🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์ในตำนานใต้ดิน => หัวข้อที่ตั้งโดย: uuuu84 เมื่อ ธันวาคม 03, 2013, 10:42:04 หลังเที่ยง

ชื่อ: เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร) ตอนที่ 30 คุณหนูเจ็ด NC 18+ by uuuu
โดย: uuuu84 เมื่อ ธันวาคม 03, 2013, 10:42:04 หลังเที่ยง
                                                                           
เจาะเวลาหาฉิมพลี(ภาคยุทธจักร)ตอนที่ 30 คุณหนูเจ็ด NC 18+



(http://image.ohozaa.com/i/ad2/FiapaD.png)


คุณหนูรองมาแล้ว
สาวงามกวาดสายตาไปรอบๆอย่างเย็นชาบรรดาองครักษ์ทั้งหมดหยุดมือลงตามคำสั่ง เซี่ยวเง็กรีบพลิกตัวออกมาจากการถูกยูอันทับอยู่จากนั้นรีบเอามือน้อยๆรีบกดปิดบาดแผลยาวลึกที่เต็มไปด้วยเลือดของยูอันแต่ทว่าบาดแผลยาวเกินไป และลึกเกินที่มือเล็กๆของเซี่ยวเง็กจะปิดได้เด็กหญิงหันมาร้องเรียกท่านปู่อย่างน่าสงสาร
" ท่านปู่ ท่านปู่ รีบมาช่วยพี่ชาย"
จอมขโมยรีบวิ่งเข้ามาหาเซี่ยวเง็กเห็นบาดแผลของยูอันถูกฟันลึกถึงกระดูก ก็ถึงกับส่ายหน้าแต่ก็นั่งลงจี้สกัดจุดห้ามโลหิตเอาไว้ ถึงแม้ว่าจี้ไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยห้ามโลหิตได้สักเท่าไหร่ เนื่องจากบาดแผลทั้งกว้างและลึกมาก
" ท่านปู่ มีทางช่วยหรือไม่ ? "
เซี่ยวเง็กถามอย่างร้อนใจ
" มันไม่ขาดใจตายในทันทีก็นับว่าน่าประหลาดใจมากแล้ว"
จอมขโมยตอบหลานสาว
" ละ แล้ว นี่ จะทำอย่างไรจะทำอย่างไร ..."
เซี่ยวเง็กร้องออกมาอย่างกระวนกระวาย
" เฮ่อ ทำใจเสียเถิด มันไม่รอดแล้วนอกจากแพทย์ปีศาจจะอยู่ที่นี่ แต่ทว่ามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว..."
" ดูพวกท่านห่วงใยคนของวังเราอย่างยิ่ง"
เสียงเย็นชาของคุณหนูรองเอ่ยขึ้นพร้อมกับร่างงามที่เดินเข้ามา
" พี่สาว ท่านช่วยพี่ชายได้หรือไม่ๆ ? "
เซี่ยวเง็กร้องถามมาตรว่าจะเหมือนถามไปโดยไร้ประโยชน์ แต่เด็กหญิงก็อดร้องถามไม่ได้
"เราย่อมไม่ปล่อยให้คนของวังเราตกตายไปต่อหน้า "
คุณหนูรองตอบ
" จริงหรือ ? พี่ชายมีทางช่วยจริงหรือ? "
เซี่ยวเง็กเงยหน้ามาทางคุณหนูรองร้องถามเพื่อความมั่นใจ
" บาดแผลร้ายแรงเช่นนี้ถ้าหมอธรรมดาทั่วไปรักษาได้ คงต้องเรียกว่าปาฏิหาริย์แล้ว "
จอมขโมยยังไม่เชื่อที่คุณหนูรองพูด
คุณหนูรองไม่สนใจที่จอมขโมยทำท่าไม่เชื่อถือหันหน้ามาทางด้านหลังนิดหนึ่งแล้วสั่งการว่า
" ตามตัวแพทย์มือวิเศษ "
องครักษ์คนหนึ่งรับคำพร้อมดีดตัวจากไปอย่างรวดเร็ว
พอได้ยินจอมขโมยถึงกลับอึ้งไปทันทีปากอดร้องออกมาไม่ได้
"ที่แท้พวกท่านถึงกับมีตัวแพทย์มือวิเศษ ..."
" แพทย์มือวิเศษเป็นเขยของวังร้อยบุปผา จึงทำงานให้วังร้อยบุปผา มีอันใดน่าแปลก "
คุณหนูรองพูด
" ท่านปู่พี่ชายมีทางรอดแล้วใช่หรือไม่ ?"
เซี่ยวเง็กฟังความดูเหมือนจะมีความหวังแล้ว
" อืมม ความสามารถของแพทย์มือวิเศษมาตรว่าจะด้อยกว่าแพทย์ปีศาจอยู่บ้างแต่ก็เพียงด้อยกว่าแพทย์ปีศาจเพียงคนเดียวเท่านั้น "
จอมขโมยตอบหลานสาว
แพทย์มือวิเศษมารวดเร็วยิ่งที่แท้หมอแซ่ตั้งที่ดูแลยูอันมาตลอด คือแพทย์มือวิเศษตั้งชิวผู้มีชื่อเสียงนั่นเอง
" รีบช่วยเหลือมัน "
คุณหนูรองสั่ง
แพทย์มือวิเศษ รีบเข้าไปดูอาการยูอันก่อนจะล้วงเอาห่อยาออกมาจากกล่อง จากนั้นโรยตัวยาลงบนแผลของยูอัน
ผงยาพอกระทบกับบาดแผลก็เปลี่ยนเป็นสีชมพู เลือดที่กำลังไหลก็ไหลออกช้าลง จนแทบจะหยุดลงในทันที
"เราต้องรีบนำมันกลับไปรักษาโดยทันที บาดแผลของมันสาหัสมาก หากไม่รีบเย็บแผลมันยังคงไม่รอดพ้นคืนนี้ไปได้ "
แพทย์มือวิเศษรายงาน
" อืมม..."
พอได้รับอนุญาตองครักษ์คนหนึ่งจึงมาอุ้มยูอันจากไป แพทย์มือวิเศษก็ตามไปติดๆเซี่ยวเง็กเห็นยูอันมีทางรอด จึงไม่ได้ขัดขวาง ได้แต่มองตามยูอันไปอย่างห่วงใย
" ผู้อาวุโส คงเป็นยอดขโมยมือพิศดาร ผู้อาวุโสแซ่ตั้งแล้ว "
คุณหนูรองหันมาคารวะจอมขโมย
" มิกล้าๆเป็นเราผู้เฒ่าแซ่ตั้งจริง "
จอมขโมยรับคารวะคืนนี้รู้สึกเสื่อมเสียหน้ามิน้อย จากเดิมแค่เพียงขโมยของแล้วจากไปไม่เคยมีปัญหาแต่คืนนี้กลับถูกจับได้ แถมยังได้รับบาดเจ็บเสียอีก
"ผู้เยาว์มิทราบว่าเป็นผู้อาวุโสมาเยี่ยม มิเช่นนั้นคงตั้งโต๊ะคารวะแล้ว "
คำพูดแม้ดูนอบน้อมแต่น้ำเสียงกลับเย็นชายิ่ง
" มิกล้า ๆ "
จอมขโมยตอบไปคิดไปคืนนี้หากวังบุปผาจะรั้งตัวสองปู่หลานเอาไว้ ดูท่าคงยากหลบหนี
" ขออภัยที่ผู้เยาว์ยังต้องกลับไปดูแลงานเลี้ยงมิอาจอยู่ต้อนรับผู้อาวุโสได้ เชิญผู้อาวุโสและหลานสาวตามสะดวก "
" ว่ากระไร !!! "
จอมขโมยแปลกใจยิ่งที่เห็นคุณหนูรองเอ่ยปากบอกให้จากไปได้
" หากผู้อาวุโสจะมาเยี่ยมพวกเราภายหน้า อย่าลืมแจ้งให้ทราบ ผู้เยาว์จะได้น้อมต้อนรับ "
คุณหนูรองเอ่ยจบก็พริ้วกายจากไปด้วยท่วงท่างดงามยิ่ง
" ท่านปู่..."
เซี่ยวเง็กเหมือนถามท่านปู่ว่าเอาไงดีละ
" พวกเราจากไปก่อน แล้วค่อยสนทนา"
จอมขโมยเอ่ยก่อนจะคว้ามือหลานสาวแล้วพุ่งกายออกไป
.........................................................................................................
