ต่อจากตอนที่แล้ว
เราก็มองน้องที่ชื่อโทนนะ สิ่งแรกที่คิดเลยคือ เห่ย เชย และไม่ผ่านในสายตาเรา เราทำงานกับพี่ชาย ทำงานกับพ่อ มาตลอด
พี่ชายเรา Taste การแต่งตัวดีมากนะ ยิ่งพ่อของเรานี่ไม่ต้องพูดถึงเลย ดูสุขุม แต่งตัวคลุมโทนได้ Perfect มาก แต่ดูน้องตรงหน้าสิ่
เราจำได้เลยเจอกันครั้งแรก บอกตรงๆอาจจะดูเหยียดก็ได้ แต่ในหัวเราคือ มีปัญญาแต่งตัวได้แค่นี้เหรอ เสื้อผ้าแต่งได้ตัดกันไม่เข้าท่า ไม่มีรสนิยมเอามากๆ
ผมเผ้าก็รกรุงรัง คือเราเข้าใจนะว่าตอนนั้น Potato กำลังดัง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นเหมือนนักร้องนำได้เข้าใจป่ะ ถ้าไม่ได้หุ่นช่วยไว้ บอกเลยว่าพังมาก
เขายกมือไหว้เรา เราก็รับไหว้นะ เพราะเอาจริงเราไม่ชอบแค่การแต่งตัวของเขา นิสัยใจคอเป็นยังไงยังไม่รู้ แต่ถ้านิสัยแย่ๆ แฟนเราก็คงไม่แนะนำให้รู้จัก
เรากับแฟนคบกันปีกว่าๆ สิ่งนึงที่สัมผัสได้คือ ภายใต้อาการร่าเริง มันคือความโมโหร้าย มีหลายครั้งนะที่เขาเคยเป็นแบบนั้น
คือถ้าได้โมโหก็ขฃจะมาเป็นพายุเลย พูดแขวะ พูดแซะไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม แต่ก็โชคดีที่เหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้นกับเราโดยตรง
เพราะเราเองก็ไม่ชอบให้ใครมาพูดแขวะแบบนั้น ซึ่งด้วยนิสัยของแฟนเราแบบนี้ มันก็เลยทำลึกๆเรามั่นใจว่าถึงบุคลิกจะเห่ย แต่น้องชายคนนี้อาจจะนิสัยดีก็ได้
แฟนเราแนะนำว่านี่ๆ น้องเค้าแหละรู้จักกันตอนเล่นออดิชั่น เราคิดนะว่าเกมส์ออนไลน์มันพัฒนาความสัมพันได้ขนาดนี้เชียว แค่คุยกันผ่านแป้นพิมพ์
มันรู้จักนิสัยใจคอแบบนี้เลยเหรอ แล้วเป็นไงต่อรู้มะ แฟนเราก็พูดขึ้นมาว่า โทนไปกินข้าวกับพี่มั้ย สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือหน้าเรานี่ไปก่อนละ
คืออะไรไม่เข้าใจ ไหนบอกว่าชวนกันมากินข้าว แล้วนี่จะพาคนนอกมาร่วมโต๊ะด้วยเหรอ ตอนนั้นความคิดสีเทาๆของเรามันออกมาผ่านหน้าตาเลยนะ
โทนก็คงจะรู้มั้ง เขาบอกไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ ไม่รบกวนดีกว่าครับ เราคิดในใจอืมก็รู้นี่ ว่ามันพื้นที่ส่วนตัว แฟนเราก็พูดนะว่าเอ้า ไม่หิวข้าวเหรอเนี่ย
เขาก็บอกว่าอื้อครับ มีธุระตอน สองทุ่มไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ มารยาทดีนี่คือสิ่งที่มันเด้งขึ้นมาในหัวของเรานะ ไม่รู้สิ่ยุคที่เราเล่ามาน่ะ
