ผมถูกเลี้ยงต้อย ภาค 2 ตอนที่ 3 ผมอ้อยอิ่งอยู่บนเตียงพักใหญ่ อาจจะเป็นด้วยวัยของผม หรือสุขภาพร่างกายที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงปราศจากวี่แววของความอิดโรยเมื่อยล้า ที่พ่อเคยบอกไว้ ว่าการมีเซ็กส์เป็นการคลายเครียดที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์ พร้อมๆกับเป็นการออกกำลังกายได้ทุกส่วนของร่างกาย ตอนนี้ผมเชื่ออย่างสนิทใจ เอื้อมมือไปลูบคลำเจ้าหนูที่นอนสงบนิ่ง แตะเพียงแผ่วเบา เจ้าหนูตอบสนองพองตัวดิ้นสู้มือผม ผมยิ้มให้กับตัวเอง แล้วลุกขึ้น จัดการกับที่หลับที่นอน ก่อนที่จะเข้าห้องน้ำชำระร่างกาย
ในห้องอาหาร แม่ง่วนอยู่ที่อ่างล้างจานในชุดเสื้อเชิร์ตแพรต่วนแขนยาวพับแขน ตัวเสื้อยาวคลุมถึงท่อนขา "สวัสดีฮะแม่" ผมส่งเสียงทักไปที่เบื้องหลังของแม่ แม่หันร่างกลับมา ยืนเผชิญหน้าผมด้วยใบหน้ายิ้มละมัย ผมทรุดตัวลงแทบเท้าและก้มกราบไปที่สองเท้าของแม่ พึมพำพอได้ยินว่า "ขอบคุณฮะแม่" "ฮื่อ ..ไปกินข้าวเถอะลูก แม่ยังมีงานต้องทำ พ่อกลับมา บ้านไม่เรียบร้อย เดี๋ยวถูกดุกันทั้งสองคน"
อาหารมื้อเช้า แม่เตรียมไว้อย่างง่ายๆ มีรสชาติและอุดมไปด้วยคุณค่า ที่ตรงตามหลักโภชนาการ ผมจัดการมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อย แต่ไม่เร่งรีบ เพราะทั้งพ่อและแม่เตือนไว้เสมอ ว่าชีวิตคนอยู่ได้ด้วยอาหาร ต้องรู้จักเลือกและต้องรู้จักที่จะกิน
ผมมีภาระหน้าที่ในวันหยุดอยู่สองสามอย่าง ถ้าพ่ออยู่เราจะช่วยกันทำ ถ้าพ่อไม่อยู่หรือไม่ว่าง ผมก็จะทำด้วยตนเอง..กวาดใบไม้ใบหญ้าบนสนามรอบๆบ้าน ล้างรถสองคันของแม่และของพ่อ เป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง เสร็จจากการปัดกวาดใบไม้และเล็มตัดแต่งกิ่งไม้ ผมก็ไปล้างรถทั้งสองคันวันหยุดเราจะล้างกันทั้งภายนอกภายใน รวมถึงในห้องเครื่องและในฝากระโปรงท้าย พ่อบอกว่าสภาพของรถเป็นตัวชี้วัดได้ในระดับหนึ่ง ว่าเจ้าของรถเป็นคนอย่างไร สภาพของรถพ่อย้ำว่าไม่ได้หมายความถึงยี่ห้อหรือราคาของตัวรถ แต่หมายถึงความสะอาดเรียบร้อยทั้งภายนอกภายใน
เสร็จจากการล้างทำความสะอาดรถทั้งสองคัน ก็ได้เวลาของมื้อกลางวันพอดี ผมเดินเข้าห้องอาหาร เห็นแม่อยู่ในห้องรีดผ้า ร่างอวบระหงยังอยู่ในชุดเดิมของเมื่อเช้า ผมยาวสยายปกไหล่ เหงื่อซึมทั่วใบหน้าเหลือผ้าอีกไม่กี่ชิ้น งานของแม่ก็คงจะเสร็จ ผมไม่รบกวนการทำงานของแม่ เดินผ่านเลยไปเข้าห้องน้ำ ชำระคราบเหงื่อจากการออกแรงมาตลอดครึ่งวัน กางเกงขาสั้นเนื้อผ้าบางเบา เสื้อยืดหลวมๆ เป็นชุดกลางวันของผม ผมเข้าไปชักชวนแม่ เพื่อรับมื้อกลางวันด้วยกัน