🧡 XONLY 🧡

FICTION ZONE => เรื่องเล่าประสบกามเสียว => ผู้ประพันธ์บอร์ด => หัวข้อที่ตั้งโดย: saradio เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 07:08:03 หลังเที่ยง

ชื่อ: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: saradio เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 07:08:03 หลังเที่ยง
   หลังจากออกจากที่ประชุมแล้ว งิวฮู ก็บอกให้ผมกลับไปก่อน ตัวมันมีเรื่องอยากจะปรึกษากับนายท่านตั๋งโต๊ะ ผมจึงอำอาควบม้ากลับไปจวนคนเดียว
   พอถึงช่วงบ่าย งิวฮู ก็กลับมา สีหน้าอิ่มเอมแลดูมีความสุข มันให้คนมาเรียกผมเข้าไปพบในห้อง พอเห็นผมเข้ามา ท่าทางของ งิวฮู ที่มีต่อผมก็เปลี่ยนไป จากที่เคยเห็นผมเป็นเหมือนลูกน้องหรือบ่าวรับใช้ในบ้าน กลับมีท่าทีให้เกียรติมากกว่าเดิม ถึงกลับกล่าวเชิญผมให้เข้ามานั่ง แล้วเรียกผมว่าท่านกาเซี่ยง แทนการเรียกชื่อธรรมดา
   ผมรู้สึกงุนงงสงสัย และอึดอัดกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของ งิวฮู จนทำตัวไม่ค่อยถูกแต่ก็นั่งตามคำเชิญ เมื่องิวฮูเห็นผมนั่งเรียบร้อยแล้ว ก็พูดว่า
   "ท่านกาเซี่ยง ที่ข้าพเจ้าให้คนไปเชิญท่านมา ก็เพราะมีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบ"
   ผมต้องกล่าวถามว่า
   "ไม่ทราบว่า นายท่าน มีข่าวดีอันใด"
   งิวฮู จึงยิ้มอย่างปิติยินดี พูดว่า
   "ตอนนี้ ท่านเจ้าเมือง คิดตกลงทำตามแผนการท่านแล้ว แถมยังตั้งให้ข้าพเจ้าเป็นเจ้าเมืองดูแลเมืองซีหลงชั่วคราว เรื่องนี้หากสำเร็จท่านก็จะได้รับความดีความชอบอย่างมาก"
   ผมฟังแล้ว ต้องตกตะลึงตาค้าง ถามอย่างตกใจว่า
   "ท่านหมายถึง นายท่านตั๋งโต๊ะจะคิดเข้ายึดอำนาจในเมืองหลวงหรือ"
   งิวฮู ดูท่าทางผมต้องขมวดคิ้ว สงสัย ถามว่า
   "เอ๋..แล้วที่ท่านนำเสนอแผนการ ไม่ใช่เพื่อการนี้หรอกหรือ ท่านทราบหรือไม่ ท่านเจ้าเมืองเฝ้ารอโอกาสนี่มานาน จึงซ่องสุ่มกำลังทหารและเสบียงมาหลายปี แต่ยังไม่มีโอกาส แต่ตอนนี้ท่านกลับเป็นผู้ชี้ช่องทางสว่างให้นายท่านเห็น ทั้งที่คนอื่นนั้นมองไม่เห็น เมื่อโอกาสมาถึงดังนี้แล้ว มีหรือนายท่านจะปล่อยให้พ้นมือไป "
   ผมเหมือนกับถูกฟ้าผ่าลั่นกลางหัว เพราะเจตนาของผมจริงๆ ไม่ได้ต้องการนำเสนอให้ตั๋งโต๊ะเข้าไปยึดอำนาจ เพียงแต่เห็นช่องโหว่ในแผนของโฮจิ๋นเท่านั้น เลยพูดวิเคราะห์วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้าเมื่อถูกสักถาม โดยไม่ได้เจาะจงส่งเสริมให้ผู้ใดทำตาม แต่ตั๋งโต๊ะนั้นกลับคิดจะทำตามแผนการนี้ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องของสามก๊ก ที่เคยได้ยินมาบ้างว่า ตั๋งโต๊ะนั้นเป็นทรราชปกครองแผ่นดินอย่างเหี้ยมโหด หรือการที่ตั๋งโต๊ะได้เข้าไปปกครองแผ่นดินนั้น ก็เพราะผลสำเร็จในแผนการนี้ อย่างนี้ไม่เท่ากับว่า ที่ตั๋งโต๊ะเข้าไปปกครองแผ่นดินได้ก็เพราะผมเองหรอกหรือ
