ดีครับทุกคนเสร็จนานมากๆแล้ว แต่ส่งตรวจละก็ลืมไปเลย 55555 จนเห็นน้องงูเรื่องข้างล่างโผล่มาก็เลยต้องลงดึงกระแสกลับมาบ้าง 55555
มาดูกันนะครับว่างานล้างแค้นของสิงห์จะเดินหน้าได้มั้ย
EP. 6
"ว่าไงนะ! สิงห์หายตัวไป!!"
นายหญิงร่างเล็กอุทานขึ้น เบื้องหน้าเธอคือเหล่าสมุนนำโดยวิกรมที่ล่าถอยเสียขวัญหนีกลับมาเลียแผลตั้งหลักที่รัง
ในใจของพวกนั้นไม่ได้ยินดีเลยที่รอดตายมาได้ พวกมันต่างละอายใจที่ต้องทิ้งนายเหนือที่พวกมันควรจะปกป้องไว้ในซากระเบิด แถมกลับมาก็ต้องมาเจอนายหญิงอีก พวกมันไม่ว่าจะหัวโจกหรือหางแถวได้แต่ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตานายหญิงที่น้ำตาปริ่มจะไหลออกมา
สำหรับพวกมัน หากสิงห์สู้พวกมันยอมตายถวายชีวิตเพื่อเขา แต่นายหญิงของมันก็เปรียบดังเจ้าหญิงที่ไม่ยอมใครมาทำร้ายได้ ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เพราะความดีที่หมอฟางดูแลพวกมันดุจญาติจริงๆของเธอ
แต่ตอนนี้พวกมันทำนายใหญ่หายไปแถมทำนายหญิงผิดหวังและเสียใจอยู่ โดยที่พวกมันไม่อาจทำอะไรได้อีก
ฟาง: "นี่มันไม่จริงใช่มั้ย ทำไมทุกคนทิ้งเขาไว้แบบนั้นล่ะ ทำไม..."
ร่างบางเซซวนทำท่าจะเป็นลม โชคดีเกดประคองร่างเธอไว้ทัน เกดมองร่างนายหญิงก่อนจะถอนหายใจรีบให้คนนำเธอกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อนเธอจะนั่งเฝ้าหมอฟางที่นอนไม่ได้สติเพ้อถึงสามีของเธอ
ท่าทางกระสับกระส่ายทุรนทุรายของเธอนั้นทำเอาอดีตนางพยาบาลต้องให้ยานอนหลับเธอเพื่อให้เธอสงบลง
หลังจากนั้นเธอก็ได้แต่ภาวนาให้เจ้านายเธอรีบกลับมาไวๆ เธอทำแผลคนเป็นร้อยยังไม่หนักใจเท่าดูฟางเสียใจฟูมฟายเลย
ส่วนคนที่หายตัวไปก็กำลังนั่งกินข้าวร้านริมฟุตบาทอยู่ สิงห์ที่เดินเท้าเล็ดรอดเข้าเมืองมาก็รีบเดินทางเข้ามากรุงเทพและตอนนี้เขาต้องการพักฟื้นเป็นการด่วน จริงอยู่ว่าบาดแผลภายนอกจะปกติดี แต่ร่างกายก็มีขีดจำกัดทางกายภาพของมัน เขายังต้องนอนต้องกินอยู่ แม้เขาอาจจะใช้ไอมารไปชดเชยความต้องการพื้นฐานได้แต่มันก็สิ้นเปลืองพลังและยุ่งยากมากเกินไป เขาจึงเลือกจะหาอะไรง่ายๆกินและเปิดโรงแรมเล็กๆนอนเพื่อฟื้นฟูร่างกายแทน
สิงห์ทิ้งตัวลงและหลับทันทีแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายดายขนาดนั้น เมื่อมีร่างหนึ่งมายืนอยู่ข้างเตียง สิงห์ที่สัมผัสได้ก็เกร็งพลังทันใดหวังจู่โจมก่อน แต่มือหยาบกลับไวกว่า มันแตะร่างที่กำลังจะพุ่งใส่ราวลูกธนูราวกับวางมือเบาๆ แต่สิงห์กลับขยับอะไรไม่ได้เลย สิงห์เร่งเร้าพลังพยายามจะขัดขืนร่างที่นอนอยู่มีไอพลังสีแดงพุ่งออกมาคล้ายหมอกสีเลือด
แต่ร่างที่ยืนอยู่หรี่ตามองไอพลังอย่างไม่ยี่หระ
"ข้าเองสิงห์"
เสียงซาตานดังขึ้น สิงห์จึงหยุดใช้พลังและลืมตาขึ้นแต่เสียงมันดังขึ้นก่อน
ซาตาน: "ไม่ต้องลืมตา เจ้านอนต่อไปเถอะข้าแค่มาตรวจร่างกายเฉยๆ ดูท่าทางเจ้าต้องพักจริงๆ หลับซะตัวแทนของข้า"
สิ้นเสียงมันสิงห์ก็ค่อยๆง่วงจนหลับลงไป แต่ก่อนสติจะดับลงซาตานเอ่ยชมเขาเบาๆ
"เก่งมาก ในที่สุดเจ้าก็รับรู้ถึงข้าได้แล้ว อาาา ช่างน่ายินดี"
ซาตานถ่ายพลังให้สิงห์เพื่อทำให้ตัวแทนของมันฟื้นตัวได้ดีขึ้น แต่มันจะทำให้สิงห์นอนนานขึ้นเช่นกัน
ซึ่งนี่จะทำให้ซาตานมีเวลาพอสำหรับเตรียมการฆ่าผู้หญิงซักคน โดยที่ไม่มีใครขัดขวางได้
เด็กหนุ่มมองลอดออกจากกรงผ่านร่องตาราง
ใช่มันรอดเพราะนอนสลบอยู่ในบ้าน ตื่นมาก็โดนจับมาขังร่วมกับพวกลูกน้องคนอื่นๆ
พวกมันนอนอยู่ในนี่มาสามวันแล้ว บ้างคนก็โชคดีที่มีลูกเมียมีญาติมาประกันตัวออกไป บ้างคนมีคดีอื่นอยู่ก่อนก็โดนจับไปขึ้นศาลตัวมันเองนอกจากนั่งเฝ้าหน้าผับหน้าซ่องก็ไม่เคยทำอะไรผิดอีก โชคดีตอนตำรวจเจอมันปืนที่แจกให้ไปยิงกับอีกฝ่ายโดนขโมยไป ไม่งั้นละเขาโดนยัดเรือนจำไปแล้วไม่ใช่มานอนในสถานีตำรวจแบบตอนนี้แน่
มันมองลอดออกไปบนฟ้าอย่างโหยหาอิสระภาพ แค่คุกใน สน ยังไม่น่าอยู่ขนาดนี้ แล้วเรือนจำที่แออัดกว่าจะขนาดไหน มันนึกถึงหน้าแม่ที่ป่วยตายทิ้งมันกับหนี้สินกองโต ตัวมันเองก็เลยต้องขายไร่ที่ที่นามาตายเอาดาบหน้าในกรุงสุดท้ายก็ต้องลงเอยในคุกแบบนี้ ทำไมฟ้าไม่ให้โอกาสมันบ้าง ทำไมชีวิตคนจนๆแบบมันต้องมาติดคุกอยู่แบบนี้
"นายจิม จิ้มลิ้มสกุล ออกมาได้แล้ว"
เขามองนายสิบร่างใหญ่ราวควายป่าขานชื่อตน คงตาเขาไปขึ้นศาลแล้วสินะ ร่างผอมแห้งลุกเดินออกจากห้องขังอันแออัดออกมาที่โต๊ะร้อยเวร
"ไอ้หนุ่มมาๆ เซ็นต์ชื่อตรงนี้แล้วไปได้แล้ว อย่าลืมขอบคุณท่านถวิลเขาละ ไม่มีท่านมายืนยันว่าเอ็งไม่ใช่คนร้ายละก็นอนในคุกเป็นปีๆแน่"
ร้อยเวรร่ายยาวและชี้มือไปที่ตำรวจที่บ่ามีดาวเยอะกว่าร้อยเวร เขารีบไหว้ตำรวจท่านนั้นทันทีเขาไม่รู้หรอกว่าท่านเป็นใครทำไมช่วยตน แต่บุญคุณครั้งนี้ช่างยิ่งใหญ่สำหรับมันนัก รอดพ้นซี่กรงห้องขังก็บุญท่วมหัวแล้ว
ตำรวจท่านนั้นแม้จะดูมีสง่าราศีแต่บนใบหน้าที่มันแอบชำเลืองมองก็เห็นรอยแผลที่มีผ้าก็อตติดอยู่หลายจุด เผือกอ่อนที่แขนขวาผูกแขนให้ห้อยติดกับคอไว้ มันฟังตำรวจสองนายคุยกันจับใจความไม่ค่อยได้เพราะมันไม่กล้ายืนใกล้ๆมากนัก แต่เท่าจับได้มีอะไรซวยๆโชคดีโชคร้ายกับตำรวจที่มาเอาตนออกจากคุก
และพอตำรวจที่ช่วยตนลุกขึ้นมากันหน้าให้มันเห็นชัดๆไอ้จิมหนุ่มบ้านนอกก็นึกออกทันที
แต่ถวิลก็รีบโอบไหล่ลากมันออกจากสถานีไปซะก่อน
"ลุง!.... ไม่สิท่าน! นี่ลุงคือคนในคืนนั้นที่ผมช่วยหิ้วปีกเข้าไปหลบในบ้านก่อนผมจะสลบนิ แล้วทำไมเป็นท่าน อะไรยังไง?"
สมองทึบๆของมันยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
ถวิลมองมันตั้งแต่หัวจรดตีนก่อนจะกอดอกและส่ายหน้าเบาๆ
"ถ้าอยากรู้อยากคุยอะไรก็ตามมาสิ"
ถวิลเดินนำมันผ่านตลาดผ่านฝูงชนไปหยุดที่ร้านกาแฟเก่าๆในตลาดข้างสถานี
"กินอะไรก็สั่ง สั่งข้าวแถวนี้มากินในร้านก็ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องราคา"
ถวิลตบบ่ามันเบาราวกับรู้ว่ามันไม่เงินติดตัวซักบาท
ถวิลบอกมันจบก็หันไปสั่งกาแฟ
พอมันรู้ตัวอีกทีมันก็ฟาดข้าวมันไก่ไปสองจาน ราดหน้าอีกจานน้ำหวานน้ำอัดลมกาแฟอีกหลายแก้ว มันไม่ได้กินอิ่มมานานแล้ว อาหารที่แน่นในท้องคือความสุขของคนหาเช้ากินค่ำแบบมัน
ถวิล: "อิ่มแล้วรึยัง"
ไอ้จิมผงกหัวและพนมมือไหว้ตำรวจรุ่นลุงตรงหน้า
ถวิล: "ไม่ต้องไหว้ ฉันไม่ได้กะเลี้ยงเธอฟรีๆ ไหนบอกสิเธอไปอยู่กับพวกมันได้ไง และรู้อะไรบ้าง"
จิมกลืนน้ำลายลงคอ มันไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นเรื่องที่ทำงานเก่ามันอีกแล้ว มันเคยเห็นพวกที่ปากมากมากสว่างโดนถ่วงทะเลนั่งยางมาหลายศพแล้ว ขืนมันพูดมันก็อาจจะตายก็ได้ซึ่งถวิลก็เดาใจมันออก
ถวิล: "ถ้าจะตอบว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรเธอก็ต้องจ่ายค่าอาหารเองนะ ฉันไม่จำเป็นต้องเลี้ยงข้าวอยู่แล้ว เก็บเงินด้วย แยกจ่ายนะ"
เจ้าของร้านเดินมาคิดเงิน ซึ่งปรากฎว่ามันกินคนเดียวเกือบสามร้อยแล้ว มันไม่เงินจ่ายแน่นอน มันมองสายตาบรรดาร้านข้าวร้านน้ำต่างๆที่ยืนรอมันจ่ายเงิน โดยเฉพาะร้านข้าวมันไก่ที่คนขายถือปังตอสับไก่มาด้วย ประกายมีดเงาวิบๆทำมันใจหดใจหายมือไม้ระทวย
ถวิลมองเด็กหนุ่มและฉีกยิ้มเบาๆและลุกขึ้นเดินออกจากร้านไป ไอ้จิมรีบกระโดดตะครุบเท้าถวิลไว้ทันที
จิม: "ไหนท่านบอกจะเลี้ยงข้าวผมไง ท่านหลอกผม"
มันโวยวายประท้วงทันที แต่ถวิลก็ยืนนิ่งและหันไปถามมันเนิบๆ
ถวิล: " แต่ไม่ได้บอกว่าไม่มีเงื่อนไข และเธอก็ไม่ถาม ฉันหลอกเธอตรงไหน เธอยอมตอบฉันก็จ่าย ไม่ตอบก็ไม่จ่าย ข้าวเธอก็สั่งเองน้ำก็สั่งเอง ฉันไปหลอกไปบังคับเธอซะที่ไหนละ เอาละว่าไง!"
