สวัสดีครับ เนื่องจากร้านคาราโอเกะ กับพี่เทพริวกะ ยังไม่พร้อมที่จะลงให้อ่านกัน
เพราะงั้นเลยหาอะไรมาให้อ่านกันก่อนครับ
มันเรื่องโอยตั้งแต่ เรียน ม.5 ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมยังจำได้อยู่
ผมเชื่อว่าใครที่เรียน ร.ด. ต้องเคยผ่านมาแบบผมแล้วล่ะ
ปล. ใครเจอแบบไหนอะไรยังไง บอกกันมั่งนะครับ
ปล.2 ประสบการณ์เรื่องนี้ เต็มไปด้วยคำหยาบคาย ซึ่งก็ตามวัยครับ
ปล.3 เรื่องนี้ไม่มีความเสียวแม้แต่นิดเดียวครับ มีแต่ความมันส์ ความห่าม คำหยาบคาย และ ความทรงจำที่ลืมไม่ลง
ปล.4 เรื่องนี้น่าจะมีไม่เกิน 4 ตอนครับ เพราะ 1 วันก็เล่าใน 1 ตอนเลย
ปล.5 ขอซ่อนข้อความเพื่อเช็ดจำนวนนักศึกษาวิชาทหารหน่อยนะครับ
...............
เรื่องเล่าเขาชนไก่ บทนำ
เช้าวันพฤหัสบดีที่ไม่ค่อยจะสดใส นั่นเพราะผมต้องตื่นตั้งแต่ ตี 5 เพื่อมาแต่งตัวไปเรียน โอย ผมพึ่งอายุ 17 พึ่ง ม.5 แท้ๆ ทำไมต้องลำบากปานนี้
ทำไมต้องมาเรียนตอนเช้า ทั้งที่ตอน ม.4 ได้เรียนช่วงบ่ายแท้ๆ ใช่ครับวันพฤหัสบดี ผมเรียน รักษาดินแดน เฮ้ออ ตอน ม.4 สบ๊ายสบาย เรียนที่สวนเจ้าเชษฐ์
เพราะเรียนช่วงบ่าย แถมได้นั่งรถบัสของโรงเรียนไปด้วย การเดินทางสบ๊ายสบาย ฝึกลำบากไม่เท่าไร เพราะตัวผมเองก็ทีพื้นฐานร่างกายจากการเล่นยูโดอยู่แล้ว บอกเลยลุกนั่ง วิดพื้นนี่สบายโคตร แต่ขอหน่อยเถอะการเดินทางเนี่ย อ่ะเฮื้อออ
แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกครับ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ ถ้าไม่ไปเรียน 3 ครั้ง ผมก็ไม่ได้ไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ และถ้าไม่ได้ไป ผมก็คงไม่ผ่านปี2 ตอนปี3 ก็คงไม่ได้เรียน แล้วก็ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์แน่ๆ
ผมคิดแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนักศึกษาวิชาทหารปี2 จนตอนนี้ใกล้จะจบแล้ว อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นทนเอาหน่อย ผมรีบขัดคอมแบทจนเงาแว๊ป รีบเอาบรัซโซขัดหัวเข็มขัดจนใสวิ๊ง และรีบวิ่งออกไปขึ้นรถ
อ่าส์ รถเมล์สาย 124 มาพอดีสบายตูล่ะ ผมรีบขึ้นรถเมล์ทันที และพอมาถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ผมต้องเปลี่ยนสายรถเมล์นะ เพราะศูนย์ใหญ่วิภาวดี 124 มันไม่ผ่าน
แล้วก็เจอเพื่อนร่วมชะตากรรมหลายคนครับ เราก็ทักทายกันตามประสานั่นแหละ ไงมึง ไงสาด แล้วก็10 นาทีผ่านไป พวกเราก็มาถึงหน้าศูนย์ใหญ่วิภาวดี
แน่นอนครับพอมาถึงแล้ว พวกเราก็ต้อง พรึ่บ ๆ ๆ ๆ ๆ เอาเสื้อยัดกางเกง จัดระเบียบเสื้อผ้ากางเกงให้เรียบร้อย และที่สำคัญหมวก ซึ่งหายบ่อยชิบหาย ไม่รู้ว่ามีขาเดินหรือยังไง
เชื่อมั้ยครับว่าเรียน ปี1 จนมาปี2 หมวกผมหาย 3 รอบได้ อะไรวะ อ่ะกลับมาหน้าศูนย์ใหญ่ต่อ หลังจากที่ข้ามสะพานลอยมา พวกผมยืนแต่งตัวอยู่ศูนย์รถยนต์อย่างเร่งรีบ
เพราะถ้าเดินเข้าไปในสภาพไม่เรียยร้อย กูได้หมอบแต่เช้าแน่ๆ หลังจากที่ช่วยกันดูจนแน่ใจว่าเรียบร้อยพวกผมที่มาพร้อๆๅกันก็รีบเดินเข้าไปเลย
[ เพื่อนผม ] : เฮ้ย เขาชนไก่ แม่งโหดเปล่าวะ พวกม.6 แม่งบอกโหดสัดๆเลย
[ ผม ] : ไม่รู้ว่ะ ไม่เคยไปเหมือนพวกมึงนั่นแหละ ไหวเปล่าวะกู
[ เพื่อนอีกคน ] : แหม่ มึงไม่ต้องพูดเลย ไอ้โทน มึงอ่ะสบาย แรงวังแรงควายแบบนี้ แบกปืนใหญ่ก็ได้มั้งแบบมึงอ่ะ
คือมันเป็นเรื่องที่แปลกนะครับ เดิมทีพวกผมสามคนคือไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันเลย โรงเรียนของผมตอน ม.ปลาย มันก็เหมือนโรงเรียนอื่นๆ แหละมั้งนะ มีทั้งหมด 9 ห้อง
วิทย์ - คณิต ห้อง 1-2
ศิลป์คำนวน ห้อง 3-4
ศิลป์ภาษา ห้อง 5-6
ศิลป์ทั่วไป ห้อง 7-9
เอาจริงๆแล้วการแบ่งชนชั้นมันมีมาตั้งนานแล้วนะเอาจริงๆ คือไอ้พวกห้อง 1 กับ 2 นี่คือไม่เอาใครเลย จะคุยจะอยู่แต่กับพวกเดียวกัน ตัวผมอยู่ห้อง 5 ศิลป์ภาษาฝรั่งเศส ( แต่เสือกชอบญี่ปุ่น )
มันก็จะเป็นห้องกลางๆเลย มันแปลกนะที่บางคนก็เอนไปห้องบน บางคนก็เอนไปห้องล่าง ยิ่งพวกผู้หญิงนะอื้อหือ ดูการแต่งตัว เครื่องประดับ หวีสับ ผ้าเช็ดหน้า ดูก็รู้เลยว่าอยู่ห้องไหน
แต่สำหรับพวกผู้ชายที่เรียน ร.ด. บอกเลยครับว่าไม่ใช่แบบนั้น พวกเราไม่ได้แบ่งแยกกัน จะมีก็น้อยมากๆ คือพวกเรารู้จักกันหมด สนิทกันมากน้อยก็ว่ากันไป ก็ไอ้ตอนเรียน ร.ด. มันต้องนั่งตามเลขที่นี่ครับไม่ได้เรียงตามห้องเหมือนที่โรงเรียน
เลยทำให้กระจัดกระจายกันไป ซึ่งเวลานั่งข้างๆมันก็แอบคุยกันบ่อยๆ นั่นแหละทำให้พวกเรารู้จักกัน และอีกอย่างบางคนตอน ม.ต้นก็เคยอยู่ห้องเดียวกันมาแล้วด้วย
การที่จะสนิทกันมากขึ้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก พวกผู้ชายแบบเราๆแม่งทำอะไรห่ามๆกันมาก็เยอะ อย่างตอน ม.2 ม.3 ไปเข้าค่ายลูกเสือ ก็แก้ผ้าอาบน้ำกันมาแล้ว อ่าส์ชิลล์
อ่ะกลับมาที่เดิมต่อออกทะเลไปหลายไมล์ละ พอคุยกันได้แปปเดียวเท่านั้นแหละ
รีบเดิน !!!
