มีเรื่องจะแจ้งและปรึกษาสำหรับเรื่องนี้ครับ
โดยจริงๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมทำร่วมกับเพื่อนคนหนึ่ง (ซึ่งตอนนี้ไม่อยู่แล้ว)
โดยเพื่อนผมจะส่งเนื้อหามาให้ผมเพื่อมาเรียบเรียงเกลาภาษาให้เป็นสำนวนตัวเอง
และเผยแพร่ในชื่อผมเลย (หลายๆ เรื่องก็เป็นเช่นนี้ แต่ทำร่วมกันคนอื่นเช่นแฟน)
ซึ่งเรื่องนี้มีสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมต้องหยุดทำมาจนถึงตอนนี้ครับ
นั่นก็คือผมได้รับ feedback ว่าเรื่องนี้คือเรื่องเดียวกับนิยายอีกเรื่องหนึ่งของต่างประเทศ(ขอยังไม่บอกชื่อ) โดยจะแตกต่างแค่เปลี่ยนชื่อตัวละครและสถานที่เท่านั้น
ผมจึงได้ไปพูดคุยกับเพื่อนแล้ว และพบว่าเป็นแบบนั้นจริงๆ เหตุผลก็เพราะเพื่อนของผมอยากอ่านแบบแปลไทย โดยเป็นสำนวนของผม
พอรู้แบบนั้น ผมก็เลยพักการทำไปก่อน แม้จะได้เห็นต้นฉบับทั้งหมดแล้วก็ตาม (ปัจจุบันก็ยังไม่จบ)
เพราะไม่แน่ใจเรื่องลิขสิทธิ์ หรือปัญหาอื่นๆ และปล่อยให้ค้างคาอยู่แบบนั้น (ผมมีติดเหรียญเพื่อทำรายได้ไว้ด้วย)
จึงอยากขอความเห็นทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้ ว่าผมควรพัก หรือควรทำต่อดี
และหากทำต่อ(ซึ่งจะเป็นงานแปล) จะทำในรูปแบบเดิมคือการแปลงชื่อตัวละครและสถานที่ หรือแปลตรงตามต้นฉบับไปเลยดีครับ
**เบื้องต้นผมได้ทักไปถามเจ้าของผลงานไว้เมื่อนานมาแล้ว และทราบว่าเรื่องนี้มีลิขสิทธิ์กับต่างประเทศ
โดยเจ้าของผลงานไม่ได้ตกลงหรือปฏิเสธหากผมจะนำมาแปล หรือดัดแปลงต่อครับ**
อ่านตอนก่อนหน้า หรือผลงานเรื่องอื่นๆ ได้ที่ (ห้องสมุด) (https://xonly8.com/index.php?topic=164679.0) ของผมครับ
และสามารถสนับสนุนให้กำลังใจในการเขียนงาน และอ่านตอนใหม่ ๆ ล่วงหน้าได้ตามช่องทางดังนี้ครับ
( (https://fictionlog.co/u/godersoul)Fictionlog (https://fictionlog.co/u/godersoul))
(ธัญวลัย) (http://www.tunwalai.com/profile/1400787/godersoul?page=1)
(readAwrite) (https://www.readawrite.com/?action=search_article&tab=all&page_no=1&key=godersoul&end=0&chap=0)
(Hongsamut) (https://bit.ly/2Wsuzpo)
EBOOK
เล่ม1 (https://shorturl.at/CylRg)
เล่ม2 (https://shorturl.at/zJB3N)
เล่ม3 (https://shorturl.at/D7xvb)
เล่ม4 (https://shorturl.at/wW7Qe)
***ท่านใดติดขัด ไม่สะดวกในการอ่านผ่านเว็บอื่นๆ หรือทำไม่เป็น สามารถเข้ากลุ่ม Line OPENCHAT มาสอบถามหรือพูดคุยเรื่องอื่นๆ ได้ครับ (ไม่ระบุตัวตน)***
กดเข้ากลุ่มที่ Link นี้ >>> OPENCHAT (https://xonly8.com/You've%20been%20invited%20to%20join%20%5C"Godersoul%5C".%20Visit%20the%20link%20below%20to%20join%20the%20OpenChat.)
