ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 32: พญาปิศาจ

เริ่มโดย KaohomLM, กุมภาพันธ์ 19, 2022, 07:47:49 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

A/N สวัสดีครับ พูดคุยกันสักนิดก่อนเข้าเรื่องนะครับ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตามและให้ความสนใจมาโดยตลอดนะครับ
ก่อนอื่น ขอตอบข้อข้องใจก่อน มีคนถาม ๆ กันมาในตอนก่อน ๆ ว่า
1. - เปิดซิงเจ๊ข้าวหอมแสนสวยแล้ว นทีจะได้พลังเพิ่มไหม - คำตอบคือ ไม่ นะครับ เพราะจริง ๆ แล้วสิ่งที่ฝ่ายปิศาจต้องการมากคือการสังเวยพรหมจรรย์ของสาวงามให้กับปิศาจ เพื่อแลกกับพลังปิศาจ ต้องมีพิธี มีตรามาร์คต่าง ๆ ซึ่งนทีไม่ได้่ทำเลย (แล้วแกก็ไม่ได้อยากได้พลังปิศาจด้วย) ถ้ามองจากมุมมองของคนอย่างเสี่ยต้น สิ่งที่ทั้งสองคนทำไปคือการเสียเปล่าโดยสิ้นเชิงครับ แต่ถ้าไปถามสองคนนั้น ก็คงไม่เสียเปล่าหรอก เล่นกันซะขนาดนั้น
2. - นที(ยัง)ไม่ได้จ้องจะเปิดประตูหลังเจ๊นะ แค่อยากจะเอาน้ำปล่อยใส่หลังเฉย ๆ ประตูหลังขอเก็บไว้อีกสักพักก่อนนะครับ
มีใครมีข้อสงสสัยอะไรอื่นก็ถามได้นะครับ ผมจะพยายามตอบนะครับ ตอนนี้ เข้าสู่เนื้อหาเลยแล้วกันนะครับ

ปล. มีซ่อนบทอัศจรรย์นะครับ

   พื้นที่ทั้งบริเวณถูกกั้นด้วยเทปสีเหลือง ปิดพื้นที่เพื่อให้ความสะดวกกับตำรวจที่พยายามสืบหาที่มาของเสียงและแรงระเบิดปริศนา ที่สร้างความตื่นตระหนกขึ้นใจกลางเมืองเมื่อสองวันก่อน ตามมาด้วยคดีหายตัวลึกลับหลายคดี และคำเล่าลือที่ว่ามีคนเห็นสัตว์ประหลาดออกมาเพ่นพ่านกลางวันแสก ๆ
ในวงล้อมนั้น ฝูงปิศาจประมาณหนึ่งร้อยตัวเพ่นพ่านไปมาอย่างเสรี บางตัวก็แบกเหยื่อสาวที่ไม่ได้สติไว้บนหลัง พวกมันรู้ดี ว่าในเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมง ผนึกจะคลายออกอย่างสมบูรณ์ และลูกพี่ใหญ่ของพวกมันจะคืบคลานขึ้นมาบนพื้นโลกอีกครั้ง ปิศาจจากทั่วทุกหนแห่งในประเทศต่างพากันเดินทางมาเพื่อรอเข้าเฝ้าท่านผู้ยิ่งใหญ่ หลายตัวก็หยิบฉวยเอาเครื่องสังเวยมาด้วยเท่าที่พวกมันจะหาได้
   แว่บ ร่างสองร่างปรากฏขึ้นกลางวงล้อมปิศาจ ติด ๆ กับซากของตึกร้าง ร่างหนึ่งใส่เกราะเงิน ส่วนอีกร่างที่สูงกว่าสวมเกราะขาว ร่างในเกราะขาวยกนิ้วขึ้นเคาะอากาศทีหนึ่งด้วยท่วงท่าสบาย ๆ ดูออกจะขี้เกียจด้วยซ้ำ วงเวทย์สีเหลืองเรืองรองขนาดยักษ์ที่เต็มไปด้วยอักขระซ้อนกันหลายชั้นปรากฎขึ้นมาในอากาศทันที
   "สายฟ้าสีทองแห่งอิลิธิอา"
   ปิศาจทุกตัวสลายเป็นผุยผงไปทันทีที่สายฟ้าสีทองพุ่งออกมา
   "พี่นที!!!" ข้าวหอมร้อง "เดี๋ยวโดนคน!"
   "แล้วโดนไหมล่ะ" นทีถาม
   "เอ่อ ไม่โดนค่ะ" ผู้หญิงที่ปิศาจแบกอยู่ทุกคนตอนนี้นอนกองอยู่ที่พื้น
   "แล้วจะบ่นทำไม" นทีถาม "เอาหละ เรียกคนอื่นมาได้แล้ว"
   ข้าวหอมกดโทรศัพท์ส่งข้อความให้พี่เก่ง ไม่ช้าผู้พิทักษ์ก็หลั่งไหลกันเข้ามาล้อมรอบตึกร้าง บางคนรีบวิ่งเข้าไปแบกร่างหญิงสาวเหล่านั้นออกมา นทีเสกโต๊ะกับเก้าอี้สองตัวออกมา นั่งลง และเสกแก้วและกาน้ำชา "เจ๊ ชาหน่อยนะ"
   "เอ่อ นี่เรามาปาร์ตี้น้ำชากันเหรอคะ"
   "อีกตั้งสี่สิบสองนาทีผนึกถึงจะคลาย" นทีบอก "ระหว่างรอจะให้ทำอะไรล่ะ"
   ข้าวหอมจึงนั่งลงและรับถ้วยชาจากชายหนุ่มมาดื่ม
   "เป็นไงบ้าง"
   "ขมไปนิดค่ะ"
   "ฮึ่มมม"
   "อะแฮ่ม" มงคลกระแอม เมื่อเขากับเก่งเดินมาถึงโต๊ะน้ำชา
