ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

อสูรพลิกฟ้า NTR ตอนที่ 1 คำเชิญของราชินีมาร

เริ่มโดย Oumale, มีนาคม 04, 2023, 08:24:41 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Oumale

เรื่องนี้เป็นแฟนฟิคของนิยายจีนชื่อ อสูรพลิกฟ้า นะครับ ใครสายนิยายจีนน่าจะรู้จัก
เป็นบทหลังจากที่หยุนชื่อเอาชนะหลงไป๋และยึดครองแดนเทพแล้ว
โดยผมแปลมาจากต้นฉบับ ชื่อ (แผนการสวมหมวกเขียวของหยุนเช่อ) ของนักเขียนชื่อ 苗 (MAO')
เป็นเนื้อเรื่องแนว ntr สำหรับใครที่เป็นแฟนสายนี้คิดว่าน่าจะถูกใจกันพอสมควร
ถ้าผลตอบรับดีตอนต่อไปจะมาต่อให้เร็วขึ้น

--------------------------------------------------------------------
บทที่หนึ่ง คำเชิญของราชินีมาร

    นับตั้งแต่หยุนเช่อเอาชนะจักรพรรดิมังกรและยอมรับคำแนะนำ "การแต่งงาน" ของฉือหวู่เหยา แดนเทพทั้งสี่จึงมีเหล่าสนมของจักรพรรดิช่วยปราบปรามกองกำลังต่อต้านในแต่ละอาณาจักรเทพที่ยังดิ้นรนขัดขืน
   
    นางสนมของจักรพรรดิที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งอย่าง มู่เซวียนยิน เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ ไฉจือ และ ชิงเชวี่ย ต่างก็กลับไปยังอาณาจักรของตนตามลำดับเพื่อจัดการปัญหาต่าง ๆ  ทั้งยังเป็นการประกาศศักดาของหยุนเช่อในฐานะจักรพรรดิตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา
   
    .

    .

    ไม่กี่เดือนต่อมา

    เชียนเย่หยิงเอ่อร์เดินทางมาถึงภาราจักรพรรดิเมฆา ทันทีที่นางมาถึง พลันมีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง

    "ไฉนจู่ ๆ เจ้าถึงกลับมา?"

    หลังจากคลุกคลีกันมาเป็นเวลานาน นี่คือเสียงที่นางไม่มีทางคุ้นเคยไปมากกว่านี้ได้อีก

    "ทำไม? ข้ามารบกวนโลกส่วนตัวของเจ้ากับหยุนเช่อ? หรือตอนนี้เจ้าอยากร้องครวญครางอยู่กับมันบนเตียง?"

    ฉืออู๋เหยาเพียงยิ้มเมื่อได้ยิน แน่นอนว่าหากมีคนอื่นพูดแบบนี้กับนาง มันผู้นั้นเกรงว่าซากร่างก็จะไม่หลงเหลือ

    "หุหุ เป็นอย่างที่เจ้าว่า ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้ข้ารู้ซึ้งจริง ๆ ว่าถึงข้าจะมีดวงจิตมารบรรพกาลอันสูงส่ง เนื้อแท้ก็ยังเป็นแค่สตรีธรรมดาบนเตียงของบุรุษ"

    "เหอะ...ข้าคิดอยู่แล้วว่าเจ้าก็เป็นนางแพศยาเหมือนกัน"

    เชียนเย่หยิงเอ๋อร์กล่าวด้วยความริษยา

    "อิจฉางั้นรึ? อุ๊บ...เทพธิดาปรมันตร์ผู้มีพลังของเทพผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ตอนนี้กลับรู้จักอิจฉาเหมือนผู้หญิงทั่วไป...แต่ไม่ต้องกังวล ฝ่าบาทและข้าเพียงอยู่ด้วยกันไม่กี่เดือน จำนวนครั้งที่ข้าทำกับหยุนเช่อรวมกันยังไม่มากเท่ากับ 6,000 ครั้งของเจ้าในสี่ปี คิก ๆ ๆ"

     ไม่ทราบเหตุใดฉืออู๋เหยามักชอบเอ่ยวาจาหยอกเย้ากับเชียนเย่หยิงเอ๋อร์เป็นประจำ ยิ่งมายิ่งไม่เหลือความเกรงใจต่อกัน

     "...ทำไมองค์รักษ์ของเมืองหลวงถึงหน้าตาไม่คุ้นเคย คนเก่า ๆ หายไปไหน?"

