
ปล.5 เนื้อเรื่องหลัก ss2 รอลงอยู่นะคร๊าบ
••••••••
ความเดิมตอนที่แล้ว
ริวกะได้รับภาระกิจจากพ่อ ให้มาตรวจตราย่านการค้า คาสุโกะ เพราะเขาได้ข่าวมาว่า มีแก๊งค์มาเก็บค่าคุ้มครองและรีดไถ ริวกะและคิราระได้มาถึงย่านการค้าก็พบกับแก๊งค์อาคะโทระที่มา รีดไถ เก็บค่าคุ้มครองจริงๆ ริวกะได้พยายามพูดดีๆ แต่พวกมันก็ไม่ฟังจึงได้เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น คิราระได้โชว์ผลการฝึกให้ริวกะได้เห็น ถึงมันจะไม่ดีพอที่จะคว่ำคนหลายๆคนได้ แต่ริวกะก็เซอร์ไพรส์มากๆ ริวกะเข้าข่วยเหลือคิราระจนเผลอเตะพวกมันสลบไป 2 คน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจัดการพวกมันทั้งหมด
ยามิ กัปปะ ฮิคาริ โคฮาคุ ได้มายังพื้นที่ต่อสู้ตามคำเรียกของ ริวกะ ผู้เป็นนาย และจากนั้นทั้งหมดก็ได้แสดงแสนยานุภาพ ของกองกำลังที่ชื่อว่าอิซานางิ ให้พวกมันเป็นที่ประจักษ์ และนั่นจึงทำให้คิราระได้รู้ว่า ที่นี่คือบ้านเก่าของท่านชิน และเป็นแผ่นดินของอิซานางิ นั่นเอง
••••••
ตอนที่ 5 : อย่าห้ามชั้นเลยนะ ริวกะ
[ โคฮาคุ ] : โอ๊ยย !!! ไม่ไหวแล้ว อิ่มตื้อเลย จัมปงราเมนของที่นี่รสชาติเด็ดขาดจริงๆ
[ กัปปะ ] : ข้าก็ไม่ไหวเหมือนกัน แตงกวาที่นี่เลิศรสกว่าที่โตเกียวอีก พืชผลอย่างอื่นก็สดมากๆ
[ ฮิคาริ ] : โอย อ้วนแน่เลย คัสเทร่าของนางาซากิอร่อยจนห้ามใจไม่ไหว รสชาติไม่เปลี่ยนแปลงเลยจริงๆ
[ ยามิ ] : ( นอนอืด )
คิราระนั่งหัวเราะจนไม่รู้จะหัวเราะยังไง เพราะเหล่าภูติตอนนี้แต่ละตน นั่งหมดสภาพบนสนามหญ้ากลางชุมชนเพราะกินไปเยอะมากมายจนอิ่มแปล้ ส่วนริวกะก็ยังคงเดินตรวจตราและทักทายทุกๆร้าน ทุกๆคนอยู่เช่นเดิม เธอมองด้วยสายตาราวกับมองชายคนรักก็มิปานเลย
[ ฮิคาริ ] : นั่นแน่ มองอะไรคิราระ
ฮิคาริเข้ามาแซวน้องสาวบุญธรรมทันที เมื่อเห็นคิราระมองนายน้อยของตนด้วยสายตาที่บ่งบอกความในใจทันที
แต่ฮิคาริก็รู้ว่าคิราระนั้นทรมานใจไม่ใช่น้อย เพราะความรักครั้งนี้ ไม่ใช่ความรักทั่วไปมันมีทั้งความกดดัน ความคิด องค์ประกอบภายนอกมากมายที่คิราระต้องเผชิญ
[ คิราระ ] : พี่ฮิคาริ หนูจะทำยังไงดี ถึงจะโกหกตัวเองว่าได้อยู่ใกล้ๆริวกะ แต่ความจริงๆริวกะเขาก็มีคุณรุ้งพลอยในใจอยู่แล้ว ทำไมหนูเจ็บหัวใจแบบนี้ก็ไม่รู้ หนูมีความสุขที่ได้ใกล้ริวกะ แต่แค่ไม่นานพอนึกถึงเรื่องคุณรุ้งพลอย หนูก็เจ็บปวดทุกครั้งเลย ยิ่งใกล้ชิดริวกะเท่าไรความรู้สึกของหนูก็ยิ่งชัดเจน แต่เพราะมันยิ่งชัดเจน หนูก็ยิ่งเจ็บปวดที่รู้ว่าหนูสู้คุณรุ้งพลอยไม่ได้
ฮิคารินั้นไม่พูดอะไร ได้แต่นั่งข้างๆคิราระและคอยลูบหัวปลอบใจเธอ ด้วยน้ำตา ภาษากายและสายตาของคิราระที่มีตอนนี้ ทำให้ฮิคาริรู้ได้ทันทีว่าน้องสาวบุญธรรมของตน ได้รักนายน้อยริวกะเข้าให้แล้ว
[ ฮิราริ ] : เจ้ารักนายน้อยเข้าแล้วสิ่นะ คิราระ
[ คิราระ ] : หนูไม่รู้ค่ะพี่ฮิคาริ แต่เวลาอยู่ใกล้ๆริวกะหนูมีความสุขมากๆ แต่พอได้อยู่ด้วยกันมากๆมันก็ทำให้หนูทุกข์ใจทุกครั้งที่นึกถึงคุณรุ้งพลอย ( ก้มหน้าร้องไห้ )
ฮิคาริมองที่คิราระและแอบยิ้มในใจ เทนงูสาวคิดในใจว่าคิราระนี่แหละ เหมาะสมแล้วที่จะเคียงข้างนายน้อยในตอนนี้ ท่านพี่ซึบาสะมารุคิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกนาง เพราะสิ่งที่คิราระเป็นตอนนี้คือการต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง ต่อสู้กับความรู้สึกที่รักนายน้อยริวกะ และต่อสู้กับความรู้สึกที่ต้องรู้ความจริงว่าริวกะนั้นมีรุ้งพลอยในหัวใจแล้ว ที่คิราระเป็นแบบนี้เพราะเธอรักนายน้อยเข้าให้แล้วยังไงล่ะ
[ ฮิคาริ ] : คิราระ แต่เจ้าเป็นหญิงสาวมนุษย์คนแรกนะ ที่ได้ขึ้นนั่งเฮบิซัน
[ คิราระ ] : เอ๋ จริงเหรอคะพี่ฮิคาริ
[ ฮิคาริ ] : จริงสิ่ จงยิ้มไว้และภูมิใจเถอะว่าเจ้าก็เป็นคนพิเศษมากกว่าคนอื่นๆเช่นกัน
ดูเหมือนว่าคำพูดของฮิคาริจะทำให้คิราระยิ้มได้ทันที ถึงแม้จะมีคราบน้ำตาที่แอบร้องไห้อยู่ก็ตาม ฮิคาริได้กระซิบบางอย่างกับคิราระ ซึ่งมันก็ทำให้เธอถึงกับหน้าแดงขึ้นทันที คิราระเขินอายส่ายหัวดุกดิกๆราวกับว่าไม่กล้าทำตามที่ฮิคาริแนะนำ แต่ฮิคาริกลับชูนิ้วโป้งพร้อมพูดว่า
ลุยยยยย
[ ริวกะ ] : คุยอะไรกันล่ะนั่น
เสียงทักของริวกะทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดการสนทนาไว้ทันที ดูเหมือนว่าเขาจะเดินกลับมาแล้ว คิราระก็ถึงกับลืมตัวยิ้มแฉ่งให้ริวกะทันที ส่วนเขาเองนั้นก็ยังงงๆว่าคิราระนั้นเป็นอะไรรึเปล่า จึงได้ก้มเอามือไปแตะหน้าผากเพื่อจะดูว่าเป็นไข้ไม่สบายรึเปล่า แถมยังเอามือไปแตะที่แก้มอีกต่างหาก
[ ริวกะ ] : โนโซมิ เธอไม่สบายรึเปล่า หน้าแดงๆ
[ คิราระ ] : งืออ เปล่าาา
ตอนแรกไม่เป็นแต่ตอนนี้จะเป็นแล้วล่ะ พี่ท่านเล่นกันขนาดนี้ไม่สงสารคิราระเลย
[ ริวกะ ] : ไง ฮิคาริ คัสเทร่าที่นี่อร่อยมั๊ย
[ ฮิคาริ ] : อร่อยมากกกก เจ้าค่ะนายน้อย แต่กินบ่อยๆไม่ดีแน่ เดี๋ยวจะอ้วนจนบินไม่ขึ้นเจ้าค่ะ
[ ริวกะ ] : 5555 อื้มๆยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงนี่นะ แล้ว ยามิ โคฮาคุ กัปปะ ล่ะ
[ ฮิคาริ ] : เอิ่ม....
ฮิคาริชี้ไปให้ริวกะดูด้วยตาตนเอง ก็พบว่าทั้ง 3 ตนนั้นนอนพุงกาง พุงป่องบนสนามหญ้า เพราะกินอาหารไปหลายสิบอย่าง ริวกะถึงกับกุมหัวเลยแต่ก็ยังหัวเราะได้เพราะถือว่าพาพวกภูติเหล่านี้มาพักบ้าง ริวกะเดินมานั่งตรงข้างๆคิราระก่อนจะล้มตัวนอนด้วยความเหนื่อย เพราะต้องคุยกับหมู่มวลมหาพ่อค้าแม่ค้าแทบทุกร้านเลยทีเดียว
[ ริวกะ ] : โนโซมิ กินอะไรหรือยังนี่ก็ ทุ่มกว่าๆแล้วด้วย
[ คิราระ ] : อื้อ ดังโงะอร่อยมาก หวานอร่อยกำลังพอดีเลย
[ ริวกะ ] : อื้ออ อ๋อยหิว เอ้อลืม ต้องรายงานพ่อนี่หว่า
ริวกะที่กะว่าจะนอนพักสักหน่อย แต่พอนึกขึ้นได้ว่าต้องรายงานเรื่องให้พ่อทราบ เขาจึงเด้งตัวขึ้นมาทันทีพร้อมกับเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าทันที
[ ริวกะ ] : เอ... พ่อกับพี่มิไรคงประชุมอยู่มั้ง ส่งไลน์เอาละกัน
ริวกะเลือกที่จะส่งไลน์เพราะตอนนี้พ่อคงติดประชุมอยู่แน่ๆ แต่เพียงแค่ริวกะเอ่ยว่าหิว ฮิคาริก็ส่งสายตาให้คิราระทันที จนคิราระนั้นลุกลี้ลุกลนเลยทีเดียว ฮิคาริส่งสายตาเข้มๆใส่อีกครั้ง คิราระจึงต้องยอมทำนั่นก็คือ......
