ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_llOUllnJllUUllSJllSJ

จ้าวโลก EP.15 (NTR/Harlem/Super Power)

เริ่มโดย llOUllnJllUUllSJllSJ, มีนาคม 16, 2021, 04:24:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

llOUllnJllUUllSJllSJ

สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก xonly8 อ่านเต็มได้ที่ https://fictionlog.co/b/6053b2ece9cbb4001caf362f


ค่ำคืนอันเร่าร้อนของผมกับแทนผ่านไปแล้ว ผมชอบความรู้สึกตอนที่มองดูแทนที่นอนหลับในอ้อมแขนผมยามเช้า ไม่ว่าตอนอยู่ที่มหาลัยเธอจะเป็นสาวอัธยาศัยดีที่เข้ากับทุกคนได้ง่าย ไม่ว่าตอนอยู่หน้ากล้องเธอจะยิ้มสวยและมั่นใจในตัวเอง หรือไม่ว่าตอนที่เธอนั้นเร่าร้อนสุดๆยามอยู่บนเตียง แต่ในยามเช้าแบบนี้ แทนก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต้องการใครสักคนคอยอยู่ข้างๆเธอเท่านั้นเอง

ทุกครั้งที่แทนนอนค้างกับผม จะเป็นเธอที่ตื่นก่อนทุกที แต่ครั้งนี้ ผมตื่นก่อนเธอ อาจจะเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการแคสงานเมื่อวาน หรือไม่ก็ความเพลียหลังจากผ่านเกมรักเมื่อคืน แต่เช้าวันหยุดแบบนี้ ผมอยากเซอไพรซ์เธอสักหน่อย

ผมไม่รู้ว่าแทนกินกาแฟมั้ย ผมเลยเลือกชงโอวัลตินแบบง่ายๆให้เธอ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะกินกาแฟได้ แต่สำหรับโอวัลตินแล้ว ไม่น่าจะมีใครกินไม่เป็นนะ ผมพยายามควานหาไข่และเบค่อนที่อยู่ในตู้เย็น และพบว่า มันหมดอายุไปเกือบปีแล้ว ส่วนไข่.. ผมจำได้ว่าซื้อมาไว้นานกว่าเบค่อนซะอีก มันคงไม่ดีแน่ถ้าจะเอาของดึกดำบรรพ์แบบนี้มาทำเป็นอาหารเช้าให้แทน ที่เหลือก็มีแค่มาม่า ซึ่งมันคงจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ระหว่างกาแฟกับมาม่า..

แทนตื่นตอนไหนไม่รู้ เธอมายืนอยู่ข้างหลังผมโดยที่ผมไม่ทันสังเกตุ ก่อนที่จะเอ่ยถามผมว่า

"ทำอะไรแต่เช้าคะ" เสียงแทนดังมาข้างหลังทำให้ผมเหลียวหันไปมองด้วยความสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว แทนใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นโชว์ขายาวสวยยืนบิดขี้เกียจพร้อมกับขยี้ตามองมาที่ผม

"อ่าว ตื่นแล้วเหรอ เราว่าจะทำอาหารเช้าให้แทนกินอ่ะ ตอนแรกตั้งใจจะทอดไข่กับเบค่อน แต่ซื้อมาตั้งแต่ปีที่แล้ว มันจะยังกินได้มั้ย" ผมหยิบซองเบค่อนที่ผมอายุแล้วชูให้แทนดูพลางยิ้มแหยๆ

"โหย เก็บไว้ตั้งเป็นปีเนี่ยนะ เก็บไว้ทำไม เอาไปทิ้งเลยนะ" แทนเดินมาดึงถุงเบค่อนนั้นออกจากมือผม

"แหะๆ ก็ปกติไม่ค่อยได้ทำอะไรกินเท่าไหร่ เออ เราชงโอวัลตินให้แล้ว อยู่บนโต๊ะ" ผมชี้ไปที่แก้วโอวัลตินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ

"น่ารักจัง ขอบคุณค้าบบบบบบ" แทนหยิกแก้มผมอย่างหยอกเย้าแล้วก็เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารที่ผมวางแก้วโอวัลตินไว้ให้เธอ

"แล้ววันนี้แทนมีไปไหนมั้ย" ผมถามเธอในขณะที่เริ่มรื้อของจากตู้เย็นที่ค้างปีมาทิ้ง ไหนๆก็ไหนๆละ ของบางอย่างก็ค้างมาตั้งแต่สมัยอิงมานอนนี่ บางอย่างอิงเป็นคนซื้อมาซะด้วยซ้ำ

"ตอนบ่ายแทนว่าจะกลับคอนโดแปปนึง จะแวะเอาผ้าไปซักที่บ้านอ่ะ"