     "อืม...เรื่องนี้ค่อนข้างยากจะอธิบาย..."

     ฉืออู๋เหยาค่อย ๆ ก้าวไปหาเชียนเย่หยิงเอ๋อร์

     "...เจ้า...มีบางอย่างแปลกไป..."

     เวลานี้จักรพรรดิมังกรสิ้นแล้ว ไม่มีใครในโลกที่สามารถคุกคามหยุนเช่อหรือฉืออู๋เหยาได้ แต่เมื่อเห็นท่าเดินของฉีอู๋เหยาเบื้องหน้าก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้

     ทันใดนั้นเชียนเย่หยิงเอ๋อร์พลันสำรวจฉืออู่เหยาขึ้นลง แม้กระทั่งตรวจสอบบรรยากาศรอบกาย พริบตานั้นนางจึงพบบางสิ่งที่ผิดปกติ ใบหน้าของหญิงสาวกลายเป็นมืดลง นางถึงขั้นเรียกดาบพยากรณ์ที่เปล่งแสงสีทองออกมา   

     "ฉืออู๋เหยา ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะกลายเป็นผู้หญิงต่ำช้าหลังจากที่ได้สัมผัสกับความสุขของสตรี น่าผิดหวังนัก!!"

     "...." ฉืออู๋เหยาไม่ตอบคำ กลับกันนางยังคงแสดงสีหน้าดุจเดิม

     หากเป็นผู้อื่นหญิงสาวคงจะตื่นตระหนกในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ฉืออู๋เหยาต่อหน้าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ไม่เพียงไร้วี่แววของความตื่นตระหนก แต่นางยังสงบยิ่งยวด ทำเอาเชียนเย่หยิงเอ๋อร์นึกสงสัยว่าตนเข้าใจผิด แต่ถึงแม้กลิ่นที่ออกมาจาก "บางส่วน" บนร่างกายของฉืออู๋เหยาจะบางเบามาก แต่นางก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่กลิ่นที่ตนคุ้นเคย
   
     "เหอเหอ เชียนหยิงกำลังทำอะไรอยู่? เราต่างล้วนเป็นสนมของหยุนเช่อ น่าจะมาสนิทสนมกันมากกว่า"

     "หยุดพูดไร้สาระ บอกข้ามาว่ามันเป็นใคร? และข้าจะฆ่าเจ้าหลังจากที่ฆ่าผู้ชายคนนั้น"

     ดาบพยากรณ์ในมือเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ตวัดพาดอยู่ที่ลำคอของฉืออู๋เหยา พร้อมที่จะสะบั้นศีรษะและลำตัวนางออกจากกันเหมือนจักรพรรดิมังกร   

     "ทำไมข้าถึงไม่เข้าใจสิ่งที่เจ้าพูด...ผู้ชายอะไรกัน?"   

     แม้ในขณะที่ความตายเฉียดใกล้ฉืออู๋เหยาก็ยังคงสงบนิ่ง

     "เจ้ายังแกล้งทำเป็นโง่งมอีกหรือ เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้จริง ๆ? ย่อมได้...เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้าย หากเจ้าแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาเช่นนี้"

     หลังจากพูดจบเซียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็วาดดาบพยากรณ์ในมือไปที่ศีรษะของฉืออู๋เหยา และเมื่อดาบพยากรณ์ชักกลับมาม ศีรษะของฉืออู๋เหยากลับคงอยู่บนร่างกายของเธอ กลับกลายเป็นอาภรณ์ทมิฬส่วนล่างของฉืออู๋เหยาที่แตกสลายเป็นผง

     สิ่งที่เผยออกมาคือบุปผาเลิศล้ำที่ผู้ฝึกตนมากมายต่างหมายปอง ไม่ว่าจะราชาแห่งโลก เหล่าจักรพรรดิแห่งแดนเทพ หรือแม้แต่มวลมารในดินแดนอุดร ทั้งหมดต่างปรารถนาที่จะเชยชมสิ่งนี้กับตา

