" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.22 : ถึงคราวเอาคืน(1)แล้วเวลาก็ผ่านล่วงเลยไป ภายหลังจากที่ผมลาออกจากงานมาได้นานจนเวลาเกือบสองปีล่วงเลยผ่านไปนั้น ผมก็ได้สนิทสนมกับพี่เหลียง อย่างพี่น้องกันด้วยแกเอ็นดูและถูกอัธยาศัยกับผมอย่างไม่น่าเชื่อตลอดสองปีที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ สำหรับหมิง นั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลยหลังจากวันที่ผมได้โทรวิดีโอคอลไปกับเธอไปเมื่อครั้งก่อนโดยที่หมิง เองเธอก็ไม่ได้ติดต่อผมมาเช่นกันซึ่งมันก็ผ่านกว่า 6 เดือนแล้วจนมาวันนี้ผมก็ได้พบเธออีกครั้งผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์มือถือในภาพข่าวที่เธอยืนอยู่ข้างคณะทำงานของหน่วยงานกระทรวงหนึ่งขณะออกงานโร้ดโชว์ที่ต่างประเทศในวันที่ผมต้องไปทำธุระที่โรงแรมแถวรัชดาพอดี ผมที่ยืนรอลิฟท์อยู่เพียงลำพังคนเดียวที่อาคารจอดรถของโรงแรมแห่งนั้นแถวแยกอสมท
แล้วเสียงลิฟท์ก็ดังขึ้น
"ติ๊ง"
ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ผมที่ก้าวเข้าไปในลิฟท์ แล้วเมื่อประตูลิฟท์ปิดลงมันก็เคลื่อนตัวลงสู่ชั้นล่าง
"ติ๊ง"
เสียงลิฟท์ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับป้ายไฟบอกชั้นภายในลิฟท์แจ้งว่าชั้น 7 แล้ว และเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกผมที่ไม่ได้สนใจอะไรนักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่หอบเอกสารจนเต็มไม้เต็มมือของเธอพุ่งตัวเข้าไปในลิฟท์ทันที โดยเธอนั้นไม่ได้มองดูเลยว่าในลิฟท์มีคนอยู่ไหม ทำให้ร่างของผู้หญิงคนนั้นชนเข้ากับผม ที่ยืนอยู่ในลิฟท์เข้าอย่างจังจนเอกสารของเธอกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้นลิฟท์ไปหมด
" ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะเผอิญรีบเลยไม่ทันได้มอง" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากขอโทษโดยก้มหน้าลงไม่ได้มองหน้าคนที่เธอชนในลิฟท์ตามมารยาทด้วยความอาย ที่ทำเรื่องขายหน้าแบบนี้ต่อคุณไม่รู้จักกัน
" ไม่เป็นไรครับ" ผมที่โดนชนเอ่ยตอบกลับมาพร้อมกับพูดต่อเมื่อเหลือบไปมองร่างของผู้หญิงคนนั้น
" อ้าว พิงค์ พิงค์ หรือเปล่า" ผมเอ่ยทักถาม
จนผู้หญิงคนนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมาเพื่อดูหน้าว่าเป็นใครทำไมถึงได้รู้จักชื่อของเธอ เมื่อผู้หญิงคนนั้นเงยหน้ามาเห็นผม
"อ้าว เติม" ผู้หญิงคนนั้น เอ่ยขึ้น
ผมที่หันมามองตามเสียงที่คุ้นเคย ผู้หญิงคนนั้นคนที่เงยหน้าขึ้นมาผมก็พบว่าคือพิงค์ นั่นเอง เช่นเดียวกับผู้หญิงคนนั้นที่เมื่อเห็นก็รู้ว่าชายคนดังกล่าวตรงหน้าของเธอคือผม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของเธอสมัยที่ทำงานเดิมที่ได้เลิกรากันไปเมื่อกว่าสามปีก่อนนั้นเอง ผมที่เห็นพิงค์ก็พลางคิดในใจ
'ใช่แล้วแถวนี้มันแถวธนาคารที่เธอย้ายมานี่นา เมื่อตอนที่เธอได้ย้ายที่ทำงานจากที่เดิมและได้เลิกราจากผมไปอย่างไม่ค่อยดีนัก'
" อ้าว เติม สวัสดี เป็นไงมาไงเนี่ย" พิงค์ เอ่ยถามตามมารยาทกับผมออกมา
" เติม มาทำธุระที่โรงแรมน่ะ แล้วพิงค์ล่ะ" ผมเอ่ยตอบไป โดยตอนนี้ผมที่ไม่คิดอะไรที่เกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไปแล้ว แล้ว พิงค์ ก็ได้ตอบผมกลับมา
" อ๋อ มาทำงานสัมนาน่ะธนาคาร เปิดห้องไว้ให้"
พิงค์ ตอบกลับมาอย่างไม่มีอาการอึดอัดหรือตะขิดตะขวงใจอะไรด้วยตามนิสัยเธอคงไม่สนใจอดีตของเราสองคนแล้วเช่นกัน จังหวะเดียวกันนั้นลิฟท์ก็ลงมาถึงลอบบี้พอดี จนเมื่อประตูลิฟท์เปิดออก
" พิงค์ ไปก่อนนะ เผอิญต้องรีบนะ บาย เติม " พิงค์ เอ่ยพร้อมกับพุ่งตัวออกจากลิฟท์ไป ผมที่มองดูภาพด้านหลังของเธอที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไป พลางคิดในใจ
'พิงค์ ยังดูอวบอัดเซ็กซี่ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย ยิ่งอยู่ในชุดพนักงานธนาคารที่เธอย้ายไปยิ่งน่า....'
ซึ่งอันที่จริงเมื่อตอนเลิกกันครั้งนั้น ความจริงลึกๆ นั้นผมก็ไม่อยากเลิกเลยแต่เป็นความเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันซับซ้อนและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนที่ผมไปรู้ความจริงว่าเธอมีการคบซ้อนอยู่ ทำให้ ตอนนั้นผมเองก็ไม่พอใจเธอเหมือนกัน เพราะถึงตอนนั้นผม จะเคยได้สัมผัสร่างกายของพิงค์ ทั้งหมดแล้วทั้งบนรถโรงแรมหรือที่บ้านของผมในวันที่ไม่มีใครอยู่บ้านแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้เลยไปถึงการมีอะไรกับพิงค์เลย ได้แค่เพียงภายนอกเท่านั้นแต่กลายเป็นผู้ชายอื่นที่เธอคบอยู่พร้อมๆกันกับผมกลับได้ร่วมรักกับเธออย่างเร่าร้อนในวันที่ผมกับพี่จิว ไปเจอเธอในรีสอร์ทโดยบังเอิญ ผมที่คิดไปพลางระหว่างเดินไปที่รถเพื่อออกจากโรงแรมจนในระหว่างขับรถออกมาผ่านมาถึงแถวย่านสุทธิสาร แล้วอยู่ๆผมก็ตัดสินใจที่จะยูเทิร์นกลับรถตรงไปยังโรงแรมอีกครั้ง โดยก่อนที่ผมจะแวะไปที่สถานที่แห่งหนึ่งก่อน
.
.
โดยจุดประสงค์ของผมที่จะกลับไปยังโรงแรมนั้นก็เพื่อไปรอพิงค์ เลิกงานสัมนา เพราะผมตัดสินใจจะชวนพิงค์ ไปกินข้าวเย็น สักมื้อเพื่อจะได้เคลียร์เรื่องค้างคาในใจมาคุยกันหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปี ระหว่างตลอดสายจนถึงเที่ยง เธอก็พรีเซนต์งานสัมนาไปตลอดจน พอพักเที่ยง พิงค์ ก็ออกมากินข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร่วมสัมนา ก็เจอเข้ากับผมที่นั่งรออยู่หน้าห้องสัมนาพอดี แต่จริงๆ แล้วผมนั้นรอดักที่จะเจอเธออยู่แล้วนั่นเอง
" อ้าว เติม ยังไม่กลับเหรอ" พิงค์ เอ่ยถาม
" ใช่ แล้วงานเลิกกี่โมงล่ะ พิงค์" ผม ถามกลับ
" บ่ายสองโมงครึ่ง น่ะเติม มีอะไรหรือเปล่า" พิงค์ ถามผมกลับ
" ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวน พิงค์ ทานข้าวกันสักมื้อ ได้ไหม" ผมตอบพร้อมเอ่ยปากชวน พิงค์
"......."
พิงค์ ที่เงียบไปสักครู่ เธอที่คงคิดในใจว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วด้วยความเกรงว่าเธอจะดูไม่ดีต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เธอจึงเอ่ยบอก
" โอเค ได้เติม งั้นเจอกันสักสามโมงที่หน้าลอบบี้แล้วกัน" พิงค์ ตอบกลับมา
"โอเค ไว้เจอกัน งั้น เติม ไม่รบกวน พิงค์ กับเพื่อนแล้วกัน" ผมเอ่ย
หลังจากคุยเสร็จ พิงค์และผมก็แยกย้ายกันไป
.
.
.
ระหว่างที่รอเวลาตามที่นัดกับพิงค์ อยู่นั้นผมก็จัดการโทรไปหาพี่มน
"มน วันนี้เลิกงานไม่ต้องแวะบ้านเติมนะ หาอะไรกินไปเลย เติม มาข้างนอก คงกลับค่ำๆ" ผมเอ่ยบอกทันทีที่เธอรับสาย
"จ๊ะๆ แค่นี้ก่อนนะ มน ประชุมกับนายอยู่" พี่มน เอ่ยก่อนจะวางสายไปในทันที
.
.
.
