"ประกายไฟในแววตาเพียงครั้งแรกที่สบ... อาจจุดชนวนสงครามรัก... หรือการต่อสู้ที่คาดไม่ถึง"
สายตาคมกริบของนนท์ จับจ้องไปยังร่างสูงของรุ่นพี่เพลย์บอยที่ชื่อไท อย่างไม่วางตา พลังงานไสยเวทย์จางๆ ที่แผ่ออกมาจากตัวหมอนั่น... มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ แม้จะยังอ่อนและไม่เข้มข้นเท่าพวกนักไสยเวทย์สายดำที่เขาเคยรับมือ แต่ก็ชัดเจนพอที่จะบอกว่าไอ้หมอนี่มีของ และดูเหมือนว่าของ ชิ้นนั้นจะเกี่ยวข้องกับเสน่ห์เมตตา หรือการดึงดูดใจ... เพราะมันพุ่งเป้าไปทางสองพี่น้องดาวเด่นที่ยืนอยู่ไม่ไกล... แพรวกับแพร
น่าสนใจ... ไม่นึกว่าแค่มหาวิทยาลัยธรรมดาๆ จะมีคนเล่นคุณไสยกันโจ่งแจ้งขนาดนี้... หรือว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ? อาจารย์คมคิดในใจ พลางเก็บงำรังสีอำมหิตของตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเฟรชชี่ใสซื่อ เขาหันกลับมาให้ความสนใจกับกิจกรรมตรงหน้า แต่ประสาทสัมผัสส่วนหนึ่งยังคงจับจ้องไปที่พี่ไทและพลังงานลึกลับนั่น
กิจกรรมปฐมนิเทศดำเนินต่อไป รุ่นพี่พาเดินชมสถานที่ แนะนำชมรมต่างๆ และมีเกมสันทนาการเล็กๆ น้อยๆ ให้เล่นเพื่อละลายพฤติกรรม นนท์พยายามทำตัวให้กลมกลืน ร่วมกิจกรรมบ้างตามสมควร ตอบคำถามเพื่อนใหม่ด้วยท่าทีสบายๆ แต่ในใจกำลังประเมินสถานการณ์รอบตัวอย่างรวดเร็ว
เขาต้องระวังตัวจากศัตรูเก่า... ต้องรับมือกับความลับของนนท์คนเดิม... และตอนนี้ดูเหมือนจะต้องจับตาดูไอ้รุ่นพี่เล่นของคนนี้อีกด้วย... ชีวิตใหม่นี่มันช่าง... วุ่นวายกว่าที่คิดไว้เยอะ
แพร หรือ แพรวา กำลังยืนฟังรุ่นพี่อธิบายเรื่องการลงทะเบียนเรียนด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายนิดๆ จริงๆ เธอก็พอจะรู้ข้อมูลพวกนี้มาบ้างแล้วจากพี่แพรว พี่สาวคนสวยของเธอ แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นตั้งใจฟังตามมารยาท
"ผู้ชายคนนั้นน่ะ..." เสียงกระซิบจาก น้ำตาล เพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ ดังขึ้น พร้อมกับศอกที่สะกิดแขนเธอเบาๆ
"ใคร?" แพรหันไปถามงงๆ
"ก็คนที่ยืนอยู่ตรงแถวหลังกลุ่มเราไง ตัวสูงๆ ขาวๆ ที่หน้าตาดีๆ น่ะ เห็นมองมาทางพวกเราหลายทีแล้วนะ" น้ำตาลชี้เป้าให้
แพรหรี่ตามองตาม... อ่า... คนนั้นเอง... นนทวัฒน์... เด็กใหม่คณะวิศวะฯ ที่หน้าตาโดดเด่นสะดุดตาคนนั้น เธอก็สังเกตเห็นเขาตั้งแต่ตอนลงทะเบียนแล้วเหมือนกัน เขามีบางอย่างที่ดู... แตกต่างจากเฟรชชี่คนอื่นๆ... ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่เป็นแววตา... แววตาของเขาดูนิ่ง ลึก และ... เหมือนกำลังคิดอะไรซับซ้อนอยู่ตลอดเวลา ไม่เหมือนแววตาสนุกสนานหรือตื่นเต้นของเด็กปีหนึ่งทั่วไป
"อ๋อ... เห็นแล้ว ทำไมเหรอ?" แพรตอบ พยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด
"หล่อเนอะแก... ดูดีชะมัด แถมยังดูนิ่งๆ ขรึมๆ น่าค้นหาอีกต่างหาก" น้ำตาลทำตาเป็นประกาย "ฉันว่าต้องมีสาวๆ สนใจตรึมแน่ๆ"
แพรย่นจมูกนิดๆ "ก็งั้นๆ แหละ ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย" เธอพูดปัดไป แต่ในใจก็อดเห็นด้วยกับเพื่อนไม่ได้... ผู้ชายคนนี้มีแรงดึงดูดแปลกๆ จริงๆ นั่นแหละ โดยเฉพาะสายตาคู่นั้น... ตอนที่เขามองมาทางเธอกับพี่แพรวเมื่อกี๊... มันทำให้เธอรู้สึก... ใจสั่น... อย่างบอกไม่ถูก
"แหม... ปากแข็งนะยะ" น้ำตาลแซว "แต่ระวังไว้นะยะ ดาวคณะอย่างแกน่ะ คู่แข่งเยอะ"
"ย่ะ!" แพรค้อนเพื่อนไปวงหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจกิจกรรมตรงหน้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลอบชำเลืองมองไปยังนนทวัฒน์ คนนั้นอีกครั้ง... เขาจะเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาจีบเธอหรือเปล่านะ? หรือว่าเขาจะมีอะไร... ที่พิเศษกว่านั้น?
