ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 8 ] ตอนที่ 123 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, พฤษภาคม 27, 2023, 11:11:47 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง




สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ



★★★★★★★★★★★


แนะนำสาวๆครับ


เจ๊หมิว พี่สาวคนสวยของโผมมมม อิมเมจ มารอน นัตสึกิ







★★★★★★★★★★★


เจ๊เตยครับ อิมเมจ อาคาริ มินานิ






★★★★★★★★★★★


ความเดิมตอนที่แล้ว


ในโรงแรมนั้น ผมกับพี่สาวทั้งสองคน

ก็ต่างแสดงลีลารักใส่กันโดยที่ไม่ต้องมีอะไรกั๊ก

จนเมื่อุถึงเวลาพวกเราก็เชคเอ๊าท์และออกมาครับ

จนกระทั้งมาถึงห้างตามเวลาที่นัดช่างทำผมไว้

พอจะลงจากรถแล้วเจ๊หมิวก็สะกิดๆ แล้วบอกว่า

พอไปส่งเตยแล้ว ไปหาที่เงียบๆคุยกัน


★★★★★★★★★★★

นายโทนไดอารี่ 123

หืม ไปหาที่เงียบๆคุยกันเหรอครับ เจ๊หมิวมองหน้าแล้วไม่พูดอะไร แต่สายตานี่คือรุู้เลยล่ะครับว่าจะคุยเรื่องอะไรกัน พอเจ๊หมิวลงไป ผมก็ลงตาม หนังสือบางเล่มเขาบอกมีผลวิจัยครับว่าหลังจากมีเพศสัมพันธ์กันจะทำให้สาวๆนั้นอยากจะอ้อนขึ้นมามากกว่าปกติ และนั่นไงจริงๆ เจ๊เตยดูอ้อนจริงๆครับ แต่อ้อนเจ๊หมิวนะไม่ใช่อ้อนผม อ่ะเฮื้อออ ผมถือกระเป๋าให้เจ๊สองคนครับ แน่นอนล่ะสวยแบบนี้ คนก็มองตั้งแต่ลานจอดรถแล้วครับ


ผมเดินตามหลังพวกเธอสองคน ทำให้ผมเห็นว่าปฏิกิริยาของคนที่อยู่ตรงหน้านั่นเป็นยังไง ทั้งผู้ชาย ทั้งผู้หญิง มองเจ๊สองคนแบบชะงักเลย โดยเฉพาะหนุ่มๆ นี่มองแบบหันเลย ผมก็แอบยิ้มในใจ อยากมอง มองไปเลยเฟ้ย แต่เมื่อกี้ตูพึ่งจะเล่นจ้ำจี้ ๆ ๆ ๆ กันมาเฟ้ย



เจ๊หมิวหันมามองผมนะ แล้วถามว่าจะเดินตามอีกนานป่ะ มาเดินด้วยกันดิ่ ผมก็เอ่อออ จนเจ๊เตยต้องมาลากผมไปเดินด้วยกันครับ เจ๊หมิวซ้าย เจ๊เตยขวา เดินไปด้วยกันแบบนั้น มาถึงร้านกระเป๋าแบรนด์เนม ร้านนึงเจ๊หมิวเดินเข้าไปเลยครับ ลากผมเข้าไปด้วย สบายบอกเลยครับ มาบ่อยเพราะโดนลากครับ


พนักงานเดินมายกมือไหว้ ทักทายสวัสดีค่ะคุณหมิว ซึ่งผมไม่แปลกใจครับเจ๊มาร้านนี้ประจำ และเขาก็ยังทักอีกว่าไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะคุณโทน คุณเตย สบายดีนะคะ เจ๊เตยก็บอกสบายดีค่าาา ผมก็คร๊าบ... สบายดีครับ แล้วเจ๊หมิวกับเจ๊เตยก็เดินไปส่องกระเป๋ากันครับ เอ๋าาา  อะไรนั่น


โดนทิ้งครับ ผมก็เลยต้องเดินดู ในส่วนที่สามารถเดินได้เท่านั้น   เอาตรงๆถ้าไม่ได้มากับเจ๊หมิว ผมคงไม่ได้เข้ามาเหยียบร้านนี่แน่ๆล่ะครับ ผมนั่งรอจนเจ๊หมิวกับเจ๊เตยดูจนหนำใจ บอกตรงๆว่าถ้าไม่มีนัดตัดผม เจ๊สองคนคงเดินนานกว่านี้ เราสามคนเดินออกมา สายตาคนก็มองตามปกติแหละครับ



เจ๊หมิวบอก เดี๋ยวไปที่ร้านตัดผมก่อน แล้วเราก็เดินไปที่ร้านตัดผมครับ มาถึงพนักงานก็มาต้อนรับเลยครับ บริการก็ตามมาตรฐานร้านดังครับ เจ๊หมิวก็แจ้งว่าจองไว้นู่น นี่ นั่น พนักงานต้อนรับก็ดูคิวนะ.. แล้วบอกค่ะนั่งรอสักครู่ค่ะคุณหมิว.. เอ่อ ตัดน้องผู้ชายนะคะ เจ๊หมิวพยักหน้า แล้วก็หาที่นั่ง



แต่ด้วยความคล่องและชิลด์ของทั้งสองคนแสดงออกมา แบบนี้คงมาบ่อยแน่ๆ ผมก็นั่งรอนะ เจ๊เตยหยิบนิตยสารมาให้เลือกทรงผม เอ่อ เอาตรงๆนะครับ นอกจากทรงพี่ปั๊ป เวอร์ชั่น เข้าป่าที่ผมเคยตัด มันก็จะมีทรง ซาสึเกะเท่านั้นแหละครับ ที่ผมตัดประจำกับช่างประจำ ใครนึกไม่ออกว่าทรงซาสึเกะ เป็นแบบไหนก็ตามภาพครับ





