รื่องนี้เป็นเรื่องเขียนเพื่อเคาะสนิม ความยาวน่าจะประมาณ 2-3 ตอนครับ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก บทเสียวก็อาจจะไม่มีอะไรมาก (แล้วเอ็งจะให้นักอ่านอ่านอะไร) ถือว่าอ่านแก้เหงาแล้วกันครับ
ตอนแรกกะจะเขียนให้จบก่อนค่อยนำมาให้อ่านกัน แต่พบว่าเขียนไปแล้วเหงามาก 555 ถ้าช่วยคอมเมนท์กันให้หายเหงาก็จะขอบคุณมากเลยครับ เรื่องนี้จะไม่มีการซ่อนอะไรทั้งสิ้น แต่ก็อยากให้ติชมกันนะครับ
เรื่องนี้จะมีการสลับเรื่องราวจากฝั่ง ช และ ญ นิดหน่อย หวังว่านักอ่านจะไม่มึนนะครับ
------------------------
วันศุกร์สิ้นเดือน เวลาสองทุ่ม แท็กซี่เขียวเหลืองคันหนึ่งเลี้ยวเข้าไปที่ตึก 6 ชั้นเล็กๆ โทรมๆ ไม่สะดุดตาแห่งหนึ่งในซอยเล็กๆ ย่านพระรามเก้า ภายในลานจอดรถรถแท็กซี่โตโยต้าที่เห็นได้ทั่วไปวิ่งช้าๆ ผ่านรถราคาแพงหลายสัญชาติหลากยี่ห้อขัดกับสภาพภายนอกของตึก ผู้โดยสารเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี เขานั่งกระสับกระส่ายเพราะยังมีเรื่องที่ตัดสินใจได้ไม่เด็ดขาด จนไม่ได้สังเกตุเห็นหญิงสาวสวยที่เพิ่งก้าวลงจากบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 สีแดงในขณะที่รถแท็กซี่ที่เขานั่งมาวิ่งผ่านรถเธอไป คนขับแท็กซี่เหลียวหลังมองเธอพักนึงจนเกือบชนเบนซ์รุ่นใหม่เอี่ยมอีกคันที่เพิ่งออกจากซองจอดรถ
"สาวๆ ที่นี่สวยมากเลยนะครับ" คนขับแท็กซี่ชวนคุย "อย่างน้องคนเมื่อกี้นี้ ผมขับรถแถวรัชดาพระรามเก้ามาเป็นสิบปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นสวยขนาดนี้เลย สวยขนาดนี้ดารายังอายเลยนะครับ ร้านนี้แพงมากไหมครับ"
"แพงมากครับพี่" ชายหนุ่มตอบหน้าเจื่อน
หลังจากรีบเคลียร์งานให้เสร็จทันหกโมงเย็น กินข้าวกินปลาเรียบร้อย โต้งเรียกแท็กซี่ให้พาเขามายังที่นี่ ที่จริงแล้วเขาอยากรีบมากว่านี้ แต่เมื่อคิดถึงค่าอาหารของที่นี่แล้ว เขาจึงตัดสินใจกินข้าวแกงร้านประจำใกล้ออฟฟิศแทน
เพราะวันนี้เขาต้องใช้เงินอีกเยอะ เยอะถึงขนาดที่ว่าปลายเดือนนี้อาหารประจำของเขาอาจมีแค่มาม่าเท่านั้น
ตึกนี้คือคลับแองเจลิก้า คลับลับระดับหรูที่เป็นที่รู้กันในวงการไฮโซ ราคาเริ่มต้นของสาวๆ ที่นี่คือ 5000 บาท เรื่อยไปจนถึงหมื่นกว่าบาท สำหรับพนักงานออฟฟิศเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยที่มาจากครอบครัวคนชั้นกลางธรรมดาๆ อย่างโต้งแล้ว ราคาระดับนี้เกินเอื้อมมาก
น่าประหลาดใจว่าเขานับเป็นลูกค้าประจำคนหนึ่ง
ที่นี่เป็นที่ที่เขาเสียความบริสุทธิ์ให้ดาวมหาวิทยาลัยเอกชนร้อนเงินคนหนึ่ง วันนั้นเป็นวันที่เขาเพิ่งเริ่มทำงานได้พ้นช่วงทดลองงานพอดี ประจวบกับหัวหน้างานของเขาที่เป็นทายาทเศรษฐีระดับประเทศเพิ่งถูกดาราสาวหักอกมาหมาดๆ จึงลากเขามาหาสาวแก้เหงาที่นี่ หลังจากนั้นเป็นเวลาสามเดือนที่เขาก็ถูกลากมาที่นี่เป็นประจำเกือบทุกวันโดยไม่ต้องควักกระเป๋าสักบาท
แต่ในข้อดีก็มีข้อเสีย ความสวยของสาว ๆ ในคลับแองเจลิก้าทำให้มาตรฐานของเขาสูงกว่ารายได้ของตัวเองมาก ปัญหาคือตอนนี้หัวหน้ามีแฟนใหม่เป็นนางแบบที่กำลังรุ่งแทนแล้ว คราวนี้เขาเลยต้องมาคนเดียวและต้องใช้เงินตัวเอง
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาต้องออมเงินไว้ แล้วยังรอจนถึงวันเงินเดือนออกถึงจะมาที่นี่ เพราะว่าค่าตัว 8000 บาทของสาวสวยที่เขาต้องตาไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ เลย
ยิ่งมันเป็นราคาสำหรับเวลาแค่ 5-10 นาทีด้วยแล้ว ยิ่งแพงมาก!
เวลามาตรฐานของทางคลับที่สาวๆ จะอยู่กับลูกค้าคือหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แต่ว่าความตื่นสนามเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชายหนุ่มมือใหม่ทุกคน ยิ่งกับความสวยของสาว ๆ ที่นี่แล้วยิ่งยากที่จะอดทนได้นาน แถมที่นี่ยังไม่อนุญาตให้ลูกค้าต่อรอบสองยกเว้นจะจ่ายเงินเพิ่มเท่ากับค่าตัวของน้อง ๆ ทำให้ชายหนุ่มยิ่งคิดหนักว่าควรจะมาไหม
โต้งรู้ตัวดีว่าในสนามรักเขายังอ่อนเชิง กับแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไปหลังจากเพิ่งมีอะไรกันได้ไม่นานเขาสำนึกตัวว่าไม่เคยทำให้เธอพอใจได้เลยนอกจากใช้ลิ้นกับนิ้ว ถึงเธอจะไม่เคยพูดตรง ๆ แต่โต้งรู้ว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอไปจากเขาก็คือเรื่องบนเตียง
"ขอบคุณนะ เรามีความสุขมากเลยที่ได้เป็นแฟนกับเธอ" เป็นคำพูดก่อนที่เธอจะจากไป ซึ่งชายหนุ่มรู้ดีว่ามันเป็นเพียงการพูดตามมารยาท
หลังลงจากรถ โต้งเดินเข้าไปหาพนักงานต้อนรับสาวหน้าตาดีอย่างคุ้นเคย ตั้งแต่เขาเดินเข้าประตูคลับ พนักงานรักษาความปลอดภัย พนักงานต้อนรับ ทุกคนจำชื่อเขาได้ และทักทายเขาอย่างนอบน้อม
"เดี๋ยวหนูเรียกพี่เชอรี่ให้นะคะ" พนักงานต้อนรับสาวพูดถึงคนดูแลส่วนตัวของโต้งโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องออกปาก
โต้งกล่าวขอบคุณพร้อมส่งยิ้มให้เธอ
พี่เชอรี่เป็นสาวประเภทสองร่างยักษ์ที่น่าจะชื่อแตงโมหรือทุเรียนมากกว่าเชอรี่ แต่ข้อดีก็คือ "เธอ" ดูแลเอาใจใส่เขาอย่างดีทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเขาไม่มีเงินมากนัก แถมพี่เชอรี่สามารถเรียกเด็กทุกคนในคลับให้เขาได้ ทั้ง ๆ ที่ตามปกติแล้วเด็กจะมีคนดูแลหรือที่เรียกกันว่ามาม่าประจำตัว
ไม่นานนักพี่เชอรี่ก็มานำเขาไปนั่งโต๊ะแถวหน้าที่สามารถมองเห็นน้อง ๆ ได้อย่างชัดเจน สาวๆ ที่นี่จะนั่งกระจัดกระจายตามโซฟาหรูที่ทางคลับจัดไว้ให้ ไม่เหมือนอาบอบนวดที่จะมีห้องกระจกสำหรับให้สาวๆ นั่งรวมกัน
สาว ๆ ต่างพยายามส่งยิ้มให้โต้ง เพราะว่าลูกค้าหนุ่ม ๆ แถมหล่อแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยนัก
"วันนี้มีใครเข้าตาหรือยัง" พี่เชอรี่ถามหลังจากอาหารว่างและน้ำอัดลมถูกนำมาเสิร์ฟแล้ว
"วันนี้น้องญาญ่าไม่มาเหรอครับ" โต้งถามอย่างผิดหวังหลังจากไม่เห็นสาวที่เป็นเป้าหมายในวันนี้