[ คิราระ ] : ริวกะ กินทาโกยากิมั้ย อ่ะๆๆ
คิราระหยิบถาดทาโกยากิที่คุณแม่ค้าเอามาให้ บรรจงเอาไม้เสียบแล้วยื่นให้ริวกะทันที ในใจเธอนั้นคิดว่าริวกะคงจะรับไปแล้วกินด้วยตัวเอง แต่ไม่ใช่เลย ง่ำาาาา ริวกะกินทาโกยากินั้นทันที
[ คิราระ ] : อ๊าาา
คิราระร้องเสียงหลงเลย เพราะเท่ากับว่าตอนนี้เธอป้อนริวกะอยู่ ซึ่งตอนนี้ริวก็ไม่ว่างจะหยิบกินจริงๆเพราะเขานั้นกำลังส่งข้อความหาพ่อ เพื่อรายงานว่างานที่ไหว้วานมาให้ทำนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คิราระเห็นดังนั้นก็จิ้มทาโกะยากิป้อนอีก
ริวกะก็หันหน้ามาอ้าปากงับเข้าไปกินอีกโดยที่ไม่มอง เพราะสายตานั้นจับจ้องไปที่การพูดคุยกับรินผ่านไลน์อยู่เท่านั้น แก้มก็เลอะซอสจนได้แต่คิราระนั้นก็นำทิชชู่มาเช็ดให้ทันที แล้วก็ยังป้อนต่อไปอีกหลายลูก ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก หัวใจของคิราระเต้นไปหมดเลย หน้าก็แดง ใจก็สั่นไปหมด
[ ริวกะ ] : อิ่มแล้วววว พอแล้วว
[ คิราระ ] : กินอีกหน่อยสิ่ริวกะ เสียดายของ
[ ริวกะ ] : เอาไว้กินขากลับก็ได้
ริวกะยังคงจิ้มโทรศัพท์ต่อไป ส่วนคิราระก็ยื่นน้ำให้กิน เขาก็ได้แต่ยื่นหน้าดูดๆ ตาก็ยังมองแต่หน้าจอโทรศัพท์ จนสักพักฮิโยริสาวน้อยน่ารักก็ได้เข้ามาหาริวกะพร้อมกับพูดคุย ส่วนริวกะก็คุยธุระจบพอดีเขาจึงเก็บโทรศัพท์และหันมาคุยกับฮิโยริทันมี
[ ฮิโยริ ] : พี่ริวกะ ค๊าาา
[ ริวกะ ] : ว่าไงฮิโยริ ทำการบ้านยัง
[ ฮิโยริ ] : เสร็จหมดแล้วค่ะ ไหนล่ะรางวัลของหนู
[ ริวกะ ] : หืม รางวัลอะไร
[ ฮิโยริ ] : ก็พี่ริวกะเคยบอกว่า เด็กดีต้องทำดี ตอนนี้หนูทำดีด้วยการทำการบ้านเสร็จแล้ว เลยมาขอรางวัลนี่ไง ฮี่ๆๆๆ
[ ริวกะ ] : เอ.... แบบนี้ไม่ดีเลยนะฮิโยริ ทำความดีเพื่อหวังรางวัลเนี่ย ไม่น่ารักเลยนะ
ฮิโยริหน้าเสียทันทีที่ริวกะพูดแบบนั้น เพราะปกติพี่ชายใจดีคนนี้จะตามใจเธอทุกอย่าง แต่ดูเหมือนครั้งนี้ฮิโยริจะทำไม่ถูกจริงๆ ริวกะจึงจำเป็นต้องสอนให้มันถูกต้อง เพราะมันจะทำให้ฮิโยริหัดคิดเป็นตั้งแต่เด็กๆและเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
[ ฮิโยริ ] : หนูขอโทษค่ะพี่ริวกะ หนูจะไม่ทำอีกแล้ว
[ ริวกะ ] : ไม่ใช่แบบนั้นฮิโยริ ฮิโยริทำดีแล้วที่ทำการบ้าน เพราะมันเป็นสิ่งที่เด็กดีต้องทำ แต่การทำความดีนั้น เราต้องตั้งใจทำมันโดยไม่หวังอะไรตอบแทน เข้าใจมั้ยคนเก่ง
[ ฮิโยริ ] : หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเป็นเด็กดี หนูจะไม่ทำความดีเพราะอยากได้รางวัล
[ ริวกะ ] : ดีมากก
ริวกะกล่าวพร้อมลูบหัวฮิโยริเพื่อปลอบใจ ซึ่งดูเหมือนว่าฮิโยริจะยิ้มขึ้นได้บ้าง คิราระที่นั่งอยู่ข้างๆเฝ้ามองริวกะด้วยสายตาที่ลึกซึ้งมากกว่าเดิม เขาคนนี้จะใจดีไปถึงไหนนะ
[ คิราระ ] : ฮิโยริมานี่มา มาหาพี่
[ ฮิโยริ ] : ค่าาาาาา
ฮิโยริยิ้มร่าเขยิบตัวหาคิราระ ที่นั่งอยู่ข้างๆริวกะพร้อมกับนั่งลง ไปตรงกลางระหว่างสองคนทันที
[ คิราระ ] : ฮิโยริสัญญาจะเป็นเด็กดีมั๊ย
[ ฮิโยริ ] : สัญญาค่ะพี่สาว
[ คิราระ ] : ดีมาก งั้นพี่ให้นี่
คิราระหยิบบางอย่างออกมา มันคืออมยิ้มกลมๆ แท่งหนึ่งซึ่งมีคนเอามาให้เธอ เธอเห็นว่าริวกะได้สั่งสอนตักเตือนไปแล้ว ฮิโยริก็สำนึกแล้ว ตัวเธอเองควรให้รางวัลปลอบใจบ้าง
[ ฮิโยริ ] : เย้ ขอบคุณค่ะ เย้ เย้ เย้ อมยิ้ม แบร่ แฟนของพี่ริวกะใจดีกว่าพี่ริวกะอีก แบร่ๆๆๆ
ฮิโยริแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ริวกะทันทีหลังจากได้อมยิ้มจากคิราระ ฮิโยริหันมาหอมแก้มคิราระ 1 ฟอดก่อนที่จะวิ่งกลับไปที่ร้านค้าของคุณแม่ คิราระหน้าแดงแจ๋เพราะฮิโยรินั้นพูดว่าแฟนพี่ริวกะ แล้วริวกะก็ไม่ปฏิเสธด้วย
[ ริวกะ ] : นี่โนโซมิ เธอใจดีเกินไปแล้วนะ ชั้นอุสส่าห์ดุฮิโยริไปแท้
[ คิราระ ] : ก็ดุไปแล้ว สอนไปแล้ว เมื่อฮิโยริยอมรับผิดและขอโทษ ก็ต้องให้รางวัลปลอบใจสิ่
[ ริวกะ ] : หมดกันเฮ้อ แบบนี้จะ โอ๊ยยย
ยังไม่ทันที่ริวกะจะพูดจบประโยค คิราระก็หยิกมั่บเข้าที่แก้มริวกะเต็มๆ แม้แต่ฮิคาริก็คาดไม่ถึง แต่ดูเหมือนว่าเทนงูสาวจะพอใจไม่ใช่น้อยกับสิ่งที่คิราระกระทำลงไป
[ คิราระ ] : เข้มงวดเกินไปแล้วนะ นั่นเด็ก 9 ขวบนะ นี่แน่ะ
[ ริวกะ ] : อ๊อย เจ็บ โนโซมิ เจ็บ อ๊อยย
[ คิราระ ] : เข้มงวดเกินไปนะริวกะ นี่แน่ะ ๆ ๆ
คิราระหยิกริวกะแรงขึ้นนิดๆแถมบิดอีกต่างหาก จนริวกะน้ำตาไหลนิดๆเลย ฮิโยริวิ่งกลับมาก็ได้เห็นสิ่งคิราระกำลังทำ ในสายตาเด็กน้อยนั้นคิดว่าสองคนนี้กำลังทะเลาะกันเพราะเธอเป็นต้นเหตุ ฮิโยริถึงกับยืนน้ำตาซึมเบะปากทันทีเหมือนว่าเธอกำลังจะร้องไห้ คิราระรู้ได้ทันทีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เธอปล่อยมือที่หยิกริวกะทันทีและรีบพูดขึ้นเพื่อโอ๋ฮิโยริ
[ คิราระ ] : โอ๋ๆ ฮิโยริ พี่สองคนไม่ได้ทะเลาะกันนะ อย่าร้องไห้นะคะ เด็กดี
[ ฮิโยริ ] : ( ฮึก ฮึก ) จริงนะคะ
[ คิราระ ] : จริงๆ พี่กับพี่ริวกะไม่ได้ทะเลาะกันเลย
[ ริวกะ ] : ช่าย นี่ไงพี่สองคนแค่เล่นกัน
ริวกะที่นั่งอยู่ข้างๆก็ได้ที เขยิบตัวเข้ามาทันที ด้วยเพราะตอนนี้คิราระนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของเขา เขาจึงใช้มือซ้ายอ้อมไปหยิกแก้มซ้ายของคิราระแทน ซึ่งมันเหมือนริวกะกำลังโอบคิราระไว้เลย
[ คิราระ ] : อ๊อยย เจ็บนะ ตาบ้าริวกะ งื้อ
[ ฮิโยริ ] : ฮี่ๆๆ พี่สาวปากเบี้ยวแล้วๆ
[ ริวกะ ] : ใช่ม้าๆ
ริวกะหยิกหน้าคิราระเบาๆแต่ดึงไปดึงมาจนหน้าเบี้ยว ฮิโยริหัวเราะสนุกสนาน แต่คิราระนี่สิ่ทั้งเจ็บทั้งเขินไปหมด
[ คิราระ ] : งื๊ออ ริวกะเจ็บนะ
คิราระทนไม่ไหวจึงหันหน้าไปขวามือเพื่อจะหยิกคืนแต่ว่าด้วยวงแขนของริวกะที่อ้อมไปหยิกแก้มคิราระนั้นทำให้ตัวของเขาและเธอแนบชิดจนตัวติดกัน จุ๊ปป ดุจดั่งฉากเข้าพระเข้านางของละครไทย คิราระหันไปเพื่อจะหยิกคืนแต่
กลับกลายเป็นว่าเธอหอมแก้มริวกะเข้าเต็มๆฟอด
[ ฮิโยริ ] : ง๊าาาา พี่สาวจุ๊ปแก้มพี่ริวกะแล้ววว
[ ฮิคาริ ] : อุ๊ย ต๊ายยย
[ โคฮาคุ ] : แม่จ้าว นายน้อยริวกะ คิราร๊าา
[ ยามิ ] : นายน้อย !!! ท่านทำอะไรน้องสาวข้าขอรับ
[ กัปปะ ] : จะปั๊มลูกกันแล้ววว
ริวกะนั้นยัง งงๆอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะสายตาของเขามองแต่ฮิโยริ แต่คิราระนี่หอมไปเต็มฟอดเลย หน้าขาวใสของคิราระค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆจนแดงแจ๋เป็นลูกเชอรี่ ตกลงคนหอมแก้มเขินมากกว่าคนถูกหอมเหรอเนี่ย
[ คิราระ ] : อ๊าาาา ริวกะคนบ้า
[ ฮิโยริ ] : กิ๊ว ๆ ๆ หน้าแดงเลยพี่สาว ดูพี่ริวกะโดนจุ๊ปแก้มยังไม่เห็นเขินเลย
ริวกะรู้ตัวว่าโดนคิราระหอมแก้ม ก็ตัวแข็งไปหลายวินาทีอยู่เหมือนกัน ก่อนที่จะค่อยๆปล่อยมือที่หยิกแก้มคิราระและทำตัวเป็นให้เป็นปกติที่สุด คิราระก็อายจนไม่กล้ามองเลย แต่ก็รู้สึกดีที่ได้หอมริวกะ จนเธอแอบยิ้มขณะที่ก้มหน้าหลบอยู่ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรขึ้นจนเวลาผ่านไป อีก 30 นาที ขณะนี้เวลาเกือบจะ 3 ทุ่มแล้ว ริวกะเห็นว่าสมควรแก่เวลาจึงได้บอกให้ทุกคนเตรียมตัวกลับ พอพ่อค้าแม่ค้าทุกคนรู้ว่าริวกะจะกลับแล้ว ก็ต่างเดินมาหาริวกะกันหมดเลย
[ ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้า ] : จะกลับแล้วเหรอริวกะ
[ ริวกะ ] : ครับ
[ ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้า ] : ขอบใจมากนะวันนี้ที่มาเยี่ยม พวกเราก็สบายใจเรื่องแก๊งค์ อาคะโทระ กันได้สักที
[ ริวกะ ] : เรื่องนี้ต้องยกความดีให้พ่อเลยครับ พ่อเขาได้ยินข่าวแว่วๆมา เลยให้ผมมาตรวจสอบดู ต้องขอโทษด้วยนะครับ พ่อเขาติดงานจริงๆเลยมาด้วยตัวเองไม่ได้
[ ตัวแทนพ่อค้าแม่ค้า ] : โห ไม่เห็นต้องขอโทษเลย แค่ริวกะมา พวกเราก็อุ่นใจแล้วล่ะ ฝากความคิดถึง ถึงคุณชินและคุณรินด้วยนะ
[ ริวกะ ] : ครับผมจะบอกพ่อให้ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ พี่ไปก่อนนะฮิโยริ จำที่พี่บอกได้มั้ย
[ ฮิโยริ ] : จำได้ค่ะ อย่าทำความดีเพื่อหวังผลตอบแทน แต่ต้องตั้งใจทำเพราะอยากช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน
[ ริวกะ ] : เก่งมากก
[ คิราระ ] : ฮิโยริ แล้วอีกอย่างคืออะไรลืมรึเปล่า
[ ฮิโยริ ] : ต้องตั้งใจทำการบ้านด้วยค่ะ ฮี่ๆๆ
ทุกคนหัวเราะในความไร้เดียงสาของฮิโยริอย่างน่าเอ็นดู เธอนั้นช่างน่ารักสดใสตามวัยเหลือเกิน ริวกะและคิราระเดินมาลูบหัวฮิโยริอย่างเอ็นดูก่อนที่จะโบกมือบ๊ายบายทุกคน ตามด้วยฮิคาริ ยามิ โคฮาคุ และ กัปปะ ( ในร่างมนุษย์ ) ก็เดินออกมาโบกมือบ๊ายบายทุกคนและกล่าวขอบคุณสำหรับของกินแสนอร่อย ก่อนที่จะเดินตามนายน้อยของพวกตนไป
เหล่าพ่อค้าแม่ค้าเฝ้ามองกลุ่มของริวกะด้วยความตื้นตันใจ ในยามที่พวกเขาเดือดร้อนเทพอิซานางิจะลงมาช่วยขจัดปัดเป่าภัยร้ายแทบทุกครั้งเลยก็ว่าได้ การมาของริวกะครั้งนี้ ได้ขจัดภัยคุกคามที่ชื่ออาคะโทระให้หายไปได้จริงๆ และคงไม่มีใครรู้ว่าไม่กี่เดือนข้างหน้า อาคะโทระกำลังจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ด้วยฝีมือของ 5 คนนี้
ระหว่างทางนั้นริวกะเดินนิ่งไม่พูดอะไร จะได้ยินก็มีแต่เสียงหาวเพราะง่วงนอน แต่มันบ่อยผิดปกติแค่นั้นเอง ส่วนคิราระก็ดีใจที่ขอตามมาด้วยทำให้เธอเจอกับบรรยากาศที่ไม่เคยเจอมาก่อนตั้งหลายอย่าง แน่นอนรวมถึงอาการเขินเพราะไปหอมแก้มของริวกะด้วย แต่ภูติทั้ง 4 ที่เดินตามมากันนั้นต่างยิ้มอย่างรู้กัน อย่างมีความสุขโดยเฉพาะฮิคาริ พี่สาวต่างสายพันธุ์ที่ตอนนี้ยิ้มไม่หุบเลย
[ กัปปะ ] : นี่ๆซึบาสะมารุ
[ ยามิ ] : ว่าไงกัปปะ
[ กัปปะ ] : เมื่อกี้คิราระกับนายน้อยจะปั๊มลูกกันเจ้าเห็นมั้ย
[ ยามิ ] : เห็นๆๆๆ
[ โคฮาคุ ] : ข้าก็เห็นด้วย หน้าแดงแจ๋เลย ข้าจะได้หลานแล้ว
ผัวะ ตู้ม เปรี้ยงงงง !!!
