ยังคงคอนเซ็ปเดิมของสางแค้นนะครับ บทเสียวจะมีน้อย อย่างตอนแรกนี่ไม่มีครับ เพราะเนื้อหามันยาวมากผมเลยขอยกไปตอนที่ 2แทนครับ
tiwntower
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บนเที่ยวบินจากญี่ปุ่นสู่กรุงเทพ บรรดาแอร์โฮสเตสต่างแอบกระซิบบอกกันไปทั่วว่ามีผู้โดยสาร"งานดี"นั่งอยู่ในชั้นธุรกิจ ที่เป็นชั้นสูงสุดของเที่ยวบินนี้ ในห้องครัวบรรดาแอร์โฮสเตสต่างใช้จังหวะช่วงเวลาว่างได้มาพูดคุยถึงผู้โดยสารคนนี้และบรรดาลูกเรือของเที่ยวบินนี้ต่างรู้กันว่าผู้โดยสารที่ถูกพูดถึงว่างานดีคนนี้จัดเป็น"ผู้โดยสารพิเศษ" เพราะนอกเหนือจากใช้พาสปอร์ตสีน้ำเงินแล้วยังสามารถพกอาวุธปืนขึ้นมาบนเครื่องซึ่งปกติจะเป็นพวกแอร์ มาแชลเท่านั้น หัวหน้าแอร์โฮสเตสได้เอ่ยขึ้นมาหลังจากที่ถูกลูกน้องอีก3-4คนต่างเร่งให้เล่าเรื่องที่เธอเคยเจอผู้โดยสารคนนี้มาก่อน
"เร็วๆสิพี่แอน พวกหนูอยากรู้เรื่องว่าพี่แอนไปเจอหนุ่มหล่อคนนี้ที่ไหน"
"ที่หัวหินนะ เมื่อ3-4 เดือนก่อนได้ ตอนพวกพี่ไปเที่ยวที่นั่น"
"แล้วไปเจอได้ยังพี่ เค้าไปเที่ยวกับแฟนหรือ"
แอนยิ้มแล้วนึกย้อนไปเมื่อ4 เดือนที่แล้ว เธอกับเพื่อนๆที่เป็นทั้งแอร์โอสเตสและสจ๊วต 5-6คน ไปเที่ยวที่หัวหิน พวกเธอไปถึงหลังเที่ยงหลังจากที่ไปถึงที่พักกันเรียบร้อยทั้งหมดต่างออกมาหาอาหารทานซึ่งต่างถกเถียงกันพอสมควรว่าจะไปกินที่ร้านไหน จนได้บทสรุปว่าร้านไหนก็ได้ขอรองท้องกันก่อนเพราะหิวกันมาก ส่วนอาหารทะเลค่อยไปซื้อที่ตลาดแล้วค่อยมาทำกินกันตอนมื้อเย็น จนมาเจอร้านก๋วยเตี๋ยวร้านหนึ่งที่อยู่ห่างตลาดเท่าไหร่ ทุกคนตกลงใจที่จะไปกินที่ร้านนี้หลังจากลงจากรถที่จอดเลยร้านไปประมาณ 50 เมตร ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เป็นร้านธรรมดาแต่ดูสะอาด มีโต๊ะว่างอยู่ 4 ตัวจาก 6 โต๊ะส่วนที่ประกอบอาหารตั้งอยู่ด้านหลัง ผู้หญิงที่กำลังทำก๋วยเตี๋ยวอยู่ได้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นมา ส่วนผู้ชายอีกคนในวัยไล่เลี่ยได้ยืนช่วยอยู่ข้างๆ
"เชิญคะ"
"คุณน้าขาช่วยรวมโต๊ะได้ไหมคะ"
สจ๊วตที่เป็นชายเฉพาะตัวได้พูดขึ้น
"ได้คะ รอสักครู่นะคะ"
ผู้ชายที่ยืนช่วยทำก๋วยเตี๋ยวทำท่าจะขยับตัว แต่มีเสียงดังมาจากด้านหลัง
"ไม่เป็นไรพ่อเดี๋ยวทำให้เอง"
ทุกคนต่างหันไปมองและต่างแอบสะกิดกันทันทีเพราะ เสียงมาจากที่ผู้ชายที่หน้าตาดีแต่งกายตามสบายพร้อมสวมผ้ากันเปื้อนแต่ที่สะดุดตาคือรูปร่างที่ดูดีที่ทุกคนดูออกว่าออกกำลังกายเป็นประจำแต่ไม่ล่ำจนเกินไป ผู้ชายคนนั้นจัดการยกเครื่องปรุงไปวางอีกโต๊ะก่อนจะยกโต๊ะมาชิดกันตามด้วยเก้าอี้ พร้อมนำเครื่องปรุงกลับมาวางก่อนจะเอาผ้ามาเช็ดโต๊ะกับเก้าอี้อีกครั้ง พอพวกเธอนั่งกันเรียบร้อยแอร์รุ่นน้องที่ชื่อจุ๋มได้ถามไปยังผู้ชายคนนั้นที่ยืนรอจดออเดอร์ขึ้นมาทันที
"มีเมนูไหนแนะนำเป็นพิเศษไหมคะ"
"ร้านเราขายก๋วยเตี๋ยวหมูนะครับ แต่ถ้าชอบรสจัดก็แนะนำต้มยำครับ เพราะพริกทางเราคั่วเองครับและมะนาวเราก็ใช้มะนาวสดครับ ส่วนน้ำนอกจากพวกน้ำอัดลมแล้วเรามีเก็กฮวยกับน้ำมะตูมครับ อันนี้เราต้มเอง"
เสียงตอบเรียบๆมาจากฝ่ายชาย ก่อนที่ทุกคนจะสั่งอาหาร พอรับออเดอร์เรียบร้อย มีเสียงกระซิบกันทันที
"บ๋อยร้านนี้หล่อมากกกกก"
"ใช่แล้วดูจะเป็นลูกชาย ทั้งหล่อทั้งล่ำดูแขนสิเห็นแล้วหมั่นเขี้ยวอยากกินทั้งก๋วยเตี๋ยวทั้งลูกชาย"
"ไอ้จุ๋มบ้าไปแล้วพูดอะไรระวังมั่งสิ"
"แหมพี่แอน ขอหน่อยเถอะ แต่ดูแล้วน่าจะทำงานอะไรสักอย่างหนึ่งจะบอกว่าเป็นทหารตำรวจก็ไม่ใช่ ผมไม่เกรียนแต่บุคลิกให้"
พอได้ยินประโยคนี้ทุกคนต่างเห็นด้วยและพากันมองไปรอบๆร้านแต่ไม่เห็นอะไรสะดุดตา นอกจากป้ายบอกราคาอาหาร ปฏิทิน นาฬิกาแขวน จนลูกชายเจ้าของร้านยกอาหารมาเสิร์ฟ พร้อมบอกว่า
"ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแนะนำให้ชิมก่อนปรุงนะครับ"
ระหว่างนั้นมีเสียงแซวจากสจ๊วตที่เป็นชายแต่ตัว
"เด็กเสิร์ฟร้านนี้หน้าตาดีจัง"
ทุกคนเห็นรอยยิ้มแต่ไม่มีการตอบอะไร แต่แอนนั้นสังเกตลึกไปกว่านั้น ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นยิ้มแต่แววตานั้นไม่ยิ้มตามไปด้วยมันยิ่งทำให้เธออยากรู้มากขึ้นมาเพราะจากประสบการณ์การเป็นแอร์โฮสเตสทำให้รู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องทำงานอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับพวกคนในเครื่องแบบอย่างแน่นอน แต่ทุกคนยอมรับว่ารสชาติของก๋วยเตี๋ยวนั้นอร่อยจริงๆโดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่รสจัดจ้านตามคำแนะนำของลูกชายเจ้าของร้าน ต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพพร้อมโพสต์ลงเฟซบุ๊กหรือIG กันแทบทุกคน
"เฮ้ยร้านนี้ผ่านหูผ่านตาพวกนักชิมไปได้ยังไง ทั้งๆที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยว"
"นั่นนะสิราคาก็ไม่แพง ธรรมดา 30 พิเศษ 35 ทำเลก็ดี แต่ทำไมถูกมองผ่านไม่เห็นมีคนพูดถึงเลย"
นี่เป็นคำพูดที่แอบกระซิบกันของพวกแอน จนผ่านไปสักพักหลังจากลุกค้าทั้ง 2 โต๊ะที่นั่งทานก่อนหน้าพวกเธอได้ทานกันอิ่มและออกไปจากร้านได้แต่ไม่นานเท่าไหร่มีคนกลุ่มใหญ่เดินเข้า พร้อมกับการทักทายอย่างสนิทเป็นกันเองกับสองสามีภรรยาเจ้าของร้านและลูกชายกับลูกค้าที่เดินเข้ามา ทำให้ทุกคนเงยหน้ามองและเห็นว่าลูกค้ากลุ่มนั้นมีท่านรองนายก พลตำรวจเอกพิชญ์ที่เดินคู่กับผู้หญิงที่ดูจะเป็นลูกสาวและอุ้มเด็กหญิงที่ดูอายุประมาณ 1 ขวบพร้อมกับผู้หญิงสูงวัยที่ดูจะเป็นภรรยาท่านรองนายกเดินจูงเด็กผู้ชายอายุ2-3ขวบตามมาติดๆและตามมาด้วยคนกลุ่มใหญ่ที่ดูจะเป็นบรรดาลูกๆของท่านรอง จากที่ได้ยินจะเห็นว่าลูกชายเจ้าของร้านเรียกท่านรองนายกกับภรรยาว่าพ่อกับแม่ ก่อนจะมาช่วยกันยกโต๊ะมาชิดกันระหว่างที่กำลังช่วยยกเก้าอี้นั้น ท่านรองนายกที่ยืนคุยกับเจ้าของร้านผู้ชายได้หันมาเจอพวกเธอพอดี ทำเอาทุกคนต่างรีบยกมือไหว้ ท่านรองนายกรับไหว้ก่อนจะทักขึ้นก่อน
"ตามสบายนะครับ ผมกับครอบครัวก็มาเที่ยวเหมือนกัน ร้านนี้ลูกชายเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับลูกชายผมครับ แต่เอ๊ะคุ้นๆหน้าหลายคนเราเคยเจอกันบนเครื่องบินใช่ไหมครับ"
"ใช่คะท่าน"
แอนเป็นคนตอบ และทุกคนต่างเงียบเสียงลงเพียงแต่มองหน้ากันไปมาด้วยสีหน้ายิ้มๆและแปลกใจ ยิ่งการพูดคุยของครอบครัวท่านรองนายกกับลุกชายร้านนี้ดูจะสนิทกันมาก จนไม่นานนักเริ่มมีตำรวจ4-5คนมาเดินไปเดินมาที่หน้าร้าน ทำให้ทุกคนเริ่มแอบสะกิดกัน
"อิ่มหรือยัง"
"อิ่มแล้วพี่แอน จุ๋มว่าเราไปกันเถอะ มันอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ แถมตำรวจมากันเต็มเลย"
