" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.20 : การลาออกและเพื่อนใหม่หลังจากเหตุการณ์มหาวิปโยคในวันนั้นผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ภายในห้องผู้อำนวยการฝ่ายของผม
"เติม ตัดสินใจดีแล้วเหรอ พี่กำลังจะโปรโมทเธอแทนพี่ต้อยที่เค้าไปไปเป็นหัวหน้าทีมใหม่แล้วนะ" พี่แดง ผู้อำนวยการฝ่ายคนใหม่ของผม เอ่ยบอก
"ครับพี่ ขอบคุณครับ แต่ผมคงต้องลาออกเผอิญที่บ้านให้ไปช่วยน่ะครับ"
ผมยกเหตุผลมั่วๆขึ้นมาอ้างกับพี่แดง ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ผมจะคุยอีกสักพักก่อนจะออกจากห้องทำงานของพี่แดง ออกมา
"เติม เกิดอะไรขึ้น"
เป็นคำถามที่ทุกคนในฝ่ายเอ่ยถามแบบเดียวกัน เมื่อรู้ข่าวว่าผมกำลังจะลาออก ตลอดทางขณะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของผม
แต่มีเพียงคนเดียวในฝ่าย ที่ไม่มีอาการใดๆ พี่จิว ที่นั่งเงียบไม่พูดจาอะไร
ขณะที่พี่มน เมื่อทราบข่าวจากที่ผมบอกเธอไปก็ตกใจไม่แพ้กัน หลังจากเธอไปเริ่มต้นงานใหม่ที่บริษัทเจดีย์พอร์แกนได้กว่าสักพักแล้ว
.
.
.
ตลอดร่วมสองสัปดาห์ที่ผมต้องรอให้ใบลาออกของผมมีผลนั้น มันนานจนเกิดข่าวลือว่าผมทะเลาะกับพี่จิว อย่างรุนแรงจนผมต้องลาออกจากกงาน โดยคงมีคนที่รู้เรื่องจริงแค่สี่คนเท่านั้นในตอนนี้
เวลา 17:01 น.
ณ วันสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทแห่งนี้ร่วมแปดปีจนเข้าวัย 32 ปีนั้น ผมผ่านเหตุการณ์อะไรมากมาย จนมาวันนี้ผมก็เดินออกมาอย่างโล่งใจ ผมตัดสินใจไปลาพี่จิว อีกครั้งตามวิสัยของผู้เป็นลูกน้องและรุ่นน้องที่ดี
"พี่จิว ครับผมลานะครับ" ผมเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เธอกำลังเซ็นต์งานอยู่
"อืม โชคดี แล้วกันนะ" พี่จิว เอ่ยมาสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าลงเซ็นต์งานต่อ
สิ้นคำพูดของพี่จิว ผมก็หันหลังเดินออกไปจากฝ่ายและจากชีวิตพี่จิว ไป
zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz
หลังจากผมที่ได้ลาออกจากบริษัทมา เป็นความโชคดีของผมที่ทางครอบครัวผมซื้อคอนโดเงินสดไว้โดยไม่ต้องมีภาระผ่อนไว้ปล่อยเช่าอยู่หลายห้องทำให้ทางพ่อแม่ของผมแบ่งมาให้ผมดูแลอยู่3ห้อง ทำให้ผมมีรายได้ต่อเดือนพอๆกับสมัยยังทำงานอยู่ทำให้ผมไม่รู้สึกรีบร้อนที่จะหางานทำใหม่ จนกลายเป็นความเคยชินจนในที่สุดผมเลยล้มเลิกที่จะทำงานประจำไปเลยโดยปริยาย โดยแต่ล่ะวันนั้น ผมจึงมีเวลาว่างมากมายในการทำอะไรต่างๆ โดยกับพี่มน นั้นผมก็ยังติดต่อคบหาอยู่โดยเธอทำงานประจำที่บริษัทแห่งใหมืที่เธอทำอยู่อยู่เพียงคนเดียว จากการที่ผมมีเวลาว่างมากขึ้นทำให้ผมมีเวลาได้เปิดโลกของผมผ่านการท่องโลกออนไลน์จนได้พบกันคนสองคนที่ช่วยเปิดโลกอีกด้านของชีวิตให้ผมขึ้นมาใหม่อีกใบหนึ่งเลยทีเดียวผ่านด้นดาร์คไซด์ต่างๆ คือ
พี่เหลียง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่วัยเกือบห้าสิบปี ที่เบื้องหน้าดูเป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่งแต่เบื้องหลังกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการสีเทาถึงอยู่หลายวงการ รวมไปถึงวงการสวิงกิ้ง ที่เขาถึงกับเป็นเจ้าชองเว็บบอร์ดของวงการนี้รายใหญ่ในประเทศเลยทีเดียวรวมทั้งในเทเลแกรมและดิสคอร์ด และด้วยความบังเอิญที่ผมได้คุยกันและรู้จักกันผ่านอีเมล์จนถึงกับสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนเกินควรเลยทีเดียว ในขญะที่อีกส่วนอีกหนึ่งคนที่ผมพบเจอเธอเป็นสาวนักศึกษาจากต่างจังหวัด คนหนึ่งที่เข้ามา กทม เพื่อเรียนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยระดับติดท๊อปทรีในประเทศ แต่กลับได้เข้าสู่วงการ SL ในเว็ปบอร์ด TAMMAHAGIG ที่พี่เหลียง ดูแลอยู่จนผมได้มาเจอเธอจากการ PM ไปทักทายกันจนสนิทสนมนั่นเอง เธอที่ชื่อ หมิง สาววัย18 จากที่จังหวัดรอบนอกในภาคกลาง จริงๆแล้วนั้นทางบ้านของเธอฐานะก็ดีเลยแต่ด้วยสังคมมหาวิทยาลัยในปัจจุบันจนทำให้เธอต้องขวนขวายหาทั้งไอโฟน หลุยวิตตอง หรือของแบรนด์เนมอื่นๆ มาใช้โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนทางบ้าน ผมที่ได้รู้จักและคุยกับเธอยู่สักพักด้วยความงุ่นง่านใช้หัวล่างคิดมากกว่าหัวบนของผม ในช่วงสายของวันหนึ่งผมจึงเอ่ยนัดพบเธอในเรท 1,500 บาท ซึ่งนับเป็นการเที่ยวผู้หญิงในแวดลง SL แบบนี้ครั้งแรกในชีวิตของผมเลยทีเดียว หลังจากนั้นตกบ่ายวันผมก็ขับรถออกไปรับเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยของเธอ หลังจากที่ได้มานัดเจอกันกลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองถูกอัธยาศัยกันโดยไม่คาดฝันวันนั้นแทนที่จะไปโรงแรมกันกับกลายเป็นไปสั่งอาหารทะเลสุดหรูหิ้วกันไปกินที่
อพาร์ทเมนต์ที่เธอเช่าอยู่แทน โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ร้องขออะไรเลยกับผมโดยที่วันนั้นจบด้วยมื้ออาหารภายในอพาร์เมนท์ของเธอโดยผมก็ไม่ได้ร่วมรักกับเธอเลยแต่อย่างใด จนเวลาอีกหลายเดือนผ่านไปเราทั้งสองกลายมาเป็นพี่น้องท้องชนกันในเวลาต่อมาไปโดยปริยาย บางครั้งบางวันด้วยที่เวลาผมค่อนข้างว่างมากในแต่ล่ะวันจนผมก็จะไปนอนเล่นที่ห้องของเธอในวันที่เธอไม่มีเรียนหรือในบางวันถ้าเธอเรียนบ่ายตอนเช้าผมก็ไปหาตอนสายๆนอนเล่นรอเธอแต่งตัวเพื่อผมจะไปส่งเธอที่หมาวิทยาลัยชื่อดังแถวกลางเมืองและแน่นอน ผมก็ได้ร่วมรักกับเธอถึงจะไม่ได้บ่อยๆ นักก็ตามโดยทุกครั้งนั้นเธอไม่เคยเรียกร้องเงินจากผมเช่นเดิม เราสองคนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทำไมเหมือนกันจนวันหนึ่งผมจึงได้รู้เหตุผลหลังจากรู้จักเธอได้ร่วมหนึ่งปี
.
"พี่อยากเอาแล้วอะ ได้ไหม"
"ได้ซิ พี่ลูกค้านี่" เธอเอื้อมไปหยิบถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักมายื่นให้ผม ผมเห็นผ่าน ๆ เหมือนเธอจะซื้อมาเก็บไว้เยอะอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ผมรับถุงยางมาแล้วรีบสวมมันเข้ากับท่อนลำของผมที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอ ผมดึงตัวเธอให้ล้มลงมานอนทับบนตัวผม เนื้อตัวของ หมิง นั้นเรียบเนียนด้วยวัย 19 ปีเต็ม ร่างกายของเธอจึงแน่นเหมือนสาวๆ
.
.
เธอขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนด้วยหมิง ที่คร่อมผมอยู่ ก่อนที่เธอจะจับท่อนลำของผมไปจ่อเข้ากับร่องสวาทของเธอ เธอเขี่ยมันอยู่สักพักก่อนที่จะทิ้งตัวลงกดสะโพกจนของผมถูกกลืนหายเข้าไปในตัวเธอทั้งท่อนลำ ขนาดมีน้ำสวาทหล่อลื่นอยู่มากก็ยังตอดรัดเป็นอย่างดีด้วยสาววัย 19 ปี จนผมรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาหน่อย ๆ
เธอร่อนเอวราวหญิงผู้มากประสบการณ์สวาท ผมที่มองเห็นเธอโยกบั้นท้ายพริ้วไหวราวฉลามล้อคลื่นร่ายรำอยู่บนตัวจากมุมล่างก็ได้เอื้อมมือขึ้นไปจับเต้าอวบของเธอที่มีหัวถันเล็กๆไม่เกินปลายก้อยมันช่างไม่สมส่วนกับขนาดเต้าทั้งสองของเธอเลย ผมที่บีบเคล้นเต้าทั้งสองของเธอคลึงเล่นไปด้วยอย่างมันมือ เธอร่อนเอวไปมาแบบนั้นอยู่พักใหญ่จนเธอคงเริ่มเมื่อย หมิง ค่อย ๆ ก้มตัวลงมากอดผมช่วงบนของพวกเราทั้งคู่แนบชิดติดกันไปทุกส่วน เอวของเธอเริ่มบดช้า
ผมเอื้อมมือไปโอบกอดเธอ แผ่นหลังของเธอเรียบเนียนลื่นนิ้วและฝ่ามือของผมเป็นอย่างดี ผมจูบปากและสอดลิ้มแลกกลับมือทั้งสองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย กลิ่นกายปนน้ำหอมราคาแพงโชยต้องจมูกจนรู้สึกผ่อนคลายและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน ในเวลานี้ผมอยากที่จะนอนรอให้เธอทำอยู่ฝ่ายเดียว
"อ๊า"
เธอเริ่มหลุดครางเป็นคำและเสียงดังขึ้น ยิ่งผมกดอัดท่อนลำสวนขึ้นแรงเท่าใดเสียงตอบรับกลับก็ยิ่งดังเท่านั้น ท่อนลำของผมเข้าออกไปมารวดเร็วและรุนแรงราว อารมณ์ของเราทั้งสองอยู่ในจุดสูงสุด จนลืมความกินแหนงแคลงใจไปที่ผ่านมาไปอย่างรวดเร็วจนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นทั้งเธอและผมก็ได้ถึงจุดสุดยอดไปด้วยพร้อม ๆ กับ เอวของผมกระตุกบีบพ่นน้ำกามไปจนเต็มถุง ส่วนเธอนั้นกระตุกเกร็งไปทั้งตัวพร้อมกับกอดจิกแผ่นอกผมไว้อย่างไม่วางมือ
"รู้สึกดีไหม หายงี่เง่าได้หรือยัง คุณพี่เติม" หมิง เอ่ย
"..................."
