สวัสดีนะครับทุกคน คือเรื่องนี้เป็นความจริงไม่ใช่นิยาย และไม่ใช่เรื่องเสียว มันคือความจริงสำหรับคนที่เป็นพ่อคนแล้วอย่าง G.A.
ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ G.A.เคยมีอะไรด้วยครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเราไม่ได้ปกป้องอะไรกันเลย สถานะตอนนั้นคือมีแฟนทั้งคู่แต่ก็คุยและแอบแซ่บกันครั้งเดียว
ครั้งเดียวจริงๆครับ สดแตกในกันที่ห้องของ G.A. และต่อมาเธอก็ท้อง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าลูกใคร G.A.ก็ไม่มั่นใจด้วยว่าใช่ลูกของ G.A. ไหม เพราะตอนนั้นอายุพึ่งจะ 19 ส่วนผู้หญิงตอนนั้นเขาอายุ 24 มีลูกแล้ว 1 คนกับคนของเขา
 
ตามข้อความนี้เลยครับ มันคือแชทจริงๆที่คุยกันใน Massage G.A.ตอนนี้อายุ 21 ปีแล้วครับ และมีลูกกับแฟนที่คบกันมา 2 ปี ผู้หญิงคนนี้ก็มีแอบแซ่บกันตอนที่คบกับเขาอยู่นี่แหละ ช่วงนั้นอยู่ในช่วงที่แยกกันอยู่
และตอนนี้ G.A. กำลังคิดว่าควรจะบอกกับแฟนตรงๆดีไหม คือตอนนี้แฟนคลอดลูกสาว เกิดมาได้จะครบเดือนแล้ว
 
ส่วนฝ่ายผู้หญิงก็ตามข้อความครับ เขาไม่ได้ต้องการให้ G.A. มารับผิดชอบอะไรลูกสาวคนนี้ แต่หัวอกคนเป็นพ่อคน มันรู้สึกเสียใจมากๆสำหรับ G.A. เพราะเราแทบจะไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย แต่เขาก็ถ่ายส่งมาให้ดูอยู่เรื่อยๆ แรกๆก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ
แต่พอได้กอดได้หอมลูกที่เกิดจากแฟนของ G.A. ที่คบกันมา 2 ปี คือใจสลายมากๆ ควรจะทำยังไงดีครับ
ย้ำนะครับว่านี้คือเรื่องจริงไม่ใช่ผลงานนิยายเสียว มันคือความจริงของ G.A.
G.A.เครียดมากครับ เราอยากรับผิดชอบกับสิ่งที่เราทำไป เรารู้ความจริงทุกอย่างว่านั้นคือลูกสาวของเราคนเเรก ถึงจะเกิดจากอารมณ์ชั่วคราวแต่ผู้หญิงเขาก็เก็บเอาไว้ เลี้ยงจนตอนนี้อายุได้ 5 ขวบแล้ว
G.A.ควรจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ต่อไปจนตายเลย หรือว่ารอเวลาที่เหมาะสมแล้วบอกความจริงกับแฟนและลูกดีครับ?
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ผมว่าไม่บอกน่าจะดีกว่านะครับ แต่ก็ต้องทำใจกับความอึดอัดใจของตัวเองให้ได้
อ้างจาก: ahoy11 เมื่อ ธันวาคม 01, 2021, 03:40:43 ก่อนเที่ยง
ผมว่าไม่บอกน่าจะดีกว่านะครับ แต่ก็ต้องทำใจกับความอึดอัดใจของตัวเองให้ได้
ขอบคุณครับ ตามที่บอกเลยคือพอเป็นพ่อคนแล้ว ทุกอย่างคือเราอยากรับผิดชอบเขามากๆ
ลูกก็คือลูก ตัดยังไงก็ไม่ขาดหรอกครับ
คุยกับแฟนดีๆ ว่าทางโน้นเค้าไม่ได้เรียกร้องอะไร เราแค่อย่างแสดงความรับผิดชอบ
ต้องรับผิดชอบบ้างครับทเล็กน้อยก้อยังดี
สิ่งที่เราจะบอกแฟนและลูกคือมันคือความเจ็บปวดของเราที่ต้องการระบายออก
