ฝากนิยายเรื่องใหม่ครับ ไปอ่านเจอแล้วสนุปดีเลยหยิบมาแปล เรื่องนี้ไม่ใช่แฟนฟิกไม่น่าจะมีกลุ่มลับ เอาไว้แปลแก้ขัดแนวจีนโบราณบ้าง สามารถไปอ่านได้บนเว็บในลิ้งใต้คอมเม้นได้เลย----------------------------------
เรื่อง : ท่านบรรพบุรุษสุดไร้เทียมทานของผม ไม่มีทางพ่ายแพ้ต่อพวก DARK WEB หรอกนะ [NTR]
เรื่องย่อ : เรื่องราวของ 'มู่อวี่' ทายาทที่ต้องดูแลท่านบรรพบุรุษโลลิผมขาวผู้มีพลังมหาศาลซึ่งปรากฏตัวอย่างกระทันหัน 'มู่ไฉ่เหมิง'
ทั้งสองเริ่มใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่แล้ววันหนึ่งท่านบรรพบุรุษเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ เธอออกไปเที่ยวบ่อยครั้ง และมู่อวี่ก็ได้พบเว็บไซต์ลึกลับที่เต็มไปด้วยรูปภาพและวิดีโอของเด็กหญิงผมขาวที่คล้ายท่านบรรพบุรุษในสถานการณ์ล่อแหลมกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เรียกตัวเองว่า "คนเถื่อน"
มู่อวี่ต้องเผชิญกับความสับสน ความหึงหวง และความตื่นเต้นอย่างประหลาด ขณะที่พยายามทำความเข้าใจความจริงเบื้องหลังพฤติกรรมของท่านบรรพบุรุษ และความรู้สึกที่ซับซ้อนของตนเองที่มีต่อท่านบรรพบุรุษ
ความผูกพันที่ค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นระหว่างทั้งสอง ทำให้มู่อวี่ตัดสินใจที่จะเชื่อมั่นในตัวท่านบรรพบุรุษ แม้ว่าจะมีคลิบฉาวที่น่าตกใจปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม ท่ามกลางเกมการ "พิชิต" ที่อันตรายและน่าตื่นเต้น ความรักและความภักดีของเขาที่มีต่อท่านบรรพบุรุษจะนำพาพวกเขาไปสู่บทสรุปเช่นไร?------------
(https://attachments.xonly8.com/images/4aff20c38edfc3b156fcf03df529e105886af92c.jpg)
สามารถอ่านได้ที่
[/size][/color]
FICTIONLOG
[/size]
https://fictionlog.co/b/682ab8382be6d9001ca383a8 (https://fictionlog.co/b/682ab8382be6d9001ca383a8)
[/size]
READAWRITE
[/size]
https://www.readawrite.com/a/abe6175a785e68302ea30f6f9604a916 (https://www.readawrite.com/a/abe6175a785e68302ea30f6f9604a916)
[/size]
--------------------------------------------------------
บทที่ 1 แรกพบกับท่านบรรพบุรุษ
ผมชื่อว่า... มู่อวี่ เป็นเด็กกำพร้าที่ใครๆ ก็บอกว่าโคตรจะโดดเด่น ตอนเรียนน่ะเหรอ? ทั้งเรียนเก่ง มารยาทงาม ผลการเรียนก็ท็อปคลาส สอบเข้ามหา'ลัยดีๆ ได้แบบชิลๆ
...
แต่พอเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ ไหงกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ กลัวสังคม แถมยังเป็นโอตาคุตัวยง หางานก็ไม่ได้ ได้แต่กินๆ นอนๆ รอวันลาโลกไปวันๆ
ถ้าไม่ติดว่าเป็นแบบนี้นะ ชีวิตผมคงจะเพอร์เฟกต์สุดๆ ไปแล้ว... มั้งนะ...
「ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตฉันมันจบเห่แน่ๆ!」
ผมนั่งเล่นเกมข้ามคืนอีกตามเคย จู่ๆ ความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามา ผมเลยหยิบเครื่องดื่มเย็นๆ มาพิงขอบหน้าต่างที่เปิดอ้าซ่า จิบไปมองบรรยากาศข้างนอกไปอย่างปล่อยอารมณ์
ลมเย็นๆ พัดโชยมาเบาๆ
ใจกลางเมืองที่อยู่ลิบๆ โน่น แม้จะย่ำรุ่งแล้วก็ยังคงมีแสงไฟสลัวๆ ผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเริงร่าปาร์ตี้กันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ทว่าทั้งหมดนั่นมันไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด
อันที่จริงแล้ว ผมออกจะเกลียดชีวิตที่อึกทึกครึกโครมแล้วก็เหลาะแหละแบบนั้นสุดๆ ไปเลยต่างหาก
「เจ้าคือทายาทเพียงคนเดียวของข้างั้นรึ? ดูท่าทางไม่ได้เรื่องเลยนี่นา... แต่ว่า... เหมือนท่านพี่จริงๆ... หน้าตาคล้ายกันมาก...」
ขณะที่ผมกำลังปล่อยใจให้ล่องลอยอยู่ในภวังค์ จู่ๆ ก็มีเสียงเย็นชาแต่แฝงความเยาว์วัยดังแว่วเข้ามาในหู
ผมเงยหน้าขึ้นมอง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นี่ นี่ นี่... หรือว่าผมหลุดเข้ามาในโลกสองมิติไปแล้วฟะเนี่ย!?
ริมฝีปากแดงระเรื่อดุจไข่มุกงามน่าจุมพิต ดวงหน้างดงามหมดจดไร้ที่ติ ขนตางอนยาวราวปีกผีเสื้อกระพือไหว ใบหน้าบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับน้ำนมชั้นเลิศ
ปรากฏร่างเด็กหญิงตัวเล็กจิ๋วในชุดนักพรตสีขาวหลวมโพรก สองแขนเล็กๆ กอดอก ดวงตาคู่สวยที่มองมายังผมแฝงแววหยิ่งทะนงแบบเด็กๆ ผมสีขาวส่องประกายสีเงินวาววับ งดงามราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบไร้ตำหนิ โลลิตัวน้อยผมขาวสุดคาวาอี้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าผม!
