เรือที่พวกเราโดยสารมาที่เกาะ เป็นเรือยอร์ชที่รับผู้โดยสารได้ประมาณ 20 คน พร้อมอาหารว่างจำพวกกานาเป คลอแก็ต เสริฟพร้อมมอคเทล แต่ไม่มีคอกเทลหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะตัดปัญหาเรื่องข้อห้ามการเดินเรือ มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ติดแอร์เย็นฉ่ำ ถ้ารู้ว่าต้องนั่งเรืออีกเกือบชั่วโมงครึ่ง ฉันคงชวนสามีไปนอนพัก เพราะพอเจอแดดในช่วงบ่าย อาการอ่อนเพลีย(จากการออกกำลังช่วงดึก)ก็เริ่มเข้ามากวนใจจนน่ารำคาญ
สาวๆ ทุกคน รวมทั้งแก้ว ดููเป็นกันเอง ชวนฉันคุย และเทคแคร์ไม่ให้ฉันเหงา ดูจากบุคลิกโดยรวมแล้ว แก้วเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ไม่น่าเชื่อว่า เธอจะเป็นคนวางยาปลุกเซ็กส์ในคืนนั้น จนเหตุการณ์เลยเถิดมาไกลถึงทุกวันนี้
กว่าจะถึงเกาะที่เป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ก็ใกล้เวลา 5 โมงเย็นแล้ว ดอน แจ้งให้ทุกคนทราบว่ามีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อย โดยจะให้เรือไปจอดลอยคอนิ่งๆ อยู่ที่บริเวณหลังเกาะ แทนที่จะไปบริเวณท่าสะพานด้านหน้า เพราะท่ากำลังซ่อมแซมยังไม่แล้วเสร็จดี และจากท่าเรือจะต้องอาศัยรถบัสเดินทางต่อไปที่ตัวรีสอร์ทอีก แต่ถ้าลงเรือเล็กไปขึ้นทางหลังเกาะ จะสามารถเดินเข้าไปยังรีสอร์ทได้โดยตรง ข้อสำคัญคือ จะได้มีเวลาพอเก็บข้าวของ และสามารถมาชมพระอาทิตย์ตกดินได้ทันเวลา โดยที่ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมากนัก
เรือเล็กที่้ใช้พาพวกเราเข้าไปยังชายหาดด้านหลังเกาะ เป็นเรือลมยางติดเครื่องยนต์ บรรทุกคนได้หลายคน แต่เพื่อไม่ให้แออัด พวกผู้ชายจึงให้สาวๆ ลงเรือเข้าฝั่งไปก่อน แก้วดูเหมือนจะจงใจรีบก้าวตามลงมานั่งข้างๆฉัน เมื่อเรือเล็กเริ่มเดินเครื่องยนต์เร่งเครื่องเพื่อออกตัว เธอถามฉันด้วยเสียงค่อนข้างดัง แข่งกับเสียงลมและเสียงเครื่องยนต์
"หึงแก้วเหรอ..."