การบอกออกไปความเจ็บปวดของเราอาจจะน้อยลง แต่มันจะไปตกอยู่ที่แฟนกับลูกหรือเปล่า เดี๋ยวมันจะกลายเป็นความเจ็บปวดอันไหนที่กลับมาหาเราแทน
แต่ถ้าบอกไปแล้ว แฟนกับลูกรับได้ก็ ok ครับ
บอกดีกว่า
อันนี้ขอตอบในฐานะคนเป็นพ่อเหมือนกันนะครับ ถ้าเป็นผมจะเลือกที่จะไม่บอก เพราะอาจจะทำให้เราสูญเสียครอบครัวไป เมื่อถึงตอนนั้นเราอาจจะทำใจลำบาก แต่ผมจะเลือกส่งเสียเขาแบบเงียบๆ เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่คิดว่าเหมาะสม คงค่อยบอกกับเด็กว่าเราคือพ่อนะ
บอกก็ดีนะครับ จะได้ไม่เครียดและดีกว่าที่จะรู้เอง
ขอบคุณมากครับ ถ้าบอกแล้วจะมีปัญหากับแฟนมัยครับ เอาใจช่วยครับ
ในเคสนี้ไม่ควรบอก เพราะผลกระทบไม่ได้มีแต่ทางครอบครัวเราเท่านั้น
" ถ้าเราไม่ลงนรก แล้วจะให้ใครลงนรกกันหล่ะ "
ขอบคุณครับ
ไม่ต้องบอกก็ได้ครับดีแล้ว
บอกดีกว่าครับ กรรมที่เกิดจากอดีตไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมไม่ดีมันจะเป็นมรดกกรรมสืบทอดต่อไป ไม่ว่าจะกรรมของเราหรือคนที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อยถ้าเราบอกผมว่ามันจะเกิดกรรมดีกับคุณและอีกหลายคน ส่วนความเสียใจหรือผิดหวังกับบางคนมันก็ต้องมีก็ค่อย ๆ แก้ไป แต่ควรทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามลักษณะกรรมจริง สู้ ๆ ครับ ผมว่ามันน่าจะดีกว่าปล่อยผ่านแน่นอนอย่างน้อย ๆ ภูเขาก็ออกจากอกเราและมันจะดีมากสำหรับอนาคตที่เราจะได้รับจากสิ่งที่เราทำลงไป
ทำไงได้ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย สายเลือดเข้มกว่าน้ำอยู่แล้ว
ตกลงกับแม่ของเด็กว่าอยากให้มาออกมาในทิศทางไหนครับ
พูดยากมากเลย มันคือเรื่องที่ซับซ้อนพอสมควร ต้องคิดหนักพอสมควร
เรา และ แฟน (แฟนไม่รู้) / เพื่อนสาว และ แฟน (แฟนไม่รู้)
เป็นกำลังใจให้นะครับ
ผมว่าบอกดีกว่าครับ เรื่องมันจะได้เครียดทีเดียว ครั่งเดียวจบ
ผมก็เป็นพ่อคนได้ไม่นานเหมือนกัน เป็นผม ผมบอกนะ คุยกะแฟนปัจจุบันเลยว่าเรากับผู้หญิงคนนั้นจบแล้ว เหลือสถานะของ คนเป็นพ่อที่อย่างน้อย ขอช่วยเหลือลูกสาวแค่นั้น
ชั่งน้ำหนักว่า อันไหนมันโอเคที่สุด บอกหรือไม่บอก มีผลดีผลเสียอย่างไร การบอกก็เป็นข้อดี บาปในใจอาจจะหมด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ อะไรที่ตามมา เด็กจะโดนเพื่อนๆล้อไหม จะมีปมในชีวิตไหม แต่ถ้าไม่บอกอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีอะไรในใจ เมื่อไม่บอกเรื่องจะจบไหม ถ้าจบและไม่มีอะไรเกิด การเงียบ ก็น่าจะดีที่สุด แต่ถ้าไม่บอกแล้วปัญหาจะตามมาก็ชั่งใจคิด ถึงผลที่เราจะทำต่อ มันจะเป็นตราบาปไปยังเด็กไหม ถ้าไม่คิดไรมาก ก็ช่างมันครับ