"อ่อ บ้านแทนอยู่ไหนอ่ะ" ผมถามเธอ ผมนึกได้ว่าไม่เคยถามเธอเลยว่าเธออยู่แถวไหน

"บ้านจริงๆอยู่ต่างจังหวัด ชัยนาทโน่น แต่บ้านญาติอยู่ในกรุงเทพฯอ่ะ ตอนเรียนแทนก็อยู่กับญาติสลับกับอยู่คอนโดแหละ" เธอบอก ผมพยักหน้าหงึกๆเป็นสัญญาณให้เธอรู้ว่าเข้าใจ

เป็นเรื่องปกติของเด็กมหาลัย ที่มักจะอยู่หอหรือคอนโดที่ใกล้มหาลัยเพื่อความสะดวกในการเรียน แต่บางครั้งผมก็นึกอิจฉาเพื่อนคนอื่นหรือแม้กระทั่งแทนตอนนี้เหมือนกัน ที่พวกเขานั้นมีบ้านให้กลับ ในขณะที่ผมนั้นมีแค่คอนโดที่เช่าแห่งนี้เท่านั้น และวันหยุดหรือช่วงปิดเทอมทีไรที่เพื่อนๆกลับบ้านกัน ผมก็มักจะนั่งเหงาอยู่คนเดียวทุกที แต่ผมก็ชินแล้วล่ะ โชคดีที่สองปีหลังผมทำงานพิเศษด้วย ก็เลยพอจะมีเพื่อนและมีอะไรให้ทำในเวลาว่าง เลยไม่ฟุ้งซ่านเท่าไหร่นัก

"แล้ว.. แทนจะมาค้างนี่มั้ยคืนนี้" ผมเดินไปล้างหน้าแปรงฟัน พลางชะโงกออกมาถามแทน

"อยากให้ค้างด้วยมั้ยล่ะ" แทนถามผมยิ้มๆพร้อมกับเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

"อยากสิ" ผมตะโกนตอบมาจากในห้องน้ำ

"งั้นเดี๋ยวเอาผ้าไปซักเสร็จแล้วเดี๋ยวแทนกลับมา ซัก 2-3 ทุ่มมั้ง"

"โอเค เดี๋ยวเราจะลงไปเซเว่น แทนจะเอาอะไรมั้ย" 

"ไม่อ่ะ" แทนตอบ

แทนเดินเข้าไปอาบน้ำในขณะที่ผมเดินออกจากห้องเพื่อไปเซเว่น โชคดีที่เซเว่นอยู่ไม่ไกลจากคอนโดนัก ทำให้หลายครั้งผมเลือกที่จะใช้บริการกิจการของเจ้าสัวแทนที่จะทำอะไรกินเองแบบง่ายๆ

และในขณะที่ผมรอลิฟท์นั้น อีฟในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นก็เดินออกมาจากห้องมารอลิฟท์ข้างๆผม

"อ่าว ไปไหนอ่ะ" ผมหันไปถามอีฟ

"ไปเซเว่น พี่ล่ะ?" อีฟถามผมกลับ

"เซเว่นเหมือนกัน" ผมตอบ

"งั้นอีฟฝากซื้อหน่อยดิ ขี้เกียจเดิน" เธอทำท่าล้วงกระเป๋าจะหยิบเงินในขณะที่ประตูลิฟท์เปิดพอดี

"ไม่ต้องเลย ไปด้วยกัน อย่ามาเอาเปรียบ" ผมบอกพลางจับข้อมือเธอดึงเข้าลิฟท์

"โห.. ฝากซื้อหน่อยก็ไม่ได้" อีฟหันมาบ่นผม

"แหม ก็ตัวเองจะเดินไปซื้ออยู่แล้วไม่ใช่รึไง ไหนๆก็ไหนๆ ไปด้วยกันนี่แหละ" ผมยิ้มเยาะบอกเธอ

"อื้อ แล้ว.. จะปล่อยมืออีฟได้ยัง?" อีฟถาม เล่นเอาผมถึงกับสะดุ้งปล่อยมือเธอทันที สาบานได้ว่าผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปจับมือเธอตอนไหน

"เอ้อ ลืมๆ ขอโทษครับ" ผมรีบขอโทษเธอก่อนที่จะโดนบ่นกลับมา

"เนียนนะเราน่ะ แทนอยู่ในห้อง ยังจะมาจับมือสาวสวยในลิฟท์อีก" อีฟกอดอกยิ้มเหล่ตายิ้มเยาะผม

ในลิฟท์ที่มีแค่เราสองคนพร้อมกับเสียงลิฟท์ที่กำลังทำงาน แต่อะไรดลใจผมก็ไม่รู้ ผมหันไปจับไหล่อีฟให้หันหน้ามาหาผม สองมือผมจับหัวไหล่กลมกลึงภายใต้เสื้อยืดแขนกุดของเธอ ท่ามกลางสายตาของอีฟที่ยังคงงงอยู่ว่าผมต้องการจะทำอะไร