   ยามนั้น ผมยืนนิ่งอึ้ง สมองมึน ตาพร่า จนคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะตอบคำยังไง งิวฮูเห็นผมท่าทางแปลกๆ จึงนึกสงสัย ถามน้ำเสียงครางแคลงว่า
   "ท่านดูเหมือนไม่ดีใจในเรื่องนี้ ไม่ทราบว่า มีเรื่องอันใดหรือ"
   ผมพลันได้สติ รีบตอบแก้ตัวว่า
   "อ้อ ข้าพเจ้ายินดีเป็นอันมาก เพียงแต่ทราบเรื่องกะทันหันไม่ทันตั้งตัว จึงรู้สึกตกใจ"
   งิวฮูได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะ พูดว่า ดี แล้วพูดต่อว่า
   "ข้าพเจ้ายังมีอีกเรื่องหนึ่งจะแจ้งให้ทราบ..  ตอนนี้ นายท่านตั๋งโต๊ะได้เลื่อนตำแหน่งให้ท่านเป็นที่ปรึกษาอยู่ในคณะที่ปรึกษาของท่านลิยูแล้ว และท่านก็จะต้องติดตามทัพไปเมืองหลวงลกเอี๋ยนด้วย กองทัพจะเดินทางพรุ่งนี้เช้า ให้ท่านรีบไปเตรียมตัวเถอะ"
   คำพูดนี้ทำเอาผมตกใจกว่าทีแรกอีก ถ้าเดินทัพพรุ่งนี้เช้า ผมก็ไม่มีเวลาไปบอกอาเจินกับตูตู้หลุนเลย จะไม่ไปก็ไม่ได้ เพราะมีคำสั่งออกมาแล้ว ขืนไม่ไปก็มีหวังหัวหลุด จึงรีบไปเขียนจดหมายแจ้งข่าวกับอาเจินกับตูตู้หลุนแทนแล้วไหว้วานให้คนนำไปส่ง
   จากนั้นก็รีบไปเก็บข้าวของส่วนตัวบรรจุลงหีบลัง เพื่อเตรียมตัวติดตามทัพไปในตอนเช้า ตอนนั้นงิวอี้หลางมาด้อมๆมองๆ แอบมองผมเก็บของ ท่าทางของนางเต็มไปด้วยเงียบเหงาเศร้าสร้อย พลันตัดสินใจเข้ามาถามว่า
   "ท่านอาจารย์เซี่ยง ท่านจะไปจริงหรือ ท่านไม่ไปไม่ได้หรือ"
   ผมฟังพลันไปกระตุ้นความขุ่นข้องใจ พูดบ่นระบายว่า
   "งิวเสียวเจี๊ยะ(คุณหนูงิว) เจ้าคิดว่าข้าอยากไปนักรึ ก็เพราะปู่ของเจ้ามีคำสั่งมา หากข้าไม่ไปก็มีแต่คอขาด"
   งิวอี้หลางพลันยิ้ม เหมือนคิดอะไรได้ รีบพูดว่า
   "ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าจะไปคุยกับท่านปู่ ให้ยกเลิกคำสั่ง ให้ท่านไม่ต้องไปดีหรือไม่"
   ผมต้องส่ายหัวในความคิดของนาง จึงพูดว่า
   "เจ้ายังเด็กนัก จึงคิดตื้นเขิน เรื่องแบบนี้ ผู้ใหญ่ที่ไหนคิดตามใจเด็ก"
   งิวอี้หลางพอถูกว่าเป็นเด็ก ก็มีอาการแง่งอนพูดตัดพ้อว่า
   "ท่านชอบว่ากล่าว ข้าพเจ้าเป็นเด็กทุกที ปีนี้ข้าพเจ้าอายุสิบสามผ่านเข้าพิธีเข้าสู่วัยสาวแล้ว"
   "เหรอ เด็กบ้านข้า อายุเท่าเจ้า ก็ยังเรียกเด็ก เด็กก็คือเด็ก เจ้าอย่าเพิ่งรีบโตจะดีกว่า โตมามีแต่เรื่องปวดหัว เป็นเด็กจึงดีที่สุด"