เมื่อถึงเวลานัดราวๆ สามโมงครึ่ง พิงค์ ก็มาเจอกับผม ตามที่ได้นัดกันไว้ เธอมาในชุดเสื้อเชิ้ตพนักงานธนาคารเหมือนเมื่อเช้า จะต่างกันตรงเธอ ไม่ได้ใส่เสื้อสูททับมาแบบที่ผมเจอเมื่อสายๆ น่าจะเพราะเลิกงานแล้ว พิงค์ จึงไม่ใส่สูทให้เป็นทางการนัก ภาพที่พิงค์ เดินมาทำให้ผมถึงกับชะงักไป เลยเพราะเสื้อเชิ้ตที่เธอใส่นั้นมันทำให้เผยสัดส่วนของพิงค์ ให้ยิ่งเด่นชัดขึ้นหน้าอกเป็นหน้าอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ยิ่งสำหรับพิงค์นั้นเธอเป็นคนที่มีหน้าอกใหญ่เอวเล็กสะโพกใหญ่อยู่แล้วจึงยิ่งเน้นสะโพกและบั้นท้ายกลึงมนที่แอ่นงอนขึ้นมา อย่างชัดเจนทำให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น ภาพที่ผมได้เห็นทำให้ท่อนลำในกางเกงของผมแทบจะตื่นขึ้นมาทันที พอผมที่ตั้งสติได้ ก็ เอ่ยปากชวนเธอไปที่ร้านอาหาร ระหว่างเดินไปผมสังเกตดู พิงค์ ดูมีอาการเงียบๆแลดูเหนื่อยๆ ผมเลยเอ่ยปากถามไปด้วยความกลัวว่าจะเสียบรรยากาศ
" พิงค์ ดูหนื่อยๆนะ ไม่สบายหรือเปล่า" "
"ก็นิดหน่อยน่ะเติม สงสัยแอร์ในงานลงหัวตลอดตอนบรรยาย" พิงค์ ตอบกลับมา ผมได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ว่าพูดอะไรต่อจนทั้งสองเข้าร้านอาหารกันไป ระหว่างรออาหารในร้านกันอยู่นั้น
"พิงค์ ขอไปห้องน้ำนะ เติม" พิงค์ เอ่ยขอตัวไปห้องน้ำ
หลังจากเธอเดินออกจากโต๊ะไปนั้นในขณะเดียวกันที่เมื่อ บริกรนำน้ำส้มที่เธอสั่งไว้มาเสิร์ฟพอดี จังหวะนั้นเอง ผมก็แอบเอายานอนหลับผสมยาสวาทชนิดออกฤทธิ์ช้าที่ก่อนจะวนรถมาถึงโรงแรมนั้นผมลงทุนขับไปหาพี่เหลียง ถึงที่สถานีที่เขาประจำอยู่ละแวกนั้นพอดีก่อนเพื่อขอมาใช้ แล้วผมก็จัดการเทยานั้นลงไปในแก้วน้ำส้ม ของพิงค์ ทันที จนเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเมื่อพิงค์ เดินกลับมา ระหว่างทานอาหาร เธอก็ยกน้ำส้มมาดื่มจนหมด สร้างความพอใจให้ผมยิ่งนัก ที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมตั้งใจ จนเวลาเกือบสี่โมงครึ่งทั้งสองกำลังจะลุกจากโต๊ะ
"พิงค์ ท่าทางจะดูเหนื่อยๆยังไงชอบกลนะ" ผม เอ่ยถามขึ้นด้วยเห็นอาการของเธอที่กินยาของพี่เหลียง ให้มาลงไป
" อืม เติม ...สงสัยพิงค์ จะเตรียมงานสัมนาหนักเกินไป เนี่ยแทบไม่ได้นอนมา3 คืน เลยมั้งก็เลยเหนื่อยง่ายแต่คงไม่เป็นไร มั้ง เติม" พิงค์ เอ่ย
"เติม ว่า พิงค์ ขึ้นห้อง แล้วรีบอาบน้ำนอนเลยดีกว่านะเดี๋ยวไม่สบายเอา พรุ่งนี้ต้องมาต่อนี่ สัมนาเริ่มสิบเอ็ดโมงโมงใช่ไหม" ผม เอ่ย
แล้วทั้งสองก็ออกลุกจากโต๊ะ เดินไปยังไม่ทันพ้นร้าน พิงค์ ก็ทรุดลงไปจะลงไปนั่งทันทีแต่ดีที่ผมประคองร่างของเธอคว้าแขนไว้ทัน เมื่อเธอเสียหลักจะไปนั่งกับพื้นโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอได้แยกขาออกจากกันทำให้ชายกระโปรงเลื่อนสูงขึ้นไปมากจน ชายกระโปรงเลิกไปถึงต้นขาเผยให้ผมที่หันไปมองอยู่ได้เห็นไปถึงความโหนกนูนของเนินเนื้อขนาดพอดีมือโผล่พ้นชายกระโปรงออกมามีเพียงกางเกงชั้นในลายลูกไม้สีฟ้าอ่อนที่ปกปิดความนูนของมันเอาไว้ มือซ้ายของเธอที่ยันไปกับพื้น ไว้ ผมรีบประคองตัวเธอขึ้นมา
" เป็นอะไรไหม พิงค์ " ผมถาม
" ไม่เป็นไรเติม เดี๋ยว พิงค์ ไปกินยาบนห้องได้ " พิงค์ ตอบกลับมา
" มา พิงค์ เดี๋ยว เติม พาไปส่งห้องแล้วกัน" ผม เอ่ยเสนอตัว
" อืม"
พิงค์ ตอบรับโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวเธอเองตอนนี้ รู้สึกมึนหัว โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้เลยว่ามันมาจากฤทธิ์ยาที่ผมได้แอบใส่ลงในน้ำส้มของเธอ พิงค์ ที่คงคิดว่าเป็นเพราะอาการพิษไข้ที่เกิดจากร่างกายเป็นไข้ของตัวเธอเท่านั้น ผมประคองพิงค์ ไปที่ลิฟท์เพื่อไปที่ห้องพักที่ธนาคารเปิดไว้ให้เธอพักในคืนนี้ ระหว่างทางที่ผมประคองพิงค์ ไปนั้นสายตาของผมก็แอบชำเลืองมองลงมายังหน้าอกของพิงค์ ผ่านสาปคอเสื้อเชิ้ตจนเห็นไปถึงร่องอกขนาด 38 นิ้วของเธอที่อยู่ในเสื้อชั้นในลายลูกไม้สีฟ้าอ่อน ที่น่าจะเข้าชุดกับกางเกงในลายลูกไม้เดียวกันที่ผมได้เห็นที่หน้าร้านอาหารไป โดยตลอดทางที่ผมแอบชำเลืองมองนั้น เธอเองก็ไม่รู้สึกตัวเลยอันน่าจะมาจากทั้งพิษไข้และยาที่ผมแอบใส่ไว้นั่นเอง ลิฟท์ มาหยุดที่ชั้น12 ผมก็เอ่ยถามพิงค์ไป
"ห้องไหนพิงค์"
เธอไม่ตอบ แต่เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของเธอแล้วยกคีย์การ์ดมาดู พร้อมทั้งเอ่ยว่า
" เติม ไปเถอะ เดี๋ยวพิงค์ เข้าห้องเองได้"
ผมรีบชิงพูดขึ้นมาทันที
"ได้ไง พิงค์ เดี๋ยว เติม พาไปที่ห้องเองเกิดพิงค์ เป็นอะไรระหว่างทาง" พร้อมชำเลืองดูเลขห้องซึ่งก็คือห้อง 1204 พูดจบ ผมก็รีบกึ่งดันตัวเธอพาไปที่ห้องทันที เพื่อมาให้เธอไม่แสดงการอิดออดอีก เมื่อมาถึงหน้าห้อง1204 ซึ่งไม่ไกลจากลิฟท์นัก ผมก็รีบดึงคีย์การ์ดจากมือของเธอแล้วเอามาเสียบเปิดห้องทันที เมื่อประตูห้องเปิดออก สิ่งที่ผมเห็นคือ เป็นห้องสวีท 2 ห้องนอน
'อาจจะเพราะเธอที่เป็นถึงระดับหัวหน้าส่วนงานทางธนาคารถึงจัดห้องให้ดีแบบนี้' ผมคิดในใจ
ผมค่อยๆ ประคองพิงค์ ไปนั่งที่โซฟา แล้วแกล้งทำเดินไปห้องน้ำโดยเพื่อตั้งใจสำรวจว่ามีคนพักอยู่ด้วยกับเธอหรือไม่ภายในห้องนี้ เพื่อความแน่นอน ระหว่างอยู่ในห้องน้ำ โดยแกล้งเอาเรื่องยาของเธอมาอ้างเพื่อไม่ให้เธอเอะใจ ก่อนที่ผมก็เอ่ยถามพิงค์ไปว่า
"ยาอยู่ไหนล่ะพิงค์ เดี๋ยว หยิบให้"
"............"
ไม่มีเสียงตอบจากพิงค์ กลับมา ผมจึงเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะถามเธออีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็น คือภาพของพิงค์ ที่นั่งเอนหลังพิงไปกับพนักโซฟาอาการเหมือนคนเคลิ้มครึ่งหลับครึ่งตื่น น่าจะมาจากพิษไข้และฤทธิ์ยานอนหลับที่ทำเอายาสวาทชนิดอ่อนไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาสู้ความอ่อนล้าของร่างกายจากพิษไข้ผสานกับฤทธิ์ยานอนหลับได้ ผมหยุดยืนมองดู พิงค์ ที่ตอนนี้นั่งในท่าที่แยกขาเผยให้ขาขาวของเธอชัดเจนขึ้น หน้าอกที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจของเธอ ยิ่งสร้างความต้องการมากยิ่งขึ้น ผมตัดสินใจ หันไปที่ประตูเดินไปกดล็อคทันทีแล้วเดินตรงไปที่พิงค์ ที่ยังนั่งอยู่ในท่าเดิมเพียงแต่สายตาของเธอตอนนี้เริ่มหรี่ลงด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยา จนในที่สุดเธอก็นอนหลับหมดสตินิ่งอยู่บนโซฟาตัวนั้นเอง
ตอนนี้สติสัมปชัญญะของผมก็ขาดผึงลง ความรู้ผิดชอบชั่วดีมลายหายไปจากภายในจิตใจ ในหัวมีแต่การเอาคืนในแบบที่เคยอยากทำกับอร และพิงค์ ที่ตอนในอดีตครั้งเมื่อแต่ก่อนที่ไม่สามารถทำได้แต่วันนี้โอกาสของผมมาแล้วและด้วยไฟราคะภายในตัวของผมที่โหมขึ้นมา ผมขยับไปประคองร่างของพิงค์ ซึ่งหลับสนิทมานอนราบอยู่บนเตียงนอนที่อยู่ไม่ห่างนัก พิงค์ ยังคงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตฟอร์มธนาคารกระโปรงเหนือเข่าสีเทาดำ ผมมองร่างของแฟนเก่าอย่างลุ่มหลง สายตาก็เพ่งพินิจพิจารณา ขณะที่มือก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวผมเองออกจนตอนนี้ ผม เหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวที่ปกปิดท่อนล่างเท่านั้น แล้วผมก็เอนตัวลงนอนตะแคงบนเตียง มือของผมลูบไล้ไปที่แก้มขาวๆอมชมพูของแฟนเก่าของผมอย่างแผ่วเบา
.
.
.
.