แน่นอนว่าญาญ่าไม่ใช่ชื่อจริงของน้อง หน้าตาน้องก็ไม่ได้มีส่วนคล้ายคลึงกับดาราดังคนนั้น ที่คลับนี้นิยมตั้งชื่อในวงการให้สาว ๆ ตามชื่อดาราดังก็เท่านั้นเอง
โต้งเห็นน้องญาญ่าในวันที่พี่หัวหน้าพาเขามาที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย เขาตะลึงในความสวยของเธอตั้งแต่แรกเจอ น้องญาญ่าผิวขาวตาโตใบหน้ารูปไข่แต่มีแก้ม เธอดูหวานใสจนไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำงานแบบนี้ วันนั้นเธอกำลังจะกลับบ้านพอดี เขาจึงไม่ได้ขึ้นห้องกับเธอ โต้งนั่งดูสาวอื่นในคลับจนพี่หัวหน้ากลับลงมาแล้วเขาก็ยังเลือกไม่ได้ จนกลับบ้านมือเปล่า
"ทีหลังจะเล่นของสูง ต้องโทรจองนะจ๊ะ" พี่เชอรี่แซวยิ้มๆ
โต้งหน้าเจื่อนลงทันที คืนนี้เขาคงต้องกลับบ้านมือเปล่าอีกสินะ
"แหม พ่อรูปหล่อ ไม่ต้องหงอยขนาดนั้น พี่หลอกเราเล่น น้องเขาแต่งตัวอยู่หลังร้าน น้องเพิ่งมาถึงก่อนเราไม่นานหรอก ได้น้ำแรกแบบนี้เรียกว่าบุพเพสันนิวาสได้ไหมนะ" พี่เชอรี่ยิ้มหวาน "โต้งจะจองน้องไว้เลยไหม พี่จะได้จัดการให้ สวยระดับนั้น เดินออกมาเมื่อไหร่ลูกค้าแย่งกันแน่นอน ถ้าไม่จองพี่กลัวคนอื่นจะตัดหน้าเราไปนะ"
น้ำแรกเป็นศัพท์ในวงการหมายถึงลูกค้าคนแรกของน้องในวันนี้ น้องจะยังสดชื่นอยู่ สำหรับบางคนก็เป็นเรื่องดีมาก แต่สำหรับบางคนก็ไม่ เพราะน้องอาจจะต้องการเก็บแรงไว้สำหรับรอบต่อๆ ไป ทำให้ทำงานไม่เต็มที่นัก เรื่องแบบนี้มันก็ต่างกรรมต่างอัณฑะ เอ๊ย วาระกันไป
โต้งใจเต้นระทึก เขาออมเงินมาสามเดือนโดยตั้งใจจะเอามาจ่ายให้น้องญาญ่า แต่พอจะต้องจ่ายเงินจำนวนนี้ออกไปจริง ๆ เขาก็อดจะลังเลไม่ได้
"เอ่อ...เดี๋ยวผมรอดูน้องให้ชัดๆ อีกทีก่อนดีกว่าครับ" โต้งตอบ
"ได้เลย ไม่มีปัญหา" พี่เชอรี่รู้ใจเขาเป็นอย่างดี ถ้าไม่ถูกใจจริง ๆ โต้งจะไม่ขึ้นด้วยเด็ดขาด ดังนั้นจึงไม่ได้เร่งรัดเขา
"งั้นพี่ขอตัวก่อน มีอะไรให้เด็กเรียกพี่ได้เลยนะ" พี่เชอรี่พูดพลางลุกออกจากเก้าอี้ไป
โต้งมองตามพี่เชอรี่ไป ปกติมาม่าจะนั่งอยู่เป็นเพื่อนจนแขกเลือกเด็กได้ เขาจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
แต่เมื่อมองเห็นหญิงสาวที่พี่เชอรี่เดินไปหาที่หน้าประตู สายตาเขาก็ละจากเธอไม่ได้อีกเลย
พี่เชอรี่เดินนำสาวสวยในชุดราตรีเปิดไหล่สีแชมเปญไปนั่งโต๊ะมุมในสุด ขณะที่เธอเดินผ่านโต๊ะเขาไป โต้งกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ชุดราตรีเกาะอกเผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูและร่องอกที่เบียดชิด ถึงมันจะไม่ได้ใหญ่โตนักแต่ก็รับกับรูปร่างระหงนั้นเป็นอย่างดี
จากหน้าตา โต้งเดาว่าเธออายุมากกว่าเขาพอสมควร ซึ่งหมายความว่าเธอน่าจะอายุมากกว่าน้องญาญ่าที่ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยด้วย วงหน้ารูปไข่กับตาหงส์คมกริบคู่นั้น ทำให้เขาก้มหน้าลงหลบสายตาเธอโดยไม่รู้ตัว
เหมือนกับสีชุดของเธอ เธอเป็นเหมือนแชมเปญที่ยิ่งบ่มนานยิ่งกล่มกล่อมและมีระดับ
เขาอยากจะเรียกพี่เชอรี่มาจัดการจองเธอให้เขาซะเดี๋ยวนี้เลย แต่ดูเหมือนทั้งสองคนมีเรื่องต้องคุยกัน โต้งนั่งมองสาวสวยพูดคุยอย่างตั้งใจ
ใบหน้าเธอเมื่อยามครุ่นคิด
ใบหน้าเธอเมื่อยิ้ม
ใบหน้าเธอเมื่อหัวเราะ
แม้กระทั่ง ใบหน้าเธอเมื่อยามนั่งเฉยๆ ฟังพี่เชอรี่พูด ทุกกิริยาของเธอสะกดสายตาของเขาไว้นิ่ง ถ้าเป็นสถานที่อื่นเขาคงไม่กล้าจ้องมองเธอขนาดนี้
โต้งค้นพบว่าใบหน้ายามปกติของเธอดูเหมือนหยิ่งๆ เพราะตาคมคู่นั้นและริมฝีปากบาง แต่เมื่อเธอยิ้มและหัวเราะเหมือนกับกลายเป็นคนละคน ดูน่ารักน่าใกล้ชิด
เพียงแค่ได้มองเธอเท่านั้นความต้องการของเขาก็พุ่งขึ้นสูง มันแข็งขันจนโต้งรู้สึกปวดหนึบๆ
ในที่สุดสาวสวยคนนั้นเหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนแอบมองเธอ โต้งรีบหลบตาทันทีที่เธอหันมามองเขา
หญิงสาวจ้องมองเขาพักนึง โต้งได้แต่นั่งนิ่งเหมือนกบที่ถูกงูจ้อง เขาทำตัวไม่ถูก อยากจะยิ้มให้เธอก็ไม่รู้ว่าควรยิ้มให้ไหม
ในที่สุดเธอก็หันกลับไปกระซิบกระซาบกับพี่เชอรี่
โต้งรวบรวมความกล้ามองเธออีกครั้ง คิดอีกทีเขาจะเขินกับสาว ๆ ที่นี่ไปทำไมกันนะ
หญิงสาวหัวเราะคิกคักกับพี่เชอรี่ แล้วหันมามองเขาใหม่ คราวนี้โต้งจ้องมองเธอโดยไม่หลบอีกต่อไป ถึงแม้หน้าเขาจะร้อนผ่าวด้วยความประหม่า เขาสำรวจเธอไปทั่ว ทั้งใบหน้าที่งดงาม ลำคอระหง หัวไหล่กลมมน และหน้าอกที่เบียดชิดที่พ้นชุดเกาะอกขึ้นมา
หญิงสาวเปลี่ยนเป็นเอาสองมือประสานยันข้อศอกที่โต๊ะ แล้วเกยคางไว้บนสองมือ ทำให้โต้งเห็นร่องอกลึกล้ำนั้นชัดขึ้นอีก อิริยาบถนั้นทั้งน่ารักและเซ็กซี่ไปพร้อมกัน เธอดูสบาย ๆ ส่งสายตาซุกซนมาทางเขา ปล่อยให้เขาชมดูอย่างภาคภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง
ส่วนโต้งนั่งตัวแข็งทื่ออย่างประหม่า แต่ก็ไม่ยอมหลบสายตาของเธอ
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ โต้งก็ไม่รู้ เขารู้เพียงว่าเขาสามารถจ้องมองเธอแบบนี้ได้ทั้งคืน
เธอยิ้มให้เขาอีกทีหนึ่ง แล้วหันไปซุบซิบกับพี่เชอรี่สักพัก ก่อนที่มาม่าร่างยักษ์จะเดินมาหาเขา
"ไงเรา จ้องเด็กใหม่ตาไม่กระพริบเลยนะ" พี่เชอรี่แซวเมื่อเดินมานั่งลงข้างๆ โต้ง "เปลี่ยนใจแล้วเหรอไง"
"น้องเขาชื่ออะไรครับ" โต้งถาม ถึงเขาจะพอดูออกว่าสาวสวยคนนั้นอายุมากกว่าเขา แต่ในที่แบบนี้แขกทุกคนมักเรียกแทนสาวๆ ว่าน้อง
"น้องแชมเปญค่ะ มาวันนี้วันแรกเลยนะ พี่กล่อมอยู่นาน น้องบอกว่าจะยอมขึ้นก็ได้ แต่น้องย้ำว่าเจ้าบ่าวต้องเป็นพ่อรูปหล่อคนนี้เท่านั้น ว่าไงเรา จะให้ว่าที่เจ้าสาวรอเก้อไหม"
เธอเลือกชื่อในวงการตามสีชุดที่ใส่มาหรือนี่ แต่ก็เป็นชื่อที่เหมาะกับเธอมากเลย โต้งคิด
"เอ่อ...สินสอดเท่าไหร่หรือครับ"
"สดๆ ใหม่ๆ สวยระดับนี้ พี่ขอหมื่นสองแล้วกันนะ พี่การันตีได้เลยนะว่าน้องไม่เคยทำงานนี้มาก่อน แถมนอกจากแฟนคนเดียวแล้วก็ไม่เคยมีใครด้วย"
หมื่นสอง! โต้งคอตกโดยไม่รู้ตัว เขานิ่งอยู่พักนึง พี่เชอรี่ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร ด้วยความช่ำชองเธอรู้ดีว่า เด็กหนุ่มต้องการเวลาคิดสักนิด อีกทั้งเธอเองก็รู้ว่าโต้งไม่ได้ร่ำรวยอะไร
