"นางพ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงต้องนอนพักมาก ๆ ก็จะหายดีได้" เซียวเฟยซิงเงยหน้าขึ้นจากจงไฉ่ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง
"ขอบคุณแม่นางเซียวมากนัก" หวังปี้กระทำคารวะ
"ข้าเพียงใส่ยาให้นางเล็กน้อย ปราณน้ำแข็งของนางห้ามเลือดแลสมานแผลให้มากแล้ว" เซียวเฟยซิงส่ายหน้า
"ท่านพี่" ไช่อี้เหนียงกระตุกแขนเสื้อหวังปี้ "พี่สาวท่านนี้หรือคือธิดาบุปผาเซียวเฟยซิง"
"ใช่แล้ว"
"ข้ายินดีกับท่านพี่นักที่พบตัวนางในที่สุด และขอบอกว่าข้าเข้าใจแล้วไยท่านหลงใหลนางหนักหนา"
หวังปี้เบือนหน้าหนี รู้สึกอับอายนัก
"ท่านพี่เซียว" ไช่อีเหนียงร้อง "ท่านรู้หรือไม่ ยามข้าเจอกับท่านพี่หวังปี้ครั้งแรก ท่านเอ่ยแต่นามของพี่สาว เซียวเฟยซิงอย่างนั้น เซียวเฟยซิงอย่างนี้"
"พอแล้ว อี้เหนียง!!!" หวังปี้ร้อง
"ข้าเกรงว่าหากท่านพี่หวังปี้ไม่หลงคิดว่าท่านตายแล้วคงไม่ยอมรับข้าเป็นภรรยาเป็นแน่"
"ข้า.....รู้สึกเป็นเกียรตินัก" หวังปี้แปลกใจยิ่งนักที่เห็นเซียวเฟยซิงหน้าแดงก่ำ ดูขวยเขินยิ่งกว่าทุกครั้งที่มันเคยเห็น แต่ความขบเขินนี้กลับยิ่งขับเน้นความงามของนางให้เปล่งปลั่งมากขึ้น
"หากไม่ได้แม่นาง วันนี้เมืองแห่งนี้คงแตกพ่าย พวกเราคงล้มตายสิ้น ผู้คนจักต้องเดือดร้อน ข้าติดหนี้บุญคุณแม่นางมากมายนัก" หวังปี้พยายามเปลี่ยนเรื่อง
"ข้าต่างหาก ที่ติดหนี้ท่าน" เซียวเฟยซิงรำพึง "ท่านพี่หวังปี้ ข้าขอโทษ ข้าทำให้ท่านตกอยู่ในอันตรายนัก"
"ติดหนี้อะไรกันอย่างไร" ไช่อี้เหนียงถาม "โปรดเล่าให้ข้าฟังให้หมดเถิด"
หวังปี้อ้าปากจะเล่า แต่จงไฉ่พลิกตัวและส่งเสียงครวญคราง
"เราไปคุยกันต่อที่ห้องของข้าเถิด จะได้ไม่เป็นการรบกวนคนเจ็บ" ไช่อี้เหนียงว่า
หลังจบศึก ไช่อี้เหนียงก็มอบหมายให้ไช่เสี่ยวจินและลุงฉีดูแลเรื่องในเมือง ขณะที่ตัวของนางเอง หวังปี้และเซียวเฟยซิงช่วยกันพาจงไฉ่มาที่หอพยาบาลเพื่อรับการรักษา หมอประจำเมืองและเซียวเฟยซิงช่วยกันทำแผลให้ทั้งสามจนหวังปี้และไช่อี้เหนียงรู้สึกหายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง ทว่าท่านหมอบอกให้จงไฉ่ที่บาดเจ็บมากกว่านอนพักผ่อนอย่างน้อยสามวัน
