🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์บอร์ด => หัวข้อที่ตั้งโดย: pongwut เมื่อ เมษายน 01, 2023, 02:04:21 หลังเที่ยง

ชื่อ: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: pongwut เมื่อ เมษายน 01, 2023, 02:04:21 หลังเที่ยง
  ปล.  เหตการณ์ในครั้งนี้ ผมได้เขียนเกือบๆ 2ปีแล้ว แต่ยังไม่เคยได้นำมาลง เพราะเหตุผลบางอย่าง ส่วนเรื่องราวใหม่ที่ผมเคยพบมา ผมยังไม่มีเจอหรือเจอและมันยังไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้น จนทำให้ผมรู้สึกจากนำมาแชร์



     นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์จริง ที่ผมนำมาเล่ามาแชร์  และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในส่วนตัวผมเอง ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องราวที่เรียกได้ว่า  "ผมทำลงไปได้ยังไง"   และมันเป็นเหมือนปมเล็กๆที่ติดตัวผมอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ผมเผลอไปคิดถึงมัน คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น ผมรู้สึกผิดมาโดยตลอด "ผิดที่ให้ความเงี่ยนมาครอบงำ"  จริงๆเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผมพยามจะเลี่ยงในการพูดถึง แต่ระยะเวลามันผ่านมาซักระยะ  และไม่มีผลกับตัวผมแล้ว ทุกอย่างมันจบลงตรงนั้น ผมจึงรู้สึกอยากจะนำเรื่องราวในช่วงเวลานั้น มาแชร์  อีกครั้ง (ผมขอเล่าแบบไปเรื่อยๆในสิ่งที่เกิดขึ้น )
        เหตุการณ์นี้ มันเกิดขึ้นกลางๆ ปีที่แล้ว ปี64 ประปลายเดือน ต้นๆเดือนมิถุนายน ในตอนนั้น ผมทำงานตามปกติ และก็ยังมีสถาณะโควิดอยู่เป็นระรอก จุดเริ่มมันเกิดขึ้นโดยที่บ่ายวันจันทร์ ก็มีโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเบอร์ที่ผมคุ้นเคย นั่นคือเบอร์ของลูกพี่เก่า ที่เพิ่งเกษียณอยู่เชียงใหม่ ขื่อพี่ชิด  ซึ่งต้องเล่าย้อนไปว่า พี่ชิดคือ Project Manager (Pm.) ของบริษัทเก่าผม ซึ่งแม้ว่าผมจะเคยร่วมงานกันได้ไม่นาน แต่พี่ชิดคือคนที่มีพระคุณกับผมมาก (มากที่สุด) นอกจากจะเป็นคนรับผมเข้าทำงาน แต่แกเป็นตัวหลักที่ ส่งงานนอก(งานจ๊อบ)ให้ผมทำเป็นประจำหลายสิบปี แม้กระทั่งทุกวันนี้ (เพราะแกรับจากพวกเขต อตบ. งานราชการโดยตรงของจังหวัดเชียงใหม่)  ผมมีกินมีใช้เพราะพี่ชิตโยนงานให้
        และตอนผมรับสาย ครั้งนี้ไม่ใช่งานจ๊อบเขียนแบบ แต่เป็นการสอบถามผมว่า บริษัทตึกที่ผมอยู่รับเด็กฝึกงานใหม?  เพราะแกอยากฝากลูกสาวคนเล็กชื่อ น้องอายนี่ ที่เรียนมหาลัยดังที่เชียงใหม่ ปีสุดท้ายและมีเทอมที่ต้องฝึกงาน อยากให้ผมฝากอาย ให้มาฝึกงานที่นี้  โดยน้องอาย เรียนเอกบัญชี ตอนนั้นผมรู้จักกับแผนกบัญชีดี และบริษัทผมก็รับเด็กฝึกงานอยู่แล้ว ในตอนนั้นผมจึงรับปากพี่ชิด ว่าผมหาให้ได้ ให้พี่ชิดพาน้องมาเลย จากนั้นก็วางสายกัน โดยที่ผมก็ไปดิวทางแผนกบัญชีทันที และทางแผนกบัญชีก็ยินดีรับเด็กฝึกงาน  ผมจึงแจ้งพี่ชิดกลับว่าน้องมาได้เลย
          ในตอนนั้นผมก็นั่งนึกย้อนไป เหตุการณ์ที่ผ่านมานานหลายปีก่อน ที่ผมได้ร่วมงานกันกับพี่ชิด ซึ่งพี่ชิดเองมีลูกสาว 3คน ซึ่งสอง คนโตกับคนกลางต้องบอกว่าหน้าตาสวยมาก สวยแบบหน้าอาหมวย (สวยเหมือนแม่ เมียพี่ชิดมีเชื้อสายจีน) หุ่นดี ผิวพรรณขาวเนียน และล่าสุดที่ผมได้ข่าวมาว่า ลูกพี่ชิดทำงานดีๆทั้งนั้น คนโตเป็นเภสัชคนกลางเป็นหมอฟัน ส่วนน้องอาย เป็นคนเล็ก ที่ผมเห็นล่าสุด เมื่อ10ปีก่อน เธอน่าจะอายุ 12ปี กำลังเข้าเรียนมัธยมต้น  ซึ่งน้องอาย มีหลายอย่างต่างจากพี่ๆ นั่นคือเป็นเด็กตัวขาว หุ่นอ้วนเหมือนหมู แขนขาย้วยเป็นชั้นๆ  กินเก่ง พูดเก่ง ผมเคยพาไปกินพิชซ่าตอนพี่ชิดฟากให้ผมดูแลแทน ตอนแกไปประชุมงวดงานข้างนอก ซึ่งน้องอาย ก็กินคนเดียวจนหมดถาด ก็ไม่แปลกตอนนั้นเธอถึงมีฉายาว่า น้องหมูน้อย ในตอนนั้น
        จากวันนั้น จนหลายวันต่อมา พี่ชิดโทรมาอีกครั้ง ได้บอกว่าอายได้ขึ้นเครื่องไปแล้ว และเธอจะพักที่บ้านญาติแถวฝั่งธน และจะเดินทางมาหาผมวันรุ่งขึ้น  ซึ่งเป็นวันพุธกลางๆเดือน ผมก็รับปากกับพี่ชิดว่าจะดูแลน้องอายเป็นอย่างดี ซึ่งพี่ชิดก็เชื่อใจผม  และก็ให้เบอร์น้องอายกับผมมา เพื่อนัดแนะและข่วยเหลือน้อง  จากนั้นก็วางสายกันอีกรอบ
       จนวันรุ่งขึ้น ผมก็ได้เดินทางมาถึง อ๊อฟฟิศประมาณ 8โมงครึ่ง และสิ่งแรกที่ผมทำก็คือการโทรไปหาน้องอาย  โดยที่เธอเองก็กำลังเดินทางมา แต่ตอนนั้นด้วยที่อาย เพิ่งมาจากเชียงใหม่ ไม่รู้ว่าต้องเดินทางยังไง วันนั้นเธอก็ได้นั่งแท็กซี่มา และก็มาถึงเกือบจะ10โมงเช้า (แถวชิดลมรถติด) และผมก็ได้ลงไปดักรอที่ชั้นล่าง เพื่อไปรับเธอขึ้นตึก.....จนกระทั้งวินาทีที่อาย ลงจากแท็กซี่...ภาพแรกที่ผมเห็นเธอ (หลังจากไม่ได้เห็นมา10ปี)  โอ้ววครับ....ผมอึ่งมาก ภาพที่เห็น10ปีก่อน กับตอนนี้  โดยที่อาย เดินมาแล้วยกมือสวัสดีผม(ผมรับไหว้)  น้องอายในวันนี้ ดูเป็นผู้หญิงตัวขาว(ขาวเหมือนกระดาษ) และรูปร่างสูงใหญ่ น่าจะ168up  ตัวอวบแต่แน่น  ไม่ใช่หุ่นหมูน้อย แบบตอนเด็กๆ (ไซน์ เอว30-สะโพก37-38 หน้าอกใหญ่มากน่าจะ 37up )  ไว้ผมยาวผมตรง สไลน์ผมด้านหน้าแสกข้าง  และที่สำคัญ ถ้าไม่ติดว่าเธอหุ่นอวบ อายจะดูเป็นผู้หญิงที่เฟอร์เฟคมาก เพราะหน้าตาน้องสวย แบบสาวหมวย ไม่ต่างกับพี่ๆเธอ จมูกโด่งแบบธรรมชาติ (ครบครัวนี้จมูกโด่งกันทั้งบ้าน) และตาชั้นเดียว ออกแนวอาหมวยจ๋า  และวันนั้นเธอมาในชุดนักศึกษา เสื้อขาวไซน์รัดๆพอตัว รัดพอเห็นเป็นโค้งนูนหน้าอก  ส่วนกระโปรงเป็น พลีทสีดำยาวเลยเข่าลงมา  ในตอนนั้น ผมเห็นอาย ผมก็รู้สึกเฉยๆ (จริงๆ)  เพราะนั่นคือน้อง
          หลังจากนั้น เราสองคนก็ทักทายกัน อายเองก็จำผมได้  ว่าผมเคยเล่นและหยอกล้อเธอในตอนเด็ก ตอนที่พี่ชิดพาเธอมาเกือบทุกวันเสาร์  และผมก็ยังแซวเธอ เรื่องหุ่นที่เคยอ้วนเหมือนน้องหมู  กลายมาดูแค่อวบ และมาดูดีขึ้นตอนเธอโต  เธอก็ตอบผมกลับประมาณว่า ตอนนั้นเธอยังเด็ก และพออายุ15 เธอก็เริ่มควบคุมอาหารจนทุกวันนี้  และในใจเธออยากจะผอมลงกว่านี้ แต่ติดที่เธอตัวใหญ่(โครงร่างหนาตั้งแต่เด็ก)  แต่ส่วนตัวผมก็ยังรู้สึกว่า เธอดูดีขึ้นมากๆกว่าตอนเป็นเด็ก  ระหว่างที่เดินขึ้นตึก และได้สนทนากัน ผมรู้สึกว่าสิ่งที่อายเธอไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือเธอเป็นคนพูดเยอะ