ฉันหันไปมองเธอแล้วยิ้ม ส่ายหน้าปฏิเสธเพื่อรักษามารยาท
"ไม่รู้สันต์เล่าอะไรให้ติ๋วฟังไปบ้างแล้ว แต่แก้วยืนยันว่า สันต์เป็นแค่เพื่อน เชื่อใจแก้วนะ"
เธอกุมมือฉันไว้แน่นเหมือนยืนยัน ฉันได้แต่ยิ้มจางๆ เราหันกลับไปมองทางหัวเรือ มองเห็นฝั่งเป็นหาดทรายเล็กๆ สีขาวสะอาดอยู่ตรงหน้า
แก้วจับมือฉันไว้ตลอด เมื่อเครื่องยนต์เรือหยุดสนิท เราก็กระโดดลงจากเรือพร้อมๆกัน เธอจูงมือฉันก้าวลุยน้ำที่สูงประมาณหัวเข่ามุ่งหน้าเข้าฝั่ง ฉันแอบมองเธอบ่อยครั้ง เธอดูจริงใจ ฉันรับรู้ได้ถึงความรู้สึกลึกๆ ในฐานะผู้หญิงด้วยกัน
...แต่ในทางตรงกันข้าม แท่งทวนสามีของฉัน ที่แข็งแกร่งขึ้นมาในทันทีที่พูดถึงแก้ว มันยืนยันได้ถึงความพิเศษของเธออย่างหมดข้อสงสัย
--------------------
พวกเราทั้ง 8 คนมารวมตัวกันที่ร้านอาหารริมทะเล ซึ่งจัดเป็นที่สำหรับรับประทานอาหารเช้าของรีสอร์ท ห่างจากจุดที่เพิ่งขึ้นฝั่งมาเมื่อครู่ไม่ไกลนัก
กุ้งทำหน้าที่เจ้าบ้านแนะนำสถานที่ เธอหันมามองฉัน ยิ้มให้ ก่อนที่และชี้แจงรายละเอียดว่า จริงๆแล้ว ที่นี่เพิ่งถูกปรับปรุงใหม่และกำลังจะเปิดรับนักท่องเที่ยวจริงหลังจากทริปนี้ของเราจบลงแล้ว ดังนั้น พวกเราจึงเป็นแขกกลุ่มแรกที่เข้าพักอย่างเป็นทางการของรีสอร์ทแห่งนี้
ดอนแจ้งให้ทราบว่า สัมภาระของทุกคน ถูกนำไปเก็บไว้ที่ห้องหมดแล้ว เดิมทีเขาจัดให้ทุกคนพักในส่วนพูลวิลล่ารวม ที่มีพื้นที่เปิดโล่ง ห้องพักแต่ละห้องล้อมเป็นวงกลมอยู่รอบสระว่ายน้ำตรงกลาง แต่วิทย์ขอให้จัดงานไนท์ปาร์ตี้ในห้องปรับอากาศ เพราะเขาต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์นำเข้าชิ้นใหม่ของเขาให้กลุ่มของเราได้ทดลองใช้ และขอคำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมาเพื่อประกอบการตัดสินใจเซ็นสัญญา จึงเปลี่ยนไปใช้ห้องฟร้อนวิวริมทะเล ห้องกลางที่ใช้จัดเลี้ยงคืนนี้จะพักได้ 2 คู่ 2 ห้องนอน โดยคู่ของดอนและวิทย์จะใช้ห้องที่จัดเลี้ยงนี้เป็นที่พัก ส่วนคู่กิจและสันต์จะให้ไปพักที่บ้านพักเดี่ยวทางด้านหลัง ไม่ห่างจากห้องฟร้อนวิวมากนัก
พวกเราแยกย้ายกันเข้าไปจัดการเรื่องส่วนตัวในห้องพักของตัวเอง ก่อนที่จะมารวมกันอีกครั้งที่ร้านอาหารนอกฟร้อนท์ ติดวิวทะเลทางท้ายเกาะเพื่อทานอาหาร และชมพระอาทิตย์ยามอัสดง อาหารที่นี่จัดทั้งแบบที่เป็นฟิวชั่นฟูด และอาหารไทยแบบดั้งเดิม พวกผู้ชายยังคงคุยเรื่องธุรกิจกันตลอดเวลา จนสาวกุ้งต้องกระแอมเพื่อห้ามปราม และแนะให้มาสนใจพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินเสียบ้าง เธอย้ำว่า มันสวยกว่าที่กรุงเทพฯ แบบเทียบกันไม่ได้ ฉันมองทอดสายตาออกไปไกลตามที่กุ้งแนะนำ บรรยากาศ และสีสันที่ออกแดงอมส้ม สลับกับสีฟ้าเข้มที่เริ่มจะกลืนกินสีอื่นๆ ไปช้าๆ ทัศนียภาพเหมือนรูปภาพที่เคยเห็นแต่ในภาพถ่ายหรือเว็บไซต์นำเที่ยวปรากฎจริงอยู่ตรงหน้า มันดูสวยกว่าพระอาทิตย์ตกในตัวเมืองอย่างกับเป็นพระอาทิตย์คนละดวงกัน