     เมื่อไม่นานมานี้ ส่วนลับสีชมพูที่ไม่เคยมีประสบการณ์กับผู้ชายได้สูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว พื้นที่นุ่มนวลสีอ่อนจึงเข้มขึ้นเล็กน้อย

     แต่หากผู้ที่ทำให้มันดำคล้ำเป็นหยุนเช่อ แน่นอนว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ย่อมไม่มีอะไรจะกล่าว แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้คือกลีบสาวที่เบียดชิดยังคงมีของเหลวขาวขุ่นไหลหยดลงมาเป็นระยะๆ และฉืออู๋เหยายืนอยู่ตรงนั้นมาแต่ต้น ของเหลวที่หยดลงมาจึงก่อตัวรวมเป็นแอ่งเล็ก ๆ ประมาณหนึ่ง แม้แต่ท้องน้อยที่เคยราบเรียบก็ยังนูนขึ้นราวกับสตรีที่ตั้งครรภ์ได้ 2-3 เดือน ทว่าไม่มีสัญญาณชีวิตอยู่ภายในจึงรับรู้ได้ว่าไม่ใช่การตั้งครรภ์

     เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ตระหนักในทันควันว่าของเหลวสีขาวขุ่นเหล่านั้นคือสิ่งใด ถึงอย่างไร นางคุ้นเคยกับมันจนคุ้นมากกว่านี้ไม่ได้อีก

     "ฉืออู๋เหยาไม่คาดคิดว่าด้วยสติปัญญาของเจ้า เจ้าจะกล้ามาล้อเลียนข้าหลังจากแอบลักลอบได้เสียกับผู้ชายคนอิ่น เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าข้าจะไม่สังเกตเห็น? บอกมาว่าเป็นบุรุษต่ำช้าที่ไหนที่เจ้ามีสัมพันธ์ด้วย?"

     "เหอเหอ เป็นอย่างที่คิด คนที่ถูกหยุนเช่อ 'เล่น' ด้วยมากกว่า 6,000 ครั้งย่อมสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นเชื้อบุรุษของหยุนเช่อหรือไม่"

     หลังจากพูดจบ ฉืออู๋เหยาก็ยื่นนิ้วลงไปลูบของเหลวขาวข้นที่ยังคงไหลอยู่ ก่อนจะกล่าวกับเชียนเย่หยิงเอ๋อร์พร้อมกับยกนิ้วเข้าปาก

     "อืม...รสชาติไม่เลว"

     "เจ้า!" เชียนเย่หยิงเอ๋อร์เกือบจะสิ้นสติเมื่อเห็นการกระทำดังกล่าว

     "ทว่าเชียนหยิง เจ้าพลาดเรื่องง่าย ๆ ไป"

     "...?"

     "ในเมื่อเจ้ารู้ได้ว่าเชื้อบุรุษในจุดลับของข้า...หรือแม้แต่ในมดลูกทั้งหมดไม่ใช่ของหยุนเช่อ...แล้วหยุนเช่อจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?"

     "..."   

     เป็นความจริงที่ฉืออู๋เหยาอยู่กับหยุนเช่อทุกวัน ฉะนั้นไม่ว่าฉืออู๋เหยาจะพยายามใช้ลมปราณอันลึกล้ำเพื่อกำจัดเชื้อบุรุษเหล่านี้ขนาดไหน ก็ไม่อาจลบล้างกลิ่นอายที่ฝังลึกได้อย่างสมบูรณ์      

     ด้วยข้อเท็จจริงนี้กระทั่งเซียนเย่หยิงเอ๋อที่ฉลาดหลักแหลมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ สุดท้ายนางได้ข้อสรุปเพียงอย่างเดียวคือหยุนเช่อรับรู้และยอมรับเรื่องการนอกใจของฉืออู๋เหยา

     แต่ว่า...ทำไมกัน? ผู้ชายควรจะหึงหวงต่อสตรีของตนมากมิใช่หรือ?   