         จากนั้นผมก็พาอาย ไปแนะนำคนที่แผนกผม และแผนกบัญชี ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี โดยที่อายเป็นคนน่ารักคุยเก่งเลยดูเข้ากับทุกคนได้ดี  แต่ก็มีเรื่องติดขัดนิดหน่อย เพราะแผนกบัญชีที่นั่งเต็ม อายเลยมานั่งที่แผนกผมแทน ซึ่งอยู่กลางๆห้องเป็นโถงโลง มี partitionสูง 0.90 ม. ล้อมรอบ โดยที่อายนั่งอยู่โต๊ะตรงหน้าผมหันหน้าไปทาง partition  และนั่งในท่าหันข้าง (ด้านขวา)ตรงหน้าผม  ซึ่งอายต้องเดินเข้า-ออกระหว่างแผนก  เวลาออกไปทานข้าวเที่ยง ผมก็จะไปกลุ่มใหญ่ ทั้งแผนกผมบัญชี และธุรการ ก็จะไปด้วยกันเป็นกลุ่ม โดยอายก็จะไปด้วย ทุกครั้ง
............จนเวลาผ่านไป 1อาทิตย์ที่น้องอาย มาฝึกงาน ทุกอย่างก็ราบรื่นไปด้วยดีหมด  และทุกวันพี่ชิดจะแอบโทรหาผม เพื่อถามถึงอาย ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กของแก ที่สำคัญพี่ชิดได้โอนเงินให้ผมหมื่นบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ให้ผมพาเธอไปเลี้ยงข้าวบ้าง และค่าน้ำมันรถเวลาผมเอารถมา และแวะไปส่งเธอขากลับ แต่ไม่ได้บอกอายในเรื่องนี้ ให้ดูเหมือนผมเป็นเลี้ยง  และผมเองก็ได้ทำตามวัถุประสงค์พี่ชิด ผมก็พาอายและ น้องๆรวมถึงแผนกอื่นๆ ไปกินบุฟเพ่ และเลี้ยงขนมซื้อมาเป็นกองหลางตลอดๆ  โดยผมอ้างว่าผมถูกหวย
........จากวันแรกที่อายเข้ามาฝึกงาน จนเกือบๆจะ1เดือน สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ว่า ตัวอายที่เข้ามาคลุกคลี่ในสภาพแวดล้อม ที่เต็มไปด้วยผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย  นั่นคือการแต่งตัวแข่งกันของพวกผู้หญิง และที่สำคัญส่วนมากพนักงานหญิงที่บริษัทนี้ ชอบที่จะแต่งตัวใส่ชุด วาบหวิว  กระโปรงสั้น กางเกงรัด เดินโชว์ไปมา ทำให้ผมรวมไปถึงผู้ชายที่จำนวนที่น้อยนิดที่นั้น ได้ดูได้ชม เป็นอาหารตาทุกวัน และตัวอายเองคงซึมซับในเรื่องของวัฒธรรมจากที่นี้ ทีละนิด วันหละหน่อย
..............จนในที่สุดเธอก็เริ่มทำตาม จุดเริ่มมันเกิดขึ้น และผมจำได้แม่นว่า เป็นช่วงต้นๆเดือนของเดือนเจ็ด วันนั้นผมก็นั่งทำงานที่โต๊ะเป็นปกติ และช่วงประมาณ8โมงกว่าๆ พนักงานก็ทยอยกันเข้างาน ผมก็ได้เห็นอายเดินเข้ามาที่แผนกผม เพื่อที่จะมานั่งทำงานตามปกติ....ภาพจังหวะที่น้องเขาเดินเข้ามา....โอ้วววครับ.....แม่เจ้าโว้ยยย....อายใส่ชุดนักศึกษาที่ต่างจากทุกวันๆ(เหมือนเป็นชุดเช็ตใหม่ยกชุด ) เริ่มจากด้านบน เสื้อที่ขาวที่อายใส่ เป็นไซน์ที่เล็กลง รัดแน่นเปรี้ยะ รัดหน้าท้องรัดสีข้าง และที่สำคัญรัดที่สองเต้านมเห็นเป็นนูนโค้งของสองเต้าใหญ่ๆ...กระดุมตุ้งติ้งแทบปริ.....ชัดเจนมาก....ส่วนด้านล่าง ต้องบอกว่าดูแล้วมีอารมณ์ตาม  เป็นกระโปรงนักศึกษาทรงเอสีดำ  เอวต่ำใส่รั้งที่สะโพก รัดสะโพก รัดต้นขา และสั้นแถบจะเสมอเป้าหี ต่ำลงมาจากเป้าแค่ไม่กี่นิ้ว (เดาว่ากระโปรงน่าจะยาวแค่12นิ้ว) โชว์โคลนต้นขาอวบๆขาวๆ (ขาวจั๊วะ) ทุกครั้งเวลาก้าวเดินมีลุ้นตลอด  และยิ่งทำให้ผมแทบขาดสติ ช่วงที่อายโน้มตัวลง เพื่อวางของ ผมมองจากด้านหลัง มองตามช่องผ่าหลังของกระโปรง เห็นเป็นแก้มก้นขาวๆรวมทั้งขอบล่างกางเกงในสีขาว.....เห็นเต็มๆ.......หัวใจผมจะวาย กับภาพนั้น......
..............ในข่วงเวลาตลอดวัน ผมพยามกุมสติตัวเอง ไม่ให้ฟุ้งซ่าน กับภาพที่เห็นตอนเช้า และทุกครั้งที่เธอนั่งโต๊ะในท่าหันข้างให้เห็น ภาพที่กระโปรงรัดสั้น เลื่อนไปเสมอโคลนต้นขา เวลานั่ง แต่ยังดีที่เธอหันหน้าเข้า  partition  ในห้วงเวลาที่ผมสับสน  สมองซีกขวาก็พยามอยากจะเห็น อยากจะมองตลอดเวลา สมองซีกซ้ายก็พยามนึกอยผู้ตลอดว่า นั่นคือน้อง นั่นคือน้อง  น้องเราลูกของพี่ชิด คนที่เรานับถือและเขาก็ไว้ใจเรา จนกระทั้งผม รวบรวมสติ พยามไม่นั่งที่โต๊ะ พยามไปดูงานที่ชั้นที่กำลังรีโนเวท  จะอยู่โต๊ะทำงานให้น้อยที่สุด และมันก็ได้ผล ถ้าไม่เห็น ไม่นึก ก็ไม่ต้องไปคิดฟุ้งซ้าน  จนผมก็เริ่มตั้งลำได้ ช่วงเย็นๆ ผมก็เห็นอายนั่งพิมพ์เอกสารที่โต๊ะ ผมก็เข้าไปคุยทั่วๆไปตามปกติ แล้วผมก็พยามพูดแนวแซวๆที่เล่นที่จริงว่า " วันนี้ใส่ชะสั้นเลยคุณน้อง เวลาจะลุกจะนั่ง ก็ระวังๆหน่อยนะน้อง " อายได้ยินก็หัวเราะ แล้วพูดกลับว่า "ตอนแรกไม่สั้น อายเพิ่งเอากระโปรงไปตัดมา ตอนแรกบอกช่างว่า ไม่ต้องสั้นมาก พอใส่จริงมันสั้นกว่าที่คิดนะพี่ โอเค ได้ค่า อายจะนั่งระวังๆค่าาา" จากนั้นผมก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่นๆ แล้วก็แยกย้ายกันกลับ
..........และหลังจากนั้น ทุกๆวัน เธอก็ใส่ชุดนี้มาโดยตลอด สลับกับชุดกระโปรงยาวตัวเดิมบ้างบางวัน ทุกครั้งตอนช่วงลงไปนั่งไปกินข้าวกลางวัน  ผมก็จะถอดเสื้อเจ็กเก็ต ของบริษัทคลุมขาเธอไว้ โดยที่เธอก็รู้ว่าผมเป็นห่วง และอายก็จะคลุมตลอดแม้กระทั้งบางวัน เธอเป็นคนบอกให้ผมถอดเสื้อมาคลุมด้วยซ้ำ  ในช่วงเวลานั้นผมกับอายก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยกันขึ้นเรื่อยๆทุกๆวัน ในบางครั้งเธอจะไปเดินห้างหลังเลิกงานก็ชวนผมไปเป็นเพื่อนตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ช่าง4-5ทุ่มเธอ ก็ยังมีโทรมาคุยกับผม โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องซีรี่ และการนินทาคนในบริษัท ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจริงๆ
          จนกระทั้ง....มาถึงวันที่ผมที่ตัวผม  ผิดศีลข้อ3 ทำพลาดอย่ามหันต์ ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต......มันเริ่มจากวันนั้น ซึ่งเป็นวันศุกร์ ช่วงเช้า โดยที่ตัวผมก็มาถึงอ๊อฟฟิศตามปกติซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษ  จนเวลานั้นล่วงเลยมาถึง 9โมงเช้า ผมก็ยังไม่เห็นอายเข้ามาทำงาน ผมจึงหยิบโทรศัพท์โทรไปหาเธอ และอายก็รับสาย ในตอนนั้นอายได้บอกกับผมว่า วันนี้จะไม่เข้าอ๊อฟฟิศ  เพราะเธอมีเรื่องไม่สบายใจ ผมจึงถามว่ามีอะไร และจะไปใหน? อายก็ตอบมาว่า  เรื่องมันยาว และตอนนี้เธออยู่ที่หน้า