แต่ผมก็ทำอยู่แค่นั้น สองตาผมประสานสายตากลมโตนัยย์ตาสีดำเจือน้ำตาอ่อนคู่นั้น เพียงแค่อาทิตย์กว่าๆที่อีฟเข้ามาในชีวิตผม แต่ผมกลับรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก สบายใจทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้ แม้ว่าอีฟจะอายุน้อยกว่าผม แต่เธอกลับให้คำปรึกษาผมได้ทุกครั้ง

เสียงลิฟท์ยังคงทำงานอยู่ เราสองคนยังคงจ้องตากันโดยไม่พูดอะไร ผมรู้แค่ว่า ผมอยากมองหน้าเธอเท่านั้น แต่แล้วผมก็เริ่มสังเกตุว่า หน้าเธอเริ่มจะแดงขึ้นเรื่อยๆ

"จ้องกันทำไมเนี่ย" อยู่ดีๆอีฟก็ปัดมือผมออกแล้วหันกลับไปที่เดิม

"เอ่อ.. อ๋อ จะดูว่าล้างหน้าแแปรงฟันมายัง" ผมบอกเธอแก้เก้อ

"อีฟจะออกไปไหนอีฟอาบน้ำเลยย่ะ ไม่ได้แค่ล้างหน้าแปรงฟัน อีฟไม่ได้ซกมกเหมือนพี่นะ"

"จ้ะ แม่คุณรักสะอาด" ผมประชดเธอกลับ

แล้วผมก็นึกขึ้นได้ว่า เมื่อวานที่ผมคุยกับแทน ผมอยากจะให้แทนกับอีฟได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ในส่วนของแทนนั้นโอเคแล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าอีฟจะโอเคหรือเปล่า

"เออ อีฟ" ผมหันไปถามเธอ

"คะ?"

"พี่ว่า จะชวนอีฟกับแทนไปกินข้าวกันอ่ะ อยากให้สองคนรู้จักกัน พี่ว่าอีฟกับแทนเข้ากันได้แน่ๆ" ผมบอกเธอ ตอนนี้ลิฟท์เราลงมาถึงชั้นล่างสุดแล้ว

"เอาสิ อีฟไม่มีปัญหา แต่แทนเขาโอเคเหรอ จริงๆต้องเรียกว่าพี่แทนสิเนอะ พอดีอีฟติดเรียกแบบฝรั่ง เลยชอบเรียกคนอื่นแบบไม่มีพี่มีน้อง" อีฟถามผม แต่ประโยคหลังเหมือนเป็นประโยคบอกเล่าซะมากกว่า

"อ่าว แล้วทีพี่อ่ะ ยังเรียกพี่ว่าพี่เลย" ผมหันไปถาม เพราะทุกครั้งที่เธอคุยกับผม เธอก็เรียกผมว่าพี่ๆตลอด

"ก็พี่ไม่เหมือนคนอื่นอ่ะ" เธอพูดเบาๆ

"ห๊ะ อะไรนะ" ผมไม่เข้าใจที่เธอพูด

"ว่าแต่บอกพี่แทนเขาไปยัง ว่าอีฟทำงานกับพี่" อยู่ดีๆอีฟก็เปลี่ยนเรื่องซะงั้น ใจผมก็อยากจะคาดคั้นเธอต่อนะ แต่ก็รู้แหละ ว่าเธอคงไม่พูดอยู่ดี

"บอกแล้ว เออ อีฟว่า เราควรบอกแทนเรื่ององค์กรกับเรื่องพลังมั้ย พี่ไม่อยากปิดบังแทนอ่ะ เพราะนี่มันเรื่องใหญ่ ถ้ามันมีปัญหา กลัวมันจะทำให้แทนเดือดร้อนไปด้วย พี่ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบอิงต้องเกิดกับคนอื่นอีกแล้ว" พอคิดถึงตรงนี้ ผมก็เริ่มหวั่นๆซะแล้ว ขนาดอิงผมยังช่วยอะไรไม่ได้ แถมตอนนี้อิงก็อยู่ในสถานะที่น่าสงสารที่สุด แล้วพอคิดต่อไปว่า ถ้าเกิดแทนต้องเข้ามาพัวพันกับเรื่องพวกนี้ ผมคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ

"เรื่ององค์กรน่ะก็พอจะบอกได้อยู่แหละ แต่เรื่องพลังพิเศษ พี่จะบอกพี่แทนไปตรงๆแล้วเขาจะเชื่อเหรอ แล้วต่อให้เชื่อ มันจะดีเหรอ พี่แทนเขาจะถามตัวเองมั้ย ว่าตัวเขาโดนพี่โน้มน้าวจิตใจหรือเปล่า" อีฟตอบผมกลับมา เออ อีฟนี่ฉลาดแฮะ ผมไม่ทันคิดเลย เอาจริงๆแล้วกับแทนผมก็ใช้พลังโน้มน้าวจิตใจเธอในตอนแรกนั่นแหละ แต่หลังจากครั้งนั้น ผมสาบานได้เลยว่าไม่เคยใช้อีกเลย