[ คิราระ ] : แง้ อย่าแซวหนูสิ่
คิราระนั้นอยู่ดีๆก็เขินจนไปต่อยใส่ภูติทั้ง 3 เต็มๆ จนหงายท้อง ชักกระแด่วๆ ที่เธอทำนั้นมันคือการปิดปากเพราะถ้าขืนปล่อยให้พูดไปมากกว่านี้ ริวกะต้องรู้แน่ๆว่าเธอคิดอะไรกับเขา
(https://uppic.cc/d/KX3f)
[ ยามิ ] : คิ คิ คิราระ นี่ข้าเองพี่ชายของเจ้าไง แง่ก ๆ ๆ
[ โคฮาคุ ] : คิ คิราระ นี่ข้าก็เป็นพี่ชายเจ้านะ อ่ะเฮื้อ ต่อยเข้ามาที่ท้องทำไม ของที่กินเข้าไป มันจะย้อนออกมาแล้ว
[ กัปปะ ] : ข้าผิดอะไรคิราระ ไหนเจ้าบอกว่านับถือข้าเหมือนพี่ชายอีกคนไง บุ๋ง ๆ ๆ ๆ ๆ
ฮิคาริยืนหัวเราะลั่นเลย เพราะทั้ง 3 ถือว่าเป็นภูติที่ฝีมือไม่ธรรมดา แต่กลับถูกคิราระที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาต่อยจนลงไปกอง ไม่รู้ว่าเพราะกินอาหารเยอะไปจนอืดอาดหรือเพราะหมัดที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเขินอายของคิราระ ถึงทำให้ทั้ง3 ลงไปกองได้แบบนั้น ริวกะก็ได้แต่ งงว่า ทำอะไรกันหว่า หลายนาทีผ่านไปจนทั้ง3 นั้นหายมึนหายจุกพวกเขาจึงเดินทางต่อ ทั้ง 5 เดินไปจนถึงเนินขึ้นไปยังศาลเจ้า ยามิจึงขอแยกตัวไปทันที
[ ยามิ ] : นายน้อยขอรับ ข้าทั้ง 4 ขออนุญาตกลับไปก่อนนะขอรับ ถ้าไปใกล้ๆเจ้าเฮบิซัน มันจะไม่ดี ฝากความคิดถึงไปยังสหายของข้าด้วยขอรับนายน้อย
แต่ระหว่างที่ยามิกำลังพูดนั้น กัปปะก็นั่งลงชันเข่าขึ้นพร้อมก้มหัวทันที ราวกับว่าเขามีบางอย่างในใจ
[ กัปปะ ] : นายน้อยขอรับ วันนี้ข้าใช้ความรุนแรงกับมนุษย์จนขัดคำสั่งของนายน้อย ข้ามีความผิดขอรับ
กัปปะเอ่ยขอโทษริวกะ เพราะเขารู้ว่าเขาใช้ ไทจัสสึ หรือ กระบวนท่าต่อสู้ของนินจากับไอ้กีกี้ร้านผักจนมันสลบคาที่ ซึ่งมันอาจจะกลายเป็นการขัดคำสั่งของริวกะผู้เป็นนายได้
[ ริวกะ ] : ฟังนะกัปปะ ถ้านายผิด ฮิคาริที่ไปเตะจนสลบคาเท้าก็ผิด โคฮาคุที่ไปเฮดบัตใส่จนน็อคก็ผิด ร้ายสุดยามิ ที่ไปเอาไม้เบสบอลหวดพวกมันด้วยท่าอัคคีสาดแสง นี่ยิ่งแล้วใหญ่ เฮ้ออ เดี๋ยวกลับไปชั้นคงต้องให้ทานูกิเอาแผ่น CD ไปทิ้งซะแล้ว ลุกขึ้นเถอะกัปปะ
[ กัปปะ ] : ขอบคุณนายน้อยที่เมตตาขอรับ ข้าขอรับอาสาเอาแผ่น CD ไปโยนทิ้งน้ำเองขอรับ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ข้าทำผิดวันนี้
[ ยามิ ] : หยุด !!! กัปปะ เจ้าบ้า นี่ข้าเพื่อนเจ้าไง เจ้าทำกับข้าได้ลงเหรอ
[ กัปปะ ] : ก็เจ้าทำผิด ท่านทานูกิก็สั่งห้ามไว้แล้ว อีกอย่างนี่คือความต้องการของนายน้อย
[ ยามิ ] : โอ๊ยยยยย นายน้อยขอรับ ข้าผิดไปแล้ว ขอร๊าบบบ อย่าเอาไปทิ้งนะขอรับ กำลังสนุกเลย นายน้อยของข้าาาาาาา
คิราระถึงกับหัวเราะลั่นในท่าทีของยามิ จนคนอื่นๆต้องมอง ริวกะก็มองไม่ว่างตาเลยทีเดียว วันนี้คิราระนั้นทั้งเก่งทั้งน่ารักจริงๆ
[ ฮิคาริ ] : นางน่ารักใช่ไหมเจ้าคะนายน้อย
ริวกะสะดุ้งโหยงเลย เพราะฮิคาริแอบเดินมากระซิบเรื่องคิราระจนเขาทำอะไรไม่ถูกเลย ฮิคาริจ้องตาริวกะราวกับผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า จนริวกะต้องหลบตาอย่างลุกลี้ลุกลน
[ ริวกะ ] : อ่ะอื้ม ( กระแอม ) เอาล่ะไปเถอะพวกเจ้าทั้ง 4 ขอบใจมากที่มาช่วยวันนี้ เดี๋ยวเจอกันที่บ้านใหญ่
[ ยามิ , โคฮาคุ , กัปปะ ] : ขอรับ
[ ฮิคาริ ] : เจ้าค่ะ ( แอบยิ้ม )
เทนงูทั้ง 3 ใช้มือแตะไปที่กัปปะก่อนที่จะหายวับไปทันที คิราระก็สงสัยว่าทำไมต้องรีบไป ริวกะจึงอธิบายว่า ต่อให้ทั้งตระกูลนกและตระกูลงูจะไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล แต่นกกับงูมันก็ไม่ถูกกันอยู่ดี ยามิตัดสินใจแบบนั้นน่ะถูกแล้ว อีกอย่างที่เฮบิซันขอพักอยู่ในป่าเพราะรู้ว่ายังไงริวกะก็ต้องเรียกยามิออกมาช่วยอยู่แล้ว จึงเลี่ยงที่จะเจอกันซะดีกว่า
จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินไปยังศาลเจ้าที่อยู่ไม่ไกลนัก แน่นอนว่าคิราระก็หาเรื่องชวนคุยอีกแล้ว
[ คิราระ ] : นี่ๆริวกะ คุณเก็นโซ เขาเป็นใครเหรอ
[ ริวกะ ] : เขาเป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูลชั้นเลยล่ะ เขาเป็นคนสอนชั้นเกี่ยวกับการทำสมาธิ การใช้รูปแบบมือในการควบคุมลมน่ะ
[ คิราระ ] : อ้าว คุณเก็นโซ ก็ควบคุมลมได้เหรอ
[ ริวกะ ] : เปล่า เก็นโซน่ะ เป็นผู้รับใช้ ผู้ถือศีล ฝึกจิต สมาธิ แล้วก็ฝึกมวยจีนกับพ่อที่วัดเส้าหลินด้วย
[ คิราระ ] : หาาา คุณท่านไปฝึกที่วัดเส้าหลินด้วยเหรอ
[ ริวกะ ] : อื้มใช่ เรื่องที่ชอบศึกษาศาสตร์การต่อสู้ต่างๆน่ะ ทั้งชั้นและพ่อได้เลือดมาจากปู่เต็มๆเลย แต่ชั้นก็ชอบนะ มันเหมือนได้เปิดโลกเลย
[ คิราระ ] : จะว่าไปริวกะ แล้วคุณท่านทั้งสองเก่งมั้ย
[ ริวกะ ] : เอิ่มมม ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยชนะพ่อกับปู่เลย เธอก็เห็นนี่นาขนาดชั้นเคลื่อนที่เร็วขนาดนั้น พ่อยังดักทางได้ทัน แถมซัดชั้นจนปลิวอีก
[ คิราระ ] : หือออ ทั้งที่ริวกะเก่งขนาดนี้เนี่ยนะ ยังไม่เคยชนะคุณท่านทั้ง 2 เลย เง้อออออ
คิราระตกใจกับสิ่งที่ริวกะพูดออกมา เพราะเธอเห็นกับตาว่าริวกะเก่งแค่ไหน แล้วนี่มาบอกว่าไม่เคยชนะเลย แล้วแบบนี้คุณท่านทั้ง2 จะเก่งกาจขนาดไหนกันเนี่ย
[ ริวกะ ] : เห็นพ่อทำแต่งานๆแบบนั้น แต่ก็เป็นลูกศิษฐ์อันดับ1 ของปู่เลยนะ
[ คิราระ ] : เจ้าค่าาา นายน้อย คนอะไรโดนต่อยปลิวแบบนั้นยังยิ้มได้
[ ริวกะ ] : นี่เธอล้อเลียนชั้นเหรอ
[ คิราระ ] : เปล่าเจ้าค่ะนายน้อย อุ๊ย เปล่านะ ฮี่ๆ
[ ริวกะ ] : อืมๆ แต่เธอเองก็เก่งนะโนโซมิ ฝึกกับปู่ไม่กี่เดือน แต่ทำได้ขนาดนั้นแล้ว
คิราระยิ้มแป้นเลยที่ถูกชมต่อหน้าแบบนี้ แต่สิ่งที่เธอสงสัยอีกอย่างคือ สิ่งที่ริวกะทำตอนที่ลอยบนอากาศนั้นคืออะไร การใช้มือรูปแบบต่างๆนั้นมีความหมายว่ายังไง เธอจึงได้ถามริวกะอีกครั้ง
[ คิราระ ] : นี่ๆริวกะ ตอนที่ริวกะวาดมือไปๆมาๆ กลางอากาศ มันคืออะไรเหรอ
[ ริวกะ ] : อ๋อ มันคือท่วงท่าการเคลื่อนไหวของมือที่ชั้นใช้ในการควบคุมลมต่างๆ เก็นโซก็เอามาจากมวยจีนที่ฝึกกับพ่อ แล้วเอามาเรียบเรียงใหม่และสอนให้ชั้น การควบคุมลมน่ะชั้นทำได้ก็จริง แต่การควบคุมมันให้ได้ดั่งใจมันก็ไม่ใช่ง่ายๆ ยิ่งการจะควบคุมสิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่าตัวเรามากๆ มันไม่ง่ายเลย ดูนี่นะ
(https://uppic.cc/d/KU4y)
ฟุ่บ ฟุ่บ วิ๊ววว ริวกะไขว้มือตรงหน้าและกางออกราวกับกำลังสยายปีก ทันใดนั้นรอบตัวก็เกิดพายุพัดวนรอบๆตัวเขาและเธอ มันพัดเป็นเหมือนเสาอากาศรอบตัว คิราระจึงรู้ได้ทันทีเพราะแบบนี้ตัวของเธอแล้วริวกะจึงไม่เสียสมดุลขณะที่ลอยกลางอากาศ
(https://uppic.cc/d/KTkz)
ริวกะประกบตบมือดัง เผียะ !!! ก็ปรากฎลมพายุพัดกรรโชกรอบตัวทั้งคู่ทันที แต่เพราะยืนบนพื้นคิราระจึงรู้ได้ว่าวิถีการพัดของสายลมนี้พัดขึ้นข้างบน แบบนี้จึงทำให้การตกจากฟ้านั้นชะลอลง
[ ริวกะ ] : โนโซมิ มายืนตัวติดๆชั้นหน่อย แล้วก็สังเกตทิศทางของต้นหญ้าให้ดีนะ
อยู่ดีๆริวกะบอกให้คิราระมาใกล้ๆตัวเขาซึ่งคิราระยินดีอย่างยิ่งเลย เธอเข้ามายืนข้างหลังและเกาะหลังของริวกะพร้อมกับเขย่งเท้ามองจากด้านหลัง
ฟุ่บ ฟุ่บ ( ไขว้มือ ) กรึ่กกก ( เกร็งรวบรวมพลัง ) ฟิ๊ววววว !!! ( สะบัดออก )
(https://uppic.cc/d/KqNP)
ภาพที่คะริราะเห็นคือริวกะ ไขว้มือเป็นรูปตัวX แล้วเกร็งไว้ราวกับรวบรวมพลัง และทันใดนั้นเขาก็สะบัดออกอย่างแรง วู๊ปปปปป สายลมจำนวนมหาศาลพัดออกจากตัวของริวกะ คิราระจึงมองที่ต้นหญ้าต้นไม้รอบๆทันที ก็พบว่ามันถูกพัดจนเอนเอียงไปตามลม แต่สิ่งที่แปลกคือ มันไม่ได้ไปทิศทางเดียวกัน แต่มันถูกพัดให้ปลิวเป็นลักษณะวงกลม โดยที่ริวกะเป็นศูนย์กลาง
[ คิราระ ] : อ๋อออออ อื้อเข้าใจแล้ว ท่านี้ที่ก่อนลงไปที่ต้นไผ่นี่นา