สันต์กุมมือฉันไว้ เขาหันมามองฉันที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ยกมือฉันขึ้นจูบเหมือนกับเราอยู่กันแค่ 2 คน ฉันรับรู้ สันต์น่าจะจับความรู้สึกหึงหวงของฉันได้ เพราะตั้งแต่ลงจากเรือ เขาอยู่ข้างๆ ฉันตลอดเวลา และไม่เคยแม้แต่จะเหลือบไปมองสาวแก้วโดยไม่จำเป็น กุ้งเห็นอาการของเราทั้งสองแล้ว อดกลั้นหัวเราะไม่ได้
"คู่นี้เกาะกันแจเลยนะ...กลัวใครจะปล่ำติ๋วเหรอ... "
เสียงหัวเราะของทุกคน ทำลายความเงียบและบรรยากาศการชมพระอาทิตย์อัสดงไปชั่วขณะ สันต์หอมแก้มฉันฟอดใหญ่เป็นการแก้เขิน แต่ฉันนี่สิ เขินหนักจนหน้าแดงกร่ำ เขากอดฉัน ดึงไหล่ให้ร่างของเรากระชับกันยิ่งขึ้น น่าจะเป็นคำยืนยันกลายๆ ว่า คืนนี้ เขาจะไม่ให้ใครเข้ามาจัดฉันได้ง่ายๆ
---------------------
วิทย์ในฐานะตัวตั้งตัวตีในการจัดงานนี้ ลุกขึ้นยืนเพื่อทำหน้าที่เป็นพิธีกร เขาเล่าถึงอดีตและความดีของสันต์แบบสคิปทั่วๆไปตามงานพิธีที่เป็นทางการต่างๆ การแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการจบลงที่การกล่าวขอบคุณของสันต์ พระเอกของงาน
การทานอาหารเย็นพร้อมเครื่องดื่ม ดำเนินไปเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ดูจะเป็นเรื่องปกติของหนุ่มๆ ในกลุ่มนี้ ที่จะทานอาหารพร้อมทั้งการคุยงานไปด้วยอย่างออกรส แต่ละคนล้วนมีโปรเจคทั้งเรื่องการท่องเที่ยว การนำเข้าสินค้า แต่ก็เหมือนไม่ได้ซีเรียดอะไรมากนัก เพราะแม้แต่เรื่องทะเลาะกับชิปปิ้งบางเจ้า ก็ยังนำมาเล่าให้แต่ละคนฟังเหมือนเป็นมุกเรื่องตลกประจำสับดาห์
เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง กัปตันและพนักงานร้านอาหารคนหนึ่ง เดินเข้ามาก้มกระซิบข้างหูคุณดอน เขาพยักหน้ารับรู้ แล้วบอกให้พวกเราทุกคนเริ่มขยับขยาย ย้ายที่สังสรรค์เข้าไปในห้องฟร้อนท์วิวภายในรีสอร์ท ซึ่งพนักงานได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้ครบถ้วนตามคำสั่งแล้ว
"เพื่อนๆครับ เดี๋ยวน้องๆ เขาจะปิดประตูทางเข้าที่เชื่อมร้านอาหารกับรีสอร์ทให้ หลังจากเราเข้าไปจัดไนท์ปาร์ตี้ที่ด้านในกันแล้ว เพื่อความเป็นส่วนตัวของพวกเรา ผมสั่งให้พวกน้องๆ ทุกคนกลับไปบ้านได้เลย... เพราะฉะนั้น มีอะไรที่ยังขาดเหลือ รีบบอกน้องๆ เขาก่อนนะ ไม่งั้นคงต้องรอถึงช่วงเช้า ตอนที่พวกเขากลับเข้ามาเตรียมเบรกฟัส..."
