ติดตามอ่านเรื่องเต็มได้ที่นี่นะค้า ขอบคุณมากนะคะ
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6ODoiMTA0MDgzNjQiO3M6NzoiYm9va19pZCI7czo2OiIzMDIxMDAiO30
https://pintobook.com/ebooks/66596639b3313af998ca07bf
หรืออ่านเป็นตอน ๆ ได้ที่
https://www.tunwalai.com/story/789347
https://fictionlog.co/b/663b5a52bf41d2001caf8824
https://www.readawrite.com/a/7da316c72b8ad420af236450d5f79f6e
...............................
ผมได้เห็นหน้าพี่แทนเต็มตาก็ตอนถึงวันเปิดงานแสดงรถยนต์ประจำปีในรอบสื่อมวลชน เขาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทเอเจนซี่โฆษณาที่มีฐานะเป็นผู้ว่าจ้างมุก
พี่แทนหน้าตาหล่อเหลากว่าที่คิด เส้นผมหวีเนี๊ยบ ตัวสูงแถมยังรูปร่างดีแบบผู้ชายชอบออกกำลังกาย เขาสวมชุดสูทมาดเนี๊ยบซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการออกงานของผู้บริหารระดับนี้อยู่แล้ว ช่างแตกต่างจากตัวผมจริงเชียว
มุกกับเพื่อนพริตตี้อีกนับ 10 ชีวิตประจำอยู่ในบูธที่ออกแบบอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ผู้คนเริ่มทยอยกันมา เธอต้องสแตนบายตั้งแต่ก่อนเปิดงาน ทำให้ผมต้องยืนดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ผมเห็นสื่อมวลชนและผู้มาเยี่ยมชมงานเดินกันว่อนไปหมด
บริษัทรถยนต์เริ่มแถลงข่าวเปิดบูธของตนเอง เมื่อถึงคิวของบูธที่มุกทำงานอยู่ พี่แทนก็เป็นผู้กล่าวเปิด พูดถึงผลิตภัณฑ์รถยนต์รุ่นใหม่ที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ ก่อนจะถึงคิวของซีอีโอขึ้นกล่าวบ้าง ผมไม่ได้ฟังหรอกครับ เพราะมัวแต่มองเมียสาวคนสวยที่ยืนอยู่ด้านหน้าเลย
พอถึงคิวถ่ายรูปรวม มุกก็ถูกจัดให้ยืนอยู่ข้างพี่แทน ดูจากตำแหน่งการยืนแล้วเธอน่าจะเป็นคนโปรดของทีมงานจริง ๆ ด้วย ผมจ้องมองพี่แทนที่ตอนนี้หันไปคุยเล่นอะไรกับมุกก็ไม่รู้ เธอยิ้มแล้วหัวเราะคิกคัก ยกมือปิดปากอย่างมีจริต หัวใจของผมเต้นผิดจังหวะขึ้นมาอีกแล้ว สื่อมวลชนกดภาพกันไม่ยั้ง
เมื่อการแถลงข่าวเปิดบูธเสร็จสิ้น สื่อมวลชนก็มาขอเก็บภาพพี่แทนกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ต่อ มุกถูกจัดมาให้ยืนเคียงข้างผู้บริหารตลอด ผมเห็นพี่แทนคุยกับเธอเป็นระยะ มุกก็คุยกับเขาเป็นปกติ แต่ผมไม่ได้ยินหรอกว่าพวกเขาคุยอะไรกัน