ริวกะไม่ตอบแต่ยิ้มให้แทน นั่นหมายความว่าเธอคิดถูก เผียะ !!! ริวกะตบมือประกบอีกครั้ง ทำให้พายุทั้งหมดหายไป
(https://uppic.cc/d/Kqr1)
[ ริวกะ ] : นี่เป็นการปลดสถานะการควบคุมพายุทั้งหมด
[ คิราระ ] : อ๋อออออ การใช้มือก็เหมือนการแยกหมวดหมู่การควบคุมใช่มั้ย เพราะลมมันพัดรอบตัว การควบคุมนั้นมีมากมาย จึงต้องกำหนดรูปแบบขึ้นมา
[ ริวกะ ] : ปิ๊งป่อง เก่งมาก ชั้นยังเรียนรู้จากเก็นโซได้ไม่มากเลย ชั้นต้องตั้งใจเรียนรู้มากกว่านี้ แต่ท่าบางอย่างชั้นก็ต้องประยุกต์ในการต่อสู้ เพื่อที่จะไม่ให้สะดุดตาคนอื่น ดูนี่นะ
(https://uppic.cc/d/Kqrg)
ป๊อกก !!! ริวกะดีดนิ้วและบิดข้อมือ ทันได้นั้นลมรอบๆ หมุนวนราวกับพายุจนฝุ่นแถวๆนั้นหมุนขึ้นสูงราวกับเสาพายุเกรียว ทำให้คิราระนึกออกทันทีว่าเหมือนตอนที่ริวกะทำให้ต้นไผ่นั้นบิดเกรียวรวมกันนั่นเอง และตอนนี้ริวกะก็นั่งชันเข่าลงและตบไปยังพื้น ทำให้เกิดพายุพัดขึ้นมาจากพื้นดินทันที เหมือนตอนที่กำลังต่อสู้กับพวกอันธพาล วืด ฟู่วววววว ครั้งนี้ริวกะสะบัดมือขนานตัวออกไป ทำให้ลมพายุทั้งหมดสลายไปทันที
[ ริวกะ ] : ก็ประมาณนี้แหละ ชั้นพูดมากไปมั้ยเนี่ย
[ คิราระ ] : ไม่เลย ไม่เลย ชั้นอยากฟังอีก งื้อ ริวกะชั้นถามหน่อยสิ่ ริวกะไม่กลัวเหรอตอนที่กำลังจะเหยียบต้นไผ่น่ะ ชั้นกลัวมันหักมากๆเลย
[ ริวกะ ] : ไม่หรอกต้นไผ่จีนมันแข็งแรงมากๆ อีกอย่างชั้นเกรด 4 วิชาฟิสิกซ์นะ องศาการตก มุมกระทบ คำนวนเป๊ะ ๆ
[ คิราระ ] : เง้อ ขี้อวด ริวกะขี้อวด
จากนั้นทั้งสองพูดคุยกันต่างๆนาๆ แต่ส่วนมากคิราระจะเป็นฝ่ายถามซะมากกว่า ดูเหมือนคิราระจะทำตัวน่ารักๆใส่ริวกะมากเกินไปจนเขาถึงกับแอบยิ้มเลยทีเดียว จนเกือบ5นาทีทั้งคู่จึงเดินมาถึงศาลเจ้า ก็พบกับเก็นโซที่ยืนรอทั้งคู่อยู่
•••••••••
[ เก็นโซ ] : กลับมาแล้วเหรอครับท่านริวกะ เรียบร้อยดีไหมครับ
[ ริวกะ ] : เรียบร้อยครับ เอ...ว่าแต่เก็นโซ ที่นี่ขาดเหลืออะไรมั้ย ผมจะได้หามาให้
[ เก็นโซ ] : ไม่เลยครับท่านริวกะ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ อีกอย่าง ศาลเจ้าแห่งนี้ก็มีผู้คนที่ศรัทธามาไหว้พระทำบุญกันมากมาย เรื่องค่าทำนุบำรุงศาลเจ้า ข้าวสารอาหารแห้ง ท่านไม่ต้องกังวลครับ
[ ริวกะ ] : ครับได้ยินแบบนี้ก็สบายใจ ผมฝากที่นี่ด้วยนะครับเก็นโซ ไว้ถ้างานประจำปีเมื่อไรผมจะมาเยี่ยม
[ เก็นโซ ] : ครับท่านริวกะ ผมจะตั้งตารอวันนั้นครับ
[ ริวกะ ] : โอ๊ะลืมเลย ไปเยี่ยมปู่ทวดดีกว่า
คิราระฟังแล้วก็ตกใจ นี่พ่อของคุณท่านชิน อยู่ที่นี่เหรอ เธอสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถาม เธอเดินตามริวกะและเก็นโซไปยังกลางศาลเจ้า ก็พบเป็นบ้านเหมือนศาลเจ้าขนาด 2 x 2 เมตร รอบบ้านถูกผูกด้วยเชือดเขตอาคม 4 เส้น รอบๆบริเวณถูกดูแลรักษาอย่างสะอาดอย่างดี และรอบๆยังมีคนมาติดป้ายเพื่อขอพรกันมากมาย ริวกะเดินมาถึงก็ยืนตรงหน้าและพนมมือแบบชาวญี่ปุ่น
(https://uppic.cc/d/KXjN)
[ ริวกะ ] : ปู่ทวดคร๊าบ ผมมาเยี่ยมแล้วนะ ทุกคนในบ้านสบายดี โดนเฉพาะปู่กับพ่อ แข็งแรงเกินมนุษย์มนาเลยครับ ตอนนี้ผมเปิดใจให้กับพวกภูติมากกว่าเดิมแล้วนะครับ
คิราระนี่เอ๋อเลย ทำไมศาลเจ้าเล็กๆนี้ ริวกะถึงเรียกว่าปู่ทวด พลันคิราระก็เหลือบไปเห็นป้ายเล็กๆ ราวกับว่ามีคนจงใจเอาวางไว้ให้ลับตาคน อิซานางิ ฮิเดโมโตะ หา ฮิเดโมโตะ คิราระอ่านชื่อบนป้ายนั้นก็ถึงกับตกใจ เธอจำได้ว่าในหนังสือเก่าๆก็มีชื่อนี้ ตำนานเล่าขานว่านอกจากอาเบะโนะเซย์เมย์แล้ว ฮิเดโมโตะนั้นเขาคือ องเมียวจิ ที่เก่งกาจไม่ด้อยไปกว่าเซย์เมย์เลย
แต่จะใช่คนๆเดียวกันเหรอ ก็ริวกะเรียกว่าปู่ทวดนี่นา งั้นอายุก็ไม่น่าจะห่างกันเกิน 100 ปี แต่ท่านฮิเดโมโตะมีชีวิตอยู่เมื่อพันปีที่แล้วนี่นา ริวกะพนมมือหลับตาราวกับว่าพยายามทำสมาธิเพื่อที่จะบอกกล่าวอะไรบางอย่างให้กับท่านฮิเดโมโตะที่ล่วงลับได้รับรู้
[ ริวกะ ] : ปู่ทวดครับ ผมกลับแล้วนะครับ ผมจะไม่ยอมให้แผ่นดินของอิซานางิของคุณปู่ทวดต้องแปดเปื้อนเด็ดขาด ผมคิดว่าพวกมันต้องย้อนกลับมาแน่ๆ เพราะงั้นผมต้องกวาดล้างให้สิ้นซาก ครั้งนี้ผมอาจจะต้องใช้ความรุนแรงไปบ้าง คุณปู่ทวดเข้าใจผมด้วยนะครับ แฮ่ๆ
ริวกะพูดกับศาลนั้นก่อนจะโค้งคำนับ ซึ่งคิราระเองก็ทำตามเช่นกัน เธอเก็บงำความสงสัยเอาไว้โดยไม่คิดจะถามอะไร ซึ่งสีหน้าบูดๆบึ้งๆนี้ ริวกะรับรู้ได้ทันที
[ ริวกะ ] : ท่านไม่ใช่พ่อของคุณปู่หรอก แต่ท่านเป็นปู่ของปู่ของปู่ของปู่ของปู่กี่อันดับก็ไม่รู้ แต่ที่ชั้นเรียกว่าปู่ทวดเพราะอยากรู้สึกใกล้ชิดกับท่านหน่อยน่ะ
[ คิราระ ] : เง้ออ จริงเหรอ งั้นปู่ทวดของริวกะใช่คนเดียวกับในหนังสือรึเปล่า ท่านฮิเดโมโตะ องเมียวจิในตำนานท่านนั้น
[ ริวกะ ] : อื้ม ปู่กับพ่อ บอกว่าคนเดียวกัน
คิราระได้ยินแล้วก็ปลื้มใจสุดๆเพราะริวกะยอมบอกเองโดยที่เธอไม่ทันได้ถาม และอีกอย่าง ฮิซานางิ ฮิเดโมโตะ คือคนเดียวกับท่านฮิเดโมโตะเสียด้วย แล้วริวกะยังเล่าให้ฟังต่อว่า
[ ริวกะ ] : คุณปู่ทวด เป็นเพื่อนรักของท่านเซย์เมย์ หรือ อาเบะ โนะ เซเมย์ องเมียวจิในตำนาน ท่านสองคนรู้จักกันตอนที่เริ่มเรียน องเมียวโด ( วิถีองเมียวจิ ) ด้วยกัน ท่านเป็นทั้งเพื่อนรักและคู่แข่งของกันและกัน แต่ทั้งสองท่านก็ช่วยกันผลักดันกันและกัน จนฝีมือรุดหน้าอย่างเหลือเชื่อ จนท่านเซย์เมย์ได้เข้ารับใช้องค์จักรพรรดิตามที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์นั่นแหละ
[ คิราระ ] : อ้าว แล้วท่านฮิเดโมโตะล่ะ ทำไมถึงไม่ได้รับใช้องค์จักรรพรรดิ พร้อมท่านเซย์เมย์ล่ะ หรือว่า ท่านเซเมย์ หักหลังท่านฮิเดโมโตะ เพราะชื่อของท่านฮิเดโมโตะถูกเอ่ยถึงน้อยมาก
[ ริวกะ ] : ไม่ใช่หรอก ท่านเซย์เมย์เป็นคนดีมีคุณธรรม ในประวัติศาสตร์อาจไม่ได้ถูกบันทึกไว้ แต่ว่าท่านเซย์เมย์กับคุณปู่ทวดถูกทาบทามให้ไปรับใช้องค์จักรพรรดิด้วยกัน แต่มันมีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้คุณปู่ทวดเลือกที่จะไม่ตอบรับ และใช้องเมียวโดเพื่อช่วยเหลือปกป้องชาวบ้านจากสิ่งลี้ลับต่างๆแทน
คิราระฟังที่ริวกะเล่าให้ เธอมองไปที่ริวกะและก็พบว่า แววตาของริวกะมีความสุขมากๆพอได้พูดถึงเรื่องท่านฮิเดโมโตะ เธอเซอร์ไพรส์มากๆ ที่ริวกะนั้นเป็นถึงสายเลือดของท่านฮิเดโมโตะ อีกทั้งท่านยังเป็นเพื่อนรักของ อาเบะโนะเซเมย์ องเมียวจิที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย
[ คิราระ ] : ริวกะ แต่ว่าชั้นสงสัย ทำไมในหนังสือที่ชั้นอ่าน ไม่มีการเอ่ยถึงนามสกุล ของท่านฮิเดโมโตะล่ะ
[ ริวกะ ] : เรื่องนั้นค่อยเล่าให้ฟังนะ กลับกันเถอะ
[ คิราระ ] : เง้ออออ ริวกะเล่าให้ฟังหน่อย
[ ริวกะ ] : วันนี้ชั้นตามใจเธอเยอะแล้วนะ โนโซมิ อย่าดื้อสิ่
คิราระร้องเง้อทันทีที่โดนริวกะดุ ถึงอยากจะรู้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่เซ้าซี้แล้ว ริวกะโค้งคำนับศาลเจ้าเล็กๆนั้นและเดินไป คิราระเองก็ก้มคำนับแล้ววิ่งตามริวกะทันที และเก็นโซก็ตามไปด้วยเช่นกัน
[ ริวกะ ] : เก็นโซครับ ผมฝากดูแลศาลของคุณปู่ทวดด้วยนะครับ
[ เก็นโซ ] : ไม่ต้องห่วงครับท่านริวกะ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ
[ ริวกะ ] : ขอบคุณครับ
ริวกะพูดคุยกับเก็นโซได้สักครู่จึงได้ขอตัวกลับ เพราะว่าดึกมากแล้ว คิราระก็เดินมาลาเก็นโซด้วยเช่นกัน โดยเก็นโซก็ไม่ลืมย้ำว่าให้ทำตามหัวใจของตนเอง ริวกะบอกจะพาเดินในป่าตอนกลางคืนเพราะจะสงบมากๆ ตอนแรกคิราระบอกว่ากลัวพวกสัตว์มีพิษ แต่ริวกะบอกว่าทันทีที่เฮิบิซันมาที่นี่เหล่าสัตว์มีพิษก็ไม่กล้าโผล่ออกมาแล้ว
