🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์ในตำนานใต้ดิน => หัวข้อที่ตั้งโดย: assasin008 เมื่อ ตุลาคม 17, 2015, 02:04:08 หลังเที่ยง

ชื่อ: XO ตอนที่ 23 - ลูกพี่
โดย: assasin008 เมื่อ ตุลาคม 17, 2015, 02:04:08 หลังเที่ยง
XO ตอนที่ 23 - ลูกพี่
..................................
Assasin008 2015-10-17[/b]

   "... แองจี้?"

   แม็กส่งเสียงด้วยความมึนงงสงสัยหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วมองเห็นดวงตากลมโตสุกใสกำลังจับจ้องมองดูเขาอยู่ในระยะประชิดเป็นสิ่งแรก นั่นเป็นใบหน้าอันสวยงามประหนึ่งเทพธิดาของแองจี้ นักบวชสาวที่เขาเคยร่วมรักในวิหารของเกม หากทว่าที่ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดก็คือเขาคิดว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในเกม ทั้งยังมองเห็นฝาแคปซูลเปิดค้างอยู่ด้านบน และยังมองเห็นเพดานห้องนอนสีชมพูติดดาวสะท้อนแสงอยู่ด้านบนด้วย นี่จึงไม่สมควรใช่ในเกมอย่างแน่นอน

   "เฮ้ย ส้มเช้ง!!!"

   หลังจากมองดูดวงตากลมโตของอีกฝ่ายครู่หนึ่ง แม็กก็ส่งเสียงร้องเหวอออกมาด้วยความแตกตื่น เขาหมายจะลุกขึ้นหากทว่าส้มเช้งน้องสาวบุญธรรมของเขายังคงนอนทับร่างของเขานิ่งเหมือนลูกแมวน้อยขี้อ้อน น้ำหนักของเธอจึงกดไม่ให้เขาสามารถลุกขึ้นมาได้ และที่สำคัญก็คือตอนนี้เธอไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น ความนุ่มนิ่มเต่งตึงอวบอัดเกินสาววัยมัธยมปลายจึงเบียดแน่นอยู่กับผิวกายของชายหนุ่ม

   "ทำอะไรน่ะ ลุกขึ้นก่อนเร็วส้มเช้ง เดี๋ยวพ่อแม่มาเห็นเข้า"

   เมื่อลุกด้วยตนเองไม่สำเร็จ แม็กจึงพยายามส่งเสียงเจรจา หากทว่าเมื่อมองดูแววตาฉ่ำเยิ้มร้อนรักของผู้เป็นน้องสาวแล้ว เขากลับรู้สึกว่าผิดท่า เขาคุ้นเคยกับแววตาแบบนี้ดี มันคือแววตาของผู้หญิงที่กำลังเร่าร้อนที่สุด มันคือแววตาของผู้หญิงซึ่งตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะทุ่มสุดหัวใจให้กับผู้ชายคนหนึ่ง

   "... พ่อกับแม่ออกไปแล้วค่ะ"

   ส้มเช้งตอบเสียงอ่อนเสียงหวานแต่ยังคงไม่ยอมลุกจากไป ซ้ำยังขยับร่างเบียดความหนั่นแน่นนุ่มนิ่มเข้าหาผู้เป็นพี่ชายบุญธรรมอย่างจงใจ จนหนุ่มมากประสบการณ์ยังอดรู้สึกสยิวกายจนส่วนนั้นแข็งโด่ขึ้นมาไม่ได้

   "เดี๋ยว ๆ ส้มเช้งหยุดก่อน เราเป็นพี่น้องกันนะ"

   "เมื่อคืนตอนพี่แม็กลักหลับหนู ไม่เห็นจะสนใจเลยว่าเราเป็นพี่น้องกัน แล้วหนูก็ไม่ใช่น้องแท้ ๆ โดยสายเลือดซะหน่อย"

   "เฮ้ย พูดเรื่องอะไร ใครลักหลับใคร"

   "เมื่อคืนหนูแกล้งไปนอนใช้เครื่องเล่นเกมของพี่ แต่หนูยังไม่หลับ พี่ก็แอบลักหลับหนู แถมยังใส่ของพี่เข้ามาในตัวหนูด้วย แต่พ่อกับแม่มาเคาะประตูห้องซะก่อน พี่ก็เลยหยุด"

    แม็กหมายแก้ต่างให้ตนเอง แต่กลับต้องอ้าปากค้าง เพราะที่ส้มเช้งพูดนั้นถูกต้องทั้งหมด เมื่อคืนส้มเช้งไปใช้เครื่องเกมที่ห้องเขา และเขาก็อดใจไม่ได้ เผลอลักหลับจนถึงขั้นสอดใส่แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรจริงจังก็โดนขัดจังหวะเข้าเสียก่อน เขาจึงต้องจรลีมาใช้เครื่องเล่นเกมในห้องนอนของส้มเช้งแทน เพียงแต่เขาคาดไม่ถึงว่าส้มเช้งจะแกล้งหลับปล่อยให้เขาทำแบบนั้นทั้งที่รู้ตัวตลอดเวลา

   "อะแฮ่ม ... เอ่อ คือ ... เรื่องเมื่อคืน ... เฮ้อ ... พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ... เอาเป็นว่าเราไม่ควรทำมันอีก"

   "หนูไม่ได้โทษพี่ซักหน่อย ไม่ต้องขอโทษเรื่องนั้นหรอกค่ะ ก็พี่อุตส่าห์ตามหนูเข้าไปในเกม แล้วมีอะไรกับหนูในนั้นแล้วด้วย"

   ส้มเช้งพูดด้วยน้ำเสียงพลุ่งพล่านร้อนรัก แววตาของเธอที่มองดูเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอต้องการอะไร แต่ว่าแม็กไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร เขาไม่รู้ว่าตัวเองไปมีอะไรกับส้มเช้งในเกมตั้งแต่เมื่อไหร่

   "เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ในเกมนี่นะ ... เอ๊ะ ... อย่าบอกนะว่า ... แองจี้!!!"

   เขาพยายามปฏิเสธบ่ายเบี่ยง แต่ว่าแววตาร้อนรักแบบนี้มันช่างคุ้นตาจนเขานึกเชื่อมโยงบางอย่างออก และเขาก็คิดว่าแววตาของส้มเช้งในตอนนี้คล้ายคลึงกับแองจี้แม่นักบวชสาวหุ่นเอ็กซ์ในเกมเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาคิดว่าเขาทราบแล้วว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง

   "ใช่ค่ะ แองจี้เป็นชื่อของหนูในเกม พี่ว่ามันเป็นพรหมลิขิตหรือเปล่าคะ ที่เราได้ไปเจอกันโดยไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น"

   ส้มเช้งยิ้มหวานยินดีเมื่อพี่ชายนึกเชื่อมโยงออกแล้ว ความรู้สึกของเธอต่อพี่ชายในตอนนี้กำลังคุกรุ่นร้อนแรงยิ่ง เพราะเธอนั้นแอบหลงรักพี่ชายบุญธรรมคนนี้มาแล้วตั้งแต่เด็ก เมื่อโดนเขาลักหลับเติมเชื้อไฟให้ ความต้องการทางเพศก็พลุ่งพล่านตื่นตัวเต็มที่ อีกทั้งโชคชะตายังนำพาให้เธอและเขาไปพบรักกันในเกมอีกต่างหาก จิตใจของเธอจึงยิ่งปักใจเชื่อว่านี่คือคู่รักของเธออย่างแท้จริง

   เมื่อมีเวลาให้ครุ่นคิด แม็กก็เชื่อมโยงเรื่องราวทุกอย่างออก และเขาก็เป็นผู้ชายที่เข้าใจผู้หญิงมากคนหนึ่ง เขาจึงเข้าใจสภาพจิตใจของน้องสาวที่โตมาด้วยกันคนนี้ออก เพียงแต่เขาไม่แน่ใจว่าสมควรตอบสนองหรือไม่ เพราะปกติแล้วเขาจะมองหาเพียงความสัมพันธ์แบบไม่ยาวนานเพื่อใช้ชีวิตวัยหนุ่มให้คุ้มค่า สำหรับผู้หญิงทั่วไปเมื่อเขาเบื่อ ก็เพียงแยกทางกัน แต่สำหรับน้องสาวที่เขาห่วงใย เขาจะสามารถแยกกับเธอได้หรือ

