ไม่รู้ว่าผู้อ่านจะชอบกันมั้ย แต่ลงให้อ่านอีกตอนแล้วกัน ขอบคุณทุกคำติชมนะครับ🙏🙏😄😄 หลังผ่านมาหนึ่งวันจากวันที่ วา' เอ่ยบอก ซาน' แฟนสาวว่าจะกลับบ้าน เมื่อถึงวันที่นัดหมายทั้งเขาและเธอก็ต่างหิ้วสัมภาระ "อันมีกระเป๋าและของฝาก" ออกจากหอพักไปยังสถานีรถขนส่งหมอชิต
หลังขึ้นรถแท๊กซี่ที่หน้าหอพักและนั่งมาจนถึงสถานีขนส่งในเวลา15:30 "วาและซาน"ก็พากันลงจากรถแล้วหิ้วของเดินไปยังจุดจำหน่ายตั๋ว ทั้งสองไม่ได้คำนึงมาก่อนเลยว่าควรจะจองตั๋วผ่านหน้าเว็บไซต์มาก่อน แทนการมาซื้อที่หน้าตู้จำหน่ายเผื่อว่าคนอาจจะเยอะ
ดังนั้น! เมื่อวาและซานมาถึงยังหน้าตู้จำหน่ายตั๋ว ทั้งสองต่างก็ต้องพบกับผู้คนจำนวนมากซึ่งต่างกำลังยืนจอแจต่อคิวรอซื้อตั๋วรถกันอยู่ ทันทีที่เห็นอย่างนั้น"วาและซาน"ก็ต่างรีบเดินไปต่อคิวด้วยทันที ซึ่งแน่ละว่ากว่าที่ทั้งสองจะได้ตั๋วรถมาคนละใบ ต่างก็ต้องยืนต่อคิวเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง
แถมเมื่อได้ตั๋วมา"วาและซาน"ก็ยังที่นั่งกันคนละที่เนื่องจากคิวรถที่ได้นั้นที่นั่งคู่กันเต็มหมด ที่เหลือให้ทั้งสองนั่งก็มีแค่ที่นั่งD1(หน้าสุด) กับc11 (หลังสุด) ซึ่งเวลารถออกนั้นก็เป็นเวลากว่า"สามทุ่ม"
(https://i.postimg.cc/XrXW4rTD/Picsart-23-01-19-02-27-12-486.jpg) (https://postimg.cc/XrXW4rTD)
เมื่อรู้ว่าเหลือเวลากว่าสี่ชั่วโมงที่รถจะออกจากท่ารถ ด้วยเวลาที่เหลือนี้ "วาและซาน" จึงเลือกที่จะเดินหาซื้อของฝากเพิ่มอีกจากตลาดโรงเกลือแถวนั้น ทั้งหมดก็เพื่อฆ่าเวลาและแก้เบื่อที่ต้องนั่งรอรถ!
พอเดินวนไปวนมาจนของเริ่มเต็มไม้เต็มมือและถึงเวลาราว1ทุ่ม วาและซาน'ก็กลับเข้ามาทานข้าวกันในศูนย์อาหารของขนส่ง(หมอชิต) ซึ่งทั้งสองก็เลือกทานข้าวกันคนละจาน ก่อนที่จะเดินไปนั่งรอรถอีกราว1กว่าถึง2ชั่วโมง
เมื่อถึงเวลา3ทุ่มหรือ21:00น. รถบัส กรุงเทพ-สุรินทร์ ก็เข้าเทียบท่าตามเวลาเปะๆ ซึ่งเมื่อคนผู้โดยสารเก่าที่นั่งมาทยอยลงหมด ราว20นาทีต่อมา ก็เป็นตาของผู้โดยสารใหม่ขึ้นไปนั่งและรอออกเดินทางสู้ จ.สุรินทร์
ซึ่งวาและซานที่ได้ที่นั่งD1และc11 เมื่อขึ้นมาบนรถ ซาน'ที่ไม่ชอบนั่งหน้ารถจึงเลือกที่ขอแฟนหนุ่มไปนั่งที่นั่งหลังสุดc11 ส่วน วา'ก็ให้นั่งที่นั่งD1หน้าสุด
แน่ละว่าพอรถเริ่มเคลื่อนออกจากชานชาลาหมอซิต วา'รีบทักหาแฟนสาวผ่านไลน์ทันที แม้ชายหนุ่มจะรู้ว่า ซาน' แฟนสาวได้ที่นั่งแถวหลังสุด แต่ก็ไม่อาจรู้ว่าได้ว่าเธอนั่งสบายหรือไม่ หรือได้นั่งคู่กับไคร?
