🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์ในตำนานใต้ดิน => หัวข้อที่ตั้งโดย: demonwolf เมื่อ พฤศจิกายน 18, 2011, 04:17:53 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: จอมแพทย์นิรนาม ภาค 2 (ตอนที่ 18 ช่วย....... !!?)
โดย: demonwolf เมื่อ พฤศจิกายน 18, 2011, 04:17:53 ก่อนเที่ยง
จอมแพทย์นิรนาม ภาค 2 (ตอนที่ 18 ช่วย....... !!?)

ในขณะที่มุกหงส์คอยเตะสะกัดไม่ให้สิงโตสองสามตัวที่จะพยายามขึ้นรถม้านั้น นางเองไม่ได้รู้เลย

ว่าในขณะนี้มีสิงโตตัวหนึ่งขึ้นไปบนยอดไม้เตรียมย่อตัวหมายจะตะครุบเหยื่อ...........ซึ่งเหยื่อไม่ใช่

ใครก็ตัวนางเอง

แฮ่ !..กรรรรรรรรรรรรรรร...เสียงคำรามมาจากยอดไม้มัจจุราชขนสีเทากระโดดพร้อมกางเล็บแยก

เขี้ยว หวังให้เหยื่อจบสิ้นกันภายในกงเล็บเดียว "โกวเนี้ยน้อยระวังด้านหลัง" พร้อมเสียงเตือนก็

มีวัตถุฝ่าอากาศผ่านหน้านางไปแบบฉิวเฉียดถ้าไม่ได้รับเสียงเตือนจนนางต้องเบี่ยงตัวหันหลัง

รับรองได้ว่าวัตถุนั้นได้เข้ากลางกระหม่อมนางแน่ แง้วววววววเมื่อนางหันไปสิงโตที่คำรามเมื่อกี้

ล่วงหล่นร้องเป็นแมว มุกหงส์หันไปหาผู้ที่มาช่วยเหลือพบว่า เป็นแม่ชีนางหนึ่งที่ตอนนี้มายืนอยู่

เคียงข้างนางบนรถม้า ฝูงสิงโตเหมือนได้รับเจ็บปวดจึงพากันเดินวนรอบๆรถม้าเหมือนคอยจ้อง

หาโอกาศอยู่อย่างนั้น

มุกหงส์ : ข้าผู้น้อยขอบคุณท่านอาวุโสที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

แม่ชี : ตอนนี้ไม่ใช่เวลากล่าวคำไร้สาระ ดูท่าเจ้าก็มีพลังวัตรเต็มเปี่ยมทำไมถึงจัดการไล่พวกมันซะละ

หรือเจ้าไม่กล้าฆ่าสัตว์ตัดชีวิตถ้าเป็นเช่นนั้นเราแม่ชีก็ต้องนับว่าละอายต่อเจ้าแล้ว

มุกหงส์ : หาใช่เช่นนั้นไม่ข้าผู้น้อยแม้เคยศึกษาวรยุทธแต่เป็นเพียงอ่านตำราไม้ไผ่เท่านั้น ส่วนพลังวัตรที่ได้เอ่อ.... เอ่อ...

แม่ชี : ช่างเจ้าเถอะเจ้าจะได้พลังวัตรมาด้วยวิธีใดก็ช่างเจ้าเถอะ แต่ตอนนี้คับขัน เราจะสอนวิธีเอา

ตัวรอดก่อน เจ้าย่างเท้าแบบนี้แล้วก้าวเท้าซ้ายตามหลัง แล้ววนเท้าด้วยเท้าขวาแบบนี้เข้าใจหรือไม่

มุกหงส์ : อ๋อ พอสิ้นสุดให้วนย้อนกลับหรือวนกลับใหม่ใช่หรือไม่ ข้าน้อยรู้แล้ว

แม่ชี : นับเป็นเด็กที่สอนง่ายพอๆ กับเบญจมาศ ศิษย์ของเราเลย ดีจริง ๆ แล้วถ้ามีตัวใดเข้ามาในวงของเจ้า

เจ้าก็เกร็งลมปราณจากจุดตั้งชั้น ไปที่จุด โง๋ว แล้วก็สะปัดมือปล่อยลมปราณนั้นไปแค่ห้าส่วน

รับรองไม่มีตัวไหนทำร้ายเจ้าได้

มุกหงส์ : ซือไถ้ (เรียกแม่ชีด้วยความเคารพ) ท่านอธิบายได้ชัดเจนดีกว่าตำราไม้ไผ่เสียอีก