"ก็จริงแฮะ แล้วเอาไงดี" ผมเริ่มลังเล

"ก็บอกเรื่ององค์กรไปว่าเราทำงานให้ที่นั้นที่นี้อะไรก็ว่าไป บอกว่าเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับสมองอะไรก็ได้ บอกว่าเราเป็นอาสาสมัครในโครงการ อะไรก็ว่าไป แค่นี้คิดไม่ได้รึไง" ให้ตายสิ ในทุกๆคนแนะนำของอีฟ จะต้องมีคำบ่นผมตลอด

"เออก็ได้ งั้นเที่ยงนี้กินข้าวกันมั้ย เดี๋ยวแทนจะกลับคอนโดตอนบ่าย จะได้กินข้าวกันก่อนแล้วค่อยกลับ" ผมเสนอไอเดีย

"เอาสิ แต่แถวนี้มีร้านอร่อยๆเหรอ"

"นั่นสิ งั้นเราไปกินที่ไหนดี" ผมถามเธอ

"งั้นเที่ยงครึ่งพาพี่แทนมาห้องอีฟละกัน มากินห้องอีฟ เดี๋ยวอีฟจัดอาหารสวิสฯให้" อีฟทำเสียงตื่นเต้น เอ.. ทำไมผมรู้สึกว่าเธอตื่นเต้นเกินกว่าเหตุ

"ทำไมตื่นเต้นซะขนาดนั้น" ผมหรี่ตาถามเธอ

"ก็.. อีฟไม่ได้ทำมานานแล้วอ่ะ แต่อยากทำ ไม่ต้องห่วงน่าาา เดี๋ยวเชฟอีฟจัดให้"

"กินได้แน่นะ" ผมเย้าเธอเล็กๆ

"กินได้สิ เออไม่กินอย่ากิน" เธอทำหน้างอนแล้วเร่งฝีเท้าหนีผม

"เห้ย เดี๋ยวสิ กินๆๆๆ" ผมถึงกับต้องเร่งฝีเท้าตามเธอให้ทัน แหม่ ผู้หญิงงอนนี่เป็นเหมือนกันทุกคนจริงๆ

เรามาถึงเซเว่นแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันซื้อของ แล้วก็เดินคุยกันเรื่อยเปื่อยกลับมาคอนโด และเมื่อถึงคอนโด ผมก็บอกแทนเรื่องที่อีฟชวนเราไปกินข้าวที่ห้องเธอ แน่นอนว่า แทนถึงกับงงไปเลยในตอนที่รู้ว่า ห้องของอีฟนั้นอยู่ติดกับห้องผม ผมรู้สึกได้ถึงอาการหึงหวงเล็กๆในใจเธอ แต่ก็ดูเหมือนว่าแทนเลือกที่จะไม่แสดงมันออกมา และแม้ว่าผมจะสามารถใช้พลังพิเศษในการทำให้แทนไม่ต้องคิดมากเรื่องอีฟได้ แต่กับแทนแล้ว ผมเลือกที่จะบอกความจริงกับเธอและใช้ความจริงใจเข้าหาจะดีกว่า



เที่ยงครึ่งตามเวลานัดหมาย ผมกับแทนยืนอยู่หน้าประตูห้องอีฟและเคาะประตูห้องเพื่อเป็นสัญญาณบอกอีฟว่าเราสองคนมาแล้ว

อีฟเปิดประตูมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

"มาแล้วเหรอ มาๆๆๆ สวัสดีค่ะ พี่แทนใช่มั้ยคะ" อีฟทักทายแทน

"ใช่ค่ะ น้องอีฟใช่มั้ย" แทนยิ้มกว้างถามกลับ

"ใช่ค่ะ พี่แทนดูใกล้ๆสวยมากอ่ะ" อีฟชมแทน ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นการชมแบบจริงใจมั้ยนะ

"โห ถ้าพี่สวยแล้วอีฟคืออะไร อีฟนี่ออร่านางแบบมากกกก" แทนชมกลับ

"เอ่อ.. จะชมกันอีกนานมั้ย หิวแล้ว" ผมว่าพลางเดินเข้าประตู

"อะไรพี่ต่อ คนเค้าจะคุยกัน ไม่มีมารยาท มาพี่แทน อีฟทำกับข้าวไว้แล้ว" อีฟบ่นผมเสียงแข็งก่อนจะหันไปจูงมือแทนเดินมาที่โต๊ะอาหาร