เวลานี้ ถ้าเขาหันกลับไปมองสักนิดจะเห็นว่าสาวสวยคนนั้นกำลังมองเขาอย่างสนใจว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ดูเหมือนเธอก็ลุ้นให้เขาเลือกเธอเช่นกัน
"ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ" โต้งพูดอย่างประหม่า
พี่เชอรี่ปล่อยให้เขาไปตามสบาย
ถึงจะเป็นเด็กหนุ่มที่เพิ่งทำงานได้ไม่นานอย่างเขาก็มีบัตรเครดิตใช้ แต่เจ้าตัวไม่อยากใช้บัตรเครดิตนัก เขายังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ถ้าท่านเห็นรายการใช้จ่ายระดับนี้คงไม่ดีแน่
โต้งจึงใช้เวลาในห้องน้ำโดยการนั่งนับเงินที่เตรียมมาอีกรอบ
8000 บาทที่เตรียมไว้สำหรับน้องญาญ่า
1000 บาทสำหรับทิปน้องญาญ่า
100 บาทสำหรับทิปน้องเด็กเสิร์ฟตามมารยาท
200 บาทเผื่อไว้เป็นค่ารถกลับบ้าน
500 บาทที่ติดกระเป๋าไว้
สำหรับมาม่าเชอรี่ ที่นี่แขกไม่จำเป็นต้องทิปให้ นอกจากเป็นแขกกระเป๋าหนักจริงๆ มาม่าได้ส่วนแบ่งจากค่าสินสอดอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าได้กี่ %
สรุปแล้วทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีอยู่เพียง 9800 บาท เท่ากับว่าเขาไม่มีเงินสดพอสำหรับขึ้นห้องกับน้องแชมเปญแน่นอน
ตามเหตุผลเขามีทางเลือกสองทางคือ ทำตามแผนเดิมคือขึ้นกับน้องญาญ่าหรือไม่ก็กลับบ้านไปนอนซะ โต้งถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินออกจากห้องน้ำ
เขาแทบลืมหายใจเมื่อเจอกับสาวสวยที่เพิ่งเดินมาที่ห้องน้ำเช่นกัน
โต้งเดินสวนกับแชมเปญพอดีที่หน้าห้องน้ำ เขาเมื่อได้เห็นหน้าเธอชัดๆ ก็ยิ่งใจเต้นแรง ส่วนสูงของเธอไล่เลี่ยกับเขา อาจจะเป็นเพราะรองเท้าส้นสูงที่เธอใส่
เธอยิ้มให้เขาแต่ตาหงส์คมวาวคู่นั้นจ้องมองเขาอย่างท้าทาย
โต้งยืนนิ่งอยู่พักนึงจนเริ่มรู้สึกตัวว่าขวางทางน้องอยู่จึงหลีกทางให้แล้วพายมือเชิญให้เธอเดินผ่านเขาไป แชมเปญรวบผมยาวไว้ด้านข้างทำให้โต้งเห็นช่วงคอระหงและแผ่นหลังขาวนวลที่โผล่พ้นชุดราตรี สะโพกกลมกลึงคู่นั้นบิดไหวทำให้เขากลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
"เป็นไงคะ เห็นหน้านางฟ้าของพี่ชัดๆ แล้ว ตัดสินใจได้หรือป่าว" พี่เชอรี่ถามยิ้มๆ เมื่อโต้งกลับมาที่โต๊ะ
โต้งกัดฟันกรอด เงินในกระเป๋าไม่เป็นใจให้เขามีตัวเลือกอื่นอีกแล้ว เขาตัดใจอย่างแน่วแน่แล้วถามพี่เชอรี่ไปว่า...
"รับบัตรเครดิตไหมครับ?"
วันศุกร์สิ้นเดือน ห้าโมงเย็น แชมเปญนั่งจิบเวอร์จิ้นพินาโคลาดาอยู่ในงานแต่งงานหรูหราที่ห้องบอลรูมของโรงแรมพลาซ่าแอทธินี โรงแรมหรูระดับห้าดาว เธอแต่งหน้าอ่อนๆ อยู่ในชุดราตรีสีแชมเปญ สีชื่อเดียวกันกับเธอ
เธอใช้สายตาจิกปฏิเสธชายหนุ่มรายที่ 6 ของวันนี้ที่พยายามเข้าหาเธอ เธอรู้ตัวดีว่าถ้าไม่ยิ้มหน้าตาเธอจะดูหยิ่งมาก สายตาเย็นชาแบบนี้ใช้ไล่ผู้ชายที่ไม่พึงปรารถนาได้ผลดีมาตลอด
แต่คนที่กัดฟันฝ่าด่านหน้าที่ดูเหมือนเย็นชาเข้ามาได้เป็นคนแรกตอนนี้กลายเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของงานวันนี้
แชมเปญคนม็อกเทลพลางคิดว่าตัวเองมาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่
นี่เธออยากแสดงความใจกว้างกับเพื่อนสนิทที่แย่งแฟนของเธอไป
หรืออยากเสดงให้ทุกคนเห็นว่าเธอไม่ได้แคร์อะไรกับเจ้าบ่าวของงานแล้ว
เสียงกระซิบกระซาบนินทาที่ไม่ว่าจะพยายามไม่สนใจอย่างไรก็ยังดังมาเข้าหูทำให้เธอใกล้สติแตกเข้าไปทุกที
สาเหตุที่เธอดื่มเพียงม็อกเทลก็เพราะใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเธอเจอหน้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวและระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของเธอสูงพอ
เธอมองรูปบ่าวสาวที่ติดไว้ในงานอย่างสะอิดสะเอียน ต่อให้ไม่คิดเข้าข้างตัวเองเจ้าสาวแต่งหน้าเต็มที่ยังสวยไม่ได้ครึ่งของหน้าสดของเธอ วิยะดาเป็นรองเธอทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา การเรียน การงาน หรือกระทั่งนิสัย
ที่วิยะดาแย่งสเตฟานแฟนหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษของเธอไปได้มีอยู่เรื่องเดียวคือเซ็กส์
ด้วยรูปร่างหน้าตาและฐานะสเตฟานมีสาวๆ พยายามเข้าหามากมาย แต่เขาไม่เคยแสดงท่าทีสนใจใคร จนกระทั่งวันหนึ่งแชมเปญจับได้คาหนังคาเขาระหว่างที่วิยะดาคร่อมอยู่บนร่างของสเตฟานในคอนโดของเขาซึ่งเธอเองก็มีคีย์การ์ดในการเข้าออก
อันที่จริงในเมื่อทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน ในฐานะสาวนักเรียนนอกแชมเปญยังพอรับได้กับการเขามีอะไรกับผู้หญิงอื่น แต่คำพูดที่สเตฟานพูดกับวิยะดาที่เธอบังเอิญได้ยินมันยิ่งทำร้ายจิตใจเธอมากกว่านั้น
"เธอมันจืดชืดจะตาย เธอชื่อแชมเปญ แต่เรื่องบนเตียงเธอมันน้ำเปล่าดีๆ นี่เอง" เขาบอกแล้วทั้งสองก็หัวเราะกันสนุกสนาน
แชมเปญไม่ได้อาละวาด เธอแอบถ่ายรูปทั้งคู่แล้วกลับออกมาสงบสติอารมณ์ที่ห้องของเพื่อนสนิทเงียบๆ วันรุ่งขึ้นเธอนัดสเตฟานมาที่ร้านกาแฟ เอารูปให้เขาดูแล้วเดินจากมาเฉยๆ
ทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันอีก จนกระทั่งเพื่อนๆ ในกลุ่มของเธอนัดกันกินข้าวแล้ววิยะดาเอาการ์ดแต่งงานมาแจกให้เธอ
แชมเปญจำสีหน้าของวิยะดาในวันนั้นได้ดี แววตาของเธอมันท้าทายราวกับพูดว่า "ว่ายังไง ฉันเป็นลูกไล่เธอมาตลอดชีวิต แต่วันนี้แฟนของเธอกำลังจะเป็นสามีของฉันแล้วนะ"
แชมเปญพยายามทำเหมือนไม่แคร์ แล้วเธอมาก็นั่งจิตตกอยู่ที่นี่จนได้
ใครก็ได้ ช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ที แชมเปญร่ำร้องในใจ
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือปลุกเธอจากภวังค์ เสียงตามสายนั้นเป็นเสียงเพื่อนสนิทที่คอยรับฟังความเศร้าของเธอเรื่อยมา
"แกอยู่ที่ไหน" เสียงห้าวๆ ตามสายเอ่ยถาม
"เอ่อ..." แชมเปญเงียบไป ขณะจะหาคำโกหก
"นี่อย่าบอกนะว่าแกไปงานแต่งอีชะนีนั่น"
"..."