แพรว หรือ แพรวพรรณราย กำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนๆ และรุ่นน้องที่เข้ามาทักทายตามประสาดาว ของมหาวิทยาลัย เธอโปรยยิ้มหวานและตอบคำถามอย่างคล่องแคล่วสมกับเป็นรุ่นพี่ปีสี่ที่เจนเวที แต่ในใจก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับพิธีการที่ซ้ำซากจำเจนี้เต็มที
สายตาของเธอกวาดมองไปรอบๆ อย่างไม่ตั้งใจนัก จนกระทั่งไปสะดุดเข้ากับ... เด็กหนุ่มคนหนึ่ง... ที่ยืนอยู่ในกลุ่มเฟรชชี่วิศวะฯ
เขามีบางอย่างที่ดึงดูดสายตา... ไม่ใช่แค่หน้าตาที่จัดว่าหล่อเหลาโดดเด่น แต่เป็นบุคลิกท่าทาง... เขายืนนิ่งๆ สุขุม ไม่ได้ตื่นเต้นหรือแสดงท่าทีประหม่าเหมือนเด็กปีหนึ่งคนอื่นๆ แววตาของเขา... คมกริบและดูลึกซึ้งอย่างน่าประหลาด... ราวกับว่าเคยผ่านอะไรมามากมาย
ใครกันนะ? ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน... แพรวคิดในใจ เธอรู้จักคนในมหาวิทยาลัยนี้ค่อนข้างเยอะ แต่เด็กหนุ่มคนนี้... เธอไม่คุ้นเลยจริงๆ
แล้วเธอก็เห็นน้องสาวตัวดีของเธอแพร กับเพื่อนสนิท กำลังลอบมองไปทางเด็กหนุ่มคนนั้นแล้วซุบซิบกัน... แพรวขมวดคิ้วเล็กน้อย... ยัยแพรคงจะสนใจเด็กคนนั้นเข้าแล้วสินะ... แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เด็กหนุ่มคนนี้มีแรงดึงดูดบางอย่างที่แม้แต่เธอเองก็ยังรู้สึกได้... มันเป็นความรู้สึกที่... คุ้นเคย... เหมือนเคยเจอคนที่คล้ายๆ แบบนี้มาก่อน... แต่ก็นึกไม่ออกว่าใคร
ขณะที่กำลังครุ่นคิด สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกล... ไท... ทิวากร... รุ่นน้องเพลย์บอยตัวร้ายที่ตามตื๊อเธออยู่พักใหญ่ แต่เธอไม่เคยเล่นด้วยสักที วันนี้เขาก็มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้เหมือนเคย แถมสายตายังมองมาทางเธอกับน้องสาวอย่างไม่ปิดบัง... แพรวถอนหายใจเบาๆ รู้สึกรำคาญและระแวงขึ้นมาทันที... เธอไม่ชอบพลังงานรอบตัวผู้ชายคนนี้เลย มันดู... ไม่น่าไว้วางใจ... และเหมือนมีอะไรบางอย่างเคลือบแฝงอยู่
เธอต้องเตือนยัยแพรให้ระวังตัวจากผู้ชายคนนี้... และบางที... อาจจะต้องคอยจับตาดูเด็กหนุ่มวิศวะฯ คนนั้นด้วย... ไม่รู้ทำไม แต่สัญชาตญาณมันบอกว่าเขาอาจจะนำเรื่องวุ่นวายมาให้... หรืออาจจะเป็น... อะไรที่น่าสนใจมากๆ ก็ได้
กิจกรรมช่วงเช้าดำเนินต่อไปจนถึงช่วงพักกลางวัน นักศึกษาใหม่ต่างแยกย้ายกันไปหาอะไรกิน หรือเดินสำรวจมหาวิทยาลัยเพิ่มเติม นนท์ กำลังจะเดินไปหาโรงอาหาร แต่ก็ถูกเพื่อนใหม่ในกลุ่มลากให้ไปนั่งรวมกันที่โต๊ะใต้ตึกคณะ
"เฮ้ย นนท์ มานั่งนี่ดิ" เสียงตะโกนเรียกดังขึ้น
