🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => หัวข้อที่ตั้งโดย: firestrom เมื่อ ธันวาคม 10, 2013, 06:42:01 ก่อนเที่ยง

ชื่อ: 3 คน ในลิฟท์
โดย: firestrom เมื่อ ธันวาคม 10, 2013, 06:42:01 ก่อนเที่ยง
บอร์ดเงียบจังจัดสักหน่อยครับ ขอบคุณเจ้าของเรื่องครับ

3 คน ในลิฟท์

วันส่งท้ายปีใหม่ ณ ตึกหรูหรากลางถนนสุขุมวิท ชั้น 28 เมธาวี สาวสวยวัย25 ทายาทมหาเศรษฐีหมื่นล้าน เจ้าของบริษัทนำเข้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และเครื่องนวดหน้าจากยุโรป เธอเป็นสาวหมวยสวยหน้าใสจนเอาสามารถไปเปรียบกับเด็กสาวๆอายุ15-16ปีได้สบายๆ ประกอบกับบิดามารดาอยู่ในธุรกิจเครื่องสำอางค์จนร่ำรวยมีเงินทองเป็นหมื่นๆล้าน เมื่อเธอขยับตัวทำอะไรเป็นต้องถูกจิกกัดโดยคู่แข่งธุรกิจและคอลัมนิสต์ซุบซิบที่อิจฉาในความสวยเริ่ดหรูของเธอ เมธาวีจัดแคมเปญรับปีใหม่โดยจ้างเชอรี่นางแบบสาวลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่นหุ่นสูงยาวหน้าใสอายุ16กว่าๆมาเป็นนางแบบถ่ายลงในแคตตาล็อกปีใหม่ที่จะถึง โดยมีบริษัทเอเจนซี่ต่างชาติที่มี แพตตี้ สาวไทยหน้าคมหวานผิวพม่านัยน์ตาแขกนมฝรั่งเป็นเออี. คิดคอนเซ็บป์และดูแลการผลิตจนจบกระบวนการ งานล้าช้าเพราะเมธาวีแก้แบบจวบจนวันสุดท้ายของปีที่ต้องถ่ายแก้ไขรูปช็อตสุดท้าย เธอจึงจัดปาร์ตี้เล็กๆเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลวันเข้าปีใหม่กับเหล่าสต๊าฟของเธอที่มีแต่ผู้หญิงกับตุ๊ดหนุ่มๆสองคน กับทีมงานของเอเจนซี่และนางแบบ "เอ้า พวกเรา ดื่มฉลองปีใหม่ที่จะมาถึง ไชโย ไชโย" เมธาวีจิบไวน์เข้าไปสองสามแก้ว ทำเอาหน้าแสนสวยหมวยอินเตอร์ของเธอแดงก่ำ "เอาละจ้ะ สำหรับสต๊าฟที่น่ารักทุกคน ไปฉลองกันต่อได้แล้ว เมื่อมาทำงานวันแรกของปีหน้า เมจะเตรียมของขวัญปีใหม่ให้ทุกคนมากบ้างน้อยบ้างตามผลงานที่เมได้ประเมินให้ในปีนี้นะจ้ะ ปีหน้าพยายามกันอีกนิดนะ เราจะได้เป็นอันดับหนึ่งในตลาด แล้วเมจะพาไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกันทุกคนเลย" "กรี๊ด.... ขอบคุณค่ะ คุณเม พี่เม" เสียงไชโย เสียงขอบคุณเมธาวีดังเซ็งแซ่ ทำให้ทีมงานของแพตตี้กับเชอรีนางแบบมองมาอย่างอิจฉาที่พนักงานเหล่านี้มีเจ้านายน่ารักแสนดีอย่างนี้ ทุกคนช่วยกันเก็บข้าวของทำความสะอาดจนเรียบร้อย แล้วเข้ามาร่ำลาเมธาวีที่ห้องทำงาน แพตตี้และทีมงานก็ขอตัวกลับก่อน เมธาวีเข้าห้องน้ำดูความสวยสะอาดของใบหน้า ปลดทุกข์เบาจนสบายตัวก็เก็บของถือกระเป๋ามาตรวจความเรียบร้อย พบกระเป๋าสตางค์ใบเล็กของใครก็ไม่รู้วางอยู่บนโต๊ะ จึงถือออกมาด้วยและปิดประตูด้วยการ์ด เธอเดินมาที่ลิฟต์สำหรับผู้บริหารที่ต้องใช้คีย์การ์ดเสียบเข้าไปถึงจะใช้ได้ซึ่งมีแค่ชั้นละใบเท่านั้น เมธาวีเสียบคีย์การ์ดกดลิฟต์ เมื่อลิฟต์เปิด เธอก็เห็นชายหนุ่มล่ำสันแต่งตัวเหมือนพนักงานออฟฟิตธรรมดาๆ มีเป้สะพายหลังด้วย เธอนิ่วหน้าด้วยความรังเกียจ เธอเห็นหน้าไอ้หมอนี่มาหลายหน ยามเมื่อเธอเดินผ่านเขาในตึก สายตาของเขาจับจ้องมองเธอเหมือนจะกลืนกิน ไม่ได้ดูตัวเองเลยเป็นแค่แมสเซ็นเจอร์หรืออะไรทำนองนี้ เผยอตัวมาเฝ้ามองดอกฟ้าอย่างเธอ "นี่ มาใช้ลิฟต์นี้ได้อย่างไง นี่ลิฟต์สำหรับผู้บริหารโดยเฉพาะนะ" เมธาวีเสียบคีย์การ์ดค้างไว้ "ครือ เอาของขึ้นมากับนายฝรั่งที่ชั้นสามสิบครับ นายฝรั่งให้ลงลิฟต์นี้มาเลย" โอบอ้อม ก้มหน้าตอบ ระหว่างที่เธอต่อปากคำกับชายหนุ่มที่เธอรังเกียจ ลิฟต์ข้างๆก็เปิดออก แพตตี้กับเชอรี่วิ่งพรวดออกมา "อุ้ย คุณเมยังอยู่ด้วยแหละ" แพตตี้กระหืดกระหอบ "อะไรค่ะ คุณแพตตี้" "ครือ น้องเชอรี่ลืมกระเป๋าตังค์ไว้ในบริษัทนะค่ะ" "อันนี้ใช่ไหมค่ะ น้องเชอรี่" "ใช่ค่า ใช่แล้ว โอ้ ก๊อด แท้งค์คิวมั่กมากค่ะ" เชอรี่กระโจนกอดเมธาวี หอมแก้มฟอดหนึ่ง "ลงไปด้วยกันซิค่ะ เมกำลังลงไปที่จอดรถพอดี" เมธาวีหาพวกไม่อยากลงลิฟต์ไปกับชายหนุ่มที่เธอรังเกียจสองต่อสอง "โอเคค่ะ ไปน้องเชอรี่ เด๋วพีไปส่งบ้าน" แพตตี้ชวนเชอรี่ ขณะที่เข้ามาในลิฟท์ โอบอ้อมชายหนุ่มพนักงานเตรียมเอกสารในสำนักงานทนายความต่างชาติ ถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ก้มหน้ามองพื้นอย่างเจียมตัว สาวๆแซวกันลั่นว่าทำไมแพตตี้จึงมีเวลาไปส่งเชอรี่ได้ ไม่มีเดทหรือไง ขณะที่ลิฟต์ค่อยๆเลื่อนลงอย่างนิ่มนวลจนมาถึงชั้นสิบ ลิฟต์หรูหรากว้างขวางกว้างยาวสามคูณสามเมตรตามสไตล์ผู้บริหารก็หยุดกึก พัดลมระบายอากาศหยุดหมุนทันที "กึก กึก" เสียงดังกุกกับๆอยู่ภายนอก "อุ้ย ลิฟท์เป็นอะไรค่ะ คุณเม" แพตตี้หน้าตื่น "ไม่รู้ซิค่ะ เอ เป็นอะไรไปน่ะ นี่นายกดปุ่มอะไรหรือเปล่า" เมธาวีหันไปเหยียดปากถามไอ้คนกระจอกๆในสายตาเธอ "โธ่ คุณกดเอง เสียบการ์ดเองทั้งหมด ผมจะรู้ได้อย่างไง" โอบอ้อมตอบเซ็งๆที่ เมธาวีนางในฝันมีนิสัยเหยียมหยามคนจนเช่นนี้ "ฮัลโหล ฮัลโหล" เมธาวีคว้าโทรศัพท์ในลิฟต์ "ไม่มีใครตอบรับเลย ทำไงดี" "ใช้โทรศัพท์มือถือโทรซิค่ะ คุณเม" แพตตี้หน้าตื่น เตือนสติ "ใช้ไม่ได้ค่ะ ในนี้อับสัญญาณ ตึกนี้เค้าไม่ชอบให้ใช้โทรศัพท์มือถือในลิฟท์บอกว่า รบกวนคนอื่น" เมธาวีหันไปตอบ เมธาวีเพียรพยายามกดปุ่มฉุกเฉิน ทุกคนพยายามใช้โทรศัพท์มือถือโทรออก แต่ไม่มีสัญญาณโทรออกได้เลย เมธาวีโกรธมาก ทุบประตูลิฟต์ดังตึงๆ "นี่นาย จะไม่ช่วยอะไรบ้างหรอ เป็นผู้ชายหรือเปล่านี่" เมธาวีหันไปตะคอกใส่โอบอ้อม "ก้อ คุณดูนี่ซิ ป้ายประกาศซ่อมลิฟท์ นายฝรั่งก็เตือนผมแล้ว ผมไม่นึกว่าจะปิดซ่อมเร็วตรงเวลาเผงอย่างงี้" เมธาวีหันไปดูป้ายประกาศซ่อมลิฟต์ ในนั้นระบุว่า จะปิดซ่อมบำรุงระหว่างเวลา2300น.ของวันที่30จนถึง0500น.ของวันที่31ธ.ค.47 โดยที่จะตัดสัญญาณโทรศัพท์เพื่อตรวจสอบระบบสื่อสารภายในอาคารทั้งหมดด้วย "บ้าจริง ทำไมไม่มีใครบอก" เมธาวีโกรธจนตัวสั่น เมื่อโทรศัพท์เครื่องมือสื่อสารใดๆก็ไม่สามารถติดต่อภายนอกได้ "ก้อ ติดไว้นานแล้วครับ แล้วพวกคุณก้อโอ้เอ้ จนถึงเวลาพอดี ผมละซวยจริงๆ" โอบอ้อมก็เซ็งที่ต้องมาติดแง้กในลิฟต์ ไฟเพดานลิฟต์ค่อยๆดับลง ในลิฟต์มืดจนมองแทบไม่เห็นอะไรตรงหน้า "กรี๊ด ไฟดับด้วย" เชอรี่เด็กสาวแสนสวยตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา "พัดลมก็ดับ ไฟก็ดับ จะทำยังงัยดีละค่ะ คุณเม" แพตตี้ก็ตกใจจนหน้าซีด "นี่นาย ลองปีนขึ้นไปดูที่เพดานหน่อยมีช่องทางออกมั๊ย" เมธาวีหันไปบอกโอบอ้อม "ครับ ผมจะลองดู" สายตาของโอบอ้อมค่อยๆปรับการมองเห็นในความมืดสามารถมองเห็นในลิฟต์ได้บ้าง รู้สึกร้อนอบอ้าวขึ้นมา กลิ่นน้ำหอมที่สาวแสนสวยทั้งสามใส่ ทำให้อากาศในลิฟต์มีกลิ่นหอมเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์ เขาค่อยๆเหยียบขึ้นที่ราวสแตนเลสเกาะผนังปีนขึ้นไปเกาะบนเพดาน เคาะโป้กๆที่เพดาน เห็นช่องพัดลมระบายอากาศเล็กๆยังมีช่องระบายลมเปิดอ้าอยู่ สมองแล่นปรู๊ดขึ้นมาถ้าเขาปิดช่องระบายลมให้เล็กลงอากาศต้องอบอ้าวขึ้นแล้วสาวๆเหล่านี้จะทำอย่างไร อาจจะถอดเสื้อผ้าโชว์เนื้อหนังแสนสวยให้เขาดูก็ได้ โอบอ้อมพยายามเอานิ้วเขี่ยให้พัดลมหมุนมาปิดช่องระบายอากาศ แล้วค่อยๆปืนลงมาหอบหายใจดังเฮือก "มีช่องลมอยู่ครับ ผมเปิดให้อ้ามากที่สุดแล้ว เผื่อว่าช่างซ่อมเค้าลงมาใกล้ๆ เราค่อยตะโกนบอกเค้าได้" โอบอ้อมบอกหน้าตาย "จะทำงัยดีค่ะ พี่แพตตี้ เชอรีกล้วจัง" "ไม่มีอะไรหรอก รอหน่อยจนเช้าก็ได้ ดีซิมีคนอยู่ด้วยหลายคน ถ้าเหลือพี่กับน้องเชอรี่ละ น่ากลัวแย่เลย"แพตตี้ปลอบ โอบอ้อมทรุดตัวลงนั่งบนพื้นลิฟต์ บอกทั้งสามสาวว่า "นั่งพักก่อนเถอะครับ เด๋วช่างลงมาเช็คที่ตัวลิฟท์เราค่อยตะโกนเรียก" "นี่นาย ไม่ตกใจบ้างเลยนะ" เมธาวีหาที่ระบายความโกรธ "ก้อ ผมเจอบ่อยๆ มหาลัยที่เรียนนะ ลิฟต์เก่าโคตรเลย ลิฟต์ติดทุกวันเลยครับ" "ที่ไหนค่ะ เชอรี่จะได้ไม่เอ็นท์เข้า" "ที่ ม..... นะครับ" "จิงหงอ ตึกเก่าๆทั้งนั้นเลยนี่ แพตตี้เคยไปหาเพื่อนสมัยตอนเรียนมหาลัย" "คุณเมละค่ะ เคยเจอแบบนี้มั๊ย" แพตตี้หันไปถาม เมธาวี "ไม่เคยหรอกค่ะ ที่เมืองนอกน่ะ เขาเซอร์วิสกันดีมากๆ เซพตี้สุดๆ" "หิวน้ำจัง พี่แพตตี้" เชอรี่หายกลัวแล้วแต่หิวน้ำมากๆ "กลืนน้ำลายก่อนซิ ดื่มน้ำเข้าไปจะปวดห้องน้ำนะ" แพตตี้บอกเบาๆกล้วโอบอ้อมได้ยิน "พีชื่ออะไรค่ะ หนูชื่อเชอรี่ นี่พี่แพตตี้ แล้วก็พี่คนสวยนั้นชื่อ พี่เมธาวี" เชอรี่ชวนคุยแก้เซ็ง "ผมชื่อโอบอ้อมครับ อยู่สำนักงานทนายความชั้นสามสิบ ดูแลเอกสารของคดีต่างประเทศ" โอบอ้อมเอ็นดูสาวเชอรี่มากๆ ด้วยเธอเป็นเด็กฝรั่งช่างพูด ช่างเจรจาไม่หยุด "ทำนานยังค่ะพี่" "ก็สองปีกว่าแล้วครับ จบเนติก็เข้าบริษัทนี้เลย เพราะอยากพูดภาษาอังกฤษให้คล่องโดยไม่ต้องไปเรียนเมืองนอกเหมือนคนรวยๆเค้า" โอบอ้อมกระแทกสาวสวยลูกมหาเศรษฐีเล่น เมธาวีสะบัดหน้าพรืด "ไง แล้วพูดได้ดีไหม ลองพูดเป็นภาษาอังกฤษให้ฟังหน่อยดิ เพื่อจะจ้างเป็นพนักงาน" โอบอ้อมหัวเราะเบาๆ แนะนำตัวเล่าถึงความเป็นมาของตัวเองเบาๆ เสียงโอบอ้อมนุ่มเบาเพราะจนเชอรี่อดผสมโรงคุยโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วยไม่ได้ เมธาวีทึ่งในใจว่าคนที่จบในประเทศที่ไม่ได้เรียนเอกอังกฤษจะพูดฟังได้ดีขนาดนี้ แพตตี้เองทำงานกับฝรั่ง เรียนโทเมืองนอกยังมีสำเนียงพูดสู้ไม่ได้ จึงถามว่า "สำเนียงดีจัง หัดมาจากไหนค่ะ" "ก้อ แหม่มเลขานายนะครับ แกช่วยเกลาให้พูดผิด ปรับคำละสิบบาท ค่าขนมเลี้ยงกันในออฟฟิท โดยเข้าบ่อยๆ ก็ต้องรีบปรับปรุงตัว ม่ายงั้นไม่มีค่าข้าวกิน" "ไม่เหมือนเชอรี่ ภาษาไทยเพี้ยนที่ไร เพื่อนโห่ทุกที ต้องจำสำเนียงแปลกเรื่อย ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว ไม่งั้นละก็" "เหมือนเมื่อปีก่อนไง เชอรี่พูดอะไร พี่ไม่รู้เรื่องเลย" แพตตี้แซว อากาศร้อนอบอ้าวขึ้นตามลำดับจนทุกคนเหงื่อซึมหายใจเข้าออกแรงๆ โอบอ้อมกล่าวคำขอโทษทุกคนก่อนถอดเสื้อแขนยาวออก เหลือแต่เสื้อยืดคอกลมสีขาวข้างใน เอาเสื้อปูบนพื้นหัวพาดเป้นอนชันเข่าขึ้นตามความยาวของลิฟท์ เชอรี่ก็เมื่อยจนเอนตัวนอนตามข้างๆเขา โอบอ้อมเขยิบแบ่งเสื้อให้ครึ่งหนึ่ง เด็กสาวแสนสวยนอนหันหน้าไปทางเมธาวีและแพตตี้ "นอนพักก่อนเถอะค่ะ พี่แพตตี้ พี่เม สองชั่วโมงกว่าแล้ว" "พลัดกันนอนพักเถอะ เด๋วค่อยเปลี่ยนกันเฝ้ารอช่างมา เฮ่อ ร้อนจัง" แพตตี้ถอดเสื้อตัวนอกออก เหลือเสื้อกล้ามสีอ่อนที่ชุ่มเหงื่อ เอาเศษกระดาษพัดเบาๆ โอบอ้อมแสนสุขใจที่บุญพาวาสนาส่งให้มาเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ มีเด็กสาวลูกครึ่งแสนสวยนอนข้างๆ หน้าอกตึงเต็มแน่นในเสื้อยืดทีเชิ้ตฟิตเปรี๊ยะชุ่มเหงื่อ กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นน้ำหอมปนกลิ่นสาบสาวแสนจะหอมหวลนอนแนบแขนล่ำสันของเขา ชำเลืองดูที่เมธาวี เธอเหงื่อออกเต็มหน้าแต่ไม่ยอมถอดเสื้อตัวนอกนั่งหัวพิงผนังเชิดหยิ่ง "พี่ค่ะ เวลาติดลิฟต์เมื่อก่อน ทำยังงัย" เชอรี่หันหน้ามาพูดกับโอบอ้อม กลิ่นปากหอมกรุ่น "ก้อ ถ้าอยู่กับเพื่อนก็คุยไปเรื่อยๆ ถ้าติดกับเพื่อนผู้หญิงก้อทำแบบนี้" โอบอ้อมเงียบไปชั่วครู่ ก่อนคำรามเหมือนแฟร้งเก้นสไตน์ "ฮือ ฮือ ฮือ ฮ่า ฮ่า" เมธาวีสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ แพตตี้หัวเราะคิกๆที่เห็นเมธาวีกลัวขนาดนั้น "ไอ้บ้า" เมธาวีโกรธมาก "คิก คิก พี่เนี่ยน่ารักจัง" เชอรีก้มหัวหัวเราะกับไหล่ของโอบอ้อม รสสัมผัสกลิ่นตัวกลิ่นผมหอมกรุ่นจนโอบอ้อม***แข็งปั๊ก เชอรี่แนบหน้าที่หัวไหล่ล่ำสันเล่น รู้สึกสนุกไม่ได้กลัวอะไรอีกต่อไป รู้สึกว่าโชคดีโคตรๆเลยที่ได้เจอชายหนุ่มแสนล่ำขี้เล่น น่ารักมากๆ จึงหันตัวไปนอนแนบกับร่างกำยำยิ่งทำให้แก่นกายของโอบอ้อมยิ่งแข็งยิ่งขึ้นจนเชอรี่เห็นว่ามันพองตัวก๋าจนเป้ากางเกงตุง อูยยยย ขนาดมันใหญ่เหลือเกิน เกินเจ็ดนิ้วด้วยมั้ง เชอรีหรี่ตามองคะเนด้วยสายตาซุกซน แพตตี้ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงกลางลำตัวของโอบอ้อม สาวบริสุทธ์อย่างแพตตี้ก็กลืนน้ำลายเอื้อกหลับตาปี๋เมื่อเห็นแก่นกายที่ตุงพาดขวางเต็มเป้ากางเกงนึกด่าเชอรี่ในใจว่า ไปแหย่ให้เสือตื่นเด๋วก็มีเรื่องหร่อก "หิวน้ำจัง พี่แพตตี้" เชอรี่เบียดร่างโอบอ้อมแน่น "พี่มีน้ำอยู่หน่อยหนึ่งในเป้ เชอรี่กินน้ำมั๊ย" โอบอ้อมลุกขึ้นนั่งนึกอายสายตาสองคู่ของเชอรี่และแพตตี้ เมธาวีนะหรอไม่มองเหยียดสายตามาหรอก "อุ้ย ขอบคุณค่ะ" เชอรี่กอดโอบอ้อมแน่นหอมแก้มดังฟอด แพตตี้ส่ายหน้าในความเป็นเด็กของเชอรี่ ไร้เดียงสาเกินไปแล้วนะนังเด็กบ้า โอบอ้อมเปิดเป้หยิบขวดน้ำเล็กๆขนาดครึ่งลิตรขึ้นมา เขากินไปตอนเที่ยงหน่อยหนึ่งแล้วเสียบทิ้งในเป้จนลืม เมื่อนอนหนุนดูจึงรู้สึกว่ามีขวดน้ำอยู่ โอบอ้อมส่งขวดน้ำให้เชอรี่พรางว่า "ค่อยๆจิบนะครับ มีอยู่แค่นี้ พอประทังจนถึงเช้า" เชอรี่จิบน้ำนิดหนึ่งพอชุ่มคอ ส่งน้ำต่อให้แพตตี้รับมาดื่มอึกหนึ่งก็ส่งให้เมธาวี เมธาวีก็หิวน้ำจนคอแห้งผาก แต่ด้วยความหยิ่งไม่อยากกินของเหลือเดนจากนายโอบอ้อมผู้ซอมซ่อ จึงส่ายหน้าปฏิเสธ "คุณแพตตี้เก็บน้ำไว้เถอะครับ ผมไม่ค่อยหิวกลัวปวดปัสสาวะ" โอบอ้อมแกล้งพูด "ขอบคุณค่ะ" แพตตี้รู้สึกว่ามีอะไรระหว่างสองคนนี้แน่ๆ ทำไมเมธาวีที่แสนน่ารัก จึงปั้นปึ่งกับนายโอบอ้อมนี้จัง เชอรี่ร้อนจนเหงื่อตกตามสัญชาติของเด็กฝรั่งจึงถอดกางเกงยีนส์ตึงเปรี้ยะที่ชุ่มเหงื่อออกนอนชันขาอวดขาวเรียวงามเอาเสื้อยืดแสนฟิตปิดโคกอวบอูมที่ซ่อนในกางเกงในสีขาวแทบไม่มิด เล่นเอาโอบอ้อมตาแทบทะลนออกมาออกมาเมื่อเห็นภาพบาดตานั้น ร่างงดงามขางผุดผ่องอมชมพูอวดขาเรียวงามภายใต้ความมืดในลิฟท์เห็นความขาวโพลนในความมืดสลัว เชอรี่นอนมองหน้าโอบอ้อมเห็นอาการอย่างนั้นก็ยิ่งแกล้งแยกขาออกนิดๆ เปิดให้เห็นโคกอูมสวยเต็มสาวในกางเกงในตัวจิ๋ว "พี่แพตตี้ถอดเสื้อผ้าออกซิค่ะ ค่อยหายร้อนหน่อย ในนี้มืดออกอย่างงี้ พี่โอบอ้อมมองไม่เห็นหรอกค่ะ คิดว่าใส่ชุดว่ายน้ำละกัน" เชอรี่ถอดเสื้อยืดเปียกโชกออก เหลือแต่ตัวเปลือยภายใต้ชุดชั้นในขาว แพตตี้หน้าร้อนฉ่าเมื่อเห็นนังเด็กเวรถอดเสื้อเหลือแต่ชั้นในอวดต่อหน้าชายหนุ่มในความมืด แต่ก็เห็นดีด้วยเนื่องจากตนเองก็เป็นคนขี้ร้อนขนาดหนัก จึงค่อยๆถอดเสื้อกล้ามสีอ่อนออก และกางเกงสแล็กสีเข้มที่เปียกชุ่มด้วยเหงื่อออกมาพาดกับราวสแตนเลสในลิฟท์ หันมาบอกเมธาวีว่า "คุณเมคะ ถอดเสื้อออกเถอะค่ะ ร้อนอบอ้าวจะตายอยู่แล้ว อ้าวคุณเม" แพตตี้ตกใจเมื่อเห็นว่าเมธาวีตัวอ่อนระทวยเหมือนสิ้นสติรีบเอากระดาษพัดให้ รีบบอกให้ช่วยทันที "นี่ โอบอ้อม เชอรี่มาช่วยคุณเมหน่อย ท่าทางจะเป็นลม" ทั้งโอบอ้อมกับเชอรี่ถลันเข้าไปช่วยประคองเมธาวี เชอรี่เอาน้ำมาแตะหน้าเช็ดให้ด้วยเสื้อของโอบอ้อม