...สายตานั้นไม่ใช่เพียงการมอง แต่เป็นการสื่อสาร — ลึกซึ้ง เย้ายวน และอันตราย
ริมฝีปากของหลานเซียนขยับเพียงเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วต่ำ "คืนนี้...เป็นคืนของเรา ไม่ใช่หรือ"
หญิงสาวชาวเกาหลีเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แนวดอกไม้ปนแป้งหอมลอยมาแตะจมูก เธอยื่นมือมาแตะแก้มของหลานเซียนอย่างแผ่วเบา นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามแนวกรามแล้วไล้ลงมาที่ลำคอ
ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ในเงียบ มือของเขาสัมผัสเอวหลานเซียนจากด้านหลัง เธอสะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ได้หลบหนี—มีเพียงรอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปากที่แดงดั่งกุหลาบยามค่ำ
"หลานเซียน..." เสียงเขาแหบพร่ากระซิบข้างหู "คุณสวยกว่าที่ผมจำได้"
"และคุณก็ยังอันตรายเหมือนเดิม" เธอตอบกลับ
หญิงสาวชาวเกาหลีโน้มตัวเข้ามา ริมฝีปากของเธอหยุดห่างจากหลานเซียนเพียงไม่กี่นิ้ว สายตาสบกันชั่ววินาทีที่ยาวนานราวนิรันดร์
"คุณแน่ใจหรือ... ว่าพร้อมจะก้าวข้ามขอบเขตคืนนี้" หญิงสาวเอ่ยเสียงนุ่ม ลมหายใจรินรดริมฝีปากของหลานเซียน
"ไม่เคยแน่ใจเลยสักครั้ง..." เธอพึมพำ "...แต่มันก็ไม่เคยหยุดฉันได้"
และนั่นคือวินาทีที่ทุกอย่างพังทลายลง
ร่างทั้งสามค่อยๆ เคลื่อนไหว ประสานกันราวกับบทเต้นรำที่ออกแบบมาเฉพาะ สัมผัสที่เย้ายวน ความเงียบที่เร้าอารมณ์ และแรงปรารถนาอันลึกล้ำที่ถูกปลดปล่อยในค่ำคืนนั้น...
เสียงลมหายใจ ผิวกายที่ลูบไล้กัน และความเร่าร้อนที่เติมเต็มห้องคอนโดหรูริมแม่น้ำ กลายเป็นฉากหนึ่งในความสัมพันธ์ที่ไม่อาจเผยแพร่
ค่ำคืนนั้น...ไม่มีคำจำกัดความว่า "ถูก" หรือ "ผิด"
มีเพียงความรู้สึกที่จริงแท้ และความลับที่ต้องฝังลึกไว้ในเงามืดของหัวใจ
เสียง ติ๊ง! ของลิฟต์หน้าห้องดังขึ้นในเวลา 00:00 เป๊ะ ราวกับนาฬิกาแห่งโชคชะตากำลังประกาศอะไรบางอย่าง เสียงฝีเท้านุ่มนวลแว่วเข้ามาจากทางเดิน ปะปนกับเสียงส้นรองเท้าสัมผัสกับพื้นไม้ขัดเงา
ร่างทั้งสามหยุดชะงักทันที — ความร้อนแรงยังคงคุกรุ่นในอากาศ แต่ตอนนี้ ความเงียบกลับกลายเป็นสิ่งที่กดดันยิ่งกว่า
หลานเซียนรีบผละตัวออกไปคว้าเสื้อคลุมบางๆ มาสวมทับร่างเปลือยเปล่า ขณะหญิงสาวชาวเกาหลีถอยไปยืนพิงหน้าต่างกระจก พลางจัดผมที่หล่นระต้นคอ ส่วนชายหนุ่มหันไปคว้าเสื้อเชิ้ตจากโซฟา สวมกลับลวกๆ ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตูห้องด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก
สามครั้ง ชัดเจน เยือกเย็น
หลานเซียนสบตากับชายหนุ่มเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่เขาจะเปิดประตู...