ไม่บอกดีกว่าครับ ถ้าบอกอาจจะสบายใจเรา แต่ครอบครัวอาจแตกได้
ผมว่ายังไงก็ต้องรอเวลาที่เหมาะสมแหละครับ(ถึงแม้ว่าเวลานั้นอาจมาไม่ถึงในชั่วชีวิตของG.A.ก็ต้องเก็บมันไว้ เพราะต้นเหตุส่วนนึงก็เกิดมาจากท่านเอง) ถ้าจะไปบอกแฟนคนปัจจุบัน ผมว่าเค้าคงรับไม่ได้แน่นอนในช่วงนี้(แม่ลูกอ่อนนะครับ อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย) แฟนท่านคงจะเสียใจมากๆ แล้วถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาจริงๆ G.A.นั่นแหละครับที่จะเสียใจที่สุด ยอมเจ็บสักทาง เพื่อเหลือทางให้มีความสุขในชีวิตบ้าง ไม่งั้นท่านอาจไม่เหลืออะไรเลย(ปล่อยวางครับ เรื่องมันเกิดมาแล้ว อย่าจมอยู่กับมันนานๆ เดี๋ยวท่านจะเป็นโรคซึมเศร้าซะเปล่าๆ) อีกเรื่องครับ เตรียมใจเผื่อมีปัญหาในอนาคตไว้เนิ่นๆครับ ไม่งั้นพอเวลานั้นมาถึงท่านก็จะเครียดแบบนี้อีก
เป็นกำลังใจให้ท่านเสมอครับ
ส่วนตัวคิดว่า สักวันก็คงต้องบอกครับ
ตอนนี้สิ่งที่อยากให้เช็ค คือเด็กคนนั้น ใช่ลูกจริงๆ
ถ้าพิสูจน์ได้ว่าใช่แน่ๆ จะมีคำตอบเองครับ
ผมว่าการบอกเสี่ยงบ้านแตก
ถ้ายื้อไปเรื่อยๆ แล้วเรื่องไม่แตก คนลำบากใจคืเรา
ส่วนถ้าบอกให้แฟนรู้ คนลำบากใจคือแฟน แต่ถ้าแฟนเข้าใจ ก็หาทางออกร่วมกัน ถ้าโชคดีออกตรงแฟนเข้าใจก็จบครับ
ถ้าโชคไม่ดีคือซวย สุดท้าย ซวยสุด คือไม่บอก แล้วโดนจับได้เองครับ
เอาใจช่วยครับท่าน ไม่มีใครคิดแทนได้ เพราะผลลัพธ์ อยู่ที่เจ้าตัวตัดสินใจ ขอให้หาทางออกที่ตัวเองพอใจที่สุดได้เร็วๆครับ
ไม่ต้องบอกครับ
ถ้าแม่เด็กเขาพอใจจะให้ไปในทิศทางนั้น
ก็แปลว่าเขาคิดแล้วว่าอะไรดีสำหรับเขา
เอาจริงๆ ลูกคุณรึเปล่าก็ยังไม่ได้พิสูจน์ครับ
ที่รัก ที่ห่วง มันเกิดจากความรู้สึกหลอนส่วนหนึ่ง
ถ้าบอกไปแล้วคุณก็เลี้ยงไม่ได้ ช่วยเหลือ
อะไรเขาไม่ได้ มันมีแต่เสีย
ถ้าอยากช่วยจริง ๆ ก็ดูห่างๆ เก็บตังไว้
ให้ลูกครับ จะเป็นทุนการศึกษา
เป็นเงินก้อนตอนที่เขาเดือดร้อนก็ว่าไป
คุณก็จะได้เลิกฟุ้งซ่านด้วย เพราะอย่าง
น้อยก็ได้ รู้สึกว่าได้เตรียมอะไรไว้ให้ลูกบ้างครับ
ถ้าถึงที่สุดแล้ว วันหนึ่งก็คงต้องบอกครับ
อย่าบอกเป็นดีที่สุด ถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงจะมีลูกและเลี้ยงลูก แต่เราก็สามารถไปมาหาสู่ช่วยเลี้ยงหรือช่วยออกค่าเลี้ยงดูได้ เพราะถ้าบอกแล้วรับได้ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้แล้วผลลัพธ์ออกมาอย่างเลวร้ายที่สุด คือเลิกกัน คุณจะทำให้คนสองคนเสียใจ ถ้าถูกจับได้คุณยังสามารถแก้ตัวได้ว่าช่วยเลี้ยงดูลูกเพียงอย่างเดียว ส่วนเรื่องของคุณกับเธอเป็นเรื่องในอดีต ยืนยันได้จากอายุลูกของคุณว่าเป็นเรื่องในอดีตจริงๆ