เสียงตะโกนไล่หลังมาแล้ว เป็นพวก ส.ห. ครับ อื้อหือปลอกแขนแดง ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาเชียว
พวกผมรีบจ้ำๆๆๆๆ ไปเลยครับ พอมาถึงหน้าป้อมที่มีครูฝึกยืนอยู่ ปั้ป แป๊ก !!! เสียงเหล็กชิดเท้ากระทบกันดังแป๊ก !!! ทันทีที่ผมยืนตัวตรงและตะเบ๊ะท่าทำความเคารพ
ผมนับในใจ 1 2 3 และรีบเดินเข้าไปในศูนย์ฝึก ซึ่งพวกเรามาก่อนเวลาครับ จึงทำให้มีเวลากินข้าวเช้า ซึ่งแน่นอนครับว่าเมนูที่อร่อยที่สุดในโลกสำหรับนักศึกษาวิชาทหารแบบพวกเราก็คือ ข้าวมันไก่
เวลาครูฝึกถามว่าอะไรอร่อย คำตอบของทุกคนที่ต้องตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น ราวกับการฝึกก็คือ ข้าวมันไก่ครับ !!! อ้อแล้วก็มีขนมปังนึ่งอีกอย่าง ทำไมถึงอร่อยน่ะเหรอ อย่างที่บอกไปครับ เพราะเมียครูฝึกเป็นคนขายยังไงล่ะ โฮโฮ่
ตอนเรียนสวนเจ้าเชษฐ์มีแค่ร้านเดียวว่าหนักแล้ว พอมาศูนย์ใหญ่เท่านั้นแหละ โอโห้ ขอหยาบหน่อย เยดเข้มีเรียงเป็นตับ จะเอากี่ไก่ล่ะ จากที่มีแค่ข้าวมันไก่ต้มตอน ปี.1 พอมาเจอที่นี่ล่ะสารพัดไก่
ข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด ข้าวหมกไก่ ไก่อบ แต่ดีหน่อยที่ยังมีหมูอบ และข้าวราดแกงบ้าง แต่เอาจริงๆผมว่าก็อร่อยนะ แล้วได้เยอะด้วย 30- 35 บาทคืออิ่มยันเย็นอ่ะ
ที่สำคัญมันจะเป็นการรังสรรค์เมนูที่ข้างนอกทำไม่ได้ด้วย ( สมัยเกือบ 15 ปีก่อนนะ ) ยกตัวอย่างเลย เอาไก่ต้มผสมไก่ทอด แต่ใส่ข้าวหมกแทน
หรือเอาไก่หมกไปกินกับข้าวมัน อันนั้นก็ได้ หรือเอาข้าวหมกไก่ผสมไก่ทอด โอ้โหแม่งโคตรเด็ด ไก่อบผสมไก้ต้มข้าวหมกไก่ อันนี้ก็โคตรเด็ด
โอ้นี่ผมหลุดเข้าไปในวังวนไก่แล้วเหรอเนี่ย พวกผมสามคนเดินเข้ามาก็ต่างแยกย้ายกันไปหากลุ่มของแต่ละคน แต่อย่างที่บอกครับ ผมมันเป็นคนของสังคม
ผมนั่งกับใครก็ได้ เพราะทั้ง ม.5 รู้จักผมหมดแหละ ยิ่งเรียน ร.ด. ด้วยกันนี่ยิ่งซี้กันเข้าไปใหญ่ หลังจากที่สั่งสุดยอดเมนู ไก่ต้ม + ไก่ทอด โปะบนข้าวหมกไก่ ผมก็รีบจ้วงเลยครับ เพราะจะได้มีเวลาพักมีเวลาคุยกับเพื่อนก่อนที่ต้องไปเคารพธงชาติและเข้าเรียน
[ ครูฝึก ] :ปรี๊ดดดดด ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ดดดดด
เอี้ยยยยยยยย หลังจากที่จบสัญญาณนกหวีดที่พวกเราฟังจนหลอนหู เราก็ตอบรับด้วยคำที่คุ้นเคย เอี้ยยย แต่พวกคุณคิดเหรอว่าเราจะตอบแบบนั้นจริงๆ
5555 แน่นอนครับ เด็กอายุ 16-17 แบบพวกผม เป็นวัยกำลังซ่ากำลังเห่อฮะมอยและกำลังกวนส้นตีน 50% ไม่มีใครตอบว่าเอี้ยหรอก
เหี้ยยยยยยย นี่คือคำที่พวกเราตอบกลับก่อนที่จะวิ่งขลุกๆๆๆ ไปจัดแถวอย่างรวดเร็วตามที่ฝึก
" ท่าจัดแถวบุคคลมือเปล่า "
มาตั้งแต่ ปี 1 ซ้ายแนบลำตัวเท้าเอวเป็นมุมฉาก แขนขวายื่นแตะไหล่คนหน้า กระโดดดึ๋งๆๆเพื่อให้เข้ารูปขบวน และทุกอย่างก็ผ่านไป เคารพธงชาติ ชี้แจง และเข้าห้องเรียนตามกำหนดการ แต่ก่อนจะเข้าเรียน
ครูฝึกได้ออกมาบอกว่าให้พวกผมรอก่อน เพราะมีเรื่องที่จะแจ้งจากหัวกองพันของพวกผม ซึ่งมันก็คือเพื่อนในโรงเรียนเดียวกันนี่แหละ เอาจริงๆผมก็ว่ามันสมควรได้เป็นนะ
บุคลิคมันโคตรได้ สูง บึกบึน ท่าทางสง่า ยิ่งเวลาตะเบ๊ะนี่โคตรจะเป๊ะเลย ถึงมันจะพูดไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ อ่ะครูฝึกแจ้งว่าไอ้หัวหน้ากองพันมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบ
โอยแดดก็ร้อนชิบหาย เอามือบังแดดก็ไม่ได้ ให้พวกผมไปนั่งในร่มก็ไม่ได้ พวกผมก็รอไปเกือบ 10 นาที จนไอ้เพื่อนเชี่ยเนี่ยเดินมาจากหลังเวที โอยยยย ร้อนชิบหาย
[ หัวหน้ากองพัน ] : เอาล่ะ วันนี้ก็มาครบกันดีนะ นั่งนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร ได้วิตามิน D ยามเช้า
พ่อมึงตาย วิตามิน D เหี้ยไร นี่มันวิตามินแดดชัดๆ ส้นตีนเหอะ ผมพูดออกมานะแต่ก็ไม่ได้ดังอะไร แต่ไอ้คนที่ได้ยินมันก็หัวเราะหลายคน แล้วรู้มั้ยครับเรื่องที่มันจะพูดคืออะไร
[ หัวหน้ากองพัน ] : เรื่องไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ เดี๋ยวครูฝึกจะอธิบายนะ โรงเรียนของเราไปเดือนมกราคม แค่นี้แหละ
ห๊ะ !!! แค่นี้ ให้กูนั่งตากแดด10 นาทีเพื่อให้มึงมาพูดแค่นี้ พ่อมึงตาย คือคุณเข้าใจผมมั้ยครับท่านผู้อ่านคือ ผมรอเนี่ย รอ10 นาที เนี่ยเพื่อ เพื่อ !!! แค่เนี้ย อารมณ์เหมือนผมนั่งดู Sword art online ผมรอ Part2 มาหลายเดือน
แล้วรอไอ้โตะแม่งตื่นสักทีหลังจากเนตหลุดไปเกือบครึ่งปี แล้วนี่อะไรมาดูตอนล่าสุด แม่งลุกขึ้นมาพูดแค่ ชั้นกลับมาแล้ว อาซึนะ พ่อมึงตายสุดท้ายก็ต้องรอดูวันนี้อีก วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคมเนี่ย
โอยแม่งเซ็งเป็ด อ่ะย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว หลังจากที่ด่าพ่อมันไปหลายที พวกเราก็แยกย้ายตามที่ครูฝึกบอก แล้วก็ไปเรียนๆๆๆ ทั้งเรียนภาคทฤษฎี และวิชาต่างๆประกอบปืนบ้าง
ยิงปืนบ้าง สวนสนามบ้างแล้วแต่กำหนด จนกระทั่งพวกเราเรียนจบหลักสูตรปี 2 เรียบร้อย อ่าส์ปลดปล่อยเลยกูทีนี้ ได้ไว้ผมยาวอีกหลายเดือน ผมก็กลับมาเรียนเหมือนเดิม
โดยที่ได้ตัดรองทรงไว้ผมยาวตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมันก็มีบ้างครับ ที่นักกีฬาโรงเรียน จะมีหญิงมาติดพันแต่อย่างที่บอกไว้แล้วว่าตั้งแต่ร้านเกะ ว่าผมเป็นคนที่หน้าตาปานกลาง
ก็ไม่ได้ถึงขั้น Hot ปรอทแตกเหมือนพวกนักดนตรี หรือพวกหล่อเรียนเก่ง ทำให้ชีวิตวัยเรียนตอนนั้นไม่ได้วุ่นวายอะไรนัก จะมีบ้างก็เดินไปส่งขึ้นรถเมล์ หรือเดินด้วยกันในโรงเรียน
แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้หรอกครับ โรงเรียนผมแม่งมีกฎอยู่อย่างนึง คือถ้าเห็นว่ากระทำอะไรที่เข้าข่ายชู้สาว จะโดนเรียกผู้ปกครองทันที ผมก็แบบชิบหายละไง ไม่อยากโดนเรียกผู้ปกครองด้วย
ทำให้ผมไม่ค่อยจะประเจิดประเจ้อเรื่องนี้นัก ถ้าจะนั่งคุยกันใกล้ๆกันก็จะไปที่ลับตา ไม่ก็ที่ชมรมยูโดเลยล่ะ แหม ทีเพื่อนผมมันล่อกันในห้องเรียนตอนงานกีฬาสี อาจารย์ไม่เห็นทำไรได้เลย
อ่ะกลับมาเรื่องของผมต่อ จนเวลาผ่านไปถึงเดือนมกราคม อีก 2 อาทิตย์จะเข้าค่ายเขาชนไก่ ครูที่โรงเรียนก็เรียกรวมพลเลยคราวนี้ แล้วแจกใบปลิวมาให้ทุกคน มันคือกำหนดการ
การเดินทางต่างๆ จุดรวมพล และที่สำคัญของที่ต้องไปหาซื้อมาเพื่อเข้าค่าย หรือเรียกว่าอุปกรณ์กันโดนครูฝึกแดกนั่นแหละครับ
[ ครูฝึกประจำโรงเรียน ] : เอ้า ไอ้หัวหน้าหมู่มารับใบกำหนดการไปแจก
เสียงของอาจารย์พละศึกษาท่านหนึ่งดังขึ้นขณะที่เรียกรวมพล นักศึกษาวิชาทหารปี 2 หรือพูดง่ายๆก็นักเรียน ม. 5 นั่นแหละ