ขณะที่ทั้งสามออกจากหอพยาบาล ก็เห็นพวกทหารพากันขนร่างคนเจ็บอีกมากเข้าในหอ
หลังจากที่นางหนีจากชิงไห่มาอยู่ปุคไฮ ไช่อี้เหนียงและน้องชายก็อาศัยในจวนในฐานะแขกของอ้วนล่ำผู้เป็นเจ้าเมือง แต่เมื่ออ้วนล่ำเสียชีวิตลง เมืองจึงตกอยู่ภายใต้การปกครองของสำนักคุ้มภัยชิงไห่ชั่วคราวจนกว่าเมืองหลวงจะส่งขุนนางคนใหม่มา
แต่ ณ เวลานี้ จวนเจ้าเมืองก็เป็นที่ว่างเปล่า เหลือแต่เพียงบรรดาบ่าวไพร่เท่านั้น ไช่อี้เหนียงจึงให้จัดห้องไว้เป็นห้องรับรองของหวังปี้ เซียวเฟยซิง และอีกห้องไว้ให้จงไฉ่อาศัยเมื่อนางหายดีแล้ว
"ขอบคุณแม่นางไช่ ที่ดูแลต้อนรับข้าดีนัก" เซียวเฟยซิงว่า
"พี่สาวไม่ต้องขอบคุณดอก" ไช่อี้เหนียงว่า "ท่านเป็นคนสำคัญของพี่หวังปี้ ย่อมเสมือนเป็นคนสำคัญของข้าด้วย"
"ข้าหาคู่ควรไม่" นางพูดเศร้า ๆ
"เมื่อครู่ เจ้าบอกว่าอยากรู้เรื่องที่เกิดหลังเราแยกทาง" หวังปี้ว่า พลางยกชาขึ้นจิบ "เมื่อแยกทางกัน ข้าก็ตามหาเทพกระบี่แลราชสีห์ทองคำ ได้พบว่าเทพกระบี่เสียชีวิตแล้วด้วยโรคชรา แต่บุตรสาวของท่านเยี่ยมยุทธเพลงกระบี่นัก แลนางเปี่ยมน้ำใจ ยินดีหยิบยื่นมือช่วยเหลือข้า"
"ท่านพี่หวังปี้จึงรับนางเป็นภรรยาอีกคน" ไช่อี้เหนียงว่า
หวังปี้สำลักน้ำชา
"แม่นางไช่กล่าวได้แม่นยำนัก" เซียวเฟยซิงว่า
"ข้าเป็นภรรยาท่านพี่หวังปี้ ย่อมรู้ความคิดของมันหมดสิ้น" ไช่อี้เหนียงยิ้ม "แลข้าเคยบอกท่านแล้วว่าบุรุษมีหลายภรรยานั้นเป็นเรื่องธรรมดา ตัวข้าหาถือสาไม่"
"แม่นางไช่ช่างน้ำใจกว้างขวางยิ่งนัก" เซียวเฟยซิงว่า
"ท่านพี่เซียวจึงใคร่ขอน้ำใจจากข้าอีกผู้หนึ่ง" ไช่อี้เหนียงว่า
"ขะ....ข้ามิได้.......ข้าเปล่า" เซียวเฟยซิงระล่ำระลัก หน้าแดงถึงใบหู
"เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน ไยข้าจะไม่รู้" ไช่อี้เหนียงถาม
"แม่นางเซียวหาได้มีจิตปฏิพัทธ์กับข้าไม่ อี้เหนียงโปรดเลิกรบกวนนางเถิด" หวังปี้ว่า
ไช่อี้เหนียงชำเลืองมองเซียวเฟยซิงที่ห่อเหี่ยวลงทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชะ หวังปี้ ท่านตาบอดหรือ