ตึกอ๊อฟฟิศ แต่ไม่รู้จะไปใหน วันนี้เธอไม่อยากทำงาน แต่อาจจะไปนั่งเล่นที่ห้างสยาม  วินาทีนั้นผมรีบบอกอายไปว่า ให้รอผมก่อนเดี๋ยวผมลงไปหา จากนั้นผมก็รีบวางสายและรีบลงลิฟท์เพื่อไปหาเธอ ด้วยความเป็นห่วง
..........พอผมลงมาถึงชั้นล่างก็เจอกับอาย ที่ยืนทำหน้าเศร้าๆเซ็งๆ อยู่ในชุดนักศึกษาเสื้อรัดกระโปรงสั้นฟิต ผมจึงถามเธอว่ายังใหวใหม? อายก็ตอบกลับมาว่า วันนี้คงไม่ไหวเธอเครียด (ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเธอเครียดเรื่องอะไร) ผมก็ยืนคิดสักพัก ด้วยความเป็นห่วง  และตัดสินพูดขึ้นว่า "งั้นน้องอาย เอางี้  วันนี้พี่เอารถมา เดี๋ยวพี่พาไปนั่งรถเล่น อายอยากระบายอะไรก็พูดมาได้เลย  พี่รับฟังได้ทุกเรื่อง "  พอเธอได้ยินแบบนั้น เธอก็ตอบกลับมาว่า " แล้วพี่ไม่ทำงานหรือ? อายไปคนเดียวได้ อายเกร็งใจพี่ค๊ะ  "  ผมก็ตอบกลับไปว่า " อันนั้นเรื่องเด็กๆ พี่ลาได้ "  เธอก็หยุดคิด แล้วพยักหน้าตกลงตามนั้น  จากนั้นผมก็พาเธอเดินไปลานจอดรถ  พร้อมกับผมโทรไปแจ้งพี่อ๊อด หัวหน้าแผนกว่าผมมีธุระด่วนที่ต้องลา 
...........พอไปถึงที่ชั้นที่รถผมจอด ในตอนนั้นผมให้เธอยืนรอทางออกของชั้น ส่วนผมก็เดินไปเอารถ พอผมเดินถึงรถ   ซึ่งเป็นรถคันใหม่ เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆไม่กี่วัน เป็นมือสอง bmw ซี่รี่3  e90  และอายก็ เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้นั่ง (นอกจากแฟนผม) จากนั้น ผมก็จัดการเครียร์ของภายในรถทุกอย่าง เอาไปไว้ที่ท้ายรถจนหมดเกลี้ยง (ทุกอย่างดูโล่งหมดทั้งเบาะหน้าและเบาะด้านหลัง)  แล้วผมรีบถอยรถออกจากซองจอด  แล้วขับไปจอดตรงที่เธอยืนรอ  อายก็เปิดประตูเพื่อจะเข้ามานั่งเบาะหน้าข้างตัวผม....และในนาทีนั้นเองผมได้มองตาม   เธอได้ยื่นสอดขาขวาเข้ามานั่งในรถก่อน ทำให้ขาฉีกแยกออก โดยที่กระโปรงนักศึกษาสีดำ ทรงเอรัดๆสั้นๆเธอได้เลื่อนขยับขึ้นไปถึงเอว....โอ้วววครับ....วินาทีนั้น....กางเกงในสีเนื้อผิวเรียบรัดแน่นที่เป้าสามเหลี่ยมเธอ โผล่ออกมาให้เห็นทั้งหมด แบบไม่มีกระโปรงมาปิดบังใดๆทั้งสิ้น  (โหนกเป้าหีเธอโค้งนูนใหญ่มาก) ผมเห็นแล้วขนลุกควยโด่ และใจสั่นมาก  แม้กระทั้งตอนที่เธอนั่งลงเบาะเสร็จ เบาะรถผมที่กดต่ำทำให้ขาเธอนั่งชันและแยกออกกว้าง เปิดเป็นช่องโล่ง  แม้ว่าอายพยามจะดึงปลายกระโปรงขึ้นปิด แต่ก็ดึงขึ้นได้แค่ระดับโคลนต้นขา ทำให้ปลายโค้งนูนสามเหลี่ยมที่รัดแน่นด้วยกางในสีเนื้อของเธอ โผล่แล๊บออกมาให้เห็นอยู่แบบนั้น
............ในช่วงเวลาที่ผมกำลังขับรถ  ผมพยามกดอารมณ์อย่างมาก (แบบฝืนที่สุด) ที่จะไม่มองไปที่อาย ส่วนมากผมจะดูทางและหันหน้าไปด้านตรงข้ามเธอ เพราะหันไปมองแล้วก็เห็นเลย ที่สำคัญเห็นแล้วผมก็มีอารณ์ตามทันที นอกจากกางเกงในที่โผล่ ตัวอายเองก็ทั้งขาวทั้งอวบ...และในระหว่างนั้น ตอนที่รถที่กำลังวิ่งอยู่ อายก็เล่าเรื่องที่เธอเบื่อๆ ให้ฟังเท่าที่ผมได้ยิน ผมจับใจความได้ว่า  อายกับป๊าเธอ(พี่ชิด) ไม่ค่อยลงรอยกันตั้งแต่เธอจบ ม.ปลาย โดยที่เธออยากจะเรียนพวกออกแบบโปรดัก แต่พี่ชิดไม่ยอมและอยากให้อาย เรียนพวกหมอหรือเภสัชแบบพี่ๆเธอ ก็เลยจบตรงกลาง โดยที่เธอเรียนบัญชีแทน ทั้งๆที่เธอไม่ค่อยชอบ ซึ่งผมก็พอเข้าใจอาย เพราะผมรู้นิสัยพี่ชิดดี ว่าแกเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ทั้งเรื่องงานและครอบครัว  และในขณะที่คุยกันในรถ ก็มีอีกหลายๆอย่างเรื่องที่อายอึดอัด และเล่าให้ฟัง ผมก็พยามตอบให้กำลังใจเธอตลอด....จนกระทั้งผมขับรถลงทางด่วน มาถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต กำลังจะเลี้ยวเขามหาลัย อยู่ๆอายก็พูดขึ้นว่า "พี่จริงๆอาย มีอีกเรื่องที่หนักใจกว่านี้ อายเล่าให้พี่ฟังได้ใหม? "   ผมหันไปดูสีหน้าเธอ ผมรู้ได้ทันทีนี้หละคือเรื่องที่เธอเบื่อที่สุดจนไม่อยากทำงาน  (แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเรื่องอะไร) ผมก็ตอบกลับอายว่า " ได้ ได้เลย วันนี้ทุกเรื่อง อายเล่ามาได้เลย พี่รับฟังได้ทุกเรื่อง"  เธอก็อ้ำอึ้ง....และตอบกลับว่า...." มันคือเรื่องผู้ชาย เรื่องแฟน"  ผมรู้ทันทีว่าเรื่องนี้ต้องมีดราม่าแน่ ผมจึงบอกว่าขอจอดรถและหาที่นั่งคุยกัน โดยเธอก็โอเค
............พอผมขับรถเข้าไปจอดที่มหาวิทยาลัย  ตรงที่เป็นลานจอดเปิดโล่ง แต่ผมจอดในร่มเงาต้นไม้  จากนั้นผมสองคนก็ลงจากรถ แล้วเดินไปอีก100เมตร  ซึ่งจะเป็นโต๊ะไม้มีม้านั่งยาวสองฝั่ง เรียงกันหลายชุด  โดยที่สภาพแวดล้อมรอบๆแถวนั้นแทบจะไม่มีคน เพราะเป็นช่วงโควิด  มีก็แต่ รปภ.ที่นั่งห่างออกไปหลายสิบเมตร  ผมกับอายก็นั่งลงที่ม้ายาวฝั่งเดียวกัน และเราสองคนนั่งเกือบติดกัน ในช่วงเวลานั้นอายก็สีหน้าไม่ค่อยสู้ดี  จากนั้นเธอก็เริ่มเล่าให้ผมฟังว่า จุดเริ่มจากเทอมที่แล้วเธอได้คบกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่สอนในเอกที่เธอเรียน และเธอก็รักเขามาก (อารมณ์การเล่า เหมือนอายรักเขาปานจะขาดใจ)  เพราะเป็นแฟนคนแรกของเธอ และที่สำคัญอายก็บอกผมตรงๆว่า เธอยังเคยมีเซ็กกับอาจารย์คนนั้น 1ครั้ง  โดยที่ไม่มีใครรู้  รวมทั้งที่บ้านอายก็ไม่รู้ ว่าอายคบกับอาจารย์  จนกระทั้งอายรู้ว่าอาจาย์คนนั้น ก็มีแฟนอยู่แล้ว และเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เป็นคนละคณะ  ซึ่งผมก็ได้ดูรูปผู้ชายคนนั้นจากมือถืออาย....ผมบอกได้เลยว่าดีแล้วที่เลิก เพราะอาจารย์คนนั้นในรูป หน้าตาไม่หล่อซักนิด (ขี้เหล่เลย) หัวหยิก หน้าผากกว้าง แถมตัวเล็กกว่าอายเยอะ แต่ผมก็เข้าใจอาย เพราะว่าคนมันรัก