ทุกคนต่างเห็นพ้องและเรียกให้มาคิดเงินซึ่งคนมาคิดค่าอาหารคือผู้หญิงที่ทำก๋วยเตี๋ยวส่วน 2 พ่อลูกกำลังยุ่งกับที่โต๊ะของท่านรองนายกกับครอบครัว ก่อนจะออกจากร้านแอนได้เดินไปยกมือไหว้ลาท่านรองนายก และบังเอิญสบตากับลูกชายเจ้าของร้านก่อนจะได้ยินเสียงขอบคุณ
"ขอบคุณนะครับ ถ้ามาเที่ยวครั้งหน้าก็เชิญนะครับ"
เป็นคำพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ทำเอาแอนนั้นหน้าแดงเมื่อสายตาประสานกับลูกชายเจ้าของร้านพอทุกคนต่างเดินออกจากร้านและมาหยุดตรงหน้าร้านกาแฟที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก มีบางคนแวะซื้อกาแฟทำให้มีโอกาสคุยกัน
"โอ๊ยนึกว่าเป็นร้านเล็กๆแต่ที่ไหนได้ระดับบิ๊กเลยนะนี่"
"นั่นนะสิ แต่ก็กะไม่ผิดว่าต้องทำงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับราชการนอกจากที่จากเป็นเพื่อนกับลูกชายท่านรองนายก"
แอนเป็นคนพูดแต่จุ๋มนั้นดูท่าจะเก็บความสงสัยไม่อยู่จึงถามไปที่คนขายกาแฟ
"คุณป้าขาขอโทษนะคะ แต่หนูอยากรู้ว่าทำไมร้านขายก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นลูกชายทำงานอะไรหรือคะ พอดีท่านรองนายกพิชญ์มาทานเห็นคุยอย่างสนิทกันมาก"
"อ๋อ หนูคงหมายถึงตาแคนนะหรือ แคนเป็นลูกชายของร้านนั้นเมื่อก่อนเป็นตำรวจอยู่กองปราบนะ ตอนนี้ย้ายไปอยู่ ป.ป.ส.แล้ว ช่วงวันหยุดถ้าแคนว่างก็จะกลับมาช่วยงานที่บ้านตลอดนะ"
ก่อนจะมีคำอธิบายเพิ่มเพราะดูแล้วคนขายกาแฟจะเป็นคนช่างพูดทำให้ทุกคนรู้ว่าแคนเคยเป็นตำรวจก่อนจะย้ายมาอยู่ป.ป.ส.ก่อนหน้านี้ร้านก๋วยเตี๋ยวก็มีพวกตำรวจท้องที่และตำรวจ ตชด.จากค่ายพระราม 6มาทานกันบ่อย เช่นเดียวกับรองพิชญ์ที่มากินตั้งแต่เป็นตำรวจจนช่วง3-4ปีผ่านมามีทั้งนายตำรวจ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ รวมถึงท่านนายกก็ยังเคยมาทานก่อนจะปิดท้ายว่า
"จริงๆบ้านนี้ก็ไม่ค่อยช่างพูดอยู่แล้วละแต่คนแถวนี้ก็เริ่มชินแล้วที่มีคนใหญ่คนโตมากินบ่อยๆ พ่อกับแม่เขาก็ไม่คุยอวดว่าลูกทำงานอะไร แต่ก็รู้กันว่าเป็นเพื่อนสนิทกับลูกท่านรองเรียนมัธยมมาด้วยกัน แต่เห็นพวกตำรวจที่มาคุยเรียกตาแคนว่าผู้การแคน ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้เลื่อนยศยังหนุ่มยังแน่นได้เป็นถึงผู้การ เพราะตอนเป็นตำรวจยศดูเหมือนจะเป็นร้อยตำรวจโทนะ แต่ชาวบ้านแถวนี้ชอบนะได้อานิสงค์ไปด้วยดูหน้าร้านสิ ก็มีตู้แดงมีตำรวจมาลงชื่อแทบทั้งวันทั้งคืนเลย"
จากคำพูดของคนขายกาแฟทำให้ทุกคนหันไปมองที่หน้าร้านอีกครั้งและเห็นตู้แดงติดอยู่หน้าร้านตามคำบอกของคนขายกาแฟ พอแอนเล่าจบด้วยสีหน้ายิ้มๆทำเอาพวกแอร์โอสเตสที่ฟังต่างมองหน้ากันก่อนจะมีเสียงจากแอร์โอสเตสอีกคน
"ว้าวทั้งหล่อทั้งเป็นคนมียศด้วย น่าสนใจมาก มิน่าไอ้จุ๋มถึงบอกว่ามันเจอเนื้อคู่ที่หัวหิน"
แอร์โอสเตสคนหนึ่งอุทานออกมาทำเอาที่เหลือต่างหัวเราะกันเบาๆ ผู้โดยสารที่ถูกพูดถึงตามรายชื่อผู้โดยสารได้ระบุยศและชื่อว่าพันตำรวจเอกพีรพล หรือแคนที่ตอนนี้นั่งดูหนังด้วยความเบื่อหน่ายเพราะเหนื่อยกับการเดินทางที่ยาวนาน ใจของแคนตอนนี้นึกไปถึงที่นอนในคอนโดของตัวเองแล้ว ตามที่คนทั่วๆไปรู้คือแคนเดินทางกลับจากสหรัฐและมาต่อเครื่องที่ญี่ปุ่นเท่านั้น แคนเดินทางไปที่สหรัฐประมาณ 1เดือนเศษๆ ตามคำเชิญแบบเจาะจงเพื่อเข้าการฝึกกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ DEA และ FBI อยู่ 2 อาทิตย์ นี่คือสิ่งที่อยู่ในรายงาน แต่ที่เหลืออีก 2อาทิตย์คืองานลับที่แคนได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การกวาดล้างแก็งส์ค้ายาเสพติดที่โคลัมเบีย ถึงจะเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์แต่มันทำเอาแคนอ่วมพอสมควรกับการเดินทางแต่มันคุ้มค่าอย่างมาก ที่แคนเข้าไปถึงในป่าลึกที่เป็นแหล่งผลิตโคเคนรายใหญ่ ทำให้ตอนนั้นแคนอดนึกถึงเรื่องเมื่อ4-5ปีที่แล้วไม่ได้ที่ตนเองลอบเข้าไปในพม่ากับหน่วยซีลทีม 6 เพื่อทำลายโกดังเก็บยาเสพติดของกำนันน้อมและโรงงานผลิตยาเสพติดของพวกว้าแดง พร้อมสะสางความแค้นของตัวเอง ผลงานตอนนั้นนอกจากการได้รับเหรียญเนวี่ครอสจากทางสหรัฐแล้วแคนยังได้รับสิทธิพิเศษจากทางสหรัฐเพิ่มคือได้รับกรีนการ์ด ทำให้แคนเดินทางเข้าออกสหรัฐได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แคนยังติดต่อกับพันจ่าเอกโจนาธานและพันจ่าโทจิมมี่อยู่ ซึ่งตอนนี้ โจนาธานได้เลื่อนยศเป็นพันจ่าเอกพิเศษและย้ายมาทำงานนั่งโต๊ะแล้ว ส่วนจิมมี่ได้เป็นพันจ่าเอกและเป็นหัวหน้าทีมอัลฟ่าอยู่
ส่วนในไทยแคนนั้นนอกจากได้รับเหรียญกล้าหาญเหมือนกับ ธงรบและช่วงที่ พล,ต.อ.พิชญ์เป็น ผบ.ตร.ได้สานต่อคำสั่งเดิมจากผบ.ตร.คนเก่าคือการทำเรื่องขอรับพระราชทานยศกรณีพิเศษให้กับแคนเป็นพันตำรวจเอกเพื่อตอบแทนความดีความชอบกับการเสี่ยงตายในภารกิจลับนอกประเทศที่สามารถกำจัดพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของประเทศได้ พอเสร็จภารกิจที่โคลัมเบียพร้อมกับข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งทำให้ทาง DEA ประสานไปยังกองทัพอากาศสหรัฐเพื่อให้แคนเดินทางกลับประเทศไทยเร็วขึ้น เป็นจังหวะที่มีการขนส่งอาวุธมาที่ฐานทัพสหรัฐที่ญี่ปุ่นจึงมีเครื่องบินแบบ C-17จากสหรัฐได้บินเปลี่ยนเส้นทางแวะมารับแคนที่โคลัมเบียก่อนเดินทางมาที่ญี่ปุ่น
C-17 ได้มาลงที่ฐานทัพในโอกินาวา และแคนเดินทางเข้าโตเกียวด้วยเฮลิคอปเตอร์ และต่อเครื่องบินเพื่อกลับไทยทันที ด้วยเวลาที่เหลือพอจะทำให้แคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะขึ้นเครื่องและมีการทำเรื่องให้แคนเรียบร้อยในเรื่องของการที่จะพกปืนขึ้นเครื่องซึ่งตอนนี้ปืนอยู่ในเป้ที่สอดอยู่ใต้เก้าอี้ จนเครื่องบินเข้าเขตน่านฟ้าไทย แอนหัวหน้าแอร์โอสเตสที่พึ่งวางสายโทรศัพท์ที่โทรจากห้องนักบิน ได้รีบเดินมาที่แคนทันที
"เอ่อผู้การพีรพลคะ"
แคนที่กำลังดูหนังพร้อมจิบกาแฟอยู่ได้เงยหน้ามองมาที่เธอ
"ว่ายังไงครับ"
"กัปตันแจ้งว่ามีสายด่วนติดต่อผู้การมาคะ เชิญทางนี้คะ"
แคนลุกขึ้นเดินตามแอร์โอสเตสไปยังบริเวณ Galley(ห้องครัว)ของเครื่องบิน ก่อนจะผายมือไปที่โทรศัพท์ที่ใช้ติดต่อภายในเครื่อง
"เชิญคะผู้การยกโทรศัพท์แล้วคุยได้เลยคะ"
เธอพูดก่อนจะเดินออกไป แคนยกโทรศัพท์ขึ้น พร้อมพูด
"สวัสดีครับ ผมพันตำรวจเอกพีรพลครับ"
แคนไม่รู้ว่าใครติดต่อมาแต่เดาว่ามันต้องเป็นเรื่องสำคัญดีไม่ดีเป็นเจ้านายไม่ก็ผบ.ตร.ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถติดต่อมาโดยตรงแบบนี้ได้ แต่เสียงอีกฝ่ายตอบมาว่า
"เออกูรู้ ส่วนกูก็พันตำรวจเอกธงรบพูด"
แคนแทบจะด่าเพื่อนไปแต่ยั้งปากทันเพราะรู้ว่าคงมีหลายคนฟังการสนทนานี้อยู่รวมทั้งนักบินด้วย แต่ธงรบนั้นพูดต่อทันที
