ว่าด้วยเรื่องเสื่อ
สำหรับนักอ่านที่หลงเข้ามาในเชียงใหม่ไดอารี่ตอนล่าสุดก็คงจะงงกันครับว่ามันคืออิหยังวะห้อง 12 เสื่อ โพสต์นี้จะชี้แจงให้ฟังครับเริ่มจากเสื่อก่อน เสื่อก็คือเสื่อเหมือนที่เราคุ้นเคยครับ รูปร่างส่วนมากจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่เสื่อที่ผมพูดถึงนี่คือ
(https://www.img.in.th/images/a25b4a8b81ce8e250cf39520593448f4.jpg)
" เสื่อทาทามิ "
เสื่อทาทามินั้นจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ ไซส์ก็อาจจะมีหลากหลายขนาดแต่ที่เป็นมาตรฐานและนิยมใช้กันจริงๆคือ
" 91 cm x 182 cm "
แต่อันที่จริงเสื่อทาทามิแบบทรงจตุรัสก็มีนะท่านผู้อ่าน ซึ่งเอาจริงๆ ไซส์และขนาด มันก็จะปรับเปลี่ยนไปตามภูมิภาคและการใช้งาน แต่ว่าถ้าพูดถึงทาทามิกันก็นั่นแหละ 91x182 คือมาตรฐานที่ส่วนมากใช้กัน
ตามข้อมูลที่หาจากเว๊ปแล้วเอามาเขียนแบบเจ้าใจง่ายๆคือ ทาทามิ นั้นเป็นเพี้ยนเสียงมาจาก ทาทามุ ครับ ซึ่งทาทามุก็แปลว่าทับซ้อน ซึ่งก็อาจจะอนุมานได้ว่าเป็นการเอาเสื้อมาวางซ้อนๆกัน เพราะว่าจริงๆแล้วเสื่อทาทามินั้น สมัยก่อนนิยมนำมารองนั่งครับ ก็นะยิ่งซ้อนก็ยิ่งนุ่ม
คือตามข้อมูลที่หามานั้นเสื่อทาทามุ หรือ ทาทามิ มีการเริ่มใช้มาตั้งแต่นู่นนน ยุคนารา ก็ช่วง คริสศักราช 710 - 794 ครับ แล้วพอเข้าสู่ปลาย คริสศักราช 794 ก็เปลี่ยนยุคสมัยจาก นารามาเป็นเฮอัน
(https://www.img.in.th/images/35f40bd34a487c477016ce46c6edb38a.png)
ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือยุคของอาเบะโนะ เซย์เมย์ นั่ยแหละครับ ถ้าจะให้ไทอินแบบหน้าด้านๆก็ คือยุคที่กำเนิดตระกูล อิซานางิ และปฐมบทแห่ง อิซานางิ ฮิเดโมโตะ นั่นเอง อ่ะกลับมาต่อเข้าเรื่อง พอเข้ายุคเฮอันแล้ว ทาทามิ ก็กลายเป็นสิ่งที่แสดงถึงฐานะอย่างชัดเจน นั่นเพราะการจะได้ทาทามิมา1 ผืน มันก็เป็นเงินไม่ใช่น้อย
พวกซามูไรและชนชั้นสูงจึงนิยมนำเพื่อรองนั่งหรือที่นอนนั่นเอง และต่อมาเป็นศตวรรษที่ 15 ซึ่งคาบเกี่ยวระหว่างยุค มุโรมาจิ และ โมะโมะยามะ หรือที่รู้จักกันในยุคเซ็นโงคุนั่นแหละ ยุคสมัยนี้เสื่อทาทามิถูกพัฒนาการใช่มากขึ้นไม่ใช่แค่ปูนอนหรือนั่ง แต่ใช้ปูห้องทั้งห้องเลยก็ว่าได้
เสื่อทาทามิ ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายจนกระทั่งมาถึงศตวรรษที่ 17 หรือยุคเอโดะ ทาทามิก็เรียกได้ว่ามีทุกบ้าน ใช้กันทุกชนชั้นตามแต่จะหากันมาได้ ยุคเอโดะ อืมม ไทอินแบบหน้าด้านๆ ก็คงจะเป็น ยุคของ นูระ ริฮังสิ่นะ อื้มม จงตามข้ามาขบวนร้อยอสูร
(https://www.img.in.th/images/b4aa235cd80bca0a878ffc58c61d8b96.png)