...........ในตอนที่อายเล่า เธอถึงกับน้ำตาร่วง ปล่อยโฮ น้ำตานองสองแก้ม  ต่อหน้าผม ซึ่งผมก็คอยพูดปลอบใจเธอ  และพี่พีคที่สุด เธอเล่าว่าอาจารย์คนนั้นบอกให้เธอรอ เพราะจะเลิกกับแฟน  แถมยังยืมเงินอายไปเกือบ5หมื่น จนกระทั้ง2วันที่แล้ว อายติดต่ออาจารย์คนนั้นไม่ได้  ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้เสียดายเงิน แต่เสียใจที่คนนั้นจะชิ่ง เธออยู่ในอาการพะวง ทำตัวไม่ถูก ร้อนใจ  นอนไม่หลับคิดมาก และในขณะเดียวกันอายก็เริ่มปล่อยโฮร้องให้เสียงดังขึ้น น้ำตาก็ไหลขึ้นเรื่อยๆ.....จนในตอนนั้นผมก็สงสารน้องเขาจริงๆ เพราะผมเข้าใจในห้วงอารมณ์แบบนี้  ผมยังนั่งนึกในใจ ว่าไอ้หมอนั่น(อาจารย์แฟนอาย) คงจะมีลูกหรือแต่งงานไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะมาหลอกเย็ดอาย  แล้วเลือกที่จะชิ่ง  ไม่งั้นคงต้องคบกับอายต่อ เพราะอายเป็นคนหน้าตาสวยมาก (ถ้าคนชอบอวบๆเธอตอบโจทย์มาก) แถมยังเป็นครอบครัวมีฐานะด้วย  และที่สำคัญหน้าตาแบบนั้นหาคนหน้าสวยแบบอาย คงไม่ได้อีกแล้ว
............ในห้วงเวลาที่อายนั่งข้างๆตัวผม(ด้านไหล่ซ้าย) และกำลังอยู่ในอารมณ์ เจ็บใจ เสียใจ ร้องให้ฟูมฟายอยู่ ตัวผมเองก็กำลังรู้สึกเห็นใจน้องจริงๆ (แบบริสุทธิ์ใจ) ผมก็เผลอยื่นเอาสองมือของผมจับกุมไปที่มือขวาเธอ เพราะต้องการให้กำลังใจเธอและพยามจะปลอบให้เธอหยุดร้องให้...และผมจับมือเธอไม่ถึงนาที....ทันใดนั้นเองอายก็ได้โน้มตัวเอียงเอาหน้าผมซุกไหล่ซ้ายผม แล้วร้องให้....โอ้วววครับ.....จังหวะนั้นเอง....สองเต้านมใหญ่ๆของอาย ที่รัดแน่นด้วยเสื้อนักศึกษาไซน์รัดๆ ได้มาสัมผัส และกดทับที่บริเวณเขน ช่วงไหล่ซ้ายผม....แบบเต็มๆ...โดยเฉพาะเต้านมฝั่งขวาเธอเธอ....วินาทีนั้นผมรู้สึกถึงความใหญ่ และความนุ่มของหน้าอกอายแบบชัดเจน....รวมไปถึงกลิ่นน้ำหอมจากตัวเธอ มันช่างหอมเหลือเกิน รู้สึกฟินแบบบอกไม่ถูก...เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสเนื้อตัวอายแบบนี้ โดยเฉพาะหน้าอกเธอ
...........ในช่วงเวลาที่ผมและอายนั่งอยู่ในท่าแบบนั้น...ส่วนตัวผมเองก็ มีสองความรู้สึกที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน...นั่นคือความเป็นห่วงน้องนุ่ง เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็กๆและเป็นลูกผู้มีพระคุณอย่างมากต่อตัวผมมาเป็น10ปี......อีกความรู้สึกที่ผมรู้สึกมีอารณ์ขึ้นมา เพราะสิ่งที่ผมกำลังนั้งสัมผัสมันอยู่นั่นคือเต้าผมใหญ่ๆของอาย...ควยผมก็เริ่มแข็งโด่ขึ้น.....ในระหว่างที่อายกำลังนั่งซบตัวผมร้องให้อยู่ ผมก็รู้สึกว่า การนั่งตรงนี้มันดูจะเป็นจุดเด่นเกินไป....และที่สำคัญ  รปภ.ที่นั่งห่างตอนแรก ก็เหมือนจะแกล้งเดินมา  ถ้าผมเดาจากสายตาเหมือนว่า รปภ.จะมาแอบดูขาอ่อนขาวๆ และกางเกงในอาย ซึ่งในตอนนี้นอายก็นั่งเอียงขารวมทั้งแยกขาออกกว้าง.....ผมจึงตัดสินใจ บอกให้อายแข็มแข็งไว้ พร้อมกับที่ผมตัดสินใจ ลุกขึ้นพร้อมกับพยุงตัวอายยกขึ้นยืนตาม เพื่อที่จะกลับไปที่รถ (และเป็นการตัดความรู้สึกอารมณ์ผมในตอนนั้นด้วย)  จากนั้นผมสองคนก็เดินกลับไปที่รถ  ในจังหวะที่ผมกำลังจะเปิดประตูรถออก ผมก็ถามอายว่า " ไปใหนต่อใหม  อายไหวใหม?" โดยที่ตัวอายไม่ตอบ ก็ได้แต่สายหน้า เหมือนไม่อยากจะไปใหนต่อ  ผมจึงหยุดคิดก่อนตัดสินใจ เปลี่ยนใจมาสต๊าสรถเปิดแอร์ไว้ก่อนมาเปิดประตูหลังด้านผู้โดยสารแทน เพื่อที่จะเข้ามานั่งคุยต่อ
.............ในจังหวะนั้นผมกับอาย ก็เข้ามานั่งคู่กันที่เบาะหลัง โดยที่ผมก็พยามปลอบเธอต่อ และอายเองก็กำลังพูดระบาย ในสิ่งที่เธอเจอมา พร้อมกับร้องให้ตาม (เหมือนเดิม) และผมก็รับฟังแล้วปลอบเธอตลอด  แต่ในจังหวะเดียวกันนั้น ผมได้ลดสายตา มองไปที่ขาเธอ....โอ้ววครับ...อายเธอนั่งฉีกขากว้าง (นั่งแบบไม่เอาหี) ภาพที่กระโปรงนักศึกษาสั้นรัดๆเธอได้ล่นขึ้นไป  ตามการนั่งแยกขาออกกว้าง จนปรายกระโปรงล่นในระดับระนาบของโคลนต้นขาหมด  ทำให้เห็นเป้าสามเหลี่ยมที่ง่ามขาที่ห่อหุ้มด้วยกางในสีเนื้อ โผล่ออกมาจากช่องโล่งแบบโชว์หลา  ต่อหน้าต่อตาผมอีกครั้ง......(เหมือนว่าเธอจะไม่ตั้งใจที่จะนั่งโชว์) แต่ด้วยความรู้สึกที่เธอกำลังอยู่ในอารมณ์ จมปรักกับเรื่องที่เสียใจ จนไม่สนเรื่องอื่น...และที่สำคัญอายเชื่อใจในตัวผมสูงมาก....ผมรู้สึกได้....แต่ในครั้งนี้ผมแทบจะคุมสติไม่อยู่  ทุกอย่างตรงหน้าทั้ง ต้นขาที่อวบๆขาวๆ  ทั้งโหนกนูนของหี.....
............วินาทีนั้น "ผมหลุด"  ผมทนฝืนในสิ่งที่ใจเรียกร้องไม่ได้  นั่นคือการ ฉวยโอกาส  (อยากทำอีกครั้ง) โดยที่อายกำลังพรรณาพูดระบายในใจ  กับสิ่งที่กำลังทนทุกข์กับรักที่ไม่สมหวัง ผมได้ใช้มือซ้ายผม ยื่นอ้อมด้านหลังตัวอาย ไปจับที่สีข้างลำตัวด้านซ้ายเธอ แล้วดันตัวอายลงมาซบไหล่ผม (ทำแบบในแบบก่อนหน้า) และอายก็มาซบไหล่ผม  ทุกอย่างเหมือนในตอนที่นั่งที่โต๊ะไม้ยาว....แต่คราวนี้สิ่งที่ต่างกันออกไปนั่นคือ จังหวะที่ผมให้เธอเอียงตัวผมสบไหล่ผม โดยที่จังหวะเดียวกัน แบบต่อเนื่อง มือขวาผมได้เลื่อนไปจับที่ต้นขาอ่อนด้านในขาขวาเธอ  ส่วนมือซ้ายผมก็ได้ขยับเลื่อนไปที่ใต้ราวนมฝั่งเต้าซ้ายเธอ...(แบบที่ว่ามือผมไม้ผม มันไปเอง).....โอ้วววครับ.....ผมเงี่ยนยิ่งกว่าคราวที่แล้ว กับความรู้สึกที่ได้สัมผัส......มือซ้ายผมจ่อที่โคลนเต้านม และที่สำคัญ มือขวาผมสัมพัสถึงต้นขาอ่อนขาวๆอวบๆเธอ ทั้งนุ่มทั้งแน่นแบบบอกไม่ถูก...แต่รู้เพียงว่านุ่มแต่แน่น  เต็มไม้เต็มมือทุกสัดส่วน
..........จนเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆที่ผมสองคนอยู่เบาะท้าย  อายก็ยังระบายในสิ่งที่อึดอัดพร้อมทั้งซุกหน้าร้องให้ ส่วนผมก็คอยปลอบคอยโอ๋เธอพูดให้กำลังใจเธอตลอด......จนกระทั้งผมสองคนที่อยู่ในท่านั่งซบแค่ไหล่....พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นเหมือนนั่งกอดกันจริงๆ (แบบไม่รู้ตัว) โดยที่สองมือผมยังอยู่ในท่าเดิม...แต่กลับเป็นอายที่ใช้มือขวาเธอยกขึ้นอ้อมตัวผม แล้วคล้องคอผมจากทางด้านหลัง ส่วนแขนซ้ายเธอ ก็สอดผ่านหน้าท้องผมมาคล้องที่เอวผมด้านขวา แล้วกอดซบตัวผมแน่นมาก.....ช่างเวลานั้น ควยผมก็ยิ่งแข็งตัวโด่ขึ้นเรื่อยๆ....กับสิ่งที่ผมได้สัมพัส....และยิ่งนานไปผมก็ยิ่งหูอื้อ..แทบจะไม่ได้ฟังในสิ่งที่เธอพูด...ทั้งนม..ทั้งต้นขาอวบๆ....และยิ่งไปกว่านั้นมือขวาผมที่จับต้นขาเธออยู่...ห่างจาก เป้าสามเหลี่ยมที่โผล่ออกมา จากกระโปรงแต่ไม่กี่ซม.เอง  (แทบจะโดนอยู่แล้ว)