"ตอนลงจากเครื่องจะมีคนของการท่ามารับมึงที่ประตูเครื่อง มีประชุมด่วน"
แคนไม่ทันตอบสัญญาณนั้นเงียบหายไปทันทีแคนวางโทรศัพท์ที่แท่นวางพร้อมนึกด่าเพื่อนในใจ ก่อนจะเดินกลับมาที่นั่งซึ่งเห็นหัวหน้าแอร์โฮสเตสยืนอยู่ไม่ห่างออกไป
"เรียบร้อยนะคะผู้การ"
"ครับ ขอบคุณมาก แต่ไม่ต้องเรียกผมแบบนั้นก็ได้เพราะผมไม่ใช่ตำรวจแล้วเป็นข้าราชการธรรมดาเท่านั้นแต่ที่ใช้ยศเพราะพาสปอร์ตและสิทธิพิเศษขึ้นเครื่องครับ แล้วอีกอย่างผมขอบคุณที่พวกคุณช่วยกันริวิวร้านของแม่ผม ทำให้ช่วงวันหยุดมีคนมาทานกันมากขึ้นครับ"
แคนยิ้มให้อีกครั้ง ถึงเธอจะยิ้มรับแต่เป็นรอยยิ้มที่ธรรมดาครั้งนี้แอนหน้าไม่แดง เธอไม่กล้าโปรยเสน่ห์ให้เหมือนกับบรรดาผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่แอนนั้นเคยหว่านเสน่ห์มาให้แล้วเพราะนิสัยส่วนเธอนั้นก็ค่อนข้างเจ้าชู้อยู่แล้ว แต่กับผู้ชายคนนี้แอนนั้นไม่กล้า มันมีความรู้สึกแปลกๆว่า ถึงจะหน้าตาดีดูดึงดูดเพศตรงข้าม แต่แววตานั้นดูแล้วมันน่ากลัว ถึงหน้าจะยิ้มแต่ตานั้นไม่ยิ้ม เธอรู้สึกบอกไม่ถูกกับแววตาคู่นี้และนอกเหนือจากสิทธิพิเศษแล้วยังมีสายตรงขึ้นมาได้แสดงว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. คนนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน และระหว่างที่แคนเดินกลับไปที่นั่งมีสายคู่หนึ่งนั้นมองตามตลอด มาจากที่นั่งทีเยื้องไปด้านหลังของแคน
แคนถูกสายตาคู่นี้จับจ้องตั้งแต่ขึ้นเครื่องมาแล้ว คนที่มองเธอเป็นแพทย์หญิงเจ้าของคลีนิคเสริมความงามชื่อดังทุกคนจะเรียกเธอว่าหมออ้อม เธอสะดุดตาแคนตั้งแต่ตอนที่แคนเดินขึ้นเครื่องมาแล้ว มันเป็นครั้งที่ 2ที่เธอเห็นหน้าแคน ครั้งแรกเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เธอไปเจอแคนที่สนามยิงปืนแห่งหนึ่งหนึ่งทีเป็นของตำรวจ หมออ้อมชอบการยิงปืนเป็นชีวิตจิตใจ มันไม่แปลกเพราะเธอนั้นชื่นชอบ"ม.ร.ว.แพทย์หญิงดาริน วราฤทธิ์"นางเอกในนวนิยายเพชรพระอุมาอย่างมากพอเริ่มโตเธอเริ่มศึกษาวิธีการยิงปืนอย่างจริงจังและพ่อเธอที่เป็นหมอก็สนับสนุนลูกสาวอย่างดี หมออ้อมมีปืนดีๆที่ได้รับจากพ่อและซื้อเองมาเก็บไว้จำนวนมาก วันนั้นเธอกับเพื่อนต่างพากันไปฝึกยิงปืนทางยุทธวิธีซึ่งหลายๆคนนั้นแต่งตัวแบบจัดเต็มกันอย่างเต็มที่ระหว่างที่อยู่ในช่วงพักหลังจากที่ได้ฝึกช่วงแรกกันไปแล้ว อีกด้านที่อยู่ไม่ห่างออกไปของสนามยิงปืน สายตาของหลายๆคนมองไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่แต่งตัวตามสบายกางเกงยีนส์เสื้อโปโล เดินสะพายเป้และกระเป๋าใบยาวไปที่ช่องยิงปืน
มีบางคนเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ รวมทั้งหมออ้อมด้วย ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้นเพราะระหว่างที่เดินมา จะเห็นบรรดาตำรวจที่เป็นเจ้าหน้าที่ของสนามยิงปืนต่างยืนตรงทำความเคารพกันตลอด ผู้ชายคนนั้นหยิบปืนออกจากกระเป๋าออกมาวาง3 กระบอก กระบอกแรกเป็น เบเร็ตต้า 92 เอฟเอส อีกกระบอกเป็นกล็อก 17ส่วนกระบอกสุดท้ายที่เอาออกมาหลายๆคนต่างหันมามองหน้ากันเพราะเป็นปืน HK-416 หลังจากบรรจุกระสุนใส่ปืนสั้นทั้ง 2 กระบอกแล้ว ผู้ชายคนนั้นหยิบแว่นกันสะเก็ดขึ้นมาสวมพร้อมสวมที่ป้องกันหูแล้วสวมเสื้อเกราะพร้อมใส่แม็กกาซีนของปืน HKลงไปในซองที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งหลายคนดูออกว่าเป็นการกระทำด้วยความชำนาญ ก่อนจะเลื่อนเป้ายิงรูปคนไปในระยะ25 เมตรแล้วหยิบปืนกล็อก 17 ขึ้นมา แล้วใช้มือทั้งสองจับปืนเล็งไปที่เป้า ซึ่งทุกคนที่มองพอเห็นท่ายิงแล้วต่างรู้ว่าเป็นผู้ชายคนนี้เป็นมืออาชีพแน่นอน เป็นการยิงเป็นชุด ชุดละ 3นัด 3 นัดแรกนั้นเป้าหมายคือส่วนหัวที่เกาะกลุ่มกันอย่างดี 3 นัดต่อมาเป้าคือตรงบริเวณอก ก่อนจะสลับไปยิงตรงส่วนหัวอีกจนครบ 18 นัด ก่อนจะวางปืนแล้วเลื่อนเป้าเข้ามา แต่ด้านหลังมีเสียงกระซิบถามของเพื่อนมาที่หมออ้อม
"เมื่อกี้ตอนบรรจุเขาใส่ลูกเข้าไปที่รังเพลิงก่อน1 นัดใช่ไหมอ้อม"
"ไม่ทันมองนะ แต่คงใช่เพราะรุ่นนี้แม็กใส่กระสุนได้ 17 นัด"
"ยิงแม่นมากเลยนะ"
"สงสัยพวกมืออาชีพที่ตำแหน่งสูงๆ ไม่อย่างนั้นพวกตำรวจไม่ทำความเคารพกันเป็นแถวหรอก"
ระหว่างนั้นผู้ชายคนนั้นได้สะพายปืนHK พร้อมนำปืนสั้นบาเร็ตต้าใส่ซองที่ข้างเอวก่อนจะ เดินมาตรงบริเวณที่พวกเธอฝึกซ้อมยิงปืนทางยุทธวิธี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนเป้าให้ใหม่แล้ว และทุกคนต่างทึ่งในทักษะที่เห็นตั้งแต่การเริ่มยิง HK-416 นัดแรก เพราะการเคลื่อนไหวของผู้ชายคนนี้ดูคล่องตัวมาก ทั้งการเคลื่อนตัวการเปลี่ยนซองกระสุนซึ่งดูแทบไม่ทันจนไปถึงเป้าสุดท้าย ปืน HK ถูกปล่อยให้ห้อยลงและดึงปืนบาเร็ตต้าจากซองข้างเอวขึ้นมาพร้อมบรรจงไปทีละนั้นใส่เป้าแต่ทุกคนต่างทึ่งเข้าไปอีก เพราะหลังจากยิงหมดแม็กแรกแล้วมีการเปลี่ยนแม็กใหม่เข้าไปซึ่งทุกคนต่างมองแทบไม่ทันเพราะไวมากและสิ่งที่ทุกคนเห็นคือ นิ้วชี้และนิ้วกลางจากมือขวาที่ทาบโกร่งไกอยู่ 2 นิ้วนั้น ผู้ชายคนดังกล่าวได้ใช้นิ้วกลางไปที่โกร่งไกก่อนจะกดไกแล้วยิงแบบรัว ทำให้คนที่ยืนดูหลายๆคนต่างเผลออุทานออกมา
"เฮ้ย"
เสียงกึกก้องดังต่อเนื่องไม่นานนัก จนกระสุนหมด ทุกคนเห็นเป้านั้นกระจุยส่วนคนยิงหันไปหัวเราะกับเจ้าหน้าที่สนามที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไป แล้วคุยกันชั่วครู่ก่อนจะทำการเก็บปืนซึ่งทุกคนเห็นว่ามีการตรวจสอบซ้ำอยู่ 2-3 รอบหลังจากถอดแม็กกาซีนออกแล้วมีการเลื่อนสไลด์ปืนกระบอกละ2-3ครั้งก่อนจะเก็บปืนและกระสุนเข้ากระเป๋าแล้วเดินไปอีกด้าน โดยไม่หันมาสนใจพวกเธอ มีเพื่อนผู้ชายของหมอแอนได้พูดขึ้นมา
"ยิงแบบนี้ยิงอวดนี่หว่า"
"แล้วยิงแม่นเหมือนเขาหรือเปล่าละแถมสวมเสื้อเกราะอีกด้วย ดูตอนเคลื่อนตัวสิ ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนนาย"
เสียงเพื่อนผู้หญิงอีกคนขัดขึ้นมาทำเอาคนพูดนั้นเงียบทันที เพราะทุกคนต่างเดินเข้าดูใกล้ๆและพบว่าเป้าแต่ละเป้านั้นกระสุนรวมกลุ่มกันตรงบริเวณหัวไม่ก็หน้าอกทุกเป้า ก่อนจะมีบางคนไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่สนามยิงปืนว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร คำตอบที่ได้รับคือ
"เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ ป.ป.ส.ครับ"
และวันนี้หมออ้อมที่มาเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนๆได้มาเจอผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว พอเห็นหน้าแคนเธอจำได้ทันและแอบมองด้วยความสนใจตลอดเวลา จนเครื่องบินถึงสนามบินหลังจากที่จอดเทียบงวงช้าง แคนที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วได้สะพายเป้และลากกระเป๋าเดินทางมาที่ประตูเป็นคนแรกหลังจากประตูเปิด แอนที่ยืนอยู่ได้พนมมือไหว้ขอบคุณ ส่วนแคนรับไหว้พร้อมยิ้มแล้วพูดออกมาเบาๆ