คิราระจึงจำใจยอมเดินตามริวกะไป ริวกะพาคิราระเดินเข้าไปในป่าเพื่อไปหาเฮบิซันทันที แต่ในป่าทึบนั้นมืดมากๆ ขนาดมีแสงจันทร์สาดส่องลงมาก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย ทำให้คิราระนั้นมองไม่ค่อยเห็นทางเลย ริวกะจึงต้องจับมือเธอไว้และพาเดินไปด้วยกัน
ทั้งคู่เดินเข้ามาในป่าได้ไม่ถึง 1 นาที ริวกะก็รู้สึกว่าคิราระนั้นบีบมือเขาแน่นมากๆ แถมยังมีอาการสั่นอีกต่างหาก ริวกะจึงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจำได้ว่าน้าคุรุมิเคยเล่าให้ฟังว่าลูกสาวของเธอเป็นโลกกลัวความมืด เพราะตอนเด็กๆเคยโดนเพื่อนแกล้งโดยการเอาไปขังไว้ในห้องเก็บของมืดๆอยู่เกือบชั่วโมง
[ ริวกะ ] : ยัยบ๊อง กลัวความมืดทำไมไม่บอก กลัวจนตัวสั่นหมดแล้วเนี่ย
[ คิราระ ] : แหะๆๆ ก็ไม่อยากทำให้มันวุ่นวายนี่นาริวกะ ชั้นทนแปปเดียวเดี๋ยวก็ได้เจอคุณเฮบิซันแล้ว เอ๊ะแล้วริงกะรู้ได้ยังไง ว่าชั้นกลัวความมืด
ริวกะไม่ตอบแต่ทำหน้าดุใส่ คิราระก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ เธอไม่กล้าบอกริวกะ เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นทำตัวอ่อนแอไป แต่แค่แปปเดียวเท่านั้น ก็เกิดแสงเล็กๆวิบวับ วิบวับ มากมาย จนพื้นที่นั้นสว่างไสวไปด้วยแสงสีเหลืองเหมือนที่เห็นตอนกำลังลอยบนอากาศ แสงสีเหลืองเล็กๆหลายจุดค่อยๆรวมตัวกันจนมันสว่าง และมองเห็นรอบตัวได้ชัดเจน มันคือหิ่งห้อยนั่นเอง แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงมีหิ่งห้อยล่ะ หรือว่า...
[ คิราระ ] : งื้ออ สวยจังเลย
คิราระร้องด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็นหิ่งห้อยมากมายขนาดนี้ มันทำให้รอบๆตัวสว่างขึ้นทันทีและอาการสั่นเพราะกลัวความมืดก็หายไปแล้ว
[ ริวกะ ] : คราวหลัง มีอะไรต้องบอกชั้นนะ โนโซมิ
[ คิราระ ] : ก็... ไม่อยากรบกวนนี่นา
[ ริวกะ ] : ถ้าเป็นแบบนี้อีก ชั้นจะไม่พาไปไหนอีกแล้วนะ
คิราระได้ยินแล้วตาโตเลย ริวกะบอกครั้งหน้า งั้นแสดงว่ายังจะได้ไปกับริวกะอีกเหรอ คิราระดีใจจนออกนอกหน้า เผลอตัวกระโดดหอมแก้มริวกะไปเต็มๆเลย
[ คิราระ ] : เย้ วันนี้ริวกะใจดีจังเลยย
ริวกะก็ได้แต่แอบยิ้ม วันนี้เขาโดนคิราระหอมจนแก้มช้ำหมดแล้ว แต่ ...เขาก็ชอบนะ ทั้งคู่ยังคงเดินต่อไปอีก โดยเดินเลียบทะเลสาบไปเรื่อยๆ ฝูงหิ่งห้อยก็ยังคงบินตามเพื่อส่องแสงนำทางราวกับนี่คือหน้าที่ ทั้งแสงจันทร์ที่กระทบผิวน้ำ ทั้งแสงของหิ่งห้อยที่ส่องนำทาง พอรวมกันแล้วมันช่างสวยงามจริงๆ
[ คิราระ ] : ริวกะ แสงนี้คือ
[ ริวกะ ] : โฮตารุ วิญญาณหิ่งห้อยน่ะ เจ้าพวกนี้พอหมดอายุขัย ก็จะยังคงวนเวียนในป่า เพื่อนำทางคนที่หลงทาง ให้สามารถออกจากป่าได้
[ คิราระ ] : อ๋อ งื้ออ สวยจัง
[ ริวกะ ] : เจ้าพวกนี้สามารถรับรู้ถึงจิตใจมนุษย์ได้ ถ้าเป็นคนดีเจ้าพวกนี้ก็ยินดีที่จะช่วยนำทางให้ แต่ถ้าเป็นพวกคิดจะมาตัดไม่ทำลายป่าหรือเข้ามาเพื่อทำอะไรไม่ดี ได้โดนเจ้าพวกนี้แผลงฤทธิ์ใส่แน่ๆ เจ้าพวกนี้น่ารักนะ ไม่ต้องกลัวหรอกนะ
[ คิราระ ] : อื้อ ชั้นเชื่อริวกะ
คิราระไม่กลัวแม้แต่น้อยถึงริวกะจะบอกว่าวิญญาณเพราะตอนนี้คิราระมีริวกะอยู่ข้างๆแบบนี้ไง และทั้งคู่ก็พากันเดินเข้าไปในป่าอีกเกือบ 5 นาทีก็ถึงเนินเขาเป็นลานกว้าง มากๆ มีทั้งทะเลสาบและถ้ำ มิน่าล่ะเฮบิซันจึงขอรอตรงนี้
[ ริวกะ ] : ขอบใจพวกเจ้ามากนะ ที่ช่วยนำทางให้
เหล่าวิญญาณหิ่งห้อย ก็บินวนไปวนมาราวกับตอบรับคำพูดของริวกะ และพวกมันก็ยังบินไปหาคิราระอีก คิราระมองด้วยตาที่เป็นประกาย เกิดมาเธอก็พึ่งเห็นหิ่งห้อยรวมตัวกันมากขนาดนี้ แถมยังใกล้ๆจนติดตัวอีก พวกมันเกาะคิราระอยู่อย่างนั้น จนริวกะพูดขึ้นมา
[ ริวกะ ] : ก็ได้ๆ ครั้งหน้าชั้นจะพาเธอมาด้วย
สิ้นเสียงของริวกะเหล่าวิญญาณหิ่งห้อย ก็พากันบินวนๆๆๆราวกับดีใจที่ได้ยินคำตอบ พวกมันบินมาหาริวกะอีกครั้งราวกับว่าขอตัวกลับ จากนั้นพวกมันจึงค่อยๆหายไป คิราระก็ยิ้มไม่หุบเลยทีนี้พอได้ยินว่าริวกะจะพาเธอมากอีก
[ คิราระ ] : เอ๋... ริวกะ ริวกะฟังที่พวกมันพูดได้ด้วยเหรอ ง่าา ลืมไปว่าริวกะมีสายเลือดของ องเมียวจินี่นา
คิราระไม่พูดเปล่า แต่ถลาตัวเข้าหาริวกะจนกลายเป็นกอดกันแล้ว ริวกะก็เหวอเลยไม่คิดว่าคิราระจะตื่นเต้นขนาดนี้ อีกครั้งแล้วที่ริวกะต้องข่มใจไม่ให้มังกรน้อยตื่นขึ้นมา ริวกะไม่พูดอะไรตอบเพราะตอนนี้เขาพยายามข่ม ๆ ๆ ข่มใจไม่ให้ตื่นเต้นไปมากกว่านี้
[ ริวกะ ] : ป่ะ กลับโตเกียวกัน เฮบิซัน ชั้นมาแล้ว
สิ้นเสียงเรียกของริวกะ เฮบิซันก็เลื้อยออกมาจากถ้ำตรงหน้าทันที ดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะกินหมูป่าไปเสียด้วย
[ ริวกะ ] : ว่าไงเฮบิซัน นี่ผ่านมาไม่กี่ชั่วโมงเองนะ พอได้อยู่กับป่ากับถ้ำ ดูท่าทางนายดูจะสดชื่นนะ
[ เฮบิซัน ] : ขอรับนายน้อย ผืนป่าแห่งนี้อุดมสมบูรณ์มากขอรับ แค่ไม่กี่ชั่วโมงข้ากลับรู้สึกสดชื่นมากเลยขอรับ
[ ริวกะ ] : ถ้าชอบก็มาที่นี่บ่อยๆสิ่ พักผ่อนบ้างเฮบิซัน ที่นี่ก็คือบ้านของปู่ ยังไงซะที่นี่ก็คือแผ่นดินของอิซานางิเหมือนกัน ป่ะกลับกันเถอะ
[ เฮบิซัน ] : เป็นพระคุณอย่างสูงขอรับนายน้อย
[ คิราระ ] : เอ๋... แผ่นดินของอิซานางิ ป่าตรงนี้ก็ที่ของตระกูลอิซานางิเหรอ
คิราระสะดุ้งโหยงทันทีพอได้ยินว่าแผ่นดินของ อิซานางิ เธอจึงถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งและปรากฎว่า
[ ริวกะ ] : อื้ม ป่าทั้งหมดจนสุดเขาลูกนู้น ศาลเจ้า ย่านการค้าคาสุโกะ และ ตึกรามบ้านช่องรอบๆย่านการค้า เป็นที่ของตระกูลชั้นหมดเลย
คิราระหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมตระกูลอิซานางิ จะร่ำรวยไปไหนกันเนี่ย คำนวนโดยคร่าวๆนี่ก็เกือบจะครึ่งนางาซากิแล้วนะเนี่ยๆๆ คิราระตื่นเต้นตกใจจนพูดไม่ออกเลย
[ เฮบิซัน ] : นายน้อยขอรับ ธุระที่มาจัดการเรียบร้อยไหมขอรับ
[ ริวกะ ] : เรียบร้อย แต่แค่ตอนนี้นะ เพราะพวกอาคะโทระมันแผ่ขยายกลุ่มไปเยอะจริงๆ นี่คงตั้งใจจะมาแผ่ขยายอำนาจที่นางาซากินี่ ชั้นคงต้องกวาดล้างแล้วล่ะไม่งั้นชาวบ้านที่นี่ รวมถึงที่อื่นๆอยู่ไม่สุขแน่
[ เฮบิซัน ] : นายน้อยขอรับ ข้ามีบางอย่างอยากเสนอท่านขอรับ
[ ริวกะ ] : ว่ามาสิ่
ริวกะได้นั่งลงเพื่อปรึกษาหารือกับเฮบิซันทันที เพราะเรื่องนี้เขาต้องรอบคอบ คิราระเองก็นั่งลงข้างๆริวกะ ส่วนเฮบิซันก็ชูคอพูดคุยอยู่ตรงหน้า
[ เฮบิซัน ] : การจะโค่นล้มประเทศ เราต้องโจมตีจากภายใน การจะทำให้องค์กรใหญ่ๆอย่างอาคะโทระล่มสลาย ท่านต้องทำให้มันพังทลายจากภายในเช่นกันขอรับ
[ ริวกะ ] : อืม ชั้นเห็นด้วย พวกนี้มีแบ็คดี
[ เฮบิซัน ] : แบ็คดีคืออะไรขอรับ แบ็คที่แปลว่าหลังหรือว่าสีดำขอรับ
[ ริวกะ ] : เอ้ย ชั้นขอโทษ ลืมไปว่านายไม่ค่อยชอบศัพท์แสลงชั้นเลยไม่ได้สอน แบ็คดี แปลว่า มีคนคอยหนุนหลังและคนๆนั้นก็มีอำนาจคอยช่วยเหลือพวกมัน เพราะมันจะได้ผลประโยชน์ด้วย
คิราระเฝ้ามองนายบ่าวคู่นี้คุยกันก็พลันยิ้มอย่างไม่มีเหตุผล มันเหมือนกับน้องชายคุยกับพี่ชายเสียมากกว่า
[ เฮบิซัน ] : อ๋อข้าเข้าใจแล้วขอรับ แบบนี้ก็ยิ่งบุ่มบ่ามไม่ได้ขอรับ ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็มีขุนนางที่ฉ้อฉลทั้งนั้น ท่านต้องตัดรากถอนโคนเท่านั้นขอรับ
[ ริวกะ ] : อื้ม ถ้างั้นต้อง รวมรวมหลักฐานเพื่อใช้เปิดโปงและทำลายมัน
[ เฮบิซัน ] : ถูกต้องขอรับ
ริวกะคิดแล้วคิดอีกว่าจะทำยังไง ที่จะรวบรวมหลักฐานให้ได้แบบละเอียดโดยที่ไม่ถูกสงสัยและไม่ถูกจับได้ ต้องแนบเนียนและไม่สะดุดตา ไม่สะดุดตา แนบเนียน อ๋ออออ ริวกะนึกออกทันทีว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ถ้าเรื่องเนียนๆไปอยู่บ้านคนนู้นคนนี้ ต้องปีศาจตนนี้เท่านั้น
[ ริวกะ ] : นูระริเฮียง อยู่มั้ย !!!