"ชั้นบอกแกแล้วว่าอย่าไป แกจะไปให้มันเยาะเย้ยอีกทำไม หรือแค่ที่มันเอาการ์ดมาให้แกมันยังเจ็บไม่พอ"
แชมเปญยังคงเงียบ
"แกมาหาชั้นที่ร้านเดี๋ยวนี้เลย แกจำงานที่ชั้นเคยจะจ้างแกทำได้ไหม รีบมาเลยเสี่ยเจ้าของร้านเขาว่างจะคุยด้วยพอดี" เสียงห้าวๆ นั่นนุ่มนวลลง เพื่อนเงียบไปแบบนี้เขารู้ว่าเพื่อนสาวใกล้จะต่อมน้ำตาแตกแล้ว ถ้ายังดุเธอต่อไปยิ่งได้ขายขี้หน้ากลางงานแน่นอน
"ชั้นต้องกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน อาจจะไปถึงสักทุ่มสองทุ่มนะ" แชมเปญกลืนก้อนสะอื้นในลำคอแล้วตอบกลับไป
"เสี่ยเขาเวลาน้อย แกมาชุดนั้นแหละ แกบอกไอ้อีคู่นั้นเลยนะว่าแกมีเงินก้อนใหญ่ต้องไปรับ แกไม่มีเวลาสำหรับงานแต่งเล็กๆ ของพวกมันหรอก"
"แกนี่ก็นะ วิมันก็เพื่อนแกเหมือนกันไม่ใช่เหรอไง"
"อีนี่ ไม่ต้องมานางเอกเลย มาเร็ว ไม่งั้นกว่าเฮียเข้าจะว่างอีกไม่รู้อีกกี่เดือน ร้านชั้นเจ๊งกันพอดี"
"โอเคๆ ชั้นไปเดี๋ยวนี้แหละ"
แชมเปญเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงอย่างโล่งใจ พอดีสวนกับบ่าวสาวที่เพิ่งมาถึง
"แชมเปญ ขอบใจมากเพื่อน" วิยะดากระหยิ่มยิ้มย่องที่เพื่อนกล้ามาให้หยามถึงที่
"ยินดีด้วยนะ" แชมเปญทักทายตามมารยาท
เธอจับมือสเตฟานแล้วมองหน้าเขาตรงๆ เธอเห็นร่องรอยความสำนึกผิด ระคนเสียดายในแววตานั้น นั่นทำให้แชมเปญรู้สึกสะใจลึก ๆ
"ดูแลเพื่อนแชมเปญให้ดีด้วยนะคะ" เธอพูดตามมารยาท เรื่องใส่หน้ากากนิดหน่อยตอนนี้ลำบากน้อยกว่าที่เธอคาดไว้มาก
"ดา ขอโทษทีนะ เรามีธุระต้องรีบไปแล้วแหละ"
"อ้าว อยู่ก่อนไม่ได้เหรอ เรากะขว้างช่อดอกไม้ให้แชมเปญเลยนะ จะได้แต่งสักทีไง" วิยะดาแอบจิกกัด
"นั่นสิครับ อย่างน้อยก็อยู่ทานอาหารก่อนเถอะนะ" สเตฟานพูดขึ้นบ้าง
"เราก็อยากอยู่นะ แต่งานด่วนมากจริง ๆ โปรเจคนี้หลายล้านด้วย" แชมเปญปั้นหน้าเหมือนเสียดายเสียเต็มประดา
"ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะ" แชมเปญพูดแล้วเดินออกจากงาน เธอไม่ได้หันหลังกลับไปมองอีกเลย
ใจของแชมเปญไม่ได้สดชื่นเหมือนใบหน้า ถึงแม้ว่าแววตาจ๋อย ๆ ของสเตฟานจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น เธอรู้สึกว่าถ้าไม่มีวิยะดายืนจับมือเขาไว้สเตฟานจะวิ่งตามมาง้อเธอด้วยซ้ำ แต่เมื่อเธอขับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 5 สีแดงฝ่าการจราจรอันสุดแสนจะแออัดของวันศุกร์สิ้นเดือน คำพูดบาดใจนั้นก็พุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง
หรือว่าเราจะจืดเหมือนน้ำเปล่าจริงๆ เธอคิด
แชมเปญมีประสบการณ์กับผู้ชายเพียงแค่คนเดียว หลายปีที่ผ่านมาสเตฟานเป็นฝ่ายควบคุม ถึงเขาจะสอนเธอทุกท่า ทุกอย่าง แต่เธอเป็นเพียงฝ่ายรับการปรนเปรอจากเขาเสมอ
แต่สเตฟานไม่ได้พาเธอไปถึงฝั่งทุกครั้ง ออกัสซั่มปลอมๆ ดูเหมือนจะเป็นความสามารถติดตัวผู้หญิงทุกคน เพราะแม้แต่สาวไร้ประสบการณ์อย่างเธอยังทำได้อย่างแนบเนียน แต่บางครั้งเธออยากเป็นฝ่ายเริ่ม เป็นฝ่ายควบคุมเกมส์บ้าง แต่เธออายเกินกว่าที่จะทำ เธอคิดไปเองว่าผู้ชายน่าจะภูมิใจที่ได้เป็นฝ่ายควบคุม ทำแบบนี้เขาน่าจะมีความสุขกว่า
บางครั้งเธอยังไม่พร้อมจะรับการรุกรานจากเขาด้วยซ้ำ แต่เธอก็ยอมโดยไม่ปริปาก
แต่ทั้งหมดนี้แลกมาด้วยคำว่า น้ำเปล่า
ขณะขับรถแชมเปญตัดสินใจว่า รักครั้งต่อไป หรืออาจจะเป็นแค่การร่วมรักครั้งต่อๆ ไป เธอจะทำตามที่ใจเธอต้องการ แม่น้ำเปล่าควรกลายจะกลายเป็นแชมเปญที่ทั้งละมุนและซาบซ่าได้แล้ว
แชมเปญมาถึงคลับแองเจลิก้าเวลาสองทุ่ม
ที่เธอยังไม่รู้คือสิ่งที่เธอตัดสินใจจะทำจะมาเร็วกว่าที่เธอคิดไว้มากนัก
เชอรี่เดินมารับแชมเปญหลังจากที่เธอรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของคลับเรียบร้อยแล้ว
"ขอโทษด้วยนะแก เฮียเขามีธุระด่วนเลยกลับไปก่อน" เชอรี่พูดกับเพื่อนสาวด้วยเสียงห้าวๆ ตามปกติ กับเพื่อนที่คบกันมานานเธอไม่มีความจำเป็นต้องดัดเสียงหรือเสแสร้งอะไร
"เมียตามมั้ง ไม่เป็นไรหรอก ชั้นก็ได้มีข้ออ้างออกจากงานแต่งบ้าๆ นั่นด้วย อีกอย่างชั้นยังไม่ได้กินข้าว ไหน ๆ ก็ใกล้ถึงแล้ว แวะมาให้เแกเลี้ยงหน่อยก็ดี" แชมเปญตอบ
"เออ ก็คงเมียโทรตามนั่นแหละ ยังดีที่เฮียบอกให้ชั้นรับผิดชอบงานนี้ไปเลย เขาเห็นพอร์ตฟอลิโองานของแกแล้ว ถูกใจเลยไฟเขียวเรียบร้อยแล้ว" เชอรี่เอียงหน้ามากระซิบ "จริงๆ แกไม่ต้องมาวันนี้ก็ได้ ที่เฮียนัดแกมาก็กะจะเสนอให้แกเป็นเด็กเฮียนั่นแหละ"
"บ้า แกก็รู้ว่าชั้นไม่เอาหรอก ว่าแต่...เดือนละเท่าไหรวะ"
"หน้าอย่างแกเนี่ยนะ นมก็ไม่ค่อยมี 20000 ก็หรูแล้ว" เชอรี่ตอบแล้วทั้งสองก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
เชอรี่สั่งของทานเล่น 2-3 ให้เพื่อนเมื่อทั้งสองมาถึงโต๊ะ แชมเปญไม่ได้สังเกตว่ามีชายหนุ่ม หรืออันที่จริงก็มีทั้งหนุ่มและไม่หนุ่มจ้องมองเธอกันทั้งร้าน เธอชินกับการโดนมองแบบนี้นานแล้วจึงไม่ได้สนใจ
"เอาน้ำอะไรดี เอาน้ำส้มไหมแม่นางเอก" เชอรี่แซว
"อะไรวะ ร้านของแกไม่ใช่เหรอ เอาเหล้าแพงสุดมาต้อนรับเพื่อนสิ" แชมเปญตอบ
"งั้นเอาดงเปรีญงแล้วกันนะ ดูแกสิ แม่แชมเปญ ชุดก็สีแชมเปญ งั้นดื่มแชมเปญไปด้วยเลยให้ครบชุด" เชอรี่พูดยิ้ม ๆ
"เอาของกินเล่นแพงๆ ด้วยนะแก" แชมเปญเสริม
"แกดูอารมณ์ดีขึ้นแล้วนี่หว่า เปลี่ยนอารมณ์ไวจริงนะแม่โฟร์ซีซั่น" เชอรี่เปรียบเปรยเพื่อนสาวกับฤดูกาล
"ในวันเดียวด้วยนะแก" แชมเปญตอบยิ้ม ๆ
"ทำได้ไงวะ"
"ไม่รู้สิ จู่ ๆ ก็ปลงได้มั้ง"
"ก่อนจะไปบวช รีโนเวทร้านชั้นให้เสร็จก่อนนะแม่มัณฑนากรมือทอง"
"บ้า บวชอะไรกันแก" แชมเปญตอบ "พอเห็นสเตฟานทำหน้าเหมือนหมาหงอยแล้วก็รู้สึกดีขึ้นละ"
"ชั้นว่า แกก็ไม่ได้รักอะไรสเตฟานหนักหนาหรอก"
"อืม" แชมเปญสะดุดกับคำของเพื่อน "ไม่รู้สินะ แกก็รู้ว่าชั้นไม่ค่อยมีผู้ชายมาจีบ อีกอย่างสเตฟานก็หล่อ ชั้นก็เลยคิดว่าคงชอบละมั้ง"
"ก็แกชอบทำหน้าหยิ่ง ผู้ชายก็ถอยหนีหมดสิ รู้ไหมใคร ๆ เขาก็คิดว่าแกสวยแต่หยิ่งกันทั้งนั้น"
"ฉันไม่เคยทำหน้าหยิ่งนะ ก็คนมันเกิดมาหน้าแบบนี้เอง ไม่รู้สิ ตาชั้นดุไปมั้ง" แชมเปญแย้ง
"แกก็ยิ้มเยอะ ๆ สิ"
"เดินไปยิ้มไปคนเขาก็หาว่าชั้นบ้ากันพอดีสิแก" แชมเปญยิ้มตอบ
ดื่มไปสักพักพอหน้าตึง แชมเปญก็เริ่มเปิดเผยความในใจกับเพื่อน "ชั้นมาคิดดูนะ ที่ไอ้บ้านั่นเรียกชั้นว่าน้ำเปล่าก็อาจจะจริงนะ ที่ผ่านมาชั้นไม่เคยเอ็นจอยเซ็กส์เลยว่ะ ตอนนี้โสดสนิทก็ดี ชั้นอยากใช้จังหวะนี้แหละ ให้ความสุขตัวเองบ้าง"
"เออ คิดดีนี่หว่า แล้วแกอยากลองแนวไหนวะ เอาแบบยัยจุ๋มไหม ไม่สวยแต่รวยมาก ไปบาร์โฮสต์ประจำ" พอพูดถึงเรื่องบนเตียงเชอรี่ก็ยิ่งกระตือรือร้น
"ชั้นไม่ได้รวยแบบมันนี่หว่า อีกอย่างชั้นว่าแบบนั้นอารมณ์ร่วมมันไม่ได้อ่ะ"