(https://i.postimg.cc/jwMtQyNK/Picsart-23-02-08-12-11-30-345.jpg) (https://postimg.cc/jwMtQyNK)
เมื่อ วา'ตอบกับมาพร้อมถ่ายรูปภาพที่มีป้าคนที่นั่งข้างๆมาด้วย ทาง ซาน'ที่กำลังจะพิมพ์ตอบกลับก็มิวายหันมองไปยังคนที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ
แน่ละว่า ซาน'ไม่เพียงแต่ฉุกคิดอะไรในใจ แต่เธอยังวิเคราะห์ว่าควรตอบไงดี เพราะตั้งแต่ที่ขึ้นรถมายันนั่งลงเบาะที่นั่ง ชายคนหนึ่งที่เดินนำหน้าเธอเขาคือคนที่เดินนำหน้าเธอมาแล้วนั่งลงที่เบาะข้างๆ(D11)
ชายคนนี้นอกจากภายนอกจะดูเป็นชายผิวคล่ำที่ดูมีอายุราวๆไม่เกิน30ต้นๆ ลักษณะทั่วไปเขาก็ยังเป็นผู้ชายที่ไว้ผมเผ่ายาวพอประบ่า ไว้หนวดไว้เครา ดูรวมๆแล้วน่าเกร็งขามและดูน่ากลัวอยู่พอประมาณ!

ครั้นมองพิจารณาผ่านๆเห็นดังนั้น ซาน'ถึงแม้จะรู้สึกหวั่นๆแต่เธอก็ไม่อยากจะคิดตีตนไปก่อนไข้ เพราะถึงแม้ภายนอกของชายคนนี้จะดูน่ากลัวไม่น่าไวใจ แต่ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นคนดีกว่าที่เธอคิดก็เป็นได้ ดังนั้น! ซาน'จึงกดพิมพ์ตอบแฟนหนุ่มกลับไป โดยระหว่างนั้นเธอก็แอบเหลือบสายตามองชายคนที่นั่งข้างๆอยู่เนืองๆ
(https://i.postimg.cc/T5hGkhqb/Picsart-23-02-08-12-58-49-409.jpg) (https://postimg.cc/T5hGkhqb)

หลังพิมพ์ตอบและแฟนหนุ่มพิมพ์ถามกลับ ซาน'สาวสวยก็แงะมองชายคนที่นั่งข้างๆอีกรอบ แม้ว่าเธอจะเห็นว่าเขานั่งเงียบขึมมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่เธอก็อยากจะดูให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้แอบมองที่เธอพิมพ์ตอบ วา'แฟนหนุ่ม!
(https://i.postimg.cc/bdFqZHp9/Picsart-23-02-08-13-05-08-624.jpg) (https://postimg.cc/bdFqZHp9)
เมื่อแฟนหนุ่มพิมพ์ตอบกลับมาว่าจะให้ย้ายไปนั่งข้างหน้าถ้าคนที่นั่งข้างๆเป็นผู้ชาย ทาง ซาน'สาวสวยก็พิมพ์ตอบอย่างทันควัน เธอรู้ตั้งแต่ที่มองพิจารณาชายคนที่นั่งข้างๆแล้วว่า วา'แฟนหนุ่มจะต้องเป็นห่วงและจะต้องให้ย้ายไปนั่งข้างหน้าแน่ ถ้าเขารู้ว่าคนที่นั่งข้างๆเธอคือผู้ชาย!