"ถึงพี่จะช่วยอะไรหมิง ไม่ได้มากแต่พี่จะพยายามช่วยเท่าที่พี่ทำได้นะ"
ผมเอ่ย
ก่อนที่หมิง จะเอ่ยตอบกลับมา
"โถ่ ไม่เป็นไรหรอกพี่ ปัญหาของหมิง เรื่องแค่นี้สบายแต่พี่อย่าทำตัวมางี่เง่ากับหมิง แบบเมื้อกี้อีกก็พอ"
ผมที่ได้ยินก็เงียบไปพลางเกิดอารมณ์โมโหพลั่งพรูมาอีกครั้งในถ้อยคำที่หมิง เอ่ยออกมา พอดีกับที่เสียงเตือนชั่วโมงดังขึ้น
ผมออกมาจากร้านมาโดยจ่ายค่าบริการทำพิเศษในแบบร้านทั่วไปให้หมิง ไปจนหมดกระเป๋าของผมเลยกว่าแปดพันบาท จน หมิง ถึงกลับ งง พลางเอ่ยขึ้น
"นี่พี่เติม จะทิ้งทวนไม่มาเจอหมิง อีกแล้วใช่ไหม ให้ประชดมาแบบนี้"
ผมที่ได้ยินก็ไม่ตอบเธอ พลางเดินออกจากร้านนวดไปเลย แล้วผมก็ตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ จะเหมือนกับตอน อร ก็ไม่ใช่ เหมือนตอน พิงค์ ก็ไม่เชิง ผมที่สับสนเช่นนั้นจนขับรถกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น
.
.
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ภายในห้องนอนบนเตียงที่ผมกำลังนอนคิดทบทวนเรื่องราวในวันนี้อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์เครื่องหลักของผมก็ดังขึ้น
"ตี้ดๆๆๆๆ"
เป็น พี่มน ที่เธอโทรมาหาผม หลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน
"ว่าไงวันนี้มากี่โมง แม่ เพิ่งกลับมา มีซูชิ มาให้ด้วย"
ผมเอ่ยถามตามปกติเพราะ พี่มน หลังเลิกงานเธอจะแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผมก่อนจะกลับไปนอนที่คอนโดของเธอแบบนี้ทุกวัน
"เอ่อ มนคงไม่ไปหานะวันนี้ เติม มน" เธอเอ่ยก่อนจะพูดต่อ
"มีเรื่องจะปรึกษาอะไรหน่อยซิ"
.
.
.
.
"ครืดดดดด"
เสียงระบบสั่นจากโทรศัพท์และไฟวาบขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนบนโต๊ะข้างเตียงของผม
ผมที่เห็นก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องนั้นของผมที่ใช้สำหรับใช้งานในโลกคู่ขนานอีกใบของผมที่ไม่มีใครจะรู้ถึงตัวตนของโทรศัพท์เครื่องนี้ที่ภายในโทรศัพท์นั้นมีแอฟพลิเคชั่นไว้ติดต่อกับคนในอีกโลกอีกใบของผมเช่น พี่เหลียง หรือ หมิง ทางโลกฝั่งดาร์คไซด์ของผมมา ปรากฎว่าเป็นข้อความไลน์จาก หมิง ดังขึ้น
"ตกลงจะไม่เจอกันแล้วใช่ไหม พี่เติม"
".................."
ผมเปิดอ่านแต่ไม่ตอบอะไร หมิง กลับไปจนผ่านไปสักพักอีกข้อความก็เข้ามาต่อ
"ติ้ง"
เป็นข้อความไลน์จากหมิง เช่นเดิม ผมเปิดอ่านอีกครั้ง
"นี่ หนูจะบอกพี่ตามมารยาทที่เคยสัญญากับพี่ไว้แล้วกันนะถ้าพี่จะเงียบแบบนี้ หมิง เรียนจบแล้วนะ เกรดตัวสุดท้ายเพิ่งออก ตกลงหนูได้เกียรตินิยม นะตามที่เคยคุยกันหนูได้ 3.91 นะ เดี๋ยวจะหาว่าหนูๆไม่บอกพี่ บายค่ะ"
หลังจากที่อ่านไป ผมก็พิมพ์ข้อความกลับไปหา หมิง
"พี่ดีใจด้วยนะ"
ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงแล้วปล่อยมันไว้แบบนั้น
.
.
.
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ทำไมมีแต่เรื่อง สงสัยต้องผันตัวทำตัวเทาๆแล้ว
น่ามีอะไรแล้ว
หรือว่าเธอจะมีซ่อนไว้หลายคน มันจะมาเจอกันชนกันนะ
เติมเราคง เรื่อยๆกับสาวที่เข้ามาในชีวิต สงสัยอยากมีสาวรัสเซีย หรือ จีนบ้างครับ เติมว่างจัง
มนมีเรื่องปรึกษานี่จะเป็นเรื่องดีๆหรือป่าว
ดวงคนจะโดนสวมเขาตลอดเลยนะ
มนมีอะไรจะคุยกับเติมอีกมั่ยนะ
เรื่องดีๆ น่าจะไม่
เติมไม่ต่อยดูแลมนเลยนะ
เติม เจอทางที่ชอบหรือยัง เด็กมีให้เลือกเยอะเลย
จากคนอายุมากกว่า ในที่สุดก็ดีน้องหมิงเด็กกว่าโผล่มา เสียดายว่าดันเป็น SL นี่แหละ
มีแต่เรื่องแฮะดวงตกป่าวนี่
พี่จิวกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเก่าซะแล้ว แล้วเติมก็มาเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่
สงสารพี่จิวที่ต้องขาดคนรู้ใจ
อ้างจาก: schareon เมื่อ มีนาคม 14, 2024, 08:53:38 ก่อนเที่ยงพี่จิวกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเก่าซะแล้ว แล้วเติมก็มาเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ไม่กลับก็บ้านแตกซิครับ ::Horror::
จะเปลี่ยนแนวใหมนี่
ดูแล้วน่าจะถูกสาวบอกเลิกอีก
ลึกๆพี่จิวคงรู้สึกอะไรบ้างแหละ ทำไมมีแต่เรื่องหละเนี่ย
ทำตัวดี เกินไป ก็แบบนี้แหละ แต่บางคนเราก็หวังดี จนทำร้ายเค้าไม่ลงเหมือนกัน
อยู่กับโลกสองใบนี่เหนื่อยมากๆเลยนะเติม
หวังว่าคงไม่เข้าสู่ดาร์กโหมดนะ
เริ่มเรื่องอีกแล้ว บุญเติม
พี่มนบอกมีเรื่องจะปรึกษาทำให้คิดไปไกลเลยคือคิดว่าพี่มนจะขอคบคนใหม่
อ่านแล้วงงๆว่าขัดใจเรื่องอะไร
สังคมพามาอยู่ในพื้นที่สีเทาๆซะได้
เสียดายพี่จิวจัง นึกว่าจะลงหลักปักฐานกับพี่มนแล้วซะอีก
ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสาวสวยอีกคนแล้ว น้องหมิงจะถึงใจเหมือนสาวใหญ่ไหม
สงสัยจะมีคนติดใจเพิ่มแน่ๆๆ
อ้างจาก: bumblebee81 เมื่อ มีนาคม 14, 2024, 11:12:42 ก่อนเที่ยงอ่านแล้วงงๆว่าขัดใจเรื่องอะไร
ในเรื่องมีบอกที่มาที่ไปเรื่องความรู้สึกของเติมตรงนี้อยู่เลาๆอยู่นะครับ ::Thankyou::
ชีวิตอาจจะมีอะไรมากขี้นได้เจออะไรใหม่ๆ
เปิดประสบการณ์ใหม่ด้านมืดของนายเติม
พี่มล น่าจะมีคนใหม่แน่ๆ
น่าโดนสวมเขาอีกแล้ว
หรือว่าเติมจะโดนแฟนทิ้งอีกแล้ว
แล้วทำไมถึงไม่เอาหมิงนะหนีหมิงซะงั้นเลยงงแท้เหลา
ชีวิตนี้ ช้ำใจอีกแล้ว พี่มนจะจากไปป้าวนะ
พี่เติมเตรียมอำลาไปไหนหรือ
ออกมาง่ายๆ สงสารใครหลายคนเลย
ได้เปิดโลกใหม่อีกใบ สนุกเลยครับ
งานนี้มันอะไร ยังไงกันหว่า
ทั้งพี่มน ทั้งสาวหมิงเลยเนาะ
ขอบคุณครับ
ตอนนี้ ดาวน์เป็นชุดเลย คุณเติม
เหมือนชีวิตจะวุ่นวายงานเข้านะ เริ่มใหม่ก็ดีนะ... เซตซีโร่เลย...
กว่าจะหาคนรู้ใจอย่างมนก็ยากนะ
เรื่องน่าอ่านดี
ขอบคุณครับ
ชีวิตแบบนี้
ใครเอาใจลงไปเล่น
ก็เจ็บก่อน
เป็นผมจะจัดหนัก
พี่มาด ก็ไม่ธรรมดาอยู่นะ
มาติดใจน้องได้ยังไง
พี่มนดูแปลกๆนะ
มันต้องมีเบื้องหลัง แน่ ๆ
มีอะไรอีกน้อ
เติม จะเข้าสู่ด้านมืด มั้ย
มนดูแปลกๆแฮะ
แอบงงกับหมิง ทำไมดูสัมพันธ์แบบแปลก
นายเติมมีแต่ปัญหา น่าปวดหัวจัง
ได้เวลาลองเด็กสาวบ้างแล้ววว เปลี่ยนรสชาติบ้าง
เติมเริ่มใหม่มีเรื่องราวใหม่ๆๆติดตามครับ
มนจะมีแฟนใหม่เลิกคบมั้ยนั่น
จะมีรีเทินไหมน้อ
อิจฉาเติม โชคดีมาก แล้วมนจะยังไงต่อน้อ
น่าทำตัวเทาเทาตามบ้าง
เติมผู้จัดยกบริษัทเลย
พี่มนจ่ะมีคนใหม่รึเปล่า
ได้จัดสดหมิงมั่งมั้ยนี่ อิอิ
นายเติม ไม่สมควรมีใคร ขนาดออกมาจากบ .มีมนดีๆก็ไม่หยุด แค่คบแก้ขัด ขนาดเจอเรื่องจิวกับผัว เติม ยังไม่สำนึก ส่วนมนที่มีเรื่องจะคุย แวว ว่า มน มีคนใหม่แล้ว เปลี่ยนที่ใหม่สังคมใหม่คนใหม่ แถมเติมไม่ใส่ใจ และไม่หยุดด้วย มนจะเลี้ยวก็ไม่แปลกไม่โทษ มน ด้วย คบคนแบบนายเติม ไร้ อนาคต เติมควร เหมาะ ในวงการสวิงเป็นชายเดี่ยว หรือ ขายน้ำไปซะ
อ้างจาก: wgis เมื่อ มีนาคม 15, 2024, 01:02:07 ก่อนเที่ยงเติมผู้จัดยกบริษัทเลย
อ้างจาก: wgis เมื่อ มีนาคม 15, 2024, 01:02:07 ก่อนเที่ยงเติมผู้จัดยกบริษัทเลย
แค่ฝ่ายตัวเองก็เล่นเอาต้องลาอออกแล้ว ถ้ายกบริษัทไม่ตายเอาเหรอ ::Sweat::
อ้างจาก: bigaud เมื่อ มีนาคม 14, 2024, 03:52:03 ก่อนเที่ยง" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.20 : การลาออกและเพื่อนใหม่
หลังจากเหตุการณ์มหาวิปโยคในวันนั้นผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ภายในห้องผู้อำนวยการฝ่ายของผม
"เติม ตัดสินใจดีแล้วเหรอ พี่กำลังจะโปรโมทเธอแทนพี่ต้อยที่เค้าไปไปเป็นหัวหน้าทีมใหม่แล้วนะ" พี่แดง ผู้อำนวยการฝ่ายคนใหม่ของผม เอ่ยบอก
"ครับพี่ ขอบคุณครับ แต่ผมคงต้องลาออกเผอิญที่บ้านให้ไปช่วยน่ะครับ"
ผมยกเหตุผลมั่วๆขึ้นมาอ้างกับพี่แดง ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ผมจะคุยอีกสักพักก่อนจะออกจากห้องทำงานของพี่แดง ออกมา
"เติม เกิดอะไรขึ้น"
เป็นคำถามที่ทุกคนในฝ่ายเอ่ยถามแบบเดียวกัน เมื่อรู้ข่าวว่าผมกำลังจะลาออก ตลอดทางขณะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของผม
แต่มีเพียงคนเดียวในฝ่าย ที่ไม่มีอาการใดๆ พี่จิว ที่นั่งเงียบไม่พูดจาอะไร
ขณะที่พี่มน เมื่อทราบข่าวจากที่ผมบอกเธอไปก็ตกใจไม่แพ้กัน หลังจากเธอไปเริ่มต้นงานใหม่ที่บริษัทเจดีย์พอร์แกนได้กว่าสักพักแล้ว
.
.
.
ตลอดร่วมสองสัปดาห์ที่ผมต้องรอให้ใบลาออกของผมมีผลนั้น มันนานจนเกิดข่าวลือว่าผมทะเลาะกับพี่จิว อย่างรุนแรงจนผมต้องลาออกจากกงาน โดยคงมีคนที่รู้เรื่องจริงแค่สี่คนเท่านั้นในตอนนี้
เวลา 17:01 น.