    "ฮิฮิ เช่นนั้นให้ข้าบอกใบ้อะไรบางอย่าง แท้จริงแล้ว หยุนเช่อมี 'ความชอบพิเศษ' ที่คล้ายคลึงกับบุรุษจำพวกหนึ่ง...ก็แค่นั้น"
   
     ครั้นเห็นว่าเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ยังคงดูสับสนฉืออู๋เหยาจึงพูดต่อว่า

     "ในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าหยุนเช่อคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนนี้ เมื่อมันมีอำนาจ มันย่อมได้รับหญิงงาม นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีบุรุษผู้ทรงพลังตั้งกี่คนที่ตกหลุมรักผู้หญิงอย่างงมงาย เจ้าลองคิดดูหยุนเชียนหยิง บรรดาจ้าวเทวะนับไม่ถ้วนต่างเคยหมายปองเจ้า แต่ทุกคนรวมถึงจักรพรรดิหนันหมิงล้วนคว้าเจ้ามาครองไม่สำเร็จ"

     "..."

     "แต่แล้วหยุนเช่อเล่า? ด้วยความแข็งแกร่งของมัน กระทั่ง "เทพธิดาราชินีมังกร" ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหญิงงามที่สุดก็ยังกลายเป็นสนมของมัน นอกจากนี้ยังมีมู่เซวียนหยิน ไฉจือ และ ชิงเชวี่ย แต่ละคนล้วนมีความงามที่ล้ำเลิศเป็นหนึ่งไม่มีสอง ด้วยสภาพที่รายล้อมแต่อาหารชั้นดี ไม่ช้าก็เร็ว สักวันเจ้าจะรู้สึกเบื่อและอยากหาแรงกระตุ้นใหม่ๆ... "

     "..."

     ฉับพลันนั้น วาจาของฉืออู๋เหยาก็หมุนวนอยู่ในใจของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ มันสอดคล้องกับการปรากฏตัวของฉืออู๋เหยาในสภาพนี้
ความชอบ 'พิเศษ' ประเภทนั้น ในที่สุดเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็ได้รับคำตอบ

     "เจ้าหมายความว่าหยุนเช่อยินดีให้ผู้หญิงของตนหลับนอนกับชายอื่น?...เป็นไปได้ยังไง...ข้านึกไม่ถึงเลย"

     "ฮิฮิ เพราะมันคือหยุนเช่อ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปได้ แต่จะดีกว่าถ้าบอกว่ามันมีรสนิยมเช่นนี้มาตลอด และตัวมันก็ทราบแก่ใจว่านี่ไม่ใช่สิ่งดี ดังนั้นมันจึงบอกเพียงข้า"

     "...เจ้าไม่คิดจะหยุดมัน?"

     "หยุด? ไฉนข้าต้องหยุด? หากเป็นก่อนที่จักรพรรดิมังกรจะตาย ข้าย่อมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหยุดมัน แต่ตอนนี้หยุนเช่อเป็นจักรพรรดิแห่งโลกหล้า มันสามารถทำทุกอย่างที่ตนต้องการ มีเหตุผลอะไรที่ข้าต้องหยุดมัน ยิ่งไปกว่านั้นการชอบสวมหมวกเขียวยังดีกว่าการสังหารหมู่หรือผลักไสโลกนี้เข้าสู่ก้นบึ้งแห่งความมืด"

     "..."

     ความเงียบของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์หมายความว่านางเห็นด้วยกับสิ่งที่ฉืออู๋เหยาพูดกลาย ๆ

     "เพียงหยุนเช่อบอกเจ้า เจ้าก็ยอมทำตามที่มันต้องการ? ด้วยอุปนิสัยของหยุนเช่อ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันอาจบังคับเจ้าได้ แต่บัดนี้...หลังจากมันกลับไปที่ดาวบ้านเกิด หยุนเช่อก็เปลี่ยนไป...กลายเป็นคนอ่อนโยนมากขึ้น...ลืมเรื่องการบังคับไปเลย...หมายความเจ้าตกลงด้วยตัวเอง?"

      เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จ้องไปที่น้ำบุรุษซึ่งยังคงไหลล้นออกมาจากเครื่องเพศของฉืออู๋เหยาและกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่ว่านางไม่เคยเผชิญของแบบนี้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันเกินปริมาณที่ผู้ชายปกติจะหลั่งออกมา พินิจจากกลิ่นอายและของเหลวที่อัดแน่นในท้องน้อยของฉืออู๋เหยา มันบอกได้ว่ามาจากผู้ชายคนเดียว...แก่นกายเพียงอันเดียว....