...............โอ้วววครับ.....สุดท้ายผมไม่ไหวจริงๆ....ความเงี่ยนที่ผมพยามจะหยุดและกดมันเอาไว้.....มันแทบจะล้นสมองผม....คำว่าน้อง....คำว่าลูกคนเล็กของผู้มีพระคุณ....มันได้เลือนจากสมองผมไปหมดสิ้น....ตอนนี้มีแค่นักศึกษาฝึกงาน ที่ผิวขาวเหมือนกระดาษ เนื้อตัวอวบแน่น...ใส่ชุดเสื้อรัดกระโปรงสั้น......และกำลังนั่งแยกขากอดรัดตัวผมแน่น...วินาทีนั้นผมตัดสินใจ  ผมพูดขึ้นมาว่า" พี่คิดว่า น้องอายคงจะไม่ใหวแล้วหละ คงจะหมดแรงไม่อยากไปใหนแล้ว งั้นก็นอนเถอะ นอนลงตักพี่นี่หละแล้วสบายใจขึ้นค่อยว่ากัน " หลังจากผมพูดเสร็จผมรีบยกตัวอายขึ้นนั่งตรงๆ แล้วขยับตัวผมไปชิดประตูฝั่งด้านผมนั่ง (ซึ่งอายก็นั่งงงๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร)  ผมรีบใช้สองมือจับที่สองไหล่ของอาย แล้วดึงตัวเธอลง เพื่อที่จะให้นอนตักผมและอายก็ทำตาม.......โดยที่เธอนอนหงายที่เบาะหลัง....โอ้วววครับ.....ภาพนั้น.......อายที่นอนหนุนตักผม....ส่วนหัวเธอหนุนไปที่เป้าผม ลำตัวเหยียดตรง ส่วนขาทั้งสองข้างงอเข่าตั้งชั้นขึ้น (เพราะติดประตูอีกฝั่ง)....วินาทีนั้น....เกินที่จะบรรยาย....โดยเฉพาะหน้าอกสองเต้าใหญ่ๆที่อยู่ตรงหน้าผม...และที่ทำให้ผมใจสั่นกว่านั้นก็คือ สองขาของอาย ที่งอเข่าตั้งชันขึ้น กระโปรงนักศึกษาทรงเอสั้นจู๋ ก็ไหลพับลงมาที่หน้าท้อง  ผมรีบไล่สายตาดู  จากต้นขาวๆอวบๆ..(ขาเธอขาวซีดแบบผิวเนียนไม่มีรอยใดๆ)....จนผมไล่สายตาลงมาตรงกลางง่ามขาเธอ ที่เหลือแค่กางในตัวใหญ่สีเนื้อ ที่หุ้มรัดแน่นเป้าหีเธออยู่  (ซึ่งเป็นกางในสีเนื้อผ้ารัดแน่น แบบไร้ขอบตะเข็บ และเป็นทรงหุ้มเต็มตัว หุ้มจากง่ามขาถึงเอว....ผมเห็นชัดเจน....แบบไม่มีกระโปรงหรืออะไรมาปกปิด และเธอเองก็ไม่คิดจะปิดมัน....เธอแค่พยายามจะชิดขาสองข้างแนบกัน
.........พอเธอนอนลงเสร็จ ต่อเนื่องด้วยผมก็ทำเป็นเนียนต่อ  โดยบอกให้เธอพูดอะไรก็ได้ที่เธอจะสบายใจ (ผมเยี่ยงเบนเธอ) ตามด้วยการใช้ฝามือขวาผม ลูบไปที่ผมเธอ(เสยผม) ลงมาตรงหน้าเธอ....แก้มเธอ...รวมทั้งใช้นิ้วปาดน้ำตาเธอ..ทำแบบเนียนๆ เท็คแคร์เธอ  ส่วนมือซ้ายผมก็ลูบที่แขนขวาเธอ....สลับกับลูบที่หน้าท้องบนเสื้อเธอ...ทุกอย่างผมที่ผมทำไป พร้อมกับรับฟังเธอระบายไปคู่กัน.....และในช่วงเวลาที่ผมทำแบบนั้น ตัวอายเองก็ไม่มีทีท่า จะลุกขึ้นหรือพูดบอกผมหยุด ในสิ่งที่ทำอยู่ เธอยังคงมีความเครียดและก็น้ำตาไหลตลอด...(ดูเหมือนเธอจะไม่คิดอะไรจริงๆ)  มันยิ่งทำให้ผมได้ใจ ผมเริ่มคุกคามเธอมากขึ้น โดยใช้มือซ้ายที่วางและลูบหน้าท้องบนเสื้อเธอ ผมได้ขยับมือค่อยๆเข้ามา สอดฝามือเข้าไป ชายเสื้อด้านล่าง ที่หลุดจากทับในกระโปรง แล้วลูบไปที่หน้าท้องเธอเบาๆ พร้อมทั้งเอาหัวนิ้วโป้งมือสะกิดๆที่สะดือเธอไป-มา ในขณะที่ผมก็ยังพูดปลอบใจเธออยู่ และมือขวายังลูบไปที่แก้มเธอเหมือนเดิม....
............ในห้วงเวลานั้น  ทุกอย่างที่ผมพยามเนียนๆคุกคามเธอด้วยมือ เป็นเวลาหลายสิบนาที  ผมรู้สึกว่าอาการของ อายจะเริ่มจะค่อยๆเปลี่ยนไป โดยที่เธอเริ่มจะหยุดร้องให้  พูดน้อยลง แถมยังมีจังหวะหลับตา ตอนผมใช้มือลูบที่หน้าและหน้าท้องเธอ.....ซึ่งมันสวนทางกับควยผมที่แข็งโด่จนน้ำจะเล็ดออกจากปลายควย.....จนกระทั้งผมมารู้ความจริง.....สาเหตุที่เธอดูท่าทีจะเปลี่ยนไป ต่างจากตอนแรกๆ...............ในจังหวะที่ผมเหลือบสายตาไปมอง ที่ช่วงล่างเธออีกครั้ง  ซึ่งตอนแรกผมเหล่มองแค่ครั้งถึงสองครั้ง มัวแต่แกล้งทำเนียน ก้มหน้าจ้องตาเธอลูบหน้าเธอที่หนุนตักผม  (ตอนนั้นผมกลัวว่าเธอจะรู้เจตนา เลยไม่กล้ามองช่วงล่างบ่อย ).....ภาพที่สองขาอาย จากตอนแรกนอนชันขาพยามเหนียบต้นขาชิดไว้ กลายเป็นทิ้งขาสองข้างแบะออกจากกัน โดยที่ส่วนบริเวณเข่าถึงเท้ายังงอไขว้กัน...ในตอนนั้น ....มันไม่ใช่แค่ว่า.....กระโปรงนักศึกษาถลกขึ้นไปกองที่เอว....มันไม่ใช่แค่.....กางในสีเนื้อที่เปลือยทั้งตัวโผล่จากซอกสองง่ามขา....แต่มันเป็นคราบน้ำเงี่ยนของอาย ที่ซึมออกมาเป็นรูปวงกลมขนาดใหญ่ ตรงกลางเป้าแคมหี......ชัดเจนมาก......วินาทีนั้นผมรู้ได้ทันทีว่า  การที่ผมทำแบบนั้น...ไม่ใช่แค่ผมรู้สึกเงี่ยนไปเองคนเดียว....แต่กลับเป็นอายที่มีอารณ์ตาม.....จนมันแสดงออกให้ผมรู้ ว่าเธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ จากคราบแฉะที่ปรากฎบนกางเกงในสีเนื้อเธอ
..............ในนาทีนั้น  ผมมั่นใจ100%  ว่าเธอพร้อมและต้องการ  และเธออารมณ์กำลังมา....แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความคิดเธอในตอนแรก  แต่มันเกิดเพราะผมเป็นคนเริ่มให้มันเกิดขึ้น...ในหัวผมตอนนั้น มันมีมันไม่มีอะไร  ที่ผมต้องคิดเพราะมันมีแต่คำว่าเงี่ยน...ผมหน้ามืดใจสั่น...เหงื่อซึมที่ใบหน้าทั้งๆที่แอร์ในรถเย็นฉ่ำ......ผมตัดสินใจทันที......ด้านได้อายอด....จังหวะนั้นผมมองไปที่หน้าอาย  มือขวาผมยังลูบไล้ไปที่หน้าเธอ...และเธอก็ยังนอนหลับตา...ผมใช้จังหวะนั้น ยกฝ่ามือซ้ายที่กำลังลูบไล้ หน้าท้องเธออยู่ เปลี่ยนมายื่นไปที่สองงามขาเธอ แล้วลูบขึ้นลงที่เป้าหีผ่านกางในสีเนื้อ ในจังหวะแรกที่ผมลูบ... อายสะดุ้งตัว1ครั้ง แต่ยังคงหลับตาอยู่แต่หน้าเธอแดงก่ำ(หน้าเหมือนแตงโมตัดผิวขาวๆชัดเจนมาก) ...และผมก็ยังลูบที่เป้าหีเธอต่อ...แบบช้าๆ...เบาๆ....ค่อยๆ....ช้าๆ...เบาๆ....(นูนโหนกหีเธอช่างใหญ่และนุ่มมาก)  พร้อมกับมือขวาผมก็ยังลูบไปที่แก้มเธอเบาๆ.....จนกระทั้งฝามือซ้ายผม สัมผัสถึงน้ำที่เป้าเธอได้แฉะเต็มพื้นที่(ไหลซึมออกมาเรื่อยๆ)  และในขณะเดียวกัน จู่ๆอายก็ลืมตาขึ้นมา แล้วพูดเบาๆว่า " พี่ค๊ะ อายเสียว.." ในจังหวะเดียวกับที่ผมจ้องไปที่หน้าเธอพอดี....ผมตกใจมาก!!  ผมหน้าเสีย....ผมรีบชักมือออกจากซอกขาเธอ  แล้วยื่นสองมือไปจับประคองที่สองแก้มอาย แล้วผมพูดขึ้นทันทีว่า " อายพี่ขอโทษๆ...พี่ขอโทษจริงๆ...อายโกรธพี่ป่าว..พี่ขอโทษจริงๆ "  ในตอนนั้นอายมองขึ้นมาที่ผม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า " ไม่เป็นไร ไม่ได้โกรธค๊ะ  "  จากนั้นผมจึงถามเธอไปอีกว่า " อายแน่ใจนะ ไม่โกรธพี่จริงๆนะ " อายไม่ตอบแต่หลับตา เม้มปากแล้วพยักหน้า2ครั้ง......