มันมองปังตอสับไก่ กระบวยชงกาแฟ และตะหลิวราดหน้าที่พร้อมจะกระหน่ำตีมันก่อนจะกอดขาถวิลแน่น
"ครับๆ ผมบอกทุกอย่างเลย ผมยอมแล้ว"
ชั่วโมงต่อมาถวิลก็เดินนำไอ้จิมออกมาที่หน้าตลาด เขาไม่ค่อยได้อะไรจากไอ้หนุ่มจิมคนนี้ ซึ่งก็กะไว้อยู่แล้ว อันที่จริงเขาก็กะเลี้ยงตอบแทนที่มันช่วยเขาออกจากซากอาคารและนิสัยใจคอของมันก็ดีเกินจะมาอยู่กับพวกนรกนั้น คนแบบนี้ควรได้โอกาส
คิดแล้วถวิลยังเสียดายภาพในกล้องที่แอบถ่ายมาได้แต่ข้อมูลกับถูกทำลายจากระเบิดไปพร้อมเครื่อง งานนี้เจ็บตัวก็เจ็บโดนด่าที่ไปยุ่งคดีอื่นในท้องที่อื่นอีก แถมยังคว้าน้ำเหลวกลับมามือเปล่าอีก โชคยังดีที่ผมงานเก่ายังพอมี ไม่งั้นเขาคงต้องหาอาชีพใหม่
แต่เรื่องราวรอบนี่มันทำให้รู้ว่าตัวคนๆเดียวไม่อาจสู้ตามลำพังได้
ที่สำคัญที่สุด เขาเห็นสิงห์กับตาตัวเองแล้ว เขาจะรู้ให้ได้ว่าเรื่องราวมันเป็นอะไรยังไง แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็ต้องมีพวกพ้องเป็นฐานอำนาจเสียก่อน และช่วงนี่เขาต้องเก็บตัวเพื่อรอเวลาซะก่อน
ถวิล: "ไอ้หนุ่ม ต่อไปจะทำยังไงต่อ"
จิม: "เออ...ผมก็ไม่รู้ครับ"
ถวิลเปิดประตูรถฝั่งคนขับออก ก่อนยื่นกุณแจรถให้มัน
ถวิล: "ขับรถเป็นใช่มั้ย งั้นมาขับให้ฉันละกัน"
จิมมองหน้าถวิลสลับกับกุณแจอย่างตื้นตันใจมันรีบคว้าโอกาสใหม่ในชีวิตทันที
ต่อไปนี้มันจะได้ทำอาชีพสุจริตแล้ว มันกุลีดุจอเปิดประตูให้เจ้านายคนใหม่ของมันทันที
จิม: "เชิญครับนาย"
ถวิลเดินไปตบไหล่มันเบาๆ และนายกับลูกน้องคู่ใหม่ก็นั่งรถออกไป
ขณะเดียวกันสิงห์ก็สะดุ้งตื่น เขาทะลึ่งลุกพรวดขึ้นมา ใบหน้าซีดเซียว
เขาผวาตื่นเพราะฝัน เขาฝันร้ายเขาฝันเห็นศพฟาง เขาไม่เคยฝันหลังจากพ้นวัยเด็ก และเขาเชื่อว่าตอนนี้กำลังมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ
"ซาตาน ท่านข้ามีเรื่องให้ช่วย"
สิงห์ผุดลุกยืนเมื่อรับรู้มันมาถึง
ซาตาน: "ข้าพึ่งไปดูให้เมื่อครู่ ทุกคนปลอดภัยดี ไม่มีอะไรให้กังวล"
สิงห์: "โล่งอกว่าแต่เกิดอะไรขึ้นครับ"
ซาตาน: "มันเป็นเรื่องที่อธิบายลำบาก ไว้ค่อยเล่าตอนนี้เจ้ามาจัดการไอ้ผลงานที่ค้างคาของเจ้าก่อน ข้าจะเห็นแก่ความพยายาม ข้าจะบอกว่ามันอยู่ที่ไหน"
แม้จะยังแคลงใจกับภาพฝัน แต่สิงห์ก็พยักหน้าให้ซาตานก่อนจะเดินไปอาบน้ำเตรียมตัวทำงานชิ้นแรก
โดยที่ไม่รู้ไม่เห็นเลยว่าซาตานกำลังเตรียมการสำหรับแผนอันน่ากลัวอยู่ แผนที่จะผลักสิงห์ลงไปในความมืดมิดตลอดกาล
ณ โรงแรมชั้นบนสุด
โรงแรมที่ด้านบนถูกเหมาซื้อและตกแต่งอย่างงดงาม โดยทุกบาทที่ซื้อทุกสตางค์ที่ตกแต่งมาจากภาษีที่ฉ้อฉลมาและความเดือดร้อนของคนบริสุทธิ์
โดยที่เจ้าของห้องร่างอ้วนก็กระเด้าบั้นเอวใส่ร่างอรชรบอบบางที่โก้งโค้งในท่าหมาอยู่
แต่แม้จะเสียวส่านปานใดหญิงสาวคนนั้นก็มีแต่ความหม่นหมองหาได้เต็มใจร่วมรักกับชายรุ่นปู่รุ่นพ่อเลย
"โอยยยย อีบัว หีมึงนี่ยังฟิตดีจริงๆ กูจะออกแล้ว อะๆ โอยยยย"
ชายวัยลุงกระตุกร้องลั่นราวควายถูกเชือดเสร็จสมเรียบร้อยมันทรุดลงนั่งหอบจนซี่โครงบาน ส่วนหญิงสาวก็หยิบกระดาษมาเช็คร่องสวาทสีแดงของตน เธอไม่ยังอยากให้เชื้อชั่วๆอยู่ร่างกายเธอนานนัก อีกไม่กี่ปีเธอจะหลุดพ้นกับไอ่แก่สารเลวคนนี้แล้ว เธอนับวันนับคืนรอ หญิงสาวจำใจเป็นทาสกามมันมานานนับปีๆ
รองอนันต์คนชั่วตัวเดิมที่ตอนนี้ใส่กางเกงแล้วกระชากเด็กสาวกลับมากอดจูบลูบไล้อีกครั้ง
ผู้การอนันต์: "ทำหน้าแบบนี้อีกแล้ว ยังไงเธอก็ไม่พ้นมือฉันหรอก อีกอย่างนี่ก็ไม่ใข่ครั้งแรกจะอะไรนักหนาละจ๊ะ"
เธอหันหน้าหลบอย่างรังเกียจ มันกลับหัวเราะหึๆไอ้เด็กคนนี้พูดดีๆไม่รู้เรื่อง
ผู้การอนันต์: "มึงรับข้อเสนอไปแล้ว เย็ดครั้งละแสน ปลดหนี้ให้พ่อบังเกิดเกล้า ใครจะไปนึกว่าครูสอนรำสุดสวยแสนเรียบร้อยจะมีอาชีพเสริมแบบนี้ คงต้องขอบคุณพ่อมึงแล้ว"
บัว: "อีกไม่กี่ครั้ง! อีกนิดเดียว! ชั้นจะพ้นจากไอ้คนเลวแบบแกแล้ว"
สาวน้อยบนเตียงทนความรังเกียจไท่ไหวหลุดปากตวาดใส่มัน
แต่ประโยคต่อมาก็ทำลายความหวังอันริบหรี่ของเธอลงสิ้นซาก
ผู้การอนันต์: "พ่อมึงเพิ่งเล่นเพิ่มเสียไปอีกสามล้าน ไม่เชื่อมึงโทรหาพ่อเลวๆหรือจะไปดูกล้องในบ่อนกูก็ได้"
นางรำสาวทรุดลงไปนั่งที่พื้น
ผู้การอนันต์: "รอบนี้กูให้แค่รอบละห้าหมื่นพอ ถ้าไม่ยอมกูก็คงต้องจับพ่อมึงไปเชือด ฮ่าๆๆ อีโง่คิดเหรอว่ามึงจะรอด ออกไปให้พ้นไปตีน กูเงี่ยนจะเรียกมาใหม่ ไสหัวไป"
หลังจากถีบหัวส่งนางบำเรอกามไปพ้นๆ มันก็เดินขึ้นกลับไปพักชั้นบนสามชั้นของตึกนี่คือของมัน แน่นอนว่ามันใช้ชื่อคนอื่นบังหน้าเรียบร้อย
ชายชราบ้าอำนาจตัณหากลับรินบรั่นดีนั่งจิบ พร้อมกับควักบุหรี่มาสูบ
มันนั่งพักผ่อนอยู่พักใหญ่ๆก่อนจะเดินไปนอนบนเตียง
ตี๊ดดดดๆ
เสียงโทรศัพท์ดังทำให้ร่างอ้วนฉุต้องพลิกร่างมารับ
ผู้การ: "เสี่ยโทรมาดึกๆมีอะไรอีก?"