"ขอบคุณอีกครั้งนะครับ"
ครั้งนี้แอนรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันทีเป็นเพราะอะไรเธอบอกกับตัวเองไม่ได้ ส่วนแคนพอเดินพ้นประตูออกมามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่ายืนรออยู่ 2 ทั้งคู่รีบทำความเคารพแคน
"ผู้การพีรพลใช่ไหมครับ เชิญทางนี้ผมถือกระเป่าให้ครับ"
หลังจากแคนพยักหน้า เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้รับกระเป๋าเดินทางจากแคนส่วนอีกคนเดินนำออกไปทางออกที่เป็นบันไดที่ลงไปพื้นล่างไม่ได้เดินไปตามงวงเพื่อเข้าอาคาร แอนกับเพื่อนแอร์โอสเตส มองตามและจังหวะนั้นหมออ้อมเดินมาเห็นพอดี เพราะเธอตั้งใจจะตามแคนให้ทันก่อนเข้าไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ภาพที่เห็นตรงหน้าเธอจึงหันมาถามแอนว่า
"วีวีไอพีหรือเปล่าคะ"
แอนได้แต่ยิ้มๆแทนคำตอบไปยังผู้โดยสาร ส่วนแคนหลังจากที่ลงบันได มีรถของการท่าจอดติดเครื่องรออยู่ เจ้าหน้าคนที่เดินนำได้เปิดประตูด้านหลังให้แคนส่วนอีกคนนำกระเป๋าเดินทางของแคนไปที่กระโปรงหลัง ภายในรถที่เบาะหลังแคนเห็นเพื่อนที่อยู่ในชุดตำรวจนั่งรออยู่แล้ว ก่อนที่แคนจะพูดอะไรขึ้นมา ธงบอกไปที่คนขับ
"ถ้าเรียบร้อยแล้วก็ไปได้"
"ครับท่าน"
คนขับที่เป็นเจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัยของการท่ารับคำ ส่วนอีก 2คนที่มากับแคนต่างยืนทำความเคารพเพราะรู้ว่า 2 คนที่อยู่บนเบาะหลังมียศถึงพันตำรวจเอก พอรถวิ่งไปธงยื่นเอกสารที่ถือมาส่งให้เพื่อน
"กูรู้ว่ามึงเหนื่อยแต่มีเรื่องด่วนมึงอ่านก่อน"
แคนรับแฟ้มมาจากเพื่อนแล้วเปิดอ่าน เรื่องแรกเป็นเรื่องผลตรวจสารประกอบเฮโรอีนล็อตหนึ่งที่ถูกตรวจพบในโคลัมเบีย ซึ่งแคนเข้าไปสังเกตการณ์ในการจับมาสดๆร้อนๆ แคนนั่นอ่านด้วยความสนใจเพราะมันเป็นไปอย่างที่คิด และอีกเรื่องรายงานพร้อมรูปถ่าย คือเรื่องที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ตรวจจับการขนเฮโรอีกจำนวน 20 กิโลกรัมที่สนามบินได้เมื่อตอนช่วงบ่ายวันนี้ โดยใช้การตบตาเจ้าหน้าที่โดยแอบใส่ลงในกระเป๋าเดินทางที่ส่งไปขายที่โคลัมเบีย ซึ่งได้ใส่ยาเสพติดลงในช่องลับที่ทำพิเศษขึ้น แต่ไม่รอดสายตาเจ้าหน้าที่
"อันที่จับได้ ลูกน้องมึงเป็นคนตรวจเจอ มันยัดมาเนียนมากเหมือนจะสั่งทำช่องเป็นพิเศษอย่างทีเห็นในรูปและแพ็คสนิทมาก หมาตรวจกลิ่นไม่เจอ ส่วนผลตรวจยาทางนั้นพึ่งส่งมาให้"
ธงรบพูดหลังจากที่เห็นเพื่อนอ่านจบแล้วส่งแฟ้มคืน แคนพยักหน้ายังไม่ได้ถามอะไรต่อ รถพาทั้ง 2 ไปจนถึงบริเวณคลังสินค้า พอรถจอดหลังจากลงจากรถ ธงได้บอกไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของการท่าที่มายืนรอรับอยู่ 2คน ว่า
"รบกวนเอากระเป๋าผู้การพีรพลที่ท้ายรถไปที่รถผมด้วยนะ ถ้าไม่รู้คันไหนก็ถามพวกตำรวจ ผมจะพาผู้การไปดูของที่ถูกจับก่อน"
"ครับท่าน"
ธงหันมามองเพื่อนและพยักหน้าให้เดินเข้าไปในอาคาร ภายในอาคารหลังจากเดินเข้ามามีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้เดินมาหาแคน
"ผู้การครับรบกวนขอพาสปอร์ตด้วยครับ"
แคนยิ้มๆก่อนจะหยิบพาสปอร์ตจากเป้ที่สะพายให้ เจ้าหน้าที่รับมาก่อนจะวางพาสปอร์ตลงบนโต๊ะและประทับตราให้แคนแล้วส่งคืนด้วยกิริยาที่นอบน้อม ส่วนธงเดินไปแลกบัตรผู้มาติดต่อที่ใช้สำหรับบุคคลภายนอกเข้าไปในพื้นที่ภายในของสนามบิน แล้วพาเพื่อนเดินยังคลังสินค้าที่อยู่ไม่ห่างโดยมีเจ้าหน้าของการท่าเดินตามไปด้วย ภายในบริเวณคลังแคนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินกันขวักไขว่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ธงเดินนำเพื่อนไปที่เก็บของกลาง แคนเห็นกระเป๋าเดินทางที่ถูกแยกชิ้นส่วนออกจำนวนหลายใบ และข้างๆมีห่อบรรจุเฮโรอีนวางเรียงกันอยู่ แคนก้มลงไปมองกระเป๋าแต่ต้องเงยหน้าขึ้นมาเพราะได้ยินเสียง
"มันเป็นไปตามที่ได้ข้อมูลมาครับพี่ แต่ยอมรับมาทำมาเนียนมาก"
เป็นเสียงจากชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินเข้ามาแคน พร้อมยกมือไหว้ แคนรับไหว้พร้อมพยักหน้ารับรู้แล้วถามย้อนไป
"เก็บหลักฐานครบหรือยังวัฒ"
"เรียบร้อยแล้วครับพี่แคน"
วัฒหรือวัฒนาเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ซึ่งสังกัดอยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษตอบแคนพร้อมยื่นถุงมือยางให้ แคนรับมาสวมแล้วก้มไปจับกระเป๋า แล้วหันมาบอกเพื่อน
"เออมันทำได้ เนียนจริงๆ ต้องงัดขอบกระเป๋าถึงเจอ"
แคนชี้ไปยังรอยที่ถูกงัดและไม่รอคำตอบจากเพื่อนเลื่อนตัวไปที่ห่อที่บรรจุเฮโรอีนที่วางเรียงซ้อนกันอยู่ แคนหยิบห่อที่อยู่บนสุดขึ้นมาแล้ว ล้วงโทรศัพท์จากในเป้ขึ้นมา แคนเปิดโทรศัพท์แล้วเปิดรูปที่ตนเองถ่ายไว้ที่โคลัมเบียขึ้นมาเปรียบเทียบกับเฮโรอีนที่อยู่ในมือ แล้วเรียกเพื่อนกับวัฒเข้ามาดู
"ดูนี่ยี่ห้อเดียวกัน วิธีการห่อเหมือนกันแพ็คอย่างดีไม่ให้กลิ่นออก"
ที่ห่อเฮโรอีนที่อยู่ในมือแคนกับในรูปที่ถ่ายมีสัญลักษณ์พระจันทร์ครึ่งดวงประทับอยู่บนมุมด้านขวาของห่อ วัฒนาหันมามองหน้ากับธงรบ ส่วนแคนยิ้มแบบเครียดๆพร้อมพูดต่อ
"ต้องดูที่สารประกอบด้วยว่ามันจะเหมือนกันหรือเปล่า เพราะเราโดนแหกตามาเยอะแล้ว"
พูดจบแคนวางห่อเฮโรอีนลงที่เดิม แล้วถอดถุงมือยางโยนใส่ถังขยะที่อยู่ไม่ห่างออกไป ส่วนธงรบได้บอกเพื่อน
"งั้นไปเถอะ คุณอารออยู่"
แคนหันไปพยักหน้ากับวัฒนาแล้วเดินตามเพื่อนไปด้านหน้าของคลังสินค้าที่มีรถตำรวจจอดรออยู่ 2 คัน ธงพาเพื่อนไปที่รถคันที่ 2 ทั้งคู่เดินไปขึ้นรถที่เบาะหลังหลังจากที่ธงพยักหน้ารถทั้ง 2 คันนั้นวิ่งออกไปทันทีพร้อมกับเปิดไฟบนหลังคา
"จะไปที่ไหน"
แคนถามไปที่เพื่อน
"ปทุมวัน"
"มีเรื่องอะไรบ้างวะ ถึงต้องลากกูจากประตูเครื่อง"
ข้อสงสัยที่เก็บเงียบตั้งแต่ได้รับวิทยุจากเพื่อนบนเครื่องบินถูกตั้งคำถามเพราะตอนนี้อยู่ในรถตำรวจ
"มันมีประเด็นที่นอกเหนือจากเรื่องรายงานที่มึงได้อ่าน เมื่อวานมีทหารตาย 2 คนตอนเข้าปะทะพวกขนยาที่เชียงราย เหมือนจะเป็นกับดักเจอศพพวกมัน 1 ศพ แต่ดูแล้วเจ็บไปเยอะมีรอยเลือดแต่เราตามต่อไม่ได้มันหนีเข้าพม่า ตอนมึงอยู่ที่โคลัมเบีย ตำรวจ ปส.โดนยิงตายตอนเข้าไปหาข่าวแถวชายแดนสามเหลี่ยมทองคำ ห่างกันไม่กี่วันจับพวกขนเฮโรอีนได้ที่เมืองกาญมันยี่ห้อเดียวกันวะ ที่สำคัญไอ้ศพที่เจอกับไอ้คนที่คุมพวกขนยามันมีรอยสักรูปพระจันทร์ครึ่งดวงที่ท้องแขนด้านซ้ายเหมือนกัน"
"อืมงั้นก็เป็นพวกเดียวกัน"