   ด้านส้มเช้งเองก็มองพี่ชายด้วยสายตาลึกซึ้งเร่าร้อน หากจะมีใครสักคนที่เข้าใจแม็กดีที่สุด ส้มเช้งก็คงจะเป็นคนนั้น และวันนี้เธอก็ได้ตัดสินใจทุ่มเทจนสุดตัว ไม่สนอีกต่อไปว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร

   "หนูมีข้อเสนอค่ะ เรามาคบเป็นแฟนกันแบบลับ ๆ ไม่ให้ใครรู้ หนูจะไม่ยุ่มย่ามเรื่องผู้หญิงคนอื่นของพี่แม็ก หนูจะไม่เรียกร้องอะไรมากมาย ถ้าวันหนึ่งพี่แม็กคิดว่าหนูไม่เหมาะเป็นคนรัก หนูจะไม่โกรธไม่ว่าอะไรเลยสักคำ เราจะกลับมาเป็นพี่ชายน้องสาวเหมือนเดิม หนูขอแค่โอกาสเป็นคนรักกับพี่สักครั้งในชีวิตก็พอแล้ว"

   เด็กสาวพูดเปิดอกยื่นข้อเสนอด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่านเต็มที่ ชายหนุ่มจึงได้แต่นิ่งอึ้งไม่สามารถปฏิเสธได้ลง หากมองในฐานะผู้ชายทั่วไปแล้ว เขาถือว่าได้กำไรยิ่ง เพราะได้แฟนสาวสุดสวยมาไว้ในครอบครองหนึ่งคน อีกทั้งยังไม่ต้องห่วงเรื่องการคบผู้หญิงคนอื่นด้วย หรือหากมองในฐานะของพี่ชายบุญธรรมแล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายออกตัวอย่างชัดเจนว่าจะโกรธเคืองหากต้องแยกทางกัน ก็ถือได้ว่าเป็นการแก้ปัญหาในอนาคตได้ดี เพียงแต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี

   "ส้มเช้ง ทำแบบนี้มันจะคุ้มเหรอ พี่ไม่ใช่ผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวนักหรอกนะ"

   "หนูรู้ค่ะ ดังนั้นหนูก็เลยขอโอกาส ถ้าคบกันแล้วพี่คิดว่าหนูไม่ใช่คนที่พี่ตามหา หนูก็พร้อมจะกลับมาเป็นน้องสาวของพี่เหมือนเดิม หนูสัญญาว่าจะไม่โทษพี่เลยสักคำ"

   "... เอ่อ ... แล้วถ้าพี่ไม่รับข้อเสนอล่ะ เราจะโกรธพี่หรือเปล่า?"

   "ถ้าพี่ไม่รับข้อเสนอ ... หนูถือว่าหนูเปิดใจเต็มที่แล้ว หนูคงทำอะไรไม่ได้อีก หนูจะไม่โกรธพี่ค่ะ หนูจะกลับไปเป็นน้องสาวของพี่เหมือนเดิม ... แต่ว่าหนูจะไปหาแฟน หาคนที่จะช่วยทำให้หนูหายอัดอั้นได้"

   ส้มเช้งตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่มไม่ได้ใส่อารมณ์อะไร หากทว่าเมื่อแม็กได้ยินประโยคท้าย เขาก็ขมวดคิ้วและรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ความลังเลที่มีอยู่ในใจคล้ายจะโดนความหึงหวงเข้ามาครอบงำจนหมด เขาไม่อยากนึกภาพตอนที่น้องสาวคนสวยของเขาอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนอื่น ไม่มีทางเด็ดขาด

   น้องสาวยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นใบหน้าของพี่ชายทอประกายหงุดหงิดไม่พอใจออกมา เธอพึงพอใจท่าทีตอบสนองของเขายิ่ง เพราะนั่นหมายความว่าเขากำลังหึงหวงเธออยู่

   "โอเค งั้นพี่ก็มีข้อตกลงเหมือนกัน เรามาคุยกันก่อน"

   "ได้ค่ะ"

    "ข้อแรก ห้ามส้มเช้งไปคบกับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาด ห้ามไม่ให้แตะเนื้อต้องตัว ห้ามไปไหนมาไหนกับผู้ชายสองต่อสอง ห้ามคุยจีบกันในแชท ทางโทรศัพท์ หรือแม้แต่ในเกม ห้ามเด็ดขาด ห้าม ...."

   เพียงข้อแรกแม็กก็ร่ายข้อห้ามออกมายาวยืดเสียแล้ว แต่ว่าส้มเช้งยิ่งฟังก็ยิ่งยิ้มกริ่มยินดี ยิ่งเห็นท่าทีหึงหวงของพี่ชายสุดที่รักก็ยิ่งรู้สึกร้อนวาบไปทั่วร่าง เธอไม่เคยเห็นพี่ชายของเธอแสดงท่าทีหึงหวงกับผู้หญิงคนอื่น มีแต่เธอเพียงคนเดียวที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้

   "ค่ะหนูสัญญา ว่าจะไม่ทำให้พี่หึงหนูเด็ดขาด ข้อสองล่ะคะ?"

   "เอ่อ ... ข้อสอง ยังคิดไม่ออก"

   เมื่อพูดถึงข้อสอง ส้มเช้งก็ยิ่งยิ้มหน้าบานหัวเราะคิกคัก สรุปว่าพี่ชายของเธอมีเพียงเงื่อนไขข้อเดียว เพียงแต่ทำเป็นเก๊กว่ามีหลายข้อ

   "ตกลงค่ะ ถ้าพี่คิดข้อสองออกค่อยบอกหนูอีกทีนะ แต่สรุปว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะคะ"

   "อื้ม"

   "หนูรักพี่ค่ะ หนูอยากเป็นของพี่ชาย"

   เมื่อเขาตอบรับดวงตาของเธอก็ทอประกายรักเร่าร้อน ใบหน้าสวยงามนั้นโน้มลงมาประกบปากจูบกับผู้เป็นพี่ชายทั้งที่ยังอยู่ในเครื่องแคปซูล ริมฝีปากบางที่ยังไม่ประสีประสาในเชิงกามเพียงบดลงไปตรง ๆ ไม่ได้มีลีลารักเร่าร้อน แต่นั่นก็เพียงพอแล้วเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นช่ำชองเชี่ยวชาญอย่างยิ่ง

   เพียงพริบตาเดียวแม็กก็โดนอารมณ์รักระบาดใส่ เขาโอบกอดร่างของน้องสาวเอาไว้อย่างแน่นหนาพร้อมกับบดจูบแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มชื้นด้วยความนุ่มนวลทะนุถนอม

    ส้มเช้งส่งเสียงครางอืมพออกพอใจ ความรักข้างเดียวอันยาวนานของเธอกำลังโดนเขาเติมเต็มให้ทีละน้อย ดังนั้นแม้จะยังไม่ทราบว่ารักครั้งนี้จะยาวนานเพียงใด แต่เธอก็พร้อมจะเก็บกักทุกความรู้สึกที่ได้รับจนหมดสิ้น

   สองร่างกอดจูบพัวพันหนักหน่วงขึ้นทีละน้อย จากนุ่มนวลแผ่วเบา กลายเป็นเร่าร้อนหนักหน่วง เสียงดังจุ๊บจ๊วบจึงแว่วดังอย่างไม่หยุดยั้ง จวบจนกระทั่งอารมณ์ร้อนร่านของสองฝ่ายพุ่งขึ้นไปถึงขีดคั่นที่สมควรยกระดับไปขั้นถัดไป

   "ไปต่อกันในห้องน้ำนะส้มเช้ง"

   แม็กละริมฝีปากออกมาโดยที่มีใยเหนียวเชื่อมโยงริมฝีปากทั้งสองฝ่ายอยู่ และคราวนี้ส้มเช้งซึ่งกำลังใบหน้าแดงก่ำด้วยรสรักก็ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี จากนั้นจึงค่อยเดินจูงมือพี่ชายเข้าไปในห้องน้ำทั้งที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น