นนท์หันไปมอง จำใจต้องเดินไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ ตามมารยาท บทสนทนาส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นเรื่องทั่วไป เรื่องการลงทะเบียน เรื่องอาจารย์ เรื่องชมรม... นนท์พยายามมีส่วนร่วมบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะนั่งฟังเงียบๆ สังเกตการณ์ไปเรื่อย
แล้วกลุ่มของพี่ไทก็เดินผ่านมาพอดี... ไทเดินนำหน้า ตามด้วยเพื่อนผู้ชายอีกสองสามคน และแน่นอน... มี จีน่า สาวลูกครึ่งผมบลอนด์เดินคลอเคลียอยู่ข้างๆ ด้วย ท่าทางดูอิดโรยเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความเปรี้ยวไว้ได้
"อ้าว น้องๆ วิศวะฯ นั่งทำไรกันอยู่ตรงนี้ล่ะ?" พี่ไททักทายด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นกันเอง แต่แววตาไม่ได้เป็นมิตรเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อมองมาทางนนท์
"สวัสดีครับพี่ไท" เพื่อนใหม่คนหนึ่งยกมือไหว้ "นั่งคุยกันรอเวลาเข้ากิจกรรมช่วงบ่ายครับ"
"เหรอๆ ดีๆ ทำความรู้จักกันไว้เยอะๆ" พี่ไทพูดพลางกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะหันไปทางจีน่า "จีน่า ไปหาอะไรเย็นๆ กินกันดีกว่า พี่ร้อน"
"ค่ะพี่ไท" จีน่าตอบรับเสียงหวาน แต่ก่อนจะเดินไป เธอก็เหลือบมาสบตากับนนท์แวบหนึ่ง... แววตาที่ดูเหมือนจะมีความหมายบางอย่าง... หรือนนท์แค่คิดไปเอง?
ขณะที่กลุ่มพี่ไทกำลังจะเดินผ่านไปนั้นเอง แพรกับน้ำตาลก็เดินถือแก้วน้ำผ่านมาพอดี
"อ้าว แพร มาหาไรกินเหรอ?" พี่ไทรีบเปลี่ยนเป้าหมายทันที หันไปทักทายน้องสาวดาวคณะด้วยรอยยิ้มที่ดูเสแสร้ง "มานั่งกับพวกพี่ก่อนไหม?"
"เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะพี่ไท พอดีแพรจะรีบไปทำธุระต่อ" แพรตอบอย่างสุภาพแต่ก็เว้นระยะห่างอย่างเห็นได้ชัด
"ธุระอะไรสำคัญกว่าการนั่งคุยกับพี่เหรอครับ?" พี่ไททำเสียงอ้อน แต่สายตากลับเหลือบมองมาทางนนท์ที่นั่งเงียบอยู่... เหมือนต้องการจะข่มกลายๆ
นนท์ยังคงนั่งนิ่ง ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร แต่เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานอาคมจางๆ ที่แผ่ออกมาจากตัวพี่ไทอีกครั้ง... คราวนี้มันดูเหมือนจะเข้มขึ้นเล็กน้อย และมีความมุ่งร้ายแฝงอยู่... เหมือนเป็นการลองของ หรือส่งคำเตือน มาที่เขา
ไอ้เด็กเมื่อวานซืน... คิดจะเล่นสงครามประสาทกับข้างั้นรึ? อาจารย์คมคิดในใจ ยกยิ้มมุมปากอย่างไม่เกรงกลัว เขาสบตาพี่ไทตรงๆ แววตาที่เคยเก็บงำไว้ถูกปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย... ความคมกล้า ความเหนือกว่า และอำนาจลึกลับที่สั่งสมมานานหลายสิบปี...
