" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ "
EP.12 : ภาพและเสียงที่แท้จริงหลังจากงานเลี้ยงปีใหม่ผ่านพ้นมานั้นมาผมก็ไม่ได้มีโอกาสได้มีโอกาสได้นัดเจอกันภายนอกบริษัทอีกเลย แถมโอกาสที่จะปฎิบัติกามกิจภายในบริษัทในช่วงเช้าก็ไม่มีอีกเลย เพราะพี่จิว ช่วงนี้สามีของเธอก็ไม่ได้ออกต่างจังหวัดแถมช่วงนี้พี่จิว มาทำสายสายอีกต่างหากด้วยเลยทำให้ผมและพี่จิว เลยไม่มีโอกาสแอบไปเจอนอกจากวันเวลางานเลยเกือบสามสัปดาห์เลยทีเดียว ที่บริษัทเรื่องงานผมก็ทำงานเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไร
จนมีเหตุเกิดขึ้นมาวันนี้ที่เป็นวันศุกร์ วันนี้ พิงค์ แฟนของผมคบกันอยู่นั้นไม่ได้มาทำงานซึ่งปกติ เธอจะมาทำงานพร้อมผม แต่วันนี้ในตอนเช้าเธอกลับโทรมาบอกผมอย่างปุ้ปปับว่า
"เติม วันนี้พิงค์ ลางานนะ ต้องไปทำ IDP ที่มหาลัย" พิงค์เอ่ย
"ได้" ผม เอ่ยตอบ ซึ่งผมเองก็แปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนเวลาผ่านมาก่อนพักเที่ยง พี่จิว เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะ
"นี่ๆๆ เติม เดี๋ยวเย็นนี้ไปส่งพี่หน่อยนะ ที่ห้างนะ พี่นัดพี่แอ๊ด ไว้ เดี๋ยวออกค่าน้ำมันให้เอง" พี่จิว เอ่ย
ผมเงยหน้าขึ้นไปพยักหน้าเงียบๆ"เพราะวันนี้ พิงค์ ก็ลาพอดีผมจึงไม่ได้กลับพร้อมเธอนั่นเอง
.
.
.
.
พอเลิกงานห้าโมงปั้บผมกับพี่จิว เราสองคน ก็ออกจากบริษัทมา ระหว่างทางเมื่อรถฮอนด้าของผมเลี้ยวเข้าถนนทางหลัก เมื่อผมเห็นสถานีเติมน้ำมันข้างหน้า ผมก็เอ่ยขึ้น
"พี่ ผมขอแวะเติมน้ำมันก่อนนะ"
"อืม แต่ชั้นจ่ายให้เองนะคราวนี้ แกเล่นไม่ยอมให้ชั้นจ่ายมาตลอดเลยเวลาชั้นให้แกมาส่งชั้นแบบนี้" พี่จิว เอ่ย
เมื่อผมจอดรถเทียบกับหัวจ่ายน้ำมันภายในปั้มป์แล้ว ขณะที่ผมหันไปบอกเด็กที่เติมน้ำมัน
"เต็มถังนะครับ"
จังหวะที่เราสองคนที่กำลังนั่งรอการเติมน้ำมันอยู่นั้น ผมที่มองอะไรออกไปเรื่อยเปื่อยข้างหน้าด้านนอกรถที่มีร้านกาแฟภายในสถานีบริการเติมน้ำมันตั้งอยู่ห่างออกไป ไม่เกิน 30 เมตร นั้น
สิ่งที่ผมเห็นชายหนุ่มหญิงคู่หนึ่งที่กำลังเดินพ้นประตูออกมาจากร้านกาแฟ
ทั้งสองกำลังเดินจูงมือเดินคุยกันอย่างดูมีความสุข ชายหนุ่มในชุดทำงานเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป ส่วนหญิงสาวผมยาวดูสูงโปร่งสวมกางเกงผ้าสีกรมท่ากับชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่ส่วนที่สะดุดตาผมที่สุดคงเป็นหน้าอกทั้งสองภายใต้เสื้อเชิ้ตที่หญิงสาวสวมใส่นั้นมันมีขนาดใหญ่ไม่น้อยนั้น ผมที่เพ่งมองขึ้นไปอีกก็ถึงกับร้องอุทานออกมา
"เฮ้ย นั่น"
"มีอะไรเติม ร้องมาซะจนพี่ตกใจหมด ...." พี่จิว เอ่ยถามด้วยความตกใจที่ผมร้องออกมาจนดังลั่นรถ
"พี่จิว ตรงนั้นที่ร้านกาแฟข้างนอก ผมเห็นพิงค์ เดินออกมากับผู้ชาย พี่เห็นไหม"
ผมที่หน้าตื่นทั้งตกใจทั้งสงสัย เอ่ยถามกับพี่จิว ที่มองไปยังร้านกาแฟภายนอกรถตรงหน้าตามที่ผมบอกทันใดนั้น เสียงพี่จิว ก็ร้องออกมา
" หา ยายนมใหญ่นี่ พิงค์... พิงค์นี่ ...ใช่ไหมเติม" พี่จิว เอ่ยถามขึ้นมาอย่างลืมตัว
"........"
ตอนนี้ภายในรถเงียบ เหมือนพี่จิว เธอเองก็เห็นเช่นกันนั้นแต่เธอคงไม่อยากพูดอะไรออกมา ทำให้ผมกับเธอ ต่างคนต่างอึ้ง จนทำตัวกันไม่ถูก
" เติม ใจเย็นๆก่อนนะ อาจจะไม่ใช่" พี่จิว เอ่ยแถไถออกมาทั้งๆที่สายตาเราทั้งสองคนต่างเห็นเหมือนๆกันว่าเป็นเธอแน่นอน แล้วเธอก็คอยบอกย้ำอยู่ตลอดให้ผมใจเย็นๆ
"ใจเย็นๆก่อนนะ เติม"
ด้วยผมกำลังทำท่าที่จะเปิดประตูรถออกไป พี่จิว ก็รีบคว้าแขนของผมไว้ แล้วเอ่ยขึ้น
"เติม พี่บอกให้ใจเย็นๆก่อนไง เติมน้ำมันให้มันเรียบร้อยก่อนนะ"
ผมที่ได้ยินหัวหน้าของผมเอ่ย
ทำให้ผมหยุดทุกอย่างแล้วทำตามที่เธอบอก
".............."
ภายในรถที่เงียบสงัดแล้วเราทั้งสองพร้อมใจกันหันกลับไปมองพิงค์ ต่อทันทีชายคนนั้นที่กำลังเดินจูงมือของหญิงสาวที่ผมถือว่าว่าเป็นแฟนของผมไปยังรถ BMW คันหนึ่งที่จอดอยู่ ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปนั่งกันภายในรถคันนั้น
ตอนนี้ในระหว่างที่ผมรอการเติมน้ำมันจากพนักงานอยู่นั้น มีแต่ความเงียบที่ดูบรรยากาศที่ดูแสนจะอึดอัดราวกับบรรยากาศมาคุในการ์ตูนสมัยเด็กของผม การเติมน้ำมันเต็มถังครั้งนี้ มันช่างดูยาวนานเสียเหลือเกิน จนผมพยายามหันชะโงกหน้ามองที่มิเตอร์หัวจ่ายน้ำมันอย่างลุกลี้ลุกลน
แล้วตอนนี้ตัวเลขบนมิเตอร์หัวจ่ายก็หยุดลง พนักงานที่กำลังถอดหัวจ่ายน้ำมัน ในสถานการณ์ที่ปกติการกระทำในขั้นตอนนี้นั้นใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เวลาเกือบๆ 60 วินาทีนั้น เป็นเวลาที่ไม่ได้นานมากในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เวลาแต่เมื่อในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้นั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ เหมือนมันยาวนานหลายนาทีเหลือเกิน ภายในใจของผมมันพยายามเร่งเร้าให้เสร็จภารกิจจากตรงนี้ไปเร็วๆ สักที
"1,000 บาทครับ"
พนักงานเดินมาบอกค่าน้ำมันกับผม แต่ผมที่มัวแต่กังวลจนลืมหยิบบัตรเครดิตออกมาเตรียมไว้มันเลยยิ่งช้าลงไปอีก
"นี่ค่ะ น้อง" พี่จิว เอ่ย พร้อมยื่นธนบัตรหนึ่งพันบาทให้พนักงานทันที
แต่จังหวะนั้นเองผมหันมาก็เห็นรถ BMW คันนั้น กำลังเคลื่อนจะขับออกไปพอดี ผมตัดสินใจสตาร์ทรถเพื่อจะตามตามรถคันนั้นไป แต่กว่าจะออกรถออกมาได้ ผมก็ไม่เห็นรถคันนั้นแล้วเมื่อรถของผมออกมาสู่ถนนใหญ่
" เติม ใจเย็นๆก่อน ตั้งสติหน่อย" พี่จิว หันมาเอ่ยบอกผม คงหวังว่าให้ผมตั้งสติ และใจเย็นลงกว่านี้
"แต่พวกเราเห็นจริงๆ..........พี่ก็เห็นนี่" ผมเอ่ยแย้งผู้เป็นหัวหน้าออกมา
"....................."
พี่จิว เงียบไม่ตอบอะไรกลับมา
จนรถของผมมาหยุดระหว่างติดรอสัญญาณไฟ ผมก็เลือกที่จะโทรหาพิงค์ ในทันที
"ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ดติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ... ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียกค่ะ sorry that no answer from your number requested .... ติ้ด"
"ไม่รับเลยพี่จิว" ผมเอ่ยบอกพี่จิว พร้อมกับโทรหาเธออีกครั้ง
"ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ดติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ... ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียกค่ะ sorry that no answer from your number requested .... ติ้ด"
และคงยังเหมือนเช่นเดิมที่ไม่มีคนรับสายของผม
"เค้าอาจจะไม่ได้ยินก็ได้นี่. หรือไม่ก็เปิดสั่นอยู่......เดี๋ยวอีกสักพักค่อยโทรใหม่เอานะ เติม"
พี่จิว ยังพยายามช่วยพูดเพื่อให้ผมอารมณ์เย็น แล้วตัดสินใจอะไรให้ได้ดีกว่าการใช้อารมณ์
" งั้นเดี๋ยวผมไปส่งพี่จิว ให้เรียบร้อยก่อนแล้วกัน "
ผมเอ่ยบอกเธอไปจังหวะนั้นสัญญาณไฟเขียวขึ้น ผมจึงตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปส่งพี่จิว ที่ห้างตรงหน้าตามที่ตั้งใจไว้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
"ได้ๆ เติม แกใจเย็นนะ" พี่จิว บอก
ในที่สุดก็มาถึงที่จอดรถภายในห้าง พี่จิว ตั้งท่าจะเปิดประตูรถแล้วจะออกไป แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขาลงจากรถ ก็มีรถ BMW คันที่พวกเราเห็นกันก็ขับผ่านเราไปก่อนจะเข้าไปจอดตรงไม่ห่างจากรถของผมนัก พี่จิวกับผมหันมามองหน้ากันอย่างหน้าตาตื่นกับสิ่งที่เพิ่งเห็นผ่านไป เพราะไม่คาดคิดว่าเราจะเจอรถคันนี้อีก และพี่จิว คงกลัวผมจะก่อเรื่องขึ้น พี่จิว มองหน้าผม ก่อนจะส่ายหัวพร้อมกับเอ่ยปากเตือนผม
"พี่ขอนะ เติม"
พี่จิว มองมาที่ผม แล้วหยุดยืนรอดูอยู่ข้างๆรถของผม ทันที่ผมพยักหน้าให้เธอแล้ว ผมก็เปิดประตูรถลง ก่อนเดินตรงไปหาพิงค์ ที่รถคันนั้น พี่จิว ที่ดูทีท่าแล้วว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีเธอเลยกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามผมมาห่างๆด้วย
ผมเดินไปเคาะกระจกรถฝั่งที่พิงค์ นั่งอยู่ แล้วเอ่ยขึ้น
"พิงค์ ......ไปไหนมา แล้วนี่ใคร"
พิงค์ ที่นั่งข้างๆกำลังคุยกับคนขับถ้าผมเดาไม่ผิดคนนั้นน่าจะเป็นชาติ เพื่อนสนิทที่พิงค์ สมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอที่พิงค์ เคยเอ่ยชื่อนี้ให้ผมได้ยินถึงบ่อยๆจนผมเองก็รู้สึกผิดสังเกตในความคิดของผมเหมือนที่ผมสนิทกับพี่มน จนคนอื่นหรือพิงค์ อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับผมก็ได้เช่นกัน พิงค์ หันมามองตามเสียงเรียกของผมแล้วเธอก็ต้องถึงกับสะดุ้ง อุทานออกมา
ภายในรถ
"เติม......."