ณ วันสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทแห่งนี้ร่วมแปดปีจนเข้าวัย 32 ปีนั้น ผมผ่านเหตุการณ์อะไรมากมาย จนมาวันนี้ผมก็เดินออกมาอย่างโล่งใจ ผมตัดสินใจไปลาพี่จิว อีกครั้งตามวิสัยของผู้เป็นลูกน้องและรุ่นน้องที่ดี
"พี่จิว ครับผมลานะครับ" ผมเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เธอกำลังเซ็นต์งานอยู่
"อืม โชคดี แล้วกันนะ" พี่จิว เอ่ยมาสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าลงเซ็นต์งานต่อ
สิ้นคำพูดของพี่จิว ผมก็หันหลังเดินออกไปจากฝ่ายและจากชีวิตพี่จิว ไป
zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz
หลังจากผมที่ได้ลาออกจากบริษัทมา เป็นความโชคดีของผมที่ทางครอบครัวผมซื้อคอนโดเงินสดไว้โดยไม่ต้องมีภาระผ่อนไว้ปล่อยเช่าอยู่หลายห้องทำให้ทางพ่อแม่ของผมแบ่งมาให้ผมดูแลอยู่3ห้อง ทำให้ผมมีรายได้ต่อเดือนพอๆกับสมัยยังทำงานอยู่ทำให้ผมไม่รู้สึกรีบร้อนที่จะหางานทำใหม่ จนกลายเป็นความเคยชินจนในที่สุดผมเลยล้มเลิกที่จะทำงานประจำไปเลยโดยปริยาย โดยแต่ล่ะวันนั้น ผมจึงมีเวลาว่างมากมายในการทำอะไรต่างๆ โดยกับพี่มน นั้นผมก็ยังติดต่อคบหาอยู่โดยเธอทำงานประจำที่บริษัทแห่งใหมืที่เธอทำอยู่อยู่เพียงคนเดียว จากการที่ผมมีเวลาว่างมากขึ้นทำให้ผมมีเวลาได้เปิดโลกของผมผ่านการท่องโลกออนไลน์จนได้พบกันคนสองคนที่ช่วยเปิดโลกอีกด้านของชีวิตให้ผมขึ้นมาใหม่อีกใบหนึ่งเลยทีเดียวผ่านด้นดาร์คไซด์ต่างๆ คือ
พี่เหลียง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่วัยเกือบห้าสิบปี ที่เบื้องหน้าดูเป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่งแต่เบื้องหลังกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการสีเทาถึงอยู่หลายวงการ รวมไปถึงวงการสวิงกิ้ง ที่เขาถึงกับเป็นเจ้าชองเว็บบอร์ดของวงการนี้รายใหญ่ในประเทศเลยทีเดียวรวมทั้งในเทเลแกรมและดิสคอร์ด และด้วยความบังเอิญที่ผมได้คุยกันและรู้จักกันผ่านอีเมล์จนถึงกับสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนเกินควรเลยทีเดียว ในขญะที่อีกส่วนอีกหนึ่งคนที่ผมพบเจอเธอเป็นสาวนักศึกษาจากต่างจังหวัด คนหนึ่งที่เข้ามา กทม เพื่อเรียนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยระดับติดท๊อปทรีในประเทศ แต่กลับได้เข้าสู่วงการ SL ในเว็ปบอร์ด TAMMAHAGIG ที่พี่เหลียง ดูแลอยู่จนผมได้มาเจอเธอจากการ PM ไปทักทายกันจนสนิทสนมนั่นเอง เธอที่ชื่อ หมิง สาววัย18 จากที่จังหวัดรอบนอกในภาคกลาง จริงๆแล้วนั้นทางบ้านของเธอฐานะก็ดีเลยแต่ด้วยสังคมมหาวิทยาลัยในปัจจุบันจนทำให้เธอต้องขวนขวายหาทั้งไอโฟน หลุยวิตตอง หรือของแบรนด์เนมอื่นๆ มาใช้โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนทางบ้าน ผมที่ได้รู้จักและคุยกับเธอยู่สักพักด้วยความงุ่นง่านใช้หัวล่างคิดมากกว่าหัวบนของผม ในช่วงสายของวันหนึ่งผมจึงเอ่ยนัดพบเธอในเรท 1,500 บาท ซึ่งนับเป็นการเที่ยวผู้หญิงในแวดลง SL แบบนี้ครั้งแรกในชีวิตของผมเลยทีเดียว หลังจากนั้นตกบ่ายวันผมก็ขับรถออกไปรับเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยของเธอ หลังจากที่ได้มานัดเจอกันกลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองถูกอัธยาศัยกันโดยไม่คาดฝันวันนั้นแทนที่จะไปโรงแรมกันกับกลายเป็นไปสั่งอาหารทะเลสุดหรูหิ้วกันไปกินที่
อพาร์ทเมนต์ที่เธอเช่าอยู่แทน โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ร้องขออะไรเลยกับผมโดยที่วันนั้นจบด้วยมื้ออาหารภายในอพาร์เมนท์ของเธอโดยผมก็ไม่ได้ร่วมรักกับเธอเลยแต่อย่างใด จนเวลาอีกหลายเดือนผ่านไปเราทั้งสองกลายมาเป็นพี่น้องท้องชนกันในเวลาต่อมาไปโดยปริยาย บางครั้งบางวันด้วยที่เวลาผมค่อนข้างว่างมากในแต่ล่ะวันจนผมก็จะไปนอนเล่นที่ห้องของเธอในวันที่เธอไม่มีเรียนหรือในบางวันถ้าเธอเรียนบ่ายตอนเช้าผมก็ไปหาตอนสายๆนอนเล่นรอเธอแต่งตัวเพื่อผมจะไปส่งเธอที่หมาวิทยาลัยชื่อดังแถวกลางเมืองและแน่นอน ผมก็ได้ร่วมรักกับเธอถึงจะไม่ได้บ่อยๆ นักก็ตามโดยทุกครั้งนั้นเธอไม่เคยเรียกร้องเงินจากผมเช่นเดิม เราสองคนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทำไมเหมือนกันจนวันหนึ่งผมจึงได้รู้เหตุผลหลังจากรู้จักเธอได้ร่วมหนึ่งปี
.
"พี่อยากเอาแล้วอะ ได้ไหม"
"ได้ซิ พี่ลูกค้านี่" เธอเอื้อมไปหยิบถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักมายื่นให้ผม ผมเห็นผ่าน ๆ เหมือนเธอจะซื้อมาเก็บไว้เยอะอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ผมรับถุงยางมาแล้วรีบสวมมันเข้ากับท่อนลำของผมที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอ ผมดึงตัวเธอให้ล้มลงมานอนทับบนตัวผม เนื้อตัวของ หมิง นั้นเรียบเนียนด้วยวัย 19 ปีเต็ม ร่างกายของเธอจึงแน่นเหมือนสาวๆ
.
.
เธอขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนด้วยหมิง ที่คร่อมผมอยู่ ก่อนที่เธอจะจับท่อนลำของผมไปจ่อเข้ากับร่องสวาทของเธอ เธอเขี่ยมันอยู่สักพักก่อนที่จะทิ้งตัวลงกดสะโพกจนของผมถูกกลืนหายเข้าไปในตัวเธอทั้งท่อนลำ ขนาดมีน้ำสวาทหล่อลื่นอยู่มากก็ยังตอดรัดเป็นอย่างดีด้วยสาววัย 19 ปี จนผมรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาหน่อย ๆ
เธอร่อนเอวราวหญิงผู้มากประสบการณ์สวาท ผมที่มองเห็นเธอโยกบั้นท้ายพริ้วไหวราวฉลามล้อคลื่นร่ายรำอยู่บนตัวจากมุมล่างก็ได้เอื้อมมือขึ้นไปจับเต้าอวบของเธอที่มีหัวถันเล็กๆไม่เกินปลายก้อยมันช่างไม่สมส่วนกับขนาดเต้าทั้งสองของเธอเลย ผมที่บีบเคล้นเต้าทั้งสองของเธอคลึงเล่นไปด้วยอย่างมันมือ เธอร่อนเอวไปมาแบบนั้นอยู่พักใหญ่จนเธอคงเริ่มเมื่อย หมิง ค่อย ๆ ก้มตัวลงมากอดผมช่วงบนของพวกเราทั้งคู่แนบชิดติดกันไปทุกส่วน เอวของเธอเริ่มบดช้า
ผมเอื้อมมือไปโอบกอดเธอ แผ่นหลังของเธอเรียบเนียนลื่นนิ้วและฝ่ามือของผมเป็นอย่างดี ผมจูบปากและสอดลิ้มแลกกลับมือทั้งสองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย กลิ่นกายปนน้ำหอมราคาแพงโชยต้องจมูกจนรู้สึกผ่อนคลายและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน ในเวลานี้ผมอยากที่จะนอนรอให้เธอทำอยู่ฝ่ายเดียว
"อ๊า"
เธอเริ่มหลุดครางเป็นคำและเสียงดังขึ้น ยิ่งผมกดอัดท่อนลำสวนขึ้นแรงเท่าใดเสียงตอบรับกลับก็ยิ่งดังเท่านั้น ท่อนลำของผมเข้าออกไปมารวดเร็วและรุนแรงราว อารมณ์ของเราทั้งสองอยู่ในจุดสูงสุด จนลืมความกินแหนงแคลงใจไปที่ผ่านมาไปอย่างรวดเร็วจนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นทั้งเธอและผมก็ได้ถึงจุดสุดยอดไปด้วยพร้อม ๆ กับ เอวของผมกระตุกบีบพ่นน้ำกามไปจนเต็มถุง ส่วนเธอนั้นกระตุกเกร็งไปทั้งตัวพร้อมกับกอดจิกแผ่นอกผมไว้อย่างไม่วางมือ
"รู้สึกดีไหม หายงี่เง่าได้หรือยัง คุณพี่เติม" หมิง เอ่ย
"..................."
"ถึงพี่จะช่วยอะไรหมิง ไม่ได้มากแต่พี่จะพยายามช่วยเท่าที่พี่ทำได้นะ"
ผมเอ่ย
ก่อนที่หมิง จะเอ่ยตอบกลับมา
"โถ่ ไม่เป็นไรหรอกพี่ ปัญหาของหมิง เรื่องแค่นี้สบายแต่พี่อย่าทำตัวมางี่เง่ากับหมิง แบบเมื้อกี้อีกก็พอ"
ผมที่ได้ยินก็เงียบไปพลางเกิดอารมณ์โมโหพลั่งพรูมาอีกครั้งในถ้อยคำที่หมิง เอ่ยออกมา พอดีกับที่เสียงเตือนชั่วโมงดังขึ้น
ผมออกมาจากร้านมาโดยจ่ายค่าบริการทำพิเศษในแบบร้านทั่วไปให้หมิง ไปจนหมดกระเป๋าของผมเลยกว่าแปดพันบาท จน หมิง ถึงกลับ งง พลางเอ่ยขึ้น
"นี่พี่เติม จะทิ้งทวนไม่มาเจอหมิง อีกแล้วใช่ไหม ให้ประชดมาแบบนี้"
ผมที่ได้ยินก็ไม่ตอบเธอ พลางเดินออกจากร้านนวดไปเลย แล้วผมก็ตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ จะเหมือนกับตอน อร ก็ไม่ใช่ เหมือนตอน พิงค์ ก็ไม่เชิง ผมที่สับสนเช่นนั้นจนขับรถกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น
.
.
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ภายในห้องนอนบนเตียงที่ผมกำลังนอนคิดทบทวนเรื่องราวในวันนี้อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์เครื่องหลักของผมก็ดังขึ้น
"ตี้ดๆๆๆๆ"
เป็น พี่มน ที่เธอโทรมาหาผม หลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน
"ว่าไงวันนี้มากี่โมง แม่ เพิ่งกลับมา มีซูชิ มาให้ด้วย"
ผมเอ่ยถามตามปกติเพราะ พี่มน หลังเลิกงานเธอจะแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผมก่อนจะกลับไปนอนที่คอนโดของเธอแบบนี้ทุกวัน
"เอ่อ มนคงไม่ไปหานะวันนี้ เติม มน" เธอเอ่ยก่อนจะพูดต่อ
"มีเรื่องจะปรึกษาอะไรหน่อยซิ"
.
.
.
.