ผมถึงกับอุทานใจเลยว่า เย็ดเข้ นรกชัดๆ คือใครที่เคยเรียนรักษาดินแดน หรือ รด. จะเข้าใจดีว่ามันเป็นยังไง
เขาชนไก่ เป็นชื่อที่ได้ยินมาตั้งแต่ก่อนจะจบ ม. 3 มึงอ้วกแน่ มึงเป็นลมแน่ มึงโดนผีหลอกแน่ๆ แล้วผมนี่แบบจำฝังหัวเลยไง
คือแน่นอนเรียนเหตุผลที่ผมเรียน รด ไม่ใช่เหตุผลสวยหรู เพราะอยากฝึกวินัยตัวเองหรอก เหตุผลตรงๆเลยคือไม่อยากเกณฑ์ทหาร หรือที่ครูฝึกพูดๆกันก็คือ
" หนีทหารแบบถูกกฏหมายนั่นแหละ "
ผมกับเพื่อนนั่งมองรายการที่ต้องซื้อแล้วมองหน้ากันเลยครับ ผมพูดขึ้นพร้อมกันเลยว่า
" เหี้ยไรวะเนี่ย "
อุปกรณ์ที่ต้องซื้อ
- เป้สนาม
-กระติกน้ำ
- ซิ่งผ้า
- เข็มขัดสนาม
- สายโยงเป้
นี่แหละครับที่ทำให้ผมงงกัน สายโยงเป้อะไรวะ มันคืออะไร เพราะเรียน ร.ด. มาสองปีไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเลย ชีวิตการเรียน ร.ด. สิ่งที่ผมรู้จักก็มีแค่
1. ชุด ร.ด. ที่ต้องเอาไปเข้ารูปให้ดูกระชับและดูดี โชคดีไปที่ตอนผมเรียน ม.ปลาย ผมถือว่าเป็นที่รูปร่างสมส่วน ซึ่งอาจจะเพราะเล่นกีฬาหลายๆอย่าง
2. รองเท้าคอมแบทที่ต้องขัดให้เงาตลอด ไม่งั้นโดนสั่งวิดพื้น 5 มั่ง 10 มั่ง แล้วแต่ใจของครูฝึก
3. กีวี่ ซึ่งก็ไม่เคยใช้หมดตลับเลย ถ้าไม่หายก็ลืมปิดฝา จนมันแห้งไปเอง แต่ขอเถอะไอ้หมุดที่ใช้เปิดเนี่ย ทำให้มันแข็งแรงหน่อย แม่งเอ๊ย หมุนนิดเดียวเกลียวหลวมแล้ว
3.1 อุปกรณ์เสริมในการขัด มาตรฐานเลยคือแปรงขัดรองเท้า แตะๆ กี่วี่และโซโล่ไปเลย
3.2 ถ้ามักง่ายหน่อยก็ถุงเท้านี่แหละ เอาถุงเท้า ร.ด. สวมมือ จุ่มกีวี่ แล้วถูเลย ง่ายกว่าเยอะ แต่ก็ต้องแลกมากับมือที่มันดำๆๆ
ส่วนอีกสูตรแบบโคตรละเอียด ซึ่งจำไม่ได้ว่าใครสอนมา แต่น่าจะเป็นครูฝึกที่ศูนย์ใหญ่ ให้เอาสำลีจุ่มน้ำให้ชุ่ม เอาไปแตะกี่วี่ และมาวนๆๆเป็นวงกลมให้ทั่วรองเท้า
ทิ้งไว้ 5 นาทีและเอาผ้าแห้งๆมาเช็ดขัดเงา คือถามว่าผมทำตามมั้ย ทำตามครับ แต่บอกได้เลยว่ากูทำแค่ครั้งเดียว คือแบบมึงต้องว่างมากๆ หรือเวลาเหลือมากๆอ่ะถึงทำได้
กว่าจะจุ่มน้ำ จิ้มกีวี่ เอามาวนๆๆทั่วรองเท้า แล้วไหนจะรอ 5 นาทีอีก โห้ ตามสบายเถอะใครจะเอา กับมีอีกวิธีที่เงาวิบๆๆๆตลอดคือ ไปซื้อรองเท้าหนังแก้วมาใส่ แล้วผลเป็นไง โดนตบสิ่ครับไอ้พวกนั้น
••••
4. บรัซโซ เอาไว้ขัดหัวเข็มขัดกับปลายเข็มขัดให้มันเงาๆ สมัยก่อนนี่ถ้าขึ้นปี 2 แล้วต้องเปลี่ยนสายเข็มขัดเลย เพราะตอนได้ชุดมาตอนปี1 เข็มขัดมันจะสั้นๆ ไม่เฟี้ยว สมัยก่อนที่ปลายเข็มขัดต้องห้อยๆ ให้พ้นชายเสื้อออกมา อื้มม โคตรจ๊าบ แต่อย่าให้ครูฝึกเห็นละ โดนสั่งหมอบ สั่งโผทันที
••••
5. ซิ่ง หรือ ที่ถ่วงขากางเกง
ตอนเรียนปี 1 ( ม.4 ) ผมนี่นึกว่าสปริง เอามาไล่ฟาดกันอย่างมัน แต่พอปี 2 ก็เปลี่ยนมาใช้ซิ่งผ้า เพราะมันดูเท่ดี แต่แม่งเอ๊ยหนักชิบ
เนี่ยชีวิตการเรียนร.ด. มาสองปี ผมก็รู้จักอยู่แค่เนี้ย แล้วผมจะไปหาซื้อยังไงวะ ไม่รู้แหล่งเลย จนไอ้หัวหน้ากองพันที่ผมด่าพ่อมึงตาย ก็บอกว่าเดี๋ยวไปกับกู กูจะไปเสาร์นี้
อ่ะพ่อมึงตาย เอ๊ยไม่ใช่ๆๆ อ่าสบายเลยผม และวันเสาร์ก็มาถึงครับ มันนัดเจอกันที่สนามหลวงตรงศาลหลักเมือง ผมก็สบายหน่อย มารอรถเมล์ตรงปากซอย แล้วขึ้นรถเมล์ 123 ต่อเดียวถึงเลย
พอไปถึงก็อย่างที่รู้ๆกันครับ ถ้าจะนัดรวมกันมันต้องเผื่อเวลาไว้ คือนัด9 โมง เตรียมทำใจไว้เลยว่าแม่งต้องมาครบเกือบ 10 โมงแน่ๆ และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆครับ
อ่ะครบแล้ว 5 คน วันนั้นพวกเราไปกัน 5 คนครับ ซึ่งผมก็นึกว่าแม่งจะไกล ไม่เลย ไม่ใช่เลยเดินมาอีกนิด ข้ามสะพานอีกหน่อย แหล่งขายอุปกรณ์เข้าค่าย มันอยู่หลังกระทรวงกลาโหมเองครับ หรือที่เรียกว่าคลองหลอดนั่นแหละครับ
แม่เจ้าใกล้ชิบหายเลย เอาล่ะกูรู้แหล่งละทีนี้ ปี3 สบายแน่กู ไม่ต้องรอพวกมึงด้วย วันนั้นเหมือนเปิดโลกผมเลยครับ นายโทน อายุ17 ปี เคยมาที่นี่ครั้งแรกบอกเลย
เจออะไรมากมายเลยครับ ทั้งตึกรามบ้านช่องทรงโบราณ ทั้งอุปกรณ์ตำรวจ ทหาร มากมายเสื้อกั๊กแบบตำรวจ อีกทั้งคอมแบทหลากหลายแบบ เยดเข้นี่ผมทนใส่แบบหนังทั้งคู่มาตั้งนาน
พึ่งรู้ว่ามีแบบกึ่งผ้าด้วย สบายกูล่ะ แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ดีมากหรอกครับ ด้วยความที่เป็นผ้าทำให้เสียทรงง่าย และต้องรัดให้แน่นกว่าปกติ ซึ่งพอเอาจริงๆก็ไม่ได้ต่างจากคู่ที่เป็นหนังทั้งคู่เลย
พวกผมเดินซื้อกันหลายอย่างเลยครับ นอกเหนือจาก กระเป๋าสนาม เข็มขัดสนาม สายโยงเป้ กระติกน้ำ ที่เป็นของหลักๆแล้ว ผมก็ยังซื้อพวกผ้ายางปูนอน เสื้อยืดสีเขียวที่เย็บฟองน้ำตรงบ่าเพิ่มอีก
ตอนนั้นสองจิตสองใจว่าจะซื้อถุงนอนดีมั้ย เพราะตอนนี้มันเดือนมกราคม หน้าร้อน เอาถุงนอนไปจะได้ใช้เหรอ มัน 300 เลยนะเฮ้ย 300 นี่เอาไว้เดินเที่ยวเซ็นทรัลปิ่นเกล้าได้ทั้งวันเลยนะ
แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อครับ เพราะคิดว่ายังไงมีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี แล้วก็ซื้อกระบอกไฟฉายสีดำเพิ่ม แล้วก็ของอีกเล็กๆน้อยๆ ซิ่งนี่ไม่ได้ซื้อเลย
เพราะพี่ๆมันบอกกันว่า ใส่ไปแค่วันแรกเท่านั้นแหละ วันหลังๆลงน้ำ ลงโคลนมันจะถ่วงขาเปล่าๆ ที่สำคัญอย่าลืมแป้งตราโยคี กับผ้าอนามัยด้วย
ซึ่งผมก็งงนะตอนแรกว่าจะเอาผ้าอนามัยไปทำไมวะ และเขาก็บอกว่าเอาไว้ห่อตรงส้น เพราะมึงได้เดินกันทั้งวันแน่ๆ สรุปวันนั้นซื้อของกันเกือบ 5 ชั่วโมงครับ
ต้องเทียบราคาหลายๆร้าน เพราะพวกเราก็ยังเป็นเด็กที่ขอเงินพ่อแม่ใช้ เรายังไม่มีรายได้เลย แข่งยูโดได้เงินมาผมก็เอามาเป็นค่าขนม เพราะไม่อยากจะขอพ่อแม่เท่าไร
บอกเลยว่าผมไม่ใช่เด็กดี กตัญญูอะไรหรอกครับตอนนั้น แต่ว่าอะไรที่ช่วยได้ มันก็ต้องช่วยแหละครับ บ้านผมตอนนั้นกำลังสร้างอะไรหลายๆอย่าง อะไรประหยัดได้ งดขอได้ ก็ต้องทำ
อ่ะกลับมาต่อ วันนั้นแบกของกลับบ้าน กลายเป็นพวกบ้าหอบฟางเลยครับวันนั้น สรุปที่ผมซื้อวันนั้นทั้งหมดก็มี
(https://www.img.in.th/images/ca752e394b5ae9c8c6a8933586866a13.jpg)
-เป้สนาม
.......
(https://www.img.in.th/images/37ca53c619e1af10fbec524a598d1a82.jpg)
- กระติกน้ำ + เหล็กเกี่ยวสำรอง
........
(https://www.img.in.th/images/59a20a80f40d45d6a14d32fa7eaf7f91.jpg)
- สายโยงเป้ ( ซื้อมาทำไม บอกตรงๆไม่ได้ใช้เลย )
.......
(https://www.img.in.th/images/8b55673f1af344b258204ecf8852fdc5.jpg)
- เข็มขัดสนาม ( สมัยนั้นผมใช้แบบในภาพนะ อิจฉาเด็กสมัยนี้มีแบบกริ๊บล็อกด้วย )
........