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ
(FACEBOOK PAGE) (https://www.facebook.com/GodersouI)
เมื่อพวกเรามาถึงสถานีรถไฟฟ้า ผมก็ใช้วิธีเดียวกันกับเมื่อวานคือให้พี่เอมเป็นฝ่ายเดินนำไปก่อนโดยมีผมเข้าตามหลังไป
แม้ระหว่างทางรุ่นพี่สาวจะไม่ถามอะไรผมสักคำเกี่ยวกับสิ่งที่ยัยโมเมนั่นพูด แต่เธอก็จับมือผมไว้แน่นตลอดทาง และผมก็คงไม่พูดอะไรก่อนเองแน่ถ้าเธอไม่เป็นฝ่ายเริ่ม
ถึงผมจะตั้งใจเริ่มตั้งต้นกับโรงเรียนใหม่แล้ว แต่ปัญหาจากโรงเรียนเก่าก็ยังตามติดมาด้วยอยู่ดี หากผมเกิดพลาดเดินหมากผิดไปสักนิด ความวุ่นวายก็คงจะเกิดขึ้นและทำให้ผมไม่สามารถเป็นนาย ก. อย่างที่อยากเป็นได้อีก
อาาาา... ผมต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนเสียแล้ว
รถไฟฟ้าในช่วงเช้าแม้ผู้คนจะยังไม่แน่นขนัดแต่ที่นั่งก็เกือบเต็มแล้ว พอผมขึ้นไปก็เห็นพี่เอมยืนอยู่ เธอยังคงขี้อายและใส่ใจกับสิ่งรอบตัวมากเกินไปจนไม่ยอมหาที่นั่งให้กับตัวเอง ผมจึงเดินไปจูงมือเธอเพื่อพาไปหาที่นั่งที่ว่างพอในตู้ขบวนอื่น
ตอนนี้รถไฟฟ้ายังคงไม่ออกจากสถานี ดังนั้นจึงเสี่ยงอยู่บ้างที่ผมและเธอจะถูกพบว่าอยู่ด้วยกัน เมื่อเราหาที่นั่งได้ ผมก็บอกให้เธอนั่งลงโดยมีผมยืนอยู่ข้างหน้าเธอ ผู้คนจะเริ่มแออัดมากขึ้นที่สถานีถัดไป จึงไม่แปลกเท่าใดนักที่ผมจะยืนอยู่แบบนี้
พี่เอมดูมีท่าทีกระสับกระส่ายอยู่บ้างเมื่อรถไฟฟ้าเคลื่อนตัวออกจากสถานี แต่ไม่เหมือนเมื่อวานที่เราอยู่ห่างกัน ผมยื่นมือไปกุมมือเธอไว้อีกครั้ง และตอนนี้ เธอไม่กระสับกระส่ายแล้ว
"เอมควรดูมือถือหน่อยนะ"
ผมบอกพี่เอม พวกเราใช้เวลากินอาหารเช้าและอยู่ในอ่างนานเกินไป รุ่นพี่สาวจึงไม่มีเวลาพอที่จะเช็คโทรศัพท์ของเธอเลย คงไม่ดีนักหากจะปล่อยให้แฟนหนุ่มติดต่อเธอไม่ได้ ความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของของเขาจะก่อให้เกิดความสงสัยและอาจสร้างปัญหาขึ้นในภายหลัง
พี่เอมพยักหน้ารับและหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา ผมเห็นสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันทีที่เธอเปิดมันดู ผมจึงปล่อยมือพี่เอมและหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อส่งข้อความหาเธอ ถึงเราจะสามารถพูดคุยกันได้ตามปกติ แต่ทำแบบนี้ปลอดภัยกว่า ที่นี่มีผู้คนมากมาย แม้การคุยกันธรรมดาของพวกเราจะไม่เกี่ยวกับพวกเขา แต่พวกเขาก็พร้อมจะเข้าใจผิดอย่างแน่นอน
[มีอะไรรึเปล่า?]
[อืม นิดหน่อยนะ แค่บิ๊ก...]