เอาน้ำกรอกปากเข้าไปหน่อยหนึ่ง เมธาวีสำลักค่อกแค่กรู้สึกตัว เชอรี่จึงปลดกระดุมเสื้อสูทสวยเก๋พบว่าภายในมีแต่ยกทรงบางๆที่ชุ่มเหงื่อ จึงถอดเสื้อสูทออกให้ โอบอ้อมตาลุกเมื่อได้มาสัมผัสเนื้อตัวของสาวในดวงใจ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหอมกลิ่นตัวกลิ่นน้ำหอมสุดจะกลั้นได้ ร่างกำยำต้องงอตัวลง***แข็งจนหัวจะลอดออกมา เมื่อเห็นร่างสวยสมบูรณ์แบบของสาวหมวยอินเตอร์ที่ฝันใฝ่ ใจนึกสงสารที่แกล้งปิดช่องระบายลมจนเธอร้อนหมดสติลงจึงบอกกับเชอรี่ว่า "เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปดูช่องลมอีกทีดีกว่า ทำไมมันร้อนอบอ้าวไม่มีอากาศเข้ามาเลย" โอบอ้อมถอดกางเกงออกเหลือแต่เสื้อคอกลมกับกางเกงในสีขาว กลางลำตัวมีท่อนเอ็นลำยาวใหญ่ตุงขวางเหมือนอยากออกมาภายนอก เชอรี่กับแพตตี้กลืนน้ำลายมองตาเขม็ง ขนาดมืดๆยังคะเนได้ว่ามันคงใหญ่น่าดู เมื่อโอบอ้อมค่อยๆลุกขึ้นท่อนลำในกางเกงในเบียดเอาที่หน้าอกอูมเต่งตึงของสาวรุ่นทำให้เชอรี่เสียววาบไปทั้งตัว โอบอ้อมปีนราวสแตนเลสขึ้นไปเปิดช่องลมบนเพดานให้กว้างสุด นิ้วกลางไปเกี่ยวที่คมใบพัด สะดุ้งร้องอุ้ยเบาๆ "เป็นอะไรค่ะ พี่" เชอรี่เป็นห่วง "ป่าวครับ โดนบาดนิ้วหน่อย"โอบอ้อมรู้สึกว่ามีอากาศเย็นๆไหลเข้ามาบ้างจึงปีนลงมากุมนิ้วกลางแน่น "ไหนดูหน่อยค่ะ เชอรี่ดูให้" เชอรี่เอาผ้าขนหนูเล็กๆของเธอเช็ดนิ้วให้ ปากบางจิ้มลิ้มก็ดูดตรงแผล โอบอ้มเสียวปลาบที่นิ้ว เชอรีคายนิ้วออกมา ยื่นหน้ามากระซิบข้างหู "เด๋วก็หายค่ะ เชอรี่ใช้วิธีนี้บ่อยไม่เป็นแผลเป็นด้วย" โอบอ้อมยืนแนบร่างสุดสวยของนางแบบวัยใส***แข็งแนบหน้าท้องแบนเรียบของเชอรี่จนหัว***บานโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมา หอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยรู้สึกอายที่ร่างกายบางส่วนไม่สามารถบังคับได้ จึงดึงแขนเชอรี่ให้นั่งลงเพื่อต้องการปิดบังแก่นกายที่ตั้งตะง่าน มองไปทางเมธาวีที่ถูกจับถอดเสื้อผ้าเหลือแต่ชุดชั้นในสีขาวทั้งบนล่างแล้วนั่งกอดอกชันเข่าปิดปังสัดส่วนของสงวน โดยมีแพตตี้นั่งประคองกอดอยู่ เมื่อเชอรี่มองร่างเกือบเปลือยทั้งสามรวมทั้งร่างกายของตนก็ขำหัวเราะกิ๊กๆ "อะไรจ้ะเชอรี่ ขำอะไร ขนาดนี้ยังมีอารมณ์ขันอีก" แพตตี้ถามฉุนๆ "ก้อ ก้อ พวกเราทุกคนใจตรงกันนี่ ใส่ชั้นในสีขาวกันหมดเลย ฮิ ฮิ" "แหม บ้าจังเลย เชอรี่" แพตตี้ก็สังเกตเห็นเหมือนกัน แตกต่างตรงของโอบอ้อมนะซิ กลางลำตัวเหมือนมีกระบอกไฟฉายใหญ่จับยัดอยู่ในกางเกงใน เมธาวีอายจนซุกหน้ากับแขนไม่อยากให้นายกระจอกนั้นเห็นเรือนร่างเกือบเปลือยของตน "มิน่า ถึงต้องมาผจญภัยด้วยกันในลิฟต์นี้ อิ อิ" เชอรี่ยังขำอยู่ "พอแล้วจ้ะ พักผ่อนกันเถอะ อากาศในนี้เริ่มดีขึ้นหน่อยแล้ว ขอบคุณนะค่ะ โอบอ้อม" แพตตี้ปรามเชอรี่เบาๆ โอบอ้อมรู้สึกสงสารเมธาวีที่หันหลังปิดบังร่างกายไม่ให้ตนดู จึงเดินไปนั่งข้างเดียวกัน โดยมีแพตตี้และเชอรี่ขั้นกลางตนเองกับเมธาวี เบียดมุมเอนหัวนั่งเหยียดขาพิงผนัง สักพักเชอรี่ก็ค่อยๆเอนหัวมาซบที่หัวไหล่ลมหายใจร้อนๆของเชอรี่ที่ให้ประสาทสัมผัสตื่นตัวขึ้นอีก ยิ่งเชอรี่แนบหน้ามาซบที่ซอกคอ เขายิ่งร้อนรุ่มจนเหงื่อซึม เชอรี่ลูบแขนล่ำสันเล่นเงยหน้ากระซิบเบาๆ "ร้อนหรอค่ะพี่" "ปะป่าวจ้ะ พี่ทนได้"โอบอ้อมกระซิบตอบเบาๆที่ผมหอม "แล้วอย่างนี้ละค่ะ ทนได้ป่าว" เชอรี่เอามือลูบเบาๆที่แก่นกลางลำตัว เล่นเอาโอบอ้มกัดฟันกรอด***ยิ่งแข็งตุงจนหัวลอดขอบกางเกงในออกมา เชอรี่ยิ่งแกล้งเอามือกำ***แน่นนิ้วมือเรียวบางลูบเกลี่ยที่หัวจนน้ำเงี่ยนซึมเยิ้มออกมา