🧡 XONLY 🧡

LIGHT ZONE => ห้องนั่งเล่น => หัวข้อที่ตั้งโดย: lovetolove เมื่อ กรกฎาคม 15, 2013, 12:39:07 หลังเที่ยง

ชื่อ: คู่มือลงอ่าง
โดย: lovetolove เมื่อ กรกฎาคม 15, 2013, 12:39:07 หลังเที่ยง
คู่มือลงอ่าง
 ก๊อปมาอีกทีคับ มีเครดิตผู้เขียนอยู่แล้ว แจ่มมากๆ คู่มือ ลงอ่าง ( เขียนเริ่มต้นโดยคุณ " ตะลอนกรุง " ในเว็บบอร์ด "ครอบครัวเดินทาง" เขียนเพิ่มเติมโดยคุณ " จิ้งเหลนไฟ " ในเว็บบอร์ด "ฟ้ารุ่งยอดขวัญ" ) คงมีหลายคนที่ไม่เคยเที่ยวอาบอบนวด บางคนก็เที่ยวบ่อย ๆ แต่อาจรู้ในบางสิ่งและไม่รู้ในบางสิ่ง ผมจึงอยากเล่าให้ฟังในฐานะเอาหมอนวดมาเป็นร้อยแล้ว จะเขียนแบบธรรมดา สุภาพมั่งลูกทุ่งมั่ง
1.สถานที่ สถานที่นี่สำคัญถ้าเราต้องการเย็ดหมอนวด   ต้องเลือกสถานที่ที่ติดป้ายเป็น อาบ อบ นวดเท่านั้น อย่าไปเลือกพวกติดป้ายว่าเป็นนวดแผนโบราณ เพราะพวกแผนโบราณ การจะเย็ดกับหมอนวด เป็นเรื่องต้องตกลงกันเองระหว่างเรากับหมอนวด  จะมีหมอนวดจำนวนมากที่ไม่ยอมให้เย็ด-- อย่างมากก็--(ใช้มือทำให้) หรือดูดจู๋ให้ และบางแห่งก็ห้ามอย่างเด็ดขาด  และแม้อาจจะทำกันได้ แต่สถานที่มักไม่เอื้ออำนวย คือหลายแห่งเขาไม่ได้ออกแบบห้อง  เพื่ออำนวยความสะดวกเพื่อการเย็ดกัน ก็เลยไม่มีที่อาบน้ำล้างน้ำ ไม่มีอ่างอาบน้ำ ที่นอนก็แคบ  บางทีห้องก็ไม่ค่อยมิดชิด เพราะฉะนั้นต้องเลือกที่ขึ้นป้ายว่าเป็นอาบอบนวดเท่านั้น  การเลือกสถานที่ ควรเลือกที่ขับรถเข้าออกได้สะดวก ประเภทที่เข้าออกยาก รถติดเป็นตังเม ตรงทางเข้าออก โดยเฉพาะที่ใกล้กับป้ายชื่ออาบอบนวดและติดป้ายรถเมล์ด้วยละก้ออย่าเข้าไปเลย เพราะจะนั่งเป็นเป้าสายตาคนอื่นนานเลย (แต่ถ้ามืด ๆ ก็ไม่เป็นไร) บริเวณที่มีอาบอบนวดมากก็ถนนเพชรบุรี(ราคาถูกหน่อยพันกว่า ๆ ก็เที่ยวได้แล้ว) ถนนรัชดา(ราคาแพงกว่า จะเที่ยวต้องมีสักสองพันห้าร้อย--ขึ้นไป) ส่วนที่อื่นก็มีกระจายกันไป เช่น แถวปิ่นเกล้า พระรามเก้า ถ้าขับรถไปเอง  เราสามารถขับเข้าไปจอดเอง ไม่ต้องให้เด็กรับรถขับไปจอดก็ได้ จะให้เด็กรับรถขับไปจอดก็ได้ ถ้าเด็กรับรถขับไปก็ให้ทิปพวกนี้นิดหน่อย อย่าไปตอแยกับพวกนี้เพราะต้องคิดว่า อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ เสียเงินนิดหน่อยแต่รถเราปลอดภัยดีกว่า แต่ต้องระวังเรื่องกุญแจรถด้วยอย่าปล่อยไว้กับเด็กรับรถเป็นดีที่สุด ถ้าไม่มีรถ ไปรถเมล์ก็ย่อมได้  ตัวผมเอง(จิ้งเหลนไฟ)ก็นั่งไปบ่อยๆ)  ลงรถแล้วเดินเข้าไปเลย เอาตอนมืดๆ น่ะก็ดี ไม่มีใครสนใจนัก (แต่บางคนก็ชอบเข้าไปตอนบ่ายเพราะแขกน้อยไม่ต้องแย่งกัน,ตำรวจมักไม่มากวนด้วย) การไปรถแท็กซี่นี่ถ้าอายก็ไม่ต้องบอกว่าไปอาบอบนวดนั้นก็ได้ ให้บอกที่ใกล้ ๆแล้ว เดินต่อนิดหน่อยก็ได้(เพราะถ้าบอกตรงๆ ก็อาจอายคนขับไปตลอดทาง) ถ้าไม่อายก็บอกตรงๆ จำไว้ว่าสถานอาบอบนวดเขาไม่แคร์หรอกว่าใครจะเดินเข้ามาหรือมารถอะไร (เคยเจอฝรั่งขี่จักรยานเข้าไปก็มี)ขอให้มีเงินค่าอาบนวดก็พอแล้ว
2.เวลาเปิดปิดบริการ สถานอาบอบนวดจะให้บริการไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับใบอนุญาต บางแห่งเปิดตั้งแต่เที่ยงวันเลิกตอนเที่ยงคืนก็มี บางแห่งเปิดตั้งแต่บ่ายสองโมงจนถึงเที่ยงคืน บางแห่งเปิดตอนสี่โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน บางแห่งเปิดตั้งแต่หกโมงเย็นปิดเที่ยงคืน วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการส่วนใหญ่ก็เปิดได้ตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงเที่ยงคืน เวลาในการให้บริการต่อครั้ง(รอบ) ตกในราวชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงแล้วแต่สถานที่ (แต่พบมากคือรอบละชั่วโมงครึ่ง เมื่อขึ้นไปใช้บริการแล้วแม้แขกเสร็จสมอารมณ์--เย็ดแล้ว ก็มีสิทธิอยู่จนครบเต็มเวลา)