.............จากนาทีนั้น  สิ่งที่ผมทำลงไป...ไม่เพียงแต่อายไม่โกรธ....แต่การแสดงออกของเธอเหมือนกับ ...อนุญาตกลายๆ ให้ผมทำได้....แม้ไม่พูดตรงๆ...การพยักหน้าของเธอ เหมือนเป็นพลังบวกให้ผม....ผมไม่รอช้ารีบยื่นมือซ้ายไปที่เป้าเธออีกครั้ง...แต่ในครั้งนี้ผมเสียบฝามือสอดเข้าไป ขอบบนกางในสีเนื้อเธอ...แล้วใช้นิ้วกลางถูไปที่กลางครีบหีเธอ...โอ้วววครับ...นิ้วผมสัมพัสไปถึงรอยแยกครีบที่ยาว รวมทั้งฝามือรู้สึกถึงสองข้างแคมที่นูนใหญ่ และขนหมอยที่เต็มอุ้งมือ.....จากนั้นผมงอนิ้วกลางเหย่เข้าไปในรู...ช้าๆ...แล้วคว้านในรูวนไปมา แบบค่อยๆ...เบาๆ....พร้อมกับอายที่ยังหลับตา แล้วพรึมพำในลำคอเบาๆ...."อื้ออ.....อื้ออออ.....อื้อออ...อื้อออ......อื้อออ." ผมได้ยินผมรู้ได้ทันทีว่าอารมณ์เธอกำลังฟินกับสิ่งที่ผมทำ...ต่อเนื่องผมอยากจะทำ ในสิ่งที่ผมอยากจะทำมานาน  นั่นคือขยี้สองเต้านมใหญ่ๆเธอที่อยู่ใกล้แค่เอื่อมผมรีบใช้มือขวาที่กำลังลูบหน้าเธออยู่  ยกมาจับที่หน้าอกอาย แล้วบีบและเค้นทั้งสองเต้า สลับไปมา บนเสื้อนักศึกษา...(สัมผัสแรกบอกได้เลยว่าล้นไม้ล้นมือ)
........และในระหว่างที่บีบเต้านม  ผมก็พยามจะปลดกระดุมตุ้งติ้งเธอด้วยมือขวา.....แต่ไม่สำเร็จ..(เพราะเสื้อรัดตึงมาก)...จู่ๆก็เป็นอายเองที่ลืมตาแล้วใช้สองมือปลดกระดุมออก พร้อมทั้งแหวกเสื้อ และดึงยกทรงสีเนื้อลงไปที่เอว.....โอ้วววครับ.....สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าวินาทีนั้น....สองเต้าของอายใหญ่มาก.....เป็นนมรูปทรงเหมือนลูกบอลเลย์ผ่าครึ่ง  (โคลนสองเต้านม แทบจะเต็มพื้นที่ส่วนหน้าอกเธอ)  รวมทั้งเต่งตึงและขาวแบบไร้ที่ติ....บริเวณใกล้ๆหัวนมสีชมชมพูเม็ดเล็กๆ รายรอบไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีเขียวเต็มไปหมด...ผมก้มมองเสร็จผมไม่รอช้า ใช้ฝ่ามือซ้ายผมจับและนวดคลึงไปทุกจุดของสองเต้าอาย รวมไปถึงใช้นิ้วเขี่ยวไปที่หัวนม (ทั้งแน่นทั้งใหญ่)
..........ในห้วงเวลาที่ผมกำลังนั่งไล่ จกไล่บีบทั้งแยงรูหีทั้งนวดเต้าผม มีหลายจังหวะที่อาย ตัวกระตุกเป็นระยะๆ (เพราะเธอคงเสียว) ผมทำแบบนี้เกือบๆ5นาที  จนในในที่สุด อายก็พูดขึ้นมาว่า " พี่อายขอจูบพี่ได้ใหม?" ผมก็พยักหน้ารับ โดยที่อายดันตัวขึ้นลุกจากตักผม แล้วโถมตัวเข้ามาใช้สองมือคล้องคอผม ในท่านั่งฉีกขางอเข่าทับที่ตักตรงเป้าผม  จากนั้นก็ไล่ไซน์ซอกคอผม ไล่เลียที่แก้มผม จบด้วย การที่เธอแลบลิ้นดันเข้าปากผม โดยที่ผมก็อ้าปากรับ และเราสองคนนั้งใช้ลิ้นตวัดพันกันในช่องปาก.......ความรู้สึกแทบจะบอกว่า เหมือนผมได้ขึ้นสวรรค์ชั้น7 ทั้งดูดทั้งกลืนน้ำลายของกันและกัน...เป็นเวลายาวนาน...
.........จนในที่สุด  ผมและอายก็ชักปากออก โดยที่ผมก็ได้ลุกขึ้น แล้วให้อายเป็นคนนั่งแทนที่ ส่วนผมก็นั่งคุกเข่าที่พื้นวางเท้า  (แม้ที่จะแคบแต่มันไม่ใช่ปัญหาผมในตอนนั้น) จากนั้นก็กระซากกางเกงในสีเนื้ออายลงมากองที่พื้น  แล้วยกขาถอด....ต่อเนื่องด้วยผมก็จับสองข้างอาย ขึ้นไปเหยียบบนขอบเบาะหลังอีกครั้ง แล้วดันต้นขาสองขาอายออกเป็นรูปตัวเอ็ม...(โดยที่เป็นท่านั่งเอนหลังถ่างขา)...โอ้วววครับ....นี่คือทั้งหมด....ส่วนสงวนของเธอ....ที่ถูกปกปิดจากกระโปรงนักศึกษารัดๆสั้นๆ.....รวมทั้งที่ถูกเซฟปกปิด ด้วยกางเกงในสีเนื้อ.....มันได้ปรากฎให้ผมเห็นทุกอย่าง.....จ่อๆตรงหน้าผม.......ภาพที่ผมเห็น ไล่จากหน้าท้องโค้งลงไป เป็นสองครีบหีที่นูนใหญ่ทั้งสองฝั่ง ตรงกลางร่องรอยแยกหีเป็น ขอบรอยหยักรวมไปถึงติ่งเม็ดแตก มีเป็นสีชมพูอ่อนๆ มีรอยสีคล่ำนิดๆบริเวณปลายติ่งเม็ดเต็ด......และมีหมอยสีดำบนหน้าท้องและบริเวณขอบๆโดยรอบ.......แม่เจ้า......ผมรู้สึกว่าเธอ มีของลัพท์ที่ดูน่ากินมากคนหนึ่ง.......(เฟอร์เฟค)...
..........ผมไม่รอช้า ผมอยากจะลิ้มรส ส่วนลับของสงวนของเธอมาก...(อยากมานาน)  ผมรีบใช้ใช้นิ้วโป้งจากมือสองข้าง แบะถ่างครีบหีสองข้างเธอออก แล้วก้มหน้าใช้ปากดูดกินน้ำเงียนปนน้ำเยี่ยวเธอ...ตอนนั้นผมทั้งดูด ทั้งเลีย ทั้งกลืน ในส่วนบริเวณนั้นของอาย  แบบคนกระหาย....โดยที่อายนั่งลูบหัวผม...ค้างในลำคอ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "อื้มมมม.....อื้มมมม.....ซื้ดดด....อื้มมม...ซื้ดดด.....อื้มม...อื้มมมม หื้อออ...หื้ออออ...." ในระหว่างที่ผมลงลิ้น อายก็กระตุกเอวตลอดเวลา เพราะความเสียว...และที่สำคัญ ช่วงที่ผมรัวๆลิ้นถี่ๆ...อายเกร็งตัวหนีบต้นขาอวบๆสองข้าง เธอรัดคอผมแน่น....จนผมรู้สึกเจ็บ ผมจึงรีบชักหน้าออกจากเป้า  ผมมองไปที่อาย หน้าเธอแดงก่ำและหายใจแรง แล้วพูดขึ้นว่า " พี่เลียจนอายเสียว กว่าแฟนเก่าทำชะอีก"  (เธออมยิ้ม) ผมก็ขำในสิ่งที่เธอพูดแล้วตอบเธอไปว่า " ถ้างั้นตอนนี้ พี่ขอ เป็นยารักษาแผลใจอายแล้วกัน ดีใหม? " อายได้ยินก็ถูกใจ รีบคล้องคอผมมาจูบ
............ช่วงเวลานั้น ทุกอย่างลงตัวหมด ไม่มีกำแพงหรือความอาย สำหรับผมและเธอมีแต่ความสุขที่ได้ทำแบบนั้นกัน  และตัวผมก็ได้ปลดกางเกงช่วงล่าง ทุกอย่างออกหมด เหลือแต่ควยที่โด่แข็งชี้ไปที่หน้าอาย  และในตอนนั้นผม อดใจที่จะแทงเข้ารูไม่ไหว มันเกินกว่าที่จะให้เธออม ปลุกอารมณ์อีกแล้ว และผมก็เชื่อว่าอายก็รอควยผมสอดที่รูเธอเหมือนกัน  ตอนนั้นผมจับตัวขายนอนราบไปที่เบาะหลัง ตัวเหยียดตรงและงอขาตังชั้น พร้อมกับถ่างแบะขาออก (โดยในครั้งนี้ผมจะแทงสด ไม่ใส่ปลอก)  และผมขึ้นไปที่เบาะนั่งเข่าใกล้ๆหว่างขาเธอ แล้วจับควยค่อยๆ สอดเข้ารูหีอาย แบบช้าๆ....ค่อยๆกดควยลงไป...พอผมแทงเข้าจนสุดด้าม พร้อมกับอายก็ขมิบเกร็งหีรับ (รู้สึกถึงรูแน่นหีเธอโครตฟิต)  จากนั้นผมก็ค่อยๆโยกเอวแทงช้าๆ  ตามด้วยสองมือผมก็จับเค้นนวดไปที่สองเต้าใหญ่ๆของเธอ ผมโยกเป็นจังหวะเนิบๆ...ช้าๆ...พร้อมกับเสียงพูดเสียงครางในลำคออายก็ดังขึ้นเบาๆว่า.." อ่า....อ่า.....เสียวววว.....อ่าเสียววว.....อ่า...อายเสียวววว.....พี่อายเสียววว...หู้ยยย.....อ่า.....อ่า.....อ่า....ซื้ดดดดด...อ่า...." ตอนนั้นผมจ้องหน้าอายที่หลับตา  อ่าปากครางตลอดๆ   โดยที่ใบหน้าเธอแดงก่ำ
............ช่วงที่ผมนั่งโยกเอวแทงหีอาย แบบช้าๆ เนิบๆ ในท่านั้นได้ซักพัก...ผมรู้สึกผมอยากกระแทกเธอให้แรงกว่านี้....โดยที่ผมเริ่มยกก้นขึ้นสูงและกระแทก อัดแบบเน้นๆ แรงๆ..เสียงดัง ป๊าบๆๆ...จนอายก็พูดขึ้นทันทีว่า "  หยุดแปปค๊ะ เจ็บ พี่ค๊ะอ้ายเจ็บ " ตอนนั้นผมได้ยินผมรีบหยุดทันที แล้วถามกลับว่า " อายเจ็บมากใหม? ใหวใหม พี่ขอโทษ "  เธอก็ตอบว่า "  ตอนแรกก็เจ็บนิดหน่อยค๊ะ  แต่เมื่อตะกี้เจ็บมาก..."  ตอนนั้น ผมรู้ได้ทันทีว่า อายชอบแบบนุ่มนวล เนิบๆ ผมจึงพูดไปว่า " เดี๋ยวพี่จะสอดเบาๆแล้วกัน อายเจ็บก็บอกพี่ได้เลย"  อายก็พยักหน้า  จากนั้นผมก็สอดเข้าไปใหม่ ในครั้งนี้ ผมเน้นความ ละมุนละไมเพราะผมอยากทะนุถนอมอาย  และทำอย่างระมัดระวัง โดยการ ที่ผมนอนทับลงที่ตัวอาย  แล้วค่อยๆโยกตัวช้าๆ  อาศัยแค่แทงแบบดันตัวขึ้นลง  โยกเรื่อยๆแบบไม่รีบเร่ง