   "อ้าว มงคล เก่ง เป็นไงกันบ้าง" นทีทัก "ขอโทษที่ไม่ชวนนั่งนะ บังเอิญเก้าอี้ไม่มีแล้ว" (เมื่อกี้เอ็งยังเสกอยู่ไม่ใช่เรอะ)
   "โมเป็นยังไงบ้างคะ" ข้าวหอมถามเก่ง
   "แย่" เก่งส่ายหน้า "ตอนพี่ออกจากบ้านมายังไม่หยุดร้องไห้เลย"
   ข้าวหอมก้มมองพื้น ใช่สินะ เบลเพิ่งตายไป ทำไมเธอปล่อยให้บทรักของเธอกับพี่นทีกลบความตายของเพื่อนสนิทไปได้นะ
   "นายท่านนที" มงคลพูด "กระผมรวบรวมผู้พิทักษ์มาได้เกือบทั้งสภาเลย หวังว่าจะพอนะครับ เราควรจะเตรียมตัวกันยังไง"
   นทีกวาดตามองผู้พิทักษ์ประมาณห้าสิบคนที่ล้อมวงอยู่
   "เอายังไงก็ได้ ใครอยากทำอะไร ทำ ตามสะดวก" นทียักไหล่ พลางรินน้ำชาให้ตัวเองอีกแก้ว "อีกสี่สิบนาที เวลาเหลือเฟือ"
   ข้าวหอมมองดูรอบตัว เธอเห็นความหวาดกลัวในทุกใบหน้ายกเว้นหน้าของพี่นที ก็แน่หละ นี่เป็นปิศาจที่แข็งแกร่งที่สุดที่สภาเคยเจอมาในรอบห้าสิบปี จะไม่ให้กลัวได้ไง แค่ปิศาจชั้นเอกแค่ตัวเดียวยังถล่มหน่วยจู่โจมฝีมือดีทั้งทีมเสียย่อยยับ
   "พี่นที" ข้าวหอมพูดเสียงแผ่ว ๆ "จริงจังกว่านี้หน่อยไหมคะ ทุกคนวิตกกันมากนะ"
   "ยิ่งวิตก เรายิ่งต้องทำตัวให้สบาย" นทีบอก "เมื่อผู้ตามเห็นว่าผู้นำไม่วิตก ก็จะคลายความกังวลไปด้วย พี่ทำอย่างนี้ตลอดแหละ"
   "ถึงได้พากันไปตายทั้งสภาไง" ข้าวหอมประชด
   "งุงิ" นทีบ่น และรินน้ำชาให้ตนเองอีก 1 แก้ว
   "ว่าแล้ว ชุดเกราะพี่ซ่อมตัวเองเสร็จแล้วเหรอ เร็วจัง"
   "พี่ซ่อม ไม่ได้ซ่อมตัวเอง เละขนาดนั้นให้ซ่อมตัวเองก็เสร็จพร้อมรถไฟความเร็วสูงนู่นแหละ"
   "ซ่อมตอนไหนคะ หนูไม่เห็นรู้เลย"
   "ตอนเจ๊หลับอยู่"
   "อ๋อ" ข้าวหอมหน้าแดง เก่งมองหน้าเธอด้วยสายตาสงสัย
   รอบตัว พวกผู้พิทักษ์กำลังแยกย้ายกันเตรียมตัวเท่าที่ทำได้ พวกสายอาวุธระยะประชิดเอาอาวุธออกมาขัดและตรวจสอบ ขณะที่สายเวทย์เริ่มวาดวงเวทย์ ข้าวหอมเห็นผู้พิทักษ์สามคนช่วยกันวาดวงเวทย์ของคาถาเพลิงขาวแห่งความพิสุทธิ์วงเดียว
   เก่งวาดวงเวทย์ของตนแองจนเสร็จ แล้วจึงถามข้าวหอม "น้องข้าว บอกพี่ได้ไหม เรื่องเมื่อวันจันทร์มันเกิดขึ้นได้ยังไง แตงโมไม่ยอมบอกอะไรพี่เลย"