ก่อนที่ผมจะหยุดการกระทำทุกอย่างมานอนตะแคงมองดูร่างของแฟนเก่าที่ยังคงหลับอยู่บนเตียงนั้น อย่างลุ่มหลงนั้น หมายรอให้เธอตื่นขึ้นมาก่อนที่ผมจะทำอะไรต่อไปตามคำแนะนำของพี่เหลียง ที่กลัวว่าผมจะโดนข้อหาข่มขืนเอาได้ พี่เหลียงจึงแนะนำหนทางที่จะทำให้ผมสามารถหลบเลี่ยงความผิดนี้ได้ โดนให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเอ่ยยินยอมขอให้ฝ่ายชายร่วมรักกับเธอเอง ระหว่างรอนั้น ผมก็มาคิดเรื่องราวในอดีตของผมกับพิงค์ 'ตลอดเวลาที่คบกับเธอเมื่อกว่าสามปีก่อนนั้น ผมไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมรักกับเธอเลย เต็มที่ก็ได้แต่กอดหรือสัมผัสแต่เพียงเท่านั้นไม่ได้เคยได้ถึงขนาดจะเรียกได้ว่าร่วมรักเลยด้วยซ้ำไป เพราะไม่รู้ทำไมเธอนั้นค่อนข้างถือตัวและไม่ปล่อยตัวเลยแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนแบบผมก็ตามจนผมติดเอาเรื่องนี้มาเป็นคำถามในใจของผมจนมาถึงทุกวันนี้' จนสิ้นความคิดของผมแล้ว ผมก็จัดการลุกขึ้นและทำตามขั้นตอนอีกหนึ่งอย่างที่พี่เหลียง แนะนำให้ผมทำเพื่อความแน่ใจที่โอกาสที่จะเธอจะเอาผิดกับผมได้ให้มีน้อยลง แล้วผมก็เริ่มทำตามคำแนะนำของพี่เหลียง ทันที จนผมจัดการทำทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้ว ในที่สุด พิงค์ ค่อยๆได้สติ แต่ก็ลืมตาได้อย่างยากลำบาก เธอค่อยๆลืมตามอง ก็เห็นภาพที่ทำให้เธอตกใจแทบจะสิ้นสติ คือใบหน้าของแฟนเก่าของเธอ กำลังนอนตะแคงข้างๆเธอ พิงค์ พลิกตัวลุกขึ้นจะถอยหนีออกมาอย่างรวดเร็วมานั่งบนเตียงทันที สติทุกอย่างกลับคืนมาโดยไม่ต้องให้อธิบาย เธอคงพอจะเดาได้ทันทีว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เธอก็คงเดาไม่ถูกนัก
"ทำไมเติม ถึงทำกับพิงค์ อย่างนี้" พิงค์ ตวาดใส่ผมขณะที่ตัวเองก็รีบเอาผ้าห่มมาคลุมตัว ทำเอาผมถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก
"ขอโทษ นะ พิงค์ เติม เห็นพิงค์ หลับ แล้วห้ามใจไม่อยู่จริงๆ" ผมโกหกเรื่องที่ผมเป็นคนวางยานอนหลับ ซึ่งพิงค์ เองเหมือนจะไม่ได้เอะใจอะไร เพราะกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ทั้งโกรธ แค้น และก็อาย
"เพี้ยะ"
พิงค์ เอื้อมมือมาตบหน้าผมอย่างแรง ด้วยอารมณ์ที่คงโกรธสุดขีด เมื่อผมโดนตบจนอารมณ์โมโหขึ้นมาเช่นกัน ผมเลยพูดขึ้น
"ก็ลองดูสิพิงค์ แต่พิงค์ จะเอาหน้าไปไว้ไหน" ผมสวมวิณญาณเดนมนุษย์เอ่ยขู่ ตามที่พี่เหลียงแนะนำพร้อมยกมือถือขึ้นมาเปิดคลิปๆหนึ่งเพราะผมมั่นใจว่ายังไงคนลักษณะนิสัยอย่างพิงค์ ไม่มีทางยอมที่จะอับอายให้เรื่องทำนองนี้รู้ถึงหูคนอื่นแน่ พร้อมยื่นให้เธอดู ในคลิปเป็นภาพของทั้งพิงค์และผมในคลิปกำลังอยู่นอนก่ายกันด้วยกันถึงตัวเธอจะนอนนิ่งๆ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างก็ตามที
"ถ้าคนอื่นเห็นคลิปนี้ พิงค์ ยังจะกล้าไปเจอหน้าใครอีกมั้ย" ผมเริ่มสำทับ เพราะมั่นใจว่าผมถือไพ่เหนือกว่า
 
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
นายเติมเอาคืนสิน่ะ
เข้าสู่ dark mode อย่างเต็มตัว
ถึงเวลาเอาคืน
งานนี้น้องต้องยูเทิร์นกลับไปเอาคืนแล้วนะ ::Thankyou::
และแล้วก็มีวันที่เติมได้มีโอกาสเอาคืนพิ้งค์ที่ทิ้งเติมไป
ได้เวลาเอาคืนทบต้นทบดอกเลย
กลับมาเก็บจนได้
จะสำเร็จตามแผนที่วางไว้หรือเปล่า ขอให้สำเร็จได้เอาคืน
ได้พิงค์ซักที
ได้โอกาสเอาคืนแล้วหลังจากพลาดโอกาส
พิ้งทำเติมไว้แสบเหมือนกันถึงเวลาเอาคืนแล้ว
จัดหนักเลยนายเติม
เติมเอาคืนพิ้งที่เคยทำไว้ตอนที่คบกันแต่ปรากฎว่าเธอคบซ้อนและยอมให้อีกคนเย็ดอย่างถึงพริกถึงขิงโดยที่เติมได้แค่จับจูบลูบคลำเท่านั้นแต่รอบนี้เติมเย็ดจริงแถมเก็บคลิปไว้ต่อรองอีกด้วย
เริ่มที่พิงค์ก่อนเลย
โดนเยดสดแตกในมีคลิปลากมาเยดได้ตลอดแน่ๆ
เอาคืนได้อีกหลายครั้งแน่ๆ
จะมีใครมาเจอหรือเปล่า
มีที่ปรึกษานี่เอง
โดนแบลคเมย์คงต้องยอมแน่เลย แถมได้กินยาไปด้วยไม่น่าจะพลาด
ได้แก้แค้นแล้ว
ขอโทษก่อนแล้วทำเป็นเสียใจต่อด้วยเติมยา สำเร็จแน่นอน
เล่นๆ พอ มีตัวจริงอยู่แล้วเดี๋ยวจะหายไปหมด
มาทำกันแบบนี้ ต้องเอาคืนอย่างสาสม
เอาคืนให้สาสมเลย แต่ระวังข้อหาข่มขืนนะครับ
เก็บแค้นในอดีต
ได้สักที
คบกันแต่ไม่ให้เอา แต่ไปเอากับคนอื่นที่คบซ้อน เป็นใครใครก็แค้น
ได้เวลาเอาคืนแล้วสิ
ถามหาความจริงก่อนจัดหนักๆ
จ้ดน้องให้เต็มที่ระวังโดนข้อหา
ได้โอกาส ทำไมจะไม่คว้าละค้าบบบบ
จัดหนักให้สาสมไปเล้ยยยยยยยยยยยย
เติมเต็มที่ครับ เอาให้ครบทบทั้งต้นและดอกเบี้ยค่าเสียโอกาส
แบล็แฟนเก่าเลยรึ
ทบต้นทบดอกเลย
ได้เอาคืนแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นคู่ขาไหมนะ
เอาคืนให้สาสมนะเติม
นายเติมเริ่มเอาคืนแล้ว
เติมเอาคืนเต็มๆ
การแก้แค้นเริ่มขึ้นแล้ว
เอาคืนได้
แบล็คเมลสะงั้น
ทำไมทำแบบนี้วางยาเลยเหรอ
ภาพเก่าเข้ามาสุมเลยเกิดความแค้นแต่ก็ระมัดระวังตัวเองไว้บ้างก็ดีนะ
เอาคินให้สาสมกับที่พิงค์ทำกับเติมไว้
ได้เวลาแล้วสินะ
ถึงเวลาเอาคืนแล้ว หลอกกันได้นะ
::Angry::55 ::Hunger::
นึกว่าเปิดคลิปพิงค์กับคนที่เติมไปเจอ
พี่มนก็ดูแปลกๆนะ
เอาละเริ่มชั้วขื้นเรื่อยๆละคับ
เอาคืนแบบจำยอม
อยากรู้ด้วยคน อยากรู้ว่าเรื่องราวมายังไง ไปยังไงพิ้งถึงนอกใจได้
เอาคืนแฟนเก่า โดยการใช้ยา ..
อ้างจาก: syncbkmz0011 เมื่อ เมษายน 13, 2024, 03:05:45 ก่อนเที่ยงอยากรู้ด้วยคน อยากรู้ว่าเรื่องราวมายังไง ไปยังไงพิ้งถึงนอกใจได้
ติดตาม ep เก่าๆได้เลยครับ หรืออยากอ่านเรื่องราวในแบบฉบับ UNCUT EDITION สามารถอ่านได้ครับตามลิงค์ที่แนบไว้ท้ายep ได้ครับ ::Thankyou:: ::Thankyou::
นายเติมเอาคืนพิงค์ แต่คงจะไม่ทั้งคืนแน่
คราวนี้จะได้มอบความรักให้อย่างสาสมกับที่เธอทำไว้
วางแผนได้เนียนว่าแต่จะลงเอยยังไงต่อ
ได้เอาคืนแฟนเก่า...แบบนี้จัดให้หนักไปเลย
เข้าสู่การแก้แค้นอย่างเป็นทางการแล้ว
ได้เวลาเอาคืนแบบหนักๆเลย
ทวงแค้นตั้งแต่เป็นแฟนกัน
เอาคืนให้หนักเลย
จัดให้หนักเลยรอบที่แล้วอุตส่าห์ถนอมโดนคนอื่นจัดตัดหน้าไป
จัดทุกกระบวตท่า ให้นางติดใจ
สบายตัว
ต้องจัดให้สาสมครับ
อย่างชั่วเลยเติม
เวลาล้างแค้นมาถึงแล้วสินะ
ด้วยแรงแค้น ต้องหลายๆน้ำหน่อย
เก็บให้ครบดอกทบต้น
ต้องล้างแค้นหนักๆ
เติมได้เอาพิ้งค์
จัดคืนให้สมใจเลยนะเต็ม
ได็ซักทีหลังปล่อยให้คนอื่นมาเอาซะจนพรุน
เอาคืนอย่างสาสม
::JubuJubu:: จัดหนักเอาคืนให้สามสมเลย
เอาคืนแบบสาสม
น่าจะหาคนลุมพริ้ง
แผนการอันร้ายกาจ ::Confident::
แก้แค้นหรือนี่นายเติม
เติมได้เวลาเอาคืนลแ้วนะ ต้องทบต้นทบดอกเลย
กลายร่างเข้าสู่ด้านมืดเต็มตัวแล้วว ::Horror::
แก้แค้นได้แสบมาก
แล้วจะยังไงละทีนี้ คืนนี้น่าจะอีกนาน
ลักหลับของจริง
อะไรอีกหละเติม
ได้เวลาแล้วเก็บทีละคน
ต้องเอาคืนให้สาสม
น่าจะต้องเอาคืนให้หนัก
พิงค์โดนดอกทบต้นแน่ๆ
มันก้อน่าแค้นนะคนเป็นแฟนไม่ได้เอาแต่คนอื่นเอาไปก่อน
เข้าใจเติม ที่รู้สึกแบบนั้น คำถาม มันวิ่งในหัว ทำไม ทำไม ทำไม แต่ ทั้งคู่คือผิด พืงค์มีชู้คบช้อน เติมก็มีคบหลายคนด้วย แต่ เติมกากมาก ที่วางยา ไม่เป็นลูกผุ้ชายเลย ใจหมามาก สงสาร มน แต่ เดาล่วงหน้า เลย มนคงมีคนใหม่แน่ๆ ระยะทาง ความห่าง บวกกับการที่เติมไม่ใส่ใจมน และ ยังแอบมีอะไรไปเรื่อยๆ เติมไม่ควรมีใคร ควรชื้อกินไปเรื่อยๆเหอะ
เติมเล่นโหด ระวังจบไม่สวยนะครับแต่น่าลุ้นดี ต้องคิดตามยาวไป พาพิ้งไปเล่นสนุก แก้แค้นก็น่าลอง
เริ่มเอาคืน
พิงค์เจอเสียวอีกหลายรอบแน่
ได้เวลาเอาคืนแล้วนายเติม
เสร็จแล้วทีนี้สบายแล้วครับ
เอาคืนได้ส่าสมมาก
เติมมึงนี่เลวได้โล่จิงๆ
แบลคเมล์ แล้วให้ทำให้หรอ สุดนะ
จะเอาให้ได้ ว่างั้นเหอะ
จะสมหวังกะแฟนเก่ามั้ยนายเติม