พิงค์ รีบเปิดประตูรถก้าวลงมาโดยยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเหมือนเธอยังตกใจจนยังจับต้นชนปลายทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
"พิงค์ เติม ระหว่างทางผ่านมาเห็นพิงค์ นั่งรถออกมา" แล้วผมพูดต่อ
"เติม โทรหาพิงค์ พิงค์ ก็ไม่รับ"
"................"
พิงค์ ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมาเพื่อจะแก้ตัวอะไร ส่วนทางด้านชาติ ก็ลงจากรถมายืนรอดูสถานการณ์เงียบๆ อีกฟากฝั่งหนึ่ง
พอพูดจบผมที่พอจะเข้าใจอะไรได้ดีอาจจะเพราะอาจจะเคยมีภูมิคุ้มกันจากตอนเคสของ อร แฟนเก่าของผมก็เป็นได้ แล้วผมก็เลยหันกลับเดินมานั่งที่รถของผมทันทีโดยไม่รอฟังคำพูดใดๆจากพิงค์ แล้วพี่จิว ที่เห็นว่าผมกำลังเดินกลับมานั้นเธอก็เปิดประตูกลับเข้าไปนั่งในรถเช่นกัน พอผมที่กลับมานั่งอยู่ภายในรถแล้ว พี่จิว รีบเอ่ยปลอบผม ทันที
" เติม ใจเย็นๆก่อน สงบสติอารมณ์ก่อน เรื่องอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"
ขณะเดียวกันพิงค์ และชาติ ก็เหมือนจะคุยอะไรกันก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปทันที
พี่จิว กับผม เราสองคนนั่งกันอยู่ในรถไปสักพักโดยที่ต่างคนต่างเงียบไม่พูดอะไรออกมา จนพี่จิว คงรู้สึกอึดอัด เธอเลยหาเรื่องคุยกับผมเมื่อเห็นอยู่ในสถานการณ์นี้เพื่อระบายความเครียด
"อยากไปกินอะไรก่อนกลับไหม เติม" พี่จิว เอ่ยถาม
"พี่จิว จะให้ผมกินอะไร ตอนนี้" ผมเอ่ยตอบไปพร้อมหันไปยิ้มแห้งๆให้เธอ
"เติม อยากกินอะไรล่ะเดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง หรือจะลงไปกินกับพวกเพื่อนพี่ก่อนไหม" พี่จิว เอ่ยปากชวนไปกินข้าวกับเพื่อนๆในกลุ่มของเธอที่นัดกันไว้วันนี้
" ถ้าตอนนี้ผมอยากกิน พี่จิว ได้ไหมล่ะ" ผมพูดทีเล่นทีจริงออกมาดื้อๆ
"พอเลย ไอ้บ้า แกยังมีกะใจพูดเรื่อยเปื่อยอีกนะ" พี่จิว เอ่ยว่าผมออกมา
ทันทีตามความสนิทสนมของพวกเราแล้วพี่จิว ที่เอ่ยออกมา แล้วเธอก็แอบมีรอยอมยิ้มออกมาที่มุมปาก ตอนนี้ด้วยที่ผมนั้นคงมีมีภูมิคุ้มกันเรื่องแบบนี้จากเมื่อครั้ง อร มาแล้ว ผมเลยเอ่ยออกมา
"คิดมากไปก็ปวดหัวพี่ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พิงค์ เค้าอาจะคบกับชาติอยู่พร้อมๆผมก็ได้ หรือไม่เรื่องนี้ผมก็หวังว่าผมจะเข้าใจผิดเอง เอาเป็นว่าช่วงนี้ผมยังไม่พูดถึงเรื่องพิงค์ แล้วกัน"
ผมเอ่ยด้วยพลางคิดในใจว่า'ตัวผมเองก็ไม่ได้ดีกว่าพิงค์เท่าไหร่นักหรอกในเรื่องแบบนี้กับในสิ่งที่ผมทำอยู่'
.
.
.
พี่จิว ที่ได้ยินผมพูดเธอก็นิ่งไปสักครู่เหมือนคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เธอก็จะอมยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพี่จิวก็เอ่ย
"อือ พี่ได้ยินเธอคิดยังงั้นแล้วก็ค่อยโอเคหน่อย "
ก่อนที่พี่จิว จะหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมากดโทรออก
"ตี้ดๆๆๆๆๆ" "แกร๊ก"
"แอ๊ด วันนี้พี่แคนเซิลนัดก่อนนะเผอิญพี่ติดธุระ" เสียงพี่จิว คุยบอกปลายสายกับรุ่นน้องของพี่จิวไป แล้วเธอก็วางสายไป
"โอเค พี่แคนเซิลพี่แอ๊ดแล้วนะ" พี่จิว หันมาคุยกับผมก่อนเธอจะเอ่ยต่อ
"แต่เดี๋ยวพี่จะโทรคุยธุระอีกหน่อย เติม ช่วยเงียบๆเลยนะ"
"โอเคครับ พี่คุยธุระไปเถอะครับ"
 
"งั้นก็ออกรถไปได้แล้ว ไป"
พี่จิว เอ่ยใส่ผมอีกครั้ง พร้อมทุบเข้าที่ต้นขาอย่างแรง แล้วให้ผมก็ขับรถออกจากห้าง โดยเธอไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาว่าผมกำลังจะพาเธอไปที่ไหนตลอดทางบนรถ ผมที่ตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปที่รีสอร์ทแบบรายวันที่ผมเคยไปในทันที ผมขับรถไปได้ไม่นาน รถผมก็เลี้ยวเข้ารีสอร์ทรายวันแห่งหนึ่งเลี้ยวลัดข้ามสะพานคลองประปาตรงเข้าที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็วจนพี่จิว ที่นั่งมองดูผมที่ดูเป็นงานไปหมด จนเธออดเอ่ยแซวผมไม่ได้
"แหม เติม ทำไมคุ้นเคยกับที่นี่จังนะ เหมือนจะเคยมาเลยนะแก "
".................."
ผมที่เงียบไม่ตอบอะไรกลับไป จนผมก็เอารถก็เข้าจอดในที่ลานจอดรถทันที เมื่อรถจอดรถสนิท ผมก็เปิดประตูรถเดินออกไป แล้วพี่จิว ก็เดินตามผมไปแบบห่างๆ เพื่อไม่ให้เธอดูไม่ดีที่กำลังเดินเข้าในสถานที่แบบนี้ในเวลาเกือบหกโมงเย็นแบบนี้ เราสองคนเดินเข้ารีสอร์ทรายวันไปไล่ๆกัน พอเข้าประตูลอบบี้ไป พี่จิว ก็แยกไปนั่งที่โซฟาที่ลอบบี้ส่วนผมก็เดินมายืนที่เคาน์เตอร์เชคอิน หันหลังให้ประตูทางเข้ารีสอร์ท แห่งนี้
ผมที่คุยกับรีเซปชั่นได้สักพัก ผมก็หันไปกวักมือเรียกพี่จิว ให้มาหาผม เพื่อจะขอบัตรประชาชนของเธอเพื่อมาเช็คอินห้องด้วยเพราะผมไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินมาเพียงแค่หยิบเงินค่าห้องมาอย่างเดียว พอพี่จิว เดินเข้ามาถึงใกล้ๆผมที่เคาน์เตอร์ ผมก็เอ่ยขึ้น
"ผมขอบัตรประชาชนหน่อยครับพี่" ผมเอ่ย
พอพี่จิว ได้ยินเธอก็ไม่พูดจาอะไรเพียงก้มหน้าพยายามไม่สบตากับพนักงานรีเซฟชั่นสาวอายุรุ่นคราวลูกสาวของเธอที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์นั้นพลางก้มหน้าเปิดกระเป๋าเงินแบบยาวของเธอหยิบบัตรประชาชนของเธอออกมายื่นให้พนักงานก่อนจะหลบสายตาทำเป็นมองไปทางอื่น ผมที่นึกอยากแกล้งพี่จิว เล่นบ้างเลยคว้าร่างของเธอเข้ามาแนบชิดกับร่างของผมโดยพี่จิว ที่ไม่ทันระวังก็โดนผมเข้าโอบเอวพี่จิว ที่ จนพี่จิว ถึงกับสะดุ้งแต่เธอก็ไม่ได้ร้องอุทานอะไรออกมาได้แต่เงยหน้ามองตรงมาที่ผมเท่านั้น เธอที่คงตกใจพูดอะไรไม่ออก ผมเลยเอ่ยแกล้งพี่จิว ต่อทันที
"พี่ปล่อยให้ผมเหงาทั้งคืนเลยนะ รู้ไหมผมคิดถึงพี่ทั้งคืนเลยนะ แต่วันนี้ทำไมอยู่ๆนัดผมมาเนี่ย" ผมเอ่ย แกล้งพี่จิว ก่อนจะยิ้มใส่เธอ ต่อโดยลอบสังเกตอาการเห็นพี่จิว ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาอะไรออกมา ผมยิ่งสะใจ ที่ได้แกล้งเธอแล้วเธอไม่สามารถตอบโต้ได้
"ขอโทษนะครับ ขอห้องแบบมีห้องน้ำเอาท์เดอร์นะครับ พวกเราอยากได้แบบนั้นน่ะครับ" ผมหันไปแกล้งถามพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ต่อโดยเอ่ยเน้นคำว่า"พวกเรา"
"อ่อๆ ค่ะๆ แต่ต้องขออภัยนะคะตอนนี้ไม่เหลือแล้วน่ะค่ะ งั้นดิฉันจัดห้องของคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายเป็นห้องเตียงใหญ่ให้แทนแล้วกันนะคะ จะอยู่ชั้นที่ 2 นะคะ" พนักงานบอกตามหน้าที่พลางยื่นกุญแจส่งให้