ตลอดทั้งวัน ดูเหมือนมุกจะเป็นขวัญใจช่างภาพเพราะมีสื่อมวลชนขอถ่ายภาพกันอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา บางคนพูดคุยกับเธอด้วย ซึ่งมุกก็สานบทสนทนาได้อย่างไม่ติดขัด
"เป็นไงบ้าง วันแรก เหนื่อยมั้ย...เหลืออีกตั้งหลายวันแน่ะ" ผมถามขณะผมขับรถกลับบ้าน
"นิดหน่อยค่ะ แค่นี้สบายมาก" มุกตอบ
"คราวนี้ทีมงานโอเคมั้ย" ผมถาม มุกบอกว่าก็ดีนะคะ ทีมงานเดิมนั่นล่ะ พี่ ๆ ใจดี ผมถามอีก "แล้วพี่แทนล่ะ ได้คุยอะไรกันอีกมั้ย"
"ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่แทนบอกว่าฝากด้วยนะครับ งานมีอีกหลายวันเลย อะไรทำนองนั้นค่ะ" มุกตอบ
ผมเงียบไป ภาพชั่วร้ายของพี่แทนกับมุกผุดขึ้นในหัวอีก คราวนี้ภาพมันชัดเจนมากขึ้นเพราะผมได้เห็นหน้าไอ้พี่แทนนั่นแล้ว ผมรู้สึกฝืดเคืองในลำคอเมื่อท่อนเนื้อกระดิกหัวขึ้นอีกแล้ว ก่อนจะแข็งตัวผงาดคับอยู่ใต้กางเกง
ก่อนนอน ผมต้องสงบจิตสงบใจอยู่นาน เพราะมุกหัวถึงหมอนก็หลับไปเลยทันที แถมพรุ่งนี้ยังต้องตื่นเช้าอีกต่างหาก และผมต้องทำงานจึงไม่สามารถไปส่งเธอได้ นอกจากจะเป็นวันสุดสัปดาห์หน้านู่นเลย ซึ่งเป็นวันปิดงานพอดี
มุกไปยืนบูธในงานแสดงรถยนต์ทุกวัน ส่วนผมก็ต้องทำงาน เราจึงได้เจอกันแค่ช่วงเย็นหลังเลิกงานเท่านั้น ผมไปรับเธอทุกวัน ซึ่งหลังจากวันเปิดแล้วผมก็ไม่เห็นพี่แทนมาอีกเลย ผมคิดว่าผู้บริหารระดับนั้นไม่จำเป็นต้องมาทุกวันก็ได้ และดูท่าทางเขาไม่ได้แสดงความเจ้าชู้แต่อย่างใด
"วันนี้คนเยอะมากเลย" มุกเปรยเมื่อเข้ามานั่งในรถ
"สงสัย วันนี้วันศุกร์ด้วยล่ะมั้ง" ผมบอกขณะขับรถกลับบ้าน
"มีคนมายื่นนามบัตรให้ทุกวันเลยล่ะ บอกเป็นช่างภาพบ้าง...เป็นเอเจนท์บ้าง" เธอเปรย
ผมหันขวับไปมองหน้ามุก เธอก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ ผมได้กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ กระตุ้นอารมณ์เพศให้ตื่นตัว นานนับสัปดาห์แล้วที่เราไม่ได้นอนด้วยกันเลย
"เอเจนท์อะไรหรือ" ผมถาม