"ใช่ ดูแล้วมันเรื่องใหญ่แน่นอน เพราะเกือบปีแล้วที่เราจับเฮโรอีนที่มีตราประทับตราแบบนี้ แต่ตอนนี้ปริมาณมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมมีขบวนคุ้มกันอย่างดี คนที่ถูกจับหลายคนมีรอยสักพระจันทร์ครึ่งดวงแต่เราไม่ได้อะไรเลยไอ้พวกที่ถูกจับก็มันปิดปากสนิทไม่ก็ไม่รู้อะไร ตอนนี้กูถูกดึงตัวมาช่วยงานที่ ปส.แล้ว"
แคนหันไปมองเพื่อน ธงรบได้รับเลื่อนยศเป็นพันตำรวจเอกหลังจากแต่งงานไม่เท่าไหร่พร้อมกับการย้ายไปประจำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและตอนนี้มีลูกชายอายุขวบเศษๆ มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ ฐากับผิงตั้งท้องไล่ๆกันแต่ฐาได้ลูกสาวคลอดก่อนผิง 1 เดือน ทำเอาพ่อกับแม่ผิงดีใจอย่างมากที่ได้หลาน 2คนในเวลาไล่ๆกัน
"พอทาง DEAสหรัฐ ส่งผลสารประกอบมาให้ ทำเอาเรานั่งไม่ติดเลยต้องลากมึงมาประชุมด่วน เพราะข้อมูลที่มึงส่งมาให้มันสำคัญมากเพราะมันแสดงว่า ไอ้พวกนี้มันเป็นเครือข่ายที่ใหญ่มาก ทั้งท่าน ผบ.กับคุณอาเลยนั่งไม่ติด"
ธงรบพูดต่อแคนรู้ว่าคุณอานั้นคือ พลตำรวจเอกพิชญ์ที่ตอนนี้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงรวมถึงเรื่องยาเสพติดด้วย ก่อนที่แคนจะเปิดเป้แล้วหยิบแฟ้มเอกสารที่นำติดมือมาส่งให้เพื่อนอ่านแล้วตนเองมองไปนอกรถที่ตอนนี้วิ่งตามรถตำรวจที่นำ รถทั้งสองคันต่างเปิดไฟสัญญาณบนหลังคาและขับด้วยความเร็วสูงบนมอเตอร์เวย์ พร้อมกับความคิดเรื่องชองเฮโรอีนยี่ห้อนี้มันเริ่มจากการที่จับได้ในปริมาณที่น้อย แต่ต่อมาเริ่มมีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ที่จับได้จะไม่เกินครั้งละ 20 กิโลกรัมและที่น่าแปลกใจคือเส้นทางการขนนั้นมันกระจายไปทั่ว ตั้งแต่ภาคเหนือไล่ตามแนวภาคตะวันตกจนถึงกาญจนบุรี จากเฮโรอีนที่ประทับตราพระจันทร์ครึ่งดวงดูจะเป็นรายย่อยแต่ตอนนี้มันขยายเป็นรายใหญ่แถมไปถึงทวีปอเมริกาใต้และสหรัฐเป็นที่เรียบร้อย หลายครั้งที่ถูกจับกุมคนที่คอยควบคุมดูแลการขน ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นอายุไม่เกิน 25 ปี มีทั้งคนไทย คนลาว พม่า กระเหรี่ยง และทุกคนจะมีรอยสักรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ท้องแขน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นั้นไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก ทุกคนจะให้การว่าถูกว่าจ้างให้มาควบคุมเท่านั้น แต่ไม่ยอมบอกถึงคนที่ว่าจ้างและแหล่งที่มา อย่างชัดเจน จนช่วงหลังๆเริ่มมีการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ระหว่างที่เข้าจับกุมมากขึ้น ล่าสุดคือการสูญเสียทหาร 2นายและตำรวจที่เข้าไปหาข่าวอีก 1นาย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรายงานของสารประกอบในเฮโรอีนมันเป็นสารประกอบชนิดเดียวกับที่เคยถูกจับเมื่อหลายปีก่อน
มีการตรวจเจอสารประกอบแบบนี้เมื่อหลายเดือนก่อนแต่ครั้งต่อๆมาบรรดาเฮโรอีนยี่ห้อเดียวกันที่ถูกจับกลับเป็นสารประกอบแบบธรรมดาเหมือนเฮโรอีนทั่วๆไป มีหลายครั้งที่การจับกุมในสายตาของแคนดูมันง่ายไปเหมือนกับล่อให้จับเพื่อให้เจ้าหน้าหน้าที่พะวักพะวง กับบรรดาข้อมูลต่างๆที่มีเข้ามา จนมีการจับกุมที่สหรัฐทำให้รู้ว่าเฮโรอีนยี่ห้อนี้ได้เข้าไปถึงสหรัฐแล้ว รวมถึงในโคลัมเบียที่พึ่งถูก DEA เข้าจับกุมโดยแคนเข้าไปสังเกตการณ์ด้วย ทางตำรวจพยายามค้นหาแหล่งผลิตและนายทุนแต่ทุกอย่างยังมืดมนอยู่ ทางการแทบจะไม่มีข้อมูลอะไร แต่พอเห็นเรื่องสารประกอบที่ผสมในเฮโรอีนแล้วทำให้แคนนึกถึง "กำนันน้อม"ขึ้นมา
"ไอ้น้อมมึงยังทิ้งพิษสงไว้อีกหรือไง ทั้งๆที่มึงไปลงนรกแล้ว"
มันเป็นความคิดของแคน เพราะสารประกอบนั้นเป็นแบบเดียวกับที่กำนันเคยขนมาขายก่อนจะถูกแคนฆ่าทิ้งเหมือนหมาข้างถนนในป่าลึกที่พม่า หลังจากมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธงนำเพื่อนไปที่ห้องประชุมทันที ภายในห้องประชุมนอกเหนือจาก ผบ.ตร.กับเลขาป.ป.ส. รวมไปถึงเลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยังมีท่านรองนายกนั้นนั่งรออยู่พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายนาย ทั้งคู่ต่างเดินไปทำความเคารพทันที ท่านรองนายกตบที่บ่าแคนเบาๆ
"รบกวนหน่อยนะลูก"
"ครับพ่อ"
แคนรับคำสั้นๆก่อนที่รองนายกจะหันไปพยักหน้ากับ ผบ.ตร.และเลขา ป.ป.ส. ทุกคนต่างเดินไปนั่งที่เก้าอี้โดยธงกับแคนไปนั่งอีกด้านหนึ่ง และหลังจากที่นั่งไม่เท่าไหร่ โจ้ที่ตอนนี้มาเป็นตำรวจติดตามรองนายกได้ถือแก้วกระดาษของกาแฟยี่ห้อดัง
"เอ้านี่แคน รู้ว่าเพลีย ท่านสั่งให้ไปซื้อมาให้แก้วนี้มันเข้มข้นกว่าแก้วบนโต๊ะ"
"ขอบคุณครับพี่"
แคนรับมาพร้อมรอบยิ้มที่เหนื่อยๆสายตาเหลือบไปมองแก้วกาแฟที่วางอยู่ข้างหน้าที่มีเจ้าหน้านำมาเสิร์ฟให้ โจ้นั่งลงข้างๆแคนและแคนหยิบแฟ้มที่ถือมาส่งให้โจ้อ่าน มันอยู่ในช่วงเวลาก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น โจ้นั่งอ่านจนจบแล้วอุทานเหมือนกับธงที่อ่านไปแล้ว
"ฉิบหายละสิ มันไปไกลกว่าที่เราคิด แล้วท่านรู้หรือยัง"
"ใช่แล้วพี่โจ้ พ่อพอจะรู้แต่ยังไม่รายละเอียดของข้อมูลเท่าไหร่"
แคนตอบคำถามนายตำรวจติดตามแล้วยิ้มเครียดๆ ซึ่งการประชุมได้เริ่มขึ้นพอดีโดยท่านรองนายกเป็นประธานในที่ประชุม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเป็นคนบรรยาย สาระสำคัญของเกี่ยวกับเฮโรอีกยี่ห้อพระจันทร์ครึ่งดวงและบรรดาสารประกอบที่ถูกตรวจสอบได้
"จากช่วงแรกๆ ที่เราจับได้สารในเฮโรอีนนั้นเป็นสารเหมือนกับเฮโรอีนทั่วๆ ต่อมาเราเริ่มจับพวกที่มีสารประกอบแบบเดียวกับที่เคยจับได้เมื่อ 5 ปี ทีแล้ว แต่มันไม่ใช่ทุกครั้งไปที่จะเป็นเฮโรอีนที่มีสารประกอบแบบนี้ดูจะมีการสลับสับเปลี่ยนไปทั่วและเราสงสัยว่าคน คนนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้อง"
พอภาพปรากฏขึ้นที่จอแคนยิ้มแบบเหยียดๆ เพราะจำได้ดีว่าคือใคร
"คนในภาพชื่อนายคำรณตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นอุกฤษเป็นที่เรียบร้อยหลังจากออกจากคุก เราให้ความสงสัยอย่างมากว่านายอุกฤษนี้จะมีส่วนกับเฮโรอีนพวกนี้ เพราะตอนนี้เราไม่สามารถหาตัวว่าไปกบดานอยู่ที่ไหน ประเด็นที่เราเชื่อเพราะนายอุกฤษมีส่วนร่วมกับการผลิตเฮโรอีนที่เราเคยจับได้เมื่อหลายปีก่อน ที่ผลิตโดยพวกว้าแดงถึงนายอุกฤษจะมีส่วนในการตรวจสอบคุณภาพของเฮโรอีนให้กับอดีตกำนันบุญส่งก็ตามที แต่ความเชี่ยวชาญที่เป็นนักเคมีฝีมือดีที่มีอยู่คงไม่ยากที่จะเป็นคนนำสูตรที่คุ้นเคยมาผสมในการผลิตเฮโรอีน"