"ขอบคุณครับ" ผมพูดพร้อมคว้ากุญแจหมับ แล้วจูงมือพี่จิว เดินไปที่ลิฟท์ราวกับคู่รักที่เข้ามาหาความสุขกันเหมือนคู่อื่นๆกัน
"ค่า พักผ่อนให้สนุกนะคะ หวังว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี.... อ่อที่เลือกมาพักกับเราค่ะ" พนักงานเอ่ยไล่หลังตามมา
ส่วนหน้าพี่จิว ตอนนี้หน้าแดงก่ำด้วยความอาย ผมเดินจูงมือพี่จิว เดินเข้าไปลิฟท์ โดยเธอไม่ยอมพูดอะไรด้วยสักคำ แต่พอประตูลิฟท์ปิดสนิทเท่านั้น พี่จิว ก็จัดการสะบัดมือของผมที่จับมือของเธออยู่สะบัดทิ้งทันที
"อีเติม แกล้งฉัน แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย แล้วดูสิวันนี้ชุดที่ชั้นใส่มาดูก็รู้ว่าทำงานที่ไหน... ว๊าย,,, ลืมเก็บบัตรพนักงงาน " พี่จิว ร่ายยาวด้วยความโมโหเพราะพี่จิว ใส่ชุดมาทำงานด้วยเสื้อโปโลที่มีตราบริษัทของพวกเราติดอยู่ที่หน้าอกกับกางเกงผ้าสีดำเข้าชุดกัน ก่อนพี่จิว จะร้องตกใจออกมาเมื่อเธอก้มหน้าลงมาจะพบว่าเธอลืมเก็บบัตรพนักงานที่เธอคล้องคอเธออยู่ตลอดที่ผ่านมาตั้งแต่ออกจากบริษัท
"ชั้นจะกลับเลยดีไหมเนี่ย อีบ้าเติม อายคนอื่นเป็นบ้า" พี่จิว บ่นออกมาไม่หยุด
"ช่างมันพี่ ที่นี่เค้าคงไม่สนใจอะไรหรอกมั้ง แต่ก็ขอโทษพี่ๆ นะ ขอโทษๆๆๆๆๆ "
ผมเอ่ยขอโทษเธอไม่หยุดเช่นกัน แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ลิฟท์ก็มาหยุดที่ชั้น 2 แล้ว เมื่อประตูลิฟท์เปิด แล้วผมก็เอ่ยขึ้น
"แล้วผมไม่ให้พี่กลับหรอกนะพี่จิว ไปกันเถอะ"
พูดจบผมก็จูงมือพี่จิว ก็เดินเข้าไปที่ห้องทันที โดยพี่จิว ก็ตามผมมาอย่างเหมือนทุกที เมื่อเปิดห้องเข้าไป พี่จิว ก็รีบเดินตรงเข้าไปในห้องทันที ส่วนผมก็จัดแจงปิดประตูห้องและสำรวจกลอนต่างๆเพื่อความเรียบร้อย พอผมปิดประตูห้องลงแล้ว
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆพี่จิว ทางด้านหลังแล้วยื่นหน้าไปหาพร้อมโอบเอวพี่จิว ที่กำลังยืนกดรีโมททีวีอยู่ จนเธอถึงกับสะดุ้ง
"เออใช่ อีเติม....นี่ .แกจะทำให้ฉันอายไปถึงไหนกันตอนเช็คอินก็ทีแล้วมาก่งมากอดแบบนั้นได้ไงต่อหน้าคนอื่น เดี๋ยวเถอะปีนี้ ฉันจะเอาคืนแกชั้นจะประเมินโบนัสของแกให้ไม่ได้ A แบบปีก่อนแล้ว เอา D ไปเลยแล้วกัน" พี่จิว เอ่ยปากร่ายยาวใส่ผมพร้อมหันมาที่จะออกทุบผมด้วย
"โอ๊ย ไม่เอานะพี่แบบนั้น"
ผมพูดพลางรีบวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนเพื่อไปหลบจากสองกำปั้นของผู้เป็นหัวหน้าของผม
"ปังๆ"
"นี่แก ออกมาเลยนะ"
เสียงทุบประตู ของพี่จิว พร้อมเสียงร้องเรียกของเธอดังเข้ามาภายในห้องน้ำ
"ขอโทษๆๆพี่ เติม ล้อเล่น ไม่โกรธกันนะๆ" ผมเอ่ยย้อนกลับไป
"นี่แก ออกมาเลยนะ ไม่งั้นชั้นกลับแล้วนะ" พี่จิว เอ่ยอีกครั้ง
"ครับๆพี่ แป้บนึง ขอผมฉี่แป้บ เดี๋ยวออกไปแล้ว" ผมเอ่ยบอกพี่จิว ไป
หลังสิ้นเสียงเอ่ยของผม แล้วทุกอย่างก็เงียบลง เหมือนพี่จิว ไม่ได้อะไรผมแล้ว พอผมจัดการธุระส่วนตัวเรียบได้สักพัก ผมก็ค่อยๆแง้มประตูเดินออกจากห้องน้ำมา แต่ภาพที่ผมเห็นข้างหน้าก็ทำให้ผมแปลกใจ ภาพที่เห็นคือ เป็นพี่จิว ที่กำลังยืนเอาหูไปแนบกับผนังห้องตรงโซฟาที่ตั้งอยู่หัวเตียงของห้อง ดูพี่จิว จะตั้งใจเงี่ยหูฟัง เหมือนมีอะไรน่าสนใจ พี่จิว เห็นผมเดินออกมา เธอเลยกวักมือเรียกให้ผมไปหา พร้อมกับเอ่ยเบาๆ
" เติมๆ มานี่หน่อย พี่หูแว่วไปไหมเนี่ย"
"อะไรหรอพี่" ผมตอบ
แล้วเดินงงๆเข้าไป พี่จิว ยกนิ้วออกมาทำท่าจุ๊ปาก แล้วทำท่าให้ผมเอาหูแนบกับผนังห้องเหมือนเธอ แล้วผมก็เอาหูของผมแนบกับผนังห้องไม่ถึงกับชิดมากแบบพี่จิว ผมก็ได้ยินเสียงลอดเข้ามา เพราะฝั่งตรงข้ามส่งเสียงดังพอสมควร
"ซิ๊ดดดดด....อื้อออออ นั่นแหล่ะ.......อ๊าาา"
เป็นเสียงผู้หญิงจากห้องข้างๆ นั่นเองผมที่ได้ฟังเสียงแล้วก็รู้สึกคุ้นหูมาก
 
ตอนนี้ในเวลาตี 1 หลังจากที่พวกเราต่างก็แยกย้ายกันอาบน้ำเรียบร้อย
พี่จิว ยืนอยู่ที่หน้ากระจกกำลังติดกระดุมเสื้อโปโลทีละเม็ด แต่งหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคุยกับผมว่า
" เสร็จหล่ะกลับกันเถอะ"
"ค้างกันดีไหมพี่ ไหนๆพี่ก็บอกพี่มาด ว่าพี่อาจค้างนี่" ผมเอ่ย
"บ้าเหรอ.. ไม่เอา" พี่จิว ตอบพร้อมทำหน้าจริงจัง
"ล้อเล่นนะ พูดไปงั้นแหละ555" ผมเอ่ยพลางหัวเราะไปด้วย
จากนั้นเราทั้งสองก็พากันออกจากห้องขับรถออกมาจากโรงแรม ในระหว่างทางที่กำลังขับอยู่บนถนน ทั้งสองก็ผลัดกันชวนพูดคุยสนทนาแก้ง่วงจากอาการอ่อนเพลีย บทสนทนาก็ทั่วๆไป ไม่ได้เจาะจงกันแต่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว ส่วนมากจะพูดถึงงานที่ทำกันในบริษัทเป็นซะส่วนใหญ่
ก่อนที่พี่จิว จะเป็นฝ่ายถามเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับผมว่า
"จะมีใครรู้เรื่องของเรารึเปล่า เติม"
ผมที่กำลังมีสมาธิกับการขับรถบนถนน ก็ตอบกลับไปว่า
"ไม่มีนะ พี่ถามทำไมเหรอ"
"เปล่า แค่ถามรู้สึกว่า.. แต่ช่างมันเถอะ" พี่จิว ตอบ
"ไม่ต้องห่วงหรอก ทำตัวปกติคนอื่นก็ไม่รู้แล้ว แต่ว่าวันนี้... พี่สุดยอดมากเลยนะ"
ผมที่หันไปเปลี่ยนเรื่องบอกมองด้วยสายพิศวาส ภาพในตอนที่กำลังร่วมรักกันอย่างดุเดือดในวันนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว พี่จิว เองก็เช่นกันเธอแสดงออกอาการเขินจนหน้าแดงเลยบอกกับผมไปว่า
"มองถนนด้วยซิยะ"
แล้วเราทั้งสองก็อดอมยิ้มกันไม่ได้ ในตอนนี้พอมองหน้ากันปุ๊บ มันคงจะยากที่จะลืมหรือลบภาพในหัวไปได้
" คิดเหมือนกันใช่ป่ะเติม" พี่จิว เอ่ยถาม
"เรื่องนั้นหรือพี่ใช่ไหม" ผมตอบพี่จิว
"แล้วจะทำไงดี" พี่จิว เอ่ยต่อดูเหมือนพี่จิว จะเริ่มกังวลในความสัมพันธ์ของผมกับเธอ
"ก็ทำตัวปกติไง แปลกตรงไหน?" ผมหันมาบอกพี่จิว
พี่จิว เงียบก่อนบอกและเมินหน้าหนีมองข้างทางแล้วเอ่ยขึ้น
"อืม จะพยายามละกัน"
"พี่ก็รู้จัก FWB แล้วนี่" ผมบอกพลางเล่นหูเล่นตา
"FWB.. อืม เข้าใจแหล่ะที่เติม เคยบอก แต่พี่ลืมไปแล้วนี่ซิ ยังไงนะ" พี่จิว หันมาถามต่อ
"หยาบๆก็หมายถึงเพื่อนที่มีอะไรกันกันได้ไง" ผมบอกเธอไปแต่ไม่หันมาสบตากับเธอ
เมื่อเธอรู้ความหมายของ FWB อีกครั้งแล้วก็พี่จิว ก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัวพี่จิว เลยถามกับผมมาตรงๆว่า
"เหมือนผู้หญิงจะเสียเปรียบนะพี่ว่า ว่าแต่แล้วมันผิดไหมอ่ะ เธอว่าไงเติม "
"....."
ผมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพราะไม่รู้จะตอบพี่จิว ยังไงดี ก่อนที่ผมจะเอ่ยขึ้น
"ก็... ไม่รู้ซิพี่.. ก็ถ้าไม่มีใครรู้ แล้วเราโอเคทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ"
พี่จิว ที่ได้ยินคำตอบของผมแบบนั้นเธอก็เงียบไป พี่จิว ที่เธอถามคงเพราะเธอรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กับสามีลับหลังขึ้นมาเฉยๆ
ผมว่าคำถามในหัวของของพี่จิว คงกำลังตีกันยุ่งเหยิง ไม่ว่าถ้าพี่มาด รู้เรื่องนี้แล้วจะโกรธไหม... เราควรจะบอกความจริงไหม... แล้วถ้าเกิดบอกความจริงแล้วรับไม่ได้ขึ้นมาล่ะ... นี่คงเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของพี่จิว ในตอนนี้
จนกระทั่งคำพูดของผมที่เอ่ยขึ้นมา
"พี่จิว ก็ต้องการเหมือนผมกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ"
จากนั้นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของพี่จิว ก็ค่อยๆจางหายไป พี่จิว หันไปคุยกับผมเป็นระยะๆจนถึงบ้าน ก็ลงจากรถและแยกกันตรงนั้น
.
.
.
.
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
พิงค์โดนจับได้แล้ว
บังเอิญมาที่เดียวกันหรือเปล่า โลกมันกลมและแคบเหลือเกิน
เมียพี่มีชู้ๆๆๆ
ความจริงของพิงค์คือมีแฟนแล้วนิเอง
พิงค์น่าจะโดนเจ้าชาตเย็ดแล้ว แต่ไม่ยอมให้พระเอกของเราได้เสียวบ้างเลย
น้องพิ้งค์กอยากเป็นเหมือนกันไม่เสียบสักทีเลยไปให้คนทำแทน
แล้วในความหมายของพี่จิวอยากได้แบบไหนเอาทำผัวเลยไหมล่ะ
แอบไปปล่อยที่อื่นสะเยอะ
ว่าละว่าพิ้งค์ต้องมีคนใหม่ อย่าไปสนตัวเลือกอื่นมี
มาส่งกิ๊กแต่ดันมาเจอแฟนมากับชู้
กำลังสนุก
อ่านแล้วขักรักผู้สูงวัยแล้วซิ ::DookDig::
อย่าบอกนะ ห้องข้างๆ เป็นพิงค์หงะ
มัวแต่เสียบคนอื่นป่าว แฟนเลยมีมั่ง
อ้างจาก: Cassa เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 06:00:57 ก่อนเที่ยง
แล้วในความหมายของพี่จิวอยากได้แบบไหนเอาทำผัวเลยไหมล่ะ
คราวแม่เลยแบบนี้เติม คิดหนักเลยน้า ถึงเรื่องบนเตียงจะเข้ากันได้ดีก็เถอะ แต่คงไม่มั้ง บริบททางสังคมมันเค้ากันอยู่นะ แต่ก็นะสมัยนี้อะไรก็ดขึ้นได้เนอะ ::Horror::
ข้างห้องคือพิงค์หรอครับ โครตช้อค ทำไมไม่เจอรถจอดอยู่ละ
อ้างจาก: theballop เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 07:04:03 ก่อนเที่ยง
มัวแต่เสียบคนอื่นป่าว แฟนเลยมีมั่ง
คงพอกัน ทั้งสองต่างมีโลกกันคนล่ะหลายใบมั้ง ::KO::
อ้างจาก: Sur9x เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 07:11:48 ก่อนเที่ยง
ข้างห้องคือพิงค์หรอครับ โครตช้อค ทำไมไม่เจอรถจอดอยู่ละ
อ่านฉบับ UNCUT ได้น้าจะได้เคลยร์ ::DookDig:: เรื่องรถคงไม่ทันสังเกตุมั้ง ลานจอดรถออกกว้าง
ยังไม่ทันได้เลยโดนคนอื่นซะแล้ว
เปิดห้องติดกะพิงค์ด้วยมั้ย
เสียบแต่สาวอื่น แฟนตัวเองโดนเลย
ว่าแล้วพิงค์แปลกๆ โดนอยู่ข้างห้องแน่ๆ
ถึงคราวแฟนตัวเองโดนบ้าง
อะไรมันจะสุดๆแบบนี้ จับได้คาหนัง คาเขาแบบนี้ พิงค์ไปไม่เป็นเลย
เรียกว่ากรรมตามสนองไหม ชอบมีคนอื่นเหมือนกัน
โลกกลมเกินไปไหท
ผู้ชายเวลาอกหัก เซ็กส์ยิ่งร้อนแรง
ห้องข้างต้องเป็นคนรู้จักแน่ๆ พิงหรือเปล่า
อ้าวววววว ทฤษฎีโลกกลมมาอีกแล้ววววว
มีโลก 3 ใบเหมือนน้องพรที่กำลังเป็นข่าวเลย
ปล่อยให้แฟนเหงา เลยเสร็จคนอื่น
พิงค์สงวนไว้ให้คนอื่นนะสิ
ไปเจอใครกันเนี่ย
เสียงที่คุ้นนั้นจะเป็นใครครับ แฟน หรือว่าพี่สาว
นายสถานีของเราโดนเข้าให้แล้ว
อ้างจาก: baw2521 เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 09:51:11 ก่อนเที่ยง
พิงค์สงวนไว้ให้คนอื่นนะสิ
นั่นน่ะซิ ถ้าติดตามตั้งแต่ต้นเรื่องมองมุมอื่นไมได้เลย ::Thinking::
โลกมันกลมหรือเพราะชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอน่าติดตามตอนต่อไปมากๆ
อ้างจาก: เพ็ชรพนม กะยุตา เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 12:38:42 หลังเที่ยง
โลกมันกลมหรือเพราะชะตาฟ้าลิขิตให้มาเจอน่าติดตามตอนต่อไปมากๆ
ขอบคุณที่สนใจครับ ::Thankyou::
จ่างคนต่างมีชู้แฟรๆกันดี
ความจริงก็เผยโฉมจนได้ ::Shy:: ::Thankyou::
เอ๊ะๆมันยังไงกันแน่
เพราะเติมเป็นแบบนี้ แล้วชาติก็ดูจะมีดีกว่าเติม พิงค์ก็เลยเลือกที่จะคบกับชาติ เพราะพิงค์ก็ดูเหมือนว่าจะห่างจากเติมมาสักระยะแล้ว
เธอจะแอบมีไม่ได้นะ
ชายหนุ่มคงจะได้สาวอีกคนแน่นอน
เจอใครอีกละเนี่ย
เป็นอย่างที่คิดเลย ไม่ยอมเย็ดพิงค์ซะที
เติมไม่ต้องเสียใจมีคนปลอบใจแล้ว
พอๆกันทั้งสองคน
เรื่องแบบนี้เป็นจริงในหลายๆบริษัท.
ของแทร่จริงๆ
งานนี้ดูเหมือนฟ้าจะลิขิตให้เติมมาเจอพิ้งค์ซึ่งทั้งคู่ต่างก็มากับคู่ขาด้วยกันแถมมาเย็ดกันที่รีสอร์ตเดียวกันแน่ๆ ปล.หวังว่าคงไม่เกิดปัญหาตามมาอย่างที่พี่จิวกังวลนะ
เสียงนั้นอาจเป็นพิง
ขอบคุณครับ
ถูกต้องครับหาใหม่เลย
ดีกว่าติดคุก
พิ้งคบซ้อน ต้องจับมาจัดหนักๆเลย
เสียงคุ้นหู อย่าบอกนะเป็นพิ้งค์
พิงค์จิวชาติเติมจะสวิงกันไหม
บังเอิญมากครับมาเจอรีสอร์ทเดียวกัน
เนี่ยละมั้งคือชะตาสวาท
อยากรู้เรื่องพิงค์เลย ตกลงจะโดนสวมเขาอีกรอบรึ
เติมเหมือนเจอกฎแห่งกรรมเลย
ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปครับ
เสียงคุ้นจากห้องข้างๆหรือว่าเป็นพิงค์ ถ้าใช่ต้องจำรถเติมได้แน่
พิงค์โดนแย่งไปแล้ว ก็ปล่อยไปเลยมีพี่จิวและมนแล้ว
โดนเอาคืน
ต่างคนต่างก็มีโลกหลายใบ
มัวแต่สนใจคนอื่นจนเมียคนอื่นเรียบร้อยครับงานนี้
พี่จิวได้กล้วยกินเพิ่ม
ขอบคุณครับ
อวลลเวงแล้วทีนี้แฟนมีกิ๊กแล้วจะทำไงดี
บุญเติมเจอสวมเขาเข้าไห้แล้ว
::Sobad::
เจอแบบนี้ จะเลิกไหม
::DookDig::
อ้างจาก: Som sakchai เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 09:20:05 หลังเที่ยง
พิงค์จิวชาติเติมจะสวิงกันไหม
ไม่รู่..ไม่รู้ ::DookDig:: ต้องติดตามกันต่อครับ ::Thankyou::
อ้างจาก: Kompaphat เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2024, 12:44:05 ก่อนเที่ยง
พิงค์โดนแย่งไปแล้ว ก็ปล่อยไปเลยมีพี่จิวและมนแล้ว
โดนแย่ง หรือไปแย่งของเขามาน่าคิดนะ ::Hmmm::
อ้างจาก: sunnies เมื่อ กุมภาพันธ์ 08, 2024, 01:35:10 ก่อนเที่ยง
ต่างคนต่างก็มีโลกหลายใบ
สมัยนี้เป็นแบบนี้กันเยอะเลย ทั้งญหรือช ::Horror::
จะได้เจอพิงอิกไม่แล้วจะพูดคุยกันยังใง
เอาน่ะ ตัวเลือกเยอะ ไม่เป็นไรหรอก
น้องพิงค์คบซ้อนหรือเปล่านะเติมให้เวลากับพิ้งค์น้อยไปเหรอเปล่า
น้อยใจแฟนไม่ยอมให้มีอะไรด้วย
เสียงข้างห้องเป็นพิงค์รึเปล่า
เรียบร้อยเลยพิงค์
น้องพิ้งค์ร้ายนะเนี่ย
ฮืมม ตกลงพิงค์ใช่ไหมข้างห้อง โลกกลมเกิ๊นน
ปลุกอารมณ์เค้าแล้วไม่เสียบ ก็หาคนใหม่ เรื่องปกติน่ะ เติม 55
ห้องข้างๆใครกันแน่ ไม่บังเอิญขนาดนั้นนะ
ห้องข้างๆน้องพิงค์รึป่าวนะ
น่าจะไม่รวย ผู้หญิงเลยทิ้งก่อนเลย
สงสัยคนห้องข้างๆ
เสียงที่คุ้มเคยกัน ไม่สนิทจริงจำเสียงไม่ได้หรอก
ได้ทั้งหมดเลย
อย่าบอกว่าเสียงน้องพิ้ง?