เสี่ยอิน: "แค่มาถามว่าทางนั้นคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว"
ตำรวจชั่วแสยะยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกถึง "งาน" โดยงานนี้ที่สำคัญพึ่งทำสำเร็จ
มันพึ่งล่อพวกโง่ที่จ้องจะฆ่าเขาให้ระเบิดเป็นเศษเนื้อไปเมื่อคืน มันเห็นกับตาว่าพวกนั้นเข้ามาติดกับเต็มๆ
ผู้การ: "เรียบร้อยเห็นข่าวแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่มีใครสงสัยพวกเราเลย สื่อไม่กล้าลงว่าเป็นระเบิดด้วยซ้ำ เชื่อผมแต่แรกก็สิ้นเรื่อง"
เสี่ยอิน: "ท่านบอกแบบนี้ผมจะได้สบายใจ ช่วงนี้สังหรณ์ไม่ค่อยดี นอนไม่สบายมาหลายคืน"
ผู้การ: "เสี่ยก็ซีเรียสไป งานของเราโดนทำลายไปไม่ถึงครึ่ง ระดับแค่นี้องค์กรของเรารับสบายมาก ในประเทศนี่เหลือกี่คนกันเชียวที่มีอำนาจใกล้เคียงเรา"
ผู้การอนันต์ตอบเสี่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจ อีกไม่กี่ปีพวกมันก็แทรกซึมได้ทุกระดับทุกวงการในประเทศนี่แล้ว ประเทศนี่กำลังถูก"ความมืด"กลืนกิน
เสี่ยอิน: "งั้นก็แค่นี้ละกัน ผมขอตัว"
ตำรวจชั่วทิ้งตัวหลับลงไปด้วยความเพลียผสมความเมา โดยไม่รู้เลยว่านี่คือคืนสุดท้ายในชีวิตชั่วๆของมันแล้ว
ด้านล่างของตึก ในเวลาดึกอันเงียบสงัด
ความตายของตำรวจชั่วก็ลงจากแท็กซี่เก่าๆชายร่างกำยำก็เดินเข้ามาในตึกลึกจนถึงลิฟต์พิเศษ ทางเข้าเดียวไปยังชั้นดานฟ้าของอนันต์ นายตำรวจนอกแถวระดับแถวหน้าของประเทศผู้มีอำนาจมหาศาลในเมืองไทย
ยามของตึกที่เฝ้าด้านล่างรีบเดินมาขวาง
ยาม1: "คุณครับตรงนี่เข้าไม่ได้นะครับ"
สิงห์แสยะยิ้มขึ้น พูดห้วนๆด้วยสีหน้าเรียกตีน
สิงห์: "แล้วถ้า...กูจะขึ้นอะ"
เพื่อนยามในชุดสูทธอีกคน เดินพรวดออกมาผลักอกสิงห์ท่าทางพร้อมกระทืบเขาเต็มที่
ยาม2: "พูดดีแล้วไม่ยอมกูกระทืบจริงๆ อย่าหาว่าโหดนะมึงกลับไปได้แล้วก่อนกูจะโกรธ"
สิงห์: "ก่อนจะโกรธ ใช่ๆมึงต้องหลบไปก่อนกูจะโกรธ เว้นมึงจะอยากตาย กูต้องธุระต้องรีบจัดการไสหัวไป"
ยามคนนั้นชักสีหน้าใส่เงื้อหมัดต่อยสิงห์ทันที
ตูมมมม โครม!!!
เสียงร่างยามคนที่ต่อยกลับลอยกลับมากระแทกประตูลิฟต์จนบุบ สันจมูกและฟันหลายซี่หักนอนนิ่งสนิทราวกับตาย ยามคนแรกมองสภาพเพื่อนอย่างตระหนก มันรีบล้วงกระบองเหล็กยืดออกมาออกมาหมายฟาดชายแปลกหน้า แต่ชายคนนั้นกลับหายออกไปจากสายตาและมายืนอยู่ด้านหลังตัวเอง พร้อมกับกระบองยืดของมันเองที่อยู่ในมือสิงห์
กระบองหายไปจากมือมันโดยที่มันไม่รู้สึกตัวแม้แต่น้อย มันกลัวจนก้าวขาไม่ออกแม้แต่น้อย
ชายคนนี้เป็นใครกัน ทำไมเขามองไม่ทันเลย
สิงห์คืนกระบองให้ยาม ก่อนจะกดตัวมันที่แข้งขาอ่อนให้ทรุดลงไปนั่ง
สิงห์: "ถือว่าฉลาดกว่าเพื่อน นั่งนิ่งๆแบบนี้ดีแล้ว แล้วก็คืนนี้รีบกลับบ้านไม่ต้องรู้เห็นอะไรทั้งนั้น"
สิงห์ลากยามอีกคนที่ขวางหน้าลิฟต์ออก คว้านหาคีย์การ์ดที่พาตนไปยังด้านบนก่อนจะขึ้นลิฟต์ไป
พอลิฟต์พ้นจนลับตายามที่ยังรอดอยู่ถึงจะค่อยๆขยับตัวได้ พอมันขยับมือข้างที่ถือกระบอง
กระบองยืดที่ทำมาอย่างดีก็หักเป็นท่อนร่วงลงต่อหน้าส่งโลหะร่วงกราวกระทบพื้นกังวานไปทั่วบริเวณยามคนนั่นรีบเก็บของหนีกลับบ้านทันที
สิงห์ยืนตรงในลิฟต์ ทบทวนทุกอย่างที่รู้ในหัว สามชั้นบนสุดคือที่ของพวกมัน แค่เป้าหมายของเขาอยู่บนสุดทั้งสามชั้นมีบรรไดหลายจุดมันสามารถขึ้นมาช่วยหัวหน้ามันได้เรื่อยๆ ระบบตึกมีไฟสำรองแผนดับไฟจึงใช้ไม่ได้
ซาตาน: "ก็ลุยตรงๆนี่ละ ถือซะว่าเป็นสารประกาศสงครามกับมันซะเลยสิ เปิดตัวให้มันอลังการไงละ"
สิงห์ลูบคางที่มีเคราเขียวสองสามทีครุ่นคิดบวกลบอยู่ในใจ
ซาตาน: "หนี้เลือดข้างด้วยเลือดไงสิงห์ ไม่มีเวลาคิดแล้วจัดหนักเลยอย่าให้เสียงชื่อตัวแทนของข้าละ"
ซาตานพูดจบก็สลายตัวหายไปพร้อมกับลิฟต์ที่เปิดออก เหล่าสมุนทั้งหลายมอชายแปลกหน้าอย่างุนงง
สิงห์ลืมตาขึ้นช้าๆ ดวงตาทั้งสองข้างแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงดุจดวงไฟ
สิงห์: "งั้นก็ฆ่าให้หมดเลยละกัน"
ร่างกำยำกำหมัดแน่นและเดินของจากลิฟต์ช้าๆ
"มึงเป็นใครวะ เด็กใหม่รึเปล่า...ทำไมไม่เคยเห็นหน้าวะ"
มือปืนที่คุ้มอยู่หน้าลิฟต์ มองใบหน้าสิงห์ด้วยความแปลกใจ ขณะที่สิงห์กำมือแน่นจนกระดูกลั่นดังจนลูกน้องแถวนั้นทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียว ไอมารที่เขามองเห็นคนเดียวลอยม้วนวนเข้าไปในแขนทั้งสองข้างฟันขบแน่นเตรียมตัวปลดปล่อยความแค้น
จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าหามือปืนคนที่กำลังถามเขาอยู่ หมัดขวาฮุคอัดเข้าไปที่ท้องแรงหมัดเสยยกร่างมันลอยไปชนเพดานและหล่นลงมานอนนิ่ง สิงห์แสยะยิ้มให้พวกมึงที่ยืนตะลึงก่อนจะวิ่งเข้ามาพวกมันต่อทันที
ชายร่วงอ้วนสูงวัยสะดุ้งตื่นกลางดึก มันฝันเห็นไฟคลอกตัวเอง ใบหน้าอุดมด้วยไขมันส่วนเกินมีแต่เม็ดเหงื่อพราว มันรีบลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะเดินกลับมานอนต่อที่เตียง มือคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาหมายจิบเบาๆกล่อมตัวเองให้หลับยาว จะได้ไม่ต้องฝันร้ายแบบนี้
จะว่าไปก็แปลกมันไม่เคยฝันมานานมาก นานจนจำครั้งสุดท้ายไม่ได้ แล้วทำไมคืนนี้มันถึงฝันกันละ ฝันร้ายเตือนภัยเหรอ?