"ครืดดดดด"
เสียงระบบสั่นจากโทรศัพท์และไฟวาบขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนบนโต๊ะข้างเตียงของผม
ผมที่เห็นก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องนั้นของผมที่ใช้สำหรับใช้งานในโลกคู่ขนานอีกใบของผมที่ไม่มีใครจะรู้ถึงตัวตนของโทรศัพท์เครื่องนี้ที่ภายในโทรศัพท์นั้นมีแอฟพลิเคชั่นไว้ติดต่อกับคนในอีกโลกอีกใบของผมเช่น พี่เหลียง หรือ หมิง ทางโลกฝั่งดาร์คไซด์ของผมมา ปรากฎว่าเป็นข้อความไลน์จาก หมิง ดังขึ้น
"ตกลงจะไม่เจอกันแล้วใช่ไหม พี่เติม"
".................."
ผมเปิดอ่านแต่ไม่ตอบอะไร หมิง กลับไปจนผ่านไปสักพักอีกข้อความก็เข้ามาต่อ
"ติ้ง"
เป็นข้อความไลน์จากหมิง เช่นเดิม ผมเปิดอ่านอีกครั้ง
"นี่ หนูจะบอกพี่ตามมารยาทที่เคยสัญญากับพี่ไว้แล้วกันนะถ้าพี่จะเงียบแบบนี้ หมิง เรียนจบแล้วนะ เกรดตัวสุดท้ายเพิ่งออก ตกลงหนูได้เกียรตินิยม นะตามที่เคยคุยกันหนูได้ 3.91 นะ เดี๋ยวจะหาว่าหนูๆไม่บอกพี่ บายค่ะ"
หลังจากที่อ่านไป ผมก็พิมพ์ข้อความกลับไปหา หมิง
"พี่ดีใจด้วยนะ"
ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงแล้วปล่อยมันไว้แบบนั้น
.
.
.
คุยกับมนเรื่องอะไรนะ
อยากให้คู่กับมน
ลองอะไรใหม่ๆก๊ดีนะครับ
สงสัยกลับมาคิดถึงพี่จิว
Aเข้ามาในโลกแห่งความลับมกลัวแต่จะไปเจอพี่จิวในโลกใบนี้
แอบสงสารมนจัง น่าจะเลิกเจ้าชู้และใส่ใจมนมากกว่านี้
ทำไมหนอชะตาของเติมวนกลับมาแบบเดิมอีกแล้วโดนเทตลอดแล้วเติมจะแก้ปัญหาได้ไหมติดตามครับ
เริ่มต้นใหม่ ชีวิตใหม่ ที่เริ่มเปลี่ยนไป
เอมันยังไงนายเติมเรื่องนี้มีเงี่ยนงำ
เริ่มต้นใหม่เนอะ เติมดวงตกเกินตอนนี้
โดนผ้วจับได้อดสนุกเลย เหงาแย่ ::DookDig::
มรสุมซัดกรรมซ้อน ลองคุยดีดีก่อนไหม ก่อนหมดอาลัยตายอยาก
เติมเป็นแบบนี้ จะโดนพี่มนทิ้งไปอีกคนหรือเปล่านะ สาวดีๆหายหมด เหลือแต่สาวสีเทาๆ
เติมจะเอายังไงต่อหมิงก็ง้อ
อยู่ดีๆก้อรู้สึกเบื่อรึไงนายเติม
ชีวิตเติมเปลี่ยนไปเยอะเลย
อ้างจาก: bigaud เมื่อ มีนาคม 14, 2024, 03:52:03 ก่อนเที่ยง" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.20 : การลาออกและเพื่อนใหม่
หลังจากเหตุการณ์มหาวิปโยคในวันนั้นผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ภายในห้องผู้อำนวยการฝ่ายของผม
"เติม ตัดสินใจดีแล้วเหรอ พี่กำลังจะโปรโมทเธอแทนพี่ต้อยที่เค้าไปไปเป็นหัวหน้าทีมใหม่แล้วนะ" พี่แดง ผู้อำนวยการฝ่ายคนใหม่ของผม เอ่ยบอก
"ครับพี่ ขอบคุณครับ แต่ผมคงต้องลาออกเผอิญที่บ้านให้ไปช่วยน่ะครับ"
ผมยกเหตุผลมั่วๆขึ้นมาอ้างกับพี่แดง ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ผมจะคุยอีกสักพักก่อนจะออกจากห้องทำงานของพี่แดง ออกมา
"เติม เกิดอะไรขึ้น"
เป็นคำถามที่ทุกคนในฝ่ายเอ่ยถามแบบเดียวกัน เมื่อรู้ข่าวว่าผมกำลังจะลาออก ตลอดทางขณะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของผม
แต่มีเพียงคนเดียวในฝ่าย ที่ไม่มีอาการใดๆ พี่จิว ที่นั่งเงียบไม่พูดจาอะไร
ขณะที่พี่มน เมื่อทราบข่าวจากที่ผมบอกเธอไปก็ตกใจไม่แพ้กัน หลังจากเธอไปเริ่มต้นงานใหม่ที่บริษัทเจดีย์พอร์แกนได้กว่าสักพักแล้ว
.
.
.
ตลอดร่วมสองสัปดาห์ที่ผมต้องรอให้ใบลาออกของผมมีผลนั้น มันนานจนเกิดข่าวลือว่าผมทะเลาะกับพี่จิว อย่างรุนแรงจนผมต้องลาออกจากกงาน โดยคงมีคนที่รู้เรื่องจริงแค่สี่คนเท่านั้นในตอนนี้
เวลา 17:01 น.
ณ วันสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทแห่งนี้ร่วมแปดปีจนเข้าวัย 32 ปีนั้น ผมผ่านเหตุการณ์อะไรมากมาย จนมาวันนี้ผมก็เดินออกมาอย่างโล่งใจ ผมตัดสินใจไปลาพี่จิว อีกครั้งตามวิสัยของผู้เป็นลูกน้องและรุ่นน้องที่ดี
"พี่จิว ครับผมลานะครับ" ผมเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เธอกำลังเซ็นต์งานอยู่
"อืม โชคดี แล้วกันนะ" พี่จิว เอ่ยมาสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าลงเซ็นต์งานต่อ
สิ้นคำพูดของพี่จิว ผมก็หันหลังเดินออกไปจากฝ่ายและจากชีวิตพี่จิว ไป
zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz
หลังจากผมที่ได้ลาออกจากบริษัทมา เป็นความโชคดีของผมที่ทางครอบครัวผมซื้อคอนโดเงินสดไว้โดยไม่ต้องมีภาระผ่อนไว้ปล่อยเช่าอยู่หลายห้องทำให้ทางพ่อแม่ของผมแบ่งมาให้ผมดูแลอยู่3ห้อง ทำให้ผมมีรายได้ต่อเดือนพอๆกับสมัยยังทำงานอยู่ทำให้ผมไม่รู้สึกรีบร้อนที่จะหางานทำใหม่ จนกลายเป็นความเคยชินจนในที่สุดผมเลยล้มเลิกที่จะทำงานประจำไปเลยโดยปริยาย โดยแต่ล่ะวันนั้น ผมจึงมีเวลาว่างมากมายในการทำอะไรต่างๆ โดยกับพี่มน นั้นผมก็ยังติดต่อคบหาอยู่โดยเธอทำงานประจำที่บริษัทแห่งใหมืที่เธอทำอยู่อยู่เพียงคนเดียว จากการที่ผมมีเวลาว่างมากขึ้นทำให้ผมมีเวลาได้เปิดโลกของผมผ่านการท่องโลกออนไลน์จนได้พบกันคนสองคนที่ช่วยเปิดโลกอีกด้านของชีวิตให้ผมขึ้นมาใหม่อีกใบหนึ่งเลยทีเดียวผ่านด้นดาร์คไซด์ต่างๆ คือ
พี่เหลียง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่วัยเกือบห้าสิบปี ที่เบื้องหน้าดูเป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่งแต่เบื้องหลังกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการสีเทาถึงอยู่หลายวงการ รวมไปถึงวงการสวิงกิ้ง ที่เขาถึงกับเป็นเจ้าชองเว็บบอร์ดของวงการนี้รายใหญ่ในประเทศเลยทีเดียวรวมทั้งในเทเลแกรมและดิสคอร์ด และด้วยความบังเอิญที่ผมได้คุยกันและรู้จักกันผ่านอีเมล์จนถึงกับสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนเกินควรเลยทีเดียว ในขญะที่อีกส่วนอีกหนึ่งคนที่ผมพบเจอเธอเป็นสาวนักศึกษาจากต่างจังหวัด คนหนึ่งที่เข้ามา กทม เพื่อเรียนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยระดับติดท๊อปทรีในประเทศ แต่กลับได้เข้าสู่วงการ SL ในเว็ปบอร์ด TAMMAHAGIG ที่พี่เหลียง ดูแลอยู่จนผมได้มาเจอเธอจากการ PM ไปทักทายกันจนสนิทสนมนั่นเอง เธอที่ชื่อ หมิง สาววัย18 จากที่จังหวัดรอบนอกในภาคกลาง จริงๆแล้วนั้นทางบ้านของเธอฐานะก็ดีเลยแต่ด้วยสังคมมหาวิทยาลัยในปัจจุบันจนทำให้เธอต้องขวนขวายหาทั้งไอโฟน หลุยวิตตอง หรือของแบรนด์เนมอื่นๆ มาใช้โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนทางบ้าน ผมที่ได้รู้จักและคุยกับเธอยู่สักพักด้วยความงุ่นง่านใช้หัวล่างคิดมากกว่าหัวบนของผม ในช่วงสายของวันหนึ่งผมจึงเอ่ยนัดพบเธอในเรท 1,500 บาท ซึ่งนับเป็นการเที่ยวผู้หญิงในแวดลง SL แบบนี้ครั้งแรกในชีวิตของผมเลยทีเดียว หลังจากนั้นตกบ่ายวันผมก็ขับรถออกไปรับเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยของเธอ หลังจากที่ได้มานัดเจอกันกลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองถูกอัธยาศัยกันโดยไม่คาดฝันวันนั้นแทนที่จะไปโรงแรมกันกับกลายเป็นไปสั่งอาหารทะเลสุดหรูหิ้วกันไปกินที่
อพาร์ทเมนต์ที่เธอเช่าอยู่แทน โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ร้องขออะไรเลยกับผมโดยที่วันนั้นจบด้วยมื้ออาหารภายในอพาร์เมนท์ของเธอโดยผมก็ไม่ได้ร่วมรักกับเธอเลยแต่อย่างใด จนเวลาอีกหลายเดือนผ่านไปเราทั้งสองกลายมาเป็นพี่น้องท้องชนกันในเวลาต่อมาไปโดยปริยาย บางครั้งบางวันด้วยที่เวลาผมค่อนข้างว่างมากในแต่ล่ะวันจนผมก็จะไปนอนเล่นที่ห้องของเธอในวันที่เธอไม่มีเรียนหรือในบางวันถ้าเธอเรียนบ่ายตอนเช้าผมก็ไปหาตอนสายๆนอนเล่นรอเธอแต่งตัวเพื่อผมจะไปส่งเธอที่หมาวิทยาลัยชื่อดังแถวกลางเมืองและแน่นอน ผมก็ได้ร่วมรักกับเธอถึงจะไม่ได้บ่อยๆ นักก็ตามโดยทุกครั้งนั้นเธอไม่เคยเรียกร้องเงินจากผมเช่นเดิม เราสองคนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทำไมเหมือนกันจนวันหนึ่งผมจึงได้รู้เหตุผลหลังจากรู้จักเธอได้ร่วมหนึ่งปี
.
"พี่อยากเอาแล้วอะ ได้ไหม"
"ได้ซิ พี่ลูกค้านี่" เธอเอื้อมไปหยิบถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักมายื่นให้ผม ผมเห็นผ่าน ๆ เหมือนเธอจะซื้อมาเก็บไว้เยอะอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ผมรับถุงยางมาแล้วรีบสวมมันเข้ากับท่อนลำของผมที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอ ผมดึงตัวเธอให้ล้มลงมานอนทับบนตัวผม เนื้อตัวของ หมิง นั้นเรียบเนียนด้วยวัย 19 ปีเต็ม ร่างกายของเธอจึงแน่นเหมือนสาวๆ
.
.
เธอขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนด้วยหมิง ที่คร่อมผมอยู่ ก่อนที่เธอจะจับท่อนลำของผมไปจ่อเข้ากับร่องสวาทของเธอ เธอเขี่ยมันอยู่สักพักก่อนที่จะทิ้งตัวลงกดสะโพกจนของผมถูกกลืนหายเข้าไปในตัวเธอทั้งท่อนลำ ขนาดมีน้ำสวาทหล่อลื่นอยู่มากก็ยังตอดรัดเป็นอย่างดีด้วยสาววัย 19 ปี จนผมรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาหน่อย ๆ
เธอร่อนเอวราวหญิงผู้มากประสบการณ์สวาท ผมที่มองเห็นเธอโยกบั้นท้ายพริ้วไหวราวฉลามล้อคลื่นร่ายรำอยู่บนตัวจากมุมล่างก็ได้เอื้อมมือขึ้นไปจับเต้าอวบของเธอที่มีหัวถันเล็กๆไม่เกินปลายก้อยมันช่างไม่สมส่วนกับขนาดเต้าทั้งสองของเธอเลย ผมที่บีบเคล้นเต้าทั้งสองของเธอคลึงเล่นไปด้วยอย่างมันมือ เธอร่อนเอวไปมาแบบนั้นอยู่พักใหญ่จนเธอคงเริ่มเมื่อย หมิง ค่อย ๆ ก้มตัวลงมากอดผมช่วงบนของพวกเราทั้งคู่แนบชิดติดกันไปทุกส่วน เอวของเธอเริ่มบดช้า
ผมเอื้อมมือไปโอบกอดเธอ แผ่นหลังของเธอเรียบเนียนลื่นนิ้วและฝ่ามือของผมเป็นอย่างดี ผมจูบปากและสอดลิ้มแลกกลับมือทั้งสองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย กลิ่นกายปนน้ำหอมราคาแพงโชยต้องจมูกจนรู้สึกผ่อนคลายและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน ในเวลานี้ผมอยากที่จะนอนรอให้เธอทำอยู่ฝ่ายเดียว
"อ๊า"
เธอเริ่มหลุดครางเป็นคำและเสียงดังขึ้น ยิ่งผมกดอัดท่อนลำสวนขึ้นแรงเท่าใดเสียงตอบรับกลับก็ยิ่งดังเท่านั้น ท่อนลำของผมเข้าออกไปมารวดเร็วและรุนแรงราว อารมณ์ของเราทั้งสองอยู่ในจุดสูงสุด จนลืมความกินแหนงแคลงใจไปที่ผ่านมาไปอย่างรวดเร็วจนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นทั้งเธอและผมก็ได้ถึงจุดสุดยอดไปด้วยพร้อม ๆ กับ เอวของผมกระตุกบีบพ่นน้ำกามไปจนเต็มถุง ส่วนเธอนั้นกระตุกเกร็งไปทั้งตัวพร้อมกับกอดจิกแผ่นอกผมไว้อย่างไม่วางมือ
"รู้สึกดีไหม หายงี่เง่าได้หรือยัง คุณพี่เติม" หมิง เอ่ย
"..................."
"ถึงพี่จะช่วยอะไรหมิง ไม่ได้มากแต่พี่จะพยายามช่วยเท่าที่พี่ทำได้นะ"
ผมเอ่ย
ก่อนที่หมิง จะเอ่ยตอบกลับมา
"โถ่ ไม่เป็นไรหรอกพี่ ปัญหาของหมิง เรื่องแค่นี้สบายแต่พี่อย่าทำตัวมางี่เง่ากับหมิง แบบเมื้อกี้อีกก็พอ"
ผมที่ได้ยินก็เงียบไปพลางเกิดอารมณ์โมโหพลั่งพรูมาอีกครั้งในถ้อยคำที่หมิง เอ่ยออกมา พอดีกับที่เสียงเตือนชั่วโมงดังขึ้น
ผมออกมาจากร้านมาโดยจ่ายค่าบริการทำพิเศษในแบบร้านทั่วไปให้หมิง ไปจนหมดกระเป๋าของผมเลยกว่าแปดพันบาท จน หมิง ถึงกลับ งง พลางเอ่ยขึ้น
"นี่พี่เติม จะทิ้งทวนไม่มาเจอหมิง อีกแล้วใช่ไหม ให้ประชดมาแบบนี้"
ผมที่ได้ยินก็ไม่ตอบเธอ พลางเดินออกจากร้านนวดไปเลย แล้วผมก็ตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ จะเหมือนกับตอน อร ก็ไม่ใช่ เหมือนตอน พิงค์ ก็ไม่เชิง ผมที่สับสนเช่นนั้นจนขับรถกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น
.
.
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ภายในห้องนอนบนเตียงที่ผมกำลังนอนคิดทบทวนเรื่องราวในวันนี้อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์เครื่องหลักของผมก็ดังขึ้น
"ตี้ดๆๆๆๆ"
เป็น พี่มน ที่เธอโทรมาหาผม หลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน
"ว่าไงวันนี้มากี่โมง แม่ เพิ่งกลับมา มีซูชิ มาให้ด้วย"
ผมเอ่ยถามตามปกติเพราะ พี่มน หลังเลิกงานเธอจะแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผมก่อนจะกลับไปนอนที่คอนโดของเธอแบบนี้ทุกวัน
"เอ่อ มนคงไม่ไปหานะวันนี้ เติม มน" เธอเอ่ยก่อนจะพูดต่อ
"มีเรื่องจะปรึกษาอะไรหน่อยซิ"
.
.
.
.
"ครืดดดดด"
เสียงระบบสั่นจากโทรศัพท์และไฟวาบขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนบนโต๊ะข้างเตียงของผม
ผมที่เห็นก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องนั้นของผมที่ใช้สำหรับใช้งานในโลกคู่ขนานอีกใบของผมที่ไม่มีใครจะรู้ถึงตัวตนของโทรศัพท์เครื่องนี้ที่ภายในโทรศัพท์นั้นมีแอฟพลิเคชั่นไว้ติดต่อกับคนในอีกโลกอีกใบของผมเช่น พี่เหลียง หรือ หมิง ทางโลกฝั่งดาร์คไซด์ของผมมา ปรากฎว่าเป็นข้อความไลน์จาก หมิง ดังขึ้น
"ตกลงจะไม่เจอกันแล้วใช่ไหม พี่เติม"
".................."
ผมเปิดอ่านแต่ไม่ตอบอะไร หมิง กลับไปจนผ่านไปสักพักอีกข้อความก็เข้ามาต่อ
"ติ้ง"
เป็นข้อความไลน์จากหมิง เช่นเดิม ผมเปิดอ่านอีกครั้ง
"นี่ หนูจะบอกพี่ตามมารยาทที่เคยสัญญากับพี่ไว้แล้วกันนะถ้าพี่จะเงียบแบบนี้ หมิง เรียนจบแล้วนะ เกรดตัวสุดท้ายเพิ่งออก ตกลงหนูได้เกียรตินิยม นะตามที่เคยคุยกันหนูได้ 3.91 นะ เดี๋ยวจะหาว่าหนูๆไม่บอกพี่ บายค่ะ"
หลังจากที่อ่านไป ผมก็พิมพ์ข้อความกลับไปหา หมิง
"พี่ดีใจด้วยนะ"
ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงแล้วปล่อยมันไว้แบบนั้น
.
.
.
หลังจากลาออกจากงาน นายเติมคงจะหลุดเข้าสู่โลก สีเทาแน่เลยครับ
งามเข้ารึเปล่า
สงสารพี่จิว และสาว ๆ ทั้งหลาย
::Crying::
เติมจะปล่อยไปจริงรึ เอาเพลินๆดิ
::Crying:: แล้วก็ถึงเวลาลาจาก
เสียดายน้องหมิง แต่น่าส้่งลาพี่จิวบ้าง
อ้างจาก: joolo เมื่อ มีนาคม 15, 2024, 03:50:17 หลังเที่ยงเสียดายน้องหมิง แต่น่าส้่งลาพี่จิวบ้าง
จะสั่งลาไงไหวครับเรื่องเป็นแบบนั้นแล้ว ::Sweat::
มีให้เลือก ไม่ยอมงอใครเลย
มนจะบอกอะไร ขอให้เป็นเรื่องดีๆนะ
ดวงกำลังดี พี่มนอาจจะบอกว่าท้องแล้วก็ได้
แล้วจะเอาไงต่อดี นายเติม
มีแฟนที่อยู่ห่างกันหรือไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยๆ โอกาสใีคนนอกใจมันสูง น้อยนักที่จะรอดถ้าไม่มะ่นคงพอ
วัวเคยขาม้าเคยขี่อย่างป้าจิวจะลืมชู้หนุ่มลงได้อย่างไร
อ้างจาก: eunsunkim9798 เมื่อ มีนาคม 15, 2024, 07:27:07 หลังเที่ยงวัวเคยขาม้าเคยขี่อย่างป้าจิวจะลืมชู้หนุ่มลงได้อย่างไร
ลืมไม่ได้ก็บ้านแตกซิครับ ::Sweat::
กับน้องหมิงนี่จะอยู่กันยาวหรือเปล่า หรือจะวนไปจบที่คนเก่าๆ
งง อยู่ดีๆก็งอนกันเฉยเลย ::DookDig:: ::DookDig:: ::DookDig::
หรือว่าพี่มนจะมีคนอื่น
หมิงคงจะไม่โดนทิ้งเฉยๆนะ
กลายเป็นคนว่างงานเลยแบบนี้ก้อน่าเบื่อไปนะ แล้วกับพี่มนนี่จะจบยังไงนะ
หรือหมิงจะถูกส่งตัวมาจากพี่จิว
เติม ได้เข้าวงการ สีเทาแน่เลย ดูชีวิตเรื่อยเปื่อย หาความตื่นเต้นไปเรื่อยๆ
เรื่องที่พี่มนจะปรึกษาหวังว่าคงไม่ใช่การบอกเลิกนะ
หาแบบเป็นตัวเป็นตนๆไปดีกว่านะ
สงสารพี่จิว โดนจับได้ซะแล้ว
น่าจะไม่ไดิไปต่อ
::Thankyou::
::Thankyou::
แปลกๆนะเติมมีแฟนแต่ไม่ค่อยดูแลเอาใจ สงสัยมนน่าจะมีคนใหม่หรือเปล่า
สุดยอดมากๆๆ
อ้างจาก: bigaud เมื่อ มีนาคม 14, 2024, 03:52:03 ก่อนเที่ยง" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.20 : การลาออกและเพื่อนใหม่
หลังจากเหตุการณ์มหาวิปโยคในวันนั้นผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ภายในห้องผู้อำนวยการฝ่ายของผม
"เติม ตัดสินใจดีแล้วเหรอ พี่กำลังจะโปรโมทเธอแทนพี่ต้อยที่เค้าไปไปเป็นหัวหน้าทีมใหม่แล้วนะ" พี่แดง ผู้อำนวยการฝ่ายคนใหม่ของผม เอ่ยบอก
"ครับพี่ ขอบคุณครับ แต่ผมคงต้องลาออกเผอิญที่บ้านให้ไปช่วยน่ะครับ"
ผมยกเหตุผลมั่วๆขึ้นมาอ้างกับพี่แดง ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ผมจะคุยอีกสักพักก่อนจะออกจากห้องทำงานของพี่แดง ออกมา
"เติม เกิดอะไรขึ้น"
เป็นคำถามที่ทุกคนในฝ่ายเอ่ยถามแบบเดียวกัน เมื่อรู้ข่าวว่าผมกำลังจะลาออก ตลอดทางขณะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของผม
แต่มีเพียงคนเดียวในฝ่าย ที่ไม่มีอาการใดๆ พี่จิว ที่นั่งเงียบไม่พูดจาอะไร
ขณะที่พี่มน เมื่อทราบข่าวจากที่ผมบอกเธอไปก็ตกใจไม่แพ้กัน หลังจากเธอไปเริ่มต้นงานใหม่ที่บริษัทเจดีย์พอร์แกนได้กว่าสักพักแล้ว
.
.
.
ตลอดร่วมสองสัปดาห์ที่ผมต้องรอให้ใบลาออกของผมมีผลนั้น มันนานจนเกิดข่าวลือว่าผมทะเลาะกับพี่จิว อย่างรุนแรงจนผมต้องลาออกจากกงาน โดยคงมีคนที่รู้เรื่องจริงแค่สี่คนเท่านั้นในตอนนี้
เวลา 17:01 น.