   "พี่บอยทรยศพวกเราค่ะ เขาพาพวกของเสี่ยต้นไปหาเบลกับแตงโม แล้วถ่ายภาพเบลกับแตงโมส่งมาให้หนู หนูกับพี่นทีเลยรีบมาที่ตึกร้าง"
   "มันเป็นกับดัก" นทีบอก "ในตึกไม่มีใครอยู่ มีแต่ระเบิดเวทมนตร์ คลาสเจ็ด"
   มงคลส่งเสียงซี๊ดปาก
   "มันคืออะไรเหรอครับ" เก่งถาม
   "ระเบิดเวทมนตร์ ที่มีพลังทำลายเทียบเท่าหรือสูงกว่าระเบิดนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี" มงคลตอบ นทีพยักหน้า
   "ขนาดผมเองยังเกือบไม่รอดเลย" นทีเค้นเสียง "กระดูกหักแปดสิบสองจุด เกราะแตกยับทั้งตัว อวัยวะภายในเสียหายหนัก นั่งร่ายคาถาเยียวยาอยู่สามชั่วโมงกว่าจะลุกยืนได้ นี่ขนาดร่ายคาถาปราการสิบทบป้องกันแล้วนะ"
   "โห!!! ไม่เห็นบอกหนูเลย" ข้าวหอมตาโต แล้วยังมีแรงมาจัดเธอขนาดนั้นอีกนะ แต่ในใจเธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาอีก เธอเกือบทำให้พี่นทีตายจริง ๆ แล้ว...แล้วที่เบลตาย แตงโมโดนข่มขืน ก็ความผิดเธอสินะ น้ำตาข้าวหอมเริ่มไหลอีกครั้ง
   "เจ๊ไม่ผิด" นทีหันมาพูดกับเธอเสียงแข็ง
   "อะไรเหรอ" เก่งถาม
   "ความผิดหนูค่ะ" ข้าวหอมปล่อยโฮ สารภาพกับพี่เก่ง "พี่นที ฮือ พี่นทีบอกว่ามันอาจเป็นกับดัก อยากจะตรวจสอบให้ดีก่อน แต่...แต่หนูสั่งให้พี่นทีบุกเข้าตึกไปเลย"
   "ถ้าตอนนั้นพี่จะไม่ไปซะอย่าง เจ๊ก็บังคับพี่ไม่ได้" นทีบอก "ความผิดพี่มากกว่า"
   "ละ...แล้วไงต่อครับ" เก่งถามด้วยสีหน้าหวาด ๆ เมื่อเห็นน้ำตาของข้าวหอมและสีหน้าเคร่งขรึมของนที
   "แรงระเบิดโดนหนูสลบไปด้วย พวกมันจับหนูไป แล้วพยายาม...ทำไม่ดีไม่ร้ายกับพวกหนูสามคน เบลพยายามช่วยหนู...ก็เลยโดนฆ่าตาย"
   ถึงตอนนี้ข้าวหอมก้มหน้าร้องไห้อย่างที่เธอลืมร้องมาสามวัน นทีรีบเข้ามาโอบไหล่เธอ
   "พี่เก่ง หนูขอโทษนะคะ....หนูช่วยแตงโมกับเบลไม่ได้"
   "ไม่ใช่ความผิดน้องข้าวหรอก" เก่งพูดเสียงสั่น "ทุกอย่างเป็นความผิดเสี่ยต้น"
   "ที่ตายไปแล้ว" นทีบอก "พอรักษาตัวเองได้พอเดินไหว ผมก็ตามไปช่วย ผมฆ่าไอ้เสี่ยต้นกับมือเลย"
   "ดี" เก่งพูดเสียงโหด "เสียดาย ที่ผมไม่ได้อยู่ด้วย"