      เมื่อลองหวนรำลึก เชียนเย่หยิงเอ๋อร์จำได้ว่าเชื้อบุรุษที่นางถูกปล่อยในตัวมาตลอด 6,000 ครั้งตั้งแต่เริ่มผสานกายกับหยุนเช่อ ไม่มีครั้งไหนที่เชื้อบุรุษจะมากมายเท่าที่อัดแน่นอยู่ในร่างของฉืออู๋เหยายามนี้

      "ถูกต้อง ข้ายินยอมด้วยตัวเอง ไม่ว่ายังไงข้าก็ปฏิเสธคำขอของหยุนเช่อไม่ได้ ทว่าแน่นอนว่าข้าเองก็มีเงื่อนไขเช่นกัน...นั่นคือความบริสุทธิ์ที่สำคัญยิ่งของข้าต้องถูกทำลายโดยหยุนเช่อ ถึงแม้แก่นหยินพรหมจรรย์จะไม่มีค่าต่อหยุนเช่อในเวลานี้มากนัก แต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้างในระดับหนึ่ง"

      "...ดูเหมือนเจ้าจะไม่ได้ตามใจมันอย่างเสียสติ"

      ถึงจุดนี้เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ได้ละทิ้งทิฐิของตน นางก็ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าว่าตัวเองกำลังลอบมองเชื้อบุรุษที่ล้นทะลักออกมาเป็นระยะ ทว่าการเคลื่อนไหวนี้ล้วนถูกฉืออู๋เหยาสังเกตเห็น

      "ฮิฮิ และข้าพึ่งค้นพบข้อเท็จจริงบางอย่างเมื่อไม่กี่เดือนก่อน...หยุนเช่อ...สามีของพวกเราเก่งกาจทุกด้านแต่แท้จริงกลับอ่อนด้อยด้านความเป็นชาย ข้าไม่แปลกใจเลยที่มันมีภรรยามากมายในดาวขั้วน้ำเงินแต่กลับมีบุตรสาวคนเดียว หากข้าไม่ทราบว่าบุตรีของฝ่าบาทเคยมีสายเลือดเทพอสูรมาก่อน ข้าคงสงสัยว่านางเป็นลูกของมันจริงรึไม่"

      "...."

      "โอ้? ดูเหมือนเจ้าจะไม่ปฏิเสธ... หรือว่าเจ้ารู้ดีเช่นกันว่าแกนกายของหยุนเช่อไม่ดีนักเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่น ๆ ?"

      ฉืออู๋เหยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางแปลกใจที่เซียนเย่หยิงเอ๋อร์ "เห็นด้วย" กับสภาพของแกนกายหยุนเช่อ

      "หึหึ ข้าอุส่าหลงคิดว่าเจ้านิสัยดีขึ้นมาหน่อย มิน่าล่ะ ถึงชอบมีคำกล่าวว่าหญิงงามมักมีความดำมืดอยู่ภายใน กลายเป็นว่าเจ้าเองก็ไม่ต่างจากข้า"ฉืออู๋เหยากล่าวมีเลศนัย เชียนเย่หยิงเอ๋อร์พลันตอบออกไป

      "...เจ้ารู้ดีว่าอาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้หญิงคือความสวยงาม บางครั้งอาวุธที่ทรงพลังก็ยังด้อยกว่าใบหน้าและเรือนร่าง ข้าเชื่อว่าเจ้าน่าจะตระหนักในเรื่องนี้ดีกว่าใคร"

      ฉืออู๋เหยายิ้มแบบไร้คำพูด

      "ตอนที่ข้าเป็นเทพธิดาปรมันตร์ ข้าใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และการฆ่าคนด้วย 'อาวุธ' ที่ว่านี้ต้องแลกมาด้วยราคาเสมอ"

      "โอ้? ข้าเข้าใจแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเสียสละร่างกายตัวเองขณะคิดการใหญ่"   

      "มันเป็นเรื่องในอดีต"

      "แล้วเจ้าทำกับใครบ้าง?"