::Hunger:: 55
เอาคืน
เริ่มมีมาแก้แค้นแล้ว ::Cheeky::
เอาคืนให้เต็มที่นะครับ แต่ก็ว่าไม่ได้ ถ้าเขาไม่ไปในวันนั้นเราก็ไม่ได้เปิดใจกับคนดีๆ แบบพี่มนเนาะครับ
เรื่องจะสำเร็จหรือจบแบบคาดไม่ถึง
เติมบอกได้เวลาคิดบัญชีย้อนหลังแล้ว
งานนี้เอาคืนจัดหนักแน่
payback time แล้วครับ
รออยู่หลายวันแล้วครับ ::DookDig::
เอาคืนให้สาสมใจเลย
ต้องจัดหนักจัดเต็ม ชดเชยเมื่อก่อนที่อดทำ
โหดไปไหม แต่ก็สมแล้ว
อ้าวเปลี่ยนความคิดยูเทรินไปดักเจอเสียเลย
งานนี้จะได้จักหนักไหมหนอ
เข้าโหมด โฉด เต็มตัว
บางครั้งก็ต้องรุนแรง
แค้นเดิมจะได้รับชำระแล้ว
มีโอกาสเอาคืนแล้วจะมีพลิกล็อกมั้ยละนี่
พิงค์กลับมาให้เคลียร์หนี้สิน
เอาคืนแรงนะเนี่ย
ขอบคุณครับ
เมื่อต่อต้านไม่ได้จงยอมรับมัน
::Snap:: พิษรักแฟนเก่า คบกันมาตั้งนาน จะได้กันก็คราวนี้แหละ ทำให้สมกับที่รอคอยมานานนะ ::Hunger::
เอาคืนซะที่
ได้เวลาบทคนเลวแล้ว
เติมใจร้ายลักหลับสาวยังถ่ายรูปไว้แบล็คเมล์อีก กลายเป็นผู้ร้ายไปเลย
เติมเอาคืนแบบนี้ เสี่่ยงไปเปล่า
เอาเลยแก้แค้นให้สุด
โดนแฟนเก่าไปขนาดนั้นไม่น่าไปยุ่งับเธออีก
เอาด้านมืดออกมาเลย
ทวงคืนสิทธิ์ของแฟนเก่า
ความคับแค้นใจอดีตแฟน คงได้ชำระสะสางกันมันหยดแน่เติม
รอน้องพิงค์มานานจัดหนักซะ
เปลี่ยนสายเข้าสู่ dark mode ละ
ที่ว่าไม่ได้ร่วมกันเลยระหว่างคบกันนั้น คิดดูให้ดีๆอีกทีว่า เราเคยขอเขาแล้วเขาไม่ให้ หรือว่าไม่เคยอ้าปากขอเขาเลย
พิงค์ไม่รอดแน่แบบนี้
เข้าขั้น
เนื้อเรื่องสนุกมากครับ
กี่รอบดีล่ะเนี่ยคืนนี้
จะเรียกว่าเลวหรือแค้นดีนะ แต่คงแค้นมากกว่า เพราะหวงตัวกับเราแต่ปล่อยกับคนอื่น
จัดให้แฟนเก่าสะหน่อย ::Ahoo::
เอาคืน
รอนานมากกว่าจะได้เอาคืน
แฟนเก่า ของชอบของหลายคน
พิงค์อย่ายอม
ด้านมืดเข้าครอบแล้ว
อีพิงค์ กูรอวันนี้มานาน
นายเติมถึงเวลาเอาคืน
ได้โอกาสเอาคืนแล้ว
ในที่สุดความแค้นก็ยังฝังใจ ความใคร่มากกว่าความรัก
เติมเปลี่ยนไป
Thank
เติมสนใจเด็ก ม3� ไมนมเล็กๆผิวเนียนๆ
ในเมื่อมีโอกาสอย่างนี้ ก็ต้องเอาคืนซักหน่อยแล้ว
ลุ้น
เอาคืนให้สาสมเลย เติม
พิงค์ไม่รอดแน่
ลองเล่นบทผู้ร้ายดูบ้าง เปลี่ยนบรรยากาศ
วันนี้ที่รอคอยของเติม ทบต้นทบดอกเลย
ต่อๆ
อย่าลืมดอกเบี้ยด้วยนะเติม
วันนี้เล่นบทโหด
::Beggar::
เสร็จแน่พิ้งค์
เอาคืนให้สาสม
ตายแน่พริ้ง ไม่เหลืองไม่ต้องเลิก
ไม่น่าเชื่อว่าจะยังไม่เคยมีอะไรกัน
พี่เติมต้องจัดหนัก ให้ร้องขอชีวิตเลย
นึกว่านายเติม จะดูแลเช็ดตัว เผื่อพิงค์จะกลับมาชอบ
ยาเป็นเหตุสังเกตได้ ::WooWoo::
อ้างจาก: bigaud เมื่อ เมษายน 12, 2024, 04:34:11 หลังเที่ยง" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.22 : ถึงคราวเอาคืน(1)
แล้วเวลาก็ผ่านล่วงเลยไป ภายหลังจากที่ผมลาออกจากงานมาได้นานจนเวลาเกือบสองปีล่วงเลยผ่านไปนั้น ผมก็ได้สนิทสนมกับพี่เหลียง อย่างพี่น้องกันด้วยแกเอ็นดูและถูกอัธยาศัยกับผมอย่างไม่น่าเชื่อตลอดสองปีที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ สำหรับหมิง นั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลยหลังจากวันที่ผมได้โทรวิดีโอคอลไปกับเธอไปเมื่อครั้งก่อนโดยที่หมิง เองเธอก็ไม่ได้ติดต่อผมมาเช่นกันซึ่งมันก็ผ่านกว่า 6 เดือนแล้วจนมาวันนี้ผมก็ได้พบเธออีกครั้งผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์มือถือในภาพข่าวที่เธอยืนอยู่ข้างคณะทำงานของหน่วยงานกระทรวงหนึ่งขณะออกงานโร้ดโชว์ที่ต่างประเทศในวันที่ผมต้องไปทำธุระที่โรงแรมแถวรัชดาพอดี ผมที่ยืนรอลิฟท์อยู่เพียงลำพังคนเดียวที่อาคารจอดรถของโรงแรมแห่งนั้นแถวแยกอสมท
แล้วเสียงลิฟท์ก็ดังขึ้น
"ติ๊ง"
ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ผมที่ก้าวเข้าไปในลิฟท์ แล้วเมื่อประตูลิฟท์ปิดลงมันก็เคลื่อนตัวลงสู่ชั้นล่าง
"ติ๊ง"
เสียงลิฟท์ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับป้ายไฟบอกชั้นภายในลิฟท์แจ้งว่าชั้น 7 แล้ว และเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกผมที่ไม่ได้สนใจอะไรนักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่หอบเอกสารจนเต็มไม้เต็มมือของเธอพุ่งตัวเข้าไปในลิฟท์ทันที โดยเธอนั้นไม่ได้มองดูเลยว่าในลิฟท์มีคนอยู่ไหม ทำให้ร่างของผู้หญิงคนนั้นชนเข้ากับผม ที่ยืนอยู่ในลิฟท์เข้าอย่างจังจนเอกสารของเธอกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้นลิฟท์ไปหมด
" ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะเผอิญรีบเลยไม่ทันได้มอง" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากขอโทษโดยก้มหน้าลงไม่ได้มองหน้าคนที่เธอชนในลิฟท์ตามมารยาทด้วยความอาย ที่ทำเรื่องขายหน้าแบบนี้ต่อคุณไม่รู้จักกัน
" ไม่เป็นไรครับ" ผมที่โดนชนเอ่ยตอบกลับมาพร้อมกับพูดต่อเมื่อเหลือบไปมองร่างของผู้หญิงคนนั้น
" อ้าว พิงค์ พิงค์ หรือเปล่า" ผมเอ่ยทักถาม
จนผู้หญิงคนนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมาเพื่อดูหน้าว่าเป็นใครทำไมถึงได้รู้จักชื่อของเธอ เมื่อผู้หญิงคนนั้นเงยหน้ามาเห็นผม
"อ้าว เติม" ผู้หญิงคนนั้น เอ่ยขึ้น
ผมที่หันมามองตามเสียงที่คุ้นเคย ผู้หญิงคนนั้นคนที่เงยหน้าขึ้นมาผมก็พบว่าคือพิงค์ นั่นเอง เช่นเดียวกับผู้หญิงคนนั้นที่เมื่อเห็นก็รู้ว่าชายคนดังกล่าวตรงหน้าของเธอคือผม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของเธอสมัยที่ทำงานเดิมที่ได้เลิกรากันไปเมื่อกว่าสามปีก่อนนั้นเอง ผมที่เห็นพิงค์ก็พลางคิดในใจ
'ใช่แล้วแถวนี้มันแถวธนาคารที่เธอย้ายมานี่นา เมื่อตอนที่เธอได้ย้ายที่ทำงานจากที่เดิมและได้เลิกราจากผมไปอย่างไม่ค่อยดีนัก'
" อ้าว เติม สวัสดี เป็นไงมาไงเนี่ย" พิงค์ เอ่ยถามตามมารยาทกับผมออกมา
" เติม มาทำธุระที่โรงแรมน่ะ แล้วพิงค์ล่ะ" ผมเอ่ยตอบไป โดยตอนนี้ผมที่ไม่คิดอะไรที่เกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไปแล้ว แล้ว พิงค์ ก็ได้ตอบผมกลับมา
" อ๋อ มาทำงานสัมนาน่ะธนาคาร เปิดห้องไว้ให้"
พิงค์ ตอบกลับมาอย่างไม่มีอาการอึดอัดหรือตะขิดตะขวงใจอะไรด้วยตามนิสัยเธอคงไม่สนใจอดีตของเราสองคนแล้วเช่นกัน จังหวะเดียวกันนั้นลิฟท์ก็ลงมาถึงลอบบี้พอดี จนเมื่อประตูลิฟท์เปิดออก
" พิงค์ ไปก่อนนะ เผอิญต้องรีบนะ บาย เติม " พิงค์ เอ่ยพร้อมกับพุ่งตัวออกจากลิฟท์ไป ผมที่มองดูภาพด้านหลังของเธอที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไป พลางคิดในใจ
'พิงค์ ยังดูอวบอัดเซ็กซี่ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย ยิ่งอยู่ในชุดพนักงานธนาคารที่เธอย้ายไปยิ่งน่า....'
ซึ่งอันที่จริงเมื่อตอนเลิกกันครั้งนั้น ความจริงลึกๆ นั้นผมก็ไม่อยากเลิกเลยแต่เป็นความเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันซับซ้อนและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนที่ผมไปรู้ความจริงว่าเธอมีการคบซ้อนอยู่ ทำให้ ตอนนั้นผมเองก็ไม่พอใจเธอเหมือนกัน เพราะถึงตอนนั้นผม จะเคยได้สัมผัสร่างกายของพิงค์ ทั้งหมดแล้วทั้งบนรถโรงแรมหรือที่บ้านของผมในวันที่ไม่มีใครอยู่บ้านแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้เลยไปถึงการมีอะไรกับพิงค์เลย ได้แค่เพียงภายนอกเท่านั้นแต่กลายเป็นผู้ชายอื่นที่เธอคบอยู่พร้อมๆกันกับผมกลับได้ร่วมรักกับเธออย่างเร่าร้อนในวันที่ผมกับพี่จิว ไปเจอเธอในรีสอร์ทโดยบังเอิญ ผมที่คิดไปพลางระหว่างเดินไปที่รถเพื่อออกจากโรงแรมจนในระหว่างขับรถออกมาผ่านมาถึงแถวย่านสุทธิสาร แล้วอยู่ๆผมก็ตัดสินใจที่จะยูเทิร์นกลับรถตรงไปยังโรงแรมอีกครั้ง โดยก่อนที่ผมจะแวะไปที่สถานที่แห่งหนึ่งก่อน
.
.