โอบอ้อมหอบเบาๆโอบกอดตอบโต้ความขี้เล่นของสาวน้อยมือหยาบสากลูบเล่นที่ทรวงอกเต่งตึงได้รูปของสาวน้อย เล่นเอาเจ้าของตัวสั่นสะท้านมือก็ยิ่งกุม***ใหญ่ของเขาแรงขึ้น ทั้งสองลูบคลำร่างกายของกันและกันอย่างลืมตัวเหมือนอยู่กันแค่สองคน เมธาวีนะไม่รู้ไม่เห็นอะไรก้มหน้าซบแขนกอดเข่าหลับไปแล้ว แต่แพตตี้นะซิเห็นการกระทำของทั้งสองอย่างเต็มตารู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาทั้งตัว นึกด่านังเด็กลูกครึ่งในใจว่าทำไมนะเวลานี้ถึงมาสัปดนจนได้ แพตตี้ไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศเช่นนี้มาก่อน อย่างมากก็ถูกกอดจูบจากแฟนเก่า เมื่อเธอไปเรียนต่อเมืองนอกเขาก็เสร็จเพื่อนสาวของเธอ จนแพ็ตตี้เข็ดขยาดต่อความโลเลของผู้ชาย แต่ตลอดเวลาสองสามชั่วโมงที่ร่วมอยู่ด้วยกันนี้ก็เห็นว่าชายหนุ่มชื่อโอบอ้อมนี้น่าสนใจมั่กมาก ไม่น่าพลาดให้เด็กสาวรุ่นอย่างเชอรี่เกี่ยวเอาไปก่อนเลย ยิ่งมองใกล้ๆยิ่งใจสั่นเมื่อทั้งสองเริ่มจูบปากกันดูดดื่มเสียงครางเบาๆของทั้งสองยิ่งทำให้แพตตี้ใจสั่นสะท้านหนีบขาแน่น เมื่อทั้งสองร้อนรุ่มจนทนไม่ไหว เชอรี่ถอดยกทรงสีขาวออกจับใบหน้าของโอบอ้อมซบลงไปครางเบาๆเมื่อโอบอ้อมบรรจงจูบลูบไล้อย่างแผ่วเบาดูดเลียที่หัวนมแดงจัด "พี่ขา เชอรี่ให้พี่ทุกอย่างเลย พี่เป็นคนแรกของเชอรี่นะค่ะ" โอบอ้อมเงยหน้าขึ้นจูบที่ปากบางจิ้มลิ้มช่างเจรจานั้นทั้งสองลืมไปแล้วว่ายังมีบุคคลอื่นอีกสองคนอยู่ในลิฟต์แคบๆนี้ โอบอ้อมเองก็ถูกอำนาจดำกฤษณาเข้าครอบงำโดยลืมเมธาวีสาวในดวงใจไปสิ้น เขาตั้งหน้าตั้งตากอดจูบสูดดอมดมความหอมจากเรือนร่างสวยสมบูรณ์แบบของสาวสิบหกถอดกางเกงในตัวจิ๋วที่ชุ่มโชกออก ก้มหน้าสูดดมลากเลียที่หน้าท้องแบนราบลากลิ้นซอกซ่อนไปที่โคกอวบอูม ลากลิ้นสากขึ้นลงจนร่องหลืบเปียกชุ่ม ทั้งจากน้ำลายและน้ำหล่อลื่นของหญิงสาวที่หลั่งออกมาอย่างท่วมท้นดูดเลียดื่มจนมีเสียงเจาะแจะ เชอรี่เสียวส่านจนตัวสั่นสะท้านอ้าขาเอนกายนอนลงกับพื้นลิฟต์ แอ่นโคกอูมสวยให้โอบอ้อมดูดเลียช่องหลืบครางเสียงดังเป็นภาษาอังกฤษปนญี่ปุ่นจนฟังไม่ได้ศัพท์ โอบอ้อมลุกขึ้นรั้งจับเชอรี่มานั่งทับที่ตัก ทั้งสองบดริมฝีปากจูบลูบคลำกันเนิ่นนาน เชอรี่ครางเสียงกระเส่าบดสะโพกส่ายเอวในโคกอวบอูมชุ่มฉ่ำบดเบียดกับ***ยาวใหญ่ จนโอบออ้อมทนไม่ไหวจับสะโพกกลมกลึงของเชอรี่ยกขึ้นจ่อ***ยาวใหญ่ที่มันปลาบด้วยน้ำเงี่ยนตรงที่กลางร่อง ค่อยๆกดตัวเชอรี่ลงมาปากรูตึงคาบหัว***เขาแน่นทั้งสองหลุดปากครวญคราง"อูยย คับตึงไปหมดแล้วพี่ขา" เสียงครางเสียงอุทานเสียงการร่วมรักของทั้งสองทำให้แพตตี้แทบคลั่งนั่งถ่างขาเอามือกดโคกอูมของตนแน่น เมธาวีก็รู้สึกตื่นขึ้นมาจากเสียงของเชอรี่ เมื่อสายตาของเธอพบกับเรือนร่างเปลือยเปล่าของเชอรี่และโอบอ้อม โดยที่เชอรี่นั่งคร่อมตัวชายหนุ่มอยู่ เมธาวีเห็นเชอรี่ค่อยๆกดสะโพกลงอย่างช้าๆอ้าปากคร่ำครวญเสียงดังตัวสั่นระริก "โอยยยย พี่ขา เชอ ออรี่ คับตึงเหลือเกินแล้ว" น้ำตาและเหงื่อไหลนองเต็มหน้าขยับเขยือนตัวไปมาจนดังกรึ่บในร่องหลืบคับ เชอรี่สั่นสะท้านเหมือนมีอะไรฉีกขาดในร่างกายแต่ความรู้สึกเสียวซ่านมันมีมากกว่าจึงกัดฟันกดสะโพกกลมกลึงของเธอแนบลงกับหน้าตักของชายหนุ่มแก่นกายยาวใหญ่ของชายหนุ่มจึงอัดแน่นสุดกั่น ทั้งสองกอดจูบกันอย่างดูดดื่มเรือนร่างของทั้งสองเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ เชอรี่ประคองใบหน้าชายหนุ่มด้วยมือเรียวงามทั้งสองจูบพรมไปทั่วใบหน้าของชายหนุ่มอย่างเสียวซ่าน ขายาวเรียวหนีบไขว่รอบเอวของชายหนุ่ม โอบอ้อมจับสะโพกกลมกลึงส่ายร่อนไปมายกตัวขึ้นกระแทกเบาสลับหนักๆจนเชอรี่ครางอย่างสุขสม