6เดือนที่แล้ว
เอมอรนั่งปั๊มน้ำนมที่หน้าตู้กระจกอยู่นานเพื่อระบายความอึดอัดขนาดลูกกับผัวช่วยดูดคนล่ะเต้าไปเมื่อกี้นี้เผลอแปปเดียว เธอคัดเต้าอีกแล้วหญิงสาวนั่งปั๊มนมจนได้น้ำนมข้างล่ะ6ออนซ์จึงหยุดปั๊มทั้งที่น้ำนมยังไหลอยู่ก่อนที่จะหยิบเอาสำลีชุบน้ำมาเช็ดเพื่อทำความสะอาดหัวนมและลานนม เสร็จแล้วจึงหยิบเอาเสื้อในสีชมพูแบบเปิดเต้าโดยไม่ลืมใส่แผ่นซับน้ำนมเอาไว้ด้านในเพื่อป้องกันน้ำนมไหลซึมเปียกเสื้อ จากนั้นจึงเลือกชุดเดรสกระโปรงสีชมพูอ่อนชายบานแขนสั้นคอวีสไตล์วินเทจมาใส่ ก่อนหมุนตัวหนึ่งรอบหน้าตู้กระจกเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายพร้อมทั้งแต่งหน้าอ่อนๆทาปากบางๆด้วยลิปสติกสีชมพูหวานก่อนแบะคอเสื้อออกเล็กน้อยโชว์เนินอกคัดเคร่งแต่พองาม
"แต่งตัวเสร็จรึยังครับคนสวย"จ่าวิทยาเดินเข้าไปสวมกอดภรรยาคนสวยพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมที่แก้มนวล
"เสร็จแล้วค่ะพี่วิท"เอมอรเอียงคอซบลงที่ไหล่ของสามี
"พูดก็พูดนะเมียพี่แต่งยังไงก็สวยใส่ชุดอะไรก็ดูดีไปหมด"จ่าวิทยาเอ่ยชมจากใจจริง ยิ่งเมียเขามีลูกแล้วทรวดทรงองค์เอวยิ่งสวยงามเต่งตึงตูมตั้งขึ้นไปทุกส่วน โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจที่เบ่งบานจาก33คัพAไป35คัพDและบั้นท้ายผายใหญ่งอนงามจาก36นิ้วเพิ่มไปเป็น38นิ้วที่ใครเห็นเป็นต้องเหลียวหลังมองกันทุกคน
"จริงเหรอคะ"เอมอรยิ้มรับพร้อมกับจีบชายกระโปรงหมุนตัวให้สามีดูหนึ่งรอบ เธอรู้สึกพอใจกับคำชมของสามีเป็นที่สุด
"จริงสิจ๊ะ"จ่าวิทยายืนยันคำพูดของตน
"งั้นเรารีบไปเถอะค่ะ...เอาลูกไปด้วย"เอมอรเร่งสามีพร้อมทั้งเสนอความเห็น
"พี่ว่าเราอย่าเอาลูกไปด้วยเลยนะเอาลูกฝากไว้กับเเม่ของเอมนี่ล่ะ...ลูกหลับแล้วพี่ไม่อยากให้แกสะดุ้งตื่นเพราะเสียงอึกทึกครึกโครม"จ่าวิทยาบอกกับเมียสาว ก่อนจะพากันเดินเคียงคู่ลงมาจากบ้านพักริมทะเลของผู้การสมหมาย
เอมอรรับคำเพราะทั้งเธอและสามีอุตส่าห์ขับรถมาไกลจากบึงกาฬมายังจังหวัดตรังบ้านเกิดของท่านผู้การ เพื่อมาร่วมอวยพรวันเกิดให้ท่าน ทั้งที่เป็นวันลาพักร้อนของสามีเธอ เพราะว่าท่านผู้การเคยมีบุญคุณที่ได้เคยช่วยชีวิตสามีของเธอตอนเรือหลวงอัปปางลงสู่ก้นทะเล ในตอนนั้นสามีของเธอติดอยู่ในซากเรือไม่สามารถหนีออกมาได้ ทันทีที่ได้รับแจ้งท่านผู้การก็รีบขับเรือกู้ชีพออกไปค้นหาด้วยตัวเองท่ามกลางพายุและคลื่นลมแรงทั้งยังกระโดดลงน้ำ ดำลงไปช่วยด้วยตัวเองอีกโดยไม่กลัวตายท่านผู้การได้บอกกับสามีเธอว่า