ผมอายุยี่สิบกว่าปีมานี่ สาบานได้ว่าไม่เคยเห็นเด็กสาวคนไหนสวยเท่านี้มาก่อน! ไม่สิ! ต้องเรียกว่าโลลิ!
แต่คำพูดของโลลิแสนสวยคนนี้ มันช่างฟังดูพิลึกกึกกือชอบกล
「ทายาท?」 ผมมองดูยัยหนูที่เหมือนเด็กน้อยพยายามสวมชุดผู้ใหญ่ คือมันไม่พอดีตัวเลยสักนิด เสื้อคลุมนักพรตนี่ห้อยต่องแต่ง ดูยังไงๆ ผมก็ว่าเธออายุไม่น่าจะเกินสิบสามปีด้วยซ้ำ
「เดี๋ยวก่อนนะ! ที่นี่มันชั้นสิบสามเลยนะ! เธอเป็นใครกันแน่! ทำไม... ทำไมถึง...」
ทันใดนั้นผมก็นึกถึงเรื่องที่มันประหลาดพิสดารที่สุดขึ้นมาได้ ต่อให้สวยหยาดเยิ้มหยดย้อยปานเธอฟ้าจุติ เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้วก็เทียบไม่ติดเลยสักนิด เขาเห็นอะไรน่ะเหรอ?
กลางดึกสงัดแบบนี้ ผมเห็นโลลิผมขาวสุดน่ารักคนหนึ่งกำลังลอยเท้งเต้งอยู่กลางอากาศ สูงเท่าตึกสิบสามชั้น แถมยังพูดจาแปลกๆ อีกต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะมั่นใจว่าตัวเองยังตื่นเต็มตาอยู่ล่ะก็ ผมคงคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไปแล้วแหงๆ
「ข้าพูดถึงเจ้าอย่างไรเล่า ทายาทของข้า! บิดาของเจ้าไม่ได้บอกเรื่องของข้าให้เจ้ารู้เลยรึ!」
ผมจ้องมองเธอ ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่นานสองนาน จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้น
「ท่านคือผู้ใดกันขอรับ?」
คิ้วของโลลิผมขาวเลิกสูงขึ้น อดไม่ได้ที่จะกำหมัดน้อยๆ นั่นแน่น
...
「ท่านบอกว่า เมื่อสี่พันกว่าปีก่อน ท่านปิดด่านบำเพ็ญเพียรวิชาลับอะไรสักอย่าง พอออกมาโลกก็เปลี่ยนไปมากโข บิดาและพี่ชายของท่านก็หายตัวไปไหนไม่รู้ ดังนั้นท่านจึงดั้นด้นมาหาผมเพื่อสอบถามว่าโลกนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น... แล้วพี่ชายของท่านก็ยังเป็นบรรพบุรุษของบรรพบุรุษผมอีกทอดหนึ่ง พูดอีกอย่างก็คือ ท่านก็เป็นบรรพบุรุษของผมด้วยเหมือนกัน!?」
ผมยกถ้วยชาขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเกลี้ยง สูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงจะพอทำความเข้าใจกับความจริงอันน่าตื่นตะลึงที่ยัยโลลิผมขาวนี่พล่ามออกมาได้
「ใช่แล้ว! เจ้าคือทายาทของข้า! ทายาทของท่านพี่ที่รักข้าที่สุด! ข้าหาท่านพี่และท่านพ่อไม่พบ ดังนั้นข้าจึงมาหาเจ้า ผู้มีสายเลือดเดียวกันเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่... หึ! ในฐานะทายาท เจ้าควรสืบทอดปณิธานของท่านพี่ข้า... ปรนนิบัติอัจฉริยะเช่นข้าให้ดีเสีย!」
หางตาของผมสั่นกระตุก ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เห็นว่าเสื้อคลุมนักพรตที่ยัยโลลิผมขาวสวมใส่อยู่นั่นมันเป็นชุดที่เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรเท่านั้นถึงจะสวมใส่ได้ แถมบนเสื้อคลุมยังไร้ฝุ่นจับแม้แต่น้อย ที่สำคัญที่สุดคือ...เธอเหาะเหินเดินอากาศได้!
ชาตินี้ผมก็ไม่มีทางเชื่อเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ที่ยัยโลลิผมขาวพล่ามออกมาเป็นวรรคเป็นเวรแน่ๆ
ผู้มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ปานนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมาโกหกหลอกลวงคนธรรมดาสามัญเดินดินอย่างผมหรอก พูดอีกอย่างก็คือ สิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง!
ในสังคมยุคปัจจุบันแบบนี้ ไม่มีเด็กหญิงอายุสิบสองสิบสามปีคนไหน ที่พูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนเยาว์อ้างตัวเองว่า 「ข้า ข้า ข้า」 ตลอดเวลาแบบนี้หรอก!
「ขอรับ ขอรับ... ท่าน... ท่านบรรพบุรุษ」 ผมทำหน้าพิลึกพิลั่นมองบรรพบุรุษที่ดูจากรูปพรรณสัณฐานแล้วเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ โดยสมบูรณ์แบบ
「ทายาท! เจ้าอย่ามองว่าข้าดูเด็กสิ! นั่นเป็นเพราะข้าคืออัจฉริยะสูงสุดของตระกูลข้าต่างหาก... ตอนอายุสิบสองปีก็บรรลุถึงขั้นรักษารูปลักษณ์เยาว์วัยตลอดกาลได้แล้ว... หากนับรวมเวลาที่ปิดด่านบำเพ็ญเพียรด้วยล่ะก็... ข้าก็อายุสี่พันเจ็ดร้อยกว่าปีแล้วนะ... เจ้าอย่าได้มาดูแคลนข้าเชียว!」
บางทีอาจเป็นเพราะเห็นแววตาประหลาดๆ ของผม บรรพบุรุษโลลิผมขาวที่นั่งตัวตรงแหน่วอยู่ตรงข้ามโต๊ะไม้ เชิดใบหน้าเล็กๆ นั่นขึ้นอย่างหยิ่งผยอง พูดกับผมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์สุดๆ
「ท่านบรรพบุรุษ! กระผมขออภัยอย่างสูง!」 ผมรีบคุกเข่าลงกับพื้นขอขมาทันทีทันใด ฟอสซิลมีชีวิตในร่างสาวน้อยโลลิอายุสี่พันเจ็ดร้อยกว่าปี! ผมจะไม่เคารพได้ยังไงไหว!