   ส้มเช้งหย่อนร่างลงไปในอ่างน้ำจากุซซี่ขนาดใหญ่ ความใสแจ๋วของน้ำทำให้ชายหนุ่มมองเห็นสองเต้าอวบใหญ่ไซส์บึ้มยิ่งกว่าสาวมหาลัยกำลังเด้งขึ้นเด้งลง ในขณะที่ส้มเช้งเองก็กำลังจับจ้องมองดูความเป็นชายของเขาด้วยดวงตาแวววาวระยิบระยับ เธอสัมผัสได้ถึงอารมณ์อันร้อนแรงของพี่ชายที่ส่งผ่านออกมาจากสิ่งนั้น
   
   "ส้มเช้งสวยมากสวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่พี่เคยเห็นเลย ก่อนหน้านี้พี่พยายามไม่มอง เพราะกลัวความรู้สึกแบบนี้ แต่ตอนนี้พอมองแล้วก็รู้สึกเหมือนจะหยุดไม่ได้"

   แม็กเอ่ยชมออกมาจากใจจริง เพราะส้มเช้งนั้นสวยน่ารักเกินวัยไปไกลโข เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกแห่งความเป็นจริงที่เขาเคยเห็น แม้แต่ดาวมหาลัยหุ่นเอ็กซ์อย่างหมิวก็ยังเป็นแค่อันดับสอง
 
   "อืมมมมมมม อืออออออออ"

   ส้มเช้งรับฟังคำชมด้วยรอยยิ้มยินดี ก่อนจะเผยอหน้าส่งเสียงร้องครางออกมา เพราะก้อนเนื้ออวบอิ่มของเธอกำลังโดนฝ่ามือร้อนผ่าวของพี่ชายตะปบขยำขยี้ใส่ เริ่มจากแผ่วเบา แล้วค่อยใส่ความหนักหน่วงรุนแรงเขามาทีละน้อย และเมื่อปลายนิ้วทั้งสิบเริ่มรีดเร้นหนักหน่วงในระดับหนึ่ง ร่างงามของเด็กสาวก็กระตุกเฮือกสะท้านด้วยความเสียวซ่าน

   เด็กสาวส่งเสียงครางหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงเริ่มบีบขยำแรงขึ้นจนสองเต้าบุบบู้บี้ไปตามแรงกด จากนั้นเขาก็ปล่อยมือออกเพื่อให้เนื้อสาวเด้งสะท้อนกลับคืนสู่รูปเดิม ก่อนจะลงมือบีบขยี้ใหม่ด้วยความกลัดมันสาแก่ใจรอบแล้วรอบเล่า   

   "จ๊วบ จ๊วบ"

   เสียงดูดดังขึ้น เมื่อเขาบีบขยำขยี้สองเต้าสลับกับหนีบหัวนมจนส้มเช้งเด้งตัวสะท้านไปมา ทั้งยังก้มหน้าก้มตาลงไปซุกไซร้สูดดมความหอมหวานของร่องนมน้องสาวราวกับเด็กน้อยโหยหานมแม่ และเพียงพริบตาเดียวปลายถันสีชมพูอ่อนก็แข็งตัวชูชันขึ้นมาเป็นเม็ดแข็ง

   "อ๊ายยย ... ซี้ดดสสส ... อืมมมม ..."

   ส้มเช้งเด้งผวาครางอย่างสุดจะทานทน ฝ่ามือนุ่มนิ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของพี่ชาย สลับกับจิกเล็บกดลงไปที่ด้านหลังศีรษะด้วยท่าทางร้อนร่านปราถนา ยิ่งได้เห็นภาพพี่ชายก้มหน้าก้มตาดูดดื่มสองเต้าของเธออย่างเอร็ดอร่อย เด็กสาวก็ยิ่งพึงพอใจที่เขาชื่นชอบ

   "ฮ้าาาา .... ซี้ดดดสสสส ... อะ อ๊ายยย"

   เสียงครางดังขึ้นอีกหนึ่งระดับ เมื่อผู้เป็นพี่ใช้ฟันขบกัดลงไปบนปลายถัน อีกทั้งยังเริ่มบีบขยี้ใส่อย่างรุนแรงหนักหน่วงกว่าเดิม เวลานี้เธอรู้สึกราวกับกำลังขึ้นสวรรค์ โดยเฉพาะเมื่อเขาขยับมือข้างหนึ่งมุดลงไปในน้ำเพื่อตะปบลงไปบนกลีบกุหลาบงาม แล้วขยำขยี้สะกิดเกาไปตามเนินเสียวอันบอบบางอ่อนไหว

   ส้มเช้งส่งเสียงร้องอ๊ะแล้วแหงนหน้าเริ่ดพิงกับขอบอ่างอาบน้ำ เธอหลับตาปี๋ ใบหน้าสวยบิดเบี้ยว แลบลิ้นออกมาเลียรอบปากตามอารมณ์ร้อน ความเสียวหฤหรรษ์ยิ่งมายิ่งเพิ่มพูน นิ้วมือของพี่ชายยิ่งมาก็ยิ่งสอดใส่รุกรานล่วงลึกเข้าไปในความคับแน่น ก่อนจะเริ่มขยับลากเข้าลากออกจนเธอเด้งผวาจิกมือลงบนแผ่นหลังของเขาสุดแรง

   ท่อนขาขาวเรียวบ้างอ้าบ้างหุบ สะโพกผึ่งผายเด้งส่ายร่อนไปมาอยู่ในน้ำใสก่อเกิดเป็นระลอกคลื่นบนผิวอ่างน้ำราวกับคลื่นลมทะเล จากนั้นเพียงไม่นานความรู้สึกเสียวแปลบก็แล่นวูบถึงขีดสุด ร่างอวบอัดเกินวัยเด้งกระตุกสะท้านอย่างแรง ความสุขหฤหรรษ์แผ่พลิ้วกระจายไปทั่วร่างเพื่อบ่งบอกต่อเขาว่าเธอโดนส่งขึ้นสวรรค์ไปแล้วหนึ่งรอบ

   แม็กหยุดนิ้วมือแล้วขยับมาบดจูบปากอย่างนิ่มนวล และเขาก็เพิ่งตระหนักได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขากระทำกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความนุ่มนวลทะนุถนอมเช่นนี้

   "จะเปลี่ยนใจมั้ย?"

   เขาถามเสียงนุ่มส่วนเธอตอบด้วยการส่ายหน้า บางทีนี่อาจจะเป็นคำถามที่ดูโง่เขลา เพราะอารมณ์ของหนุ่มสาวมาไกลเกินว่าจุดที่จะห้ามทัพอยู่ หากทว่าการถามกับไม่ถามนั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน อย่างน้อยส้มเช้งก็รู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่ทะนุถนอมจากผู้เป็นพี่ชายมากกว่าการไม่ถามไถ่

   เมื่อได้รับคำยืนยัน ชายหนุ่มพลันยืดตัวขึ้น โอบอุ้มร่างงามของเด็กสาวหย่อนสะโพกผายไปนั่งบนขอบอ่าง แล้วจับสองขาขาวเพรียวถ่างแยกออกจากกัน ก่อนจะค่อย ๆ จับเอาความเป็นชายที่แข็งตัวจนใกล้ระเบิดสอดใส่เข้าไปในร่องอันแสนคับแคบของเด็กสาว

   แรงกดที่แทรกผ่านเข้าไปสร้างความเสียววาบหฤหรรษ์จนเด็กสาวกระตุกเฮือก ความเจ็บปวดน้อยกว่าตอนโดนลักหลับเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการอันดำมืดผลักดันจนต้องแอ่นสะโพกส่ายร่อนเข้าหาเมื่อเขาขยับถอนออก ก่อนจะส่งเสียงสูดปากซี้ดครางวาบหวิวออกมาเมื่อเขากดกระแทกสวนกลับเข้ามาในร่าง