ตำรวจกังฉินร่างอ้วนลูบหน้าขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านเอื้อมไปมือคว้านหาขวดเหล้าที่วางไว้ที่โต๊ะใกล้ๆแต่กลับหาไม่พบมันหันไปมองก็ไม่เจอ
"หาไอ้นี่อยู่เหรอครับท่าน"
สิงห์ทุ้มเรียบจนคนฟังสัมผัสถึงความน่าหวาดหวั่นดังขึ้นในห้องส่วนตัวของนายตำรวจใหญ่ ห้องส่วนตัวที่มีการ์ดไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ยามของตุกร่วมถึงนักฆ่าที่องค์กรส่งมารับใช้ ทุกคนมีรวมๆกันเกือบห้าสิบคน แล้วทำไมชายตรงหน้ามาอยู่ในห้องเขาได้ แต่พอผู้การอนันต์มองชายตรงหน้าอีกทีแววตาของมันก็กลายเป็นความหวาดผวา
ผู้การ: "ไอ้สิงห์...มึง! มึงตายไปแล้ว กูเห็นกับตา ไม่ๆเป็นไปไม่ได้"
ชายร่างอ้วนกระเถิบตัวหนีไปจนสุดเตียง คนที่ตายไปแล้วทำไมมาอยู่ตรงหน้าตนได้ เขาเห็นว่ามันถูกหั่นเป็นชิ้นๆและถีบลงแม่น้ำกับตา ตอนที่อากาศรายงานว่ามันถูกสิงห์ตามฆ่า ตัวมันเองยังขำไอ้อากาศอยู่เลย
แต่พอมาถึงวินาทีนี้ มันก็ขำไม่ออกแล้ว
ไอ้สิงห์มันคืนชีพได้จริงๆ!!!
สิงห์: "ก็รอดมาได้ แต่ก็แทบแย่เหมือนกันครับท่าน วันนี้ผมระลึกได้ถึงความดีของนายก็เลยแวะมาเยื่ยมเยือนตามประสาลูกน้องเก่า"
สิงห์พูดอย่างสบายๆ น้ำเสียงทุ้มไม่แววของความกราดเกรี้ยว
สิงห์ : "รอบที่แล้วท่านให้รางวัลผมมา ผมชอบมาก วันนี้ก็เลยเอามาให้มึงบ้าง!!"
แต่พอขึ้นประโยคถัดมาแววตาและความเสียงเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นตะคอก
ร่างใหญ่ลุกพรวดและเดินมาหาชายอ้วนทันทีแต่เสือร้ายถึงจะลงพุงแต่ก็ยังเป็นเสือมันแอบมาหยิบปืนที่ซุกติดไว้ใต้เตียงกระชากออกมาเป่าสิงห์ในระยะใกล้
ปืนลูกโม่เงาวิบสะท้อนแสงภายนอกดูงดงามขณะกำลังจะพ่นความตายไปหาผู้บุกรุก
ที่มันเลือกปืนลูกโม่เป็นปืนฉุกเฉินคือเพราะมันไว้ใจได้ไม่มีการตัดขัดลำกล้องจะยิงก็ปลดเซฟและลั่นไก ต่างกับปืนพกแบบอัตโนมัตที่ต้องเสียเวลากระชากลำกล้องก่อนยิง
ในชั่วเวลาคับขันแบบนี้ทุกวินาทีย่อมมีค่าเสมอ
ตำรวจชั่วยิ้มเยาะนิ้วเหนี่ยวไกปืน 
ซาตานตวัดนิ้วขีดเขียนกลางอากาศไม่กี่ครั้งม่านไอมารสีแดงทรงกลมก็คลุมรอบตัวสิงห์หลายสิบเมตร
ซาตาน: "การดูความจำดวงวิญญาณไม่ใช่เรื่องง่าย เขตอาคมของข้าจะช่วยเจ้าได้บางส่วน เสร็จธุระข้าจะมาเอาดวงวิญญาณมันคืน การเอาวิญญานคนตายออกมาสู่โลกมนุษย์มันยุ่งยากปัญหาเยอะรีบใช้รีบคืนละ"
สิงห์พยักหน้าซาตานค่อยๆสลายร่างออกไปทิ้งสิงห์ไว้กับวิญญาณในมือ
ทว่าซาตานไม่ได้กลับไปที่นรกตามที่สิงห์คิด มันแสยะยิ้มก่อนจะพุ่งไปท้องฟ้ายามราตรี
--------------------------------------------------------------------------------------------
อือออ สิงห์....สิงห์ คุณสิงห์"
ฟางนอนพึมพำและได้สติกลางดึก เธอเห็นเงาสลัวๆที่นอนเฝ้าอยู่บนโซฟา เดาไม่ยากว่าต้องเป็นเกด
เธอพยายามสลัดความคิดวุ่นวายออกจากหัว ตอนนี้เธอต้องตั้งสติ เขาทั้งเก่งทั้งแกร่งเขาต้องไม่ตายแน่ๆ ต้องหา ต้องหาเขาให้เจอ
ฟางรีบลุกขึ้นวิ่งออกจากห้องหมายจะสั่งให้ทุกคนออกไปตามหาสิงห์อย่างน้อยเธอต้องได้เบาะแสอะไรบ้างก็ยังดี แต่ยามที่ยืนเฝ้าบริเวณชั้นบนกลับหายไปทั้งหมด ซึ่งนั้นเป็นเรื่องผิดปกติมาก
พอเธอฉุกคิดเรื่องนี้ได้เธอก็เริ่มสังเกตุพบว่า ท้องฟ้าคืนนี้ไม่มีดาว ไม่มีเมฆ ไม่มีแม้พระจันทร์ แม้แต่เสียงคลื่นจากทะเลที่อยู่ไม่ใกล้กันก็ไม่มีมันเงียบจนน่ากลัว
เธอมองไม่เห็นใครเลย ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เธอรู้ว่าที่นี้มีทั้งคนยืนยาม คนเดินตรวจตรา แต่ทำไมคืนนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเธอกับความเงียบอันน่าขนลุกนี้
เธอเริ่มหวาดกลัว มีอะไรกำลังเข้ามาเธอสัมผัสความรู้สึกแปลกๆได้ มันให้ความหวาดกลัว ความลึกลับ ความเจ้าเล่ห์หลอกลวงและภายใต้ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็ยังมี ความบ้าคลั่ง ความพินาศ ความตาย ความโกรธเกรี้ยวกราด
ทุกๆความรู้สึกที่ผุดขึ้นในหัวมาะร้อมบรรยายกาศที่กดดันขึ้นจนเธออึดอัด เธอหมุนตัวกลับไปที่ห้องแต่กลับพบชายวัยกลางคนในชุดสูทธสีดำ มีหนังหมีเป็นผ้าคลุม แต่ใบหน้ากลับไม่เห็นเพราะอยู่ใต้เงา