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป แต่ทว่าการชิงบุปผาเสร็จสิ้นไปแล้ว ผู้ชนะทั้งสอง ถูกนำตัวไปยัง ห้องหอที่ตึกด้านหลังส่วนแขกที่ยังอยู่ยังตึกด้านหน้ายังคงดื่มกินกันอย่างเต็มที่หลายกลุ่มก็สนทนาอยู่แต่เรื่อง คืนเข้าหอ ที่น่าอิจฉา
หลวงจีนจากเส้าหลินได้กลับไปแล้วเช่นกันส่วนกระบี่ไล่ลมกับหนุ่มแซ่หลี่ก็นั่งดื่มกันอย่างเพลิดเพลิน
หมัดทลายภูผาก็กำลังเพลิดเพลิน
ทันทีที่ขึ้นเตียงมันไม่ปล่อยเวลาที่มีค่าให้เสียเปล่ารีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและของคุณหนูสี่ออกทันที
คุณหนูสี่กึ่งขัดขืนกึ่งยินยอม แต่ในที่สุด ร่างอันงดงามบาดใจก็เปลือยเปล่าจนได้
ใบหน้าที่งามเปี่ยมแรงดึงดูดหน้าอกที่อวบตั้งเบียดแน่น ช่วงเอวที่คอดกิ่ว รับกับสะโพกที่ผายสล้าง ทั้งเรียวขาที่งามราวกับสลักเสลาทำเอาหมัดทลายภูผาแทบคลั่ง รีบระดมจูบ ระดมลูบไล้สาวงามอย่างไม่ยั้ง
คุณหนูสี่บิดกายปากก็ส่งเสียงน่ารัญจวนใจออกมาเล็กน้อยแต่ก็เพิ่มความต้องการให้หมัดทลายภูผาเข้าไปอีก หลังอดทนอยู่จนไม่ไหวมือแข็งแรงก็จับต้นขาเรียวสวยของคุณหนูสี่ให้กางออก แล้วแทรกบั้นเอวของตนเข้าไปทันที
และในวินาทีที่ได้สอดแทรกแท่งหยกคู่กายเข้าไปทำเอาหมัดทลายภูผาแทบสิ้นฤทธิ์เมื่อเจอกับความคับแน่นแถมตอดรัดถี่ยิบ
"อา.......ทำไมถึงยอดเยี่ยมเช่นนี้..."
หมัดทลายภูผาร้องออกมาหลังเจอกับความคับแน่นตอดรัด มันย่อมรู้ว่าสาวในสังกัดร้อยบุปผาย่อมมิใช่หยกบริสุทธิ์แต่ทำไมถึงได้คับแน่นเช่นนี้ยังคับแน่นกระชับยิ่งกว่าภริยาน้อยสาวๆของมันบางคนเสียอีกมือแข็งแรงรีบเกาะกุมสะโพกเต่งตึงของคุณหนูสี่ไว้แน่นก่อนจะกระหน่ำบั้นเอวใส่ไม่ยั้ง
เวลาของมันมีไม่มากมันต้องตักตวงจากร่างงดงามนี้ให้คุ้ม...
แล้วอีกห้องหนึ่งเล่า
นี่เป็นห้องของคุณหนูห้ากับชายนักศึกษาอายุประมาณสามสิบที่ชนะมาด้วยการใช้ยาเม็ดคืนวิญญาณนั่นเอง
คุณหนูห้าในชุดบางเบามองทะลุไปถึงชั้นในชวนให้วาบหวามอย่างยิ่งยิ่งท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงยิ่งทำให้ชายที่เห็นต้องเกิดความปรารถนาพุ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาทำให้ดูเหมือนเจ้าสาวในคืนแรกวิวาห์ แต่อย่างที่ทุกคนในงานเลี้ยงได้เห็นมาแล้วแม้ใบหน้าจะดูอ่อนเยาว์ไร้เดียงสา แต่ทว่ารูปร่างกลับมิได้เป็นเช่นนั้น
คุณหนูห้าแทบจะมีรูปร่างขนาดเดียวกับคุณหนูสี่เสียด้วยซ้ำยิ่งส่วนหน้าอกที่ตูมตั้ง ยังจะเหนือกว่าคุณหนูสี่เสียอีก
เป็นชายผู้อื่นคงโถมเข้าใส่นานแล้วแต่ทว่าชายนักศึกษาผู้นี้ เพียงนั่งจิบหน้า ชมดู อย่างยิ้มแย้ม
ถัดไปอีกสองสามห้องที่เป็นห้องของคุณหนูสี่กับหมัดทลายภูผา ยังได้ยินเสียงร้องครวญครางแว่วๆมาเป็นระยะๆสักพักหนึ่งแล้วแต่ในห้องนี้ยังมีแต่ความเงียบ
จนกระทั่งคุณหนูห้าเอง ยังนึกแปลกใจเวลาก็ผ่านมาได้สักพักหนึ่งแล้ว อีกไม่นานก็จะเช้าทำไมนักศึกษาผู้นี้ยังเอาแต่ดื่มสุราอยู่ได้ หรือมันไม่กลัวสูญเสียเวลาอันมีค่าไป สุดท้ายจึงร้องถามเบาๆไปว่า
" ท่าน ชมชอบดื่มสุรา ? "
" อืมมม..."