...
หลังจากนั้น เรื่องราวก็เป็นไปตามครรลอง บรรพบุรุษผู้ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์การดำเนินชีวิตของโลกใบนี้เลยแม้แต่น้อย หลายครั้งที่ออกไปเดินเล่นกับผม ยังควักพวงเงินทองแดงออกมาคิดจะซื้อของกิน เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจต่อโลกที่แปลกหน้าไปโดยสิ้นเชิงนี้
จึงได้อาศัยอยู่ร่วมกับผม เรียนรู้ความรู้ของโลกสมัยใหม่อย่างรวดเร็ววันแล้ววันเล่า
สามเดือนผ่านไป มู่ไฉ่เหมิง หรือก็คือบรรพบุรุษสาวน้อยโลลิผมขาวหน้าเด็กของผม ในที่สุดก็เข้าใจความรู้ทั่วไปของโลกนี้โดยประมาณแล้ว กระทั่งยังเรียนรู้การใช้สมาร์ทโฟนเป็นแล้วด้วย!
ตามคำพูดของเธอก็คือ ของวิเศษที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือนี่มันช่างสะดวกและใช้งานง่ายสุดๆ ไปเลย!
ติ๊งต่อง เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า ผมได้รับข้อความจากท่านบรรพบุรุษ
「นี่! ทายาทผู้โง่เขลาของข้า! ข้าเห็นสถานที่น่าสนใจมากมายบนของวิเศษที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือนี่ล่ะ ข้าอยากจะออกไปเดินเล่นให้ทั่วเลย... ทายาทเอ๋ย... เจ้ามีที่ไหนแนะนำให้ข้าไปบ้างหรือไม่?」
มองดูข้อความที่ท่านบรรพบุรุษส่งมา ผมรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก ตลอดสามเดือนที่อยู่กับท่านบรรพบุรุษมาเนี่ย ท่านบรรพบุรุษมักจะหน้าแดงแปร๊ดเวลาอยู่กับผมตามลำพังสองต่อสองอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ซบกับอกของผม มีอยู่ครั้งหนึ่งถึงกับซบหน้าอกผมหลับปุ๋ยไปอย่างสงบเสงี่ยม
แม้ว่าภายนอกน้ำเสียงของท่านบรรพบุรุษจะยังคงหยิ่งผยองโอหังเช่นเคย แต่ผมก็รู้สึกได้รางๆ ว่าระหว่างผมกับท่านบรรพบุรุษมันมีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
นี่มันคือวิธีการอยู่ร่วมกันของบรรพบุรุษกับทายาทจริงๆ เหรอ?
ผมส่ายหน้า ช่างเธอเถอะ บางทีผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้? ยัยโลลิอายุสี่พันเจ็ดร้อยกว่าปี จะมาชอบเด็กหนุ่มสาม 'ไม่มี' (ไม่มีเงิน ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน) อย่างผมได้ยังไงกัน? เป็นไปไม่ได้หรอกน่า!
สถานที่แนะนำให้ไปงั้นเหรอ? ผมคิดแล้วคิดอีก ในฐานะโอตาคุตัวพ่ออย่างผมจะไปรู้ได้ยังไงกันเล่า! เพื่อนฝูงที่พอจะให้คำตอบเรื่องนี้ได้ผมก็ไม่มีเหมือนกัน!
ผมครุ่นคิดอยู่นานสองนาน จู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมา! เป็นความคิดที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว! เป็นความคิดที่โคตรจะเจ๋งเป้ง!
ในเมื่อท่านบรรพบุรุษจะไปเที่ยวอยู่แล้วนี่นา เช่นนั้นระหว่างเที่ยวก็ถือโอกาสสั่งสอนพวกเดนมนุษย์สักสองสามคนก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรละมั้ง?
