สายตาของผู้ชาย 2 วัยที่ยืนคู่กันมองไปที่ เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่จอดเทียบท่าอีกครั้ง ก่อนที่ชายผมสีเงินจะหันไปบอกกับชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าว่า
"วิมไม่เปลี่ยนใจนะ อยู่เกาหลีใต้ก่อนสักคืน"
"ไม่ละครับกัปตัน ผมอยากเจอพ่อกับแม่แล้วครับไม่ได้เจอหน้ากันมา4-5 ปีแล้ว"
ผู้สูงวัยหันมาทางต้นเรือหนุ่มฝีมือดีอนาคตไกลก่อนจะเอามือตบบ่า แล้วยิ้มให้
"เอาละ งั้นแยกกันตรงนี้ ผมจะได้ไปหาซื้อของฝากภรรยาผมด้วย เดินทางให้สนุก อีก 2เดือนเจอกันที่โอมาน โชคดีวิม พักผ่อนให้เต็มที่ฝากความระลึกถึงครอบครัวคุณด้วย"
"เช่นกันครับกัปตันฝากความคิดถึงไปให้ภรรยากับลูกๆของกัปตันด้วย"
ทั้งคู่ต่างจับมือกันอำลากันก่อนจะแยกย้าย วิมเอาเป้มาสะพายและลากกระเป๋าเดินทางใบย่อมๆอีกใบหนึ่งขึ้นแท็กซี่ไปที่สนามบิน ระหว่างนั่งรถไปสนามบินอดีตทหารเรือหนุ่มนั่งคิดถึงครอบครัวที่ตัวเองไม่เจอหน้ามาเกือบ 5 ปีแล้ว วิมนั้นเคยเป็นทหารเรือยศเรือเอกมาก่อนที่จะลาออกมาทำงานกับบริษัทเดินเรือทะเลต่างชาติ หลังจากที่ได้ไปเรียนด้านเครื่องกลที่เยอรมันจนจบและได้คะแนนที่สูง ทำให้บริษัทเดินเรือเข้ามาเสนองานพร้อมเงินเดือนที่สูงลิ่วเมื่อคิดเป็นเงินไทย วิมตัดสินใจรับทันทีที่กลับมาถึงเมืองไทย เพราะสาเหตุหลายๆอย่าง ที่สำคัญคือฐานะทางบ้าน ถึงพ่อของวิมจะเป็นนายทหารเรือยศนาวาตรีแต่ก็มาจากโรงเรียนจ่าทำงานนั่งโต๊ะ แม่ทำงานเป็นเสมียนธุรการในโรงงาน น้องสาวในตอนนั้นก็กำลังเรียนจวนจะจบปริญญาตรีแต่แล้วปัญหาของเงินที่ใช้เดือนชนเดือนขนาดอยู่บ้านพักของทหาร วิมเลยตัดสินใจลาออกจากราชการโดยที่ทางบริษัทที่วิมเข้าทำงานเป็นคนออกเงินชดใช้ให้กับทางราชการแทน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของเพื่อนและรุ่นพี่ แต่วิมตัดสินใจแล้วช่วงแรกวิมได้ไปทำงานกับเรือเดินสมุทรที่พานักท่องเที่ยวท่องท้องสมุทรแถบอเมริกาใต้ แล้วถึงย้ายมาทำกับเรือขนสินค้าระหว่างประเทศจนได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นต้นเรือเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แต่ช่วงที่ผ่านมาวิมไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทยเลย มุทำงานอย่างเดียว เพราะพ่อจวนจะเกษียณแล้วและน้องสาวที่ได้เข้าทำงานเป็นทหารเรือเช่นกันก็กำลังศึกษาปริญญาโทอยู่จนวิมส่งเงินให้มาซื้อบ้านหลังใหม่มาอยู่แทนบ้านพักของข้าราชการและซื้อรถให้พ่อกับน้องใช้เพราะวิมแทบไม่ใช้จ่ายอะไรเลยมีเงินสะสมจำนวนมากที่ได้มาจากเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงทำให้วิมมีฐานะขึ้นมา แต่พอรู้ว่าเรือที่ตัวเองประจำการอยู่จะจอดซ่อมเป็นเวลา 1เดือนที่เกาหลีใต้ วิมเลยตัดสินใจลาหยุดงานและใช้พักร้อนที่มีเพื่อกลับมาเยี่ยมครอบครัว พอถึงสนามบินหลังจากเช็คอินแล้ววิมตัดสินใจไม่ฝากกระเป๋าเพราะไม่อยากเสียเวลารอและอีกอย่างวิมเลือกที่จะบินชั้น first class เพราะอยากซื้อความสะดวกให้กับตัวเอง ระหว่างรอขึ้นเครื่องวิมเข้าไปนั่งในเลานจ์ที่สายการบินให้บริการโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนได้เวลาขึ้นเครื่อง วินได้เดินไปขึ้นเครื่องตามช่องทางที่จัดไว้ให้ผู้โดยสารชั้น 1 โดยเฉพาะซึ่งวิมไม่ได้มองอะไรรอบข้างเพราะใจมัวแต่จดจ่อกับการที่จะได้เจอหน้าพ่อแม่และน้องสาว แต่มีสายตาอยู่คู่หนึ่งที่กำลังต่อคิวแถวผู้โดยสารชั้นประหยัดบังเอิญเหลือบมองไปเห็นด้านหลังพร้อมนึกว่า
"นั่นใช่วิมหรือเปล่า"
แต่ก็มีเสียงจากเพื่อนร่วมทริปที่เดินตามหลังบอกว่า
"เฮ้ยอ้อยเดินได้แล้วข้างหน้าไปถึงไหนแล้ว"
ทำให้เธอรู้ตัวก่อนจะเดินตามคนข้างหน้าไป ในส่วนของวิมนั้นหลังจากถึงที่นั่งและจัดเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แม้แต่เครื่องดื่มที่แอร์โฮสเตสมาเสริฟให้ จนเครื่องบินได้บินขึ้นและสัญญาณปลอดภัยดังขึ้น อ้อยได้เดินไปหาแอร์โฮสเตสคนนึงแล้วได้แจ้งอะไรบางอย่างซึ่งแอร์คนนั้นก็ทำตามคำขอ ผ่านไปครู่หนึ่งแอร์ฯคนนั้นได้เดินมากระซิบอะไรบางอย่างให้กับอ้อยและหันไปยิ้มกับเพื่อนที่ร่วมทริปมาอย่างคุ้นเคย ที่จริงแล้วอ้อยเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินนี้ได้ใช้วันหยุดมาเที่ยวกับเพื่อนร่วมงานที่เกาหลี เลยแอบใช้อภิสิทธิ์ในการให้เพื่อนเธอที่มาทำหน้าที่ลูกเรือในเที่ยวบินนี้ช่วยตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารและก็ได้คำตอบตามที่ต้องการ แต่เธอก็ปฏิบัติตามระเบียบที่จะไม่เดินไปที่ชั้น first class พร้อมกับนึกว่า
"นั่งชั้น first class เลยหรือวิม"
ฝ่ายวิมนั้น ใช้เวลานอนอย่างเต็มที่จนเครื่องถึงเมืองไทย วิมรีบก้าวออกจากเครื่องและเมื่อไม่ต้องรอกระเป๋าทำให้สู่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว พอพ้นไปด้านนอก วิมยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเร็วขึ้นเมื่อเห็นคน3 คนที่มายืนรับ วิมตรงเข้าไปกราบที่บ่าแล้วกอดผู้เป็นแม่อย่างแน่นพร้อมหอมแก้มทั้ง 2 ข้างฝ่ายผู้เป็นแม่ไม่พูดอะไรเพราะตื้นตันด้วยความยินดีที่เห็นลูกชายคนโตนอกจากน้ำตาคลอ แล้ววินเข้าไปกราบบ่าผู้เป็นพ่อและหันไปกอดน้องสาวที่โผเข้ามาทันทีก่อนที่ผู้เป็นแม่จะเอ่ยว่า
"วิมซูบไปหรือเปล่าลูก"
"วุ้นว่าพี่เค้าอ้วนขึ้นมากกว่าแม่"
แต่ผู้เป็นพ่อได้เอ่ยขึ้นมาว่า
"เอาละ ๆ กลับบ้านกันก่อนดีกว่า แม่เตรียมของกินไว้หลายอย่าง ไปดูบ้านเหอะวิม บ้านที่ซื้อมาด้วยเงินของวิม"
วิมไม่ตอบอะไรได้แต่ยิ้มก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะพาเดินไปที่ลานจอดรถ ระหว่างทางน้องสาวที่ช่วยลากกระเป๋าได้แกล้งแหย่พี่ชายว่า
"พี่วิมไม่เจอกันตั้งนาน บินจากเกาหลีมีอะไรมาฝากน้องบ้าง"
"นี่วุ้น พี่เค้าทั้งซื้อรถให้ทั้งส่งเงินค่าน้ำมันมาให้ทุกเดือนยังจะกล้าขออีกหรือ"
ผู้เป็นแม่ได้ดุลูกสาวคนเล็กทันที
"โธ่แม่วุ้นล้อเล่น แค่นี้บุญคุณพี่เค้าก็ท่วมหัวน้องสาวยศเรือโทจนๆคนนี้แล้ว"
"แล้วเรื่องงานกับเรียนเป็นไงบ้างวุ้น"
พี่ชายเป็นฝ่ายถาม
"ก็งานการเงินนะพี่ไม่มีอะไรมากแต่เรียนโทบัญชีนี่ยากเหมือนกัน"
วิมพยักหน้าก่อนที่ทุกคนจะขึ้นคันที่รถที่วิมซื้อให้พ่อกลับบ้าน ผ่านไป 2-3 วันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อ้อยได้มางานเลี้ยงที่เพื่อนๆได้รวมตัวกันกันสังสรรค์หลังจากที่ไม่เจอกันนานบางคนสนิทกันตั้งแต่เรียนมัธยมบางคนมาสนิทกันตอนเรียนปริญญาตรีและถูกลากมาเข้ากลุ่มด้วยเหมือนกับอ้อยที่มาสนิทกับกลุ่มนี้เพราะถูกเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยดึงมา แต่แล้วสายตาของหลายๆคนมองที่ประตูและเห็นผู้ชาย 2 คนเดินเข้ามา