"โอ้โห.. นี่อีฟทำเองเหรอเนี่ย" แทนตาโตทันทีที่เห็นอาหารที่วางบนโต๊ะ พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป

"ใช่ค่ะ เป็นอาหารพื้นเมืองสวิสฯ พี่แทนเคยทานมั้ย อันนี้เรียกว่า บึนด์เนนุสทอร์เต คนอิตาลีสวิสฯชอบกินกัน" อีฟชี้ไปที่จานที่มีข้าวสีเหลือง ดูเละๆนิดหน่อย พร้อมกับกุ้งตัวใหญ่ ประดับด้วยหญ้าฝรั่ง ถ้ามองผ่านๆ ผมคงเข้าใจว่าเป็นข้าวมันไก่ละมั้ง

"น่าทานมากก" แทนยังคงถ่ายรูปอาหารไม่หยุด

"ส่วนอันนี้เป็นมะกะโรนีแบบสวิสฯ อันนี้คือซอสแอปเปิ้ล ทานคู่กัน มีเบค่อนโรยในมะกะโรนีด้วย อันนี้ชีสเยอะหน่อย อีฟไม่แน่ใจว่าพี่แทนทานได้มั้ย" อีฟชี้มาที่จานที่สองที่เป็นมะกะโรนี แต่ให้ตายสิ ในสายตาผม มันก็มะกะโรนีปกตินี่แหละ มะกะโรนีสวิสฯมันต่างกับมะกะโรนีไทยตรงไหน

"มาๆนั่งๆ ทานกันดีกว่าพี่แทน ปล่อยพวกที่เข้าไม่ถึงยืนงงไปนั่นแหละ" อีฟเหล่ตาบ่นผมพลางดึงมือแทนให้นั่งทานด้วยกัน เธอคงจะอ่านความคิดผมออกสินะ

ถ้าคุณบอกว่าผมโชคดีแล้วที่มีสาวสวยอย่างแทนเป็นแฟน ผมขอบอกให้คุณอิจฉาเล่นๆว่า การได้นั่งร่วมโต๊ะกับสาวสวยสองคนพร้อมกันนั้น เป็นอะไรที่ฟินมาก โดยเฉพาะเมื่อดูเหมือนว่า ความกังวลใจของผมที่กังวลว่า แทนจะเข้ากับอีฟไม่ได้นั้น ถูกขจัดหายไปอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้ กลายเป็นว่าสองสาวคุยกันอย่างถูกคอ อีฟชอบเล่าเกี่ยวกับเรื่องอาหารที่เธอทำ ที่มา ประวัติโน่นนี่นั่นซึ่งผมไม่รู้ว่าอีฟโม้ป่าวนะ แต่แทนนั้น เหมือนจะสนใจเรื่องอาหารอยู่แล้ว เลยตั้งใจฟังเป็นพิเศษ อย่างน้อยก็ถือเป็นเรื่องดี ที่สองสาวนั้นเข้ากันได้

"พี่อ่ะชอบทำอาหารมากเลย เคยคิดเล่นๆด้วยว่าอยากมีร้านอาหารของตัวเอง แต่จริงๆก็ยังไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น ถ้าพี่เก่งเหมือนอีฟคงเปิดร้านอาหารไปแล้ว" แทนพูดในระหว่างที่เรากำลังจัดการอาหารมื้อเที่ยงด้วยกัน

"โหย อีฟก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น นี่อาหารง่ายๆที่อีฟทำกินเองบ่อยๆ ถ้าเมนูยากๆอีฟก็ทำไม่เป็นเหมือนกัน" อีฟตอบพลางเคี้ยวข้าวในปากตุ้ยๆ

"เออ ตกลง อีฟกับต่อทำงานอะไรกันอ่ะ เมื่อวานเห็นต่อบอกว่าถ้าเจออีฟแล้วจะให้อีฟเล่าให้ฟัง" แทนหันมาถามผมสลับกับหันไปหาอีฟ

ผมกับอีฟมองหน้ากัน ตอนแรกนั้นผมตั้งใจจะให้อีฟเป็นคนเล่า โดยอาจจะไม่บอกหมดเรื่องพลังพิเศษ และองค์กรที่ดูเหมือนจะเป็นองค์กรระดับโลก เพราะมันคงดูน่าเหลือเชื่อและเกินเบอร์ไปหน่อย

ซึ่งอีฟก็ดูเหมือนจะเข้าใจความต้องการของผม เธอเลยอ้าปากเตรียมจะพูด แต่แล้วผมกลับพูดขัดขึ้นมาก่อนว่า

"แทน.. เธอพร้อมจะฟังจริงๆมั้ย" ผมหันไปมองหน้าแทนพร้อมกับทำสีหน้าจริงจังพร้อมๆกับที่อีฟถึงกับหยุดกินข้าวแล้วขมวดคิ้วมองมาที่ผมราวกับไม่เข้าใจว่าผมพยายามจะทำอะไร