3.ภายในอาบอบนวด   เมื่อเดินเข้าไปข้างในก็มักจะมีที่ว่างเป็นห้องโถง มีที่นั่งสำหรับแขก มีเคาน์เตอร์เก็บเงิน มีห้องอาหาร ห้องน้ำ และที่สำคัญด้านหนึ่งจะมีห้องใหญ่ติดกระจกยาว ให้หมอนวดนั่งอยู่ภายในให้เราเลือก ห้องนี้มักเรียกกันว่า "ตู้" (ฝรั่งเรียกว่า fish bowl) บางแห่งจะให้หมอนวดทุกเกรดราคาและทุกประเภท มานั่งรวมกันในตู้นี้ แต่แยกเป็นกลุ่ม ๆ ตามราคาหรือประเภท บางแห่งจะแยกความแตกต่างโดยให้หมอนวดติดเบอร์สีต่างกัน แต่บางแห่งอาจแยกตู้หรือแยกห้องกันไปเลย ถ้าเราเพิ่งเคยเข้าไปก็ต้องสอบถามคนเชียร์แขก ดูว่าตรงไหนหรือป้ายแบบไหนให้บริการอะไร ราคาเท่าไหร่  ในสถานอาบอบนวดทุกแห่งจะมีคนคอยแนะนำแขกเรียกว่า "เชียร์แขก" คนเหล่านี้ปกติมีหลายคนทั้งชายและหญิง มีหน้าที่ให้คำแนะคำเกี่ยวกับราคา และตัวหมอนวด และเรียกให้หมอนวดออกมาพาแขกไปเข้าห้องให้บริการ
4.ภายในห้องอาบอบนวด   ในห้องอาบอบนวด จะเป็นห้องเล็ก ๆ (ที่จริงก็ใหญ่กว่าห้องที่บ้านเรา) มิดชิดปิดล็อคกุญแจได้แน่นหนาคนข้างนอกเข้าไม่ได้ ปกติที่ด้านบนประตูจะต้องมีช่องเล็ก ๆ ให้คนมองเข้าไปได้(ตามกฎหมายจะต้องมีไว้ให้ตรวจดูจะได้ไม่มีการเย็ดกัน แต่ในทางปฏิบัติ ไม่มีใครเขาไปดูกันหรอก บางทีหมอนวดเอาผ้าไปปิดก็มี) ห้องจะใหญ่เล็กก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่ปกติจะปูพรม ห้องส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่พอสำหรับ รองรับเตียงขนาดใหญ่ มีชุดรับแขก โซฟา --ทัศน์ อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พอที่จะลงไปอาบ ได้พร้อมกันสองคน และถ้าเป็นห้องที่ใช้อาบแบบบีคอร์ส หรือเรียกอีกอย่างว่าโตรา  ก็จะมีแพยางให้ลงไปนอนนวดกันบนนั้นเพิ่มขึ้นมาด้วย    
5.การเรียกชื่อหรือประเภทหมอนวด อาจเรียกกันได้หลายแบบหรือประเภท เช่น
5.1 แบบธรรมดา   พวกนี้จะให้บริการมาตรฐานทั่วไป คือต้อง อาบน้ำให้แขก อม(เลีย,ดูด)จู๋ของแขก
(นิยมเรียกกันว่า"สเปย์" ทั้งที่ฝรั่งบอก "smoke") และเย็ดกับแขก หมอนวดที่จัดอยู่ในประเภทนี้ มีมากที่สุด พวกนี้จะทำงานมาพอควรแล้ว(ถึงจะเป็นคนใหม่ก็จะได้รับการสอนงานมาก่อน) จึงรู้งานและมักให้บริการได้อย่างไม่เคอะเขิน พวกนี้แม้จะเรียกว่าหมอนวดแต่จริง ๆ แล้ว แทบนวดกันไม่เป็นเลย เพราะไม่เน้นนวด เน้นการดูดจู๋กับ--เย็ดกับแขกเป็นสำคัญ ว่าไปก็เหมือนกับคุณตัวตามซ่องนั่นเอง แต่มีระดับสูงกว่า สวยกว่า ให้บริการดีกว่าคุณตัวตามซ่อง และให้บริการในสถานที่หรูหรากว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เท่านั้นเอง เราจึงควรยกระดับจิตใจ ให้สูงและดี เมื่อไปใช้บริการ อย่าทำตัวต่ำๆเถื่อนๆจะเสียหน้าเสียชื่อได้ (อาจถูกคนคุมเตะได้)
5.2 แบบไซด์ไลน์(sideline )   พวกนี้ก็ทำงานเหมือนแบบธรรมดานั่นเอง แต่สถานอาบอบนวดจัดไว้เป็นอีกพวกหนึ่ง เพราะพวกนี้มักเป็นสาวรุ่นที่ยังใหม่อยู่(หน้าตาดีด้วย) ไม่แน่ใจว่าจะทำประจำหรือสถานที่นั้น ต้องการเพิ่มราคา (บางคนทำมาแล้วแต่เปลี่ยนที่ใหม่ไปหลอกเขาก็มี) หรือทำงานเก่งอยู่แล้ว และมีหน้าตาสวย รูปร่างผิวพรรณดี เป็นที่ต้องตาต้องใจของแขก จึงขอต่อรองให้จัดมาเข้ากลุ่มนี้ แต่บางที่ก็คัดเลือกสาวๆซึ่งไม่เคยเป็นหมอนวดมาก่อนจริงๆ เช่น สาวออฟฟิส,--บ้าน,นักศึกษา, สาวเชียร์เบียร์ ฯลฯ (เคยเจอสาว--แว่นตามาด้วย)ที่คิดจะเสียตัวเพื่อหาลำไพ่ชั่วคราว (บางที่หรูๆอาจคัดเลือกอย่างดี ได้นางงามตกรอบ,นางแบบไม่ดัง,สาวพริตตี้ บางทีมีกระทั่ง ดาราสาวตกอับ) พวกนี้มักจะราคาสูงกว่าพวกธรรมดามากพอควร(จนถึงแพงจัด) การให้บริการก็ทำเหมือนกับแบบธรรมดาทุกอย่าง แต่พวกนี้ที่ใหม่จริง ๆ มักให้บริการได้ไม่เก่ง, ไม่ครบเท่าแบบธรรมดา เพราะยังไม่ชำนาญ สิ่งที่ดีก็มักจะเป็นหน้าตา,เนื้อตัวและความใหม่ แต่อย่างไรก็ตามพวกไซด์ไลน์จะดีหรือไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการคัดเลือกหรือความพิถีพิถันของ แต่ละสถานที่ด้วยว่าเน้นความสดใหม่ ,รูปร่างหน้าตาหรือฝีมือ แต่ส่วนใหญ่เน้นความสดใหม่ (ดูจากงานประจำวันเช่น นักศึกษา,สาวออฟฟิส) และหน้าตาสวย(นางงาม,นางแบบ)  ถ้าเราต้องการฝีมือก็ต้องบอกคนเชียร์แขกให้ชัดเจน เดี๋ยวเจอหมอนวดที่สวยเนียนงามแต่ แข็งทื่อไม่บริการเราเลย(พวกนางไม้) จะผิดใจทะเลาะกันได้
5.3 แบบบีคอร์ส(B-course) หรือโตรา (Tora)  พวกนี้ให้บริการเหมือนกับพวกธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างไปคือพวกนี้จะต้องทำการนวด ให้แขกที่แปลกกว่าการนวดทั่วไป คือเมื่ออาบน้ำทำความสะอาดดีแล้วทั้งสองคน ก็จะให้แขกลงไปนอนบนแพยาง(พลาสติค)แบบแพยางที่ใช้กันที่ชายหาด แล้วหมอนวดจะเอาน้ำมันหรือสบู่พิเศษที่ใช้กับการนวดประเภทนี้มาตีฟองแล้วชะโลม ให้ทั่วตัวแขกและตัวหมอนวดจนตัวลื่นดีแล้ว หมอนวดก็จะแนบตัว โยก บดคลึงไปบนตัวแขก โดยเน้นให้นมถูนวดไปตามท่อนขา ลำตัว ทั้งด้านหน้าและหลังตัวแขก เนื่องจากการนวดประเภทนี้เน้นการใช้นมนวดนาบถูไถไปตามร่างกายแขก คนที่จะให้บริการแบบนี้จึงเน้นคนที่มีนมใหญ่ มากกว่าหน้าตา(แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีสวยเสียเลย) นอกจากการใช้นมนวดให้แขกแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่หมอนวดแบบนี้จะทำให้แขกด้วย  คือการใช้โคกหี รวมถึง!ของตนบดถูคลึงวนไปตามร่างกายของแขกด้วย แขกที่อยากนวดแบบนี้ต้องพร้อมที่จะยอมรับการถูก จี๋มของหมอนวดถูไถไปตามร่างกาย (หมอนวดบางคนอาจเลี่ยงแต่ถ้าบอกให้ทำก็จะทำให้) ขณะแนบจี๋มบดคลึงกับจู๋ของแขกซึ่งปกติ ขณะนวดจะไม่ใส่ปลอก(ถุงยาง) จี๋มกับจู๋จะสัมผัสแนบแน่นกันโดยตรง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวิธีการบดคลึงของหมอนวด บางคนหุบขามากหน่อยการสัมผัสกับจี๋มก็ผิวเผินอยู่ตรงเนินหัวเหน่า แต่บางคนที่อยากให้แขกประทับใจ หรือต้องการยั่วอารมณ์ก็-มาก ให้สัมผัสด้านใน เช่นโคกประกับ(แคมใหญ่)มากหน่อย บางคนยอมลงทุนนั่งยองๆเปิด!ถูไถตัวแขกเลย แขกเมื่อถูกนวดแบบแนบชิด ประกอบกับมีความลื่นก็มักเสี้ยนมากจนจู๋แข็งตัวเต็มที่ บางคนทนไม่ไหวขอ--กับหมอนวดบนแพเลยก็มี บางทีก็พยายามยกก้นเพื่อกระแทกจู๋ใส่สด ๆ ก็มีเพราะคิดว่ามันลื่นคงเข้าได้ง่าย ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับหมอนวด ปกติถ้าแขกต้องการ--ทันทีหมอนวดก็มักจะตามใจ โดยหมอนวดมักใช้ท่านั่งแท่นขย่มตอ (แขกอาจขึ้นข้างบนทำเองก็ได้แต่หมอนวดมักไม่ยอมเพราะกลัวผมเปียก) แต่มักจะให้สวมถุงยางก่อน แต่ปกติมักไม่เย็ดกันตอนนั้น เมื่อนวดกันเสร็จแล้วก็จะล้างตัวและไปให้บริการอื่น ๆ ตามปกติกันที่เตียง ซึ่งก็ได้แก่การอมควยของแขก และ ให้แขกเย็ด--ด้วยเหมือนหมอนวดแบบอื่น การนวดประเภทนี้ยังมีอยู่หลายแห่ง คนที่ไม่เคยก็ขอแนะนำให้ลองดู จะเป็นประสบการณ์ ที่เยี่ยมมาก ให้ความรู้สึกสยิว ลื่นดี ตอนนวดบีคอร์ส โดยเฉพาะตอนหมอนวดเอาโคกประกับจี๋ม (บางตำราเรียก "แคมใหญ่")นวดถูไถไปตามตัวและจู๋ เพียงแต่ต้องยอมรับว่าตัวเราบางส่วน อาจถูกเมือกลื่นจากรูจี๋มเล็ดลอดออกมาบ้าง แต่มันก็ผสมกับน้ำมันจนน่าจะเจือจางแล้ว คิดว่าเป็นน้ำมันก็แล้วกัน เพราะปกติตอนนั้นหมอนวดกำลังทำงานยังไม่ได้ถูกแขกเล้าโลม แต่อย่างใด เมือกจี๋มคงยังไม่ออกหรอก แต่ก็เอาแน่ไม่ได้ เพราะกว่าจะถึงขึ้นนี้ ก็มักจะถูกแขกคนก่อนหน้าดูดนมหรือล้วงจี๋มบีบคลึงคลิต(คลิตอริส)มาบ้างแล้วก็ได้ หรือหมอนวดบางคนอารมณ์สูงไวไฟ อาจเสี้ยนได้ที่ตอนทำงานถูไถก็ได้ (เคยเจอมาบ้างหลายคนเป็นอย่างนี้จริงๆ)