"ไอ้เหน่งนี่หว่า มันเดินมากับใครวะ"
ผู้ชายในกลุ่มเป็นคนพูดขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนที่หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งจะทักขึ้นด้วยความดีใจมันทำให้อ้อยรีบมองไปทันที
"นั่นวิมนี่ ใช่วิมจริงๆด้วยมากับเหน่งได้ยังไง"
ทำให้ทุกสายตามองไปที่ชายหนุ่มทั้งคู่ที่กำลังเดินเข้ามาที่โต๊ะพอมาถึงโต๊ะเหน่งเอ่ยขึ้นทันทีเพื่อคลายความสงสัยของกลุ่มเพื่อน
"เจอคุณชาย พึ่งเสด็จกลับจากเมืองนอกยืนซื้อไส้กรอกในเซเว่นเลยลากตัวมา"
ทำเอาทุกคนหายสงสัยและขำกับวิมที่แต่งตัวตามสบายกางเกงยีนส์เสื้อยืดและถือถุงพลาสติกที่ใส่ไส้กรอก ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งและวิมตกเป้าสายตาพร้อมคำถามต่างๆที่ประดัง เพราะตั้งแต่วิมไปเมืองนอกไม่มีใครติดต่อได้เลย และไม่มีใครรู้ว่า วิมไปอยู่ที่ไหน หลังจากทักทายกันรอบโต๊ะ วิมต้องตอบคำถามทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนคลายความสงสัยที่ตัวเองหายไปติดต่อไม่ได้ เพราะวิมไม่เล่นโซเชี่ยลใดๆเลย และพักที่อยู่อเมริกาเพราะบริษัทที่วิมทำงานอยู่มีสำนักงานใหญ่ที่นั่นพร้อมกับตัวเองต้องออกเรือบ่อยเลยไม่ได้ติดต่อกับใครๆ
"แล้วมึงทำอยู่บริษัทอะไรตอนนี้บริษัทเดิมหรือเปล่า"
เหน่งที่เป็นเพื่อนสนิทของวิมตั้งแต่เรียนมัธยมจนมาเป็นทหารเรือด้วยกันเป็นคนถามทั้งๆที่ปากยังเคี้ยวไส้กรอกที่เพื่อนซื้อมา
"บริษัทเดิมนั่นแหละและเรือที่มึงเป็นต้นเรืออยู่ก็คุ้มกันให้ตอนผ่านช่องแคบมะละกาเมื่อไม่กี่วันมานี้"
"เฮ้ย มึงอยู่บนเรือลำนั้นด้วยหรือ กูไม่รู้"
"กูก็ไม่รู้ แต่พอผ่านมะละกามาแล้วกูลองหาค้นรายชื่อจากเว็บดูก็เห็นว่ามึงเป็นต้นเรือลำนี้"
"แล้ววิมจะมาอยู่กี่วันละ"
เสียงที่ทักขึ้นจากหญิงสาวที่หน้าตาดีที่เป็นคนทักคนแรกว่าวิมมาพร้อมกับเหน่ง
" 2เดือนนะจูน พอดีเรือเข้าอู่ซ่อมที่เกาหลี 1 เดือนเราเลยขอลาพักต่ออีกเดือนก่อนจะตามไปสมทบที่โอมาน"
ตลอดเวลาที่วิมคอยตอบคำถามเพื่อนๆมีอ้อยเพียงคนเดียวที่ไม่ถามอะไรนั่งฟังอยู่ฝ่ายเดียว แต่ถ้าใครสังเกตดีๆระหว่างวิมกับอ้อยจะสบตากันบ่อยๆ และพูดคุยกันน้อยมากจนหัวข้อการสนทนาเปลี่ยนไปเรื่องอื่นจนเพื่อนคนหนึ่งได้คุยถึงเรื่องรถยี่ห้อหรูยี่ห้อหนึ่ง เหน่งเลยบอกว่าให้ไปถามวิมเพราะเคยเห็นพ่อของวิมขับ วิมเลยอธิบายว่าที่มีเงินซื้อรถซื้อบ้านเพราะผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเงินไทย และวิมบอกว่าไม่ค่อยใช้เงินเท่าไหร่ จนมีเงินเก็บเยอะก่อนจะบอกเรื่องรถตามที่รู้ จนได้เวลาที่จะแยกย้าย เพื่อนๆหลายๆคนขอเบอร์ติดต่อวิม วิมเลยให้เบอร์บ้านไปก่อน เพราะจะซื้อซิมแบบเติมเงินแต่โดนเหน่งลากตัวมาก่อน พอเหน่งทำท่าจะไปส่งวิมบอกมาว่า
"ไม่ต้องเหน่ง คนละทาง กูกลับแท็กซี่เอง"
"บ้านวิมไปทางไหนละ"
คราวนี้จูนเป็นฝายถามโดยที่อ้อยตั้งใจฟังอยู่ตลอด พอวิมบอกจูนเลยบอกว่า
"เหน่ง จูนไปส่งเอง ทางเดียวกัน จูนต้องผ่านอยู่แล้ว นะวิมไม่เป็นไรไม่ต้องเกรงใจ"
วิมพยักหน้าแล้วร่ำลาบรรดาเพื่อนๆก่อนสบตากับอ้อยเล็กน้อยแล้วเดินตามจูนไปที่รถ ระหว่างทางที่ขับรถไปพอนึกถึงเรื่องเก่าๆทำให้จูนเปรียบเทียบได้ว่า วิมเปลี่ยนไปเยอะจากคนที่ช่างพูดขี้เล่น กลายเป็นคนที่พูดน้อยเงียบขรึม จูนกับวิมนั้นเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมต้น จนวิมสอบได้ไปเรียนเป็นทหารเรือเหมือนพ่อ ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันและพอจูนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ไปดึงอ้อยให้มาเข้ากลุ่มด้วย จนจูนดูออกว่าวิมแอบสนใจอ้อยอยู่ตั้งแต่รู้จักกันแรกๆ อ้อยนั้นหน้าตาสวยและบ้านมีฐานะที่ต่างกับวิม แต่ในที่สุดก่อนวิมจะไปทำงานต่างประเทศอ้อยได้แต่งงานกับแฟนที่คบกันมาไม่นานส่วนวิมนั้นหายขาดจากการติดต่อไปเลย มีแต่เหน่งที่พอจะรู้แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ส่วนอ้อยนั้นชีวิตสมรสพังไม่เป็นท่า ระหว่างทางจูนได้ถามเหตุผลทำไมตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศทั้งๆที่วิมรักชีวิตทหารเรือมาก วิมยิ้มก่อนบอกว่า
"บอกตรงๆนะจูน บ้านเราก็ใช่ว่าจะรวย พ่อตอนนั้นเป็นนาวาตรียังนั่งรถเมล์ไปทำงาน วุ้นก็จวนจะจบแล้วแม่ก็ยังทำงานเป็นเสมียนที่โรงงานเราเลยตัดสินใจกับอนาคตของครอบครัว และนี่อีกไม่เท่าไหร่พ่อก็จะเกษียณแล้วต้องคืนบ้านหลวง เราเลยยอมลำบาก ดีที่วุ้นมันได้โควตาไม่ต้องวิ่งหางานทำถึงเงินเดือนจะน้อยก็ยังดี "
"หนักพอสมควรนะ"
"ใช่แรกๆเราก็ลำบากเหมือนกัน เวลาขึ้นฝั่งต้องไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆ อยู่บนเรือดีหน่อยมีอาหารให้ แทบไม่ต้องใช้จ่าย แต่พอย้ายมาอยู่เรือสินค้าก็สบายขึ้นหน่อย แต่ออกทะเลทีก็นานแต่ค่าตอบแทนก็คุ้มค่า"
แล้วจูนก็เปลี่ยนไปสอบถามเรื่องพ่อกับแม่ของวิม ส่วนวิมก็ถามเรื่องครอบครัวของจูน จูนบอกว่าพ่อกับแม่สบายดี แต่จูนยังไม่แต่งงานและยังไม่มีแฟนแล้วจูนมองไปที่หน้าปัทม์รถแล้วบอกว่า
"วิมเราขอเติมน้ำก่อนนะ เหลือขีดเดียว"
วิมพยักหน้า พอรถเลี้ยวไปเติมวิมเห็นมีมินิมาร์ทอยู่เลยขอลงจากรถบอกจะไปซื้อซิมโทรศัพท์ก่อนแต่ลูกค้าค่อนข้างเยอะเลยทำให้เสียเวลาจูนเลยเดินเข้าไปดูและซื้อของให้ตัวเองด้วย พอเรียบร้อยจูนเห็นวิมเอาโทรศัพท์ที่ติดมาใส่ซิม จูนเลยรับอาสาที่จะเป็นคนกระจายข่าวให้เพื่อนๆหลังจากที่รู้เบอร์ใหม่ของวิมแล้ว พร้อมแนะนำให้วิมสมัครใช้ไลน์ด้วย ก่อนที่จะให้เบอร์ของเธอเองเพราะวิมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยตั้งแต่ลงทะเบียนไปจนถึงเติมเงิน วิมเลยทำตามที่เธอบอก หลังจากที่เรียบร้อยทั้งคู่กำลังเดินไปที่รถ แต่สายตาของวิมไปเห็นอะไรบางอย่างเลยบอกจูนว่า
"จูนขอบคุณมากนะที่ขับรถมาส่ง แต่เราแยกกันตรงนี้ก่อน"
"อ้าวทำไมละวิมอีกไกลนะ ถึงจะถึงบ้าน"
"ไม่มีอะไรหรอกเราแค่อยากซึมซับกับบรรยากาศของกรุงเทพหน่อยไม่เจอมาหลายปีแล้ว ส่วนใหญ่เราก็เห็นแต่ทะเลกับท้องฟ้านะ ขอบคุณมากนะไว้เจอกัน"
"อืมมมม ก็ตามใจแต่เราต้องเจอกันอีกนะ อย่าหายไปเฉยๆอีก"
"สัญญาจูนเราสัญญา มีอะไรก็โทรมาบาย"
"จ๊ะบาย"
