ขอเล่าก่อนอ่าน- เพิ่งกลับจากสงกรานต์รวมญาติเมื่อวานตอนเย็น ค่ำๆก็มานั่งเขียนต่อ ตอนนี้แบบว่าเขียนไปร้องไห้ไป ทำให้มันจบเป็นฮาเล็มหวานชื่นก็ดีอยู่แล้ว มานึกอุตริสร้างสงครามใหญ่ สุดท้ายน้ำตาตกในเสียเอง จริงๆตอนนี้ว่าจะโต้งๆ ก่อสงครามไปเลย แต่เขียนๆไปแล้วรู้สึกว่าแม่งไม่ค่อยเชื่อมโยงกันด้วยเหตุเท่าไหร่ เดือนร้อนสร้างเรื่องเกริ่นเข้าช่วงตระเตรียมสงครามอีกหลายสิบหน้า ตอน 17 เขียนใกล้จะเสร็จแล้วคงปล่อยคืนนี้พร้อมเลย สัก 3 ทุ่มน่าจะได้ จะได้ไม่ขาดช่วง
- พรุ่งนี้ค่อยต่อตอน 18 นะ วันนี้เหนื่อยแล้ว ฉากสงครามใช้พลังงานสุงกว่าฉากรักธรรมดามากๆ
สรุปว่า สุดท้ายก็ตัดไม่จบจนได้ ไหนๆเขียนแล้ว ตอน 16-17 เป็นช่วงสงครามต่อเนื่องกัน อาจจะผิดจุดประสงค์บอร์ดไปสักหน่อย ไว้ค่อยมาจัดเต็มกับฮาเล็มรักในตอนที 18 เป็นบทส่งท้ายนะครับ
คราวนี้จบจริงๆแล้ว ไม่มียืดแล้วแน่นอนสวัสดี............
"ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นเหนือยอดไม้ กองทหารซินเดรียจะไปรับตัวเจ้าหญิงที่หน้าประตูเมือง"
ถ้อยแถลงตามสารที่ส่งเข้ามาเมื่อวันก่อน ขุนนางในเมืองต่างพากันแตกตื่น ดำเนินการจัดเตรียมส่งออกผู้คนไม่ต่างจากการส่งตัวเครื่องสังเวยเพื่อเอาตัวรอด ทิวา ตกอยู่ในสภาพกะอักกะอ่วน ยามนี้เขาไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลยสักอย่าง อำนาจการบริหารและสั่งการทั้งหมดล้วนแล้วแต่ต้องปรึกษาขุนนางขี้ขลาดพวกนี้จนหมดสิ้น ลึกๆ ทิวา ไม่อยากส่งพี่สาวของตนให้พวกมัน แต่ขุนนางทุกผู้ต่างเอ่ยอ้างเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่เป็นวิธีการรักษาเมืองที่ดีที่สุด
แม้จะมีแม่ทัพหญิงหลายนางต่างคัดค้าน แต่ด้วยฐานะทางเพศที่ต้อยต่ำกว่า พวกนางทำได้ดีที่สุดเพียงพูดให้ฉุกคิด ท่านเจ้าเมืองคนก่อนเพิ่งหลงกลคิดว่า หาทางสยบปัญหาได้ด้วยสันติ จึงคิดเข้าเจรจา แต่ไม่วายถูกพวกมันตลบหลังแตกพ่ายกลับมาไม่เป็นท่า
เกี๊ยวขบวนของหญิงงามเมืองจอดรอหน้าประตูอย่างสงบเสงี่ยม ลินดา นั่งอยู่ภายในโดยมี ชิงชิง เป็นนางในคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ สุดท้ายเธอตัดใจทิ้งนายหญิงไม่ลง หากจะต้องไปทนทุกข์ทรมานยังต่างเมืองเธอขอเคียงข้างนายหญิง
ลินดา ลอบนึกถึงชายผู้เป็นคนแรกของหล่อน เธอได้แต่พร่ำบอกกับตัวเองว่า แบบนี้ก็ดีแล้ว เธอถอนถอดใจอย่างเหนื่อยอ่อน นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอสามารถกระทำได้
ความคิดของหล่อน ล้วนต้องสลัดทิ้งออก เมื่อทัพม้าศึกขบวนใหญ่เพิ่งย่างกรายออกมาจากแนวป่าเบื้องหน้า
พวกเขามาแล้ว ชิงชิง เอ่ยบอกกับผู้เป็นนาย โดยที่ไม่ได้สนใจว่าเธอก็กำลังจ้องอยู่เช่นกัน
....
ทัพม้าศึกที่มุ่งตรงเข้ามาล้วนดูแตกต่าง สร้างความประหลาดใจให้ทหารในเมืองไม่น้อย
พวกมันอยู่ในผ้ารัดรูปสีดำสนิท ร่างกายก็ไม่ได้สูงใหญ่ใส่เกราะดำทะมึนอย่างที่ร่ำลือ ผิวกายของมันล้วนออกสีน้ำตาลเสมอกันทั่วเรือนร่าง ใบหน้าเคร่งขรึมมีหลายนางที่ลำตัวอาบไปด้วยเลือด
ในขบวนพวกนั้นมีเด็กสาวหลายนางตัดศีรษะของศัตรูเสียบประจานไว้ที่หลังม้า เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นนักรบชนเผ่าอย่างเต็มตัว ลินดาลอบโห่ร้องในใจ เมื่อเห็นบุรุษหนุ่มในเคลื่อนแต่งกายสีดำสนิท คลุมศีรษะด้วยหัวของเสือดำ ควบม้ามาราวกับทหารสวรรค์
เธอจดจำได้แม้เห็นแต่ไกล เขาคือชายผู้พรากสวาทของเธอไปนั่นเอง
ผมพบเอกสารมีตราประทับของเมืองซินเดรียอยูในกระโจมของชายร่างใหญ่ ถึงได้ทราบว่าพวกมันคือกองทหารที่จะมารับตัวลินดา แต่เวลานี้พวกมันล้วนตกตายจนหมดสิ้นแล้ว ผมพูดคุยกับกีช่าถึงการนำชนเผ่าเข้าเมืองเป็นครั้งแรก แรกๆเธอก็ตกใจ แต่สุดท้ายเมื่อเรื่องมันบานปลายมาถึงจุดนี้ เธอบอกว่าทุกอย่างแล้วแต่ท่านหัวหน้าเผ่าจะสั่งการทุกอย่าง ไม่มีใครในชนเผ่าสงสัยในตัวผมอีกแล้ว
ก่อนออกมาผมสั่งผู้คน รวบรวมอาวุธและชุดเกราะของพวกมันใส่รถสินค้า และลากตามติดมาด้วยในเช้าวันนี้
กีช่า สั่งรินให้นำดาบของท่านพ่อไปเป็นตัวแทนหัวหน้าเผ่า แล้วกลับไปรวบรวมคนอื่นๆในชนเผ่าที่หลบหนีอยู่ให้มาพบกันในเมือง
ยามนี้นับรวมนักรบชนเผ่าโดยแท้เหลืออยู่ประมาณ 20 เศษ รวมเด็กๆที่เพิ่งก้าวขึ้นมาเป็นนับรบด้วยอีก 10 กว่าคน นับรวมๆแล้วก็มีเพียง 30 กว่าคนเท่านั้น ที่เหลืออีก 60 กว่าคนล้วนเป็นคนของหมู่บ้าน แต่หากไม่บอกใคร ทุกนางล้วนแต่งกายด้วยเครื่องแบบเหมือนกันหมด คนภายนอกอาจเข้าใจได้ว่านักรบกลุ่มแมวดำมีมากมายกว่า 100 คน
กลุ่มแมวดำ !! เสียงทหารทางการป่าวร้องขึ้นอย่างหวาดผวา ในภาวะสงครามหน้าสิ่วหน้าขวาน พวกหล่อนร้องโอดครวญในใจ นี่ยังต้องมาปะทะกับกลุ่มชนเผ่าที่ป่าเถื่อนนี่อีกหรอ ทหารทางการรีบตั้งแถวเป็นแนวรบ บนกำแพงเมืองเริ่มระดมพลง้างธนูขึ้นลำอย่างแตกตื่น
ผมโบกมือสั่งพวกคนในชนเผ่าให้หยุดม้าไว้ และควบม้าออกมาเพียงลำพัง หัวหน้าของกองทหารเริ่มสงวนทีท่า พวกเค้าคงสัมผัสได้ว่าผมไม่ได้มาสู้รบ
หัวหน้ากองทหารหญิงเริ่มแปลกใจ พวกเขาไม่เคยได้ยินถึงเรื่องราวผู้ชายของชนเผ่าอาชูร่ามาก่อน แต่ยามนี้เขาปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้าแล้ว เคราะห์ดีที่ลินดาเข้าใจสถานการณ์และก้าวขาออกมาจากเกี๊ยว สิ่งแรกที่เธอเอ่ยถามผมคือ
ท่านมาทำอะไรที่นี่ แล้วนี่มันเรื่องอันใดกัน เธอเอ่ย
มีเรื่องราวมากมายที่ผมอยากพูดเต็มอก แต่เรื่องราวที่เพิ่งผ่านมามันจุกล้นอยู่ในลำคออธิบายไม่ออก ผมเพียงบอกกับเธอได้แค่ว่า เราบอกแล้วไง ว่าเราจะช่วยเหลือเจ้าแม้ต้องแลกชีวิต เราสัญญาแล้วไง
ลินดา สะท้านขึ้นคราใหญ่ เธอจุกอกตื้นตันใจไม่ต่างกัน เธอเพิ่งตัดใจจากเขาไปเมื่อค่ำวาน แต่เช้าวันนี้เขากลับมาอีกแล้ว แถวยังกลับมาพร้อมกับนักรบกลุ่มใหญ่ เธอร้องออกมาอย่างแปลกใจ
ท่านเป็นตัวอะไรกันแน่
......