พิงค์มาที่เดียวกันเลยเหรอ
ยิ่งอ่านยิ่งตื่นเต้น
โลกลมนี่มีอยู่จริง
เสียงข้างห้องนั่นน่ะพิงค์แน่ๆ เลิกคบเุถอะเดิม
เสียงคุ้นๆดันเป็นเสียงฟิงค์เอากับชาติแน่ๆอิอิโดนแล้ว
พิงค์เองก็เหมือนพี่จิว ไม่ซื่อสัตย์
สมน้ำหน้าเติม นะ ไม่สงสาร ตัวเองก็นอกใจ เหมือนกัน แต่อย่างน้อย เติมก็ยัวชิงโอกาส ได้เปรียบตรง จับ ชู้แฟนได้ก่อน เลย ดูกลายเป็ยคนดีไป โธ้ ก็เลวเหมือนกัน นั้นเค้าแค่ไม่ทีพันธะ แต่เติม เล่นคนแต่งงานมีลูกแล้ว ด้วย เลว กว่่า ส่วนพิงค์ ผิด แต่ไม่มากหรอก หล่อกว่ารวยกว่่่่า แถม รู้จักกันมานานกว่า เพราะฉะนั้น เติม ควรเป็นมนุษย์ที่ ไม่สมควรมีคนรัก แหละ ดีแล้ว
จู๋ๆก็มาเจอแจ๊กพอต
เมียมีชู
แฟนไม่ทำการบัาน น้องพิงค์กล่าว
แลกกัน
โดนคนอื่นสอยแฟนไปแล้ว
มัวแต่เล่นกับพี่จิว พี่มน
เขียนได้สนุกครบรสครับ
รอสรุปเรื่องยายนมโต
พิงค์อาจจะเอากะอีกคนมานานแล้วก็ได้ ยิ่งช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้เอากะพิงค์ด้วยนี่นา...
พิงค์อยู่ห้องข้างๆ
ว่าแล้วน้องพิงค์ต้องมีอะไรแน่ๆ
เสียงคุ้นซะขนาดนี้ พิงค์แหง่ๆ ทำใจแยกทางใครทางมันได้เลย
น้องพิงค์ทำแบบนี้ น่าจะมีเหตุผลอื่นนา เคลียกันแล้วก็ fwb อีกคนเลย
เรื่องบังเอิญเสียว
::Horror:: พิงค์ก็อยู่ห้องข้างๆใช่ไหม ทำไมเสียงถึงดูคุ้นเคย ::Ajark::
พิงค์โดนจับได้แล้ว
โลกมันช่างกลมเหลือเกิน แบบนี้ต้องเอาแข่งกันแล้ว
แผนพี่จิวที่จะให้เลิกกันหรือเปล่า
พิงค์ก็แอบแซ่บเหมือนกัน
คู่นี้สุดยอดมาก
เคมีดูเข้ากันดีคบกันยาวๆเลย
เหมาะสมกันเลย แต่จะลงเอยยังไงนะน่าจะจบไม่สวยแน่ๆ
ล่อแต่สาวใหญ่จนสาวน้อยโดนคนอื่นล่อแทน..
ล่อแต่สาวใหญ่จนสาวน้อยโดนคนอื่นล่อแทน..
โลกกลมไหมเนี่ย เจอกันจังๆเลยสิงานนี้
โดนจับได้ละพิงค์
ได้แน่
แฟนโดนใครมาเสียบซะแล้ว อดเลย
อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
ต่างคนต่าง แอบมี 55
ไอ้หนุ่มของเราจะเอาไงต่อดีทีนี้
ต่างคนต่างมีกิ๊กว่ากันไม่ได้
โดนคนอื่นคาแฟบไปกินเพราะมัวแต่คาบแฟนคนอื่น ใครคุ้มน้า
อ้างจาก: KonMol2 เมื่อ กุมภาพันธ์ 11, 2024, 09:00:04 ก่อนเที่ยง
โดนคนอื่นคาแฟบไปกินเพราะมัวแต่คาบแฟนคนอื่น ใครคุ้มน้า
นั่นน่ะซินะ ::Sweat::
มาไกลกันเกินเลี้ยวกลับแล้วครับ พี่จิวพี่มน
พิงค์มีคนอื่นแล้ว
พิงค์โดนแล้ว
FWB เกิดได้ทั้งชายหญิง
เติมจะเป็นเจ้าของโลกหลายใบคนเดียวไม่ได้
โลกมันแคบ มาเจอกันที่เดียวกันแน่นอน ยาวไปๆ
::Angry::
แอบฟังได้อารมณ์ดีนะ
ยินยอมทั้งสองฝ่ายความมันก้อบังเกิด
แย่เลย โลกแคบนะ เจออย่างนี้เข้า
พิ้งค์ก็มาใช้รีสอร์ทเดียวกัน รสนิยมดีเหมือนกันเลยนะ เติมยังไม่ได้เลยนะพิ้งค์
เอาให้จะจะไปเลย
อ้างจาก: bigaud123 เมื่อ กุมภาพันธ์ 07, 2024, 04:04:36 ก่อนเที่ยง
" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ "wow
EP.12 : ภาพและเสียงที่แท้จริง
หลังจากงานเลี้ยงปีใหม่ผ่านพ้นมานั้นมาผมก็ไม่ได้มีโอกาสได้มีโอกาสได้นัดเจอกันภายนอกบริษัทอีกเลย แถมโอกาสที่จะปฎิบัติกามกิจภายในบริษัทในช่วงเช้าก็ไม่มีอีกเลย เพราะพี่จิว ช่วงนี้สามีของเธอก็ไม่ได้ออกต่างจังหวัดแถมช่วงนี้พี่จิว มาทำสายสายอีกต่างหากด้วยเลยทำให้ผมและพี่จิว เลยไม่มีโอกาสแอบไปเจอนอกจากวันเวลางานเลยเกือบสามสัปดาห์เลยทีเดียว ที่บริษัทเรื่องงานผมก็ทำงานเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไร
จนมีเหตุเกิดขึ้นมาวันนี้ที่เป็นวันศุกร์ วันนี้ พิงค์ แฟนของผมคบกันอยู่นั้นไม่ได้มาทำงานซึ่งปกติ เธอจะมาทำงานพร้อมผม แต่วันนี้ในตอนเช้าเธอกลับโทรมาบอกผมอย่างปุ้ปปับว่า
"เติม วันนี้พิงค์ ลางานนะ ต้องไปทำ IDP ที่มหาลัย" พิงค์เอ่ย
"ได้" ผม เอ่ยตอบ ซึ่งผมเองก็แปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนเวลาผ่านมาก่อนพักเที่ยง พี่จิว เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะ
"นี่ๆๆ เติม เดี๋ยวเย็นนี้ไปส่งพี่หน่อยนะ ที่ห้างนะ พี่นัดพี่แอ๊ด ไว้ เดี๋ยวออกค่าน้ำมันให้เอง" พี่จิว เอ่ย
ผมเงยหน้าขึ้นไปพยักหน้าเงียบๆ"เพราะวันนี้ พิงค์ ก็ลาพอดีผมจึงไม่ได้กลับพร้อมเธอนั่นเอง
.
.
.
.
พอเลิกงานห้าโมงปั้บผมกับพี่จิว เราสองคน ก็ออกจากบริษัทมา ระหว่างทางเมื่อรถฮอนด้าของผมเลี้ยวเข้าถนนทางหลัก เมื่อผมเห็นสถานีเติมน้ำมันข้างหน้า ผมก็เอ่ยขึ้น
"พี่ ผมขอแวะเติมน้ำมันก่อนนะ"
"อืม แต่ชั้นจ่ายให้เองนะคราวนี้ แกเล่นไม่ยอมให้ชั้นจ่ายมาตลอดเลยเวลาชั้นให้แกมาส่งชั้นแบบนี้" พี่จิว เอ่ย
เมื่อผมจอดรถเทียบกับหัวจ่ายน้ำมันภายในปั้มป์แล้ว ขณะที่ผมหันไปบอกเด็กที่เติมน้ำมัน
"เต็มถังนะครับ"
จังหวะที่เราสองคนที่กำลังนั่งรอการเติมน้ำมันอยู่นั้น ผมที่มองอะไรออกไปเรื่อยเปื่อยข้างหน้าด้านนอกรถที่มีร้านกาแฟภายในสถานีบริการเติมน้ำมันตั้งอยู่ห่างออกไป ไม่เกิน 30 เมตร นั้น
สิ่งที่ผมเห็นชายหนุ่มหญิงคู่หนึ่งที่กำลังเดินพ้นประตูออกมาจากร้านกาแฟ
ทั้งสองกำลังเดินจูงมือเดินคุยกันอย่างดูมีความสุข ชายหนุ่มในชุดทำงานเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป ส่วนหญิงสาวผมยาวดูสูงโปร่งสวมกางเกงผ้าสีกรมท่ากับชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแต่ส่วนที่สะดุดตาผมที่สุดคงเป็นหน้าอกทั้งสองภายใต้เสื้อเชิ้ตที่หญิงสาวสวมใส่นั้นมันมีขนาดใหญ่ไม่น้อยนั้น ผมที่เพ่งมองขึ้นไปอีกก็ถึงกับร้องอุทานออกมา
"เฮ้ย นั่น"
"มีอะไรเติม ร้องมาซะจนพี่ตกใจหมด ...." พี่จิว เอ่ยถามด้วยความตกใจที่ผมร้องออกมาจนดังลั่นรถ
"พี่จิว ตรงนั้นที่ร้านกาแฟข้างนอก ผมเห็นพิงค์ เดินออกมากับผู้ชาย พี่เห็นไหม"
ผมที่หน้าตื่นทั้งตกใจทั้งสงสัย เอ่ยถามกับพี่จิว ที่มองไปยังร้านกาแฟภายนอกรถตรงหน้าตามที่ผมบอกทันใดนั้น เสียงพี่จิว ก็ร้องออกมา
" หา ยายนมใหญ่นี่ พิงค์... พิงค์นี่ ...ใช่ไหมเติม" พี่จิว เอ่ยถามขึ้นมาอย่างลืมตัว
"........"
ตอนนี้ภายในรถเงียบ เหมือนพี่จิว เธอเองก็เห็นเช่นกันนั้นแต่เธอคงไม่อยากพูดอะไรออกมา ทำให้ผมกับเธอ ต่างคนต่างอึ้ง จนทำตัวกันไม่ถูก
" เติม ใจเย็นๆก่อนนะ อาจจะไม่ใช่" พี่จิว เอ่ยแถไถออกมาทั้งๆที่สายตาเราทั้งสองคนต่างเห็นเหมือนๆกันว่าเป็นเธอแน่นอน แล้วเธอก็คอยบอกย้ำอยู่ตลอดให้ผมใจเย็นๆ
"ใจเย็นๆก่อนนะ เติม"
ด้วยผมกำลังทำท่าที่จะเปิดประตูรถออกไป พี่จิว ก็รีบคว้าแขนของผมไว้ แล้วเอ่ยขึ้น
"เติม พี่บอกให้ใจเย็นๆก่อนไง เติมน้ำมันให้มันเรียบร้อยก่อนนะ"
ผมที่ได้ยินหัวหน้าของผมเอ่ย
ทำให้ผมหยุดทุกอย่างแล้วทำตามที่เธอบอก
".............."