จูนหันมาทิ้งสายตาให้ก่อนที่จะเดินไปที่รถส่วนวิมยืนดูจนจูนขับรถออกไปจากปั๊มแล้วเดินไปตรงสิ่งที่ตัวเองเห็นที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่วิมเห็นคืออ้อยที่ยืนอยู่ข้างๆรถ ทั้งคู่ไม่พูดอะไรกัน อ้อยกลับเข้าไปด้านคนขับวิมเดินไปอีกด้านพร้อมเปิดประตูเข้าไปนั่งข้างๆอ้อย หลังจากปิดประตูทั้งคู่หันมามองหน้ากัน ก่อนที่วิมจะพูดอะไร อ้อยเอามือตบไปที่หน้าของวิมแต่ไม่แรงนักแต่ทำให้วิมแสบๆคันๆได้พอสมควร
"ทำไมไม่ติดต่อมา อยู่ดีๆก็หายหัวไป อ้อยเกือบจะลืมวิมไปแล้ว"
อ้อยเป็นฝ่ายถามพร้อมน้ำตาที่เริ่มคลอออกมา
"ก็รู้ๆอยู่ แล้วก็บอกไปแล้วตอนกินข้าว อ้อยไม่ได้ฟังหรือ"
"อ้อยอยากรู้มากกว่านี้ ตอนวิมกลับจากเยอรมันแล้วก็ไปประจำเรืออีกไม่นานวิมก็ลาออก แทนที่วิมจะบอกว่าไปอยู่
ที่ไหนวิมก็หายไป อ้อยรู้นะว่าเพราะอะไร วิมหลบหน้าอ้อย วิมอย่าอ้างว่าติดต่อไม่ได้ สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะติดต่อกันไม่ได้ วิมจงใจ"
อ้อยทิ้งท้ายพร้อมเสียงที่เริ่มสั่นเคลือ วิมหันไปมองหน้าอ้อยก่อนบอกไปด้วยเสียงแบบรำคาญว่า
"อ้อยก็น่าจะรู้เพราะอะไร แล้ววิมจะติดต่ออ้อยทำไม อ้อยก็แต่งงานไปแล้วมีครอบครัวไปแล้วจะให้วิมทำยังไง"
"แล้วถ้าเกิดตอนนั้นอ้อยท้องกับวิม"
"ไม่มีทางอ้อย อ้อยก็รู้ว่าเพราะอะไร อ้อยอย่ามาอ้าง"
ทั้งคู่สบตากันก่อนย้อนไปถึงความหลัง ที่จริงแล้วไม่มีใครรู้แม้กระทั่งจูนที่เป็นเพื่อนสนิทของอ้อยว่า อ้อยก็แอบชอบวิมด้วยเหมือนกัน แต่ไม่มีใครรู้เพราะทั้งคู่ต่างแอบเก็บความรู้สึกขอตัวเองได้ดี จนต่างฝ่ายก็ไม่รู้เรื่องของอีกฝ่ายจนเรียนจบ อ้อยทำตามความฝันคือไปเป็นแอร์โฮสเตสตามความตั้งใจ พอเจอกันทั้งคู่ต่างแสดงความเป็นเพื่อนให้ใครๆเห็นจนอ้อยตอนนั้นเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองชอบวิมฝ่ายเดียวหรือเปล่า เพราะวิมไม่เคยแสดงออกให้เธอเห็นและยิ่งช่วงที่วิมไปเรียนต่อที่เยอรมัน อ้อยเลยติดสินใจที่จะคบหากับผู้ชายคนหนึ่งและวิมไม่เคยติดต่อมาเลยช่วงไปเรียนต่อ พอวิมกลับมาเป็นช่วงที่อ้อยตัดสินใจที่จะแต่งงานพอดี
ส่วนวิมนั้นที่ไม่กล้าเปิดเผยความในใจกับอ้อยเพราะรู้ว่าฐานะมันต่างกัน เลยต้องเจียมตัวเจียมใจยิ่งตัวเองออกทะเลไผกับเรือรบบ่อยๆครั้งจนสอบได้ทุนไปเรียนต่อ พอกลับมาก็พบกลับข่าวร้ายของหัวใจแต่พอได้รับการติดต่อให้ไปทำงานกับบริษัทเดินเรือทะเล ทำให้วิมตัดสินใจง่ายขึ้นทั้งอนาคตของครอบครัว ทั้งจะได้ไม่พบอ้อยอีกแต่แล้วพออ้อยได้รู้ข่าวว่าวิมจะลาออกจากทหารเรือ อ้อยได้นัดเจอวิมตอนดึกวันหนึ่งและตอนอยู่ในรถที่ทั้งคู่จอดคุยกันในลานจอดรถ อ้อยจู่ๆถามขึ้นว่า
"วิมเราถามหน่อยสิ วิมเคยชอบเราบ้างไหม"
วินถอนหายใจเบาๆแล้วหันมามองก่อนบอกว่า
"ชอบสิชอบมานานแล้ว"
พอได้ฟังคำตอบอ้อยมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกทั้งเจ็บใจที่ตัวเองจะแต่งงานกับคนไม่รัก ทั้งโกรธวิมที่ไม่เคยพูดหรือแสดงท่าทีว่าสนใจเธอเลยและดีใจที่กับคำตอบที่ตัวเองต้องการ ทำเอาอ้อยตบหน้าวิมอย่างแรงจนวิมหน้าสะบัด แต่วิมตอบมาด้วยเสียงที่ราบเรียบทั้งๆที่หน้านั้นชาไปด้านหนึ่งว่า
"อ้อยก็น่าจะรู้เราไปด้วยกันไม่ได้หรอก เราต่างกันเยอะการใช้ชีวิตของเราก็ต่างกัน วิมรู้มาตลอดอ้อย วิมถึงไม่เคยบอกอ้อยจนวันนี้ เพราะวิมอยากให้ความสัมพันธ์ของเรายาวนานไม่ใช่ไม่มองหน้ากันตลอดไปถ้าเราคบเป็นแฟนกันและต้องเลิกกัน แต่วันนี้อ้อยถาม วิมต้องบอกเพราะวิมไม่อยากโกหก"
อ้อยเงื้อมือทำท่าจะทุบวิมเพราะความรู้สึกที่ขัดใจกับคำตอบจากชายที่ตนเองแอบชอบ มันใช่หรือกับสาเหตุที่บอก แต่คราวนี้วิมจับมืออ้อยแล้วดึงตัวอ้อยเข้ามาแล้วจูบทันที อ้อยรู้สึกตกใจมากกับสิ่งที่วิมทำตอนแรกเธอทำท่าจะดิ้นรนไม่ยอมให้วิมจูบ แต่อีกใจมันก็ค้านเพราะมันเป็นความรู้สึกที่เธอต้องการจากวิมมานานแล้ว จนมืออีกข้างของเธอได้โอบรอบคอชายหนุ่ม แล้วไฟสวาทที่มันเก็บงำมาตลอดของทั้งสองก็ลุกโชนขึ้น มือของวิมเริ่มเลื่อนไปลูบคลำที่หน้าอกอันเต่งตึงของอ้อย ซึ่งเธอก็เผลอตัวแอ่นอกให้ชายหนุ่ม จนวิมเริ่มมาซุกไซร้ที่ลำคอ อ้อยถึงรู้สึกตัว ดันตัววิมให้ออกห่าง
"วิมอย่าคะ อย่า อ้อยจะแต่งงานแล้ว"
ประโยคสุดท้ายมันเหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ยิ่งทำให้วิมไม่หยุด วิมรวบร่างอ้อยเข้ามาพร้อมซุกไซร้ไปทั่ว จนอารมณ์ของหญิงสาวเตลิดอีกครั้งจนเธอได้สติ
"วิมพอก่อนเหอะนะคะ"
เธอพูดพร้อมดันร่างของวิมออกห่างทั้งๆที่ใจเธอร้อนรุ่มยิ่งกว่าไฟจากการที่ถูกปลุกอารมณ์เช่นนี้วิมนั้นได้สติขึ้นมาจึงค่อยๆถอยออกห่าง ส่วนอ้อยเมื่อเห็นรอยสีแดงที่หน้าของชายหนุ่ม เธอรู้สึกตกใจกับการกระทำของเธอ น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวเอื้อมมือของตัวเองไปลูบตรงรอยที่ใบหน้าของชายหนุ่มพร้อมความรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง
"โธ่วิม เจ็บไหม ไม่น่าเลยอ้อยขอโทษ อ้อยขอโทษ อ้อยลืมตัวขอโทษจริงๆ"
เธอพูดพร้อมเสียงสะอื้นที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ที่แปรปรวนทั้งตกใจทั้งเสียใจในเวลาเดียวกันก่อนที่เธอจะยื่นหน้าไปจูบอย่างแผ่วเบาตรงรอยแดงเหมือนการปลอบใจผู้ชายที่สร้างปัญหาหัวใจให้กับเธอ ใช่แล้วที่เธอแต่งงานมีส่วนหนึ่งเพราะวิมที่ไม่เคยแสดงออกว่าสนใจเธอ เธอตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายที่รู้จักไม่นานเพราะต้องการประชด วิมตอนนั้นได้แต่นิ่งไม่พูดอะไรได้แต่เอามือของหญิงสาวที่มาลูบใบหน้าตรงโดนตบมาจับไว้แน่น โดยที่อ้อยไม่หยุดสะอื้นจนอ้อยบอกว่า
"ไปกันเหอะวิม จอดนานแล้วคนจะผิดสังเกต แล้ววิมขับรถให้หน่อยนะ อ้อยขับไม่ไหว"
วิมไม่พูดอะไรก่อนที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนที่แล้ววิมจัดการขับรถออกไปจากลานจอดโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ถึงจุดหมายปลายทาง วิมขับไปเรื่อยๆแต่อ้อยเริ่มเบียดตัวเข้ามาชิดพร้อมกับซบไปที่ไหล่ของวิม เธอเริ่มปรับสติของตัวเองได้แล้วก่อนจะถามไปว่า
"หายเจ็บหรือยังวิม"
"ไม่เป็นไรหรอก"
"ขอโทษอีกครั้งนะ ตอนนั้นอ้อยทำอะไรไม่ถูก"
"ก็บอกแล้วไม่เป็นไร"
"แล้วเรื่องของเราละวิม"
"มันเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เราก็ต้องไปตามวิถีทางของเราอ้อย"
เสียงพูดที่ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา แต่มันตรงกันข้ามกับใจคนพูดที่พยายามข่มอารมณ์โดยไม่รู้ว่าคนฟังจะรู้สึกน้อยใจหริอไม่
"แต่ถ้า...."
