ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ตอนที่ 35 : มรสุมชีวิตของน้องพิมมี่

เริ่มโดย nato87, ตุลาคม 07, 2017, 07:57:02 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

คุณว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องวุ่นวายทั้งหมดในชีวิตน้องพิม เกิดจากใครครับ?

ไอ้บิ๊กเนี่ยแหละตัวดี ถ้ามันเป็นคนดีสักหน่อย พิมมี่คงไม่ปันใจ
220 (78%)
มนุษย์ลุงชุมพลคนหื่นสายเปย์ ที่ฉวยโอกาสเข้ามาแทรกเป็นมือที่สาม
62 (22%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 282



lunar

 ::YehYeh::บิ๊กเลือกคบเพื่อนบ้างนะ
อ้างจาก: nato87 เมื่อ ตุลาคม 07, 2017, 07:57:02 หลังเที่ยง
พูดคุยก่อนอ่าน : หายไปนาน ตอนนี้กลับมาแล้วครับ ไม่ซ่อนข้อความนะครับ ตอนนี้ไม่มีบทเสียว เน้นดราม่าเข้ม ๆ ที่แบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนของวิทยาลัยพยาบาล และส่วนของน้องพิมมี่ ตอนนี้ลุงพลไม่มีบทนะครับ 55555555+ ให้แกเก็บแรงหน่อย เพราะตอนหน้าจะเป็นตอนเปิดตัวเมียคนที่ 4 ณ จุดนี้ ผมบอกเลยว่า ยังไม่ถึงเวลาของหมอพลอยครับ คิดดูนะครับว่ามีใครบ้างที่ยังไม่โดนลุงเติมน้ำกลั่น หนึ่งในนั้นแหละ

.................................................................................


ในช่วงสายของวันอังคาร หมอพลอยตัดสินใจลางานครึ่งวันเพื่อเดินทางมาเยี่ยมเจ้าบิ๊ก เพื่อบอกข่าวดีแก่ญาติคนน้องเจ้าปัญหา เจ้าบิ๊กมีท่าทีดีใจมาก ๆ เมื่อได้ยินข่าวดี เด็กหนุ่มเลือดร้อนพนมมือไหว้ขอบคุณญาติผู้พี่ด้วยความสำนึกในบุญคุณ

"ขอบคุณครับพี่พลอย ผมเป็นหนี้บุญคุณพี่จริง ๆ ชาตินี้ผมจะไม่ลืมเลย" เจ้าบิ๊กพนมมือไหว้หมอพลอยในห้องขังด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ

"เอาจริง ๆ พี่ไม่ได้อยากช่วยบิ๊กนะ" หมอพลอยขัดจังหวะซึ้งของญาติผู้น้อง "พี่อยากให้บิ๊กอยู่ในนี้เพื่อทบทวนตัวเอง ที่ผ่านมาบิ๊กสร้างปัญหาไว้เยอะมาก เรื่องเรียนบิ๊กไปถึงไหนแล้ว ได้ข่าวว่าติดโปรอยู่ใช่ไหม ถ้าไม่ผ่านโปรบิ๊กรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?"

"ผมขอโทษครับพี่พลอย" เจ้าบิ๊กทำหน้าจ๋อย "ผมสัญญาว่ากลับไปจะตั้งใจเรียน"

"ให้มันจริงเถอะบิ๊ก" หมอพลอยตอบ "พี่ไม่รู้ว่าคุณลุงกับคุณป้า (หมายถึงพ่อแม่ของบิ๊ก) จะว่ายังไง จำไว้แล้วกันว่าเดี๋ยวตอนบ่ายท่านคงจะมาติดต่อเรื่องขอประกันตัวบิ๊ก ก็จำไว้เป็นบทเรียนนะ กลับตัวกลับใจเป็นคนดี เริ่มต้นชีวิตใหม่"

"เอ่อ...พี่พลอยครับ" เจ้าบิ๊กนึกเรื่องสำคัญได้อีกเรื่อง "คือเรื่องพิม...ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมทำผิดกับเธอไว้มาก ผมอยากจะ...."

"หยุด ๆ ไม่ต้องเลยบิ๊ก!!" หมอพลอยขึ้นเสียงดุ "ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด นี่ยังจะไปคิดถึงคนอื่นอีกเหรอ พิมเค้าลูกมีพ่อมีแม่ ที่ผ่านมาบิ๊กทำไม่ดีกับพลอยมากเลยนะ พี่ในฐานะผู้หญิงด้วยกันยังไม่ชอบเลย"

"แล้วจะให้ผมทำยังไงครับพี่" บุรินทร์เริ่มทำหน้าจ๋อย "ผมแค่อยากไถ่บาปให้ตัวเอง ผมผิดกับพิมมาก ๆ ผมอยากแก้ไขด้วยการทำดีกับเธอ"

"บิ๊ก..." พลอยพรรณมองหน้าญาติคนน้องตาเขม็ง "ฟังพี่นะ ตอนนี้พี่ว่าบิ๊กเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน ปรับปรุงนิสัยของตัวเองก่อนเถอะ เรื่องพิมเดี๋ยวพี่จะลองคุยให้ บิ๊กออกไปก็อย่าพึ่งทำอะไรวู่วามแล้วกัน เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน พี่ไม่อยากให้คุณลุงกับคุณป้าแกเครียดไปมากกว่านี้ บิ๊กรู้ตัวไหมว่าคุณลุงคุณป้านะไม่สบายใจกับสิ่งที่บิ๊กทำมาก ๆ บิ๊กกล้าดียังไงถึงพกปืนไปที่ทำงานพี่ บ้านเมืองมีกฎหมายนะบิ๊ก"

"แต่ผมทนไม่ได้นิครับ" เจ้าบิ๊กกำหมัดแน่น มันทุบกำแพงห้องขังด้วยความเจ็บใจที่ถูกคนแก่แย่งคนรักของตัวเองไป "ไอ้ลุงพลนั่นมันแย่งแฟนผมไป เป็นพี่ พี่ก็ยอมไม่ได้ ถูกไหมครับ เรื่องแบบนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีผู้ชาย พี่พลอยเป็นผู้หญิงไม่มีทางเข้าใจหรอก"

"ทำไมพี่จะไม่เข้าใจ!!" หมอพลอยขึ้นเสียงอีกครั้ง "ที่พี่พูดไม่ฟังเลยใช่ไหม? บิ๊กโตแล้วนะ เลิกทำนิสัยเหมือนเด็กได้แล้ว ที่ผ่านมาถ้าบิ๊กดีจริง พิมเค้าคงไม่หนีไปจากบิ๊กหรอก ส่วนเรื่องลุงพล พี่ไม่ขอออกความเห็น เพราะเรายังไม่มีหลักฐานอะไร จะไปกล่าวหาใครสงเดชไม่ได้"

หมอพลอยจำใจต้องพูดแบบนั้น เพราะถ้าไปบอกความจริง เจ้าบิ๊กคงโกรธจัด ออกจากคุกไปคงได้ตามล่าลุงพลแบบเอาตายแน่ ๆ

"เอาเป็นว่าพี่จะคุยกับพิมให้ผมใช่ไหมครับ?" บิ๊กถามเพื่อความชัดเจน "ผมอยากชดใช้ความผิดที่ตัวเองก่อไว้จริง ๆ"

"อืม ๆ ไอ้เด็กบ้า พี่จะพูดให้ก็ได้ เมื่อไรจะรู้จักโตสักทีนะ" หมอพลอยตอบตกลงด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่เธอก็ต้องทำ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องที่เริ่มเคลียร์ไปในทิศทางที่ดีต้องเลวร้ายลงไปอีกเพราะความเลือดร้อนของญาติผู้น้อง

.....................................................................................

ทางฝั่งวิทยาลัยพยาบาล ตอนนี้กลุ่มนางฟ้าที่ประกอบด้วย เฟิร์น โดนัท นาถ และ ยัยอุ๊ เริ่มมีบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่ยัยอุ๊เปิดศึกกับคู่หูคู่เลสเบี้ยนอย่างเฟิร์นและโดนัท ยัยอุ๊มักทำหน้าบูดใส่ทั้งสองคนและไม่ยอมพูดจากัน ส่วนน้องนาถที่หายไข้ก็วางตัวลำบาก เพราะไม่รู้จะอยู่ฝั่งไหนดี

พี่อุ๊บอกเธอว่าทั้งสองมีลับลมคมในบางอย่าง ซึ่งนาถก็รู้ความลับนั้น และตกเป็นเหยื่อสวาสเกมรักเลสเบี้ยนสุดหวาบหวิวและตราตรึงใจจนเป็นไข้ ทางฝั่งของเฟิร์นและโดนัทเองก็เตือนเธอให้ระวังยัยอุ๊จอมจุ้นเรื่องชาวบ้านให้ดี

แต่สิ่งที่ทำให้นาถสงสัยคือเรื่องลุงชุมพล พี่อุ๊บอกกับเธอว่าสงสัยพฤติกรรมทั้งคู่ เพราะเคยมีข่าวว่าโดนัทไปอยู่ในห้องลุงชุมพลขณะที่วัยรุ่นหัวร้อนที่ชื่อบุรินทร์ ญาติคนน้องของหมอพลอยพกปืนเข้าไปในห้องพักภารโรง จนหมอพลอยถูกอธิบการบดีเรียกไปสอบปากคำหลายชั่วโมง ไม่ต้องบอกเลยว่าหมอพลอยถูกผู้ใหญ่ตำหนิมากในเรื่องนี้ เพราะเป็นญาติกับผู้ต้องหา

น้องนาถเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวัน โดนัทและเฟิร์นปลีกตัวออกไปกินข้าวด้วยกันสองคน ส่วนนาถก็กินข้าวกับก๊วน ๆ ของพี่อุ๊ ที่ต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทาคู่หูคู่เลสอย่างสนุกปาก บางเรื่องทำเอานาถอดรู้สึกโกรธแทนโดนัทและเฟิร์นไม่ได้ เพราะคิดว่าสิ่งที่อุ๊พูดมันเกินไป สุดท้ายน้องนาถเลยลุกขึ้นจากโต๊ะและหยิบจานข้าวและน้ำดื่มไปนั่งกับโดนัทและเฟิร์นเพื่อประกาศฝั่ง ทำเอายัยอุ๊มองค้อนรุ่นน้องด้วยความไม่พอใจ



"ดาเค้าเป็นอะไรของเค้านะ (ชื่อเล่นอีกชื่อของนาถรดา)" หนึ่งในก๊วนของยัยอุ๊เอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "นี่เราพูดแรงไปหรือเปล่าววะอุ๊?"