   กว่าข้าวหอมจะเริ่มสงบลงได้ ก็เหลือเวลาแค่ประมาณห้านาทีเท่านั้น ก่อนที่ผนึกจะแตก นทีลุกขึ้นยืน สวมหมวก เสกโต๊ะกับเก้าอี้ให้หายไป ก่อนจะเริ่มเหยียดแข้งเหยียดขา ก่อนจะยืดตัวตรงเต็มที่ สูงสง่า งดงาม ผ่าเผย เกราะขาวต้องแสงแดดสะท้อนเป็นประกายสว่างไสว ส่วนด้านหลังของเกราะที่ยื่นออกไปพับเปิดออก ปีกแห่งแสงขนาดมหึมากางออกกว้าง นำพาร่างของนทีลอยสูงขึ้นจากพื้น ปีกส่องแสงสว่างเรืองรอง ทอแสงลงบนทุกสีหน้าในที่นั้น ณ ตอนนี้ นทีดูเหมือนเทพยดาที่อยู่เหนือจากมนุษย์ปุถุชนสามัญจริง ๆ
"เอาหล่ะ ผู้พิทักษ์" นทีพูด เสียงของเขาถูกขยายด้วยเวทมนตร์จนดังไปทั่วบริเวณตึกร้าง "ณ วันที่รับตำแหน่งและอาวุธเวทย์ พวกท่านได้ลั่นสัจวาจะปกป้องโลกใบนี้จากปิศาจ ทุกชนิด ทุกรูปแบบ บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่ท่านจะรักษาคำสัตย์ และปกป้องทุกสิ่งที่ท่านรัก ปิศาจที่ท่านเคยปฏิญาณจะต่อกรด้วยรออยู่ต่อหน้าแล้ว ท่าจะพิทักษ์โลก สมดังชื่อตำแหน่งของพวกท่านได้หรือไม่"
เสียงตอบรับดังลั่น
"ดีมาก เตรียมพร้อม"
   ณ วินาทีนั้น ข้าวหอมก็รู้สึกถึงพลังมหาศาลที่พวยพุ่งออกมาจากซากตึกร้าง ปูนอิฐแตกสลายเป็นผุยผง และร่างร่างหนึ่งลอยขึ้นมา
ร่างนั้นใหญ่โต สูงราวตึกสามชั้น ดูคล้ายมนุษย์ เมื่อดูด้วยสายตานั้นน่าเกลียดน่าชัง แต่ก็มีความงามน่าหลงไหลบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ ผิวกายของมันขยับเคลื่อนไหวเป็นระลอก เมื่อพิจารณาดูดี ๆ ข้าวหอมจึงเห็นว่ารูปร่างคล้ายหญิงสาวเปลือยนับร้อยขยับไปมาบนร่างของพญาปิศาจ พลังแห่งความหื่นแผ่ออกมาจากตัวมันเป็นระลอกรุนแรงชนิดที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ข้าวหอมตัวสั่นเมื่อได้เห็นรัศมีแห่งความดำมืดนั้น แต่เมื่อสัมผัสกับรัศมีเรืองรอง ที่ส่องออกมาจากปีกแห่งแสงของนทีและรายล้อมรอบแนวหมู่ผู้พิทักษ์ทุกคนไว้ พลังแห่งราคะก็สูญสลายเลือนรางไป ไม่อาจจะทะลุทะลวงผ่านม่านสุกสกาวที่ปกปักรักษากลุ่มผู้พิทักษ์เข้ามาได้
"ตอนนี้แหละ เอาเลย!!!" มงคลร้องสั่ง คาถานับสิบบทลอยเข้าใส่ปิศาจทันที ข้าวหอมไม่คิดวันมันจะมีผลอะไรเท่าไหร่ ซึ่งมันก็ไม่มีจริง ๆ ปิศาจยกมือตัวเองขึ้นส่องดูราวกับไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองถูกโจมตี
ณ จุดนี้ นทีเริ่มโบกมือเป็นท่วงท่าซับซ้อนสวยงาม วงเวทย์ของคาถาสายฟ้าสีทองปรากฏขึ้นมาไม่ใช่หนึ่ง แต่เป็นนับสิบวงรอบตัวปิศาจ พวกผู้พิทักษ์ร้องฮือฮากันใหญ่เมื่อเห็นวงเวทย์ซับซ้อนระดับมหาเวทย์นับสิบวงปรากฏขึ้นโดยไม่ต้องวาดด้วยซ้ำ
"สายฟ้าสีทองแห่งอิลิธิอา"
สายฟ้านับสิบเส้นที่ปล่อยออกมาจากวงเวทย์สลายร่างส่วนล่างของพญาปิศาจไปในทันที ลำตัวท่อนบนของมันร่วงลงฟาดพื้น ร้องโหยหวนดังลั่น ผู้พิทักษ์หลายคนเอามือปิดหู ข้าวหอมมองตาค้างเมื่อเห็นว่าร่างท่อนล่างของปิศาจงอกใหม่กลับมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเธอมองไปที่นที ก็ใจชื้นขึ้น พี่นทีไม่แปลกใจสักนิดที่ปิศาจฟื้นตัวได้ ตรงกันข้าม ดูเขาจะพอใจกับระดับความเร็วในการฟื้นตัวของมันด้วยซ้ำ เขาวาดมือเป็นท่วงท่าร่ายรำสวยงามอีกครั้งก่อนจะชี้ฝ่ามือขึ้นฟ้า ปีกแส่งแสงสยายออกส่องประกายสว่างไสวจนเหล่าผู้พิทักษ์ต้องยกมือขึ้นบังหน้า
   ทุกคนร้องด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นวงเวทย์ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นล้อมรอบดวงอาทิตย์ไว้ ปิศาจเริ่มลุกขึ้นยืนแล้ว
   "แสงสูรย์ส่องพสุธา"
   ลำแสงคล้ายเลเซอร์ขนาดยักษ์พุ่งลงมาจากดวงอาทิตย์เผาผลาญร่างปิศาจจนไหล้เป็นจุลไป
   "เรียบร้อย" นทีบอก
   ผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ มองหน้ากัน ทำตาปริบ ๆ