พี่ไทชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสบเข้ากับแววตาคู่นั้น... แววตาที่ไม่น่าจะใช่ของเด็กปีหนึ่งธรรมดา... เขารู้สึกเหมือนโดนมองทะลุไปถึงข้างใน... และพลังงานบางอย่างที่เขาส่งออกไปก็เหมือนจะถูกสะท้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว!
"เอ่อ... งั้นไม่กวนดีกว่า" พี่ไทรีบเปลี่ยนท่าที หันกลับไปหาจีน่า "ไปกันเถอะจีน่า" แล้วก็รีบเดินนำลิ่วจากไปทันที ทิ้งให้คนอื่นๆ งงเล็กน้อยกับท่าทีที่เปลี่ยนไป
แพรกับน้ำตาลมองตามไปอย่างงงๆ ก่อนจะหันมามองทางนนท์... แพรสบตากับนนท์พอดี... และเธอก็รู้สึกถึงประกายไฟบางอย่างในแววตาคู่นั้นอีกครั้ง... มันทั้งน่ากลัวและน่าดึงดูดในเวลาเดียวกัน
นนท์เพียงแค่ยิ้มบางๆ ให้ ก่อนจะหันกลับไปสนใจบทสนทนาของเพื่อนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจเขารู้แล้วว่า... สงครามระหว่างเขากับพี่ไท ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว... และมันคงไม่ใช่แค่เรื่องแย่งผู้หญิงธรรมดาๆ แน่นอน
หลังจากกิจกรรมปฐมนิเทศอันน่าเบื่อหน่ายสิ้นสุดลงในช่วงเย็น ไทก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ลึกๆ ไอ้เด็กปีหนึ่งหน้าจืดที่ชื่อนนท์นั่นมันเป็นใครกันแน่? แววตาแบบนั้น... มันไม่ธรรมดา... แถมยังกล้ามาทำเมินใส่เขาต่อหน้าสาวๆ อีก! ที่สำคัญ... แพรกับแพรวดูจะสนใจมันไม่น้อยเลยด้วย!
"หงุดหงิดโว้ย!" ไทสบถออกมาเบาๆ ขณะขับรถสปอร์ตคันหรูออกมาจากมหาวิทยาลัย โดยมีจีน่านั่งอยู่ข้างๆ
"เป็นอะไรคะพี่ไท? ดูอารมณ์ไม่ดีเลย" จีน่าถามพลางลูบแขนเขาเบาๆ อย่างเอาใจ
"หงุดหงิดไอ้เด็กปีหนึ่งนั่นน่ะสิ!" ไทพูดอย่างหัวเสีย "หน้าตาก็ธรรมดา แต่ทำมาเป็นเก๊กขรึม วางมาด... เดี๋ยวพ่อจะเล่นให้ยับเลย!"
"ใจเย็นๆ สิคะพี่ไท เด็กปีหนึ่งเอง จะไปสู้รังสีเพลย์บอยตัวพ่ออย่างพี่ไทได้ยังไง" จีน่าพยายามปลอบ แต่ในใจก็แอบนึกถึงแววตาคมกริบคู่นั้นของนนท์... ผู้ชายคนนั้นดูไม่ธรรมดาจริงๆ นั่นแหละ
"หึ!" ไทแค่นเสียง "มันอาจจะไม่ธรรมดาจริงๆ ก็ได้... แต่เจอของดี ของพี่เข้าไป เดี๋ยวก็รู้!" เขานึกถึงเครื่องรางชิ้นใหม่ที่พ่อเพิ่งส่งมาให้... เป็นตะกรุดสายเสน่ห์ที่แรงกว่าเดิมหลายเท่า พ่อบอกว่าปลุกเสกโดยอาจารย์สายเขมรชื่อดัง รับรองว่าสาวไหนโดนเข้าไปต้องหลงหัวปักหัวปำแน่นอน
"แล้วนี่... เราจะไปไหนกันต่อคะ?" จีน่าเปลี่ยนเรื่อง ถามเสียงอ้อน
ไทเหลือบมองสาวลูกครึ่งข้างๆ ความหงุดหงิดเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง... ไอ้ที่ระบายไปในห้องน้ำตอนกลางวันมันยังไม่สะใจพอ... คืนนี้เขาต้องเอาคืน ให้สาสม!