"หานางแบบน่ะสิ ไปถ่ายแฟชั่นบ้างอะไรบ้าง แต่บางคนก็มาตรง ๆ เลยบอกว่าหาคนกินข้าวด้วย" มุกบอกแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอหมายถึงไอ้พวกเอเจนท์ที่คอยหาผู้หญิงเข้าสังกัดไปเป็น "เด็กเอ็น" หรือข้ามขั้นไปเป็นไซด์ไลน์ส่งให้ลูกค้านั่นเอง ผมเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง คำโบราณที่ว่านารีมีรูปเป็นทรัพย์ไม่ใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใด อยู่ที่ว่านารีคนนั้นจะใช้รูปร่างหน้าตาของตนเองไปหาเงินแบบใดบ้าง
"แล้วมุกตอบว่าอะไร" ผมถามอีก ใจเต้นตุบตับรอฟังคำตอบ
"มุกก็ตอบไปว่ามีสามีแล้วค่ะ ดิฉันไม่รับงานเสื่อมเสียนะคะ" เธอพูดแล้วหัวเราะเสียงใส
ผมหัวเราะตามออกมา เธอพูดเหมือนบรรดาสาวสวยในโซเชียลมีเดียที่โพสต์ภาพอร้าอร่ามแต่ยืนยันว่าไม่รับงานขายตัวแบบนั้น มุกบอกด้วยว่าเธอได้นามบัตรมาเกิน 10 ใบแล้วล่ะ เพื่อนพริตตี้คนอื่น ๆ ก็ได้พอ ๆ กัน บางคนแสดงความสนใจจะทำเพื่อหารายได้พิเศษด้วยนะ ผมพยักหน้าหงึกรับฟัง
เมื่อถึงวันเสาร์ ผมไม่ต้องทำงานจึงสามารถไปส่งมุกที่งานได้ตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนจะมีโอกาสเดินเล่นในงานทั้งวันเพื่อรอเวลากลับบ้านพร้อมกัน แต่จะว่าไป เดินเล่นในงานแบบนี้ทุกวันก็ชักน่าเบื่อเหมือนกัน ดีหน่อยที่มีสาว ๆ พริตตี้ให้ดูเพลินตา
"เฮ้ย ไอ้เอก" เสียงทักดังขึ้น ผมหันขวับไป
"อ้าว ไอ้เฮง" ผมทัก ไอ้เฮงเป็นเพื่อนเก่าตั้งแต่ยังเรียนมัธยม
"มาทำอะไรวะ ดูรถใหม่เหรอ" ไอ้เฮงถาม
ผมเกือบจะบอกว่ามาเฝ้าเมียทำงานพริตตี้ แต่เปลี่ยนใจ ผมตอบมันว่ามาดูรถไฟฟ้าหน่อย เห็นเค้าว่าช่วงนี้มาแรงน่ะ ไอ้เฮงหัวเราะแล้วตบหลังตบไหล่พลางถามว่าสบายดีมั้ยวะ ไม่ได้เจอกันนานเลย เราพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันอยู่พักใหญ่
"แล้วนี่จองไปกี่คันล่ะ" ผมถามมันเพราะได้ยินมาว่ามันร่ำรวย มีธุรกิจในมือเพียบ
"จองปอร์เช่ไปคันแล้ว เดี๋ยวมาดูอัลฟาร์ดใหม่หน่อย" ไอ้เฮงพูดแล้วยิ้มตาหยี
ไอ้เฮงเกิดมาในตระกูลลูกคนจีนมีฐานะ และมันเองก็สร้างธุรกิจของตัวเองด้วย แต่เข้าข่าย "รวยแต่เลว" เพราะมันทำธุรกิจทุกรูปแบบ ทั้งบนดินและใต้ดิน ได้ยินว่ามีเมียเก็บนับไม่ถ้วน ไอ้เฮงก็เหมือนเพื่อนเก่าสมัยมัธยมทั่วไปที่ไม่ค่อยได้คุยกันหลังจากเรียนจบ แต่พอคุยแล้วก็ต่อกันติดได้ไม่ยาก มันไม่รู้จักเมียผมเพราะผมไม่ได้เชิญมางานแต่งงาน
"เดี๋ยวไปบูธนั้นกันหน่อยดิวะ" มันเอ่ยชวนแล้วชี้ไปที่บูธที่มุกทำงานอยู่