โดยจุดประสงค์ของผมที่จะกลับไปยังโรงแรมนั้นก็เพื่อไปรอพิงค์ เลิกงานสัมนา เพราะผมตัดสินใจจะชวนพิงค์ ไปกินข้าวเย็น สักมื้อเพื่อจะได้เคลียร์เรื่องค้างคาในใจมาคุยกันหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปี ระหว่างตลอดสายจนถึงเที่ยง เธอก็พรีเซนต์งานสัมนาไปตลอดจน พอพักเที่ยง พิงค์ ก็ออกมากินข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร่วมสัมนา ก็เจอเข้ากับผมที่นั่งรออยู่หน้าห้องสัมนาพอดี แต่จริงๆ แล้วผมนั้นรอดักที่จะเจอเธออยู่แล้วนั่นเอง
" อ้าว เติม ยังไม่กลับเหรอ" พิงค์ เอ่ยถาม
" ใช่ แล้วงานเลิกกี่โมงล่ะ พิงค์" ผม ถามกลับ
" บ่ายสองโมงครึ่ง น่ะเติม มีอะไรหรือเปล่า" พิงค์ ถามผมกลับ
" ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวน พิงค์ ทานข้าวกันสักมื้อ ได้ไหม" ผมตอบพร้อมเอ่ยปากชวน พิงค์
"......."
พิงค์ ที่เงียบไปสักครู่ เธอที่คงคิดในใจว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วด้วยความเกรงว่าเธอจะดูไม่ดีต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เธอจึงเอ่ยบอก
" โอเค ได้เติม งั้นเจอกันสักสามโมงที่หน้าลอบบี้แล้วกัน" พิงค์ ตอบกลับมา
"โอเค ไว้เจอกัน งั้น เติม ไม่รบกวน พิงค์ กับเพื่อนแล้วกัน" ผมเอ่ย
หลังจากคุยเสร็จ พิงค์และผมก็แยกย้ายกันไป
.
.
.
ระหว่างที่รอเวลาตามที่นัดกับพิงค์ อยู่นั้นผมก็จัดการโทรไปหาพี่มน
"มน วันนี้เลิกงานไม่ต้องแวะบ้านเติมนะ หาอะไรกินไปเลย เติม มาข้างนอก คงกลับค่ำๆ" ผมเอ่ยบอกทันทีที่เธอรับสาย
"จ๊ะๆ แค่นี้ก่อนนะ มน ประชุมกับนายอยู่" พี่มน เอ่ยก่อนจะวางสายไปในทันที
.
.
.
เมื่อถึงเวลานัดราวๆ สามโมงครึ่ง พิงค์ ก็มาเจอกับผม ตามที่ได้นัดกันไว้ เธอมาในชุดเสื้อเชิ้ตพนักงานธนาคารเหมือนเมื่อเช้า จะต่างกันตรงเธอ ไม่ได้ใส่เสื้อสูททับมาแบบที่ผมเจอเมื่อสายๆ น่าจะเพราะเลิกงานแล้ว พิงค์ จึงไม่ใส่สูทให้เป็นทางการนัก ภาพที่พิงค์ เดินมาทำให้ผมถึงกับชะงักไป เลยเพราะเสื้อเชิ้ตที่เธอใส่นั้นมันทำให้เผยสัดส่วนของพิงค์ ให้ยิ่งเด่นชัดขึ้นหน้าอกเป็นหน้าอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ยิ่งสำหรับพิงค์นั้นเธอเป็นคนที่มีหน้าอกใหญ่เอวเล็กสะโพกใหญ่อยู่แล้วจึงยิ่งเน้นสะโพกและบั้นท้ายกลึงมนที่แอ่นงอนขึ้นมา อย่างชัดเจนทำให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น ภาพที่ผมได้เห็นทำให้ท่อนลำในกางเกงของผมแทบจะตื่นขึ้นมาทันที พอผมที่ตั้งสติได้ ก็ เอ่ยปากชวนเธอไปที่ร้านอาหาร ระหว่างเดินไปผมสังเกตดู พิงค์ ดูมีอาการเงียบๆแลดูเหนื่อยๆ ผมเลยเอ่ยปากถามไปด้วยความกลัวว่าจะเสียบรรยากาศ
" พิงค์ ดูหนื่อยๆนะ ไม่สบายหรือเปล่า" "
"ก็นิดหน่อยน่ะเติม สงสัยแอร์ในงานลงหัวตลอดตอนบรรยาย" พิงค์ ตอบกลับมา ผมได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ว่าพูดอะไรต่อจนทั้งสองเข้าร้านอาหารกันไป ระหว่างรออาหารในร้านกันอยู่นั้น
"พิงค์ ขอไปห้องน้ำนะ เติม" พิงค์ เอ่ยขอตัวไปห้องน้ำ
หลังจากเธอเดินออกจากโต๊ะไปนั้นในขณะเดียวกันที่เมื่อ บริกรนำน้ำส้มที่เธอสั่งไว้มาเสิร์ฟพอดี จังหวะนั้นเอง ผมก็แอบเอายานอนหลับผสมยาสวาทชนิดออกฤทธิ์ช้าที่ก่อนจะวนรถมาถึงโรงแรมนั้นผมลงทุนขับไปหาพี่เหลียง ถึงที่สถานีที่เขาประจำอยู่ละแวกนั้นพอดีก่อนเพื่อขอมาใช้ แล้วผมก็จัดการเทยานั้นลงไปในแก้วน้ำส้ม ของพิงค์ ทันที จนเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเมื่อพิงค์ เดินกลับมา ระหว่างทานอาหาร เธอก็ยกน้ำส้มมาดื่มจนหมด สร้างความพอใจให้ผมยิ่งนัก ที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมตั้งใจ จนเวลาเกือบสี่โมงครึ่งทั้งสองกำลังจะลุกจากโต๊ะ
"พิงค์ ท่าทางจะดูเหนื่อยๆยังไงชอบกลนะ" ผม เอ่ยถามขึ้นด้วยเห็นอาการของเธอที่กินยาของพี่เหลียง ให้มาลงไป
" อืม เติม ...สงสัยพิงค์ จะเตรียมงานสัมนาหนักเกินไป เนี่ยแทบไม่ได้นอนมา3 คืน เลยมั้งก็เลยเหนื่อยง่ายแต่คงไม่เป็นไร มั้ง เติม" พิงค์ เอ่ย
"เติม ว่า พิงค์ ขึ้นห้อง แล้วรีบอาบน้ำนอนเลยดีกว่านะเดี๋ยวไม่สบายเอา พรุ่งนี้ต้องมาต่อนี่ สัมนาเริ่มสิบเอ็ดโมงโมงใช่ไหม" ผม เอ่ย
แล้วทั้งสองก็ออกลุกจากโต๊ะ เดินไปยังไม่ทันพ้นร้าน พิงค์ ก็ทรุดลงไปจะลงไปนั่งทันทีแต่ดีที่ผมประคองร่างของเธอคว้าแขนไว้ทัน เมื่อเธอเสียหลักจะไปนั่งกับพื้นโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอได้แยกขาออกจากกันทำให้ชายกระโปรงเลื่อนสูงขึ้นไปมากจน ชายกระโปรงเลิกไปถึงต้นขาเผยให้ผมที่หันไปมองอยู่ได้เห็นไปถึงความโหนกนูนของเนินเนื้อขนาดพอดีมือโผล่พ้นชายกระโปรงออกมามีเพียงกางเกงชั้นในลายลูกไม้สีฟ้าอ่อนที่ปกปิดความนูนของมันเอาไว้ มือซ้ายของเธอที่ยันไปกับพื้น ไว้ ผมรีบประคองตัวเธอขึ้นมา
" เป็นอะไรไหม พิงค์ " ผมถาม
" ไม่เป็นไรเติม เดี๋ยว พิงค์ ไปกินยาบนห้องได้ " พิงค์ ตอบกลับมา
" มา พิงค์ เดี๋ยว เติม พาไปส่งห้องแล้วกัน" ผม เอ่ยเสนอตัว
" อืม"
พิงค์ ตอบรับโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวเธอเองตอนนี้ รู้สึกมึนหัว โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้เลยว่ามันมาจากฤทธิ์ยาที่ผมได้แอบใส่ลงในน้ำส้มของเธอ พิงค์ ที่คงคิดว่าเป็นเพราะอาการพิษไข้ที่เกิดจากร่างกายเป็นไข้ของตัวเธอเท่านั้น ผมประคองพิงค์ ไปที่ลิฟท์เพื่อไปที่ห้องพักที่ธนาคารเปิดไว้ให้เธอพักในคืนนี้ ระหว่างทางที่ผมประคองพิงค์ ไปนั้นสายตาของผมก็แอบชำเลืองมองลงมายังหน้าอกของพิงค์ ผ่านสาปคอเสื้อเชิ้ตจนเห็นไปถึงร่องอกขนาด 38 นิ้วของเธอที่อยู่ในเสื้อชั้นในลายลูกไม้สีฟ้าอ่อน ที่น่าจะเข้าชุดกับกางเกงในลายลูกไม้เดียวกันที่ผมได้เห็นที่หน้าร้านอาหารไป โดยตลอดทางที่ผมแอบชำเลืองมองนั้น เธอเองก็ไม่รู้สึกตัวเลยอันน่าจะมาจากทั้งพิษไข้และยาที่ผมแอบใส่ไว้นั่นเอง ลิฟท์ มาหยุดที่ชั้น12 ผมก็เอ่ยถามพิงค์ไป
"ห้องไหนพิงค์"
เธอไม่ตอบ แต่เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของเธอแล้วยกคีย์การ์ดมาดู พร้อมทั้งเอ่ยว่า
" เติม ไปเถอะ เดี๋ยวพิงค์ เข้าห้องเองได้"
ผมรีบชิงพูดขึ้นมาทันที
"ได้ไง พิงค์ เดี๋ยว เติม พาไปที่ห้องเองเกิดพิงค์ เป็นอะไรระหว่างทาง" พร้อมชำเลืองดูเลขห้องซึ่งก็คือห้อง 1204 พูดจบ ผมก็รีบกึ่งดันตัวเธอพาไปที่ห้องทันที เพื่อมาให้เธอไม่แสดงการอิดออดอีก เมื่อมาถึงหน้าห้อง1204 ซึ่งไม่ไกลจากลิฟท์นัก ผมก็รีบดึงคีย์การ์ดจากมือของเธอแล้วเอามาเสียบเปิดห้องทันที เมื่อประตูห้องเปิดออก สิ่งที่ผมเห็นคือ เป็นห้องสวีท 2 ห้องนอน
'อาจจะเพราะเธอที่เป็นถึงระดับหัวหน้าส่วนงานทางธนาคารถึงจัดห้องให้ดีแบบนี้' ผมคิดในใจ
ผมค่อยๆ ประคองพิงค์ ไปนั่งที่โซฟา แล้วแกล้งทำเดินไปห้องน้ำโดยเพื่อตั้งใจสำรวจว่ามีคนพักอยู่ด้วยกับเธอหรือไม่ภายในห้องนี้ เพื่อความแน่นอน ระหว่างอยู่ในห้องน้ำ โดยแกล้งเอาเรื่องยาของเธอมาอ้างเพื่อไม่ให้เธอเอะใจ ก่อนที่ผมก็เอ่ยถามพิงค์ไปว่า
"ยาอยู่ไหนล่ะพิงค์ เดี๋ยว หยิบให้"
"............"