   งิ้วอี้หลางหน้าบูดบึ่ง เหมือนโกรธ แต่ก็ไม่ได้ไปไหน ช่วยผมเก็บของบรรจุลงหีบ จากนั้นก็ไปตามคนรับใช้ให้มาช่วยขนของขึ้นรถม้า จากนั้นผมก็เข้าไปอำลาต่อ งิวฮู และงิวอี้หลางก็ตามมาส่งถึงรถม้า นางจู่ๆก็น้ำตาคลอ ทำเอาผมต้องถอนหายใจพูดว่า
   "งิวเสียวเจี๊ยะ ข้าไม่ได้ไปตาย เจ้าจะร้องไห้ทำไม ทำอย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นลางหรอกหรือ"
   งิวอี้หลาง จึงกลั้นข่มน้ำตาสะอึกสะอื้น ผมจึงบอกปลอบว่า
   "เอาเถอะ ไว้ข้ามีเวลาจะมาเยี่ยมเจ้าก็แล้วกัน"
   นางจึงค่อยข่มสะอื้นได้ พลางยิ้มออก พูดว่า
   "ท่านอาจารย์ ท่านสัญญาแล้ว"
   ผมจึงพยักหน้า แล้วขับรถม้าออกไป มุ่งตรงสู่ค่ายทหารนอกเมืองที่กำลังรวมพลกันอยู่ และเข้ารายงานตัวกับท่านลิยู
      ตอนนี้ค่ายทหารนอกเมืองกำลังตระเตรียมการเดินทัพกันอย่างขมักเขม่น ตั๋งโต๊ะคิดชิงเดินทัพอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะมีเจ้าเมืองอื่นคิดแผนนี้ออกเหมือนกัน จึงคิดจะรีบเดินทัพให้ถึงก่อน กองทัพของตั๋งโต๊ะนั้นมีกำลังพลถึง10หมื่น มากกว่าที่ผมบอกในแผนถึงเท่าตัว ดังนั้นมันยิ่งมีความมั่นใจว่าจะทำได้สำเร็จ
   ตอนนี้ผมเป็นที่ปรึกษาในคณะที่ปรึกษาของตั๋งโต๊ะอยู่ในสังกัดของลิยู แม้จะมีตำแหน่งสูงขึ้นมามากกว่าเดิม แต่ก็ไม่ได้รับความสำคัญและความไว้วางใจอะไรนัก เพราะตั๋งโต๊ะมีที่ปรึกษาที่สำคัญ คือ ลิยู กับ ลิซก อยู่แล้ว ที่เอาผมมาด้วยเพราะผมเป็นคนคิดแผนการนี้ หากเกิดการเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไปตามแผน ผมอาจจะคิดหาทางแก้ไขได้
   พอถึงรุ่งเช้ากองทัพก็เตรียมพร้อมเดินทาง ตั๋งโต๊ะก็นำทัพเดินทางไปลกเอี๋ยน

      --------------------------------------

   ที่ลกเอี๋ยนนั้น สิบขันที พอรู้ว่า โฮจิ๋น แอบอ้างออกราชโองการเรียกกำลังหัวเมืองเข้ามาปราบพวกตนและได้ข่าวว่า ตั๋งโต๊ะกำลังเดินทัพมาจะถึง คิดว่าภัยใกล้มาถึงชีวิตแล้ว ก็แค้นโฮจิ๋น จึงคิดจะกำจัดโฮจิ๋นเสียก่อน จึงวางแผนหลอกโฮจิ๋นเข้ามาในตำหนัก เพื่อกำจัดเสีย โดยซุ่มกำลังไว้ หลังประตูทางเดินเข้าตำหนัก แล้วก็ไปกราบทูลพระนางโฮไทเฮา ว่า โฮจิ๋นเรียกกำลังหัวเมืองเข้ามา คิดจะบีบบังคับพระนาง ให้ส่งตัวพวกมันออกไปให้โฮจิ๋น ครั้งนี้เห็นทีจะไม่รอดเป็นแน่แท้ จึงอยากให้พระนางโฮไทเฮาไปขอร้องโฮจิ๋นให้ละเว้นชีวิต
   พระนางโฮไทเฮา ก็เริ่มเบื่อหน่าย รู้สึกว่าเรื่องราวชักบานปลายจนกองกำลังหัวเมืองยกทัพเข้ามา จึงบอกให้ไปขอร้องโฮจิ๋นเอาเอง เหล่าขันทีฟังดังนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ บอกว่าถ้าออกไปต้องตายเป็นแน่ อยากให้พระนางเรียกโฮจิ๋นเข้ามา จะได้ขอร้องขอชีวิตโฮจิ๋นในตำหนักนี้ต่อหน้าโฮไทเฮา หากโฮจิ๋นไม่ยินยอมต้องการชีวิตก็สุดแล้วแท้แต่โฮจิ๋น