   ในงานเลี้ยงช่วงบ่ายวันนั้น ผู้พิทักษ์ทุกคนเอาแต่ล้อมหน้าล้อมหลัง ชื่นชม เทิดทูนพี่นทีจนข้าวหอมรู้สึกน้อยใจทีเดียว
   "นายท่านนทีปวดเมื่อยไหมคะ เดี๋ยวหนูนวดให้"
   "ไม่ อย่า มาแตะตัวผมผมโกรธจริงด้วย"
   "ท่านครับ ท่านเสกวงเวทย์ยังไงโดยไม่ต้องวาดครับ"
   "เดี๋ยวช่วงปิดเทอมนี้ผมจะจัดคอร์สสอนนะ เตรียมเคลียร์เวลาไว้เลย"
   "สอนดิฉันร่ายสายฟ้าสีทองหน่อยสิ"
   "ไปในห้องสมุด หาหนังสือเวทมนตร์พื้นฐาน ระดับสาม อ่านให้จบ ฝึกทุกคาถาในนั้นให้ได้ แล้วผมจะสอนสายฟ้าสีทองแห่งอิลิธิอาให้"
   "เอ่อ นายท่านนทีครับ" มงคลถาม "พญาปิศาจตายง่ายแบบนี้เลยเหรอครับ"
   "เมื่อกี้คาถาบทเดียวกับที่ฆ่าราชาปิศาจนะ" นทีบอก "โดนไปเต็ม ๆ ขนาดนั้น ไม่รอดอยู่แล้ว"
   "แต่ พญาปิศาจก็มีพลังรองจากราชาปิศาจไม่ใช่เหรอครับ" ผู้อาวุโสอีกคนถาม
   นทีเลิกคิ้ว "ได้อ่านหนังสือ'ประเภทและลำดับชั้นปิศาจ' ในห้องสมุดหรือเปล่าเนี่ย"
   "หนังสือเล่มนั้นโดนไฟไหม้ไปแล้วครับ" มงคลบอก
   "ทำไมผมหายไปแค่ห้าสิบปี ทุกอย่างมันฉิบหายหมดเลยว๊ะ" นทีถาม "เอ้า ใครก็ได้ จดไว้ด้วย เผื่อเอาไปเขียนเป็นหนังสือเล่มใหม่ ปิศาจแบ่งออกเป็นระดับล่าง กับระดับสูง แต่ละระดับแบ่งได้อีกเป็นสามชั้น ชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก สามชั้นนี้นับเป็นปิศาจระดับล่าง ระดับสูงคือ พญาปิศาจ มหาปิศาจ แล้วก็ราชาปิศาจ ตอนสภายังรุ่งเรือง ผมเป็นคนเดียวที่พอจะตัวตัวกับมหาปิศาจไหว ส่วนพญาปิศาจ..."
    ข้าวหอมนั่งทำหน้าบูด
   "เดี๋ยวพี่นทีเขาก็กลับมาหาเจ๊น่า" พี่เก่งบอก
   "หนูรู้ค่ะ แต่..." ข้าวหอมถอนหายใจ "หนูชินแล้วกับที่พี่เขาใส่ใจหนูแค่คนเดียว"
   "แล้ว...สองวันที่ผ่านมาเขาก็ใส่ใจเจ๊คนเดียวไม่ใช่เหรอ"
   "พี่รู้ได้ไง?"
   "ซ่อมตอนไหนคะ หนูไม่เห็นรู้เลย" เก่งพยายามเลียนเสียงเธอ "ตอนเจ๊หลับอยู่ แหม คุยกันขนาดนี้ ไม่ให้รู้ได้ไง"