ไม่มีเสียงตอบจากพิงค์ กลับมา ผมจึงเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะถามเธออีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็น คือภาพของพิงค์ ที่นั่งเอนหลังพิงไปกับพนักโซฟาอาการเหมือนคนเคลิ้มครึ่งหลับครึ่งตื่น น่าจะมาจากพิษไข้และฤทธิ์ยานอนหลับที่ทำเอายาสวาทชนิดอ่อนไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาสู้ความอ่อนล้าของร่างกายจากพิษไข้ผสานกับฤทธิ์ยานอนหลับได้ ผมหยุดยืนมองดู พิงค์ ที่ตอนนี้นั่งในท่าที่แยกขาเผยให้ขาขาวของเธอชัดเจนขึ้น หน้าอกที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจของเธอ ยิ่งสร้างความต้องการมากยิ่งขึ้น ผมตัดสินใจ หันไปที่ประตูเดินไปกดล็อคทันทีแล้วเดินตรงไปที่พิงค์ ที่ยังนั่งอยู่ในท่าเดิมเพียงแต่สายตาของเธอตอนนี้เริ่มหรี่ลงด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยา จนในที่สุดเธอก็นอนหลับหมดสตินิ่งอยู่บนโซฟาตัวนั้นเอง
ตอนนี้สติสัมปชัญญะของผมก็ขาดผึงลง ความรู้ผิดชอบชั่วดีมลายหายไปจากภายในจิตใจ ในหัวมีแต่การเอาคืนในแบบที่เคยอยากทำกับอร และพิงค์ ที่ตอนในอดีตครั้งเมื่อแต่ก่อนที่ไม่สามารถทำได้แต่วันนี้โอกาสของผมมาแล้วและด้วยไฟราคะภายในตัวของผมที่โหมขึ้นมา ผมขยับไปประคองร่างของพิงค์ ซึ่งหลับสนิทมานอนราบอยู่บนเตียงนอนที่อยู่ไม่ห่างนัก พิงค์ ยังคงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตฟอร์มธนาคารกระโปรงเหนือเข่าสีเทาดำ ผมมองร่างของแฟนเก่าอย่างลุ่มหลง สายตาก็เพ่งพินิจพิจารณา ขณะที่มือก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวผมเองออกจนตอนนี้ ผม เหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวที่ปกปิดท่อนล่างเท่านั้น แล้วผมก็เอนตัวลงนอนตะแคงบนเตียง มือของผมลูบไล้ไปที่แก้มขาวๆอมชมพูของแฟนเก่าของผมอย่างแผ่วเบา
.
.
.
.
ก่อนที่ผมจะหยุดการกระทำทุกอย่างมานอนตะแคงมองดูร่างของแฟนเก่าที่ยังคงหลับอยู่บนเตียงนั้น อย่างลุ่มหลงนั้น หมายรอให้เธอตื่นขึ้นมาก่อนที่ผมจะทำอะไรต่อไปตามคำแนะนำของพี่เหลียง ที่กลัวว่าผมจะโดนข้อหาข่มขืนเอาได้ พี่เหลียงจึงแนะนำหนทางที่จะทำให้ผมสามารถหลบเลี่ยงความผิดนี้ได้ โดนให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเอ่ยยินยอมขอให้ฝ่ายชายร่วมรักกับเธอเอง ระหว่างรอนั้น ผมก็มาคิดเรื่องราวในอดีตของผมกับพิงค์ 'ตลอดเวลาที่คบกับเธอเมื่อกว่าสามปีก่อนนั้น ผมไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมรักกับเธอเลย เต็มที่ก็ได้แต่กอดหรือสัมผัสแต่เพียงเท่านั้นไม่ได้เคยได้ถึงขนาดจะเรียกได้ว่าร่วมรักเลยด้วยซ้ำไป เพราะไม่รู้ทำไมเธอนั้นค่อนข้างถือตัวและไม่ปล่อยตัวเลยแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนแบบผมก็ตามจนผมติดเอาเรื่องนี้มาเป็นคำถามในใจของผมจนมาถึงทุกวันนี้' จนสิ้นความคิดของผมแล้ว ผมก็จัดการลุกขึ้นและทำตามขั้นตอนอีกหนึ่งอย่างที่พี่เหลียง แนะนำให้ผมทำเพื่อความแน่ใจที่โอกาสที่จะเธอจะเอาผิดกับผมได้ให้มีน้อยลง แล้วผมก็เริ่มทำตามคำแนะนำของพี่เหลียง ทันที จนผมจัดการทำทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้ว ในที่สุด พิงค์ ค่อยๆได้สติ แต่ก็ลืมตาได้อย่างยากลำบาก เธอค่อยๆลืมตามอง ก็เห็นภาพที่ทำให้เธอตกใจแทบจะสิ้นสติ คือใบหน้าของแฟนเก่าของเธอ กำลังนอนตะแคงข้างๆเธอ พิงค์ พลิกตัวลุกขึ้นจะถอยหนีออกมาอย่างรวดเร็วมานั่งบนเตียงทันที สติทุกอย่างกลับคืนมาโดยไม่ต้องให้อธิบาย เธอคงพอจะเดาได้ทันทีว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เธอก็คงเดาไม่ถูกนัก
"ทำไมเติม ถึงทำกับพิงค์ อย่างนี้" พิงค์ ตวาดใส่ผมขณะที่ตัวเองก็รีบเอาผ้าห่มมาคลุมตัว ทำเอาผมถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก
"ขอโทษ นะ พิงค์ เติม เห็นพิงค์ หลับ แล้วห้ามใจไม่อยู่จริงๆ" ผมโกหกเรื่องที่ผมเป็นคนวางยานอนหลับ ซึ่งพิงค์ เองเหมือนจะไม่ได้เอะใจอะไร เพราะกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ทั้งโกรธ แค้น และก็อาย
"เพี้ยะ"
พิงค์ เอื้อมมือมาตบหน้าผมอย่างแรง ด้วยอารมณ์ที่คงโกรธสุดขีด เมื่อผมโดนตบจนอารมณ์โมโหขึ้นมาเช่นกัน ผมเลยพูดขึ้น
"ก็ลองดูสิพิงค์ แต่พิงค์ จะเอาหน้าไปไว้ไหน" ผมสวมวิณญาณเดนมนุษย์เอ่ยขู่ ตามที่พี่เหลียงแนะนำพร้อมยกมือถือขึ้นมาเปิดคลิปๆหนึ่งเพราะผมมั่นใจว่ายังไงคนลักษณะนิสัยอย่างพิงค์ ไม่มีทางยอมที่จะอับอายให้เรื่องทำนองนี้รู้ถึงหูคนอื่นแน่ พร้อมยื่นให้เธอดู ในคลิปเป็นภาพของทั้งพิงค์และผมในคลิปกำลังอยู่นอนก่ายกันด้วยกันถึงตัวเธอจะนอนนิ่งๆ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างก็ตามที
"ถ้าคนอื่นเห็นคลิปนี้ พิงค์ ยังจะกล้าไปเจอหน้าใครอีกมั้ย" ผมเริ่มสำทับ เพราะมั่นใจว่าผมถือไพ่เหนือกว่า
ดักคำเขาว่า 10 ปีแก้แค้นก็ยังไม่สาย นายเติมสมหวังแน่ล่ะครับวันนี้
อ้างจาก: bigaud เมื่อ เมษายน 12, 2024, 04:34:11 หลังเที่ยง" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ"
EP.22 : ถึงคราวเอาคืน(1)
แล้วเวลาก็ผ่านล่วงเลยไป ภายหลังจากที่ผมลาออกจากงานมาได้นานจนเวลาเกือบสองปีล่วงเลยผ่านไปนั้น ผมก็ได้สนิทสนมกับพี่เหลียง อย่างพี่น้องกันด้วยแกเอ็นดูและถูกอัธยาศัยกับผมอย่างไม่น่าเชื่อตลอดสองปีที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ สำหรับหมิง นั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลยหลังจากวันที่ผมได้โทรวิดีโอคอลไปกับเธอไปเมื่อครั้งก่อนโดยที่หมิง เองเธอก็ไม่ได้ติดต่อผมมาเช่นกันซึ่งมันก็ผ่านกว่า 6 เดือนแล้วจนมาวันนี้ผมก็ได้พบเธออีกครั้งผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์มือถือในภาพข่าวที่เธอยืนอยู่ข้างคณะทำงานของหน่วยงานกระทรวงหนึ่งขณะออกงานโร้ดโชว์ที่ต่างประเทศในวันที่ผมต้องไปทำธุระที่โรงแรมแถวรัชดาพอดี ผมที่ยืนรอลิฟท์อยู่เพียงลำพังคนเดียวที่อาคารจอดรถของโรงแรมแห่งนั้นแถวแยกอสมท
แล้วเสียงลิฟท์ก็ดังขึ้น
"ติ๊ง"
ประตูลิฟท์ก็เปิดออก ผมที่ก้าวเข้าไปในลิฟท์ แล้วเมื่อประตูลิฟท์ปิดลงมันก็เคลื่อนตัวลงสู่ชั้นล่าง
"ติ๊ง"
เสียงลิฟท์ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับป้ายไฟบอกชั้นภายในลิฟท์แจ้งว่าชั้น 7 แล้ว และเมื่อประตูลิฟท์เปิดออกผมที่ไม่ได้สนใจอะไรนักก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่หอบเอกสารจนเต็มไม้เต็มมือของเธอพุ่งตัวเข้าไปในลิฟท์ทันที โดยเธอนั้นไม่ได้มองดูเลยว่าในลิฟท์มีคนอยู่ไหม ทำให้ร่างของผู้หญิงคนนั้นชนเข้ากับผม ที่ยืนอยู่ในลิฟท์เข้าอย่างจังจนเอกสารของเธอกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้นลิฟท์ไปหมด
" ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะเผอิญรีบเลยไม่ทันได้มอง" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากขอโทษโดยก้มหน้าลงไม่ได้มองหน้าคนที่เธอชนในลิฟท์ตามมารยาทด้วยความอาย ที่ทำเรื่องขายหน้าแบบนี้ต่อคุณไม่รู้จักกัน
" ไม่เป็นไรครับ" ผมที่โดนชนเอ่ยตอบกลับมาพร้อมกับพูดต่อเมื่อเหลือบไปมองร่างของผู้หญิงคนนั้น
" อ้าว พิงค์ พิงค์ หรือเปล่า" ผมเอ่ยทักถาม
จนผู้หญิงคนนั้นต้องเงยหน้าขึ้นมาเพื่อดูหน้าว่าเป็นใครทำไมถึงได้รู้จักชื่อของเธอ เมื่อผู้หญิงคนนั้นเงยหน้ามาเห็นผม
"อ้าว เติม" ผู้หญิงคนนั้น เอ่ยขึ้น
ผมที่หันมามองตามเสียงที่คุ้นเคย ผู้หญิงคนนั้นคนที่เงยหน้าขึ้นมาผมก็พบว่าคือพิงค์ นั่นเอง เช่นเดียวกับผู้หญิงคนนั้นที่เมื่อเห็นก็รู้ว่าชายคนดังกล่าวตรงหน้าของเธอคือผม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่าของเธอสมัยที่ทำงานเดิมที่ได้เลิกรากันไปเมื่อกว่าสามปีก่อนนั้นเอง ผมที่เห็นพิงค์ก็พลางคิดในใจ
'ใช่แล้วแถวนี้มันแถวธนาคารที่เธอย้ายมานี่นา เมื่อตอนที่เธอได้ย้ายที่ทำงานจากที่เดิมและได้เลิกราจากผมไปอย่างไม่ค่อยดีนัก'
" อ้าว เติม สวัสดี เป็นไงมาไงเนี่ย" พิงค์ เอ่ยถามตามมารยาทกับผมออกมา
" เติม มาทำธุระที่โรงแรมน่ะ แล้วพิงค์ล่ะ" ผมเอ่ยตอบไป โดยตอนนี้ผมที่ไม่คิดอะไรที่เกิดขึ้นในอดีตอีกต่อไปแล้ว แล้ว พิงค์ ก็ได้ตอบผมกลับมา
" อ๋อ มาทำงานสัมนาน่ะธนาคาร เปิดห้องไว้ให้"
พิงค์ ตอบกลับมาอย่างไม่มีอาการอึดอัดหรือตะขิดตะขวงใจอะไรด้วยตามนิสัยเธอคงไม่สนใจอดีตของเราสองคนแล้วเช่นกัน จังหวะเดียวกันนั้นลิฟท์ก็ลงมาถึงลอบบี้พอดี จนเมื่อประตูลิฟท์เปิดออก
" พิงค์ ไปก่อนนะ เผอิญต้องรีบนะ บาย เติม " พิงค์ เอ่ยพร้อมกับพุ่งตัวออกจากลิฟท์ไป ผมที่มองดูภาพด้านหลังของเธอที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไป พลางคิดในใจ
'พิงค์ ยังดูอวบอัดเซ็กซี่ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย ยิ่งอยู่ในชุดพนักงานธนาคารที่เธอย้ายไปยิ่งน่า....'