[อ้อ เขาเริ่มสงสัยเหรอ]
[ใช่ แต่เอมแก้ตัวไปแล้วล่ะ หวังว่าบิ๊กจะเชื่อนะ]
[ไม่ต้องคิดมากครับ แค่หลังจากนี้เอมต้องให้เวลากับเขามาก ๆ หน่อย นั่นจะทำให้เขาสบายใจขึ้น]
[อื้อ]
[และ... อย่าลืมว่าเอมเป็นของภูมิ]
พี่เอมเงยหน้าขึ้นมองผมและพยักหน้ารับอีกครั้ง
ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเราก็มาถึงสถานีปลายทางในที่สุด ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ผมและพี่เอมที่ใส่ชุดนักเรียน อีกทั้งยังมีหลายคนที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน โชคดีที่ผมหันหลังให้พี่เอมนานแล้ว พวกเราจึงดูเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยแม้จะมองจับจ้องกันสักแค่ไหน
เมื่อประตูรถไฟฟ้าเปิดออก ผมก็รู้สึกได้ว่ารุ่นพี่สาวดึงชุดนักเรียนด้านหลังของผมไว้ ผมหันไปหาเธอและพยักหน้าให้ และพี่เอมก็ตอบกลับด้วยการทำแบบเดียวกัน
นี่คือที่ที่เราจะแยกกันในวันนี้ พี่เอมเป็นของผมแล้ว ดังนั้นผมจึงอุ่นใจแม้ว่าจะไม่ได้เจอเธอในภายหลัง แต่ถ้าเกิดเจอก็อีกเรื่องหนึ่ง ผมอาจจะเกิดอยากทำกับเธอแบบเมื่อคืนนี้อีกครั้งก็เป็นได้
ผมเดินตามหลังพี่เอมห่าง ๆ ในระยะทางที่เหลืออยู่สำหรับการไปโรงเรียน ตอนนี้ทางสะดวกแล้ว เพราะพวกเรากำลังปะปนไปกับเพื่อนร่วมโรงเรียนคนอื่น ๆ
"ภูมิ?"
ผมได้ยินคนเรียกชื่อจากด้านหลัง และผมจำเสียงนั้นได้ดีจึงหันกลับไปมอง เป็นเธออย่างที่คิด 'ใบเตย' นางเอกสาวดาวเด่นประจำห้อง หยกบอกว่าเธอเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ผมยังไม่รู้ว่าเป็นประเทศไหน เธอมีผมดำขลับเงาสลวยที่ยาวจนถึงกลางหลัง ผมยังจำฉากการโต้เถียงอันดุเดือดของใบเตยกับเก่งกล้าในคาบประวัติศาสตร์เมื่อวานนี้ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าใบเตยเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่ตราบใดที่เธอยังโสด เธอก็เป็นเพียงอีกหนึ่งเพื่อนร่วมชั้นที่ผมต้องหลีกเลี่ยง คนคนหนึ่งจะโดดเด่นขึ้นทันทีหากเขาเอาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางเหล่าคนที่เป็นที่น่าสนใจ
"ฉันจำถูกสินะ นายคือภูมิ คนที่ทำให้ครูอารียาโมโห"
เวรกรรม... แบบนี้ผมคงไม่ใช่เพื่อนร่วมชั้น ก. ของใครต่อใคร แต่เป็น 'นักเรียนผู้โชคร้ายที่โดนครูเรียกพบตั้งแต่วันแรก ๆ ' ไปแล้วสินะ เอาเถอะ คงจะแค่ช่วงแรก ๆ เท่านั้น อีกสักพักเรื่องนี้ก็จะค่อย ๆ ถูกลืมไปเอง ผมคิดว่างั้นนะ
"เห้อ... จะย้ำเรื่องนั้นทำไมเนี่ย?"
"ทำไมล่ะ? ก็มันเป็นเรื่องจริงนี่ แต่อย่าไปสนใจเรื่องหยุมหยิมนั่นนักเลย"
เธอเป็นพวกหัวรั้นรึเปล่านะ? คงต้องคอยดูกันต่อไป
"โอเค ๆ แล้วเรียกเราทำไม มีอะไรรึเปล่า"
"ฉันก็แค่... สงสัยว่านายเป็นพวก*สตอล์คเกอร์รึเปล่า"
ห่ะ!? เธอกำลังพูดอะไรเนี่ย
ผม?
สตอล์กเกอร์!?
ถ้าเป็นสำหรับบางครั้งที่ผมกำลังทำตามแผนเพื่อช่วงชิงสาว ๆ ก็อาจจะเรียกผมแบบนั้นได้ แต่กับตอนนี้ไม่ใช่แน่ ๆ ผมยังไม่ได้สะกดรอยตามใครเลย หรือเธอจะหมายถึงผมที่เป็นฝ่ายถูกสะกดรอย?
"เราเนี่ยนะสตอล์กเกอร์? เราไม่ได้สะกดรอยตามใครสักหน่อย เธอไปเอามาจากไหนเนี่ย? "
"ก็นายเอาแต่มองไปที่ด้านหลังของรุ่นพี่คนนั้น แล้วนายก็กำลังรักษาระยะห่างของนายกับรุ่นพี่คนนั้นโดยไม่ให้เธอรู้ตัว นี่ยังไม่ชัดอีกเหรอ?" ใบเตยพูดพร้อมกับชี้ไปที่พี่เอม
แย่ล่ะ... นี่ผมทำอย่างที่เธอพูดจริงเหรอเนี่ย? หรือผมยังกลมกลืนไม่พอ?
"เอ่อ... อ้อ! เธอเป็นรุ่นพี่ที่ชมรมที่เราไปลองเข้าดูเมื่อวานน่ะ"
ไม่มีทางที่ผมจะยอมรับกับสิ่งที่เธอบอกง่าย ๆ อย่างน้อยก็ต้องรีบแก้ตัวไปก่อน ช่วงนี้ชักจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ดูเหมือนผมคงต้องทบทวนตัวเองใหม่อีกครั้งแล้ว
"อ้อเหรอ... แต่คำตอบของนายไม่ได้อธิบายว่าทำไมนายถึงรักษาระยะห่างกับรุ่นพี่คนนั้น? "
"เพราะเราเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยเก่ง... "
"นายเนี่ยนะ? ไม่มีทางหรอกภูมิ นายดูเป็นคนมั่นใจพอตัว นายยืนตัวตรงและเชิดหน้าขึ้น นั่นไม่ใช่ลักษณะของคนที่เข้ากับคนอื่นไม่เก่งเลยสักนิด"
อ-อะไรเนี่ย? ทำไม่ใบเตยน่ากลัวแบบนี้ อ๊ากกก!
เดี๋ยวนะ ผมรู้แล้ว ผู้หญิงคนนี้มีทักษะการสังเกตที่ยอดเยี่ยมทั้งยังเฉลียวฉลาด แค่มองเห็นแวบเดียวเธอก็รู้แล้วว่าผมเป็นยังไงแม้จะยังไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม
แต่ถ้าใบเตยจะฉลาดขนาดนี้ เธอก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าเก่งกล้าหรือแม้แต่เพื่อนชายข้าง ๆ เขาต่างชอบพอเธอ แล้วทำไมเธอถึงยังทำตัวเป็นคู่กัดกับเขาอยู่ล่ะ?
"เธอเห็นเราเป็นงั้นเหรอ? ไม่รู้สินะ เอาเป็นว่ามนุษยสัมพันธ์เราไม่ดีน่าจะตรงตัวกว่า"
"อ่าาา เข้าใจล่ะ ถ้านายจะพูดแบบนั้นล่ะก็ โอเค ลาก่อน"
อะไร้? นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไปทำไมถึงเอาแต่ใจแบบนี้ หรือว่าเธอแค่เหงา? เห้อ... เลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่า
ผมว่าผมพอจะเดาลักษณะนิสัยของใบเตยได้บ้างแล้ว ดูเหมือนเธอจะเป็นประเภทนางเอกแบบสุด ๆ แถมยังไม่ใช่นางเอกธรรมดา แต่เป็นนางเอกหลักในเนื้อเรื่อง**แนวฮาเร็มหรือเรียกง่าย ๆ คือพวกเมียหลวง
ใบเตยนั้นแตกต่างจากหยกอย่างสิ้นเชิง เธอจะไม่มีวันเป็นฝ่ายบอกความรู้สึกของตัวเองและจะรอให้ผู้ชายของเธอเป็นฝ่ายบอกก่อนเท่านั้น ผู้ชายคนอื่นจึงหมดสิทธิ์กับเธอไปโดยปริยาย และนั่นเป็นสาเหตุที่ใบเตยพยายามทำตัวเป็นคู่กัดกับเพื่อนสนิทสมัยเด็กอย่างเก่งกล้า เธอกำลังผลักเขาให้จนมุมโดยการทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองและเข้ามาสารภาพกับเธอก่อน แต่เนื่องจากเธอเป็นพวกเมียหลวง ใบเตยจึงต้องมีทักษะการสังเกตที่ดีเพียงพอที่จะคอยควบคุมสอดส่องสมาชิกฮาเร็มของเก่งกล้าได้ ถ้าเกิดเขามีน่ะนะ...
