บังเอิญผมมีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่ง แกได้ทำธุรกิจขายตรงตราใหม่ตัวนึง เกี่ยวกับ น้ำ pro-biotic เป็นอาหารเสริม เพิ่มภูมิต้านทานร่างกาย
แกก็มาชวนผมไปนั่งฟังอบรมที่เีชียงราย(ผมอยู่เชียงราย) แกอยุ่พะเยา ผมก็ไป พอไปแล้วแกก็ตามตื๊อผมใหญ่เลย อยากให้สมัคร
แต่ผมไม่รักทางนี้ เพราะพูดไม่เก่ง และสังคมผมแคบด้วย
หลังจากนั้น พอคุยโทรศัพท์กันก็พยายามคุยแต่เรื่องนี้ ชวนไปนู่นไปนี่ ชวนสมัครให้ได้ จุดที่สำคัญที่ผมไม่อยากทำเพราะแกพูดมาคำนึงว่า
" รีบ ๆ สมัครนะ จะได้อยู่หัวแถว พี่เคยสมัครท้ายแถวแล้วไม่ได้อะไร ถ้าเราอยู่หัวแถวเราจะได้มากกว่า" อะไรทำนองเนี้ย
ผมฟังแล้วก็อึดอัดใจ เพราะถ้าผมอยู่หัวแถวแล้วผมจะกล้าหาลูกสายได้ยังไง ในเมื่อผมรู้ว่าลูกสายผมจะไม่ได้อะไร แถมเสียตังค์อีก
ผมจะกล้าพูดได้ยังไง มันเหมือนผมไม่ได้หวังดีกับลูกสายของผม ซึ่งความจริง ถ้าเราไปชวนใครมาสมัครต่อเรา ก็น่าจะเพราะความหวังดีของเรา
อยากให้เรารวยด้วยกันไม่ใช่เหรอ
วันนี้แกก็ออนเอ็มมา ผมก็ทักว่า สบายดีไหม เมื่อไหร่ ผมจะมีหลาน(เพราะแกอายุมากแล้วแต่ พึ่งแต่งงาน) แกก็บอก ไม่รีบ
ผมก็บอกว่า ถ้าไม่รีบมีตอนนี้ เราจะต้องทำงานจนแก่ส่งลูกเรียนมหาลัยนะ บลา บลา
แกก็บอก ลูกแกอาจจะไม่ได้เรียนมหาลัย
ผมก็สงสัยว่าทำไม ก็เลยถามไป แกบอก เด๋วจะโอนรหัสให้ลูกแกเสียบธุรกิจเครือข่ายตัวนี้แหละ (น่านเข้าเรื่องจนได้)
แล้วก็ต่อว่าผม ว่าทำไมไม่สมัคร งู้นงี้
เฮ้อ ..... ไอ้เราก็พยายามไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้วนะ ยังวกเข้ามาอีกจนได้ ลำบากใจจริง ๆ
ตอนเรียนมหาลัย แกก็ดีกับผมนะ กินเล่นเที่ยวด้วยกัน ผมก็ไม่อยากพูดตรง ๆ แต่ไม่อยากทำธุรกิจเครือข่ายเพราะคำพูดของแกนี่แหละ
คนทำธุรกิจพวกนี้ เขาหวังดีกะลูกสายจริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย
.....
เพื่อนเคยเจอบ้างไหม แชร์ประสบการณ์หน่อยสิครับ