นักศึกษาตอบกลับมาเพียงเท่านี้
" หรือท่านจะดื่มจนเช้า ? "
แทนที่จะตอบชายนักศึกษากลับเอ่ยขึ้นว่า
" คุณหนูคงแปลกใจที่เรามัวแต่นั่งจิบสุรา มิรีบขึ้นเตียงไปแสวงหาความสุข "
คุณหนูห้าอดพยักหน้าตอบไม่ได้
ชายนักศึกษาพูดต่อว่า
" เรียนคุณหนูตามตรงเราชิงบุปผามิใช่เพื่อให้ตัวเอง แต่ชิงให้คนรู้จักของเราผู้หนึ่ง "
" หือ...ท่านว่ากระไร ? "
คุณหนูห้ายังอดแปลกใจไม่ได้เมื่อได้ยิน
" ดังนั้นเราจึงไม่แตะต้องคุณหนูแต่สักวันหนึ่งเราจะนำ คนรู้จัก ของเราไปพบท่านเอง "
" ที่แท้เป็นเช่นนี้"
"ดังนั้นคืนนี้เราเพียงนั่งดื่มและสนทนากันเป็นอย่างไร "
คุณหนูห้าได้แต่ยิ้มตอบอย่างงดงามไม่ว่าจะอย่างไร ลูกค้า ย่อมมาก่อน
...................................................................................................
สายมากแล้ว
คนของวังร้อยบุปผาจากไปแต่แรกทว่าในห้องๆหนึ่งในตึกหลัง ยังมีร่างของชายผู้หนึ่งนอนอยู่ดูจากสภาพยับยู่ยี่บนเตียง และคราบของน้ำรักแสดงว่าคงผ่านการโรมรันพันตูมาอย่างหนักทีเดียว
สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านมาจนเกือบจะเที่ยงเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมัดทลายภูผาค่อยๆงัวเงียๆมือก็ควานหาร่างงดงามที่ผ่านการร่วมรักกันเมื่อคืน แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
" พี่ลี้ ๆ ตื่นแล้วหรือไม่ ? "
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นอีกพร้อมเสียงเรียกหมัดทลายภูผาค่อยคืนคลานลงมาจากเตียง คว้ากางเกงที่กองอยู่ขึ้นมาสวมใส่ก่อนจะร้องตอบด้วยเสียงแหบพร่าว่า
" ตื่นแล้วๆ น้องเราเชิญเข้ามา"
เสียงเปิดประตูพร้อมกับร่างของสหายทั้งสองเดินเข้ามาศิษย์บู๊ตึ้งแซ่หลี่ ร้องแซวว่า
" พี่ลี้คงสำรักความสุขแล้วถึงกับตื่นเอาเสียเที่ยงวัน "
" คุณหนูสี่เป็นเช่นไรบ้างพี่ลี้สมคำร่ำลือหรือไม่ ? "
กระลี่ไล่ลมถามสหาย
หมัดทลายภูผาสวมเสื้อผ้าพลาง ตอบพลางว่า
"เรามิทราบจะกล่าวอันใดจึงจะเหมาะสมจริงๆ โอ...นางนับว่าทั้งงดงามทั้งตอบสนองมิเสียดายเงินที่เสียไปเลย "
" แล้วพลังวัตรเล่า ?"
กระบี่ไล่ลมถามต่อ
" พี่ลี้จัดการคุณหนูสี่ไปกี่รอบกัน ?"
หนุ่มบู๊ตึ้งถามด้วยจนเกือบจะพร้อมกัน
หมัดทลายภูผา นั่งลงบนเก้าอี้ก่อนจะผนึกกำลังเดินลมปราณ เพียงชั่วครู่จึงเอ่ยปากตอบว่า
" ลดลงไปสี่ปี ..."
..................................................................................................