(https://www.img.in.th/images/6e890bedd13478b92145fe172dee6bb4.jpg)
- ผ้ายางผืนนึง
........
(https://www.img.in.th/images/2d261bf56577c0e6244ccaf6305549bb.jpg)
- ถุงนอน ( ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังอยู่ )
.......
(https://www.img.in.th/images/fcde2f020e96866df5630307a633dd46.jpg)
- ไฟฉายสีดำ ( มาเป็นบ้องเลยครับสมัยก่อน โอย สมัยนี้อันนิดเดียวน้ำหนักเบา แถมสว่างชิบ )
......
(https://www.img.in.th/images/1e521b3e3e75680140b4bef628985419.jpg)
- หมวกสีเขียว ( แม่งต้องหายแน่ๆ สำรองไว้ก่อน เดี๋ยวโดนแดก )
......
(https://www.img.in.th/images/b7fcdd31e07e8539090fddd09c436121.jpg)
- เสื้อยืดเสริมไหล่
......
(https://www.img.in.th/images/48e2910fa143af310d2dd5f6c2d8adbd.jpg)
- เสื้อยืดคอเต่าสีเขียว ( ไม่รู้ซื้อทำไม )
......
นี่แหละครับของที่ซื้อมาวันนั้น ซึ่งอาจจะมียิบๆย่อยๆอีก ซึ่งจำไม่ได้ครับต้องขออภัย หลังจากที่กลับบ้านมาแล้ว หลับครับ หลับไม่รู้เรื่องเลยทีนี้ ซึ่งหลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์
ก็ไม่มีอะไรมาก แต่ทุกวันพฤหัสบดี ตอนคาบชุมนุม รักษาดินแดน พวกผมก็ต้องไปเข้าเพื่อฟังคำแนะนำและชี้แจงต่างๆจากครูฝึก และไอ้พวกรุ่นพี่ที่สนิทกันก็มาบอกต่างๆนาๆ
มึงโดน " จ่านรก " แดกแน่ มึงโดนผีหลอกแน่ เดินทางไกลตอนดึกมึงระวังนะไอ้โทน มึงวิ่งไม่เร็วเท่าผีหรอก มึงสับตีนแตกมันก็ไล่ทันมึง แล้วก็เข้าสู่ชั่วโมงพิศวงครับ
คือพวกพี่ๆแม่งก็เหี้ยมเกิ๊น รุ่นน้องกำลังจะไปอยู่ในที่ที่มีการสู้รบในอดีต เออคือรู้แหละว่ายังไงก็มีคนตาย ยังไงก็มีศพ ยังไงก็ต้องมีจิตที่หลงเหลืออยู่
แต่มึงจะมาบิ๊วทำไมว๊า เอาจริงๆผมก็ไม่ได้กลัวผีมากนะ เพราะเจอมาตั้งแต่เด็กๆเลย ที่ผมไม่กลัวไม่ใช่อะไรหรอก เพราะผีที่ผมเจอมักจะมาแบบแว๊ปๆ ปลายหางตามั่ง วิ่งผ่านมั่ง
แต่ที่ผมหวั่นใจคือที่ตรงนั้นมันแรงไงครับ มันเป็นที่ที่พวกเขาอยู่ แล้วถ้าเจอจังๆขึ้นมาจะทำยังไงวะ วิชาอาคมอะไรผมก็ไม่มีเหมือนบักริวกะ ผมก็มีแค่บทสวดที่สวดมนต์กันแค่นั้นเอง
และแล้ววันเข้าค่ายก็มาถึงครับ พวกเรานัดรวมพลก็มาครับ พวกผมมารวมกันที่สวนเจ้าเชษฐ์ ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกที่พวกผมเรียนกันตอน ปี.1 พวกผมยังจำได้ไม่มีวันลืม
[ ครูฝึก ] : น๊าบ ก้าว
[ พวกผม ] : หนึ่งงงงงง สอง
[ ครูฝึก ] : น๊าบบบ ใหม่
[ พวกผม ] : หนึ่งงง สอง
[ ครูฝึก ] : ไม่ถูกใจ
[ พวกผม ] : หนึ่งงงง ส๊องงง !!!
[ ครูฝึก ] : นับต่อไป
[ พวกผม ] : สาม สี่ / หนึ่ง สอง สาม สี่ / หนึ่ง สอง สาม สี่ / ชาติ เกียรติ วินัย กล้าหาร อดทด สามัคคี สู้ตาย พัน ร ศสร. เอี้ย !!!
คำที่พวกผมท่องกันจนขึ้นใจตอนเดินกลับบ้านหรือฝึกเดินแถว หรือสวนสนาม อ่าส์ วันนี้ไม่มีแดดครับ สบายละกรูวันนี้ แต่ก่อนอื่นเลยพวกผมต้องรีบเดินหาร้านขายของชำ ไม่ก็เซเว่น เพื่อหาซื้อผ้าอนามัยให้ไวเลย
ตอนแรกก็โคตรอายครับ แต่คนขายเห็นพวกผมใส่ชุดนักศึกษาวิชาทหาร เขาก็ยิ้มให้ครับ เขาถามว่าจะเอาไปรองคอมแบทเหรอ ผมบอกใช่ครับๆ แล้วมันทำยังไงอ่ะครับ ผมพึ่งไปเข้าค่ายครั้งแรกเลย
ซึ่งอากง คนขายของก็ใจดีนะ สอนแทบทุกอย่างเลย เพื่อนผมแม่งก็คิดอะไรก็ไม่รู้นะ ไปเดินด้อมๆมองๆ แถวโหลขายขนม มันถามอากงว่า แปะครับ มีพวกถุงกันความชื้นมั้ย ผมจะเอาไปใส่ไว้ในกางเกงใน
ผมนี่แบบห๊ะ !!! เหี้ยอะไรเนี่ยถุงกันความชื้นใส่กางเกงใน พ่อมึงตาย ผมก็ถามมันครับอะไรมึงเนี่ย อากงก็บอกนะครับว่าอย่าเลย มันไม่ดีหรอก สารเคมีโดนไอ้นั่นขึ้นมามันจะใช้การไม่ได้นะ
เพื่อนผมมันก็เหวอๆเล็กน้อยครับก่อนที่จะซื้อแค่ผ้าอนามัยแบบผม และตอนนั้นครับประมาณ 6 โมงเช้า รถบัสสีเขียวขี้ม้าก็มาเลย ครูฝึกลงมาจากรถและเรียกรวมพลเลยครับ
เขาแจกแจงอย่างรวดเร็วว่าเลขที่เท่าไรไปคันไหน พวกผมนี่ก็รีบเลยครับเพื่อที่จะเข้าไปนั่งติดหน้าต่าง อ่าส์สบายกูล่ะ ผมนี่เตรียมเปิดหน้าต่างเลยครับแต่ว่า
[ ครูฝึก ] : เฮ้ย นักศึกษาห้ามเปิดกระจก ปิดไว้แบบนั้น
เอ้าอะไรวะห้ามเปิดกระจกอีก โอยอะไรวะเนี่ย ซึ่งผมไม่รู้เลยครับ ว่า 3วัน 2 คืน ณ เขาชนไก่ มันได้เริ่มตั้งแต่พวกผมก้าวขึ้นรถบัสแล้ว
ผมไม่รู้ว่าเราใช้เวลาเท่าไรกว่าจะถึงเขาชนไก่นะ เพราะว่ารสบัสจอดกลางทาง เพื่อรอรถที่รับนักศึกษาโรงเรียนอื่นมาด้วย เพื่อที่จะได้เข้าไปพร้อมๆกัน อ่าส์ชิบหายละไง แดดเริ่มมา อากาศเริ่มร้อน
อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นแปลกๆ ผมก็แบบคิดในใจนะ เอาละไงชิบหายละไง ผมเริ่มปลดกระดุมเสื้อครับ ตอนนั้นชั่งใจอยู่ว่าจะดึงชายเสื้อออกมาดีไหม แต่คิดๆไปอย่าเลยดีกว่าว่ะ
(https://www.img.in.th/images/e36e71f02ea8985f8bb4f7c57b8bee87.jpg)
และพวกผมก็มาถึงเขาชนไก่ครับ โอ้โหแดด ไอ้สัดแดด โอย นี่ผมอยู่แอฟริกาหรือไงวะเนี่ย ปี๊ดดดด ปี๊ดดดด เสียงนกหวีดที่คุ้นเคยดังขึ้นมาแล้วครับ พวกผมรีบขนกระเป๋าลงจากรถเลย
ซึ่งแน่นอนครับพวกผม ยังคงเอ้อระเหอลอยชาย เพราะติดนิสัยมาจากการเข้าค่ายลูกเสือ ที่มันไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย ซึ่งพวกผมคิดผิดมหันต์เลย
หมอบ !!! บอกให้หมอบ !!!
เสียงที่โคตรดุ และโคตรน่ากลัวดังขึ้นมาทันที พวกผมก็ลงไปหมอบเลยครับ อึ้ก !!! แม่งเอ๊ยจี๊ดเลยครับ หินเล็กๆ แม่งทิ่มแขนทิ่มขาเต็มไป หมด
ลุก !!!
เสียงๆเดิม สั่งอีกครั้ง พวกผมก็ลุกครับ แต่พอลุกมาก็ปัดนู่น ปัดนี่ตามนิสัยที่เคยทำกันมา
(https://www.img.in.th/images/93051e7871a0a98278c864b61a2727e3.jpg)
ชักช้า ชักช้าใครให้มึงปัด หมอบ หมอบลงไป !!!
พรึ่บ !!! พวกผมทิ้งตัวเลยครับทีนี้ หัวใครเป็นหัวใครไม่รู้หล่ะทีนี้ ใครซวยน้อยหน่อยก็โดนปลายคอมแบทเตะเข้าที่หัว ใครซวยมากหน่อยก็โดนที่นิ้ว พวกผมหมอบจนหน้าแนบกับพื้นแดนแดง
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เจ็บก็ต้องทนร้อนก็ต้องทน
[ ครูฝึก ] : สั่งให้ลุกก็ลุกอย่าชักช้าครูโรงเรียนพวกมึงไม่สอนกันหรือไง ห๊ะ !!! สั่งลุก ลุกให้ไว ลุก !!!