"หืม พร้อมสิ" แทนหันมาตอบผมพลางจิบน้ำ

"แทน สิ่งที่เราพูดต่อไปนี้ ถ้ามันจะดูเหลือเชื่อแค่ไหนก็ตาม เราขอให้แทนฟังให้จบก่อน อย่าเพิ่งแย้ง และลองทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราพูดก่อน ได้มั้ย" ผมถามแทนย้ำอีกครั้ง

"อื้อ ได้สิ" แทนพยักหน้าพลางหันตัวมาฟังผมอย่างตั้งใจ

ผมเริ่มต้นร่ายยาวเล่าเรื่องพลังความพิเศษของมนุษย์อย่างผมและอีฟ เล่าให้เธอฟังเรื่ององค์กร UNX และ ZINA เล่าเรื่องสตีฟ เล่าเรื่องอีฟที่จริงๆแล้วผมรู้จักเธอแค่อาทิตย์นิดๆ แต่อีฟรู้จักผมมาเป็นปีๆแล้วจากการแฝงตัว เล่าเรื่องน้าไพลิน น้องพลอย แม้กระทั่งเรื่องอิงที่กลายเป็นเครื่องมือของสตีฟ ผมก็เล่าไปอย่างหมดเปลือก และที่สำคัญที่สุด ผมเล่าแม้กระทั่งตอนที่โน้มน้าวจิตใจแทนครั้งแรก ตอนที่เธอชวนผมให้ค้างที่คอนโดเธอ

พอผมเล่าจบ บรรยากาศในห้องของอีฟนั้นเงียบ แทนนั้นมองตาผมเหมือนพยายามจะจับโกหก หรือไม่เธอก็คงคิดว่าผมบ้าไปแล้ว ในขณะที่อีฟถึงกับอ้าปากค้าง เธอไม่คิดว่าผมจะบอกซะหมดเปลือกขนาดนี้

"ไอ้พี่ต่อ ไหนว่าจะบอกไม่หมด นั่นคือบอกหมดเกลี้ยงเลยนะ เดี๋ยวพี่แทนก็หาว่าบ้าหรอก" อีฟขมวดคิ้วบ่นผมพลางมองผมกับแทนสลับกันไปมา

"อื้อ แทนจะหาว่าเราบ้าก็ได้ แต่นี่คือเรื่องจริง เราพิสูจน์ให้แทนดูได้เรื่องพลัง เรารู้ว่ามันฟังดูแฟนตาซีและบ้าบอมาก แต่เราแค่อยากไม่อยากโกหกแทน ถึงแทนจะหาว่าเราเป็นตัวตลก แต่อย่างน้อย เราก็ได้พูดความจริงกับแทนและอีฟนะ" ผมก้มหน้าพูด แทนยังคงมองหน้าผม ส่วนอีฟ ผมสังเกตุได้ว่าสีหน้าเธอจากที่อ้าปากค้างนั้น แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มที่มุมปากเล็กๆ

"ที่ต่อว่ามาจริงใช่มั้ยอีฟ" แทนหันไปถามอีฟ อีฟไม่ตอบอะไรยกเว้นแค่การพยักหน้าหงึกๆ

"มิน่าล่ะ.. เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมวันนั้นเราอยากอยู่กับเธอ" แทนหันมาพูดกับผม

"เอ้อ.. แทนไม่โกรธเราเหรอ" ผมถามเธออย่างระมัดระวัง เพราะแน่นอนว่า เป็นใครก็คงจะไม่ชอบ ถ้าอยู่ดีๆมีคนอื่นมาโน้มน้าวจิตใจให้เราเปลี่ยนความคิดได้

"โกรธทำไม เธอบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าการโน้มน้าวความคิดมันจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อพื้นฐานจิตใจคิดแบบนั้นอยู่ก่อนแล้ว" แทนตอบคำถามด้วยการถามผมกลับ

"เอ่อ ก็ใช่" ผมตอบเธอ

"ก็นั่นแหละ แสดงว่าเธอไม่ได้สะกดจิตอะไรแทนหรอก เธอแค่ทำให้แทนกล้าตัดสินใจและแสดงความต้องการในใจออกมาเท่านั้นเอง" แทนพูดยิ้มๆ นี่เธอไม่โกรธจริงๆเหรอเนี่ย เหลือเชื่อชะมัด ที่สำคัญ ที่เธอพูดแบบนี้ หมายความว่า เธอก็ชอบผมจริงๆก่อนที่ผมจะใช้พลังพิเศษน่ะสิ

"อ่า ขอบคุณนะ" ผมไม่รู้จะตอบเธอว่าอะไร ได้แต่ส่งคำขอบคุณกลับไป ขอบคุณที่เธอเข้าใจผม ส่วนอีฟเองนั้น นั่งกอดอกยิ้ม เธอคงโล่งอกที่แทนไม่มีปัญหาอะไร