---------------------
พวกเราย้ายที่สังสรรค์มาร่วมตัวกันที่ห้องพักริมชายหาดทางหลังเกาะ เมื่อถึงเวลาใกล้สี่ทุุ่ม วิทย์ก็เดินไปปิดไฟส่องสว่างหลักของอาคารทั้งหลัง เวลานี้ ทุกอย่างดูมืดสลัว ภายในห้องมีเพียงแสงไฟสีอุ่นซึ่งส่องสว่างจากหลอดไฟหลืบฝ้าที่ซ่อนอยู่หลังขอบไม้เท่านั้น ที่สะท้อนแสงกับผนังบนเพดานห้อง ลงมาที่พื้นและโซฟาเบื้องล่าง แต่ในความมืดสลัวนั้น ยังพอมองเห็นการตกแต่งห้องอย่างอบอุ่นด้วยโซฟานุ่มและหมอนอิงหลากสี มันให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล สงบและผ่อนคลาย
ห้องนั่งเล่นห้องนี้ ถูกออกแบบให้อยู่ต่ำระดับกว่าพื้นห้องนอน แต่ก็สามารถก้าวขึ้นบันไดเข้าไปยังห้องนอนได้ง่ายๆ ผ่านบันไดไม้เล็ก ๆ ตรงกลางท้ายห้อง ห้องนอนที่มองเห็นผ่านกระจก ตกแต่งด้วยเตียงใหญ่สีขาว ประดับด้วยหมอนลายทางสีน้ำเงิน-ขาว เพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยผ้าขนหนูพับเป็นรูปหงส์อย่างประณีต ผนังห้องนอนมีส่วนประกอบของกระจกใส สามารถมองเห็นทุกอย่างในห้องจากบริเวณที่นั่งเล่นได้อย่างชัดเจน หากไม่มีการปิดม่านริมผนังทั้งสองด้าน อาคารหลังนี้มี 2 ห้องนอนที่เปิดทะลุถึงกันได้ เตียงนอนขนาดใหญ่ในห้องนอนจัดไว้อย่างสบายตา พร้อมพัดลมห้อยเหนือเตียงนอนรูปใบพัดใบไม้ที่แทบไม่ได้ใช้เนื่องจากติดเครื่องปรับอากาศไว้แล้วทุกห้อง โคมไฟบริเวณหัวเตียงและแสงอ่อนๆ จากหลืบฝ้าถูกเปิดทิ้งไว้พอให้เห็นรายละเอียดของห้องได้แม้จะอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นทางด้านล่าง
เครื่องหอมก้อนเล็กๆ กำลังเผาไหม้ในถาดทองเหลือง ที่วางกระจายอยู่ในมุมของแต่ละห้อง ส่งกลิ่นหอมของดอกไม้หลายชนิด แต่กลิ่นที่โดดเด่นออกมาน่าจะเป็นกลิ่นคล้ายดอกลาเวนเดอร์ กระจายอบอวนอยู่ภายในห้องทั้งสามห้อง วิทย์บอกกับทุกคนว่ามันคือกำยานที่นำเข้าจากประเทศจอร์แดน มีสรรพคุณทางยา ทำให้มีสมาธิ และช่วยรักษาอาการอักเสบ
ฉันคิดไปเองหรือเปล่าไม่รู้ แต่คืนนี้ ฉันรู้สึกผ่อนคลาย และกล้าที่จะแสดงออกทางความรู้สึกได้มากกว่าปกติ
อยู่ดีๆ ฉันก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่างจากผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉัน อาจจะเพราะกลิ่นกำยานติดจมูกหรือเปล่าไม่รู้ มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม แต่หอมน่าหลงไหลเหลือเกิน ฉันหันไปมองพวกเขาอย่างเต็มตาใต้เงาสลัว ก่อนที่จะยกแก้วไวน์ขึ้นกระดกแก้เขินอาย