"ไปคอนโดพี่ดีกว่า... มีบทเรียน ใหม่ๆ อยากจะสอนจีน่าพอดี" ไทพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เหยียบคันเร่งพารถสปอร์ตพุ่งทะยานไปยังคอนโดหรูริมแม่น้ำของเขาทันที
...
เมื่อมาถึงห้องเพนท์เฮาส์สุดหรู ไทก็ไม่รอช้า เขาคว้าเอวบางของจีน่าเข้ามาบดจูบอย่างรุนแรงและหิวกระหาย เสื้อผ้าถูกฉีกกระชากออกอย่างไม่ปรานี ทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นห้องนั่งเล่น
"อื้อ... พี่ไท... ใจเย็นๆ สิคะ..." จีน่าร้องประท้วง แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนจริงจังนัก เธอก็ต้องการปลดปล่อยความต้องการไม่แพ้กัน
ไทอุ้มร่างเปลือยเปล่าของจีน่าพาดบ่า เดินตรงไปยังห้องนอน ทุ่มร่างนั้นลงบนเตียงคิงไซส์อย่างแรง ก่อนจะตามขึ้นไปคร่อมทับอย่างรวดเร็ว
บทรักครั้งนี้แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง มันไม่ได้เน้นความเร่งรีบในที่ลับตาคน แต่เน้นความดุดัน รุนแรง และการแสดงความเป็นเจ้าของ ไทต้องการระบายความหงุดหงิดและความรู้สึกเสียหน้าที่เกิดขึ้นในวันนี้ลงบนร่างของจีน่า
เขากัดเม้มสร้างรอยสีกุหลาบไว้ทั่วแผ่นอกและลำคอขาวผ่อง บีบเคล้นทรวงอกอวบอิ่มอย่างแรงจนจีน่าร้องซี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปนเสียวซ่าน มือไม้ลูบไล้ไปทั่วร่างอย่างจาบจ้วง ก่อนจะสอดใส่นิ้วเข้าไปในช่องทางรักที่เริ่มฉ่ำเยิ้มอย่างไม่รอช้า
"อ๊ะ! พี่ไท... เบาๆ หน่อย..." จีน่าครางเสียงสั่น แต่ไทไม่สนใจ เขายังคงขยับนิ้วเข้าออกอย่างรวดเร็วและรุนแรง มองใบหน้าที่เหยเกด้วยความพึงพอใจ
เมื่อเห็นว่าจีน่าพร้อมแล้ว เขาก็สอดใส่แก่นกายใหญ่โตของตัวเองเข้าไปทันทีโดยไม่มีการเล้าโลมใดๆ เพิ่มเติม
"โอ๊ย!" จีน่าร้องเสียงหลง รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นแปลบเข้ามา แต่ไทก็เริ่มกระแทกกระทั้นเข้าใส่ทันทีอย่างไม่ปรานี
เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง เสียงครางด้วยความเจ็บปนสุขสมของจีน่าดังไม่ขาดสาย ไทกระหน่ำจังหวะรักอย่างบ้าคลั่ง ระบายอารมณ์ที่คั่งค้างออกมาจนหมดสิ้น เขารู้สึกถึงพลังบางอย่างที่พลุ่งพล่านในตัว... อาจจะเป็นเพราะตะกรุดใหม่ที่พกติดตัว หรืออาจจะเป็นเพราะความพึงพอใจที่ได้ควบคุม และครอบครอง
เขาเปลี่ยนท่วงท่าไปเรื่อยๆ จากท่าปกติเป็นท่าพลิกคว่ำ ให้จีน่าอยู่ในท่าคลานสี่ขา แล้วกระแทกจากด้านหลังอย่างหนักหน่วงและรุนแรง จนร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัว
"พี่ไท... จะ... จีน่าจะเสร็จ... อ๊าาา!"
ไทเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีก รู้สึกถึงเส้นชัยที่ใกล้เข้ามาเช่นกัน เขาคำรามออกมาเสียงดัง ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นเข้าไปในร่างของจีน่าจนหมดสิ้น พร้อมๆ กับที่จีน่ากรีดร้องออกมาสุดเสียงและหมดแรงฟุบลงกับเตียงนอน
ไทถอนกายออกมา หอบหายใจอย่างหนักหน่วง แต่รู้สึก... โล่ง... และทรงพลังอย่างบอกไม่ถูก เขามองร่างเปลือยเปล่าที่นอนหอบหายใจรวยรินของจีน่าด้วยแววตาที่เย็นชาลงเล็กน้อย... ผู้หญิงก็เป็นได้แค่เครื่องระบายความใคร่และเครื่องมือเสริมบารมีเท่านั้นแหละ...