ผมเปิดคอมพิวเตอร์ คลิกเข้าไปในเว็บไซต์ส่วนตัวแห่งหนึ่งอย่างคล่องแคล่ว กระทู้ที่ 「น่าตกตะลึง」 ปรากฏขึ้นในเว็บไซต์ทีละกระทู้
ผมคลิกเข้าไปในกระทู้ล่าสุด ซึ่งก็คือเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
「หัวข้อคือ 'พิชิตใจแฟนสาวสุดน่ารักของนักเรียนดีเด่นโรงเรียนดัง'」
กระทู้แรกเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเป็นรูปเซลฟี่ของเด็กสาวน่ารักในชุดนักเรียน เด็กหนุ่มท่าทางสุภาพสวมแว่นยืนอยู่ข้างหลังเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
ตรงกลางรูปเซลฟี่มีตัวอักษรพิมพ์ไว้หนึ่งบรรทัด
「 รัก รัก รัก รัก 」
ผมคลิกเข้าไปดูเนื้อหาล่าสุดของกระทู้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
กระทู้ล่าสุดยังคงเป็นรูปถ่าย เด็กสาวน่ารักในรูปแรกยิ้มอย่างร่านราคะ ท่อนเนื้อสีม่วงคล้ำใหญ่โตน่าเกลียดน่ากลัวจนไม่น่าเชื่อบังดวงตาคู่สวยของเธอไว้
เธอทำมือเป็นรูปกรรไกรให้กล้อง ปากอ้ากว้าง เผยให้เห็นน้ำสีขาวขุ่นเต็มปาก
ตรงกลางรูปก็มีตัวอักษรพิมพ์ไว้หนึ่งบรรทัดเช่นกัน
「โดนจัดหนักจนเป็นของฉันแล้ว 」
มองดูความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวของเด็กสาวน่ารัก ผมรู้สึกอับอายจนไอ้นั่นมันแข็งตัวขึ้นมาเฉยเลย! ทว่าภายนอกผมกลับแสดงท่าทีโกรธแค้นอย่างสุดขีด
「ไอ้พวกเดนมนุษย์พวกนี้! ไม่รู้ว่ากี่ปีมานี้มันทำลายคู่รักไปกี่คู่แล้ว! สมควรสั่งสอนพวกมันให้หนักเสียที!」
หลายปีก่อน ผมบังเอิญคลิกเข้ามาในเว็บไซต์นี้ แวบแรกที่เห็นก็รู้สึกโกรธมาก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เป็นชายกล้ามโตผิวสีทองแดงที่ชอบออกกำลังกายและอาบแดดหลายคน ว่ากันว่าในร่างกายยังมีสายเลือดของชนเผ่าป่าเถื่อนจากป่าลึกที่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม เป็นชนกลุ่มน้อยดั้งเดิมในแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นแต่ละคนจึงมีรูปร่างกำยำล่ำสันอย่างน่าตกใจ โครงกระดูกใหญ่โต หน้าตาหยาบกร้าน ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายความแข็งแกร่งป่าเถื่อนราวกับไม่ใช่คนบนโลกนี้ เหมือนกับสัตว์ป่าตัวหนึ่ง
พวกมันจะหาแฟนก็ไม่น่าจะยากอะไร
แต่กลับชอบ 「พิชิต」 แฟนสาวและภรรยาของคนอื่น เพียงสองสามปีก็ทำลายคู่รักไปหลายสิบคู่แล้ว ภายใต้ทักษะอันสูงส่งของพวกมัน ไม่มีเด็กสาวคนไหนทนได้เกินหนึ่งเดือน สุดท้ายก็จะนอกใจแฟนหรือสามี มอบกายให้พวกมันเชยชม
เพราะพวกมันไม่มีเงิน ดังนั้นทุกครั้งที่พิชิตผู้หญิงคนหนึ่งได้แล้ว ก็จะอาศัยให้ผู้หญิงเลี้ยงดู ยังต้องเอาผู้หญิงที่พวกมันพิชิตได้มาโพสต์อวดลงอินเทอร์เน็ต ไม่เคยทำงานเลย แต่กลับไม่เคยขาดเงินใช้ แถมยังชอบทำร้ายร่างกายคนเดินถนนก่อเรื่องวิวาท เตะถังขยะทิ้งขยะเรี่ยราดอะไรทำนองนั้น
อีกทั้งเพราะเป็นชนกลุ่มน้อย ทัศนคติของตำรวจต่อพวกมันจึงค่อนข้างละเอียดอ่อนและผ่อนปรนชั่วคราว ทำให้พวกมันไม่เคยได้รับโทษรุนแรง
แต่ตามหลักแล้วคนแบบนี้สุดท้ายก็ควรจะถูกจับเข้าคุก ชะตากรรมน่าสังเวชไปตลอดชีวิต ทว่าพวกมันกลับพูดจาเก่งกาจมีไหวพริบสูงมาก ปรับตัวเข้ากับชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นจึงยังคงอาละวาดทำตัวเป็นอันธพาลได้อย่างปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้
คนกลุ่มนี้ ช่างไม่ต่างอะไรกับเดนมนุษย์เลยจริงๆ!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตวิทยาแบบไหน ผมกลับเก็บเว็บไซต์ของพวกมันไว้เงียบๆ มาโดยตลอด บางทีอาจจะเพื่อรอคอยช่วงเวลานี้ก็ได้! ไอ้พวกเดนมนุษย์พวกนี้ สมควรได้รับบทเรียนเสียที!
「ถ้าพวกมันคิดอกุศลกับท่านบรรพบุรุษล่ะก็... คราวนี้ได้จบไม่สวยแน่! ฮ่าฮ่า!」
ผมแสยะยิ้ม ติดต่อพวกมันไป แสร้งทำเป็นคนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว บอกว่าญาติผู้ใหญ่ของตนเพิ่งมาถึงเมืองนี้ ให้พวกมันพาเที่ยวเล่นอะไรทำนองนั้น แถมยังให้ค่าตอบแทนก้อนโตอีกด้วย
ในที่สุดพวกมันก็ตกลงว่าจะพาญาติผู้ใหญ่ของผมไปเที่ยวเล่นในวันพรุ่งนี้
ยังบอกอีกว่าสถานที่เที่ยวสนุกๆ ในเมืองนี้พวกมันรู้จักหมด รับรองว่าจะทำให้ญาติผู้ใหญ่ของผมมีความสุขอย่างแน่นอน
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ครานี้ท่านบรรพบุรุษจะทำให้เด็กน้อยปวดตับขนาดไหน
::Shy::
ชอบ
ดูท่าทางท่านโลลิ คงสยบอยู่ใต้ลำควบแน่
แก่พลังบำเพ็ญ แต่ด๋อยการใช้ชีวิตชัดๆ
น่าสนุกบรรพบุรุษคงได้สนุกแน่
น่าติดตามคับ
ไม่น่ารอดนะท่านบรรพบุรุษ
บรรพบุรุษโดนตับๆๆๆ แน่
ท่านบรรพบุรุษจะเตลิดเปิดเปิงขนาดไหน
บรรพบุรุษจะเสียซิงก็คราวนี้