ขบวนเกี้ยวของวังร้อยบุปผาเดินทางออกจากกุ้ยหยางมาได้เกือบครึ่งเดือนแล้วแต่ยังไม่ถึงวังร้อยบุปผา ทำให้ยูอันสงสัยเหมือนกันว่า ที่แท้วังร้อยบุปผาตั้งอยู่ที่ใดกันแน่
ใช่แล้วยูอันได้รับการรักษาอย่างดีจนเกือบหายเป็นปรกติแล้วยังหายเร็วกว่าที่แพทย์มือวิเศษคาดไว้เสียอีก กระทั่งรอยแผลเป็นสักนิดยังไม่มีผู้คนในวังร้อยบุปผาต่างคิดว่านี่เป็นเพราะความยอดเยี่ยมในการรักษาของแพทย์มือวิเศษเสียอีก
หลายวันมานี้ยูอันได้สนทนากับคุณหนูหลายคนที่ร่วมขบวนจนรู้จักกันดีไม่น้อย โดยเฉพาะคุณหนูห้าที่แวะเวียนมาสนทนาด้วยเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีคุณหนูเจ็ดและแปดที่งดงามก็แวะนำผลไม้มาให้เสมอๆกระทั่งบรรดาองครักษ์และศิษย์ทั่วไปคนอื่นก็ให้การดูแลยูอันอย่างดี แสดงว่าว่าที่บุรุษพู่กัน มีศักดิ์ฐานะไม่ต่ำเลยจริงๆ มีแต่คุณหนูรองกลับเป็นผู้เดียวที่ไม่เคยแวะมาสนทนาด้วยเลย
ผ่านมาอีกสองวันก็มาถึงตัวเมืองแห่งหนึ่งยูอันถูกสั่งให้อยู่แต่ในเกี้ยว จึงไม่ทราบว่านี่เป็นเมืองใดแต่เพียงพักอยู่เพียงครึ่งวัน ขบวนเกี้ยวก็เปลี่ยนเป็นขบวนรถม้าและแน่นอนเป็นรถม้าอย่างดีที่สวยงามและแข็งแรงยิ่ง กระทั่งยูอันเอง ยังได้นั่งรถม้าส่วนตัวกับเค้าด้วยรวมมีรถม้าถึง7 คันในขบวน ถือว่าเป็นรถม้าขบวนใหญ่เลยทีเดียว
  เดินทางด้วยรถม้าต่อมาอีกหนึ่งวันก็เข้าเขตภูเขามาตรว่าจะเป็นเขตภูเขา แต่ก็ยังมีถนนที่ใช้สัญจร แต่เพื่อความปลอดภัยรถม้าแต่ละคัน จึงทอดระยะห่างจากกันอยู่บ้าง เพื่อว่าหากถูกซุ่มโจมตีจะได้ไม่เสียหายทั้งหมด
คืนนี้ก็เช่นกันหลังกินอาหารกันเรียบร้อยก็ต่างพักผ่อนกันริมทาง รถม้าแต่ละคันทอดระยะกันไม่ไกลนักพอที่ส่งเสียงร้องก็ติดต่อกันได้ ยูอันก็ได้แต่นั่งๆนอนในรถม้าส่วนตัวมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นศิษย์วังร้อยบุปผาสองคนนั่งผิงไฟอยู่ไม่ไกล มาตรว่ามองไม่เห็นว่าองครักษ์ของวังอยู่ที่ไหนแต่ก็ทราบว่าคงแฝงกายอยู่รอบๆ
พออยู่คนเดียวยามค่ำคืนในใจก็อดคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมามิได้ตนเองมีเรื่องให้คิดมากเกินไปจริงๆที่เป็นห่วงมากตอนนี้ก็คือสองสะคราญแห่งลี่เจียง ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้วไม่รู้ว่าคุณหนูจางจะเป็นเช่นใดบ้าง จะกลับสำนักคุ้มกันไปแล้วหรือยังไหนจะคุณหนูไต้อี้ที่ไปหาคนมาช่วยตัวเองอีก ไม่ทราบว่าจะเป็นอย่างไร - - เฮ่อเรานี่มันไร้ประโยชน์ ไร้ความสามารถสิ้นดี ยูอันร้องในใจ
แต่ความคิดมากมายก็ต้องหยุดลงทันทีเมื่อประตูรถม้าถูกเปิดออก ร่างหอมกรุ่นร่างหนึ่งพริ้วเข้ามาก่อนจะปิดประตูลงอย่างรวดเร็วยูอันอ้าปากค้างร้องออกมา
" คุณหนูเจ็ด !!!"
" อย่าได้ส่งเสียงดังเช่นนั้น"
คุณหนูเจ็ดปรามยูอันเบาๆก่อนจะค่อยๆทรุดกายนั่งข้างๆ ใบหน้างดงามยามค่ำคืนเพียงตบแต่งมาบางเบาทำให้ดูสวยงามไปอีกแบบยิ่งชุดบางเบาสีน้ำเงินกับเขียวอ่อน ยิ่งทำให้คนคิดฟุ้งซ่านกลิ่นกายสาวที่ระเหยออกมาทำเอายูอันถึงกับคิดอะไรไม่ออกไปเลยเหมือนกันจึงพยายามก้มหน้าลงไม่กล้ามองใบหน้างดงามนั้น แต่ทว่า พอก้มหน้าลงสายตาไม่รักดีก็กลับไปสะดุดตรงหน้าอกอวบเต่งตั้งที่ดันเอี้ยมออกมา จึงรีบเงยหน้าขึ้นมาไม่ทันพอเงยขึ้นมาก็พบกับสายตาแวววาวสวยงามของคุณหนูเจ็ดที่มองจ้องอยู่ก่อนแล้ว
" คุณหนู..."