เก็บไว้อาจดีกับครอบครัวมากกว่านะครับ แต่ถ้ารู้สึกผิดก็อาจไปหาไปดูแลลูกบ้างก็น่าจะดี
ยอมรับความจริงดีกว่าครับ ยังงัยก้อลูกของเรา
ตกลงกับแม่เด็กแล้วบอกความจริงกับคนของเรา
::Crying:: เป็นเรื่องราวที่ควรบอกต่ออย่างยิ่งครับ เผื่อจะเตือนใจหลายๆ คนว่าแค่แตกในครั้งเดียวมันก็เกิดเรื่องแบบนี้ได้ มันคือชีวิตจริงครับ ควรป้องกันทุกครั้งถ้าคุณยังไม่พร้อมจะเลี้ยงดูอีกชีวิตนึงครับ
รับผิดชอบครับ มากน้อยตามที่เอาไหว
อย่าให้คนที่เรารักไปรู้เองทีหลังจะดีกว่าครับ
ไม่ต้องบอกครับ
ถ้าอยากรับผิดชอบ อยากสบายใจ ก็สารภาพบาปครับ
ต้องยอมรับความผิดด้วยใจจริง และต้องเข้าใจว่า ตอนนั้นเรายังเด็ก ผิดพลาดได้เป็นธรรมดา
แต่ที่เหนือจากข้อผิดพลาดคือความรับผิดชอบ
ผมว่าแฟนคุณอาจจะเสียใจ แต่น่าจะเข้าใจ และภูมิใจที่คุณรู้จักรับผิดชอบ และรู้สึกผิดด้วยใจจริง
ความจริงก็คือความจริง ช้าเร็วก็ต้องบอก หาจังหวะและเวลาที่เหมาะสมค่อยบอกก็ได้
บอกตอนนี้อาจจะดีกว่าเซอร์ไพรซ์ลูกตอนโตนะครับ
ถึงที่สุดแล้ววันหนึ่งเขาก็อาจรู้เองครับ ความลับไม่มีในโลก บอกเมื่อลูกสาวอายุพอจะรับเรื่องแบบนี้ได้น่าจะดีที่สุดครับ
ต้องถามว่าฝ่ายหญิงจะรับได้มั้ย ตัวGAเองรู้คำตอบดีที่สุดครับ เราไม่จำเป็นต้องพูดทุกเรื่องถ้าสิ่งที่ตามมามันมากเกินไป ส่วนจะจัดการยังไงอันนี้ต้องแล้วแต่ความต้องการเลยครับ
ก่อนจะนึกถึงฝั่งนั้นต้องนึกถึงฝั่งนี้ก่อนนะครับ ว่าจัรับได้หรือเปล่า
ตามนั้นครับเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสมควรบอกครับอย่างน้อยก็คือการแสดงความจริงใจดีกว่าที่วันนึงเค้าจะรู้จากบุคคลอื่น..การยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาดในอดีตเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างน้อยก็ลดปมด้อยในจิตใจเด็กที่จะเติบโตขึ้นมาส่วนแฟนคนปัจจุบันอาจจะมองว่าทำให้กระทบจิตใจบ้างแต่การบอกความจริงก็ถือว่าเป็นการแสดงความจริงใจเพราะนั่นเป็นสิ่งที่เกิดในอดีตไม่ใช่สิ่งที่กระทำในปัจจุบันคงพอรับได้..ปัจจุบันคงทำให้คนที่เราอยู่ด้วยมีความสุขและดูแลอดีตให้ดีเป็นสิ่งที่เราควรกระทำ
ขึ้นอยู่กับว่า แฟนปัจจุบัน เป็นคนแบบไหนครับ
ถ้าเป็นคนรับฟัง มีเหตุผล เห็นใจคนอื่น
ผมว่าควรบอก
แต่ตัวเราเองต้องทำให้เธอมั่นใจว่าเราจะรับผิดชอบเรื่องลูกคนเท่านัั้น
แต่ถ้าเป็นคนแข็งกร้าว ไม่ยอมใคร
เก็บเรื่องทั้งหมดไว้เอง เพื่อครอบครัวปัจจุบัน และอนาคตของลูกคนใหม่เถอะครับ
ส่วนลูกคนแรก รับผิดชอบตามที่เห็นสมควรครับ
ลุกก็คือลุกยังไงพ่อแม่ก็ต้องบอกให้ลูกรู้
ถ้าไม่ให้กระทบกับสองครอบครัว ควรดูแลแบบห่างๆ ก็ได้ครับ
ถ้าจะเล่า ต้องแน่ใจริงๆ นะ ว่าแฟนตัวจริงจะรับเรื่องนี้ได้ ..