ตอนนั้นหาความเท่าเทียมทางเพศยังไม่มากขนาดนี้ พวกผู้ชายชอบคิดว่าตัวเองเป็นผู้นำเป็นช้างเท้าหน้า ไม่รู้สิ่ เราคิดว่าโทนมารยาทดีนะ
กล้ายกมือไหว้ผู้หญิงที่พึ่งเจอกันครั้งแรกถุงสองครั้ง ตอนที่โทนกำลังจะเดินไป แฟนเราก็เรียกโทนไว้และหยิบของจากในกระเป๋าให้
มันเป็นแครกเกอร์เนยถั่ว ที่จำได้เพราะเราซื้อมาฝากเตยตอนไปต่างประเทศกับพี่ชาย เตยยื่นให้โทนแล้วบอกเอาไปกินดิ่ เดี๋ยวปวดท้องอีก
โทนก็ยกมือไหว้นะแล้วบอกขอบคุณครับ หยิบไปแล้วกินเลย แย่นะบอกตรงๆ คือจะหิวอะไรขนาดนั้น ควรรักษามารยาทและท่าทีหน่อยสิ่
เรามองโทนที่แกะขนมกินและเดินออกไปทีบะก้าว ทีละก้าว แต่... หุ่นก็ดีจริงๆแหละนะ ถึงจะไม่สูงมาก แต่ก็สมส่วนและกล้ามหลังชัดเลย
เราหันไปถามเตยว่า น้องของเตยหอวมากเลยเหรอ มารยาทแย่ แฟนเราก็บอกนะว่า โทนกินข้าวผิดเวลาไม่ได้ เป็นโรคกระเพาะ
แฟนเราบอกว่าจริงๆแล้วโทนเล่นยูโด อื้ม เราเชื่อนะเพราะกล้ามแขน กล้ามหลังชัดมากเลย แต่เราก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงเป็นโรคกระเพาะ
เตยบอกว่า โทนต้องลดน้ำหนักเพื่อลงแข่ง แล้ววิธีลดน้ำหนักก็คือ อดข้าว จนสุดท้ายก็เป็นโรคกระเพาะ เตยพูดมาอีกว่า เพราะงั้นเค้าเลยชวนกินข้าวไง
ไปชวนมาสิ่ อยู่ดีๆเราก็พูดคำๆนี้ขึ้นมาเฉยเลย ทั้งๆที่ตั้งใจจะกินข้าวกับเตยแค่สองคน แฟนเราถามนะว่าได้จริงๆนะ เราตอบอื้มไปแค่นั้น
เตยยิ้มและรีบเดินไปตามโทนกลับมาทันที ถึงจะมารยาทดียังไง เราก็ไม่ชอบทรงผมของเขาอยู่ดี ไม่รู้จะร่วงลงจานข้าวมั้ยๆ
เราถามเตยว่ากิน กินสุกี้ M มั้ย เตยบอกอื้อๆไปสิ่ แต่โทนกลับดูหน้าตาเลิ่กลั่ก มือเกร็งๆ เตยถามเป็นอะไรเหรอ
โทนทำท่าลูบๆคลำๆ กระเป๋ากางเกงแล้วบอกว่า สงสัยผมจะลืมเอากระเป๋าตังส์กับบัตร ATM มาครับ มุขคลาสสิคของคนไม่มีเงินแล้วจะให้เลี้ยง
เราเจอแบบนี้บ่อยนะ ในวงเหล้างงปาร์ตี้นี่แหละ พอเช็คบิลล์ ไอ้นั้นหาย ไอ้นี่ลืม น่าเบื่อ แล้วเราพูดเลยนะไม่เลี้ยงแน่นอน
แต่โทนก็บอกว่า งั้นผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับพี่หมิวพี่เตย ครั้งที่สามที่เขายกมือไหว้เรา มันแปลกนะ มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก
เราในฐานะลูกสาวผู้ถือหุ้นของบริษัทๆหนึ่ง การจะมีคนมาไหว้ก็ไม่แปลก แต่เขาไหว้เพราะเราเป็นลูกสาวของพ่อ เขาไม่ได้ไหวเพราะเราคือเรา