 
••••
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ขอมูลตัวละคร
อิซานางิ ฮิเดโมโตะ
ฮิซานางิ ฮิเดโมโตะ เป็นปู่ของปู่ของปู่ของปู่ของปู่ และ อีกหลายๆปู่ของริวกะ เป็นชายที่รูปร่างหน้าตา หล่อเหลา
ในอดีตเขาเป็นผู้ที่ฝึกองเมียวโดสำนักเดียวกับท่านอาเบะโนะ เซย์เมย์ และได้กลายมาเป็นเพื่อนรักกัน ฝ ด้านฝีมือนั้นก็เรียกได้ว่า โหดแท้เหลา โหดขนาดที่ว่า ท่านเซย์เมย์ยังพูดว่า บางทีเจ้าอาจจะมีฝีมือที่สูงส่งกว่าข้าก็ได้นะ ฮิเดโมโตะ จนวันนึงทั้งคู่ได้ถูกเรียกตัวเพื่อเข้ารับใช้องค์จักรพรรดิ แต่ฮิเดโมโตะนั้นกลับเลือกที่จะปฏิเสธด้วยเหตุผลบางประการ ถึงจะไม่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์และไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่ความสามารถและความเก่งกาจของฮิเดโมโตะนั้น ก็เป็นที่ประจักษ์และได้การยอมรับจาก มหาองเมียวจิของญี่ปุ่น อย่างอาเบะโนเซ์เมย์ เลยทีเดียว
- รอการอัพเดท -
•••••••••••••
 
•••••••
ข้อมูลขนม !!!
คัสเตลลา ( ขนมที่ฮิคาริกิน )
(https://uppic.cc/d/KX3q)
คัสเตลลา (Castella) คือ ขนมหวานยอดนิยมของคนญี่ปุ่น แต่เดิมเป็นขนมหวานของประเทศโปรตุเกส เรียกว่า Pão-de-ló ที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านเมืองท่านางาซากิในศตวรรษที่ 16 เมื่อเวลาผ่านไปก็มีการปรับเปลี่ยนสูตรจนกลายมาเป็นขนมคัสเตลลาอย่างที่ทุกคนรู้จักกันในปัจจุบัน ถือเป็นขนมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 400 ปีเลยทีเดียว!
Castella เป็นขนมประเภทเค้กเนื้อฟูนุ่ม บ้างก็เรียกว่าเป็นเค้กฟองน้ำตามลักษณะเนื้อสัมผัส โดยมาตรฐานนิยมออกแบบเป็นก้อนขนมทรงสี่เหลี่ยม เนื้อด้านในมีสีเหลืองอ่อน ส่วนเนื้อด้านนอกที่ผ่านการอบมาแล้วจะมีสีน้ำตาลเข้ม Castella ทำจากแป้ง ไข่ น้ำตาล หรืออาจใช้ไซรัปเป็นตัวให้ความหวาน แต่ก็ไม่เน้นหวานจัดจนเลี่ยนเกินทาน ถือเป็นขนมอร่อยที่มักทานร่วมกับชาเขียวร้อนๆหรือกาแฟทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย
•••••••
จัมปงราเมน ( ที่โคฮาคุกิน )
(https://uppic.cc/d/KX3X)
นางาซากิจัมปง ซาราอูด้ง ถือกำเนิดขึ้นที่เมืองนางาซากิ และกลายเป็นอาหารประจำเมืองนางาซากิ ใช้เนื้อหมู เนื้อปลา และผักหลากหลายชนิดอัดแน่นเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ให้คุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบกับรสชาติน้ำซุปกระดูกหมูและไก่ และเส้นเหนียวนุ่มแบบเฉพาะ
** ส่วนตัวของของผมเคยกินแล้วชอบมากๆ รีดเดอร์ท่านใดอยากลองรสชาติแบบที่ผมหรือโคฮาคุได้สัมผัส ผมแนะนำร้าน Ringer Hut ครับ รสชาติเยี่ยมยอดราวกับไปกินที่นางาซากิเลย
•••••••
สาวแกล Gal
สาวแกลนั้น มีหลายประเภทและมากมาย รีดเดอร์ท่านใดว่างๆก็เข้าไปอ่านกันได้เลย
https://anitime.in.th/scoop/gal-girl/
แต่ผมจะขอย่อ คำจำกัดความของ " แกล " ที่คิราระเป็นนะครับ สิ่งที่คิราระเป็นนั้นคือ สาวแกลในช่วงมัธยมหรือ Kogal ซึ่งย่อมาจาก Kokusei Gal
(https://uppic.cc/d/KX37)
จริงๆสาวแกลในช่วงมัธยมนี้เพียงต้องการอยากสวยกว่าเพื่อนๆแค่นั้นเอง จึงทำให้แต่งตัวหนักไปทางแฟชั่นและผิดกฎระเบียบของโรงเรัยน แต่เพราะความเชื่อผิดๆค่านิยมผิดๆ จึงทำให้คิดว่า สาวแกลนั้นคือนักเลง ซึ่งไม่ใช่เลย จริงๆแล้วนักเลงหญิงจะถูกเรียกว่า ซุเคะบัน ใครไม่เข้าใจก็ลอง เซิร์ทหาการ์ตูนเรื่อง เบลเซบับ ดูครับกลุ่มนางเอกนั่นแหละ
https://www.catdumb.com/sukeban-378/
เมื่อเวลาผ่านไป การแต่งตัวแนวซุเคะบันไม่ ค่อยเป็นที่นิยม เพราะแฟชั่นสมัยใหม่เป็นที่นิยมมากกว่า พวกนักเลงสาวๆจึง ยึดการแต่งตัวแฟชั่นแรงๆแบบสาวแกล มาเป็นบรรทัดฐาน ( ซะงั้น ) ต้องทำตัวให้แตกต่าง ย้อมผมสีทองหรือสีแรงๆ ฉูดฉาด เสื้อผ้า หน้าผม เล็บต้องโดดเด่น แต่สำหรับคิราระนั้น เธอแค่ย้อมผมทองเฉยๆ
(https://uppic.cc/d/KX3B)
แถมย้อมแบบไม่กัดสีด้วยทำให้สีทองออกไม่ชัด อีกทั้งการแต่งตัวนั้นไม่ใช่เลย ไม่ใช่แนวสาวแกลนักเลงเลย เธอจึงถูกริวกะจับได้
••••••••
ชี้แจงเรื่องการใช้คำเรียกระหว่างริวกะกับภูติ
ในเนื้อเรื่องหลายท่านจะเห็นว่า ริวกะจะใช้หลายคำมากเช่น ชั้น ข้า นาย เจ้า เธอ ผมขอชี้แจงดังนี้ครับ
ริวกะจะใช้คำว่า ชั้น แทนตัวเองก็ต่อเมื่อพูดกับ ภูติที่สนิทๆหรือ รุ่นๆเดียวกันเช่น ยามิ , เฮบิซัน , ฮิคาริ , โคฮาคุ , กัปปะ
ริวกะจะใช้คำว่า นาย แทนตัวภูติที่กำลังภูติคุย จะเป็นภูติเพศชายและรุ่นเดียวกัน เช่น ยามิ , โคฮาคุ , กัปปะ , เฮบิซัน
ริวกะจะใช้คำว่า เธอ เพื่อแทนตัวภูติเพศหญิง ที่สนิทๆกันหรือรุ่นเดียวกัน เช่น ฮิราริ
ส่วนถ้าเป็นภูติที่มีอายุมากกว่า หรือ ไม่ค่อยสนิทนัก ริวกะจะใช้คำที่เป็นทางการ อย่างเช่น แทนตัวเองว่า ข้า และใช้คำว่า เจ้า เพื่อแทนตัวภูติที่กำลังพูดคุย
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
เชียรืให้คิราระเปิดเผยตัวออกมาเลยว่าชอบริวกะ
จะได้มีความคืบหน้าไม่ต้องซ่อนแอบ
น่าจะมีงานใหญ่ให้ริวกะจัดการแน่ๆ..คิราระต้องเปิดใจกับริวกะได้ล่ะนะ
แล้วงานนี้ริวกะจะใช้วิธีไหนปราบพวกอาคะโทระให้ล่มสลาย หรือจะใช้ทั้งบู็และบุ้นรวมกัน
พออยู่ใกล้คนที่ชอบแล้วคิรานะไม่เป็นตัวของตัวเองเลยน้า หอมเค้าไปทั่ว เดี๋ยวก็เจอมังกรเข้าให้หรอก
จบแมตช์นี้ คิราระ น่าจะ ขอสมัครเป็นเมดริวกะด้วยความเต็มใจแล้วละมั้ง
เนื้อเรื่องตอนนี้ผมว่าผ่อนคลายดีนะ จะล่อกันทุกตอน หรือ ตีกันทุกตอนก็ไม่ใช่เรื่อง ให้มันสมดุลย์แบบนี้แหละดีแล้ว
ทำเปนซีรีโดจินท่าจะดีครับติดตามยาวๆแบบนี้
อ้าวเฮ้ยมาจริงด้วย เเต่เป็นคุณปู่เเล้วคุณลูกกับคุณหลานไปอยู่ไหนละคร้าบ
ขอบคุณครับ
พออยู่ใกล้คนที่ชอบแล้วคิรานะไม่เป็นตัวของตัวเองเลยน้า หอมเค้าไปทั่ว เดี๋ยวก็เจอมังกรเข้าให้
สมแล้วที่รับคิราระเป็นน้องบุญธรรม ทั้งฉลาด ไหวพริบดี เรียนรู้ได้เร็ว รู้จักแก้สถานะการณ์
มีพูดถึงนูราริเฮียงด้วย การ์ตูนเรื่องโปรดเลย คิราระน่ารักมากเลยตอนนี้
เมื่อหลงรักแล้วก็ต้องทำใจ เมื่อเขารักใครก็ต้องรักคนนั้นด้วย
เก่งทั้งบู๊และบุ๋นเลยพระเอกริวกะแถมมีที่ปรึกษาและองครักษ์ที่ยอดเยี่ยมมากๆและท้ายสุดสุดท้ายยังมีสาวสุดสวยเป็นเพื่อนคู่กายอีกคิราระที่แสนน่ารัก
จะรวยไปไหน เก่งจัง
คิราระตงชอบริวกะมากเลย
ตอนนี้2หนุ่มสาวดูจะมุ้งมิ้งกันเหลือเกิน แถมมีพ่อสื่อแม่สื่ออีกหลายตนคอยช่วยอีก ไม่นานคงจะได้สุขสมกันแน่ๆ
อ้างจาก: Blue Eye เมื่อ มิถุนายน 10, 2019, 08:26:37 หลังเที่ยง
เมื่อหลงรักแล้วก็ต้องทำใจ เมื่อเขารักใครก็ต้องรักคนนั้นด้วย
จริงแต่เจ็บ
::Crying::
มิน่าริวกะถึงยกให้เป็น 1 ในผู้หญิงของชั้น คิราระ....