นายตำรวจที่เป็นคนบรรยายได้บอกข้อมูลเพิ่มเติม คำรณหรืออุกฤษนั้นติดคุกไม่นานเพราะโทษที่ได้รับนั้นไม่หนักเพราะการกระทำความผิดนั้นส่วนมากเป็นการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร ก่อนจะบอกถึงเรื่องการจับกุมเฮโรอีนครั้งล่าสุดที่แคนรู้เรื่องจากเพื่อน รูปรอยสักของพวกที่ถูกจับกุมและคนที่ถูกยิงตายได้นำมาฉายบนจอที่ปรากฏอยู่บนจอใหญ่และจอที่อยู่ตรงหน้าของผู้ที่เข้าร่วมประชุม พร้อมกับรายงานการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่ถูกยิงตายในรถระหว่างรอพบสายในจุดที่ไม่ห่างจากชายแดนเท่าไหร่ เป็นการจ่อยิงในระยะประชิดเข้าที่ท้ายทอย แต่ไม่มีร่องรอยหรือหลักฐานใดๆทั้งสิ้น กระสุนที่ยิงเป็นกระสุนขนาด .32 ทางตำรวจหาปลอกกระสุนไม่เจอ สันนิษฐานว่าคนร้ายใช้ปืนลูกโม่จ่อยิง แล้วภาพบนจอฉายภาพถ่ายจากดาวเทียมที่ระบุที่ตั้งหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ในพื้นรอยต่อบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อยู่ห่างจากชายแดนไทยไปประมาณ 3กิโลสามารถเดินเท้าหรือนั่งรถเข้าไปได้
"หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ทางเราสงสัยว่าจะเป็นจุดพักยาเสพติด มีอยู่ประมาณ 30-35 หลังคาเรือน คนในหมู่บ้านมีหลากเชื้อชาติ ทั้งไทย พม่า ลาว เขมร จีน ส่วนใหญ่เป็นจะเป็นพวกวัยรุ่นพวกที่นิสัยเกเร หนีออกจากบ้านมารวมกันอยู่ที่นี่ เราไม่มีข้อมูลละเอียดนักแต่มีการตั้งชื่อว่าหมู่บ้านตะวันลับ"
ภาพบนจอเปลี่ยนเป็นภาพถ่ายทางอากาศจากกล้องแทน แสดงให้ว่าหมู่บ้านนี้อยู่ในบนเนิน การปลูกสร้างนั้นดูไม่เป็นระเบียบ มีถนนลูกรังผ่ากลางหมู่บ้าน
"ตำรวจที่ตายกำลังจะเข้าไปหาข่าวในหมู่บ้านนี้ใช่หรือเปล่า"
ท่านรองนายกเป็นคนถาม
"ใช่ครับท่าน แต่เรามีภาพถ่ายที่คนของเราเข้าไปถ่ายก่อนหน้านี้มาได้อยู่3-4ภาพครับ"
ภาพที่ทุกคนเห็นจะเป็นภาพถ่ายจากพื้นดินในระยะไม่ห่างออกไปนัก ลักษณะการปลูกสร้างของบ้านส่วนใหญ่จะเป็นไม้ผสมปูน
"พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของประเทศไหน"
ท่านรองนายกถามอีกครั้ง
"หมู่บ้านนี้ถูกสร้างขึ้นมาได้2ปีแล้วครับท่าน มันเป็นพื้นที่รอยต่ออยู่ไม่ห่างจากเราตอนนี้พม่ากับลาวก็อ้างสิทธิครอบครองแต่ยังเจรจากันไม่เสร็จ ทำให้ไม่ยังไม่มีการยืนยันว่าอยู่ในพื้นที่ของประเทศไหนแน่ชัดแต่หมู่บ้านสร้างได้สบายๆ แต่เราก็ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าประเทศไหนหรือกลุ่มอิทธิพลไหนในตอนนี้ดูแลอยู่ไม่อย่างนั้นคงสร้างไม่ได้ เรามาจับตาดูจริงๆก็ช่วง 1ปีที่ผ่านมาแต่ไม่ได้อะไรมามากนักนอกจากเฝ้ามองอยู่ห่างๆครับ เท่าที่รู้คือไม่มีการส่งกำลังของทางพม่าหรือลาวเข้ามาดูแล พอเราจะส่งคนเข้าไปหาข่าวก็ถูกฆ่าตายก่อน"
ท่านรองพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะมีการบรรยายต่อเรื่องการปะทะของทหารกับพวกขนยาเสพติด แคนดูภาพที่ถ่ายหลังจากปะทะและภาพมุมสูงของบริเวณพื้นที่จุดปะทะซึ่งการบรรยายนั้นตรงกับความคิดของแคนหลังจากที่เห็นในสายตาของผู้ชำนาญการในยุทธวิธีคนหนึ่ง ตรงมุมบนด้านขวานั้นเป็นพื้นที่สังหารเป็นพื้นที่ล่อให้ทหารเข้าไปจับที่ระบุว่าเป็นจุดที่พวกมันซุ่มอยู่ โดยปล่อยให้พวกคนขนยาทำทีเป็นเดินเข้ามา และจากจุดนั้นพวกนั้นเห็นฝ่ายทหารไทยได้อย่างชัดเจน ทำให้ฝ่ายไทยเสียเปรียบจนทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น
"ใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า"
เป็นคำถามจากรองนายกหลังจากที่มีการบรรยายสรุปเรียบร้อย แต่ไม่ใครยกมือ ท่านรองนายกจึงพูดขึ้นต่อ
"เอาละ ตอนนี้ผมขอให้ผู้การพีรพล ช่วยบอกข้อมูลที่ได้มาจากทางสหรัฐด้วยครับ เพราะหลายๆคนในนี้ยังไม่รู้"
แคนกดสวิตช์ไมค์โครโฟนที่อยู่ตรงหน้าทันที
"ก่อนอื่นผมบอกก่อนว่า ข้อมูลที่ผมจะพูด ขอให้ฟังจากผมก่อนเพราะเอกสารเตรียมไม่ทันครับ ทุกอย่างอยู่ในมือผม"
แคนยกแฟ้มในมือขึ้นก่อนจะสูดลงหายใจลึกๆแล้วพูดต่อ
" ตามที่เราได้ฟังบรรยายสรุปกันมาแล้ว ทำให้รู้ว่าเครือข่ายนี้มันซับซ้อนมาก จะเกี่ยวข้องกับพวกในหมู่บ้านตะวันลับหรือไม่เรายังต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่หลายๆครั้งที่ผมสังเกตว่าการจับกุมนั้นง่ายไป เหมือนพวกมันจะจงใจให้เราจับเพื่อดึงดูดความสนใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่างที่เราจับได้สดๆร้อนๆในวันนี้ที่มีการยัดเฮโรอีนลงไปในกระเป่าเดินทางโดยปลายทางอยู่ที่โคลัมเบีย ผมเห็นว่าทำช่องเก็บได้อย่างประณีตมาก แต่ดูจากรายงานที่ได้แล้วเหมือนเราจะจับกุมได้ง่ายเกินไปเหมือนกับจะเป็นการท้าทายทางเราเพราะผมว่าคนที่ขนคงรู้ข่าวเรื่องของที่ถูกจับที่โคลัมเบียแล้ว และเดาว่าที่ถูกจับได้วันนี้มันน่าจะเป็นเฮโรอีนที่ไม่ใช่แบบสูตรพิเศษครับ ส่วนเรื่องที่ผมจะบอกคือ ทุกคนคงรู้แล้วว่ามีการจับเฮโรอีนพร้อมโคเคนจำนวนมากที่ได้ที่โรงงานผลิตในประเทศโคลัมเบีย และมีรายละเอียดบางส่วนที่ทาง DEA สหรัฐส่งเข้ามาให้ เราจะเห็นได้ว่าสารประกอบที่ตรวจสอบได้นั้นผมขอเรียกว่าแบบพิเศษแล้วกันจะได้จำกันง่าย ทำให้เรารู้ว่าเฮโรอีนชุดนี้มันถูกส่งไปพักที่โคลัมเบียก่อนจะส่งเข้าสหรัฐพร้อมด้วยโคเคน และข้อมูลที่ผมจะเพิ่มเติมคือมีโคเคนที่ถูกจับจำนวนหนึ่งที่จะถูกส่งมาที่ประเทศไทย ข้อมูลที่ได้จากการสอบสวนคือมันเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างเฮโรอีนกับโคเคน แต่เรื่องวิธีการขนไอ้คนที่ถูกจับมันบอกไม่รู้"
แคนเว้นระยะเพื่อจิบกาแฟก่อนจะพูดต่อ
"ตรงนี้ทำให้เห็นว่าเครือข่ายนี้กว้างไกลมากและสร้างตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้มันไปถึงเม็กซิโกเป็นที่เรียบร้อย มีการติดต่อกับพวกคาเทลที่มีอิทธิพลสูงที่นั่น แต่ตัวยายังไปไม่ถึง อันนี้เป็นข้อมูลที่ทำให้ผมต้องรีบกลับจากโคลัมเบียมาไทย ทางสหรัฐได้มาจากสายที่แทรกซึมเข้าไปว่าเมื่อ 10 วันที่ผ่านมามีการพบปะกัน โดยมีคนไทยกลุ่มหนึ่งไปเจรจากับหัวหน้าแก็งส์ค้ายาที่นั่นครับ แต่ยังไม่มีรายละเอียดมากนักแต่มีการเรียกชื่อคนไทยที่ไปว่า "มาดอนน่า" ทางสหรัฐกำลังสืบอยู่ ว่าคือใคร?และอีก2-3 วัน ทางสถานทูตอิสราเอลคงจะแจ้งมายังรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการเรื่องการจับเฮโรอีนที่ขนมาจากไทย เป็นยี่ห้อเดียวพระจันทร์ครึ่งดวงเหมือนกันแต่พวกนั้นกำลังตรวจสารประกอบอยู่ครับ"
"แล้วเรื่องทางอิสราเอลนี่ผู้การทราบได้ยังไงครับ"
เป็นคำถามจากเลขาธิการสภาความมั่นคง
"ตอนผมอยู่ที่ญี่ปุ่นผมได้รับโทรศัพท์และตามด้วยอีเมลจากเพื่อนในมอสสาดครับ ส่วนรายละเอียดต่างๆรอให้ทางนั้นแจ้งอย่างเป็นทางการดีกว่าครับ ที่ล่าช้าก็เป็นเพราะระบบราชการครับและคงรอเรื่องสารประกอบให้แน่ชัดก่อน"