ผมเดินเคียงข้างมันเข้าไปในบูธ พริตตี้น่าจะอยู่ในช่วงพัก ผมจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะไม่อยากให้มันได้มองกระลิ้มกระเหลี่ยใส่เมียผมเท่าไหร่นัก ไอ้เฮงไม่ใช่ผู้ชายรูปหล่ออะไร พุงพลุ้ย หัวใกล้ล้านแล้ว แต่มันแต่งตัวดีและมักใช้เงินฟาดเพื่อให้ได้ผู้หญิงที่ต้องการ
แต่แล้วทีมงานก็ส่งสัญญาณให้พริตตี้เดินออกมา ผมภาวนาให้มุกได้ยืนอีกฟากหนึ่งของบูธ แต่คำขอไม่ได้ผล เพราะมุกถูกทีมงานจัดมาให้ยืนตรงด้านหน้าเลย ผมเหลือบไปเห็นไอ้เฮงจ้องมองเมียคนสวยของผมตาเป็นมันเลยทีเดียว
"พริตตี้บูธนี้แจ่ม ๆ ทั้งนั้นเลยว่ะ ทีมมาร์เกตติ้งตาถึงจริง" มันเกริ่นพร้อมกับเอ่ยชมทีมฝ่ายการตลาดของพี่แทนด้วย
มุกยังหันไปทางอื่นเพื่อให้ช่างภาพได้บันทึกภาพไว้ ผมเอ่ยชวนมันเดินไปดูรถอีกด้านหนึ่ง แต่มันกลับเดินตรงเข้าไปหามุกเลย ผมเดินตามมันไปห่าง ๆ ครู่เดียว มุกก็หันมาแต่ยังไม่เห็นผม ไอ้เฮงยิ้มเผล่ขณะไปยืนตรงหน้าเธอ
"น้องชื่ออะไรจ๊ะ" มันถาม
"ชื่อมุกค่ะ" เมียผมตอบแล้วยิ้มหวาน
"สนใจทำงานกับพี่มั้ยจ๊ะ...งานเอ็นเตอร์เทนลูกค้า เงินดีนะ" ไอ้เฮงพูดแล้วยื่นนามบัตรให้ มุกรับไว้แล้วประนมมือไหว้
"ขอบคุณค่ะ" เธอพูด
"ไหว้พระเถอะจ๊ะ"
ไอ้เฮงพูดขณะพนมมือรับไหว้ แล้วยังชวนมุกคุยต่อ ผมได้ยินแว่ว ๆ ว่าน้องมุกสวยดีจังเลย หุ่นก็ดี แบบนี้น่าจะทำงานกับพี่ได้สบายเลยนะจ๊ะ ผมหันหลังให้พลางแอบฟังด้วยใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง
เมื่อคุยกันเสร็จไอ้เฮงก็ชวนไปดูบูธอื่นต่อ ผมรีบจ้ำออกมาเลยโดยไม่หันหลังไปมอง มันเดินนำพาไปดูรถยุโรปรุ่นใหม่
"มาดูรถหรือดูสาวกันแน่วะ" ผมถามแบบขำ ๆ
"ทั้งสองอย่างน่ะ...วันนี้มาหาสาว ๆ เข้าสังกัดด้วย" ไอ้เฮงพูด สายตาของมันมองกวาดไปทั่ว ผมสงสัยว่ามันมีสังกัดอะไรด้วยหรือ ผมลองถามเล่น ๆ
"สังกัดอะไรวะ...กูพาเด็กเข้าสังกัดมึงด้วยได้มั้ย" ผมเปรยไปอย่างนั้นแหละ ผมมีเด็กที่ไหนกัน ไอ้เฮงหัวเราะ
"ไอ้เอก...ได้ยินว่ามึงเพิ่งแต่งงานนี่หว่า มีเด็กแล้วเหรอวะ...ถ้ามีก็พามาได้เลย เดี๋ยวกูจัดให้น้องเค้ามีรายได้พิเศษ"
ไอ้เฮงพูดแล้วยื่นนามบัตรให้ด้วย ผมเหลียวหันไปมองมุก เธอกำลังโพสต์ท่าให้คนมาร่วมงานเก็บภาพด้วยมือถือ
สงสารมนนะครับ เติมจะช่วยภรรยาอย่างไรดี
น่าสงสาร
เมียสวยแบบนี้ใครก็หวงครับ ::Fighto::