5.4 แบบแผนโบราณ   พวกแผนโบราณแท้ ๆ บางแห่งจะมีการนวดกันจริงจัง (ค่านวดจะถูกมากชั่วโมงละสองสาม ร้อย--หรือน้อยกว่านี้อีก) ไม่มีการบังคับให้หมอนวด--กับแขก (แต่ตกลงกันเองก็ทำได้  ถ้าหมอนวดยอมและสถานที่อำนวย) ในอาบอบนวด หลาย ๆ แห่งแม้จัดหมอนวดแบบ แผนโบราณไว้ แต่ในทางปฎิบัติในบางแห่งก็ทำงานแบบเดียวกับหมอนวดธรรมดา คือทุกคนจะต้อง--เย็ดกับแขก มีการอาบน้ำ(อาจไม่ต้องลงอ่าง)และนวดด้วย แต่พวกนี้มักอายุมากและผ่านงานมามากแล้ว ราคาจะถูกกว่าหมอนวดแบบธรรมดาบ้างแต่ไม่มากนัก
6.การเลือกหมอนวด   เวลาเข้าไปในสถานอาบอบนวดแล้วก็ให้ทำตัวปกติอย่าทำท่าตื่นเต้นหลุกหลิกให้เป็นที่สังเกต ของคนอื่น ควรหาที่นั่งสงบใจก่อนแล้วค่อย ๆ สำรวจดูสิ่งรอบตัว พอมั่นใจดีแล้วก็มองดูหมอนวดในตู้ ถ้าไกลไปก็เดินเข้าไปมองที่หน้าตู้เลย ดูให้ดีนะว่ากระจกและไฟมันไม่หลอกตา เพราะบางทีในตู้มองดูแล้วว่าขาวหรือสวย แต่พอออกมาข้างนอกแล้วผิดจากที่เห็นในตู้ก็มี ถ้าจะให้ดีจะต้องมองเปรียบเทียบผิวพรรณ หน้าตากับคนข้างเคียงด้วย จะได้แน่ใจว่าขาวหรือเนียนจริงๆ เพราะถ้าดูเดี่ยวๆ อาจผิดพลาดได้ แต่ถ้าชอบผิวคล้ำๆตาคมแบบไทยๆเช่นเดียวกับตัวผมเอง(จิ้งเหลนไฟ)ก็หมดปัญหาไปเยอะ เรื่องการดูว่าอกใหญ่หรือไม่ บางกรณีมองลำบากก็ต้องอดทนคอยดูหลาย ๆ มุม ถ้าดูทางด้านข้างจะรู้ชัดว่าใหญ่หรือเล็ก ถ้าใหญ่มันก็จะยื่นชูชันออกมาเลย ที่ดูยากหน่อย ก็พวกชอบดันนมให้ล้นออกนอกบราฯทำให้มองดูใหญ่ แต่จริง ๆ ไม่ใหญ่ พวกนี้สังเกตดูแม้เนินอกนอกคัพนูนใหญ่ก็จริง แต่ฐานล่างมันจะแฟบ ๆ ผิดรูป เพราะถูกดันให้ล้นขึ้นไป มันไม่ใหญ่จริงหรอก พวกใหญ่จริงมันจะดูอูมฟูมเต็มคัพ จุดที่บอกได้ดีอีกอย่างก็คือต้องคอยจังหวะ เวลาขยับตัวเดิน,ลุกนั่ง ถ้ามองเห็นนมกระเพื่อมขึ้นลงก็พอบอกได้ว่าใหญ่จริง บางทีต้องคอยจังหวะตอนก้มมองลอดเสื้อเข้าไป เรื่องผิวนี่จะดูแค่หน้าอย่างเดียวไม่ได้เพราะใช้เมคอัพปกปิดกันได้ ต้องดูที่คอ หน้าอก แขนขาประกอบด้วย บางคนหน้าขาวแต่ส่วนอื่นคล้ำก็เชื่อได้ว่าสีจริงคือคล้ำ เรื่องความกระชับและความลึกของจี๋มส่วนมากคนตัวเล็กย่อมฟิตและตื้นกว่าคนตัวใหญ่ อันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าของเราเล็กก็ควรเลือกคนตัวเล็กไว้ก่อน หมอนวดบางคนมีกล้ามเนื้อจี๋มแข็งแรงก็จะฟิตกระชับเป็นพิเศษ ถ้ามองดูมือแขนมีกล้ามเนื้อ แข็งแรงดูคล้ายเป็นปล้องอวบ ๆ (ไม่ใช่เป็นมัด)ก็มักจะมีกล้ามเนื้อตรงนั้นดีด้วย พวกแขนลีบ ๆ ก็มักมีกล้ามเนื้อน้อยไปด้วย อย่าสับสนระหว่างรูจี๋มเล็กกับกล้ามเนื้อจี๋มแข็งแรงล่ะ คนตัวเล็กจี๋มเล็กแน่ๆ (ซึ่งจะรัดจู๋ แค่ตอนใส่เข้าไปใหม่ๆ) แต่ไม่ได้--หมายความว่า กล้ามเนื้อตรงนั้นแข็งแรง (รู้สึกได้ว่าหลังจาก เดินลำควยไปแล้ว--จะเหลวยืดตัวมากจนไม่มีแรงรัด)เพราะอาจจะไม่เคย(แม้แต่จะคิด) ฝึกขมิบ! เลิกงานแล้วก็เอาแต่เที่ยวเล่นเมายา ปล่อยตัวให้เสื่อม--ม (แขนขาจึงลีบ) บางคนตัวใหญ่หน่อย จี๋มอาจใหญ่แต่กล้ามเนื้อรอบ ๆ แข็งแรงสามารถขมิบรัดได้แรงมาก (ขณะเดินลำ)เพราะดูแลตัวเองดี พักผ่อน,ออกกำลังกายและฝึกขมิบ!