ทุกคนในห้องประชุมต่างตั้งใจฟังที่แคนพูด เพราะรู้ดีว่าหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของ ป.ป.ส.คนนี้ไม่ธรรมดา นอกจากมีฝีมือที่ได้รับการยอมรับ แคนยังได้เข้าไปร่วมอยู่ในชุดปฏิบัติการพิเศษของ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ และเป็น 1 เดียวจาก ป.ป.ส.ที่ได้เข้าร่วมกับทีมของ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากลหรือ ศตก. นอกเหนือจากการรับหน้าที่เป็นครูฝึกของหน่วยปฏิบัติการพิเศษของทางตำรวจ รวมถึงเรื่องการได้รับความยอมรับจากทาง DEAและ Seal ของสหรัฐยังไม่รวมถึงการไปฝึกหลักสูตรต่างๆของสหรัฐ ทำให้รู้จักกับพวกหน่วยปฏิบัติการพิเศษของหลายๆชาติ แต่มีเพียง2-3 คนในห้องนี้เท่านั้นที่รู้เรื่องการปฏิบัติการลับของแคนในพม่า เช่นเดียวกับนายตำรวจที่นั่งข้างๆแคน ที่มีผลงานการแฝงตัวจนทำให้ผู้มีอิทธิพลที่เป็นหัวหน้าแก็งส์ค้ายารายใหญ่ 2 รายต้องจบชีวิตลง ทั้งธงรบกับพีรพลต่างได้รับการยอมรับอย่างมาก มีการซักถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก ผบ.ตร.อีก3-4 คำถาม ก่อนที่ท่านรองนายกจะกล่าวปิดประชุม
"ต่อจากนี้ผมอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในห้องนี้เร่งหาข้อมูลของเครือข่ายนี้ให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้ผมจะไปรายงานท่านนายก เครือข่ายนี้มันใหญ่กว่าที่เราคิด ต้องสืบให้แน่ชัดว่าใครอยู่เบื้องหลังหรือจะเป็นพวกเหลือรอดของนายบุญส่งที่หนีรอดจากการกวาดล้างแล้วไปรวมกับกับนายอุกฤษ ผมอยากให้สืบให้แน่ชัด งานนี้ขอให้ละเอียดอย่างมาก พร้อมกำชับไปยังพวกเจ้าหน้าที่ให้ระวังตัวมากที่สุด"
หลังจากนั้นแคนกับธงได้ถูกเรียกไปคุยกับท่านรองนายกกับ ผบ.ตร.และเลขา ป.ป.ส.อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะที่จะแยกย้ายโดยธงได้เดินไปส่งเพื่อนที่รถคันที่นั่งมา
"มึงไปพักผ่อนก่อน กูว่างานนี้หนักแน่"
"เออกูก็ว่าแบบนั้น รู้สึกว่างานนี้ทาง DEA สหรัฐไม่ปล่อยแน่"
แคนพูดกับเพื่อนก่อนจะขึ้นรถ ภายในรถตำรวจที่เป็นคนขับได้หยิบถุงพลาสติกที่วางอยู่เบาะหน้าข้างคนขับหันมาส่งให้แคน
"ผู้การครับ คนขับรถท่านรองนายกเอาของมาฝากให้ผู้การครับ"
"ขอบคุณมาก"
แคนยื่นมือไปรับเพราะรู้ว่ามันคืออาหารที่ท่านรองนายกบอกไว้แล้วว่าเตรียมให้แคนเพราะเห็นว่าดึกมากแล้วและแคนถูกเรียกตัวมาประขุมด่วนไม่น่าจะมีเวลาหาซื้ออาหาร หลังจากกลับถึงคอนโด ทั้งๆที่เป็นเวลาตี 2เศษๆ แต่แคนนั้นทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อยก่อน เพราะห้องที่ไม่อยู่เดือนเศษนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น ด้วยนิสัยประจำตัวและสิ่งที่ได้รับการอบรมมาแคนยอมเหนื่อยอีกครั้ง และใช้เวลาชั่วโมงเศษเศษๆในการทำความสะอาดห้อง ซักผ้า ก่อนจะทานอาหาร และเข้านอนในช่วงเช้ามืดซึ่งแคนหลับไปในทันทีด้วยความเหนื่อยล้า แต่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่ามีผู้หญิง 2คนกำลังนึกถึงอยู่ คนแรกคือแอนเพราะหลังจากที่แคนลงจากเครื่องไปแล้วระหว่างที่พวกลูกเรือต่างนั่งอยู่ในรถที่มารับไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองพวกลูกน้องต่างถามไปที่แอน
"พี่แอนเห็นคุยอะไรกันนะ"
"เขาจำพี่ได้ว่าเคยไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านของแม่เขา"
แอนพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้ม ทำเอาบรรดาแอร์โอสเตสต่างพากันแหย่เธอไม่หยุด ส่วนอีกคนคือหมออ้อมที่ยังแปลกใจตัวเองไม่หายว่าทำไมถึงให้ความสนใจกับผู้ชายคนนี้อย่างมาก
หลังจากนั้นอีก 3 วันที่ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แคนกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.ที่อยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษรวม 4 คน นั่งอยู่ในรถฟอร์จูนเนอร์ เพื่อซุ่มดูการส่งเฮโรอีนโดยเพราะมีการรายงานจากสายเข้ามาว่าวันนี้จะมีการส่งมอบเฮโรอีนที่ลานจอดนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดนั้นอยู่ไม่ห่างออกไปแคนนั่งคู่คนขับ ทั้งหมดต่างฟังการรายงานจากวิทยุของตำรวจ ซึ่งทางป.ป.ส.มีหน้าที่สนับสนุนการจับกุมในครั้งนี้ จนมีรายงานว่ารถที่นำเฮโรอีนมา ได้เข้ามาในพื้นที่เรียบร้อย สายตาของทุกคนเห็นรถที่ได้รับรายงาน
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ขอบคุณครับ น่าติดตามเข้ากับเหตุการณ์ช่วงนี้ได้ดีครับ ข่าวเห็นจับคนขนแป้งไปออสเตรเลียอีกแล้ว
มาได้จังหวะWork from home อ่านเพลินชวนให้ติดตามแม้ไม่มีบทเสียวน่ะ
แคนจะได้แฟนมั้งป่าวภาคนี้อ่ะ
มีเรื่องตื่นเต้นมาให้อ่านอีกละ ขอบคุณครับ
หายไปนานเลยนะครับ.... แต่ยังเข้มข้นเหมือนเดิมเลย.. ขอบคุณมากครับ
Ep1 ก็สนุกแล้ว แล้ว Ep2. จะแซ่บขนาดไหน ::Hunger::
แคนคงต้องทำหน้าที่ต่อไป...เพราะรายใหญ่ยังไม่สิ้นซาก
แคน จะได้ใครเป็นคู่ระหว่างแอร์สาวกับ หมอคนสวย หรือได้ทั้งคู่
มันอีดแล้วครับชอบครับ
เนื้อเรื่องสนุก น่าติดตามตลอดทุกเรื่องครับ
เริ่มเรื่องมาแคนก็เจองานสุดหินเข้าแล้ว คนที่ใช้ชื่อมาดอนน่านี่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ จะเป็นสาวนักเคมีในภาคที่แล้วหรือเปล่านะ....????
เรื่องราวชวนติดตาม มีพ่อค้ายาใหญ่ออกมาให้พระเอกจัดการอีกแล้ว
สุดๆคับเรื่องนี้
ขอบคุณครับผู้แต่งสนุกน่าตื่นเต้นติดตามครับ รอนานเหมือนกันนะครับภาคต่อ
ผู้ชายดีๆมีแต่ในนิยาย
ติดตามผลงานมาตั้งแต่ภาคแรก ครั้งนี้มีภาคสองมาตอนใหม่ ยังอ่านสนุกน่าตื่นเต้นเหมือนเดิมนะคับ ::WooWoo:: ::WowWow:: ::Confident::
นางเอกตอนนี้น่าจะมีสองคน ทั้งหมอทั้งแอร์
งานดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่าน^_^
ภาค 2 มาแล้ว สมแก่การรอคอย พี่แคน
มาแล้วตอนต่อภาคสอง
ระหว่างหมอกับแอร์ ใครจะเข้าวินกับแคนก่อนกัน เนื้อเรื่องยังมันส์ข้นขลักเหมือนภาคแรกครับ
เนื้อเรื่องปูมาได้ แอคชั่นมาก จะเริ่มอิโรติกคงเร็วๆนี้ แต่ใครจะมาอันดับหนึ่ง ระหว่าง หน.แอน แอร์สาว กับ หมออ้อม แต่ ที่แน่ๆ แอบตกใจ มีชื่อ มรว.คุณหญิงดาริน วราฤทธ์ มาด้วยนี่ ร้องเง้อออ เลย ชอบเรื่องเพชรพระอุมา เหมือนกันครับ ถ้า หมออ้อมคือ ดาริน ผู้การแคน คงคือ นายพรานใจฉกาด ระพินทร์แน่ๆ แล้ว แอนจะเป็น ใคร คริส หรือ เบล 555
เรื่องแนวนี้ก็ชอบอ่านครับ
Timeskip มาตั้ง5ปีแหน่ะ หาคู่ให้แคนทีภาคนี้เดียวแคนเหงา
ปล ผมอยากได้สายสัมพันธ์ทบทวนตัวละครก่อนเปิดภาคใหม่บางทีก็ลืมว่าใครเป็นใคร55555
มีสาวมาสนใจผู้การแคนสองคนพร้อมกันแบบนี้เหมาหมด
สาว2คนนี้คงจะได้มาเกี่ยวโดยบังเอิญอีกแน่
ท่านแคนจะจัดกับแอร์หรือว่าหมอ หรือว่าคบสองเลยน้อ
ผู้การจะจัดใครก่อนหมิหรือแอร์