ภรรยากับลูกไม่ได้ผิดอะไร เค้าไม่ควรได้รับความเจ็บปวดครับ
ไม่บอกครับ
แต่แอบส่งเสียดูแลบ้าง
เพื่อความสบายใจหลายๆ ฝ่ายเราก็ต้องเป็นคนเก็บความลับไปจนวันสุดท้าย
บางครั้งบอก แฟนไป เขาอาจจะรับไม่ได้
บางครั้งก็ต้องโกหกสีขาว สู้ๆนะ
ถ้าไม่มั่นใจก็ตรวจ DNA ครับ
นิติวิทยาศาสตร์ช่วยได้
คุยกับแม่เด็กก่อนดีมั้ยครับ เค้าอาจพอใจชีวิตเค้า ณ ตอนนี้แล้วก็ได้
แล้วค่อยหาทางออกต่อ
ผมว่าไม่บอกน่าจะดีกว่านะครับ แต่ก็ต้องทำใจกับความอึดอัดใจของตัวเองให้ได้
ไม่ควรบอกดีกว่าครับ แฟนเราอาจจะเสียใจและไม่ไว้ใจเราอีกเลย
ควรคุยกันทั้ง3ฝ่าย บอกตามความจริงไปเลยครับ ความผิดพลาดจากอดีต จะได้สบายใจทุกฝ่าย
ไม่บอกครับ เพราะเหมือนแค่คุณเอาความรู้สึกแย่ไปแชให้ครอบครัวคุณฟัง คุณอาจจะสบายใจที่เล่าความจริง แต่นั่นจะนำมาซึ่งจุดจบของครอบครัว
จริงๆ ถ้าผู้หญิงเขาไม่ให้รับผิดชอบก็น่าจะเก็บเป็นความลับต่อเพราะว่ามันกระทบต่อทั้งสองครอบครัวนะคะ
ถ้าบอกแล้วอะไรๆมันแย่ลง ผมว่าไม่บอกน่าจะดีกว่านะ ดูแลอยู่ห่างๆอาจจะดีกว่า
เก็บไว้เถอะครับอย่าให้แฟนรู้แม้มันจะผ่านมานานแล้วแต่ไม่อยากให้แฟนเสียใจเสียความรู้สึก
เก็บไว้เป็นความลับดีกว่าครับ ไม่มีใครต้องเจ็บปวดมาก
เรื่องนี้ไม่ง่ายนะครับ และที่สำคัญแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน เข้าใจไม่เหมือนกันและตั้งความหวังไว้ต่างกัน ทุกข้อที่แนะนำได้แต่อ่านเป็นพื้นฐานข้อมูลในหัว แต่การจะตัดสินใจริงๆต้องรอบคอบมากๆ ต้องรู้ใจแฟนปัจจุบันจริงๆให้ได้ก่อน ว่าลึกๆแล้วเขาเป็นคนแบบไหน บางคนอาจจะยอมรับได้ แต่บางคนแม้จะรักเราสุดๆแต่ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ จะหมดความเชื่อใจเราไปเลย แล้วมันจะกลายเป็นแก้วที่ร้าว ประสานให้ดีเหมือนเดิมไม่ได้ รอแต่วันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ลูกใคร ใครก็รัก อยากจะได้เลี้ยงดูเอาใจใส่ แต่บางเรื่องถ้าทำลงไปแล้ว เรามีความสุขได้ทำหน้าที่พ่อ แต่จะมีอีกสองคนที่ต้องใจสลาย.. ท่านอาจจะsupport ในทุกๆทางแบบลับๆก็ได้ เรื่องบางเรื่อง พูดไม่ได้บอกไม่ได้จริงๆ ต้องยอมกลืนเลือดกลั้นน้ำตาให้ความลับตายไปกับตัวเรา
ผมว่าแอบช่วยแบบเงียบๆกฌดีนะ ลุงกับหลาน เนียนได้อยู่
บอกครับยืดอกยอมรับผิด รับผิดชอบลูกที่เกิดมาให้เค้ามีพ่อครับ
เห็นใจครับ และเข้าใจด้วย
ด้วยความที่กำลังจะมีลูกเหมือนกัน
เป็นผมคงไม่บอก และดูแลอยู่ห่างๆ เพื่อให้ลูกมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องมากังวลใดๆครับ
สำหรับตัวผม ความลับไม่มีในโลกนะ
วันนึง ถ้าเกิด แฟน ท่านรู้เอง เรื่องอาจจะใหญ่โตจนท่านไม่มีโอกาสอธิบายอะไรนะครับ (อันนี้คือมุมความเสี่ยงจากการไม่บอก แถมมันยังจะทำให้ท่านอึดอัดใจและรู้สึกมีปมตลอด สุดท้าย แค่ความรู้สึกก็จะกระทบ กับชีวิตท่านในทางใดทางหนึ่งครับ)
ถ้าบอกเลย จะบอกว่าพลาดชั่ววูบ หรืออะไร ตอนแรกบอกอาจจะแรง แต่ก้ยังพอมีเวลาให้ตั้งตัวและอธิบายได้นะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวผมครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ เรื่องเกิดแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ที่จะเลือกหลบ หรือแก้ไขแล้วครับ
Edit รอบนึงรู้สึกยังเขียนไม่ครบครับตอนแรก
Edit2: การบอกล่าว จะทำให้มีโอกาสได้ดูแลลูกอีกคนได้มากขึ้นด้วยนะครับ ยังไงก็ลูกเราครับ