ฟาง: "คุณ! คุณ....เป็นใคร"
ฟางรู้สึกกลัวชายแปลกหน้าคนนี้จับใจ แม้ร่างนั้นไม่ได้มีทีท่าคุกคามใดๆ ไม่ถืออาวุธแม้ซักชิ้น
แต่ในใจเบื้องลึกมันร่ำร้องให้เธอวิ่งหนีให้เร็วที่สุด เธอรู้เลยว่าเธอกำลังอยู่ใกล้ความตายมากกว่าทุกๆครั้ง
"ข้าคือ....อืมมมม อาา ยังไงดีละ ข้าคือหุ้นส่วนของสิงห์"
ชายในเงามืดพูดเบาๆ แต่เสียงกลับชัดเจนเหมือนมากระซิบข้างหูเธอ น้ำเสียงที่ฟังแล้วเธอขนลุก ทั้งเย็นทั้งกระด้าง เธอกลืนน้ำลายก่อนฝืนใจถามชายคนนั้นต่อ
ฟาง: "ทำไมสิงห์ไม่ค่อยพูดถึงคุณ ฉันไม่เชื่อ คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมฉันรู้สึก...แปลก"
ชายในเงา: "แปลกอะไร แปลกตรงไหน ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย คิดไปเองน่าสาวน้อย"
ฟางรู้สึกเรี่ยวแรงหดหาย ลมหายใจติดขัด ทุกอย่างค่อยหนักอึ้งดวงตามืดมัวไปหมด
ฟาง: "อย่าทำอะไรหนูเลย ทะๆ..ท่านเป็นใครกัน ท่านไม่ใช่คนแน่ๆ"
ชายในเงา: "โห รู้มากจริงๆ แต่คนรู้มากมักจะอายุไม่ยืนนะ เจ้ามันน่ารำคาญเกินไป เพราะงั้นสิ้นลมไปซะเถอะ"
ฟางที่จะร้องขอชีวิตกลับพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้เหมือนมีใครบีบคอเธออยู่ สองขาถอยๆก้าวถอยหนีแต่ชายในเงาก็คนตามเธอมาช้าๆ จนเธอถอยมาสุดระเบียง
ชายในเงา: "พรุ่งนี้ พวกมันจะเจอศพเจ้าในทะเล ลาก่อน ข้าจะคิดถึงเจ้านะ นังมนุษย์"
พริบตาต่อมาเหมือนอากาศรอบตัวจะกลายเป็นก้อนบีบร่างจนเธอแน่นและค่อยๆยกตัวลอยสูงขึ้น สูงเรื่อยๆลอยออกไปอยู่กลางทะเลใต้ร่างเธอน้ำทะเลอันมืดมิดและบ้าคลั่ง ไม่นะเธอจะตายงั้นเหรอ เธอยังไม่อยากตาย แต่ร่างกายเธอไม่อาจจะขยับแม้จะร้องอ้อนวอนยังไม่มีปัญญาทำ
"คุณสิงห์....ช่วยด้วย"
และแล้วสติเธอก็ค่อยๆมืดดับลง
 
ซาตานไม่ได้กลัวพวกมันทั้งสองตนเลย ระดับชั่นล่างๆแบบพวกมันจอมมารแบบมันฆ่าสองตนได้พร้อมกันแบบไม่เปลืองแรง แต่สิ่งที่ซาตานกลัวคือพวกที่อยู่เหนือและทรงอำนาจมันทั้งสองจะมาวุ่นวายกับแผนได้เท่านั้น มันจึงยอมรามือจากฟางไปก่อน
แต่แค่คราวนี้เท่านั้น
ฟางนอนนิ่งสนิทอยู่บนเตียง แต่ดวงตาจับจ้องเพดานปล่อยให้เวลาไหลผ่านไป ทำไมเมื่อคืนเธอถึงฝันว่าจะโดนฆ่าคือเรื่องที่ที่ยังวนเวียนในหัว ไม่สิทำไมมันเป็นฝันที่น่ากลัวและสมจริงหรือแท้จริงแล้วเธอไม่ได้ฝันไป แล้วทำไมเมื่อเธอตื่น เธอกลับมาอยู่ที่เดิม แถมคนอื่นดูปกติกันหมดจนเธออดสงสัยไม่ได้จนเธอรู้สึกเหมือนบ้าไปคนเดียว
ให้ตายเถอะตอนนี้เธอกลัวไปหมดระแวงทุกๆวินาที แล้วทีเวลาแบบนี้คนที่เธออยากเจอที่สุดก็ดันหายไปอีก ถ้ากลับมาเมื่อไหร่ได้นอนหน้าห้องแน่ๆ
เธอปล่อยให้ตัวเองจิตตกในห้องแคบๆอยู่จนเข้าช่วงบ่ายเธอก็ทนอยู่ในห้องอีกไม่ไหว ในที่สุดเธอก็ยอมออกมาสาวสวยเดินรับลมทะเลที่พัดมา กลิ่นไอทะเลช่วยคลายเครียดให้หญิงสาวเดินไปเรื่อยๆนึกถึงทุกวันที่สิงห์จะพาเธอมาเดินชมบรรยายกาศเดิมๆ แม้จะเป็นวิวเดิมๆเดินกับคนเดิมๆแต่เธอก็ไม่เคยเบื่อเธอคิดถึงชายที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ที่โต๊ะประจำจริงๆ
เอ๊ะ! ฟางมองภาพลวงตาตรงหน้าก่อนจะขยี้ตาและมองไปอีกทีเพื่อยืนยันว่าเธอแค่ตาฝาดไปแต่ไอ้คนที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือสิงห์จริงๆ เขายกแก้วกระดกเหล้าลงคอก่อนยิ้มมุมปากให้เธออีกด้วย
หมอสาวรู้สึกตัวอีกทีก็กระโจนโผเข้าหาอย่างลืมตัว จนสิงห์รับร่างเธอแทบไม่ทัน
ฟาง: "ไปไหนมา ทำไมพึ่งกลับมาอะ"
สิงห์ได้แต่ลูบหัวที่ซุกอยู่กับแผงอกเบาๆ น้ำเสียงอู้อี๊แสดงให้เห็นว่าหล่อนกำลังกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์ ให้ตายเถอะมีเมียคนใหม่ทำไมมันต้องคล้ายคนเดิมขนาดนี่ด้วยวะ เวลากลับมาบ้านหลังงานเสี่ยงนุ่นเมียที่จากไปก็ทำแบบเธอเหมือนกัน
บรรยายกาศอบอุ่นดำเนินต่อไปช้าๆจนเธอฉุกคิดอะไรบ้างอย่างได้ เธอค่อยๆคลายอ้อมกอดเช็ดน้ำเช็คตาแล้วหันมาหาเขาและตบหน้าเขาเต็มแรง สิงห์ถึงกับงงหันควับกลับมาถามเธอ
สิงห์: "อะไรเนี่ย อยู่ดีๆทำไมมาตบกันเฉย"
ฟาง: "ทำไมหายไป ทำไมไม่ส่งข่าว ทำไมกลับมาแล้วไม่บอกฉันสักคำย่ะ! นี่ถ้าฉันไม่ออกจากห้องก็ไม่คิดไปหาเลยใช่มั้ย?"