   ความเสียวแปล๊บพุ่งพล่านไปทั่วจนเธอจิกมือลงไปบนแผ่นหลังของเขาสุดแรง หากทว่าความสุขที่มาแผ่ซ่านมาพร้อมกันนั้นทำให้เธอไม่คิดฝืนต่อต้าน สองขาถ่างอ้าออกเพื่อเปิดรับท้าทายความหฤหรรษ์ให้สอดแทรกเข้ามาได้อย่างเต็ม ที่ ทุกอณูในเลือดเนื้อวัยสาวกำลังต้องการความรักอันร้อนแรงจากเขาจนแทบคลั่ง

   เสียงร่ำร้องครวญครางวาบหวามกระเส่าดังแว่วหวาน ร่างกำยำขยับโยกบั้นเอวหนักหน่วงจนเกิดเป็นลูกคลื่นสัดสาดเปียกเลอะไปทั่วขอบอ่าง หากทว่าร่างบางก็แอ่นร่อนเด้งสู้อย่างไม่ลดละ ต่างฝ่ายต่างร่วมแรงแข็งขันเกี่ยวกระหวัดรัดรั้งกันและกันด้วยต้องการนำพาทั้งตนเองและคู่รักโบยบินสู่สรวงสวรรค์

   ส้มเช้งที่อ่อนเชิงกว่าตัวกระตุกเฮือกและส่งเสียงหวีดร้องออกมาก่อนเป็นรอบที่สอง จากนั้นเขาก็จับเธอพลิกร่างลงไปอยู่ในท่าคลานสี่ขาเหมือนสุนัขตัวเมีย แล้วทำการร่วมรักอีกครั้งโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอหวีดร้องอีกครั้ง หากทว่าคราวนี้เธอนำพาเขาขึ้นสวรรค์ไปด้วยพร้อมกันได้สำเร็จ

   ร่องสาวตอดรัดหนุบหนับรีดเร้นสิ่งที่เธอปราถนาจากชายหนุ่มจนหมดสิ้น ก่อนที่สองร่างจะกอดเกี่ยวกระหวัดพัลวันซึมซาบความสุขสมที่เธอรอคอยมานานแสนนาน แต่ไม่นานนักเขาก็เริ่มขยับจับร่างเธอพลิกหมุนเปลี่ยนท่วงท่า สาวสวยซึ่งอารมณ์ยังเร่าร้อนจึงเริ่มส่งเสียงครวญครางใหม่อีกครั้ง เธอทราบดีว่าเช้านี้เขาคงไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน

..................................

   บ่ายวันนั้น ยานขับเคลื่อนพลังแม่เหล็กไฟฟ้าสีเงินรุ่น MX108 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดพุ่งโฉบลอยเหนือพื้นอยู่ในระบบท่อเดินทางหมายเลข 143 ด้วยความเร็วกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เงาสีเงินของตัวยานพุ่งวาบไปคล้ายกับลำแสงเส้นหนึ่งที่พุ่งแซงยานขับเคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นเก่าไปเรื่อย ๆ ทีละคันโดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย

   ความเร็วนั้นค่อย ๆ ลดลงทีละน้อยเมื่อใกล้จะถึงทางออกสู่ถนนคอนกรีตย่อยหมายเลข 1804 ซึ่งเป็นพื้นที่ของชนชั้นกลางถึงล่างที่ไม่ได้มีเงินตรามากนัก การปรากฎตัวของยานขับเคลื่อนหรูราคาแพงระยับจึงดึงดูดสายตาของผู้ได้พบเห็นเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับสาว ๆ ที่มองเห็นว่าคนขับนั้นเป็นหนุ่มหล่อมากเสน่ห์คนหนึ่ง

   เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาคารที่พักอาศัยของชนชั้นกลางรีบกุลีกุจอมาโบกเข้าซองจอดด้วยมารยาทอันงดงาม เพราะคุ้นเคยกับการมาของเจ้าของที่มักจะให้ทิปบ่อย ๆ แล้ว และครั้งนี้ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม เศษเงินของผู้ให้นั้นเท่ากับค่าแรงหนึ่งวันของผู้รับ ผู้รับจึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยรอยยิ้มมากมารยาทจนไม่อาจมากกว่านี้ได้อีกแล้ว

   เจ้าของยานขับเคลื่อนสุดหรูนี้ย่อมมิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นแม็กลูกชายของมหาเศรษฐีระดับประเทศนั่นเอง เขานั่งรอให้ยานขับเคลื่อน และส่งยิ้มน้อย ๆ ให้สาว ๆ ที่แสดงท่าทีทอดสะพานโดยที่ไม่ได้สนใจมองพวกเธออย่างเช่นที่เคยกระทำมาตลอด เพราะเขารู้สึกว่าเสน่ห์ของพวกเธอนั้นช่างน้อยนิดจนไม่น่ามอง

   ที่มาของเรื่องนี้คงต้องโทษที่เขาได้ใกล้ชิดกับระดับสุดยอดสาวงามในเกมมากเกินไป แม้แต่เมื่อเช้าเขาก็เพิ่งได้ลิ้มรสความหอมหวานของส้มเช้งน้องสาวบุญธรรมของตนเอง มันเหมือนกับการได้กินอาหารรสโอชามาอย่างอิ่มเอม เมื่อมาเจอกับอาหารจืดเย็นชืดจึงไม่ทำให้เกิดความสนใจนัก เขาแทบจะรู้สึกรำคาญเสียด้วยซ้ำ

   สิ่งย่ำแย่ก็คือเขาไม่ได้แค่รู้สึกรำคาญผู้หญิงที่ไม่ชวนมองเช่นเดิม เขายังรู้สึกรำคาญตัวเองไปด้วยพร้อมกัน เมื่อเขาออกมาจากเกม เขารู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนป่วย ประสาทสัมผัสในโลกภายนอกนั้นกลายเป็นปกติธรรมดา เทียบไม่ได้เลยกับประสาทสัมผัสอันยอดเยี่ยมที่อยู่ในเกม เขาแทบจะรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นคนพิการเสียด้วยซ้ำเมื่อใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกนี้

   แม็กเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของคนติดเกมอย่างแท้จริงก็วันนี้เอง โลกใบเดิมที่ใช้ชีวิตมาตลอดกลับไม่เหมือนเดิม ทั้งที่ความจริงแล้วมันยังคงเป็นเหมือนเดิมเฉกเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกของเขาต่างหากที่ไม่ปกติ เขาไม่แปลกใจเลยที่คนเคยเล่นเกมพวกนี้จะกลายเป็นคนติดเกม และใช้เวลากับเกมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งนี่เองคือที่มาของกฎหมายควบคุมจำกัดเวลาเล่น ไม่เช่นนั้นคนคงเอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในเกม ไม่ยอมออกมาข้างนอกกันอย่างแน่นอน

   "ขอบคุณนะอุตส่าห์มารับหมิว"

   เสียงหวานใสที่ดังจากด้านนอกทำให้แม็กตื่นจากภวังค์ เขาหันไปมองดูเรือนร่างงามระหงในชุดนักศึกษาที่ยืนแอ่นอวดอยู่ด้านนอกด้วยสายตาพึงพอใจ อย่างน้อยต้องระดับนี้จึงควรค่าแก่การมองดู

   ที่ด้านนอกนั้นก็คือหมิว ดาวเด่นประจำมหาลัย และแฟนคนปัจจุบันที่เขาคบหาอยู่ ความสวยของเธอคนนี้หากอยู่ในโลกภายนอกแล้วนับว่าโดดเด่นยากหาคนเทียม อย่างน้อยแม็กก็เห็นเพียงส้มเช้งคนเดียวที่สวยกว่าหมิว หากทว่าในเกมนั้นหมิวกลับเพียงสวยในระดับสูงกว่ามาตรฐานเล็กน้อยเท่านั้น

   "ไม่เป็นอะไรหรอก ยังไงผมก็มาส่งน้องส้มเช้งใกล้ ๆ แถวนี้อยู่แล้ว ไปกันเถอะ ... เอ๊ะ แล้วนั่นใคร ... เกตเหรอ?"