แม่ชี : เจ้าเด็กโง่อย่ามัวแต่เยินยอเรา เตรียมตัวรับกับพวกฝูงสิงโตเถอะ

มันเหมือนสัญญาณทันทีที่แม่ชีตันหยงกล่าวจบฝูงสิงโตก็กระโจนเข้าหาทุกด้านแบบพร้อมกัน

แม่ชีตันหยงเกร็งลมปราณเหยียบไปที่หลังคารถ ตูม !!? รถม้าที่ดูแข็งแรงงามสง่ากับพังคลืนลง

แทบเท้า ส่งผลให้สิงโตทั้งฝูงกระโดดจู่โจมไปอย่างผิดเป้าหมายได้แต่ลอยตัวเคว้งคว้างตะเกียกตะกาย

พยายามหาทางลง มุกหงส์ อาศัยเวลานั้นทดลองสะบัดฟาดฝีมือเกร็งลมปราณจากจุดตั้งชั้น ค่อยไป

ที่จุด โง๋ว อย่างรวดเร็ว แง๋ว เสียงสิงโตที่โดนร้องเป็นแมวปลิวกระเด็นไปไกลกว่า สิบวากระแทก

ต้นไม้ใหญ่แทบหักโค่นลงมา มุกหงส์ ได้แต่ตะลึงกับลมปราณที่ตัวเองใช้ไปนี่นับเป็นครั้งแรกที่

ควบคุมลมปราณใช้เองทุกครั้งได้บ่อเมี้ยเป็นผู้จัดการเสร็จนางเองอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

แม่ชีตันหยง : เอ้า เอาเข้าไป ไม่รู้ว่าเจ้าไปได้ประสพการณ์ปาฎิหาริย์อะไรมาหรือใครเป็นผู้

ถ่ายทอดพลังให้เจ้านะดูมันมากมายมหาศาลเหลือเกิน ผู้ที่ถ่ายทอดพลังให้เจ้าคงถ่ายให้เจ้าจนหมด

อายุขัยแล้วใช่ไหม แม่ชีตันหยงพูดพร้อมสะบัดฝ่ามือจัดการสิงโตอีกตัวหนึ่งแม้ไม่ได้กระเด็นไป

ไกลเท่ามุกหงส์แต่มันก็แน่นิ่งไร้พิษสงเช่นกัน

มุกหงส์ : เอ่อ....ปล่าว.. ซือไถ้ ผู้ที่ถ่ายทอดพลังให้ข้าผู้น้อยยังมีชีวิตอยู่...มั้งน่ะเพราะข้าผู้น้อยก็ไม่

ทราบจริงๆว่าเขาตอนนี้อยุ่ที่ไหนตื่นมาก็เต็มไปด้วยฝูงสิงโตแล้ว.. นางพูดด้วยความรู้สึกเขินอายนิด ๆ

เมื่อนึกถึง"เขา" ที่ถ่ายทอดพลังให้ในขณะเดียวกันมือของนางก็จัดการสิงโตอีกตัวที่กำลังหล่นมาหานางพอดี

แม่ชีตันหยง : อือ เราชักอยากจะเห็นผู้อาวุโสของเจ้าซะแล้วดูจากฝีมือและพลังวัตรของเจ้าท่านคง

เป็นคนที่มีชื่อเสียงในยุทธจักรพอดูน่าจะเป็นคนที่เรารู้จักไหมนะ

มุกหงส์ : ข้าผู้น้อยก็ไม่ทราบว่าเขาเป็นที่รู้จักใครรึเปล่า แต่เค้าเป็นสามีของข้าผู้น้อยเอง เค้าชื่อ บ่อเมี้ย...

"บ่อเมี้ย !!!!? " แม่ชีตันหยงคำรามลั่นพร้อมฟาดฝ่ามือไปที่สิงโตตัวสุดท้ายจนปลิวกระเด็นไป

ไกลกว่า ยี่สิบวา................................................................

.............................................................................................................................