ยัยอุ๊ไม่ตอบอะไร หทัยรัตน์ เด็กสาวจากราชบุรีสงสัยในพฤติกรรมของนาถรดาไม่น้อยไปกว่าเนตรชนกและณิชา เธอคิดมาตลอดว่าเรื่องนี้ต้องมีซัมติงแน่นอน

.....................................................................................

ทางฝั่งของเฟิร์นและโดนัทที่กำลังกินข้าวอยู่นั้น รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่นาถของมานั่งร่วมโต๊ะด้วย สองสาวคู่เลสสงสัยในพฤติกรรมของนาถ แต่นาถชิงจังหวะตอบเพื่อให้รุ่นพี่ทั้งสองหายข้องใจ



"หนูขอนั่งด้วยนะคะพี่โดนัท พี่เฟิร์น หนูเบื่อคนชอบนินทาคนอื่น" นาถเอ่ยปาก

"เชิญเลยจ๊ะนาถ" โดนัทโบกมือด้วยไมตรี

"ยัยอุ๊นินทาอะไรเกี่ยวกับพวกพี่ใช่ไหมนาถ?" เฟิร์นเอ่ยปากถาม

"ใช่ค่ะ เชื่อเถอะค่ะพี่ไม่อยากฟังหรอก หนูฟังยังโกรธแทนพวกพี่เลย" นาถตอบ "คนอะไรก็ไม่รู้นิสัยไม่ดี ชอบนินทาคนอื่นลับหลัง"

เฟิร์นและโดนัทต่างมองไปทางโต๊ะยัยอุ๊ตาขวาง ทางฝั่งยัยอุ๊เองก็ไม่ยอมแพ้ เธอมองเพื่อนสาวทั้งคู่ตาเขม็งเช่นเดียวกัน สงครามเย็นในแก๊งนางฟ้าเริ่มมาคุขึ้นเรื่อย ๆ จากนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนคงถึงจุดสั่นคลอนและไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีก



"บอกพวกพี่หน่อยได้ไหม? ว่ายัยอุ๊นินทาอะไรพี่บ้าง บอกมาเถอะ" เฟิร์นยืนยันคำเดิม เธออยากรู้ว่ายัยอุ๊นินทาอะไรเธอบ้าง

"ถ้าพี่อยากรู้ หนูบอกให้ก็ได้ค่ะ" นาถตอบ "พี่อุ๊บอกว่าพวกพี่น่ะเป็นคู่เลสเบี้ยนกัน แล้วก็อาจมีอะไรกับลุงพลแล้ว"



"ไอ้....." ณิชาทำช้อนตกลงบนจาน พอได้ยินเช่นนั้นทำเอาสาวห้าวจากเมืองหลวงถึงกับเม้งแตก ที่เธอโกรธเพราะสิ่งที่ยัยอุ๊นินทานั้นมันเรื่องจริง "ยัยอุ๊....สงสัยชั้นคงได้ตบหน้าคนซะแล้วมั้งวันนี้!"

"ใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ๊!!!" เฟิร์นพยายามห้ามปราม "อย่าทำอะไรแบบนั้นนะเจ๊ เดี๋ยวไปเข้าทางยัยอุ๊ ยัยนี่มันปากปีจอ พูดไปเรื่อยเปื่อย เหลวไหลที่สุด ไม่น่าเสียเวลาคบเป็นเพื่อนเลย!!!"

"หนูก็ว่าแบบนั้นค่ะ หนูรู้สึกไม่ดีกับพี่อุ๊เลย คนอะไรไม่รู้ชอบวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น" นาถแสดงท่าทีฉุนเฉียวไม่น้อย เพราะลึก ๆ เธอก็กลัวพี่อุ๊จะรู้ว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกวงดนตรีไทยร่วมกับเฟิร์นและโดนัท แต่อีกใจเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าลุงพลมีอะไรกับโดนัทหรือเฟิร์นแล้วจริง ๆ

หลังจากทานข้าวเสร็จ สาว ๆ แก๊งนางฟ้าคณะพยาบาลก็แยกย้ายกันไปเข้าเรียนตามวิชาของใครของมัน เฟิร์นและโดนัทที่มีวิชาเดียวกันปรึกษาระหว่างเดินเข้าห้องเรียนว่าพวกเธอควรทำอย่างดีกับสถานการณ์เช่นนี้

"เราควรทำไงดีวะเจ๊?" เฟิร์นเอ่ยปากถามเพื่อนรัก "ชั้นว่าเรื่องนี้ชักบานปลายแล้ว"

"ต้องโทษลุงพลคนหื่นนั่น!!" โดนัทตอบ เธอยังเคืองนักการวัยดึกจอมหื่นไม่หาย "พวกเราเจอเรื่องวุ่น ๆ เพราะไอ้แก่ตัณหากลับคนนี้แท้ ๆ"

ทางฝั่งเฟิร์นก็กระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้จะพูดยังไง ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างมันบานปลายและยุ่งเหยิงจนพวกเธอไม่แน่ใจว่าจะรับมือมันอยู่ได้หรือไม่ ยัยอุ๊เป็นจอมจุ้นที่ไม่เลิกรา สิ่งที่เฟิร์นคิดออกคือต้องหาทางปิดปากยัยอุ๊ แต่ก็จนปัญญาเพราะไม่รู้จะทำยังไง จะร่วมทีมกับโดนัทและนาถสามคนรุมปล้ำยัยอุ๊นะเหรอ? เป็นความคิดที่เสี่ยงมาก และไม่แน่ใจด้วยว่ายัยอุ๊จะยอมปิดปากหรือไม่

"หรือว่าเราจะปิดปากยัยอุ๊?" เฟิร์นเสนอความเห็น ก่อนเหลือบตามองซ้ายขวาเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน ระหว่างรอลิฟต์ "เหมือนที่เคยทำกับนาถ แล้วถ่ายรูปแบล็คเมล์ไว้"

"นี่ความคิดแกเหรอเฟิร์น!!!" โดนัทถึงกลับถลึงตาใส่ แผนแบบนี้มันเป็นแผนชั่วของลุงพลชัด ๆ โดนัทไม่คิดว่าเด็กสาวที่แสนดีอย่างเฟิร์นจะมีความคิดแบบนี้ได้ "แกไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนวะเฟิร์น?"

"ก็จะให้ทำยังไงละ..." เฟิร์นทำหน้าจ๋อย "ถ้าเราปิดปากยัยอุ๊ไม่สำเร็จ ทุกอย่างจบเห่แน่ หรือว่าเราจะบอกความจริงกับลุงพล เผื่อลุงพลจะมีวิธีแก้ปัญหาให้เรา"

"พอ ๆ ๆ" โดนัทปฏิเสธลั่น "ชั้นว่าแผนการแต่ละอย่างของแกมันบ้าบอทั้งนั้น ถึงชั้นจะเกลียดยัยอุ๊ยังไง ชั้นก็ไม่อยากให้ยัยนั่นมาเจอกับเรื่องบ้า ๆ แบบที่พวกเราเจอแน่"

"งั้นชั้นก็จนปัญญาแล้วละเจ๊...." เฟิร์นตอบ ก่อนเดินเข้าไปในลิฟต์ที่เป็นออกพร้อมกับโดนัท เพื่อเข้าเรียนวิชาภาคบ่าย

....................................................................................

ตัดมาที่ฝั่งของพิมมี่ เด็กสาวเข้าเรียนตามปกติในวันอังคาร หลังจากหมดคาบเรียน ช่วงบ่ายก็ว่าง เด็กสาวตัดสินใจเดินทางกลับหอพัก ตอนแรกเธอตั้งใจจะนัดพบกับลุงพล แต่ลุงพลคนหื่นขวัญใจเธอบอกว่ามีธุระ เพราะลูก ๆ ของลุงแกพาหลานมาเยี่ยมที่บ้าน เลยทำให้น้องพิมอดได้เจอกับลุงพลยอดรัก

เพื่อน ๆ ต่างแซวพิมมี่ว่าพักหลังเธอสวยขึ้น หลายคนถามว่าไปทำอะไรมาถึงได้สวยใสหน้าเด้ง บางคนแซวต่อด้วยว่าสงสัยเลิกจากเจ้าบิ๊กแล้วชีวิตมีความสุขขึ้น เลยทำให้เธอมีเวลาดูแลตัวเอง จนทำเอาหนุ่ม ๆ ร่วมคณะที่ทราบข่าวว่าพิมมี่เลิกกับเจ้าบิ๊กเริ่มหยอดหวานใส่เธอเพื่อขายขนมจีบ พิมมี่ก็ยิ้มรับไปตามมารยาท แต่ในใจเธอตอนนี้เรียกได้ว่ามีแต่ลุงพลเต็มหัวใจ เพราะที่ผ่านมาเธอรู้สึกไม่ได้ดั่งใจกับหนุ่ม ๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน ที่เอาแต่ใจ เผด็จการ เรื่องเซ็กส์ไม่จัดจ้าน ไม่คิดถึงจิตใจผู้หญิง แตกต่างจากลุงพลที่อาจไม่ได้ฟิตเหมือนเด็กหนุ่ม แต่ลีลารักชั้นอ๋อง พาเธอขึ้นสวรรค์จนนับครั้งไม่ถ้วน