"ติดต่อหนุ่ม ๆ ผ่านแอปล่ะ เดี๋ยวนี้มีเพียบนะ"
"อันตรายไป"
"อันตรายตรงไหน ชั้นใช้ประจำ ฟรีแถมอารมณ์ร่วมมาเต็มนะแก"
"แหม ตัวควายขนาดแกก็ปลอดภัยดิ"
"หรือจะสวิงกิ้งคลับ เอาให้สุดๆ ไปเลย ชั้นแนะนำได้นะ"
"แต่ละอันของแกนี่นะ ชั้นยังอยากมีแฟนแบบปกติๆ นี่แหละแก อืม อย่างมากแค่วันไนท์สแตนด์นี่ยังพอรับได้"
"พูดถึงวันไนท์สแตนด์ แกลองหันไปมองทาง 10 นาฬิกาสิ"
แชมเปญหันมองตามทิศที่เชอรี่บอก เธอเห็นชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีดูสุภาพเรียบร้อยกำลังจองมองเธอตาไม่กระพริบ
เมื่อสายตาประสานกัน ชายหนุ่มรีบก้มหน้าอย่างเขินอาย
แชมเปญอดอมยิ้มไม่ได้ รูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มถือว่าถูกตาต้องใจเธอไม่น้อย ท่าทางเขินอายนั่นยิ่งน่ารัก
"แกจะให้ชั้นกินเด็กเหรอวะ" แชมเปญถาม
"ไม่ดีเหรอแก ได้กินเด็กหล่อ แถมได้เงินด้วยนะ"
"อีบ้า! จู่ ๆ จะให้เพื่อนขายตัว" แชมเปญว่าเพื่อนพลางมองชายหนุ่ม "โครตหล่อเลยว่ะ ใสอย่างกับโอปป้าเกาหลี หล่อขนาดนี้ต้องมาเที่ยวด้วยเหรอวะ"
"เออ ชั้นก็แปลกใจเหมือนกัน แต่คนนี้น่าจะไม่ตอบโจทย์แกนะ เห็นลูกสาวชั้นรายงานว่า 5 นาทีก็จบแล้ว เป็นขวัญใจสาว ๆ ที่นี่ไปเลย หล่อ แถมได้เงินเร็วไม่ต้องเปลืองตัวมาก"
"นินทาลูกค้าแบบนี้ ระวังไม่เจริญนะแก" แชมเปญพูดยิ้มๆ "5 นาทีนี่เร็วไปเหรอ ชั้นนึกว่าเป็นเวลาปกติซะอีก สเตฟานปกติก็ไม่นานกว่านี้เท่าไหร่นะ"
"อ้าว แฟนแกก็แค่ 5 นาทีเหรอวะ ดีแล้วแบบนี้ยกให้นังวิยะดาไปเหอะ หาใหม่ดีแล้ว" เชอรี่ขยิบตาใหเพื่อนหันไปมอง "แกดูสิ เขาจ้องแกอีกแล้ว"
แชมเปญหันไปจ้องตาชายหนุ่มอีกครั้ง คราวนี้ถึงจะยังดูประหม่าแต่ชายหนุ่มสู้สายตาไม่ถอย
มิหนำซ้ำเขามองสำรวจเธอไปทั่ว เหมือนพยายามจะเปลื้องเสื้อผ้าเธอให้เปลือยเปล่าออกด้วยสายตาคู่นั้น ถ้าเป็นชายคนอื่นมองแบบนี้ แชมเปญคงไม่พอใจ อาจจะถึงขนาดเดินไปด่าให้ด้วยซ้ำ แต่เธอก็เข้าใจดีว่าเขาคิดว่าเธอเป็นสาวไซด์ไลน์เหมือนคนอื่น ๆ จึงกล้ามองเธออย่างอุกอาจ จึงไม่ได้โมโห
กลับกันแชมเปญรู้สึกสนุกกับการหยอกเย้าชายหนุ่ม ดงเปรีญงที่อยู่ในกระแสเลือดเริ่มออกฤทธิ์ ร่างกายเธอรู้สึกร้อนผ่าวๆ เธอยืดอกขึ้นให้เขาเชยชมอย่างเต็มตา เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอยั่วผู้ชาย ความต้องการที่อัดแน่นมานานเริ่มถูกปลดปล่อยออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่
จุดซ่อนเร้นที่หว่างขาเริ่มชื้นขึ้นด้วยความตื่นเต้น
"แกว่าน้องเขาจะจ่ายเงินเพื่อสาวที่แก่กว่าอย่างชั้นเหรอวะ" แชมเปญถาม
"แน่นอน ชั้นทำงานนี้มานาน เรื่องแบบนี้ดูไม่ยากหรอก"
"น้องเขาเล็งใครไว้? เท่าไหร่?"
"น้องญาญ่า ดาวประจำร้าน เพิ่ง ๆ 18 หมาดเองแก เรทก็อยู่ที่ 8000"
"ชั้นขอดูรูปน้องหน่อยสิ"
"ได้สิ" เชอรี่เปิดรูปน้องญาญ่าในมือถือให้เพื่อนดู
"โห สวย น่ารักมากเลยนี่ ใสมาก"
แชมเปญนึกสนุกอยากลองว่าเธอจะชนะเด็กสาวสวยใสคนนี้ได้ไหม
"แกไปบอกน้องเขาว่าชั้นขอหมื่นสอง ถ้ายอมจ่ายแกก็เอาไปหมดแหละ ชั้นไม่ขายตัวกินหรอก"
"ชั้นก็มีจรรยาบรรณของชั้นนะโว้ย เอางี้ ถ้าน้องเขายอมจ่าย พอจบงานชั้นจะคืนเงินให้น้องเขาแล้วกัน"
"เออ แบบนั้นก็ดี แกไปจัดการได้เลย"
ในลิฟต์โต้งยืนหลบมุมห่างจากแชมเปญประมาณหนึ่งฟุต หญิงสาวนึกขำแล้วเป็นฝ่ายคล้องแขนโต้งมากอดไว้อย่างหลวม ๆ ทำให้แขนของเขาสัมผัสกับหน้าอกของเธออย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มหน้าแดงเป็นกุ้งนึ่ง ถ้าเขาหันมามองสักหน่อยก็จะเห็นว่าหญิงสาวก็หน้าแดงไม่แพ้กัน มือของทั้งคู่กุมกันไว้ เพียงแค่นี้ชายหนุ่มก็รู้สึกล่องลอยเหมือนกำลังจะขึ้นสวรรค์จริงๆ มือนุ่ม ๆ นั้นบีบมือเขาเบา ๆ กลิ่นน้ำหอมที่เขาไม่รู้จักแต่รู้สึกว่าได้กลิ่นเหมือนสวนดอกไม้แต่แอบแฝงความเย้ายวนนิด ๆ ทำให้เขาแข็งจนแทบระเบิด
จู่ ๆ แชมเปญก็ซบไหล่เขา โต้งรู้สึกหัวใจพองโต เขาชะงักไปพักหนึ่ง แล้วใช้มือลูบเรือนผมเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวแอบอิงกับไหล่เขาอย่างผ่อนคลาย
ติ๊ง! เสียงลิฟต์เตือนว่าถึงชั้นแล้ว แชมเปญกุมมือโต้งออกจากลิฟท์ราวกับคู่รัก โต้งพาแชมเปญไปที่ห้องอย่างคุ้นเคย ที่นี่แต่ละชั้นมีเพียงสองถึงสามห้อง แต่ที่ชั้น 6 นี้เป็นห้องที่หรูหราที่สุดทั้งชั้นมีเพียงห้องเดียว
ประตูห้องไม่ได้ล็อค ภายในห้องมีกลิ่นสะอาดสดชื่นของน้ำมันหอมระเหย ภายในห้องมีเพียงแสงจากโคมระย้าคริสตัลสมกับเป็นห้องในคลับระดับหรูหรา
เมื่อทั้งสองเข้าไปในห้อง โต้งเป็นฝ่ายล็อกประตูเอง ปกติแล้วฝ่ายหญิงจะเป็นคนบริการทุกอย่าง ส่วนใหญ่จะถอดรองเท้าให้แขกด้วยซ้ำ แต่ความสวยสง่าของแชมเปญทำให้เขาประหม่าจนเป็นฝ่ายบริการเสียเอง
เมื่อโต้งหันกลับมา แชมเปญก็ดึงเขาเข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม มือโอบรอบคอเขาไว้หลวม ๆ
โต้งแปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติสาว ๆ จะไม่จูบกับแขก แต่ไม่นานรสชาติหวานสดชื่นกับริมฝีปากนุ่ม ๆ ชุ่มชื้นนั้นก็ทำให้เขาจูบตอบอย่างลืมตัว ลิ้นทั้งสองพัวพันกันไม่ยอมห่าง สองแขนของเขากอดตอบเธอพลางรั้งเธอเข้ามาแนบชิด
"จูบเก่งเหมือนกันนี่นา" หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเธอถอนริมฝีปากออกแล้วยิ้มหวานให้เขา
แววตาหวานเชื่อมทำให้โต้งเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด เขายกมือขึ้นประคองแก้มทั้งสองของเธออย่างเบามือ ยิ่งมองเธออย่างใกล้ชิดในแสงสลัว ๆ แบบนี้เธอยิ่งดูสวยงามราวกับนางฟ้า
โต้งลูบไล้ใบหน้าเธอเบา ๆ ใบหน้าเธอขาวใสราวกับจะปริแตกได้ง่าย ๆ
"อืม..." แชมเปญครางเมื่อโต้งก้มลงจุมพิตหน้าผากของเธอเบา ๆ
"นี่..." แชมเปญเอ่ยขึ้นขณะซบลงบนอกของชายหนุ่ม
"ครับ?" โต้งขานรับ
"คืนนี้เธอต้องทำให้พี่มีความสุขรู้ไหม ทั้งคืนเลยยิ่งดี"
"เอ๋?" นี่เธอรู้หรือป่าวนะว่าทั้งคืนเนี่ยเป็นเงินกี่หมื่น
"ไม่ต้องมาเอ๋เลย ไม่อยากอยู่ด้วยกันทั้งคืนเหรอ"
"ผมจะพยายามครับ"
"แค่พยายามเองเหรอ"
"เอ่อคือ..." โต้งตอบพลางคิดถึงปัญหาของตัวเอง แค่กอดจูบกับเธอเขาก็แทบจะระเบิดอยู่แล้ว เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะพาเธอไปถึงฝั่งฝันได้
แชมเปญเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเชอรี่บอกปัญหาของโต้งให้เธอฟังแล้ว จึงเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องกังวลนะ ทำตัวสบาย ๆ เหมือนเราเป็นแฟนกัน เดี๋ยวพี่จะช่วยเธอเอง"
แล้วแชมเปญก็ดึงมือโต้งไปยังเตียง
"ไม่อาบน้ำกันก่อนเหรอครับ"
"หือ?" แชมเปญทำหน้าแปลกใจ แล้วสูดจมูกฟุดฟิด "ตัวพี่เหม็นเหงื่อเหรอ?"
