ขอบ่นสักนิดนะครับดราม่ารึเปล่าน้อ - -
ผมจะไม่อ้างถึงนักเขียนท่านอื่นนะครับ เอาแค่ผมเลย จะเรียกตัวเองว่านักเขียนยังไม่กล้าเลยครับ มีบางท่านให้เกียรติเรียกผมก็อายๆเหมือนกัน ผมเรียนมาทางสายวิศวกรรมครับ ซึ่งอ่อนแอต่อการพิมพ์ การเขียนอยู่แล้ว ไม่ค่อยชอบอะไรที่ต้องเขียนยาวๆ ดังนั้นเรื่องที่ผมเขียนออกมา มักจะหดสั้นๆ - - ( ก็พยายามให้มันยาวๆขึ้นบ้างแล้วนะ ) ก็พยายามให้มันถ่ายทอดความคิด จินตนาการลงไป แต่ไม่รู้ว่ามันจะทำได้ดีแค่ไหน ก็อาจจะมีบางท่านที่รับรู้และเข้าถึงได้ แต่ก็คงมีหลายท่านก็คงมึนๆต่อไม่ติดอยู่บ้าง - - ความผิดผมล้วนๆละครับ ที่สื่อไปไม่ดีพอ
ผมเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ต่อจาก เจาะเวลาหาฉิมพลี ( ซึ่งยังไม่จบเสียด้วยซ้ำ ) ดังนั้นจะเทียบแล้ว เลเวลอ่อนด้อยมากครับ ดังนั้น ผลงานอาจจะออกมาไม่ดี ไม่ถูกใจ ไม่เนียน
เชื่อว่าหลายๆท่านเข้าใจส่วนนี้กันอยู่แล้ว และก็มองหาจุดที่ดีของเรื่องเจอ
หากจะตำหนิ แนะนำอะไรก็ขอให้มันออกมาในแนวที่ผมจะสามารถรับรู้เข้าใจได้ด้วยสิครับ ไม่ใช่มาแบบไม่เนียน แค่นี้ - -
มันไม่เนียนตรงไหน ยังไง ต้องแบบไหนถึงจะเนียน ตอนไหนที่ไม่เนียน หรือไม่เนียนทุกตอน จะได้นำไปปรับปรุง หรืออธิบายกลับไปได้
หรือบางทีอาจจะลองคิดดูสักนิดมั้ย ว่า ทำไมมีเพียงเราที่รู้สึกแบบนี้ คนอื่นทำไมถึงไม่คิดแบบเรา
เราว่าไม่เนียน แล้วคนอื่นเค้าคิดกันยังไง แล้วที่ไม่เนียน รู้ใจคนเขียนหรือเปล่าว่าเค้าตั้งใจให้เป็นแบบนี้อยู่แล้วหรือเปล่า
แค่ความเห็นเดียวก็ทำให้สะดุดได้ ความเห็นเดียวจริงๆ - -
ทีแรกกะเขียนไรนิดเดียว ไหงยาวขนาดนี้ เข้าโหมดดราม่าโดยไม่รู้ตัว พอเข้าโหมดนี้ มันก็ไม่มีฟิวจะเขียนต่อ เลิฟซีนยิ่งแล้วใหญ่ - -
รอหายก่อนนะครับ ไหนๆตอนนี้ก็ไม่ได้สั้นมาก ถือว่าจบตอนไปเลยละกัน
ปล.ขออภัยหลายๆท่านที่อ่านก่อน 18.00 ที่ผมว่าจะมาเขียนตอนนี้ต่อ [s:274]
เจ้ เงียบ นิ่งไปเลย ไม่รู้ไม่ได้ยินคำถามเพราะเสียงฝนตกหนัก หรือเพราะไม่รู้ว่าจะตอบมาว่าอะไร ผมเองก็รู้สึกใจหายวาบขึ้นมาเหมือนกัน กลัวเจ้จะโกธรรึเปล่า ดีไม่ดีตกงาน - -
" อืม " เสียงเจ้ตอบมาเบามาก แต่ผมได้ยิน
" งั้นเจ้ ก็ ...เห็น ของผมด้วยสิ " ผมทำท่าเหมือนตกใจ อายๆ แต่ในใจไม่สักนิด
" อืมม " เจ้ตอบ จากนั้นในรถก็เงียบ...