"ข้ากับเทพกระบี่หลิวอังเดินทางร่วมกัน นางฝึกวิชากระบี่ให้ข้า จนเราพบราชสีห์ทองคำแลท่านธิดาบุปผาสู้รบกับมารประจิมอยู่ จึงช่วยกันปราบมารประจิมลงได้ ท่านอ้าวหลางตกลงร่วมปราบหวังฟันเจ้า ท่านแลแม่นางหลิวกำลังออกผูกพันธมิตรกับเหล่าพรรคใหญ่ในยุทธภพอยู่"
"เยี่ยม!!!" ไช่อี้เหนียงตบเข่า "ท่านรวบรวมกำลังแลผู้มีฝีมือได้มากนัก ข้าอยากเห็นหวังฟันเจ้าแลเมืองวิปลาสถูกถล่มจมพสุธาแล้ว"
"ส่วนข้า กับแม่นางเซียว ออกตามหาและได้พบคัมภีร์เอกสุริยัน แม่นางเซียวฝึกวิชา ส่วนข้านั้นไปหาพันธมิตรต่อที่วังน้ำแข็ง"
"อ๋อ ท่านจึงทะเลาะกันด้วยเหตุฉะนี้สินะ" ไช่อี้เหนียงว่า "ท่านหวังให้พี่เซียวอยู่ข้างกายท่านตลอด แต่นางกลับเห็นการฝึกวิชาสำคัญกว่า"
"เรามิได้ทะเลาะกัน" หวังปี้ยืนกราน
"ที่วังน้ำแข็ง ข้าพบแม่นางจงไฉ่...."
"ท่านจึงรับนางเป็นภรรยาอีกคน" ไช่อี้เหนียงต่อให้
"ข้าหาได้รับนางเป็นภรรยาไม่!!!!" หวังปี้ร้อง
"ไว้นางฟื้นข้าจักถาม" ไช่อี้เหนียงว่า
"แม่นางจงไฉ่ตกลงยอมเข้าร่วมขบวนการปราบหวังฟันเจ้า" หวังปี้ว่า "เราจึงร่วมเดินทางด้วยกัน จนบังเอิญไปเจอม้าเร็วส่งสารจากสำนักชิงไห่ ข้ากับนางจึงรีบรุดมาที่นี่"
"ข้าคิดถูกนัก ที่ส่งคนขอความช่วยเหลือ" ไช่อี้เหนียงว่า "แม้นข้าจะคิดไม่ถึง ว่าสารของข้าจะไปถึงมือท่านพี่"
ไช่อี้เหนียงหันไปหาเซียวเฟยซิง "แล้วท่านพี่เซียวเล่า ข้ายังมิรู้เลย ว่าท่านตามพี่หวังปี้มาได้อย่างไร"
เซียวเฟยซิงก้มหน้า "หวังปี้ อภัยให้ข้าเถิด ข้าทำท่านตกอยู่ในอันตรายนัก"
"เรื่องอะไรหรือ" หวังปี้ถาม
"ข้าฝึกสามสิบแปดกระบวนท่าในคัมภีร์เอกสุริยันได้เพียงสิบสองกระบวนท่าก็ตระหนักว่าปราณสุริยันนั้นฤทธิ์ร้ายแรงนักแลแพร่กระจายดั่งไฟลามทุ่ง ข้าตระหนักว่าท่านช่วยรับเอาปราณร้อนส่วนเกินจากในกายข้าไปในวันนั้น...."
"แหม๋........" ไช่อี้เหนียงลากเสียง
"เท่ากับต้องมีปราณสุริยันในร่าง ข้ากลัวนักว่าปราณนั้นจักลุกลามเกินควบคุม เผาผลาญร่างท่านจนไหม้เป็นผงธุลีจากในกาย ข้าเร่งออกจากถ้ำน้ำตกรีบรุดติดตาม ทว่าก็ช้ากว่าท่านก้าวหนึ่งเสมอ ข้าไปพบวังน้ำแข็งละลายสิ้นแล้ว พบกับ............"
นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง "คนแปลก ๆ เจ็ดคนที่ข้าไม่อยากเอ่ยถึง......พฤติกรรมของพวกมันวิตถารนัก ทว่าพวกมันกลับอ้างตนเป็นศิษย์ของท่าน"
หวังปี้เบะปาก "ข้าหาได้รับพวกมันเป็นศิษย์ไม่"
"แล้วข้าจึงได้พบคนส่งสารจากสำนักชิงไห่ จึงรู้ว่าท่านพี่หวังปี้มาที่นี่ และตัวข้าเองจึงติดตามมา"
"เห็นไหม ท่านพี่หวังปี้ นางดั้นด้นติดตามท่านขนาดนี้ นางก็ห่วงใยท่านเหมือนที่ท่านห่วงใยนางนั่นแล ท่านพี่ทั้งสองเลิกงอนแล้วรีบตบแต่งกันเสียเถิด"
หวังปี้กับเซียวเฟยซิงเหวอคู่
"อี้เหนียงเจ้าเลิกหยอกล้อแม่นางเซียวได้แล้ว" หวังปี้ตำหนิ
เซียวเฟยซิงก้มหน้า "ข้ามิอาจเป็นภรรยาของหวังปี้หรือชายใดได้"
"แล้วกัน" ไช่อี้เหนียงท้าวสะเอว "ไยท่านพี่คิดเช่นนั้นเล่า"
เซียวเฟยซิงก้มหน้ามิเอ่ยวาจา หวังปี้จึงกล่าวตอบแทน "แม่นางเซียวฝึกเคล็ดวิชาสำนักหมื่นบุปผา หากสูญเสียพรหมจรรย์ พลังยุทธจะสูญสิ้น"
ไช่อี้เหนียงพยักหน้าเบา ๆ ราวกับเข้าใจแล้ว "ท่านพี่เซียว บอกข้ามาตามตรงเถิด หากท่านเสียพรหมจรรย์ได้ ท่าจะยอมมอบกายให้พี่หวังปี้หรือไม่"
"............" เซียวเฟยซิงปิดปากเงียบ ก่อนจะมองหน้าไช่อี้เหนียง "ข้าจักยอม"
หัวใจหวังปี้กระโดดโลดเต้น
ไช่อี้เหนียงยิ้ม "ท่านโกหกข้ามิได้หรอก ความรู้สึกของท่านเด่นชัดนักมาแต่แรกแล้ว.........พี่สาว หากข้าจะบอกท่านว่าสตรีสามารถร่วมเตียงกับบุรุษได้โดยมิต้องสูญเสียพรหมจรรย์"
เซียวเฟยซิงฉวยคว้ามือไช่อี้เหนียง ร่างกายเหยียดตรงขึ้นทันที "น้องไช่โปรดแนะนำให้พี่เถิด"
ไช่อี้เหนียงหัวเราะ "ท่านพี่หวังปี้เห็นหรือยังว่าพี่เซียวรักท่านเพียงใด"
"แม่นางเซียว ท่านแน่ใจแล้วหรือ" หวังปี้ถาม
นางพยักหน้ารัวเร็ว "หากรู้ว่าทำเช่นนี้ได้ข้าไม่พยายามตีตัวออกห่างจากท่านดอก....ที่ข้าขับไล่ท่านวันนั้น....ด้วยเกรงว่าหากข้าไม่อาจหักห้ามใจตนเองได้ทอดกายให้ท่านเสีย ข้าจักมิอาจช่วยเหลือท่านได้อีกยามสู้กับหวังฟันเจ้า"
หวังปี้อดไม่ไหวจุมพิตที่ปากนุ่มนิ่มของนาง เซียวเฟยซิงที่ปรกติเย็นชานักแทบจะละลายลงไปต่อหน้ามัน
"ท่านพี่..." ไช่อี้เหนียงส่งเสียงออดอ้อน