อยู่เสมอ แขกจึงติดแม้จะมีอายุขึ้นมาบ้าง ถ้าของเราใหญ่ยาวหากเลือกคนตัวเล็กจี๋มฟิตและตื้น เวลาร่วมก็จะทำไม่ได้เต็มที่ เพราะจะไปชนมดลูกแรงๆ ทำให้หมอนวดเจ็บหมดอารมณ์ไปได้(และจะไม่ยอมบริการให้เราอีก) ก็ต้องเลือกคนตัวใหญ่สูงๆ หน่อยจะได้เข้ากันได้ดี ไม่ใช่ตะบี้ตะบันจะเอาแต่ตัวเล็กๆขาวๆลูกเดียว การดูอายุปกติก็ถามเชียร์แขกดูได้ แต่บางทีเชียร์แขกก็ไม่แน่ใจก็อาจบอกเดา ๆ ผิด ๆ ได้ อันนี้ก็ต้องดูด้วยตัวเอง ปกติคนอายุน้อย ผิวพรรณก็เต่งตึง ผิวใบหน้ามักจะเรียบ ไม่มีอาการย้อยหรือหยัก หรือเป็นลอนคลื่นไม่เสมอกัน เนื้อส่วนแขนท่อนบนจะไม่ห้อยย้อยปกติคนอายุมากมักจะท้วมและตัวมักใหญ่กว่าสาวรุ่นๆ เนื้อจะไม่เต่งตึง (แต่มักมีเทคนิคดี) ยกเว้นคนที่ดูแลตัวเองดี ซึ่งมักจะเป็นดารา หรือ ไซด์ไลน์ แขกอาจสอบถามเกี่ยวกับตัวหมอนวดได้ เช่น ทำมานานเท่าไร อายุเท่าไร มีลูกหรือยัง (เพราะเชื่อว่านมจะใหญ่,มีน้ำนมให้ดูดและอารมณ์สูง แต่หลังๆมาแขกมักเลี่ยงไม่เลือก เพราะอาจจะท้องลายไม่น่าดู) อกใหญ่หรือเล็ก อมสด หรือเบิ้ลได้หรือเปล่า ส่วนใหญ่ถ้า เชียร์แขกรู้ส่วนดีของหมอนวดก็จะบอก แต่อะไรที่ไม่ดี บางทีก็แกล้งบอกว่าไม่แน่ใจ ที่สำคัญ อันดับแรกคือต้องเลือกคนที่ถูกใจเราเป็นหลัก อย่าตามแห่ตามฮิต แล้วสอบถามเพื่อให้แน่ใจ ว่าหมอนวดคนนั้นมีสิ่งที่เราไม่ชอบหรือไม่ แต่อย่าเชื่อคนเชียร์แขกนัก เพราะคนเชียร์แขก มีหลายประเภท บางคนชอบยัดเยียดเด็กที่ไม่ค่อยได้งานให้แขกที่ไม่คุ้นหน้า บางคนโกหกดื้อๆเลย ขอเพียงให้เราขึ้นห้องเป็นพอ และบางอย่างที่เชียร์แขกบอกว่าทำ ก็อย่าเหมาว่าน้องจะทำให้เรา เหมือนกับที่ทำกับคนอื่น เพราะบางทีเขาไม่ทำให้เพราะเราอาจเป็นคนที่ไม่น่าทำให้อย่างยิ่ง หรือบางทีเหนื่อยมากแล้ว การจองเด็ก ถ้าเราต้องการจองเด็กก็--ไปจองกับร้านได้ หรือจองกับเชียร์แขกแล้ว เราต้องไปตามเวลาด้วย มิฉะนั้นเขาก็ต้องให้ขึ้นกับคนอื่นไป มีอย่างหนึ่งคือ ถ้าเชียร์แขกหาเด็กที่ถูกใจ เราก็ควรให้ทิปเขาเป็นสินน้ำใจ (นักเขียนใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ท่านมักจะให้ทิปเชียร์แขกนิดหน่อยก่อน ถือเป็นจุดเรียกน้ำใจ แล้วถ้าถูกใจเด็กที่จัดให้จึงทิปเพิ่ม) เพื่อวันหลังเขาจะได้แนะนำที่ดีๆให้อีก เมื่อเลือกน้องได้แล้วก็จะออกมาหาเรา ปกติก็จะไหว้เรา เราควรรับไหว้ แต่บางคนแค่ยิ้ม หวานๆให้ เราก็ยิ้มตอบ แล้วน้องจะพาเราขึ้นไปที่ห้อง ตอนนี้ส่วนมากยังไม่ต้องจ่ายเงิน จะกลับมาจ่ายที่เคาน์เตอร์ตอนเสร็จแล้ว แต่ก็มีบางแห่งให้จ่ายเงินก่อนก็มี
7.ขั้นตอนการให้บริการของหมอนวด   พอเข้าไปในห้อง หมอนวดมักจะตรงไปเปิดน้ำร้อนน้ำเย็นใส่อ่างก่อน สักเดี๋ยวก็จะมีเด็กเสริฟมาถามว่าจะสั่งอะไรมากิน ปกติเราก็มักจะสั่งน้ำ เบียร์หรืออะไรก็ตามแต่ เราต้องสั่งให้หมอนวดด้วยเป็นการแสดงน้ำใจที่ดี เมื่อเด็กเอามาเสริฟแล้ว ต้องทิปให้เด็กด้วย (อย่าลืม) ระหว่างนั้นก็จะมีแม่บ้านเอาตะกร้าใส่อุปกรณ์พวกสบู่ น้ำยา--เชื้อ น้ำยาบ้วนปาก กระดาษเช็ดหน้า ฯลฯ มาให้แล้วรีบออกไป หมอนวดก็เอาน้ำยา--เชื้อโรคไปผสมน้ำในอ่าง แล้วเวลาการให้บริการของหมอนวด ก็จะเริ่มต้น (มีข้อควรรู้อีกอย่าง ถ้าหากเรายังไม่ได้ทำอะไรกับหมอนวดจนถึงขั้นอมควยและเย็ดกัน  เกิดเราไม่ถูกใจหมอนวดเลย เช่น ทำกิริยาไม่ดี พูดจาไม่ดี พอจะทำอะไรก็ไม่ให้ทำ ตามที่คนเขาทำกันปกตินะ ก็ขอเปลี่ยนตัวหมอนวดได้ แต่ปกติแขกจะไม่เปลี่ยนตัว เพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดี นอกจากเห็นว่าแย่มาก จริง ๆ เท่านั้น) หมอนวดที่ดีจะถอดเสื้อผ้าตัวเองแล้วมาช่วยเราถอดเสื้อผ้าเอาไปแขวน แล้วก็จะถอดชั้นใน จนล่อนจ้อน บางทีอาจยังไม่ถอดเสื้อผ้าแต่ไปนั่งกันที่โซฟา แล้วอาจกอดจูบลูบคลำล้วงกัน