ดังนั้น! ที่ ซาน'เลือกตอบไปว่านั่งข้างผู้หญิง เธอไม่เพียงแค่ไม่อยากไปนั่งข้างหน้าเพราะไม่ชอบวิสัยทัศน์หน้ารถ แต่เพราะเธออยากให้แฟนหนุ่มสบายใจ (เพราะคิดว่าว่าวาคงไม่เดินมาข้างหลัง) จึงเลือกตอบโกหกไปอย่างนั้น
(https://i.postimg.cc/c6Js15yJ/Picsart-23-02-08-13-12-40-606.jpg) (https://postimg.cc/c6Js15yJ)
หลังคุยกันจบซึ่งเป็นเวลาที่รถวิ่งออกมาไกลพอสมควรแล้วจากหมอชิต พอ วา'บอกให้พักผ่อนนอนพักพร้อมๆกับเงียบไปไม่พิมพ์ตอบ ซาน'สาวสวยก็เลือกที่นั่งกดมือมือเล่นต่อ เธอเปิดดูข่าวสารอัพเดทต่างๆในโลกโซเชียลออนไลน์ เพื่อจะดูว่ามีอะไรอัพเดทบ้าง!!
แน่ละว่าส่วนหนึ่งก็เพราะ ซาน'ไม่อยากให้ตัวเองง่วง เพื่อจะได้ไม่หลับและจะได้รักษาการนั่งเว้นระยะห่าง(ตั้งแต่แรก)จากชายคนข้างๆ ให้คงอยู่แบบนี้ต่อไป!
แต่กระนั้น! เมื่อ ซาน'กดเลื่อนหน้าจอมือถือไปได้สักพักก็ดูเหมือนว่าความเหนื่อยล้าจากเดินเที่ยวซื้อของฝาก ตั้งแต่ช่วงกลางวันยันช่วงกลางคืนก่อนจะได้ขึ้นรถ มันดูเหมือรจะเริ่มเล่นงานสาวสวยให้รู้สึกง่วงและเริ่มเคลิ้มจะหลับในบางที!
แต่ถึงอย่างนั้น ซาน'ก็เหมือนจะยังไม่ยอมหลับ เธอยังสู้ต่อแม้จะรู้สึกง่วงและรู้สึกล้ามากเพียงใด ถึงตาจะหรี่ลงๆสายตาเริ่มพร่ามัวแต่สาวสวยก็ยังสะบัดหัวดึงสติอยู่หลายครั้ง!
แต่ก็แค่เวลาเพียงไม่นาน เพราะหลังดวงตารี่ลงสายตาเริ่มพร่ามัว ท้ายที่สุด ซาน'ก็เผลอหลับไป หลับไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเวลานั้น "ชายคนที่นั่งข้างๆ" เขาได้หันมามอง เนื่องจากศีรษะของซานมันเอนไปพิงซบไหล่ของเขา!
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือ รถวิ่งออกมาไกลแค่ไหนจากหมอชิต!!
ซาน'ตื่นขึ้นมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีมือของไครสักคนยื่นมาเขย่าที่หัวไหล่ ซึ่งพอเธอลืมตาขึ้นมาดูก็พบว่ามันเป็นมือของ วา'แฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งยืนโน้มตัวก้มลงมาเขย่าตัวเธอที่นั่งหลับอยู่บนเบาะ!
"ซาน....! ซาน...! ถึงแล้ว ตื่นได้แล้ว!"
เวลานั้นนอกจาก ซาน'จะตื่นลืมตาขึ้นด้วยอาการสะดุ้งตกใจที่เห็นแฟนหนุ่ม เธอยังมีอาการลกเพราะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองโกหกแฟนหนุ่มไปว่านั่งข้างผู้หญิง ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้ซานรีบหัน"ควับ"กลับมามองที่เบาะข้างๆอย่างฉับพลัน!
"อื่อ....อือออ หือ วา!!"
"อืมม วา เอง ซาน...? เป็นอะไร ซานมองอะไรหรอ"
อาการสะดุ้งหันมองเบาะๆข้างของ ซาน'นอกจากมันจะทำให้แฟนหนุ่มอย่าง วา'มองอย่างงงๆ มันยังทำให้เขานึกแปลกใจอยู่พอควรกับการที่เธอสะดุ้งตัวแรงเหมือนตกใจที่เห็นเขา!