แม่บอกว่าแม่จัดการเรียบร้อยแล้ว ให้ผมจัดการไปคนเดียวได้เลย ผมยืนพิศดูด้านข้างของแม่ที่กำลังก้มหน้าก้มตารีดผ้า ดูเหมือนจะเป็นชิ้นสุดท้าย ที่กองผ้าแห้งสนิทที่ถูกพับแยกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ผมเอื้อมมือหยิบแพนตี้สีดำเนื้อผ้าโปร่งลายลูกไม้มาสูดดม แม่เหลือบตามองยิ้มๆทำหน้าฉงน "เซี้ยวใหญ่แล้วเรานี่ ไปกินข้าวได้แล้ว"
ห้องรีดผ้าหรือห้องซักผ้าไม่ใช่ห้องที่กว้างขวางใหญ่โตนัก แต่ก็ถูกจัดให้เป็นระเรียบร้อยสะอาดเอี่ยมด้วยฝีมือของพ่อและแม่ เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติวางอยู่มุมหนึ่ง พร้อมๆกับมีตู้เก็บวัสดุในการซักรีดยืนเคียงคู่กัน ถัดไปเป็นตู้ไม้สักเก่าคร่ำครึแต่สะอาดเอี่ยมและแข็งแรง แม่ใช้เป็นที่สำหรับเก็บพักเสื้อผ้าหลังจากซักรีดแล้ว ก่อนนำไปแยกย้ายเป็นของแต่ละคน ริมฝาด้านหนึ่งเป็นโต๊ะไม้รีดผ้าที่พ่อทำด้วยตนเอง แข็งแรงถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการรีดผ้าได้ทุกชนิด มีขนาดเหมาะสมกับที่แม่ต้องออกแรงใช้ พร้อมๆกับเก้าอี้นั่งอีกหนึ่งตัว
ผมเข้าไปช่วยแม่หยิบจับเช็ดถู จัดการให้ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างที่ควรจะเป็น ห้องแคบๆมีพัดลมติดเพดานเท่านั้นที่ส่ายหมุนให้ความเย็น ร่างใกล้ชิดกัน ร่างของแม่เมื่อปราศจากสารเคมีในการปรุงแต่งกลิ่นกาย กลิ่นเหงื่อและกลิ่นกายจากเนื้อหนังมังสาแท้ๆของแม่ โชยผ่าเบาเข้าโสตประสาทของผม แม่หันหลังให้ผมหน้าตู้เสื้อผ้า ผมเคลื่อนตัวไปสูดดมปอยผมระเรื่อยลงไปตามไหล่ซอกแก้มลำคอ กลิ่นร่ำจากเนื้อแท้ๆ ฉุดกระชากให้อารมณ์ผมปั่นปวน โอบสองแขนรอบตัวแม่ บั้นท้ายของแม่แนบสนิทกับกลางลำตัวของผม "แม่ฮะ พ่อกลับกี่โมงครับ?" ผมกระซิบพร่าข้างหู พร้อมๆกับเม้มเลียปลายติ่งหู "พ่อบอกว่า จะกลับเย็น แต่ทันกินข้าวมื้อเย็น มีอะไรหรือ?"
"แม่เหนื่อยไหมฮะ?" สองมือผมจากที่ส่ายเปะปะ ลูบไล้หน้าท้องของแม่ เปลี่ยนมาสอดลอดเข้าชายเสื้อ เกาะกุมอยู่ที่สองเต้าอวบ "ถ้างั้น ผมก็มีโอกาสอีกใช่ไหมฮะ?" พร้อมกับคำพูด ผมแอ่นกายท่อนล่างเบียดอัดไปที่บั้นท้ายของแม่ เพื่อบ่งบอกว่าตอนนี้เจ้าหนูของผมนั้น มีกำลังวังชาที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะมุดถ้ำค้นหาน้ำทิพย์อีกครั้งแล้ว แม่กุมมือทั้งสองข้างของผมที่ลูบไล้อยู่ที่เต้าอวบ พร้อมกับเบียดร่างหันกายมาประจันหน้าผม ท่อนล่างของสองเรายังเบียดแนบชิด ตาสบตา แม่เผยอริมฝีปากอวบอิ่มถาม
"แน่ใจเหรอลูก? เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน?"