ยูอันได้แค่อ้ำอึ้งในหัวพยายามสงบสติอารมณ์ แต่กลับหนีไม่พ้นเรื่องหื่นๆ - - สาวงามย่องมาหายามค่ำคืนถ้าคิดอย่างอื่นอีกก็คงไม่สมเหตุสมผลแล้ว
" เราอยากสนทนากับท่าน "
คุณหนูเจ็ดเอ่ยเสียงไพเราะแต่ทำเอายูอัน อดผิดหวังไม่ได้ - - ที่แท้มาเพียงสนทนา -*-
" คุณหนู..."
หลายวันนี้ที่จริงยูอันกับคุณหนูทั้งหลายก็สนทนากันมาพอสมควรยิ่งคุณหนูเจ็ดก็หมั่นหาผลไม้ ของกินมาให้เสมอจากเดิมใช้สรรพนามแทนตัวยูอันว่าเจ้าๆ ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นท่านแสดงว่ายกระดับยูอันขึ้นมาอีกขั้น
" ท่านทราบหรือไม่ท่านมีความสำคัญเพียงใดกับพวกเรา ยิ่งการรักษาท่านครั้งนี้พี่รอง ยอมให้หมอแซ่ตั้งใช้ตัวยาสูงค่ามากมาย เพียงเพื่อให้ท่านหายดีและแข็งแรงดังเดิม "
" บุญคุณของคุณหนูทั้งหลายผู้น้อยสำนึกอยู่เสมอมา "
ยูอันสำนึกขอบคุณจากใจจริงตั้งแต่หลุดมายังยุคสมัยนี้ เรียกว่านี่เป็นครั้งแรกที่มันได้รับการปฏิบัติดีเช่นนี้จริงๆ
" ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ? "
" ผู้น้อยทราบว่าผู้น้อยจะได้การฝึกฝนให้เป็นบุรุษพู่กัน..."
" ท่านอาอี้คงแจ้งให้ท่านทราบแล้วแต่ท่านทราบหรือไม่ ปีๆหนึ่ง มีผู้ถูกส่งเข้าคัดเลือกเป็นบุรุษพู่กันกี่คน ? "
ยูอันส่ายหน้าแทนคำตอบ คุณหนูเจ็ดจึงกล่าวต่อว่า
" บอกกับท่าน ปีๆหนึ่งนับร้อยคนแต่มีผู้ผ่านการคัดเลือก ปีหนึ่งไม่ถึงสิบคน "
" ที่แท้เป็นเช่นนี้ ..."
" ท่านผู้นี้ ยังทำเป็นเย็นใจไปได้ท่านรู้หรือไม่ หากไม่ผ่านการคัดเลือก ท่านก็ต้องถูก...ถูกตอนเป็นขันทีแล้ว "
คุณหนูเจ็ดอดขึ้นเสียงมาไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของยูอัน
" ผู้น้อยจะทำอย่างไรได้ก็ได้แต่ทำใจ - - "
ยูอันเอ่ยอย่างอับจนปัญญา
" ท่านทราบหรือไม่ ในวังของเราต่างมีการแก่งแย่งชิงดี ยิ่งหมู่ตึกใดมีบุรุษพู่กันยอดเยี่ยมยิ่งได้รับการสนับสนุนจนขึ้นเหนือหมู่ตึกอื่น "
"บุรุษพู่กันถึงกับมีความสำคัญปานนั้น ? "
ยูอันอดถามไม่ได้
" บอกกับท่านบุรุษพู่กันที่ยอดเยี่ยมจะถูกเรียกตัวให้ไปปรนนิบัติท่านเจ้าวังขณะอยู่ด้วยกันมันกล่าวอันใดก็เข้าสู่หูท่านเจ้าวังโดยตรง "
" ที่แท้เป็นเช่นนี้ "
" อย่างเมื่อเร็วๆนี้บุรุษพู่กันของตึกเบญจมาศได้ไปปรนนิบัติท่านเจ้าวัง หลังจากนั้นสองสามวันท่านเจ้าวังสั่งให้โอนย้ายสวนดอกไม้แห่งหนึ่งของตึกโบตั๋นเราให้กับตึกเบญจมาศแถมเพิ่มเบี้ยเลี้ยงประจำปีให้กับตึกเบญจมาศอีกสามส่วน ( 30% )มันน่าหงุดหงิดใจหรือไม่ -*- "
คุณหนูเจ็ดบ่นออกมาเป็นชุด
" อ่อ..."