"เอ่อ....ป่าว! อือออ คนที่นั่งข้างๆ....เค้าลงไปแล้วหรอ" ซานหันกลับมาเอ่ยถามแฟนหนุ่มพลางทำหน้าแปล่งๆ เหมือนจะงงๆหรือโล้งใจก็ไม่รู้ เมื่อหันมองแล้วพบว่าชายคนที่นั่งข้างๆเขาไม่อยู่แล้ว!
"ไม่รู้นะ น่าจะลงไปนานแล้วมั่ง วา'เดินมาปลุกซาน วาก็ไม่เห็นเค้าเลยนะ"
"หรอ...!!" ซานเอ่ยพูดพลางทำหน้าเหมือนโล้งใจคลายกังวล ซึ่งสีหน้านั้นก็ทำให้วาที่มองดูอยู่ถึงกับเอ่ยถามเพราะความสงสัย?
"ซาน.....มีอะไรรึป่าว?"
"อ๋อ...ป่าว เออ เรารีบลงกันเถอะ!"
พูดจบทั้งซานและวาก็รีบหิ้วกระเป๋าลงจากรถทันที เวลานั้นผู้คนที่นั่งมาก็ต่างพากันลงจนเกือบจะหมดแล้ว หากแต่จะมีเพียงสองสามคนที่ยังเหลือลง ท้ายๆ พอๆ กับวาแลซาน!
เมื่อหลังจากรถมา ซาน'ที่ไม่เคยออกมาสัมผัสบรรยากาศต่างจังหวัดเลยสักครั้งก็แอบมีความรู้สึกแปลกใจนิดๆ นอกจากเธอจะเห็นหลายคนได้รับรอยยิ้มจากครอบครัวที่มารอรับ เธอยังได้เห็นอ้อมกอดแห่งความคิดถึงจากคนไกลบ้านด้วย แน่นอนว่านั้นก็รวมถึง วา'แฟนหนุ่มของเธอด้วย
ซาน'ไม่คิดเลยว่าในตอนเช้าๆ6โมงนิดๆแบบนี้ครอบครัวของ วา'จะมารอรับ เพราะพอก้าวเดินลงมาจากรถแค่ไม่กี่ก้าว ที่ด้านหน้าก็มีเสียงเรียกชื่อของ วา'ดังขึ้นพร้อมๆกับที่มีผู้หญิงและผู้ชายเดินยิ้มเข้ามาหา ซึ่งภายหลังในเวลาถัดมาซานก็ได้รู้ว่านั่นคือน้าสาวและน้าเขยของวา
"วา....ทางนี้ โห้ยยย ไม่เจอนานหล่อขึ้นเยอะเลย!"
"เอ่า น้าจอย น้าหมู สวัสดีครับ" วา'เอ่ยตอบพร้อมสวัสดีและเดินเข้าไปกอดน้าๆทั้งสองของตน ซึ่งชายหนุ่มและน้าทั้งสองก็ต่างยิ้มแย้มที่ได้พบกัน
"อืมมม ไว้พระเถอะ เอะ! นี่พาไครมาด้วยเนี้ย แฟนหรอ น่าตาสวยเชียว" เสียงเอ่ยพูดจากน้าจอยซึ่งเอ่ยพลางมองมายังซานที่ยืนยิ้มอย่างเขินๆอยู่ข้างวา
"ค..ครับ นี่ ซาน'แฟนผมครับ"
"อ๋อ! หูยยย....นี่ได้แฟนสวยขนาดนี้เลยรึเนี้ย เอ้าๆกลับบ้านกันเถอะ"
หลังพบเจอกันพร้อมรอยยิ้มและสวมกอดคิดถึง วาและซาน'ก็นั่งรถของน้าๆกลับมายังบ้านซึ่งอยู่แถวเขต ช่องจอม อ.กาบเชิง โดยละหว่างทางวาและน้าๆก็ต่างคุยสัพเพเหระกันต่างๆนาๆตลอดทาง
แน่นอนว่าในหลายๆเรื่องน้าๆของวาก็มีแงะหันมาทักมาคุยกับซานอยู่หลายคำ โดยที่ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับ วา'ว่าคบกันได้ยังไง ไครจีบไครก่อน แล้วบางคำก็มีหันไปแซววาบ้าง เล่นเอา ซาน'ถึงกับยิ้มในความอบอุ่นของน้าๆของวา!