พอคิดแบบนี้ก็ทำเอาหว่างขาของเธอเปียกแฉะ ภาพที่ลุงพละกำลังร่วมรักกับเธอยังคงตราตรึงในจิตใจ พอทนไม่ไหวก็เข้าห้องน้ำไปติ้วหอยตัวเองให้น้ำแตก พอสบายตัวก็เข้าเรียนต่อ

"พิมครับ ได้ข่าวว่าพิมเลิกกับบิ๊กแล้วเหรอ?" เจ้าบอส วุฒิชัย หนุ่มร่วมคณะของเจ้าบิ๊กอ่ยปากถาม เจ้าบอสเป็นลูกนักธุรกิจดังจากภาคใต้ เรื่องความรวยไม่ได้เป็นรองเจ้าบิ๊ก หมอนี่เองก็สนใจพิมมี่มานาน แต่ไม่กล้าจีบ เพราะเจ้าบิ๊กมันแสดงความเป็นเจ้าของ อีกอย่างมันกับเจ้าบิ๊กก็ไม่ค่อยถูกกัน เพราะเคยเขม่นกันสมัยเตะบอลคณะ เมื่อตอนปีหนึ่ง

"ค่ะ...พิมเลิกกับบิ๊กแล้วค่ะพี่บอส" พิมมี่ตอบไปตามมารยาท

"งั้นแสดงว่าหัวใจพิมมี่ว่างแล้วซิครับ แล้วพี่บอสคนนี้พอมีโอกาสไปนั่งในหัวใจของพิมมี่ไหม?" บอสหยอดหวานใส่พิมมี่ที่หมายปองมานาน

"ไม่รู้ซิคะ ตอนนี้พิมอยากตั้งใจเรียนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน แค่นี้ก่อนนะคะพี่บอส พิมมีธุระ" พิมมี่ตอบ ก่อนขอตัวกลับไป ปล่อยให้เจ้าบอสบ่นพึมพำในใจ

"คอยดูเหอะ เดี๋ยวกูจะคั่วเด็กมึงให้ได้ ไอ้บิ๊ก" ไอ้บอสมองเรือนร่างด้านหลังของพิมมี่อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนเดินไปที่โรงจอดรถเพื่อขับรถไปเที่ยวที่ห้างใกล้มหาวิทยาลัย

พิมมี่เดินออกมารอรถประจำทางหน้ามหาวิทยาลัย เจ้าสองและเจ้าเหน่ง เพื่อนรักของเจ้าบิ๊กรีบเดินมาประกอบซ้ายขวา พิมมี่ตกใจมากพยายามจะลุกหนี แต่เจ้าสองรีบป้องมือห้ามพิมมี่ เพื่อบอกบางสิ่งบางอย่างกับเธอ

"อย่าพึ่งไปไหนพิม พวกเรามีอะไรจะบอกเธอ" สองเอ่ยปากกับพิมมี่ ที่รู้สึกไม่สบายใจ ปกติเจ้าสองกับเจ้าเหน่ง ก็มีท่าทีไม่น่าไว้วางใจอยู่แล้วเวลาอยู่กับเจ้าบิ๊ก ตอนนี้ในใจของเด็กสาวคิดว่าไอ้ลิ้วล้อสองตัวของเจ้าบิ๊กมันมีธุระอะไรกับเธอ

"ทำไมเธอทำกับเพื่อนเราแบบนี่พิม" เหน่งเริ่มเปิดประเด็น "เมื่อวานเหน่งกับสองไปทำรายงานแถว ๆ หอของพิม เราเห็นพิมมากับไอ้ลุงนั่น"

"ลุงไหน?" พิมมี่แกล้งทำมึนไม่รู้เรื่อง "อ้อ!!! นั่นพ่อพิม มีอะไรเหรอ?"

"สองว่าไม่ใช่นะพิม" เจ้าสองเริ่มไล่ต้อนพิมมี่หนักขึ้น "นั่นคือลุงพล ภารโรงแก่ ๆ ที่วิทยาลัยพยาบาล ที่เคยไปเตะตะกร้อกับบิ๊ก"

พิมมี่ถึงกับหน้าเสีย นี่ตกลงไอ้สองกับไอ้เหน่งรู้ความลับของเธอแล้วใช่ไหม?

"ตอบไม่ถูกซินะพิม" เหน่งเริ่มไล่ต้อนรุ่นน้องบ้าง "ทำไมพิมทำแบบนี้กับบิ๊ก พิมรู้ไหมว่าบิ๊กบ่นคิดถึงพิมมากนะ บิ๊กเคยบอกกับพี่ว่าถ้าออกไปได้ บิ๊กจะบอกพ่อแม่ให้มาสู่ขอพิมหลังเรียนจบและจะชดใช้เงินที่ติดพิมให้ ทำไมครับพิม ทำไมพิมทำแบบนี้กับบิ๊ก?"

"อย่ามายุ่งกับพิม!!" พอจวนตัว พิมมี่เลยลุกขึ้นเพื่อรีบเดินหนีจากป้ายรถเมล แต่เจ้าสองที่รักเพื่อนไม่ยอมเลิกรา มันคว้าแขนน้องพิมไว้ จนน้องพิมร้องด้วยความตกใจ

"ปล่อยนะพี่สอง!!!" พิมมี่พยายามปัดแขนเจ้าสอง "มันเรื่องอะไรของพี่ที่มายุ่งกับชีวิตส่วนตัวหนู!!!!"

ไม่ทันไร เสียงแตรรถก็ดังขึ้น ทั้งสามหันไปทางเดียวกัน มันเป็นรถเก่งสีดำ Toyota Camry ที่เจ้าบอส วุฒิชัยเป็นเจ้าของ เด็กหนุ่มหน้าตาดีเปิดประตูรถ ชี้หน้าไอ้เหน่งและไอ้สองอย่างเอาเรื่อง

"ไอ้สัส พวกมึงทำอะไรน้องพิมเค้า!!" ไอ้บอสชี้หน้าลิ่วล้อไอ้บิ๊กอย่างเอาเรื่อง "ปล่อยน้องเค้านะโว้ย ไอ้ห่า หน้าตัวเมียนะพวกมึง รังแกผู้หญิง!!!"

"ไอ้สัสบอส ไอ้บิ๊กไม่อยู่มึงเอาใหญ่เลยนะ" ไอ้สองชี้หน้าใส่ไอ้บอสอย่างเอาเรื่อง "มึงนะมึง...."

"ไอ้สอง ถอยก่อน!!" ไอ้เหน่ง หนึ่งในลิ้วล่อของเจ้าบิ๊กที่ดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดรั้งเพื่อนออกมา "ออกมาก่อน เรื่องมันชักจะบานปลายแล้ว ถอยก่อนโว้ย"

ไอ้สองกับไอ้เหน่งรีบเดินหนีไปจากที่ตรงนั้น ส่วนพิมมี่ก็พนมมือไหว้เจ้าบอส หนุ่มหล่อหน้าตาดี อริตัวฉกาจของเจ้าบิ๊กด้วยความรู้สึกขอบคุณ

"ขอบคุณนะคะพี่บอส" พิมมี่พนมมือไหว้พี่บอส "ถ้าไม่ได้พี่ พิมคงแย่"

"ระวังหน่อยนะพิม พวกแก๊งไอ้บิ๊กมันเล่นไม่เลิกจริง ๆ" บอสตอบ "ถ้ามีอะไรบอกพี่ได้นะ พี่ยินดีช่วย"

"ขอบคุณค่ะพี่บอส แค่นี้พิมก็ดีใจแล้ว" พิมมี่ตอบด้วยรอยยิ้ม เท่าที่ติดตามข่าว เจ้าบอสเป็นหนุ่มหน้าตาดี นิสัยใช้ได้ หมอนี่ไม่ค่อยมีข่าวเสียหายเท่าไรนัก ก่อนหน้านั้นเจ้าบอสเคยคบหากับสาวรุ่นน้องคนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เลิกรากัน ข่าวบอกว่าจากกันด้วยดี จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือน ก็ไม่มีข่าวว่าพี่บอสคบหากับใครอยู่



"บ้านพิมไกลไหม ให้พี่ไปส่งไหมครับ?" บอสเริ่มรุกเร้าต่อตามสไตล์สุภาพบุรุษ

"ไม่เป็นไรค่ะ รบกวนพี่เปล่า ๆ" พิมมี่ตอบ "พิมว่าพี่รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวโดนบีบแตรไล่นะ"

"โอเค ๆ เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะครับพิม ไว้เจอกัน" บอสตอบ ก่อนเปิดประตูรถแล้วขับออกไป

พิมมี่มองรถของพี่บอส เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่บอส เพราะตอนนี้สิ่งที่เธอกังวลคือความลับของเธอและลุงพลเริ่มรั่วไหลมากขึ้น จนเธอชักไม่แน่ใจว่าจะปิดบังความลับนี้ได้อีกนานเท่าใด

........................................................................................