นั่นเพราะหลังจากทำงานกับคุณท่านหลังจบ ปี2 ผมก็เริ่มสำนึกว่าการตัดรากไทยแบบพี่ปั๊ป โอเตโต้ อัลบั้ม Go On  มันไม่น่าจะสะดวก แล้วพอได้ตัดสั้นๆ มันก็ดูแลง่ายกว่า แต่ด้วยความอยากเท่ส์บ้างก็ขอจอนยาวๆไว้หน่อย ก็เลยเป็นทรงซาสะเกะนี่แหละครับ จนปี4 นั่นแหละครับที่มาไว้ทรงพี่ปั๊ปอีกรอบ... แต่ว่าพอหลังเรียนจบ ผมก็ทำงานทันทีบอกตรงๆว่า ปีแรกของการทำงาน ผมแทบไม่ได้ตามแฟชั่นเลย แค่ทำงานกลับมาวันนึงก็เพลียจัดๆแล้ว ไหนจะต้องเล่นเกมส์หาเงินอีกล่ะ ไม่มีเวลาตามแฟชั่นเลยครับ



คือเห็นนะว่าคนดังเขาทำผมทรงใหม่ๆ แต่ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร  ผมมองนิตยสารไป มองกำแพงร้านไปด้วย มีรูปดาราคนดังอยู่เยอะเลย ถ่ายรูปกับช่างในร้าน แล้วแปปนึง... อ้าว อ้าว อ้าว มีคนดังคนนึงเดินเข้ามาในร้าน ผมก็อ้าว มันก็อ้าว.. ไอ้คิง...  มันมองผม ผมก็มองมัน มันเปิดสกิลปากก่อนเลย อ้าวเจอโจทก์ว่ะ ผมก็อ้าว เจอกระสอบทรายว่ะ มันบอกว่าต่อให้มึงต่อยก่อนเลย แล้วพากูส่งโรง'บาลด้วย



ผมก็ขำกันเลย แล้วก็ลุกไปทักทายมัน ลูกเสือเขาไม่จับมือขวาครับ ยื่นมือซ้ายมาระดับหน้าท้องและฟาดกันดังเผี๊ยะ แล้วดังมาแท็คไหล่กันเบาๆ แต่มันก็บอกโอยไหล่กูหลุดแล้วมั้ง เพื่อนกันไม่ต้องพูดกันเยอะครับ แต่ผมดีใจนะที่มันทักผมก่อน ใน msn ผมอาจจะด่ากับมัน คุยกับมันบ่อยๆ ตามประสาเพื่อน


แต่ในโลกความเป็นจริง ตอนนี้มันเป็นดารา เป็นคนดัง ผมก็ประหม่าที่จะทักมันจริงๆครับ โชคดีจริงๆที่มันทักผมก่อน มันก็ถามนะมาทำไรวะ ผมก็มองไปรอบๆร้าน แล้วบอกหาข้าวกินว่ะพอดีหิว มันก็กำหมัดขึ้นมาแล้วบอก พอดีเลยกูอยากเสิร์ฟหมัดให้มึงอยู่พอดี


ผมก็เลยกำหมัดขึ้นมาบ้าง  มันบอก โอ่ยยกูล้อเล่นอย่าต่อยกูเลย ผมก็ฮากับมันนั่นแหละ จนคนในร้านก็มองนะ ผมก็สวัสดีผจก ส่วนตัวของมันซึ่งโอเคพอจะรู้จักกันอยู่พี่เขาก็ว๊ายน้องโทนไม่เจอกันนานนะเนี่ย สบายดีนะ ผมก็ไหว้สวัสดีแล้วบอกสบายดีครับ ส่วนเจ๊หมิวนั้นรู้จักแน่ๆเพราะเคยติดต่องานกันอยู่


เจ๊หมิว เจ๊เตยก็ลุก ทักทายเหมือนกัน ผจก ของไอ้คิงก็รับไหว้สวยๆเลยครับ แล้วบอกว่าไงน้องหมิวเปลี่ยนใจหรือยัง จะมาเป็นนางแบบให้พี่มั้ยยยย พี่เขาขาลากเสียงยาวๆเลย เจ๊หมิวบอก โหยยย ขอบคุณที่ยังไม่ลืมหมิวค่ะ แต่หมิวกลัวมือไม่ถึง พี่เขาก็บอก โอ๋ยย อกหักอีกแล้ว



ไอ้คิงก็เดินใกล้ๆผมนะแล้วเอาไหล่ชนเบาๆ แล้วบอกวันนี้มึงควงพี่สาวสองคนมาเดินห้างเลยเหรอ ผมบอกกูมาตัดผมย้อมผมเว้ย แล้วมึงล่ะ มันก็บอกผมว่าเออเหมือนมึงนี่แหละ ไอ้ห่าไม่บอกว่าจะมา กูจะได้บอกพี่เขาว่ามีเพื่อนมาแล้ว ผมก็บอกว่าก็หน้าที่เขาคือดูแลมึง สภาพงี้มึงยังมีงานค้างอ่ะดิ่ ไม่งั้นพี่เขาคงไม่ตามดูแล



มันก็บอกเออไง วันนี้ค่ำๆมีงานอีก ผมถามนะว่า มึงไหวป่ะเนี่ยไปงานพรุ่งนี้ มันบอกเออกูไหว คือระหว่างที่ผมคุยกับไอ้คิง พี่ผู้จัดการเขาก็คุยกับเจ๊หมิวเจ๊เตย บรรยากาศรอบๆก็อบอวนไปด้วยความงุนงง คือใครที่เกิดยุคผมจะเข้าใจว่าไอ้เมื่อ 7-8-9 ปีก่อนเนี่ย โซเชียลมันยังไม่บูม อยู่ในช่วงตั้งไข่


เพราะงั้นเนี่ยดาราคนไหน เป็นเพื่อนกับใครถ้าไม่ได้ติดตามแบบจริงจังๆ ก็อาจจะงงๆล่ะครับว่าไอ้นี่เป็นใคร ทำไมยืนคุยกับดารา นายแบบคนนั้นด้วยท่าทีที่สนิทมาก ก็คงจะเหมือนตัวผมเอง ที่ฟังเพลงของทั้ง big ass และ body slam แต่ไม่รู้ว่าพวกเขารู้จักกันจริงๆจังๆ