ณ วันสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทแห่งนี้ร่วมแปดปีจนเข้าวัย 32 ปีนั้น ผมผ่านเหตุการณ์อะไรมากมาย จนมาวันนี้ผมก็เดินออกมาอย่างโล่งใจ ผมตัดสินใจไปลาพี่จิว อีกครั้งตามวิสัยของผู้เป็นลูกน้องและรุ่นน้องที่ดี
"พี่จิว ครับผมลานะครับ" ผมเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เธอกำลังเซ็นต์งานอยู่
"อืม โชคดี แล้วกันนะ" พี่จิว เอ่ยมาสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าลงเซ็นต์งานต่อ
สิ้นคำพูดของพี่จิว ผมก็หันหลังเดินออกไปจากฝ่ายและจากชีวิตพี่จิว ไป
zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz
หลังจากผมที่ได้ลาออกจากบริษัทมา เป็นความโชคดีของผมที่ทางครอบครัวผมซื้อคอนโดเงินสดไว้โดยไม่ต้องมีภาระผ่อนไว้ปล่อยเช่าอยู่หลายห้องทำให้ทางพ่อแม่ของผมแบ่งมาให้ผมดูแลอยู่3ห้อง ทำให้ผมมีรายได้ต่อเดือนพอๆกับสมัยยังทำงานอยู่ทำให้ผมไม่รู้สึกรีบร้อนที่จะหางานทำใหม่ จนกลายเป็นความเคยชินจนในที่สุดผมเลยล้มเลิกที่จะทำงานประจำไปเลยโดยปริยาย โดยแต่ล่ะวันนั้น ผมจึงมีเวลาว่างมากมายในการทำอะไรต่างๆ โดยกับพี่มน นั้นผมก็ยังติดต่อคบหาอยู่โดยเธอทำงานประจำที่บริษัทแห่งใหมืที่เธอทำอยู่อยู่เพียงคนเดียว จากการที่ผมมีเวลาว่างมากขึ้นทำให้ผมมีเวลาได้เปิดโลกของผมผ่านการท่องโลกออนไลน์จนได้พบกันคนสองคนที่ช่วยเปิดโลกอีกด้านของชีวิตให้ผมขึ้นมาใหม่อีกใบหนึ่งเลยทีเดียวผ่านด้นดาร์คไซด์ต่างๆ คือ
พี่เหลียง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่วัยเกือบห้าสิบปี ที่เบื้องหน้าดูเป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่งแต่เบื้องหลังกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการสีเทาถึงอยู่หลายวงการ รวมไปถึงวงการสวิงกิ้ง ที่เขาถึงกับเป็นเจ้าชองเว็บบอร์ดของวงการนี้รายใหญ่ในประเทศเลยทีเดียวรวมทั้งในเทเลแกรมและดิสคอร์ด และด้วยความบังเอิญที่ผมได้คุยกันและรู้จักกันผ่านอีเมล์จนถึงกับสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนเกินควรเลยทีเดียว ในขญะที่อีกส่วนอีกหนึ่งคนที่ผมพบเจอเธอเป็นสาวนักศึกษาจากต่างจังหวัด คนหนึ่งที่เข้ามา กทม เพื่อเรียนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยระดับติดท๊อปทรีในประเทศ แต่กลับได้เข้าสู่วงการ SL ในเว็ปบอร์ด TAMMAHAGIG ที่พี่เหลียง ดูแลอยู่จนผมได้มาเจอเธอจากการ PM ไปทักทายกันจนสนิทสนมนั่นเอง เธอที่ชื่อ หมิง สาววัย18 จากที่จังหวัดรอบนอกในภาคกลาง จริงๆแล้วนั้นทางบ้านของเธอฐานะก็ดีเลยแต่ด้วยสังคมมหาวิทยาลัยในปัจจุบันจนทำให้เธอต้องขวนขวายหาทั้งไอโฟน หลุยวิตตอง หรือของแบรนด์เนมอื่นๆ มาใช้โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนทางบ้าน ผมที่ได้รู้จักและคุยกับเธอยู่สักพักด้วยความงุ่นง่านใช้หัวล่างคิดมากกว่าหัวบนของผม ในช่วงสายของวันหนึ่งผมจึงเอ่ยนัดพบเธอในเรท 1,500 บาท ซึ่งนับเป็นการเที่ยวผู้หญิงในแวดลง SL แบบนี้ครั้งแรกในชีวิตของผมเลยทีเดียว หลังจากนั้นตกบ่ายวันผมก็ขับรถออกไปรับเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยของเธอ หลังจากที่ได้มานัดเจอกันกลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองถูกอัธยาศัยกันโดยไม่คาดฝันวันนั้นแทนที่จะไปโรงแรมกันกับกลายเป็นไปสั่งอาหารทะเลสุดหรูหิ้วกันไปกินที่
อพาร์ทเมนต์ที่เธอเช่าอยู่แทน โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ร้องขออะไรเลยกับผมโดยที่วันนั้นจบด้วยมื้ออาหารภายในอพาร์เมนท์ของเธอโดยผมก็ไม่ได้ร่วมรักกับเธอเลยแต่อย่างใด จนเวลาอีกหลายเดือนผ่านไปเราทั้งสองกลายมาเป็นพี่น้องท้องชนกันในเวลาต่อมาไปโดยปริยาย บางครั้งบางวันด้วยที่เวลาผมค่อนข้างว่างมากในแต่ล่ะวันจนผมก็จะไปนอนเล่นที่ห้องของเธอในวันที่เธอไม่มีเรียนหรือในบางวันถ้าเธอเรียนบ่ายตอนเช้าผมก็ไปหาตอนสายๆนอนเล่นรอเธอแต่งตัวเพื่อผมจะไปส่งเธอที่หมาวิทยาลัยชื่อดังแถวกลางเมืองและแน่นอน ผมก็ได้ร่วมรักกับเธอถึงจะไม่ได้บ่อยๆ นักก็ตามโดยทุกครั้งนั้นเธอไม่เคยเรียกร้องเงินจากผมเช่นเดิม เราสองคนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทำไมเหมือนกันจนวันหนึ่งผมจึงได้รู้เหตุผลหลังจากรู้จักเธอได้ร่วมหนึ่งปี
.
"พี่อยากเอาแล้วอะ ได้ไหม"
"ได้ซิ พี่ลูกค้านี่" เธอเอื้อมไปหยิบถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักมายื่นให้ผม ผมเห็นผ่าน ๆ เหมือนเธอจะซื้อมาเก็บไว้เยอะอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ผมรับถุงยางมาแล้วรีบสวมมันเข้ากับท่อนลำของผมที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอ ผมดึงตัวเธอให้ล้มลงมานอนทับบนตัวผม เนื้อตัวของ หมิง นั้นเรียบเนียนด้วยวัย 19 ปีเต็ม ร่างกายของเธอจึงแน่นเหมือนสาวๆ
.
.
เธอขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนด้วยหมิง ที่คร่อมผมอยู่ ก่อนที่เธอจะจับท่อนลำของผมไปจ่อเข้ากับร่องสวาทของเธอ เธอเขี่ยมันอยู่สักพักก่อนที่จะทิ้งตัวลงกดสะโพกจนของผมถูกกลืนหายเข้าไปในตัวเธอทั้งท่อนลำ ขนาดมีน้ำสวาทหล่อลื่นอยู่มากก็ยังตอดรัดเป็นอย่างดีด้วยสาววัย 19 ปี จนผมรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาหน่อย ๆ
เธอร่อนเอวราวหญิงผู้มากประสบการณ์สวาท ผมที่มองเห็นเธอโยกบั้นท้ายพริ้วไหวราวฉลามล้อคลื่นร่ายรำอยู่บนตัวจากมุมล่างก็ได้เอื้อมมือขึ้นไปจับเต้าอวบของเธอที่มีหัวถันเล็กๆไม่เกินปลายก้อยมันช่างไม่สมส่วนกับขนาดเต้าทั้งสองของเธอเลย ผมที่บีบเคล้นเต้าทั้งสองของเธอคลึงเล่นไปด้วยอย่างมันมือ เธอร่อนเอวไปมาแบบนั้นอยู่พักใหญ่จนเธอคงเริ่มเมื่อย หมิง ค่อย ๆ ก้มตัวลงมากอดผมช่วงบนของพวกเราทั้งคู่แนบชิดติดกันไปทุกส่วน เอวของเธอเริ่มบดช้า
ผมเอื้อมมือไปโอบกอดเธอ แผ่นหลังของเธอเรียบเนียนลื่นนิ้วและฝ่ามือของผมเป็นอย่างดี ผมจูบปากและสอดลิ้มแลกกลับมือทั้งสองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย กลิ่นกายปนน้ำหอมราคาแพงโชยต้องจมูกจนรู้สึกผ่อนคลายและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน ในเวลานี้ผมอยากที่จะนอนรอให้เธอทำอยู่ฝ่ายเดียว
"อ๊า"
เธอเริ่มหลุดครางเป็นคำและเสียงดังขึ้น ยิ่งผมกดอัดท่อนลำสวนขึ้นแรงเท่าใดเสียงตอบรับกลับก็ยิ่งดังเท่านั้น ท่อนลำของผมเข้าออกไปมารวดเร็วและรุนแรงราว อารมณ์ของเราทั้งสองอยู่ในจุดสูงสุด จนลืมความกินแหนงแคลงใจไปที่ผ่านมาไปอย่างรวดเร็วจนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นทั้งเธอและผมก็ได้ถึงจุดสุดยอดไปด้วยพร้อม ๆ กับ เอวของผมกระตุกบีบพ่นน้ำกามไปจนเต็มถุง ส่วนเธอนั้นกระตุกเกร็งไปทั้งตัวพร้อมกับกอดจิกแผ่นอกผมไว้อย่างไม่วางมือ
"รู้สึกดีไหม หายงี่เง่าได้หรือยัง คุณพี่เติม" หมิง เอ่ย
"..................."
"ถึงพี่จะช่วยอะไรหมิง ไม่ได้มากแต่พี่จะพยายามช่วยเท่าที่พี่ทำได้นะ"
ผมเอ่ย
ก่อนที่หมิง จะเอ่ยตอบกลับมา
"โถ่ ไม่เป็นไรหรอกพี่ ปัญหาของหมิง เรื่องแค่นี้สบายแต่พี่อย่าทำตัวมางี่เง่ากับหมิง แบบเมื้อกี้อีกก็พอ"
ผมที่ได้ยินก็เงียบไปพลางเกิดอารมณ์โมโหพลั่งพรูมาอีกครั้งในถ้อยคำที่หมิง เอ่ยออกมา พอดีกับที่เสียงเตือนชั่วโมงดังขึ้น
ผมออกมาจากร้านมาโดยจ่ายค่าบริการทำพิเศษในแบบร้านทั่วไปให้หมิง ไปจนหมดกระเป๋าของผมเลยกว่าแปดพันบาท จน หมิง ถึงกลับ งง พลางเอ่ยขึ้น
"นี่พี่เติม จะทิ้งทวนไม่มาเจอหมิง อีกแล้วใช่ไหม ให้ประชดมาแบบนี้"
ผมที่ได้ยินก็ไม่ตอบเธอ พลางเดินออกจากร้านนวดไปเลย แล้วผมก็ตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ จะเหมือนกับตอน อร ก็ไม่ใช่ เหมือนตอน พิงค์ ก็ไม่เชิง ผมที่สับสนเช่นนั้นจนขับรถกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น
.
.
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ภายในห้องนอนบนเตียงที่ผมกำลังนอนคิดทบทวนเรื่องราวในวันนี้อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์เครื่องหลักของผมก็ดังขึ้น
"ตี้ดๆๆๆๆ"
เป็น พี่มน ที่เธอโทรมาหาผม หลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน
"ว่าไงวันนี้มากี่โมง แม่ เพิ่งกลับมา มีซูชิ มาให้ด้วย"
ผมเอ่ยถามตามปกติเพราะ พี่มน หลังเลิกงานเธอจะแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผมก่อนจะกลับไปนอนที่คอนโดของเธอแบบนี้ทุกวัน
"เอ่อ มนคงไม่ไปหานะวันนี้ เติม มน" เธอเอ่ยก่อนจะพูดต่อ
"มีเรื่องจะปรึกษาอะไรหน่อยซิ"
.
.
.
.
"ครืดดดดด"
เสียงระบบสั่นจากโทรศัพท์และไฟวาบขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนบนโต๊ะข้างเตียงของผม
ผมที่เห็นก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องนั้นของผมที่ใช้สำหรับใช้งานในโลกคู่ขนานอีกใบของผมที่ไม่มีใครจะรู้ถึงตัวตนของโทรศัพท์เครื่องนี้ที่ภายในโทรศัพท์นั้นมีแอฟพลิเคชั่นไว้ติดต่อกับคนในอีกโลกอีกใบของผมเช่น พี่เหลียง หรือ หมิง ทางโลกฝั่งดาร์คไซด์ของผมมา ปรากฎว่าเป็นข้อความไลน์จาก หมิง ดังขึ้น
"ตกลงจะไม่เจอกันแล้วใช่ไหม พี่เติม"
".................."