หลังจากที่กลับมาจากห้องพัก พ่อแม่ของพิมมี่ที่โคราชก็โทรมาถามชีวิตความเป็นไปของลูกสาว พ่อกับแม่ของพิมมี่บอกว่าอาทิตย์หน้าจะแวะมาเยี่ยมลูกสาวที่หอ พิมมี่ตอบตกลง เพราะเธอไม่ได้กลับมาบ้านหลายเดือนแล้ว สุดท้ายแล้วพ่อแม่ของพิมมี่สั่งกำชับว่าให้พิมมี่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบ เพื่อที่จะนำวิชาความรู้มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านเกิด

บ้านของพิมมี่ก็จัดว่ามีฐานะ พ่อกับแม่ทำธุรกิจกระเบื้องเซรามิค ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเงินทุนส่งลูกสาวมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของประเทศย่านวิภาวดีได้ ตอนแรกพ่อกับแม่ของพิมมี่ไม่อยากให้ลูกสาวมาเรียนไกลถึงกรุงเทพ แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนของพิมมี่ จนทำให้เธอได้มาเรียนที่เมืองหลวงสมใจ

"ตั้งใจเรียนให้จบนะลูกนะ พ่อกับแม่รอคอยความสำเร็จของลูกอยู่ เรียนจบแล้วก็กลับบ้านเรา อย่ามัวเถรไถลที่กรุงเทพ" แม่ของพิมมี่สั่งกำชับลูกสาวด้วยความเป็นห่วงด้วยภาษาท้องถิ่น

"ค่ะแม่ พิมมี่รักแม่นะคะ" พิมมี่ตอบกลับด้วยภาษาท้องถิ่น ก่อนวางสาย เด็กสาวที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดไปรเวทเปิดโทรทัศน์ดูรายการอะไรเรื่อยเปื่อยตามเรื่อง จนสักพักก็มีสายเรียกเข้า เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยนัก พิมมี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนกดรับสาย

"สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?" พิมมี่เอ่ยปากถามปลายทาง

"สวัสดีค่ะ นี่คือหมอพลอยนะคะ พลอยพรรณ ก่อนอื่นพี่ขอเรียกตัวเองว่าพี่พลอยนะ พี่เป็นญาติของเจ้าบิ๊กมัน คือพี่มีอะไรอยากจะคุยกับน้องหน่อยค่ะ น้องพิมพาภรณ์รับสายอยู่ใช่ไหมคะ จำพี่พลอยได้ไหม ที่เจอหน้ากับพิมเมื่อวันเกิดเจ้าบิ๊กเมื่อหลายเดือนก่อนที่ชลบุรี พอจะสะดวกคุยกับพี่สัก 5 นาทีไหม?"

"ค่ะ...." พิมมี่ตอบตกลง แต่ในใจเธอนึกกังวลว่าเจ้าบิ๊กจะมาไม้ไหนกับเธออีก "สะดวกคุยค่ะพี่พลอย เรียกหนูว่าพิมก็ได้ค่ะ"

"ดีใจที่ได้ยินแบบนี้นะคะพิม คือก่อนอื่นพี่ต้องขอโทษแทนน้องชายตัวแสบของพี่จริง ๆ เจ้าบิ๊กมันสารภาพกับพี่หมดแล้วว่ามันทำเรื่องแย่ ๆ กับพิมไว้มาก ที่นี้ในฐานะญาติที่เหมือนเป็นพี่แท้ ๆ ของเจ้าบิ๊ก พี่ก็อยากให้เรื่องราวทุกอย่างจบได้ด้วยดี ก็เลยอยากเป็นตัวกลางพูดคุยกับน้องพิมเรื่องเจ้าบิ๊ก"



"หนูไม่มีอะไรติดค้างบิ๊กแล้วค่ะพี่พลอย หนูเลิกกับบิ๊กไปแล้ว ไม่อยากได้ยินอะไรอีก" พิมมี่ตอบ นัยน์ตาของเธอเริ่มแดงก่ำเพราะรู้สึกสับสนในชีวิตปนความกลัว กลัวที่ต้องกลับไปเริ่มต้นกับเจ้าบิ๊กใหม่

"คือแบบนี้ค่ะพิม บิ๊กสารภาพแล้วว่าบิ๊กน่ะขโมยเงินพิมไป และเจ้าบิ๊กก็ยังอยากจะไถ่โทษด้วยการคืนเงินทั้งหมดที่เอาจากพิมไปคืน พี่ก็เลยอยากให้เรื่องราวทุกอย่างมันจบได้ด้วยดี"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่พลอย" พิมมี่ตอบ ในใจเธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเมื่อรู้ว่าเจ้าบิ๊กยังมีสำนึก คิดคืนเงินให้เธอ

"คือบิ๊กติดเงินพิมเท่าไรนะคะ 30,000 ใช่ไหม?" พลอยถาม

"ค่ะ....พี่พลอย" พิมมี่ตอบ "นั่นมันเงินค่าเทอมหนู ที่ไอ้...เอ้ย!!!? บิ๊กเค้าขโมยไป"

"งั้นเอาแบบนี่นะคะพิม บอกเบอร์บัญชีพี่มา เดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงพี่จะโอนเงินไปให้"

"ได้ค่ะ...ขอเวลาสักครู่นะคะพี่พลอย" พิมไปหยิบบุ๊คแบงค์แล้วบอกเบอร์บัญชีของเธอให้หมอพลอยจด

"โอเคค่ะ เดี๋ยวพี่จะโอนเงินไปให้พรุ่งนี้นะคะพิม" หมอพลอยเอ่ยปากหลังจากได้เบอร์บัญชีของพิมมี่

"เอ่อ...พี่พลอยคะ" พิมมี่มีบางสิ่งที่อยากพูดออกมา "คือพิมอยากฝากอะไรถึงบิ๊กหน่อยนะคะ ถือว่าช่วยพิมในฐานะผู้หญิงด้วยกัน"

"ได้ซิจ๊ะพิม" พลอยตอบเสียงใส "ว่ามาเลย"

"บอกบิ๊กว่าอย่ายุ่งกับชีวิตพิมอีก บิ๊กบอกเพื่อน ๆ ให้มาวุ่นวายกับชีวิตพิมใช่ไหม บอกบิ๊กให้หยุดซะ ก่อนที่พิมจะเกลียดบิ๊กไปมากกว่านี้ ฝากบอกบิ๊กด้วยนะคะพี่พลอย ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน"

"ได้ซิคะพิม พี่จะบอกบิ๊กให้ ทำใจให้สบายนะ พี่เองก็ไม่พอใจสิ่งที่บิ๊กทำเหมือนกัน" หมอพลอยตอบเพื่อให้พิมสบายใจ ก่อนวางสาย

หลังจากกดวางสาย พิมมี่ก็นั่งชันเข่า ร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ นี่ถ้าพ่อแม่ของเธออยู่ใกล้ ๆ เธอคงโผล่เข้ากอดพ่อกับแม่เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ แต่ท่านทั้งสองอยู่ไกล เพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ก็พอมีอยู่บ้าง แต่เรื่องบางอย่างเธอไม่สามารถพูดออกมาได้ สุดท้ายก็เลยโทรไปหาลุงพล

"เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......" ลุงพลยอดรักปิดมือถือ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด แต่มันทำให้พิมมี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะเธอไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครดี

........................................................................................

ตัดมาที่ฝั่งของเจ้าสองและเจ้าเหน่ง พวกมันพูดคุยกันเรื่องเมื่อช่วงบ่าย เจ้าสองเสนอความคิดว่าควรบอกทุกอย่างให้บิ๊ก แต่เจ้าเหน่งแย้ง เพราะคิดว่ามันจะทำให้เรื่องทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม

"มึงกลัวอะไรวะไอ้สัสเหน่ง" ไอ้สองถาม "มึงก็รู้ว่าพิมมี่สวมเขาให้เพื่อนเรา มึงยอมได้เหรอวะ?"

"ไม่ใช่อย่างนั้นไอ้สอง"เหน่งตอบ "แต่กูกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลายว่ะ"

"มึงจะไปแคร์อะไรวะไอ้สัสเหน่ง?" ไอ้สองแย้ง "มึงทนได้ไงวะที่เห็นเพื่อนเราต้องโดนสวมเขาแบบนี้ ไหนจะไอ้สัสบอส กูโคตรเกลียดหน้ามันชิบหาย มันคิดว่ามันหล่อเหรอไงวะ หล่อตายล่ะไอ้ห่า"

"ไอ้สอง ฟังกูนะเพื่อน" เหน่งที่พอเป็นผู้เป็นคนตัดสินใจเตือนเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย "กูว่าเรื่องบางเรื่อง พวกเราอย่าไปยุ่งวุ่นวายให้มากเลยว่ะ กว่าเรื่องประกันตัวไอ้บิ๊กมันจะสำเร็จ พวกผู้ใหญ่ต้องเสียเวลาวิ่งเต้นแค่ไหน กูว่าเรากำลังหาเรื่องให้เพื่อนเข้าไปนอนในคุกต่อว่ะ"

"แล้วไงวะไอ้สัสเหน่ง?" ไอ้สองตอบ "มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ กลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายว่ะ ยังไงไอ้บิ๊กก็เพื่อนเรา กูไม่แคร์หรอก ไอ้บิ๊กมันช่วยกูไว้หลายเรื่อง ถ้ามึงไม่ช่วยมัน กูช่วยมันเอง ไม่ว่าจะเกิดเหี้ยอะไร กูจะลุยกับมัน"

"ไอ้สอง นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงจะไปบอกไอ้บิ๊กมัน!!" ไอ้เหน่งเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

"เออซิวะ!!!" ไอ้สองตอบ "ไอ้ห่า เพื่อนมึงโดนหยามขนาดนี้ มึงยังทนได้อีกเหรอไงวะไอ้สัสเหน่ง มึงไม่ช่วยมันก็อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวกูไปบอกมันเอง"



mysecret


ชอบอ่าน

อ้างจาก: nato87 เมื่อ ตุลาคม 07, 2017, 07:57:02 หลังเที่ยง
พูดคุยก่อนอ่าน : หายไปนาน ตอนนี้กลับมาแล้วครับ ไม่ซ่อนข้อความนะครับ ตอนนี้ไม่มีบทเสียว เน้นดราม่าเข้ม ๆ ที่แบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนของวิทยาลัยพยาบาล และส่วนของน้องพิมมี่ ตอนนี้ลุงพลไม่มีบทนะครับ 55555555+ ให้แกเก็บแรงหน่อย เพราะตอนหน้าจะเป็นตอนเปิดตัวเมียคนที่ 4 ณ จุดนี้ ผมบอกเลยว่า ยังไม่ถึงเวลาของหมอพลอยครับ คิดดูนะครับว่ามีใครบ้างที่ยังไม่โดนลุงเติมน้ำกลั่น หนึ่งในนั้นแหละ

.................................................................................