   พระนางโฮไทเฮา ก็ใจอ่อน รับสั่งเรียกโฮจิ๋นให้เข้าเฝ้า
   โฮจิ๋นพอได้รับสั่ง ก็จะเข้าเฝ้า ตั้งใจไปตกลงให้รู้เรื่อง แต่โจโฉกับอ้วนเสี้ยวก็ห้ามไว้ว่า ขันทีพวกนี้อาจคิดร้ายลอบซุ่มทำร้ายเอา ถ้าจะเข้าไปให้พวกขันทีออกมาก่อน
   โฮจิ๋นหยิ่งทะนงตน คิดว่าพวกขันทีไม่มีปัญญาทำอะไรตนได้ ก็ไม่ฟังคำ เดินผ่านประตูเข้าไปในตำหนัก เท่านั้นเองประตูตำหนักก็ถูกปิด คนของเหล่าขันทีก็ออกมารุมฆ่าโฮจิ๋นตายเสีย
   โจโฉกับอ้วนเสี้ยว เห็นโฮจิ๋นหายไปนาน เห็นผิดวิสัย ก็ตะโกนเรียกให้ออกมา แทนที่โฮจิ๋นจะได้กลับออกมา กลับออกมาแต่หัว ขันทีก็ตะโกนว่า โฮจิ๋นคิดกบฏ เราได้ตัดหัวเสียแล้ว ผู้ใดไม่เกี่ยวข้องกับกบฏครั้งนี้ให้สลายตัวไป
   ขันทีทั้งสิบคิดว่า หากจัดการโฮจิ๋นได้แล้ว พวกขุนนางจะกลัวแล้วพากันสลายตัวไปเอง ไม่คาดว่า โจโฉกลับร้องป่าวประกาศเสียงดัง
   "ไอ้พวกขันที บังอาจนัก กล้าลอบสังหารผู้สำเร็จราชการ  พวกมันเหล่านั้นเป็นกบฏ เป็นโจรปล้นราชสมบัติ ใครจะตามข้าพเจ้าเข้าไปจับพวกมัน"
   โจโฉพูดจบ ก็พยายามพังประตูตำหนักโดยใช้ดาบฟัน เหล่าขุนนางเห็นดังนั้นก็รีบลงมือช่วยโจโฉพังประตูเข้าไปหมายจับตัวสิบขันที
   เหล่าขันทีทั้งสิบ เห็นท่าไม่ดีจึงพากันหนีออกท้ายตำหนัก แล้วพาฮ่องเต้หองจูเปียนกับอนุชาหองจูเหียบหนีไปด้วย
   โจโฉ อ้วนเสี้ยว และเหล่าขุนนางพร้อมทหารวังหลวงหลายร้อยคน พอพังประตูเข้าไปได้ ก็ไล่เข่นฆ่าพรรคพวกขันทีตายเสียหลายคน ขันทีคนหนึ่งเป็นคนเก็บตราแผ่นดินเอาไว้ มันวิ่งหลงกับพวก พลางสับสนวิ่งวนไปมาหนีไม่ทันถูกทหารวังล้อมไว้ที่ท้ายสวน ขันทีคนนั้นเห็นจวนตัวหนีไม่รอด จึงตัดสินใจโจนลงบ่อน้ำในสวนตาย โดยไม่มีผู้ใดทราบว่า มันได้เอาตราแผ่นดินตกลงไปในบ่อน้ำนั้นด้วย
   ส่วนโจโฉกับอ้วยเสี้ยวพอไปถึงที่ประทับพระนางโฮไทเฮา ไม่พบฮ่องเต้ ทราบว่าขันทีพาหนีไปแล้ว จึงเชิญเสด็จพระนางโฮไทเฮา ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนชั่วคราวก่อน จากนั้นก็รีบออกตามหาฮ่องเต้

   แต่ในเวลาก่อนหน้านั้น ที่กองทัพตั๋งโต๊ะ มันเร่งเดินทัพทั้งกลางวันกลางคืน โดยมีแม่ทัพทั้งหมด 4 คน นั่นคือ ลิฉุย กุยกี หวนเตียว และเตียวเจ ส่วนเตียวสิ้วนั้น ยังประจำอยู่เมืองซีหลงกับงิวฮู