เมธาวีอ้าปากค้างเมื่อเห็นภาพคนทั้งร่วมรักกันต่อหน้าต่อตาคนอื่น เมื่อหันไปมองแพตตี้ก็ยิ่งประหลาดใจเมื่อเห็นแพตตี้นั่งถ่างขาช่วยตนเองโดยสายตาจับจ้องไปที่การกระทำของคู่ร่วมรักทั้งสอง ช่างน่าบัดสีเสียนี่กระไรเชอรี่ก็แสนจะร่านเหลือเกินเพิ่งเจอกันครั้งแรกและอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทำไมช่างมีอารมณ์ร่านเสียยิ่งกระไร คุณแพตตี้ก็เหลือเกินไม่ห้ามน้องแถมยังทำอะไรน่าเกียจช่วยตัวเองด้วย ไม่เข้าไปร่วมกับพวกเค้าเลยละ เมหลับตาปิดหูไม่อยากจะสนใจอะไรอีก เชอรี่แสนจะสุขเสียวซ่านเมื่อชายหนุ่มโอบกอดเรือนร่างเธอไว้แน่น เขาจูบและทำได้เก่งเหลือเกินยามชายหนุ่มสอดลิ้นเข้าตวัดเกี่ยวลิ้นเธอเสียวสะท้านแปลบปลาบถึงก้นกบ เขาช่างอ่อนโยนและแข็งแรงเหลือเกิน โอ้ เซ็กซ์มันดีอย่างงี้เองดีกว่าที่เธอเฝ้าฝันถึงเป็นร้อยๆเท่า ยามชายหนุ่มประคองแก้มก้นบีบหนักๆที่แก้มก้นตึงแน่นด้วยเลือดเนื้อวัยสาวแรกรุ่น จับโยกส่ายบดเบียดแก่นกายที่แข็งเหมือนท่อนไม้ยิ่งทำให้เธอเสียวจนลืมโลก ลืมหมดว่าอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงไรลืมหมดว่ามีใครจะเห็นการกระทำของเธอและเขา เหมือนเขาและเธออยู่ในโลกแคบที่มืดสนิทที่ร้อนเร่าเสียวซ่านจนไม่อยากจะหยุดกระทำ เชอรี่เกร็งกระตุกด้วยความสุขสมหลายครั้งหลายหน หลั่งน้ำสวาทครั้งแรกของตนราดรดแก่นกายของชายหนุ่มจนชุ่มโชก ร่องตีบกระตุกตอดรัดแก่นกายของชายหนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า เธอรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่บนพากฟ้า ลอยเคว้งคว้างแล้วตกวูบลงมาอย่างรวดเร็วร่างทั้งร่างเสียวแปลบลมหายใจแทบขาดห้วง ชาไปทั้งร่างตึงที่หนังศรีษะจนต้องเปล่งเสียงร่ำร้องออกมาดังๆ "อาาาาห์ พี่่ พี่ขา เชอรี่ เชอรีี ไม่ไหวแล้ว" ร่างแสนสวยกระตุกกอดรัดร่างกำยำของชายหนุ่มแน่น หลั่งน้ำสวาทออกมาต่อเนื่องจนรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว โอบอ้อมกัดฟันกรอดๆ บดกระแทกใส่ครั้งสุดท้ายจนสุดลำฉีดน้ำกามทะลักใส่ปากมดลูกของเชอรี่อย่างสุขสม ทำให้ร่างของเชอรี่กระตุกตอบสนองตามจังหวะที่น้ำอุ่นๆกระฉูดใส่ร่องสวาทและหลั่งน้ำสวาทมาจนแฉะนองอีกครั้ง
ภาพและเสียงการสมสู่ของชายหญิงที่สวยสมคมสันทั้งสองร่วมรักกันจนสุขสมต่อหน้า กลิ่นเหงื่อกลิ่นน้ำคาวสวาทคุกรุ่นในบรรยากาศทำให้อารมณ์ของแพตตี้เตลิดจนกู่ไม่กลับ นิ้วเรียวงามกดที่โคกอวบอูมอของตนแหวกร่องกดขยี้ตรงติ่งเสียวจนน้ำแฉะช่ำกางเกงในตัวน้อย แพตตี้หอบหายใจหนักครางในลำคอ ตามองเชอรี่ที่สุขสมไปแล้วหยกๆ หน้าแสนสวยของเด็กลูกครึ่งประดับด้วยรอยยิ้มอิ่มสุข ยิ่งทำให้สวยจนสุดใจ อ้า เซ็กซ์มันดีอย่างงี้เอง ธรรมชาติสร้างให้ชายหญิงต่างฝ่ายต่างตอบสนองกันและกัน เพื่อร่วมสร้างความสุขสมได้อย่างงี้เอง แพตตี้อยากจะสุขสมอย่างเชอรี่บ้าง เธอเอนตัวไปหาโอบอ้อมจูบแก้มเบาๆ เชอรี่ลืมตาขึ้นพบใบหน้าของแพตตี้อยู่ข้างๆ จึงหลับตาด้วยความอับอายที่เธอเผลอใจปล่อยตัวให้ชายหนุ่มที่แสนจะน่ารักคนนี้ แอ๊ะ แต่พี่แพตตี้ทำไมจึงมาจูบแก้มพี่โอบอ้อมล่ะ เชอรี่ค่อยๆยกตัวขึ้นครางเบาๆเมื่อแก่นกายที่ยังไม่อ่อนตัวลงเท่าไร ครูดร่องหลีบสวรรค์ของตนเมื่อค่อยๆยกร่างขึ้น เสียงบ๊วบ เมือแก่นกายหลุดออกเป็นอิสระ มันยังส่ายหัวไปมาเหมือนโกรธจัดที่ปล่อยมันออกมาเป็นอิสระ เชอรี่ค่อยนั่งแอบอิงพี่โอบอ้อม ชายหนุ่มรู้สึกตัวเมื่อสาวหน้าสวยคมแพตตี้เอนหน้ามาจูบแก้มของตนเบาๆ หันมามองพบว่าแพตตี้ตาฉ่ำเยิ้มด้วยอารมณ์ใคร่จึงดึงตัวมากอดจูบที่ปากเรียวสวย