ผมเปิดอ่านแต่ไม่ตอบอะไร หมิง กลับไปจนผ่านไปสักพักอีกข้อความก็เข้ามาต่อ
"ติ้ง"
เป็นข้อความไลน์จากหมิง เช่นเดิม ผมเปิดอ่านอีกครั้ง
"นี่ หนูจะบอกพี่ตามมารยาทที่เคยสัญญากับพี่ไว้แล้วกันนะถ้าพี่จะเงียบแบบนี้ หมิง เรียนจบแล้วนะ เกรดตัวสุดท้ายเพิ่งออก ตกลงหนูได้เกียรตินิยม นะตามที่เคยคุยกันหนูได้ 3.91 นะ เดี๋ยวจะหาว่าหนูๆไม่บอกพี่ บายค่ะ"
หลังจากที่อ่านไป ผมก็พิมพ์ข้อความกลับไปหา หมิง
"พี่ดีใจด้วยนะ"
ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงแล้วปล่อยมันไว้แบบนั้น
.
.
.
เปลี่ยนงานใหม่แล้วสงสัยต้องมีอะไรดีๆแน่นะเต็ม
ชีวิตเติมคงไม่สมหวังกับชีวิตคู่
จากรุ่นใหญ่มารุ่นเล็ก
::HeyHey:: ::Hunger:: ::DookDig::
พายุฝนที่ถาโถมย่อมมีวันหยุด ฟ้าที่มืดอยู่ย่อมมีแสงสว่างขึ้นมา สู้ต่อไปคุณพี่เติม
มีสาวไม่ขาดนะเติม
เติมกำลังจะหาเรื่องใส่ตัวอีกป่าว
อะไรอีกครับ สงสัยงอน
ถึงเวลาที่คนจะเติบโตแยกย้ายกันไป ในเวลาที่ทำใจไม่ได้ ก็คงจะต้องทนต่อไป
เปลี่ยนแนวเป็นเด็กบ้างหรอเติม
มีแต่คนที่ต้องจากไปเศร้านะชีวิต
เรื่องเป็นไงมาไงเนี่ย
เปิดโลกใหม่ วงการไซส์ไลน์
เปลี่ยนมากินเด็กดีกว่ากินพี่จิว
อย่าไปงอนสาวเลยเดี๋ยวอดนะ
อ้างจาก: baitong haha เมื่อ มีนาคม 19, 2024, 02:53:05 ก่อนเที่ยงเรื่องเป็นไงมาไงเนี่ย
สามารถอ่นฉบับ UNCUT Edition ได้นะครับ ::Thankyou::
สงสัยจะโดนสาวๆทิ้งหมดละมั้ง
โดนสวมเขาตลอดเลยนะ
โกรธกันเพราะอะไร
ดวงทำไมมาแบบนี้ทำร้ายจิตใจกัน
กะหมิง เหมือนรู้สึกว่า ตัวเองจะทำอะไรก้อไม่ได้ จะช่วยก้อไม่ไหว จะอยู่เฉยๆ ก้อเหมือน คนที่ต้องทนเห็น คนของตัวเองไปมีคนอื่น โดยที่ตัวเอง ห้ามไม่ได้อ่ะ
สงสัยเรื่องที่พี่มนจะคุยด้วย
อ้างจาก: Ghost Reader เมื่อ มีนาคม 21, 2024, 07:22:20 หลังเที่ยงกะหมิง เหมือนรู้สึกว่า ตัวเองจะทำอะไรก้อไม่ได้ จะช่วยก้อไม่ไหว จะอยู่เฉยๆ ก้อเหมือน คนที่ต้องทนเห็น คนของตัวเองไปมีคนอื่น โดยที่ตัวเอง ห้ามไม่ได้อ่ะ
วิเคราะห์ได้เยี่ยมเลยครับ ::Thankyou::
ปล่อยไปง่ายๆเลยเหรอ
ติดตามตอนต่อไปอย่างจดจ่อ
หรือเธอจะซ่อนใครไว้อีก
หมิงน่าจะชอบนะถ้าไม่ทำตัวแปลกๆ
หมิงมืออาชีพมาก ยื้อไปหมิงเองก็จะมีแต่เสีย
หมิงชัดเจนมาก ชอบแบบนี้
ดวงจะโดนแย่งสาวไปเรื่อย ๆ รึ
มีเรื่องอีกแน่หรือต้องเศร้าอีก
เติมจะเป็นยังไงต่อทีนี้
ชีวิตประจำวัน จะขาวหรือเทาต้องตามต่อ
ลุงว่าหนูคงเป็นนายสถานีรถไฟหรือเปล่านะ ::Dizzy:: ::Thankyou::
ไปทำอะไรให้น้องหมิงโมโห
น้องหมิง มีความนัย
มนทองป่าว
สงสัยจะโดนพี่มนทิ้งไปอีกคนหรือเปล่า
เจอเด็กเข้าแล้ว
เติมเริ่มเข้าวงการสีดำไปเรื่อยๆอีกหน่อยออกสวิงแน่
::Snap:: สาวใหญ่มารัวๆ
มนมีคนอื่นเเน่เลย ::Horror::
อ้างจาก: bigaud เมื่อ มีนาคม 14, 2024, 03:52:03 ก่อนเที่ยง" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.20 : การลาออกและเพื่อนใหม่
หลังจากเหตุการณ์มหาวิปโยคในวันนั้นผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ ภายในห้องผู้อำนวยการฝ่ายของผม
"เติม ตัดสินใจดีแล้วเหรอ พี่กำลังจะโปรโมทเธอแทนพี่ต้อยที่เค้าไปไปเป็นหัวหน้าทีมใหม่แล้วนะ" พี่แดง ผู้อำนวยการฝ่ายคนใหม่ของผม เอ่ยบอก
"ครับพี่ ขอบคุณครับ แต่ผมคงต้องลาออกเผอิญที่บ้านให้ไปช่วยน่ะครับ"
ผมยกเหตุผลมั่วๆขึ้นมาอ้างกับพี่แดง ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ผมจะคุยอีกสักพักก่อนจะออกจากห้องทำงานของพี่แดง ออกมา
"เติม เกิดอะไรขึ้น"
เป็นคำถามที่ทุกคนในฝ่ายเอ่ยถามแบบเดียวกัน เมื่อรู้ข่าวว่าผมกำลังจะลาออก ตลอดทางขณะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของผม
แต่มีเพียงคนเดียวในฝ่าย ที่ไม่มีอาการใดๆ พี่จิว ที่นั่งเงียบไม่พูดจาอะไร
ขณะที่พี่มน เมื่อทราบข่าวจากที่ผมบอกเธอไปก็ตกใจไม่แพ้กัน หลังจากเธอไปเริ่มต้นงานใหม่ที่บริษัทเจดีย์พอร์แกนได้กว่าสักพักแล้ว
.
.
.
ตลอดร่วมสองสัปดาห์ที่ผมต้องรอให้ใบลาออกของผมมีผลนั้น มันนานจนเกิดข่าวลือว่าผมทะเลาะกับพี่จิว อย่างรุนแรงจนผมต้องลาออกจากกงาน โดยคงมีคนที่รู้เรื่องจริงแค่สี่คนเท่านั้นในตอนนี้
เวลา 17:01 น.
ณ วันสุดท้ายของการทำงานที่บริษัทแห่งนี้ร่วมแปดปีจนเข้าวัย 32 ปีนั้น ผมผ่านเหตุการณ์อะไรมากมาย จนมาวันนี้ผมก็เดินออกมาอย่างโล่งใจ ผมตัดสินใจไปลาพี่จิว อีกครั้งตามวิสัยของผู้เป็นลูกน้องและรุ่นน้องที่ดี
"พี่จิว ครับผมลานะครับ" ผมเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะที่เธอกำลังเซ็นต์งานอยู่
"อืม โชคดี แล้วกันนะ" พี่จิว เอ่ยมาสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าลงเซ็นต์งานต่อ
สิ้นคำพูดของพี่จิว ผมก็หันหลังเดินออกไปจากฝ่ายและจากชีวิตพี่จิว ไป
zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzz
หลังจากผมที่ได้ลาออกจากบริษัทมา เป็นความโชคดีของผมที่ทางครอบครัวผมซื้อคอนโดเงินสดไว้โดยไม่ต้องมีภาระผ่อนไว้ปล่อยเช่าอยู่หลายห้องทำให้ทางพ่อแม่ของผมแบ่งมาให้ผมดูแลอยู่3ห้อง ทำให้ผมมีรายได้ต่อเดือนพอๆกับสมัยยังทำงานอยู่ทำให้ผมไม่รู้สึกรีบร้อนที่จะหางานทำใหม่ จนกลายเป็นความเคยชินจนในที่สุดผมเลยล้มเลิกที่จะทำงานประจำไปเลยโดยปริยาย โดยแต่ล่ะวันนั้น ผมจึงมีเวลาว่างมากมายในการทำอะไรต่างๆ โดยกับพี่มน นั้นผมก็ยังติดต่อคบหาอยู่โดยเธอทำงานประจำที่บริษัทแห่งใหมืที่เธอทำอยู่อยู่เพียงคนเดียว จากการที่ผมมีเวลาว่างมากขึ้นทำให้ผมมีเวลาได้เปิดโลกของผมผ่านการท่องโลกออนไลน์จนได้พบกันคนสองคนที่ช่วยเปิดโลกอีกด้านของชีวิตให้ผมขึ้นมาใหม่อีกใบหนึ่งเลยทีเดียวผ่านด้นดาร์คไซด์ต่างๆ คือ
พี่เหลียง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่วัยเกือบห้าสิบปี ที่เบื้องหน้าดูเป็นตำรวจน้ำดีคนหนึ่งแต่เบื้องหลังกลับเป็นผู้อยู่เบื้องหลังวงการสีเทาถึงอยู่หลายวงการ รวมไปถึงวงการสวิงกิ้ง ที่เขาถึงกับเป็นเจ้าชองเว็บบอร์ดของวงการนี้รายใหญ่ในประเทศเลยทีเดียวรวมทั้งในเทเลแกรมและดิสคอร์ด และด้วยความบังเอิญที่ผมได้คุยกันและรู้จักกันผ่านอีเมล์จนถึงกับสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนเกินควรเลยทีเดียว ในขญะที่อีกส่วนอีกหนึ่งคนที่ผมพบเจอเธอเป็นสาวนักศึกษาจากต่างจังหวัด คนหนึ่งที่เข้ามา กทม เพื่อเรียนหนังสือระดับมหาวิทยาลัยระดับติดท๊อปทรีในประเทศ แต่กลับได้เข้าสู่วงการ SL ในเว็ปบอร์ด TAMMAHAGIG ที่พี่เหลียง ดูแลอยู่จนผมได้มาเจอเธอจากการ PM ไปทักทายกันจนสนิทสนมนั่นเอง เธอที่ชื่อ หมิง สาววัย18 จากที่จังหวัดรอบนอกในภาคกลาง จริงๆแล้วนั้นทางบ้านของเธอฐานะก็ดีเลยแต่ด้วยสังคมมหาวิทยาลัยในปัจจุบันจนทำให้เธอต้องขวนขวายหาทั้งไอโฟน หลุยวิตตอง หรือของแบรนด์เนมอื่นๆ มาใช้โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนทางบ้าน ผมที่ได้รู้จักและคุยกับเธอยู่สักพักด้วยความงุ่นง่านใช้หัวล่างคิดมากกว่าหัวบนของผม ในช่วงสายของวันหนึ่งผมจึงเอ่ยนัดพบเธอในเรท 1,500 บาท ซึ่งนับเป็นการเที่ยวผู้หญิงในแวดลง SL แบบนี้ครั้งแรกในชีวิตของผมเลยทีเดียว หลังจากนั้นตกบ่ายวันผมก็ขับรถออกไปรับเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยของเธอ หลังจากที่ได้มานัดเจอกันกลับกลายเป็นว่าเราทั้งสองถูกอัธยาศัยกันโดยไม่คาดฝันวันนั้นแทนที่จะไปโรงแรมกันกับกลายเป็นไปสั่งอาหารทะเลสุดหรูหิ้วกันไปกินที่
อพาร์ทเมนต์ที่เธอเช่าอยู่แทน โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ร้องขออะไรเลยกับผมโดยที่วันนั้นจบด้วยมื้ออาหารภายในอพาร์เมนท์ของเธอโดยผมก็ไม่ได้ร่วมรักกับเธอเลยแต่อย่างใด จนเวลาอีกหลายเดือนผ่านไปเราทั้งสองกลายมาเป็นพี่น้องท้องชนกันในเวลาต่อมาไปโดยปริยาย บางครั้งบางวันด้วยที่เวลาผมค่อนข้างว่างมากในแต่ล่ะวันจนผมก็จะไปนอนเล่นที่ห้องของเธอในวันที่เธอไม่มีเรียนหรือในบางวันถ้าเธอเรียนบ่ายตอนเช้าผมก็ไปหาตอนสายๆนอนเล่นรอเธอแต่งตัวเพื่อผมจะไปส่งเธอที่หมาวิทยาลัยชื่อดังแถวกลางเมืองและแน่นอน ผมก็ได้ร่วมรักกับเธอถึงจะไม่ได้บ่อยๆ นักก็ตามโดยทุกครั้งนั้นเธอไม่เคยเรียกร้องเงินจากผมเช่นเดิม เราสองคนก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทำไมเหมือนกันจนวันหนึ่งผมจึงได้รู้เหตุผลหลังจากรู้จักเธอได้ร่วมหนึ่งปี
.