   เมื่อถึงเขตเมืองลกเอี๋ยน เจอด่านทหารของโฮจิ๋น ที่ตั้งขวางทางป้องกันเมืองหลวงไว้ ตั๋งโต๊ะก็ให้คนนำราชโองการฉบับนี้ไปให้ดู ราชโองการฉบับนี้แม้ไม่มีตราแผ่นดินประทับ ที่บรรดาหัวเมืองต่างๆคิดว่าไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ใช้ยึดถืออะไรไม่ได้ แต่กับบรรดาทหารของเมืองลกเอี๋ยนที่อยู่ใต้อำนาจของโฮจิ๋นแล้วย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะถึงไม่มีตราแผ่นดิน แต่ก็มีลายมือชื่อของโฮจิ๋นอยู่ ย่อมไม่มีใครกล้าขัด
   ทหารโฮจิ๋นจึงยอมเปิดประตูด่าน ให้ทัพของตั๋งโต๊ะผ่านเข้าไป ตั๋งโต๊ะเห็นดังนั้น ก็หัวเราะชอบใจเพราะเป็นไปตามที่ผมเคยพูดไว้ ทำให้มันยิ่งคึกคักกระตือรือร้น ที่จะเดินทัพเพื่อให้ไปให้ถึงเมืองหลวงไวๆ
   แล้วราชโองการฉบับนั้นช่วยให้ผ่านด่านไปหลายด่าน จนถึงกำแพงเมือง ตั๋งโต๊ะจึงรีบสั่งให้เตียวเจตั้งค่ายหน้าเมือง คุมทหารห้าหมื่นรักษาค่ายคุมเชิงไว้ จากนั้นมันก็นำทหารที่เหลืออีกห้าหมื่นเข้าไปในเมืองลกเอี๋ยน โดยใช้ราชโองการให้ทหารในเมืองเปิดประตูเมืองให้
   เมื่อทหาร 5 หมื่นของตั๋งโต๊ะเข้าเมืองได้แล้ว มันก็รู้แล้วว่าอำนาจในเมืองหลวงตกอยู่ในมือของมันแล้ว ตอนนั้นที่ตั๋งโต๊ะนำทหารเข้าเมืองมา เป็นเวลาเดียวกับที่โฮจิ๋นถูกฆ่าตาย และโจโฉกำลังบุกเข้าตำหนักพระนางโอไทเฮา ไล่จับขันที ตามหาฮ้องเต้
   ตั๋งโต๊ะพอรู้ว่า โฮจิ๋นตาย ก็หัวเราะดีใจกึกก้อง บอกว่า
   "ฮ่าฮ่าฮ่า  ฟ้ากำหนดแล้ว ว่าให้ข้าเป็นใหญ่"
   จากนั้นรีบสั่งแม่ทัพของตน คือลิฉุย กุยกี หวนเตียว ทั้งสามคนแบ่งทหารนำกำลังไปควบคุมพระนครไว้ ส่วนทหารที่เหลือมันให้แบ่งเป็นกองย่อยๆ ออกไปตามหาตัวฮ่องเต้ จนในที่สุดมันก็ได้พบตัว โดยในตอนนั้น โจโฉกับอ้วนเสี้ยวพบก่อน และกำลังจะพากลับเข้าวัง ตั๋งโต๊ะจึงนำทหารไปขวาง และขอตัวฮ่องเต้มา
   โจโฉและอ้วนเสี้ยวขัดไม่ได้ เพราะตอนนั้นตั๋งโต๊ะใช้ทหารคุมเมืองหลวงไว้หมดแล้ว จำต้องยอมมอบฮ่องเต้ให้ตั๋งโต๊ะเป็นผู้นำพาเสด็จไป และหลังจากนั้นตั๋งโต๊ะก็มีอำนาจในเมืองหลวง ถึงกับปลอดฮ่องเต้หองจูเปียน ตั้งพระอนุชาฮ่องจูเหียบขึ้นมาเป็นฮ่องเต้แทน และตั๋งโต๊ะก็ยังได้ ลิโป้ยอดขุนศึกแห่งยุค ที่ทรยศเต็งหงวนมาเข้าเป็นพวกด้วย และตามมาด้วย แม่ทัพของโฮจิ๋น นามว่าฮัวหยง นำทหารโฮจิ๋นมาสวามิภักดิ์ ทำให้ตั๋งโต๊ะเรืองอำนาจมากที่สุด ในแผ่นดินเวลานี้
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: kaithai เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 07:27:20 หลังเที่ยง
ท่านตั๋งโต๊ะ  ยึดเมืองหลวง สำเร็จ
แต่งตั้ง ฮ่องเต้ คนใหม่
ยิ่งใหญ่จริงๆ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: may_290607908 เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 07:38:07 หลังเที่ยง