สันต์ดูหล่อ น่าหลงไหลเหลือเกินใต้เงาสลัวแบบนี้
วิทย์นำไพ่ทรูออแดร์ มัลติคูเพิ้ลออกมาให้เล่นสนุกกัน พวกเราใช้ไวน์แทนวิสกี้ในการเล่นเกมส์ และให้ผู้หญิงทุกคนเป็นคนเล่น โดยมีสามีของแต่ละคนเป็นผู้ช่วย
คำท้าลามกทั้งหลาย ปรากฎให้เห็นในการ์ดท้าบ่อยครั้ง มีทั้งท้าให้ทำท่าร่วมรัก ท้าให้พาแฟนไปจัดโดยเล่นท่าพิศดารที่ห้องข้างๆ ให้ถอดเสื้อผ้าในตัวออก 3 ชิ้น และอื่นๆ บราๆๆ ระหว่างเล่นเกมส์ ฉันดื่มไปแล้วหลายแก้วเพราะไม่อยากทำตามคำท้า แต่ที่ไม่กลัวเรื่องโดนวางยา เพราะฉันเป็นคนหยิบแก้วไวน์มาเทเครื่องดื่มเสริฟให้กับทุกคนด้วยตัวเอง
ทำไมฉันรู้สึกว่าสันต์มีสเน่ห์เหลือเกิน เขามีกลิ่นหอมประหลาด ฉันแอบก้มลงไปหอมกลิ่นนั้น ที่ซอกคอเขาบ่อยครั้ง ทำไมฉันอยากเอาเขาตอนนี้จัง...
พวกเราทั้งแปดคนนั่งอยู่บนพื้นที่ปูไว้ด้วยเบาะคล้ายกับเสื่อทาทามิหนาๆ ล้อมรอบโต๊ะทรงกลมบริเวณกลางห้องนั่งเล่น ที่ตรงกลางของโต๊ะ มีโคมไฟโครเมี่ยมทรงสูงให้แสงสว่างที่มากพอสำหรับการมองเห็น ไวน์แดงหนึ่งขวด และแก้วไวน์ที่รินไวน์เตรียมไว้แล้วจำนวนเท่ากับจำนวนคน กุ้ง-สาวทอมที่มั่นที่สุดในกลุ่ม ถึงรอบที่จะต้องจั่วไพ่ตรงกลางวง เธอหยิบไพ่ใบบนสุด แล้วเปิดออกหงายให้ทุกคนเห็น ก่อนที่จะอ่านข้อความในนั้นออกมาดังๆ
" นอกจากแฟนของคุณ เพื่อนคนไหนในกลุ่มนี้ที่คุณอยากร่วมรักด้วยมากที่สุด และทำไม... 5 ช็อต..."
เธอหันหน้าไปมองทางวิทย์ ยิ้มหวานกวนๆ ให้ ท่าทางเหมือนสาวมั่นแหย่เสือหลับ
"เอาไอ้วิทย์ดีกว่า มันเอาเก่ง เอามันดี..."
"ปากดีนัก... มานี่เลย..." วิทย์เดินตรงเข้ามาดึงรั้งให้กุ้งลุกขึ้นยืน ดอนได้แต่หัวเราะ ไม่ได้ห้ามปรามอะไร กุ้งถูกวิทย์จับมือลากให้ขึ้นบันไดเพื่อจะเข้าไปด้านหลังผนังกระจก
"จะพากุ้งไปไหน... ปล่อยดิ..."
"ไปเอากับแกล้ม ขนมในห้องกู..."
วิทย์ยังคงจับมือกุ้งไว้แน่น เขาพาเธอเดินขึ้นบันได ผ่านเข้าไปในห้องนอน ไม่ได้เข้าใกล้เตียงที่อยู่ตรงกลางห้อง แต่พาสาวทอมเดินตรงไปที่ประตูที่ติดกัน ซึ่งเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่ง
"เฮ้ย... ขนมที่มึงฝากไว้ อยู่ที่หัวเตียง..."