จนได้ฟังเพลง นาทีสุดท้าย ตอนคอนเสิร์ตที่ธรรมศาตร์ ที่พี่ออฟ ขึ้นไปเล่นกีต้าร์ให้ และกระจ่างแจ้งตอนคอนเสิร์ต Big body นั่นแหละครับ อ่ะกลับมาต่อ ผมก็ถามว่ามึงมีงานตอสชนเย็นเหรอ ไหวเปล่าพรุ่งนี้ มันบอกไปได้ๆ ถ่ายแปปเดียว ผมก็บอกเออๆ ผมก็บอกว่าตัดก่อนกูก็ได้นะ จะได้มีเวลาพักเยอะขึ้นหน่อย



ผมหันไปหาพี่ ผจก นะ แล้วบอกเขาว่าให้ไอ้คิงตัดก่อนผมเลยก็ได้ครับ พี่เขาก็บอกขอบใจนะโทน ไอ้คิงมันก็มองหน้าผม ผมก็หวดไหล่มันไปเบาๆทีนึง แล้วบอกเฮ้ยกูไม่ได้ไปไหน มึงตัดก่อนเลยกูยังไงก็ได้สบายๆ แต่ว่า.. ความเท่ส์ของผมหายไปทันที เมื่อพนักงานประชาสัมพันธ์เดินมาบอกว่า คุณคิงคะ เชิญค่ะ อ้าว.. มันจองไว้ก่อนผมเหรอเนี่ย


มันตบไหล่ผมแล้วบอกว่า อ่อนว่ะ เอ้าไอ้เวน แล้วคิวของผมก็มาถึงครับ ต่างคนก็ต่างแยกกันไปตัดผม แต่ของผมจะนานหน่อย เพราะมีขั้นตอนการย้อมผมด้วย เจ๊หมิวกับเจ๊เตยพวกเธอขอตัวไปเดินเล่นกันสองคน จนไอ้คิงตัดผมเสร็จ มันก็เดินมาสะกิดๆบอก เฮ้ยไปก่อนนะ จะไปกี่โมงโทรบอกด้วย หรือจะมาที่บ้านก่อน



ผมก็บอกแยกกันไปดีแล้ว เจอกันหน้าโรงเรียนเลยดีกว่า มันบอกเออๆค่อยคุยกัน พี่ผจก บอกเจ๊ไปก่อนน๊า ผมก็ครับพี่ สองคนนั้นเดินไปนะ ช่างตัดผมยังคงทำตามหน้าที่ครับ


เขานิ่งมากนะทั้งๆที่ไอ้คิงมาอยู่ใกล้ๆ อาจจะเพราะเจอดารามาเยอะมั้งครับ เลยไม่ค่อยตื่นเต้นหรือไม่ก็เพราะความเป็นมืออาชีพนั่นแหละ หลังจากผ่านกระบวนการ ตัด ย้อม บำรุง นู่น นี่ นั่น  ก็เข้าทรงเรียบร้อย.... พอจะจ่ายเงิน เขาก็แจ้งว่าทางคุณหมิวจัดการเรียบร้อยแล้ว... เอ่อ...  ครับๆ


ให้ผู้หญิงมาจ่ายเงินให้แบบนี้มันแปลกๆแฮะ ต่อให้จะเป็นเจ๊หมิวที่รวยจัดๆ แบบรวยโคตรๆก็เถอะ ผมโทรหาเจ๊หมิวนะ ถามว่าอยู่ไหน ก็แน่นอนครับ อยู่ร้านเครื่องสำอาง ผมก็ถามว่าร้านไหนครับเจ๊หมิว เจ๊ก็ตอบกลับมาว่าร้านเครื่องสำอางไง อื้อหือ... แล้วร้านไหนล่ะ ผมนี่กุมขมับเลยครับ



คำว่าเครื่องสำอางมันกว้างมากเลยนะ จะสโคปให้มันแคบๆหน่อยก็ไม่ได้ ร้านลิปสติก ร้านน้ำหอม ร้านแป้ง ... เอาล่ะใช้ท่าไม้ตายครับ ผมก็บอกเอ้อดีเลย ลิปสติกของเจ๊จะหมดพอดี ผมแวะไปซื้อด้วยเลยดีกว่า เจ๊หมิวโวยวายกลับมาเลยครับ แป้งพัพจะหมดไม่ใช่ลิปสติก นี่สนใจเจ๊จริงเปล่าเนี่ยไอ้ลิงบ้า



คือผมไม่ต้องรอให้พูดจบประโยคครับ แค่บอกว่าแป้งพัพจะหมด ผมก็ตรงดิ่งไปร้านแป้งพัพเลยครับ เพราะมีอยู่ร้านเดียวที่เจ๊หมิวชอบไปเลือกซื้อครับ ผมรีบเดินไปเลย แต่พอไปถึงแล้วเจ๊หมิวกับเจ๊เตยก็นั่งสวยๆ รอผมอยู่แล้ว.... เจ๊หมิวมองนาฬิกาที่ข้อมือของเธอแล้วบอกว่าอื้ม มาเร็วกว่าที่คิดนะ



ผมก็ฮึ๊ คืออะไร ไปๆมาๆ เจ๊หมิวลุกขึ้นมาหาผมแล้วพูดว่า จะหลอกถามว่าอยู่ตรงไหนล่ะสิ่ แต่ก็ถือว่าเก่งขึ้นนะ แต่แค่นิดเดียวนะ อ้าวสรุป เจ๊หมิวรู้อยู่แล้วครับว่าผมจะหลอกถาม และการมาที่นี่เหมือนเจ๊หมิวเธอตั้งใจใบ้ให้ผมมาครับ โด่วเอ๊ยยย เจ๊เตยบอกว๊ายๆ  อีโทนอ่อนอ่ะ.. โหยย อะไรครับเนี่ย