.............ด้วยการที่ผมทำแบบนั้น เย็ดแบบช้าๆ ในท่านอนคร่อมตัวอายอยู่  ผมได้มีโอกาสโน้มหัวไปจ้อง ใกล้ๆหน้าของอาย....ภาพเธอในตอนนั้นหน้าแดงก่ำหลับตาเคลิ้ม พร้อมกับครางเสียงเบาๆจากลำคอ...."อ่า...อ่า...อ่า...ซื้ดดด....อ่า....อ่า...อ่า อ่า อ่าอ่าอ่า....อ่า......ซื้ดดด" ตามจังหวะที่ผมเลื่อนตัวแทง.....ในห้วงเวลานั้นผม รู้สึกถึงอารมณ์ของอาย ที่แสดงออกมาถึงความมันส์ ที่รูหีฟิตๆเธอ ได้ถูกควยผมเสียบ และดันเสียดสีในรูสวาทเธอ  ซี่งมันสิ่งที่เธอเคยแล้ว1ครั้ง จากแฟนเก่า ที่เธอเฟ้อรำพันก่อนหน้า.....สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้า ผมไม่แน่ใจว่า คนที่เธอเสียน้ำตา มันคือความรักหรือผูกพัน จริงหรือไม่....หรือว่าแค่เสียดาย คนที่เคยเปิดซิงเธอ  สอนให้เธอได้รู้ซิ้งความมันส์ จากการได้ร่วมเซ็กการโดนเย็ดในครั้งแรก.....อายจะตราตรึงกับการเสียสาวครั้งแรก...จนรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นมีค่า....เพราะช่วงตั้งแต่ที่เธอรับรู้ว่า ตัวผมเริ่มที่จะลวนลามเธอ  อายหยุดที่จะคิดถึงมัน...พร้อมกับเคลิ้มในสิ่งที่ผมทำ และแสดงเจตจำนงค์ชัดเจน  ว่าเธออยากจะโดนเย็ดอีกสักครั้ง เพื่อที่จะให้เธอกลับไปรับรู้ถึงความสูข แบบที่เคยได้รับ
..........พอผมนอนคร่อมตัว แทงอายได้หลายนาที...ยิ่งนานผมยิ่งรู้สึกใกล้จะถึงสวรรค์  โดยเป็นเพราะภาพนั้น ภาพที่น้องอายคนสวย กำลังร้องคราง  เนื้อตัวที่เต็มไม้เต็มมือ และนุ่มทุกสัมผัส...แวดล้อมที่มีเซ็กกันอยู่ ทั้งตื่นเต้นและลุ้น....และที่สำคัญ....คนที่ผมกำลังนอนกระเด้าอยู่  เธอคือน้อง...น้องที่ผมเคยหยอกล้อ....พาไปกิน..พาไปเดินเล่น.....ตอนเธอยังวัยเด็ก....และผมก็รักและเอ็นดูเธออย่างจริงใจ....จากวันนั้น....จนวันนี้.....ผมก็เคยรู้สึกแบบนั้นตลอดก่อนน้านี้........แต่ความเป็นจริงในตอนนี้....วินาทีนี้......ตรงนี้....อารมณ์ที่ผมเป็นอยู่และผมกำลังทำมันอยู่........ไม่มีคำว่าน้อง.....ไม่มีคำว่าลูกสาวสุดที่รัก...ของคนที่เคารพที่ผมนับถือ.......คนที่ผมกำลังนอนทับ....มันมีแต่นักศึกษาสาวใจแตก หุ่นอวบตัวขาว...ใส่ชุดนักศึกษา เสื้อรัดติ๋วกระโปรงสั้นจู๋.....ในวันที่เธออ่อนแอ....ที่เผลอตัวเผลอกาย....โดนควยของคนรุ่นน้าอย่างผมเสียบควยเข้ารูหี......และกำลังมันส์ทั่งร้องเจ็บร้องซื้ด.....โอ้วววครับ....วินาทีที่ผมยิ่งนึกยิ่งอารมณ์ขึ้น ทำให้ผมเองโยกเอวรั่วๆเร็วๆขึ้น....ในขณะที่อายยังหลับตาซื้ดปาก.... และผมสองคนในตอนนี้  ไม่ต้องมีสรรพนามนำหน้า....เธอฉัน...พี่ชาย...แฟน...หรือแม้แต่ผัว....มันมีแค่ชายกับหญิง ที่มีควยกับหี  ที่กำลังจะกันขึ้นสวรรค์ ในการร่วมมีเซ็กกัน แค่นั้นจริงๆ
..........จนกระทั่งผมใกล้น้ำจะแตก  ผมรีบชักควยออกแล้วลุกขึ้น น้ำเว้าผมได้พุ่งออก กระจายไปที่บริเวณหน้าท้องของอาย เลอะไปที่กระโปรงเธอ....โอ้ววครับ....ความเงี่ยนที่ผมมีได้ถูกขับออกไปจากหัวพร้อมกับน้ำเว้า....ภาพที่ผมเห็นอายนอนแผ่ ขาสองเธอตกลงจากเบาะหลัง.....แบบหมดสภาพ....ความนึกคิดชั่วดีผมก็ไหลกลับมาที่เดิม...ผมรีบไปโอบตัวอายขึ้นนั่ง...และรีบเอ่ยปากขอโทษเธอ......ในสิ่งที่ผมทำลงไป...รวมทั้งตัวอายเองก็รู้สึกคลายๆผม  โดยที่เธอก็เอ่ยปากขอโทษผมเหมือนกัน ที่เธอเผลอตัวตามความรู้สึก(เงี่ยน)  ในระหว่างนั้นผมสองคนที่ตาสว่างหลังจากความเงี่ยนที่มาครอบงำได้หายไป ด้วยการที่ผมและอายก็รีบจัดแจงตัวเอง ผมรีบยัดควยเข้าบ๊อกเซอร์และใส่กางเกงตาม อายก็รีบเอาทิชชูที่ท้าวมือเช็ดน้ำเว้าผมออก และดึงยกทรงขึ้นพร้อมทั้งรีบติดกระดุมเสื้อ และดึงกระโปรงลง  พอจัดการต่อเองเสร็จผมกับอายก็รีบออกจากเบาะหลัง ไปนั่งที่เบาะหน้ารถ แทน โดยที่ผมสองคนนั่งนิ่งๆพักแรงกันซักพักใหญ่  ๆ(แบบต่างคนต่างเพลีย)  ในระว่างนั้น ผมและอายก็ไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันอีก แม้แต่จะจับมือ
..........จนกระทั้งผมมามองที่เกย์น้ำมัน ผมรู้สึกว่าผมสองคนอยู่ในรถร่วมเกือบๆ จะ1ซม ที่ทำอะไรกัน จนขีดน้ำมันผมแทบจะถึงตัว f จากที่ก่อนหน้าอยู่ขีดกลางๆ  ผมจึงรีบออกรถเดินทางกลับ โดยที่อายก็นั่งหลับที่เบาะข้างตัวผม  เราแทบจะไม่ได้คุยกัน จนผมส่งอายกลับถึงบ้านญาติ และผมไปถึงหอพักก็นอนหลับเป็นตาย  พอเวลาล่วงมาถึงประมาณ 5ทุ่มของวันนั้นอายก็ได้โทรมาหาผม...และเราก็คุยกัน....และเนื้อหาในการคุย ก็พูดถึงเรื่องตอนสายๆวันนั้น  โดยที่เธอก็บ่นๆว่าเธอเองก็เจ็บที่ช่องคลอดอยู่ และเราสองคนต่างคนต่างคิดในทำนองเดียวกันว่า  ให้รู้กันแค่สองคน และมันเกิดจากความผิดพลาด ต่างคนต่างเกิดอารณ์ชั่ววูบ...ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเดิม..ส่วนที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป  ซึ่งทุกอย่างก็ลงตัว แต่อายก็มีพูดทีเล่นทีจริงให้ผมต้องนั่งเงียบไปหลายวินาที นั่นคือเธอบอกว่า ให้ผมเลิกกับแฟนมาคบกับเธอแทน จะได้มาดูแลเธอทั้งชีวิต....แต่สุดท้ายเธอก็หัวเราะแล้วบอกว่าพูดเล่น....(การพูดเล่นของเธอเกือบทำผมนอนไม่หลับ)
............พอหลังจากวันนั้น...ผมกับอายก็เจอกันที่ทำงาน  ทุกอย่างก็ปกติ อายก็ยังคงยิ้มแย้ม ผมก็ยังคงทำงานต่อไป...เราสองคนเก็บทุกอย่าง ซ่อนมันเอาไว้ใต้จิตสำนึกของอีกโลก...และผมก็ดีใจที่หลังจากวันนั้น เหมือนอายได้เปลี่ยนไปพอสมควร โดยเฉพาะอาการเศร้าซึมกับรักครั้งก่อน แม้ว่าเราจะมีโอกาส และจังหวะที่อยู่กันสองคน เธอเองก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องอาจารย์คนนั้นให้ผมฟังอีก  แต่สิ่งที่ผมรู้สึกอึดอัดใจ  ทุกครั้งวันที่พี่ชิดโทรหาผม ถามไถ่เรื่องอายลูกสาวแก....ผมได้ตอบกลับว่า อายโอเค เธอตั้งใจฝึกงาน และกลับบ้านตรงเวลา และผมก็ดูแลเทคแคร์น้องเป็นอย่างดี  ซึ่งพี่ชิดแกก็สบายใจทุกครั้งที่โทรมาเช็คกับผม....ทั้งๆที่ในความเป็นจริงผมเพิ่งมีเซ็กกับลูกสาวแก แบบที่ถ้าแกรู้และได้เห็นใส่สิ่งที่ผมทำ...(นอนเย็ดลูกสาวแกคารถ)....พี่ชิดคงซ๊อกตายคาที่ 
......จากวันแรกจนถึงวันที่ อายฝึกงานจนครบกำหนดกลับ เวลาเกือบๆ2เดือน  ซึ่งวันสุดท้ายอายก็ได้ใส่ชุดไปรเวท พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า มารับเอกสารใบผ่านการฝึกงาน  ในวันนั้นเป็นผมเองที่รู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าน้องเขาจะกลับเชียงใหม่  โดยที่ผมก็อาสาไปขับรถไปส่งอายในตอนบ่ายๆวันนั้น ตลอดเวลาที่ผมขับรถไปส่ง ผมก็รู้สึกผิดกับอายตลอด ก่อนจะแยกจากกันที่ลานจอดรถ อายก็บอกกับผมว่า  ถ้าปีหน้าเธอเรียนจบ เธออยากให้ผมมาถ่ายรูปรับปริญญาให้เธอด้วย.....ตอนนั้นผมก็รับปากไปว่าให้เธอทักมาได้เลย จะบินไปถ่ายให้ .......แต่ลึกๆผมก็คงไม่ไปอยู่แล้ว....เพราะไม่ใช่ว่าไม่อยากจะถ่ายให้ แต่ความรู้สึกผมลึกๆ...ถ้าเกิดผมมีภาพถ่ายคู่กับอายจริงๆ  วันที่อายรับปริญญาทุกคนที่เห็นรูปนั้น คงจะมองเป็นเรื่องปกติ  เป็นเรื่องน่ายินดี พี่ถ่ายคู่น้อง ในวันที่อายเป็นบัณฑิตใหม่....แต่ความเป็นจริง ที่ผมสองคนต่างรู้ดีว่า  มันจะภาพคู่ของเคยกินกัน เคยได้เป็นผัวเมียชั่วคราว  เคยจับควยเลียหีกัน...และที่สำคัญความเนรคุณที่ผมรู้สึกในใจมาตลอด มันทำใจยากที่จะเสแสร้งแกล้งทำ หลังจากนั้นผ่านมาหลายเดือน ทุกอย่างก็ไม่มีอะไร และมันคงจบลงแค่วันนั้น