"แน่นอน ข้ามิมีวันลืมอี้เหนียงของข้าอยู่แล้ว" มันจุมพุดสองแก้มสลับกันก่อนจะจูบปากนาง
ไช่อี้เหนียงชำเลืองมองให้แน่ใจว่าประตูห้องปิดลงกลอนแน่นหนาแล้ว แล้วจึงหันไปหาเซียวเฟยซิง
"ท่านพี่เฟยซิง ปลดเปลื้องอาภรณ์ของท่านออกเถิด"
เซียวเฟยซิงหน้าแดงแก่ก่ำ แต่ก็พยักหน้า ยกมือขึ้นปลดผ้าผูกผมออก "น้องอี้เหนียงนำทางให้พี่สาวด้วยเถิด"
มือของเซียวเฟยซิงสั่นเทานักยามปลดเปลื้องเสื้อคลุมตัวนอกออก ไช่อี้เหนียงลุกขึ้นช่วยประคับประคองราวกับตนเองเป็นหญิงรับใช้
"แม่นางเซียวไยประหม่าจนตัวสั่นเทาเล่า" หวังปี้ร้องถาม "ท่านบอกไว้มิใช่หรือว่าข้าเคยเห็นหมดสิ้น ท่านมิมีสิ่งใดต้องปกปิดแล้ว"
"วันนั้นข้าหาได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าด้วยหวังทอดกายให้ท่านเชยชมไม่" เซียวเฟยซิงเถียง พลางก็ดึงผ้าพันรอบเอวออก
"หวังปี้ ท่านพี่ลามกนัก" ไช่อี้เหนียงบ่น "ดูซี ท่านพี่เฟยซิง แก่นกายพี่หวังปี้ขยายใหญ่โตนัก นูนจนกางเกงปิดไม่มิดอยู่แล้ว"
"ว๊ายยยยยยยยยยยย" เซียวเฟยซิงร้อง เอามือปิดหน้า
"พี่เฟยซิงช่างน่ารักนัก" ไช่อี้เหนียงว่า
ครู่เดียวเซียวเฟยซิงก็เหลือเพียงอาภรณ์ตัวในตัวเดียว เป็นแพรขาวเบาบางนัก แทบจะปิดเต้าอวบแลบอมปทุมถันสีชมพูสดไม่มิด ด้านล่างเล่าก็สั้นเสมอเพียงถ้ำสตรี นางเอามือเกี่ยวดึงเชือกที่พันด้านข้างออก ทว่าไช่อี้เหนียงรีบรั้งมือไว้
"หยุดพี่ทำไมเล่า น้องอี้เหนียง" เซียวเฟยซิงถาม
"สตรีนุ่งน้อยห่มน้อยปลุกเร้าอารมณ์กว่าสตรีเปล่าเปลือยนัก" ไช่อี้เหนียงว่า "ท่านพี่ถอดเสื้อผ้าให้ข้าบ้างเถิด"
"ให้ข้าช่วยถอดด้วยเถิด" หวังปี้ร้อง ลุกขึ้นยืน สองมือเอื้อมไขว่คว้า
ไช่อี้เหนียงหัวร่อคิกคัก "ท่านพี่เฟยซิงช่วยข้าด้วย โจรหื่นกามจักถอดเสื้อผ้าข้า"
ขวับ!!!! เซียวเฟยซิงในสภาพเกือบเปลือยปัดป้องสกัดกั้นหวังปี้รวดเร็วรุนแรงจนไช่อี้เหนียงตกใจ ครู่หนึ่งกลัวว่าเซียวเฟยซิงจะเข้าใจผิดและพยายามต่อสู้กับหวังปี้จริง ๆ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง ไช่อี้เหนียงก็รู้ว่านางเพียงล้อเล่นเท่านั้น แลหวังปี้ก็ตอบโต้รุนแรงไม่แพ้กัน มือแขนแลข้อศอกของทั้งคู่ปะทะกันรวดเร็วจนนางมองแทบไม่ทัน