ตอนนี้สิ่งที่บ่อเมี้ยเผชิญคือ เสือสมิง ที่มีความเร็วที่เหนือกว่า มีพลังวัตรพอๆกัน อีกทั้งยังเป็นลอง

เรื่องสถานที่อีก สิ่งที่จะเอาชนะได้ก็คงต้องใช้มันสมองกับสองมือนั้นแหละ ถ้าบ่อเมี้ยใช้ความเร็ว

สู้กับความเร็วที่เหนือกว่าก็มีแต่จะพาให้ร่างได้บาดเจ็บไปมากกว่าเดิม และถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไป

บ่อเมี้ยเองก็รู้สึกเป็นห่วงพวกมุกหงส์และคริสถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ดีไปแต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวก

นางบ่อเมี้ยเองคงต้องโทษตัวเองที่ปล่อยให้เกิดขึ้น....แต่มัวแต่คิดมันคงไม่ช่วยให้อารัยมันดีขึ้น

บ่อเมี้ยลดมือลงปล่อยตัวตามสบายให้เสือสมิงเห็นว่าเขาคือเหยื่อที่สิ้นฤทธิ์แต่ก็ลอบเกร็งลมปราณ

วนรอบทั่วร่างกายอย่างรวดเร็วสิบรอบ...ยี่สิบรอบ...เสียงและกลิ่นสาปของเสือสมิงใกล้เข้ามาแล้ว

พลังลมปราณทั้งหมดถูกถ่ายเทไปอยู่ไปที่มือขวาโดยมีเพียงบางส่วนมาปกป้องหน้าอก สิ่งที่บ่อเมี้ย

กำลังทำคือการเดินพันของชีวิตบ่อเมี้ยเองก็ไม่รู้ว่าแผนที่บ่อเมี้ยคิดจะสำเร็จหรือเปล่าแต่ถ้าพลาดก็

ไม่ต้องคิดอารัยอีกชีวิตและความหวังทั้งมวลต่างสูญเสียไปหมด เสียงลมแหวกอากาศมาพร้อม

กลิ่นสาปสางของเสือสมิงเข้ามาใกล้จนรู้สึกได้ ...ถึงเวลาแล้วสินะ... บ่อเมี้ยเงยหน้ามองด้วยสายตา

อันคมกล้าเห็นฝ่ามือและกงเล็บของเสือสมิงพุ่งตรงมาที่อกห่างกันไม่ถึงขนตาบ่อเมี้ยปล่อยร่างกาย

ไปตามกระแสแห่งลมปราณที่มาปะทะโดยไม่ฝืน ร่างกายของบ่อเมี้ยล้มหงายเห็นสีหน้าของเสือ

สมิงฉายแววตกใจแต่สิ่งที่มันทำได้กับเร่งพลังฝ่ามือจนมากดประทับเข้ากับน่าอกของบ่อเมี้ยใน

ขณะเดียวกันบ่อเมี้ยเองก็ฟาดฝ่ามือที่เกร็งไว้ด้วยความเร็วสูงสุด ...ตูม..!! มีร่างสองร่างกระเด็น

ออกไปไกลถึงยี่สิบกว่าวา "แค่ก ๆๆ อูย" บ่อเมี้ยกระอักเลือดออกมาเล็กน้อยก่อนจะรวบรวม

ลมปราณในร่างวนมารักษาในส่วนที่ได้รับบาดเจ็บ "นี่ขนาดเราเตรียมพร้อมยังเจ็บขนาดนี้นับว่า

ประมาทไม่ได้จริงๆ" บ่อเมี้ยลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีโงนเงนสายตาเหลือบมองไปที่อีกร่างหนึ่งที่ยัง

นอนสงบนิ่งไม่ไหวติง บ่อเมี้ยเองแม้จะผ่านศึกใหญ่น้อยมาเพียงใดแต่บ่อเมี้ยยังไม่เคยที่จะฆ่าใคร

ตายในการต่อสู้เลยซักครั้งอาจเป็นเพราะความเป็นหมอของตัวเองก็ได้เมื่อคิดได้ดังนั้นพาร่างที่

สะโงะสะเงะเข้าไปหาร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นนี่เป็นครั้งแรกละมั้งที่ได้เห็นเจ้าเสือสมิงแบบ

เต็มๆตาเพราะที่ผ่านมาเห็นแบบแวบไปแวบมาด้วยท่าร่างที่เร็วเหลือหลาย ท่ามกลางเสียงหายใจ

จากร่างบางๆที่ดูเหมือนหอบ ระบบหายใจฟังดูปั่นป่วน ใบหน้าที่ดูคล้ายเสือมีทั้งหนวดและขนไม่มี

ร่องรอยของการซีดเซียวสร้างความแปลกใจให้แก่บ่อเมี้ยยิ่งนัก บ่อเมี้ยจับที่ชีพจรบนข้อมือ เป็นมือ