นอกจากมีฝีมือแล้วยังต้องมียุธวิธีและทีมที่ดีแล้วต้องมีการวางแผนอย่างดีเยี่ยมถึงจะสำเร็จ
ดูเอาจากชื่อตอนนี่ คิดว่าคิราริะจะพลีกาย ถวายตัวป่าวครับ 555
คงไม่นานคิราระคงได้สมหวังกับริวกะแน่นอน
อยู่ไกล้ถึงกับทำตัวไม่ถูกเลยคิราระแต่นางก็น่ารักดีนะครับชอบ
คิราระรักริวกะ แต่ต้องทำใจเพราะริกะรักรุ้งพลอยมาก
อ่านเจอกัปปะทีไรหัวเราะทุกทีพูดอะไรออกมาแต่ละคำฮาทั้งนั้น
คิราระน่าสงสารมากๆ น่าเห็นใจรักริวกะแต่ริวกะเองถึงแม้จะหวั่นไหวกับคิราระบ้างแต่ในใจก็ยังมีรุ้งพลอยอยู่ มันเลยเศร้านิดๆ
ตอนนี้ก็สนุกนะมีทั้งสนุกและเศร้าปนๆกันไปอ่านแล้วเพลินดี
เมื่อไหร่จะเสร็จริวกะ
ความรักเริมผิบานต้องจัดสักดอก
เมื่อไหร่สองคนนี้จะได้เสียกันสักทีตามเชียร์จนเหนื่อยล่ะ ::Waiting::
คิราระ สาวน้อยผู้อ่อนโยน
จะกำจัดอาคะโทระ หมดตอนไหนน้า งานใหญ่แบบนี้ริวกะทำคนเดียวน่าจะไม่ไหว
เรื่องนี้เป็นเรื่องนึงที่ต้องรีบอ่านทันทีที่โพสขึ้นมา นานๆจะเจอเรื่องราวที่น่าติดตามแบบนี้ เขียนได้ดีมากๆครับ
น้องหนูคิราระเมื่อรักแล้วจงลืมความเจ็บปวดนะจ๊ะ แล้วใจจะมีความสุขท่านผู้แต่งใจร้ายไปหน่อยอย่าให้น้องเขาเจ็บปวดเลยแห่ะๆ รักแล้วย่อมจะมีความสุขนะครับคราวหน้าให้น้องเขาเปี่ยมสุขด้วยนะรออ่านครับ
มีความมุ้งมิ้งแต่ก็ยังรอเนื้อเรื่องของจักรวาลหลักอยู่นะครับ
สวีทหวานกันจนรอบข้างมีแต่สีชมพูเลย เหมือนไม่ได้พากันมาจัดการปัญหา แต่เหมือนพากันมาออกเดท
เมื่อไรคิราระจะสารภาพกับริวกะเสียทีลุ้นหลายตอนละ
คิราระสงสัยไม่นานเสร็จริวกะแนะๆ
เสร็จจากคิราระจังแล้วริวจะได้ใครเป็นรายต่อไปนะ
ตอนนี้...ผ่อนคลาย..ไม่เครียด.. ออกแนวน่ารักใสๆ....ไม่มีบู๊สะบั้นหั่นแหลก...ชอบการบรรยายสอดแทรกเนื้อหาเพิ่มเติ่ม....ดีเยี่ยมครับ
ตอนนี้ก็เป็นธรรมชาติดีครับ เป็นนิยายน่ารักของคู่รักวัยรุ่นที่ออกมาผจญภัยกัน สร้างความสนิทสนมกันอีกระดับ
มีนูราริเฮียงแล้ว คงต้องมีขบวนร้อยอสูรด้วยแน่เลย อาจจะมีบทผู้ใช้ภูติที่เป็นคู่แข่งกับริวกะมาซัดกันในอนาคตแน่
คิราระมาแล้วววว
คิราระนี่น่าจะมีพลังพิเศษนะครับ
ทำไมซีน อย่างงี้ คิราระ
คิราระน่ารัก
ริวกะจะใจอ่อนได้ยังครับ แล้วคิราระจะยอมเป็นแค่เมดเท่านั้นได้เหรอเนี่ย อะไรทำให้ยอมครับ
เมื่อไหร่จะจัดการคิราระเสียที
นี่แหละทายาทของผู้คุมครองต้องสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อปกครองคนในความคุมครองของตน
เพิ่มตัวละครยังไง ก็สามารถตามทันจริงๆ เพราะไรท์เอาใจใส่รีดเดอร์ เขียนแตะให้ทวนความจำตลอด และให้รายละเอียดที่เชื่อมโยงกันดี
เห็นภาพประกอบแล้วเหมือนธาตุทั้ง5เลยเหล่าภูตเหมือนรักยมที่คอยช่วยเหลือต่อสู้ ::Dizzy:: ::Thankyou::
นูระนี่การ์ตูนเรื่องโปรดในดวงใจเลย ขอบคุณมากครับ ชอบครับ sidestory รอตอนของคนอื่นอยู่นะครับ
คิราระปลื้มริวกะมากน่าจะยอมทุกอย่าง
ฮิคาริ ก็เป็นหญิง ถึงจะเป็นภูติ แต่ก็ยังคงเข้าใจความรู้สึกนึกคิดและการกระทำของผู้หญิงด้วยกันได้ ถึงได้แอบยิ้มเมื่อ คิราระแสดงอาการแบบนั้นนั้นออกมาเมื่ออยู่ใกล้ๆหรือมองริวกะ
#ความรักครั้งแรกของเด็กสาว ถึงจะรู้ว่าในใจของชายหนุ่ม มีสาวคนรักมีสาวให้คิดถึง แต่ก็ยังมีใจให้ มีความรู้สึกดีๆให้กับชายหนุ่มอีกมันเป็นความรักที่ต้องเก็บซ้อนไว้ในใจ จะทำไงได้ก็มันรักเข้าไปแล้วเต็มหัวใจ ถึงจะต้องเจอเรื่องไรเข้าก็ต้องรับให้ได้ นี้ละหนาความรัก
#ชอบจังเนื้อเรื่องแบบนี้ถึงไม่มีฉากxxแต่ก็ยังอ่านได้เพลินดี มีทั้งหวาน,ทั้งเกร็ดความรู้,ความฮา,ซึ้ง ชอบๆอ่านเพลินเลย
เมื่อไหร่ริวกะกับคิราระจะปั๊มลูกกันจริงๆเสียที
คิราระน่าจะมีใจให้ริวกะ
ตอนนี้ดูชิลๆดี ได้รู้ประวัติความเป็นมาของตะกูลของริวกะละเอียดขึ้น สนุกดีครับ ขอบคุณ
ตอนนี้ คิราระเปิดใจได้มาก เป็นตัวเองมากขึ้น ความน่ารักเกินร้อยเลย เหมาะที่จะเป็นผู้อยู่ข้างกายริวกะมาก อ่านแล้วอิจฉาริวกะเลย
ต้องบริหารงานต่อจากพ่อ ต้องฝึกวางแผนเก่งๆ
แอบเชียรคิราระมากๆเรยนะเนี้ย
Edit เข้าใจคิราระมากๆนะ ขอแค่รักเทอก็พอ เข้าใจจริงๆ:)
เนื้อเรื่องตอนนี้จุใจมากเลย บรรยายรายละเอียดได้ชัดเจน เฉลยข้อสงสัยได้สมบูรณ์ ครบรส สนุก เศร้า รัก ปูทางไปเนื้อเรื่องหลักได้ลงตัวมาก ขอบคุณครับ
นี่เรียกว่าอาณาจักรของตระกูลอิซานางิแล้ว คิราระก็ได้เปิดเผยตัวเองจนริวกะเข้าใจหมดแล้ว ทีนี้ทำอะไรได้เต็มที่ ไม่ต้องรู้สึกลังเล
ชอบครับ ได้สัดส่วนผสมพอดีรวมๆกับบรรยากาศทำให้โรมานซ์มาก
คิราระวัยนี้อะไรก็น่ารัก ทำอะไรก็คิคุ ดีอย่างไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ยอมเฉพาะคนที่รักจริงๆ
ขอขอบพระคุณมากๆๆเลยขอรับ
ไม่มีอะไรจะคอมเม้น รู้แต่ว่ามันส์ทุกตอนทั้งเนื้อเรื่องและความรู้เกี่ยวการต่อสู้กับท่วงท่าต่างๆของการต่อสู้ เป็นกำลังใจไห้นะขอรับผลิตเนื้อเรื่องมาไห้อ่านอีกเยอะๆๆนะขอรับ
คิราระน่ารักมาก ถ้าไม่ติดมีน้องพลอย ริวกะคงหลงรักมาก...แต่ยังไงก็จัดไปสักทีน๊ะริว
นูระริเอียงก็มา จะเป็นขบวนร้อยอสูรป่าวเนี่ย
ทุกตอนเลยจริงๆที่ผู้เขียนจะสอดแทรกความรู้วัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตลอด ผมว่าผู่เขียนเนี่ยต้องชอบอะไรในญี่ปุ่นแน่ๆ5555
ความสัมพันธ์คืบหน้าไปมากเเล้วคิราระเอาใจช่วย
เมื่อไหร่ริวกะกับคิราระจะได้กัน5555
รอมาหลายตอนแล้ว
แต่ฉากบู้นี่อย่างชอบเลย ถึงตอนนี้ไม่มีก็เถอะ555
คิราระสมแล้วที่ครอบครัวเลือกให้คู่กับริวกะ
ริวกะจะวางแผนอะไรน้ออ ::Hmmm::
ขอบคุณครับ..ริวกะออกแนวพระเอกยอดมนุษย์แต่เด็กเลย
ในอดีต คิราระมีความเป็นมนุษย์ทั่วไป รัก โกรธ หลง แต่ในเรื่องหลัก ดูเหมือนมีการปรับตัว อาจจะเรียนรู้ คงมีจุดเปลี่ยน ลุ้นในตอน 6
สำหรับเนื้อหาตอนนี้ เยอะจุใจ จริงๆ เพิ่มความรู้มากจริง
กลับไปครานี้คิราระต้องฝึกหนักขึ้นแน่จะได้ออกลุยกะริวกะ
คิราระเริ่มใกล้ชิดริวกะเข้าเรื่อยๆ ความฝันใกล้เป็นจริง
ความรักมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ::JubuJubu::
คิราระคนแนบสนิทของริวกะ
เหมือนได้ไปเดินเที่ยวที่นางาซากิเลยต้องเก็บเงินไปเที่ยวอีกแล้ว
ตัวตนของริว เริ่มยิ่งใหญ่ไปเรื่อยๆแล้วสมกับที่จะเป็นผู้นำรุ่นต่อไปจรืงๆ
คิราระชอบริวกะก็บอกเลยชักช้า
เราก็รอฉากซั่มอยุ่นะ มัวแต่อยากรู้โน่นนี้
อยุ่นั้นแหละลุ้นมาหลายตอนแล้วนะ...