   แม็กโบกมือเรียกให้หมิวขึ้นมานั่งบนยานขับเคลื่อน ก่อนจะหันไปสังเกตเห็นนักศึกษาสาวสวยอีกคนที่ยืนอยู่ด้านข้างหมิว หญิงสาวคนนี้ใส่แว่นกรอบสีชมพู ผมสั้นเสมอหู ใบหน้าจัดว่าสวยน่ารัก รูปร่างจัดว่าดีกว่ามาตรฐาน อาจจะไม่สวยน่ารักเท่าหมิว แต่ก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันมากนัก และเธอคนนี้ก็คือเพื่อนสนิทของหมิวที่ชื่อว่าเกต ซึ่งเขาได้เจอกันในเกมและมีอะไรลึกซึ้งด้วยแล้วนั่นเอง

   "ค่ะ เกตพักอยู่ห้องข้าง ๆ หมิวเอง เคยเจอกันแล้วนี่นา วันนี้ให้เกตไปด้วยอีกคนนะคะ"

   หมิวส่งเสียงอ้อนขอ ในขณะที่ตัวเกตเองนั้นกลับหน้าแดงซ่านไม่กล้าสบสายตากับแม็กโดยตรง เธอคงจะยังเขินที่เสียตัวให้กับเขาในเกมไปแล้ว แต่ที่เขายังไม่แน่ใจก็คือ ไม่รู้ว่าเกตได้เล่าเรื่องนี้ให้หมิวฟังหรือเปล่า

   "อืม ไปซิ แต่ว่าหมิวต้องมานั่งบนตักผมนะ เพราะยานคันนี้มันนั่งได้แค่สองคน หรือว่าจะให้เกตมานั่งผมก็ไม่ว่าอะไร"

   แม็กส่งเสียงหยอกเย้าเพื่อหยั่งเชิง และการที่หมิวแสดงท่าทีค้อนใส่ แล้วเปิดประตูขยับมานั่งบนตักของเขาโดยไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเคือง เขาก็คาดเดาออกว่าเกตน่าจะไม่ได้เล่าเรื่องระหว่างเขาและเธอให้หมิวฟัง

   "เกตขึ้นมาได้แล้ว ผมมีสอบเก็บคะแนน เดี๋ยวจะไม่ทัน"

   แม็กส่งเสียงเรียก พลางถอดเข็มขัดนิรภัย แล้วดึงปรับให้ยาวขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะสอดอ้อมไปรัดเรือนร่างอวบอิ่มที่นั่งอยู่บนตักของเขาไปพร้อมกันด้วยอีกคน หมิวส่งเสียงครางแผ่วเบาแล้วหยิกมือของเขา เพราะเขาฉวยโอกาสลวนลามจับทรวงอกอวบอิ่มของเธอเข้าไปด้วยอย่างเต็มไม้เต็มมือ

   "เดี๋ยวเถอะ"

   หมิวส่งเสียงค้อนหวานแหววพลางขยับสะโพกบดเบียดกระโปรงนักศึกษาเข้ากับเป้ากางเกงที่เริ่มแข็งตัวขึ้นมาทีละน้อยของเขา เธอเองแม้จะยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็เป็นสาวสมัยใหม่ที่ไม่ถือสาเรื่องพวกนี้มากนัก อีกทั้งเธอเองก็ยังยินยอมเสียความสาวให้กับเขาคนนี้อยู่แล้วด้วย เรียกได้ว่าขอเพียงเขาเอ่ยปาก เธอก็จะยอมปล่อยให้เขาลากขึ้นเตียงได้ทันทีด้วยซ้ำ

   แม็กย่อมอ่านความคิดนี้ออก และหากเป็นช่วงเวลาปกติเขาก็คงไม่พาหมิวไปเรียนแล้ว แต่เมื่อเช้าเขาเพิ่งจะได้ปลดปล่อยเรี่ยวแรงทั้งหมดไปกับส้มเช้งน้องสาวคนสวย ร่างกายของเขาจึงยังไม่พร้อมที่จะกระทำต่ออีกรอบ และการไม่กระทำนี้กลับทำให้หมิวต้องยิ้มกริ่มตีความหมายผิดไป

   เธอย่อมทราบว่าแม็กนั้นเป็นหนุ่มมากรัก เขาผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย เรียกได้ว่าคบหากันไม่เท่าไหร่ก็จะโดนจับขึ้นเตียงทันที แต่ขณะที่เธอคบกับเขานั้น เธอกลับพบว่าเขาไม่ได้กระทำเช่นนั้นกับเธอ และนั่นทำให้เธอเผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าเขามองเธอเป็นพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่น

   สาวแว่นเพิ่งนั่งลงและปิดประตูก็เริ่มรู้สึกเหมือนเธอเป็นส่วนเกิน ความหึงหวงเล็ก ๆ บังเกิดขึ้นในใจ แต่ก็มิได้แสดงอันใดออกมา เพราะเธอรู้ดีว่าเธอมาทีหลัง และอีกฝ่ายก็เป็นเพื่อนสนิท ดีไม่ดีพ่อหนุ่มสุดฮอตประจำมหาลัยอาจจะไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำที่ได้กลายเป็นผู้ชายคนแรกของเธอในเกม

   อย่างไรก็ตามความหดหู่เล็ก ๆ นั้นก็พลันหายไป เมื่อเขาเอื้อมมือมาจับมือของเธอแล้วบีบกระชับไว้ เธอรีบหันหน้าไปมองด้วยความตื่นตกใจเกรงว่าหมิวจะเห็น จากนั้นจึงค่อยโล่งใจผสมกับอิจฉา เพราะว่าหมิวนั้นกำลังเอียงหน้าไปอีกทางหนึ่งและหลับตาพริ้มจูบปากอยู่กับเขาอย่างดูดดื่ม หมิวจึงไม่มีทางมองเห็นว่าเธอกำลังจับมือกับแม็กอย่างเด็ดขาด

   "เปิดระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เดินทางไปมหาลัย"

   หลังจากจูบกันครู่ใหญ่ แม็กก็ละปากออกมาสั่งการระบบปัญญาประดิษฐ์ของยานขับเคลื่อน จากนั้นยานขับเคลื่อนก็เริ่มส่งเสียงทุ้มต่ำออกมา และค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกจากอาคารที่พักลงไปบนถนนคอนกรีต และเข้าไปสู่ท่อเดินทางด้วยความเร็วสูงด้วยตัวมันเอง

   หมิวตัวอ่อนระทวยหอบกระเส่าเอนหลังพิงกับร่างเขา ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยรสรักหวานฉ่ำ ส่วนเกตที่อยู่ด้านข้างนั้นก็หน้าแดงซ่านเล็กน้อยเพราะโดนกุมมือเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงเมื่อครู่นี้ เธอเพิ่งได้รับรู้ด้วยตนเองไปหยก ๆ ว่าคนที่เป็นชู้นั้นรู้สึกเช่นไร

   ความจริงแล้วยุคสมัยเช่นทุกวันนี้ไม่ได้ยึดถือการมีคู่ครองเพียงคนเดียวมากนัก สังคมยุคใหม่เปิดกว้างเสรี ผู้ชายบางคนมีภรรยามากกว่าหนึ่ง ผู้หญิงบางคนก็มีสามีมากกว่าหนึ่ง หรือไม่ต่างฝ่ายก็มีมากกว่าหนึ่งพร้อมกัน กลายเป็นกลุ่มที่ครองคู่ใช้ชีวิตร่วมกัน แม้แต่กฎหมายก็ยังเปิดกว้างให้กระทำได้

   แม้แต่พ่อแม่ของเกตก็ไม่ได้ครองคู่กันสองคน พ่อกับแม่ของหมิวก็เช่นกัน ดังนั้นทั้งเกตและหมิวย่อมไม่คิดว่าคนหล่อรวยมากเสน่ห์อย่างแม็กนั้นจะหยุดอยู่ที่ใครเพียงคนเดียว พวกเธอเพียงขอเป็นหนึ่งในนั้นก็พอใจมากแล้ว

   "แม็กเก่งจัง เพิ่งเข้าไปเล่นเกม ก็จัดการนายสตรองบ้ากล้ามจอมตื๊อได้แล้ว เกตเล่าให้หมิวฟังแล้วล่ะ แต่โหดไปหน่อยนะ ยิงธนูโดนตรงนั้นน่ะ คิก คิก"