"อืมมม นี่เจ้าวามันไปคบกับหนูได้ยังไงเนี้ย มันทำยังไงถึงได้หนูเป็นแฟน หน้าตาอย่างเจ้า วา'ไม่น้าจะได้คนสวยๆอย่างหนูมาเป็นแฟนเลย" เสียงเอ่ยจากน้าจอยซึ่งนั่งเบาะหน้าข้างคนขับคู่กับน้าหมู!
"เออ...! " แน่ละว่าทางซานถึงกับยิ้มเขินและพูดไม่ออก แม้เธอจะอยากพูดแต่ก็เขินอายกับคำที่น้าจอยถามอยู่พอควร!
"โห....น้า เมื่อกี้ยังว่าผมหล่ออยู่เลย ทำไมมาบอก 'หน้าตาอย่างนี้' แล้วละ" วา'เอ่ยขึ้นหลังจากได้ฟังที่น้าจอยเอ่ยพูด แน่ละว่าชายหนุ่มอดตัดพ้ออย่างน้อยใจไม่ได้ที่น้าสาวเอ่ยเปรียบเทียบหน้าตาของตนกับความสวยของซาน!
"ก็มันจริงนิ หล่อขึ้นแต่ก็ดูไม่น่าจะได้คนสวยอย่างหนู ซาน'มาเป็นแฟนนิ เอ็งเล่นของรึป่าวเจ้าวา มนต์เสน่ห์สาวรักสาวหลงอะไรอย่างนี้"
"โอ๋ววว...ไม่มีหรอกครับ น้าก็รู้ผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้"
"จริงหรอหนู..ซาน เจ้าวามันไม่ได้เล่นของ เล่นมนต์เสน่ห์ใส่หนู ทำใหรักทำให้หลงใช่มั้ย"
"เออ...! เล่นของคืออะไรคะ" ซาน'เอ่ยตอบอย่างทำหน้างงๆ เหมือนเธอไม่รู้เรื่องหรือไม่ค่อยเข้าใจที่น้าจอยและวาพูดคุยกัน!
"อ่าาา จบแหละ หนูซานไม่รู้เรื่อง โอ๋! น้าว่าจะแกล้งเจ้าวามันเล่นสะหน่อยเถอะ" น้าจอยเอ่ยพลางหัวเราะล่า ไม่เพียงแต่แผนที่กะจะแกล้งวาพังลง แต่น้าจอยยังขำให้กับความซื่อของซานที่ไม่รู้จักกระทั่งคำว่า...เล่นของ!
แน่นอนว่าคำทุกที่สื่อสารกันแม้หลายๆคำหลายๆเรื่อง ซาน'จะฟังไม่ค่อยเข้าใจหรือไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เธอก็ยิ้มให้กับความอบอุ่นและความรักในครอบครัวที่รักกัน มันเป็นความรู้สึกที่มีทั้ง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และการหยอกล้อกัน เป็นความอบอุ่นที่ซาน(จริงๆ)ไม่ค่อยได้สัมผัสเลยในครอบครัวของตัวเอง!
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ชื่อเรื่องแนว เล่นของ ไม่รู้ ว่า ว่า ใช้พ่องั้ั้ง แม่เป๋อ ให้ช่วยทำให้ ซาน รักวา ป่าว พวกคุณไสย แบบนี้ นิยม กันแถบอีสานใต้ ไปถึงเขมน
ส่วนอีกอย่าง โคตร ลุ่นผู้ชายที่นั่งข้างวา จะ แอบ ลวนลาม แอบล้วง หรือ แอบ ป้ายของใส่ซานไหม
ขอบคุณครับ.. นึกว่าซาน.. จะโดนล้วงบนรถเสียแล้ว
ตอนหลับโดยลวนลามไปบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตั้งตั้งแต่ขึ้นยังถึงที่หมายขนาดนี้