มีความสุขเกินไปหรือเปล่า
::Thankyou::
ท่านบรรพบุรุษจะเป็นยังไงต่อล่ะเนี่ย น่าจะโดนไม่ใช่น้อย
บรรพบุรุษจะมาสร้างปัญหาหรือเปล่า
ขอบคุณครับ
บรรพยุรุษมาเพื่อสอนสั่ง หรือ เพื่อเรียนรู้นะ
ท่านบรรพบุรุษน่าจะไม่รอด
::YehYeh::
ต้องหาประสบการณ์เพิ่มอีกเยอะๆเลย
ตอนแรกก็ลุ้นแล้วครับ
เลี้ยงดูคนแก่ในร่างเด็กคงปวดหัวน่าดู
ท่านบรรพบุรุษ โดนพาเที่ยวเปิดหูเปิดตา
ท่านบรรพบุรุษจะเป็นยังไงต่อล่ะเนี่ย น่าจะโดนไม่ใช่น้อย
จะได้เปิดหูเปิดตาแน่นอน
ขอเข้าพบ ท่านบรรพบุรุษ
แววปวดตับท่าจะมา
อ้างจาก: Oumale เมื่อ พฤษภาคม 23, 2025, 12:44:31 หลังเที่ยงฝากนิยายเรื่องใหม่ครับ ไปอ่านเจอแล้วสนุปดีเลยหยิบมาแปล เรื่องนี้ไม่ใช่แฟนฟิกไม่น่าจะมีกลุ่มลับ เอาไว้แปลแก้ขัดแนวจีนโบราณบ้าง สามารถไปอ่านได้บนเว็บในลิ้งใต้คอมเม้นได้เลย
----------------------------------
เรื่อง : ท่านบรรพบุรุษสุดไร้เทียมทานของผม ไม่มีทางพ่ายแพ้ต่อพวก DARK WEB หรอกนะ [NTR]
เรื่องย่อ : เรื่องราวของ 'มู่อวี่' ทายาทที่ต้องดูแลท่านบรรพบุรุษโลลิผมขาวผู้มีพลังมหาศาลซึ่งปรากฏตัวอย่างกระทันหัน 'มู่ไฉ่เหมิง'
ทั้งสองเริ่มใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่แล้ววันหนึ่งท่านบรรพบุรุษเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ เธอออกไปเที่ยวบ่อยครั้ง และมู่อวี่ก็ได้พบเว็บไซต์ลึกลับที่เต็มไปด้วยรูปภาพและวิดีโอของเด็กหญิงผมขาวที่คล้ายท่านบรรพบุรุษในสถานการณ์ล่อแหลมกับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เรียกตัวเองว่า "คนเถื่อน"
มู่อวี่ต้องเผชิญกับความสับสน ความหึงหวง และความตื่นเต้นอย่างประหลาด ขณะที่พยายามทำความเข้าใจความจริงเบื้องหลังพฤติกรรมของท่านบรรพบุรุษ และความรู้สึกที่ซับซ้อนของตนเองที่มีต่อท่านบรรพบุรุษ
ความผูกพันที่ค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นระหว่างทั้งสอง ทำให้มู่อวี่ตัดสินใจที่จะเชื่อมั่นในตัวท่านบรรพบุรุษ แม้ว่าจะมีคลิบฉาวที่น่าตกใจปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม ท่ามกลางเกมการ "พิชิต" ที่อันตรายและน่าตื่นเต้น ความรักและความภักดีของเขาที่มีต่อท่านบรรพบุรุษจะนำพาพวกเขาไปสู่บทสรุปเช่นไร?
------------
(https://attachments.xonly8.com/images/4aff20c38edfc3b156fcf03df529e105886af92c.jpg)
สามารถอ่านได้ที่
[/size][/color]
FICTIONLOG
[/size]
https://fictionlog.co/b/682ab8382be6d9001ca383a8 (https://fictionlog.co/b/682ab8382be6d9001ca383a8)
[/size]
READAWRITE
[/size]
https://www.readawrite.com/a/abe6175a785e68302ea30f6f9604a916 (https://www.readawrite.com/a/abe6175a785e68302ea30f6f9604a916)
[/size]
--------------------------------------------------------
บทที่ 1 แรกพบกับท่านบรรพบุรุษ
ผมชื่อว่า... มู่อวี่ เป็นเด็กกำพร้าที่ใครๆ ก็บอกว่าโคตรจะโดดเด่น ตอนเรียนน่ะเหรอ? ทั้งเรียนเก่ง มารยาทงาม ผลการเรียนก็ท็อปคลาส สอบเข้ามหา'ลัยดีๆ ได้แบบชิลๆ
...
แต่พอเข้าสู่โลกของผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ ไหงกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ กลัวสังคม แถมยังเป็นโอตาคุตัวยง หางานก็ไม่ได้ ได้แต่กินๆ นอนๆ รอวันลาโลกไปวันๆ
ถ้าไม่ติดว่าเป็นแบบนี้นะ ชีวิตผมคงจะเพอร์เฟกต์สุดๆ ไปแล้ว... มั้งนะ...
「ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ชีวิตฉันมันจบเห่แน่ๆ!」
ผมนั่งเล่นเกมข้ามคืนอีกตามเคย จู่ๆ ความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้ามา ผมเลยหยิบเครื่องดื่มเย็นๆ มาพิงขอบหน้าต่างที่เปิดอ้าซ่า จิบไปมองบรรยากาศข้างนอกไปอย่างปล่อยอารมณ์
ลมเย็นๆ พัดโชยมาเบาๆ
ใจกลางเมืองที่อยู่ลิบๆ โน่น แม้จะย่ำรุ่งแล้วก็ยังคงมีแสงไฟสลัวๆ ผู้คนมากหน้าหลายตากำลังเริงร่าปาร์ตี้กันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง ทว่าทั้งหมดนั่นมันไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด
อันที่จริงแล้ว ผมออกจะเกลียดชีวิตที่อึกทึกครึกโครมแล้วก็เหลาะแหละแบบนั้นสุดๆ ไปเลยต่างหาก
「เจ้าคือทายาทเพียงคนเดียวของข้างั้นรึ? ดูท่าทางไม่ได้เรื่องเลยนี่นา... แต่ว่า... เหมือนท่านพี่จริงๆ... หน้าตาคล้ายกันมาก...」
ขณะที่ผมกำลังปล่อยใจให้ล่องลอยอยู่ในภวังค์ จู่ๆ ก็มีเสียงเย็นชาแต่แฝงความเยาว์วัยดังแว่วเข้ามาในหู
ผมเงยหน้าขึ้นมอง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นี่ นี่ นี่... หรือว่าผมหลุดเข้ามาในโลกสองมิติไปแล้วฟะเนี่ย!?