ที่ผอมเรียวบางดุจดั่งคล้ายมือของสตรีแต่มือนี้บวกกับเล็บยาวๆแบบนี้ก็เกือบคร่าชีวิตบ่อเมี้ยไปแล้ว

ชีพจรสับสนบ่งบอกถึงธาตุไฟเข้าแทรกต้องรีบรักษาไม่เช่นนั้นเสือสมิงตนนี้ถึงกับชีวิตแน่ บ่อเมี้ย

ไปสำผัสที่คอ ...สวรรค์....ทำไมมันเย็นเฉียบดั่งไม่ใช่หนังมนุษย์ ...เอ๊ะ หนังมนุษย์ ไวเท่าความคิด

บ่อเมี้ยกระชากเสื้อที่เหมือนเสื้อกั๊กที่ดูเก่าคร่ำคร่า นั้นไงภายใต้เสื้อตัวน้อยมีหนังเทียมสวมอยู่ตั้งแต่

ศีรษะไปจนถึงคอ และตรงช่วงน่าอกก็มีผ้าพันแผลพันคาดไว้ต่ำจากน่าอกก็มีรอยฝ่ามือเป็นรอยไหม้

ทะลุผ้า บ่อเมี้ยถอดน่ากากเสือออก ..เห้งเจียช่วย..ใบหน้าของเสือสมิงตัวนี้...อย่างกับเทพบุตร

ใบหน้าที่คมขำ สมส่วนไปหมดทั้งหูตาจมูกปาก เพียงแต่ขาวซีดจากการบาดเจ็บอยู่บ้าง คราวนี้

บ่อเมี้ยสัมผัสที่ซอกคอในการหาชีพจรแห่งชีวิตพบว่าสับสนตรงกับชีพจรที่มือ บ่อเมี้ยสะกัดจุดที่ สิ่นฮุย(กลางกระหม่อม)

จว่อไท่หยาง(ขมับซ้าย)อิ้วไท่หยาง(ขมับขวา)ด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าเสือสมิงทะลึ่งลุกพรวด

ร้อง โอ๊กกระอักเลือดออกมาไม่น้อยแต่ใช่ว่าจะได้สติอะไรพอกระอักเลือดเสร็จก็ล้มนอนหงายลง

เหมือนเดิม หลังจากนั้นบ่อเมี้ยก็แกะผ้าพันแผลที่หน้าอกออกพร้อมคิดในใจว่าคงประสบอุบัติเหตุ

ก่อนมาพบเราถึงได้พันแผลซะแน่นหนาขนาดนี้ แต่สิ่งที่พบนอกจากรอยมือที่เป็นฝีมือของบ่อเมี้ย

แล้วไม่พบรอยแผลอื่นใด กล้ามหน้าอกก็ดูเหมือนจะเป็นเนินหน้าอกมากกว่า ถึงแม้จะแบนราบ

เพราะถูกรัดแน่นมานานแต่ก็นูนพอให้รู้ถึงกะลาย่อมๆยิ่งยอดพธูถันเม็ดใหญ่ชูช่อซะขนาดนั้น

บ่อเมี้ยได้แต่ตะลึงลาน จนเผลออดไม่ได้ที่จะบีบที่ยอดพธูที่ชูเด่นอย่างเบาๆ .............. บ่อเมี้ยทาบ

มือไปที่แผลรอยไหม้นั้นพร้อมเกร็งลมปราณถ่ายทอดพลังวัตรเพื่อการรักษาเนื่องจากเห็นแผลเป็น

รอยไหม้จึงทาบด้วยพลังวัตรที่แฝงไปด้วยไอเย็น "โฮก !!? " เสียงคำรามจากร่างที่เคยเป็นเสือ

สมิงคำรามมาเหมือนเจ็บปวดลุกพรวดขึ้น มามองด้วยแววอาฆาต แล้วล้มลงกระตุกนอนหงายเลือด

ไหลออกจากปาก เกิดอะไรขึ้นบ่อเมี้ยพูดกับตัวเองในใจด้วยความตกใจขีดสุดสิ่งที่เขาคิดและรักษา

มาถูกทางตามที่ซือแป๋สั่งสอนแล้วนี่แล้วทำไม.....แต่ร่างนี้ไม่หายใจแล้ว สิ่งที่บ่อเมี้ยทำเป็นลำดับ

แรกช้อนคอเพื่อให้มีการหายใจให้สดวกขึ้นขึ้นบีบจมูกและเป่าปากไปที่ร่างนั้นประหนึ่งช่วงหายใจ