เหมือนมีบรรยากาศเปลี่ยนไป เจ้ที่ผมกลัวและเคารพมาตลอด เหมือนตัวเล็กลงๆ จากเจ้านาย กลายมาเป็นหญิงสาวที่ต้องมาติดอยู่กับหนุ่มกลัดมันสองต่อสอง เหมือนลมหายใจของเจ้แรงกว่าเก่า บรรยากาศในรถก็เหมือนจะอบอุ่นขึ้น มาถึงขนาดนี้แล้วก็คงต้องลองแย๊บหนักๆไปสักทีให้รู้กันไป
พี่ภาเคยบอกว่า ถ้าคุยเรื่อง ใต้สะดือกับผู้หญิงคนไหนได้ ก็แปลว่ามีโอกาสเอาได้เช่นกัน แต่ถ้าไม่ได้ก็ให้ถอยกลับออกมาอย่าให้เค้ารู้สึกอึดอัด ว่าแล้วก็...
" เฮียจะมาไทยอีกเดือนไหนครับ " ผมถามถึงผัวเจ้นั่นเอง
" สิ้นปีมั้ง " เจ้ตอบ ระยะหลังๆนี่เฮียไม่ค่อยมาละครับ จากปีละสามครั้ง กลายเป็นปีละสองครั้ง จนจะเป็นปีละครั้งแล้ว เพราะร้านเริ่มโอเคแล้ว เห็นเจ้ว่าจะไปเปิดสาขาที่พันธ์ทิพย์งามวงวานด้วย
" เจ้ไม่เหงาแย่เหรอครับ " ผมลองหยั่งเชิงดู
เจ้เงียบไปพัก ก่อนจะตอบว่า
" ก็มีบ้าง "
ผมเกือบจะหลุดปากไปว่า ก็หาแฟนที่นี่สักคนสิครับ แต่พอมานึกๆดู มันเหมือนยุให้มีชู้ไงไม่รู้ เลยไม่ได้พูดออกไป
" นุ คงไม่เหงาใช่มั้ย มีแฟนแล้วนี่ " เจ้เปลี่ยนเรื่องมาทางผมบ้าง
" อ่าา ครับ "
" หนุ่มๆ สาวๆนี่ดีจังนะ " เจ้พูดเหมือนพูดกับตัวเอง
" ยังกะเจ้ไม่สาวงั้นละครับ " ผมพูดอย่างจริงใจเลย นางเอกละครไทย หลายๆคนอายุมากกว่าเจ้กันทั้งนั้น
" งั้นเหรอ " เจ้ตอบมาเหมือนไม่ใส่ใจเท่าไหร่
" พวกพริตตี้ยังสวยสู้เจ้ไม่ได้เลย " อันนี้ก็กึ่งยิงกึ่งผ่าน - - แต่พริตตี้ที่เจอบ่อยๆที่เซียร์สวยน้อยกว่าเจ้นี่เยอะเลย จะว่าทั้งหมดมันก็จะดูเกินไปหน่อย
" ขนาดนั้นเลย แล้วทำไมนุมองแต่ขาเจ้ ไม่เห็นมองหน้า " เจ้เหมือนอารมณ์ดีขึ้นมาก ใบหน้ามียิ้มด้วยเล็กๆ
ผมก็เริ่มรู้สึกถึงเคมีที่ส่งออกมาเหมือนกัน ลองดูสักหน่อยละกัน
" ผู้ชายก็อดมองขาขาวๆไม่ได้กันทั้งนั้นละครับ " เจ้เหมือนหน้าแดงๆ ไม่พูดอะไร แต่พอดี ถนนก็ว่างมาได้ช่วงหนึ่ง เจ้เลยเคลื่อนรถขึ้นไปอีกนิด แต่ก็ติดแหงกอีกรอบ
" มองแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ? " เจ้เหมือนถามเรื่อยๆไม่ต้องการคำตอบ แต่ผมเห็นช่องเลยลองปล่อยหมัดตรงเข้าไปสักครั้ง
" รู้สึกดีไงครับ "
ผมตอบจากนั้นต่อไปอีกว่า
" เจ้นั่งมานานเมื่อยขารึเปล่า ให้ผมนวดให้มั้ย " ผมพูดแบบติดตลกทีเล่นทีจริง เป็นครั้งแรกที่กล้าเล่นมุขแบบนี้กับเจ้ เจ้ถึงกับนิ่งไปเลยครับ ผมก็กลั้นใจรอ คำถามเราทีเล่นทีจริง มันจะเล่นหรือจะจริง ขึ้นอยู่กับคนตอบแล้ว