แล้วเจ๊หมิวก็ยื่นบรรดาถุงกระดาษให้แล้วบอกถือให้ด้วยเลย อื้อหือ ทำไมถุงเยอะแยะแบบนี้ล่ะเนี่ย !!!  เจ๊เตยถามไปร้านมือถือเหรอหมิว เจ๊หมิวบอกใช่ แล้วเราก็เดินไปกัน ระหว่างทางเจ๊เตยก็ถามนะว่าซื้อBB เหรอ


เจ๊หมิวบอกอื้ม พี่แท-โอ เขาอยากให้ใช้รับส่งข้อมูลกันเร็วขึ้นน่ะ แล้วไอ้ลิงบ้านี่ก็ใช้ BB จนถนัดแล้วด้วยจะได้ไม่ต้องจูน ต้องปรับอะไร เจ๊เตยก็บอกนะว่า แต่ไอโฟนก็ดีเหมือนกันนะหมิว ไม่ต้อง @พิน ให้ยุ่งยากด้วย เค้าว่าจะเปลี่ยนเป็นไอโฟนอ่ะ



ผมก็ฮึ๊ !!! อิหยังวะ อะไรคือไอโฟน รู้จักแต่ ไอ-โมบาย... แต่เจ๊หมิวบอกว่า ถ้าเห็นราคาล่ะก็ ไอ้ลิงบ้านี่จะร้องไม่เอาๆอ่ะดิ่ แล้วตอนนี้คนยังใช้ BB กันเยอะอยู่ ติดต่อสื่อสารอะไรก็คงต้อง BB ไปก่อนแหละ ผมก็เดินไป ฟังไปนะ ยังงงๆอยู่ว่าอะไรคือไอโฟนวะน่ะ แล้วมันสามารถเล่น internet นอกบ้านได้เหรอ....



ช่างมันเถอะ ช่างมันเถอะ จนมาถึงร้านโทรศัพท์ครับ... เอ่อ... ไม่เหมือนที่บ้านอ่ะ คือคุณผู้อ่านเข้าใจมั้ยว่า ชีวิตเด็กชาวสวนแบบผม มือถือเครื่องแรกที่แม่ซื้อให้ แม่ก็ซื้อจากร้านขายมือถือในตลาดตลาดที่บ้านจะมีความหลากหลาก โลว์เทค ไฮเทค ผสมกันหมด ตั้งแน่ 3310 โมโต ไอโมบาย แล้วก็ BB แต่ว่ามี่นี่ทำไมมันดูล้ำไปหมดเลย สวยๆทั้งนั้น รูปทรงก็ดูไฮเทคมากๆเลยวุ๊ยยย คือมันไม่คุ้นชินอ่ะครับ หน้าจอแต่ละเครื่องกว้างมากกกกก


ขนาดว่าใช้ BB มาจนชินนะเนี่ย ยังแบบตะลึงอยู่เลย แต่ว่าตอนนั้น เจ๊เตยสะกิดๆ ๆ  แล้วพูดว่าลองเดินไปดู mbk ไหม เจ๊หมิวหันมองเจ๊เตยนะ แล้วถามจะไปเหรอ เจ๊เตยบอกอื้อๆๆ เพื่อนเค๊าเปิดร้านขายอยู่อ่ะ อย่างน้อยก็แนะนำได้หลายๆรุ่นอ่ะ ถ้าเป็นBB



เพราะงั้นเรา 3 คนจะก็เดินไป MBK ครับ ดีที่วันนี้อากาศไม่ร้อนมาก ตอนแรกผมก็ถามว่านั่งรถไปมั้ย เจ๊หมิวบอกว่าเดินไปก็ได้ ถ้าเอารถออกก็กินเวลาอีก ติดตั้งแต่ออกจากห้าง แล้วไหนจะเซ็นทรัลเวิร์ล ยิ่งตรงประตูน้ำ แพลทตินั่มอีกล่ะ เพราะงั้นเลยเดินกันไปดีกว่า แต่ยังไงก็ต้องเอาของไปเก็บที่รถก่อนครับ อื้อหือเดินแปปเดียว ซื้ออะไรเยอะขนาดนี้เนี่ยยยยย พอเก็บของแล้วก็เดินไป MBK ครับไม่ใกล้ไม่ไกลมาก



แดดไม่ค่อยมีด้วยวันนี้ ก็เดินไปคุยไปบ้างครับ หนุ่มๆก็มองตามเจ๊หมิวกับเจ๊เตยแทบทุกคนเลยล่ะ ผมยืนหลังผมเห็นอยู่ แต่ว่าเจ๊เตยก็พยายามดึงมือให้ผมไปด้วย แต่ทุกท่านที่เคยไปสยามก็คงจะรู้ว่าถ้าเดินเรียงแถว3 มันขวางทางครับ ผมก็เลยเดินตามหลังนั่นแหละ แล้วเจ๊เตยก็เดินนำไปเลยล่ะครับ จนมาถึงร้านของเพื่อนเจ๊เตย เอ่อ ร้านใหญ่ชิหายเลยล่ะครับ ดูมีคลาสมากๆด้วย


เจ๊เตยก็ยืนมอง ๆ ๆ ๆ แล้วพอผู้ชายคนที่ดูตัวท้วมๆหน่อยมองมาทางนี้ เขาก็รีบยกมือโบกๆ แล้วบอกเฮ้ยยย มาไง เจ๊เตยก็โบกมือโบก ๆ ๆ แล้วรีบเดินเข้าไปหา คือร้านนี้ดูครบวงจรเลยครับ มีหน้าร้าน มีโซนขาย มีโซนซ่อมด้วย 2-3 ล็อคติดกัน แต่ป้ายชื่อร้านยาวๆ ก็คงเป็นร้านเดียวกัน เจ๊เตยเข้าไปแล้วบอกสบายดีป่ะแก พี่เขาก็บอกเออสบายๆดี แล้วนี่มาได้ไง พอเขาหันมาเจอเจ๊หมิว เขาก็บอกเอ้าหมิววว สบายดีเปล่า เจ๊หมิวบอกสบายดีเหมือนกัน เจ๊เตยก็เลยบอกว่า พาน้องมาซื้อมือถือใหม่อ่ะ พี่เขาก็หันมามองผมแล้วถามว่าเลือกรุ่นไว้ยัง