เป็นการอุ่นเครื่องก่อน ถ้าเกิดอารมณ์ได้ที่ก็อาจ--กันที่โซฟาก่อนอาบน้ำก็มี ไม่มีอะไรมาขีดขั้นว่า จะต้องทำอะไรกันตอนไหน สุดแล้วแต่แขกกับหมอนวดเป็นหลัก ปกติเมื่อล่อนจ้อนกันทั้งสองคนแล้วและน้ำเต็มอ่าง แขกและหมอนวดก็จะลงไปในอ่าง แต่ก่อนลงอ่าง หมอนวดบางคนที่มีเทคนิคดีก็จะเปิดฝักบัวล้างจี๋มโชว์ก่อนลงอ่าง และอาบน้ำให้แขกนิดหนึ่งก่อน แล้วจึงลงไปแช่ในอ่างกับแขกโดยหันหน้าเข้าหากัน ให้แขกนอนเอนเอาหัววางบนผ้ารองซึ่งจะจัดไว้ด้านตรงข้ามกับก๊อกน้ำเสมอ แล้วหมอนวดกับแขกจะขยับตัวให้ท่อนขาแถวสะโพกของแขกขึ้นไปทับอยู่บน ต้นขาอ่อนทั้งสองข้างของหมอนวด เราไม่ต้องกลัวว่า หมอนวดจะหนัก เพราะอยู่ในน้ำตัวเราจะไม่หนักเท่าไร และก็เป็นท่ามาตรฐานหมอนวดที่ไหนๆ ก็ต้องทำอย่างนี้ เพราะทำให้หมอนวดถูทำความสะอาดแขกได้สะดวก แล้วหมอนวดจะขัดถูมือเท้าและตัวให้แขก บางคนก็ล้างก้นให้แขกก็มี แล้วจัดการทำความสะอาดจู๋ของแขก รูดหนังหุ้มจู๋ทำความสะอาด จนหมดจด (บางทีก็--ให้แขกไปเลย เรียกว่า "ขัดจรวด") ถ้าแขกไม่ต้องการให้ล้างถูตรงไหนก็บอกหมอนวดไป เพราะบางทีทำให้เสียเวลา แต่ปกติหมอนวดมักจะล้างจู๋แขกให้สะอาดเพราะจะต้องอมมัน ขั้นตอนการอาบน้ำ(อย่างเดียว)กินเวลาไม่เกินสิบห้านาที แต่จะช้าเร็วก็ขึ้นอยู่กับหมอนวดด้วย หมอนวดบางคนอาจถ่วงเวลาอาบน้ำให้นาน ๆและ ถ่วงเวลาตอนอื่นด้วยจะได้เหลือเวลาทำอย่างอื่น พวกอมดูด เย็ดน้อยหน่อยและจะได้ ไม่ต้องถูกเบิ้ล(เย็ดครั้งที่สอง)ด้วย ซึ่งก็น่าเห็นใจมาก เพราะวันหนึ่ง ๆ หมอนวดที่เป็นดารา ของที่นั่นบางคนอาจต้องบริการแขกสี่ห้ารอบก็มี อาจต้องเย็ดกับแขกมากถึงหกเจ็ดหน (มักเกิดกับอาบอบนวดที่บังคับให้ยอมแขกที่ต้องการเบิ้ล) ก็ต้องอ่อนเพลียเป็นธรรมดา (แม้ปกติหมอนวดจะไม่ถึงจุดสุดยอดก็ตาม) ถ้ามีการถ่วงเวลากันบ้างแบบไม่น่าเกลียด ก็อย่าไปถือสาหรือแสดงความไม่พอใจเลย เมื่อทำความสะอาดดีแล้วหมอนวดบางคนอาจจะ เริ่มรูดควยให้แขก(ขัดจรวด) หรืออม ดูด เลีย จู๋ของแขกสด ๆ ในอ่างอาบน้ำเลยก็มี (เรียกว่า "เล่นน้ำ"หรือ"ดำน้ำ") และอาจมีบ้างที่แขกเกิดอารมณ์มากเลย--กันในอ่างอาบน้ำ หรือที่ขอบอ่างก็มี แต่ปกติแล้วจะออกจากอ่างน้ำแล้วหมอนวดก็จะช่วยเช็ดตัวแขกให้แห้ง แล้วบอกให้แขกไปนอนคอยที่เตียง ขอแนะนำว่าเราควรมีน้ำใจรอช่วยเช็ดตัวให้หมอนวด หรือรอช่วยอื่นๆ เมื่อหมอนวดเช็ดตัวเองแห้งแล้วก็จะเตรียมถุงยางและขึ้นไปนอนเคียงข้างกับแขก ตอนนี้ก็อยู่ที่แขกว่าจะให้เริ่มอะไรก่อน ถ้าแขกนอนเฉยๆไม่เริ่มเอง หมอนวดก็จะเอากระดาษเช็ดควยของแขกให้แห้งสะอาดดี แล้วจะเริ่มจูบเลียตามตัวแขก ดูดนมแขก(ไม่ทุกคนที่จะเลียเนื้อตัวแขก) จนมาจบด้วยการอมจู๋เสมอ ซึ่งก็ไม่ได้อมเฉยๆตลอดเวลา แต่จะอมเม้มปากรูดขึ้นลงตลอดลำควย สลับกับถอนปากออกมาเลียตามส่วนหัวหรือตัวลำควย หรือลงไปเลียและอมไข่ หมอนวดจะอมควยสดๆ หรือจะใส่ถุงยาง(ปลอก)ก่อนอม ก็สุดแล้วแต่เธอ  หมอนวดที่เก่งหรือในอาบอบนวดบางที่(ส่วนใหญ่เป็นที่หรูๆหน่อย) จะกลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก ก่อนอมสด บางที่ก็ตั้งเป็นกฎให้พวกไซด์ไลน์ราคาสูงต้องกลั้วปากหรืออมยาอม--เชื้อก่อน แลัวจึงอมสดๆ สมัยก่อนถ้าอมโดยใส่ปลอก หมอนวดก็มักจะไม่อมหรือเลียไข่ เพราะขมลิ้นมาก จากน้ำยาหล่อลื่นที่ละลายเนื้อยางที่ใช้ทำปลอก ซึ่งจะไปขังรวมอยู่มากตรงขอบๆใกล้ๆไข่ แต่ถ้าอมสดก็อาจจะเลียหรืออมไข่ให้ด้วย มาสมัยนี้ไม่ว่าจะอมสดหรือใส่ปลอก แขกอาจขอให้เลียไข่หรืออมไข่ได้เพราะน้ำยาและเนื้อยางแทบไม่ขมแล้ว ซึ่งหมอนวดบางคนก็ทำให้แต่บางคนก็ไม่ยอมทำให้ (มักอ้างว่าพอจู๋แข็งแล้วเลียไข่ก็ไร้ผล) ในอาบอบนวดบางแห่งเปอร์เซ็นต์ที่หมอนวดเคยอมสด ๆอาจมีมากถึงเกือบครึ่งหนึ่ง บางแห่งอาจถึง 75 เปอร์เซ็นต์(เพราะเป็นนโยบายของสถานที่ แต่ไม่ได้หมายความว่า ในจำนวนพวกที่อมสด เธอจะอมสดทุกครั้งไป) แต่บางแห่งก็มีน้อยในราว 30 เปอร์เซ็นต์ การอมควย ของแขกถือเป็นบริการมาตรฐานของหมอนวดทุกคนและทุกแห่งจะต้องทำ (อันนี้แตกต่างจากซ่องอย่างเห็นได้ชัด) การอมควยจะนานหลายนาที อาจถึงสิบนาทีก็ได้ การอมควยสด ๆ นี้ มีกฏกติกามารยาท อยู่อย่างหนึ่งที่แขกพึงปฏิบัติคือ ถ้าเสียวจนน้ำอสุจิ กำลังจะพุ่งออกมาจะต้องบอกให้หมอนวดรู้จะได้ถอนปากออกทัน ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะปล่อยให้ น้ำพุ่งเข้าปากโดยไม่บอกก่อน แต่ถ้าบอกแล้วหมอนวดยังทำต่อก็แสดงว่าเต็มใจให้น้ำอสุจิเข้าปาก ก็ปล่อยให้พุ่งเข้าปากได้ ปกติมีน้อยคนที่ยอมให้แตกในปาก มักจะยอมกับแขกขาประจำ เพราะผู้หญิงส่วนมาก(หมอนวดด้วย)รังเกียจการมีน้ำอสุจิในปาก (ในน้ำอสุจิของคนเป็นเอดส์ จะมีเชื้อเอดส์จำนวนมาก ทำให้มีโอกาสการติดเชื้อได้ แม้ว่าการติดเชื้อโดยการอม เลีย อวัยวะเพศ  จะมีโอกาสน้อยมากก็ตาม ยิ่งถ้ากลืนลงไปเชื้อจะถูกน้ำย่อยสลายหมด) ปกติเมื่อน้ำออกโดยการอม หมอนวดในหลายสถานที่จะให้แขกเย็ดจนหลั่งอีกหนหนึ่ง แต่มีหมอนวดบางคนโดยเฉพาะพวกไซด์ไลน์หรือในสถานที่หรูจัดๆบางแห่งจะทำให้แค่แขก หลั่งน้ำหนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นในที่แห่งนั้นจะต้องถามหมอนวดหรือสาวไซด์ไลน์ ให้ดีก่อน มิฉะนั้นอาจผิดหวังหรืออาจต้องให้เงินเพิ่ม(ทิป)ถึงได้--จริง ส่งผลให้เกิดผิดใจกันได้ เมื่อหมอนวดอมจู๋แล้ว บริการมาตรฐานอีกอย่างหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ หมอนวดต้องเย็ดกับแขก ไม่ว่าแขกคนนั้นจะแก่,หนุ่ม อ้วน,ผอม สูง,เตี้ย ขาว,ดำ หรือไม่ถูกสเป็คของหมอนวดเลยก็ตาม เพราะเป้าหมายยของคนเที่ยวอาบอบนวด คือการเย็ดกับหมอนวด จึงเป็นหน้าที่ของหมอนวดต้องช่วยให้แขกหลั่งน้ำโดยการเย็ดให้ได้  แต่ถ้าไม่สามารถทำให้หลั่งโดยการเย็ด ก็ต้องช่วยโดยให้มือ หรือดูดควยให้จนเสร็จก่อนหมดเวลา แต่ถ้าหมดเวลาแล้วหมอนวดก็หยุดและลงไปจากห้องได้ หากแขกยังต้องการให้เสร็จก็ต้องเสียเงินต่อรอบใหม่อีก ในการเย็ดกับแขก หมอนวดจะยอมให้แขกเย็ดสดๆ โดยไม่ใส่ปลอก หรือให้ใส่ปลอกก็ได้ ขึ้นอยู่กับหมอนวดเป็นหลัก แขกไม่มีสิทธิเลือกไม่ใส่ปลอก หมอนวดบางคนต้องการให้แขกติดใจ ก็มักจะให้แขกทำอะไรสด ๆ ได้หลายๆ แบบ เช่น ยอมให้เย็ดสด ๆ โดยให้ฉีดน้ำใส่เข้าไปในรูหีของเธอจนหมดหยดสุดท้ายเลย หรือให้ชักเข้าออกสด ๆ ได้เต็มที่จนเสียวทนไม่ไหวแล้วให้ชักออกมา หลั่งข้างนอกรูหี เช่น บนท้องน้อย ,เต้านมหรือแม้แต่บนหน้าของเธอ (ใส่ปากก็เคยเจอมา) หมอนวดบางคนยอมให้สอดใส่สด ๆ และเดินลำไปสองสามที แล้วให้แขกเอาออกมา สวมปลอกแล้วทำต่อจนเสร็จ บางคนแค่ยอมให้แขกเอาควยถูไถกับหีด้านนอกได้แพล๊บเดียว บางคนยอมให้ทำอย่างนั้นได้นานเท่าที่ต้องการตราบเท่าที่ไม่มีการสอดใส่สด ๆ บางคนยอมให้เข้าสด ๆ แค่หัวนิดเดียวแล้วให้เอาออกทันที การเย็ดกับหมอนวดโดยไม่ใส่ถุงยางเป็นเรื่องเสี่ยงติดโรคเอดส์ได้ นี่ยังไม่นับรวมถึง กามโรคเดิมๆที่ยังอาละวาดอยู่ เพราะแม้สถานอาบอบนวดส่วนใหญ่จะตรวจเลือดหมอนวด ตอนเข้าทำงานใหม่ ๆ และตรวจทุกสามเดือน แต่ก็ไม่รับรองว่าหมอนวดทุกคนปลอดเชื้อเอดส์ และต้องรู้ไว้ด้วยว่าหมอนวดจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งเคยทำ(อาจไม่ประจำ)ดูดควยสด ๆ  และยอมให้ แขกเย็ดโดยไม่ใส่ถุงยาง ฉะนั้นจึงมีโอกาสมากที่จะติดเอดส์จากแขกได้ หรือแขกคนถัดไป 20-30 เปอร์เซ็นต์ และที่ยอมให้เย็ดสด ๆ นาน ๆ ครั้งอีกประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ จึงรวมหมอนวดที่เคยให้แขกเย็ดโดยไม่ใส่ถุงยางถึงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว อย่างนี้ย่อมเห็นได้ชัดว่าไม่ควรเย็ดสด ๆ กับหมอนวด แต่เมื่อมีความจริงอยู่ว่ามีการเย็ดกันสด ๆ กับหมอนวดกันจำนวนมาก จึงอยากแนะนำว่าการติดเชื้อเอดส์มักเกิดจากเชื้อเข้าทางแผลไม่ใช่เข้าโดยตรงทางเนื้อเยื่อ ดังนั้นถ้าหากจะเย็ดสดกับหมอนวดก็จะต้องพยายามทำให้ควยลื่นมาก ๆ การที่จะพึ่งแต่เพียงน้ำเมือกหล่อลื่นจากรูหีเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ (นอกจากเห็นว่าน้ำหล่อลื่นของหมอนวดคนนั้นมีมากจริง ๆ และเปียกทั่วถึงข้างนอกรู! ซึ่งมีน้อยคน) ควรใช้เจลเยลลี่(หรือยี่ห้ออื่นที่มีตัวยาฆ่าเชื้อจะยิ่งดีมากแต่ต้องซื้อไปเอง) ชะโลมท่อนควยให้ลื่น และเอาไปละเลงที่หีและในรูหีของหมอนวดทั้งข้างนอกและข้างในให้ลื่นแล้ว จึงบรรจงสอดควยใส่เข้าไปในในรูหี โดยค่อย ๆ กดเข้าไปทีละน้อยอย่ารีบร้อนรุนแรง พยายามอย่าให้หนังหุ้มควยดึงรั้งจนปริเป็นแผลเล็ก ๆ  แต่ถ้าไม่มีเจลเยลลี่ก็ให้สวมถุงยางและบีบนวดให้ควยเปียกน้ำยาหล่อลื่น(ที่มากับซองถุงยาง)  จนทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณหนังหุ้มหัวควยและตรงเส้นสองสลึง เสร็จแล้วให้สอดควยเข้าไปในรูหี  ซอยควย เข้าออกช้า ๆ จนแน่ใจว่าช่องหีมีน้ำยาหล่อลื่นจาก ปลอกชะโลมทั่วดีแล้ว จึงชักควยออกมาถอดปลอกออก เมื่อชักออกมาแล้วก็อย่าปล่อยไว้นานจนแห้ง แต่ให้สอดเข้าไปในรูหีช้า ๆ ถ้ารู้สึกว่าเส้นสองสลึงเริ่มตึงให้หยุดการสอดคาไว้เฉยๆ ก่อน แล้วค่อยดันเข้าไปช้า ๆ ทีละนิดอย่ากดลงไปแรง จนกระทั่งควยเข้าไปได้หมดเข้าที่ดีแล้ว จึงค่อยๆ เริ่มกระทุ้งควยเข้าออกได้ แต่ต้องทำค่อยๆ ช้าๆ ด้วย ต่อเมื่อรู้สึกว่าลื่นสะดวกดีแล้วจึงทำเร็วขึ้นได้ ถ้าทำอย่างนี้การสอดใส่และเดินลำเข้าออกก็จะไม่เกิดแผลปริแตก น้ำยาหล่อลื่นคือหัวใจของการลดการติดเชื้อเอดส์(และกามโรคอื่นๆ)จากการเย็ดสด ในการเย็ดสด ๆ นั้นไม่ควรหลั่งน้ำอสุจิในรูหี โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยตรวจเลือด(เพราะไม่มีทางแน่ใจว่าในตัวเราหรือหมอนวดมีเชื้อกามโรครวมทั้งเชื้อเอดส์หรือไม่) ความจริงเมื่อหมอนวดยอมให้เย็ดสดแล้วก็ควรพอใจ เมื่อกระทุ้งหีได้นานพอเริ่มเสียวแล้ว ก็น่าจะถอนออกมาแล้วใส่ปลอกเย็ดต่อไปจนน้ำแตก ก็จะปลอดภัยต่อตัวเราและหมอนวดมากขึ้น เพราะปกติเมื่อเริ่มเสียวมากก็จะมีน้ำเคลื่อนออกมาบ้าง อาจนำเชื้อกามโรคและเอดส์ออกมาได้(ถ้ามีเชื้อเอดส์อยู่) และเป็นทางให้เชื้อเข้าตัวเราได้ เราควรสำนึกอย่างมากว่า การที่หมอนวดให้เย็ดสด ๆ ก็เป็นเรื่องพิเศษมากแล้ว ไม่ควรเพิ่มความเสี่ยงให้หมอนวด,ตัวเราและแขกคนถัดไปอีก   อีกเรื่องหนึ่งที่แขกอยากได้มากคือการเย็ดหมอนวดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง(เบิ้ล)  ปกติถือว่าหมอนวดมีหน้าที่เย็ดกับแขกจนแตกรอบละหนเท่านั้น   แต่ก็มีหมอนวดอีกมากและในสถานอาบอบนวดบางแห่งต้องการลูกค้ามาก ๆ จะบังคับกลาย ๆ ให้หมอนวดยอมให้แขกเย็ดจนเสร็จได้ถึงสองรอบ ซึ่งจะเป็นที่ไหนหรือหมอนวดคนไหน  ได้รับเชื้อที่คาอยู่ใน น้ำเมือกหรือน้ำหล่อลื่น ซึ่งตกค้างอยู่ในหี จากการที่ได้เคยพูดคุยกับแขกที่ไปเที่ยวและจากประสบการณ์เอง  น่าเชื่อว่ามีหมอนวดที่เคยเย็ดกับแขกโดยไม่ใส่ถุงยางเป็นประจำ(ไม่ทุกครั้ง)ไม่น้อยกว่า  ค้นอ่านดูได้ในเวปบอร์ดเกี่ยวกับการเที่ยวอาบอบนวดทั้งหลาย  เมื่อ