"เออ แสดงว่าเธอกับอีฟจะต้องไปทำงานด้วยกันอีกซักพักเลยใช่มั้ย" แทนหันมาถามผมสลับกับหันไปมองหน้าอีฟ

"ใช่ค่ะพี่แทน งานต่อไปน่าจะอาทิตย์หน้านี้แหละ เมื่อวานอีฟเพิ่งพาพี่ต่อไปตัดสูทมา เป็นงานเลี้ยง มีแต่ระดับท่านฑูตในงาน" อีฟบอกแทน

"เหมือนพวกสายลับ 007 เลยเนอะ นี่เธอ ดูแลน้องอีฟด้วยนะ ไอ้งานแรกอะไรนั่นฟังดูน่ากลัวจัง งานนี้คงไม่น่ากลัวขนาดนั้นใช่มั้ย ดูแลอีฟดีๆนะ ถ้าอันตรายต้องรีบพาน้องออกมานะ" แทนบอกผม โอ้ยยย บอกตรงๆว่า ปฏิกิริยาตอบกลับของแทนนั้นผิดจากที่ผมคาดคิดไว้ทั้งหมด ทำไมแทนนั้นแสนดีได้ขนาดนี้นะ

"โถ่พี่แทน มีแต่อีฟเนี่ยต้องดูแลไอ้ทึ่มนั่น" อีฟโบ้ยมาทางผม

"อิอิ เอาเป็นว่าดูแลกันด้วยนะ" แทนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

"เออแทน แต่.. แทนต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้นะ ห้ามแสดงออกว่ารู้เด็ดขาด เราไม่อยากให้แทนเข้ามาพัวพันเรื่องนี้" ผมบอกแทนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"โอเค ไม่มีปัญหา" แทนตอบผม

"อีฟ แล้วที่เราคุยนี่จะมีใครดักฟังอะไรเราปะ" ผมเพิ่งนึกได้ว่าหน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง เกิดสตีฟหรือใครรู้เรื่องที่เราคุยวันนี้ งานหยาบแน่ๆ

"ไม่ต้องห่วง อีฟเคลียร์ไว้หมดแล้ว" อีฟตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ

"อีฟ ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้นะ อร่อยมากเลย วันหลังมาสอนพี่ทำด้วยสิ อยากทำเป็น" แทนว่าพลางลุกขึ้นเก็บจาน

"ได้เลย ขอบคุณมากค่ะพี่แทน พี่แทนไม่ต้องเก็บ เดี๋ยวอีฟเก็บเอง" อีฟลุกขึ้นพลางรวบช้อนส้อมพร้อมกับพยายามแย่งจานจากมือแทน

"ไม่เป็นไร อีฟทำอาหารให้ทานแล้ว เดี๋ยวพี่ช่วยล้าง หรือช่วยกันล้างก็ได้ จะได้เสร็จไวๆ" แทนว่า แล้วสองสาวก็ช่วยกันเก็บโต๊ะแล้วล้างจานด้วยกันพลางคุยกันอย่างสนุกสนาน

หลังอาหารมื้อนั้น ผมกับแทนขอตัวกลับ ซึ่งจริงๆก็แค่เดินมาห้องข้างๆนั่นแหละ แล้วแทนก็แยกกลับไปคอนโดของเธอ เพื่อเอาผ้าไปซักที่บ้านญาติอีกที ส่วนผมนั้น ตั้งใจว่าจะนอนเล่นช่วงบ่าย ให้สมกับเป็นวันหยุด เพราะนี่เป็นวันเสาร์แรก ที่ผมสามารถนอนเล่นได้โดยไม่ต้องรีบไปทำงานช่วงบ่ายแก่ๆ

แต่แล้ว ในขณะที่ความสุขในวันพักผ่อนอันแสนสบายของผมกำลังดำเนินไปนั่นเอง เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น

กริ๊งงงง~ ผมหยิบโทรศัพท์มาดูและพบว่า เป็นเบอร์เดียร์ที่โทรเข้ามา อ่า.. จะว่าไปผมก็ไม่ได้เจอเดียร์มาหลายวันแล้ว

"ฮัลโหล ว่าไงจ้ะเดียร์" ผมรับสายด้วยเสียงหวาน ผมยังจำรสสวาทในห้องน้ำที่บ้านเสี่ยอั๋นได้

"ต่อ.. ฮืออ ช่วยเราด้วย เราโดนแฟนทำร้าย ฮือออ" เสียงเดียร์ร้องไห้ดังมาตามสายโทรศัพท์ ทำเอาผมใจหายทันที เกิดอะไรขึ้นกับเดียร์กันแน่

"เดียร์ เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เดียร์อยู่ไหน" ผมรีบถามกลับไป