พรึ่บ !!! พรึ่บ !!! พวกผมนี่ลุกให้ไวเลยครับ ผมลุกได้ไวนะ เพราะออกกำลังหายมาบ่อย ส่วนพวกเพื่อนๆหลายคนก็เซไปก็มี เพราะกระเป๋ามันก็หนักไม่เบาเลย
[ ครูฝึก ] : จัดแถว !!!
[ พวกผม ] : เฮ้ !!!
พวกผมรีบวิ่งไปจัดแถวทันที เพราะไม่อยากจะหมอบตรงพื้นดินแดงนี้อีกแล้ว ไม่ถึง 1 นาที โดนสั่งหมอบไป 2 ครั้ง แล้วอีก 3 วันพวกผมจะโดนอะไรมั่งเนี่ย และแล้ว 3 วันสองคืนบนเขาชนไก่ของผม ก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
เด็กบ้านนอก ต่างจังหวัด ไม่เคยไปฝึกที่ เขาชนไก่ เหมือนเด็กกรุง แต่คิดว่า ความมันที่ได้รับก็คงไม่ต่างกันมากนัก
....
จะว่ามันส์ก็ใช่ จะว่าทรมาน มันก็ถูก อ่าส์ อาบน้ำสองขันเท่านั้น
#โทน
เราเรียนที่โรงเรียนวัดราชโอรส จำได้เลย ตอนปี1ฝึกที่สวนเจ้าเชตุ ตอนปี2ฝึกที่สนามเป้า ตอนปี3ฝึกที่ศูนย์ใหญ่ ชีวิตตอนนั้นสนุกมากแต่ตื่นเช้าไปหน่อย ยังจำได้ว่าเข้าเซเว่นกันที สเลอปี้แก้วเดียวกินกันทั้งกองร้อยเลย
....
ตอนปี1 ผมเรียนที่สวนเจ้าเชษฐ์เหมือนกันครับ
ส่วนปี 2 กับ ปี3 เรียนศูนย์ใหญ่
#โทน
ผมไปเจอ จ่านรก เอ้ย จ่าณรงค์ ช่วงแฟนฉันกำลังดัง แม่งให้ปั่นจักรยานอากาศ 555
เด็กต่างจังหวัด ไม่เคยไปฝึกที่ เขาชนไก่
ย้อนวันวานถึงตอนสมัยวัยรุ่นเลยครับ
ผมไม่ได้รด.นะเพราะเกรดไม่ถึง แต่ก็รู้จักเขาชนไก่ดีเพราะเป็นเด็กกาญ
::Glad::อ่านแล้วความทรงจำสมัยเรียน รด. ผุดมาเลย
เอ่อ จากร้านเกะพระราม3 มันไหลไปถึงเขาชนไก่ได้ไงเนี่ย
ช่วงต้นๆเรื่องพิมพ์ผิดเยอะอยู่นะ
....
ไล่แก้แล้วครับ
#โทน
เรียกว่าปูเรื่องสินะ
ตอนแบบนี้ รีบมาให้อ่านต่อนะครับ ดูเหมือนยังไม่เข้าเส้นเรื่องหลักเลย
โอยยยยย คิดถึงบรรยากาศ
ปี 1 สวนเจ้าเชตุ ปี 2 แยกเกียกกาย ปี 3 ศูนย์รังสิตตามระเบียบ ปลอกแขนแดงนี่ดุ แดกหมามารึยังไงไม่ทราบ
ข้าวกับสารพัดไก่ เมนูคู่นศท จริงๆฮะ
หมวกหายโครตบ่อย สายคาดเอวกับกระติกเป้ผมยังอยู่ เป็นสนามผมนี่ลากใช้มาอีกหลายปีเลย โครตชอบ (แม้เกรดจะต่ำก็เถอะ)
ดินแดง แดด และจ่านรก ซิกเนเจอร์ของเขาชนไก่ครับ
(ล่าสุดจ่่่าแกเกษียณที่ ร้อยเอกมั้งครับ เป็นจ่ามา 17 ปี)
ห้องน้ำอีกอันนึง รุ่นน้องเขาทำห้องน้ำใหม่ให้แล้วครับ ไม่สะใจเลย
ปีผมศูนย์เขาซื้อเครื่องสนามมาพร้อมขายเองเลยครับ
ผมจะตามหลังอยู่ 6-8 ปีมั้งครับ
คิดถึงกลิิ่นดินปืน และหมวกเหล็กที่เคาะกบาลเหลือเกิน อาาาา ขอบคอมแบตที่่ทัักทายยามเราช้า เสียงว๊าก หมอบ ลุก หมอบ
เห้ย...อ่านไม่กี่บรรทัด มาเม้นก่อนเลย นี่ห้องเด็กศิลป์ฝรั่งเศสเหมือนผมเร้ย 555+
รด. ผมไม่เรียน จบ ม.ปลายต่อปวส. จบมาลุ้นจับใบดำแดง ซึ่งก็แดง แล้วก็อยู่ต่ออีกปีเป็นสองปี มันก็มีประสบการณ์ชีวิตทั้งดีทั้งเลวปนๆกันไป
ต่างจังหวัดครับ สนุกดีเหมือนกัน เสียอย่างเดียว ท้องเสีย 2 วัน วิ่งไป จะไหลไป เวรจริงๆ
ย้อนอดีตในวันวานได้ดีเลยครับ คิดถึงช่วงเวลานั้นเหมือนกัน ปี1ปี2ผมเรียนที่เกียกกาย ปี3เรียนศูนย์ใหญ่ครับ
หนีทหารแบบถูกกฎหมาย เข้าใจผิดแน่เลย เป็นทหารเต็มตัวไปแล้ว จบหลักสูตร ว่าที่ร้อยตรี ลับ ลวง พราง
ลืมไปนานแล้ว เหตุการ์เขาชนไก่ แต่โค้ดเนมก้านกล้วยนี่ยังตราตรึง จ่านรกก็ไม่เห็นนรกนะผมว่า
ตอนเรียน รด อยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้มาเขาชนไก่ แต่เข้าค่ายที่จังหวัด ของพวกอุปกรณื ทางค่ายมีแจกให้หมดเลย
ขอบอกว่าลุงน่ะ40ปีที่แล้วเลยไปรุ่นแรกของปีวันแรกต้องมาถางป่ากางเต๊นท์รวมนอน แรกๆเห่อมาแบกHK.33 พอวันหลังๆแถบอยากโยนทิ้ง
ลุงนี่40ปีที่แล้วผลัดแรกต้องมาถางป่ากางเต้นท์กันเองเป็นเต้นท์ใหญ่นอนเกือบ20คนได้ ชุดเอาไปแค่2ชุดครับชุดหล่อไว้ใส่กลับ ตื่นเช้ามาเดินตบเท้าไปเบิกปืนHK. แบกมันทุกวันเดินไปแต่ล่ะสถานีแม่งโคตรไกลเลย
ทำให้นึกถึงตอนเรียนขึ้นมาเลยครับ
ร้านที่ศูนย์ใหญ่เขาทำเป็นไม่กี่อย่างมั้งครับ 1ในนั้นคือข้าวมันไก่ 55555 มีร้านข้าวมันไก่อยู่ประมาณ80%จากร้านทั้งหมดเลย ส่วนขนมปังของเมียทหารผมว่าอร่อยดีน่ะ กินแบบไม่รู้จะไปกินที่ไหนดีแล้ว55555 คิดถึงวันวานเลยครับ
ผมเรียนศูนย์ใหญ่2ปีเลย โหดมาก
ผมก็ไป มันส์ดี ไม่เจอผี เจอแต่ผีขนุน เข้าเวรกับพวกแม่งอีก สนุกดีครับ ตอนผมเรียน มีเรียนอยู่ราบ 11 แล้วอีกปีไปเรียนที่วิภาวดี นึกถึงความหลังเหมือนกันครับ
พอเอ่ยถึงเขาชนไก่ภาพเก่าๆก็ลอยมาเลยครับสมัยหนุ่มๆ
ติดงอมแงม อีกเเล้ว ทั้งร้านเกะ เหมียว หญิงในเกม 55
ผมรุ่นพิเศษ โดนเข้าค่ายตั้งแต่ปี1ยันปี3
ปีแรกไปเข้าค่ายที่ทหารสิงคโปร์มาซ้อมรบที่กาญฯ
เหยียบลงไปก้าวแรกที่ลงจากรถนึกว่าเป็นนิวอาร์มสตรอง
แม่งเหยียบปุ๊บจมฝุ่นไปยันข้อเท้า ฝุ่นลูกรังหนาชิบแล้วฟุ้งตลอด
เดินไปหน้าดำทุกคน
ปีอื่นไปเขาชนไก่ ร้อนชิบ555
หนีทหารแบบถูกกฎหมาย คำนี้ใช้มานานแล้ว ยังมีอีกรึ
ผมไม่ได้ไปที่เขาชนไก่ ไปค่ายในเพชรบูรณ์ 555
เด็ก ตจว ต้องไปเขาชนไก่ปี5
ว้าว ขอตามเรื่องนี้อีกนะครับ สงสัยจะตืดเรื่องนี้เหมือนนายริว กะร้านเกะอีกแล้ว
ไม่ได้เรียน รด. ตอนนั้นเรียนเทคนิคไว้ผมยาว ถ้าเรียน รด. แล้วมันต้องตัดผม มันไม่เท่ห์ 5555
สนุกนะเขาชนไก่ ผมไปมา2ที มันดี แต่เจอผลัดท้ายๆ ครูไม่ค่อยสนใจ จะ้ก็บของอย่างเดียว
เรื่องนี้ก็น่าสนุกเหมือนกัน เป็นประสบการณ์ที่น่าติดตามดี
ขนาดยังไม่เข้าบทแบบนั้นยังอ่านสนุกเลย เป็นฝีมือของผู้ประพันธ์จริงๆ