"ป่าวครับ" โต้งรีบตอบ "ตัวพี่หอมมาก แต่ผมกลัวตัวผมจะเหม็นเหงื่อมากกว่า"
"ก็ไม่นี่คะ" แชมเปญยื่นจมูกเข้ามาดมแผงอกของเขาอย่างใกล้ชิด
แค่เธอเข้ามาใกล้แบบนี้ เขาก็แทบลืมหายใจ แล้วแบบนี้เขาจะไหวเหรอ โต้งยิ่งคิดยิ่งไม่มั่นใจ
"ในเมื่อเราสองคนก็ไม่เหม็นด้วยกันทั้งคู่ก็ไม่ต้องอาบก็ได้มั้ง" เธอรุกหนักราวกับไม่ใช่ตัวเอง เธอกำลังรู้สึกสนุกตื่นเต้นกับการเป็นฝ่ายคุมเกมส์
"แต่ที่นี่เป็นอ่างจากุซซี่นะครับ ผ่อนคลายได้ดีมากเลยนะ" โต้งพยายามโน้มน้าว เหตุผลหนึ่งคือนานๆ ทีเขาจะได้ใช้อ่างแบบนี้ ถึงจะเป็นคลับระดับสูงแต่ก็ใช่จะมีอ่างน้ำวนทุกห้อง วันนี้มาม่าเชอรี่เลือกห้องหรูหราที่สุดให้เขาเลย แต่เหตุผลหลักคือเขาต้องการประวิงเวลา
โต้งศึกษาวิธีการที่จะทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดมาสักพักแล้ว แผนของเขาคืออยากเล้าโลมเธอในอ่างน้ำวนก่อนสักพัก ใจจริงเขาอยากกระโจนใส่สาวสวยตรงหน้าซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็อยากให้เธอมีความสุขด้วยเหมือนกัน
"งั้นรอบนึงก่อนแล้วค่อยอาบ" แชมเปญปลดปล่อยตัวเองเต็มที่ กับคนที่ไม่รู้จักนี่ก็ดีเหมือนกันแฮะ เธอคิด
แชมเปญโอบกอดโต้ง ความที่ทั้งสองสูงพอๆ กัน ทำให้เธอจูบเขาได้สบาย ๆ โดยไม่ต้องเขย่งเท้า ลิ้นของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันราวกับไม่อยากแยกจากกัน
โต้งได้ยินเสียงครางเบา ๆ อย่างพึงใจของแชมเปญ บวกกับความชุ่มชื้นในปากของเธอที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทำให้ลิ้นของเขาลุกเธอหนักขึ้น
"ไปที่เตียงกันดีกว่าค่ะ พ่อยอดนักจูบ" แชมเปญกระซิบข้างหูโต้ง เมื่อริมฝีปากทั้งสองห่างจากกัน
ลมหายใจอุ่น ๆ กับกลิ่นแชมเปญจาง ๆ ทำให้โต้งแทบคลั่ง
อดทนไว้ อดทนไว้ ค่อยๆ เล้าโลม โต้งท่องในใจ
แชมเปญจูงมือโต้งไปนั่งที่ปลายเตียง เตียงของที่นี่เป็นยางพาราอย่างดี ผ้าปูที่นอนก็ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นและเย็นสบาย แชมเปญเอามือลูบผ้าเล่นอย่างสบายอารมณ์
โต้งนั่งมองเธอสักพัก แล้วยกมือลูบไล้ข้างแก้มของแชมเปญเบา ๆ หญิงสาวเอียงแก้มให้เขาลูบ ทั้งคู่สบตากันนิ่งอยู่นาน
"พี่สวยจังเลยครับ" โต้งพูด
"ขอบคุณค่ะ เราเองก็หล่อไม่เบานะ" แชมเปญชมตอบพลางประคองใบหน้าของชายหนุ่มด้วยสองมือแล้วเป็นฝ่ายเริ่มจูบอีกครั้ง
โต้งประหม่า ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหนดี ผู้หญิงคนนี้ดูสวยสง่าต่างจากผู้หญิงทั่วไปมาก ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก
"ร้อนจัง ช่วยถอดชุดให้พี่หน่อยสิ" แชมเปญกระซิบข้างหู
สาวสวยหันหลังให้โต้งรูดซิปที่หลังชุดของเธอลงช้า ๆ แผ่นหลังขาวเนียนเผยออกมาให้เห็น มือของโต้งสั่นเหมือนกับตอนได้ถอดเสื้อผ้าแฟนคนแรกเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มซุกไซร้ต้นคอระหงนั้นอย่างห้ามใจไม่อยู่ แชมเปญเอียงคอเปิดทางให้เขา ริมฝีปากร้อนผ่าวทำให้ขนอ่อนของเธอลุกซู่
หญิงสาวใช้นิ้วชี้ปิดปากเขาเบา ๆ เมื่อเขาพยายามจูบเธออีกครั้ง
"เดี๋ยวก่อนสิคะ ชุดยับหมด" หญิงสาวพูดพลางลุกขึ้นถอดชุดราตรีออก เส้นสายโค้งเว้าของเอวคอดกิ่ว สะโพกพายทยอยอวดสายตาเมื่อชุดราตรีค่อย ๆ รูดลงไปยังปลายเท้าของเธอ โต้งจ้องมองอย่างเคลิบเคลิ้มกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว
"อุ้ย" แชมเปญสะดุ้งเมื่อถูกจมูกโด่งซุกไซร้ต้นคอ โต้งลุกขึ้นมากอดเธอทางด้านหลังเมื่อเธอแขวนชุดกับไม้แขวนเรียบร้อย "ใจร้อนจริงเชียว"
ชายหนุ่มเชยคางเธอแล้วประทับจูบอย่างดูดดื่มแทนคำตอบ หญิงสาวจูบตอบอย่างไม่ยอมแพ้ ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันไม่ยอมห่าง
ได้เวลาเชยชมรูปร่างเธอแล้ว โต้งจับไหล่แชมเปญให้หันหน้ามาทางเขา อกอูมซ่อนตัวอยู่ภายใต้บราซิลิโคน ตาสวยเฉี่ยวคู่นั้นตอนนี้มีแต่ความหวานฉ่ำ โต้งดึงตัวเธอมาจูบอีกครั้ง
"จะจูบให้ขาดใจตายเลยเหรอเนี่ย" แชมเปญหายใจกระเส่าเมื่อริมฝีปากของเขาปล่อยเธอเป็นอิสระ
"ก็พี่สวยนี่ครับ"
"จะจูบอย่างเดียวเหรอ" แชมเปญเย้า
"แค่ได้เห็นพี่แบบนี้กับได้จูบก็คุ้มแล้วครับ"
"จริงอ่ะ" แชมเปญยิ้มยั่วพลางแกะบราซิลิโคนออก หน้าอกกลมกลึงขาวเนียนอวดสายตาชายหนุ่ม ปลายยอดสีชมพูเข้มชูชันอย่างท้าทาย
ชายหนุ่มกุมความนุ่มแน่นสู้มือคู่นั้นไว้ด้วยฝ่ามืออย่างแผ่วเบา ฝ่ามือหยายทำให้แชมเปญสะเทิ้นกายเรียกเสียงครางจากริมฝีปากคู่งาม
"อา..." แชมเปญครางอย่างพอใจเมื่อโต้งพรมจูบไปทั่วหน้าอกคู่งามตุ่มขนลุกซู่ทุกจุดที่ริมฝีปากอุ่นคู่นั้นประทับลงไป
"อุ้ย" ไม่นานปลายยอดสีสวยก็ถูกดูดดุนด้วยปากและลิ้นของชายหนุ่ม แชมเปญกอดศีรษะของเขาปลายนิ้วของเธอจิกผมเขาเบาๆ ด้วยแรงกระสัน ลิ้นของเขาช่างร้ายกาจไม่แพ้ตอนจูบ ปลายยอดถูกดูดดุนโลมเลียหนักขึ้นเรื่อย ๆ ข้างที่ไม่ถูกครอบครองด้วยริมฝีปากซุกซนนั้นก็ถูกปลุกเล้าด้วยฝ่ามือหยาบใหญ่ สาวสวยเสียวจนแทบยืนไม่อยู่ รู้สึกเหมือนจะทรุดลงกับพื้นถ้าไม่กอดเขาไว้