เจ๊เตยก็บอกว่าจริงๆ โดนกำหนดสเป๊กมาว่าต้องเป็น BB อ่ะ พี่เขาก็บอกอ๋อได้ ๆ ๆ งั้นมานี่มา โห เหมือน VIP เลยครับ เจ้าของร้านเขาก็หยิบ BB มาให้ผม เขาบอกว่าส่วนมากผู้ชายจะชอบใช้แบบลูกกลิ้งมากกว่าแบบทัชสกรีนนะ แต่ผมบอกว่าเอ่อ แต่ตอนนี้ที่ใช้อยู่มันเป็นแบบทัชน่ะครับ มันชินมือไปแล้ว พี่เขาก็มองๆ แบบงงๆ ผมก็บอกอ่อมันเป็นของส่วนกลางน่ะครับของแผนก พี่เขาบอกอ่ออื้มๆ ถ้าเคยใช้แบบสัมผัสแล้วก็ใช้แบบเดิมแล้วกัน แต่ว่าใช้เองก็ใช้รุ่นดีๆไปเลย



พี่เขาหันมาถามเจ๊เตยว่าแล้ว งบล่ะวางไว้ที่เท่าไร เจ๊เตยก็หันมามองผมนะ แต่เจ๊หมิวก็บอกว่าเอารุ่นที่เสถียรที่สุดมาอ่ะ พี่เขาก็บอกหืมเหรอ ทำไมไม่ดู ไอโฟนไว้ด้วยล่ะ กำลังมาเลยนะไอโฟนเนี่ย ออกมา 2รุ่นละ  ผมก็งงนะตอนนั้นว่าอะไรวะคือไอโฟน แต่เจ๊เตยบอกว่าตอนนี้ส่วนมากการติดต่องานของโทนทำผ่าน BB อ่ะ เพราะงั้น BB อ่ะแหละ


เพื่อนเจ๊เตยบอกโอเคได้ แล้วเขาก็ไปหยิบ BB มา 3-4 เครื่องแล้วก็พรีเซ๊นต์ว่าอะไรดียังไง จนได้มาเครื่องนึงครับเป็นเครื่องที่เหมือนกันเครื่องที่ผมถืออยู่ แต่มันเสถียรกว่ามากๆเลย เจ๊หมิวก็หยิบมาแล้วให้ผม ผมก็จับ ๆ ๆ อื้มมันคุ้นมือดี ที่สำคัญปุ่มกด. . . อื้มเหมือนกันๆ ตำแหน่งเดียวกัน เอาล่ะผมก็เลยตัดสินใจเอาเครื่องนี้แหละครับ ผมมองที่เจ๊หมิวเจ๊ก็พยักหน้าแหงนขึ้นเหมือนตอบกลับว่า โอเค



แล้วพี่เจ้าของร้านก็จัดการให้เลย ก็มีส่วนลดนิดหน่อยครับเจ๊เตยพามาทั้งที แต่สิ่งที่แปลกคือผมไม่คิดจะจับ จะเล่น BB เครื่องใหม่เลยนะ ผมก็ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายข้างของผมนั่นแหละ เจ๊เตยยังถามเลยว่าไม่คิดจะเอามาเล่นหน่อยเหรอ ผมบอกว่ากลับบ้านก่อนครับค่อยเล่น อืมมม จะบ่ายโมงแล้ว ผมก็ถามเจ๊เตย เจ๊หมิวหิวข้าวมั้ยไปหาอะไรกินกัน เจ๊เตยบอกอื้อไป ๆ ๆ เจ๊หมิวก็พยักหน้าครับ


พอซื้อมือถือเสร็จ คราวนี้ก็ได้เวลาตามใจเจ๊สองคนแล้วครับ ผมก็ถามว่าเจ๊สองคนอยากไปไหนต่อครับ.... เจ๊เตยบอกซื้อเสื่อผ้า... นั่นไงล่ะ แต่เอาเถอะยอมตรับยอม เจ๊หมิวก็บอกยังไงก็ต้อกลับพารากอนป่ะ รถอยู่ตรงนั้น ผมก็คร๊าบ ๆ ๆ ตามใจเจ๊เลย  เราเดินกลับมาที่สยามอีกครั้งครับ



อากาศก็อื้อหืออออ ขนาดไม่ได้ตากแดดนะเนี่ย... เจ๊เตยกับเจ๊หมิวรีบเดินเข้าห้างเลยล่ะครับ ต้องการความเย็นด่วนๆเลย ตอนนี้ก็บ่ายแลวยังไม่ได้กินอะไรกันเลย  เจ๊เตยก็พูดขึ้นมาว่าซิสเลอร์ป่ะ เค้าอยากกินซุปข้าวโพดอ่ะ ก็แน่นอนครับเจ๊เตยเอ่ยปากเองแบบนี้ ยังไงก็ได้


ผมเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการกินผักด้วย.. ยังไงซะ ร้านนี้มันก็ไม่มีกระเจี๊ยบอยู่แล้ว  สั่งสเต๊กกันอ่ะแหละครับ ผมชอบไก่ Spicy กับ มันบดชีสของที่นี่นะ ชอบความหลากหลายและกรอบของผักหลายๆอย่าง ผักกาดแก้วกับพริกหยวกนี่แหละทีเด็ด จริงๆก็มีอีกหลายๆอย่างแหละครับ แต่ว่าที่ชอบจริงๆคือ มันมีซอสหลากหลาย