ในช่วงสายของวันอังคาร หมอพลอยตัดสินใจลางานครึ่งวันเพื่อเดินทางมาเยี่ยมเจ้าบิ๊ก เพื่อบอกข่าวดีแก่ญาติคนน้องเจ้าปัญหา เจ้าบิ๊กมีท่าทีดีใจมาก ๆ เมื่อได้ยินข่าวดี เด็กหนุ่มเลือดร้อนพนมมือไหว้ขอบคุณญาติผู้พี่ด้วยความสำนึกในบุญคุณ

"ขอบคุณครับพี่พลอย ผมเป็นหนี้บุญคุณพี่จริง ๆ ชาตินี้ผมจะไม่ลืมเลย" เจ้าบิ๊กพนมมือไหว้หมอพลอยในห้องขังด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ

"เอาจริง ๆ พี่ไม่ได้อยากช่วยบิ๊กนะ" หมอพลอยขัดจังหวะซึ้งของญาติผู้น้อง "พี่อยากให้บิ๊กอยู่ในนี้เพื่อทบทวนตัวเอง ที่ผ่านมาบิ๊กสร้างปัญหาไว้เยอะมาก เรื่องเรียนบิ๊กไปถึงไหนแล้ว ได้ข่าวว่าติดโปรอยู่ใช่ไหม ถ้าไม่ผ่านโปรบิ๊กรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?"

"ผมขอโทษครับพี่พลอย" เจ้าบิ๊กทำหน้าจ๋อย "ผมสัญญาว่ากลับไปจะตั้งใจเรียน"

"ให้มันจริงเถอะบิ๊ก" หมอพลอยตอบ "พี่ไม่รู้ว่าคุณลุงกับคุณป้า (หมายถึงพ่อแม่ของบิ๊ก) จะว่ายังไง จำไว้แล้วกันว่าเดี๋ยวตอนบ่ายท่านคงจะมาติดต่อเรื่องขอประกันตัวบิ๊ก ก็จำไว้เป็นบทเรียนนะ กลับตัวกลับใจเป็นคนดี เริ่มต้นชีวิตใหม่"

"เอ่อ...พี่พลอยครับ" เจ้าบิ๊กนึกเรื่องสำคัญได้อีกเรื่อง "คือเรื่องพิม...ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมทำผิดกับเธอไว้มาก ผมอยากจะ...."

"หยุด ๆ ไม่ต้องเลยบิ๊ก!!" หมอพลอยขึ้นเสียงดุ "ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด นี่ยังจะไปคิดถึงคนอื่นอีกเหรอ พิมเค้าลูกมีพ่อมีแม่ ที่ผ่านมาบิ๊กทำไม่ดีกับพลอยมากเลยนะ พี่ในฐานะผู้หญิงด้วยกันยังไม่ชอบเลย"

"แล้วจะให้ผมทำยังไงครับพี่" บุรินทร์เริ่มทำหน้าจ๋อย "ผมแค่อยากไถ่บาปให้ตัวเอง ผมผิดกับพิมมาก ๆ ผมอยากแก้ไขด้วยการทำดีกับเธอ"

"บิ๊ก..." พลอยพรรณมองหน้าญาติคนน้องตาเขม็ง "ฟังพี่นะ ตอนนี้พี่ว่าบิ๊กเริ่มต้นที่ตัวเองก่อน ปรับปรุงนิสัยของตัวเองก่อนเถอะ เรื่องพิมเดี๋ยวพี่จะลองคุยให้ บิ๊กออกไปก็อย่าพึ่งทำอะไรวู่วามแล้วกัน เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อน พี่ไม่อยากให้คุณลุงกับคุณป้าแกเครียดไปมากกว่านี้ บิ๊กรู้ตัวไหมว่าคุณลุงคุณป้านะไม่สบายใจกับสิ่งที่บิ๊กทำมาก ๆ บิ๊กกล้าดียังไงถึงพกปืนไปที่ทำงานพี่ บ้านเมืองมีกฎหมายนะบิ๊ก"

"แต่ผมทนไม่ได้นิครับ" เจ้าบิ๊กกำหมัดแน่น มันทุบกำแพงห้องขังด้วยความเจ็บใจที่ถูกคนแก่แย่งคนรักของตัวเองไป "ไอ้ลุงพลนั่นมันแย่งแฟนผมไป เป็นพี่ พี่ก็ยอมไม่ได้ ถูกไหมครับ เรื่องแบบนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีผู้ชาย พี่พลอยเป็นผู้หญิงไม่มีทางเข้าใจหรอก"

"ทำไมพี่จะไม่เข้าใจ!!" หมอพลอยขึ้นเสียงอีกครั้ง "ที่พี่พูดไม่ฟังเลยใช่ไหม? บิ๊กโตแล้วนะ เลิกทำนิสัยเหมือนเด็กได้แล้ว ที่ผ่านมาถ้าบิ๊กดีจริง พิมเค้าคงไม่หนีไปจากบิ๊กหรอก ส่วนเรื่องลุงพล พี่ไม่ขอออกความเห็น เพราะเรายังไม่มีหลักฐานอะไร จะไปกล่าวหาใครสงเดชไม่ได้"

หมอพลอยจำใจต้องพูดแบบนั้น เพราะถ้าไปบอกความจริง เจ้าบิ๊กคงโกรธจัด ออกจากคุกไปคงได้ตามล่าลุงพลแบบเอาตายแน่ ๆ

"เอาเป็นว่าพี่จะคุยกับพิมให้ผมใช่ไหมครับ?" บิ๊กถามเพื่อความชัดเจน "ผมอยากชดใช้ความผิดที่ตัวเองก่อไว้จริง ๆ"

"อืม ๆ ไอ้เด็กบ้า พี่จะพูดให้ก็ได้ เมื่อไรจะรู้จักโตสักทีนะ" หมอพลอยตอบตกลงด้วยความไม่เต็มใจนัก แต่เธอก็ต้องทำ เพราะไม่ต้องการให้เรื่องที่เริ่มเคลียร์ไปในทิศทางที่ดีต้องเลวร้ายลงไปอีกเพราะความเลือดร้อนของญาติผู้น้อง

.....................................................................................

ทางฝั่งวิทยาลัยพยาบาล ตอนนี้กลุ่มนางฟ้าที่ประกอบด้วย เฟิร์น โดนัท นาถ และ ยัยอุ๊ เริ่มมีบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่ยัยอุ๊เปิดศึกกับคู่หูคู่เลสเบี้ยนอย่างเฟิร์นและโดนัท ยัยอุ๊มักทำหน้าบูดใส่ทั้งสองคนและไม่ยอมพูดจากัน ส่วนน้องนาถที่หายไข้ก็วางตัวลำบาก เพราะไม่รู้จะอยู่ฝั่งไหนดี

พี่อุ๊บอกเธอว่าทั้งสองมีลับลมคมในบางอย่าง ซึ่งนาถก็รู้ความลับนั้น และตกเป็นเหยื่อสวาสเกมรักเลสเบี้ยนสุดหวาบหวิวและตราตรึงใจจนเป็นไข้ ทางฝั่งของเฟิร์นและโดนัทเองก็เตือนเธอให้ระวังยัยอุ๊จอมจุ้นเรื่องชาวบ้านให้ดี

แต่สิ่งที่ทำให้นาถสงสัยคือเรื่องลุงชุมพล พี่อุ๊บอกกับเธอว่าสงสัยพฤติกรรมทั้งคู่ เพราะเคยมีข่าวว่าโดนัทไปอยู่ในห้องลุงชุมพลขณะที่วัยรุ่นหัวร้อนที่ชื่อบุรินทร์ ญาติคนน้องของหมอพลอยพกปืนเข้าไปในห้องพักภารโรง จนหมอพลอยถูกอธิบการบดีเรียกไปสอบปากคำหลายชั่วโมง ไม่ต้องบอกเลยว่าหมอพลอยถูกผู้ใหญ่ตำหนิมากในเรื่องนี้ เพราะเป็นญาติกับผู้ต้องหา

น้องนาถเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงเที่ยงวัน โดนัทและเฟิร์นปลีกตัวออกไปกินข้าวด้วยกันสองคน ส่วนนาถก็กินข้าวกับก๊วน ๆ ของพี่อุ๊ ที่ต่างจับกลุ่มซุบซิบนินทาคู่หูคู่เลสอย่างสนุกปาก บางเรื่องทำเอานาถอดรู้สึกโกรธแทนโดนัทและเฟิร์นไม่ได้ เพราะคิดว่าสิ่งที่อุ๊พูดมันเกินไป สุดท้ายน้องนาถเลยลุกขึ้นจากโต๊ะและหยิบจานข้าวและน้ำดื่มไปนั่งกับโดนัทและเฟิร์นเพื่อประกาศฝั่ง ทำเอายัยอุ๊มองค้อนรุ่นน้องด้วยความไม่พอใจ



"ดาเค้าเป็นอะไรของเค้านะ (ชื่อเล่นอีกชื่อของนาถรดา)" หนึ่งในก๊วนของยัยอุ๊เอ่ยปากถามด้วยความสงสัย "นี่เราพูดแรงไปหรือเปล่าววะอุ๊?"