"ไม่มีคำว่าถ้า อ้อยไม่มีทาง มันผ่านมาแล้วเราย้อนกลับไปไม่ได้ เข้าใจนะ ในเมื่อเราต่างฝ่ายต่างเลือกทางเดิน
ของตัวเองแล้วอีกไม่นานอ้อยก็จะแต่งงานแล้ว เราก็จะไปทำงานที่ต่างประเทศ"
ยิ่งได้ฟังยิ่งทำให้เธอน้อยใจ วิมพูดเหมือนไม่ใส่ใจกับความรู้สึกเธอ เธอได้แต่นิ่งแต่ยังซบไหล่อยู่ แต่แล้วจู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปนอนหนุนตักวิมโดยที่เธอบอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร วิมปล่อยให้เธอนอนหนุนตักส่วนตัวเองก็ขับรถไปโดยไม่มีจุดหมาย จนอ้อยเอามือข้างซ้ายของวิมมากุมไว้ แต่แล้วมันก็ไปโดนหน้าอกเธอ โดยที่เจ้าตัวไปไม่ทำอะไร วินเลยได้ใจเอามือลูบคลำหน้าอกที่เต่งตรึงนั้นอีกครั้ง แล้วมือของวิมก็ล้วงเข้าไปในเสื้อได้ จนไปเจอกับก้อนเนื้อ2ก้อนที่ขนาดค่อนข้างใหญ่ ที่เหลือแต่เพียงยกทรงที่ห่อหุ้มอยู่ อ้อยปล่อยให้วิมเคล้นคลึงหน้าอกเธออย่างเต็มที่ จนเธอทนไม่ไหวและรู้ว่าเป้ากางเกงของวิมนั้นก็แข็งขึ้นเหมือนกัน ถึงเธอจะไม่เคยเสียความบริสุทธิ์แต่เธอก็รู้ดีว่ามันคืออะไร จนมือของวิมล้วงเข้าในยกทรงพร้อมบี้หัวนมของเธอ อ้อยยิ่งเสียวมากขึ้น
"อูยยยยยย วิมแวะหาที่ก่อนเหอะ"
เธอลืมความอายไปทั้งหมดเพราะความต้องการมันมากกว่า วิมไม่หยุดบี้หัวนม แต่ตาก็สอดส่ายหาโรงแรมโชคดีที่มีโรงแรมระดับ 3 ดาวอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่ วิมเลี้ยวรถเข้าไปในลานจอดแล้วเดินพาอ้อยที่กลับมานั่งเหมือนเดิมก่อนที่รถจะเลี้ยวเข้าโรงแรม วิมจัดการเปิดห้องแล้วพาอ้อยขึ้นไปบนห้อง หลังจากปิดประตูทั้งคู่ต่างไม่พูดอะไรกันมากเพราะอารมณ์ปราถนามันจุดติดมาตั้งแต่อยู่ในรถ ร่างของอ้อยถูกวิมประคองลงบนเตียง วิมบรรจงจูบซึ่งต่างกับครั้งที่แล้วอ้อยเต็มใจรับการจูบครั้งนี้อย่างเต็มที่มือทั้งสองข้างโอบกอดร่างที่นอนอยู่บนตัวเธอ โดยไม่สนใจว่าเสื้อผ้าจะยับขนาดไหน ทั้งคู่ต่างแลกลิ้นกันอย่างเพลิดเพลิน ก่อนที่วิมจะเลื่อนลงมาที่หน้าอกแล้วซุกหน้าไปมาทั้งๆที่ยังมีเสื้อของหญิงสาวกั้นอยู่ อ้อยแอ่นรับด้วยความเต็มใจ ยิ่งพอวิมจัดการถอดเสื้อโดยที่อ้อยร่วมมือเป็นอย่างดี หน้าอกอันเต่งตึงขาวสล้างปรากฏอยู่แม้มัน จะยังซ่อนอยู่ใต้ยกทรงแต่มันก็ปลุกอารมณ์วิมได้อย่างดี แต่วิมอดใจที่ไม่ฟอนเฟ้นหน้าอกที่เต่งตึง แต่เลื่อนหน้าลงมาบรรจงจูบไปที่หน้าท้องที่ขาวเนียนและไม่รอช้าที่จะปลดกางเกงทั้งตัวนอกตัวในของอ้อยออกจากตัว
ซึ่งเจ้าตัวยืนยอมยกก้นอย่างง่ายดาย หมอยที่ประปรายแถมโคกหีที่สมตัวปรากฏให้เห็น วิมไม่รอช้าจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองก่อนที่จะก้มไปที่โคกหีของอ้อย ซึ่งยังสีออกชมพูปิดสนิทอยู่ โดยที่เจ้าของโคกหีนั้นนั้นหลบตาอยู่ วิมฝังจมูกลงไปในร่องอ้อยสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมกับขาที่อ้าออกเอง แต่วิมกลับเลื่อนไปที่หน้าอกและถอดยกทรงออก หัวนมของอ้อยก็เช่นกันยังดูผุดผ่อง วิมก้มหน้าลงไปที่หัวก่อนที่จะดูดสลับไปมา อ้อยมีอาการผวาก่อนที่มือทั้งสองข้างจะโอบรอบหลังที่เปล่าเปลือยของเพื่อนชาย พร้อมทั้งแอ่นอกให้ ชายหนุ่มอย่างเต็มใจ แม้จะเป็นครั้งแรกของเธอที่ถูกกระทำแบบนี้แต่เธอเต็มใจอย่างยิ่ง ยิ่งถูกเล้าโลมที่เต้านม อ้อยยิ่งเสียวเพิ่มขึ้น ก่อนวิมเลื่อนหน้าลงไปที่กลางลำตัวเธอแถมยังมีอะไรแข็งๆมาสัมผัสตรงแถวๆหน้าขาเธอ อ้อยไม่กล้าลืมตามองและไม่กล้าเอามือไปจับทั้งที่ อ้อยรู้ดีว่ามันคืออะไร และวิมจะทำอะไรต่อ และเธอยิ่งผวาพร้อมครางออกมา เมื่อถูกสิ่งที่อ่อนนุ่มล้วงล้ำเข้ามาในตัวเธอ ทำเอาอ้อยเกร็งไปทั้งตัวเพราะไม่เคยเจอมาก่อนและไม่รู้ว่ามันจะสร้างความเสียวให้กับเธอได้ขนาดนี้ ทั้งๆเคยอ่านเจอจากหนังสือ แต่คราวนี้เจอกับตัวเองไม่นึกว่าจะมันจะสร้างความเสียวให้ขนาดที่ทำเอาเธออ้าขาออกอย่างสุดเหยียดโดยไม่รู้ตัวมือจิกหมอนแน่นหรือไม่ก็จับที่ผมของตัวเองอย่างลืมตัว
วิมจัดการลงลิ้นอย่างไม่หยุดท่ามกลางเสียงครวญครางของอ้อย จนตัวเองก็เต็มที่แล้ว วิมจัดการเลื่อนหน้าตัวเองไปที่เต้าคู่งามนั้นอีกครั้งก่อนจะดูดสลับไปมากับหัวนมที่บานขยายและเลื่อนไปแลกจูบกับเพื่อนสาวอีกครั้ง ก่อนที่จะเอาควยตัวเองที่แข็งเต็มที่แล้วไปจ่อที่รูหี แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่แว่บเขามาในอนุสติของอ้อยทำให้เธอรู้ตัว อ้อยบีบขาแน่นก่อนที่จะลืมตาแล้วบอกว่า
"วิมอย่าๆๆๆๆ พอก่อน อ้อยต้องเก็บไว้ไห้เจ้าบ่าว"
วินตอนนั้นเหมือนกับนักวิ่งที่กำลังวิ่งเต็มที่แต่จู่ๆมีคนมากั้นทางไม่ให้วิ่งต่อทั้งๆที่จุดหมายอยู่ตรงหน้า วิมก้มลงไปมองหน้าคนที่นอนอยู่ใต้ตัว แววตาของอ้อยนั้นยังฉ่ำอยู่แต่มือมามาดันที่อกห้ามไว้ก่อนที่วิมจะล่วงล้ำไปมากกว่านี้ วิมไม่รู้ว่าอ้อยต้องพยายามสะกดอารมณ์แค่ไหนแต่สิ่งที่ถูกพร่ำสอนมาตั้งแต่วัยเยาว์มันก้องอยู่ในหัว เรื่องของความสาว ถ้าเธอไม่ติดว่าจะแต่งงานในไม่นานนี้เธอคงยินยอมวิมแต่โดยดี แต่อารมณ์ของทั้งคู่ที่กำลังเตลิดจนหยุดไม่อยู่จะทำยังไงต่อ อ้อยเปลี่ยนเอามือที่ดันมาโอบรอบคอแล้วดึงหน้าวิมลงมาพร้อมกับจูบอีกครั้งก่อนจะ
กระซิบข้างหูชายหนุ่มว่า
"วิมเข้าใจอ้อยหน่อยนะว่า อ้อยตรงเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้สามีอ้อยในอนาคต"
"แล้วเราจะหยุดเท่านี้หรือ"
อ้อยเงียบไปชั่วขณะแต่เธอก็นึกอะไรบางอย่างออก ที่จะทำให้วิมได้เชยชมเธอโดยที่เจ้าบ่าวของเธอไม่มีวันรู้ เธอหักห้ามความอายก่อนที่จะกระซิบข้อความบางอย่างให้วิมได้ยิน เพราะสิ่งที่เธอจะสนองตอบวิมนั้นเธออ่านเจอหรือได้ดูจากวีดีโอหนังโป๊เท่านั้นและที่สำคัญอารมณ์ของเธอก็หยุดไม่อยู่แล้ว วิมได้ยินนั้นก็ตกใจอยู่เหมือนกันเพราะไม่นึกว่าอ้อยจะเสนอมาให้เองและถึงตัวเองจะผ่านการนอนกับผู้หญิงมาหลายคนแต่วิมไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน
"แน่ใจนะอ้อย"
เธอพยักหน้าแบบอายๆ วิมก้มลงไปจูบปากกับเธออีกครั้งแล้วเลื่อนมาที่เต้านมคู่งามเพื่อปลุกอารมณ์ให้อ้อยสุกงอมมากขึ้นอ้อยครางออกมาอีกครั้ง แล้ววิมพลิกตัวอ้อยลงไปนอนคว่ำ ก่อนจะระดมจูบไปทั่วแผ่นหลังที่ขาวละเอียด จนถึงก้นที่งอนงาม ก่อนจะช้อนก้นให้สูงขึ้น วิมซบหน้าไปตรงโคกหีที่ลอยเด่นอีกครั้ง เจอท่านี้เข้าไปอ้อยถึงกับเอามือจิกที่หมอนแน่น มันสร้างความเสียวให้เธอเพิ่มขึ้น จากการที่ถูกลิ้นของเพื่อนชายทะลวงเข้าไปในรูหีในท่านี้ จนในที่สุด
"อูยยยยยยยยย วิมซี๊ดดดดดดด ทำเหอะ อ้อยทนไม่ไหวแล้ว"
วิมเอานิ้วไปลูบน้ำที่ออกจากรูหีของมาทารอบๆรูก้นเพื่อจะช่วยความลื่นเพราะอ้อยเป็นฝ่ายเสนอให้ตอนที่กระซิบว่า
"วิมเข้าข้างหน้าไม่ได้ ก็เข้าข้างหลังเถอะ ว่าที่ผัวเราไม่รู้หรอก เราทนไม่ไหวแล้ว"
ที่อ้อยเสนอแบบนี้โดยยอมละทิ้งความอายออกไปเพราะเธอเงี่ยนจนทนไม่ไหว เธอเสนอให้วิมเย็ดตูดเธอแทนรูหี ที่ผ่านมาวิมก็ลอบชำเลืองมองก้นของอ้อยมาตั้งแต่รู้จักกันแต่แรกแล้วถ้าวันไหนอ้อยใส่กระโปรงนักศึกษาสั้นๆฟิตมันทำให้เห็นชัดว่าสะโพกของอ้อยนั้นสวยงามจริงๆ ยิ่งมาเห็นของจริงวันนี้มันปลุกอารมณ์วิมให้ลองของใหม่ได้อย่างดี วิมจัดการจัดท่ายกก้อนอ้อยให้สูงขึ้นหลังจากที่ตัวเองคุกเข่า ส่วนอ้อยนั้นหลับตาแน่นทั้งๆที่รู้ว่า จะต้องเจ็บแต่เธอเต็มใจอย่างยิ่ง วิมเอาควยที่แข็งเต็มที่แล้วค่อยๆดันเข้าไปในรูก้นของอ้อย มือก็ประจับประคองไว้ที่เอวคอดกิ่ว มันสร้างความเจ็บปวดให้กับอ้อยอย่างมากกับสิ่งที่ล่วงล้ำเข้า ที่ผ่านมาเวลาเธอช่วยตัวเองอย่างมากก็เอานิ้วเขี่ยที่ปากทางไม่ก็ถูกับหมอนข้างเธอไม่กล้าเอามือล้วงเข้าไปทั้งๆที่อ้อยยอมรับว่าเธอเป็นคนที่มีอารมณ์ทางเพศสูงอยู่แล้ว พอเจอปลุกเร้าแบบนี้เธอจึงหยุดไม่อยู่ แต่ดีที่วิมไม่เร่งเร้าค่อยดันควยเข้าไป แถมเอามืออีกข้างมาบี้ที่หัวนมเธอ เพื่อเป็นการกระตุ้น ทำให้เธอผ่อนคลายลงไปเอง
"โอ๊ว วิมเบาหน่อย อู๊ว บี้นมเบาๆสิซี๊ดดดดดดดด"
วิมที่กัดกรามแน่นเพราะเจอกับช่องทางรักที่ไม่คุ้นเคยและฟิตมาก
"ก็เบาอยู่แล้วอ้อย อูยยยยยยยยย มันแน่นมากเลย"
วิมพยายามดันเข้าไปจนสุดส่วนอ้อยนั้นแม้จะเจ็บจนร่างกายแทบจะแยกออกเป็นส่วนๆแต่มันก็สร้างความหรรษาให้กับเธอได้อย่างดี ก่อนที่วิมจะเริ่มโยกไปมาอย่างช้า ไม่นานอ้อยก็ลืมความเจ็บปวดเธอครางอย่างต่อเนื่อง ส่วนวิมก็เช่นกันช่องทางรักนี้ถึงจะแคบและฟิตมากกว่าที่เคยเจอกับผู้หญิงคนอื่นๆ แต่มันสร้างความแปลกใหม่อยู่เหมือนกัน พอเข้าที่เข้าทางแล้ว มันไปได้อย่างสะดวกแถมเจ้าของก้นที่งามงอนให้ความร่วมมืออย่างดี วิมเลิกบี้หัวนม เอามือทั้งสองข้างมาจับเอวที่กอดกิ่วอีกครั้ง
อ้อยก็เช่นกันถึงจะเป็นครั้งแรกแต่จากที่ทั้งเจ็บทั้งแสบกลายเป็นความเสียวแทน เธอเผลอขยับตัวเด้งรับในบางครั้งจนมีความรู้สึกบางอย่างเหมือนกับวิม ช่องทางที่ฟิตทำให้เพิ่มความเสียวมาอีกเท่าตัว
"อ้อยๆๆๆ โอ้วววววววววววว "
วิมสุดจะกลั้นปล่อยน้ำกามออกมาเช่นเดียวกับอ้อยที่ถึงพร้อมๆกัน ทั้งคู่ต่างนอนราบลงไปบนที่นอน โดยที่วิมยังนอนทับบนตัวอ้อยอยู่
"เจ็บมากไหมอ้อย"
วิมถามหลังจากตั้งสติได้
"ทนได้นะวิม แต่สุขสุดๆ"
วิมเอาหน้าไปซุกไซร้ที่เรือนผมและลำคอของอ้อยไปมาก่อนจะพลิกตัวลงมานอนบนที่นอนพร้อมความรู้สึกเหมือนกับความฝันกับสิ่งทีผ่านมาสดๆร้อนๆ หญิงสาวที่ตนเองแอบชอบมาหลายปี ถึงจะไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นความแปลกใหม่ที่ได้รับ อ้อยเหมือนจะเผลอหลับไปในขณะที่ยังนอนคว่ำอยู่ ทำให้วิมได้มองรูปร่างที่ได้สัดส่วนอย่างเต็มตา หลังที่ขาวละเอียดรวมไปถึงก้อนที่งอนงาม ขาที่สวยสมส่วน วินหันไปกอดอย่างเบาๆอ้อยเหมือนจะรู้สึกตัวนอนเบียดเข้ามา ครู่ใหญ่อ้อยชะโงกหน้าเข้ามาหอมแก้มข้างที่โดนตบที่ยังมีรอยให้เห็นอยู่
"อันนี้แทนคำขอโทษที่ตบหน้านะ"
แล้วอ้อยเดินเปลือยเข้าไปที่ห้องน้ำ วิมนอนคิดอะไรหลายๆอย่างแต่แล้วก็สะดุ้งเพราะอ้อยเปิดประตูห้องน้ำแล้วเรียก
"วิมมาอาบน้ำด้วยกัน"
วิมลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำที่อ้อยหลังจากเรียกแล้วก็หายเข้าไป พบว่าอ้อยนอนแช่อยู่ในอ่าง วิมก้าวลงไปตามเสียงเรียกก่อนที่อ้อยจะเป็นฝ่ายกอดวิมให้แน่นทั้งคู่ต่างเหมือนแม่เหล็กทันที ต่างฝ่ายต่างแลกจูบกันอย่างมายอมจนในที่สุดวิมเป็นฝ่ายถามว่า
"แล้วเรื่องของเราละอ้อย"
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่วันนี้มีแค่เราวิม"
อ้อยส่ายหน้าพร้อมตอบ
"แล้วระบมหรือเปล่า"
วิมถามย้ำอีกครั้ง
"นิดหน่อยจ๊ะ"
อ้อยตอบไม่ตรงทั้งหมดจริงๆแล้วเธอเจ็บมากแล้วอ้อยดึงหน้าวิมเข้ามาจูบอีกครั้งซึ่งมันปลุกอารมณ์ของทั้งสองให้ลุกโชนอีกครั้ง วิมจับมือของอ้อยอีกข้างให้ไปสัมผัสกับควยของตัวเองที่เริ่มจะแข็งตัว อ้อยทดลองจับแบบอยากรู้อยากทดลอง เอามือลูบคลำไปมาก่อนที่จะรูดขึ้นลงจนมันเริ่มพองขยายขึ้น จนในที่สุดเธอตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อมอบให้กับผู้ชายคนนี้ทั้งๆที่เธอไม่เคยรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรนอกจากเคยเห็นผ่านสื่อต่างๆที่เธอไปเห็นมาเวลาบินไปต่างประเทศ อ้อยก้มลงไปที่หน้าอกแล้วเริ่มเล็มเลียกับหัวนมของวิมทั้งสองสลับไปมาทำเอาชายหนุ่มเป็นฝ่ายครางด้วยความเสียวพออ้อยเลื่อนมาไซร้ที่ซอกคอไปมาและกระซิบบอกให้วิมขึ้นไปนั่งบนขอบอ่าง วิมทำตามแต่โดยดี อ้อยตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเธอก็ไม่คาดคิดว่าจะตัวเองจะกล้าทำมาก่อน อ้อยตัดสินใจรวบรวมความกล้าก่อนที่จะเอาปากไปครอบควยของวิมที่เริ่มจะแข็งตัวด้วยน้ำมือของเธอ มันสร้างความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกให้กับเธอทั้งขยะแขยงทั้งความรู้สึกที่แปลกใหม่ยิ่งได้ยินเสียงของวิมที่ครางออกมาไม่หยุด เธอยิ่งเร่งในการผงกหัวไปมา อ้อยพยายามไม่ให้ฟันของเธอไปกระทบกับควยของวิม จนในที่สุดเธอก็ทำให้วิมปล่อยน้ำกามออกมาในปากเธอจนได้ ถึงมันจะมีกลิ่นคาวอ้อยพยายามฝืนกลืนไปบางส่วน ส่วนวิมนั้นประหลาดใจอย่างมากที่หญิงสาวที่ดูออกว่ายังบริสุทธิ์อยู่ จะกล้าทำแบบนี้ พร้อมก้มไปมองหญิงสาวที่ปากยังเป็นคราบอยู่ก่อนที่วิมจะเลื่อนตัวลงไปในอ่างแล้วดึงอ้อยมากอด หลังจากนั้นทั้งคู่อาบน้ำกันอย่างจริงจังก่อนที่วิมจะเป็นฝ่ายอุ้มอ้อยจากห้องน้ำหลังจากช่วยกันเช็ดตัวจนแห้ง