ริมฝีปากแดงระเรื่อดุจไข่มุกงามน่าจุมพิต ดวงหน้างดงามหมดจดไร้ที่ติ ขนตางอนยาวราวปีกผีเสื้อกระพือไหว ใบหน้าบริสุทธิ์ผุดผ่องราวกับน้ำนมชั้นเลิศ
ปรากฏร่างเด็กหญิงตัวเล็กจิ๋วในชุดนักพรตสีขาวหลวมโพรก สองแขนเล็กๆ กอดอก ดวงตาคู่สวยที่มองมายังผมแฝงแววหยิ่งทะนงแบบเด็กๆ ผมสีขาวส่องประกายสีเงินวาววับ งดงามราวตุ๊กตากระเบื้องเคลือบไร้ตำหนิ โลลิตัวน้อยผมขาวสุดคาวาอี้ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าผม!
ผมอายุยี่สิบกว่าปีมานี่ สาบานได้ว่าไม่เคยเห็นเด็กสาวคนไหนสวยเท่านี้มาก่อน! ไม่สิ! ต้องเรียกว่าโลลิ!
แต่คำพูดของโลลิแสนสวยคนนี้ มันช่างฟังดูพิลึกกึกกือชอบกล
「ทายาท?」 ผมมองดูยัยหนูที่เหมือนเด็กน้อยพยายามสวมชุดผู้ใหญ่ คือมันไม่พอดีตัวเลยสักนิด เสื้อคลุมนักพรตนี่ห้อยต่องแต่ง ดูยังไงๆ ผมก็ว่าเธออายุไม่น่าจะเกินสิบสามปีด้วยซ้ำ
「เดี๋ยวก่อนนะ! ที่นี่มันชั้นสิบสามเลยนะ! เธอเป็นใครกันแน่! ทำไม... ทำไมถึง...」
ทันใดนั้นผมก็นึกถึงเรื่องที่มันประหลาดพิสดารที่สุดขึ้นมาได้ ต่อให้สวยหยาดเยิ้มหยดย้อยปานเธอฟ้าจุติ เมื่อเทียบกับเรื่องนี้แล้วก็เทียบไม่ติดเลยสักนิด เขาเห็นอะไรน่ะเหรอ?
กลางดึกสงัดแบบนี้ ผมเห็นโลลิผมขาวสุดน่ารักคนหนึ่งกำลังลอยเท้งเต้งอยู่กลางอากาศ สูงเท่าตึกสิบสามชั้น แถมยังพูดจาแปลกๆ อีกต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะมั่นใจว่าตัวเองยังตื่นเต็มตาอยู่ล่ะก็ ผมคงคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอนไปแล้วแหงๆ
「ข้าพูดถึงเจ้าอย่างไรเล่า ทายาทของข้า! บิดาของเจ้าไม่ได้บอกเรื่องของข้าให้เจ้ารู้เลยรึ!」
ผมจ้องมองเธอ ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่นานสองนาน จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้น
「ท่านคือผู้ใดกันขอรับ?」
คิ้วของโลลิผมขาวเลิกสูงขึ้น อดไม่ได้ที่จะกำหมัดน้อยๆ นั่นแน่น
...
「ท่านบอกว่า เมื่อสี่พันกว่าปีก่อน ท่านปิดด่านบำเพ็ญเพียรวิชาลับอะไรสักอย่าง พอออกมาโลกก็เปลี่ยนไปมากโข บิดาและพี่ชายของท่านก็หายตัวไปไหนไม่รู้ ดังนั้นท่านจึงดั้นด้นมาหาผมเพื่อสอบถามว่าโลกนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น... แล้วพี่ชายของท่านก็ยังเป็นบรรพบุรุษของบรรพบุรุษผมอีกทอดหนึ่ง พูดอีกอย่างก็คือ ท่านก็เป็นบรรพบุรุษของผมด้วยเหมือนกัน!?」
ผมยกถ้วยชาขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเกลี้ยง สูดหายใจเข้าลึกๆ ถึงจะพอทำความเข้าใจกับความจริงอันน่าตื่นตะลึงที่ยัยโลลิผมขาวนี่พล่ามออกมาได้
「ใช่แล้ว! เจ้าคือทายาทของข้า! ทายาทของท่านพี่ที่รักข้าที่สุด! ข้าหาท่านพี่และท่านพ่อไม่พบ ดังนั้นข้าจึงมาหาเจ้า ผู้มีสายเลือดเดียวกันเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่... หึ! ในฐานะทายาท เจ้าควรสืบทอดปณิธานของท่านพี่ข้า... ปรนนิบัติอัจฉริยะเช่นข้าให้ดีเสีย!」
หางตาของผมสั่นกระตุก ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เห็นว่าเสื้อคลุมนักพรตที่ยัยโลลิผมขาวสวมใส่อยู่นั่นมันเป็นชุดที่เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรเท่านั้นถึงจะสวมใส่ได้ แถมบนเสื้อคลุมยังไร้ฝุ่นจับแม้แต่น้อย ที่สำคัญที่สุดคือ...เธอเหาะเหินเดินอากาศได้!
ชาตินี้ผมก็ไม่มีทางเชื่อเรื่องไร้สาระพรรค์นี้ที่ยัยโลลิผมขาวพล่ามออกมาเป็นวรรคเป็นเวรแน่ๆ
ผู้มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ปานนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมาโกหกหลอกลวงคนธรรมดาสามัญเดินดินอย่างผมหรอก พูดอีกอย่างก็คือ สิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง!
ในสังคมยุคปัจจุบันแบบนี้ ไม่มีเด็กหญิงอายุสิบสองสิบสามปีคนไหน ที่พูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนเยาว์อ้างตัวเองว่า 「ข้า ข้า ข้า」 ตลอดเวลาแบบนี้หรอก!