   ข้าวหอมหน้าแดง
   "แล้ว...พี่ก็เห็นเจ๊เดินขาถ่าง ๆ ด้วย"
   "พี่เก่ง!!!" เธอตบไปที่แขนของเก่ง
   "โอ๊ยยยย ใส่เกราะอยู่ระวังหน่อยสิ แขนพี่หักพอดี"
   "ก็พี่เก่งอ่า พูดอะไรไม่รู้ บ้า" แต่จริง ๆ เธอก็กลัวอยู่แล้วว่าจะมีคนเห็น ถึงเมื่อวานจะได้นอนพักทั้งวันจริง ๆ แต่เธอก็ยังเจ็บแปลบ ๆ อยู่ที่น้องสาว ที่ต้องรับศึกหนักทั้งคืนวันที่เธอมอบกายให้พี่นที
   "ไม่รอแต่งงานกันแล้วเหรอ" เก่งถาม
   "จริง ๆ ก็นับว่าแต่งงานกันแล้วก็ได้นะ" นทีบอก
   "อ้าว พี่นที มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
   "ก็ตั้งแต่สลัดพวกนั้นหลุดนั่นแหละ พี่อยากอยู่กับเจ๊มากกว่า" ข้าวหอมเหลียวดู เหมือนพวกผู้พิทักษ์คนอื่นยังรุมล้อมอะไรสักอย่างอยู่ แต่เธอมองไม่เห็นว่าคืออะไร
   "แล้ว ที่บอกว่าแต่งงานกันแล้วคืออะไรอ่า หนูยังไม่ได้แต่งกับพี่สักหน่อย"
   "รู้จักพหุจักรวาลดีแค่ไหน" นทีถาม เก่งและข้าวหอมส่ายหน้า "คือ ถ้าเวลาเราไปเลือกของกิน แล้วไม่แน่ใจว่าจะซื้อข้าว หรือซื้อก๋วยเตี๋ยวดี จริง ๆ แล้ว เราเลือกซื้อไปทั้งสองอย่าง แต่เรารับรู้ได้แค่อย่างเดียว คือที่เกิดขึ้นในจักรวาลของเรานี้ แต่มันก็ยังมีจักรวาลอื่น โลกคู่ขนานอยู่ ซึ่งในโลกนั้น เราอาจจะซื้ออีกอย่างก็ได้"
   "จะอ๋อดีไหมคะ" ข้าวหอมถาม
   "อ๋อเถอะ" นทีบอก "เช่น ในโลกนี้ เรายังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ในอีกโลก เราแต่งงานกันแล้ว มีเวทมนตร์ชั้นสูงที่ทำให้เราสามารถมองดู หรือส่งอิทธิพลต่อโลกอื่น ๆ ได้ แล้วพี่ก็เคยเห็นโลกที่เราแต่งงานกันแล้วมาแล้วด้วย เมื่อเห็นแล้ว ก็แสดงว่าเกิดขึ้นแล้ว ตามทันไหม"
   "เอิ่มมมมมม อย่างงี้ก็ได้เหรอ"
   "หรือเจ๊จะบอกว่าตัวเองง่าย ยอมให้คนที่ไม่ได้แต่งงานเจาะไข่แดงล่ะ...อ้าว เก่งไปไหนแล้ว"
   "เผ่นไปตั้งแต่พี่ขึ้นเรื่องพหุจักรวาลแล้วค่ะ"
   "งั้นเราก็ไปบ้างเถอะ"