''ถ้าจะรอดเราก็รอดด้วยกันถ้าจะตายผมในฐานะผู้บัญชาการเรือจะขออยู่กับเรือตายไปเรือเพียงคนเดียว"
ประโยคนี้สามีเธอเคยพูดให้เธอฟังบ่อยๆอย่างภาคภูมิใจ สามีของเธอยังกล่าวยกย่องด้วยว่าท่านผู้การท่านนี้เป็นคนตงฉินซื่อสัตย์สุจริตและเข้าใจหัวอกลูกน้องเพราะท่านก็ไต่เต้ามาจากชั้นประทวนเหมือนกัน
"ถ้าท่านเห็นเอมท่านต้องตกตะลึงแน่ๆ"จ่าวิทยาพูดอย่างตื่นเต้น
"ทำไมเหรอคะ"เอมอรเลิกคิ้วถามสามี
"เพราะเอมของพี่สวยมากยังไงล่ะ...และอีกอย่างท่านก็โสดและไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน"
"แหมพี่วิทย์นี่ก็ยอเอมอีกแล้ว...ตำแหน่งใหญ่โตอย่างท่านสาวๆคงติดกันตรึม"
"ไม่น่ะเอมตั้งแต่คุณนายตายไปท่านก็ไม่เคยแลผู้หญิงคนไหนอีกเลยทั้งที่สาวๆเหล่านั้นต่างเสนอตัวมาให้ท่านตั้งหลายคน"
"สงสัยท่านคงเป็นคนรักเดียวใจเดียวยึดมั่นในรัก...ผู้ชายแบบนี้เอมคิดว่าหายากนะคะ"
"แต่พี่คิดว่าถ้าท่านเจอเอมท่านอาจจะเปลี่ยนความคิดนั้น"จ่าวิทยาพูดพร้อมกับหันหน้ามองผู้เป็นภรรยา
"เรารีบไปกันเถอะค่ะเดี๋ยวงานจะเลิกเสียก่อน"เอมอรพูดตัดบท เมื่อสองผัวเมียเดินลงมาถึงชั้นล่างของตัวบ้านแล้ว ที่มีรถตู้สีดำจอดรอรับทั้งสองอยู่ก่อนแล้ว ทหารที่ทำหน้าที่พลขับบอกว่าท่านผู้การสั่งให้มารับ เอมอรและสามีก้าวขึ้นรถตู้ที่เปิดประตูรออยู่หล่อนรู้สึกขอบคุณและเกรงใจเจ้านายของสามีมากที่ท่านทำเพื่อเธอและสามีขนาดนี้
นั่งรถมาไม่นานก็ถึงบริเวณที่จัดงาน เอมอรและสามีคิดว่าจะรอให้แขกคนอื่นๆไปกล่าวอวยพรและมอบของขวัญให้ท่านผู้การจนหมดทุกคนก่อน เสร็จแล้วจึงจะเข้าไปมอบของขวัญให้ท่านเป็นคนสุดท้าย
"สุขสันต์วันเกิดนะครับท่าน...ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรงอยู่คู่ทัพเรือไปนานๆ"เสียงอวยพรดังกึกก้องไปทั่วบริเวณงานบรรดาเเขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างพากันอวยพรเจ้าของวันเกิดกันอย่างเซ็งแซ่
ผู้การสมหมายขึ้นไปยืนบนเวทีพร้อมกับกล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนที่แขกที่มาร่วมงานทุกคนจะทยอยกันเข้าไปมอบของขวัญให้กับเจ้าของวันเกิด จนถึงคิวของจ่าวิทยาก็ได้เข้าไปมอบของขวัญวันเกิดให้แก่นาวาเอกสมหมายผู้เป็นบังคับบัญชาของเขาเป็นคนสุดท้าย ซึ่งขณะนี้ก็เป็นเวลากว่าเที่ยงคืนแล้วแขกเหรื่อผู้มีเกียรติทั้งหลายต่างทยอยกันกลับบ้านจนหมดคงเหลือแต่จ่าวิทยาและเอมอรเท่านั้น
"ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงอายุมั่นขวัญยืนนะครับท่าน"จ่าวิทยาเข้าไปกล่าวอวยพรผู้การสมหมาย