แล้ววางร่างนั้นนอนราบกลับพื้นใช้มือประสานนับหนึ่งถึงห้าแล้วกดมือไปที่หน้าอกด้านซ้ายที่นูน

มาหนึ่งครั้งแล้วนับหนึ่งถึงห้าค่อยเริ่มทำอีกครั้งจากนั้นก็เป่าปากแบบนี้สลับไปมาประมาณสอง

รอบร่างนี้ก็สำลักก้อนเนิ้อพร้อมเลือดออกมาดูท่าเป็นการบาดเจ็บภายในที่ลึกล้ำพอสมควรแต่อย่าง

น้อยก็เรียกชีวิตคืนมาได้แล้ว จากนั้นบ่อเมี้ยไม่รีรออีกแล้ว กดจุดไปที่จว่อหยู่เสี้ย (ใต้ราวนมซ้าย)ฉีจุง

(บริเวณสะดือ)เพื่อให้เลือดในกายไม่ไปสูบฉีดแผลมากไปแต่มีอีกจุดสำคัญที่บ่อเมี้ยต้องกดก็คือจุด

หยินเหมิน (บริเวณอวัยวะเพศ)แต่บ่อเบี้ยแม้จะลังเลแต่ชีวิตก็คือชีวิตอย่างน้อยเจ้าเสือสมิงตัวนี้มันก็

คือผู้ชาย !!? บ่อเมี้ยถอดกางเกงอย่างแช่มช้า สวรรค์ !!? บ่อเมี้ยคาดผิดสิ่งที่ผู้ชายควรมีกลับไม่

มี สิ่งที่เห็นคือเนินภูเขาอันโล้นเลี่ยนปราศจากพงหญ้าโหนกนูนยิ่งกว่าหลังเต่า !!? บัดซบจริงๆ

เพราะคิดว่า หญิงเป็นชาย จึงกดจุดผิด ใครจะคิดว่าเสือสมิงอันร้ายกาจจะเป็นผู้หญิง....มิน่านางจึง

เกิดอาการธาตุไฟเข้าแทรกและเราก็เกือบทำนางเสียชีวิตเสียแล้ว บ่อเมื้ยใช้นิ้วเขี่ยไปที่ต้นกำเหนิด

ของหยิน ตรงเนินภูเขาอันโหนกนูนมีรอยแยกแตกออกมาบ่อเมี้ยควานหาเกสรเพื่อกระตุ้นธาตุไฟ

ให้ก่อกำเนิด ปากอมไปที่ยอดพธูที่ใหญ่โตกว่าเม็ดผลลำไยถ่ายทอดพลังความเย็นให้หักล้างเพื่อให้

เกิดความสมดุล มืออีกข้างบีบและบี้ไปที่ยอดพธูอีกข้างเพื่อให้กระตุ้นให้นางตื่นตัว เสียงนางร้องอือ..อา.ๆ

อย่างน้อยบ่อเมี้ยก็มาถูกทางแต่ดูเหมือนสิ่งที่ทำมันยังกระตุ้นให้ปราณโลหิตเคลื่อนไหวไม่

เร็วพอ บ่อเมี้ยจึงเร่งเขี่ยที่เกสรให้เร็วขึ้นปลายลิ้นก็ช่วยทำงานให้ยอดพธูชูตั้งขึ้นมืออีกข้างก็บีบนวด

อีกข้างจนแทบปลิ้นไปปลิ้นมาในมือ ร่างที่ไร้สติสูดปากซี๊ดเหมือนกินของเผ็ดบ่อเมี้ยรู้สึกได้ถึงน้ำที่

หล่อลื่นออกมาที่มีอุณหภูมิเหมือนน้ำอุ่น จนเกือบร้อนบ่งบอกปราณโลหิตเคลื่อนตัวแล้วบ่อเมี้ย

เปลี่ยนเอานี้วหัวแม่มือเขี่ยในขณะที่ใช้นิ้วกลางสอดเข้าไปในถ้ำที่คับแน่นพร้อมแรงบีบทำเอานิ้ว

แทบขาด ส่วนยอดพธูจากที่ใช้ลิ้นก็เปลี่ยนเป็นดูดจนดังจ๊วบ จนนางต้องแอ่นตัวยกสะโพกเด้งเข้าเด้งออก

โดยอาศัยความเร็วจากปลายนิ้วจนน้ำของนางหลั่งรินเหมือนท่อน้ำแตกจากความรู้สึกของบ่อเมี้ย