"โย่ว! ภูมิ!"
หลังใบเตยเดินผ่านผมไป เสียงเติ้ลก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"ถ้านายกำลังจะพูดอะไรเกี่ยวกับใบเตยล่ะก็ ตอนนี้ไม่ต้องแล้วล่ะ" ผมรีบขัด
"อะไรเนี่ย? หมดสนุกเลย"
"ก็เจอมากับตัวแล้ว"
"แล้วเธอดูเป็นไง นายชอบเธอไหมล่ะ? "
"เติ้ล... นายไม่ได้ยินที่เราพูดเหรอ? หรือถ้านายว่างมากก็เอาเวลาไปบอกชอบหยกซะสิ"
แล้วทำไมผมต้องมาช่วยสองคนนี้จีบกันด้วยเนี่ย? ช่วยรีบ ๆ คบกันสักที ผมจะได้เปลี่ยนหยกให้เป็นอีกเป้าหมายของผม
"พูดเป็นเล่นไป อีกอย่างนายก็รู้ว่าหยกมองฉันยังไง"
หืม? นี่ข่าวดีเลยนะเนี่ย ในที่สุดหมอนี่ก็ตระหนักได้ถึงความรู้สึกของตัวเองสักที
"แล้วไง? ไม่ได้หมายความว่านายจะสารภาพไม่ได้นี่ นายชอบหยกไม่ใช่เหรอเติ้ล? "
"ก็คงงั้น แต่เธออาจจะฆ่าฉันก็ได้นะ เมื่อวานนายไม่ได้ยินที่เธอพูดเหรอ?"
หมอนี่มัน... เห้อออ... ผมยังบอกเติ้ลไม่ได้ว่าหยกคิดยังไงกับเขา เธอยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมความกล้าด้วยตัวเอง สำหรับตอนนี้ ผมแค่สะกิดนายเติ้ลนี่นิดหน่อยก็น่าจะเพียงพอ
"ไม่คิดว่านายจะน่าผิดหวังมากขนาดนี้เลยนะ"
"ห๊ะ? นายหมายถึงเรื่องอะไรเนี่ยภูมิ?"
"นายต้องคิดเอาเองแล้วล่ะ"
ผมบอกเขาก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพราะโรงเรียนอยู่ข้างหน้าพวกเราแล้ว
หลังใช้เวลาไม่นานนักผมก็มาถึงอาคารเรียน เสียงตะโกนของเติ้ลยังดังไล่อยู่ข้างหลัง แต่ผมไม่สนใจหรอก ผมไม่ต้องการให้เขาไปสารภาพในทันที แค่เขาเพียงสามารถรู้ความรู้สึกของตัวเองได้ก็พอแล้ว นอกจากนี้หากเติ้ลไปสารภาพกับหยกตอนนี้เข้าจริง ๆ หยกอาจจะตั้งตัวไม่ทันและเกิดฉากฆาตกรรมอย่างที่เติ้ลกลัวก็เป็นได้ แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ผมคงต้องแทรกตัวเข้าตรงกลางระหว่างสองคนนี่เพื่อช่วยพวกเขาจับคู่กัน ผมจึงต้องการฟังรายละเอียดเพิ่มจากฝั่งของหยกก่อน ช่วยเธอดีกว่าช่วยเติ้ลแน่ ๆ
ผมเดินนำหน้าเติ้ลและเข้าไปในห้องเรียนของเรา โชคดีที่ผมยังมาทัน อีกห้านาทีก็จะเริ่มเข้าเรียนแล้ว หากผมไม่หักห้ามใจและทำต่อกับพี่เอมอีกสักครั้ง พวกเราทั้งคู่คงมาสาย
"อ-อรุณสวัสดิ์ ภูมิ" กอหญ้าทักขึ้นขณะผมหย่อนตัวลงนั่ง
"อรุณสวัสดิ์ กอหญ้า ชมรมเป็นอย่างไงบ้าง" ผมถาม
ผู้หญิงคนนี้ยังต้องรวบรวมความกล้าที่จะพูดคุยกับผู้คน ดังนั้นผมจะฝึกเธอโดยใช้ตัวผมเองเป็นคู่สนทนา
"ก-ก็ดีนะ พวกที่ชมรมมีหนังสือตั้งหลายเล่มเลยที่เรายังไม่ได้อ่าน"
"น่าสนุกดีนะ"
"ใช่ แล้วภูมิล่ะ ชมรมวรรณกรรมเป็นยังไงบ้าง?"