" ไปหื่นกับแฟนเราโน่น ไม่ต้องมาหื่นแถวนี้ " เจ้ตอบ ผมฟังไม่ออกว่ามันคือเล่นหรือจริงแหะ - - เลยนิ่งๆไปเหมือนกัน
บรรยากาศในรถเลยเงียบไปอีก เจ้หยิบมือถือโทรไปบอกที่ร้านว่า รถติด อาจกลับช้า ผมดูเวลาก็จะ 5 โมงเย็นแล้ว
สักพักรถเริ่มขยับฝนเริ่มซาลง จากนั้นก็หลุดมาจากประตูน้ำได้ ผมก็เผลอๆวูบๆหลับๆตื่นๆไปเหมือนกัน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนรถมาติดๆแถวเกษตร หันดูเจ้ก็ดูเหนื่อยๆเหมือนกันที่ต้องขับรถตอนฝนตกรถติดแบบนี้ ผมก็นะครับ งัวเงียๆ
" นุนวดเป็นด้วยเหรอ ? " โอยยย ตาสว่างทันทีทันใด บ๊ะแล่ววววววๆ
" พอเป็นครับ " ช่างกล้า จริงๆไม่เป็นเลยครับ มีแต่นวดปลุกอารมณ์ แยงหีที่พี่ภาฝึกให้นั่นละ เจ้ดูเหมือนกำลังชั่งใจๆแต่ผมไม่รอละครับ หน้าด้านวางมือแปะใส่ขาอ่อนอวบๆของเจ้ทันที
จะโดนไล่ออกก็ต้องลองแล้ว
เจ้สะดุ้งเฮือก แต่ก็ไม่ว่าอะไร ผมก็ลูบๆบีบคลึงทันที ขาอ่อนเจ้นุ่มมากครับ แต่เต่งตึงดีมาก มือเดียวไม่สาแก่ใจ เลยเล่นทั้งสองมือเลยทีนี้ เห็นเจ้ทำท่าเหมือนพยายามจะเก็บอาการว่า ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แต่มันจะเก็บอะไรได้ ขนาดพี่ภาผมยังบีบจนน้ำหีไหลเยิ้มได้ นี่เจ้เง็ก อายุแค่นี้ แถมยังมีผัวแก่ ที่แวะมาหาปีละครั้งสองครั้งแค่นั้น
ผมก็นวดเนียนๆไปแถวเข่าบ้าง แล้วขึ้นมาสูงๆใกล้หว่างขามั่ง เห็นบางทีเจ้ หุบขาแน่น คงกลัวผมจะล้วงโดนหี ผมเห็นก็ถอยลงไปนวดแถวเข่าแทน สักพักก็กลับขึ้นมาป้วนเปี้ยนแถวๆหว่างขาอีก ทำแบบนี้สอง-สามรอบจนเจ้ไม่หุบขาแล้ว ผมแอบก้มๆส่องๆเห็น กกน.สีชมพูลางๆ แต่มันมืดมากเลยดูอะไรไม่ออกไปมากกว่านี้
กำลังว่าจะลองปาดลูบหีเจ้สักที แต่รถข้างหลังบีบแตรไล่เสียก่อน เจ้สะดุ้ง ก่อนจะเคลื่อนรถ ผมก็เลยเพลามือลง นวดๆคลำๆขาอ่อนนุ่มๆเจ้ไปพลางๆ ควยนี่ลุกแข็งโด่จนอึดอัดแล้วตอนนี้
" ดีขึ้นมั้ยครับ " หน้าด้านถาม
" อืมม นวดเป็นนี่เรา " ผมได้ฟังก็อดยิ้มในใจไม่ได้
มาถึงสะพานใหม่ ฝนก็เทหนักลงมาอีกครั้ง ฟ้าก็มืดยังกะกลางคืน เวลาก็เกือบทุ่ม เจ้แอบรถเข้าข้างทางก่อนจะโทรไปที่ร้านว่า วันนี้คงไม่เข้าไปแล้ว ตลอดเวลามือผมไม่เคยออกจากขาอ่อนเจ้เลยนะครับ ลูบๆเล่นนี่เพลินมาก เจ้ปรับเบาะถอยหลังแล้วเอนลงนอน บอกผมว่า
" พักแป๊บนะ ปวดหลัง " ผมก็ไม่รู้ว่าปวดจริงปวดปลอม แต่ผม นี่ปวดควยมากๆ - - เลยปลดเข็มขัดนิรภับแล้วเขยิบเข้าไปใกล้เจ้คนสวย ก่อนจะพูดว่า..