ได้อ่านสามก๊กในรูปแบบที่ไม่เคยอ่านสนุกดีครับ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: cd13579 เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 07:41:07 หลังเที่ยง
ได้เวลาชิบหายแล้ว ชะตากุนซือเราจะไปไหนต่อ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: songsak เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 08:20:40 หลังเที่ยง
เป็นไปตามแผนของท่านกาเซี่ยงเลยแบบนี้ได้รางวัลใหญ่แน่ๆ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: ไร้๑๓ เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 08:26:23 หลังเที่ยง
 ::Thankyou:: ขอบคุณครับ ::Thankyou::
สนุกมาก เหมือนได้อ่านสามก๊กอีกแบบ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: holovelove เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 09:00:22 หลังเที่ยง
รออ่านตอนต่อไปครับ สนุก
มากๆ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: wattana2015 เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 09:30:19 หลังเที่ยง
 ::Reader:: ฉบับรีเมคใหม่เน้นที่กุนซือกาเซี่ยงนี้ อ่านแล้วสนุกดีแท้ งานดีจริงๆขอบคุณท่านผู้ประพันธ์ครับ  ::Thankyou::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: star_war เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 09:41:54 หลังเที่ยง
สมนาคุณ ความดีความชอบ ของกาเซี่ยง มอบสนมให้ 1,000 นาง... อิอิ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: tanee เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 09:42:32 หลังเที่ยง
เก่งสะดุดตามากไปคนก็อิจฉา
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: 633sqd เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 10:08:05 หลังเที่ยง
ได้รู้จักกุนซือในสามก็กคนอื่นบ้าง ก็เพราะท่านนักเขียน แถมเขียนได้สนุกน่าติดตาม มารอทุกวันเลย ::Thankyou:: ::Thankyou:: ::Thankyou::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: nsrichantamit เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 10:11:46 หลังเที่ยง
แผนการสำเร็จ โดยไม่เสียกำลังคน
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: cannarak เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 10:34:41 หลังเที่ยง
ลุ้นให้ได้ล่อเตียวเสี้ยนครับ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: n2610 เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 10:44:33 หลังเที่ยง
สุดยอดท่านกาเซียง. 