"ที่ชมรมให้เราลองเขียนเรื่องสั้น ก็พอแก้เบื่อได้อยู่ แต่เราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเข้าชมรมหรอก"
แน่นอน เพราะสิ่งที่ผมสนใจสำหรับที่นั่นก็คือพี่เอมไม่ใช่ตัวชมรม
"ล-ลองมาชมรมเราไหม"
กอหญ้าพูดติดอ่างอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ค่อยชินกับการพูดคุยเท่าไหร่ แต่เมื่อได้เห็นเธอพยายามอย่างหนักเช่นนี้ ผมก็ยิ่งอยากได้เธอมากขึ้นไปอีก
"ได้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะลองไปที่ชมรมของกอหญ้าดูนะ"
เมื่อได้ยินที่ผมพูด ดวงตาของกอหญ้าก็ทอประกาย
"อ-อื้อ!"
"รู้ไหมภูมิ... นายเนี่ยน่าทึ่งมากเลยนะ"
หยกพูดแทรกขึ้น เธอเฝ้าดูมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ผมไม่รู้ว่าเธอหมายถึงอะไรที่น่าทึ่ง ผมไม่ได้ทำอะไรที่จะใช้คำนั้นเรียกได้เลย หรือจะเป็นเรื่องผมกับสาว ๆ แต่เธอไม่รู้เรื่องนั้นนี่?
"มีอะไรให้ทึ่ง? "
"แถมยังเป็นพวกโง่เง่าด้วย"
อะไรของเธอเนี่ย? ชมเสร็จก็มาว่า
"ฉันหมายความว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นกอหญ้าพูดกับคนอื่นได้นานขนาดนี้ นายถึงได้น่าทึ่งมากไง แต่กลับกัน นายก็เป็นพวกโง่เง่าที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่"
"แต่เราก็แค่คุยกันปกติ?"
"ฮ่า ๆ ฉันยอมแพ้ก็ได้ ไปคุยพวกเดียวกันอย่างเติ้ลต่อเถอะ รับรองว่าพวกนายต้องเข้ากันได้ดีแน่ ๆ"
ผมไม่เข้าใจเลยว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ช่างเถอะ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ
"เอ่อ... อรุณสวัสดิ์ หยก" ผมเปลี่ยนเรื่อง
"ห่ะ? เพิ่งจะนึกออกเหรอไง? โอเค อรุณสวัสดิ์ภูมิ แล้วนายยังจำเรื่องอื่นได้ใช่ไหม?"
"เราจะไม่หลับอีก"
"เยี่ยมมาก"
เติ้ลตามเข้าห้องมาก่อนที่เสียงกริ่งจะดังเพียงไม่นานนัก เขามองมาที่ผมด้วยสีหน้าราวกับเด็กหลงทาง แต่เขาไม่มีเวลาพอที่จะใช้บ่นผมอีกต่อไป เพราะตอนนี้คาบเรียนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
เมื่อครูอารียามาถึง ผมก็ได้รับความสนใจอีกครั้งแทบจะในทันที ทำไมเธอถึงจ้องมาที่ผมตั้งแต่เช้าแบบนี้? หรือผมเผลอทำอะไรผิดอีกรึเปล่า? ครูสาวแสนสวยผู้แต่งงานแล้วกำลังทำให้ผมตกที่นั่งลำบาก
"กันตภณ! อย่าลืมนะ!"
อาาา ครูไม่จำเป็นต้องตะโกนรู้ไหม ครูกำลังเพิ่มความน่าสนใจให้กับผมโดยไม่จำเป็น ผมยังจำได้และก็ยินดีมากด้วย ผมคงต้องบอกเธอทีหลัง ไม่งั้นผมจะกลายเป็นคนที่เด่นที่สุดในห้องแน่
"ค-ครับ!"