ยัยอุ๊ไม่ตอบอะไร หทัยรัตน์ เด็กสาวจากราชบุรีสงสัยในพฤติกรรมของนาถรดาไม่น้อยไปกว่าเนตรชนกและณิชา เธอคิดมาตลอดว่าเรื่องนี้ต้องมีซัมติงแน่นอน

.....................................................................................

ทางฝั่งของเฟิร์นและโดนัทที่กำลังกินข้าวอยู่นั้น รู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่นาถของมานั่งร่วมโต๊ะด้วย สองสาวคู่เลสสงสัยในพฤติกรรมของนาถ แต่นาถชิงจังหวะตอบเพื่อให้รุ่นพี่ทั้งสองหายข้องใจ



"หนูขอนั่งด้วยนะคะพี่โดนัท พี่เฟิร์น หนูเบื่อคนชอบนินทาคนอื่น" นาถเอ่ยปาก

"เชิญเลยจ๊ะนาถ" โดนัทโบกมือด้วยไมตรี

"ยัยอุ๊นินทาอะไรเกี่ยวกับพวกพี่ใช่ไหมนาถ?" เฟิร์นเอ่ยปากถาม

"ใช่ค่ะ เชื่อเถอะค่ะพี่ไม่อยากฟังหรอก หนูฟังยังโกรธแทนพวกพี่เลย" นาถตอบ "คนอะไรก็ไม่รู้นิสัยไม่ดี ชอบนินทาคนอื่นลับหลัง"

เฟิร์นและโดนัทต่างมองไปทางโต๊ะยัยอุ๊ตาขวาง ทางฝั่งยัยอุ๊เองก็ไม่ยอมแพ้ เธอมองเพื่อนสาวทั้งคู่ตาเขม็งเช่นเดียวกัน สงครามเย็นในแก๊งนางฟ้าเริ่มมาคุขึ้นเรื่อย ๆ จากนี้ไปความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนคงถึงจุดสั่นคลอนและไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีก



"บอกพวกพี่หน่อยได้ไหม? ว่ายัยอุ๊นินทาอะไรพี่บ้าง บอกมาเถอะ" เฟิร์นยืนยันคำเดิม เธออยากรู้ว่ายัยอุ๊นินทาอะไรเธอบ้าง

"ถ้าพี่อยากรู้ หนูบอกให้ก็ได้ค่ะ" นาถตอบ "พี่อุ๊บอกว่าพวกพี่น่ะเป็นคู่เลสเบี้ยนกัน แล้วก็อาจมีอะไรกับลุงพลแล้ว"



"ไอ้....." ณิชาทำช้อนตกลงบนจาน พอได้ยินเช่นนั้นทำเอาสาวห้าวจากเมืองหลวงถึงกับเม้งแตก ที่เธอโกรธเพราะสิ่งที่ยัยอุ๊นินทานั้นมันเรื่องจริง "ยัยอุ๊....สงสัยชั้นคงได้ตบหน้าคนซะแล้วมั้งวันนี้!"

"ใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ๊!!!" เฟิร์นพยายามห้ามปราม "อย่าทำอะไรแบบนั้นนะเจ๊ เดี๋ยวไปเข้าทางยัยอุ๊ ยัยนี่มันปากปีจอ พูดไปเรื่อยเปื่อย เหลวไหลที่สุด ไม่น่าเสียเวลาคบเป็นเพื่อนเลย!!!"

"หนูก็ว่าแบบนั้นค่ะ หนูรู้สึกไม่ดีกับพี่อุ๊เลย คนอะไรไม่รู้ชอบวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของคนอื่น" นาถแสดงท่าทีฉุนเฉียวไม่น้อย เพราะลึก ๆ เธอก็กลัวพี่อุ๊จะรู้ว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกวงดนตรีไทยร่วมกับเฟิร์นและโดนัท แต่อีกใจเธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าลุงพลมีอะไรกับโดนัทหรือเฟิร์นแล้วจริง ๆ

หลังจากทานข้าวเสร็จ สาว ๆ แก๊งนางฟ้าคณะพยาบาลก็แยกย้ายกันไปเข้าเรียนตามวิชาของใครของมัน เฟิร์นและโดนัทที่มีวิชาเดียวกันปรึกษาระหว่างเดินเข้าห้องเรียนว่าพวกเธอควรทำอย่างดีกับสถานการณ์เช่นนี้

"เราควรทำไงดีวะเจ๊?" เฟิร์นเอ่ยปากถามเพื่อนรัก "ชั้นว่าเรื่องนี้ชักบานปลายแล้ว"

"ต้องโทษลุงพลคนหื่นนั่น!!" โดนัทตอบ เธอยังเคืองนักการวัยดึกจอมหื่นไม่หาย "พวกเราเจอเรื่องวุ่น ๆ เพราะไอ้แก่ตัณหากลับคนนี้แท้ ๆ"

ทางฝั่งเฟิร์นก็กระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้จะพูดยังไง ตอนนี้เรื่องราวทุกอย่างมันบานปลายและยุ่งเหยิงจนพวกเธอไม่แน่ใจว่าจะรับมือมันอยู่ได้หรือไม่ ยัยอุ๊เป็นจอมจุ้นที่ไม่เลิกรา สิ่งที่เฟิร์นคิดออกคือต้องหาทางปิดปากยัยอุ๊ แต่ก็จนปัญญาเพราะไม่รู้จะทำยังไง จะร่วมทีมกับโดนัทและนาถสามคนรุมปล้ำยัยอุ๊นะเหรอ? เป็นความคิดที่เสี่ยงมาก และไม่แน่ใจด้วยว่ายัยอุ๊จะยอมปิดปากหรือไม่

"หรือว่าเราจะปิดปากยัยอุ๊?" เฟิร์นเสนอความเห็น ก่อนเหลือบตามองซ้ายขวาเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน ระหว่างรอลิฟต์ "เหมือนที่เคยทำกับนาถ แล้วถ่ายรูปแบล็คเมล์ไว้"

"นี่ความคิดแกเหรอเฟิร์น!!!" โดนัทถึงกลับถลึงตาใส่ แผนแบบนี้มันเป็นแผนชั่วของลุงพลชัด ๆ โดนัทไม่คิดว่าเด็กสาวที่แสนดีอย่างเฟิร์นจะมีความคิดแบบนี้ได้ "แกไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนวะเฟิร์น?"

"ก็จะให้ทำยังไงละ..." เฟิร์นทำหน้าจ๋อย "ถ้าเราปิดปากยัยอุ๊ไม่สำเร็จ ทุกอย่างจบเห่แน่ หรือว่าเราจะบอกความจริงกับลุงพล เผื่อลุงพลจะมีวิธีแก้ปัญหาให้เรา"

"พอ ๆ ๆ" โดนัทปฏิเสธลั่น "ชั้นว่าแผนการแต่ละอย่างของแกมันบ้าบอทั้งนั้น ถึงชั้นจะเกลียดยัยอุ๊ยังไง ชั้นก็ไม่อยากให้ยัยนั่นมาเจอกับเรื่องบ้า ๆ แบบที่พวกเราเจอแน่"

"งั้นชั้นก็จนปัญญาแล้วละเจ๊...." เฟิร์นตอบ ก่อนเดินเข้าไปในลิฟต์ที่เป็นออกพร้อมกับโดนัท เพื่อเข้าเรียนวิชาภาคบ่าย

....................................................................................

ตัดมาที่ฝั่งของพิมมี่ เด็กสาวเข้าเรียนตามปกติในวันอังคาร หลังจากหมดคาบเรียน ช่วงบ่ายก็ว่าง เด็กสาวตัดสินใจเดินทางกลับหอพัก ตอนแรกเธอตั้งใจจะนัดพบกับลุงพล แต่ลุงพลคนหื่นขวัญใจเธอบอกว่ามีธุระ เพราะลูก ๆ ของลุงแกพาหลานมาเยี่ยมที่บ้าน เลยทำให้น้องพิมอดได้เจอกับลุงพลยอดรัก

เพื่อน ๆ ต่างแซวพิมมี่ว่าพักหลังเธอสวยขึ้น หลายคนถามว่าไปทำอะไรมาถึงได้สวยใสหน้าเด้ง บางคนแซวต่อด้วยว่าสงสัยเลิกจากเจ้าบิ๊กแล้วชีวิตมีความสุขขึ้น เลยทำให้เธอมีเวลาดูแลตัวเอง จนทำเอาหนุ่ม ๆ ร่วมคณะที่ทราบข่าวว่าพิมมี่เลิกกับเจ้าบิ๊กเริ่มหยอดหวานใส่เธอเพื่อขายขนมจีบ พิมมี่ก็ยิ้มรับไปตามมารยาท แต่ในใจเธอตอนนี้เรียกได้ว่ามีแต่ลุงพลเต็มหัวใจ เพราะที่ผ่านมาเธอรู้สึกไม่ได้ดั่งใจกับหนุ่ม ๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน ที่เอาแต่ใจ เผด็จการ เรื่องเซ็กส์ไม่จัดจ้าน ไม่คิดถึงจิตใจผู้หญิง แตกต่างจากลุงพลที่อาจไม่ได้ฟิตเหมือนเด็กหนุ่ม แต่ลีลารักชั้นอ๋อง พาเธอขึ้นสวรรค์จนนับครั้งไม่ถ้วน

พอคิดแบบนี้ก็ทำเอาหว่างขาของเธอเปียกแฉะ ภาพที่ลุงพละกำลังร่วมรักกับเธอยังคงตราตรึงในจิตใจ พอทนไม่ไหวก็เข้าห้องน้ำไปติ้วหอยตัวเองให้น้ำแตก พอสบายตัวก็เข้าเรียนต่อ