ความกระสันในตัวสาวสวยอัดอั้นมานาน เหมือนกับน้ำมันรอเชื้อไฟ เพียงไม้ขีดก้านเดียวก็ลุกโชนยากจะหยุดยั้ง เมื่อถูกจูบปากนิ้วมืออันเจนจัดคลึงเคล้นทรวงอกอวบ แพตตี้แหงนหน้ารับจูบใบหน้าแดงระเรื่อจรดใบหู สองตาหลับพริ้ม มือโอบกอดไปที่บ่าของโอบอ้อม อีกมือกำอยู่ที่ข้อมือของชายหนุ่มข้างที่กำลังป้อนความเสียวให้เธอ โอบอ้อม รุกเร้าหนักหน่วง ปากซุกไซ้ซอกคอขาว ก่อนจะซอกซอนไปสูดหอมที่แก้มนวลเนียน แล้วไล่ไปที่ริมฝีปากเรียวงามสีชมพูอ่อน เขาบดปากจูบอย่างหนักหน่วงด้วยความกระสัน ลิ้นว่องไวแทรกเข้าไปพัวพันกับลิ้นนุ่มของแพตตี้ สองหนุ่มสาวบดจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ไฟโลกีย์ปลุกเร้าความกระสันเสียวในตัวของทั้งคู่จนสติมอดไหม้ เสียงครางดังประสานกันในลำคอ "อือ....อืออ" มือของชายหนุ่ม ละจากโหนกนูนใต้กางเกงใน แล้วขึ้นมาดึงบราของแพตตี้ลงทางหัวไหล่ อึดใจเดียว ท่อนบนของสาวสวยก็เปลือยเปล่า แพตตี้ทำท่าจะยกมือขึ้นปิด แต่ก็ถูกโอบอ้อม จับข้อมือทั้งสองข้างไว้ เขาจ้องมองเต็มตา ขนาดใหญ่เกินตัวของหน้าอกสวย บวกกับความเนียนขาวของผิวพรรณดูเร้าอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง โอบอ้อมหน้ามืด หายใจหอบแรง แล้วก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาก้มหน้าลงสูดดมความหอมหวานจากจากนมอวบเต่งนั้นอย่างระเริงใจ ลิ้นปราดเปรียวจู่โจมไปที่ร่องอกเบียดแน่นนั้น ละเลงระรัวลากไปมาทั้งสองเต้าจนเปียกชื้น ส่วนมือก็ขยำเคล้นคลึงอย่างคนหื่นกระหาย ลีลาเล้าโลม ทำให้แพตตี้ต้องแอ่นอกรับลิ้นของโอบอ้อม ด้วยความเสียวซ่าน สองมือนุ่มเกี่ยวกวัดไปที่รอบคอ ครวญครางออกมาอย่างสุดกลั้น โดยไม่กลัวว่า เมและเชอรี่จะได้ยินอีกต่อไป "อือออ...โอบอ้อม....ซีดส์....ออออา" โอบอ้อมใช้ มือเคล้นคลึงที่โหนกนูนของสาวสวย พร้อมกับกระซิบข้างหู "แพตตี้ครับ ...ผมขอนะครับ" ความกระสันในตัวหญิงสาวกำลัง รุกเร้าเธอจนเกินจะหักห้ามใจ ปากโอบอ้อมซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง ส่วนสองมือก็บีบเคล้นขยำนม แพตตี้ดิ้นขลุกขลักอย่างไร้เรี่ยวแรง ทำให้***ตุง บดเบียดอยู่กับโหนกนูนที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงในแนบเนื้อสีขาวของสาวสวยพอดิบพอดี ลงมือขยำเคล้นอย่างเมามันส์ เมเหลือบไปมองการกระทำของโอบอ้อมที่กระทำกับแพตตี้แล้ว เธอหลับตาลงด้วยความอดสูใจ ร่างงามของแพตตี้อ่อนปวกเปียกหมดแรงดิ้นรนโดยพลัน ปล่อยให้โอบอ้อมเคล้นคลึงเฟ้นฟอนอย่างย่ามใจ เขาถอดกางเกงในตัวจิ๋วออกไปทางขาเรียวยาวของแพตตี้อย่างช้าๆ จ้องมองเต้านมอวบใหญ่ขาวเนียน ลงมือบีบขยำเคล้น ความหยุ่นสู้มืออย่างที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทำให้เขาขนลุก ความหื่นกระหายสุมในอกจนแทบคลั่ง โอบอ้อมก้มหน้าลงลากลิ้นโลมเลียร่องอกและเนินอกอวบจนเปียกชื้น ดูดเลียหัวนมสีชมพูที่ตอนนี้แข็งชูชันอย่างท้าทาย พร้อมกับขบเบา ๆ ส่วนสองมือก็ขยำเคล้นคลึงเต้านมเต่งตึงเต็มมืออย่างไม่กลัวแหลกเหลว แพตตี้พยายามอดกลั้นต่อความกระสันที่ปลาบไปทั่วหน้าอก แต่แล้วเธอก็พ่ายแพ้ สาวสวยหน้าแดงก่ำ แอ่นอกสู้ลิ้นที่โอบอ้อมนระรัวอยู่หัวนมของเธออย่างรัญจวน สองมือขาวนุ่มกอดรัดไปที่ท้ายทอยชายหนุ่มที่กำลังป้อนความเสียวให้เธอ สาวสวยครวญครางด้วยความเสียวซ่าน "อือออ...อืออ...แพตตี้เสียว...อออา" โอบอ้อมมองไปทั่วหญิงสาวสวยสดตรงหน้า เห็นใบหน้าสวยเร้าอารมณ์ สัดส่วนเต็มตึง รวมถึงผิวเนียนขาวโพลนไปทั้งตัว องค์ประกอบทั้งมวลปลุกความกระสันในตัวอาร์มจนถึงขีดสุด ท่อนเอ็นอวบใหญ่ผงาดชี้ไปข้างหน้า โอบอ