ร่างของนางตัวเกร็งแอ่นร่างกายตามนิ้วแสดงให้เห็นว่าครั้งนี้นางเข้าเฝ้าเซียนบนสวรรค์บัดนี้ถึงเวลาขั้นตอนต่อไปในการรักษา

บ่อเมี้ยก้มลง เอาปลายจมูกสัมผัส ตรงล่องเนินเนื้อสวรรค์ เบาๆ เพื่อสัมผัสกลิ่นไอ ที่แท้จริงของมัน

มันช่างหอมหวนเย้ายวนให้ลิ้มลองเหลือเกิน บ่อเมี้ยสาระวนอยู่กับการสูดดมอยู่ตรงเป้าอยู่พักใหญ่

..... แล้วตัดสินใจแหวกถ้ำมันออก.....เพื่อให้ประตูสวรรค์ ได้คลายตัว และแง้มเปิด...รอรับ การกา

รักษาขั้นต่อไป.....บ่อเมี้ยพยายามใช้ลิ้น กระตุ้นเขี่ย กลีบเนื้อที่โหนกนูนดั่งภูเขาที่ไร้เส้นแพรไหม

ทั้งสองข้าง และควานหาเม็ดสวรรค์ ... นั้นไงเจอมันแล้ว ... บ่อเมี้ยใช้ปลายลิ้นทักทายกับเม็ดนั้น

เบาๆเพื่อล่อให้ปราณโลหิตเคลื่อนตัว ....นางกระตุกตัวเองนิดนึงจังหวะนี้.....ตัวมันแอ่นขึ้นทุกครั้งที่

ปลายลิ้นของบ่อเมี้ยสัมผัสโดนเม็ดของมัน........เล่นลิ้นทั้งดูดทั้งเลียอยู่กับเม็ดของนางนานพอควร

.......จนรู้สึกได้ว่า น้ำเมือกใสๆ ของนาง มันเจิ่งนอง เต็มปลายคางของบ่อเมี้ย ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่า

....พร้อมแล้ว สำหรับการ รักษาขั้นสุดยอดต่อไป ...ด้วยเข็มฝังจุดสุดท้ายด้วยแท่งหยก.... ซึ่งตอนนี้

ถูกสาวขึ้นลง ขึ้นลง จนหัวบานได้ที่ ........ไม่รอช้า.....มือทั้งสองข้างของบ่อเมี้ย จับขาของนาง แบะ

ออก ให้กว้างมากขึ้น แล้วขยับตัวเองให้เข้าใกล้เป้าหมาย....แล้ววางทาบแท่งหยกของตัวเอง ตรง

ร่องแฉะๆ ของนาง ใช้หัวแม่มือขวา กดหัวแท่งหยกลงไปในร่อง อูย..เข้าไปได้แค่คอ.บ่อเมี้ยเกร็ง

ลมปราณบังคับให้แท่งหยกที่มีขนาดใหญ่เปลี่ยนเป็นแคบลง....ได้ผลมันเข้าไปแล้วเกือบครึ่ง

เหมือนมีบางอย่างขวางทาง...ผุบ...บ่อเมี้ยฝืนกระแทกดันเข้าไปจนนางเผลอร้อง..อ้าห์..ออกมาทั้งๆ

ที่ตายังหลับ..อาจเป็นปราณโลหิตก็เป็นได้ไหลหลั่งออกมาลมปราณที่กั้นขนาดของแท่งหยกไว้

คลายลงตัวแท่งหยกกับมาขนาดเท่าเดิม ...อ้า..ความคับแน่นการตอบตุบๆภายในถ้ำแทบทำให้อุกทก

ธารของบ่อเมี้ยแทบไหลหลั่งโดยยังไม่ได้ควบคุมลมปราณร้อนเย็นบ่อเมี้ยตั้งสติแล้วควบคุม

ลมปราณเริ่มสาวเข้าออกอย่างช้าๆเพื่อให้ปราณโลหิตรับรู้นางที่ดูเหมือนไม่ได้สติแต่ปากยังร้อง อูย..ซี๊ด...เจ็บ...