"พิมครับ ได้ข่าวว่าพิมเลิกกับบิ๊กแล้วเหรอ?" เจ้าบอส วุฒิชัย หนุ่มร่วมคณะของเจ้าบิ๊กอ่ยปากถาม เจ้าบอสเป็นลูกนักธุรกิจดังจากภาคใต้ เรื่องความรวยไม่ได้เป็นรองเจ้าบิ๊ก หมอนี่เองก็สนใจพิมมี่มานาน แต่ไม่กล้าจีบ เพราะเจ้าบิ๊กมันแสดงความเป็นเจ้าของ อีกอย่างมันกับเจ้าบิ๊กก็ไม่ค่อยถูกกัน เพราะเคยเขม่นกันสมัยเตะบอลคณะ เมื่อตอนปีหนึ่ง

"ค่ะ...พิมเลิกกับบิ๊กแล้วค่ะพี่บอส" พิมมี่ตอบไปตามมารยาท

"งั้นแสดงว่าหัวใจพิมมี่ว่างแล้วซิครับ แล้วพี่บอสคนนี้พอมีโอกาสไปนั่งในหัวใจของพิมมี่ไหม?" บอสหยอดหวานใส่พิมมี่ที่หมายปองมานาน

"ไม่รู้ซิคะ ตอนนี้พิมอยากตั้งใจเรียนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน แค่นี้ก่อนนะคะพี่บอส พิมมีธุระ" พิมมี่ตอบ ก่อนขอตัวกลับไป ปล่อยให้เจ้าบอสบ่นพึมพำในใจ

"คอยดูเหอะ เดี๋ยวกูจะคั่วเด็กมึงให้ได้ ไอ้บิ๊ก" ไอ้บอสมองเรือนร่างด้านหลังของพิมมี่อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนเดินไปที่โรงจอดรถเพื่อขับรถไปเที่ยวที่ห้างใกล้มหาวิทยาลัย

พิมมี่เดินออกมารอรถประจำทางหน้ามหาวิทยาลัย เจ้าสองและเจ้าเหน่ง เพื่อนรักของเจ้าบิ๊กรีบเดินมาประกอบซ้ายขวา พิมมี่ตกใจมากพยายามจะลุกหนี แต่เจ้าสองรีบป้องมือห้ามพิมมี่ เพื่อบอกบางสิ่งบางอย่างกับเธอ

"อย่าพึ่งไปไหนพิม พวกเรามีอะไรจะบอกเธอ" สองเอ่ยปากกับพิมมี่ ที่รู้สึกไม่สบายใจ ปกติเจ้าสองกับเจ้าเหน่ง ก็มีท่าทีไม่น่าไว้วางใจอยู่แล้วเวลาอยู่กับเจ้าบิ๊ก ตอนนี้ในใจของเด็กสาวคิดว่าไอ้ลิ้วล้อสองตัวของเจ้าบิ๊กมันมีธุระอะไรกับเธอ

"ทำไมเธอทำกับเพื่อนเราแบบนี่พิม" เหน่งเริ่มเปิดประเด็น "เมื่อวานเหน่งกับสองไปทำรายงานแถว ๆ หอของพิม เราเห็นพิมมากับไอ้ลุงนั่น"

"ลุงไหน?" พิมมี่แกล้งทำมึนไม่รู้เรื่อง "อ้อ!!! นั่นพ่อพิม มีอะไรเหรอ?"

"สองว่าไม่ใช่นะพิม" เจ้าสองเริ่มไล่ต้อนพิมมี่หนักขึ้น "นั่นคือลุงพล ภารโรงแก่ ๆ ที่วิทยาลัยพยาบาล ที่เคยไปเตะตะกร้อกับบิ๊ก"

พิมมี่ถึงกับหน้าเสีย นี่ตกลงไอ้สองกับไอ้เหน่งรู้ความลับของเธอแล้วใช่ไหม?

"ตอบไม่ถูกซินะพิม" เหน่งเริ่มไล่ต้อนรุ่นน้องบ้าง "ทำไมพิมทำแบบนี้กับบิ๊ก พิมรู้ไหมว่าบิ๊กบ่นคิดถึงพิมมากนะ บิ๊กเคยบอกกับพี่ว่าถ้าออกไปได้ บิ๊กจะบอกพ่อแม่ให้มาสู่ขอพิมหลังเรียนจบและจะชดใช้เงินที่ติดพิมให้ ทำไมครับพิม ทำไมพิมทำแบบนี้กับบิ๊ก?"

"อย่ามายุ่งกับพิม!!" พอจวนตัว พิมมี่เลยลุกขึ้นเพื่อรีบเดินหนีจากป้ายรถเมล แต่เจ้าสองที่รักเพื่อนไม่ยอมเลิกรา มันคว้าแขนน้องพิมไว้ จนน้องพิมร้องด้วยความตกใจ

"ปล่อยนะพี่สอง!!!" พิมมี่พยายามปัดแขนเจ้าสอง "มันเรื่องอะไรของพี่ที่มายุ่งกับชีวิตส่วนตัวหนู!!!!"

ไม่ทันไร เสียงแตรรถก็ดังขึ้น ทั้งสามหันไปทางเดียวกัน มันเป็นรถเก่งสีดำ Toyota Camry ที่เจ้าบอส วุฒิชัยเป็นเจ้าของ เด็กหนุ่มหน้าตาดีเปิดประตูรถ ชี้หน้าไอ้เหน่งและไอ้สองอย่างเอาเรื่อง

"ไอ้สัส พวกมึงทำอะไรน้องพิมเค้า!!" ไอ้บอสชี้หน้าลิ่วล้อไอ้บิ๊กอย่างเอาเรื่อง "ปล่อยน้องเค้านะโว้ย ไอ้ห่า หน้าตัวเมียนะพวกมึง รังแกผู้หญิง!!!"

"ไอ้สัสบอส ไอ้บิ๊กไม่อยู่มึงเอาใหญ่เลยนะ" ไอ้สองชี้หน้าใส่ไอ้บอสอย่างเอาเรื่อง "มึงนะมึง...."

"ไอ้สอง ถอยก่อน!!" ไอ้เหน่ง หนึ่งในลิ้วล่อของเจ้าบิ๊กที่ดูเป็นผู้เป็นคนที่สุดรั้งเพื่อนออกมา "ออกมาก่อน เรื่องมันชักจะบานปลายแล้ว ถอยก่อนโว้ย"

ไอ้สองกับไอ้เหน่งรีบเดินหนีไปจากที่ตรงนั้น ส่วนพิมมี่ก็พนมมือไหว้เจ้าบอส หนุ่มหล่อหน้าตาดี อริตัวฉกาจของเจ้าบิ๊กด้วยความรู้สึกขอบคุณ

"ขอบคุณนะคะพี่บอส" พิมมี่พนมมือไหว้พี่บอส "ถ้าไม่ได้พี่ พิมคงแย่"

"ระวังหน่อยนะพิม พวกแก๊งไอ้บิ๊กมันเล่นไม่เลิกจริง ๆ" บอสตอบ "ถ้ามีอะไรบอกพี่ได้นะ พี่ยินดีช่วย"

"ขอบคุณค่ะพี่บอส แค่นี้พิมก็ดีใจแล้ว" พิมมี่ตอบด้วยรอยยิ้ม เท่าที่ติดตามข่าว เจ้าบอสเป็นหนุ่มหน้าตาดี นิสัยใช้ได้ หมอนี่ไม่ค่อยมีข่าวเสียหายเท่าไรนัก ก่อนหน้านั้นเจ้าบอสเคยคบหากับสาวรุ่นน้องคนหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เลิกรากัน ข่าวบอกว่าจากกันด้วยดี จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายเดือน ก็ไม่มีข่าวว่าพี่บอสคบหากับใครอยู่



"บ้านพิมไกลไหม ให้พี่ไปส่งไหมครับ?" บอสเริ่มรุกเร้าต่อตามสไตล์สุภาพบุรุษ

"ไม่เป็นไรค่ะ รบกวนพี่เปล่า ๆ" พิมมี่ตอบ "พิมว่าพี่รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวโดนบีบแตรไล่นะ"

"โอเค ๆ เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะครับพิม ไว้เจอกัน" บอสตอบ ก่อนเปิดประตูรถแล้วขับออกไป

พิมมี่มองรถของพี่บอส เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่บอส เพราะตอนนี้สิ่งที่เธอกังวลคือความลับของเธอและลุงพลเริ่มรั่วไหลมากขึ้น จนเธอชักไม่แน่ใจว่าจะปิดบังความลับนี้ได้อีกนานเท่าใด

........................................................................................