เอาจริงๆ เด็กบ้านสวนแบบผม เวลาพูดถึงสลัดก็ต้องตามตลาดนัดครับ และตามตลาดนัดสมัยก่อนมันตายตัวอยู่แล้วว่าสลัดมันคือมายองเนสอย่างเดียว แล้วมายองเนสมันก็ไม่ใช่ว่าจะอร่อยทุกยี่ก้อ สมัยนั้นใส่ถุงเล็กๆมัด ๆ ๆ ครับ ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ใส่ถ้วยเล็กๆดูสวยงาม ซึ่งเพราะงั้นแหละครับการมากินซิสเลอร์มันเลยตื่นตาตื่นใจเป็นธรรมดา



เราสั่งอาหารมา ผมก็เดินไปตักสลัดก่อนเลย และไม่ลืมซุปข้าวโพด ซุปเห็ด อร่อยจริงๆนั่นแหละครับ พวกเรากินไปก็คุยกันไป แต่ 70% จะเป็นการที่เจ๊หมิวกับเจ๊เตยคุยกันมากกว่า ก็พวกเรื่องเสื้อผ้า แฟชั่นนั่นแหละครับ เจ๊เตยถามนะว่า ทำไมมีแต่ชุดเดิมๆ ซื้อเสื้อผ้าใหม่มั่งดิ่ เนี่ยเดี๋ยวไปเลย ผมก็สะดุ้งเลยครับ.... เอ่อ จะบอกว่าไม่มีเงินก็ไม่ใช่ แต่ก็อยากเก็บเงินไว้


เพราะใกล้ที่จะพาดาวไปทะเลแล้ว แต่ว่าเจ๊หมิวเธอมองหน้าผมแล้วพูดว่า บัตรเครดิตก็มีติดตัวไม่ใช่เหรอ ไปซื้อเลยไป ผมก็สะดุ้งหนักเลยแล้วบอกไม่มี ผมมีบัตรเครดิตที่ไหนล่ะเจ๊หมิว เจ๊หมิวก็มอง.. แล้วถาผม แน่ใจ ?    พอเจ๊ถามมาเอ้ออออ ผมนึกออกทันทีครับ บัตรเครดิตของเจ๊หมิวอยู่ที่ผมนี่นา


ผมเคี้ยวๆ แล้วเอื้อมหยิบกระเป๋าตังส์ และเปิดหยิบบัตรเครดิตให้เจ๊หมิวเลย ผมบอกนี่ไงได้จังหวะละคืนเลยยย เจ๊เตยมอง ๆ ๆ  ผมก็เอ้อใช่.... มีอีกใบ ผมก็หยิบการ์ดสีดำๆ ให้เจ๊หมิวแล้วบอกนี่เลยยย ฝากคืนพี่แท-โอ ด้วยเลยย พอผมหยิบการ์ดมาเท่านั้นแหละ เจ๊เตยหน้าเหวอเลย เจ๊เตยเคี้ยวๆให้หมดคำ แล้วพูด


" อีโทน ไปเอาบัตรนี้มาจากไหน "


ผมก็บอกไปว่าพี่แท-โอ ให้มาครับ เจ๊เตยหน้าเหวอ แล้วมองเจ๊หมิวเลย เจ๊หมิวพยักหน้าเพื่อยืนยันว่านั่นคือเรื่องจริง เจ๊เตยบอกรู้มั้ยเนี่ยอีโทนว่างบัตรนี้มันหมายความว่าไง ผมก็บอกไปว่าไม่จำกัดวงเงิน เจ๊เตยบอกใช่ เจ๊เตยพูดแบบเหวอๆนิดๆแต่น่ารักจังเล๊ย


เจ๊เตยบอกโอเครู้ว่า รู้จักกับคุณแท-โอ แต่ว่านี่รู้จักกันระกับไหนเนี่ย เขาถึงให้... การ์ดมาถือเนี่ย... ผมก็แฮะ ๆ ๆ  ซดซุปเห็นต่อไป เจ๊หมิวก็บอกน้องชายสุดที่รักล่ะม๊างง หมั่นใส้ เจ๊หมิวพูดแล้วก็กินต่อ เจ๊เตยบอกเดี๋ยวววว ไม่ใช่ว่าแค่พี่แมนเหรอหมิว เค้างงแล้วนะ เจ๊หมิวเคี้ยวอย่างใจเย็นแล้วบอกว่า อ่ะฟังนะเตยลำดับมันเป็นแบบนี้


เจ๊หมิวกำมือแล้วชูนิ้วโป้งขึ้นมาแล้วพูดว่า พี่แท-โอ แล้วชูนิ้วชี้และพูดพี่แมน และเด้งนิ้วกลางมาแล้วบอกไอ้ลิงบ้า เจ๊หมิวชูนิ้วมา โป้ง ชี้ กลาง ให้เจ๊เตยฟังแล้วบอกว่า หลักๆจะสามคนนี้ พี่แท-โอ จะเป็นคนสั่งคนสอนทั้งพี่แทนและไอ้ลิงบ้านี่ แต่พี่แท-โอ จะห่วงไอ้ลิงบ้านี้มากกว่า เพราะยังอ๊องๆ ยังไม่เป็นงานอะไรเลย


แต่ก็มีหลายอย่างที่ไปถูกใจพี่แท-โอ เข้าให้อะไร ก็ตามนั้น เจ๊เตยบอกง้ะ !!! ขนาดนั้นเลยเหรอ เจ๊หมิวบอกว่าไม่แปลกหรอกที่เตยจะไม่เชื่อ ขนาดคนที่รู้เรื่องเองก็แทบไม่เชื่อเหมือนกันว่าพี่แท-โอ จะยอมรับไอ้ลิงบ้าขนาดนี้ แต่ก็นะ ไปสร้างวีรกรรมไว้ตั้งแต่ฝึกงานนั่นแหละ พี่แท-โอเลยประทับใจ