ผมว่ดูแลส่งเสียไปเจอกับลูกก็ดีน่ะครับถ้าแม่เค้าโอเค
น่าเห็นใจครับ เขียนมาแบบสับสนหน่อยๆ
ควรบอกครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ตกลงกับแม่ของเด็กว่าอยากให้มาออกมาในทิศทางไหนครับ
ถ้าเป็นผม ผมจะเก็บเรื่องนี้ไว้ครับ ภรรยาของG.A.ที่เพิ่งคลอดลูกได้ 1 เดือน สภาพจิตใจตอนนี้ไม่พร้อมรับเรื่องแบบนี้หรอกครับ เรื่องนี้มันอาจจะมีผลต่อการเลี้ยงลูกของภรรยาG.A.ด้วยครับ
ปัญหายิ่งกว่าโลกแตกซะอีกครับ มันมีนะ คนที่รับได้ และเข้าใจ แต่เป็นคนส่วนน้อยแหละ ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังไงก็ต้องการเป็นเมียเดียว ถึงสถานการณ์นี้จะดูไม่เกี่ยวเรื่องเมียเดียว แต่มันก็เหมือนกับว่าจะเกี่ยวข้องกันที่ความไว้ใจนะ
เก็บไว้เป็นความลับจะดีที่สุดครับท่าน
ตอนร้ผมว่าท่านรอเวลาให้ภรรยาและลูกของท่านอยู่กับท่านให้มากกว่านี้ครับ และต้องรับผิดชอบในส่วนที่ทำพลาด อาจจะดูเป็นการเห็นแก่ตัวต่อภรรยาและลูกแต่ผมว่าลูกต้องการเวลามากกว่านี้ครับ
ส่งเงิน ซื้อของให้ หรือคอยดูแลก็ได้นะครับ แบบทางอ้อมอะไรอย่างนั้น
ที่สงสัยคือ เด็กเข้าใจว่าใครเป็นพ่อครับ
G.A หรือสามีของผู้หญิง ที่ G.A แอบแซบครับ
ถ้าเขามีครอบครัวอยู่ เรามีครอบครัว ไม่ควรบอกครับยอมเจ็บคนเดียวดีกว่าครอบครัวแตกแยก นะครับ
ถึงจะออกตัวเบื้องหน้าไม่ได้แต่รับผิดชอบอยู่เบื้องหลังได้นะครับ
ตำรวจดีเอ็นเอไหมครับ
ความจริงก็ทำให้หายะนะได้ วิธีดีคือเก็บเป็นความลับ ยามเขาลำบากเรายื่นมือเข้าไปช่วยจะดีกว่า
อีกข้อเราต้องรู้ว่าเมียเราใจกว้างเท่าทะเลไหม รับเรื่องได้ไหม ถึงแม้ใจเท่าทะเลมหาสมุทร ก็บางครั้งยังเอียงได้
ขึ้นอยู่ที่ตัวเราให้ความยุติธรรมไหม เรารวยพอแบ่งปันให้ทั้งสองฝั่งได้ไหม ถ้าทำได้ก็ทำให้เท่าๆกัน
เห็นใจทุกฝ่ายนะ
ผมว่า ควรบอก และ บอกความจริงไป ว่า ต้องยอมรับสภาพ ในสิ่งก่อ หาเหตุผล หาความมั่นคง เชื่อมั่นให้ เมียและลูก เชื่อในตัวเรา เรื่องพวกนี้ปิดใครแต่ปิดใจไม้รับรู้ใจตัวเองไม่ได้ นอกต่กเป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั้วดี (ขออภัย) ยังไงถ้าเรื่องจรืงก็ ลูกกับคนนั่นเขาลูกไม่ผิดเขาต้องมีพ่อ ที่ทำให้เขาเกิด แต่จะเลี้ยงดูหรือไม่อยู่ที่การพูดคุย รับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั่น ต้องชัวร์ว่า ลูกเราแน่ๆ ตรวจdna ชัวร์ๆ ครับ ยังไงก็เอาใจช่วยหาทางออกให้ได่
ยกตัวอย่าง คนดัง นักร้องผู้ชายบ้านเราแหละ ที่ไป มีลูกกับ นางงาม คนนึ่วที่ ตปท. ทั้งๆที่ช่วงนั้นก็ เหมือน กำลังดูใจกับ ดารานักร้องอยู่ แต่ สุดท้าย ฝ่ายหลัง เข้าใจ รับได้ แต่งงานมีลูกด้วยกันหลายคน แถม นักร้องคนนั่นก็ ยังเป็นพ่อที่ดี ยังดูแลส่งเสีย ลูกที่เกิดจาก นางงามคนนั้นด้วย อย่างที่บอก เราต้องสร้างความั่นใจ ให้สัมผัสได้ และเชื่อมั่นในตัวเรา แต่ ประเด็นหนึ่ง ที่ท่าน G..A ไม่บอก คือ ฝ่าย ผู้หญิงคนนั้น เขามีลูกอีกคน แล้ว สามีเขาล่ะรับรู้ว่า ยังไง ว่า ลูกที่เกิดกับ G.Aคือ เข้าใจว่าลูกเขาไหม หรือ ไม่รู้ แล้ว เขายอมรับ ไหม
คิดดีๆ เข้าใจอยู่ว่ามันเป็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่มาสำนึกตอนนี้ก็ไม่ช่วยอะไร ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตน ให้มองที่ผลลัพธ์ก่อนนะครับ มีหลายช่องทางที่พอชดเชยสิ่งนั้นได้ ลองคิดดูดีๆ เป็นกำลังใจให้นะครับ (ผิดหมวดรึเปล่าน้อ ปกติจะอยู่ห้องนั่งเล่น)