ซึ่งผมก็แอบหน้าด้าน เอาวิชา " มาโทอิ " หรือ " อาภรณ์อสูร " มาเป็นวิชาของริวกะด้วย หน้าด้านสุดๆ อ้อทุกคนครับ ริวกะใช้อาภรณ์อสูรได้นะครับ ไทอินสุดๆ
(https://www.img.in.th/images/a563fbcfbfb38a4e493b5cc889704ab5.png)
อ่ะกลับมาต่อครับ จนผ่านยุคเอโดะแบะมาถึงยุคเมจิ ยุคนี้ก็รู้จักกันในชื่อ ยุคสุดท้ายของซามูไรล่ะมั้งนะ ก็เป็นช่วงที่เดินเรื่อง ซามูไรพเนจร นั่นแกละ กฏหมายห้ามพกดาบ การเสื่อมถอยของยุคซามูไร และสิ้นสุดระบอบโชกุน
(https://www.img.in.th/images/9eda4d4864e9af2a53e63cf7fd9d6b31.jpg)
ยุคเมจิได้เปิดรับวัฒนธรรมจากฝั่งตะวันตกเข้ามาจนทำให้ทั้งเก้าอี้และพรม ค่อยๆเข้ามาแทนที่เสื่อทาทามิ จากนั้นเรื่อยมา เสื่อทาทามิก็ถูกลดบทบาทและการใช้งานลดลงเรื่อยๆ ตามยุคตามสมัย และวัสดุที่ใช้ก่อสร้างที่มีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น แต่ก็นะชาวญี่ปุ่นก็คงความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้
ซึ่งในปัจจุบันแทบจะทุกบ้าน ไม่ว่าจะสร้างหรือออกแบบให้โมเดิร์นเพียงใด ก็จะมีห้องๆหนึ่งในบ้านจัดไว้เป็นรูปแบบดั้งเดิมและมีเสื่อทาทามิเป็นตัวเอกตัวชูโรง ซึ่งห้องแบบนี้เรียกกันว่า
(https://www.img.in.th/images/c40543a2c2d9ca1f1c42d64df1959602.jpg)
" วะชิทสึ "
....................................
แล้วเสื่อทาทามิมันทำมาจากอะไรล่ะ ต้องบอกก่อนว่าเดิมที ทาทามินั้นทำมาจากฟางข้าวครับ แหมพูดแล้วนึกถึงตอนเล่นยูโดใหม่ๆตอน 10 ขวบ เยอะยูโดก็เป็นแบบฟางอ่ะ เอาฟางมาเย็บ แล้วเวลามันขาดฮู๊ยยย อย่างคันอ่ะกลับมาต่อเรื่องเสื่อทาทามิ จากฟางข้าวก็เปลี่ยนมาเป็นหญ้าที่ชื่อ
" อิกุสะ "
(https://www.img.in.th/images/1caa61a27d6977673323f2ae968e92da.jpg)
ลักษณะจะเหมือนต้นกกบ้านเราครับ แต่ว่าพืชชนิดนี้มันมีบางอย่างโคตรยูนี๊ค นั่นคือคุณสมบัติในการดูดซับครับ หญ้าอิกุสะสมารถดูดซับความร้อน และก็สามารถนะบายความร้อนได้ดีมากๆเช่นกัน แล้วจากข้อมูลที่หามา ยังเคลมอีกว่า
สามารถปรับสมดุลความชื้นในห้องได้อีกด้วย ซึ่งจะส่งผลให้แบคทีเรียในอากาศลดลง ทำให้ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ อื้อหือโหดจัด เขาว่ากันว่าห้องที่มีเสื่อทาทามินั้นจะเหมาะกับพื้นที่ที่มีฝนตกตลอดทั้งปี หน้าหนาวก็อุ่น หน้าร้อนก็สบายๆ อื้อหือโหดชิบ
แล้วที่สำคัญกลิ่นครับ จากที่ข้อมูลที่หามาอีกนั่นแหละ กล่าวไว้ว่าหญ้าอิกุสะนั้นมีกลิ่นสดชื่น นี่แหละเขาถึงว่าถ้าพูดถึงทาทามิ ก็ต้องเป็นหญ้าอิกุสะ เพราะทั้งความนุ่ม ทั้งกลิ่นที่สดชื่นมันทำให้ ทาทามิ เป็นมากกว่าเสื่อจริงๆ ปัจจุบันพื้นที่ที่ปลูกหญ้าอิกุสะได้มากที่สุดในญี่ปุ่นคือ เมืองยัตสุชิโร จังหวัดคุมาโมตะ
ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงหมีคุมะมงตัวสีดำนั่นแหละ นั่นเลยทำให้ 80-90 % ของเสื้อทาทามิในยุคปัจจุบัน ผลิตมาจากจังหวัดคุมาโมโตะนั่นเองครับ หญ้าอิกุสะนอกจากจะเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเสื่อทาทามิ แล้วยังสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารด้วยนะเฮ้ยทำเป็นเล่นไป คนญี่ปุ่นเอามาบดเป็นผงแล้วนำมาเป็นส่วนผสมของขนมหลายชนิด โมจิ มันจู หรือขนมปังต่างๆ แล้วไม่แค่นั้นครับ
หญ้าอิกุสะที่บดจนเป็นผงแล้วยังเอาไปผสมแป้งทอดเทมปุระได้ด้วย แล้วมันจะยิ่งทำให้สีเทมปุระสวยงามขึ้นไปอีก แต่เอาจริงๆผมก็ไม่ชอบเทมปุระเท่าไรหรอกครับ ใจมันเทไปทางคัตสึโทจิหมดแล้ว แล้วที่สำคัญปลาครับ ผงหญ้าอิกุสะเอาไปหมักปลาได้ด้วย ช่วยกำจัดกลิ่นคาวและทำให้ปลานุ่มขึ้น
อันนี้มาวิทยาศาสตร์หน่อยตามข้อมูลที่หามา ในหญ้าอิกุสะที่บดนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากนะ วิตา มิน เกลือแร่ และกรดอามิโน รวมๆแล้วมากกว่า 37 ชนิด ที่สำคัญผงของหญ้าจะมีกรดโฟลิกสูงมาก ซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มากๆนะ เอาล่ะ ออกทะเลไปหน่อย วกกลับมาที่เสื่อทาทามิ
ด้วยประโยชน์ทั้งด้านระบายความชื้น ดูดซับความร้อน บ้านเช่าสวนมากในญี่ปุ่น ณ ปัจจุบันจึงใช้เสื่อทาทามิในการเป็นพื้นห้อง ซึ่งอย่างที่บอกว่าจำนวนห้องนั้นกำหนดฐานะและรายจ่ายแต่ละเดือนครับ ห้องยิ่งกว้างเสื่อยิ่งเยอะก็ค่าเช่าเยอะ ซึ่งรายละเอียดขอข้ามไปก่อนนะครับ ส่วนรูปแบบการวางเสื่อคร่าวๆก็จะเป็นดังภาพ
(https://www.img.in.th/images/ca653cee01fc87b9ab937f8533e65860.jpg)
(https://www.img.in.th/images/2581c64836c5fe40b06b9319015cb1cd.jpg)
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าไทอินกันแบบด้านๆ นั้น บ้านอิซานางิเกือบทุกห้องจะปูด้วยเสื่อทาทามิ ยกเว้นห้องนั่งสมาธิและห้องพระขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นจะเป็นไม้ และห้องทำงานของชินกับมิไร ซึ่งนั่นก็พอเข้าใจได้ว่า ทั้งสองต้องทำงานเพราะงั้นจึงต้องปรับปรุงห้องให้เหมาะสมกับการวางเครื่องใช้ อุปกรณ์ในการทำงาน
ส่วนห้องนอนของริวกะจะเป็นห้องลูกผสมระหว่างยุคปัจจุบันกับเสื่อทาทามิ แต่ห้องของชินนั้นจะเป็นแบบญี่ปุ่นโบราณ อ่ะกลับมาต่อเรื่องสื่อทาทามิ จากที่เมื่อก่อนจะใช้ฟางข้าวอัดๆๆกันจนเป็นผืนๆแล้วค่อยหุ้มด้วยหญ้าอิกุสะ ปัจจุบันเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความเจริญและเทคโนโลยีเริ่มเข้ามา