เจ๊เตยบอกอ๋อออ เพราะทำงานดีอ่ะดิ๊ เห็นป่ะล่ะเพราะฝึกงานกับพ่อหมิว เลยทำงานเก่งใช่มะ  ๆ ๆ   เอ่อออ จังหวะนี้ผมนิ่งเลยครับ.... ถ้าอยากให้เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ ให้นึกถึงมีม สตาร์วอร์ อันนี้ดูครับ





เจ๊เตยถามเพราะทำงานดีใช่มะ ผมเงียบ เจ๊เตยหันไปถามเจ๊หมิว เจ๊หมิวก็เงียบแปปนึง เธอหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดปากเบาๆทแล้วพูดว่า ไม่ได้ทำงานดีอะไรหรอก แต่ไปกระทืบการ์ดของพี่แท-โอน่ะสิ่ แล้วจะต่อยพี่แท-โอด้วย โอยยย อย่าพูดถึงเรื่องนั้น


แต่เจ๊หมิวก็ยังเล่าต่อนะครับ .. เอ่อ จังหวะนี้ต้องลุกครับ แต่เจ๊หมิวเธอก็เหมือนจะรู้ เพราะเจ๊เธอวางมือนุ่มๆไว้บนหน้าขาผมเหมือนจะบอกว่าไม่ต้องลุกไปไหน ทำไมเวลาจะชมต้องเดินหนีตลอดเลย นั่งนี่แหละห้ามไปไหน ผมก็ทำได้แค่นั่งซดซุปเห็ดไปต่อครับ มันทำตัวไม่ถูกอ่ะคร๊าบ เจ๊เตยก็อื้อหือ เอ้อเหออ เจ๊หมิวก็เล่าไปเรื่อยๆจนจบนั่นแหละครับ เหงื่อผมนี่แทบหยดติ๋ง ๆ ๆ


จนเจ๊เตยต้องหันมามอง แล้วบอกแหม พระเอกจริงจรี๊งงง ผมก็กิน ๆ ๆ จนเจ๊หมิวพูดว่า ไอ้นิสัยเขินเวลามีคนพูดชมนี่แก้ไม่หายเลยนะ ผมก็... กินต่อครับมันทำตัวไม่ถูกจริงๆนี่หว่า อิ่มแล้วก็เดินซื้อของต่อนั่นแหละครับ โอย...  สุดท้ายก็ต้องมาซื้อเสื้อผ้าของผมครับ


อื้อหือ....ราคานี่แบบ  เข้าใจผมใช่ครับปกติใส่ตัว 299 แต่นี่คือราคาอัพเป็นใบเทาๆเลยล่ะครับ ใจผมหวิวเลยพอเห็นราคาแล้ว แต่ก็ต้องซื้อครับ.. แต่พอจะจ่ายเงินเจ๊หมิวก็แบมือ บอกเอาบัตรมา ผมถามนะเอาบัตรไหน เจ๊หมิวบอกบัตรเจ๊ ผมก็เอ่อยื่นให้ครับ ผมก็เลยบอกว่างั้นคืนเลยนะเจ๊หมิว


แต่เจ๊บอกไว้ก่อนกระเป๋าเต็ม... อะไรล่ะครับเนี่ยยยย เจ๊เตยก็ยิ้มๆ มาเกาะแขนผมเบาๆ เสื้อ กางเกง ถ้าเป็นแบ๊งเทาๆก็ 2 ใบครับ รองเท้าผ้าใบอีก โอย.... อยากได้ยี่ห้อ ไนกี้นะ แต่ลักษณะเท้าแบบผมคงต้อง NB  หลังจากซื้อของเรียบร้อยเดินตามใจ 2 เจ๊อีกสักพัก... วันนึงก็หมดเวลาไว้แท้


แปปเดียว 4โมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย ก็ลงมาลานจอดรถครับของเต็มรถเลยเว้ยยย ผมก็ทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิมครับ ไปพระราม 3 ก่อน ระหว่างทางเจ๊สองคนก็คุยเล่นกันตามปกติครับ อื่มมม รถติดแฮะ จนมาถึงที่พระราม 3 อ้อมกลับมาถนนจันทน์ เข้าไปก็จอดรถครับ ช่วยขนของลงมา เจ๊เตยก็มีพวกขนมมาฝากพวกพี่ผู้ช่วยนั่นแหละ



ผมก็จะขอตัวไปพักผ่อนละ ขึ้นมาก็อ่าาาาาส์ เปิดแอร์เอนหลังเลยครับ ไม่ได้แกะ BB มาเล่นแต่อย่างใด ฮู่วววว  ผมหลับนะ หลับเลยแหละตอนนั้น แต่แปปนึงก็มีเสียงเคาะก๊อก ๆ  ผมตื่น  ดีนะที่ผมนอนโซฟา ถ้านอนในห้องคงไม่ได้ยิน ปกติต้องส่องนิดหน่อย แต่ด้วยความเบลอก็เลยเปิดไปก่อน


เป็นเจ๊หมิวคนสวยครับ เธอพูดมาคำนึง ผมตื่นเลยครับ ลงไปกินยา... โอ่ยยย ผมก็ต้องไปครับ... เจ๊หมิวเดินนำไปอย่างไว ผมก็ตามนะ บอกว่าเจ๊โทรตามก็ได้ไม่เห็นต้องขึ้นมา เจ๊บอกโทรมา 3 สายแล้วไม่รับ เลยต้องขึ้นมานี่ไง... เอ่อ... เอ่อ.. ผมปิดเสียงนี่หว่า พอเข้าในลิฟต์ ก็ใจหวิวๆ  ไม่ใช่เพราะอยู่ใกล้เจ๊หมิวนะ แต่เพราะต้องกินยาอีกแล้ว


โอยยย ขนาดยังไม่ถึงออฟฟิศ กลิ่นมันก็ลอยมาตีจมูกแล้วอ่ะคร๊าบบ ไม่กินได้ป่ะเนี่ยยยย เข้ามาในออฟฟิศเจ๊เตยกำลังเทยาลงถ้วยเลย ผมนี่แอ่ะ... ไม่อยากกินเลย เจ๊หมิวคล้องแขนผมมานั่งตรงหน้าถ้วยยาเลยครับ รีบๆกินสิ่เจ๊หมิวบอกมาแบบนี้ โห้ววววว พูดง่ายจังเลยอ่ะคร๊าบบ