พรุ่งนี้... จะลองตะกรุดใหม่กับยัยแพรดูสักหน่อย... ส่วนไอ้นนท์หน้าจืดนั่น... เดี๋ยวค่อยหาทางจัดการทีหลัง! ไทคิดในใจอย่างหมายมาด ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ จีน่า ดึงร่างนั้นเข้ามากอดไว้หลวมๆ รอเวลาสำหรับรอบต่อไป
ค่ำคืนนั้น นนท์ กลับมาถึงคอนโดด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า... ไม่ใช่ทางกาย แต่เป็นทางใจ การต้องสวมบทบาทเป็นเด็กหนุ่มตลอดทั้งวัน การต้องระแวดระวังภัยรอบตัว และการรับรู้ถึงภัยคุกคามใหม่ๆ มันทำให้เขารู้สึกเครียดกว่าที่คิด
เขาอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง พยายามทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้... การได้เจอพี่แพรวกับแพร... การปะทะคารมทางสายตา กับพี่ไท... และพลังงานไสยเวทย์ที่สัมผัสได้...
ชัดเจนแล้วว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มันไม่ใช่แค่การเรียนและการใช้ชีวิตวัยรุ่นธรรมดาๆ มันมีเรื่องของอำนาจ เรื่องของผลประโยชน์ และเรื่องของไสยเวทย์เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน... และเขาที่อยู่ในร่างใหม่ที่พลังยังไม่สมบูรณ์ ก็ตกอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบอย่างยิ่ง
ต้องรีบหาทางเพิ่มพลัง... เขาคิดในใจ ต้องหาแหล่งพลังงาน เพิ่ม... โดยเร็วที่สุด...
ความคิดนั้นทำให้ใบหน้าของพยาบาลสาวทั้งสองคนแวบเข้ามาในหัว... พลังงานที่ได้จากพวกเธอช่วยฟื้นฟูอาคมของเขาได้จริงๆ... แต่เขาจะทำแบบนั้นซ้ำๆ ได้หรือ? มันถูกต้องแล้วหรือ?
แล้วมิ้นท์ล่ะ? เด็กสาวที่ดูเหมือนจะมีใจให้เขา... เขาจะใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของเธอเพื่อพลังของตัวเองได้ลงคอหรือ?
อาจารย์คมหลับตาลง รู้สึกถึงความขัดแย้งในใจที่เริ่มก่อตัวขึ้น... การเอาชีวิตรอด... กับคุณธรรม... บางทีในโลกใบใหม่นี้ เขาอาจจะต้องเลือก... หรืออาจจะต้องหาทางที่มัน... ชั่วร้ายน้อยที่สุด...
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนข้อความจากแอปพลิเคชันไลน์ดังขึ้น เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู... เป็นข้อความจากมิ้นท์...
"นนท์ ถึงบ้านยัง? วันนี้เหนื่อยไหม? พรุ่งนี้เจอกันนะ ^^"
นนท์มองข้อความนั้นนิ่งๆ... พรุ่งนี้... เขาจะได้เจอมิ้นท์อีกครั้ง... และอาจจะได้เจอ... สาวๆ คนอื่นๆ ด้วย...
บางที... โอกาสในการชาร์จพลัง อาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คิดก็ได้...
อ่านตอนต่อไปได้ที่https://www.readawrite.com/a/fb34101364e5b1cb876ea904f8177793 (https://www.readawrite.com/a/fb34101364e5b1cb876ea904f8177793)
"ประกายไฟในแววตาเพียงครั้งแรกที่สบ... อาจจุดชนวนสงครามรัก... หรือการต่อสู้ที่คาดไม่ถึง"
แค่แวบแรกที่มองอาจสับสนแต่ถ้ามองอีกหนอาจติดใจนนท์จะเก็บตัวตนในจิตวิญญานอ.คมได้อีกนานแค่ไหนนะอิทธิพลและพลังอำนาจมืดของไสยเวทสายเขมรที่ต้องพบเจอนนท์คงหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจะมีสาวๆคนไหนมาเติมพลังงานให้บ้างนะ
ดูท่าอาจารย์จะเก็บซ่อนคมได้ไม่นาน ศัตรูอาจตามมาเจอก่อนฟื้นฟูพลังได้ รอบก่อบก็แทบไม่รอด ต้องรีบเก็บแต้ม เอ๊ย สะสมพลังครับ