"จ่าเองก็เหมือนกัน...ผมขออวยพรให้จ่าเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานสมดังที่ตั้งใจเอาไว้"ผู้การสมหมายกล่าวอวยพรตอบพร้อมทั้งหันไปมองดูหญิงสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างจ่าวิทยาอย่างตกตลึง
"เอ่อผู้การครับนี่เอมภรรยาของผมครับ"จ่าวิทยารีบแนะนำภรรยาให้ผู้บังคับบัญชารู้จัก
"สวัสดีค่ะท่าน"เอมอรหลังจากที่สามีแนะนำก็ยกมือไหว้ผู้การสมหมายอย่างนอบน้อมพร้อมทั้งมอบกล่องของขวัญให้แก่เจ้านายของสามี
"สวัสดีครับ"ผู้การสมหมายรับไหว้พร้อมทั้งยื่นมือไปรับกล่องของขวัญ จากเมียของลูกน้อง เขาอดที่จะมองที่ใบหน้าหวานหมดจดของเมียลูกน้องไม่ได้ เขาไม่นึกเลยว่าเมียของลูกน้องจะสวยขนาดนี้ ยิ่งยามที่หญิงสาวก้มลงไหว้เขานั้นเนินอกอวบใหญ่ที่โผล่พ้นเสื้อคอวีนั้นยิ่งแลดูขาวผ่องเป็นยองใยจนแลเห็นเส้นเลือดฝอยสีเขียวๆเส้นเล็กๆกระจายอยู่ทั่ว ทรวงอกทั้งสองที่เบียดชิดกันแน่น
การที่ผู้การสมหมายยื่นมือไปรับของขวัญจากมือเมียของลูกน้องด้วยมืออันสั่นเทาทำให้นิ้วมือของเขาไปสัมผัสเข้ากับหลังมือของหญิงสาวโดยไม่ตั้งใจ ราวกับโดนกระแสไฟฟ้าช็อตทั้งสองร่างต่างตกอยู่ในภวังค์ เอมอรเองก็ไม่สามารถที่จะดึงมือออกจากการเกาะกุมของเจ้านายของสามีได้ ส่วนผู้การสมหมายเองก็ไม่สามารถปล่อยมือที่กำลังเกาะกุมได้เช่นกัน
"เอมๆ..."จ่าวิทยา เมื่อเห็นอาการของทั้งคู่ก็ได้ร้องเรียกชื่อเมียสาวของตนเอง
"อะ...อ๊ะ.." เอมอรเองหลังจากตื่นจากภวังค์ก็ได้เผลอปล่อยมือจนของขวัญหลุดมือล่วงหล่นลงพื้น ก่อนจะรีบก้มลงไปเก็บในขณะเดียวกันผู้การสมหมายเองก็ได้ก้มลงไปด้วยเช่นกันจนศรีษะและหน้าของหนุ่มใหญ่และหญิงสาวคราวลูกเกือบจะชนกัน ทั้งสองหยุดมองสบตากันนิ่งใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซนต์
เอมอรพอได้สติก็ก้มหน้าหลบสายตาเจ้านายของสามี
ส่วนผู้การสมหมาย กลับใช้สายตาสำรวจเรือนร่างของเมียลูกน้องตั้งแต่เส้นผมผ่านใบหน้ามองต่ำลงไปจนไปหยุดอยู่ที่เนิมอูมนูนเด่นที่ถูกปกปิดโดยกางเกงชั้นในสีชมพูลายลูกไม้บางเบาจนแลเห็นกลุ่มขนดกดำเป็นแพ เพราะกระโปรงที่สั้นของเจ้าหล่อนมันร่นขึ้นจนไม่สามารถปกปิดความอวบอูมเอาไว้ได้เขาจึงรีบเก็บภาพก่อนที่หญิงสาวจะทันรู้ตัว
เอมอรมองเห็นสายตาของผู้การสมหมายที่จ้องมองเนินสาวของตนเองก็ให้รู้สึกเขินอายจนต้องรีบลุกขึ้นยืนขึ้นโดนไม่ได้เก็บกล่องของขวัญแต่อย่างใด หญิงสาวบอกกับตัวเองว่านอกจากสามีแล้วเธอไม่เคยหวั่นไหวหรือสะเทิ้นอายต่อสายตาของชายใดมาก่อน แต่นี่หล่อนกำลังรู้สึกหวั่นไหวหัวใจเต้นรัวราวกับกลองนับร้อยใบ