เรื่องราวของพวกผมชักจะบานปลาย ทหาร พ่อค้า และผู้คนที่เคยร้างราในตลาดเริ่มคึกคัก ไม่ใช่เพราะสถานการณ์กลับมาเป็นเหมือนเก่า แต่เขามาดูผู้คน ราวกับพวกเราเป็นตัวแปลกประหลาด
ชนเผ่าอาชูร่า และกลุ่มแมวดำ เป็นของแสลงของพวกคาราวานพ่อค้า พวกเธอขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายมาหลายสิบปี พวกที่เคยพบเคยเห็นเธอล้วนไม่เคยได้กลับมาเล่า แต่ยามนี้มันคงให้ความรู้สึกที่แตกต่าง พวกนางล้วนไม่ได้มีร่างกายใหญ่โตอย่างในความคิด กลับเป็นเพียงหญิงสาวเรือนร่างอ้อนแอ้นธรรมดาๆ แถมกลุ่มแมวดำบางคน ยังดูเด็กน้อยจนน่าประหลาดใจ ผู้คนในเมืองต่างซุบซิบกันอย่างอื้ออึง
มีความไม่เห็นพ้องด้วยทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อทราบว่ากองทหารที่จะมารับตัวลินดา ถูกชนเผ่าอาชูร่าฆ่าจนหมดสิ้น พวกขุนนางโฉดต่างออกความเห็นไปในทิศทางเดียว คือให้จับตัวกลุ่มแมวดำแล้วรีบส่งตัวนักโทษไปขอขมา ก่อนที่ นายพลไค จะทราบเรื่อง ชิงชิงคาบข่าวจากวงในมาบอกกล่าวผม
ผมเกลียดพวกมันขึ้นมาจับใจ ทิวา มีพวกโฉดเขลาเหล่านี้เป็นที่ปรึกษาน่ะหรอ พวกมันคิดจะส่งตัวผู้คน และปัดเหตุการณ์ฆ่าฟันทั้งหมดให้กลุ่มแมวดำเป็นผู้รับผิดชอบ ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดใดๆ
ข่าวลือเรื่องกลุ่มแมวดำเพียง 90 กว่านาง สังหารหมู่ ทหารซินเดรีย 200 ตายหมดสิ้นเริ่มแพร่กระจายออกไปหมู่ทหารอย่างรวดเร็ว แม้พวกนางยังหวาดกลัวชนเผ่าของผมอยู่มาก แต่ลึกๆแล้วก็ลอบมีขวัญกำลังใจ เมื่อรู้ว่ากลุ่มแมวดำอยู่ข้างพวกตน
ผมไม่มีอำนาจในที่ประชุมใหญ่ภายใน แต่ก็ไม่ไร้เดียงสาเกินไปจะเดินเกมส์ภายนอก ผมดูแล้วว่าอาวุธยุทโธปกรณ์พวกชุดเกาะ ดาบ หอกและโล่พวกนี้ไม่เหมาะกับนักรบชนเผ่าอาชูร่า เพราะพวกเราเน้นความเคลื่อนไหว และความว่องไวในการจู่โจม การใส่เกราะที่อันใหญ่เทอะทะ รังแต่จะสร้างความรุงรังเสียความว่องไวอันเป็นจุดเด่น
ผมเข้าพบหัวหน้ากองทหารของทางการ เธอชื่อ ไทด้า เธอคือแบบฉบับของเทพนักรบในอุดมคติโดยแท้ รูปร่างสูงใหญ่ เธอกร่อนผมสั้นจนแทบติดหนังหัว ใบหน้ามีรอยบากเหนือคิ้วด้านซ้าย ร่างกายดูกำยำ วาจาดูห้าวหาญ ผมพอจะจดจำเธอได้ เธอคือคนที่หยิบดาบจากศพเจ้าเมืองเพื่อส่งต่อให้ ทิวา
ผมนำคาราวานรถขนเครื่องอาวุธที่เก็บมาได้ 2 คันรถใหญ่ ให้กับเธอ เธอคว้าดาบเล่มหนึ่งขึ้น ทดลองกวัดแกร่งอย่างคล่องแคล้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า นี่เป็นดาบที่ดี และจะเป็นอาวุธที่ดีให้กับคนของเรา
เธอโค้งคำนับผมอย่างขอบคุณ ก่อนผมผละจากมา เธอเอ่ยไล่หลังกับผมว่า
เราขอบคุณพวกท่าน ที่เข่นฆ่าพวกมันเพื่อท่านหญิง ผมพยักหน้าในเชิงตอบรับ สิ่งหนึ่งที่สะท้อนออกมาจากคำพูดของไทด้า คือเมืองแทบไม่เหลือความสามัคคีอีกแล้ว การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเกิดขึ้นจนผมประหลาดใจ
...
บ้านเมืองที่ล้างราผู้คน ทางการมอบพื้นที่ระแวกใกล้เคียงบ้านผมให้เป็นที่พักชนเผ่า นับว่าพวกเขาไม่ได้ต้อบรับอย่างดิบดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับแล้งน้ำใจ
ผมจำใจที่ต้องพา กีช่า เข้ามาพักในบ้าน นี่เป็นวินาทีแรกที่ บ่าวทั้ง 4 และหัวหน้าเผ่าสาวพบกัน
อันที่จริง ผมเคยคิด วางแผนไว้คร่าวๆ กับการหาจังหวะดีๆแนะนำให้พวกหล่อนรู้จักกัน ไม่คิดว่าโอกาสที่ต้องพบกันครั้งแรกมันจะเลวร้ายขนาดนี้ มีอา กับเด็กๆนี่ไม่เท่าไหร่ ผมต้องเหลือบมอง มินตรา เป็นพิเศษ เด็กคนนี้เดาใจยากอยู่เหมือนกัน
แต่มันผิดคาดไปเสียหมด กีช่า ไม่มีท่าทีแข็งกร้าว เธออ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ จนไม่มีกะจิตกะใจ จะสู้รบตบมือในเรื่องรักใคร่กับใครๆ อีกแล้ว
ในสภาพที่บาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ ผมส่งผ่าน กีช่า ให้มีอารับไปดูแลต่อ มินตรามองตามด้วยสายตาเว้าวอน ก่อนที่จู่ๆ เธอจะเดินประกบตามไปประคองกีช่าไว้อีกข้าง ดูเหมือนมินตราจะเติบโตขึ้นไปในอีกระดับหนึ่งแล้ว
ไลลากับโมอา เหลือบมองที่หน้าอกผม เธอเห็นมันเป็นบาดแผลรอยช้ำเป็นดวงใหญ่
นายท่านบาดเจ็บ เสียงไลลากับโมอาเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ทำเอา มินตราอดเป็นห่วงผมไม่ได้ ต้องย้อนกลับมาดูบาดแผลให้ด้วยความเป็นห่วง
ผมไม่ต้องอธิบายความสัมพันธ์ของกันและกันให้พวกหล่อนรับรู้ พวกเธอก็น่าจะเข้าใจได้ ผมเห็นบ่าวสาวทั้ง 4 ไม่ถือสาเอาความ และยิ้มมุมปากให้กีช่าเชิงต้อนรับ ผมก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง จริงๆแล้วหากไม่ใช่สถานการณ์เช่นนี้ พวกหล่อน อาจไม่มีวันปรองดองกันก็ได้
.....
บ่ายวันนั้น ทิวา เรียกผมไปที่บ้านใหญ่ ผมค่อนข้างแปลกใจเพราะตอนนี้ที่พักอาศัยหลักของ ทิวา น่าจะอยู่ในวัง
ผมเดินเข้าไปในบ้านใหญ่อันคุ้นเคย มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ผมอดไม่ได้ที่ได้จะเลี้ยวผ่านเข้าไปที่ศาลาริมน้ำ
หญิงงามเมืองนั่งเหม่อลอยอย่างหมดอาลัย ชิงชิง นั่งรับใช้อยู่ข้างๆ ผมเดินเข้าไปอย่างแผ่วเบาเพราะไม่อยากทำลายบรรยากาศอันแสนสงบ เธอไม่ได้หันกลับมามองผม เพียงแต่เอ่ยอย่างแช่มช้าว่า
ท่านมาหาเราทำไม นายน้อยเรียกหาท่านมิใช่หรือ เธอเอ่ยขึ้นกับผม
บางครั้งเธอดูเหมือนจะโอนอ่อนให้ผม แต่บางครั้งก็ดูเย็นชาจนน่าใจหาย ผมไม่เคยเดาออกว่าในใจเธอคิดหาสิ่งใดอยู่ แต่เมื่อเธอเอ่ยขึ้นแบบนี้ ผมคงไม่มีหน้าจะเอ่ยอะไรต่อ ลินดา ค่อยๆ คล้อยหลังกลับมาก่อนเอ่ยถามต่อไปว่า
ท่านมีแผนอันใดหรือเปล่า ท่านบอกข้าสิว่าท่านมีแผนอันใด ท่านจะช่วยพวกเราใช่ไหม เธอเริ่มร้องไห้ ตัดพ้อผมทั้งน้ำตา ผมเพิ่งเคยเห็นเธอร้องไห้เป็นครั้งแรก
นายหญิง ชิงชิง เป็นคนแรกที่เข้าไปกุมหลังมือเธอไว้
คำพูดเหมือนเธอยิงคำถามประชดประชัน แต่ผมเข้าใจได้โดยสถานการณ์ว่าเธอต้องการคำตอบจากผมจริงๆ ผมหลบสายตาหญิงงามอย่างไม่กล้าสู้หน้าหล่อน ในสภาวะสงครามเช่นนี้ คำสัญญาเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุด ผมไม่สามารถรับปากกับใครได้เลย เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
เป็นครั้งแรกที่ผมหักหาญน้ำใจท่านหญิง ผมทิ้งเธอไว้เบื้องหลังโดยเหลียวหลังกลับไปมอง
....