โทนไหว้เสร็จก็วิ่งไปเลยนะ เตยก็ทำหน้าเหมือนมีอะไรบางอย่าง แต่แปปเดียวก็ยิ้มเหมือนเดิม มื้อนั้นเรานั่งกินกันไปคุยกันไปหลายเรื่อง
และเรื่องนึงที่เตยพูดคือโทนทำงานพิเศษหาเงินเป็นค่าขนมเอง เราก็ฟังหูไว้หูแหละ ไม่ได้เชื่ออะไรมาก คนเพิ่งเคยเจอกันจะให้เชื่อหมดก็ยังไงอยู่
หลังจากนั้นเรากับเตยก็แยกกันนะ เตยกลับบ้านที่พระรามสาม เราก็จะกลับบ้านแถวซังฮี้ วันนั้นเรานัดดื่มกับพี่ชายนะ
ซึ่งเรามองว่าการดื่มมันเป็นเรื่องปกติ นั่งดื่มในบ้านมันจะเป็นอะไรไป แต่การแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อกับแกล้มเข้าบ้านครั้งนี้มันทำให้เราได้เห็นอะไรบางอย่าง
เราเห็นโทนกำลังนั่งนั่งกินขนมปังที่ซื้อมาจากเซเว่นและมีน้ำขวดละ 7 บาทตั้งอยู่ข้างๆ เขาทำอะไรอยู่รู้มะ เขานั่งนับเศษเหรียญอยู่
ไม่รู้ว่าเราตาดีหรือยังไงนะ เราเห็นบัตร ATM เขียวๆวางอยู่ข้างๆกระเป๋าสตางค์ แล้วไหนบอกว่าไม่ได้เอาบัตร ATM มาไง
จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของเรานะ แต่เรากลับทำในเรื่องที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม เราเดินไปหาโทน พอเข้าไปใกล้ ยิ่งเห็นว่ากินมูมมามมาก
เราก็ถามไปนะว่าไหนบอกไม่หิว โทนหันมาเร็วมากแล้วสำลักเหมือนพล็อตซิทคอมไม่มีผิด หน้าตาเขาตื่นมากเลยนะ
เหมือนกับว่าตกใจที่มาเจอเรา เขาลุกพรวดขึ้นมายกมือไหว้ สวัสดีครับพี่หมิว กลับแล้วครับ แล้วก็วิ่งออกไปเฉยเลย ทำไมเขาทำเหมือนกลัวเรานะ
ไปแล้วก็ไม่ทิ้งขยะไม่เอาขวดน้ำไปด้วย อะไรของเขา แถมยังลืมเหรียญที่นับเอาไว้อีก
แย่อ่ะคนแบบนี้ เรามองๆก็เห็นเป็นเหรียญ 5 กับเหรียญบาทรวมๆกันได้10 บาทถ้าจำไม่ผิด เราจะเรียกนะแต่ก็ไม่ทันแล้วล่ะ วิ่งไวเกิน
แต่แค่แปปเดียวก็วิ่งกลับมานะ สงสัยจะนึกได้ว่าลืมเงิน เขาเดินย่อง ย่อง เหมือนอายลูบหน้าแข้งลูบขาตัวเอง เหมือนอายที่จะพูด
เอ่อ พี่ครับ ผมลืมเงินไว้ตรงนั้น พอจะเห็นมั้ยครับ เราก็บอกอื้มเห็น เขาก็ผงกหัวงกๆ เหมือนตุ๊กตาเสียกบาล แล้วก็เดินเข้ามาหยิบเงิน
เขาไม่มองหน้าเราเลยนะ เหมือนคนทำความผิด เหมือนกลัวอะไรเราบางอย่าง ทั้งๆที่เราก็พึ่งรู้จักกัน เราหงุดหงิดนะ คือไม่สมชายชาตรีเลย ไม่ได้ครึ่งของพี่ชายเราเลย
เสียดายหุ่นก็ดี แต่บุคลิกภาพแย่มาก เขารวบๆเหรียญปาดไปตรงขอบโต๊ะหินอ่อนและรวบใส่กระเป๋าไป เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหน ง่อยแบบนี้เลย