      "ฮึ่ม แม้ข้าจะใช้วิธีสกปรกเช่นนั้น แต่อย่าคิดว่าถึงขั้นร่วมรัก ความบริสุทธิ์ของข้าเป็นของหยุนเช่อ ที่เคยทำมีเพียงเปลือยกายและลูบไล้ โอ้อวดส่วนสงวนของตน หรือบางครั้งก็โลมเลียสิ่งน่าขยะแขยงของพวกมัน นั้นคือช่วงเวลาที่ผู้ชายจะเผยช่องโหว่ไร้การป้องกัน จากนั้นข้าก็สามารถสังหารอย่างโหดเหี้ยม แผนการประดานี้ข้าใช้แค่ไม่ถึงสิบครั้ง"   

      เนื่องจากไม่มีใครเหลือรอด การที่ฉืออู่เหยาต้องการทราบชื่อผู้ชายเหล่านั้นจึงหาใช่สิ่งสำคัญ คำถามต่อต่างหากที่สำคัญที่สุด

      "แล้ว... แกนกายของหยุนเช่อเทียบกับสิบคนนั้นเป็นยังไง?..."

      ฉืออู่เหยาไม่ได้ยืนอยู่ที่เดิมอีกต่อไป แต่นางเข้ามาที่ด้านข้างของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ มือข้างหนึ่งแตะชุดสีทองของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์ ขณะที่อีกมือหนึ่งก็ลูบผมสีทองที่ยาวจดเอว

      ฉืออู่เหยามีประสบการณ์มากในการเอาอกเอาใจสตรีเพศด้วยกัน
 
      "...ไยเจ้าราวกับต้องการให้ข้าเอ่ยปากกล่าวเรื่องต่ำช้านั้น?"

      เชียนเย่หยิงเอ๋อร์สังเกตเห็นว่าฉืออู๋เหยาคล้ายกับมีแผนการแอบแฝง ตั้งแต่บทสนทนาก่อนหน้า นางล่อลวงให้ตนพูดถึงแกนกลางของผู้ชายอย่างเจาะจง

      "ฮี่ฮี่ เจ้าควรจะรู้ว่าการดูถูกเหยียดหยามเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสามีที่ภรรยานอกใจ  และเจ้าเก่งด้านนี้ที่สุด สมควรทำให้หยุนเช่อพึงพอใจได้ ข้าเชื่อว่ามันกำลังตั้งตารอคำสารภาพจากเจ้าอย่างเคร่งเครียดในตอนนี้"

      พอได้ยินถ้อยคำของฉืออู๋เหยา เชียนเย่หยิงเอ๋อร์ก็แอบขยายการรับรู้ของตนและจับได้ทันทีว่าหยุนเช่อกำลังแอบดูที่นี่จากไกล ๆ

      "เจ้าแน่ใจหรือว่าถ้าข้าเข้าร่วมจะทำให้หยุนเช่อพอใจ"

      "หืม~~~~ ใครจะรู้?"

      "เหอะ เจ้ามันนังสำส่อนไร้ยางอาย"

      "ฮิฮิ ตอนนี้คำ 'สำส่อนไร้ยางอาย' คือคำชมสำหรับข้า เอาล่ะ บอกมาเร็วๆ อย่าให้สามีต้องรอนาน"

      "...แล้วไปเถอะ...ถึงอย่างไรมันก็เป็นความจริงและตอบได้ไม่ยาก อืม...ข้าคิดดูแล้ว...คนที่ใหญ่และหนาที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา น่าจะเป็นบิดาข้า มันเป็นคนสอนวิธีการล่อลวงบุรุษให้ข้าตั้งแต่อายุครบสิบปีเต็ม ช่างน่าขันที่คนเป็นพ่อกลับมีอารมณ์กลับบุตรสาวตน แต่ก็สมเป็นตัวอัปปรีย์อย่างเชียนเย่ฟ่านเทียน แกนกายของมันหาใช่ของธรรมดา จนถึงบัดนี้ข้าก็ยังยากที่จะอมมันเข้าไปทั้งอัน ไม่ว่าจะความยาวหรือความหนา ทั้งสองล้วนมากกว่าหยุนเช่อหลายเท่า หึหึ ตอนนี้มันอยู่ในนรก คิด ๆ แล้วข้าอยากจะประกอบซากสังขารของมันขึ้นใหม่และตัดส่วนนั้นมาให้หยุนเช่อแทน แบบนั้นคงจะดีไม่น้อย"

     ในขณะที่เชียนเย่หยิงเอ๋อร์กำลังพูด นางยกมือทั้งสองข้างขึ้นเปรียบเทียบกัน จะเห็นได้ว่าข้างหนึ่งของเชียนเย่หยิงเอ๋อร์พยายามอย่างกางออกอย่างเต็มที่แต่ก็ยังรู้สึกไม่เพียงพอ ตรงกันข้ามมืออีกข้างกลับหุบลงจนเหลือระยะสั้น ๆ ซึ่งไม่ควรค่าให้กล่าวถึง...