ตัดสินใจตามสถานะการณ์ครับเอาทางที่คิดว่าดีที่สุด
ต้องตกลงกันให้เข้าใจนะครับว่าต้องการรับผิดชอบขนาดไหน
ทำไมผมอ่านแล้วงง
ท้องตอน ga อายุ 19 ตอนนี้ 21 ทำไมลูกสาวคนนั้นถึง 5 ขวบอะ
แต่เรื่องนี้ผมว่าไม่ควรบอก เก็บเป็นความลับไปเงียบๆดีกว่า
บอกโลด
ได้ทุกทางครับ
เป็นเรื่องยาก
ที่แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน
ก็ต้องบอกนะครับ แต่ให้ชัดว่าไม่ได้นอกใจตอนคบกัน
ขอตรวจ DNA ครับ ถ้าใช่ก็รับเลี้ยงดูตามความเหมาะสม บอกเรื่องที่พลาดกับภรรยาว่าเป็นเหตุในอดีต เลือกดูว่าคุณภรรยาไม่ได้เป็นซึมเศร้าหลังคลอดนะครับ ถ้าปกติน่าจะรับได้
ถ้าไม่ใช่ ก็จะได้รู้ และช่วยเหลือตามสมควรไปครับ
เรื่องนี้ตอบยากครับ และก็เป็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว จะมาทำให้ปัจจุบัน มีปัญหาครับ ถ้าไม่สบายใจมาก ก็ลองตรวจ DNA ก่อนครับ ถ้าแน่นอน ก็ค่อยมาคิดต่อไป ตอนนี้มาคิิดไปไกล ก็จิตตกเปล่า ๆ ครับ
ควรบอกในเวลาที่เหมาะสมครับถ้าบอกนคัมึผลเสียอะำรไหม
บางอย่างเราก็ควรรู้คนเดียวครับ
ควรบอกนะครับ เค้าคงเข้าใจ เรื่องมันเกิดไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ปัจจุบันกับอนาคต เราสามารถกำหนดได้ เด็กไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย สงสารเค้า ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้เรื่องจบไปในแนวทางที่ดีกับทุกฝ่ายนะครับ
ลองคิดถึงผลของการบอกครับ เปรียบเทียบกับผลของความลับที่ถ้าถูกเปิดเผยถ้าปล่อยไว้นานไปในภายหลัง
บางทีการไม่บอกความจริง คือกรรมของคนที่กุมความลับไว้ การบอกคือการยกความไม่สบายใจให้แฟนเพื่อความสบายใจของตนเอง ในทางกลับกันก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วยทั้งสองทาง ทั้งบอกและไม่บอก เพราะยิ่งนาน ผลของการเก็บความลับไว้ก็ยิ่งรุนแรงเมื่อความจริงถูกเปิดเผย
เป็นผม ก่อนที่จะบอก ผมต้องแน่ใจว่าคือลูกผมจริง และประการสำคัญ ถ้าอดีตกิ๊กไม่ต้องการอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องบอก แต่ถ้าเรียกร้องการรับผิดชอบด้วย อันนี้คงต้องรีบบอก เพราะแฟนตัวจริงจะรู้ความลับเองได้แน่นอนครับ เอาใจช่วยครับ
ความจริงบางอย่างบอกไปอาจจะทำให้ทุกๆอย่างแย่ลง บางครั้งก็ควรเก็บมันไว้อย่าให้คนข้างกายรับรู้
อย่าบอกเลยครับเก็บไว้คนเดียว แล้วก็ไม่ต้อวไปแสดงตัวว่าเป็นพ่อด้วย เพื่อความสวบในครอบครัว ทำใจผ่านให้ได้ครับ
อ่านแล้วปวดตับเลย
ลองหาวิธีช่วยส่งเสียอย่างห่างๆ เอาครับ
เรื่องมันซับซ้อนตรงที่ต่างฝ่ายต่างมีครอบครัว...เรื่องนี้ต้องลองคุยกับอีกฝ่ายก่อนว่าเอาอย่างไรคดีครับ
ขอบคุณครับ.. รอการแก้ไข
ในความคิดของผม.. ควรที่จะเป็นความลับระหว่างคนสองคนครับ.. ไม่ควรให้เด็กรู้ ในความคิดของผม.. หากเด็กรู้ แล้วแฟนของผู้หญิงคนนั้นที่เด็กคิดเสมอว่าเป็นพ่อที่แท้จริง.. เด็กจะคิดอย่างไร.. เด็กจะเสียใจแค่ไหน.. ผิดหวังในตัวแม่ของเด็กเองที่ทำตัวแบบนั้น อาจเป็นปมด้อยที่ติดอยู่ในใจครับ
... ส่วนการช่วยเหลือของ ไรท์เตอร์ คงต้องรับผิดชอบบ้าง.. แต่ไม่ควรที่จะเข้าไปแสดงความผูกพันให้มากนักด้วยนะครับ.. อาจทำให้เรื่องยุ่งยากเข้าไปอีก.. เข้าใจสถานะของคนเป็นพ่อครับ.. แต่คิดว่าหากครอบครัวเด็กมีความสุขดีอยู่แล้ว... เราอย่าเข้าไปทำลายโดยที่เราไม่คาดคิดเลยครับ...