ระหว่างนั้นเจ๊หมิวก็หาวครับ แต่เธอก็ป้องปากนะไว้นะตามมารยาทที่สวยงาม  เจ๊เตยก็ถามนะหมิวง่วงเหรอ เจ๊หมิวบอก สงสัยตื่นเข้าน่ะ แต่ไม่เป็นไร นิดนึงสบายๆน่า  แต่เจ๊เตยก็ร้อง เง้อออ ไม่ได้ ๆ ๆ   แล้วก็หันมาแว๊ด ๆ ใส่ผมว่า อีโทนรีบกินยาเลย ขับรถไปส่งหมิวด้วย ผมก็ฮึ๊ อะไรเนี่ยย


เจ๊หมิวบอกไม่เป็นไร ๆแค่นี้เอง แต่เจ๊เตยบอกไม่ได้นะเค้าห่วงนี่นา แล้วเจ๊เตยก็แว๊ด ๆ ๆ  ใส่ผมอีกแล้ว ระหว่างฟังเจ๊เตยบ่นกับกินยาจีน แน่นอนครับ ผมเลือกที่จะฟังเจ๊เตยบ่น แต่เจ๊หมิวก็หาวอีกแล้ว ผมก็จำใจกินยาแหละครับ โอยย ทรมานนน เจ๊เตยยื่นน้ำมาให้ผมก็กิน ๆ ๆ โอย ขมแท้ ขมแท้ ข้มจังโว้ยยยย โชคดีอย่างเดียวคือยาสูตรของป๋ามันไม่ขมติดคอครับ พอโดนน้ำล้าง มันก็จะไหลลงไปเลย



เจ๊เตยบอกเดี๋ยวเจ๊ล้างถ้วยเอง ขับรถไปส่งหมิวด้วยอีโทน ผมก็อื้ออ ขัดไม่ได้อยู่แล้วหนิ่ ขากลับค่อยนั่ง Taxi มาก็ได้ ผมก็เลยบอกว่าจะขึ้นไปหยิบมือถือ ผมก็รีบ ๆๆ  พอเช็คมือถือก็เจอข้อความจากดาวส่งมาว่า วันนี้นอนที่ร้านนะพี่โทน ผมก็ส่งกลับไปอื้อออ ฝันดีอึ๊บ ๆ ๆ ๆ แล้วผมก็ลงมาข้างล่างแหละครับ มาถึงเจ๊หมิวกำลังยืนเหมือนงัวเงียๆอยู่เลย เจ๊เตยก็ยืนข้างๆ พอผมลงมาเจ๊เตยบอกอีโทนไปส่งหมิวดีๆหมิวง่วงมากมายเลยเนี่ย



ผมก็บอกคร๊าบ ๆ ๆ ๆ พอบ๊ายบายอะไรกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นรถครับ ผมนั่งคนขับส่วนเจ๊หมิวผมน่ะจะให้นั่งหลัง แต่เจ๊หมิวบอกไม่ให้ ให้ไปส่งไม่ใช่ให้มาเป็นคนขับรถ ซึ่งผมก็มองๆแล้ว ไม่มีทางเถียงชนะก็เลยยอมๆไปเลยครับ ขับรถออกมาทางถนนตก ไอ้ผมก็คิดว่าเจ๊หมิวจะหลับแน่ๆ แต่พอติดไฟแดงแล้วหันไปมอง เจ๊หมิวนั่งตาแป๋วเลย ผมก็ถามเอ่อ เจ๊หมิวไม่ง่วงแล้วเหรอครับ เจ๊หมิวกอด.อก แล้วมองผมเธอบอกเปล่านี่ไม่ง่วงเลยสักนิด ผมก็ถามอ้าวเมื่อกี้เจ๊ยังหาวเหมือนง่วงๆอยู่เลย



เจ๊หมิวบอกอ๋อ... ก็หาวน่ะแต่ไม่ได้ง่วง จังหวะนั้นไฟแดงครับเจ๊หมิวก็เอี้ยวตัวมาถามผมว่า แล้วจะไปหาที่คุยเงียบๆกับเจ๊ได้ยัง ผมก็บอกเดี๋ยวๆ นี้เจ๊แกล้งง่วงเหรอ เจ๊หมิวก็ทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ครับแล้วก็บอกว่า ก็ถ้าขอให้มาส่งเองเตยก็จะสงสัยอ่ะดิ่ เดี๋ยวๆ !!! อะไรครับเนี่ย แล้วตอนนั้นเจ๊หมิวก็เอี้ยวตัวมาดึงคอเสื้อผมโน้มเข้าไปหาเธอเบาๆ แล้วพูดว่า ก็เป็นไปตามแผนล่ะนะ


 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


natt4556

สุดท้าย ภารกิจอันยิ่งใหญ่ก็สำเร็จ.... ทั้งซื้อมือถือใหม่ ย้อมผม กินข้าว ส่วนอีกอันไม่นับดีกว่า 5555



Kdstory

กำลังรอจารย์ลงงานเลยครับอยากรู้จะได้ไปอยู่ในที่เงียบๆกับเจ้หมิวรึเปล่าหรือจะมีเหตุให้ต้องพลาดกันอีก  ::Shy::

เจ้หมิวร้อนแรงจริงๆเลยครับจารย์ตัวแห้งแน่ๆ


kard





First10

เจ๊หมิวต้องการเทรนงานให้แน่ๆ โทนคงทำงานยังไม่เก่งแบบพี่ชายทั้งสองคน

dodoza2


prajuab masorn


TUWATAR

ขอบคุณครับ ท่านโทนและแฟมิลี่
มีเรื่องราวบันเทิงให้พวกเรามีความสุข