   ที่ห้องของข้าวหอม
   ชวิ้ง! เพล้ง! เกราะขาวหล่นลงกระแทกพื้น
   "นั่นแหละ นี่คือวิธีปลดชุดเกราะที่เจ้าของไม่ยอมถอดออกเองนะ จำไว้ด้วย เผื่ออนาคตต้องใช้"
   ข้าวหอมยื่นมือสั่น ๆ ไปที่กระดุมเสื้อเชิ้ตของพี่นทีแล้วค่อย ๆ ปลดกระดุมออกทีละเม็ด นทียื่นไหล่ออกมาช่วยให้เธอถอดเสื้อเขาออก
   "ว้าว" ข้าวหอมอุทานเบา ๆ พลางลูบไล้ร่างกายของชายหนุ่ม นทีหัวเราะเบา ๆ
   "หนูนึกว่าพี่จะกล้ามใหญ่กว่านี้ซะอีก"
   "พี่ว่าใหญ่เกินก็น่าเกลียด"
   "ก็จริงค่ะ"
   ข้าวหอมคลำ ๆ ไปที่หัวเข็มขัด ตอนนี้มือของเธอสั่นจนแทบจะคุมไม่อยู่แล้ว
   "พี่ หนูเขิน" ข้าวหอมพูดเบา ๆ แต่ก็ปลดหัวเข็มขัดของเขาออกจนได้
   "ไหนบอกอยากลอกคราบพี่ไง" นทีถาม
   "กะ ก็อยากอยู่" ข้าวหอมระล่ำระลัก "แต่ แต่มันเขินอ่า รู้สึกเหมือนหนูกำลังทำอะไรไม่ดีเลย"
   "งั้นพอแค่นี้ ไว้คราวหน้าแล้วกัน" นทีบอกและดึงเข็มขัดตนเองออก
   "อะ โอเคค่ะ" ข้าวหอมพูด หน้าแดง "พี่นำอีกรอบแล้วกันนะคะ"
   "จัดไป" นทีบอกและโผเข้ากอดเธอ หอมแก้ม และจูบปาก
   "อื๊ออออ" ข้าวหอมยังไม่ทันตั้งตัวเสื้อยืดของเธอก็ถูกรั้งขึ้นมาอยู่เหนือหน้าอกแล้ว ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกันครู่หนึ่ง เพื่อให้เสื้อยืดลอยพ้นตัวออกไปได้ ก่อนจะกลับมานัวเนียกันอีกครั้ง มือของเขาเอื้อมไปลูบไล้แผ่นหลังของเธอ ก่อนจะปลดตะขอยกทรงสีขาวสะอาดออก และดันสายยกทรงออกทางไหล่
   "พี่ขอดูดนมเจ๊นะ"
   "เอ่อ...ค่ะ"
   เมื่อได้รับอนุญาต นทีก็ก้มลง เลียรอบหัวนม และดูดอย่างเอาเป็นเอาตายจนข้าวหอมดิ้นพล่านด้วยความเสียว กางเกงขายาวที่เธอสวมหลุดลงไปกองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหน่ไม่รู้ แต่กางเกงในก็ถูกรูดลงตามไปทันที ทิ้งให้ตัวเธอเปลือยเปล่า นทีค่อย ๆ ดันตัวเธอไปทางเตียงนอนช้า ๆ และผลักเธอลงนอน โดยไม่ถอนริมฝีปากออกจากหัวนมที่แข็งปั๋งแต่อย่างใด
   เมื่อผลักร่างสาวคนรักลงไปนอนราบได้แล้ว มือของนทีก็เริ่มซุกซน ลูบไล้ไปที่บั้นท้ายของเธอ ขาอ่อน ก่อนจะมาหยุดที่ร่องรักที่ฉ่ำชุ่มแล้ว
   "อื๊ออออออออออออออ"  ข้าวหอมคราง เมื่อนทีเขี่ยติ่งเสียวของเธอ แหย่นิ้วเข้าไปในร่องรัก และชักเข้าชักออกอย่างรวดเร็ว นิ้มนุ่ม ๆ ถูไถกับผนังที่คับแน่น "อ๊า พี่นที มันเสียว อืออออออ อ๊าาาาา"
   นทียิ้มเมื่อได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของข้าวหอม เขาเร่งความเร็วยิ่งขึ้นและแหย่นิ้วเข้าไปเพิ่มอีกหนึ่งนิ้ว
   "อ๊าาายยยยย ซี๊ดดดดดดดดด นิ้ว นิ้ว อื๊ออออออออออ"
   นทียิ้ม เลียที่แก้มเธอเบา ๆ เขี่ยหัวขม ดูดเลียที่รอบหัวนมทั้งสองข้าง โดยที่ไม่ได้หยุดเสียบนิ้วเข้าออกที่ร่องรักของเธอ ข้าวหอมดิ้นไปมาและหวีดร้องด้วยความเสียวซ่าน
   "อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
   ข้าวหอมชักกระตุก น้ำรักหลั่งไหลออกมาท่วมมือของนที
   นทียันตัวขึ้น และถอดกางเกงออก
   "เจ๊ พลิกตัวนอนคว่ำลงไปซิ" นทีบอก
   "หือ จะ จะ....จากข้างหลังเหรอ" ข้าวหอมถาม
   "อืม"
   "ไม่อยากเห็นนมหนูแล้วเหรอ"
   "มีแค่นี้ไม่ต้องเห็นก็ได้"
   "พี่นที!!!" ข้าวหอมร้อง รีบยกมือขึ้นกอดอก และจ้องหน้าเขาฉุน ๆ
   "ล้อเล่น ล้อเล่น นมเจ๊สวยสุดแล้ว ไม่งั้นพี่ไม่ดูดขนาดนั้นหรอก ดูสิ แดงเชียว ให้นมได้พักบ้างเถอะ"  

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


dawdom


jaja


Cb400f


tatong2222

ข้าวหอมต้อง​ฉลองการปราบพญา​ปีศาจในเวลาที่รวดเร็ว​และ​มีประสิทธิภาพ​มาก​ ให้​ท่านนทีได้ผ่อนคลายอารมณ์​นะ​ จัดหนัก​ จัด​เต็ม​กันไปเลย​ ::JubuJubu::

Terdsak_sk

ข้าวขวัญจฃรอดจากเงื้อมมือปีศาจหรือนี่ ไม่นะ -0-

ones26421


Sak2563



ryg123456


เดช12341

ประตูหลังของข้าวหอมมีไว้ให้พี่นทีเปิดคนเดียว

Taizen


Angel_p

ช่วงผ่อนคลายสินะครับ หันหลังแบบนี้นทีได้เปิดซิงรึป่าว