สิงห์: "ก็.....พอดีเห็นว่าอยู่ในห้องไงก็เลยไม่กวน"
ฟางเงื้อมืออีกรอบ
ฟาง: "อย่ามาโกหกปกติฉันหลับนายก็ลักหลับฉันตลอด ไม่เห็นเกรงใจอะไรเลย"
สิงห์: "โอเคๆ ก็แค่กะใจมาเซอร์ไพรซ์ แต่ฟางออกมาพอดีนี่พึ่งอาบน้ำอาบท่าเตรียมนอนกอดเมียพอดี"
ชายหนุ่มไม่รอช้ารวบขาจับเธอพาดบ่าทันที
สิงห์: "ไปนอนกอดกันดีกว่า สุขุมงานอะไรที่ค้างอยู่ก็ช่างมันไปก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำ ไปๆแยกย้ายๆ"
สิงห์โบกมือไล่สมุนคนอื่นไปให้พ้นๆหน้าและอุ้มเธอกลับห้องในทันที
ฟาง: "ไอ้บ้า ปล่อยใครจะยอมนอนกับสิงห์ นี่ปล่อยซักทีสิยะ ไม่เอาาาา"
สิงห์: "ปล่อยจ้าปล่อย จะปล่อยให้เต็มท้องเลยมาม๊ะคนสวยของผม"
สิงห์เปิดประตูห้องโยนเธอขึ้นเตียงและแก้ผ้าตัวเองทันที หมอสาวได้แต่อ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกจนร่างแกร่งมาทาบทับตัว
ฟาง: "อย่าพึ่งค่ะ สิงห์อย่าพึ่งสิ ฟางยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ ไว้คืนนี้ก็ได้นิ"
สิงห์: "ดีเลยมากินไส้กรอกยักษ์ไง"
สิงห์ไม่ฟังไม่หยุดใดๆเขาก้มลงไปดูดไซร้ตามลำคอจนหมอสาวอ้าปากครางเบาๆ
ฟาง: "เดี่ยวสิสิงห์ ซื้ดดดดด อย่าพึ่งทำตอนนี้นะ"
สิงห์มองเรือนร่างที่นอนทับอยู่ก็ยิ่งคึกคัก เลือดในกายมันพล่านทุกทีที่ได้ใกล้เธอ เขากดแขนที่ปัดป้องตัวไว้ข้างหัวก่อนจะพรมจูบตามใบหน้าและเล้าโลมคลอเคลียตามลำคอจนหมอสาวครางอือตัวอ่อนเขาจึงค่อยๆดันเสื้อเธอออก
สิงห์: "คนดีของผม ผมรักคุณนะครับอย่าห้ามผทเลยนะ"
ฟางพยักหน้าก่อนจะขยับตัวช่วยสลัดเสื้อยือให้พ้นตัวมือสากเขามาคว้าขยำเต้านมอวบเต็มมือในยกทรงสีเนื้อตัวน้อย
ฟางแอ่นตัวบดเนินหน้าอุ้งมือเขาและเธอก็จิกแขนเขาเบาๆตามความเสียวที่ได้รับ
ฟาง: "โอยยยย ฟางก็รักคุณนะ อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ใจหายแทบแย่"
สิงห์ปลดยกทรงโยนไปให้พ้นลูกตาก่อนจะใช้ลิ้นเลียวนไปตามปลายยอดอกช้าเบาๆตามแบบที่เธอชอบ เลียแบบนี้ทีไรไม่เคยพลาด
ฟางถึงกับผวาจิกผมบดเนินอกเข้ากับหน้าชายที่รัก สิงห์เห็นอาการเธอยิ่งได้ใจขยี้หัวนมเธอด้วยมือทั้งสองข้างขยับปากขึ้นมามาแลกลิ้นกับเมียรักลิ้นทั้งสองเกี่ยวตวัดหากันแบบไม่มีใครยอมใคร หมอฟางเองก็ถึงที่สุดแล้วเธอล้วกมือไปกำท่อนเอ็นรูดมันจนเต็มเต็มมือ ไม่รู้เธอคิดไปเองรึเปล่าว่ามันใหญ่ขึ้นนิดหน่อย แต่จะยังไงก็ช่างเธอคลานลงไปหามันและจูบเบาๆที่หัวบานก่อนจะอมลงไปแบบไม่ต้องสั่ง
เมียอย่างเธอทั้งดูดทั้งเลียให้ชายหนุ่มแบบลืมภาพเป็นกุลสตรีไปเลย เธอผงกหัวบริการสามีที่รักอย่างรู้ใจเขาชอบให้ลากลิ้นจังหวะไหนต้องดูดตอนไหนเธอรู้ดีทุกขั้นตอน
ผลคือสิงห์ต้องใช้พลังกลั้นเสียวหลายรอบติดกันจะพาเธอมาปล้ำไหงตอนนี้เธอคุมเกมแทนแล้วเรียบร้อย
หมอสาวค่อยๆคลายท่อนควยออกและใช้ปลายลิ้นวนไปมาก่อนจะอมมันลงไปอีกครั้งสิงห์ถึงกับตัวเกร็งขาสั่นระริกๆ
ไม่ได้การเขาจะให้เธอโจมตีฝ่ายเดียวไม่ได้แล้ว สิงห์รีบรูดกางเกงเธอออกมือคว้าตะปบเข้าไปร่องสวาท หมอสาวที่รูดปากอยู่ถึงกับสะดุ้งต้องคลายปากออกมาร้องเสียหลง
ฟาง: "อูยยยยย ทนไม่ไหวแล้วสิงห์ อะๆ ซื้ดดดดแบบนั้นแหละค่ะ โอยยยยย"
เขาใช้นิ้วกระทุ้งร่องสวาทจนหมอสาวตาเคลิ้มจนหยุดมือที่กระถอกควยจนเขาต้องเตือน ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างพยายามปรนเปรออีกฝ่ายแต่หมอสาวคนสวยดูท่าจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวไปก่อน
ร่างเธอโอนลงนอนราบมือหยุดนิ่งปากอ้าออกส่งแต่เสียงครางไม่หยุดเธอแอ่นเนินสวาทหานิ้วมือสิงห์อย่างเดียว
สิงห์: "เงี่ยนจนทนไม่ไหวละสิ"
ฟาง: "ค่ะ สิงห์ฟางเสียว ช่วยฟางด้วย เย็ดฟางที"
หมอสาวนอนส่ายสะโพกครวญครางอ้อนวอนชายหนุ่ม
เธอจะไปชนะเขาได้ไงก็เขาใช้พลังคุมความเสียวแบบทุกครั้ง การได้เห็นเธอร่านแตกนี่ถือเป็นความสุขอย่างนึงของเขาเลย
ดังนั้นเขาจะไม่ยอมเย็ดเธอง่ายๆหรอก ไม่คิดเลยว่าหายไปแค่วันสองวันเธอจะคลั่งหาควยเขาถึงขนาดนี้
สิงห์: "แต่ผมยังไม่อยาก ตอนนี้อยากกินน้ำหีเมียก่อน"
หมอฟางได้ยินปุํปก็พลิกตัวนอนหงายกางขานอนรอเขาทั้งทีแบบไม่มีอิดออด สิงห์ก็ไม่รอช้าฉลองศรัทธาให้เธอทันที
ลิ้นสากตวัดลากไปมาช้าก่อนจะแยงลงไปตวัดส่ายจนสาวสวยถึงกับกดหัวเขาแน่นกระเด้งอัดโหนกเนื้อใส่หน้าเขาสุดแรงสะโพกเธอกระเด้งใส่ปากเขาเต็มแรง
ฟาง: "อ๊ายยยย อู้วววววว โอยยยย สิงห์ สิงห์!! อ๊าาาาาา ไม่ไหวแล้ว!!"