อ่านย้อนความหลัง จำได้ว่าของผมเรียนที่ศูนย์ใหญ่ตลอด แต่เหมือนมีบางอาทิตย์ไปอีกศูนย์นึง แต่ที่แน่ๆเขาชนไก่ โหดจริง
จะมีประสบการณ์แปลกใหม่ของนายโทนที่เขาชนไก่มั้ยนะ
ทำให้หวนรำลึกถึงตอนเรียนรด.เลย
มีเรื่องใหม่ให้ติดตามอีกแล้ววว
รำลึกความหลังของหลายๆคนเลยนะครับเนี่ย
รุ่นผมไม่ได้ไปเขาชนไก่เสียดายเหมือนกัน ได้ไปค่ายแถวชลบุรีแทน
เขาชนไก่ฝุ่นเยอะดูแห้งแล้ง
ย้อนอดีต
ลุ้นว่าจะเจอรด.ชายหรือรเ.หญิง55
รำลึกความหลังเลยนะครับ เป็นความทรงจำสมัยเรียน รด. เลย
สมัยผมเรียนเขาชนไก่ไปแค่ปี3กับปี5 แต่ของไม่ต้องซื้อ ใช้ยืมของหลวงมาใช้
ทำให้นึกถึงตอนไปฝึก ได้อะไรกลับมาหลาย จากเพื่อนที่ไม่ชอบหน้ากันก็ต้องช่วยเหลือกัน เพราะอยู่หมู่เดียวกัน ไม่ช่วยมันก็จะโดนทำโทษไปด้วย มันไม่ช่วยเร่าก็จะโดนทำโทษได้วย 555
หมอบ ลุก หมอบ ลุก พื้นร้อนๆ พวกเมิงคิดว่ากุเป็นขนมปังปิ้งใช่มั้ย -*-
ช่วงดีๆของชีวิตของใครหลายๆคน
เข้าใจว่าต้องฝึก แต่บางที่ ทหารที่คุมก็... เกินไป
แล้วคนขายของก็ช่วงทำกำไรสินะ
เดี๋ยวรอดูว่ายังไงกันต่อ เริ่มเรื่องไปค่ายแล้วจะไปจบตรงไหน
ขอบคุณครับ
ตอนฝึก ฝึกนครสวรรค์ ไปไม่ไกลจากหอที่อยู่ตอนเรียนมัธยมเท่าไหร่ ในรุ่นลูกทหารหลายคน เลยสบายหน่อย แม่ๆ ทั้วหลายเป็นคนทำกับข้าวเอง แต่ที่(โหดหน่อยก็ตรงไม่ให้อาบน้ำเลยนี่แหละ ปีสองสามวัน ปีสามห้าวัน ขากลับนี่โคตรลำบาก ตัวโคตรเหม็น จะนะนั่งสองแถวเข้าหอก็ไม่ได้ คนอื่นเค้าจะอ้วก เฮ้ออ
รอร้านเกะยุนะครับอะไรก็ติดตามผลงานนะครับ
::Glad:: ความทรงจำเก่าๆผุดลอยมาสารพัด ร.ด. เด็กบ้านนอกจะไม่ค่อยได้ไปเขาชนไก่ ถ้าจะได้ไปต้องเรียนปี4-5 แต่เด็กสังกัดทหารราบเพชรบุรีโดนเข้าค่ายที่แถวเขาหนองหญ้าปล้องที่เพชรบุรี ร.ด.ของผมเริ่ม
ตั้งแต่คัดตัว ดันพื้น30ครั้งขึ้นไป (ผมได้40ไม่รู้จะทำเกินทำไม กลัวไม่ผ่าน กับแข่งกับเพื่อน)
ซินอัพ50ครั้งขึ้นไป อันนี้สบาย กดไป70ใน60วินาที
ดึงข้อน่าจะ12ครั้งขึ้นไป อันนี้เอาพอดีได้12ก็บุญหัวละ
วิ่ง 1.8km ภายใน 4 นาทีนะถ้าจำไม่ผิด แต่ละคนตอนออกตัวสับตีนแตก ผมหรอซ้อมวิ่งประจำไม่กลัว555 ผมมาสับตอนปลาย สบายใจ ทำเวลา3นาที นิดๆ แล้วมาดูเพื่อนหอบเป็นหมาหอบแดดเลย สรุปผ่าน ร.ด. ชิวๆ ตอนเรียนกับครูฝึกก็โหดนะ เป็นคนไม่ค่อยมีหนวดมีแต่ขนอ่อนๆสีเดียวกับผิวก็ให้โกน แม่งกระทบมาถึงตอนโต ยิ่งโกนยิ่งขึ้น ยิ่งแข็ง ครูนะครูทำกันได้ ตอนฝึกปี1-2ก็โหดนะ ตอนแลกใช้ซิ้งเหล็กที่เป็นสปริงถ่วงขากางเกง แต่ด้วยความที่อยู่ประจวบ แดดทะเล หืม.....โคตรแรง แรงจนโดนสั่งหมอบอยู่กลางแดด ที่ตอนแรกไม่เท่าไหร่ พอโดนสั่งนอนหงายกลางมุ้งสี่เสาเท่านั้นแหละ โดนลวก สปริงร้อนๆที่โดนแดดก็เหล็กตากแดดดีๆนี่เองพอแนบเนื้อที มีพอง โอ้โห อี เห้... พองยังกับใส่กำไลข้อเท้า หลังจากวันนั้นใส่ซิ้งผ้าเลยครับ หนักแต่ไม่ร้อน ยอมคับ
ข้ามๆไปวันเข้าค่ายเลย เช้ามืดวันเข้าค่ายต้องมาเรียงคิวแก้ผ้า เอาผ้าปิดตาไว้ แก้หมดตัวเลยแล้วเอามือกุมไข่ จะมีครูประจำห้องพยาบาลเอายาม่วงนะถ้าจำไม่ผิดมาทาที่ ง่ามขาหนีบ หัวนม รักแร้ต้องปล่อยมือทีละข้างให้ทา กันการเป็นสังคังเพราะไม่ได้อาบน้ำแน่ๆ พอสัก7โมงก็ได้ขึ้นรถ GMC หรือ EMC นี่หล่ะ ไปเขาหนองหญ้าปล้อง พอลงรถปุ๊ป สิ่งแรกที่เจอคือการจัดแถวเสร็จตอนช่วงเกือบเที่ยงคือการหมอบลุก10ครั้งแล้วจัดแถวใหม่ ทีนี้ให้จัดแบบคละ รร. กัน พอได้แถว หัวหน้าหมู่ รองหัวหน้าหมู่ แล้วก็ให้วางกระเป๋า เส็รจครูฝึกให้ทักทายกันและไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองด้วยการสั่งให้วิ่งขึ้นไปยอดเขาลูกย่อมๆ สูงเท่าตึก 3-4 ชั้นได้ ด้านบนจะมีศาลาเล็กๆและพระพุทธรูปอยู่ ระยะห่างแถวไปถึงตีนเขาก็ประมาณ500m ที่สำคัญ ทางขึ้นมีทางเดียว ร.ด.มีประมาณเกือบห้าสิบแถว แถวละ10-15คน แต่แถวผมอยู่กลางๆกว่าจะถึงคิวให้ขึ้นเขาต้องรอกลางแดดแป๊ปหนึ่ง ก็ถึงคิวแถวตัวเอง พอตอนเดินขึ้นบรรไดอย่างชัน ก็แปลกใจทำไมพวกที่ขึ้นไปก่อนไม่เดินสวนกลับมาสักที พอขึ้นไปถึง ถึงกับบางอ้อ ไหว้พระมือเปล่าไม่มีดอกไม้ถูปเทียน เพราะเดี๋ยวไฟไหม้ ใครไหว้แล้วให้ยืนรอพวกด้านล่างขึ้นมาไหว้ให้หมด กว่าจะหมดเกือบสิบนาที ร้อน อบอ้าว เหงื่อแต่ละคนเริ่มเปียกตัวละ พอขึ้นมาครบ ครูฝึกข้างล่างบอก อีก5นาทีรวมจับคนช้า10นาย เพลงพี่ต้าพาราด๊อกมาเลยครับ เชื่อไหมครับไอ้คนที่ขึ้นมาทีหลังกำลังทำหน้าเหนื่อยๆมีแรงวิ่งตัวปลิวลงก่อนเลย เราอยู่กลางกว่าจะได้ลงต้องรอนาน ผมหันซ้ายหันขวาเจอเพื่อน รร เดียวกันก็พยักหน้าแบบไม่ต้องพูดก็เข้าใจกัน วิ่งลงทางข้างเขาไปที่จุดรวมพล แต่ แต่ครับแต่ ทางมันจะชันกว่าทางขึ้นเท่าหนึ่งแต่สั้นกว่ามาก ย้ำว่ามากๆ พอผมกับเพื่อนเปิดคนอื่นก็ตาม ทางลงจะเป็นทางชัน มีต้นไม้น่าจะเป็นกระถินขึ้นเต็มเขาต้นประมาณเท่าแขน เท่าขาได้ เป็นที่ยึดเหนี่ยวเวลาลงไม่ให้ล้ม สนุกครับ พวกเราลงแบบเร็วมาก เนื่องจากเป็นขาลงด้วย มีจังหวะหนึ่งครับยังจำได้ติดตามาทุกวันนี้ จังหวะที่วิ่งลงอยู่ อยู่ๆก็มีงูโผล่หัวขึ้นมามองทางผม ผมจะเบรคก็ไม่ได้มาเร็วมาก ตัดสินใจทำบาปเลยครับ เหยียบหัวงูด้วยคอมแบตเลยครับ ไม่รู้งูมีพิษไม่มีพิษ แต่กลัวโดนจับคนช้ามากกว่า แล้วก็ผ่านงูไปโดยไม่หันหลังกลับเพราะต้องเลือกช่องที่จะผ่านต้นไม้ให้ดี ต้นเท่าแขนจะโดนเหนี่ยวจนหักคามือบ้าง หลุดมือบ้าง สรุปลงมาถึงภายใน2นาที มาถึงเป็นคนที่สิบกว่าๆได้ ครูฝึกก็ยิ้มๆที่พวกผมใช้ทางลัดไม่รอทางหลักเหมือนคนอื่นๆ แต่ก็มีบ่นๆนิดหน่อย แต่ไม่ลงโทษอะไร นั่งรอสักพักก็ลงมากันครบ คนช้าก็โดนหมอบลุก ปั่นจักรยานอากาศ แต่ไม่ใช่แค่คนช้า10นาย นะครับ คนช้าอยู่หมู่ไหน หมู่นั้นทั้งหมู่โดนด้วย หมู่ผมรอด 555 เสร็จก็ไปกินข้าว เดินทางไกล พอถึงจุดพักมีคนเอายาเส้นมาสูบ ครูฝึกมาเห็นพอดี งานเข้าเลยครับ ยาเส้นสองห่อโดนม้วนเป็นซิกก้าอันใหญ่ แล้วให้ดูดให้หมด เพื่อทำลายหลักฐาน อื้อหื้อ คนนั้นนี่สำลักแล้วสำลักอีก ตาแดง ตาเยิ้มเลยครับ พอมันสำลักทีครูฝึกก็หัวเราะชอบใจ ครูฝึกบอกว่า บอกแล้วใช่ไหม เหล้าบุรี่ ไพ่ อย่าเอามา มันก็เถียงนี่ยาเส้นนะครูไม่ใช่บุหรี่ จากที่มันจะโดนซิกก้ามวนเดียว โดนมวนที่สองต่อ สมน้ำหน้ามันอยูดีไม่ว่าดี ไปเถียงครูฝึก พวกผมก็นั่งยิ้มๆกันไป ตกเย็นก็ได้กินข้าวแกงเขียวหวานไก่ ที่เป็นมะเขือสิบไร่ ไก่ครึ่งซีก ใครน่าตาดีหน่อยจะได้เนื้อไก่หน่อยนึงเพราะคนตกเป็นตุ๊ด 555 ผมก็ได้ชิ้นใหญ่มา1ชิ้น 555 เชื่อไหมตั้งแต่โตมาพึ่งเคยกินแกงเขียวหวานที่อร่อยขนาดนี้ครั้งแรก คงเหนื่อยบวกหิว 555 ตกค่ำก็มีเดินป่ากลางคืน พลางตัว ก็ไม่มีอะไรผ่านไปด้วยดี พอถึงเวลานอน มีเวลาแค่ล้างหน้าแปลงฟัน ที่สำคัญไม่มีใครอาบน้ำ แม่งไกลและโคตรหนาว กลางวันร้อนตับแตก กลางคืนหนาวเชี่ยๆ ล้างหน้าแปลงฟันเสร็จก็ถอดเสื้อตัวนอกผึ่งให้เหงื่อแห้ง ถอดรองเท้าไว้ในเต้นบางคนไม่ถอดกลัวหายครูฝึกชอบแกล้งมาขโมยของ ที่สำคัญต้องนอนกอดปืน1กระบอก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น เจเกอร์ นะห้ามห่างตัว ห้ามหาย แต่พอนอนได้สักตีสาม มีคนเอะอะโวยวาย เป็น รด นะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะโดนผีเข้าเพราะไปเยี้ยวรดจอมปลวก แล้วก็พูดท้าทาย ว่าผีไม่มีจริงหลอก จะกลัวไปทำไม สุดท้ายเจอดีต้องทำพิธีขอขมาตั้งแต่ตีสี่ บางคนขวัญอ่อนก็กลัวจนหลับไม่ลง แต่ผมชินกับเรื่องพวกนี้ละ หลับสบาย เพราะก่อนนอนก็ขอเจ้าที่เจ้าทางกับแผ่เมตตาไปเรียบร้อย วันต่อมาก็เข้าฐานปกติตอนเช้า บ่ายยิงปืน m16 มันจะต้องมีคนแม่นปืนกับมือปืนเป้าสะอาด แต่จะมีเทพกว่านั้นคือ มือปืนระดับมหากาฬ แม่งยิงลวดที่เอาไว้ติดเป้ากระดาษขาด ก็จะได้รางวัลเป็นตบกะบาลจากครูฝึก เพราะแกต้องเสียเวลาไปผูกลวดใหม่ 555 วันสุดท้ายก็มีซ่อมนิดหน่อยและรอรุ่น2 มาเข้าค่ายต่อจากรุ่นแรก พอรุ่น2ลงรถปุ๊ป รุ่น1จะทำท่าปาดคอ ขู่ให้รุ่น2กลัวเล่นๆ เพราะสภาพรุ่นแรกแต่ละคนหน้าดำเพราะผงทาหน้า เสื้อนึกว่าแผนที่โลก ขี้เกลือขึ้นเต็มหลัง แล้วก็นั่งรถ gmc กลับ รร. อ่อ แล้วรถทหารเป็นรถพิเศษ ไม่ถึงจุดพักแม่งไม่จอด แม้แต่ไฟแดง แม่งผ่าไปเลย ชาวบ้านด่าตามหลังเป็นแถบๆ 555 นึกออกเท่านี้แหละคับ ขอบคุณคับ
อยู่ต่างจังหวัดครับ ที่เรียนเพราะประเมินแล้วว่า เรียน รด ลำแค่ช่วงเรียนนิดหน่อย ไม่ต้องไปลุ้นตอนเกณฑ์ ซึ่งถ้าโดนก็เสียเวลาไป 2 ปี เห็นทหารเกณฑ์ฝึกแล้วรู้เลยว่า รด สบายกว่าเยอะ
อ่านแล้วนึกถึงสมัยเรียน รด เลยครับ ฮืออออ.
เคยจะเรียน รด เหมือนกัน แต่สุดท้ายเกเร เลยไม่รู้รสชาติมันเป็นยังไง
รถเมล์ไปอนุสาวรีย์ มัน 125 ครับ
124 มันไปพาต้า 5555
ว่าแต่ ผมก็รอท่านเทพทรูนอนเป็นผักมาหลายเดือนละ ล่าสุด ท่านเทพ ลุกมาบอก กลับมาแล้วนี่น้ำตาไหลเลย
แม่ง บอกแค่นี้ จบ !!!! อกคนรอจะแตก !!!
....
ลืมเลยครับผม
#โทน
คิดถึงสมัยวัยรุนเลย
นึกถึงตอนเด็กที่เรียน รด เลยครับ เป็นเรื่องเล่าให้ลูกให้หลานฟังได้เลยครับ ย้อนกลับไปนึกถึงแล้วนั่งยิ้มคนเดียวเลยครับ
ดูแปลกไปอีกแบบ นายโทนย้อนอดีตไปช่วงเรียนรด. ::Thankyou:: ::Thankyou:: ::Thankyou::
จ่านรกปัจจุบันก็ยังอยู่ 555
เป็นซอมบี้ป่าวฟะ
ประสบการณ์จะช่วยสอนความสามัคคี อดทน การเอาตัวรอด
ตัวเองไม่มีประสบการณ์กับเขาชนไก่เลยครับ ลูกไปมาเขาก็ว่าโอเค ครูดีกว่าที่ศูนย์ฝึกอีก มันไปจริงหรือเปล่าวะ 555
ผมเข้าฝึกที่ ตจว. ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการตัดไม้ตัดหญ้า ตามคำสั่งครูฝึกครับ แต่ประเภทไม่ได้อาบน้ำหลายวันเนี่ย ให้อาบน้ำในบ่อโคลนกผ้ยังดีนะครับ ขึ้นมาเหมือนโรยแป้งเลย
ขอบคุณครับ
ชีวิตช่วงนี้สนุกสุดเลยนะ
แก้ขัดด้วยการรำลึกถึงอดีต..สนุกดีครับ ว่าแต่ ท่านโทนความจำดีแท้ๆ เล่าออกมาเป็นฉากๆ เห็นภาพเลย
หนีทหารไง5555
อ่านละคิดถึงบรรยากาศสมัยเรียนเลยครับ ชอบๆ
เห็นชื่อเรื่องตอนแรกนี่ลุ้นเลย นึกว่าจะมีเสียวในป่า555
เจอมาเหมือนกัน 3 ปีเลย แต่ก้อสนุกดี เป็น ปสก. ชีวิต ใครไม่เคยเจอไม่รู้หรอกครับ
การพจญภัยได้เริ่มขึ้นละ
ประสพการณ์ที่เข้าชนไก่ที่ชอบที่สุด คืนการฝึกเข้าตีในเวลากลางคืน เพราะผมเฝ้าฐาน 555 ไม่ต้องทำรัยเลย กับการแอบต้มมาม่าด้วยไฟแช็ก ล่นจนนิ้วแทบไหม้ครูฝึกเข้ามาเปิดเต็นท โดยกันถ้วนหน้า 555
แล้วไปเจอสาวตอนไหน
อ่านแล้วนึกถึงความหลังเลย
เรียนรด.ก็คือหนีการเกณฑ์ทหารแบบถูกกฎหมายมันก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนกันบ้างเช่นการฝึกภาคสนามนี่แหละ แต่ก็ได้มาหลายอย่างนะทั้งระเบียบ วินัย การใช้ชีวิต(สำหรับคนไฝ่ดี)
รุ่นผมได้ไปครั้งเดียวตอน ปี3 กลับถึงบ้าน หลับเป็นตาย ไป 5 วันไม่ได้ขี้สักทีเลย เห็นส้วมแล้วขี้ไม่ลง
นี่7วันไม่เคยอาบน้ำเลยครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต
ไม่เคยเรียน ร.ด เลยไม่มีประสบการณ์ แบบนี้ น่าสนุกดีนะ...