วิมประคองร่างที่เปลือยของอ้อยลงบนเตียงแล้วเริ่มเล็มที่เต้านมทั้งสองข้างอีกครั้งเพื่อจะปลุกอารมณ์
"อูยยยยยยยวิมขายังไม่พออีก อ้อยเจ็บนะ"
"จะตอบแทนให้อ้อยนะ นอนเฉยๆนะ"
วิมตอบแล้วยังดูดดื่มกับเต้าคู่งามทั้งสองเต้าอย่างต่อเนื่องแล้วถึงเลื่อนหน้าลงไปที่โคกหี ที่เจ้าของอ้ารอเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นวิมเป็นฝ่ายลงลิ้นให้จนอ้อยไปถึงสวรรค์อีกรอบแล้วทั้งคู่ก็นอนกอดหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน จนเช้ามืดทั้งคู่ได้อำลาแยกย้ายกันนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คู่นี้ได้พบกัน หลังจากนั้นวิมบินไปทำงานต่างประเทศก่อนงานแต่งของอ้อย โดยที่อ้อยรู้จากเหน่งว่าวิมไปอเมริกาก่อนเพื่อ อบรมก่อนที่จะไปทำงานที่อาร์เจนติน่าหลังจากนั้นเรื่องของวิมหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่งอ้อยพยามทุกอย่างเพื่อจะสืบหาวิมแต่ไม่เจออะไรเลย จะไปถามทางบ้านวิมอ้อยก็ไม่รู้จักครอบครัวของวิม ส่วนชีวิตสมรสของเธอก็พังไม่เป็นท่าหลังจากแต่งงานไปได้ 2ปีเศษๆ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้นิสัยที่ของฝ่ายอย่างแท้จริงเพราะคบหากันไม่นานเท่าไหร่ก็แต่งงานกันซึ่งอ้อยไม่เคยเสียใจกับการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเอง และหลังจากนั้นก็มีคนมาตามจีบเธอมากมายไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือกัปตันเครื่องบินแต่เธอไม่สนใจ เพราะเธอยังไม่ลืมวิม สิ่งที่เธอบอกไปนั้นเธอโกหกวิมเพราะไม่อยากให้วิมรู้ความในใจไปมากกว่านี้
จนวันที่ไปเจอวิมที่เกาหลีใต้ หลังจากเครื่องลงสนามบินแล้วอ้อยพยายามตามหาวิมแต่ไม่เจอ จนวันนี้ระหว่างที่อ้อยกำลังจะหาจังหวะเล่าเรื่องให้เพื่อนๆว่าได้เจอวิมและมีใครรู้บ้างว่าวิมกลับมาแล้ว แต่แล้ววิมก็โผล่มาก่อนที่เธอจะถาม แต่วิมก็สงวนถ้อยคำที่จะคุยกับเธอตลอดจนจะแยกย้าย เธอพยายามจะพูดว่าขอขับรถไปส่งแต่จูนกลับพูดมาก่อน เธอเลยลองขับรถตามจะได้รู้ว่าบ้านใหม่ของวิมอยู่แถวไหน แต่ในใจเธอพะวงอยู่อย่างหนึ่งว่า เธอรู้ว่าจูนนั้นก็แอบสนใจวิมเหมือนกันแต่เก็บอาการได้ดี แต่แล้วพอจูนเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันเพื่อเติมน้ำมัน เธอขับเลยไปจอดรถอีกมุมและแอบมายืนดูนอกรถ แต่เหมือนโชคเข้าข้างเธอที่วิมเหลือบมาเห็นเธอและพอจูนขับรถออกไปและวิมเดินมาหาเธอ
สายตาที่อ้อยมองวิมนั้นเป็นแววตัดพ้อยิ่งเห็นกิริยาของวิมแล้วอ้อยยิ่งน้อยใจ วิมดูไม่ยินดีที่เห็นเธอขับรถตามมาและทำเป็นไม่สนใจกับเรื่องในอดีตของทั้งคู่ น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมา วิมเห็นแบบนั้นเลยหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาซับน้ำตาของหญิงสาว ก่อนจะเอามือลูบไปตามแก้มของอ้อยไปมาทำเอาหญิงสาวหายสะอื้นไปได้ เธอเอามือมาจับมือของวิมแล้วบีบเบาๆ ก่อนที่วิมจะเป็นฝ่ายบอกว่า
"ไปกันเหอะ"
อ้อยไม่พูดอะไร แต่ทำตามที่วิมบอกเธอขับรถพาวิมไปบนถนน ครั้งนี้ก็เหมือนครั้งที่ผ่านมาเป็นการขับรถที่ไร้จุด
หมายทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกัน จนวิมเป็นฝ่ายถามถึงเรื่องการแต่งงานของเธอ เพราะวิมไม่รู้ว่าเธอหย่าแล้ว อ้อยเล่าให้ฟังทั้งหมดรวมถึงสาเหตุ วิมได้ฟังแล้วสะท้อนใจด้วยความสงสารเพราะคิดว่าตนเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการหย่า วิมเอามือมาจับมืออ้อยอีกครั้งวิมถามต่อไปว่าแล้วอ้อยอยู่กับใครคำตอบที่ได้รับคืออ้อยกลับมาอยู่บ้านของตัวเองอยู่กับพ่อแม่และพี่สาว แต่ยังเป็นแอร์โฮสเตสเหมือนเดิม แต่อ้อยเว้นไม่พูดว่าเจอวิมที่สนามบินที่เกาหลีใต้ จนอ้อยบอกว่า
"เราจะไปไหนกันต่อ"
"ไม่รู้เหมือนกัน เพราะตอนแรกตั้งใจอยากเดินเล่นไปเรื่อยๆห่างบรรยากาศเมืองไทยมานาน บางทีผ่านแต่ไม่ได้จอดแวะเห็นแต่แผ่นดินไทยลิบๆเท่านั้น"
คนพูด พูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ แต่คนฟังแล้วรู้สึกสะท้อนใจเหมือนกัน ขนาดเธอบินไปต่างประเทศหลายๆวันยังอดคิดถึงบ้านเกิดไม่ได้ แต่นี่คนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กลางทะเล และได้แต่มองเห็นแผ่นดินเกิด แถมยังต้องแบกภาระของครอบครัวอีก ฟังแล้วก็สงสารเหมือนกันแต่เธอก็พูดไปว่า
"งั้นเราไปหาที่นั่งคุยดีกว่า"
วิมไม่พูดอะไรอ้อยขับรถไปถึงพัทยาด้วยเหตุผลที่เธอก็บอกไม่ได้เหมือนกัน คงเป็นเพราะเธออยากให้ออกมาห่างกรุงเทพมากที่สุด อ้อยพาวิมไปร้านที่เธอมาประจำกับเพื่อนๆ แต่ที่น่าประหลาดใจทั้งคู่ไม่สั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์กันเลยแต่ทั้งคู่ไม่คุยกันถึงเรื่องที่เคยผ่านมาจนดึกมากแล้ว วิมอ่านสายตาของอ้อยออกว่าเธอต้องการอะไร
"ไปกันเหอะอ้อย"
"ไปไหนละ"
"จะไปด้วยกันไหมละ"