หลังจากที่กลับมาจากห้องพัก พ่อแม่ของพิมมี่ที่โคราชก็โทรมาถามชีวิตความเป็นไปของลูกสาว พ่อกับแม่ของพิมมี่บอกว่าอาทิตย์หน้าจะแวะมาเยี่ยมลูกสาวที่หอ พิมมี่ตอบตกลง เพราะเธอไม่ได้กลับมาบ้านหลายเดือนแล้ว สุดท้ายแล้วพ่อแม่ของพิมมี่สั่งกำชับว่าให้พิมมี่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้จบ เพื่อที่จะนำวิชาความรู้มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้านเกิด

บ้านของพิมมี่ก็จัดว่ามีฐานะ พ่อกับแม่ทำธุรกิจกระเบื้องเซรามิค ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเงินทุนส่งลูกสาวมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ ของประเทศย่านวิภาวดีได้ ตอนแรกพ่อกับแม่ของพิมมี่ไม่อยากให้ลูกสาวมาเรียนไกลถึงกรุงเทพ แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนของพิมมี่ จนทำให้เธอได้มาเรียนที่เมืองหลวงสมใจ

"ตั้งใจเรียนให้จบนะลูกนะ พ่อกับแม่รอคอยความสำเร็จของลูกอยู่ เรียนจบแล้วก็กลับบ้านเรา อย่ามัวเถรไถลที่กรุงเทพ" แม่ของพิมมี่สั่งกำชับลูกสาวด้วยความเป็นห่วงด้วยภาษาท้องถิ่น

"ค่ะแม่ พิมมี่รักแม่นะคะ" พิมมี่ตอบกลับด้วยภาษาท้องถิ่น ก่อนวางสาย เด็กสาวที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดไปรเวทเปิดโทรทัศน์ดูรายการอะไรเรื่อยเปื่อยตามเรื่อง จนสักพักก็มีสายเรียกเข้า เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยนัก พิมมี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนกดรับสาย

"สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?" พิมมี่เอ่ยปากถามปลายทาง

"สวัสดีค่ะ นี่คือหมอพลอยนะคะ พลอยพรรณ ก่อนอื่นพี่ขอเรียกตัวเองว่าพี่พลอยนะ พี่เป็นญาติของเจ้าบิ๊กมัน คือพี่มีอะไรอยากจะคุยกับน้องหน่อยค่ะ น้องพิมพาภรณ์รับสายอยู่ใช่ไหมคะ จำพี่พลอยได้ไหม ที่เจอหน้ากับพิมเมื่อวันเกิดเจ้าบิ๊กเมื่อหลายเดือนก่อนที่ชลบุรี พอจะสะดวกคุยกับพี่สัก 5 นาทีไหม?"

"ค่ะ...." พิมมี่ตอบตกลง แต่ในใจเธอนึกกังวลว่าเจ้าบิ๊กจะมาไม้ไหนกับเธออีก "สะดวกคุยค่ะพี่พลอย เรียกหนูว่าพิมก็ได้ค่ะ"

"ดีใจที่ได้ยินแบบนี้นะคะพิม คือก่อนอื่นพี่ต้องขอโทษแทนน้องชายตัวแสบของพี่จริง ๆ เจ้าบิ๊กมันสารภาพกับพี่หมดแล้วว่ามันทำเรื่องแย่ ๆ กับพิมไว้มาก ที่นี้ในฐานะญาติที่เหมือนเป็นพี่แท้ ๆ ของเจ้าบิ๊ก พี่ก็อยากให้เรื่องราวทุกอย่างจบได้ด้วยดี ก็เลยอยากเป็นตัวกลางพูดคุยกับน้องพิมเรื่องเจ้าบิ๊ก"



"หนูไม่มีอะไรติดค้างบิ๊กแล้วค่ะพี่พลอย หนูเลิกกับบิ๊กไปแล้ว ไม่อยากได้ยินอะไรอีก" พิมมี่ตอบ นัยน์ตาของเธอเริ่มแดงก่ำเพราะรู้สึกสับสนในชีวิตปนความกลัว กลัวที่ต้องกลับไปเริ่มต้นกับเจ้าบิ๊กใหม่

"คือแบบนี้ค่ะพิม บิ๊กสารภาพแล้วว่าบิ๊กน่ะขโมยเงินพิมไป และเจ้าบิ๊กก็ยังอยากจะไถ่โทษด้วยการคืนเงินทั้งหมดที่เอาจากพิมไปคืน พี่ก็เลยอยากให้เรื่องราวทุกอย่างมันจบได้ด้วยดี"

"ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่พลอย" พิมมี่ตอบ ในใจเธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเมื่อรู้ว่าเจ้าบิ๊กยังมีสำนึก คิดคืนเงินให้เธอ

"คือบิ๊กติดเงินพิมเท่าไรนะคะ 30,000 ใช่ไหม?" พลอยถาม

"ค่ะ....พี่พลอย" พิมมี่ตอบ "นั่นมันเงินค่าเทอมหนู ที่ไอ้...เอ้ย!!!? บิ๊กเค้าขโมยไป"

"งั้นเอาแบบนี่นะคะพิม บอกเบอร์บัญชีพี่มา เดี๋ยวพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงพี่จะโอนเงินไปให้"

"ได้ค่ะ...ขอเวลาสักครู่นะคะพี่พลอย" พิมไปหยิบบุ๊คแบงค์แล้วบอกเบอร์บัญชีของเธอให้หมอพลอยจด

"โอเคค่ะ เดี๋ยวพี่จะโอนเงินไปให้พรุ่งนี้นะคะพิม" หมอพลอยเอ่ยปากหลังจากได้เบอร์บัญชีของพิมมี่

"เอ่อ...พี่พลอยคะ" พิมมี่มีบางสิ่งที่อยากพูดออกมา "คือพิมอยากฝากอะไรถึงบิ๊กหน่อยนะคะ ถือว่าช่วยพิมในฐานะผู้หญิงด้วยกัน"

"ได้ซิจ๊ะพิม" พลอยตอบเสียงใส "ว่ามาเลย"

"บอกบิ๊กว่าอย่ายุ่งกับชีวิตพิมอีก บิ๊กบอกเพื่อน ๆ ให้มาวุ่นวายกับชีวิตพิมใช่ไหม บอกบิ๊กให้หยุดซะ ก่อนที่พิมจะเกลียดบิ๊กไปมากกว่านี้ ฝากบอกบิ๊กด้วยนะคะพี่พลอย ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน"

"ได้ซิคะพิม พี่จะบอกบิ๊กให้ ทำใจให้สบายนะ พี่เองก็ไม่พอใจสิ่งที่บิ๊กทำเหมือนกัน" หมอพลอยตอบเพื่อให้พิมสบายใจ ก่อนวางสาย

หลังจากกดวางสาย พิมมี่ก็นั่งชันเข่า ร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ นี่ถ้าพ่อแม่ของเธออยู่ใกล้ ๆ เธอคงโผล่เข้ากอดพ่อกับแม่เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ แต่ท่านทั้งสองอยู่ไกล เพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ก็พอมีอยู่บ้าง แต่เรื่องบางอย่างเธอไม่สามารถพูดออกมาได้ สุดท้ายก็เลยโทรไปหาลุงพล

"เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......" ลุงพลยอดรักปิดมือถือ ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด แต่มันทำให้พิมมี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เพราะเธอไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครดี

........................................................................................

ตัดมาที่ฝั่งของเจ้าสองและเจ้าเหน่ง พวกมันพูดคุยกันเรื่องเมื่อช่วงบ่าย เจ้าสองเสนอความคิดว่าควรบอกทุกอย่างให้บิ๊ก แต่เจ้าเหน่งแย้ง เพราะคิดว่ามันจะทำให้เรื่องทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม

"มึงกลัวอะไรวะไอ้สัสเหน่ง" ไอ้สองถาม "มึงก็รู้ว่าพิมมี่สวมเขาให้เพื่อนเรา มึงยอมได้เหรอวะ?"

"ไม่ใช่อย่างนั้นไอ้สอง"เหน่งตอบ "แต่กูกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลายว่ะ"

"มึงจะไปแคร์อะไรวะไอ้สัสเหน่ง?" ไอ้สองแย้ง "มึงทนได้ไงวะที่เห็นเพื่อนเราต้องโดนสวมเขาแบบนี้ ไหนจะไอ้สัสบอส กูโคตรเกลียดหน้ามันชิบหาย มันคิดว่ามันหล่อเหรอไงวะ หล่อตายล่ะไอ้ห่า"

"ไอ้สอง ฟังกูนะเพื่อน" เหน่งที่พอเป็นผู้เป็นคนตัดสินใจเตือนเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย "กูว่าเรื่องบางเรื่อง พวกเราอย่าไปยุ่งวุ่นวายให้มากเลยว่ะ กว่าเรื่องประกันตัวไอ้บิ๊กมันจะสำเร็จ พวกผู้ใหญ่ต้องเสียเวลาวิ่งเต้นแค่ไหน กูว่าเรากำลังหาเรื่องให้เพื่อนเข้าไปนอนในคุกต่อว่ะ"

"แล้วไงวะไอ้สัสเหน่ง?" ไอ้สองตอบ "มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ กลัวอะไรกับเรื่องแค่นี้ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายว่ะ ยังไงไอ้บิ๊กก็เพื่อนเรา กูไม่แคร์หรอก ไอ้บิ๊กมันช่วยกูไว้หลายเรื่อง ถ้ามึงไม่ช่วยมัน กูช่วยมันเอง ไม่ว่าจะเกิดเหี้ยอะไร กูจะลุยกับมัน"

"ไอ้สอง นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงจะไปบอกไอ้บิ๊กมัน!!" ไอ้เหน่งเอ่ยปากถามด้วยสีหน้าไม่สู้ดี

"เออซิวะ!!!" ไอ้สองตอบ "ไอ้ห่า เพื่อนมึงโดนหยามขนาดนี้ มึงยังทนได้อีกเหรอไงวะไอ้สัสเหน่ง มึงไม่ช่วยมันก็อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวกูไปบอกมันเอง"

careboomz

เนื้อเรื่องดราม่าขึ้นเรื่อยๆเดาไม่ออกเลยว่าจะเป็นแบบไหนต่อ

dodam

เรื่องราวดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ลุงพลได้พักผ่อนบ้าง หหลังจากกรำศึกมาอย่างดุเดือดจนทำให้ร่างกายดรอฟลงไปอย่างน่าเป็นห่วง

dick1050

บิ๊กจะซวยหนักขึ้นเพราะเพื่อนอย่างเจ้าสองนี่แหละ ทำอะไรไม่คิดให้ดี ตัวเองไม่ได้ติดคุกนะ ไอ้บิ๊กต่างหากที่ติดคุก
Make love Not War