ย้อนอดีตถึงสมัยเรียนรดกันเลยทีเดียว เมื่อก่อนไม่ต้องดูเกรดได้เรียนกันทุกคน
อ่านมานิดหน่อย มาดม้นก่อนเลยครับ เรียนรด. มาเหมือนกันนึกถึงสมัยเรียน กว่าจะสอบได้ กว่าจะเรียนจบ มีเรื่องมากมาย เข้ามาทำให้เป็นบทเรียนให้แกร่งขึ้น
เขาชนไก่ กับความทรงจำอั้นอึ 5 วัน TT
ย้อนวัยไปสมัยเด็กๆเลยนะเนี่ย
ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ ผมไม่ได้เป็น รด ไปสอบไม่ผ่านตอนไปสอบแถมไม่รู้เรื่องอะไรเลย แค่ตามเพื่อนไป
โคตรแห่งความบันเทิงอ่ะที่นั่น
ผ่านกันมาได้ยังไงนะ
ผมเข้าเวปนี้เพราะเรื่ิงเสียว แต่พี่โทนทำให้ผมติดใจลีล่าการเล่าเรื่องของพี่ขนาดบอกไม่มีเรื่องเสียวก็ต้องอ่าน แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆสนุกเหมือนเคย ขอบคุณมากครับ
ผมโชคดีหน่อย เพิ่งเพิ่มกองพันใหม่ ห้องน้ำใหม่กว่ากองพันอื่น สะอาดมาก แต่ต้องกางเต็นท์ในพื้นที่ใหม่ เพื่อนร่วมกองพันเลยเจองูเข้าไปนอนในเต็นท์
นศท ความมันส์ที่ไม่อยากส่งต่อให้รุ่นลูกเท่าไหร่ ฮะๆ
::Dribbling:: สมัยเรียนมีกะเทยจาก ม.รามหน้าสวยมาก 7วันอยู่เตนท์ครู7วันเลย5555
ซอร์ดอาร์ท วันนี้ อีกสิบนาทีไม่ออกมาตาย ต้องไปตีกะชาวบ้านก่อนอีก เฮ้อจะยืดไปหนายยย
เขาชนไก่ ไม่มีประสบการณ์ร่วมนะครับ ไม่ได้เรียน รด.
ก็สมัครเป็นทหารเต็มตัวแล้ว ควรจะไปฝึกให้ได้รู้ชีวิตใกล้เคียงทหารหน่อยก็ดี ปลดเป็นกองหนุนจะได้ไม่ลืม
เคยไปยุ่ค่ายนี้ คิดถึงนะ แต่ไม่อยากไปอีก5555
ขอบคุณครับ.. เล่นเอานึกถึงอดีตที่ผ่านมาเลยครับ.. มันส์สุดยอด
เหนื่ยเลยครับ ผมนี่อาบน้ำวันเดียว
นึกถึงอดีตเลยท่านโทน ชีวิตที่ไม่มีวันลืม
นึกกลับไปถ้าให้ไปอีก บอกสั้นๆเลย ไม่ไปแล้วโว้ย555
เขาชนไก่ จะมาแนวไหนเนี่ย
ครั้งหนึ่งในชีวิตทั้งสนุกทั้งเหนื่อย
ย้อนอดีตถึงสมัยเรียนรดกันเลยทีเดียว เมื่อก่อนไม่ต้องดูเกรดได้เรียนกันทุกคน
ไปเขาอีโต้ครับ 5555 ไม้ได้ฟปเขาชนไก่แบบคนอื่นเขาเสียดายอะ...
เด็กต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะฝึกกันที่กองร้อยของแต่ละพื้นที่ครับ ไม่รู้จักเขาชนไก่เคยได้ยินแต่ชื่อ
สนุก คิดถึงเขาชนไก่
อันนี้ต้องอยู่ที่ทริกของโรงเรียนนะครับ โรงเรียนผมไปผลัดแรก หรือผลัดสุดท้าย เค้าจะฝึกน้อยที่สุด เพราะผลัดแรกเครื่องไม้เครื่องมือยังไม่เรียบร้อย ไปถึงก็ไม่ค่อยได้ฝึกหรอก ส่วนผลัดสุดท้ายข้าวของก็ต้องเก็บแล้ว นั่งเฉยๆ ซะมากกว่า อิ อิ
ถ้าเราไม่เปรี้ยวทำไรผิดกฎ จิงๆมันก้มันอยู่นะเขาชนไก่อะ
บนเขาชนไก่นี่ส่วนใหญ่ มีแต่ผช. ที่เหลือ ก็กระเทย หรือ ทอม ถ้าได้กับหญิงนี่ถือว่าได้ของหายากเลย
เด็ก ตจว. นะ ไม่มีโอกาสได้ไปเขาชนไก่หรอก อยากเจอจ่านรกแฮะ อ่านที่เขาเอามาเล่าแล้วคงจะโหดดี
ผมไม่มีโอกาสได้ไปเขาชนไก่เลยตัดสินใจสมัครทหารเกณฑ์เอาเลย
น่าสนใจ เล่ารายละเอียดเรื่องการฝึก ร.ด. ดี
ไอ้พวกจ่านรกเนี่ย แม่งมีการสืบทอดDNAกันมาตลอดไม่เคยสูญพันธุ์เลย 30กว่าปีมาถึงตอนนี้พวกจ่านรกแม่งมันไม่เคยแก่ตายเลย
จะโดนประตูไหนหว่าอยากรู้จัง
อึดถึกทน จนผ่านมาได้ 555555
ไปแบบนี้ ไม่มีเสียวแน่ มีแต่โหด ว่าแต่จะมีถุั่วดำบ้างไหม
ดังคำกล่าวของผู้ผ่านการฝึกมา แม้ใบมะขามเพียง หนึ่งใบก็สามารถให้ความรู้สึกเย็นได้
อ่านละย้อนวัยเลยครับ เด็ดจริงๆ ข้าวหมกกับไก่ทอด ::Grimace::
เรียน รด. แค่ปีเดียว เลยไม่เคยมีประสบการณ์ เขาชนไก่ ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะครับ
เขาชนไก่มันสำหรับฝึกเด็ก รด. นิ
::Thinking::ร้านเกะกับชนไก่มันมีความสัมพันธ์กันอย่างไง รออ่าน
โทนฝึก ร.ด.ที่เขาชนไก่จะเป็นอย่างไรบ้างนะ
ขอรับชมผระสบการณ์หน่อยนะครับ ผมไม่ได้เรียน ร.ด.เลย
::Grimace::ยังจำไม่เคยลืมเลื่อน ปีแรกที่เขาชนไก่
เป็น fc สาวร้านเกะ เห็นว่ารอคิว เลยมาดู รอดอ เขาฝึกกันยังไง เราเด็กช่างเขาไม่นิยมเรียนกัน วัดกันที่ดำแดง เลยไม่มีประสบการณ์อะไรแบบนี้
สมัยผมไม่โหดเท่านี้นะแต่ก็ทำให้นึกถึงตอนที่ไปฝึกเขาชนไก่เหมือนกัน
มารอร้านเก๋ต่อนะครับ
อย่าบอกว่ามีเหตุการณช้างชนช้างนะ มันเสียว
ผมฝึกในค่ายทหาร
เรื่องนี้ โหด หรือ ช้างชนช้าง ครับ
เป็นช่วงที่เวลาผ่านไปช้าสุดๆจริงๆ
คิดถึงสมัยนด.นอนเต้นสนามโคตรหนาวเลย
ผ่านมานานเหมือนกันแต่ก็สนุกไปอีกแบบ
นึกถึงตอนไปฝึกที่นั่นเลย...เจอไปเดินป่าหลงทั้งหมู่เลย..เดินออกถนนใหญ่เลย..หลงทิศ...เล่นเอาต้อวนั่งรถกลับค่าย...ตอนเย็นเลย..
เป็นความทรงจำที่สนุกและมีรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อคิดย้อนกลับไปครับ
ผมนี่เรียนถึงปี 5 อยู่ไปเลย 30 วัน
ตอนปี 4 ไปเขาชนไก่ 15 วัน กลับมา เพื่อนรักรถชนตาย ยังคิดเลยว่า ถ้าผมไม่ไปเขาชนไก่ เราต้องไปด้วยกัน เขาคงยังไม่ตาย
ลุ้นๆ ::Yes!::
นึกย้อนอดีตที่เคยไปเข่ชนไก่ เดินไกลมาก ร้อนพอทนไหว แต่รวมๆถือว่าได้เก็บประสบการณ์ชีวิตเพิ่ม
โห มารำลึกถึงความหลังเก่าๆเหมือนกัน นึกภาพออกเลย เป็นอะไรที่โหดแต่ก็ได้ประสบการณ์ชีวิตดีๆที่ไม่คิดว่าจะมีที่ไหนเหมือน ต้องไปซื้อของหลังกระทรวงเหมือนกัน แต่สมัยนั่นยังไม่ต้องใช้สายโยงเป้ ไม่มีบอกต้องซื้อและก็ไม่ได้ใช้เลย ที่จำได้แม่นที่สุดคือวันกลับ ถึงบ้าน วางของเปลี่ยนผ้า ล้มนอนหลับเลยถึงวันรุ่งขึ้น ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
ใช่เขาชนไก่ เคยไปครับ
หลงกลแล้วครับ ไม่ใช่หนีทหารแบบถูกกฎหมาย แต่เป็นกองกำลังสำรองไปแล้วตังหาก
อ่านแล้วคิดถึงสมัยเรียน รด.ด้วยเลย อารมณ์นี้เลย ไปเข้าชนไก่ ตากแดด วิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่ง
ถ้าเป็นรด. ฝึก3ปี ผมเลยสมัตรยื่นวุฒิปวส. เป็นทหาร6เดือน ไม่รู้คิดถูกคิดผิด 5555
สมัยแรกๆ ไม่ต้องไปเขาชนไก่ ฝึกใน กท. ค่อนข้างโหด แต่ไม่มาก พอทน
ได้รู้เรื่องราวของรด. ก็น่าจะสนุกดีนะ
นึกถึงบรรยากาศเก่าๆๆ
ครั้งหนึ่งในชีวิตทั้งสนุกทั้งเหนื่อย
พลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงนี่ ก็ว่าตามอ่านที่คุณโทนเขียนทุกเรื่องแล้วนะ
ผมไม่ได้เรียนเพราะเรีนย กศน มา บรรยากาศพวกนี้ไม่รู้เลย
ดีจังครับ ทำให้ได้รู้จักนายโทนแต่เริ่มแรก เพราะอ่าน "ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ" แล้วก็สงสัยหลายจุดถึงความสนิทสนม ความเ็นมาของนายโทนกับเจ้เตย เจ้หมิว พี่แมน คุณท่านทั้ง 2