หญิงสาวในชุดเดรสยาวสีเบอร์กันดีปรากฏตัวในเงามืดด้านนอก ดวงตาคมกริบของเธอมองผ่านบ่าของชายหนุ่มเข้าไปในห้องทันที ราวกับรู้ดีว่ามีบางอย่างกำลังจะถูกปกปิด
"ฉันลืมของไว้" เธอเอ่ยเสียงเรียบ แต่แฝงไปด้วยแรงกดดันที่ไม่อาจละเลยได้
ชายหนุ่มหลีกทางให้เธอเดินเข้าไป กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอปะทะกับกลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวชาวเกาหลีที่ยังลอยในอากาศ — สองกลิ่นที่ไม่ควรอยู่ในที่เดียวกัน
หญิงสาวในเดรสก้าวเข้าไปช้าๆ สายตากวาดมองสำรวจ ก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากของหลานเซียนซึ่งยังคงแดงจัด ราวกับเพิ่งถูกจูบอย่างเร่าร้อน
"ของที่ลืมไว้...หรือความจริงที่คุณตั้งใจจะกลับมาพบ?" หลานเซียนเอ่ยเสียงเบา แต่เฉียบคม
ไม่มีคำตอบ
เพียงแค่รอยยิ้มจางๆ จากหญิงสาวคนนั้น ก่อนที่เธอจะเดินไปหยิบกระเป๋าหนังใบเล็กจากมุมห้อง แล้วหันหลังกลับออกไปอย่างสง่างาม
ก่อนจะพ้นประตู เธอหยุดชั่วครู่ แล้วหันมาพูดประโยคสุดท้ายโดยไม่มองใครเป็นพิเศษ
"ความลับ...ไม่เคยถูกซ่อนจากเงาในหัวใจของคนที่ยังรู้สึก"
แล้วเธอก็หมุนตัวเตรียมจะจากไป ทิ้งความเงียบระอุไว้เบื้องหลัง... แต่ยังไม่ทันที่ส้นรองเท้าของเธอจะแตะพื้นทางเดินนอกห้อง...
เสียงของหลานเซียนดังขึ้น — ชัดเจน หนักแน่น และสงบจนน่ากลัว
"พาเธอเข้ามา"
ชายหนุ่มชาวเกาหลีที่ยืนเงียบอยู่มุมห้องขยับตัวทันที ราวกับรับคำสั่งที่ไม่อาจขัดได้ เขาก้าวไปอย่างมั่นคง แล้วเชื้อเชิญหญิงสาวในชุดเดรสยาวสีเบอร์กันดีกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างประหลาดใจ แต่ก็ยอมก้าวกลับเข้ามา ดวงตาสบกับหลานเซียน—ความเย็นชาในแววตาทั้งสองหญิงปะทะกันกลางอากาศ
หลานเซียนยืนอยู่กลางห้องในเสื้อคลุมบาง แนวคอเผยให้เห็นผิวเนียนระเรื่อราวกับเพิ่งผ่านสัมผัส เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย ริมฝีปากโค้งเป็นรอยยิ้มบาง
"ในเมื่อคุณอยากรู้...งั้นก็อย่าหันหลังกลับตอนความจริงเปิดเผย"
หญิงสาวในชุดเดรสยังคงนิ่ง ราวกับวิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้า เธอมองไปยังหญิงสาวชาวเกาหลีที่ยืนเงียบอยู่ใกล้หน้าต่าง แล้วจึงหันกลับมามองหลานเซียน
"คุณกำลังจะทำลายทุกอย่างที่เราเคยมี" เธอพูดเบาๆ
หลานเซียนก้าวเข้าไปใกล้ ช้าและมั่นคง ดวงตาเป็นประกายราวมีเปลวไฟลุกวาบข้างใน
"มันถูกทำลายไปตั้งแต่วันที่คุณเลือกจะเก็บความลับ...แทนที่จะเดินเข้ามาอย่างที่คุณเพิ่งทำ" เขียนตอน แม่ยังสาว กับรักที่ซ่อนเร้น"
บรรยากาศในห้องเงียบงัน ราวกับถูกกลืนกินโดยแรงตึงของความรู้สึกที่ไร้ชื่อ หญิงสาวทั้งสามยืนประจันหน้ากัน โดยมีชายหนุ่มยืนกั้นกลาง แต่ไม่ใช่เพื่อห้ามปราม...หากเพื่อปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามแรงดึงดูดของความลับที่ไม่มีใครกล้าเอ่ย
ราวกับบทกวีของความปรารถนา ที่เขียนด้วยสายตาและสัมผัส
หญิงสาวชาวเกาหลีเดินเข้ามาใกล้หญิงในชุดเดรสเบอร์กันดีมากขึ้น สายตาไม่หลบ ไม่ไหวเอน ดวงตาของทั้งคู่ค่อยๆ สบกัน—ไม่ใช่ในความเป็นศัตรู แต่ในความเข้าใจบางอย่างที่ไม่มีคำอธิบาย