" แถมมันยังถูกเรียกตัวบ่อยครั้งนี่ยังไม่รู้ว่าเมื่อพวกเรากลับไป จะมีอะไรของวังเราถูกโอนย้ายไปให้ตึกเบญจมาศอีก"
" มันคงมีความสามารถยิ่ง - -"
ยูอันก็พูดไปตามเนื้อผ้า
" พี่สี่เคยอยู่ร่วมกับมันมาคืนหนึ่ง ก็ชมว่ามันยอดเยี่ยมยิ่ง ตอนนี้ไม่ว่าใครในวังก็ต่างอยากอยู่ร่วมกับมัน"
"ผู้น้อยคงทำให้พวกท่านผิดหวังแล้ว - -* "
ยูอันไม่รู้ว่าจะสามารถไปสู้กับบุรุษพู่กันผู้ยอดเยี่ยมคนนี้ได้รึเปล่าจริงๆฟังดูเหมือนมันเป็นนักรักอันดับหนึ่งจริงๆกระทั่งทำให้สาวๆในวังร้อยบุปผาที่ถูกฝึกฝนเรื่องบนเตียงมาติดใจได้ขนาดนี้
คุณหนูเจ็ดได้ยินจึงพูดมาอายๆว่า
" บอกกับท่าน เพียงพู่กันของท่านยังเหนือกว่ามันเสียอีก และไม่มีของบุรุษใดในวังเทียบกับท่านได้ "
" เอ่อ..."
ยูอันไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี แน่นอนในใจก็อดภูมิใจไม่ได้ จะว่าไปต้องขอบคุณเจ้างูเซ็กส์นั่น หากไม่ได้มันพู่กัน ของตัวเองก็คงขนาดหกนิ้วแค่นั้น
" เพียงแต่ที่เรายังกังวลคือความที่ท่านยังเป็นหยกบริสุทธิ์ หากเป็นเช่นนี้คงลำบากที่จะผ่านการทดสอบ "
สาวงามเอ่ยอย่างกังวล
" ไม่ได้เป็นหยกบริสุทธิ์ไม่ได้ซิงงง " ยูอันร้องในใจ - - ทำไมถึงคิดว่าเรายังซิงเนี่ย
" พอถึงวัง ท่านจะถูกนำไปทดสอบทันทีดังนั้น ก่อนที่จะถึงวังในอีก 4-5 วันนี้ เราคิดว่าจะมาฝึกฝนให้ท่าน "
" นั่น ๆ เอาแล้วไง "ยูอันร้องในใจเช่นเคย สายตาอดเงยหน้าไปสบตากับคุณหนูเจ็ดไม่ได้คุณหนูเจ็ดก็ดูจะอายอยู่เช่นกัน ใบหน้างดงามแดงซ่านเล็กน้อย
" แต่นั่นก็ต้องได้รับความยินยอมพร้อมใจจากท่านหรือท่านชมชอบพวกเราคนไหน อยากให้เป็นคนช่วยฝึกฝนให้กับท่านก็บอกมาตามตรงเราจะไปเจรจาให้ นอกจากพี่รองแล้วคาดว่าพี่น้องคนอื่นๆคงยินดี "
" เอ่อ..."
ยูอันได้แต่อ้าปากค้างที่จริงก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่า ต้องปฏิบัติการเร็วกว่าที่คิดแต่ในใจก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยจริงๆ - - คุณหนูสี่ ห้า เจ็ดและแปดต่างงดงามอายุก็เท่าๆกับตัวเอง เพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีทั้งนั้น รูปร่างก็อื้อไม่มีที่ติกันทั้งนั้น -.-
จะให้เลือกคนไหนนี่ ตัดสินใจยากจริงๆ
แต่ที่สนิทสนมมาพูดคุยด้วยบ่อยๆคือคุณหนูห้า จะให้บอกตามตรงก็แอบส่องๆหน้าอกหน้าใจของคุณหนูห้าอยู่บ้าง- - แต่พอมาได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณหนูเจ็ดแบบนี้....
จะว่าไปถ้าตรงใบหน้ายูอันชอบแบบคุณหนูเจ็ดมากกว่า ถึงคุณหนูคนอื่นๆจะสวยงามสูสีกันจนยากจัดลำดับแต่นี่คงเรียกว่า สเปคใครสเปคมันอะไรแบบนั้น พอตัดสินใจได้จึงพูดไปว่า
"ผู้น้อยขอเป็นคุณหนูเจ็ดได้หรือไม่ ? "
" ท่านผู้นี้..."