ผมพยักหน้าแทนคำตอบ กระซิบแผ่ว "ไปที่ห้องรับแขกนะฮะ"
แม่ยิ้มดุส่ายหน้า โอบสองแขนรัดรอบคอผม ก้มหน้าชิดใกล้ "ไม่จ๊ะ ต้องที่นี่ ในห้องนี้"
ผมชะงักจากการลูบไล้แผ่นหลัง เหลือบตากวาดไปรอบห้อง สบตาแม่
"แม่ฮะ ผมยังเด็กฮะ"
แม่อมยิ้มเลื่อนมือหนึ่งสอดเข้าไปในขอบกางเกง ล้วงกำไปที่เจ้าหนูของผมที่ผงาดชูชันเตรียมพร้อม
"ที่นี่ หรือไม่ก็อด" แม่หลับตาตอบยิ้มๆ พร้อมๆกับออกแรงบีบเค้นที่เจ้าหนู
ผมปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตแพรต่วน ถอดเสื้อแม่ออกโยนไปมุมห้อง แล้วสองมือผมก็โอบรัดไปที่บั้นท้าย ที่ห่อหุ้มด้วยเนื้อผ้าบางเบาตัวเล็ก ที่ปกปิดเนินอวบของแม่ไว้ รุนร่างของแม่ในขณะที่ท่อนล่างยังแนบชิด ค่อยๆก้าวเท้าผลักดันไปที่โต๊ะรีดผ้า สะโพกผายของแม่หยุดอยู่ตรงขอบโต๊ะรีดผ้าทางด้านแคบ ผมเบียดร่างดันแม่ จนท่อนบนเอียงโน้มไปด้านหลัง ท่อนร่างของแม่จึงแอ่นหยัดท้าทาย สวนทางกับท่อนบน ผมโอบรอบตัวแม่ ปากต่อปาก ลิ้นต่อลิ้น และเล็มลามเลียทั่วปากและใบหน้า สองแขนแม่โอบรอบลำตัวผมไว้ รัดแน่นเนื้อแนบเนื้อ
จากใบหน้า..ผมลดตัวต่ำลงมาที่ปลายคาง ยอดอก และคุกเข่าซุกไช้ใบหน้า ใต้ฐานเต้าที่ชูชัน แลบลิ้นเลียร่ายลงมาที่สะดือ หน้าท้อง วนเวียนอยู่แถวนั้น รู้สึกได้ถึงการบิดเกร็งเคลื่อนส่ายของลำตัวของแม่ ร่างแม่จำเป็นต้องยืนแอ่นอวดเนินสล้าง โดยที่สองมือเท้าลงไปบนขอบของโต๊ะรีดผ้า ลิ้นปากผมไล้เลียอยู่บนแพรบางเบารูปสามเหลี่ยม...เที่ยวแล้วเที่ยวเล่า เสียงแม่สูดปากครางกระเส่า สองมือผมค่อยบรรจงม้วนขอบแพนตี้ตัวเล็ก รูดลงสู่ปลายเท้า เท่านั้นนูนเนินที่ปกคลุมด้วยพงไหม ที่ถูดตัดเล็มอย่างสวยงามเป็นระเบียบ ก็อยู่ตรงหน้าผม
ผมฝังจมูกลงไปในรอยแยกของเนินนูน แม่แอ่นส่ายขยับแบะขา เหมือนจะยั่วยุให้จมูกปากลิ้นผมเข้าไปสำรวจทุกโขดเขินเนินไสล ลิ้นแลบฉกเลียเม้มดุนทุกซอกหลืบ ตั้งแต่ปากถ้ำริมเนิน สองแขนผมสอดไปไต้ท่อนขาอ่อนของแม่ ยกแยกเอาท่อนขาขาวอวบ มาวางบนไหล่ผมทั้งสองข้าง ใบหน้าผมยังไม่ละไปจากปากถ้ำสวรรค์ ด้วยท่านี้...ร่างท่อนบนของแม่จึงต้องนอนหงายเหยียดยาวไปตามความยาวของโต๊ะรีดผ้า ผมยังเพลิดเพลินกับคูหาสวรรค์ด้วยปากและลิ้น ความซ่านเสียวจากร่างของแม่รู้ได้ด้วยการที่แม่ใช้สองขาตวัดรัดรอบคอผม แอ่นเนินนูนขึ้นสู้ปากและลิ้น พร้อมๆกับสองมือกุมกดบนหัวผมอย่างสุดแรง
เสียงดิ้นส่ายครวญครางแผ่วเบาของแม่เริ่ม ดังขึ้นๆๆ