"เราโดนแฟนทำร้ายเราอ่ะ เราสู้ไม่ได้ ตอนนี้เราหลบอยู่ในห้องน้ำ ต่อมาช่วยหน่อย ฮืออ" เดียร์ยังคงร้องไห้ตอบกลับมา

"เดียร์อยู่ไหนตอนนี้ เดี๋ยวเราไปหาเดี๋ยวนี้เลย" ผมรีบถามกลับไป

"เดี๋ยวเดียร์ส่งโลเกชั่นให้ ฮืออ" เธอตอบพร้อมกับกดวางสายทันที ผมเข้าใจว่าเธอแอบคุย และไม่นานหลังจากนั้น เดียร์ก็ส่งโลเกชั่นตำแหน่งที่เธออยู่มาให้ผม

ผมรีบแต่งตัวแล้วไปเคาะห้องอีฟทันที

ก๊อกๆๆๆๆๆ ผมรัวทุบประตูห้องอีฟอย่างเร่งด่วน

"โอ้ยยย จะเคาะรัวไปไหน ว่าไงคะคุณพี่ขาาา" อีฟที่เปิดประตูแล้วโผล่หน้ามา ทำหน้าบึ้งแล้วบ่นผม

"อีฟ เพื่อนพี่อยู่ในอันตราย ไปช่วยพี่หน่อย" ผมบอกอีฟด้วยน้ำเสียงจริงจัง


##########################


สวัสดีครับคุณผู้อ่าน

จากคำถามใน EP ที่แล้ว หลายคนตอบมาได้หลายมุมมองมาก เอาจริงๆบางมุมผมที่เป็นคนเขียนก็ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกัน ทำให้ได้เห็นมิติของตัวละครมากขึ้น อ่านแล้วชอบมากๆครับ เสียดายว่าถ้าผมตอบกลับ มันก็ไม่มีแจ้งเตือนอยู่ดี ผมเลยไม่ได้ตอบอะไรไป แต่อ่านทุกคอมเม้นท์นะครับ

ส่วนรางวัลนั้น สำหรับคนที่ตอบแล้วผมถูกใจในคำตอบ ผมจะส่งข้อความไปหลังไมค์นะครับ รบกวนเช็คข้อความกันด้วย ถ้าใครมีข้อความเข้าจากผม แสดงว่าได้รับเลือกครับ

ในส่วนของหนังที่แทนแสดง ขอสปอยล์ไว้เลย เพราะไม่อยากให้กังวลกันมากไป 55 หนังเป็นหนังจริงๆ หนังปกติครับ ผมไม่เอาน้องแทนไปปู้ยี่ปู้ยำหรอก.. มั้ง 555

ถ้าอ่าน EP นี้แล้ว หลายคนอาจจะพอเดาได้แล้ว ว่า ฮาเร็มนั้นจะเกิดขึ้นยังไง ไหนลองวิเคราะห์กันหน่อยครับ ผมอยากรู้ว่ามีคนพอจะมองออกมั้ย

ปล.ผมลองส่งข้อความแล้ว มันได้ชั่วโมงละ 20 คน เดี๋ยวจะทยอยส่งเรื่อยๆนะครับ ยังไงก็เช็ค Inbox ตัวเองกันเรื่อยๆนะครับ

เหมือนเดิมครับ คอมเม้นท์เพื่ออ่านตอนจบของ EP นี้ ขอสปอยล์เลยว่า น้องเดียร์โดนแล้ว


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

rabbitbadboy

กำลังติดกังวลหนังของแทนอยู่พอดี แบบนี้ก็โล่งใจหน่อย แอบรัก ตัวละครนี้ซะแล้ว

Prasard Komkum


zero009


warpzone


myfino262903

ก้อดีนะครับที่กล้าบอกและแทนก้อรับได้ แต่มันดีจริงเหรอครับ แทนเองจะไม่ตกอยู่ในอันตรายเพราะรู้มากไปใช่ไหมครับ

Phatsakorn Kamkom


Lonelyworm

แหม ความอยากรู้อยากเห็น อ่ะเนาะ  ::Glad::

sirasit khamsom

เริ่มสนุกมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ติดตามตลอด

taka95

น้องเดียร์โดนอะไร จะเข้าไปเจออะไรก็ระวังตัวกันไว้ก่อนก็ดีนะ

Rrrrop


axolotss

แทนน่ารัก อีฟไม่น่ารอด เดียร์เป็นไง ห่วงนะ

kopXIIII

น่าจะไปติดกับดักใครสักคนหล่ะงาานนี้

thanapon253

จริงๆแล้วคู่กับอีฟก็ดีนะ สามารถเข้าใจซึ่งกันและกันง่ายขึ้น มองตาก็รู้ใจกันเลย

Fazz

เดียร์โดนพวกมีพลังเล่นงานหรือเปล่าครับ