แต่ก็แอ่นสะโพกของนางคอยรับส่งเมื่อทุกอย่างเข้าที่แล้วบ่อเมี้ยก็โยก เอวช่วย มันช่างรู้สึกได้ถึงไออุ่น

ของกลีบเนื้อ ที่บีบรัดแท่งหยก...อย่างที่จะหาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว ......นางเสือสมิงคราง.....แล้ว

ยกสะโพก ลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย....มันเป็นปฏิกิริยา ตอบสนอง ทางสรีระ ของกลีบเนื้อ ที่ส่งไปยัง

ประสาท แล้วสั่งการมาที่สะโพก ให้สนองตอบความต้องการ ความลึก ที่มากกว่า บ่อเมี้ยไม่รอช้า

ช่วยสนองตอบเธอทันที ชักเข้า ดึงออก ชักเข้า ดึงออก ยาวขึ้นๆ นางเสือสมิงยังคงคราง คราง แม้มัน

จะเป็นเสียง ที่เกิดขึ้นภายในลำคอ ที่ดูเหมือนความเจ็บปวด แต่บ่อเมี้ยเข้าใจดี ว่า นี่มันบ่งบอกถึง

ความสุข บ่อเมี้ยก้มหน้าก้มตาทำต่อ.......จนแท่งหยก ได้ฝังมิดไปในกลีบเนื้อของนาง จนโคนแท่ง

หยก บี้อยู่กับ กลีบทั้งสองของนาง แทบจะเป็นเนื้อแผ่นเดียวกันแล้ว....บ่อเมี้ยเอื้อมมือทั้งสอง สอด

เข้าไปตรงแผ่นหลังของนาง ออกแรงรวบ ยกตัวมันขึ้นมา แล้ว พลิก ตัวเองให้ลุกนั่งขึ้นมา โดยมีนาง

นั่งอยู่บนตัก มันช่าง ทะลวงเข้าไปลึกเหลือเกิน บ่อเมี้ยสังเกตอาการเกร็งที่เกิดขึ้นจากความลึก ของ

แม่เสือสมิงได้ เนินก้น ที่แอ่นงอนขึ้นทันทีที่ กระดก ดันแท่งทวนขึ้น มันช่างบ่งบอกได้ถึงความลึก

ที่แสนวิเศษจริงๆ .....บ่อเมี้ยโยกอยู่ท่านั้นนานพอควร...สลับกับการดูดยอดพธูเป็นระยะๆ......ดู

เหมือนนางเองจะรู้สึกตัวปากนางอ้าออกเสียงกระเส่าตามแรงกระแทก แต่หลับตาปี๋.... หน้าตาบิดเบี้ยว....

เลียริมฝีปากเป็นระยะ..ๆ .......บ่อเมี้ยค่อยๆจับ หมุนตัวนาง ให้หันหน้าไปทางเดียวกันกับบ่อเมี้ย

พร้อมๆกับ ...พยายามประคอง ให้แท่งหยก ฝังอยู่ในกลีบเนื้อของนาง ....ด้วยการชักเข้า ชักออก

อย่างช้าๆ ระหว่างการหมุนอย่างต่อเนื่อง .....แล้ว ค่อยๆประคองเธอให้นอนคว่ำ ตั้งเข่าขึ้นทั้งสอง

ข้าง เพื่อให้ใกล้เคียงกับท่าคลานมากที่สุด ทันใดนั้นเองมือทั้งสองข้างของเธอ ก็เอื้อมไปดันพื้นไว้ รู้

ได้ทันทีแล้วว่า เธอรู้ตัวแล้วหล่ะตอนนี้........เมื่อได้ท่าที่ต้องการแล้ว บ่อเมี้ยก็เอนตัวนอนทาบทับ

เบาๆ ไปกับแผ่นหลังของนางทันที ลิ้นเริ่มทำงานอีกครั้ง ที่ซอกคอ รูหู นางไม่พูด แต่ ครางในลำคอ

เบาๆส่วนมือก็คอยบีบเค้นกับยอดเนินน้อยทั้งสองก้อน....แท่งหยกยังคงทำงานไม่หยุดหย่อน....