"...เธอรู้จักกลิ่นของฉันใช่ไหม" หญิงสาวชาวเกาหลีเอ่ยเบาๆ
อีกฝ่ายไม่ตอบในทันที หากแต่หลับตาชั่ววินาที สูดลมหายใจเบาๆ ริมฝีปากขยับน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยกลับ
"มันยังติดอยู่บนหมอนของเขา...ใช่ไหม"
ชายหนุ่มมองทั้งสองอย่างนิ่งงัน ไม่พูด ไม่มีท่าทีปฏิเสธหรือยืนยัน—เหมือนเขาเองก็เป็นเพียงผู้ถูกเลือกในเกมที่เขาไม่ได้เริ่ม
หลานเซียนยืนอยู่เงียบๆ ใกล้บานกระจก ร่างสะท้อนในเงาครึ่งสว่างครึ่งมืด แสงจันทร์ลอดผ่านม่าน บรรจงระบายเงาไว้บนแนวไหล่เปลือยของเธอ
"สิ่งที่เรากลัวที่สุด..." เธอพูดขึ้นมาแผ่วเบา "...ไม่ใช่การถูกทรยศ แต่คือการยอมรับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น...มันเคยงดงาม"
ไม่มีใครโต้แย้ง
หญิงสาวในชุดเบอร์กันดีเดินเข้ามาใกล้หลานเซียน ขณะที่อีกคนหนึ่งยังยืนมองอยู่ห่างๆ
"...คุณรักเขาไหม?" หลานเซียนเอ่ยถาม ขณะดวงตาไม่หลบ
หญิงสาวในชุดเดรสไม่ได้ตอบ เธอเพียงยกมือขึ้นวางบนไหล่หลานเซียนเบาๆ นิ้วหัวแม่มือไล้ผ่านกระดูกไหปลาร้าด้วยสัมผัสแผ่วเบา ราวกับจะทดสอบว่ารอยแผลในใจอีกฝ่ายนั้นยังสดอยู่หรือไม่
"ฉันไม่รู้..." เธอตอบ "...หรือบางที ฉันแค่รักความรู้สึกที่เขามีเวลาอยู่กับเธอ"
ขณะนั้นเอง...ชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ สองมือยื่นออกไป สัมผัสแผ่นหลังของทั้งสองหญิงด้วยความระมัดระวังราวกับกลัวว่าทุกอย่างจะสลาย
"ผมไม่เคยคิดว่าทุกอย่างจะมาถึงตรงนี้" เขาพูดช้าๆ
"แล้วคุณอยากให้มันไปถึงไหนล่ะ?" หลานเซียนถามกลับ สายตาไม่กระพริบ
ชายหนุ่มไม่ตอบ แต่สิ่งที่เขาทำแทนคือการยื่นมือไปหาอีกคน—หญิงสาวชาวเกาหลี ที่ตอนนี้เดินเข้ามาเงียบๆ
มือของเขาเชื่อมมือของหญิงสาวทั้งสองเข้าหากัน
ราวกับผู้เชื่อมปลายเส้นด้ายที่ถูกตัดขาด
ราวกับขอให้ความเงียบเป็นภาษาร่วมเดียวที่เหลืออยู่
ทั้งสามยืนนิ่งกลางห้อง ราวกับเงาของกันและกันสะท้อนอยู่ในดวงตาแต่ละคน แล้วเสียงเดียวที่ดังแทรกขึ้นมาในวินาทีนั้น...
คือเสียงผ้าม่านที่ปลิวไหวเบาๆ จากลมยามค่ำคืน
กลิ่นหอมของน้ำหอมสองกลิ่นปะปนกันในอากาศ ราวกับร่องรอยจากค่ำคืนก่อนที่ยังไม่จางไป และเสียงลมหายใจสามจังหวะ—แตกต่างแต่สอดประสาน—ยังคงอบอุ่นอยู่ภายในพื้นที่จำกัดของห้องที่ไม่เคยพอจะเก็บความลับใดได้ตลอดไป
หลานเซียนโน้มตัวลงเล็กน้อย ลมหายใจเธอไล้ผ่านปลายคอของอีกหญิงเบาๆ ก่อนจะหันไปสบตากับชายหนุ่ม
"ถ้าความลับจะต้องถูกเปิดเผย..." เธอเอ่ยเบา "...งั้นจงปล่อยให้ความรู้สึกพูดแทน"
และนั่นคือวินาทีที่บรรยากาศเปลี่ยนไปอีกครั้ง—สายตาสี่ดวงต่างรับรู้โดยไม่ต้องเอ่ยคำใด
ร่างกายที่ขยับเข้าใกล้กัน
ใจที่เปิดออก
ความปรารถนา...ในรูปแบบของความเข้าใจที่ไม่ต้องครอบครอง
เสียงของร่างกายไม่ดังกึกก้อง หากแต่ดังก้องในความรู้สึก
เส้นผมที่ไหลผ่านปลายนิ้ว
ริมฝีปากที่ไม่ต้องสัมผัสก็ทำให้หัวใจสั่น
และเงาที่เต้นอยู่บนผนัง...บอกเล่าทุกอย่างโดยไม่ต้องมีคำบรรยาย
...
เพราะความสัมพันธ์บางอย่าง ไม่ได้เริ่มจากการเลือก แต่เริ่มจากการ "ยอมให้มันเกิดขึ้น"
และค่ำคืนนี้...ก็เป็นเช่นนั้นเอง
เนี้อเรื่องสนุก เดาทางยาก