ให้ห้องหับที่ถูกเก็บจนเรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้หรูหรามีลวดลายของสิงห์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเจ้าเมืองเริ่มดูยกหอบเข้ามา ทิวา ไม่มีความปรารถนาจะเข้าไปอยู่ในวัง เขาต้องการจะอยู่ในบ้านหลังนี้กับพี่สาว มันกลายเป็นสถานที่เดียวที่ปลอดจากพวกขุนนาง เรื่องบ้านเมืองอันเลวร้าย มันกลายเป็นความสงบแห่งเดียวท่ามกลางพายุร้ายของเด็กหนุ่ม
เขายังไม่มีความพร้อมในสักอย่าง กับการขึ้นปกครองบ้านเมือง ทิวา ในชุดชนชั้นสูง ยืนไขว้หลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างถอดถอนใจ ผมย่างกรายเข้ามาท่ามกลางความเงียบสงบ
นายน้อย เรียกหาเรามีเรื่องอันใด ผมเอ่ยขึ้นก่อน
ทิวา นิ่งเงียบไม่ไหวติง กินเวลายาวนานจนผมอึดอัด ก่อนจะเริ่มเอ่ยขึ้นว่า
นายน้อย อันใด เรายังเป็นเพียงเด็กน้อยของท่านดุจเดิม ท่านเรียกเราเป็นน้อยชายอย่างเดิมเถิด ทิวาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบเกินจะปฎิเสธ
ผมเข้าใจความกระอักกระอ่วนของ มินตรา ทันที เมื่อครั้งแรกๆที่ผมให้เธอห้ามแทนตัวเองว่า บ่าว เมื่อเราอยู่ในสถานะหนึ่งจนเคยชิน มันเป็นความรู้สึกที่ยากเหลือเกินที่จะกลับไปใช้ถ้อยคำแบบดั่งเดิมครั้งเรารู้จักกันใหม่ๆ ผมเพิ่งเข้าใจคำว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวก็คราวนี้ ทิวา คงรู้สึกโดดเดี่ยวมาก เพราะในการประชุมขุนนางแต่ละครั้ง เขาแทบไม่มีอำนาจพอที่จะมีปากเสียงใดๆ เด็กหนุ่มเห็นผมเงียบไป ก่อนจะเอ่ยขึ้นกับผมว่า
เรากำลังกะเกณฑ์คนงานมาทำว่าวแจกเด็กๆ ในช่วงงานเทศกาลแล้วเชียว เสียดายที่คงไม่ได้แจกให้เขาได้ลองเล่นอีกแล้ว
เด็กหนุ่มเอ่ยเปลี่ยนเรื่องนี้ขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาสะท้อนใจไม่น้อย จริงๆเขาน่าจะได้ใช้เวลาในวัยเด็กอีกสักหน่อย ได้เที่ยวเล่นในแบบเด็กหนุ่มทั่วๆไป ค้นหาพรสวรรค์ที่ตนเองได้รับ และเติบใหญ่ขึ้นเป็นเจ้าเมืองที่ดี จริงๆทางเดินของ ทิวา ควรจะเป็นเช่นนั้น
ผมปล่อยให้เด็กหนุ่มได้ระบายเรื่องคับคั่งใจออกมา เพราะมันน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่พอช่วยเหลือเขาได้ ผมเปลี่ยนสรรพนามเขาใหม่ โดยกลับไปเรียกหาว่า น้องชาย เหมือนเดิม ทิวาดูผ่อนคลายขึ้นมาก เขาถามผมถึงเรื่องราวความเป็นมาที่ผมไปเป็นหัวหน้าเผ่า
ผมตัดใจเล่าเรื่องการเกือบถูกฆ่าในพิธีกรรมให้เขาฟังในแกมตลกขบขัน ทิวา หัวเราะออกมาลั่น เขาบอกว่า ยายเฒ่า นั่นคงเลอะเลือนเต็มที ที่เห็นการปรนเปรอสวาทของผมเป็นพรจากเทพพระเจ้า ผมได้แต่หัวเราะแฮะๆ แต่ก็ไม่อยากขัดความสำราญใจของ ทิวา
มาถึงช่วงหลังๆ ทิวา ให้ผมเล่าเรื่องการจู่โจม ทหารซินเดรีย ให้ฟัง ผมจึงเริ่มร่ายยาวโดยละเอียด ทิวา นั่งฟังด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะร้องโผว่า
โอวว ท่านพี่ ท่านช่างฉลาดนัก เรื่องกลวิธีศึกแบบนี้ แม้แต่แม่ทัพของเรายังคิดไม่ถึง
ทิวา ยังเอ่ยถึงเรื่องการต้องยก ลินดา พี่สาวของเค้าให้แก่พวกมันอย่างคับข้องใจ เขาเอ่ยขอบคุณผมก่อนจะสบถออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจว่า หากต้องยกให้มัน เราสู้ยกนางให้ท่านยังจะดีเสียกว่า
ผมรู้สึกเสียววาบ เขินอายจนเก็บอาการแทบไม่อยู่ ทิวาเห็นแล้วชอบใจแล้วใหญ่ เขาบอกว่า ท่านคิดว่าเราไม่รู้หรอว่าพวกท่านแอบชอบคอกัน เราเห็นว่าพวกท่านหยอกกันน่ารักดี
น้องชาย อย่าเอ่ยเรื่องแบบนี้ให้ท่านหญิงได้ยินเด็ดขาด ไม่งั้นเราหัวหลุดแน่ๆ ผมตัดพ้อกับทิวา
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทิวาหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี
นี่ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าเมืองอยากตบเจ้าเด็กนี่ให้หัวทิ่มสักทีเหมือนกัน ผมแอบคิดในใจ
ก่อนที่จู่ๆ ทิวาจะลุกขึ้นและทำสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนักอกหนักใจ ผมเริ่มสัมผัสถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จึงสงวนถ้อยคำเอาไว้ ทิวาปล่อยให้ผมรอไม่นาน ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆว่า
พวกขุนนางลงความเห็นกันว่า ให้เราเกลี่ยกล่อมท่านให้ยอมจำนน พรุ่งนี้ทหารจะบุกจับคนของท่านและส่งให้พวกซินเดรีย ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร ทิวาเอ่ยขึ้นอย่างแช่มช้า แต่ทำเอาผมสะท้านไปทั่วร่าง
ผมนึกเกลียดพวกขุนนางการเมืองขึ้นมาจับใจ นอกจากพวกมันจะไม่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองแล้ว ยังคิดฆ่าผู้คน ผมสงบสติอารมณ์เอาไว้กลับสู่ความแจ่มใส
ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมาว่า หากเป็นเช่นนั้น เราคงต้องประจันหน้ากัน ผมเอ่ยขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว
แต่ในใจลึกๆแล้วหากเป็นเช่นนั้น ผมคงไม่รอจนถึงเช้า เราคงเริ่มตีฝ่าวงล้อมหนีไปตั้งแต่คืนนี้ เราคงเสาะแสวงหาพื้นที่รกร้างว่างเปล่าสักที่ แล้วเริ่มสร้างชนเผ่าขึ้นใหม่ ผมคงเอาบ่าวสาวทั้ง 4 คนไปอยู่ด้วย ส่วนเรื่องราวของบ้านเมืองล้วนปล่อยไปตามบุญตามกรรม
ทิวารับฟังอย่างถอนถอดใจ เด็กหนุ่มค่อยๆเอ่ยเบาๆ
ชัดเจนดี ก็ชัดเจนดี.. ก่อนจะเริ่มเอ่ยต่อไปว่า
เราตัดสินใจแล้ว เรามีข้อเสนอให้ท่าน เรื่องหนึ่ง ทิวาเอ่ยขึ้นพร้อมมองผมอย่างขึงขัง
หากไม่ใช่เรื่องให้ยอมจำนน เรายินดีรับฟัง ผมสู้สายตากับเด็กหนุ่มอย่างเกรี้ยวกราด
เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะกล่าวต่อไปอย่างช้าๆว่า
ท่านจะยอมมาเป็น ผู้วางกลศึกให้เรา หรือ จะเข้าประหักประหารกับผู้คน
.......