   ขณะที่รถยังคงวิ่งไป หมิวก็เป็นฝ่ายเปิดปากสนทนาก่อน นำ้เสียงของเธอแฝงความชื่นชม และสะใจอยู่บ้าง เพราะสตรองนั้นคอยระรานตามจีบเธอและเกตมาตลอด ขนาดออกปากไล่แล้วก็ยังไม่ยอมไป เมื่อแฟนหนุ่มของเธอช่วยจัดการให้ เธอจึงรู้สึกยินดียิ่ง

   "ไม่มีอะไรมากหรอก แค่โชคดีน่ะ ว่าแต่เกตุเล่าเรื่องอะไรให้ฟังบ้าง เล่ามาอีกรอบซิ"

   แม็กยิ้มน้อย ๆ แล้วหันไปส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้เกตจนเธอต้องหลบตา ความหมายที่เขาสื่อออกนั้นก็คือต้องการสัพยอกเกตเรื่องที่โดนเขาจัดการเปิดซิงในโรงพยาบาล ซึ่งเขาเชื่อว่าเกตไม่ได้เล่าออกไป

   หมิวค่อย ๆ เล่าย้อนเรื่องราวที่เกตเล่าให้ฟังออกมาอย่างช้า ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเกตย่อมไม่ได้เล่าเรื่องที่เธอโดนสตรองล้วงจนเกือบยินยอมเสียตัว รวมไปถึงไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลด้วย ส่วนหมิวนั้นดูจะพูดเน้นเรื่องที่แม็กพยายามช่วยเหลือเธอด้วยการไปสมัครสอบเป็นทหารหลวงด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้มยินดี

   "... เมื่อคืนเกตได้ข่าวอื่นมาอีกนะ ไม่รู้ว่ารู้กันหรือยัง"

   "ข่าวอะไรจ๊ะเกต"
   
   "ก็มีทหารในสังกัดของเจ้าชายคู่แค้นของเธอมาสืบหาข่าวของเทพธนูน่ะซิ แถมยังปล่อยข่าวว่าเทพธนูแอบขโมยเงินของเจ้าชายไปเพียบด้วยนะ ไม่รู้นายเทพธนูคนนี้ไปขัดขาอะไรเจ้าชายบ้าอำนาจเข้า"

   เกตพูดพลางหันมาถามหาคำตอบกับแม็กด้วยสายตา ส่วนหมิวก็แสดงสีหน้าแปลกใจแล้วเอี้ยวตัวหันมามองดูแม็กซึ่งเธอนั่งตักอยู่ด้วยเช่นกัน เกตนั้นเป็นนักข่าวจึงพอจะได้รับข่าวสารเร็วอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่ละเอียดพอที่จะรู้เรื่องราวเบื้องหลังในร้านค้าทาส

   แม็กขมวดคิ้วเล็กน้อยกับข่าวนี้ เขาย่อมไม่ได้ขโมยเงินทองอะไรจากเจ้าชาย แต่เขาคิดว่านั่นเป็นวิธีการตอบโต้ที่ค่อนข้างขี้ขลาดไม่สมกับศักดิ์ฐานะเจ้าชาย ซึ่งความจริงก็ไม่เหมาะตั้งแต่ใช้วิธีการเดียวกันนี้เล่นงานหมิวตั้งแต่แรกแล้ว

   "อืม เป็นเจ้าชายที่งี่เง่าดีนะ ก่อนนี้ก็โดนสาวสวยขโมยของ ตอนนี้ก็โดนผู้เล่นเลเวลหนึ่งขโมยเงินได้อีก หึ หึ"

   ชายหนุ่มส่งเสียงหัวเราะร่วน สองสาวซึ่งไม่เชื่อข่าวนี้อยู่แล้วจึงเชื่อปักใจว่าข่าวนี้สมควรจะไม่จริง

   "เอ๋ แม็กยังเลเวลหนึ่งอยู่เหรอ? แล้วเอาชนะสตรองได้ยังไงเนี่ย"

   หมิวส่งเสียงอุทานด้วยความแตกตื่น ซึ่งความจริงทีแรกเธอก็แทบไม่อยากเชื่ออยู่แล้ว ว่าแม็กที่เพิ่งเข้าไปเล่นเกมจะสามารถเอาชนะสตรองได้ ยิ่งได้รับฟังว่าเขายังคงแค่เลเวลหนึ่งเธอก็ยิ่งตื่นตกใจแทบไม่อยากเชื่อเข้าไปอีก

   "อืม ก็ยังไม่ได้ไปตีมอนเสตอร์อะไรเลย ส่วนใหญ่จะเน้นฝึกทักษะอย่างเดียว"

   "อ๋อ แบบนี้นี่เอง หลายคนก็ทำแบบนี้นะ ค่าทักษะจะขึ้นง่ายกว่าถ้าเลเวลยังน้อย หลายคนก็ใช้วิธีนี้ แต่ข้อเสียคือจะเก่งช้าหน่อย จะเห็นผลอีกทีก็ต้องรอระยะยาว แล้วแม็กเล่นอาชีพอะไรล่ะ?"

   "อืม ... นักล่าน่ะ เคยฝึกใช้ธนูมาบ้าง ก็เลยต่อยอดไปอีกหน่อย"

   แม็กตอบแบบเลี่ยง ๆ เพราะหากตอบว่าเป็นนักบวช สองสาวก็คงจะถามต่ออีกยืดยาว สู้ตอบไปว่าเป็นนักล่าที่ใช้ธนูแบบทีเดียวจบไปเลยดีกว่า จะได้เข้ากับวีรกรรมที่เขาส่องสตรองจนหน้าเขียวไปด้วยในตัว

   "อืม ก็ดีนะ ธนูเหรอ เอาไว้จัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เราค่อยไปปาร์ตี้กันน่าจะสนุก แต่ต้องหาตัวชนสักหน่อย หมิวเล่นนักเวทย์ไฟ เกตเล่นนักข่าวถนัดใช้มีดสั้น ส่วนแม็กเล่นนักล่าใช้ธนูยิงระยะไกล"

   หมิวพูดเสนอ จากนั้นทั้งสามคนก็วกมาพูดคุยกันเรื่องเกมอย่างออกรส สองสาวมีประสบการณ์เล่นมาพอสมควรแล้ว จึงมีประสบการณ์แปลกใหม่แบ่งปันให้ แม็กที่เพิ่งเริ่มเล่นเกมนั้นกลายเป็นผู้ฟังที่ดี และนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าการพูดคุยกันเรื่องเกมนั้นช่างสนุกสนานน่าสนใจอย่างที่สุด

...............................

   หลังจากแวะไปส่งสองสาวสวยแล้ว แม็กก็กลับไปสอบเก็บคะแนน ซึ่งมันก็ไม่ได้ยากอะไรนักสำหรับเขา เขาเร่งรีบทำข้อสอบแล้วออกก่อนเวลาด้วยซ้ำ เพราะอยากจะออกไปค้นหาอ่านข้อมูลของเกม XO จากในเวปบอร์ดทั้งหลาย โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าจะช่วยเขาในเรื่องข้อขัดแย้งกับเจ้าชายวิลเลี่ยม

   หากจะบอกว่าเขาไม่รู้สึกเดือดร้อนเลยก็คงไม่ใช่ เพราะอีกฝ่ายนั้นมีอำนาจทหารในมือ หากเขาเคลื่อนไหวผิดพลาด ก็เป็นไปได้ที่อีกฝ่ายจะเล่นงานเขาจนต้องหนีออกจากเกมเช่นเดียวกับหมิว และเรื่องนั้นเขาไม่มีทางยอมเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้แผนการสร้างฮาเร็มของเขาพังทลายลง

   แม็กนั้นเป็นลูกนักธุรกิจหนุ่มที่หัวไวอยู่แล้ว เขาไม่ได้มองโลกขาวสะอาด และไม่ได้มองโลกเป็นสีดำมืด เขาพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากด้านมืดและด้านสว่างหากจำเป็น ดังนั้นเมื่อได้ลองค้นหาข้อมูลเปิดทัศน์ตัวเองแล้ว หัวสมองก็กลั่นกรองสร้างแผนการณ์หลายอย่างขึ้นมารับมือแผนร้ายของเจ้าชายวิลเลี่ยม