อ้อยไม่พูดอะไร วิมจัดการจ่ายค่าเครื่องดื่มก่อนเดินจูงมืออ้อยไปที่รถซึ่งอ้อยไม่มีการขัดขืนใด อ้อยขับรถพาวิมออกจากร้านอาหารก่อนจะจอดหน้าร้านมินิมาร์ทแล้วอ้อยหันมาบอกวิมว่า
"รู้นะว่าต้องซื้ออะไร"
วิมยิ้มเล็กน้อยก่อนลงไปซื้อของก่อนที่อ้อยจะพาไปโรงแรมริมทะเลแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล หลังจากเช็คอินเปิดห้องแล้ว พออยู่ในห้อง ทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันมาก เพราะความต้องการของคู่นั้นเหมือนกัน ไฟปรารถนามันลุกโชนได้ง่ายเพราะมันมีเชื้ออยู่แล้ว วิมจูบอ้อยอย่างหนักหน่วงหลังจากที่ร่างของทั้งคู่อยู่บนเตียงมือนั้นล้วงไปในเสื้อเพื่อขยำหน้าอก แล้วเสื้อผ้าของทั้งสองก็ปลิวหลุดออกจากตัวโดยทั้งคู่ช่วยกันถอด วิมไม่รอช้า ก้มลงไปดูดดื่มกับเต้านมถึงแม้หัวนมจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลความเต่งตึงจะไม่เหมือนเมื่อก่อน แต่หน้าอกของอ้อยยังสวยอยู่อ้อยกอดวิมแน่นแถมยังกดหัววิมให้มาซบกับเต้านมของเธอ และไม่นานเท่าไหร่ อ้อยดันหัววิมลงไปที่กลางลำตัวซึ่งวิมสนองตอบอย่างดี จัดการลงลิ้นทั้งดูดทั้งเลียจน เจ้าของโคกหีครางไม่หยุด
"โอ้วๆๆๆ วิม ซี๊ดดดดดดดด อ้อยเสียวววววววว ดีจังอีกนิด อุ๊ยดูดเบาๆสิอ้อยเสียววววว"
จนเธอทนไม่ไหวเป็นฝ่ายร้องขอเอง
"วิมทำเหอะ"
วิมจัดการสวมถุงยางที่ซื้อมาและเอาควยไปจ่อรูหีที่อ้อยนอนอ้าขารองรับอยู่แล้ว
"คราวนี้ข้างหน้าได้แล้วสิ"
"อูยย ทำอย่ามัวพูดทำเหอะ อ้อยทนไม่ไหวแล้ว"
วิมค่อยๆดันควยเข้าไป ช่องทางรักของอ้อยยังฟิตอยู่ คงเป็นเพราะเธอร้างลาเรื่องนี้มานานหลังจากหย่าขาด เวลาอ้อยมีอารมณ์ก็ใช้นิ้วของเธอเองปลอดปล่อย วิมดันควยเข้าไปจนสุดแล้วเริ่มกระเด้าเบาๆ อ้อยชันเข่าขึ้นส่วนมือทั้งสองข้างโอบรัดรอบตัวชายหนุ่มที่สร้างปัญหาทางใจให้กับเธอ พร้อมกับครางอย่างต่อเนื่องพร้อมเด้งรับการกระเด้า
"วิมขาแรงๆเลย โอ้วววว อูยๆๆๆๆ อีกคะ อีก อู้วววววววววว"
วิมสนองตอบทันที หลังจากได้ยินคำเชิญ ทั้งเสียงเนื้อที่กระทบกันผสมกับเสียงครางของทั้งคู่ วิมเย็ดอ้อยแบบช้าสลับเร็ว ยิ่งอ้อยตอบสนองได้อย่างดียิ่งสร้างความเสียวให้กับวิมอย่างยิ่ง มีบางครั้งที่วิมก้มไปจูบปากกับอ้อยซึ่งเจ้าตัวก็รับการจูบอย่างเต็มใจ จนอ้อยเริ่มครางถี่ขึ้น แขนทั้งสองโอบรัดวิมแน่นขึ้น จนวิมที่เต็มที่แล้วเหมือนกัน ปล่อยน้ำกามออกมาในถุงยางก่อนที่จะนอนซบไปบนตัวหญิงสาวที่ก่อนหน้าที่มีอาการเกร็งและร้องครางเสียงยาวแล้ว วิมซบไปที่ซอกคอครู่หนึ่งพร้อมกับการหายใจที่หอบเหนื่อยก่อนจะหอมแก้มอ้อยทั้งสองข้างแล้วมาจบที่การแลกลิ้น ก่อนที่จะพลิกตัวลงไปนอนข้างๆ ถอดถุงยางมาทิ้งหลังจากที่บรรเทาจากการเหนื่อยจากสงครามรักที่ผ่านมาสดๆร้อนๆอ้อยประคองหน้าวิมให้หันมาทั้งคู่สบตากันก่อนที่อ้อยจะบอกว่า
"ขอโทษนะ ที่ตบหน้าไปเมื่อตอนค่ำ"
พร้อมเอามือไปลูบหน้าของวิมด้านที่โดนตบเบาๆวิมเอามือของอ้อยมาจูบก่อนจะดึงหญิงสาวเข้ามากอด
"ขอโทษเหมือนกันที่หายไปโดยไม่ติดต่อ วิมนึกว่าอ้อยมีครอบครัวแล้วเลยไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยว วิมยังไม่ลืมคืนนั้นของเรา"
อ้อยได้ยินแบบนี้ทำเอาเธอมีความสุขขึ้นก่อนที่จะหอมแก้มวิมอีกครั้งและนอนซบลงที่ไหล่ก่อนหลับตาลงด้วยความรู้สึกที่ดีใจที่ได้ยินประโยคนั้นจากวิมเธอเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่มารู้ตัวอีกทีว่าแผ่นหลังกำลังถูกพรมจูบไปทั่ว จนไปถึงก้นที่งอนงามและมีการกัดเบาๆ ก่อนที่จะไล่ไปถึงขาอ่อน มันปลุกอารมณ์เธอได้อย่างดี สามีเก่าเธอไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน วิมไล่จูบไปเรื่อยก่อนจะมาซุกไร้ที่ซอกคอ
"อูยยยยย วิมอยากละซิ"
"ใช่แล้ว และอ้อยละ"
"ไม่บอกซี๊ดด"
อ้อยรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอยกก้นขึ้นสูงทันที เพราะลึกๆเธอติดใจการถูกเย็ดทางประตูหลังตั้งแต่ถูกวิมเย็ดครั้งนั้น กับสามีที่เลิกรากันเธอไม่เคยเชิญชวน พอก้นของหญิงสาวยกสูงขึ้น วิมเอาหน้าไปฝังโคกหีที่รอบเด่นขึ้นมาก่อนจะเอาลิ้นทะลวงเข้าไปทันที ทำเอาอ้อยครางทันที ใบหน้างามที่ซบลงกับหมอนบูดเบี้ยวไปมาเพราะความเสียวที่วิมมอบให้พร้อมกับมือที่จิกหมอนแน่น จนวิมหยุดลงลิ้นเธอรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นยิ่งมีอะไรบางอย่างที่แข็งตัวโดนแก้มก้นเธอไปมา ก่อนที่วิมจะเอานิ้วไปเช็ดๆรอบรูหีเธอ แล้วเอามาทาที่ร่องก้น หลังจากนั้นมือของวิมจับที่เอวเธอพร้อมเสียงหายใจแรงๆ และสิ่งที่เธอรอคอยมา5 ปีกว่าก็ค่อยๆดันเข้าไปในรูก้นเธอ ถึงจะสร้างความเจ็บให้กับอ้อย แต่มันมีความเสียวและความเงี่ยนมาครอบงำมากกว่า อ้อยสูดปากเบาๆด้วยความเจ็บ จนวิมดันเข้าไปจนสุด ก่อนที่เธอจะสะดุ้งอีกครั้งเพราะวิมเอานิ้วล้วงเข้าไปในรูหีด้วย แล้ววิมเริ่มกระเด้าสลับกับการใช้นิ้วล้วงเข้าล้วงออก ทำเอาอ้อยเสียวซ่านไปทั้งตัวเมื่อเจอทั้งสองรูพร้อมกันครั้งแรกในชีวิตทำเอาเธอครวญครางไม่หยุด
ฝ่ายวิมที่กำลังเพลินกับการเย็ดตูดหญิงสาวอย่างช้าๆ เพราะช่องทางยังฟิตบีบรัดอยู่เหมือนเดิม แต่นิ้วนั้นล้วงหีอ้อยไม่หยุดแถมเร่งจังหวะนิ้วเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของอ้อยแต่เกมส์รักครั้งนี้ไม่ยาวนานเท่าไหร่ เพราะความฟิตทำเอาวิมทะลักในไม่ช้า แต่ทำให้อ้อยไปถึงสวรรค์ได้อีกรอบแล้วทั้งคู่ต่างมานอนกอดกันอีกครั้งถึงจะไปล้างตัวกันที่ห้องน้ำพร้อมกับหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย จนเช้าอ้อยปลุกวิมด้วยท่า 69 ก่อนที่จะเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนเธอขย่มวิมจนหนำใจแต่ก่อนที่จะกลับวิมจัดให้เธออีกครั้งในท่าด็อกกี้ทำเอาอ้อยสมใจกับสิ่งที่ขาดมานาน