คุณหนูเจ็ดอดร้องไม่ได้ในใจก็รู้สึกดีไม่น้อย บุรุษตรงหน้าถึงจะไม่หล่อเหลาแต่ก็มีดูองอาจสมชายและยังเป็นความหวังของตึกโบตั๋น หากมันเลือกพี่น้องคนใดก็ไม่แปลกเลย เพราะทุกคนต่างงดงามดึงดูดใจชายอยู่แล้วแต่พอได้ยินว่ามันเลือกตัวเองเหมือนกับว่าเราเองมีสเน่ห์ดึงดูดใจกว่าพี่น้องคนอื่น จึงอดแอบยิ้มไม่ได้
คุณหนูเจ็ดขยับตัวมาจนชิดกับยูอันต้นแขนเรียวงามอ่อนนุ่ม แนบชิดกับต้นแขนแข็งแกร่งของยูอัน ยูอันเองได้แต่คิดว่าเอาเถอะ ไหนๆก็ไหนๆ ทำให้เต็มที่เถอะ จะอย่างไรต้องรีบสะสมกำลังภายในให้ได้มากๆจะเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างที่ผ่านๆมาไม่ได้แล้วแค่โดดขึ้นจากหุบเขาไปกับอ๋องไต้อี้ก็ไม่สามารถ จะหนีไปกับเซี่ยวเง็กก็ไม่มีปัญญาต้องให้เด็กหญิงตัวเล็กๆมาปกป้อง
"ท่านคงยังจูบไม่เป็นใช่หรือไม่ ? "
คุณหนูเจ็ดเอ่ยถาม
" เอ่อ - - "
ยูอันยังคงก้มหน้า ไม่รู้จะตอบยังไงดี ถ้าดูจากคู่มือที่ท่านอาอี้ให้มานั่นมันก็เหมือนจูบแบบบ้านๆแค่นั้นในยุคสมัยนั้นคงยังไม่นิยมการใช้ลิ้นแบบทางตะวันตกเหมือนในสมัยปัจจุบัน
" ท่านลองจูบเราดู "
คุณหนูเจ็ดสั่ง
" คุณหนู..."
ยูอันยังเกรงใจ และยังตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะจูบแบบคู่มือที่ท่านอาอี้ให้มา หรือจะจูบแลกดูดลิ้นแบบในปัจจุบันดีนี่ต่างจากจางซินถงกับอ๋องไต้อี้ ที่ถูกสอนให้จูบแบบแลกลิ้นไปแล้วแต่นั่นเพราะทั้งสองสาวไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แต่กับคุณหนูเจ็ดที่ผ่านชายมาแล้วคงแยกความแตกต่างออกแน่นอน
" ดูท่าน ช่างใช้ไม่ได้เช่นนี้หากทำแต่เหนียมอาย คงไม่พ้นถูกตอนเป็นขันทีแน่ๆเพียงคิดว่าเราเป็นหญิงคนรักของท่าน ท่านอยากจะทำอย่างไรก็ทำให้เต็มที่ "
คุณหนูเจ็ดร้องขึ้นอย่างผิดหวังเมื่อเห็นยูอันดูเหนียมอายไม่กล้าแตะต้องตัวสตรีเช่นนี้
" นี่เป็นท่านพูดออกมาเอง "
ยูอันเอ่ย พร้อมยืดตัวขึ้นร่างกำยำผึ่งผายเหมือนสูงขึ้นบดบังร่างบางอวบอัดของคุณหนูเจ็ดมือแข็งแรงข้างขวาคว้าจับข้อมือลื่นละมุ่นของสาวงามเอาไว้แน่นมือขวาค่อยๆเอื้อมสอดใต้ผมยาวสลวยก่อนจะเลื่อนขึ้นไปลูบไล้ติ่งหูเบาๆ
" นี่ท่าน..."
คุณหนูเจ็ดถึงกับแปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของยูอันมองไปในแววตายูอัน ไม่เห็นความเหนียมอายใดๆหลงเหลืออยู่แววตาคมวาวล้ำลึกฉายความปรารถนาของชายหนุ่มออกมา แต่ก่อนจะคิดอะไรได้มากกว่านี้ริมฝีปากงดงามอ่อนนุ่มก็ถูกประทับด้วยริมฝีปากแข็งแรงเสียก่อน ยูอันเม้มดูดริมฝีปากทั้งบนล่างของสาวสวยอย่างสนุกปาก มือทั้งสองข้างเริ่มไต่เลื้อยลูบไล้ไปทั่วร่างงดงามทำเอาสาวงามถึงกับร้องในใจว่า นี่ใช่ไม่เคยผ่านสตรีมาจริงหรือไม่แค่รสจูบกับการลูบไล้ก็กระตุ้นเลือดสาวในกายของต