นี่คืออีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมเจอและนำมาแชร์ จริงๆผมอยากเล่าก่อนหน้านั้น แต่ผมอยากดูให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรตามมาเพราะผมไม่ใส่ปลอก และผมก็ตั้งใจจะเล่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย เพราะช่วงนี้ผมงานแยอะและก็ไม่ได้เจออะไรที่หวือหวา จนทำให้ผมอยากจะนำมาแชร์ และก็ขอขอบคุณยูสหลายๆคนที่คอยติดตามอ่านที่ผมแชร์  แม้จะแค่หลัก10 คนก็รู้สึกว่ายังคงมีคนชอบที่ผมนำมาแชร์ ถ้าเจออะไรที่ผมรู้สึกอยากจะแชร์ผมจะกลับมาเล่าใหม่
"Thank"






       
         

ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: dome2011 เมื่อ เมษายน 01, 2023, 03:21:56 หลังเที่ยง
เยี่ยมมากเลยครับ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Au Nanma เมื่อ เมษายน 01, 2023, 03:39:36 หลังเที่ยง
อาการเผลอใจเพราะสิ่งแวดล้อมพาไปทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้มานับไม่ถ้วน
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: peddo เมื่อ เมษายน 01, 2023, 03:42:12 หลังเที่ยง
ปลอบใจแบบ หนามยอกเอาหนามบ่ง ดีที่น้องไม่ติดใจให้บ่งแล้วบ่งอีก ไม่งั้นเรื่องน่าจะยาวครับ น้องเขาน่าจะเริ่มต้นใหม่ได้ แตในทางไหนนี่คงต้องปล่อยไป จะแอบติดใจเอาท์ดอร์​ก็ได้ กลายเป็นสายสตรองไป
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: schareon เมื่อ เมษายน 01, 2023, 03:47:43 หลังเที่ยง
เข้าใจเลยครับ บรรยากาศและอารมณ์มันพาไป
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: deamondear เมื่อ เมษายน 01, 2023, 05:31:44 หลังเที่ยง
อ่านได้นิกนึงขอเม้นก่อนเลยฮะ เป็นผมผมก็อาจจะทำเหมือนคุณก็เป็นได้ แต่ก็ดูตามสถานการณ์​ก่อน
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Twow เมื่อ เมษายน 01, 2023, 07:09:57 หลังเที่ยง
 ::Touchy:: คุณยังดี ยังรู้สึกผิด ผมนี่คงไม่
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Otaza เมื่อ เมษายน 01, 2023, 07:50:30 หลังเที่ยง
ญ เขามีใจให้ด้วย ไมไปซ้ำคาชุดครุย เสียดายตายเลย
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: bmaII เมื่อ เมษายน 01, 2023, 07:50:39 หลังเที่ยง
เป็นเรื่องเล่าที่ยังไงก็ยังติดตามต่อ ถึงแม้ว่าจะรอนานก็ยินดีรอ อย่างน้อยก็ได้รับรู้ประสพการณ์ชีวิตเอาไว้เรียนรู้ได้ ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาแชร์ให้อ่าน
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Creader เมื่อ เมษายน 01, 2023, 08:08:53 หลังเที่ยง
บรรยากาศพาไปน้องอายได้เคลียร์แผลใจด้วย
แต่ก็นึกว่าจะมีซ้ำนะเนี่ย
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: myzzr เมื่อ เมษายน 01, 2023, 10:28:50 หลังเที่ยง
ถ้าไม่มีท่านน้องอายคงตัดใจไม่ได้
น่าจะภาคน้องอายรับปริญญาด้วย
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: poppop1 เมื่อ เมษายน 01, 2023, 10:59:24 หลังเที่ยง
ความรักหรือความใคร่ไม่มีคำว่าเนรคุณหรอกครับสำหรับผมนะ เพราะมันเป็นความพึงพอใจของคนสองคน
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Erik เมื่อ เมษายน 01, 2023, 11:50:59 หลังเที่ยง
ชอบนะครับ เรียลดี
กระทั่งมีครั้งเดียวและไม่ต่ออีก
แสดงว่าแค่อารมณ์พาไปจริงๆ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: TUWATAR เมื่อ เมษายน 02, 2023, 02:42:33 ก่อนเที่ยง
คนเรายากที่จะควบคุมอารมณ์ได้
แค่ครั้งเดียวเเล้วหยุดไม่ต่อไปอีกก็ดีเหลือหลาย

ขอบคุณครับ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: 1819 เมื่อ เมษายน 02, 2023, 03:19:08 ก่อนเที่ยง
 เป็นเรา เราก็คิดมากรู้สึกผิดมากแหละ แต่ ช่วงเวลานั้น สตืคว่มผิดชอบชั่วดี  มันไม้ทำงาน สรรหาเหตุผลมาริองรับ ให้ การทำผิดให้เป็นสิ่วที่ต้องทำ    จริงๆ จะคบกันรักกัน ไม่ผิด ถ้าจริงใจต่อกัน พีาชิต ไม่ใช้ปัญหาหลัก  แต่ ปัญหาหลัก คือ ทีแฟนอยู่แล้ว แล้ว ไม้อยากเลิกด้วย  น้องอายเป็นผู้หญิว ก็กระดากแหละ ว่าจะแย่ง แฟนคนอื่น จึงพูด ที่เล่นทีจรืง 
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: swss2511 เมื่อ เมษายน 02, 2023, 07:15:41 ก่อนเที่ยง
ถือเสียว่าช่วยน้องผ่านช่วงที่เครียดคิดไม่ตก
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Kasama.ja เมื่อ เมษายน 02, 2023, 05:20:34 หลังเที่ยง
ตามไปถ่ายรูป...เดี๋ยวนี้ครับ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: Pong Tee เมื่อ เมษายน 02, 2023, 05:38:28 หลังเที่ยง
สุดย๊อด เนื้อหาเร้าอารมย์ดี แต่ทำไมจัดไปดอกเดียว น่าจะจัดหนักให้ลืมรักเก่าก่อนฝึกงานจบ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: therasak เมื่อ เมษายน 03, 2023, 12:01:03 ก่อนเที่ยง
เข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้น  แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว  ก็ได้แต่เก็บเป็นความทรงจำเรื่องหนึ่งในชีวิตว่า ทำอะไรไว้
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: ngern เมื่อ เมษายน 03, 2023, 01:37:02 ก่อนเที่ยง
ท่านมีคุณธรรม​มาก
เป็นผมมีซ้ำแน่นอน
ขอบคุณ​ที่แบ่งปันเรื่องราว
เรื่องเล่าของท่านพิเศษ​จริงๆ ไม่เหมือนใคร
และไม่มีใครเหมือน
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: smilodon1 เมื่อ เมษายน 03, 2023, 09:57:06 ก่อนเที่ยง
มันคงเป็นความรู้สึกอารมณ์พาไปจริงๆ แต่ผู้หญิงถ้าไม่ได้มีใจด้วย ยากมากที่จะเลยไปถึงขั้นกินตับกัน
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: tthonwin เมื่อ เมษายน 03, 2023, 11:28:20 ก่อนเที่ยง
เล่าได้ละเอียดมาก เห็นภาพทุกช๊อต ชอบครับ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: wikky4 เมื่อ เมษายน 03, 2023, 11:38:00 หลังเที่ยง
น่าจะซ้ำอีกหลายครั้งนะ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: อดิศร เมื่อ เมษายน 03, 2023, 11:53:16 หลังเที่ยง
ปูเรื่องได้ดีอ่านแล้วได้อารมณ์สุดๆครับ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: sunnie06 เมื่อ เมษายน 04, 2023, 02:00:05 ก่อนเที่ยง
ครั้งเดียวก็เกินพอ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: gumpxxxx เมื่อ เมษายน 04, 2023, 08:31:57 หลังเที่ยง
ถ้าทำตัวกันปกติ ทั้งคู่ ก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องเป็นกังวลหรือคิดมากว่าเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: ryu เมื่อ เมษายน 05, 2023, 06:00:08 ก่อนเที่ยง
บางครั้งเป็นเรื่องของวาสนาที่มีต่อกันถึงได้มาเจอกันและสัมพันธ์กันครับ
ชื่อ: Re: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: 9toulek เมื่อ เมษายน 09, 2023, 08:59:14 ก่อนเที่ยง
มันคือ ความรู้สึกปลอดภัย สบายใจในช่วงเวลานั้น ทุกอย่างเลยลงตัว
ชื่อ: ต่อ: คนที่ “เนรคุณ”
โดย: tuktong21 เมื่อ มีนาคม 20, 2024, 11:15:12 ก่อนเที่ยง
ขาดไปหลายท่าเลย ไม่มีด็อกกี้