เขายกมือไหว้อีกทีแล้วเดินกลับไป แล้วทุกคนเคยเชื่อเรื่องของบททดสอบชีวิตมั้ย ตอนนั้นมีใครที่ไหนไม่รู้เดินมาถามเราว่าเท่าไร
เรา งงนะว่าเท่าไร เราถามว่าอะไรคะ มันก็ยังถามอีกว่า เอ้าไม่ได้ขายเหรอ เห็นติดกระดุมกลับหัว นี่แหละที่เราเกลียดผู้ชาย
มันเห็นแค่เราใส่ชุดนักศึกษาและติดกระดุมกลับหัวมันก็คิดว่าเราขายตัวแล้วเหรอ เราโมโหเลยด่ามันไปชุดนึง มันก็โมโห กระชากเราแรงมากเลยนะ กล้าทำได้ไงนี่เลยเซเว่นมานิดเดียวแท้ๆ
คำๆนั้นที่มันพูดกับเรา เล่นตัวจังอีดอก มันดูต่ำมากเลยนะ เกิดมายังไม่เคยมีใครพูดกับเราแบบนี้ แต่แค่แปปเดียว เราก็ได้ยินเสียงโอ๊ย
ไอ้คนๆนั้นอยู่ดีๆก็ล้มกลิ้งไปกับพื้น เป็นโทนเองที่เป็นคนทำ เขาทำได้ไงเราไม่รู้ เรามองไม่ทันตอนนั้นกลัวไปหมด เขายืนอยู่ข้างหน้า ขวางตัวเรากับผู้ชายต่ำๆคนนั้นๆไว้
พูดตามตรงเราไม่ประทับใจในการเจอโทนครั้งแรก แต่ถึงจะแต่งตัวไม่ดี ถึงจะไม่มีมารยาทเรื่องการกิน ถึงจะดูไม่น่าไว้ใจไร้รสนิยม แต่สำหรับเราตอนนี้ เขาดูเท่จัง
ถึงหน้าตาจะเห่ย แต่นี่ละมั้งเสน่ห์อิโทน ชอบช่วยเหลือคนอื่น ถ้าแต่ก่อนพี่แกหล่อ คงไม่ได้เจอ พี่หมิว กะเจ๊เตยก็ได้ สาวคงตรึม
เข้ามาตอนบ่าย ไม่คิดว่าจะเจอตอน 2
คิดภาพตามเลย เด็กจบใหม่ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวก็มีเยอะแยะมากมาย
แต่การที่กลับมาช่วยเหลือ ไว้แบบไม่คาดคิด ก็เท่จริงๆนั้นแหละ
รอดูการเปลี่ยนแปลงความรู้สึก และรอดูมุมมองของหมิวกับเตยเป็นยังไงบ้าง
ขอบคุณครับ
อยากโมเมว่าคือ จักรวาลเดียวกับร้านเกะของนายโทนจังครับ
ได้ใจหมิวแล้ว
เกรียมเลย เทพโทนผม เจอเจ้หมิวสาธยายซะ เล่นเอามาตรฐานของตัวเองไปวัดค่ากับคนอื่น มันก็นานาจิตตัง พื้นฐานสังคมคนละอย่าง
เอาน่า บุคคลิกภาพภายนอกมันปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงกันได้
แต่ความมีมารยาทควาทจริงใจอ่อนน้อม มีน้ำใจ มันมาจากข้างในล้วนๆ หาได้ยากนะครับ
แถมยิ่งต้อนหลัง ยังกะบท พระเอก มาช่วยเต้หมิวนี่อีก ชื้อใจได้แน่ๆ
ปล.รอเจ้เตยมาเขียนด้วยอีกนาง แถมอยากอ่านบทอีโรติกในมุม2เจ้ ด้วยจะดีงาม ครับ555
จุดเริ่มต้น อาจไม่ค่อยสวยสักเท่าไร..... แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป
โทน .นายเท่ห์ม๊ากกกกกก.....