ภายในรถที่เงียบสงัดแล้วเราทั้งสองพร้อมใจกันหันกลับไปมองพิงค์ ต่อทันทีชายคนนั้นที่กำลังเดินจูงมือของหญิงสาวที่ผมถือว่าว่าเป็นแฟนของผมไปยังรถ BMW คันหนึ่งที่จอดอยู่ ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปนั่งกันภายในรถคันนั้น
ตอนนี้ในระหว่างที่ผมรอการเติมน้ำมันจากพนักงานอยู่นั้น มีแต่ความเงียบที่ดูบรรยากาศที่ดูแสนจะอึดอัดราวกับบรรยากาศมาคุในการ์ตูนสมัยเด็กของผม การเติมน้ำมันเต็มถังครั้งนี้ มันช่างดูยาวนานเสียเหลือเกิน จนผมพยายามหันชะโงกหน้ามองที่มิเตอร์หัวจ่ายน้ำมันอย่างลุกลี้ลุกลน
แล้วตอนนี้ตัวเลขบนมิเตอร์หัวจ่ายก็หยุดลง พนักงานที่กำลังถอดหัวจ่ายน้ำมัน ในสถานการณ์ที่ปกติการกระทำในขั้นตอนนี้นั้นใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เวลาเกือบๆ 60 วินาทีนั้น เป็นเวลาที่ไม่ได้นานมากในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่เวลาแต่เมื่อในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้นั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ เหมือนมันยาวนานหลายนาทีเหลือเกิน ภายในใจของผมมันพยายามเร่งเร้าให้เสร็จภารกิจจากตรงนี้ไปเร็วๆ สักที
"1,000 บาทครับ"
พนักงานเดินมาบอกค่าน้ำมันกับผม แต่ผมที่มัวแต่กังวลจนลืมหยิบบัตรเครดิตออกมาเตรียมไว้มันเลยยิ่งช้าลงไปอีก
"นี่ค่ะ น้อง" พี่จิว เอ่ย พร้อมยื่นธนบัตรหนึ่งพันบาทให้พนักงานทันที
แต่จังหวะนั้นเองผมหันมาก็เห็นรถ BMW คันนั้น กำลังเคลื่อนจะขับออกไปพอดี ผมตัดสินใจสตาร์ทรถเพื่อจะตามตามรถคันนั้นไป แต่กว่าจะออกรถออกมาได้ ผมก็ไม่เห็นรถคันนั้นแล้วเมื่อรถของผมออกมาสู่ถนนใหญ่
" เติม ใจเย็นๆก่อน ตั้งสติหน่อย" พี่จิว หันมาเอ่ยบอกผม คงหวังว่าให้ผมตั้งสติ และใจเย็นลงกว่านี้
"แต่พวกเราเห็นจริงๆ..........พี่ก็เห็นนี่" ผมเอ่ยแย้งผู้เป็นหัวหน้าออกมา
"....................."
พี่จิว เงียบไม่ตอบอะไรกลับมา
จนรถของผมมาหยุดระหว่างติดรอสัญญาณไฟ ผมก็เลือกที่จะโทรหาพิงค์ ในทันที
"ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ดติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ... ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียกค่ะ sorry that no answer from your number requested .... ติ้ด"
"ไม่รับเลยพี่จิว" ผมเอ่ยบอกพี่จิว พร้อมกับโทรหาเธออีกครั้ง
"ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ดติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ติ๊ด..ติ้ด ... ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียกค่ะ sorry that no answer from your number requested .... ติ้ด"
และคงยังเหมือนเช่นเดิมที่ไม่มีคนรับสายของผม
"เค้าอาจจะไม่ได้ยินก็ได้นี่. หรือไม่ก็เปิดสั่นอยู่......เดี๋ยวอีกสักพักค่อยโทรใหม่เอานะ เติม"
พี่จิว ยังพยายามช่วยพูดเพื่อให้ผมอารมณ์เย็น แล้วตัดสินใจอะไรให้ได้ดีกว่าการใช้อารมณ์
" งั้นเดี๋ยวผมไปส่งพี่จิว ให้เรียบร้อยก่อนแล้วกัน "
ผมเอ่ยบอกเธอไปจังหวะนั้นสัญญาณไฟเขียวขึ้น ผมจึงตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปส่งพี่จิว ที่ห้างตรงหน้าตามที่ตั้งใจไว้ให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
"ได้ๆ เติม แกใจเย็นนะ" พี่จิว บอก
ในที่สุดก็มาถึงที่จอดรถภายในห้าง พี่จิว ตั้งท่าจะเปิดประตูรถแล้วจะออกไป แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวขาลงจากรถ ก็มีรถ BMW คันที่พวกเราเห็นกันก็ขับผ่านเราไปก่อนจะเข้าไปจอดตรงไม่ห่างจากรถของผมนัก พี่จิวกับผมหันมามองหน้ากันอย่างหน้าตาตื่นกับสิ่งที่เพิ่งเห็นผ่านไป เพราะไม่คาดคิดว่าเราจะเจอรถคันนี้อีก และพี่จิว คงกลัวผมจะก่อเรื่องขึ้น พี่จิว มองหน้าผม ก่อนจะส่ายหัวพร้อมกับเอ่ยปากเตือนผม
"พี่ขอนะ เติม"
พี่จิว มองมาที่ผม แล้วหยุดยืนรอดูอยู่ข้างๆรถของผม ทันที่ผมพยักหน้าให้เธอแล้ว ผมก็เปิดประตูรถลง ก่อนเดินตรงไปหาพิงค์ ที่รถคันนั้น พี่จิว ที่ดูทีท่าแล้วว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีเธอเลยกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามผมมาห่างๆด้วย
ผมเดินไปเคาะกระจกรถฝั่งที่พิงค์ นั่งอยู่ แล้วเอ่ยขึ้น
"พิงค์ ......ไปไหนมา แล้วนี่ใคร"
พิงค์ ที่นั่งข้างๆกำลังคุยกับคนขับถ้าผมเดาไม่ผิดคนนั้นน่าจะเป็นชาติ เพื่อนสนิทที่พิงค์ สมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเธอที่พิงค์ เคยเอ่ยชื่อนี้ให้ผมได้ยินถึงบ่อยๆจนผมเองก็รู้สึกผิดสังเกตในความคิดของผมเหมือนที่ผมสนิทกับพี่มน จนคนอื่นหรือพิงค์ อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับผมก็ได้เช่นกัน พิงค์ หันมามองตามเสียงเรียกของผมแล้วเธอก็ต้องถึงกับสะดุ้ง อุทานออกมา
ภายในรถ
"เติม......."
พิงค์ รีบเปิดประตูรถก้าวลงมาโดยยังไม่ได้พูดอะไรออกมาเหมือนเธอยังตกใจจนยังจับต้นชนปลายทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
"พิงค์ เติม ระหว่างทางผ่านมาเห็นพิงค์ นั่งรถออกมา" แล้วผมพูดต่อ
"เติม โทรหาพิงค์ พิงค์ ก็ไม่รับ"
"................"
พิงค์ ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมาเพื่อจะแก้ตัวอะไร ส่วนทางด้านชาติ ก็ลงจากรถมายืนรอดูสถานการณ์เงียบๆ อีกฟากฝั่งหนึ่ง
พอพูดจบผมที่พอจะเข้าใจอะไรได้ดีอาจจะเพราะอาจจะเคยมีภูมิคุ้มกันจากตอนเคสของ อร แฟนเก่าของผมก็เป็นได้ แล้วผมก็เลยหันกลับเดินมานั่งที่รถของผมทันทีโดยไม่รอฟังคำพูดใดๆจากพิงค์ แล้วพี่จิว ที่เห็นว่าผมกำลังเดินกลับมานั้นเธอก็เปิดประตูกลับเข้าไปนั่งในรถเช่นกัน พอผมที่กลับมานั่งอยู่ภายในรถแล้ว พี่จิว รีบเอ่ยปลอบผม ทันที
" เติม ใจเย็นๆก่อน สงบสติอารมณ์ก่อน เรื่องอาจจะไม่มีอะไรก็ได้"
ขณะเดียวกันพิงค์ และชาติ ก็เหมือนจะคุยอะไรกันก่อนจะกลับขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปทันที
พี่จิว กับผม เราสองคนนั่งกันอยู่ในรถไปสักพักโดยที่ต่างคนต่างเงียบไม่พูดอะไรออกมา จนพี่จิว คงรู้สึกอึดอัด เธอเลยหาเรื่องคุยกับผมเมื่อเห็นอยู่ในสถานการณ์นี้เพื่อระบายความเครียด
"อยากไปกินอะไรก่อนกลับไหม เติม" พี่จิว เอ่ยถาม
"พี่จิว จะให้ผมกินอะไร ตอนนี้" ผมเอ่ยตอบไปพร้อมหันไปยิ้มแห้งๆให้เธอ
"เติม อยากกินอะไรล่ะเดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง หรือจะลงไปกินกับพวกเพื่อนพี่ก่อนไหม" พี่จิว เอ่ยปากชวนไปกินข้าวกับเพื่อนๆในกลุ่มของเธอที่นัดกันไว้วันนี้
" ถ้าตอนนี้ผมอยากกิน พี่จิว ได้ไหมล่ะ" ผมพูดทีเล่นทีจริงออกมาดื้อๆ
"พอเลย ไอ้บ้า แกยังมีกะใจพูดเรื่อยเปื่อยอีกนะ" พี่จิว เอ่ยว่าผมออกมา
ทันทีตามความสนิทสนมของพวกเราแล้วพี่จิว ที่เอ่ยออกมา แล้วเธอก็แอบมีรอยอมยิ้มออกมาที่มุมปาก ตอนนี้ด้วยที่ผมนั้นคงมีมีภูมิคุ้มกันเรื่องแบบนี้จากเมื่อครั้ง อร มาแล้ว ผมเลยเอ่ยออกมา
"คิดมากไปก็ปวดหัวพี่ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พิงค์ เค้าอาจะคบกับชาติอยู่พร้อมๆผมก็ได้ หรือไม่เรื่องนี้ผมก็หวังว่าผมจะเข้าใจผิดเอง เอาเป็นว่าช่วงนี้ผมยังไม่พูดถึงเรื่องพิงค์ แล้วกัน"
ผมเอ่ยด้วยพลางคิดในใจว่า'ตัวผมเองก็ไม่ได้ดีกว่าพิงค์เท่าไหร่นักหรอกในเรื่องแบบนี้กับในสิ่งที่ผมทำอยู่'
.
.
.