ความแฉะ ของดอกไม้ของเธอ ยังคงมีอยู่ไม่จืดจาง ... จากท่านั้นตั้ง ตัวขึ้น ใช้มือขวา เลื่อนไปขยับ

ขาท่อนบนทั้งสองข้างของนาง ให้แบะกว้างขึ้น เพื่อให้ เหมาะสมกับ ตำแหน่งของท่อนเนื้อของผม

กับร่องกลีบของนาง แม่เสือสมิงยอมทำตามโดยไม่มีการขืนเกร๊ง แต่ประการใด ....หลังจากได้

ตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้มือทั้งสองข้าง รวบจับบริเวณเอว ของนาง เพื่อ โยก เข้า ออก ตามจังหวะ

การกระแทกของแท่งหยก ......ก้นนางงอนรับได้ สวยงามมาก ทุกครั้งที่กระแทก จะได้ยินเสียงซีดส์

ของนางดังออกมาเป็นจังหวะๆ.....และในจังหวะสุดท้าย ของทุกๆการโยกกระแทก อัดท่อนเนื้อ

เต็มแรง เข้าไปในร่องกลีบ แล้ว คามันไว้ จน...จน...ก้นของนางงอน ...กล้ามเนื้อท้อง นางเสือสมิง

เกร็ง.....เสียงครางดังขึ้น... ยาวขึ้น...... จนบ่อเมี้ยชักกลับนางแอ่นสะโพกตามบ่อเมี้ยอัดเข้าไปอีก

ครั้งจนนางร้องโอ๊ก .....นางจึงถอนหายใจดังเฮือก บ่อเมี้ยอาศัยจังหวะนี้ฉีดอุทกสวรรค์พร้อม

ลมปราณสองสายทั้งเย็นและร้อน จนร่างนางกระตุกเงยหน้าปากร้องอาห์ ....ออกมา....สามารถรู้สึก

ได้ถึงการบีบ ตอด เป็นจังหวะถี่ๆ ตุ๊บ...ตุ๊บ...ตุ๊บ.. ของกล้ามเนื้อภายในกลีบ ประกอบกับเสียงร้อง

ออกมา นอกลำคอ "อ๊อย........ ซีดส์.........." และอาการเกร๊งค้าง หน้าหงายขึ้นด้านบน พลังลมปราณ

ทั้งสองสายพุ่งไปทะลวงร่างเข้าสู่ร่างกายจนร่างกายของนางโพยพุ่งด้วยควันแต่เพียงแค่นี้การรักษา

ยังไม่พอในช่วงจังหวะนั้นบ่อเมี้ยจับเอวของนางพร้อมกับบ่อเมี้ยนั่งลงโดยให้นางหมุนตัวอีกครั้ง

โดยไม่ให้แท่งทวนหยกหลุดกลายเป็นสภาพนางนั่งหันหน้ามาทางบ่อเมี้ยนางเองเหมือนถูกช๊อตไป

ทั่วร่างกาย .....ตอนนี้....ตานางยังคงหลับ หน้าเธอนิ่งเฉย เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเพราะความเหนื่อย อาการ

หายใจหอบ ยังคงมีอยู่ ไม่จางหาย.....บ่อเมี้ยบรรจงประกบริมฝีปาก แล้วใช้ลิ้นชอนไชเข้าไปในปาก

ของนาง ด้านล่างยังทำงานไม่มีหยุด......แท่งหยกยังโยกต่ออย่างเมามัน ขาทั้งสองข้างของนางตอนนี้

ช่วยรั้งเอวผมไว้ไม่ให้มันหลุดไปจากตัวของนาง....... สะโพกเริ่มทำงาน เต็มที่ ตอนนี้แท่งหยกซึ่ง

อิ่มน้ำเต็มที่จนพร้อมสำหรับการปลดปล่อย ได้ เคลื่อนไหว เข้าออก เข้าออก เข้าออก เป็นจังหวะอยู่

ในรูร่องกลีบอุ่นๆ ของนาง บ่อเมี้ยซอย ถี่ขึ้น ลึกขึ้น ถี่ขึ้น ลึกขึ้น ........แล้ว......ก็ปลดปล่อยน้ำรัก

ออกมาสุดแรง ในรูร่องกลีบ ของนางแม่เสือสมิงที่ตอดรับอีกครั้ง...อ้าห์ ห์ ห์ ห์ ห์ ห์ ห์ คราวนี้

กระแสลมปราณเย็นพุ่งออกไปก่อนตามด้วยกระแสลมปราณร้อนท่ามกลางควันที่เกิดมาจากทั้งคู่พุ่ง

ตลบอบอวนจนมองไม่เห็นสิ่งใดๆได้อีกเลย
ชื่อ: Re: จอมแพทย์นิรนาม ภาค 2 (ตอนที่ 18 ช่วย....... !!?)
โดย: nisept เมื่อ ธันวาคม 28, 2016, 10:17:24 ก่อนเที่ยง
สรุปว่ารักษาสินะ แบบนี้ก็เป็นหมอได้เหรอ!