ต่อจากนี้ กำแพงที่กั้นไว้ คงเริ่มสั่นคลอนบ้างละ...ใช่มะ เจ๊ หมิว ::WooWoo:: ::JubuJubu::
เอาว่า มันเปิดตัวแบบหล่อจัดๆเลยเว้ย
ถึงจะมูมมามแต่ไม่ยอมให้ผู้หญิงโดนดูถูก
นี้ละเรามักจะตัดสินคนจากการแต่งตัวการวางตัวเราจะไม่มีทางรู้จักตัวจริงของเค้าเลยถ้าเราไม่เปิดใจ
เขียนมาเรื่อยๆๆนะครับสัญญาว่าจะติดตามอ่านทุกตอน
นิสัยคนยากแท้หยั่งถึง ไม่คบกันไม่รู้นิสัยใจคอหรอกครับ
ท่านโทนเป็นคนที่ไม่ชอบเห็นคนรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า โดยเฉพาะสาวๆ
เจ้หมิวเจอโทนครั้งแรกก็ไม่ประทับใจตัวโทนก็เหมือนเจียมเนื้อเจียมตัว
แบบนี้นี่เองหมิวกับโทนเลยสนิทกันเร็ว ตามที่นายโทนเคยกล่าวไว้
ชอบคับชอบการบรรยายความรู้สึก
แค่เจอกันวันแรกนายโทนก็โชว์แมนให้พี่หมิวปลื้มแล้ว
ตามเชียร์เจ้หมิวคับตามมาจสกนายโทน
ปักธงพี่หมิว ตอนนั้นเอง
โทน +10 แต้ม (จาก -50) 55555
กำลังคิดถึงสองเจ๊พอดีเลยครับ
อ่านจนติดทุกเรื่องที่เกี่ยวกับโทนเลยครับ ถ้ามีให้อ่านยาวๆกว่านร้คงดี เข้ามาส่องทุกวัน
อ่านจบเสียงในหัวดังมาว่า ฮั่นแน่ 😁
::Hmmm::อ่อ เพราะท่านโทนเป็นแบบนี้นี่เองเจ๊หมิวเลยแอบประทับใจตั้งแต่แรกพบ และคงจะเริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่างในตัวท่านโทน
หวังว่า.คงเป็น.จักรวาลเดียวกันนะคับ
ตอนสองมาแล้วรวดเร็วทันใจไม่ให้คอยนาน ผมขอติดตามและรอตอนต่อไปนะครับ
มาจากห้องสมุดเดียวกันมั๊ยครับ
จักวาลโทนทวนทอง. อีกเรื่องใช่ใหมครับ ชอบมากเลยครับ
เล่าเสียดูซีเรียสเชียว
เทพโทนโดนเจ๊หมิวเผาส่ะแล้ว แต่เปิดตัวได้เท่จัง คนเรามองแค่ภายนอกไม่ได้หลอกครับ ต้องดูที่การกระทำและความจริงใจ
ป๊าดดด อย่างเท่
เฮ้ย โทนนี่เท่ว่ะ อย่างแมนอ่ะ
ถึงจะไม่ประทับใจตอนที่เจอกันแต่ก็ประทับใจตอนที่โดนช่วยไว้สินะครับ
เหมือนเทพโทนจะโดนเผาหน่อยๆเลยครับ55
โทน นายเทห์มาก
คิดถึงตอนวัยรุ่นจัง สภาพคงคล้ายๆกัน รองเท้าอีหนีบ ตราช้างดาว กางเกงขาดๆ
อ่านมาสองตอน รู้สึกว่าทำไมพี่หมิวคล้ายพี่มิไรในตำนานเทพวายุเลยครับ เอ๊ะหรือว่า คาแร็คเตอร์พี่มิไรคือพี่หมิว
เผาจริง ไม่มีหลอก สุภาพบุรุษไม่เกี่ยวกับการแต่งตัว ต้องเอามายาคติแบนนี้ ออกไปให้ได้
สมที่เป็นแฟนกันจริงพิมพ์ผิดเยอะพอกัน ::HoHo:: แรกก็เกลียดแบบนี้แหละต่อไปรักไม่เลิกเลยล่ะ ::Grimace:: ::JubuJubu::
โทนเอ๋ย โดนสาวแฉซะ หาความดีไม่เจอเลย
สงสารเทพเลย เจ๊เปิดงานมาหนักเลย หุ่นดีแต่ไม่เข้ากับทรงผม
เป็นผู้ชายเจียมตัวดูข้างนอกไม่รู้หรอก ว่าซ่อนอะไรไว้ในกางเกง
ดีมากครับได้รู้อีกมุมมองในทางของพี่หมิว ได้คีคลาบแรมหลายๆอย่างให้ชัดขึ้น
เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเรื่องของหมิวบ้าง บางทีอาจจะได้รู้ความในใจของหมิวที่มีต่อโทน