แชมเปญครางกระเส่า มือเธอลูบไล้เปะปะที่หลังของโต้ง ชายเสื้อถูกเธอดึงทึ้งขึ้นมาอย่างหื่นกระหาย หญิงสาวพลักเขาลงนั่งกับเตียง มือเรียวงามปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เขา
"เอาเปรียบพี่มากเลยนะ ให้พี่ถอดอยู่คนเดียว" สาวงามบ่นใบหน้าแดงซ่านด้วยพิศวาส "แล้วมาเที่ยวทำไมใส่เสื้อถอดยากมาคะเนี่ย"
แชมเปญยิ้มอย่างพึงใจ หนุ่มหล่อคนนี้ไม่ได้ดีแค่หน้าตา กล้ามอกและกล้ามท้องนั่นทำให้หญิงสาวปั่นป่วน เธอลูบไล้กล้ามอกแน่นจากการออกกำลังกาย มือนุ่ม ๆ ที่ลูบไล้ต่ำลงมาเรื่อย ๆ ทำให้โต้งกลั้นหายใจอย่างลืมตัว
แชมเปญยิ้มยั่วพลางปลดหัวเข็มขัดแล้วรูดซิปกางเกงของเขาลง
กางเกงทั้งนอกและในถูกแชมเปญรูดลง โต้งหยิบกล่องถุงยางออกจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะช่วยถอดแล้วสลัดพวกมันออกจากปลายเท้า
แชมเปญตาโตเมื่อได้เห็นสิ่งนั้นเต็มตา ใจเธอสั่นหวิว ไม่น่าเชื่อว่ามันจะทั้งใหญ่ทั้งยาวกว่าแฟนเก่าลูกครึ่งของเธอเสียอีก ใจนึงก็หวั่นว่าตัวเองจะไหวไหม ถึงยังไงตัวเธอก็เพิ่งผ่านชายมาเพียงแค่คนเดียว อีกใจก็ตื่นเต้นในความอลังการนั้น
แชมเปญคุกเข่าลงกับพื้นพรมนุ่มปลายเตียงแล้วจับมันเบา ๆ มันแข็งเกร็ง เอ็นปูดโปนร้อนผ่าวราวกับจะระเบิด
แค่สัมผัสมือนุ่มของหญิงสาวก็ทำให้โต้งรู้สึกเหมือนจะทะลักทลาย เมื่อหน้างดงามราวนางฟ้านั้นอยู่ใกล้กับแท่งรักแค่คืบ มันเสียวซ่านจนชายหนุ่มต้องสูดปาก
ถึงเขาจะผ่านมาแต่สาวสวยล้วน ๆ แต่ไม่เคยมีใครทำให้เขาตื่นเต้นเท่ากับสาวงามตรงหน้า
ทนไว้ กลั้นไว้ โต้งท่องในใจ พยายามไม่มองหน้า ไม่สบตาเธอ แต่ก็ไม่อยากเบือนสายตาจากดวงหน้างดงามนั้น
โต้งกลั้นลมหายใจเมื่อแชมเปญก้มหน้าลงไปใกล้มันแล้วทำจมูกฟุดฟิด
"น่ากินจัง"
"เดี๋ยวสิครับ ล้างก่อน...อูย" โต้งตัวเกร็งเมื่อปลายลิ้นเล็กๆ นั้นแตะกับหัวบาน
ลิ้นของแชมเปญไล้ไปทั่วหัวบานและท่อนลำเขื่องนั้น มันเต้นตุบอยู่ในกำมือเธอเหมือนดิ้นรนเอาชีวิตรอด แชมเปญยิ่งรู้สึกตื่นเต้น เธอโลมเลียไปทั่วจากหัวบานจนถึงฐานวนกลับไปมา ดูท่าหนุ่มน้อยคงอาบน้ำมาแล้วทำให้กลิ่นของมันหอมสดชื่นทีเดียว
ใหญ่ขนาดนี้เราจะอมเข้าไปได้แค่ไหนนะ แชมเปญคิด กับสเตฟานเธอเคยใช้ปากให้เขามาบ้าง แต่ไม่เคยกลืนกินเข้าไปจนสุดลำ
"ซี๊ด..." โต้งครางอย่างสุดกั้นเมื่อแชมเปญอมมันเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากลอง ริมฝีปากนุ่มนั่นทำให้เขาเกือบทนไม่ไหว
โต้งนั่งตัวเกร็งเสียวจนพูดไม่ออก เขามองใบหน้างามสง่าที่มีดุ้นของเขาอยู่ในปากอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เขาเพิ่งเคยถูกอมสดเป็นครั้งแรก ความเสียวนั้นมากกว่าการมีถุงยางกั้นอย่างเทียบกันไม่ติด มือของเขาขยุ้มผ้าปูที่นอนแน่นพยายามอดกลั้นสุดฤทธิ์ ทั้งต่อความเสียวและความยั่วยวนที่อยากเอามือไปขยุ้มเรือนผมสลวยที่ขยับขึ้นลงอยู่ตรงหน้า
หญิงสาวอมมันเข้าไปจนสุดโคนอย่างยากลำบากแต่ท่าทางเธอจะสนุกกับมันทีเดียว โต้งพยายามข่มใจไม่ให้กระเด้งเอวสวน เขาเป็นห่วงว่าเธอจะสำลักเอาได้
แชมเปญรู้สึกได้ว่าโต้งเป็นห่วงเธอ เขาไม่กล้ากระเด้าใส่ปากเธออีกทั้งพยายามอดกลั้นไม่ให้หลั่งในปากเธอ ทำให้เธอรู้สึกหนุ่มน้อยคนนี้น่ารักทีเดียว
ยิ่งน่ารัก ยิ่งน่าแกล้ง แชมเปญช้อนตาขึ้นมองโต้ง ใบหน้าคมสันที่ตอนนี้เหยเกเพราะกำลังกลั้นความเสียวอย่างสุดชีวิตทำให้เธอยิ่งรู้สึกอยากแกล้งให้มากกว่านี้อีก แชมเปญเพิ่มแรงดูดขึ้น ต้นขาของโต้งเกร็งขึ้นทันใด แท่งแกร่งนั้นกระตุกยึก ๆ ในโพรงปากของเธอ ยิ่งดูดก็ยิ่งสนุก
โต้งอดกลั้นจนหน้าแดงกัดกรามดังกรอด ๆ ขณะที่เขากำลังรู้สึกว่าจะไม่ไหวแล้ว หญิงสาวก็หยุดลง
แชมเปญลุกขึ้นต่อหน้าโต้ง อวดอกหนั่นแน่นและหน้าท้องแบบราบแต่ก็มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยตามแบบฉบับสาวสมัยใหม่ที่ออกกำลังเป็นประจำ โต้งมองเห็นความฉ่ำเยิ้มที่ซึมผ่านด่านสุดท้ายที่แทบปิดบังความอวบอูมนั้นไว้ไม่มิด
แชมเปญรูดกางเกงในลงแล้วโยนมันทิ้งอย่างไม่ใยดี เธอหย่อนตัวลงนั่งบนตักของเขา โอบรอบคอเขาไว้หลวม
ริมฝีปากบางและลมหายใจหอมระรินที่อยู่ห่างไปแค่คืบสะกดให้โต้งมองหน้าเธอนิ่ง เขาประทับจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ภายในโพรงปากนั้นชุ่มชื้นมากกว่าที่ผ่านมาเพราะเพิ่งได้ของถูกปากไป เส้นใยบาง ๆ เชื่อมเป็นสายอยู่ระหว่างริมฝีปากของทั้งสองเมื่อยามแยกจากกัน
"ใส่ถุงยางสิ" แชมเปญกระซิบ
โต้งรีบร้อนแกะกล่องถุงยางบางเฉียบขนาดใหญ่พิเศษแล้วสวมมันอย่างรวดเร็ว ใจนึกอยากให้มันใส่ง่ายกว่านี้อีก
"อยู่เฉยๆ นะ ถ้าใกล้ถึงก็บอกพี่แล้วทนไว้ก่อน" แชมเปญโน้มตัวมากระซิบข้างหูพลางหยัดตัวขึ้นใช้มือจัดให้เอ็นแกร่งนั้นถูไถกับปากทางนุ่มจนน้ำรักชโลมไปทั่วทั้งลำ ความนุ่มของกลีบเนื้อถูไถกับลำแกร่งทุกตารางนิ้ว
"อึก..."
"อา..."