กองกำลังของเมืองพรอนเทียเรานับรวมแล้วมีประมาณ 5000 คน หากไม่นับรวมพวกบ่าวไพร่ที่กะเกณฑ์เข้ามาใหม่นับเป็นทหารที่สามารถต่อสู้จริงๆได้มีเพียง 3000 เท่านั้น เทียบกับทางฝั่ง ทหารซินเดรีย ทีล้วนแล้วแต่ชำนาญการศึกซึ่งโดยประมาณคาดการณ์แล้ว น่าจะมีมาถึงหลัก 10,000 คน
ผมโผร้องออกมาในใจ นี่นับที่เป็นทหารสู้รบได้จริงๆ เราน้อยกว่าถึง 3 เท่าเชียวนะ
ทิวา ยังเอ่ยกับผมต่อไปว่า พวกขุนนางล้วนแล้วแต่ถอยใจไม่คิดสู้รบ จนกระทั่งเมื่อท่านเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้เราฟัง เราคิดว่าตอนนี้ คงไม่มีผู้คนหน้าไหนจะพลิกสถานการณ์ของเมืองนี้ได้อีกแล้วนอกจากท่าน
ผมกระอักกระอ่วนในใจไม่น้อย จริงๆตอนนั้นมันเป็นเพียงความโกรธชักนำเสียมากกว่า หากต้องมาบัญชาการรบที่ใหญ่ขนาดนี้ ผมเริ่มไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้
ทิวา คงเห็นความลังเลในดวงตาผม เขาเริ่มเอ่ยขึ้นอย่างเข้าอกเข้าใจ
ท่านกลับไปพิจารณาดูเถิด ตัดสินใจเช่นไร ย่ำรุ่งตอนเช้าท่านค่อยบอกเรา แต่หากท่านดึงดันที่จะถอยหนีเราขอให้ท่านโชคดี ทิวาเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น
ความหมายของคำว่าโชคดี คงเป็นการเปรยบอกเป็นนัยๆ ให้ผมหาทางหนีไปซะ
....
มันคงเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายไปไกลโข จากแค่คนขี้แพ้ที่คิดฆ่าตัวตาย ผมมาไกลถึงขนาดกำลังจะได้คุมกองทัพ จริงๆเรื่องความคิดที่จะหนีจากไป ไม่เคยอยู่ในหัวตั้งแต่ตัดสินใจนำพาชนเผ่ากลับมาที่นี่ เพียงแต่รู้สึกว่ามันเป็นภาระที่หนักหนาเกินไปกับการวางหมากบนกระดานที่มีผู้เล่นนับหมื่นคน
คงไม่มีสตรีนางใดรับฟังผมได้ดีไปกว่า กีช่า ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง เธอเอาแต่ยิ้มรับอย่างภาคภูมิใจ เธอเอ่ยกับผมเพียงข้อความสั้นๆว่า
ท่านทำได้ เราเชื่อว่าท่านช่วยเหลือพวกเราและชาวเมืองได้ เธอเอ่ย
หลายวันมานี่ เธอซูบผอมไปมาก นอกจากความโศกเศร้าเสียใจที่เสียลูกในท้องไปแล้ว กีช่ายังมีบาดแผลที่ยังไม่หายสนิท อันนี้ผมต้องขอบคุณสาวๆในบ้านจริงๆ ที่ดูแลเธออย่างไม่มีความบาดหมางให้เหนื่อยใจ กีช่าทิ้งตัวลงนอนซบตักผมไม่ห่าง นี่ถ้าเป็นยามปกติ เรื่องของเราคงจบลงด้วยบทรักอันเร้าร้อนก่อนจะนอนคลอเคลียกันตลอดคืน
ท่านอยู่กับเราสักพักเถอะ เธอเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนหวาน ผมปล่อยให้เธอนอนหนุนตัก และลูบปอยผมเธออย่างทะนุถนอม
ภาพความห่วงใยทั้งหมดนี้ อยู่ในสายตาของหญิงสาวนางหนึ่งตลอดเวลา
มินตรา ยืนเฝ้ามองพวกเรามาสักพักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้ามาอย่างนิ่งเฉย
ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอเดินเข้ามา เอาเข้าจริงๆก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ผมมอง กีช่า ที่นอนอยู่ที่ตัก ก่อนจะหันมองมินตราที่นำข้าวปลาอาหารมาให้ ผมจำยอมโดยศิโรราบ
มินตรามองผมอย่างขุ่นเคืองไม่ผิดขาด แต่กลับไม่ได้งี่เง่าเหมือนแต่ก่อน เธอเอ่ยคุยกับ กีช่า เหมือนผมเป็นเพียงธาตุอากาศ
กีช่า เรานำอาหารมาให้ เจ้ารีบทานก่อนเถอะ เธอเอ่ย
กีช่าค่อยๆประคองตัวลุกขึ้น ก่อนจะยิ้มตอบรับหญิงสาวอย่างอ่อนหวาน
หลายวันมานี่ พี่มินตราดูแลเราอย่างดี ท่านอย่างรังแกนางให้เราเห็นเด็ดขาดเชียวนะ เธอเอ่ยขึ้นอย่างทะเล้น
ผมนี่อึ้งชนิดตั้งตัวไม่ทัน กีช่าเคยบอกว่าให้ผมแนะนำสาวๆของผมให้เธอรู้จัก นี่ผมยังไม่ได้เอ่ยแนะนำสักคำ เธอนับถือกันเป็นพี่น้องเรียบร้อยแล้ว
พี่มินตรา นี่พวกเจ้าหมายความว่าอย่างไร ผมเอ่ยในเชิงคำถาม
ก็เราอ่อนกว่า พี่มินตราตั้งหลายปี เจ้าจะให้เราเรียกนางห้วนๆได้อย่างไร ถึงเราอยู่บ้านป่า เราก็รู้กาลเทศะ หรอกน่า กีช่าเอ่ยขึ้น
โอ้ยยย ผมขอบคุณสวรรค์ สุดท้ายเรื่องราวที่ยังค้างคาในใจก็จบลงได้สักที ผมเห็นพวกหล่อนนับถือกันเป็นพี่น้อง มันน่ายินดีกว่าการชนะสงคราม กีช่าเห็นผมดีใจจนออกนอกหน้า เธอพลอยยิ้มออกไปด้วย
แต่กับมินตรานี่สิครับ เธอกลับไม่ยิ้มด้วย เธอขุ่นเคืองมองหน้าผมเหมือนโกรธแค้นกันมาชาติปางไหน ก่อนจะเริ่มเอ่ยถามอย่าง งอนแงนว่า
นายท่าน ไม่เห็นเอ่ยสักทีนะคะ ว่าคืนที่ตามบ่าวของท่านหญิงลินดาไป นายท่านหายไปไหนทั้งคืน มินตราเริ่มรุกไล่ผม
โอ้ยยยย ทำไมความจำดีขนาดนี้ ผมคิดว่าเธอลืมไปแล้วเสียอีก กีช่าลอบมองผมด้วยแววตาดุร้าย ก่อนจะเอ่ยเสียงแข็งถามต่อไปว่า
นี่เรายัง รู้จักผู้หญิงของเจ้าไม่ครบทุกนางอีกหรอ กีช่าเอ่ย
รังสีอำมหิตของกีช่า มันร้ายแรงกว่าทหารทั้งกองพันเสียอีก
.........
ผมตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ นี่คงจุดเปลี่ยนแปลงของชีวิต ผมมุ่งตรงไปหาทิวาที่วัง ผมลอบตื่นตระหนกอยู่ลึกๆในใจ ผมควรต้องทำตัวอย่างไร เมื่อก้าวขาเข้าไปแล้วทุกคนคงหันมามองผมเป็นจุดเดียว ในฐานะของผู้วางกลศึกผมประโลมจิตใจของตัวเองไว้ ว่าห้ามแสดงท่าทีประหม่าและหวั่นไหว ผมควรต้องแสดงมาดแห่งความเป็นผู้นำให้พวกเขาเห็นและเชื่อใจตั้งแต่วินาทีแรก
ประตูเริ่มแย้มออก ผมก้าวเข้าไปอย่างองอาจ แต่แล้วทุกอย่างมันกลับไม่ใช่อย่างที่คาดคิด
เสียงโต้เถียงกันจ้าละหวั่น เสียงดังวุ่นวาย กลุ่มพวกขุนนางภายในปะทะคารมณ์กันอย่างรุ่มร้อน ไม่มีใครยอมฟังใคร มีแต่คนพูดในเรื่องที่ตนอยากพูด ทิวา นั่งหน้านิ่วอย่างปวดเศียรเวียนเกล้าถึงความขัดแย้งในที่ประชุม
ไม่มีใครสนใจการมาของผม แผนการที่วางไว้มันฟุ้งกระจายการเป็นฝุ่นธุลี ผมเดินผ่านหลืบทางเล็กๆระหว่างเสาเข้ามาอย่างเงียบงัน ผมจับใจความการพูดคุยได้ว่า
สายทหารของเราแจ้งว่า ทหารซินเดรียกว่า 10,000 นาย กำลังยกทัพมาที่เมือง คาดเดาเวลาคงบุกประชิดเมืองได้ภายใน 5 วัน ผมรับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาแตกตื่น อันที่จริงไม่คิดว่าพวกเขาจะยกกำลังมารวดเร็วเช่นนี้ เหตุผลคือว่า นายพลไค โกรธมากที่ นายทหารชั้นสูงของเค้าถูกลอบสังหารในแผ่นดินเรา ผมนึกทันนักรบที่เป็นชายร่างใหญ่ขึ้นมาทันที
บางเสียงสนับสนุนเรื่องเดิมๆ คือ ให้เร่งขอขมา และส่งตัวลินดาและพวกโจรป่าให้ ซินเดรียสำเร็จโทษ มันคงไม่ได้รับรู้ว่าผมเพิ่งเข้ามาถึงกล้าพูดทำนองนี้
ยังดีที่มีบางเสียงขัดแย้งว่า พวกมันไม่ได้หวังปรองดองมันหวังมายึดเมืองเราแต่แรกแล้ว บ้างสนับสนุนให้สู้ให้ถึงที่สุด บ้างย้อนแย้งกลับว่าจะเอาอะไรไปสู้ บ้านเมืองเรามันจบสิ้นแล้ว
อำนาจคืออะไร ผมเริ่มถอดถอนใจถึงการเล่นกับอำนาจ นี่น่ะหรอกลุ่มผู้ปกครองบ้านเมือง พวกขุนนางพวกนี้ช่างน่ารังเกียจ ผมคิดอยากจะอาศัยช่วงที่ชุลมุน หนีหายไปจากห้องโถงแห่งนี้ ก่อนที่ผู้คนจะสังเกตเห็น ... แต่มันคงไม่ทันเสียแล้ว
เพราะบุคคลผู้เดียวที่สังเกตเห็นการเข้ามาของผมได้เริ่มเอ่ยขึ้น
ท่านหัวหน้าเผ่ามีแผนการอย่างไรก็รีบว่ามา ทิวาเอ่ยขึ้นเสียงดังหยุดความวุ่นวายทั้งห้องในคำรบเดียว
ทุกสายตาหันกลับมามองผมเป็นจุดเดียว เขามันคงคิดสงสัยว่าผมเข้ามาทำไมที่นี่
ทิวาจงใจเรียกขานผมในนามหัวหน้าเผ่า ผมไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร แต่ก็คงฟังดูบารมีกว่าคำเรียกหาว่า พี่ชาย
ผมเริ่มสูดหายใจลึกๆเข้าปอด และเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า มันก็พอมีทางอยู่
....