เวลาผ่านไป 3 เดือน วิมที่ออกมายืนตรงระเบียงของสะพานเดินเรือมองไปรอบทิศซึ่งไม่พบเห็นอะไรนอกจากท้องฟ้าที่ไร้เมฆกับมหาสมุทร ลิบๆที่อยู่เบื้องสูงมีเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ชายหนุ่มนึกเล่นๆว่าจะเป็นเครื่องที่อ้อยทำงานอยู่หรือเปล่าซึ่งก่อนที่วิมจะกลับมาทำงาน วิมบอกกับทางบ้านว่าจะกลับมาเมืองไทยบ่อยขึ้นในช่วงเวลาที่หยุด เพราะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ได้มากขึ้นจะไม่เหมือนเดิมที่ไม่กลับไม่เมืองไทยหลายปี จริงๆมันมีสาเหตุถ้าอ้อยรู้ความจริงบางอย่างที่วิมไม่บอก เธอคงจะไม่ยอมให้วิมได้เชยชมเธออีกครั้งแน่นอน เพราะช่วงเวลาที่วิมอยู่เมืองไทย 2เดือน อ้อยแทบไม่ห่างวิม ถ้าเป็นวันหยุดอ้อยจะมานอนกับวิมตลอดโดยรังรักของทั้งคู่คือโรงแรมใจกลางเมืองต่างฝ่ายต่างปรนเปรอให้อีกฝ่ายอย่าเต็มที่โดยเฉพาะอ้อยที่เธอขาดเรื่องแบบนี้มานาน เธอยอมให้วิมจับเธอเย็ดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และสาเหตุที่วิมไม่กลับเมืองไทยเกือบ 5ปีเลยนั้นนอกจากเรื่องเก็บเงินสร้างฐานะแล้ว วิมได้มีคู่ขาเป็นสาวลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันซึ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทเดินเรือที่วิมทำงานอยู่ ช่วงเวลาวันหยุดวิมจะไปใช้ชีวิตอยู่กับคู่ขาสาวที่อพาร์ทเม้นท์ตลอดซึ่งคู่ขาคนนี้ตอบสนองเรื่องเซ็กส์ให้กับวิมได้อย่างดี วิมแทบจะลืมอ้อยไปแล้ว แต่วันที่ได้พบกันมันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เพราะใจจริงวิมอยากมาท่องราตรีของกรุงเทพเพื่อหาผู้หญิงมาระบายความต้องการ แต่มาเจอเหน่งที่ดึงไปงานเลี้ยงซะก่อนวิมเลยตกบันไดพลอยโจน และทำให้วิมได้มาเจออ้อยเข้าจนกลายมาเป็นเรื่องเซ็กส์ที่เร่าร้อนเพราะทั้งคู่ต่างต้องการกันอยู่แล้ว และตลอดเวลาวิมไม่เคยพลั้งปากบอกว่าชอบอ้อยเลย และอีกอย่างวิมตั้งเป้าไปที่จูนเพื่อนสาวที่รู้จักมานานและวิมพอรู้ว่าจูนสนใจตนเองอยู่ ถ้าคืนนั้นอ้อยไม่ตามมา ผู้หญิงที่วิมนอนด้วยอาจเป็นจูนแทน เพราะตลอดเวลาที่วิมอยู่เมืองไทยจูนนัดเจอวิมบ่อยมากแต่วิมไม่สะดวกที่จะเผด็จศึกจูนเพราะอ้อยตามติดตลอด จนวิมคิดว่าวันหยุดที่จะกลับเมืองไทยคราวหน้าจูนไม่น่าจะพ้นมือแน่นอน
******************************************************************
เพิ่มเติม เรื่องนี้ตั้งใจให้เป็นตอนเดียวจบครับ ไม่แต่งเพิ่มแล้วครับ ::Fighto::
เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนจริงๆเเหะ กลายเป็นไม่ยอมปักหลักกับใคร อิสระอยากทำอะไรก็ทำ 555 สนุกมากครับ ขอบคุณครับ
ขอภาคต่อเถอะท่าน มันค้างคา
ความจริงเรื่องนี้น่าจะมีภาคต่อนะ ชอบแนวนี้อ่ะครับ มันได้อารมณ์เสมือนจริง
ความจริงเรื่องนี้น่าจะมีภาคต่อนะ ชอบแนวนี้อ่ะครับ มันได้อารมณ์เสมือนจริง ได้ลุ้นตลอดไม่ต้องมโน
ชอบเรื่องคุณทวินนะครับ แต่เรื่องนี้ไม่เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องสั้นตอนเดียวจบ ยังน่าจะมีต่อกับจูนก็ได้ ส่วนอ้อยคงได้เป็นเพียงคู่ขาเท่านั้น
เย้ย จบอย่างนี้ต้องมีตอนต่อนะครับ นึกอยู่ในใจเหมือนกันว่าทหารเรือนี่เจ้าชู้ ไม่น่าไว้ใจ เลยไม่เซอร์ไพรส์ขณาดหลังหัก แค่เดาะๆ ขอบคุณครับ
แหมเราก็นึกว่าอกหักจะเป็นจะตาย ที่แท้ก็เสือตัวที่ 11 ขอบคุณครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงตามวันและเวลาอยู่...เสมอ
ขอบคุณมากๆครับ ::Falling::
ดีมากๆเรื่องแบบนี้นะ
ผลงานคุณภาพแบบนี้นำมาแบงปันกับบ่อยๆๆนะครับจะรอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะครับ
เนื้อเรืองกำลังสนุก น่าติดตามไม่ลองเปลี่ยนใจแต่งต่อครับ ขอบคุณครับ
เรื่องราวเป็นธรรมชาติดี แต่ในรายละเอียดยังไม่แม่นสักเท่าไหร่ครับ
::Dozy::สรุปวิมแมร่งเลว555555
พี่วิมแกก็ไม่ใช่เล่นๆแฮะ ::Bloody:: เนื้อเรื่องชวนให้มีภาคต่อมากครับ ::WooWoo::
น่าจะมีภาคต่อนะครับ อยากรู้ว่าจูนจะเสร็จวิมด้วยรึป่าว
ไม่ได้ซิ..
มันต้องมีภาคของจูนกะสาวลูกครึ่งด้วยซิครับ..ถึงจะสมบูรณ์
ขอบคุณครับ..มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับท่านที่ได้แสดงความคิดเห็นว่า...ไม่ควรตอนเดียวจบครับ...จุนจะเป็นอย่างไร ถ้าวิมเสนอมา อยากเห็นตอนต่อไปนะครับ
นึกว่าเป็นคนดีที่แท้ก็เสือนี่นา
ขอภาคจูนต่อเถอะนะครับ
นะนะนะ
ตอนเดียวก็เสียวแล้ว
ตอนแรกคิดว่าจะกลับมาลงเอยกับอ้อย แต่มาหักมุมตอนจบร้ายจริงนะพ่อวิม
ติดตามผลงานท่านมาโดยตลอด แต่ละเรื่องมีเนื้อหารายละเอียดที่สุดยอดเลยครับ
จูนก็รอเก้อเลยเพราะไม่แต่งต่อแล้ว
ขออีกตอนนึง กับจูน จะได้จบแบบครบถ้วน
อือหื้อ อยากให้มีตอนต่อจริงๆ ขอบคุณมากครับ
นาน ๆ ขึ้นฝั่งที จัดเต็ม ๆ ได้เลย
อีกหนึ่งเสียง ขอเชียร์ภาคจูนต่อ
เรื่องของคุณน่าติดตามทุกเรื่อง เพราะเขียนได้สละสลวย อ่านแล้วรู้สึกเป็นธรรมชาติมาก เรื่องนี้ก็เช่นกัน
จึงขอเชียร์อีกแรงนึง ว่าน่าจะมีตอนต่อนะครับ
ขอบคุณมากๆ
เรื่องสั้นขนาดยาว เข้มข้นด้วยเนื้อหา ดราม่าเต็มอารมณ์ แถมมีบทเสียวให้อีก ครบรสดี สามารถเอาไปขยายต่อเป็นซีรีย์สั้นๆที่สนุกได้อีกเรื่องเลยครับ
ขอบคุณที่แต่งมาให้ได้อ่านกันครับ ::Orz::
อ่านไปเพลินไป สนุกดีครับ ตอนแรกนึกว่าผู้ชายจะเป็นสุภาพบุรุษ อ้าว กลายเป็นว่าจะหารูลงซะงั้น แต่ก็ดีไปอย่างเพราะเหมือนมนุษย์จริง ๆ ดี ไม่ใช่นิยาย
กลับมาคราวหน้า ทำให้จูนสมหวังนะ จะได้สวิงทั้งอ้อยทั้งจูน
น่าเสียดายครับที่ไม่แต่งต่อ
สุดยอดเรื่องสั้นอีโรติกเลยครับ แต่งได้เทพมาก เสียดายที่ไม่มีภาค 2 ครับ
เก็บอาการกันเก่งทั้งคู่ คนอ่านตามอารมณ์ไม่ทัน จนมีฉากตบถึงเริ่มจับทางได้ว่ามีความหลังฝังใจ
ของพี่แกก็ไช่เล่น