ดอนตะโกนบอกไล่หลังทั้งคู่ เห็นเงาของวิทย์ หยุดชะงัก แล้วหันกลับมาแวะที่บริเวณลิ้นชักหัวเตียงห้องนอนห้องแรกโดยยังไม่ปล่อยมือจากสาวสวย เขาเหมือนหาอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะจูงมือสาวแว่นมาดเท่ หายเข้าไปในห้องนอนด้านข้าง
ดอนได้แต่หัวเราะ ทั้งที่แฟนตัวเองถูกฉุดไปต่อหน้า
แก้วกระแอมออกมาเบาๆครั้งหนึ่ง เธอหันไปมองทางห้องนอนด้านในที่เป็นที่พักของเธอและสามี เหมือนรู้ แต่ก็หันกลับมายิ้มให้ทุกคน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ตาแก้วละ..... อ่านเลยนะ... คุณชอบดูหนังโป้หรือเปล่า และชอบประเภทไหน, ถ้าไม่ตอบ 2 ช็อต... เดี๋ยวๆ แก้วขอใช้สเปเชียลการ์ด สลับคน ให้คุณสุเป็นคนตอบแทน" แก้วหยิบไพ่ในมือหงายออกเพื่อยืนยัน
คุณสุ สาวสวยตัวเล็กๆ แสนจะผู้ดี อยู่ดีๆ ก็เอนร่างเข้าไปกกกอดแขนของดอน แฟนของเพื่อนไว้อย่างแนบชิด แม้จะอยู่ในเงามืด แต่ฉันก็สังเกตเห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อ ของเธอได้อย่างชัดเจน
คุณสุมองหน้าทุกคนแบบอายๆ แต่ก็ไม่ได้ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม
"ชอบค่ะ ชอบแนวข่มขืน..." เสียงอุทาน "โอ้โห..." ของฉันและแก้วดังขึ้นพร้อมๆ กัน
...ฉันนึกถึงเรื่องที่สันต์เล่าให้ฟังเมื่อคืนวาน จริงสิ ดอนคือผู้ชายคนแรกของคุณสุ หรือคุณสุจะถูกดอนข่มขืน...
ดูเหมือนว่า ตอนนี้ ดอนก็เริ่มตอบสนองสาวสวยร่างเล็กบ้างแล้ว เขาเชยคางเธอขึ้นมาจูบ เธอแสดงจริตด้วยการเอียงอายหลบ แต่สุดท้ายก็เผยอปากยกให้ชายหนุ่มสอดแลกลิ้นกันไปมาอย่างได้อารมณ์
แล้วกิจ สามีของคุณสุล่ะ...
กิจยื่นมือมาจั่วการ์ดในกองเสียอย่างนั้น เขาหงายไพ่ ก่อนที่อ่านข้อความนั้นออกมาดังๆ
"คุณเคยหวั่นไหวกับแฟนของเพื่อนบ้างหรือเปล่า ถ้าเคย บอกได้ไหมว่าใคร..."
กิจมองไปที่แก้วอย่างหื่นกระหาย เขาก้มลงจูบเธอนิ่งนาน ก่อนที่จะล้วงมือผ่านขอบกางเกงยางยืดของแก้ว เข้าไปเค้นคลึงช่วงกลางบริเวณหว่างขาของเธออย่างหนักหน่วง 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
เกมแบบนี้ ลองได้เล่น ก็โดนแน่ๆ บวก กลิ่นเทียนกำยาน ที่อาจใช้กลิ่นกระตุ้นอารมณ์เข้า แบบนี้ โดนแบบเต๋มใจงง
ค่อยๆแยกกันไปทีละคู่ .. ใครจะมาลงเอยกับสันต์และแฟนหนอ ..
จะโดนใครเปิดนะ.... แล้ว... จะติดใจรึเปล่า
มีไพ่เปลี่ยนคู่เปลียนชีวิตประกอบการปาร์ตี้พักแรมที่ไหนเมื่อไหร่ ก็ได้เปลี่ยนไปตามเกม
คราวนี้คนที่ต้องทำใจน่าจะเป็นสันต์ที่กืนของเพื่อนมานานแล้ว