「ขอรับ ขอรับ... ท่าน... ท่านบรรพบุรุษ」 ผมทำหน้าพิลึกพิลั่นมองบรรพบุรุษที่ดูจากรูปพรรณสัณฐานแล้วเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ โดยสมบูรณ์แบบ
「ทายาท! เจ้าอย่ามองว่าข้าดูเด็กสิ! นั่นเป็นเพราะข้าคืออัจฉริยะสูงสุดของตระกูลข้าต่างหาก... ตอนอายุสิบสองปีก็บรรลุถึงขั้นรักษารูปลักษณ์เยาว์วัยตลอดกาลได้แล้ว... หากนับรวมเวลาที่ปิดด่านบำเพ็ญเพียรด้วยล่ะก็... ข้าก็อายุสี่พันเจ็ดร้อยกว่าปีแล้วนะ... เจ้าอย่าได้มาดูแคลนข้าเชียว!」
บางทีอาจเป็นเพราะเห็นแววตาประหลาดๆ ของผม บรรพบุรุษโลลิผมขาวที่นั่งตัวตรงแหน่วอยู่ตรงข้ามโต๊ะไม้ เชิดใบหน้าเล็กๆ นั่นขึ้นอย่างหยิ่งผยอง พูดกับผมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์สุดๆ
「ท่านบรรพบุรุษ! กระผมขออภัยอย่างสูง!」 ผมรีบคุกเข่าลงกับพื้นขอขมาทันทีทันใด ฟอสซิลมีชีวิตในร่างสาวน้อยโลลิอายุสี่พันเจ็ดร้อยกว่าปี! ผมจะไม่เคารพได้ยังไงไหว!
...
หลังจากนั้น เรื่องราวก็เป็นไปตามครรลอง บรรพบุรุษผู้ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์การดำเนินชีวิตของโลกใบนี้เลยแม้แต่น้อย หลายครั้งที่ออกไปเดินเล่นกับผม ยังควักพวงเงินทองแดงออกมาคิดจะซื้อของกิน เพื่อเพิ่มพูนความเข้าใจต่อโลกที่แปลกหน้าไปโดยสิ้นเชิงนี้
จึงได้อาศัยอยู่ร่วมกับผม เรียนรู้ความรู้ของโลกสมัยใหม่อย่างรวดเร็ววันแล้ววันเล่า
สามเดือนผ่านไป มู่ไฉ่เหมิง หรือก็คือบรรพบุรุษสาวน้อยโลลิผมขาวหน้าเด็กของผม ในที่สุดก็เข้าใจความรู้ทั่วไปของโลกนี้โดยประมาณแล้ว กระทั่งยังเรียนรู้การใช้สมาร์ทโฟนเป็นแล้วด้วย!
ตามคำพูดของเธอก็คือ ของวิเศษที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือนี่มันช่างสะดวกและใช้งานง่ายสุดๆ ไปเลย!
ติ๊งต่อง เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า ผมได้รับข้อความจากท่านบรรพบุรุษ
「นี่! ทายาทผู้โง่เขลาของข้า! ข้าเห็นสถานที่น่าสนใจมากมายบนของวิเศษที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือนี่ล่ะ ข้าอยากจะออกไปเดินเล่นให้ทั่วเลย... ทายาทเอ๋ย... เจ้ามีที่ไหนแนะนำให้ข้าไปบ้างหรือไม่?」
มองดูข้อความที่ท่านบรรพบุรุษส่งมา ผมรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก ตลอดสามเดือนที่อยู่กับท่านบรรพบุรุษมาเนี่ย ท่านบรรพบุรุษมักจะหน้าแดงแปร๊ดเวลาอยู่กับผมตามลำพังสองต่อสองอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ซบกับอกของผม มีอยู่ครั้งหนึ่งถึงกับซบหน้าอกผมหลับปุ๋ยไปอย่างสงบเสงี่ยม
แม้ว่าภายนอกน้ำเสียงของท่านบรรพบุรุษจะยังคงหยิ่งผยองโอหังเช่นเคย แต่ผมก็รู้สึกได้รางๆ ว่าระหว่างผมกับท่านบรรพบุรุษมันมีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
นี่มันคือวิธีการอยู่ร่วมกันของบรรพบุรุษกับทายาทจริงๆ เหรอ?
ผมส่ายหน้า ช่างเธอเถอะ บางทีผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้? ยัยโลลิอายุสี่พันเจ็ดร้อยกว่าปี จะมาชอบเด็กหนุ่มสาม 'ไม่มี' (ไม่มีเงิน ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน) อย่างผมได้ยังไงกัน? เป็นไปไม่ได้หรอกน่า!
สถานที่แนะนำให้ไปงั้นเหรอ? ผมคิดแล้วคิดอีก ในฐานะโอตาคุตัวพ่ออย่างผมจะไปรู้ได้ยังไงกันเล่า! เพื่อนฝูงที่พอจะให้คำตอบเรื่องนี้ได้ผมก็ไม่มีเหมือนกัน!
ผมครุ่นคิดอยู่นานสองนาน จู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมา! เป็นความคิดที่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว! เป็นความคิดที่โคตรจะเจ๋งเป้ง!
ในเมื่อท่านบรรพบุรุษจะไปเที่ยวอยู่แล้วนี่นา เช่นนั้นระหว่างเที่ยวก็ถือโอกาสสั่งสอนพวกเดนมนุษย์สักสองสามคนก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรละมั้ง?