สภาพภูมิประเทศโดยรอบของ พรอนเทีย เป็นป่ารกทึบ หากไม่ชำนาญเส้นทางกับผู้คนนับหมื่น น่าจะใช้เวลาเดินทางอยู่หลายวัน ประกอบกับการเดินทางด้วยกองทัพขนาดนี้คงมีกองเสบียงที่ต้องขนตามมาด้วยเป็นขบวนใหญ่ หากใช้คนของเราคือกลุ่มแมวดำซึ่งชำนาญการปล้นสะดมลอบเผาเสบียงข้าศึกในระหว่างการเดินทาง อย่างน้อยน่าจะช่วยถ่วงเวลาพวกมันได้อีกสัก 2-3 วัน
สิ่งที่พวกท่านต้องทำคือระดมชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทั้งหมดให้หอบข้าวของเข้ามาอยู่ในเมือง อย่าให้พวกมันอาศัยช่องว่างตรงนี้ปล้นสะดมเติมเสบียงในระหว่างทางได้ เราว่าด้วยวิธีการนี้น่าจะตัดกำลังศัตรูไปได้มากโขอยู่
ขุนนางทุกผู้ตัวล้วนแล้วแต่นิ่งเงียบอย่างฉุกคิด ทิวา ลอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
เชิญท่านหัวหน้าเผ่ากล่าวต่อเถิด ..
เราเสียเปรียบด้านกำลังพลก็จริง แต่เราก็มีเปรียบกว่าเมื่ออยู่หลังกำแพง กำแพงของ พรอนเทีย สูงตระหง่านไม่เป็นรองเมืองไหน พวกมันคิดจะตีเราให้แตกพ่ายไปคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเท่าไหร่นัก เราจะอาศัยความได้เปรียบตรงนี้ผสมกับยุทธวิธีของกลศึก เราน่าจะลบจุดด้อยด้านกำลังพลไปได้
ยุทธวิธีกลศึกอันใด หนึ่งในขุนนางเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
ทิวา ไม่รีรอให้ผมตอบกลับ เขามีท่าทีอันตื่นเต้นเหมือนกลับสู่ความเยาว์วัย ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่เอาแต่ใจว่า
มาเถอะท่านหัวหน้าเผ่า เรามีเรื่องที่ต้องทำอีกมากมาย เราขอปิดประชุม ณ เดี๋ยวนี้
.......
ผมชักนำ ทิวา ให้รู้จักไผ่ตายของเราเป็นอันดับแรก ผมนำปล้องไม้ไผ่ที่อัดแน่นด้วยดินปืน มาโชว์ให้เขาเห็น
ปล้องไม้ไผ่อันนี้จะถือเป็นอาวุธเด็ดได้อย่างไร ทิวาเอ่ยถาม
ผมให้คนในเผ่าจุดฉนวนขึ้นพร้อมขว้างออกไปไกลๆ
ตูมมม เสียงดินปืนติดไฟ ระเบิดออกมาจากปล้องไม้ดังสั่นหวั่นไหว ทิวา เบิกตากว้างอย่างแตกตื่น เขาบอกว่า
นี่มันเป็นศาตราวุธทีน่ากลัวเสียเหลือเกิน ท่านพี่ไปพบมันที่ไหน เขาเอ่ยถาม
ผมบอกว่ามันมีอยู่มากมายที่หมู่บ้านของชนเผ่าอาชูร่า ทิวามีแววตาที่แตกตื่นยินดี ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
เทพยาดาเข้าข้างเราแล้ว
....
อันที่จริง ผมพูดคุยกับทิวาถึงการสร้างลำปล้องที่จะสามารถยิงดินปืนออกไปได้ไกลๆ แต่พบว่ามันดูลำบากเกินไปกว่าที่ความรู้ปัจจุบันจะไปถึง เราปรับเปลี่ยนมันใหม่ด้วยการใช้ถังหมักสุราอัดดินปืนแทน ผลปรากฎว่ามันสร้างความเสียหายในวงกว้างกว่า กองทหารย้อนไปที่หมู่บ้านขนดินปืนออกมาจากถ้ำทั้งกลางวันกลางคืน เราเพิ่มพลังทำลายให้มันด้วยการใส่ของจำพวกเศษดาบที่ใช้การไม่ได้แล้วลงไป เผื่อมันจะกระเด็นไปสร้างบาดแผลให้ผู้คน
ทิวาเสนอว่า ถ้าอาวุธนี้ยิงได้ไกลๆ เราอาจรบโดยไม่ต้องเสียผู้คน ผมแอบชื่นชมทิวา ผมเคยเห็นเครื่องเหวี่ยงหินในหนังมาก็ไม่น้อย ซึ่งผมคงไม่สามารถแกะกลไกของมันได้ว่ามันทำงานอย่างไร แต่ผมจะกลัวอะไรเล่า เรามียอดนักประดิษฐ์อยู่ที่นี่แล้ว
ผมวาดเครื่องยิงหินตามแบบที่เคยเห็นให้ทิวาดูคร่าวๆ ซึ่งบอกตรงๆแอบอับอายขายหน้าเหมือนกัน เพราะผมวาดได้คร่าวมากๆ ครั้งแรกทิวายังเอ่ยถามว่ามันเป็นตัวอันใด ผมต้องนั่งอธิบายหลักการทำงาน ของการใช้แรงเหวี่ยงให้เด็กหนุ่มฟัง เขาร้องออกมาอย่างเข้าใจ คล้ายๆหนังสติ๊กใช่ไหม แต่ใช้แรงยึดแรงเหวี่ยงในแนวที่แตกต่าง ทิวารีบนำแบบแปลนของเครื่องนั้นกลับไปทันที
เด็กหนุ่มระดมช่างไม้นับร้อยจากในเมือง ตัดถางต้นไม้จนโล่งเตียนไปทั้งป่า ไม่พ้น 2 วันถัดมา เครื่องยิงหินก็ถือกำเนิดขึ้นเป็นตัวแรกในโลก แต่อานุภาพมันต่ำต้อยนัก เมื่อทดลองใช้ลังไม้ที่อัดแน่นด้วยดินปืนยิงออกในครั้งแรก มันพุ่งไปได้ไกลไม่เกิน 10 เมตรเท่านั้น ผู้คนที่สร้างมันขึ้นมาถอนใจอย่างผิดหวัง
มีเพียง ทิวา ที่เดินดูมันอีกรอบใหญ่ พร้อมกับโผร้องออกมาว่า เราอาจใช้ไม้ผิดชนิดไป มันควรที่ต้องเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูงกว่านี้
ไม้ไผ่ ผมโผออกเป็นสิ่งแรก
ทิวา ยิ้มร่าอย่างพอใจ ก่อนจะเอ่ยกับผมว่า ท่านพี่ชาญฉลาดนัก
.......
ผมปล่อยทิวาทำงานของเค้าไป ทิวา สั่งไทด้า แม่ทัพใหญ่ของกองกำลัง พรอนเทีย ให้รับคำสั่งจากผม
ผมแอบดีใจเล็กๆที่ลอบผูกมิตรกับเธอไว้ตั้งแต่ต้น นอกจากไทด้าจะคร่ำเคร่งกับการฝึกพวกทหารใหม่แล้ว ผมขอร้องให้เธอแบ่งคนมาช่วยขุดหลุมในรัศมีไม่ไกลจากๆ กำแพงเมืองและใช้ไม้ตอแหลปักไว้ที่ก้นบ่อเป็นกับดัก ไทด้า ไม่ได้สงสัยให้วิธีการนี้ แต่เธอสงสัยเมื่อผมสั่งต่อให้พวกเขาตีแผงไม้วางทับพรางเอาไว้ให้คนเดินผ่านได้และไม่ยุบลงไป
เธอเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ นายท่านไม่ได้ทำกับดักไว้ดักศัตรูหรอกหรอ เหตุใดจึงต้องทำไม้ไว้ให้พวกมันเดินผ่านไปได้ ผมคิดไว้แล้วเธอต้องถามเช่นนี้ จึงบอกกับเธอว่า เราไม่ดักผู้คน แต่เราจะดักพวกม้า ผมเอ่ย
ผมรับรู้ความน่ากลัวของพวกมันเมื่ออยู่บนหลังม้า ผมไม่ได้ทำกับดักนี้ไว้สำหรับพวกทหารเดินเท้า แต่ทำไว้สำหรับพวกทหารม้าเกาะหนักทั้งหลาย เราทดลองให้คนเดินผ่าน ผู้คนสามารถเดินผ่านมาได้อย่างง่ายได้ คราวนี้ลองให้ม้าที่ขนสิ่งของในน้ำหนักที่พอๆกับคนเดินผ่านบ้าง เจ้าม้าเจ้ากรรมทรุดร่วงหล่นไปในหลุมอย่างน่าเวทนา
....