จากการใช้มือในการถักทอก็เปลี่ยนมาเป็นเครื่องจักร เสื่อทาทามิจะประกอบด้วย 2 ส่วนครับ
(https://www.img.in.th/images/a3739aa91dd372afa20e287f59cdcb9a.jpg)
คือตัวโครงเสื่อซึ่งสมัยนี้นิยมใช้โฟมหรือวู๊ดชิบมาเป็นตัวโครงเสื่อแทน เพราะสามารถกำหนดขนาดความหนาได้อย่างแม่นยำ ตัวโครงนี้จะเรียกกันว่า
" ทาทาทิ โดโคะ "
ส่วนอีกส่วนคือหน้าเสื่อครับ จากหญ้าอิกุสะที่ผ่านการสานจนเป็นแผ่นผืน จะถูกเรียกว่า ทาทามิโทโมเตะ หรือ แผ่นปูหน้า ซึ่งจะทำการปู หุ้มแค่ด้านเดียวและทำการเย็บจนกลายมาเป็นเสื่อทาทามินั่นเองงงง ออกเสียงแบบรายการทีวีแชมป์เปี้ยน
ส่วนเบาะทาทามิของยูโดนั้น จะทำมาจากวัสดุอะไรไม่แน่ใจนะตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจศึกษาอะไร แต่เป็นเหมือนแผ่นโฟมอัดแผ่นหนาประมาณ 5 เซนติเมตร แล้วปูด้วยผ้าหนังที่ทำลาย หรือ Texture ให้เหมือนกับเสื่อทาทามิ
(https://www.img.in.th/images/7c9a0e7cc273e164dca09ab64a921e08.jpg)
หรือไม่แน่ใจว่าเมื่อก่อนตอนที่ ท่านปรมาจารย์ จิโกโร คาโน ก่อตั้งโคโดกันขึ้นมา ก็ใช้เสื่อทาทามิในการฝึกซ้อม แต่บอกได้เลยว่าลายบนเสื่อทาทามิของจริง พอมันมาเป็นลายเป็นเบาะยูโดนี่แม่งเอ๊ย แสบสัดๆ ยิ่งถ้าตอนแข่งแล้วโดนลากไปกับพื้นนะ หนังจะไหม้ได้ง่ายๆ หนังเท้า หนังหน้า หนังฝ่ามือนี่แหละ โอยย พูดแล้วแสบโว๊ยยยยยย
ข้อมูลละเอียดสุดยอดเลยครับ
กระทู้นี้สาระล้วนๆเลยนะครับท่านโทน ที่มาของเสื่อ
ความรู้ดีก็มีให้ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับได้ความรู้เยอะเลย
สาระมาเต็มเลยครับท่านโทน 555
ได้ความรู้ไปอ่านมังงะเยอะเลยครับ ชอบๆ
ขอบคุณครับ ทันหน้าแรก
อ่านเรื่องของนายโทนนอกจากสนุกแล้วยังได้ความรู้อีกด้วย
ชอบความหลากหลายคุณประโยชน์ ของหญ้า อิกุสะ เลยครับใช้งานก็ได้กินก็ดี อะไรเนี่ยย ที่สำคัญยุในที่ร้อนก็ดีที่เย็นก็อุ่น อยากมีซัก2-3ผืนเลย
ขอบคุณท่านโทนที่ย้อนกลับมาอธิบายความรู้ครับ เข้าใจเพิ่มขึ้นเลย
ขอบคุณมากครับแต่งนิยายก็ว่าเหนื่อยแล้วยังหาความรู้ใหม่ๆสำหรับผมมาให้อีกขอบคุณคร้าบ...บบบ
ความรู้เน้นๆเลยครับ รอเกะอยู่นะครับ ไม่รู้โทนใจเย็นลงรึยัง
ดีครับ มีสาระด้วยหลังจากอ่านเรื่องเสียวมาแล้ว
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เนื้อหาสาระล้วนๆ
ขอบคุณมากเลย ข้อมูลเจาะลึก จากที่รู้เผิน ๆ ได้รู้ลึกขึ้น
ข้อมูลแน่นมากท่าน อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย
ชอบจังเลย ครับ ที่ ไรท์ สักคน มาอธิบาย มาคุยเล่นกับ รีด มาให้ความรู้นอกเหนือจาก เรื่องที่ เขียนแล้ว ชื่นชมครับ