     ไม่นานหลังจากเชียนเย่หยิงเอ๋อร์เอ่ยจบ หญิงสาวทั้งสองก็สัมผัสได้ว่ารัศมีพลังของหยุนเช่อในระยะไกลเริ่มแสดงความสับสนวุ่นวาย

     "ฮุฮุ สมแล้วที่เป็นเชียนหยิง ทำเอาหยุนเช่อร้อนรนถึงขั้นนี้ช่างคู่ควรกับสมญา "เทพธิดา" เสียจริง"

     ไม่รู้ว่าถ้อยคำเทพธิดาเป็นคำชมหรือประชดประชันกันแน่

     หยุนเช่อที่อยู่ด้านนอกรีบจากไปราวกับกลัวจะถูกจับได้


----------------------------------------------------------------
จบตอนแรกแล้ว ผิดแปลกตรงไหนก็ติชมกันได้นะครับ บอกแล้วถ้าการตอบรับดีจะรีบแปลตอนถัดไปออกมา
ต้นฉบับเป็นภาษาจีนเลยดำยากเอาการเลย แต่เห็นว่าสนุกดีเลยอยากเอามาแบ่งปัน

minky way

#1
เล่นเอาจนอิหยุนกลายเป็นพวกโรคจิตไปเลย😁😁😁


therasak

สำนวนแปลน่าอ่านดีครับ​ มีกลิ่นอายความเป็​นจีนอยู่​พอสมควร​ นึกถึง​สำนวนของ​ ​น.นพรัตน์​ ขึ้นมาเลย​ ส่วน​ ว.​ณ.​เมืองลุง​ คงเก่าไปหน่อย​

15026000

นิยายโปรดเลยนะครับเนี่ย พึ่งรู้ว่ามีแฟนฟิตด้วยครับ ชอบมากเลยครับ  ::Glad:: พอจะมีweb Fic แนะนำไหมครับ เผื่อจะมีเรื่องอื่นที่fan fic อื่นเผื่อจะไปมุดบ้าง

songsak

สนุกมากครับส่วนตัวเลยชอบแนวนี้อ่านเพลินดีครับ

ryu

พระเอกได้สาวงามครบทุกคนแต่กลับไม่สนองความต้องการทางเพศซะงั้น
อยากสวิงเหรอเนี่ย

chanky2007

ภาค NTR ออกมาแบบนี้ หนุนเช่อ คงเสียสาวงามแน่นอน
แค่ตอนเปรียบเทียบตอนแรก ก็เสียชื่อ หยุนเช่อ 500 แล้ว

ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป

dunze

ต้องอ่านหลายตอน ถึงจะจำตัวละครได้ แค่ตอนแรกยังงงกะตัวละคร

biggiggog

ดูไปแล้วไม่น่าจะใช่ NTR น่าจะเป็นโรคจิต
ที่ชอบดูเมียมีอะไรกับคนอื่นมากกว่านะ
ขอบคุณครับ

sp502

เป็นนิยายแปลอีกเรื่องที่น่าอ่าน น่าติดตามครับ ขอบคุณครับ

swss2511


auddy999

ผมก็ติดตามนิยายเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่แต่งแบบนี้ดูจะดูแคลนพระเอกในใจของผมไปซักเยอะเลยนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ แต่งได้อินกับเนื้อหาในนิยายดีครับ

bosshii

ไม่ได้อ่านนานมากก หลังจากแอบหนีไปเคล็ดกายาปุ๊ปก็ยาวเลย ต้องกลับมาอ่านซะแล้ว5555

phithan

หยุดอ่านไปตั้งนานแล้วครับ พึ่งจะรู้ว่าอีตาหยุนเช่อนี้บ่มิไกด์ซะแล้ว