ผมกะเกณฑ์กลุ่มนักรบชนเผ่าทั้งหมดที่มี ออกลาดตะเวนหาข่าวความเคลื่อนไหวพวกมันทุกฝีก้าว ผมบอกพวกเธอว่าพวกเธอมีหน้าที่ปล้น ฆ่า และเผากองเสบียง พวกเธอลอบตื่นเต้นเป็นการใหญ่พร้อมกับโผออกมาว่า ไว้ใจได้ นี่คืองานถนัดของพวกเธอ
รินยังไม่กลับมาหรือ ผมเอ่ยถามนักรบคนหนึ่งในชนเผ่า พวกเธอพยักหน้าบอกผมว่า ใช่
นี่มันก็หลายวันแล้ว ผมชักเป็นห่วงเธอแล้วเหมือนกัน
....
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
เนื้อหาส่วนท้าย ที่เป็นจุดกลศึกหายไป
Thanks you ขอบคุณมากครับ
กลับมาอ่านอีกครั้งครับ
ตามลุ้นสงครามครั้งสุดท้ายครับ
เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก ตามมาอ่านซ้ำเพราะของเก่าตอนท้ายเนื้อหาขาดไปบางส่วนครับ
ขอบคุณมาก
Re: The New World : จอมคนโลกใหม่ 3
............................................................................................
14/4/2560อ้างจาก: ไพบูลย์ ปราบมนตรี เมื่อ มีนาคม 13, 2017, 04:32:57 ก่อนเที่ยง
Re: The New World : จอมคนโลกใหม่ 3
The New World : จอมคนโลกใหม่ 16
ใช้ Re: The New World : จอมคนโลกใหม่ 3 แบบนี้ก๊อปวางนับสิบโพสต์
รีพลายผิดเงื่อนไขการพิมพ์ตอบห้อง
ห้องผู้ประพันธ์บอร์ด
และก๊อบตอบ แบน 1 ปี ( 14/4/2560-14/4/2561 ) .........................................................................................
สนุกจนถึงตอนนี้ เลยครับ
ตื่นเต้นครับพอถึงเวลาเป็นการเป็นงานก็พึ่งพาได้
พระเอกเราในที่สุดก็ทำตัวเปนพระเอกเสียที แผนการก็ใช้ได้ทีเดียวครับ น่าติดตาม
ขอบคุณครับ
ดำเนินเรื่องดีนะครับ
สนุก อ่านแล้ว วางไม่ได้จริงๆ ครับ
ลอดออฟเดอะลิงค์ภาค18+ใช่ไหมนิ
น่าสงสารจังเสียลูกไปลูกคนแรกด้วย
พระเอกเราเหมือนขงเบ้งสู้ไม่เป็นว่างแผนอย่างเดียวขอบคุณครับ
บัญชาการรบเหมือนแม่ทัพ ต้องชนะศึกนี้อย่างแน่นอน
กลับมานั่งอ่านใหม่ทั้งหมด ชอบเรื่องนี้
จะแพ้หรือชนะสงคราม เสธฯก็สำคัญนะ
::HeyHey::เนื้อหาบางส่วนขาดหายไปหรือเปล่าครับ
สนุกมากก
............................................................................................
15/5/2560
รีพลายผิดเงื่อนไขการพิมพ์ตอบห้อง ห้องผู้ประพันธ์บอร์ด
แบน 6 เดือน ( 15/5/2560-15/11/2560 )
.........................................................................................
นอกจาก18+แล้วมีสงครามด้วยชอบๆ
สำหรับผมนะครับ เหตุการณ์สงครามนั้น ไม่ค่อยมีรายละเอียด แต่องค์รวมและรวมถึงเนื้อเรื่องทั้งหมด ผมชอบ เพราะได้เนื้อหาและความต่อเนื่องของเนื้อเรือง ตอนก่อน ไม่มีฉากสวาทเลย ผมก็ดีเลย ก็เหมือนจะร่วมรัก เพราะมันต้องมีจะเน้น หนัก แต่บางครั้งก็ต้องมีจังหวะผ่อน เนิบๆ บ้างเป็นบางครั้ง สรุปโดยรวมผมชอบเรื่องนี้ครับ ขอบคุณครับ
สนุกมากเลยครับ
............................................................................................
16/6/2560
รีพลายผิดเงื่อนไขการพิมพ์ตอบห้อง ผู้ประพันธ์บอร์ด
แบน 6 เดือน ( 16/6/2560-16/12/2560 )
............................................................................................
สนุกมากครับ วางแผนการรบไม่ซับซ้อน เหมาะกับพระเอกดี ถ้าวางแผนเก่งเวอร์จะไม่สนุกเพราะขัดแย้งกับคาแรคเตอร
ฆ่ามันให้เรียบบบบบ ::Angry:: ::Angry:: ::Angry::
เข้มข้นเร้าใจจริงๆไม่มีบทเสียวก็มันส์ได้
ฉากสงครามเริ่มมาแระ
มันมาก ไม่ได้มีแต่เรื่องเสียวๆอย่างเดียว ชอบมากๆเลย
ใกล้ถึงบทสุดท้ายละ กำลังลุ้นเลยครับ
ถ้ามีหน้าไม้ยักษ์ด้วยคงเจ๋งเป๊งเลย ทหารเมืองนู้นจะมีทีเด็ดอะไรซ่อนไว้หรือเปล่านะครับ
ดูเหมือนสาวๆจะสามัคคีกันดีกว่าที่คิดนะ ส่วนเรื่องการเมืองนี่ก็สมจริงดีครับ
::Glad::อยากรู้จังว่าจะชนะศึกยังไง น่าสนุกมากๆๆๆๆๆ
งานนี้มันแน่นอสสงครามใครๆก็ชอบ ::Glad::
กลายเป็นหนังสงครามซ่ะและ มาแนวดีเลย ฟันๆๆ 555
เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นสนุกมากๆครับ ตอนนี้ถึงไม่มีฉาก18+แต่ก็สนุกมากๆครับ
ได้เวลาไปช่วยอีกหนึ่งคนรักแล้ว
ขอขอบพระคุณมากเลยขอรับ
จุดเริ่มต้นของสงครามขั้นแตกหัก
สร้างรถถังสู้แม่งเลย
ติด งอมแงม เลย นายท่าน สู้ ต่อไปครับ
หวังว่ารินคงไม่เป็นอะไรนะ
น่าสงสัยที่ต้องเสียลูกไป
ฉากวางแผนกลศึกนี้เห็นภาพเลย
ศึกใหญ่ใช่ไหมนี่ จอมคนกำลังเกิดแล้ว
เลือดนักสู้มันพลุกพล่าน ++
เริ่มสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ
•====================================•
○ 1/3/2561 ○
คอมเมน ผิดเงื่อนไขการพิมพ์ตอบห้อง ผู้ประพันธ์บอร์ด เคยโดนแบน ธันวาคม 14, 2016
https://xonly8.com/index.php?topic=162359.msg738883#msg738883
ปลดมาก็ยังไม่สนใจกติกาเอาๆ แบน 2 ปี{ 1/3/2561 ~1/9/2561 }
•===============================================•
อ่านไปอ่านมานึกว่าสามก๊ก
พระเอกเริ่มมีความกล้าจะต่อสู้แล้ว มีแอ็คชั่นต่อสู้ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ::Ahoo::
สุดยอดครับพี่
•====================================•
○ 1/3/2561 ○
คอมเมน ผิดเงื่อนไขการพิมพ์ตอบห้อง ผู้ประพันธ์บอร์ด
แบน 6 เดือน { 1/3/2561 ~1/9/2561 }
•===============================================•
ไม่มีฉากเซ็ก ให้ข้ามรึ แล้วจะสนุกได้อย่างไร
พ่อบ้านใจกล้า พาสาวอื่นเข้าบ้าน สุดยอด
ครบรสสุดๆตอนนี้เหมือนได้เข้าไปอยู่ในพรอนเทียด้วยเลย พึ่งพาได้จริงๆนายท่านเหมือนกลศึกสามก๊กด้วยเลย
ใกล้ได้เวลาตีกันแล้ว
เรื่องนี้ตอนกับสาวๆก็เสียว ตอนรบก็ตื่นเต้นน่าติดตาม ถ้าเป็นอาหารต้องบอกว่าครบรส อร่อยมากๆ
หุหุหุตอนที่แล้วพีคมาก