" ผมนวดให้นะ " เจ้ไม่รู้เข้าใจรึเปล่าว่าผมจะนวดแถวไหน เห็นหลับตาอยู่
ผมก็ด้านนวดก่อนเลย ทีแรกก็แถวหัวไหล่ จากนั้นมาต้นแขน ฮึ่มม ชักเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เห็นนมตู้มๆเด่นอยู่ห่างคางผมไม่ถึงคืบ แค่ก้มลงก็งับได้ทันทีอะไรแบบนั้น
เจ้ก็ยังไม่ยอมลืมตา ตอนนี้ก็ค่อนข้างมั่นใจว่า เจ้คงยินยอมพร้อมใจแน่ เลยไม่ต้องแกล้งเนียนเท่าไหร่ หลายครั้งนวดๆไปใต้ฐานนมเจ้ก็ไม่ว่า ดูๆแล้วเจ้คงจะเงี่ยนได้ที่ ลีลามากไปอาจมีอะไรมาสกัดได้ เห็นหน้าสวยๆปากสวยๆของเจ้แล้ว สุดจะทน เลยก้มลงจูบไปทีหนึ่ง ไม่ทันจะได้สอดลิ้น เจ้หันหน้าหลบ ลืมตาเขียวใส่ผมทันที
" นุ !!! จะทำอะไรน่ะ " อ่าว - - ผมก็งงไปนิดหนึ่ง ไม่ใช่ยอมแล้วเหรอหว่า ความเงี่ยนไม่ปราณีหนุ่มวัยจะ 20 แบบผมอยู่แล้ว เลยหน้าด้านก้มลงจะจูบอีกรอบ เจ้ตบสวนทันที
เพี๊ยะ เสียงดังลั่น ความเงี่ยนหายไปเป็นปลิดทิ้ง
เจ้เง็กขับรถออกมา ผมก็นั่งมึนๆทบทวนว่าไหงมันเป็นแบบนี เจ้ก็ไม่พูดไม่จา จนรถผ่านสะพานใหม่ เข้ามาจนจะถึงรังสิต
" นุ ทำไมถึงทำแบบนี้ " เจ้พูดออกมาเสียงเครือๆ เพิ่งเคยเห็นเจ้คนสวยมีมุมที่ดูอ่อนแอแบบนี้
ผมก็อึ้งไป ดูท่าต้องหางานใหม่ทำแหงๆ - - เฮ่อออ
" ขอโทษครับเจ้ ผมขอโทษ - - " เฮ่อออ
เงียบ....บ.
รถติดตรงแยกไฟแดงอีกครั้ง เจ้ก็เงียบไม่พูดไม่จา ผมก็นั่งนึกว่าจะไปหางานใหม่ที่ไหนดี...
[post]
ยังไม่จบนะครับ เดี๋ยวกลับมาต่อ มีนัดกินข้าว
ขออภัยด้วยนะครับ ตี้ต่างว่าจบตอนไปละกัน
อาจต้องใช้เวลาสักพักให้หายงุงิ [s:224]
[/post]
ทำเจ๊เคลิ้มแน่ๆเลย นวดขนาดนี้ไม่น่าทนได้