งานใหญ่มาแบบนี้สนุกแน่ๆ มีเฮ
ชอบคิราระมากน่ารักเรียนรู้ได้เร็วรู้การะเทสะกล้าที่จะปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าไม่คิดทะเยอทะยานเกินตัว
จุดเริ่มต้นของสาวเมดนี่เศร้าไม่แพ้นางเอกเลยทีเดียว แต่สาวเมดกลับได้สวีทกับริวกะแถวโดนริวกะเปิดซิงอีก ยังงี้นางเอกต้องอิจฉาคิราระมากกว่า
ริวกะเริ่มหลงแล้ว น่าจะโดนเร็วๆนี้
คิราระ หัวไวมากเรียนไม่นานก็เก่งขึ้นมาเยอะเลย
คิราระเห็นความยิ่งใหญ่ในตัวของริวกะแล้วรักเลย ::Yes!::
คิราระใช้กำปั้นแห่งรักของการ์ป ภูต3ตนโดนเจ้าไปจุกสิครับ
ขอบคุณครับ เนื้อเรื่องตอนนี้คนอ่านจะตำยากอยู่หน่อยนะครับผมว่า
ริวกะเป็นคนช่างสังเกตุ และเข้าถึงลูกน้องทุกคน
แล้วเมื่อไหร่จะกลายเป็นสาวเมดละครับ อ่านๆ ไปไม่รู้สึกจะเป็นสาวเมดเลย
เมื่อไหร่คิราระจะเปิดเผยความในใจกลับริวกะสักทีน้อ ว่าแต่ตระกูลของริวกะนี่ เก่งมาทุกรุ่นเลยอย่างกับเป็นตระกูลผู้พิทักษ์เลย
ริวเริ่มแพ้ความสวยคิราระแล้ว
คิราระนี่ใจกล้าไม่เบารุกริวก่อนเลย
รอเปิดเผยใจทั้งคู่
ริวกะ บทจะเก่งก็เก่งแบบสุดๆ
บทจะเขิลๆ อายๆ ก็ดูเท่ไปอีกแบบ
ตอนนี้ผมชักจะสงสัยนายฟินิกซ์ ในเนื้อเรื่องหลักซะแล้วสิ ว่าจะเป็นพ่อที่แท้จริงของรุ้งพลอย
ขอนอกเรื่องครับ เพราะสังเกตุว่าภาพ GIF ที่แปะมา ท่าในการ์ตูนเหมือนในหนังคนแสดงเลย ทั้งๆที่การ์ตูนเป็นของญี่ปุ่น หนังที่ตัดมาลงเป็นหนังจีน แสดงว่าผู้กำกับคงชอบดูการ์ตูนญี่ปุ่น เลยcopyท่ามา ผมเดานะ หรือจะกลับข้างกัน คนเขียนการ์ตูนชอบดูหนังกำลังภายในจีน
ขนมน่าอร่อยมากๆ
ใช้นูราริเฮียงทำรัยเนี่ย อยากรู้แล้ว
อ่านแล้วฟินตามเลยถึงจะไม่มีฉากxxxก็ตาม
เมื่อไรนะคิราระถึงจะสารภาพรักกับริวกะเสียที รอลุ้นอยู่ จะได้มีความสุขด้วยกันทั้งคู่
คิราระ หัวไวมากเรียนไม่นานก็เก่งขึ้นมากเลยครับ
ได้เวลากวาด้างพวกที่ทำตัวไม่ดีแลเวสินะนี่
คิราระ เรียนรู้ไวมาก นายริว น่าจะปลื้มเลยนะเนี่ย
กวาดล้างคนชั่วให้สิ้นซาก นั่นคือภาระของนายริว ที่ต้องจัดการ
ต้นตระกูลของริวนี่สุดยอดจริงๆ ::Orz:: ลูกหลานรุ่นต่อมาถึงได้เก่งๆทั้งนั้น
คิราระน่าสงสารแต่อย่างน้อยก็ได้บอกรักริวไปแล้ว ::Crying::
ซวยแล้วแก๊งนี้ซวยแน่ๆ แต่ต้นตอนนี้ฮาเลย เสียภาพภูติมากอิ่มกันจนหมดสภาพ
เก่งมาตั้งแต่ปู่ สู่หลาน
มีปัณหาเข้ามาให้คิดให้เกอยูเรีอยๆเลยนะ
ตระกูลเก่าแก่ อินาซางิ
คิราระเริ่มกลายเป็นคนพิเศษแล้ว พยายามเข้า
คิราระต้องต่อสู้ใจของตนเอง เมื่อคิดได้ว่ารักไม่ต้องครอบครองคนเดียวก็จะเข้าใจในความรักที่มีครับ
ปัญหาใหญ่
เห็นภาพเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลย
side story ยังสนุกเลย ติดตามอ่านอยุ่ครับ
งานใหญ่มากด้วยทีนี้ กวาดล้างระดับประเทศเลย ไอเหมียวสีแดง 555 และขอบคุณสำหรับประวัติของงู กับอีกา คล้ายๆกับ กาษานาคาบ้านเราเลยท่าน อิอิ
::Glad::ตกลงวาคนบ้านนี้เก่งกันทั่งบ้านเลยหรอ
เจิมก่อน
เรียกได้ว่าเก๋ามาตั้งแต่ ปู่ของปู่ของปู่เลย
อยากลองจับนมคิรากะมั้ง ตั้ง36 สร้างตัวละครได้ดึงดูดมาก จินตนาการตามแล้วได้อารมณ์
กัปปะนี้ตัวโจ้กเลย
ขอต่อนะครับท่าน
คิราระสู้สู้เดี๋ยวริวกะก็รัก
ขบวนร้อยอสูรจะออกมาตามนูราริมั้ยอ่ะ อยากให้ออกมามากเลย
----
รอใน SS3 เลยครับ
คิราระแอบหอมแก้มริวกะไปหลายฟอดแล้วเนี่ย
เก่งทั้งบู๊ทั้งบุ๋นเลยพระเอกเรา
::Shy::มีท่านนูระด้วยอะ
ว่าจะขอบคุณผู้เขียนหลายรอบไม่ได้เขียนถึงสักที
ต้องขอบอกว่าผู้เขียนทำการบ้านมาอย่างหนัก ทั้งโครงเรื่อง ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น background ตัวเรื่องตัวละครรวมถึงวีดีโอภาพประกอบคุณมากๆครับ
เตรียมตัวเปิดสงครามกับแก็งแมวแดงแล้วตื่นเต้น
คิราระเหมือนมีปมด้อย รักแต่กะกลัวเค้าไม่รัก และเอาตัวเองไปเทียยบคนอื่นยิ่งด้อย
ได้รู้เรื่องในญี่ปุ่นเยอะเลย ::Thankyou::
เมื่อไหร่จะเผด็จศึกซะทีนะ
หลงรักคิราระ
คิราระแรงใช้ย่อย เห็นได้จากซีนกุ๊กกิ๊ก
แแอบเขิลแต่ก็แอบหอม...กิ๊วๆ. คนอ่านฟิลเลย
ใครหว่า ต้องคนนี้เท่านั้น
มีฉากแอ็คชั่นและฉากโรแมนติกเล็กๆให้ได้ลุ้นพอชุ่มฉ่ำหัวใจดี
สี่สหายนั่นก็ห่วงกินเกิ๊นน ยิ่งยามิ ยิ่งหนัก
ไปถล่มมันให้ราบคาบเลย เจ้ามังกรน้อย
คิราระ น่ารักมุ้งมิ้งอะไรอย่างนี้ เอฟซีใจละลายเลย
เอื้อยิ่งใหญ่มาตั้งแต่สมัยโบราณเลย้้้้้ชียวท่านริวกะ
มีแทรกเรื่องราว้้้กี่ยวกับสาว้้กลไว้เป็นความรู้ด้วยนะ จอบคุณมากครับ
ครบเครื่องความเป็นพระเอกเลย
นายน้อยริวกะ อย่าลืมนะครับ ขอ list ภูติทั้งหมดของ อิซานางิ หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
กลับไปจัด คิราระ เลย ตามสเต๊ป
ริวกะนี่เก่งตั้งแต่ยังเด็กเลยแล้วบทรักสมัยเด็กจะเก่งด้วยป่าวน้อ
คิราระเธอน่ารักเกินไปแล้ว
อ่านจบอยากกินอาหารญี่ปุ่นเลย แบบประเภทสตรีทฟู้ด ::Dribbling::
คิราระน่สงสารจังรักเค้าหมดใจแต่รู้ว่ายังงัยก็ไม่ใช้เบอร์หนึ่งในใจเธอ ::Crying::
คิราระอยู่เคียงข้างกับริวกะ ได้ทุกที่แน่ๆแบบนี้ เก่งแล้ว เหลือแต่บนเตียง
ได้ ปล่อยอารมณ์ออกไปแล้วนะคิราระ เหลือแต่ริวกะนั้น จะยอมรับตอนไหน
มีมือดีทุกขแนงเลยตระกูลนี้
กลับไปถล่มมันให้เละยกแก็งแมวเหมียวเลย
ชอบคุณเมตอะ แลดูใสๆ แบ๊วๆดี
ครอบเครื่องมากริวกะทั้งบริหาร วางแผน ชื้อใจคนบู้เสือผู้หญิงได้หมดจิงๆไ
เกือบเสียสาวบนหลังงูซะแล้ว555
บู้กันอีกแล้ว มีแนวน่ารักด้วย ขอสายดิ่งด้วยครับ
ชอบตอนนี้อ่ะมันมีทั้งความงุ๊งงิ๊ง ทั้งความเป็นมาและที่สำคัญรอการสารภาพของคิราระอยู่ด้วย
หลังงู..ก็จะเอา...
แบ็คของอาโคทาระคงยิ่งใหญ่ในวงราชการ หรือในวงการเมืองมาก
ขำคิราระปิดปากพี่ชายทั้งสามซัดไปตนละตูมหยุดได้ชะงัดเลย ตอนนี้คิราระปล่อยอัลติความน่ารักรัวๆ ไปเลย นายริวเริ่มใจไขว้เขวละ
คิราระซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองดีครับ ไม่มีนิสัยเซ้าซี้จนน่าลำคาญด้วย ภาพรวมก็น่ารักและเข้มแข็งดี
เมื่อไรจะได้กุ๊กกิ๊กกันนะ
อ่านไปนึกถึงภาพงานวัดญี่ปุ่นไป นึกถึงฉากไรเดอร์สู้กับลูกสมุนกีกี๊ไป แต่เดี๋ยวก่อน นี่มันร้อยอสูรนี่นา
คิราระน่ารักมากๆเลย เริ่มเป็นfcคิราระอีกคนละ
ตอนนี้อ่านแล้ว รู้สึกกุ๊กกิ๊กน่ารักจัง แล้วตกลงริวเปลืองตัวหรือคิจังเปลื้องตัว
ใช้นูระนิเฮียงเลยเรอะ สงสัยต้องเจอขบวนร้อยอสูร
คิราระลุยเลย พวกพี่บุญธรรมไม่ถ่ายทอดวิชาให้น้องบุญธรรมไว้ป้องกันตัวบ้างเลยเหรอ
ภูตินูระก็มาด้วย รวมญาติจริงๆ
สุดยอดมากส่งสายไปทำลายฝ่ายตรงข้าม
ริวกะคุงหื่นมาก
น่ารักกันจิงคู่พระนางแต่ดูเหมือนริวจะมีอะไรในใจนะ
ทบทวนเรื่องราวของริวกะกับคิราระ
เก่งจริงๆ
คิระน่ารักมาก.....ตัวแทนในแบบสาวญี่ปุ่นเลย
ใหญ่ๆแค่ไหนนะ
ริวกะคงต้องกวาดล้างขบวนการอย่างถอนรากถอนโคนซะแล้ว ขณะเดียวกันก็อยากให้คิราระเปิดเผยความในใจให้ริวกะรู้ว่าตัวเอง"รัก"
สนุกครับมีทั้งภูตที่เรียกปุ๊บมาปั้บเลย
::Hmmm::
แก้มช้ำจากการโดนหอมแก้ม เป็นใครก็ชอบนะ
เมียคนโตกำลังเทรนว่าที่เมียเมดอยู่
ริวกะโดนหอมแก้มไปหลายทีงานนี้ต้องเอาคืนบ้างนะเดี๋ยวเสียเปรียบ คิราระลวนลามริวกะทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจแบบนี้ริวกะจะทนไม่ไหวแล้วทำไงละ แต่คิราระก็น่ารักจริง กัปปะนี่ก็ใช้คำพูดตรงเกิ๊น
น้นไงแมวเหมียวเดี๋บวก็เรียบร้อยทั้งหมดแก๊ง
เรียกใช้ นูระริเฮียง แล้ว ริคุโอะ จะมาแจมไหม
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ คำว่าทำตามหัวใจของเก็นโซ น่าจะหมายถึงว่าให้คิราระอย่าหยุดรักริว และให้เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เพราะริวรักผู้หญิงของเขาทุกคนเหมือนกัน
คิราระแอบหอมแก้มริวกะไปหลายฟอดแล้วเนี่ย
เปิดโลกนายน้อยไปอีกขั้นแล้ว เหลือแบบตัวต่อตัวในห้องสินะ
...นูระก็มา...
เมื่อหลงรักแล้วก็ต้องทำใจ
ริวกะจะเก่งเกินไปแล้วนะ
ร้อยอสูรมาแล้ว