ผมเปิดคอมพิวเตอร์ คลิกเข้าไปในเว็บไซต์ส่วนตัวแห่งหนึ่งอย่างคล่องแคล่ว กระทู้ที่ 「น่าตกตะลึง」 ปรากฏขึ้นในเว็บไซต์ทีละกระทู้
ผมคลิกเข้าไปในกระทู้ล่าสุด ซึ่งก็คือเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
「หัวข้อคือ 'พิชิตใจแฟนสาวสุดน่ารักของนักเรียนดีเด่นโรงเรียนดัง'」
กระทู้แรกเมื่อหนึ่งเดือนก่อนเป็นรูปเซลฟี่ของเด็กสาวน่ารักในชุดนักเรียน เด็กหนุ่มท่าทางสุภาพสวมแว่นยืนอยู่ข้างหลังเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
ตรงกลางรูปเซลฟี่มีตัวอักษรพิมพ์ไว้หนึ่งบรรทัด
「 รัก รัก รัก รัก 」
ผมคลิกเข้าไปดูเนื้อหาล่าสุดของกระทู้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
กระทู้ล่าสุดยังคงเป็นรูปถ่าย เด็กสาวน่ารักในรูปแรกยิ้มอย่างร่านราคะ ท่อนเนื้อสีม่วงคล้ำใหญ่โตน่าเกลียดน่ากลัวจนไม่น่าเชื่อบังดวงตาคู่สวยของเธอไว้
เธอทำมือเป็นรูปกรรไกรให้กล้อง ปากอ้ากว้าง เผยให้เห็นน้ำสีขาวขุ่นเต็มปาก
ตรงกลางรูปก็มีตัวอักษรพิมพ์ไว้หนึ่งบรรทัดเช่นกัน
「โดนจัดหนักจนเป็นของฉันแล้ว 」
มองดูความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวของเด็กสาวน่ารัก ผมรู้สึกอับอายจนไอ้นั่นมันแข็งตัวขึ้นมาเฉยเลย! ทว่าภายนอกผมกลับแสดงท่าทีโกรธแค้นอย่างสุดขีด
「ไอ้พวกเดนมนุษย์พวกนี้! ไม่รู้ว่ากี่ปีมานี้มันทำลายคู่รักไปกี่คู่แล้ว! สมควรสั่งสอนพวกมันให้หนักเสียที!」
หลายปีก่อน ผมบังเอิญคลิกเข้ามาในเว็บไซต์นี้ แวบแรกที่เห็นก็รู้สึกโกรธมาก ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เป็นชายกล้ามโตผิวสีทองแดงที่ชอบออกกำลังกายและอาบแดดหลายคน ว่ากันว่าในร่างกายยังมีสายเลือดของชนเผ่าป่าเถื่อนจากป่าลึกที่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม เป็นชนกลุ่มน้อยดั้งเดิมในแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นแต่ละคนจึงมีรูปร่างกำยำล่ำสันอย่างน่าตกใจ โครงกระดูกใหญ่โต หน้าตาหยาบกร้าน ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายความแข็งแกร่งป่าเถื่อนราวกับไม่ใช่คนบนโลกนี้ เหมือนกับสัตว์ป่าตัวหนึ่ง
พวกมันจะหาแฟนก็ไม่น่าจะยากอะไร
แต่กลับชอบ 「พิชิต」 แฟนสาวและภรรยาของคนอื่น เพียงสองสามปีก็ทำลายคู่รักไปหลายสิบคู่แล้ว ภายใต้ทักษะอันสูงส่งของพวกมัน ไม่มีเด็กสาวคนไหนทนได้เกินหนึ่งเดือน สุดท้ายก็จะนอกใจแฟนหรือสามี มอบกายให้พวกมันเชยชม
เพราะพวกมันไม่มีเงิน ดังนั้นทุกครั้งที่พิชิตผู้หญิงคนหนึ่งได้แล้ว ก็จะอาศัยให้ผู้หญิงเลี้ยงดู ยังต้องเอาผู้หญิงที่พวกมันพิชิตได้มาโพสต์อวดลงอินเทอร์เน็ต ไม่เคยทำงานเลย แต่กลับไม่เคยขาดเงินใช้ แถมยังชอบทำร้ายร่างกายคนเดินถนนก่อเรื่องวิวาท เตะถังขยะทิ้งขยะเรี่ยราดอะไรทำนองนั้น
อีกทั้งเพราะเป็นชนกลุ่มน้อย ทัศนคติของตำรวจต่อพวกมันจึงค่อนข้างละเอียดอ่อนและผ่อนปรนชั่วคราว ทำให้พวกมันไม่เคยได้รับโทษรุนแรง
แต่ตามหลักแล้วคนแบบนี้สุดท้ายก็ควรจะถูกจับเข้าคุก ชะตากรรมน่าสังเวชไปตลอดชีวิต ทว่าพวกมันกลับพูดจาเก่งกาจมีไหวพริบสูงมาก ปรับตัวเข้ากับชีวิตสมัยใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้นจึงยังคงอาละวาดทำตัวเป็นอันธพาลได้อย่างปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้
คนกลุ่มนี้ ช่างไม่ต่างอะไรกับเดนมนุษย์เลยจริงๆ!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตวิทยาแบบไหน ผมกลับเก็บเว็บไซต์ของพวกมันไว้เงียบๆ มาโดยตลอด บางทีอาจจะเพื่อรอคอยช่วงเวลานี้ก็ได้! ไอ้พวกเดนมนุษย์พวกนี้ สมควรได้รับบทเรียนเสียที!
「ถ้าพวกมันคิดอกุศลกับท่านบรรพบุรุษล่ะก็... คราวนี้ได้จบไม่สวยแน่! ฮ่าฮ่า!」
ผมแสยะยิ้ม ติดต่อพวกมันไป แสร้งทำเป็นคนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว บอกว่าญาติผู้ใหญ่ของตนเพิ่งมาถึงเมืองนี้ ให้พวกมันพาเที่ยวเล่นอะไรทำนองนั้น แถมยังให้ค่าตอบแทนก้อนโตอีกด้วย
ในที่สุดพวกมันก็ตกลงว่าจะพาญาติผู้ใหญ่ของผมไปเที่ยวเล่นในวันพรุ่งนี้
ยังบอกอีกว่าสถานที่เที่ยวสนุกๆ ในเมืองนี้พวกมันรู้จักหมด รับรองว่าจะทำให้ญาติผู้ใหญ่ของผมมีความสุขอย่างแน่นอน
::Cold:: ชอบๆ
เยี่ยม
เรื่องราวน่าติดตาม
::JubuJubu:: kg
ตายแน่
::WooWoo::
ท่านบรรพบุรุษ เหมือนทายาทของท่านจะหางานมาให้ ::Bloody::
น่าติดตามครับว่าจะเหมือนที่พระเอกคิดไว้ไหม