เจ๊หมิวบรรยายภาพนายโทนซะจนกลายเป็นเด็กกะโปโลไปเลย แต่ตอนท้าย...สถานการณ์สร้างวีระบุรุษจริงๆ เท่เลยนายโทน
ครั้งแรกไม่ประทับใจ แต่ต่อมาเรื่อยๆจะทำให้เข้าใจ ว่าทำไมถึงมีนิสัยและลักษณะอย่างที่เห็น
ที่มาที่ไป แบบนี้นี่เอง มีแอบปลื้มอยู่นิดๆ ก่อนแล้วสินะ
ชอบเจ๊หมิว เก่ง สวย น่ารัก
เสียอาการหนักเลยนายโทน แต่ถึงบุคลิกจะไม่ดี ไม่มีตังค์แต่ตอนนี้คงได้ใจเจ๊หมิวไปเต็มๆ
ท่านโทนโดนเผาซะเกรียมเลย ::Oops::
โอ้ววว เทพโทนถึงจะบุคลิกไม่ดีแต่ไมตรีในการช่วยเหลือสาวๆโดยเฉพาะเจ๊หมิวมาเต็มครับ
น้องโทน อย่างเท่เลย เอาชัวิตจริง น้อยคนมากจะยอมช่วยคนอื่นโดยไม่ห่วงตัวเอง แบบนี้วัดความมีน้ำใจได้ดีมากๆ
เขาเรียกเสน่ห์สุภาพบุรุษ
ในที่สุดความบ้าพลังก็สร้างความประทับใจให้เจ๊แล้ว
คนอะไรแทบไม่มีอะไรดูได้เลย มีดีที่เท่ส์อย่างเดียว นายโทนนนน
นี่แค่ตอนที่สองนะ ยังโดนเผาซะขนาดนี้ กว่าจะจบซีรี่ย์นี้นายโทนเรากลายเป็นตอตะโกแน่นอน 555555
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง อบอิุุ่น หวามๆข้างใน
เทพโทนเกรึยมเลย อย่างว่าฐานะต่างกันเยอะด้วย การแต่งกาย การวางตัวมันก็จะต่างกันเยอะอยู่
ช็อตเปลี่ยนความคิดเจ้หมิวอยู่ตรงนี้นี่เอง
เจ้บรรยยายพี่ผมหมดสภาพเลยครับ. โชคดีที่ผมรู้ว่าตอนจบพี่โทนครองใจสาวๆเกือบครึ่งเมือง อิอิ
เริ่มคืบคลานเข้ามาในใจเดี๋ยวได้เสียวแน่
โทนอาจจะไม่ได้เห่ยก็ได้นะครับ เพียงแต่มาตรฐานเจ๊หมิวสูงลิบ
::WooWoo:: บางทีคนที่แต่งตัวดีจิตใจอาจจะต่ำทรามก็ได้นะคับ อย่าพึ่งบูลลี่พี่โทน 555 (ผมช่วยเชียร์แล้วนะพี่โทน รอเฝ้าหน้าร้านเกะคับ) fcพี่หมิวค๊าบบบบบ
::Pull::เปิดตัวแบบง่อยๆแต่มีบทพระเอกเสีียด่วย ลุคภายนอกที่อาจดูแย่แต่จิตใจและความมีน้ำใจนี่สินะที่เริ่มชนะใจเจ้หมิว
อ้อ..ๆๆ...มาแบบเท่ ๆ ที่ตอนสองนี่เองนะเทพโทน
ถ้าสมัยก่อน เจอแบบหมิวนี่ เกลียดเลยครับ สวยแต่หนิ่งเนี่ย ตูก็หยิ่งเป็นเว้ย เรายิ่งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้ารับต่อมาจากญาติๆ แต่โตมานี่ก็เข้าใจขี้นเยอะครับ บางทีความประทับใจครั้งแรกมันมีผลจริง อย่างไรก็ตาม นายโทนนี่ของแท้เลี่ยมทองจริงๆ นับถือๆ
เจอกันวันแรกก็มีโอกาสโชว์แมนให้กับพี่หมิวซะแล้ว
นายโทนมาช่วยปกป้องเจ๊หมิวจากพวกหื่น ได้คะแนนตรึมมมม
ชีวิตไอ้โทนโชคดีจิงๆ เจอแต่สาวสวยๆ
เพื่อนข่มเรื่องกน้าตาไว้ แต่ก็ยึดสไตล์เป็นของตัวเอง
เจ๊หมิว เขียนแบบนี้ นี่รอเฉลยเลยว่า สุดท้ายทริปที่โดนเจ๊เตยโกรธจะเป็นยังไง
แล้วนายโทนจะผ่านบททดสอบชีวิต ของหมิวหรือเปล่า
ดอกแรกยังเท่ แต่พอโดนรุมเกือบแย่ แต่ยังไงก็เท่ครับ คนที่ปกป้องคนที่อ่อนแอกว่า เท่ฝุดๆ
นาย โทน โชว์แมน .