ก่อนหมอสาวจะหวีดร้องพร้อมกับระเบิดน้ำใส่ปากอีกฝ่ายอต่างรวดเร็ว
เมื่อสิงห์ได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ถอนตัวดูสภาพเมียสาวที่หอบจนหน้าแดงอยู่
สิงห์: "แค่นี่ก็หอบซะแล้วเหรอ หมดแรงไวแบบนี้ไม่สนุกหรอก มามะมาเอาของรางวัลเร็ว"
เขาจับหัวบานปาดขึ้นปาดลงแกล้งเธอเงี่ยนต่อไป
ฟาง: "เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งฟางแบบนี้เนี่ย รีบยัดรางวัลใส่ฟางทีเถอะ"
ร่างบางร้องแง๋วๆประท้วงชายหนุ่มเรียกรอยยิ้มให้เขาได้อีกโขและพลิกเธอขึ้นมาอยู่ด้านบน
สิงห์: "เงี่ยนขนาดนี้จัดการเลยสิที่รัก"
หมอสาวรู้ดีว่าเขาต้องอะไรจากเธอเธอจ่อลูกบานตรงร่องให้ขย่มพรวดลงมาเกือบมิดลำ ดุ้นยักษ์ฉีกกลีบจมหายไปเกือบหมด
ฟาง: "อ้าาาาาาาาา จะ จุกอะ"
สิงห์: "โอยยยยยย ทำไมรีบร้อนจัง"
ทั้งคู่หลุดปากร้องออกมาพร้อมกัน ฟางต้องนั่งหายใจลึกๆรอให้ด้านล่างปรับจูนกันจนเข้าที่ก่อนจะบดเอวขย่มเบาๆเป็นการวอร์ม
จากนั้นเธอก็เริ่มบดเอวใส่สิงห์เร็วขึ้นแรงขึ้นทั้งขย่มทั้งบดไปมาเธอไม่สนใจโลกนี้อีกต่อไปเธอสนใจแค่ความเสียวที่กำลังได้รับอยู่ในตอนนี้
สิงห์ก็ไม่ได้นอนนิ่งเอาเปรียบเขาเริ่มกระแทกควยสวนขึ้นมาใส่ ท่อนควยเขาชุ่มด้วยน้ำเมือกจากหอยตัวนี้จนมันวาว
สิงห์: "ซื้ดดดด ชอบฟางตอนนี้จัง เสียวรึเปล่าที่รัก"
ฟาง: "โอวววว ฟางเสียววว อ๊าาา อ๊าาา ผัวขาาาาา เมียเสียววววว อูยยยยโครตเสียวเลย ฟางรักสิงห์ที่สุด โอยยยยย"
หมอสาวตะโกนลั่นสีหน้าแววตาล่องลอยไปกับเกมส์กามสิ้นความเนียมอายใดๆ
สิงห์เห็นสภาพเมียรักก็ยิ่งคึกมือทั้งสองข้างคว้าเต้มนมที่ไกว่ไปมาอยู่มาขย้ำและกระแทกสวนขึ้นไปหาเธอแรงขึ้นอีกเท่าตัว
ในที่สุดโพรงสวาทเธอก็บีบตัวอย่างรุนแรงพร้อมกับหมอสาวที่สั่นและร้องโวยวายราวเจ้าเข้า
ฟาง: "อ๊าาาา ฟางไม่ไหวแล้ว"
และร่างหมอสาวก็ฟุบตัวลงมานอนหมดแรงแต่ทันใดนั้นสิงห์ก็พลิกร่างกลับมาขึ้นคร่อมอีกฝ่ายและจับขาเธอพาดไหล่ข้างนึงก่อนจะเริ่มกระเด้าต่อ และเนื้อชนเนื้อดังตับๆไม่มีวี่แววจะหยุดแม้หมอสาวจนเสียวจนดิ้นพล่านแค่ไหน มือน้อยๆของเธอปะป่ายไปทั่วไม่รู้จะวางมือที่ใด
เสียงกระแทกดังจนปานจะถึงสวรรค์ในที่สุดเขาก็ส่งคุณหมอที่รักให้ขึ้นสวรรค์ไปอีกรอบนึง
ฟาง: "ไม่ไหวแล้ว โอยยยยย ซื้ดดดดดที่รักค่าาาาาา"
สิงห์เห็นเธอถึงก็ไม่รอช้ารีบอัดฉีดสายน้ำขาวข้นที่อัดเข้าไปในท้องอีกฝ่ายทันที น้ำกามข้นยิงอัดจนท้องเธอร้อนวาบๆตัวสั่นหีตอดตุบๆรับเชื้อรักเชื้อสวาทแน่นเต็มท้อง
ทั้งคู่นอนกอดก่ายกันครู่เดียวเมื่อหายเพลียทั้งคู่ก็แค่สบตากันและเกมกามก็เริ่มขึ้นอีกครั้งและจะไม่หยุดจนกว่าจะเช้า
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
รอนานเชียวครับรอบนี้ สิงห์จะรู้ตัวไหมนี่ว่าเกือบเสียฟางไปแล้ว หรือนีาก็เป็นร่างแปลงอีกเหมือนกัน
น่าสงสารครูสาวนะครับ ถึงพ้นจากตำรวจชั่วแต่ก็คงทุกข์ใจไปตลอด ทำไมช่วงหลังรู้สึกตับอักเสบบ่อย อิอิ
ขอบคุณครับ
แล้วอย่างนี้สิงห์จะช่วยหมอฟางให้พ้นจากความตายได้ไหม ไม่อยากให้หมอฟางมีอันเป็นไป
เกือบไม่รอดมามีบทอัศจรรย์กับนายสิงห์แล้ว อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่า ปีศาจ ยังไงก็ไม่น่าไว้ใจ
หมอฝันแปลกๆนี่ต้องมีอะไรต่อแน่นอน และนางรำสาวจะเป็นไงต่อ สงสัยต้องมาอยู่ในลิตว์พระเอกอิกคน รุ่สึกพลังจะโหดขึ้นนะครับ
นี่ถ้าสิงห์รู้ว่าซาตานพยายามจะฆ่าหมอฟางอีกครั้ง สิงห์จะทำอย่างไรนะ ว่าแต่ใครกันที่มาช่วยหมอฟางไว้ได้ ทำไมซาตานถึงได้กลัวเจ้านายของคนที่มาช่วยด้วย....????
อ้อ...ที่แท้เป็นเทวทูตของสวรรค์ที่ตรวจพบไอมารจำนวนมหาศาลก็เลยมาตรวจดู ทำให้ซาตานต้องยอมปล่อยฟางเพราะกลัวจะเสียแผนการใหญ่นี่เอง....หึหึ
ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องจ่ายค่าตอบแทน ไม่มากก็น้อย นายสิงห์จะรอดจากซาตานไหมนะ
ซาตานนี่ไว้ใจไม่ได้เลย มีแผนแทงข้างหลังตลอด แต่ระดับซาตานมีกลัวใครด้วยหรอ
ขอบคุณที่นำความระเบิดภูเขาเผากระท่อมกลับมาอีกครั้งครับ คุ้มค่ากับการรอคอยเสมอครับ
หายไปนานมากกกกกก แต่ยังคิดถึงและรออ่านผลงาน ของ จักรวาล 7sins อยู่นะครับ
กำลังสงสัยว่าเรื่องนี้ คนเขียนเรื่องคนเดียวกันกับอีกแอดเค้าของ 7 sin ป่าวครับ ผมชักงงหมดละ
ออกผลงานมาแย่งซีนกันเห็นๆเลยนะครับ แบบนี้เรื่องที่มีงูออกมาก็เฉาเลยดิ 555(แซวเล่นนะครับ)
อ่านแล้วลุ้นมากครับ ว่าเรื่ิองจะเป็นอย่างไรต่อ ชอบนายสิงออกแนวดิบ เถื่อนนิดนี่ง
ซาตาน กลัวคุณสิงห์ไม่โหดพอหรือไง แต่ถ้าฟางโดนฆ่านี่สงสัย สิงห์ฆ่าเรียบแน่นอน ... 55
พันธะ สัญญา ที่สิงห์ ได้ทำไว้ กับ ซาตาน มันช่วยให้ สิงห์แก้แค้นได้ สำเร็จ แต่ดูเหมือน สิงห์จะถูกหลอกใช้นะ แล้วนี่ ก็เกือบเสีย สาวคนรักไปด้วยแบบไม่รู้ตัว ดีที่ เทวทูตโผลมาก่อน ฟางจึงรอด แต่ จะรอด ตลอดไปหรือไม่ อันนี้น่าคิด ถ้า สิงห์ รู้ว่าฟางคือตัวแปร สำคัญ เขายังจะยอม ช่วยซาตาน อีกหรือเปล่า
นี่ดีนะ ที่ สิงห์ กลับ มา แล้วปลอบใจ สาวฟาง แบบ เต็มคราบ นางหาย ตระหนก ตกใจ จากฝันร้าย เลย ตอนนี้ มีแต่ ความเสียวซ่าน ในอารมณ์ คนอ่านตอนนี้ ก็ เสียว ซ่าน ไม่ต่าง กัน ขอไปจัดการ ตัวเองก่อน ละกัน นะครับ ไรท์เตอร์ อิอิ ขอบคุณมากครับ ::Shy::
คุณหมอฟางพอเครื่องติดแล้วไม่ทำให้ผิดหวังแน่นายสิงห์คงจะเสียวแทบตายแน่นอน
โดนไปหลายดอก เรี่ยกพี่สิงห์ ผัวขา เต็มปากเลยนะ หมอฟาง ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo::