อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ที
https://www.tunwalai.com/ebook/31452
หลังจากคืนวันนั้นก็ผ่านมา5วันที่ ซานและวา พักอยู่ในบ้านของน้าจอย ตลอดหลายวันมานี้น้าๆและวาก็พาซานไปเที่ยวที่โน้นที่นี่ในจังหวัดอยู่หลายที่ จนกระทั่งวันนี้มันถึงวันสงกรานต์แล้ว
แน่นอนว่าในตอนเช้าก็จะมีการลดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ ส่วนสายๆก็จะมีการเล่นสาดน้ำกันไปจนเย็น หลายครอบครัวก็อาจจะพากันไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่สำหรับครอบครัวของวา เย็นนี้เขาและแฟนสาวมีนัดกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันที่ลานเบีย์ ซึ่งวาเป็นผู้จองและเปิดโต๊ะให้เพื่อนได้ดื่มกัน ส่วนน้าจอยน้าหมูและวีวี่ก็จะไปเดินเที่ยวงานวัดตรงข้ามกัน
ครั้นเมื่อถึงตอนเย็นหลังจากเล่นน้ำสงกรานส์กันมาทั้งวัน วาและซาน'พร้อมกลุ่มเพื่อนก็มาที่ลานเบียร์กันตามเวลา สาวสวยเย็นนี้แต่งตัวมาด้วยชุดเสื้อยืดคอกว้างกางเกงขาสั้น โชว์โคนขาขาวสวยและเนินเนื้อหน้าอกขาวเนียน
�
หลังจากพบกันครบคนที่หน้างานแล้วพากันเดินเข้าไปนั่งประจำโต๊ะที่จอง ซึ่งพอดีกับวงดนตรีวงแรกเริ่มขึ้นเล่น วา'กับเพื่อนๆก็เริ่มเปิดขวดจิบเบาๆกันไป พลางสายตาทุกคู่ก็มองไปสนใจอยู่กับนักร้องและวงดนตรีบนเวที
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่นั่งดื่มนั่งฟังเพลงกัน จากวงแรกก็เปลียนไปเป็นวงที่2และ3และ4 จนมารู้อีกที่ทุกๆโต๊ะที่อยู่ในลานเบียร์ก็เมากันเยอะแล้ว นั่นก็รวมถึงโต๊ะของวาและกลุ่มเพื่อนด้วย ผู้ชายนับ7-8คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ พอเมาจนหน้าหน้าแดงก็เริ่มส่งเสียงดังโวกเวกอย่างไม่เกร็งใจไคร แล้วพอหันไปมองโต๊ะอื่นๆก็เป็นเหมือนกันแทบทุกโต๊ะ
เวลานั้น ซาน'ที่ไม่ดื่มเหล้ากับเขาเลยสักแก้วพอเธอเห็นว่า ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่ดื่มเหล้าจนเมาแล้วขาดสติลืมมีมารยาท ส่งเสียงดังโวกเวกด้วยการพูดคุยอย่างสนุกปาก สาวสวยก็เริ่มจะรู้สึกรำคาญและหนวกหู
ยิ่งโต๊ะของแฟนหนุ่มที่นั่งอยู่มีเพื่อนเป็นล้วนทั้งหมด พอเมาแล้วส่งสียงดังเหมือนโต๊ะอื่นๆ มันก็ทำให้ซานเริ่มที่จะเบื่อและไม่ชอบเป็นที่สุด เธอไม่ชอบเลยที่เมาละเสียงดังมันหนวกหูและไม่น่านั่งอยู่ร่วมด้วย มันทำบรรยากาศของการนั่งฟังเพลงเสียหมด
พอความรำคาญและไม่ชอบเสียงดังมันถึงที่สุด เมื่อวีวี่อยู่ๆก็เดินมาชวนให้ซานไปเล่นปาโป้งที่งานวัดด้วยกัน เธอก็รีบบอกแฟนหนุ่มขอไปกับวีวี่ทันที ซึ่งพอวาบอกให้ไปสาวสวยก็เดินตามน้องสาวของแฟนไปที่งานวัดฝั่งตรงข้ามอย่างไม่รีรอ
ซาน'เดินตามวีวี่ไปเล่นปาโป้งตามที่น้องชวน ซึ่งก็ยืนปาอยู่กว่าชั่วโมงถึงสะสมแต้มได้ตุ๊กตาตัวใหญ่ หมดเงินไปก็ร่วมหกเจ็ดร้อย พอได้มาซานก็เลือกยกให้วีวี่เป็นของขวัญวันสงกรานต์ จากนั้นทั้งเธอและวีวี่ถึงเดินล่นในงานวัดกันต่อ
แต่เดินไม่นานน้าหมูกับน้าจอยที่กลับมาจากดูหนังกลางแปลงก็ผ่านมาชวนวีวี่กลับบ้าน ซึ่งเวลานั้นน้าๆก็ชวนชานกลับด้วย แต่เธอบอกไปว่าว่าจะรอกลับพร้อมกลุ่มของวา ทางน้าๆเลยแยกพาวีวี่กลับบ้านก่อน
พอน้าๆและวีวี่คล้อยหลังไป แทนที่ซาน'จะกลับไปหากลุ่มของแฟนหนุ่มอย่างที่บอก เธอกลับเดินดูของขายในงานวัดต่ออย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับ สาวสวยเดินผ่านเต้นนับสิบนับร้อยแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรเลยสักอย่าง หลายอย่างแปลงตาแต่ก็ยังไม่ถูกใจสาว
แต่ก็นั่นละพอจะเจอของที่น่าสนใจมันก็เจอเอาดื้อๆ แถมมันยังทำให้ซานหยุดเดินอีกด้วย เต้นขายของเก่าที่หน้าร้านตั้งเป็นแผงขายพระข้างในเต้นตั้งขายของเก่าโบราณ ในถาดสามสี่ถาดหน้าร้าน มีทั้งพระเครื่องและเครื่องรางต่างๆวางขายเต็มแผง
ซาน'หยุดเดินแล้วแวะเข้าไปยืนดูพวกพระและเครื่องรางในถาด บางอย่างในนั้นมันคุ้นตาแต่หลายอย่างมันก็แปลกตาอย่างที่เธอไม่เคยเห็น พอสาวสวยหยิบของสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าเธอก็ไดรู้ว่า ของหน้าตาแปลกๆเป็นหลอดแก้วรูปทรงกลมข้างในมีแผ่นทองแดง มันคือ ตระกรุด
พอซานหยิบอันอื่นๆขึ้นมาแล้วถามพ่อค้าต่ออีกเธอก็ได้รู้อีกว่าของพวกนั้นเรียกอะไรบ้าง แต่พอมาถึงอีกชิ่นสาวสวยก็ถึงกับทำหน้างงอย่างหยี่ๆ ของรูปทรงกลมตั้งซึ่งตรงปลายนั้นเหมือนไอ้หนูของผู้ชาย
"อันนี้เขาเรียก เออ...อะไรคะคุณลุง"
"อืมม อันนี้เขาเรียก...ปลัดขิกจ๊ะ แม่หนู"
"ปลัดขิก...หรอคะ อือ...,มันมีไว้ทำอะไรหรอ"
'อ๋อ พวกผู้ชายเขาชอบห้อยติดเอวน่ะแม่หนู เอาไว้เกี่ยวสาว ช่วยเรียกให้สาวรักสาวหลงง่าย"
ลุงพ่อค้าบอกซานตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยความที่เธอหน้าออกฝรั่งลุงพ่อค้าจึงนึกว่าสาวสวยเป็นฝรั่งที่อยู่ไทยนาน ถึงจะบอกไปตรงๆแต่เธอคงไม่ค่อยเข้าใจหรอก
"หรอคะ แล้ว...มัน ใช้ได้จริงหรอคะ"
"แม่หนูเป็นฝรั่งคงไม่เชื่อละสิ แต่ผู้ชายไทยที่เล่นของพวกนี้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าใช้ได้กันนะ ยิ่งเป็นของพระดังๆอาจารดังๆ คนยิ่งตามหากันให้ควัก"
ไม่รู้ว่าลุงพ่อค้าเป็นคนที่พูดจาดูมีความน่าเชื่อถือหรือป่าว เพราะซานดูจะเพลินไปกับคำบอกเล่าของแก จนเธออดไม่ได้ที่จะยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาดึงสร้อยที่ห้อยอยู่บนคอ ลากเอาพระหน้าตาแปลกๆที่เธอไม่รู้จักออกมาจากในเสื้อ แล้วชูขึ้นมาให้ลุงพ่อค้าดู
แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถามออกไป เวลานั้นก็มีเสียงเอ่ยดังขึ้นมาจากทางด้านหลังสะก่อน มันก็ทำให้ซานหันไปตอบรับพลางมองอย่างงงๆ
"นี่...ใช่? ซาน แฟนเจ้าวารึป่าวครับ"
"อ๋อ....ค่ะ ใช่ค่ะ รู้จักวาหรอคะ"
ซานตอบอย่างยิ้มๆพลางทำหน้างงและสงสัย นอกจากจะพบว่าคนที่เรียกเป็นผู้ชายหน้าตาบ้านๆที่ดูวัยใกล้เคียงกัน เธอยังพบว่าเขานั้นเดินมาพร้อมกับชายอีกคนที่ดูแก่กว่า
"อ๋อ...ผม เอ เพื่อนเก่าเจ้าวา เคยเรียนด้วยกันตอนมัธยม"
"อ๋อ..ค่ะ" ซานตอบรับแต่ก็ยังทำหน้างง เธอไม่เข้าใจว่าชายคนนี้หรือเอรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเธอคือแฟนของวา ทั้งที่ตลอด5วันที่ผ่านมาเธอไม่เคยเห็นเอในกลุ่มเพื่อนวาเลย
"อ่าา...ไม่ต้องทำหน้างงไปหรอกครับ ที่ผมรู้ัจักชื่อคุณแล้วรู้ว่าคุณเป็นแฟนเจ้าวาน่ะ เพราะผมได้ยินชาวบ้านแถวนี้บอกว่า วา! มันกลับมาเที่ยวบ้าน เห็นว่าพาแฟนน้าตาลูกครึ่งๆมาด้วย แถวนี้ไม่ค่อยมีไครหน้าตาลูกครึ่งเลย ผมเลยคิดว่าเป็นคุณ"
"อ๋อ....ค่ะ" ซานตอบรับอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้เธอยิ้มอย่างเข้าใจและคลายความสงสัยลง
"อืม....แล้วนี่ เจ้าวาอยู่ไหนอะครับ มันมาเดินเที่ยวด้วยมั้ย" เอถามพลางมองชะเง้อซ้ายทีขวาทีมองหาวา
"เออ ไม่ค่ะ ตอนนี้วาลานเบียร์"
ซานเป็นเหมือนคนที่เวลานึกงงหรือสงสัยอะไรแล้ว สีหน้ าเธอก็จะแสดงออกมาด้วย มันก็ทำให้เออดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวบอก เมื่อซานบอกที่อยู่ของวาแต่ทำหน้าสงสัยด้วย
"อ่า ทำหน้าสงสัยอีกแล้ว คือ..พอดีผมพึ่งกลับจากเก็บเงินกู้น่ะครับ พึ่งกลับมาจากเขมร แล้วไม่ค่อยมีเวลาทักหาเจ้าวามัน เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนน่ะครับ"
"อ๋อ...ค่ะ ก็ตอนนี้วาอยู่ที่ลานเบียร์นั่นแหละค่ะ"
"อ่า...ครับ อยู่มุมไหนของลานนะครับ"
"เออ...อยู่ ฝั่งซ้ายค่ะ โต๊ะ5แถวที่4"
"อ่าา...ครับ ขอบคุณครับ งั้นผมขอไปหาเจ้าวาก่อนนะครับ"
พูดจบแล้วซานพยักหน้ารับ เอก็เดินจากไปทันที ก่อนที่ทางซานจะหันกลับไปหาลุงพ่อค้าต่อ มือที่ถือพระกับสร้อยคออยู่ตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ยื่นไปให้แกดูให้ต่อทันที
"เออ...ลุงพอจะรู้จัก พระ อันนี้มั้ยคะ"
"อืมมม อันนี้้มัน...คุ้นๆน่ะนิ อืออ"
ลุงพ่อค้ารับพระจากมือซานไปส่องดูพลางก็บ่นงึมงับเบาๆอย่างที่ซานฟังไม่เข้าใจ แกส่องด้วยสีหน้าตั้งใจแต่ก็ดูจะแอบงงๆอยู่เหมือนกัน
"อืมม...มันคุ้นจริงนะเนี้ย เอ๊?" นั่นละ!ยังไม่ทันที่ลุงพ่อค้าจะบอกอะไรซานได้ แกก็ต้องมีอันมองเหมือนตกใจสะก่อน เมื่อข้างซานมันมีเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมร่างของไครคนหนึ่งเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น
"ตาสม...ว่าไง เมื่อกี้ลืมไปเลย เห็นไอ้เอมันทักแฟนเพื่อน"
แน่นอนว่าเสียงนั้นมันไม่ได้ทำให้แค่ลุงพ่อค้าตกใจ แต่ทางซานเองก็ต้องแงะมองเช่นกัน เมื่อคนที่่อยู่ๆก็เอ่ยขึ้นมาคือคนที่เธอจำได้ว่า เป็นผู้ชายที่เดินมาพร้อมกับเอตะกี้นี้
แต่ที่ทำให้สาวสวยตกใจยิ่งกว่าลุงพ่อค้า คือพอเธอเงยหน้ามองชายคนนี้แล้วได้มองหน้าเขาชัดๆ ซานก็จำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอเห็นในห้องน้าจอยเมื่อคืนแรกที่มาพัก
แน่ละว่ามันทำเอาซานถึงกับร้อนวูบวาบขึ้นมา พลางในใจก็เสียวแปร๊บก่อนจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาด ราวกับว่าการได้พบชายคนนี้มันทำให้ภาพในคืนนั้นย้อนกลับมา ทำให้สาวสวยย้อนเห็นมันอีกครั้งในหัว
"อืมม...เมื่อกี้ น้อง? ไอ้เอมันเรียก...ซาน ใช่มั้ย"
"อะ...เออ! อื่อ คะ...ค่ะ ซานค่ะ"
ซานตอบอย่างเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก การเอ่ยทักของชายคนนี้มันทำให้เธอตกใจ เพราะการที่เธอได้พบเขานอกจากความทรงจำมันจะแว๊บไปเห็นคืนนั้น สาวสวยยังมีภาพท่อนเนื้อใหญ่ยาวฝั่งติดตาไม่เลื่อนลาง
"อืมมม นี่กำลังดูพระหรอ สนใจทางนี้ด้วยหรอ ดูเป็นสาวฝรั่งไม่นึกเลยว่าจะสนใจสายนี้ด้วย"
"เออ ก็นิดหน่อยค่ะ พอดีเห็นมันสวยดี" ดูเหมือนว่าความเลิ่กลั่กจะทำให้ซานเลือกตอบไม่ถูก จนเธอเลือกที่จะตอบส่งๆไปให้พ้นๆให้รอดตัว ทั้งๆที่สิ่งที่ตอบไปมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย
"หืออ พึ่งจะเคยได้ยิน เช่าพระเพราะสวย นี่คงเป็นนิสัยฝรั่งแท้ๆเลยสิเนี้ย"
ชายคนดั่งกล่าวเอ่ยพูดพลางทำท่าขำ แน่ละว่านั่นมันทำให้ซานที่ทำตัวไม่ถูกอยู่แล้ว ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปใหญด้วยความซื่อ แถมมันก็เลยทำให้เธอไม่ได้สังเกตุว่าชายคนที่เอ่ยพลางขำ สายตาเขากลับไม่ได้ขำตาม
เพราะนอกจากมันจะจ้องซานอย่างเพ่งตาแทบถลน จุดที่มันจ้องก็ยังเป็นเรือนร่างของเธอ ซึ่งช่วงบนใส่เสื้อยืดคอกว้างช่วงล่างใส่กางเกงขาสั้น มันให้ทำเห็นเนินเนื้อและร่องอกก้อนใหญ่ อีกทั้งโคนขาขาวๆที่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงมันขาวเป็นที่สุด
�
"อือ!!!!! ก็ มันสวยจริงๆนิคะ"
"อ่าๆ งั้นก็ได้ ส่วนใหญ่ฝรั่งก็ซื้อของพวกนี้เพราะมันสวยแล้วก็แปลกตาอยู่แล้ว น้องก็คงไม่ต่างกันแหละ"
แน่นอนว่าระหว่างที่เอ่ย ซานที่ยังเงอะงะเลิ่กลั่กไม่เลิก เธอมัวแต่รู้สึกอายชายตรงหน้าจนไม่สังเกตุให้ดีว่า ชายคนนั้นละสายตาจากเธอไปส่งชิกให้ลุงพ่อค้า ให้คืนของที่เธอเอาให้ดูคืนเธอไป
"อะ..เออ อื่อ แม่หนู ขอโทษนะ แต่ อืมมม ลุงดูแล้วไม่รู้เลย มันน่าจะไม่ใช่พระสายไทยน่ะ น่าจะของต่างประเทศ"
"อื่อ....ค่ะ ไม่เป็นไรคะ"
ถึงจะรับรู้ว่าลุงพ่อค้าก็บอกไม่ได้ว่าพระที่หน้าตาแปลกๆเป็นของสร้างขึ้นที่ไหน เรียกว่าอะไร แต่ซานก็ยังเลือกที่จะรับคืนมาแล้วเอากลับมาคล้องคออย่างเดิม โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงลุงพ่อค้าแกรู้ว่านั่นคืออะไร เป็นของไคร แต่บอกไม่ได้
"อืมมม งั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ ไปก่อนนะคะ เออ" ซานบอกกับลุงพ่อค้าก่อนจะหันมาบอกชายคนที่ยืนคุยด้วย ซึ่งเธอจะเรียกชื่อเขาแหละแต่ดันไม่รู้จักชื่อ
"อืมม พี่ ชื่อตั้ม ครับ"
"อ๋อค่ะ ขอตัวไปก่อนนะคะ พี่ตั้ม" ซานกล่าวพลางก้มหน้าขอลาอย่างมีมายาท เธอคิดว่ายังไงสะพี่ตั้มคนนี้คงจะตามเอไปแน่ ซึ่งคงไปเจอกันอีกที่โต๊ะของกลุ่มวา
"อืม...ครับ"
แน่นอนว่าชายคนดังกล่าวหรือพี่ตั้ม ผู้ชายร่างท้วมตัวใหญ่ผิวดำน้ำตาลก็เอ่ยตอบรับคำบอกของซาน ก่อนที่เธอจะเดินห่างไปโดยที่หารู้ไม่ว่าข้างหลัง พี่ตั้มยังคงมองตามหลังเธออย่างไม่ว่างตา มองจับหุ่นเรือนร่างและบั้นท้ายของสาวสวย ที่ทุกย่างก้าวมันบิดส่ายน่ากระแทกเป็นที่สุด
�
"เอ่ย...ไครวะน่ะ ตั้ม สาวที่ไหนว๊ะ ขาวสวยจัง นมก็ใหญ่ หุ่นก็ดี"
ซานคล้อยหลังไปไม่กี่นาทีทางลุงพ่อค้าก็เอ่ยขึ้น แน่ละว่าแกเอ่ยกล่าวพลางมองที่เจ้าตั้มอย่างยื้มแหย่ๆ
"เสือกน่า...ตาสม!!"เพียงแค่คำตอบสั่นๆก็ทำเอาลุงพ่อค้า(พระ)หรือตาสม ถึงกับหน้าจ๋อย!
นอกจากแกจะไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าตั้มคนนี้แล้ว แกยังกลัวมันจนไม่กล้าบอกซานเกี่ยวกับพระที่เธอเอาให้ดูถึงแม้จริงๆแกจะรู้ว่านั้นคือ"แม่เป๋อ" เครื่องรางคุณไสย์สายต่ำเรื่องกามา ซึ่งเป็นของคุ้นตาที่แกเห็นมันอยู่กับเจ้าตั้มเกือบตลอด
"ทางที่ดี...อย่าเสือกเรื่องของผมจะดีกว่านะตาสม รู้แล้วก็เก็บไว้เงียบๆถ้าไม่อยากเดือดร้อน เงินน่ะ ค้างไว้เท่าไหร่นะ เสี่ย...9หมื่นใช่มั้ย"
"อ่าาาา ไม่ยุ่งๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องแกอยู่แล้ว เจ้าตั้ม"
ตาสมโอดพลางทำท่ากลัวเจ้าตั้ม นอกจาแกจะติดเงินเสี่ยเจ้านายมัน ตัวมันเองแกก็ติดค้างไว้ถึง3หมื่น พอมันเอาเรื่องเงินมาขู่แกจึงไม้กบ้าที่จะยุ่ง ถึงแม้ลึกๆจะรู้ว่ามันจงใจใช้แม่เป๋อกับซานก็ตาม
ด้านซานที่เดินละออกมาจากแผงเช่าพระของตาสม เธอก็กะว่าจะเดินพลางถ่ายรูปงานวัดเก็บไว้พลาง แล้วจะอัพลงเน็ตบางส่วนที่มันสวยมากๆขณะเดินกลับไปหากลุ่มของวาที่ลานเบียร์ สาวสวยเดินไปก็ถ่ายไปพอได้ภาพถูกใจก็เดินก้มหน้ากดมือถือ อัพภาพลงเน็ตตามที่ตั้งใจ
สำหรับซานมันดูเหมือนแค่ไม่กี่นาทีที่เดินทำแบบนั้น แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเธอก็พบว่า ตัวเองเดินมาอยู่จุดไหนของแถวบ้านวาแล้วก็ไม่รู้ ทั้งๆที่เธอก็จำได้นะว่าก่อนหน้านี้เธอเดินอยู่ในวัด และกำลังจะกลับไปหาวากับกลุ่มเพื่อนที่ลานเบียร์
แต่ไฉนตอนนี้ถึงมายืนอยู่ริมถนนลูกรังกลางทุ่ง แล้วพอมองไปไกลๆกลับเห็นแสงไฟงานวัดอยู่ห่างไปออกไปเกือบ1กิโล
ซึ่งมันเป็นระยะทางไกลมาก การเดินก้มหน้าอัพรูปแค่10กว่ารูปลงเน็ต มันไม่น่าทำให้เธอเดินเพลินมาถึงขนาดนี้ได้?
อ้างจาก: natt4556 เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:38:08 หลังเที่ยงมาทรงนี้ ไม่น่ารอด ยับแน่นอน
อ้างจาก: Storm Fake เมื่อ ตุลาคม 19, 2024, 07:20:20 หลังเที่ยงตามไปอ่านเล่ม1ก่อนไครได้ทีหลงทางแล้ว
https://www.tunwalai.com/ebook/31452