"ลูกแม่ วิเศษจัง เก่งจัง อู...อูยยย....ซู๊ด....." เสียง ครางกระเส่า ร่างบิดส่ายร่อน มือเกร็งกำแน่น
"ลูกจ๋า อย่าทรมานแม่เลย แม่เสียวมากๆ ใส่ได้แล้วจ๊ะ ซัดแม่ให้เต็มที่เลย ลูกแม่เก่งจริงๆ"
ไม่รู้ว่าผมถอดกางเกงผมออกไปเมื่อไหร่?อย่างไร? ผมยืนขึ้นเต็มตัว สองขาของแม่รัดแน่นอยู่รอบเอวของผม เจ้าหนูของผมแข็งเกร็งชูชันเปียกเยิ้ม ได้ระดับตรงกับปากถ้ำที่ฉ่ำเยิ้ม ผมบรรจงดันเจ้าหนูที่ทุรนทุรายเต็มที่ มุดเข้าไปในถ้ำด้วยความรวดเร็วและรุนแรง ร่างแม่สะดุ้งแอ่นเกร็ง เสียงสูดปากดังแผ่วเบา ใบหน้าแม่บูดเบี้ยว ตาปิดสนิท สะบัดไปมาตามการกระแทกกระทั้นของผม
ความสุดเสียวกระสันกลับมาอยู่ที่ผม ผมกระแทก ผมเสือกใส่ ผมโยกส่ายเจ้าหนูตัวน้อยในคูหาแคบๆนั้น ทุกทิศทาง ซ้ายขวา ล่างบน เสียงสูดปากครางกระเส่า ผสมกับเสียงเนื้อแนบเนื้อดังก้องอยู่ในห้องแคบๆนั้น ผมโน้มตัวลงไปที่ท่อนบนของแม่ สองมือสอดไปที่แผ่นหลัง สองขาแม่ยังตระหวัดรัดึงอยู่รอบเอวผม ด้วยท่อนบนที่โน้มลงไปต่ำ สองแขนของแม่จึงมีโอกาสโอบรอบคอของผม
ผมตวัดร่างแม่ขึ้น กลายเป็นว่าร่างแม่ผมเกาะอยู่บนลำตัวท่อนกลางของผม โดยที่เนื้อยังแนบเนื้อ นูนเนินยังเก็บฝังแก่นกายผมไว้ ผมอุ้มร่างแม่เบี่ยงออก หมุนตัวจนกลายเป็นครึ่งนั่งครึ่งยืน อยู่บนโต๊ะรีดผ้า โดยมีแม่อยู่ด้านบน สองขาแม่เหยียดราบไปกับพื้นโต๊ะ สองแขนโอบอยู่รอบลำคอผม ท่อนล่างในคูหาสวรรค์ ที่เป็นที่พักพิงของเจ้าหนูจอมอึดนั้น บัดนี้ท่อนล่างแม่เป็นอิสระมากพอ ที่จะออกแรงกระแทกกระทั้นเจ้าหนูของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า และก็ถึงกาลกริยาความเสียวซ่านสุด กระฉูดออกจากเจ้าหนูของผม จนผมต้องร้องเสียงดังคับห้อง
"แม่ฮะ...แม่ฮะ...ผมออกแล้ว แรงอีก ๆ อย่าเพิ่งหยุด" จะเป็นด้วยเสียงร้องของผม หรือเป็นเพราะความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นเอง แม่กระแทกกระทั้นบั้นท้ายรัวแรงถี่ยิบ สองมือจิกกำปอยผมด้านหลังของผม จนตึงแทบขาดหลุด "โอ๊ว.... ซู๊ด.....พ่อจ๋า ลูกจ๋า...." นั่นเป็นเสียงกระเส่าครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะได้ยินแต่เสียงหอบหายใจของเราสอง คนขาสองข้างผมสั่นริกๆๆ นานเท่านานที่เราอยู่ในท่าที่ผมอุ้มช้อนก้นแม่ด้วยสองมืออยู่นั้น แขนแม่ยังโอบรอบคอผมอยู่ เสียงหอบหายใจ แผ่วเบาลงจนเป็นปกติ ตาฉ่ำเยิ้มของแม่สบที่ตาผม สั่นหน้าเบาๆพร้อมกับเอ่ยว่า