จอมวางแผนจริงๆเลย
อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของมนุษย์ คือ ปัญญา นั่นเอง... ::Beggar::
เปลี่ยนมาเป็นแนวสงครามก็โอเคครัย
โชคดีที่บรรดาเมียๆปรับความเข้าใจกันได้ ปัญหาหนักใจจึงเหลือแค่จะจัดการกับศัตรูยังไงก็พอ
สนุกมาก รวมเอาพิชัยสงครามมาด้วย
::Thinking::
แปลงเป็นกุนซือซะแล้ว แบบนี้ต้องรอรางวัลตอนจบ
สนุก เหมือนอ่านหนังสงครามมาก
นาย ท่านรับบทขงเบ้ง วางกลศึกช่วยหญิงงาม กระนั้นฤา ขอรับอิอิ
นอกจากเป็นนักรักแล้วแหมยังเป็นนักวางแผนอีกต่างหาก
เสร็จศึกครานี้ต้องจัดฮาเร็มครั้งใหญ่แล้ว
เอาเมียกูคืนมา
::Angry::
ขอบคุณครับ
เป็นขุนศึกไปแล้ว การบ้านไม่ได้ทำเลย หลังจากนี้คงจัดหนักแน่นอน
รบเพื่อเมียทั้งหลาย. จะได้อยู่สบาย
Thanks you ขอบคุณมากครับ
ผมนี่นึกถึงเซี่ยงเส้าหลงเลยคนับ
วางแผนรบ
พระเอกได้ทั้งบู๋แล้วก็บุ๊น
ใช้ดินปืน นึกถึงสามก๊กที่ขงเบ้งใช้ดืนปืนทำลายกองทหารนับหมื่นหายในพริบตา
ไม่ตายก้อรอด สงครามต้องแลกด้วยเลือด พระเอกสู้ๆๆ
::KO::
ใกล้จะจบแล้ว สนุกมากๆ
ตอนนี้พระเอกเก่งสุดยอดดด
::Glad::สวดๆ ขอบคุณคับ
ตกลงพระเอกของเราจะเหมาสาวๆหมดเลย
สนุกมากเรย
เนื้อหาเข้มข้น จนต้องสมัครมาให้กำลังใจ รอภาค 2 นะครับ ::Glad:: ::Glad::
ความรู้คืออาวุฌ
สุดยอดครับ
รอเป็นเจ้าเมือง เอาทั้งเมืองเลยทีนี้
การศึกยังไม่จบ ถ้าสงบคงได้เย็ดกันแน่ เอาใจช่วยพระเอกครับ
สนุกอะ
เครียดแทนหัวหน้าเผ่า อดฟันสาวอีกนาน
ฉากสงครามก็เขียนได้ดี
สู้ๆครับท่านเกล้า ผมเอาใจช่วย บ้านเมืองสงบสุข จะได้ปรี้กันต่อ
ขอบคุณครับ
สนุกมากขอบคุนคับ
ฆ้าให้หมด
สงครามสนุกดีครับ มีสาระขึ้นเยอะ ไม่น่าเบื่อ
พาเมียเข้าบ้านอีกหนึ่งคน จะเปนยังไงเนี่ย
มาไวไวครับ
😊
ใกล้ถึงบทสรุปแล้ว ต่อไปจะเป็นยังไง
สนุกมาก
สงครามจะเริ่มแล้ว พระเอกเราคงเป็นขงเบ้งในโลกแห่งนี้แล้ว
::Glad::เล่นสงครามตัวละครเริ่มเยอะ เล่นกับจิตใจ ต้องวางแผนดีๆนะครับ
แบบนี้ค่อยเป็นผู้เป็นคนมาหน่อยนะคับ
สนุกแม้ไม่มีฉากอย่างว่า
สนุก เข้มข้น ชวนติดตามครับ
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น
วางแผนเก่งจัง
สู้ๆนะนายท่าน อันใหนที่นึกในปัจจุบันได้ก็เอาใช้โลด
ขอบคุณมากครับ สนุกมากครับ
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษยอดกลศึกชนะแน่นอน
กลับเมืองมารอบนี้ นายท่านดูดีขึ้นเป็นกองเลย(เป็นถึงหัวหน้าเผ่าแล้วนิ) อวยพรให้ท่านรบชนะข้าศึกเร็วๆนะ จะได้กลับไปรบกับบรรดาสาวๆอีก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ดวงนารีอุปภัมร์
ดำเนินเรื่องดีมากๆๆ ครับ
ยาวปายๆ ต่อเนื่องไปเลย ท่านผู้นำ
ชอบช่วงวางแผนมากครับ
พระเอกเก่ง
ระดับขงเบ้งทีเดียว อยากกลับไปยุคแบบนี้บ้างน้อ
อ่านกี่ครั้งสำหรับเรื่องนี้ก้รู้สึกสนุกทุกครั้งครับ
นึกว่ากำลังอ่านสามก๊ก
ขอบคุณครับ
สนุกนะครับขอบอก หน้าจะมีต่อภาค สอง นะครับ
เนื้อหาเเหวกเเนใน่าติดตามนะครับ
สนุกมากครับ มีเรื่องตื่นเต้นให้ลุ้นตลอดเลย
เขียนบรรยายฉากเตรียมการก่อนการรบได้สุดยอดจริงๆครับ
สนุกมาก
รินจะเป็นอ่างไร
น่าจะรวบรวมโลหะที่มีแล้วสร้างปืนใหญ่ออกมาน่าจะช่วยได้เยอะเลยครับ
ไม่ผิดหวังที่ติดตาม
Thank
ไม่ผิดหวังที่ติดตาม
ลุ้นสงคราม มันแน่นอน
ขอบคุณนะครับ
::Shout::
สนุกเวอร์
ใช้กลศึกสามก๊กนิครับ ขอบคุณ
กลัวพระเอกจะประมาท พลาดท่าให้ศัตรู สงคราม
อะไรก็เกิดขึ้นได้
ลุ้นสงครามที่กำลังจะมาถึงว่าจะชนะหรือไม
เตรียมรบ เต็มที่ ให้สาวๆดูซะบ้างว่าไม่ธรรมดา
นำทัพแล้ว สนุกดี
ยอดกุนซือ
เป็นกุนซือได้ แต่อย่าไปสู้เองนะพระเอก
ติดงอมแงมเลย ครบทุกรสชาติเลย
แผนการศึกพลิกแพลงได้ดีมากเลยครับ
แน่ใจนะว่าพึ่งเขียนครั้งแรก สุดๆเลย ::Thankyou::
เรื่องราวสนุกมากๆครับ ไม่รูว่าทำไมถึงไม่เคยอ่านเรื่องนี้เลย ความเงี่ยนบังตาแน่ๆ
::Fighto:: สู้ๆ สนุกมาก เสียดายใกล้จะจบแล้ว
ลุ้นๆๆๆ
ทิวากับพีชายรวบแรงรวมใจกันวางกลศึกครังนีกันหน้าดู
แผนการสุดยอดมากนายท่าน
เหมือนเนื้อหาหายไปป่าวครับนี่
มันมาก รอฉากสวิงกิ้ง
มันสนุกมาก มีรักมีรบ
จินตนาการผู้แต่งนี่ล้ำลึก่กเลยครับ
หัวหน้าเผ่ามีกลยุทธกลศึก วางแผนรบแบบนี้น่าตื่นเต้น น่าสนุกตัองอ่านต่อ
นิยายสนุกมากๆ
เป็นนักรักแล้วยังเป็นนักวางแผนอีกด้วย
น่าติดตามมากครับ
ตอนรบก็สนุกครับ
พระเอก นี่ฉลาดนะ สำหรับโลกนี้
ขอบคุณครับ
พระเอกเอาความรู้โลกเก่า มาใช้ในโลกใหม่อย่างนี้ใครจะสู้กลศึกได้
ตำราพิชัยยุทธ ภาคพิศดาร
ยอดนักวางแผน แต่ก็ยังอดห่วงรินไม่ได้
กลศึกสุดยอดสนุกมาก
ถึงเพิ่งเขียนเรื่องการรบเป็นครั้งแรก แต่ก็เขียนได้สนุกเร้าใจมากครับ
ยิ่งอ่านก็เหมือนได้อ่านพวกสามก๊กหรือมังกรอหังการ สนุกจริงๆ
หัวหน้าเผ่า เป็นกุนซือเสียแล้ว
เป็นการวางแผนที่ดีจริงๆ
ติดตามนี่มันหนังสงครามชัด ๆ 555
กลับมาติดตามอีกรอบครับ
บรรยายฉากสงึรามได้เยี่ยมมากครับ
โอ้ยมันมันๆๆๆๆ
great
ยิ่งอ่านยิ่งมัน พระเอกฉลาดใช้ได้
เนื้อหาน่าติดตามมากๆ
จากพ่อค้ามาเป็นกุนซือ
พระเอกเป็นนักวางแผนตัวยงซะแล้ว
ยังกะหนังฝรั่งสมัยพระเจ้าอาเธอร์เลย นายท่านคิดได้ไง ขอบคุณครับ
นี่มันการสู้รบดุเดือดจริงๆ
สงครามเริ่มต้น
ติดตามครับ ยิ่งใกล้จบยิ่งเข้มข้นจนไม่เหมือนเรื่องเสียวแล้ว
จอมวางแผนจะงัดอะไรมาสู้
เรื่องรักก้ได้ หรือต่อสู้ก้ไม่แพ้ใครนะเนี่ย
พระเอกเราก็เป็นนักสู้นะเนียๆๆ
ลุ้นสงครามครั้งสุดท้ายครับ สนุกจนยุอ่านไม่ได้เลย
ต้องแก้แค้นให้สาสม
::Sobad::อ่านวางไม่ลง
บันเทิงมาก ตื่นเต้นๆ
อ่านได้ไม่เบื่อเลยครับ
เดี่ยวนี้เค้าใช้สมองสู้แล้วครับท่านนายพลไค
เรื่องนี้สนุกครบรสชาติมากเลยครับ
สนุกจนถึงตอนนี้ เลยครับ