นานจนลืม ฐาจำได้รางๆแต่ผิงคือใครอ่ะ ลืมจริงๆต้องอ่านย้อนหลังละทีนี้
กลับมาแล้วผู้การ
รอท่านทวินมานานเลย
ใครจะเป็นนางเอกกันระหว่างแอร์กับหมอ
รอติดตามตั่งแต่ภาคแรกจบไปเอาใจช่วยแคนให้มีแฟนสักทีครับ
เนื้อเรื่องดูจะเข้มข้นกว่าภาคแรกอยู่มาก
ประทับใจมากครับ เขียนออกมายาวๆเลยครับ
มีทั้งแอร์ทั้งหมอ ควบสองเลยผู้การ
ดูท่าทางน่าจะบู๊ดุเดือดมากเลยงานนี้
มาดอนน่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกันกับภาคที่แล้วรึเปล่าครับเนี่ย
ผู้การต้องมีแฟนบ้างแล้วนะ
ออกตัวมา วางไม่ลงเลยครับ
สนุก ข้อมูลแน่นเหมือนเดิมครับ
ขอบคุณครับ
ใครจะเป็น มาดอนน่า จะใช่นักเคมีสาวจากภาคก่อนหรือเปล่า
มีภาคใหม่มาแล้วน่าสนุกมากครับ
อยู่เฉยๆแท้ยังมีสาวมาปิ๊งเพียบ
พ่อเนื้อทองจริงๆ
ผลงานของผู้แต่งเนื้อเรื่องดีจริงครับติดตามตลอด
ตอนต่อๆไปต้องมาไวแล้วครับ
ภาค 1 ภาค 2 สนุกน่าติดตามมาก
ขอติดตามเป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับนิยายดีๆที่นำมาให้อ่าน ขอบคุณครับ
ภาคนี้น่าจะมีบทบนเตียงสนุกแน่ เพราะเริ่มเรื่องก็มีสองสาวที่สนใจพระเอกเสียแล้ว
มาได้จังหวะพอดี น่าติดตามครับ
ยังคงบรรยายได้ละเอียดลื่นไหลเหมือนเคยนะครับ ยอมรับเลยว่าติดปฏิบัติการของแคนมาก ไม่มีฉากเสียวหวือหวาก็ตามอ่านครับ ขอบคุณที่มีภาคสองครับ
เนื้อเรื่องละเอียดยิบอ่านแล้วเข้าใจการทำงานเลยครับ
มีรายละเอียดดีมากครับ
กำนันน้อมทิ้งเชื้อร้ายไว้ ไม่หายตัวอันตรายจริงๆ
ภาคนี้ชื่อเป็นผู้หญิงเป็นตัวเอกของภาคนี้เหรอ สลับซับซ้อนแต่ได้รายละเอียดมาอธิบายพอเหมาะพอเจาะ ทำให้เข้าใจง่ายต่อเนื่องได้ดี
ใครเป็นหัวหน้าใหญ่ของเครือข่ายยาเสพติดชุดนี้กันนะ แต่คงไม่ใช่อุกฤษแน่นอน
มีภาคต่อด้วย ขอบคุณครับ น่าจะสนุกไม่แพ้ภาคแรก
เริ่ม version ใหม่หรือครับ ขอติดตามด้วยครับ
อ่านสนุก เนื้อหาน่าติดตามมากครับ
งานแบบนี้รู้ว่าเสี่ยงแต่ก็แอบเชียร์หมอให้ผู้การนะครับจะได้มีกำลังใจ
มีสาวสนใจสองคนเลย
แอนกับอ้อม ใครจะเข้าวิน หรือจะทั้งคู่
เนื้อเรื่องน่าติดตามดีครับ
ศึกหนักของแคนมาอีกแล้ว ระหว่างนี้หาสาวมาคลายเครียดบ้างก็ดีงานจะได้ลื่นไหล
ตอนสองจะมีนางเอกหรือเปล่า ต้องติดตามอ่านต่อไป ::DookDig::
กลับมาก็เริ่มเหนื่อยเลยนะแคน
เห็นชื่อเรื่อง ชื่อผู้แต่ง เข้ามาติดตามโดยพลันครับ
เริ่มต้นมาผู้การก็เริ่มบู่เลยนะขอรับแล้วอย่างนี้จะมีแฟนตกถึงท้องไหมนะขอรับ อิอิอิ
ภาคนี้ขอผู้การแคน เป็นพระเอกที่สมหวังเจอะเจอนางเอกบ้างนะครับ ขอบคุณครับผม
สนุกน่าติดตามเช่นเคยครับ กำนันน้อมทิ้งเชื้อชั่วไว้แน่ๆเลย
ปล.ถ้าทำเป็นภาพยนตร์คงสนุกครับ
เดา ใช่ ผญ แฟนหลานกำนันรึเปล่า ที่เป็นมาดอนน่า 555
ชื่อมาดอนน่านี่คุ้นๆ นะ แต่ยังเดานางเอกไม่ออกเลยใครกันนะ
ขอบคุณครับบบบ
สนุกมาก น่าติดตามมากๆครับ
ชอบครับ และหวังว่าแคนจะมีได้เมียซะที
สไตล์นี้อ่านสนุก ชวนติดตาม อ่านผ่านไม่ได้เลย
แคนมีผู้หญิงถึง 2 คนมาสนใจ ใครจะอยู่ในใจแคน
ใครหนอจะเป็นผู้พิชิตหัวใจอันแกร่งกล้าของแคนได้
มันมากเลยครับแนวแบบนี้
อนิจาผู้การแคน
เข้มข้นน่าติดตามเช่นเดิม
จะได้หมอรึแอร์กันนะ
ข้อมูลแน่นมากครับ
อยากให้ภาคนี้ พระเอกของเราได้ลงเอยกับใครสักคน
ขอบคุณครับ มาต่อจากภาคที่หนึ่ง ในเรื่องขอบการปราบปรามยาเสพติด ที่ตอนนี้ระบาดไปทั่วชุมชน ทุกหมู่บ้าน คนที่ทำหน้าที่ก็ไม่ค่อยเอาจริง บางคนยังมีส่วนร่วมในการค้ายาอีก แต่ได้อ่านวิธีการปราบปรามยาเสพติด ก็ได้ความรู้อีกด้าน ::Fighto::
อ้างจาก: T-maesai เมื่อ กรกฎาคม 20, 2021, 10:45:18 หลังเที่ยง
ขอบคุณครับ น่าติดตามเข้ากับเหตุการณ์ช่วงนี้ได้ดีครับ ข่าวเห็นจับคนขนแป้งไปออสเตรเลียอีกแล้ว
คงไม่เจอคนรู้จักมาส่งยานะ
อยากให้แคนคู่หมอจัง
ไม่ผิดหวังรออ่านยุคับ
แคนจะได้ลงเอยกับใครกันแน่
เริ่มเรื่องมาก็งานหินแล้ว ยังคงแฝงไปด้วยความลุ้นระทึกน่าติดตามครับ
เพิ่งเคยอ่านซีรี่ส์นี้ สนุกมากครับ เดี๋ยวขอไปดูภาคแรกสักแป๊บก่อนนะครับ
ขอบคุณมากครับ อยากให้มีบทเสียวเพิ่มสักหน่อย เนื้อเรื่องเล่าได้ละเอียดดีครับ น่าติดตามครับ
ไม่ว่าจะในนิยายหรือชีวิตจริง ราชการก็ทำงานกันช้าเสมอ
ขอบคุณครับ ชอบแนวเรื่องแบบนี้มาก ภาคต่อน่าจะมันส์
ขอบคุณมากครับ เนื้อเรื่องกำลังน่าติดตามต่อเลย ครับ
ต้องตามอ่านก่อน
แคน จะได้ใครเป็นคู่ระหว่างแอร์สาวกับ หมอคนสวย หรือว่าทั้งสองคนเลย
คราวนี้น่าจะจัดการยากกว่ากำนันมากแน่นอนครับ
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ ได้ทุกอารมณ์
สุดยอดจริงๆครับคุณถวิลเป็นเรื่องราวที่ต่อมาได้เยี่ยมมาก และมันสุดๆ
เนื้อเรื่องภาค2 เริ่มมาก็เข้นข้นมาก
ภาคต่อ นี่เอง
ผมนึกถึงเพชรพระอุมา นี่คนแต่ง ท่านชอบปืน
เนื้อหาดูจะเข้มข้นกว่าภาคแรก
แอนต้องโปรยเสน่ห์ใส่ผู้พันแคนเยอะๆซิครับ แคนจะได้รุกใส่บ้าง
ตัวร้ายภาคนี้ชื่อมาดอนน่า ซึ่งน่าจะเป็นผู้หญิง จะเกี่ยวอะไรกับหมออ้อมหรือเปล่า
นาจะสนุกเหมือนภาคแรก
งานนี้ใครจะสางแค้นใครกันหว่า
ขอบคุณครับ
มาดอนน่า ภาคนี้ตัวร้ายคงเป็นผู้หญิงแซบๆ แน่
คงต้องกลับไปหาอ่านภาค 1 แล้วครับ ผลงานสุดยอดแบบนี้ ผมพลาดได้ไง
ภาคนี้ขอผู้การแคน เป็นพระเอกที่สมหวังเจอะเจอนางเอกบ้างนะครับ
อ้าว นายแคนกลับมาแล้ว ข้อมูลเน้นๆ เนื้อเรื่องเข้มๆเหมือนเดิมเลยครับ
กลับมาแก้แค้นกันใหม่ เริ่มเรื่องอย่างน่าลุ้นน่าติดตามมากครับ
แอนกับอ้อมใครจะโดนก่อนละเนี่ย
ไรท์เทพละเอียด ฮา_ชื่นชมครับ ชูนายแคนพระเอกตอนนี้ชัด มาพร้อมด้วยตัวประกอบที่ลากจากเกือบทุกตอนของไรท์พร้อมคนที่เสนอตัวขอเป็นเจ้าสาว ใครฟันใครก่อน ใครจะอกหักหมองหม่นตามสไตล์ไรท์
พ่อค้ารายใหญ่หายไป แต่ก็ยังมีคนสืบทอดแทน ต้องลุยกันหนักอีกรอบแล้วละ
น่าติดตามมากครับ
สนุกแน่นอนเรื่องนี้
ยังสนุกเหมือนเดิม ผลงานมีคุณภาพเยี่ยมเช่นเคยครับ
งานนี้ผู้การท่าจะต้องเหนื่อยมาก
ตามต่อครับ
ติดตามตั้งแต่ภาคแรก ภาค2 ก็ยังน่าติดตามเหมือนเดิม
ปูพื้นให้เห็นรายละเอียดกับความเชื่อมโยงกับภาพแรกได้ชัดเจนจังครับ
เครือข่ายค้ายาของกำนัน ยังตามมาหลอกหลอนไม่เลิก ดูแล้วครั้งนี้น่าจะยากกว่าครั้งก่อนอีก
ภาค 2 แค่อารัมภบท
ศัตรูไม่ธรรมดา เก่งกว่าภาคแรกเยอะเลย
แต่อย่างน้อยก็ยังมีสาว ๆ มาหยอดให้พอชื่นใจบ้าง
ดีครับ จะได้ไม่เครียดมาก
หรือจะเป็นลูกสาวกำนันน้อม
แอนกับอ้อม ใครจะเข้าวิน หรือจะทั้งคู่
ใครหนอจะพิชิตหัวใจของแคนได้
เรื่องโปรดเลยครับ รายละเอียดดีมากๆครับ
เริ่มเรื่องมาก็ชวนตื่นเต้นแล้ว ลุ้นกันว่างานผู้การแคนจะบู๊แค่ไหน ฝีมือก็น่าจะเก่งขึ้นอีกเยอะ
ฝีมือระดับเทพ 2 คนร่วมมือกัน น่าจะไม่ธรรมดา
มาดอนน่า คงไม่ใช่ฝนนะ
ดำเนินเรื่องได้ดี แคนจะเจาะเข้าหาตัวการได้มัย
ภาคนี้แคนจะได้เมียรึป่าวนะ