ผมตอบอย่างไม่เต็มใจจากที่นั่ง ทั้งหยกและเติ้ลต่างพากันหัวเราะเยาะในชะตากรรมของผม
อาา... ไม่ใช่แค่พวกเขา คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน
เห้อ... ผมไม่ได้ต้องการความสนใจแบบนี้ เมื่อไหร่ผมจะได้กลับไปเป็นเพื่อนร่วมชั้น ก. นะ
"อย่างที่ฉันคิดเลย คุณกันตภณของเราสุดยอดมาก คุณไปทำอะไรมาคะ วันนี้ครูถึงยังโกรธอยู่"
"เพื่อน! นี่นายเล่นควบทั้งที่หนึ่งและที่สองของการแข่ง 'ใครจะถูกเรียกเข้าห้องพักครูตั้งแต่มอสี่' เลยงั้นเหรอเนี่ย"
แม้แต่หัวหน้าห้องอย่างพลอยผู้จริงจังอยู่เสมอก็ยังหัวเราะคิกคักอยู่ที่ที่นั่งของเธอ มันตลกขนาดนั้นเลยเหรอ?
ผมยังเห็นใบเตยมองมาที่ผมด้วยสายตาเป็นประกายคู่นั้นของเธออีกครั้ง แม้แต่ตอนนี้ใบเตยก็ยังคงไม่ละสายตาไปจากผม นี่ผมไปทำอะไรถึงได้ดึงดูดความสนใจจากเธอแบบนี้กันนะ? หากวันใดผมเกิดเผลอตัวเธออาจจะรู้ได้ว่าผมกำลังแอบทำอะไรอยู่ หรือว่าผมควรจะ...?
อา... เธอยังไม่อยู่ในเงื่อนไขของผม และออกจะลำบากอยู่สักหน่อยที่จะจัดการกับผู้หญิงประเภทเธอ ผมต้องมีแผนดี ๆ ก่อน
"หัวเราะทำไม หรืออยากไปเที่ยวห้องพักครูเป็นเพื่อนกัณตภณ?"
เสียงสั่งการของครูอารียาดังขึ้นอีกครั้ง พวกที่หัวเราะหุบปากทันที
หลังจากนั้นคาบเรียนอย่างเป็นทางการก็เริ่มขึ้น อย่างน้อยครูอารียาก็ไม่เพ่งเล็งผมอีก นั่นทำให้ความสนใจที่ผมกำลังได้รับลดลง
ผ่านไปไม่นานพักเที่ยงก็มาถึง
ตามปกติแล้ว ผมจะไปที่โรงอาหารเพื่อซื้อของกินเป็นอันดับแรก แต่ครูอารียาเองก็อาจจะกำลังทานมื้อเที่ยงอยู่เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่เป็นไรที่ผมจะไปหาเธอเวลาเดียวกันกับเมื่อวาน
สำหรับตอนนี้... ได้เวลาที่ผมจะสำรวจหาอะไรใหม่ ๆ แล้ว
*สตอล์คเกอร์ - คนที่ติดตามคนอื่นแบบที่คนปกติไม่ทำกัน และจะติดตามถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ต้องการก็ตาม
**ฮาเร็ม - เนื้อเรื่องแบบที่มีตัวละครหลักเป็นผู้หญิงหลายๆ คน แต่ตัวละครหลักที่เป็นผู้ชายจะมีน้อยคน หรือมีเพียงคนเดียว
ลองดัดแปลงเนื้อหาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมา
ดัดแปลง เนื้อเรื่อง เอาจากแก่นต้นฉบับ แล้วเสริมเปลือกตัดแต่งกิ่ง จะดีกว่าไหมครับ เพร่าะต้น ฉบับยังไม่จบ ไม่รู้จะอีกนานไหม
แต่ถ้าไรท์เอามาแต่งเสริม วันใด ไรท์หมด แรงบันดาลใจแต่งเขียนแปลเรื่องนี้ ต่อ ไรทํยังสามารถตัด จบแต่งต้อนจบได้ด้วย
เพื่อความปลอดภัยควรรอคำตอบเป็นลายลักษ์อักษรอักษรดีกว่า
เพื่อตัดปัญหา เห็นควรหยุดครับ เพราะถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์เปลี่ยนใจเอาเรื่อง จะเสี่ยงถูกฟ้องร้องครับ