ซึ่งอันที่จริงเมื่อตอนเลิกกันครั้งนั้น ความจริงลึกๆ นั้นผมก็ไม่อยากเลิกเลยแต่เป็นความเหตุการณ์ในครั้งนั้นมันซับซ้อนและเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนที่ผมไปรู้ความจริงว่าเธอมีการคบซ้อนอยู่ ทำให้ ตอนนั้นผมเองก็ไม่พอใจเธอเหมือนกัน เพราะถึงตอนนั้นผม จะเคยได้สัมผัสร่างกายของพิงค์ ทั้งหมดแล้วทั้งบนรถโรงแรมหรือที่บ้านของผมในวันที่ไม่มีใครอยู่บ้านแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่จะได้เลยไปถึงการมีอะไรกับพิงค์เลย ได้แค่เพียงภายนอกเท่านั้นแต่กลายเป็นผู้ชายอื่นที่เธอคบอยู่พร้อมๆกันกับผมกลับได้ร่วมรักกับเธออย่างเร่าร้อนในวันที่ผมกับพี่จิว ไปเจอเธอในรีสอร์ทโดยบังเอิญ ผมที่คิดไปพลางระหว่างเดินไปที่รถเพื่อออกจากโรงแรมจนในระหว่างขับรถออกมาผ่านมาถึงแถวย่านสุทธิสาร แล้วอยู่ๆผมก็ตัดสินใจที่จะยูเทิร์นกลับรถตรงไปยังโรงแรมอีกครั้ง โดยก่อนที่ผมจะแวะไปที่สถานที่แห่งหนึ่งก่อน
.
.
โดยจุดประสงค์ของผมที่จะกลับไปยังโรงแรมนั้นก็เพื่อไปรอพิงค์ เลิกงานสัมนา เพราะผมตัดสินใจจะชวนพิงค์ ไปกินข้าวเย็น สักมื้อเพื่อจะได้เคลียร์เรื่องค้างคาในใจมาคุยกันหลังจากที่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นปี ระหว่างตลอดสายจนถึงเที่ยง เธอก็พรีเซนต์งานสัมนาไปตลอดจน พอพักเที่ยง พิงค์ ก็ออกมากินข้าวกับเพื่อนๆ ที่ร่วมสัมนา ก็เจอเข้ากับผมที่นั่งรออยู่หน้าห้องสัมนาพอดี แต่จริงๆ แล้วผมนั้นรอดักที่จะเจอเธออยู่แล้วนั่นเอง
" อ้าว เติม ยังไม่กลับเหรอ" พิงค์ เอ่ยถาม
" ใช่ แล้วงานเลิกกี่โมงล่ะ พิงค์" ผม ถามกลับ
" บ่ายสองโมงครึ่ง น่ะเติม มีอะไรหรือเปล่า" พิงค์ ถามผมกลับ
" ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวน พิงค์ ทานข้าวกันสักมื้อ ได้ไหม" ผมตอบพร้อมเอ่ยปากชวน พิงค์
"......."
พิงค์ ที่เงียบไปสักครู่ เธอที่คงคิดในใจว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แล้วด้วยความเกรงว่าเธอจะดูไม่ดีต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน เธอจึงเอ่ยบอก
" โอเค ได้เติม งั้นเจอกันสักสามโมงที่หน้าลอบบี้แล้วกัน" พิงค์ ตอบกลับมา
"โอเค ไว้เจอกัน งั้น เติม ไม่รบกวน พิงค์ กับเพื่อนแล้วกัน" ผมเอ่ย
หลังจากคุยเสร็จ พิงค์และผมก็แยกย้ายกันไป
.
.
.
ระหว่างที่รอเวลาตามที่นัดกับพิงค์ อยู่นั้นผมก็จัดการโทรไปหาพี่มน
"มน วันนี้เลิกงานไม่ต้องแวะบ้านเติมนะ หาอะไรกินไปเลย เติม มาข้างนอก คงกลับค่ำๆ" ผมเอ่ยบอกทันทีที่เธอรับสาย
"จ๊ะๆ แค่นี้ก่อนนะ มน ประชุมกับนายอยู่" พี่มน เอ่ยก่อนจะวางสายไปในทันที
.
.
.
เมื่อถึงเวลานัดราวๆ สามโมงครึ่ง พิงค์ ก็มาเจอกับผม ตามที่ได้นัดกันไว้ เธอมาในชุดเสื้อเชิ้ตพนักงานธนาคารเหมือนเมื่อเช้า จะต่างกันตรงเธอ ไม่ได้ใส่เสื้อสูททับมาแบบที่ผมเจอเมื่อสายๆ น่าจะเพราะเลิกงานแล้ว พิงค์ จึงไม่ใส่สูทให้เป็นทางการนัก ภาพที่พิงค์ เดินมาทำให้ผมถึงกับชะงักไป เลยเพราะเสื้อเชิ้ตที่เธอใส่นั้นมันทำให้เผยสัดส่วนของพิงค์ ให้ยิ่งเด่นชัดขึ้นหน้าอกเป็นหน้าอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ยิ่งสำหรับพิงค์นั้นเธอเป็นคนที่มีหน้าอกใหญ่เอวเล็กสะโพกใหญ่อยู่แล้วจึงยิ่งเน้นสะโพกและบั้นท้ายกลึงมนที่แอ่นงอนขึ้นมา อย่างชัดเจนทำให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น ภาพที่ผมได้เห็นทำให้ท่อนลำในกางเกงของผมแทบจะตื่นขึ้นมาทันที พอผมที่ตั้งสติได้ ก็ เอ่ยปากชวนเธอไปที่ร้านอาหาร ระหว่างเดินไปผมสังเกตดู พิงค์ ดูมีอาการเงียบๆแลดูเหนื่อยๆ ผมเลยเอ่ยปากถามไปด้วยความกลัวว่าจะเสียบรรยากาศ
" พิงค์ ดูหนื่อยๆนะ ไม่สบายหรือเปล่า" "
"ก็นิดหน่อยน่ะเติม สงสัยแอร์ในงานลงหัวตลอดตอนบรรยาย" พิงค์ ตอบกลับมา ผมได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ว่าพูดอะไรต่อจนทั้งสองเข้าร้านอาหารกันไป ระหว่างรออาหารในร้านกันอยู่นั้น
"พิงค์ ขอไปห้องน้ำนะ เติม" พิงค์ เอ่ยขอตัวไปห้องน้ำ
หลังจากเธอเดินออกจากโต๊ะไปนั้นในขณะเดียวกันที่เมื่อ บริกรนำน้ำส้มที่เธอสั่งไว้มาเสิร์ฟพอดี จังหวะนั้นเอง ผมก็แอบเอายานอนหลับผสมยาสวาทชนิดออกฤทธิ์ช้าที่ก่อนจะวนรถมาถึงโรงแรมนั้นผมลงทุนขับไปหาพี่เหลียง ถึงที่สถานีที่เขาประจำอยู่ละแวกนั้นพอดีก่อนเพื่อขอมาใช้ แล้วผมก็จัดการเทยานั้นลงไปในแก้วน้ำส้ม ของพิงค์ ทันที จนเมื่อเวลาผ่านไปสักพักเมื่อพิงค์ เดินกลับมา ระหว่างทานอาหาร เธอก็ยกน้ำส้มมาดื่มจนหมด สร้างความพอใจให้ผมยิ่งนัก ที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมตั้งใจ จนเวลาเกือบสี่โมงครึ่งทั้งสองกำลังจะลุกจากโต๊ะ
"พิงค์ ท่าทางจะดูเหนื่อยๆยังไงชอบกลนะ" ผม เอ่ยถามขึ้นด้วยเห็นอาการของเธอที่กินยาของพี่เหลียง ให้มาลงไป
" อืม เติม ...สงสัยพิงค์ จะเตรียมงานสัมนาหนักเกินไป เนี่ยแทบไม่ได้นอนมา3 คืน เลยมั้งก็เลยเหนื่อยง่ายแต่คงไม่เป็นไร มั้ง เติม" พิงค์ เอ่ย
"เติม ว่า พิงค์ ขึ้นห้อง แล้วรีบอาบน้ำนอนเลยดีกว่านะเดี๋ยวไม่สบายเอา พรุ่งนี้ต้องมาต่อนี่ สัมนาเริ่มสิบเอ็ดโมงโมงใช่ไหม" ผม เอ่ย
แล้วทั้งสองก็ออกลุกจากโต๊ะ เดินไปยังไม่ทันพ้นร้าน พิงค์ ก็ทรุดลงไปจะลงไปนั่งทันทีแต่ดีที่ผมประคองร่างของเธอคว้าแขนไว้ทัน เมื่อเธอเสียหลักจะไปนั่งกับพื้นโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เธอได้แยกขาออกจากกันทำให้ชายกระโปรงเลื่อนสูงขึ้นไปมากจน ชายกระโปรงเลิกไปถึงต้นขาเผยให้ผมที่หันไปมองอยู่ได้เห็นไปถึงความโหนกนูนของเนินเนื้อขนาดพอดีมือโผล่พ้นชายกระโปรงออกมามีเพียงกางเกงชั้นในลายลูกไม้สีฟ้าอ่อนที่ปกปิดความนูนของมันเอาไว้ มือซ้ายของเธอที่ยันไปกับพื้น ไว้ ผมรีบประคองตัวเธอขึ้นมา
" เป็นอะไรไหม พิงค์ " ผมถาม
" ไม่เป็นไรเติม เดี๋ยว พิงค์ ไปกินยาบนห้องได้ " พิงค์ ตอบกลับมา
" มา พิงค์ เดี๋ยว เติม พาไปส่งห้องแล้วกัน" ผม เอ่ยเสนอตัว
" อืม"
พิงค์ ตอบรับโดยไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวเธอเองตอนนี้ รู้สึกมึนหัว โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้เลยว่ามันมาจากฤทธิ์ยาที่ผมได้แอบใส่ลงในน้ำส้มของเธอ พิงค์ ที่คงคิดว่าเป็นเพราะอาการพิษไข้ที่เกิดจากร่างกายเป็นไข้ของตัวเธอเท่านั้น ผมประคองพิงค์ ไปที่ลิฟท์เพื่อไปที่ห้องพักที่ธนาคารเปิดไว้ให้เธอพักในคืนนี้ ระหว่างทางที่ผมประคองพิงค์ ไปนั้นสายตาของผมก็แอบชำเลืองมองลงมายังหน้าอกของพิงค์ ผ่านสาปคอเสื้อเชิ้ตจนเห็นไปถึงร่องอกขนาด 38 นิ้วของเธอที่อยู่ในเสื้อชั้นในลายลูกไม้สีฟ้าอ่อน ที่น่าจะเข้าชุดกับกางเกงในลายลูกไม้เดียวกันที่ผมได้เห็นที่หน้าร้านอาหารไป โดยตลอดทางที่ผมแอบชำเลืองมองนั้น เธอเองก็ไม่รู้สึกตัวเลยอันน่าจะมาจากทั้งพิษไข้และยาที่ผมแอบใส่ไว้นั่นเอง ลิฟท์ มาหยุดที่ชั้น12 ผมก็เอ่ยถามพิงค์ไป
"ห้องไหนพิงค์"
เธอไม่ตอบ แต่เอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายของเธอแล้วยกคีย์การ์ดมาดู พร้อมทั้งเอ่ยว่า
" เติม ไปเถอะ เดี๋ยวพิงค์ เข้าห้องเองได้"
ผมรีบชิงพูดขึ้นมาทันที
"ได้ไง พิงค์ เดี๋ยว เติม พาไปที่ห้องเองเกิดพิงค์ เป็นอะไรระหว่างทาง" พร้อมชำเลืองดูเลขห้องซึ่งก็คือห้อง 1204 พูดจบ ผมก็รีบกึ่งดันตัวเธอพาไปที่ห้องทันที เพื่อมาให้เธอไม่แสดงการอิดออดอีก เมื่อมาถึงหน้าห้อง1204 ซึ่งไม่ไกลจากลิฟท์นัก ผมก็รีบดึงคีย์การ์ดจากมือของเธอแล้วเอามาเสียบเปิดห้องทันที เมื่อประตูห้องเปิดออก สิ่งที่ผมเห็นคือ เป็นห้องสวีท 2 ห้องนอน
'อาจจะเพราะเธอที่เป็นถึงระดับหัวหน้าส่วนงานทางธนาคารถึงจัดห้องให้ดีแบบนี้' ผมคิดในใจ
ผมค่อยๆ ประคองพิงค์ ไปนั่งที่โซฟา แล้วแกล้งทำเดินไปห้องน้ำโดยเพื่อตั้งใจสำรวจว่ามีคนพักอยู่ด้วยกับเธอหรือไม่ภายในห้องนี้ เพื่อความแน่นอน ระหว่างอยู่ในห้องน้ำ โดยแกล้งเอาเรื่องยาของเธอมาอ้างเพื่อไม่ให้เธอเอะใจ ก่อนที่ผมก็เอ่ยถามพิงค์ไปว่า
"ยาอยู่ไหนล่ะพิงค์ เดี๋ยว หยิบให้"
"............"
ไม่มีเสียงตอบจากพิงค์ กลับมา ผมจึงเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะถามเธออีกครั้ง สิ่งที่ผมเห็น คือภาพของพิงค์ ที่นั่งเอนหลังพิงไปกับพนักโซฟาอาการเหมือนคนเคลิ้มครึ่งหลับครึ่งตื่น น่าจะมาจากพิษไข้และฤทธิ์ยานอนหลับที่ทำเอายาสวาทชนิดอ่อนไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาสู้ความอ่อนล้าของร่างกายจากพิษไข้ผสานกับฤทธิ์ยานอนหลับได้ ผมหยุดยืนมองดู พิงค์ ที่ตอนนี้นั่งในท่าที่แยกขาเผยให้ขาขาวของเธอชัดเจนขึ้น หน้าอกที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะหายใจของเธอ ยิ่งสร้างความต้องการมากยิ่งขึ้น ผมตัดสินใจ หันไปที่ประตูเดินไปกดล็อคทันทีแล้วเดินตรงไปที่พิงค์ ที่ยังนั่งอยู่ในท่าเดิมเพียงแต่สายตาของเธอตอนนี้เริ่มหรี่ลงด้วยพิษไข้และฤทธิ์ยา จนในที่สุดเธอก็นอนหลับหมดสตินิ่งอยู่บนโซฟาตัวนั้นเอง
ตอนนี้สติสัมปชัญญะของผมก็ขาดผึงลง ความรู้ผิดชอบชั่วดีมลายหายไปจากภายในจิตใจ ในหัวมีแต่การเอาคืนในแบบที่เคยอยากทำกับอร และพิงค์ ที่ตอนในอดีตครั้งเมื่อแต่ก่อนที่ไม่สามารถทำได้แต่วันนี้โอกาสของผมมาแล้วและด้วยไฟราคะภายในตัวของผมที่โหมขึ้นมา ผมขยับไปประคองร่างของพิงค์ ซึ่งหลับสนิทมานอนราบอยู่บนเตียงนอนที่อยู่ไม่ห่างนัก พิงค์ ยังคงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตฟอร์มธนาคารกระโปรงเหนือเข่าสีเทาดำ ผมมองร่างของแฟนเก่าอย่างลุ่มหลง สายตาก็เพ่งพินิจพิจารณา ขณะที่มือก็จัดการถอดเสื้อผ้าของตัวผมเองออกจนตอนนี้ ผม เหลือเพียงกางเกงในตัวเดียวที่ปกปิดท่อนล่างเท่านั้น แล้วผมก็เอนตัวลงนอนตะแคงบนเตียง มือของผมลูบไล้ไปที่แก้มขาวๆอมชมพูของแฟนเก่าของผมอย่างแผ่วเบา
.
.
.
.
ก่อนที่ผมจะหยุดการกระทำทุกอย่างมานอนตะแคงมองดูร่างของแฟนเก่าที่ยังคงหลับอยู่บนเตียงนั้น อย่างลุ่มหลงนั้น หมายรอให้เธอตื่นขึ้นมาก่อนที่ผมจะทำอะไรต่อไปตามคำแนะนำของพี่เหลียง ที่กลัวว่าผมจะโดนข้อหาข่มขืนเอาได้ พี่เหลียงจึงแนะนำหนทางที่จะทำให้ผมสามารถหลบเลี่ยงความผิดนี้ได้ โดนให้ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายเอ่ยยินยอมขอให้ฝ่ายชายร่วมรักกับเธอเอง ระหว่างรอนั้น ผมก็มาคิดเรื่องราวในอดีตของผมกับพิงค์ 'ตลอดเวลาที่คบกับเธอเมื่อกว่าสามปีก่อนนั้น ผมไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมรักกับเธอเลย เต็มที่ก็ได้แต่กอดหรือสัมผัสแต่เพียงเท่านั้นไม่ได้เคยได้ถึงขนาดจะเรียกได้ว่าร่วมรักเลยด้วยซ้ำไป เพราะไม่รู้ทำไมเธอนั้นค่อนข้างถือตัวและไม่ปล่อยตัวเลยแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนแบบผมก็ตามจนผมติดเอาเรื่องนี้มาเป็นคำถามในใจของผมจนมาถึงทุกวันนี้' จนสิ้นความคิดของผมแล้ว ผมก็จัดการลุกขึ้นและทำตามขั้นตอนอีกหนึ่งอย่างที่พี่เหลียง แนะนำให้ผมทำเพื่อความแน่ใจที่โอกาสที่จะเธอจะเอาผิดกับผมได้ให้มีน้อยลง แล้วผมก็เริ่มทำตามคำแนะนำของพี่เหลียง ทันที จนผมจัดการทำทุกอย่างจนเรียบร้อยแล้ว ในที่สุด พิงค์ ค่อยๆได้สติ แต่ก็ลืมตาได้อย่างยากลำบาก เธอค่อยๆลืมตามอง ก็เห็นภาพที่ทำให้เธอตกใจแทบจะสิ้นสติ คือใบหน้าของแฟนเก่าของเธอ กำลังนอนตะแคงข้างๆเธอ พิงค์ พลิกตัวลุกขึ้นจะถอยหนีออกมาอย่างรวดเร็วมานั่งบนเตียงทันที สติทุกอย่างกลับคืนมาโดยไม่ต้องให้อธิบาย เธอคงพอจะเดาได้ทันทีว่าเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เธอก็คงเดาไม่ถูกนัก
"ทำไมเติม ถึงทำกับพิงค์ อย่างนี้" พิงค์ ตวาดใส่ผมขณะที่ตัวเองก็รีบเอาผ้าห่มมาคลุมตัว ทำเอาผมถึงกับทำสีหน้าไม่ถูก
"ขอโทษ นะ พิงค์ เติม เห็นพิงค์ หลับ แล้วห้ามใจไม่อยู่จริงๆ" ผมโกหกเรื่องที่ผมเป็นคนวางยานอนหลับ ซึ่งพิงค์ เองเหมือนจะไม่ได้เอะใจอะไร เพราะกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ทั้งโกรธ แค้น และก็อาย
"เพี้ยะ"
พิงค์ เอื้อมมือมาตบหน้าผมอย่างแรง ด้วยอารมณ์ที่คงโกรธสุดขีด เมื่อผมโดนตบจนอารมณ์โมโหขึ้นมาเช่นกัน ผมเลยพูดขึ้น
"ก็ลองดูสิพิงค์ แต่พิงค์ จะเอาหน้าไปไว้ไหน" ผมสวมวิณญาณเดนมนุษย์เอ่ยขู่ ตามที่พี่เหลียงแนะนำพร้อมยกมือถือขึ้นมาเปิดคลิปๆหนึ่งเพราะผมมั่นใจว่ายังไงคนลักษณะนิสัยอย่างพิงค์ ไม่มีทางยอมที่จะอับอายให้เรื่องทำนองนี้รู้ถึงหูคนอื่นแน่ พร้อมยื่นให้เธอดู ในคลิปเป็นภาพของทั้งพิงค์และผมในคลิปกำลังอยู่นอนก่ายกันด้วยกันถึงตัวเธอจะนอนนิ่งๆ ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างก็ตามที
"ถ้าคนอื่นเห็นคลิปนี้ พิงค์ ยังจะกล้าไปเจอหน้าใครอีกมั้ย" ผมเริ่มสำทับ เพราะมั่นใจว่าผมถือไพ่เหนือกว่า
ต้องเอาคืนให้สาสม
เอาคืนให้หนักๆเลยนะ นายเติม
::HeyHey::
ใช้วิธีนี้จะได้ผลไหมเนี่ย
แฟนเก่าที่ไม่ได้เอาจะมาเอาวันนี้
เริ่มที่พิงค์ก่อนเลย
ตบมาแบบนี้ เติมคงไม่ได้ทำอพไรแค่ลองเชิง เพื่อบทรักที่จะได้รับอย่าฃสุขสม
::DookDig::
พิงค์น่าจะโดนอย่างสาสม
ใครหาว่า
::Glad::
::Fighto::
ทำใหแค้นต้องโดนบ้าง
จะได้แล้ว ::DookDig::
เอาคืนให้คุ้มๆเลย
จัดหนักๆเลยครับ
จัดหนักจัดเต็มไปเลยต่อจากนี้
พิงค์โดนดเอาคืนแน่
แค้นเก่าบุญเติมถึงเวลาเอาคืน
ถึงเวลาเอาคืน
สวดยอดเลยลูกเพี่ย
ทบต้นทบดอกแถมโปรโมชั่นให้ถึงใจเลย
::Thankyou::
::Angry::
แผนพี่เหลียงสุดยอดดด
พิงค์คงคิดว่า ไม่น่ารอดมาตั้งแต่ตอนคบกันครั้งแรก ::Doubt::
ทั้งรักทั้งแค้น ::DookDig::
ได้เวลาล้างแค้นแล้ว
เอาคืนจริงๆ
จะเอาคืนได้มั้ย
ต้องโดนซะมั่ง
ถึงเวลานายเติมเอาคืน
ได้เวลาเอาคืน ต้องจัดให้หนักๆ ให้สาสมกับที่เคยทำไว้
โลกกลมมาก
::Evil::
dark mode
มันต้องยังงี่นายเติม..เล่นให้หนัก
จัดการเอาคืนแล้ว
ได้ใจสุดๆ มียาแบบนี้จริงๆหรอ น่าสนใจๆ