โทนเท่เลยจังหวะนี้
สเน่ห์ของใครของมัน คนเราโดยส่วนมากถ้าเป็นคนที่เล่นกีฬา มีวินัยกับตัวเองส่วนมากแล้วจะเป็นคนที่นิสัยดีและมีสเน่ห์ในแบบของตัวเอง
เทพโทนมาแบบนี้เองเหรอครับ เปิดตัวได้แบบเทมากอ่ะนะ แต่ที่ไม่เข้าคือใครที่ติดเข็มกลับหัวเนี่ยต้องขายตัวเหรอหรือมันเป็นสัญญาลักที่เข้ารู้กัน ไม่รู้ดิไม่เคยเที่ยวอ่ะ
ครั้งแรกที่ได้เจอก็สำคัญเหมือนกัน.. คนส่วนมากมาองกันจากคี้งแรกที่เจอ..
พี่หมิวหลงเสน่หืนายโทนตอนนี้นี่เอง
เจ้หมิวคนสวย คำๆ นี้ เทพโทน เรียก ได้มาเล่าถึงมุมของเจ้หมิว ซึ่งเรายังไม่เข้าใจในความรู้สึก และมุมมองของเจ้หมิวและมุมของพี่แมน น่าติดตามครับ แฮ่ ๆ ::DayDream::
โทนคงกลัวเรื่องความลับของพี่เตยกับโทน และโทนก็ได้ช่วยเจ๊หมิวไว้
เขียนได้ดีมากครับ นายโทรได้เข้ามาวิ่งเล่นในใจเจ้หมิวแล้ว
โชว์พาวไปหนึ่งดอก
หล่อสัสส์
ขออนุญาตหยาบคาย
๕๕๕๕
เสน่ห์ของนายโทนคือหุ่นนี่เอง ::Shy::
อ่านบทนี้ แล้วไปผูกกับเรื่องของโทนคือเข้าใจเลยหวะ แม่มมองหัวจรดทีน ไม่มีใครอยากเกิดมาจนหรอกคร้าบเจ๊
ผู้หญิงชอบการปกป้อง เจอแบบนี้เข้าไป ก็ประทับใจไม่รู้ลืม
ตามมาจาก main Story ชอบๆ side story ของหมิวเหมือนอ่านเรื่องในหหัวมากกว่าของโทนที่ เหมือนอ่าน diary ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ แต่กับยังชอบอยู่ดี
อ่ะ บทพระอกมาเฉย
โอ้ย.. Smart.. แท้นายโทน เดินเรื่องได้ฉับไว ใช้ภาษาเขียนได้รัดกุมกระชับ ไม่เยิ้นเย้อ ชมผู้เขียนและครูภาษาไทยที่สอนมาเลยครับ
เสียดายของ ความสวยของหมิวมาก ^^
โบราณว่าไว้ เกลียดอะไรมักได้อันนั้นครับเจ้หมิว
ชอบ
เจอกันครั้งแรก เจ้หมิว ดูไม่ชอบนายโทนเลย เพราะเธอเป็นสาวไฮโซ เอาไปเปรียบเทียบกับมาตราฐานของพี่ชาย นายโทนนี่ต่ำติดดินเลย
สร้างความประทับใจให้เจ๊หมิวล่ะ