"พี่อยากเอาแล้วอะ ได้ไหม"
"ได้ซิ พี่ลูกค้านี่" เธอเอื้อมไปหยิบถุงยางที่อยู่ในลิ้นชักมายื่นให้ผม ผมเห็นผ่าน ๆ เหมือนเธอจะซื้อมาเก็บไว้เยอะอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ผมรับถุงยางมาแล้วรีบสวมมันเข้ากับท่อนลำของผมที่ชุ่มไปด้วยน้ำลายของเธอ ผมดึงตัวเธอให้ล้มลงมานอนทับบนตัวผม เนื้อตัวของ หมิง นั้นเรียบเนียนด้วยวัย 19 ปีเต็ม ร่างกายของเธอจึงแน่นเหมือนสาวๆ
.
.
เธอขึ้นมาคร่อมอยู่ด้านบนด้วยหมิง ที่คร่อมผมอยู่ ก่อนที่เธอจะจับท่อนลำของผมไปจ่อเข้ากับร่องสวาทของเธอ เธอเขี่ยมันอยู่สักพักก่อนที่จะทิ้งตัวลงกดสะโพกจนของผมถูกกลืนหายเข้าไปในตัวเธอทั้งท่อนลำ ขนาดมีน้ำสวาทหล่อลื่นอยู่มากก็ยังตอดรัดเป็นอย่างดีด้วยสาววัย 19 ปี จนผมรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาหน่อย ๆ
เธอร่อนเอวราวหญิงผู้มากประสบการณ์สวาท ผมที่มองเห็นเธอโยกบั้นท้ายพริ้วไหวราวฉลามล้อคลื่นร่ายรำอยู่บนตัวจากมุมล่างก็ได้เอื้อมมือขึ้นไปจับเต้าอวบของเธอที่มีหัวถันเล็กๆไม่เกินปลายก้อยมันช่างไม่สมส่วนกับขนาดเต้าทั้งสองของเธอเลย ผมที่บีบเคล้นเต้าทั้งสองของเธอคลึงเล่นไปด้วยอย่างมันมือ เธอร่อนเอวไปมาแบบนั้นอยู่พักใหญ่จนเธอคงเริ่มเมื่อย หมิง ค่อย ๆ ก้มตัวลงมากอดผมช่วงบนของพวกเราทั้งคู่แนบชิดติดกันไปทุกส่วน เอวของเธอเริ่มบดช้า
ผมเอื้อมมือไปโอบกอดเธอ แผ่นหลังของเธอเรียบเนียนลื่นนิ้วและฝ่ามือของผมเป็นอย่างดี ผมจูบปากและสอดลิ้มแลกกลับมือทั้งสองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย กลิ่นกายปนน้ำหอมราคาแพงโชยต้องจมูกจนรู้สึกผ่อนคลายและเร้าร้อนในเวลาเดียวกัน ในเวลานี้ผมอยากที่จะนอนรอให้เธอทำอยู่ฝ่ายเดียว
"อ๊า"
เธอเริ่มหลุดครางเป็นคำและเสียงดังขึ้น ยิ่งผมกดอัดท่อนลำสวนขึ้นแรงเท่าใดเสียงตอบรับกลับก็ยิ่งดังเท่านั้น ท่อนลำของผมเข้าออกไปมารวดเร็วและรุนแรงราว อารมณ์ของเราทั้งสองอยู่ในจุดสูงสุด จนลืมความกินแหนงแคลงใจไปที่ผ่านมาไปอย่างรวดเร็วจนไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นทั้งเธอและผมก็ได้ถึงจุดสุดยอดไปด้วยพร้อม ๆ กับ เอวของผมกระตุกบีบพ่นน้ำกามไปจนเต็มถุง ส่วนเธอนั้นกระตุกเกร็งไปทั้งตัวพร้อมกับกอดจิกแผ่นอกผมไว้อย่างไม่วางมือ
"รู้สึกดีไหม หายงี่เง่าได้หรือยัง คุณพี่เติม" หมิง เอ่ย
"..................."
"ถึงพี่จะช่วยอะไรหมิง ไม่ได้มากแต่พี่จะพยายามช่วยเท่าที่พี่ทำได้นะ"
ผมเอ่ย
ก่อนที่หมิง จะเอ่ยตอบกลับมา
"โถ่ ไม่เป็นไรหรอกพี่ ปัญหาของหมิง เรื่องแค่นี้สบายแต่พี่อย่าทำตัวมางี่เง่ากับหมิง แบบเมื้อกี้อีกก็พอ"
ผมที่ได้ยินก็เงียบไปพลางเกิดอารมณ์โมโหพลั่งพรูมาอีกครั้งในถ้อยคำที่หมิง เอ่ยออกมา พอดีกับที่เสียงเตือนชั่วโมงดังขึ้น
ผมออกมาจากร้านมาโดยจ่ายค่าบริการทำพิเศษในแบบร้านทั่วไปให้หมิง ไปจนหมดกระเป๋าของผมเลยกว่าแปดพันบาท จน หมิง ถึงกลับ งง พลางเอ่ยขึ้น
"นี่พี่เติม จะทิ้งทวนไม่มาเจอหมิง อีกแล้วใช่ไหม ให้ประชดมาแบบนี้"
ผมที่ได้ยินก็ไม่ตอบเธอ พลางเดินออกจากร้านนวดไปเลย แล้วผมก็ตรงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แปลกๆ จะเหมือนกับตอน อร ก็ไม่ใช่ เหมือนตอน พิงค์ ก็ไม่เชิง ผมที่สับสนเช่นนั้นจนขับรถกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น
.
.
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ภายในห้องนอนบนเตียงที่ผมกำลังนอนคิดทบทวนเรื่องราวในวันนี้อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์เครื่องหลักของผมก็ดังขึ้น
"ตี้ดๆๆๆๆ"
เป็น พี่มน ที่เธอโทรมาหาผม หลังจากเธอเพิ่งเลิกงาน
"ว่าไงวันนี้มากี่โมง แม่ เพิ่งกลับมา มีซูชิ มาให้ด้วย"
ผมเอ่ยถามตามปกติเพราะ พี่มน หลังเลิกงานเธอจะแวะมากินข้าวเย็นที่บ้านผมก่อนจะกลับไปนอนที่คอนโดของเธอแบบนี้ทุกวัน
"เอ่อ มนคงไม่ไปหานะวันนี้ เติม มน" เธอเอ่ยก่อนจะพูดต่อ
"มีเรื่องจะปรึกษาอะไรหน่อยซิ"
.
.
.
.
"ครืดดดดด"
เสียงระบบสั่นจากโทรศัพท์และไฟวาบขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหนึ่งที่วางอยู่บนบนโต๊ะข้างเตียงของผม
ผมที่เห็นก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องนั้นของผมที่ใช้สำหรับใช้งานในโลกคู่ขนานอีกใบของผมที่ไม่มีใครจะรู้ถึงตัวตนของโทรศัพท์เครื่องนี้ที่ภายในโทรศัพท์นั้นมีแอฟพลิเคชั่นไว้ติดต่อกับคนในอีกโลกอีกใบของผมเช่น พี่เหลียง หรือ หมิง ทางโลกฝั่งดาร์คไซด์ของผมมา ปรากฎว่าเป็นข้อความไลน์จาก หมิง ดังขึ้น
"ตกลงจะไม่เจอกันแล้วใช่ไหม พี่เติม"
".................."
ผมเปิดอ่านแต่ไม่ตอบอะไร หมิง กลับไปจนผ่านไปสักพักอีกข้อความก็เข้ามาต่อ
"ติ้ง"
เป็นข้อความไลน์จากหมิง เช่นเดิม ผมเปิดอ่านอีกครั้ง
"นี่ หนูจะบอกพี่ตามมารยาทที่เคยสัญญากับพี่ไว้แล้วกันนะถ้าพี่จะเงียบแบบนี้ หมิง เรียนจบแล้วนะ เกรดตัวสุดท้ายเพิ่งออก ตกลงหนูได้เกียรตินิยม นะตามที่เคยคุยกันหนูได้ 3.91 นะ เดี๋ยวจะหาว่าหนูๆไม่บอกพี่ บายค่ะ"
หลังจากที่อ่านไป ผมก็พิมพ์ข้อความกลับไปหา หมิง
"พี่ดีใจด้วยนะ"
ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงแล้วปล่อยมันไว้แบบนั้น
.
.
.
มนมีเรื่องอะไร จะเลิกเติมแน่เลย เดาเอา
ได้เป็นมาผูกปิ่นโตบ้านน้องหมิวนี้ซะแล้ว
น่าจะมีเรื่องซะแล้ว
น้องเค้าไม่เรียกร้องเราก้อควรอยู่ในส่วนของเรานะ
จบแล้วจบอีก
อยากเจอมากแบบน้องมิ้ง เพราะปัจจุบันมีแต่น้องๆ ที่เรียกร้องเงินอย่างเดียวนะ แต่ก็จะต้องไปผูกพัีน ทำให้พระเอกเรามีปัญหาชีวิต
อ้างจาก: pootoo7777 เมื่อ เมษายน 01, 2024, 11:26:26 ก่อนเที่ยงอยากเจอมากแบบน้องมิ้ง เพราะปัจจุบันมีแต่น้องๆ ที่เรียกร้องเงินอย่างเดียวนะ แต่ก็จะต้องไปผูกพัีน ทำให้พระเอกเรามีปัญหาชีวิต
สมัยนี้เด็กฐานะดีเยอะที่มาทำแบบนี้เยอะ
การเดินทางรอบใหม่เริ่มละเติม
ต่อนะต่อต่อ
เติมมีมนเป็นแฟนแต่ไม่ค่อยดูแลเอาใจเลย เดี๋ยวมนก็จะมีคนใหม่ซะหรอก
ขาประจำน้องหมิวไปเลย
เป็นอะไรป่าวนี่
ยกบริษัทเลยครับ
จริงๆแล้วมนคนเดียวน่าจะพอแล้ว ไปคบกะหมิงเพิ่มมันไม่มันหรอกนะ เพราะต้องใส่ถุงยาง
::JubuJubu::
หืมม ไปไงต่อละทีนี้
::Thankyou:: ใกล้จะเอนดิ้ง
น้องคงเตรียมตัวหาผัวเป็นตัวตนแล้วน่ะ
ตามๆๆๆ
เติมมีสาวใว้คลายเหงาหลายคน ทำให้สาวต้องหาคนอื่นช่วย
คนรักจริง มีอะไรจะบอกหรือ
กลับเข้าสู่ลูปเดิม
ลุ้นกันไปว่ามนจะมีเรื่องอะไรปรึกษาอีกไหม
เนื้อเรื่องสนุกมากครับ
โชคดีนะที่ผัวเขาไม่ยิงกะบาล ชีวิตไอ้แผนเดินต่อไปครับ ขอบคุณครับ
ชีวิตคนเรา
หมิงเนียนเก่งเหมือนกันนะเนี่ย
::Horror::
พี่จิวกลับไปกินน้ำพริกถ้วยเก่า
ขอบคุณครับ
อดรุ่นใหญ่
เจอแต่เรื่องร้ายๆทั้งนั้น
::Thankyou::
::Angry::
สาวคนใหม่
อยากให้หมิงมีบทอยู่นานๆ หน่อยนะ ::JubuJubu::
ความรักเอย
จิวน่าสงสารจัง
หมิง น่าจะมีบทเพิ่มเติมไหม
โดนเทอีกแน่เลย
คุณชายเติมมีน๊อย...สาว
หมิงน่าจะมีหลายคน เติมตั้งแต่ความแตกแล้วลาออกจากบริษัทฯ ดูเป่ๆ ไปนะ
::Evil::
เห้อมีแต่เรื่องนะเจ้าเติม
เติมขาเย แต่ก็เป็นได้แค่ตัวสำรอง