พี่จิว ที่ได้ยินผมพูดเธอก็นิ่งไปสักครู่เหมือนคิดอะไรอยู่ ก่อนที่เธอก็จะอมยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพี่จิวก็เอ่ย
"อือ พี่ได้ยินเธอคิดยังงั้นแล้วก็ค่อยโอเคหน่อย "
ก่อนที่พี่จิว จะหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมากดโทรออก
"ตี้ดๆๆๆๆๆ" "แกร๊ก"
"แอ๊ด วันนี้พี่แคนเซิลนัดก่อนนะเผอิญพี่ติดธุระ" เสียงพี่จิว คุยบอกปลายสายกับรุ่นน้องของพี่จิวไป แล้วเธอก็วางสายไป
"โอเค พี่แคนเซิลพี่แอ๊ดแล้วนะ" พี่จิว หันมาคุยกับผมก่อนเธอจะเอ่ยต่อ
"แต่เดี๋ยวพี่จะโทรคุยธุระอีกหน่อย เติม ช่วยเงียบๆเลยนะ"
"โอเคครับ พี่คุยธุระไปเถอะครับ"
"งั้นก็ออกรถไปได้แล้ว ไป"
พี่จิว เอ่ยใส่ผมอีกครั้ง พร้อมทุบเข้าที่ต้นขาอย่างแรง แล้วให้ผมก็ขับรถออกจากห้าง โดยเธอไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาว่าผมกำลังจะพาเธอไปที่ไหนตลอดทางบนรถ ผมที่ตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปที่รีสอร์ทแบบรายวันที่ผมเคยไปในทันที ผมขับรถไปได้ไม่นาน รถผมก็เลี้ยวเข้ารีสอร์ทรายวันแห่งหนึ่งเลี้ยวลัดข้ามสะพานคลองประปาตรงเข้าที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็วจนพี่จิว ที่นั่งมองดูผมที่ดูเป็นงานไปหมด จนเธออดเอ่ยแซวผมไม่ได้
"แหม เติม ทำไมคุ้นเคยกับที่นี่จังนะ เหมือนจะเคยมาเลยนะแก "
".................."
ผมที่เงียบไม่ตอบอะไรกลับไป จนผมก็เอารถก็เข้าจอดในที่ลานจอดรถทันที เมื่อรถจอดรถสนิท ผมก็เปิดประตูรถเดินออกไป แล้วพี่จิว ก็เดินตามผมไปแบบห่างๆ เพื่อไม่ให้เธอดูไม่ดีที่กำลังเดินเข้าในสถานที่แบบนี้ในเวลาเกือบหกโมงเย็นแบบนี้ เราสองคนเดินเข้ารีสอร์ทรายวันไปไล่ๆกัน พอเข้าประตูลอบบี้ไป พี่จิว ก็แยกไปนั่งที่โซฟาที่ลอบบี้ส่วนผมก็เดินมายืนที่เคาน์เตอร์เชคอิน หันหลังให้ประตูทางเข้ารีสอร์ท แห่งนี้
ผมที่คุยกับรีเซปชั่นได้สักพัก ผมก็หันไปกวักมือเรียกพี่จิว ให้มาหาผม เพื่อจะขอบัตรประชาชนของเธอเพื่อมาเช็คอินห้องด้วยเพราะผมไม่ได้หยิบกระเป๋าเงินมาเพียงแค่หยิบเงินค่าห้องมาอย่างเดียว พอพี่จิว เดินเข้ามาถึงใกล้ๆผมที่เคาน์เตอร์ ผมก็เอ่ยขึ้น
"ผมขอบัตรประชาชนหน่อยครับพี่" ผมเอ่ย
พอพี่จิว ได้ยินเธอก็ไม่พูดจาอะไรเพียงก้มหน้าพยายามไม่สบตากับพนักงานรีเซฟชั่นสาวอายุรุ่นคราวลูกสาวของเธอที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์นั้นพลางก้มหน้าเปิดกระเป๋าเงินแบบยาวของเธอหยิบบัตรประชาชนของเธอออกมายื่นให้พนักงานก่อนจะหลบสายตาทำเป็นมองไปทางอื่น ผมที่นึกอยากแกล้งพี่จิว เล่นบ้างเลยคว้าร่างของเธอเข้ามาแนบชิดกับร่างของผมโดยพี่จิว ที่ไม่ทันระวังก็โดนผมเข้าโอบเอวพี่จิว ที่ จนพี่จิว ถึงกับสะดุ้งแต่เธอก็ไม่ได้ร้องอุทานอะไรออกมาได้แต่เงยหน้ามองตรงมาที่ผมเท่านั้น เธอที่คงตกใจพูดอะไรไม่ออก ผมเลยเอ่ยแกล้งพี่จิว ต่อทันที
"พี่ปล่อยให้ผมเหงาทั้งคืนเลยนะ รู้ไหมผมคิดถึงพี่ทั้งคืนเลยนะ แต่วันนี้ทำไมอยู่ๆนัดผมมาเนี่ย" ผมเอ่ย แกล้งพี่จิว ก่อนจะยิ้มใส่เธอ ต่อโดยลอบสังเกตอาการเห็นพี่จิว ก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จาอะไรออกมา ผมยิ่งสะใจ ที่ได้แกล้งเธอแล้วเธอไม่สามารถตอบโต้ได้
"ขอโทษนะครับ ขอห้องแบบมีห้องน้ำเอาท์เดอร์นะครับ พวกเราอยากได้แบบนั้นน่ะครับ" ผมหันไปแกล้งถามพนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ต่อโดยเอ่ยเน้นคำว่า"พวกเรา"
"อ่อๆ ค่ะๆ แต่ต้องขออภัยนะคะตอนนี้ไม่เหลือแล้วน่ะค่ะ งั้นดิฉันจัดห้องของคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายเป็นห้องเตียงใหญ่ให้แทนแล้วกันนะคะ จะอยู่ชั้นที่ 2 นะคะ" พนักงานบอกตามหน้าที่พลางยื่นกุญแจส่งให้
"ขอบคุณครับ" ผมพูดพร้อมคว้ากุญแจหมับ แล้วจูงมือพี่จิว เดินไปที่ลิฟท์ราวกับคู่รักที่เข้ามาหาความสุขกันเหมือนคู่อื่นๆกัน
"ค่า พักผ่อนให้สนุกนะคะ หวังว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี.... อ่อที่เลือกมาพักกับเราค่ะ" พนักงานเอ่ยไล่หลังตามมา
ส่วนหน้าพี่จิว ตอนนี้หน้าแดงก่ำด้วยความอาย ผมเดินจูงมือพี่จิว เดินเข้าไปลิฟท์ โดยเธอไม่ยอมพูดอะไรด้วยสักคำ แต่พอประตูลิฟท์ปิดสนิทเท่านั้น พี่จิว ก็จัดการสะบัดมือของผมที่จับมือของเธออยู่สะบัดทิ้งทันที
"อีเติม แกล้งฉัน แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย แล้วดูสิวันนี้ชุดที่ชั้นใส่มาดูก็รู้ว่าทำงานที่ไหน... ว๊าย,,, ลืมเก็บบัตรพนักงงาน " พี่จิว ร่ายยาวด้วยความโมโหเพราะพี่จิว ใส่ชุดมาทำงานด้วยเสื้อโปโลที่มีตราบริษัทของพวกเราติดอยู่ที่หน้าอกกับกางเกงผ้าสีดำเข้าชุดกัน ก่อนพี่จิว จะร้องตกใจออกมาเมื่อเธอก้มหน้าลงมาจะพบว่าเธอลืมเก็บบัตรพนักงานที่เธอคล้องคอเธออยู่ตลอดที่ผ่านมาตั้งแต่ออกจากบริษัท
"ชั้นจะกลับเลยดีไหมเนี่ย อีบ้าเติม อายคนอื่นเป็นบ้า" พี่จิว บ่นออกมาไม่หยุด
"ช่างมันพี่ ที่นี่เค้าคงไม่สนใจอะไรหรอกมั้ง แต่ก็ขอโทษพี่ๆ นะ ขอโทษๆๆๆๆๆ "
ผมเอ่ยขอโทษเธอไม่หยุดเช่นกัน แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ลิฟท์ก็มาหยุดที่ชั้น 2 แล้ว เมื่อประตูลิฟท์เปิด แล้วผมก็เอ่ยขึ้น
"แล้วผมไม่ให้พี่กลับหรอกนะพี่จิว ไปกันเถอะ"
พูดจบผมก็จูงมือพี่จิว ก็เดินเข้าไปที่ห้องทันที โดยพี่จิว ก็ตามผมมาอย่างเหมือนทุกที เมื่อเปิดห้องเข้าไป พี่จิว ก็รีบเดินตรงเข้าไปในห้องทันที ส่วนผมก็จัดแจงปิดประตูห้องและสำรวจกลอนต่างๆเพื่อความเรียบร้อย พอผมปิดประตูห้องลงแล้ว
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆพี่จิว ทางด้านหลังแล้วยื่นหน้าไปหาพร้อมโอบเอวพี่จิว ที่กำลังยืนกดรีโมททีวีอยู่ จนเธอถึงกับสะดุ้ง
"เออใช่ อีเติม....นี่ .แกจะทำให้ฉันอายไปถึงไหนกันตอนเช็คอินก็ทีแล้วมาก่งมากอดแบบนั้นได้ไงต่อหน้าคนอื่น เดี๋ยวเถอะปีนี้ ฉันจะเอาคืนแกชั้นจะประเมินโบนัสของแกให้ไม่ได้ A แบบปีก่อนแล้ว เอา D ไปเลยแล้วกัน" พี่จิว เอ่ยปากร่ายยาวใส่ผมพร้อมหันมาที่จะออกทุบผมด้วย
"โอ๊ย ไม่เอานะพี่แบบนั้น"
ผมพูดพลางรีบวิ่งเข้าห้องน้ำก่อนเพื่อไปหลบจากสองกำปั้นของผู้เป็นหัวหน้าของผม
"ปังๆ"
"นี่แก ออกมาเลยนะ"
เสียงทุบประตู ของพี่จิว พร้อมเสียงร้องเรียกของเธอดังเข้ามาภายในห้องน้ำ
"ขอโทษๆๆพี่ เติม ล้อเล่น ไม่โกรธกันนะๆ" ผมเอ่ยย้อนกลับไป
"นี่แก ออกมาเลยนะ ไม่งั้นชั้นกลับแล้วนะ" พี่จิว เอ่ยอีกครั้ง
"ครับๆพี่ แป้บนึง ขอผมฉี่แป้บ เดี๋ยวออกไปแล้ว" ผมเอ่ยบอกพี่จิว ไป
หลังสิ้นเสียงเอ่ยของผม แล้วทุกอย่างก็เงียบลง เหมือนพี่จิว ไม่ได้อะไรผมแล้ว พอผมจัดการธุระส่วนตัวเรียบได้สักพัก ผมก็ค่อยๆแง้มประตูเดินออกจากห้องน้ำมา แต่ภาพที่ผมเห็นข้างหน้าก็ทำให้ผมแปลกใจ ภาพที่เห็นคือ เป็นพี่จิว ที่กำลังยืนเอาหูไปแนบกับผนังห้องตรงโซฟาที่ตั้งอยู่หัวเตียงของห้อง ดูพี่จิว จะตั้งใจเงี่ยหูฟัง เหมือนมีอะไรน่าสนใจ พี่จิว เห็นผมเดินออกมา เธอเลยกวักมือเรียกให้ผมไปหา พร้อมกับเอ่ยเบาๆ