   เมื่อได้แผนการณ์รองรับเพียงพอจนมั่นใจแล้ว แม็กก็เลิกอ่านบอร์ดเกม เดินออกจากอาคารเรียนตั้งใจจะไปรับหมิวกลับห้อง จากนั้นจะไปรับส้มเช้งไปกินอาหารเย็น แล้วค่อยกลับบ้านไปเล่นเกม แต่เดินออกไปตามระเบียงทางเดินได้ไม่ทันไร เขาก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะว่าที่ด้านหน้ามีชายหนุ่มท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรนักยืนอยู่สามคน

   ทั้งสามคนนั้นดูแข็งแรงคล้ายพวกบ้ากล้าม โดยเฉพาะผู้ชายหัวเกรียนที่ยืนเต๊ะท่าอยู่ตรงกลาง และท่าทางนั้นก็ทำให้แม็กรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาไม่น้อย รูปร่างแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ ถึงหน้าตาจะห่วยแตกกว่าในเกมไม่น้อย แต่ก็พอจะดูว่านี่น่าจะเป็นไอ้บ้ากล้ามสตรองที่เขาเคยเล่นงานจนกล่องดวงใจพังในเกม

   'หรือว่าพวกนี้จะมาแก้แค้น? ในมหาลัยเนี่ยนะ?'

   แม็กครุ่นคิดในใจด้วยความฉงน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักรัก แต่เขาก็ไม่ได้เจ้าสำอางค์จนไม่สู้คน เขาเคยชกต่อยกับนักเลงที่มาหาเรื่องบ้างแล้วด้วยซ้ำ และหากว่าอีกฝ่ายคิดจะหาเรื่อง การวิ่งหนีก็คงไม่การเรื่องที่ฉลาดนัก เพราะเขาจะโดนตามราวีแบบไม่มีที่สิ้นสุด

   ประการสำคัญคือ จะอย่างไรที่นี่ก็เป็นมหาวิทยาลัยซึ่งมีบอทรักษาความปลอดภัยอยู่เต็มไปหมด หากพวกนี้ลงมือใช้กำลัง ต่อให้เขาสู้ไม่ได้ ภายในไม่กี่วินาทีบอทรักษาความปลอดภัยก็จะโผล่มาลากคอคนพวกนี้ไปเข้าคุกโทษฐานคุกคามทำร้ายร่างกายและโดนควบคุมความประพฤติเอง ดังนั้นเขาจึงไม่คิดหนี

   การเผชิญหน้าแบบหนึ่งต่อสามเริ่มถูกนักศึกษาแถวนั้นพบเห็น บรรยากาศที่ไม่ค่อยปลอดภัยนักทำให้ผู้ชมขยับออกห่าง และคอยจับจ้องมองดูเรื่องสนุกสนานที่กำลังจะเกิดขึ้น ตอนนี้ทุกคนต่างคิดตรงกันว่า อีกสักครู่คงจะมีมวยหมู่ให้ได้รับชมกันอย่างแน่นอน

   แม็กหมุนคอไปมาเล็กน้อยพร้อมกับบิดนิ้วเหยียดมือเตรียมรับเหตุ ส่วนอีกฝ่ายนั้นก็จับจ้องมองมาด้วยสายตาหาเรื่องก่อนจะเริ่มก้าวเดินเข้ามาหาอย่างช้า ๆ แม็กเองก็ไม่ยอมยืนนิ่ง เขาก้าวเท้าเดินเข้าหาเหมือนกัน จากการสำรวจด้วยสายตาแล้ว เขามั่นใจว่าเขาน่าจะคล่องตัวกว่า อย่างน้อยก็น่าจะพอเอาตัวรอดจนกว่าพวกบอทรักษาความปลอดภัยจะปรากฎตัวได้

   ระยะห่างจากทั้งสองฝ่ายหดร่นลงอย่างรวดเร็ว จากยี่สิบเก้า เหลือสิบเก้า และเกือบเข้าถึงระยะหมัดและเท้า แม็กตัดสินใจถีบเท้านำไปก่อนเพราะมีช่วงขาที่ยาวกว่า เป้าหมายคือกลางลำตัวของสตรองที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว

   ทันใดนั้นสตรองและพรรคพวกกลับปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวจนแม็กงุนงง เขาถีบเท้าออกไปแล้วจึงไม่สามารถยั้งได้ ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นไม่สนใจอะไร แค่ทิ้งตัวลงไปนั่งคุกเข่าแล้วปล่อยให้ร่างไถลพื้นมาด้านหน้าพร้อมกับส่งเสียงดังออกมาอย่างพร้อมเพรียง

   "ลูกพี่แม็ก รับผมเป็นลูกน้องด้วยนะคร้าบบบ แอ๊กกกกก"

   คำพูดนั้นยังไม่ทันจบใบหน้าของสตรองก็พุ่งมาหาฝ่าเท้าเข้าอย่างจังเสียก่อน เสียงร้องแอ๊กจึงดังขึ้นปิดท้ายพร้อมกับร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของสตรองที่ล้มพับไปด้านหลังแล้วสลบเหมือดไปทันที

   ชายอีกสองคนที่มาพร้อมกันนั้นอยู่ในสภาพคุกเข่า แล้วหันไปมองดูสตรองด้วยความงุนงง บรรดาผู้ชมที่อยู่รายรอบก็พากันแสดงความงุนงงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ โดยเฉพาะแม็กที่ยังคงยืนยกเท้าอ้าปากค้างมองดูสตรองที่สลบเหมือด สลับกับหันไปมองบอทรักษาความปลอดภัยที่เพิ่งมาถึงด้วยความแตกตื่น ตอนนี้เขากำลังครุ่นคิดด้วยความหนักใจว่า

   'เวรแล้ว จะโดนจับข้อหาทำร้ายร่างกาย กับชวนทะเลาะวิวาทมั้ยเนี่ย เราลงมือก่อนด้วยซิ'

..................................
   
   "สมแล้วที่เป็นลูกพี่ เจอหน้ากันก็เตะผมซะน๊อคก่อนเลย นับถือ นับถือ เฮ้ย ไอ้บีหนึ่ง บีสอง พวกแกก็แสดงความเคารพลูกพี่ด้วยซิวะ ช่วยกันชาบูลูกพี่หน่อย"

   สตรองส่งเสียงสรรเสริญเยินยอด้วยเสียงอันดังอยู่ในห้องพยาบาล ที่จมูกของเขามีผ้าซับเลือดสีขาวแปะเอาไว้ เพราะโดนฝ่าเท้าใส่จนเลือดออกไหลซิบ แถมด้วยหัวกระแทกพื้นอย่างแรง แต่ก็ยังดีที่หัวสมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือนมากนักตามคำบอกเล่าของพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย กระนั้นแม็กก็ยังไม่แน่ใจนักว่าสมองของอีกฝ่ายจะทำงานเป็นปกติเหมือนคนทั่วไปสักเท่าไหร่

   "เดี๋ยว ๆ ใครเป็นลูกพี่ ใครเป็นลูกน้อง แล้วไอ้ชื่อบีหนึ่ง บีสอง นี่มันอะไร"


   "หือ ลูกพี่ก็คือลูกพี่ไงครับ ส่วนพวกผมก็เป็นลูกน้องไง ไอ้นี่ชื่อบีหนึ่ง ไอ้นี่ชื่อบีสอง พวกมันเป็นฝาแฝดกัน"

   สตรองเอียงคอเล็กน้อยแล้วหันไปแนะนำตัวลูกสมุนอีกต่อหนึ่ง แม็กจึงยกมือขึ้นเกาหัวแกรก ๆ ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปสมัครเป็นลูกพี่ของไอ้บ้ากล้ามคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

   "สงบสติอารมณ์หน่อย พวกเราเป็นลูกพี่ ลูกน้อง กันตั้งแต่เมื่อไหร่"