"ลูกแม่ ลูกเรียนได้รวดเร็วมาก ต่อไปลูกจะเป็นนักรักที่น่ากลัว นี่ขนาดแม่นะ ยังติดใจกับลีลาของลูก"
ผมสบตาแม่ เปิดยิ้มก่อนตอบว่า "แม่ฮะบุญคุญของแม่และพ่อที่พร่ำสอนผม ผมจะไม่ลืมเลยครับ ทุกอย่างที่ผมมีและเป็นอยู่ ก็ได้จากแม่และพ่อ ผมไม่ได้คิดจะเป็นนักรักอะไรที่ไหนครับ อยากเป็นเพียงลูกของพ่อและแม่เท่านั้น"
แม่จูบเล็มเลียทั่วใบหน้าของผม สบตาแล้วกล่าวว่า "เอาละ วันนี้คงพอแล้วนะ เรื่องอื่นๆค่อยๆพูดคุยกันทีหลัง แต่แม่อยากจะเตือนไว้ก่อนนะ ลูกอย่าถือตัวว่าเก่งกาจ มีความสามารถ จนเอาความเก่งความสามารถไปข่มเหงคนอื่น จำไว้ว่าอย่าไปขืนใจใคร เรื่องนี้จะต้องยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ความสุขจึงจะเกิด และเราจะต้องรับผิดชอบในทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น จากการกระทำของเรา จำไว้ลูก"
ผมกินอาหารมื้อเย็นคนเดียว แม่บอกจะรอพร้อมพ่อ เย็นนี้แม่เฉิดฉายอยู่ในชุดคลุมยาว ห่อหุ้มชุดนอนโปร่งบางลายฉลุสีเดียวกัน พ่อเข้าบ้านมา แม่ต้อนรับด้วยความอบอุ่น ครั้งนี้ดูเหมือนว่าแม่จะจูบพ่อยาวนานกว่าทุกครั้ง ความรัก ความเสน่หา ความดูดดื่มของคนทั้งสองถ่ายทอดออกมาจากท่าทางที่กอดจูบกันเนิ่นนาน แม่ละจากพ่อมองมาที่ผมยิ้มๆ ผมเดินเข้าไปทรุดตัวลงกราบแทบเท้าพ่อ แล้วลุกขึ้นโอบกอดพ่อไว้ ผมสะอื้นบนอกพ่อ พัมพำทั้งน้ำตา
"ขอบคุณครับพ่อ ขอบคุณครับ พ่อให้ผมมากเหลือเกิน"
พ่อโอบผมไว้ มือหนึ่งขยี้เบาที่หัวผม เสียงเบานุ่ม เต็มด้วยความการุณออกจากปากพ่อว่า
"ลูกคือทุกอย่างของพ่อและแม่ สิ่งใดที่จะทำให้ลูกมีความสุข ไม่เกินความสามารถของพ่อแล้ว ลูกจะได้จากพ่อ ที่จริงแล้ว แม่ของลูกคือผู้ที่เสียสละมากที่สุด ลูกมีความสุข นั่นคือสิ่งที่พ่อและแม่ต้องการ"
อกสามศอกของพ่อ และวงแขนอันอบอุ่นโอบเราสามคนไว้ด้วยกัน ความรักความอบอุ่นถ่ายทอดผ่านอ้อมกอดเราทั้งสาม
จากวันนั้นเป็นต้นมา แรกๆหลังจากที่ผมมีโอกาสได้สอดใส่ ก็หมายถึงว่าผมรู้จักการร่วมรักระหว่างชายกับหญิงอย่างแท้จริง ผมติดใจในรสชาติ โหยหาแทบจะทุกวัน แม่และพ่อดูจะเข้าใจในเรื่องนี้ แม่ยอมผ่อนปรนตามความต้องการของผม ทุกครั้งที่มีโอกาสอยู่กันสองต่อสอง พ่อดูเหมือนจะเป็นใจ ปล่อยให้เรามีโอกาส ช่วงแรกๆแม่ไม่ปฏิเสธ ในครัว ในห้องนอน ในห้องน้ำ ห้องรีดผ้า หน้าจอทีวี แต่เพียงระยะหนึ่ง แม่และพ่อก็เริ่มมีการควบคุมเบี่ยงเบน สอน ชักจูงให้รู้ถึงการหลบหลีกหลีกเลี่ยงอดกลั้นกับผม
จบ