"ท่านพี่ทั้งสองวรยุทธล้ำเลิศนัก" นางว่า "แม้เพียงล้อเล่นกันวิชาของท่านยังล้ำลึกยิ่ง"
ฝ่ามือตะปบเต้าลอยมาจากไหนไม่รู้กระแทกถูกหน้าอกของนาง ไช่อี้เหนียงร้องว๊ายดังลั่น
"น้องอี้เหนียงระวังตัวด้วย!!!" เซียวเฟยซิงร้อง "เจ้าโจรหื่นกามมันฝีมือดีนัก"
สู้กันเล่น ๆ ได้ถึงเจ็ดสิบกระบวนท่าหวังปี้จึงฉวยโอกาสโอบร่างพวกนางฝั่งละคนทั้งสองฝั่งแล้วหงายหลังล้มลงนอนบนเตียง ทั้งตัวมันเองแลสตรีทั้งสองล้วนเปลือยเปล่าและชุ่มเหงื่อไปทั้งกาย
"โอยยยย" ไช่อี้เหนียงคราง "ข้าจะขยับตัวไม่ไหวอยู่แล้ว พวกพี่เล่นอันใดกัน"
"เจ้าเป็นคนเริ่มมิใช่หรือ" เซียวเฟยซิงร้องถาม พลางหัวเราะคิกคัก ใบหน้าก็อิงแอบแนบชิดกับอกกว้างของหวังปี้
"แล้วไยข้าโดนตะปบเต้าอยู่คนเดียวเล่า" ไช่อี้เหนียงประท้วง "ตะปบอยู่นั่นแล เต้านมของข้าบอบช้ำหมดแล้ว"
"หวังปี้พยายามตะปบเต้าข้าถึงสิบแปดครั้ง แต่ข้าปัดป้องได้หมด" เซียวเฟยซิงว่า "มันพยายามตะปบเต้าเจ้าเพียงสิบเอ็ดครั้ง แต่เจ้าโดนทุกครั้ง"
"ท่านเก่งนัก เฟยซิง" หวังปี้ก้มลงจุมพิตที่เหนือกระหม่อมเซียวเฟยซิง ก่อนจะหันไปหอมแก้มไช่อี้เหนียง "แลนมเจ้านุ่มหยุ่นนัก ภรรยาข้า"
มือของเซียวเฟยซิงเอื้อมไปจับแท่งทวนเนื้อ "ท่านให้สิ่งนี้ฟาดฟันใส่ข้าหลายครั้งนัก"
"ขออภัย แท้จริงข้าอยากใช้มันทิ่มแทงท่านมากกว่า"
เซียวเฟยซิงหน้าแดง
"มาเถิด ถึงเวลาแล้ว" ไช่อี้เหนียงว่า "พี่เฟยซิง ท่านนอนหงายลงเถิด หวังปี้ ท่านลุกขึ้นก่อน"
ทั้งคู่ทำตามอย่างว่าง่าย ไช่อี้เหนียงคลานไปอยู่ข้างกายเซียวเฟยซิง นิ้วเรียวบางแตะไปที่ถ้ำหยกของนางและค่อย ๆ ดันให้แหวกออก เซียวเฟยซิงเอามือปิดหน้า
"ของพี่ท่านเป็นสีชมพูสดงดงามนัก" ไช่อี้เหนียงว่า
และเมื่อแหวกปากโพรงออกจนสุดนางก็เห็นเยื่อสีซีดที่ขึงปิดส่วนลึกของโพรงเนื้อไว้
"ท่านพี่หวังปี้ โปรดฟังข้า" ไช่อี้เหนียงว่า "ท่านแทงทวนเนื้อใส่ร่างนางจนสุดไม่ได้ จงใส่เข้ามาจนข้าบอกให้หยุดเถิด"  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ถ้ากลัวเสียผู้ช่วยเพราะเรื่่องพรมจรรย์ ก็เข้าประตูหลังสิ... ::Oops::
แหม....เข้าใจคิดนะเนี่ย... ::Suffocate::
ช่างล้ำเลิศวรยุทธ แม้แต่จะ...ยังใช้วรยุธ เป็นไปได้ไหมที่จักเรียนรู้พลังนี้