   "ลูกพี่ก็เป็นลูกพี่ของผมตั้งแต่ลูกพี่ชนะผมแล้วครับ แถมตอนลูกพี่จับยัยเกตกดในโรงพยาบาลนี่สุด ๆ ไปเลย ยิ่งได้เห็นลูกพี่ประมูลแย่งสาว ๆ จนไอ้เจ้าชายนั่นหน้าเสีย ผมก็เลยยิ่งประทับลูกพี่เข้าไปอีก รับผมเป็นลูกน้องไปสั่งสอนด้วยนะครับลูกพี่ ลูกพี่นี่เป็นลูกผู้ชายตัวจริงขาหื่นเรียกพ่อ เป็นสุดยอดไอดอลของผมเลย"

   แม็กรับฟังไปอ้าปากค้างไป จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก จะร้องไห้ก็ไม่ได้ สตรองกลับมายกเขาให้เป็นลูกพี่เพียงเพราะเหตุผลแค่นี้ หากไม่งงก็คงแปลกแล้ว

   "ไม่สนว่ะ แกไปหาลูกพี่ที่อื่นเอาเอง ถ้าจะรับลูกน้องก็คงจะรับแต่เฉพาะสาว ๆ"

   "อื้อหือ แบบนี้แหละหื่นเรียกพ่อ รับเฉพาะสาว ๆ เป็นลูกน้อง ยังไงก็ถือว่าสงเคราะห์รับพวกเราไปเป็นลูกน้องด้วยนะครับ พวกเราจะได้เรียนรู้เทคนิคความหื่นจากลูกพี่ไปหาแฟนบ้าง"

   แม็กปฎิเสธแล้ว แต่ว่าสตรองไม่ยอมแพ้ แถมยังยกอ้างเหตุผลแบบไร้เหตุผล แม็กจึงยิ่งมึนตึ้บกว่าเดิม กระนั้นเขาก็ยังไม่เคยมีความคิดที่จะรับสมัครลูกน้อง โดยเฉพาะพวกบ้ากล้ามสมองกลวงพวกนี้

   "ไม่มีทาง แกหายดีแล้วใช่มั้ย งั้นก็บ๊ายบายลาก่อน อย่าได้เจอกันอีกเลย"

   แม็กรีบส่งเสียงปฏิเสธพลางขยับเดินหนีเพื่อหลีกปัญหา แต่ว่าสตรองกลับไม่ยอมแพ้ รีบวิ่งมาขวางประตูทางออกเอาไว้

   "ลูกพี่อย่าบังคับให้พวกเราต้องใช้ไม้แข็งนะ ถ้าลูกพี่ไม่ยอมรับพวกเราเป็นลูกน้อง พวกเราคงต้องฝืนใจบังคับลูกพี่แล้ว"

   "ไม่สนเฟ้ย คิดว่าเรื่องแบบนี้จะบังคับกันได้เรอะ หลีกไป"

   ถึงแม้อีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าจริงจัง อีกทั้งยังมีกันอยู่ถึงสามคน แต่แม็กกลับไม่สนคำขู่ อย่างน้อยตอนนี้บอทรักษาความปลอดภัยที่มีลักษณะเหมือนลูกบอลลูกหนึ่งก็ลอยสังเกตการณ์อยู่ในห้องพยาบาลด้วย หากมีอะไรร้ายแรงมันก็จะยิงปืนไฟฟ้าจัดการคนพวกนี้ให้เขาอย่างแน่นอน

   "งั้นก็ช่วยไม่ได้ ... เฮ้ย พวกเรา ใช้ท่าไม้ตาย"

   "..."

   สตรองหันไปให้สัญญาณกับพวกลูกจ๊อกตามที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว แม็กจึงยกมือขึ้นการ์ดเตรียมรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หากทว่าเมื่อทั้งสามคนลงมือ แม็กก็ได้แต่อ้าปากเหวอด้วยความแตกตื่นรับมือไม่ถูกอีกครั้ง

   "โฮฮฮฮฮฮ แงงงงงงงง ลูกพี่คร้าบบบบ รับพวกผมเป็นลูกน้องด้วยนะคร้าบบบบบบ แงงงงงงง นะคร้าบลูกพี่ ไม่งั้นพวกผมจะเกาะขาร้องไห้แบบนี้ไม่ยอมหยุดเลย แงงงงงงงง"

   เจอท่าไม้ตายเหนือความคาดหมายเช่นนี้เข้าไป เจ้าบอทรักษาความปลอดภัยที่สังเกตการณ์อยู่ย่อมไม่ขยับเคลื่อนไหว แม็กเองก็ตัวแข็งทื่อขยับไม่ออก เพราะเจ้าสามตัวป่วนนี้มานั่งเกาะขาเขาแน่นแล้วส่งเสียงไห้โฮฟูมฟายราวกับเด็กน้อยอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่

   ยิ่งเวลาผ่านก็ยิ่งกระอักกระอ่วน เพราะนางพยาบาลที่อยู่ในห้องกำลังมองมาแล้วส่งเสียงหัวเราะคิกคัก นักศึกษาสองสามคนที่นอนพักบนเตียงก็แหวกผ้ากั้นออกมาดูด้วยรอยยิ้มขบขัน นี่ยังไม่นับรวมพวกข้างนอกที่เปิดแง้มประตูมองเข้ามาด้วยความสงสัย เพราะเสียงร้องไห้นั้นดังไปถึงด้านนอก

   แม็กรู้สึกว่าตัวเองรับสถานการณ์แบบนี้ไว้ไม่ไหว จะให้อัดคนพวกนี้ด้วยกำลังก็ดูจะโหดร้ายเกินไป แต่จะปล่อยให้ไอ้บ้าพวกนี้เกาะขาตัวเองทั้งวัน เขาก็เกรงว่าจะโดนข่าวลือเรื่องเขาเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เข้าให้เสียอีก สุดท้ายเขาก็ได้แต่ปลงตก แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

   "โอเค โอเค เป็นลูกพี่ก็ได้ รีบปล่อยมือ แล้วก็เลิกร้องไห้กันได้แล้ว"

   "ห๊า ลูกพี่ยอมรับพวกผมเป็นลูกน้องแล้วใช่มั้ยครับ เอ้าพวกเราเฮเร็วเข้า"

   "เฮ้ย ๆ อย่าส่งเสียงดังกวนคนอื่น แล้วก็นี่เป็นคำสั่งแรก พวกแกทั้งสามคนรีบไสหัวไปให้ไกล ๆ เลยไป"

   "รับทราบครับลูกพี่ พวกผมจะรีบไสหัวไปอย่างไว ... แล้วพวกผมจะไปรอเจอในเกมนะครับลูกพี่ ไปล่ะคร้าบบบ"

   เมื่อได้สมใจแล้ว สตรองและแฝดบีหนึ่งบีสองยกมือขึ้นทำความเคารพเหมือนทหาร จากนั้นก็พากันวิ่งแจ้นออกจากห้องพยาบาลไป ทิ้งให้แม็กยืนรับมือกับรอยยิ้มขบขันของผู้ชมที่อยู่รอบด้านเพียงลำพัง

   แม็กก้มศีรษะขอโทษไปรอบด้านรอบหนึ่ง แล้วค่อย ๆ ออกจากมหาลัยพาหมิวไปส่งบ้าน ตามด้วยไปรับส้มเช้ง  และกลับบ้านเพื่อเตรียมไปเข้าเกมอีกครั้ง โดยที่เขาไม่ได้รับรู้เลยสักนิด ว่าได้ปรากฎข่าวลือหนึ่งขึ้นมาว่า เขามีลูกน้องเป็นนักเลงมาเฟียสังกัดองค์กรลับอยู่หลายร้อยคน

..................................
ชื่อ: Re: XO ตอนที่ 23 - ลูกพี่
โดย: alexxx เมื่อ สิงหาคม 04, 2016, 12:20:38 ก่อนเที่ยง
สนุกมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ
ชื่อ: Re: XO ตอนที่ 23 - ลูกพี่
โดย: preecha luangthong เมื่อ พฤศจิกายน 22, 2018, 11:48:30 ก่อนเที่ยง
สนุกมากครับผมอ่านมา2วันติดๆแล้วขเป็นผู้ติดตามผลงานของคุณ