ทั้งสองครางออกมาพร้อมกันเมื่อแชมเปญหย่อนตัวลง โต้งเห็นไหล่บางนั้นสั่นระริก ปากทางช่องรักตอดรัดตุบ ๆ แชมเปญเกาะบ่าโต้งแน่น
ความคับแน่นนั้นทำให้โต้งรู้ว่าสาวสวยไม่ได้ช่ำชองเกมส์กามอย่างที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้ เขาลูบปรางแก้มแดงระเรื่อนั้นเบา ๆ แล้วจูบเธอเป็นการให้กำลังใจ
รสจูบดูดดื่มและมือหยาบที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังทำให้แชมเปญค่อย ๆ ผ่อนคลาย ร่องเสียวค่อย ๆ ปรับตัวรับความโอฬารนั้น เธอโอบรอบคอเขาไว้แล้วค่อย ๆ ขึ้นลงอย่างช้า
"อา..." สาวสวยบดริมฝีปากกับริมฝีปากเขาเมื่อมันค่อย ๆ เคลื่อนเข้าไปจนมิดเงี่ยง
แชมเปญรู้สึกตึงแน่นเหมือนถูกเปิดบริสุทธิ์อีกรอบ ยังดีที่ไม่มีความเจ็บแสบเพราะน้ำหล่อลื่นที่เอ่อล้น หญิงสาวปล่อยลมหายใจออกยาวเพื่อผ่อนคลายความแน่นเมื่อท่อนเอ็นนั้นค่อย ๆ ผ่านเข้าไปทีละนิด เงี่ยงหยักครูดกับเนื้ออ่อนทำให้เธอเสียวจนตัวเกร็ง ความใหญ่โตนั้นอัดแน่นเต็มโพรงเสียวจนแทบไม่มีช่องว่าง เธอรู้สึกว่าเหมือนมีหัวใจอีกดวงเต้นตุบ ๆ อยู่ข้างใน
"เข้าสุดหรือยัง?" หญิงสาวถามเสียงกระเส่าถือโอกาสหยุดพักความเสียว
"ยังครับ" โต้งตอบไปตามจริง "เกินครึ่งแล้วละ"
"หา ขนาดนี้ยังไม่สุดอีกเหรอ" หญิงสาวตัดพ้อพลางเริ่มขย่มเบา ๆ
"อูย...แค่นี้ก็เสียวมากแล้วครับ" ชายหนุ่มตอบพลางขย้ำก้นอวบอิ่ม "ของพี่แน่นจัง"
"อา... เสียวจัง" แชมเปญขย่มเร็วขึ้น "ของเธอใหญ่ขนาดนี้เกินมันหลวมจะทำยังไงดีเนี่ย"
ถึงจะบ่นแต่แชมเปญกลับยิ่งขย่มเร็วขึ้น น้ำหล่อลื่นที่ออกมาเพิ่มขึ้นจากการโดนขย้ำเคลือบเอ็นแกร่งจนมันปลาบ กระนั้นท่อนใหญ่ที่แข็งจนปูดโปนก็ยังครูดกับผิวบอบบางทุกการเคลื่อนไหว มันเสียวจนจี๊ดขึ้นสมอง หญิงสาวขย่มราวกับอยากให้หักคารู แต่ยังยั้งตัวไม่กล้าให้มันเข้าไปจนมิดลำ มันคับแน่นจนเธอแทบจุก
แชมเปญกอดโต้งไว้แน่น หน้าอกอวบอิ่มบดเบียดกับแผงอกแกร่งจนทะลักล้นออกมาด้านข้าง โต้งทำได้เพียงพรมจูบซอกคอและไหล่กลมมน เพื่อช่วยเร่งเร้าอารมณ์ให้หญิงสาว
ทั้งห้องมีเพียงเสียงครางระงมของแชมเปญ ส่วนโต้งกัดฟันกรอด ๆ พยายามข่มกลั้นน้ำเชื้อที่ใกล้ปะทุอยู่ทุกขณะ
"อือ..." แชมเปญคราง เธอกอดรัดโต้งแน่น เกยคางกับไหล่เขา แผ่นหลังของทั้งสองชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ภายในโพรงสวาทของตอดรัดเป็นจังหวะ โต้งไม่เคยสัมผัสกับประสบการณ์นี้มาก่อน แต่เขารู้มาว่าเป็นอาการที่หญิงสาวใกล้จะเสร็จสม ตอนนี้สมาธิของเขาอยู่ที่ปฏิกิริยาต่าง ๆ ของแชมเปญจนลืมสนใจความเสียวที่แทบล้นทะลักของตัวเอง
ตับ! โต้งกระเด้งสวนจนสุดในจังหวะที่หญิงสาวกระแทกตัวลงมา โหนกเนื้อทั้งสองแนบชิดแทบเป็นหนึ่งเดียวกัน
"อึก...อาถึงแล้วอา" แชมเปญทั้งเสียวทั้งจุกจนพูดไม่ออก หน้าท้องเกร็งร่างสั่นเทิ้ม น้ำรักแตกทะลักทลายจนโต้งรู้สึกชุ่มที่หน้าขา ช่องรักตอดรัดตุบๆ อย่างรุนแรงจนแทบทำให้เขากระฉูดตามไปด้วยแต่เล็บของแชมเปญจิกลงไปที่หลังจนเจ็บทำให้เขายั้งไว้ได้หวุดหวิด
โต้งกอดแชมเปญไว้แน่น ซึมซับความรู้สึกภูมิใจจากร่างบางที่สั่นกระตุกอยู่ในอ้อมกอด เขาฝังจมูกโด่งลงที่ซอกคอนุ่มนั้นเนิ่นนานราวกับเป็นการขอบคุณ
ร่างบางร้อนผ่าวที่กำลังสั่นเทิ้ม เหงื่อที่ซึมออกมาจากผิวนวลเนียน ลมหายใจกระชั้น เสียงหอบครางเบา ๆ ที่บ่า ทั้งหมดช่างชัดเจนอยู่ในอ้อมกอดของเขา
โต้งยังไม่ถึงจุดหมาย แก่นกายของเขายังแข็งเกร็งอยู่ในร่องรักที่อบอุ่น แต่ใจของเขากลับมีความสุขเต็มเปี่ยมยิ่งกว่าการร่วมรักครั้งไหน ๆ
เริ่องราวน่าติดตามดีครับ เริ่มแรกก็สนุกแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งสร้างสรรผลงานครับผม
แบบนี้ถึงเรียกว่าชาย ปรกติ ตื่นเต้นมากๆ ก็หลั่งเร็ว แต่เจอแบบนี้รอบสอง รอบสามมาได้แน่นอน
อ้าว สาวสวยเสร็จสมอารมณ์หมายไปฝ่ายเดียวแบบนี้ ....โต้งไม่ค้างเติ่งเอาหรอกเร้อ... ::Horror::.....จะว่าไป ร่องเสียว ที่ตอดรัดหนึบๆนี้ ถ้าเป็นพี่ แตกไปนานละ..555 ::Sobad::
นี่แค่เคาะสนิมนะเนี่ย บรรยายอย่างกะเข้าไปนั่งดูข้างเตียงเลย 555
ความรู้สึกของหนุ่มน้อย ต้องมีอีกหลายรอบเเน่นอนครับ
เปิดเรื่องมาก็น่าติดตามแล้วครับรอตอนต่อไปนะครับ
สาวอกหักมาเป็นไซด์ไลน์สมัครเล่นแบบนี้ พระเอกเราก็ถูกหวยนั่นซี งานนี้จะได้แฟนเป็นตัวตนกับเขาแล้ว ก่อนอื่นต้องเรียนรู้กับและสร้างความประทับใจให้กันก่อน เติมแชมเปญให้เต็ม
สาวสวยกับหนุ่มหล่อต้องตาต้องใจกัน งานนี้เหนื่อยแต่ก็คุ้ม
ท่านไรท์เตอร์ดำเนินเรื่องละเอียด บรรยายได้อารมณ์ น่าจะติดตามอย่างยิ่ง
อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่ดีได้ (มั้งนะ) เคยผ่านตรงนั้นมา ความเงี่ยนบังตาทำให้หลงผิดหรือเจอคนที่ดี
ความรักครั้งนึ้น่าติดตาม
เนื้อเรื่องเยียมครับชวนติดตาม เจ้าโต้งนี่ทั้งหล่อทั้งใหญ่ แต่ไก่อ่อน มาเจอสาวใหญ่แชมเปญที่โดนตราหน้าว่าเป็นน้ำเปล่า แบบนี้ ต่างคนต่างต้อวพัฒนาเรียนรู้กันได้ยาวๆแน่ แต่ เจ้เชอรี นี่ก็ช่างหาที่ระบายให้เพื่อนนะ ลุ้นต้อนต่อไป เลย ว่า จะผลัดรุกรัยแบบไหน
งดงามมากๆครับ เห็นภาพแชมเปญกระจ่างชัดจริงๆ สำนวนการเล่าเรื่องสวยงามมากๆ ติดตามครับ
พระเอกของเราได้คนที่เข้าใจ สอนให้เก่งขึ้น
พัฒนาให้เป็นเรื่องยาวได้เลยนะคับเนี่ย แบบให้มีความปวดตับบ้าง น่าจะได้หลายสิบตอนเลย
สาวเก่ง หนุ่มก็ใหญ่ยาว มันทั้งคู้ ::DookDig::
จริงๆ แล้วแชมเปญตั้งใจจะมาธุระอะไรกับเฮียกันแน่ แต่น่าจะได้ผูกปิ่นโตกันไปยาวๆ แล้วมัง ครั้งนี้ที่เจอคนที่ใช่ ก็ดูท่าจะไม่ใช่น้ำเปล่าละสินะ ฝั่ง 5 นาทีก็ดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ ด้วยเหมือนกัน
รอความปวดตับของเรื่องนี้อยู่นะครับ
รอลุ้นหนุ่มโต้งจะได้แซ่บยาวๆกับแชมเปญไหมหรือแค่วันไนท์
รักครั้งใหม่ที่ทำให้โต้งมีความมั่นใจในตัวเอง ขอให้รักกันยืนยาวนะโต้ง
พล็อตเรื่องน่าสนใจและน่าติดตามมากๆเลยครับ สามารถนำไปสร้างเป็นหนังเอวี ได้เลย ขอให้กำลังใจและขอบคุณท่านผู้เขียนครับผม
นานๆได้อ่านแนวนี้ก็ ok ดีนะครับ เป็นแนวที่ผมชอบจริงๆครับ อ่านสบายๆไม่ปวดตับเพราะไอ้แนวปวดตับไม่ให้อ่านเยอะแล้ว
เขียนได้ดีมากครับ เนื้อเรื่องน่าติดตาม แสดงให้เห็นถึงตัวตนของตัวละครได้ชัดเจน บทรักเหมือนได้ไปนั่งดูข้างเวทีเลยชอบแนวนี้ครับ สวยงามมาก
เรื่องนี้เขียนบรรยายดีมากๆ อ่านแล้วอินสุดๆ
สนุกมากเลยครับน่าจะทำเรื่องยาวได้ด้วย อยากรู้เลยตอนต่อไปจะเป็นยังไง
หลังจากคืนนี้ทั้งคู่จะได้เป็นแฟนกันไหมครับ
เป็นเรื่องราวที่ละมุนมากครับ อยากให้มีหลายๆตอน เอาใจช้วยครับ
งานนี้เป็นแฟนตัวจริงแน่ ::DookDig::รอตอนต่อไปครับ::Thankyou::
ประสพการ์ณลงอ่างแน่นแน่นอน ข้อมูลเปะทุกอย่าง
อืมม ไปได้ของดีเสียอย่างนั้น ครังแรกที่ทำให้สาวเสร็จก่อนได้ คงพัฒนาความมั่นใจได้เยอะ