เขียนฉากสงครามได้ตื่นเต้นดีครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ใช้ความรู้จากโลกปัจจุบันได้เปรียบ
ย่างก้าวสู่จอมคนกำลังขึ้นเริ่มแล้ว
พระเอกวางแผนการรบได้เก่งมาก
ขงเบ้งของคนเป่า
ริน จะกลับมาอย่างปลอดภัยไหมเนี่ย หรือมีอะไรให้แปลกใจอีก
สนุกขึ้นเรื่อยไปครับ
ได้อารมสามก๊อกเบาๆครับ
อย่างกับสามก๊กเลย สนุกมากครับ
อย่างเดือดทำสงครามแล้ว
สนุกครับ
อ่านมาถึงนี่ก็รอวันกลับมาของริน
อย่าเป็นอะไรซะหละ
บรรยายฉากรบได้เห็นภาพดีพอสมควร
ถือว่าสอบผ่าน ตามอ่านกันต่อไป
พูดเปิดสงครามได้หล่อจริงๆ
ทหารศัตรูไม่ต้องแย่งกัน
มีระเบิดให้พอทุกๆคน
เข้มข้นมาก จะยันไว้ได้มั้ย
เข้มข้นมาก
โลกใหม่เกล้าเป็นขงเบ้งเลย
น่าติดตาม
ใกล้จบแล้ว เสียดาย
รบชนะมีรางวัลรออยู่
ยังกะหลุดเข้าไปในสงครามโบราณ แค่จินตนาการก็บรรเจิดแล้ว
โลกนี้เป็นสาวต้องแข็งแกร่ง
เนื้อเรื่องดีๆ ขอบคุณมากครับที่เขียนมาให้ได้ติดตามกัน
นี่มันงานช้างเลยนิ
เป็นเรื่องเสียวที่มีครบรสจริงๆ วาแต่รินหายไปไหน
รินไปไหนนะ
กลายเป็นขงเบ้งซะงั้น พระเอาเรา
เตรียมพร้อมเป็นเจ้าเมืองได้เลย
ยิ่งกว่าเรียนมาทางเสนาธิการทางทหารเสียอีกนะ
ไร้อาวุธ แต่ได้กลอุบายสงครามช่วยได้แน่นอน
นี่คือหน้าที่เจ้าเมืองเลยนะเนี่ย
พระเอกกลายเป็นกุนซือไปแล้ว
สนุกครับ
เป็นพ่อค้า เป็นกุญซือ เป็นเจ้าอีกสักตำเเหน่งไหม เเต่ะเอะ เป็นหัวหน้าเผ่าเเล้วนี่หว่าาา
ได้เป็นนายพลผู้วางกลศึกแล้วหรือนี่
เสียลูกคนแรกไป น่าสงสารจัง
นักวางแผน การรบ กำจัดศัตรูให้หมด
ติดตามผลงานครับท่านอ่านแล้วไม่สามารถล่ะสายตาไปได้การเขียนการบรรยายดีเยี่ยมครับ
มีการวางแผนกลยุธการรบด้วย
ไม่มีเสียว เลย งะ
ยังจะห่วงคนอื่นอีกนะ
ลุ้นมากครับ พลิกมาเป็นแนวนี้ได้ยังไง ขอคารวะ ::Thankyou::
เสนาธิดารามเอง จบเร็วเลย
อ่านแล้วตื่นเต้นมากน่าจะเอาไปทำเป็นภาพยนตร์
รวมทัพไปเลยสู้ได้ยุแล้ว
วาว...คราวนี้ออกจากเงามืดก็เข้ารบเพื่อแผ่นดิน น่าสนใจมาก อ่านกี่ครั้งก็ยังคงสนุกเหมือนเดิม ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
พระเอกน่าจะฝึกรบซะหน่อยเผื่อได้ใช้นะ ดูๆเเล้ว
ขออย่าให้มีใครตายเลยนะ
พระเอกรู้จักทำสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆเหมือนขงเบ้งเลยครับ
เสียดายที่แท้งลูก เสียดายชนเผ่า
กลยุทธตัดกำลังได้แยบยล....ยุทธวิธีกาีรบแบบคนน้อยกว่าคืออการตัดกำลังเสบียงศรัจตรูหลักแหลมจริงๆ
ได้เป็นกุนซือซะงั้น
แค่ตอนวางแผนก็สนุกแล้ว
ตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆครับ
ตามลุ้นครับ ศึกใหญ่ทีเดียว ยิ่งอ่านยิ่งสนุกขอบคุณครับ
ศึกนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก
บรรยายได้เห็นภาพเลยครับ
เอาแล้วไงไผ่มาแล้วครับ
สนุกๆ ชอบครับติดตามอย่างแรง
ตอนต่อไปก็เป็นการรบแล้วสินะ
ยามศึกเรารบบามสงบเราเยส
รินจะเป็นอะไรไหม
รินเป็นไงมั่งน้อ
สงครามเลือด
นี่มันบุตรมังกรนี่นา
กลายเป็นฉากรบตีเมืองไปแล้ว รอบทสรุปครับ
จากพ่อค้ามาเป็นกุนซือ
สนุก
นี่มันขงเบ้ง ยุค 2020
สนุก
สนุก
ปืนโรมัน พร้อมดินปืน สนุกล่ะคราวนี้
ถ้ามีเวลากว่านี้นะ ซินเดียตายหมดแน่ ลุ้นดีนะครับ
ขอบคุณนะครับ
ได้เวลาเอาคืน ต้องจัดให้สาสม
เทพสงครามวางแผน ข้าศึกสู้ยาก
แล้วนี่ ไม่คิดกลับมาโลกปัจจุบันเหรอ
จัดแม่นางลินดาสักสองดอกเป็นการแก้เคล็ด
น้องรินไปไหนนนน
.
.
จะถึงศึกตัดสินชะตาแล่ววว
กลศึกต้องใข้ กลรัก ก็ต้องบริหารครับ
อัศวินโคยม้าขาวขี้เย มาแย้ว
เอาละ!ถึงคราวพระเอกโชว์ของแล้ว
จะมีจัดก่อนออกรบมั้ย ::WowWow::
ปล้นเสบียงกองโจร
ตอนสงครามนี้สนุกครับ ชอบมาก สนุกพระเอกเลเวลอัพรัวๆๆ
ได้เวลาพระเอกออกโรงแล้ว ลุยเลย ::Angry::
วางแผนได้ดีจริงๆ
ใช้ความรู้โลกเก่ามาสู้กันแล้ว
ได้เป็นพี่เจ้าเมื่องแน่นนอนงานนี้
สุดยอดจริงๆ แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ เก่งไปหมด หนังเรื่องผู้หญิงในเรื่องการรบ
ระดับรินอย่างไรก็กลับมา เผลอๆ คงเจออะไรดีๆ ในการเพิ่มช่องทางการโจมตีข้าศึก
จอมทัพคนใหม่สู้ๆให้ชนะ
พระเอกยังเที่รู้จักวางแผน ไม่งั้นเละแน่ๆ เอาเลย ฆ่ามันนน ::Angry::
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
จอมทัพคนใหม่ จะเป็นยังไงนะ
พระเอกของเรา บทจะเอาการเอางานก็เก่งเหมือนกันนะครับนี่ ลุ้นกันตัวโก่งเลย
ไปๆมาๆ เกล้าอาจจะได้เปนพี่เขยเจ้าเมืองไปเสียแล้ว
แผนการท่านแยบยลยิ่ง
จากป่าสูเมือง พระเอกกำลังกลับมา
ริน...ขอให้ปลอดภัยน๊าาา
แลดูเป็นมหากาพย์เลือดข้นคนจาง
น่าติดตามครับ
เตรียมรบ ลุ้นสนุก มันมาก
สงครามจะจบยังไงนะ
วางแผนได้ดี
ท่านแม่ทัพใหญ่
ชาติที่แล้วเป็นขงเบ้งหรือเปล่าเนี่ย
ทาสสาว
เป็นผู้นำแล้ว
ระดับเสธวางแผนรบ
จะได้เป็นเจ้าเมือวเองรึเปล่า
::Hmmm::
ห่วงหรือหวงกันแน่
ขอบคุณมากครับ
สกิลพระเอกทำงานแล้ว สู้ๆ
กลยุทธตัดกำลังได้แยบยล....ยุทธวิธีกาีรบแบบคนน้อยกว่าคืออการตัดกำลังเสบียง
เนื้อเรื่องตัวเอกวางแผนเก่งมาก
กลยุทธ์สุดยอดมากๆ
ดักม้าไม่ใช่ดักคน สุดยอด
รอดูพบังสิ่งประดิษฐ์เลยครับ
สู้ให้สุดใจ
แผนสงครามจะได้ผลดีแค่ไหนนะ
จัดเต็มไปเลยลูกพี่
สู้เขาได้สบายมากรบแบบกองโจร
ผมว่าเรื่องนี้พอมีเรื่ิองสงครามเข้ามาเกี่ยวด้วย มีนทำให้นิยายมีมิติเพิ่มขึ้นนะ ชอบมากกว่าเยกันอย่างเดียว
สนุกมากครับ ไม่ได้มีแต่ ความเสียว อย่างเดียว
ฆ่าใเรียบ
อยากให้มีภาค2ครับ
การศึก ต่อด้วยการรักแน่ๆ
นายท่านอาศัยความรู้จากโลกของตัวเอง และนำมา Apply เป็นกลสู้ศึก โชว์ความเป็นผู้นำได้อย่างดี
ห่วงอะไรครับป๋า
ใช้ว่าว บิน น่าจะเป็นประโยชน์
ขงเบ้งมาเองจังหวะนี่ถูๆไถๆ
ดี
ดุเดือดกันเลยทีเดียว
กำลังสนุก
ขอบคุณครับ สนุกทุกตอนเลยครับ