***ยักษ์ไอทีมะกันปิ๊งไอเดียแก้วิกฤติพลังงาน
เอทีแอนด์ที จีอี กูเกิล อินเทล และอีก 45 บริษัทสัญชาติอเมริกัน ส่งหนังสือเสนอประธานาธิบดีสหรัฐฯขอให้มีการเปิดเผยรายละเอียดรายจ่ายค่าไฟฟ้าแก่ชาวอเมริกันทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้สัดส่วนการใช้พลังงานของตน แล้วนำไปปรับปรุงหรือสรรหาแนวทางแก้ไขเพื่อลดการใช้พลังงานทั้งในภาคธุรกิจและครอบเรือน
คำร้องเรียนของเหล่าบริษัทรายใหญ่อเมริกันนี้ถูกส่งถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา คำร้องระบุว่าหากรัฐบาลสหรัฐฯเปิดทางให้ประชาชนสามารถรู้ข้อมูลการใช้พลังงานทั้งในบ้านและธุรกิจอย่างละเอียดและสะดวกผ่านอุปกรณ์ไอทีทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่อุปกรณ์อื่นๆ ก็เชื่อว่าจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกาลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 15%
ที่สำคัญ วิธีการนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในระบบประหยัดพลังงานโดยตรง จุดนี้ การศึกษาของบริษัทวิจัย McKinsey & Co. พบว่ามูลค่าการลงทุนระบบประหยัดพลังงานของสหรัฐจะสูงถึง 520,000 ล้านเหรียญในช่วง 10 ปีข้างหน้า ลดปริมาณการใช้พลังงานในชาติได้ถึง 23% ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญ
***ทวิตเตอร์ยอดใช้โตกระฉูด
ผู้บริหารทวิตเตอร์ (Twitter) ดีใจได้รับความนิยมล้นหลาม ระบุสัดส่วนใหญ่มาจากตลาดนอกสหรัฐฯ ยกตัวอย่างโคลัมเบียที่มีอัตราการเติบโตคิดเป็น 300% ซึ่งเป็นผลจากการที่คนดังของประเทศใช้งานทวิตเตอร์อย่างกว้างขวาง
ทวิตเตอร์เป็นบริการรับส่งข้อความสั้นออนไลน์เพื่อบอกสถานะความคิดและความเคลื่อนไหวของตัวเองเป็นข้อความไม่เกิน 140 ตัวอักษร โดยล่าสุดผู้บริหารทวิตเตอร์ระบุว่าผู้ใช้ทวิตเตอร์มากกว่า 60% เป็นผู้อาศัยนอกหสรัฐฯ โดยทิศทางการเติบโตในตลาดนอกสหรัฐฯนั้นเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ทวิตเตอร์ระบุว่าความสำเร็จครั้งนี้มาจากการรองรับภาษาที่หลากหลาย โดยทิศทางดำเนินงานนับจากนี้คือการขยายการรองรับภาษาอื่นให้มากขึ้นอีก และการขยายความสามารถไปสู่กลุ่มประเทศที่ไม่นิยมใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งทวิตเตอร์ได้เจรจากับโอเปอเรเตอร์กว่า 65 รายเพื่อให้ผู้ใช้ในประเทศเหล่านี้สามารถรับและส่งข้อความทวีตได้ผ่านโทรศัพท์มือถือโดยไม่เสียค่า SMS เพิ่มเติม