ต้องขออภัยในความคิดเห็นแบบนี้ครับ
::HeyHey::ความจรืงก็คือความจริง
ไม่บอกน่าจะดีกว่าคับ สู้ๆ
อันนี้มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองครับถ้าบอกความจริงไปอาจจะมีเรื่องปวดหัวกับครอบครัวตามมาอีกมากมาย ถ้าจะดีกว่าถ้าปิดต่อไปค่อยๆให้เวลารักษาแผลใจดีกว่า
บอกดีกว่า จะได้ไม่ทุกข์ แต่แน่ใจรึเปล่าว่าเมียรับได้
ควรบอกนะครับ แล้วหาจุดที่ลงตัวมันจะมาเครียดที่หลังนะครับถ้าเขารู้ความจริงเอง
กรรม
เรื่องใหญ่มากๆ ควรปรึกษาจิตแพทย์ดีมั้ย หรือแพทย์ที่แนะนำเรื่องครอบครัว
เอ่อ ตกลงกันกับแม่ของเด็กก่อนดีกว่าครับว่าอบบไหน ยังไงดี แต่ถ้าถามผม ผมคิดว่าไม่ควรบอกเทียกับลูกนะ น่าจะดีที่สุด
คุยกันดีๆครับ อย่าลืทให้สิทธิความเป็นแม่เขาด้วย ถ้าเขาอยากให้รับผิดชอบก็ว่ากันไปตามเสื้อผ้าครับ ถ้าไม่ก็ต้องเข้าใจเขาด้วย
1 กับแฟน ควรบอก เป็นเรื่องของความซื่อสัตย์ และมันผ่านมานานแล้ว แต่ต้องเป็นกรณีที่คุณเลิกกันผู้หญิงคนนั้นแล้ว
2 กันเด็กน้อยที่เกิดกับออีกคน ถ้าคนของผู้หญิงคนนั้นเค้าเลี้ยงดูเป็นลูกและลูกก็เข้าใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อ และครอบครัวมีความสุขดี...ไม่ควรเข้าไปยุ่ง หรือไปอยากรับผิดชอบใดๆ เพราะครอบครัวเค้าลงตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องลองคุยกับผู้หญิงคนนั้นดู ว่าเค้าต้องการให้คุณไปรับผิดชอบหรือไม่
มั่นใจว่าลูกตัวเองร้อยเปอร์เซ็นมั้ยครับ
เข้าใจหัวใจผู้ชายคนเลย
น่าติดตามครับท่าทางจะเน้าใจ
อ่านแล้วเห็นใจมากไป อวยพรให้ผ่านไปได้ด้วยดีครับ
ทางเลือกก็คงมีไม่มาก แต่ก็รีบผิดชอบในทางที่ตัวเองเลือกก็พอครับ ผิดพลาดได้ แต่ก็เก็บเป็นบทเรียนก็พอครับ
บอกไว้ก็ดีนะครับ เราจะได้ไม่เจ็บปวดคนเดียว ยังไงความจริงก็คือความจริง
ชอบแนวนี้นะ แต่เคยเจอจริงก็ซึมยาวเลย
ผ่านมาหลายเดือนแล้ว
ตอนนี้ คงตัดสินใจไปแล้วว่า จะทำยังไง
คุยกับแม่เด็กก่อนครับ และยอมรับผลการตัดสินใจของเขาให้ได้
เพราะคุณได้เลือกแฟนคนปัจจุบันไปแล้ว
ตัดสินใจตามสถานะการณ์ครับเอาทางที่คิดว่าดีที่สุด
ส่งเสีย แต่อย่าปล่อยให้สงสัยครับ
ควรหาข้อตกลงกันระหว่างครอบครัวครับ
Dee
ได้รู้เรื่องส่วนตัวคุณนักเขียนด้วย
ถ้าไม่บอก สักวันเด็กอาจรู้ครับ ควรบอกน้า
ความจริงที่โหดร้าย