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: therasak เมื่อ กรกฎาคม 05, 2017, 11:22:34 หลังเที่ยง
ตั๋งโต๊ะเริ่มบทบาทของทรราชย์ได้แล้ว กาเซี่ยงจะแก้ไขอย่างไร
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: Seraphia13 เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 12:47:31 ก่อนเที่ยง
เข้าตานายก็อันตรายเหมือนนะเออ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: pinmonkey เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 05:37:52 ก่อนเที่ยง
เนื้อเรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ นะครับ พระเอกเราในฐานะกุนซือของตั๋งโต๊ะคงมีบทบาทมาก ในช่วงนี้ ขอบคุณมากครับ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: meowmeng เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 09:27:58 ก่อนเที่ยง
ติชมหน่อยได้ไหม
คือเนื้อหามันออกขัดแย้งกันในความเห็นผม ถ้าแต่งให้คนปัจจุบันกลับไปในสมัยสามก็ก แล้วก็พอรู้เรื่องสามก็ก คงมีทางเลือก3ทางเมื่อเจอตั้งโต๊ะ 1.หลบออกไปไกลๆไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย 2.แนะนำให้ยึดอำนาจกับฆ่าอ่องอุนจะได้ไม่มีเรื่องผิดใจกับลิโบ้ตัวเองจะได้มีความดีความชอบ 3.ไปอยู่รวมกับคนอื่นคอยแนะนำเรื่องต่างๆเพราะรู้อนาคต
แต่ในเนื่อเรื่องเหมือนกาเซี่ยงจะทำไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่น่านะเพราะตัวเองก็เดินทางมาในอดีตรู้เรื่องต่างๆดี

แต่ก็นั้นละผมคงคิดมากไป โดยรวมเรื่องนี้ก็สนุกดีผมคอยตามอ่านทุกวัน เป็นกำลังใจให้อย่าโกรธกันนะที่ติชม
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: acdzee เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 09:28:38 ก่อนเที่ยง
ชอบครับ ได้อ่านสามก๊ก ในมุมสบายๆฉบับย่อ ไม่มีสำนวนโบราณให้เยิ่นเย้อ สนุกครับ ::DookDig::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: winnythepooh เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 09:55:00 ก่อนเที่ยง
สนุกมากครับ เหมือนได้อ่านสามก๊กไปด้วยเลย
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: psm_mach เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 10:14:03 ก่อนเที่ยง
นึกว่ากุนซือกาเคยอ่านสามก๊กมาก่อนหลงเข้ามาเลยแนะนำไปตามประวัติศาสตร์ กลับเป็นคนสร้างประวัติศาสตร์เองเลย แผนยึดเมืองหลวงก็สำเร็จอย่างง่ายดาย แต่เรื่องนี้กว่าจะจบยังอีกยาวไกลมากๆ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้แต่งครับ จะแบ่งเป็นภาคๆก็ได้นะครับ ถ้าแต่งรวดเดียวน่าจะหลายร้อยตอน
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: spr566 เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 01:09:17 หลังเที่ยง
