แก้ไขล่าสุด boommyza เมื่อ 2009-12-31 15:34
1. เดอะเวฟ (The Wave) ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fi2%2Fs9001.jpg&hash=31158a1abe944ca66f36fac110f206c0817a499d) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=b0574085afb202846507955325cd8167)
"เดอะเวฟ" คือ ภูเขาหินทรายที่ฟอร์มตัวในลักษณะคล้ายคลื่นลาดชัน เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 190 ล้านปีก่อนหรือในยุคจูราสสิก เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีความเปราะบางมาก ทางการจึงจำกัดให้เข้าชมได้เพียงวันละไม่เกิน 20 คน และต้องเดินเท้าเข้าไปเกือบ 5 ก.ม. จึงจะถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้
2. Tessellated Pavement บนเกาะแทสเมเนีย (รัฐหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย)
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fih%2Flf002.jpg&hash=2c576b37d7bba46b47e84da34b3ba51ec97d2dd0) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=833a05090e1b608141dab138b56921b6)
นี่คือภาพลานหินตะกอนบริเวณชายฝั่งที่ Eaglehawk Neck บนเกาะแทสมาเนีย ซึ่งถ้าหากมองเผินๆ จะแลดูคล้ายมีใครนำแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มาวางเรียงรายริมทะเล (บริเวณขอบสี่เหลี่ยมที่เราเห็นเป็นแนวเส้นตรงนั้น เกิดจากแรงตึงเครียดของผิวโลก ผนวกกับการกัดเซาะอย่างต่อเนื่องของคลื่นและแรงเสียดสีของทราย)
3. หินรูปทรงประหลาด ในทะเลทรายขาว (White Desert) ประเทศอียิปต์
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fic%2Fcw003.jpg&hash=34941cda78abe6b4ca14313082ffa9d87da46312) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=8a22caa2162c035d5537fb3cbe817d3c)
ทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Farafra Oasis มีลักษณะเป็นสีขาวและครีม ประกอบด้วยกลุ่มหินชอล์ครูปทรงประหลาดขนาดใหญ่มากมาย อันเป็นผลงานของพายุทรายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
4. บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring) ที่เบปปุ ประเทศญี่ปุ่น
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fim%2F6y004.jpg&hash=fb12fe71d1423fc8e24af5f293cc977216d6802c) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=28562853e3e8f5d761176cee191e7b99)
น้ำพุร้อนสีเลือด (Chinoike Jigoku) เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง
5. Giant's Causeway ที่ไอร์แลนด์เหนือ
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fih%2F0c005.jpg&hash=255b58e66d684510ef0f4dc685b9508e448a7926) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=487ac70092b6f22cae8d414f52eea085)
Giant's Causeway เป็นชายฝั่งที่เกิดจากการเย็นตัวของหินภูเขาไฟเมื่อประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดหินรูปหกเหลี่ยมและหินแท่งสี่เหลี่ยมกว่า 40,000 แท่ง องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน Giant´s Causeway เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529)
6. ทะเลเกลือ (salt flats) ที่ Salar de Uyuni ประเทศโบลิเวีย
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fil%2Fok006.jpg&hash=cba9fb2c8fb72661d7de1df2dd5bbe013c0a77d2) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=4a35b160a889959e565d9438435482d0)
จริงๆ แล้วที่ราบเกลือหรือทะเลเกลือลักษณะนี้มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ทะเลเกลือที่ Salar de Uyuni ของประเทศโบลิเวียนั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร
7. ป่าหิน (Stone Forest) เมืองคุนหมิง มลฑลยูนาน ประเทศจีน
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimages.torrentmove.com%2Fia%2Fpicture09103037534374.jpg&hash=311112ed1256aa9fbf4deb4e26123357a3988da0)
อุทยานป่าหิน (Shilin National Park) ใน เมืองคุนหมิง จัดเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่มากถึง 350 ตารางกิโลเมตร แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 12 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น เดิมทีหินปูนเหล่านี้อยู่ใต้ผิวโลก แต่ภายหลังได้ถูกดันขึ้นมาในลักษณะเดียวกับหินงอก เชื่อกันว่าป่าหินแห่งนี้มีอายุราว 270 ล้านปีเลยทีเดียว
8. ธารน้ำแข็ง Taylor ใน McMurdo Dry Valleys ที่แอนตาร์คติกา (ขั้วโลกใต้)
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fi4%2Ffu008.jpg&hash=35f672fc91644a50d75c49de6868bc55f6017bbc) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=47d8ebf574af6d68d631bd6d59523d13)
ธารน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นสีแดงส้ม ตัดกับน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ซึ่งมีสีขาวโพลน เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นเต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็ก (iron oxide) ซึ่งก็คือ "สนิม" นั่นเอง ด้วยเหตุนี้บริเวณดังกล่าวจึงได้รับการขนานนามตามลักษณะทางกายภาพว่า "น้ำตกเลือด" (Blood Falls)
9. ทะเลสาปสปอท เลค (Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fiu%2Fx2009.jpg&hash=3476ebe02a250e415d112243fe92f1165035b1e3) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=555ff9404c5a0323990c8d0e30533979)
"สปอท เลค" ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาปที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาปแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน นักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้น (ส่วนที่เป็นจุดๆ คือน้ำ นอกนั้นเป็นส่วนของแร่ธาตุนานาชนิด ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้)
10. ทะเลทรายแบล็ค ร็อค (Black Rock Desert) ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
(https://xonly8.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fiy%2Fc3010.jpg&hash=8744552766d8d3daa6e979897b0cc74a6e48bac6) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=1fd00d07dfb67503d1b0f3af331ebbcb)17 ภูมิประเทศแปลกๆ ที่ไม่คิดว่าจะมีในโลก
ทะเลทรายแบล็คร็อค คือ ก้นทะเลสาปที่แห้งสนิท ครั้งหนึ่งดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาปในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีชื่อว่า "Lahontan" ซึ่งปรากฏอยู่ในสมัย 18,000-7,000 พันปีก่อนคริสตกาล ในช่วงที่ทะเลสาปโบราณแห่งนี้มีระดับน้ำสูงสุด (เมื่อประมาณ 12,700 ปีก่อน) ทะเลทรายแบล็คร็อคเคยอยู่ใต้น้ำที่มีความลึกถึง 150 เมตรเลยทีเดียว