" เติมๆ มานี่หน่อย พี่หูแว่วไปไหมเนี่ย"
"อะไรหรอพี่" ผมตอบ
แล้วเดินงงๆเข้าไป พี่จิว ยกนิ้วออกมาทำท่าจุ๊ปาก แล้วทำท่าให้ผมเอาหูแนบกับผนังห้องเหมือนเธอ แล้วผมก็เอาหูของผมแนบกับผนังห้องไม่ถึงกับชิดมากแบบพี่จิว ผมก็ได้ยินเสียงลอดเข้ามา เพราะฝั่งตรงข้ามส่งเสียงดังพอสมควร
"ซิ๊ดดดดด....อื้อออออ นั่นแหล่ะ.......อ๊าาา"
เป็นเสียงผู้หญิงจากห้องข้างๆ นั่นเองผมที่ได้ฟังเสียงแล้วก็รู้สึกคุ้นหูมาก
ตอนนี้ในเวลาตี 1 หลังจากที่พวกเราต่างก็แยกย้ายกันอาบน้ำเรียบร้อย
พี่จิว ยืนอยู่ที่หน้ากระจกกำลังติดกระดุมเสื้อโปโลทีละเม็ด แต่งหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคุยกับผมว่า
" เสร็จหล่ะกลับกันเถอะ"
"ค้างกันดีไหมพี่ ไหนๆพี่ก็บอกพี่มาด ว่าพี่อาจค้างนี่" ผมเอ่ย
"บ้าเหรอ.. ไม่เอา" พี่จิว ตอบพร้อมทำหน้าจริงจัง
"ล้อเล่นนะ พูดไปงั้นแหละ555" ผมเอ่ยพลางหัวเราะไปด้วย
จากนั้นเราทั้งสองก็พากันออกจากห้องขับรถออกมาจากโรงแรม ในระหว่างทางที่กำลังขับอยู่บนถนน ทั้งสองก็ผลัดกันชวนพูดคุยสนทนาแก้ง่วงจากอาการอ่อนเพลีย บทสนทนาก็ทั่วๆไป ไม่ได้เจาะจงกันแต่เรื่องเซ็กส์อย่างเดียว ส่วนมากจะพูดถึงงานที่ทำกันในบริษัทเป็นซะส่วนใหญ่
ก่อนที่พี่จิว จะเป็นฝ่ายถามเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับผมว่า
"จะมีใครรู้เรื่องของเรารึเปล่า เติม"
ผมที่กำลังมีสมาธิกับการขับรถบนถนน ก็ตอบกลับไปว่า
"ไม่มีนะ พี่ถามทำไมเหรอ"
"เปล่า แค่ถามรู้สึกว่า.. แต่ช่างมันเถอะ" พี่จิว ตอบ
"ไม่ต้องห่วงหรอก ทำตัวปกติคนอื่นก็ไม่รู้แล้ว แต่ว่าวันนี้... พี่สุดยอดมากเลยนะ"
ผมที่หันไปเปลี่ยนเรื่องบอกมองด้วยสายพิศวาส ภาพในตอนที่กำลังร่วมรักกันอย่างดุเดือดในวันนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว พี่จิว เองก็เช่นกันเธอแสดงออกอาการเขินจนหน้าแดงเลยบอกกับผมไปว่า
"มองถนนด้วยซิยะ"
แล้วเราทั้งสองก็อดอมยิ้มกันไม่ได้ ในตอนนี้พอมองหน้ากันปุ๊บ มันคงจะยากที่จะลืมหรือลบภาพในหัวไปได้
" คิดเหมือนกันใช่ป่ะเติม" พี่จิว เอ่ยถาม
"เรื่องนั้นหรือพี่ใช่ไหม" ผมตอบพี่จิว
"แล้วจะทำไงดี" พี่จิว เอ่ยต่อดูเหมือนพี่จิว จะเริ่มกังวลในความสัมพันธ์ของผมกับเธอ
"ก็ทำตัวปกติไง แปลกตรงไหน?" ผมหันมาบอกพี่จิว
พี่จิว เงียบก่อนบอกและเมินหน้าหนีมองข้างทางแล้วเอ่ยขึ้น
"อืม จะพยายามละกัน"
"พี่ก็รู้จัก FWB แล้วนี่" ผมบอกพลางเล่นหูเล่นตา
"FWB.. อืม เข้าใจแหล่ะที่เติม เคยบอก แต่พี่ลืมไปแล้วนี่ซิ ยังไงนะ" พี่จิว หันมาถามต่อ
"หยาบๆก็หมายถึงเพื่อนที่มีอะไรกันกันได้ไง" ผมบอกเธอไปแต่ไม่หันมาสบตากับเธอ
เมื่อเธอรู้ความหมายของ FWB อีกครั้งแล้วก็พี่จิว ก็เกิดคำถามขึ้นมาในหัวพี่จิว เลยถามกับผมมาตรงๆว่า
"เหมือนผู้หญิงจะเสียเปรียบนะพี่ว่า ว่าแต่แล้วมันผิดไหมอ่ะ เธอว่าไงเติม "
"....."
ผมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพราะไม่รู้จะตอบพี่จิว ยังไงดี ก่อนที่ผมจะเอ่ยขึ้น
"ก็... ไม่รู้ซิพี่.. ก็ถ้าไม่มีใครรู้ แล้วเราโอเคทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ"
พี่จิว ที่ได้ยินคำตอบของผมแบบนั้นเธอก็เงียบไป พี่จิว ที่เธอถามคงเพราะเธอรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กับสามีลับหลังขึ้นมาเฉยๆ
ผมว่าคำถามในหัวของของพี่จิว คงกำลังตีกันยุ่งเหยิง ไม่ว่าถ้าพี่มาด รู้เรื่องนี้แล้วจะโกรธไหม... เราควรจะบอกความจริงไหม... แล้วถ้าเกิดบอกความจริงแล้วรับไม่ได้ขึ้นมาล่ะ... นี่คงเป็นสิ่งที่อยู่ในหัวของพี่จิว ในตอนนี้
จนกระทั่งคำพูดของผมที่เอ่ยขึ้นมา
"พี่จิว ก็ต้องการเหมือนผมกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ"
จากนั้นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของพี่จิว ก็ค่อยๆจางหายไป พี่จิว หันไปคุยกับผมเป็นระยะๆจนถึงบ้าน ก็ลงจากรถและแยกกันตรงนั้น
.
.
.
.
มีเล่นชู้กัน
เจอสถานนะการแบบนี้มันเรารู้สึกว่าเวลาช้าลงแต่ยังดีที่เติมยังมีพี่จิวไม่งั้นน่าจะหนัก
พอ ๆกัน ต่างคนต่างมี
เสมอกัน
เย็ดแข่งกันเลย
ได้ยินเสียงจากห้องข้างๆมันคุ้นๆนะ หรือว่าจะเป็นพิงค์
ต่างคนมีมุมของตัวเอง
มีพี่จิวซับน้ำ
พิงค์เป็นของคนอื่นซะแล้ว
จะใช่พริ้งไหม อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นมาอยู่ห้องกล้กัน
น่าสงสารเติม หัวใจทำด้วยอะไร
เติมคงไม่ได้พิงค์ละมั้งใช่ไหม
เสียงพิงใช่ไหมนั่น เติมมาฟังเร็ว
ต่างคนต่างมีหยวนๆกัน
โดนเอาคืน
เสียบแบบนี้มัน
โดนเอาคืนบ้างช่างมัน
ว่าแล้วพิงต้องมอื่นถึงไม่ยอมให้เติมเอา
สุดยอด
เคลียร์กันยังไงละ
เคลียร์กันยังไงละ
หวังว่าคงไม่ใช่เสียงของพิงค์ ไม่งั้นซ้ำรอยกับอรแน่
เสียงพิงค์แน่นอนเลย เติมต้องจัดเสียงดังกว่าละ
ความอยากไม่เคยปราณีใคร
ไปมีคนอื่น พิงค์เลยทำตาม
ดูไม่ค่อยตกใจมากที่เห็นแฟนตัวเอง
::Evil:: สนุกมากครับ
สาวมนนี่แหละพร้อมเป็นแม่ศรีเรือนตัวจริงไม่จู้จี้จุกจิกสบายใจ
มัวแต่ลีลาเจ้าบุญเติมหมาคาบไปแดก
ชอบ
สงสัยเจอพิ้งค์แน่เลย
สรุปพิงค์ได้ผัวใหม่แล้วใช่ไหมคาับเนี่ย
เอาแล้วไง ตกลงเติมเป็นกิ๊กของพิงค์รึเปล่า หรือพิงค์จะแอบรู้ความลับของเติม เลยทำประชด
พิงค์
สงสัยเสียงหญิงข้างห้องที่ครางเป็นเสียงสาวพิงค์แหงๆ
ทำกันได้ ต้องเอาคืนให้หนัก
ก็ไม่แปลกใจที่พิงค์จะมีกิ๊กอะ ดูห่างเหินกันเกินนำไป
สรุปที่ไม่ให้คือกลัวผัวจับได้สินะพิ้ง
พิงค์โดนจับได้แล้ว
ขอบคุณมากครับ ต่างคนต่างคบซ้อน ก็วิน วินกัน นะครับ
นั้นไงว่าแล้วพิงค์ มีอะไรแปลกๆ
รออาาน
รอ
มาที่เดียวกันแน่เลย
พอปลดเปลื้องความต้องการแล้ว ความรู้สึกผิดก็เข้ามา
อย่าบอกนะ น้องพิงอยู่ห้องข้างๆ
พิงค์ สุดท้ายก็โดนคาบไป
พิ้งค์มีผัวใหม่แล้ว
เติมจะทำยังไงดี
อ้าวแฟนมีชู้ หักมุมมาก
มึนไปหมด
ตามต่อตาม
สายลับจับโดนเลย
::YehYeh::
พอกัน เติมก็มีหญิง หลายคน พิงค์ก็มีชายใหม่
ตัวเลือกเยอะ
ได้พิงค์ตอนไหน
สรุปห้องข้างคือพิงค์ ::Beggar::
::Evil:: ::JubuJubu::
เจอแฟนเก่าแน่
เนื้อเรื่องสนุกมากครับ
มัวแต่ไปยุ่งกับสาวใหญ่ แฟนเลยต้องไปพึ่งชายอื่น
สรุปแล้วบริษัทนี้พอๆกัน
55555
เพลินเกิน
นังบุญเติมว่าแล้วทำไมไม่กินน้องพิงสะทีสมน้ำหน้า ขอบคุณครับ
พิงค์น่าจะเย็ด
มัวแต่เสียบคนอื่นป่าว แฟนเลยมีมั่ง
ขอบคุณครับ
พิงค์น่าจะมีใหม่ละมั้ง
ไม่ให้เอา แต่ให้คนอื่นเอา
ช่างบังเอิญจริงๆ น้องพิงค์กับเจ้าชาติแน่ๆ
โชคดีจับฝั่งหญิงได้ก่อนนะ
::Fighto::
::Angry::
ห้องข้างๆคือ
โอ้ว
ตัวเองก็มีหลายคนแล้ว พิงค์คงอยากมีบ้าง ::DookDig::
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เสียงคุ้นๆ คือ?