กุศโลบายลุงโต๊ะสุดยอดจริง ๆ แอบอิงอยู่เบื้องหลังฮ่องเต้ แอบอ้างราชโองการยัน ดีกว่าปราบดาเป็นฮ่องเต้เสียเองเพราะอาจโดนโค่นในเวลาสั้น ๆ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: Dark_hell เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 02:04:23 หลังเที่ยง
ความชอบมิหน้ากลัว เท่ากับการเป็นหอกทิ้มแทงตนในอนาคต ::Beggar::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: tetete เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 03:50:35 หลังเที่ยง
ถึงคราวตั๋งโต๊ะเรืองอำนาจ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: ifamily03 เมื่อ กรกฎาคม 06, 2017, 07:43:22 หลังเที่ยง
ผมนี่อ่านแบบแทบจะไม่สนใจบทเลิฟซีนเลยครับ สนุกมาก
ว่าแต่วางพล็อตเรื่องเอาไว้งาบหลานสาวตั๋งโต๊ะทั้งคู่ในอนาคตรึเปล่า ฮี่ๆๆๆ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: lamom เมื่อ กรกฎาคม 07, 2017, 01:15:56 ก่อนเที่ยง
ดำเนินเรื่องได้น่าสนใจมากครับ แม้จะมีฉากเข้าพระเข้านางน้อย แต่เนื้อเรื่องอ่านเพลินมาก
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: sundrop เมื่อ กรกฎาคม 07, 2017, 05:19:41 ก่อนเที่ยง
สนุกมากเลยครับ ตั้งโต๊ะเป็นใหญ่แล้วรอวันล่มๆ  ::Thankyou::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: naitoom เมื่อ กรกฎาคม 07, 2017, 10:03:58 ก่อนเที่ยง
ตราแผ่นดินมีไว้ให้ขุนนางที่อยู่ไกลจากเมืองหลวงแน่ใจว่าเป็นราชโองการของจริง
ผู้ชนะก็เป็นจ้าวอยู่ดี
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: somc217 เมื่อ กรกฎาคม 07, 2017, 01:24:30 หลังเที่ยง
เป็นสามก๊กในเวอร์ชั่นที่ อ่านแล้วได้รสชาดที่สนุกกว่าฉบับจริงเสียอีก
ชอบครับ
ขอบคุณมาก
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: ่jub2520 เมื่อ กรกฎาคม 07, 2017, 09:13:20 หลังเที่ยง
จากเรื่องในอดึต  นำมาสานต่อได้น่าติดตาม  อ่านแล้วชอบมาก
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: hanabombam เมื่อ กรกฎาคม 08, 2017, 09:23:26 ก่อนเที่ยง
แผนการสำเร็จ แทบไม่มีการรบพุ่งแบบนี้ ได้รางวัลความดีความชอบไม่น้อยแน่ๆ
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: kungkrub เมื่อ กรกฎาคม 15, 2017, 05:32:49 หลังเที่ยง
สนุกมากมีประวัติศาสตร์ปนเสียว  ::YehYeh:: ::YehYeh::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: Baron Pok เมื่อ กรกฎาคม 20, 2017, 12:11:27 หลังเที่ยง
แล้วท่านกาจได้ยลโฉมเตียวเสี้ยนไหมน้า ::Dizzy::
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: review1972 เมื่อ กรกฎาคม 20, 2017, 08:33:12 หลังเที่ยง
เฮ้อ..ชะตาชีวิตพี่เจ๋งจะเป็นอย่างไรน้อ..
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: tak19 เมื่อ เมษายน 04, 2018, 12:44:58 หลังเที่ยง
แบ่งสนมให้คนคิดแผนด้วยนะท่าน
ชื่อ: Re: กุนซือเจ้าสำราญ ตะลุยสามก๊ก ตอนที่ 15
โดย: boba เมื่อ เมษายน 23, 2018, 09:28:29 ก่อนเที่ยง
ตัวทำเรื่องอยู่นี้เอง